Unit 7
- 1. บทที่ 7
เรื่อง การทางานกับข้อความและรูปภาพ
1. การกาหนดค่ารูปแบบของข้อความด้วย Define Styles…
ก่อนที่จะนาข้อความจากโปรแกรมอื่น มาลงใน PageMaker ควรจะกาหนดค่าต่าง ๆ ให้กับ
หน้ากระดาษของ PageMaker เสียก่อน เช่น เลือกฟอนต์ ขนาดของฟอนต์ระยะห่างระหว่างบรรทัด
และทาให้ข้อความแต่ละบรรทัดเสมอกัน เพียงแต่กาหนดค่าเหล่านี้บนหน้ากระดาษพื้นที่ทางานเตรียม
รอไว้ก่อน จากนั้นจึงค่อยลงมือคัดลอกข้อความมาจากโปรแกรม Microsoft Word มาวางลงบนพื้นที่
กระดาษทางานของโปรแกรม PageMaker โดยไม่ต้องกังวลเรื่องฟอนต์ ซึ่งมีวิธีการตามขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 เปิดโปรแกรม PageMaker 7.0
ขั้นตอนที่ 2 คลิกเมนู Type > Define Styles
ขั้นตอนที่ 3 คลิก Body Text
ขั้นตอนที่ 4 คลิกปุ่ม Edit…
รูปที่ 7.1 แสดงการกาหนดค่าจาก เมนู Type > Define Styles…
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 2. รูปที่ 7.2 แสดงไดอะล็อกบ็อกซ์ของ Style Options
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
ขั้นตอนที่ 5 ให้ตั้งชื่อในช่อง Name ที่ Style Options ให้พิมพ์ชื่อเหตุการณ์ลงไป ชื่อนี้จะ
ส่งผลกับข้อความที่ได้คัดลอกมาจากหน้าจอโปรแกรม Microsoft Word (จะพิมพ์ชื่ออะไรก็ได้) ใน
ตัวอย่างพิมพ์เป็นชื่อคาว่า Angsana UPC for Word
ขั้นตอนที่ 6 คลิกปุ่ม Char…
รูปที่ 7.3 แสดง Character Specifications
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
ขั้นตอนที่ 7 ในกรอบสี่เหลี่ยมหมายเลข 7 ให้กาหนดเงื่อนไขลงไป เช่น เลือกชื่อฟอนต์ให้
รองรับภาษาไทยได้ เช่น ฟอนต์ที่ลงท้ายด้วย UPC เลือกขาดของฟอนต์ (Size) เลือกระยะห่างระหว่าง
บรรทัด (Leading) เลือกสีให้กับตัวอักษร (Color) เลือกรูปแบบตัวอักษร (Type Style ในที่นี้ขอเลือก
Normal และเลือกระยะห่างระหว่างตัวอักษร (Track) เป็นต้น
- 3. ขั้นตอนที่ 8 คลิกปุ่ม OK
รูปที่ 7.4 แสดง Style Options
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
ขั้นตอนที่ 9 คลิกปุ่ม Para…….
ขั้นตอนที่ 10 ภายในกรอบสี่เหลี่ยมหมายเลข 10 คลิกให้เป็นเลขศูนย์ (0) ทั้งหมด
ขั้นตอนที่ 11 ที่ Alignment คลิกเลือก Justify เพื่อทาให้ข้อความที่เราคัดลอกมาจาก
หน้าจอโปรแกรม Microsoft Word มาวางลงบนพื้นที่กระดาษทางานของโปรแกรม PageMaker 7.0
จะทาให้ข้อความทั้งหมดเสมอที่ขอบซ้ายและขวา
ขั้นตอนที่ 12 คลิกปุ่ม OK ไปเรื่อย ๆ (คลิกปุ่ม OK จานวน 3 ครั้ง)
รูปที่ 7.5 แสดง Paragraph Specifications
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 4. ขั้นตอนที่ 13 กลับมาที่หน้าจอพื้นที่หน้ากระดาษทางานของ PageMaker ที่เมนู Window
คลิกที่ Window >Show Styles
รูปที่ 7.6 แสดง เมนู Window > Show Styles
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
ขั้นตอนที่ 14 ที่ไดอะล็อกบ็อกซ์ของแท็บ Styles ปรากฏขึ้นมา
ขั้นตอนที่ 15 คลิก Body Text ที่เราสร้างขึ้นจากที่ผ่านมา ชื่อว่า Angsana UPC for Word
ขั้นตอนที่ 16 ให้คลิกปุ่ม Text Tool
ขั้นตอนที่ 17 คลิกปุ่มเครื่องหมายกากบาทเพื่อปิดภาพไดอะล็อกบ็อกซ์นี้
รูปที่ 7.7 แสดงขั้นตอนสุดท้ายของการกาหนดค่ารูปแบบของข้อความด้วย Define Styles…
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 5. 2. การดึงงานจากโปรแกรม Microsoft Word
สามารถดึงงานที่อยู่บนหน้าจอของโปรแกรม Microsoft Word มาจัดบนหน้าจอโปรแกรม
PageMaker ได้ ซึ่งสามารถทาได้ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 เปิดไฟล์งานที่จัดทามาด้วยโปรแกรม Microsoft Word
ขั้นตอนที่ 2 คลิกเมาส์ลากระบายแถบสีลงบนข้อความที่ต้องการจะคัดลอกไปวางบนพื้นที่
ทางานของโปรแกรม PageMaker 7.0
ขั้นตอนที่ 3 คลิกคัดลอก (Copy)
ขั้นตอนที่ 4 เปิดโปรแกรม PageMaker ขึ้นมา แล้วสร้างหน้ากระดาษทางานใหม่
ขั้นตอนที่ 5 คลิก Edit > Paste Special…
ขั้นตอนที่ 6 คลิก Text ดังรูปที่ 7.8
- 6. รูปที่ 7.8 แสดงขั้นตอนการคัดลอกข้อความ
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
ขั้นตอนที่ 7 คลิก OK ข้อความที่คัดลอกมาจากหน้าจอโปรแกรม Microsoft Word จะมา
แสดงบนหน้าจอพื้นที่หน้ากระดาษของโปรแกรม PageMaker ในรูปของเฟรมข้อความ ดังรูปที่ 7.9
รูปที่ 7.9 แสดงข้อความที่คัดลอกมาจากโปรแกรม Microsoft Word
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 7. 2.1 การจัดการกับคอลัมน์
ปกติแล้วในหน้าจอจะแสดงเพียง 1 คอลัมน์เท่านั้น แต่ใน PageMaker สามารถแสดงได้
หลายๆ คอลัมน์ เหมือนกับการพิมพ์วารสาร นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ที่มีการจัดเป็นหลายคอลัมน์
สาหรับวิธีการจัดคอลัมน์ให้กับเอกสารนั้นสามารถทาได้ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 เลือก Column Guides จากเมนู Layout
รูปที่ 7.10 แสดงการเลือก Column Guide จาก เมนู Layout
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
ขั้นตอนที่ 2 กาหนดจานวน Column ที่ต้องการในช่อง Number of Columns
ขั้นตอนที่ 3 กาหนดระยะห่างระว่าง Column ในช่อง Space Between Columns
ขั้นตอนที่ 4 คลิกปุ่ม OK
รูปที่ 7.11 แสดงการกาหนดจานวนคอลัมน์
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 8. รูปที่ 7.12 แสดงหน้ากระดาษที่มีคอลัมน์
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
2.2 การกาหนดจานวนคอลัมน์ให้เหมือนกันทุกหน้า
การจัดคอลัมน์ข้างต้นนั้น จะเป็นการจัดเฉพาะหน้าเอกสารที่เปิดอยู่เท่านั้น แต่ถ้าต้องการ
จัดทาให้ทุกหน้าในเอกสารมีจานวนคอลัมน์เหมือนๆ กัน สามารถทาได้โดยกาหนดที่หน้าต้นแบบของ
เอกสาร ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 เลือก New จากเมนู File
ขั้นตอนที่ 2 กาหนดขนาดกระดาษ
ขั้นตอนที่ 3 เลือก Double-Sided
ขั้นตอนที่ 4 คลิกปุ่ม OK
- 10. ขั้นตอนที่ 6 เลือก Column Guide จากเมนู Layout
ขั้นตอนที่ 7 กาหนดจานวนคอลัมน์
ขั้นตอนที่ 8 กาหนดลักษณะที่ต้องการ
ขั้นตอนที่ 9 คลิกปุ่ม OK
รูปที่ 7.15 แสดงการเลือก Column Guide จาก เมนู Layout และกาหนดจานวนคอลัมน์
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
ขั้นตอนที่ 10 จะพบว่าในหน้าต้นแบบและในหน้าเอกสารจะมีจานวนคอลัมน์เหมือนกัน
รูปที่ 7.16 แสดงหน้ากระดาษต้นแบบมีคอลัมน์เหมือนกัน
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 11. 3. การนาภาพเข้ามาไว้ร่วมกับข้อความบนจอ
ในกรณีที่ต้องการนารูปภาพเข้ามาไว้ร่วมกับงานเอกสาร หนังสือ วิทยานิพนธ์ สามารถนา
ภาพมาวางร่วมกับเอกสารได้ ซึ่งถ้ามีการเคลื่อนย้ายหรือแทรกข้อความลงไปจะทาให้รูปภาพขยับตาม
ไปด้วยอัตโนมัติ
ขั้นตอนที่ 1 เลือกเครื่องมือ
ขั้นตอนที่ 2 เปิดหน้าที่ต้องการนาภาพมาใส่
รูปที่ 7.17 แสดงหน้ากระดาษต้นแบบมีคอลัมน์เหมือนกัน
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
ขั้นตอนที่ 3 เลือก Autoflow จากเมนู Layout ดังรูปที่ 7.18
รูปที่ 7.18 แสดง Autoflow
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 12. ขั้นตอนที่ 4 เลือก Place จากเมนู File
รูปที่ 7.18 แสดงคาสั่ง Place………
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
ขั้นตอนที่ 5 กาหนด Directory ที่เก็บภาพ
ขั้นตอนที่ 6 เลือกชื่อ File
ขั้นตอนที่ 7 กด Open แล้ววาดกรอบแสดงภาพบนหน้าที่ต้องการจะพบว่าภาพจะทับ
ข้อความ ดังรูปที่ 7.19
รูปที่ 7.19 แสดง การวางภาพซ้อนกับข้อความ
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 13. 3.1 การจัดลักษณะการวางภาพกับข้อความ
หลังจากที่นาภาพเข้ามาไว้ร่วมกับข้อความแล้ว จะพบว่าภาพจะวางทับข้อความอยู่ ซึ่ง
จะต้องจัดวางภาพกับข้อความใหม่ โดยใช้คาสั่งดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกที่ภาพ 1 ครั้ง เลือก Text Wrap จากเมนู Element
ขั้นตอนที่ 2 เลือกลักษณะการวางภาพในช่อง Wrap Option
ขั้นตอนที่ 3 เลือกลักษณะการไหลของข้อความหรือการวางข้อความในช่อง Text Flow
ขั้นตอนที่ 4 กาหนดระยะห่างระหว่างภาพกับข้อความในช่อง Stand off in inches
ขั้นตอนที่ 5 คลิกปุ่ม OK ดังรูปที่ 7.20
รูปที่ 7.20 แสดงการวางภาพซ้อนกับข้อความ
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 14. 4. การใช้ไลบารี (Library)
ไลบรารี คือ คลังเก็บออบเจ็กต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความหรือรูปภาพที่เรามักจะใช้มัน
บ่อย ๆ การหยิบออบเจ็กต์จากไลบารีมาใช้ แทนที่จะต้องสร้างออบเจ็กต์ใหม่ทุกครั้ง จะช่วยให้เรา
ประหยัดเวลาในการทางานได้มากพอสมควรเลยทีเดียว
ไลบารีหนึ่งไลบารีก็คือไฟล์หนึ่งไฟล์ (PageMaker) จะสร้างไฟล์ไลบารีโดยมีจุดต่อท้ายชื่อไฟล์
คือ (PML) ซึ่งมีออบเจ็กต์ต่าง ๆ เก็บอยู่ในไฟล์นั้น ดังนั้น ในการใช้ไลบารีมีสิ่งที่ต้องจัดการอยู่ 2 ส่วน
คือ การจัดการไฟล์ไลบารีและการจัดการออบเจ็กต์ในไลบารี
4.1 การสร้างไลบารีใหม่ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 เลือกคาสั่ง Windows > Plug-in Palettes > Show Library
ขั้นตอนที่ 2 เลือกคาสั่ง New Library
รูปที่ 7.21 แสดงขั้นตอนการเลือก New Library
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 15. ขั้นตอนที่ 3 ระบุชื่อไฟล์ไลบารีและโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์
ขั้นตอนที่ 4 คลิกปุ่ม Save
รูปที่ 7.22 แสดงขั้นตอนการเลือก New Library
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
4.2 การเปิดไฟล์ไลบารีที่มีอยู่ขึ้นมาใช้
ขั้นตอนที่ 1 เลือกคาสั่ง Window>Plug-in Palettes>Show Library
ขั้นตอนที่ 2 เลือกคาสั่ง Open Library
ขั้นตอนที่ 3 ระบุชื่อไฟล์ไลบารีและโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์
ขั้นตอนที่ 4 คลิก ปุ่ม Open ไฟล์ไลบารีถูกเปิดขึ้น เห็นออบเจ็กต์ในไลบารีนั้น
รูปที่ 7.23 แสดงขั้นตอนการเลือก Open Library
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 16. 4.2 การลบไฟล์ไลบารี มีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 6 เลือกคาสั่ง Window>Plug-in Palettes>Show
ขั้นตอนที่ 7 ปรากฏ Library palette ขึ้นมา เลือกคาสั่ง Open Library… จากเมนู
ขั้นตอนที่ 8 ปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Open Library ขึ้นมาให้เรา คลิกตรงชื่อไฟล์ไลบารีที่
ต้องการลบแล้ว กดปุ่ม <Delete> บนแป้นพิมพ์ ชื่อไฟล์ไลบารีหายไปจากไดอะล็อกบ็อกซ์ Open
library แสดงว่าไฟล์นั้นถูกลบไปเรียบร้อยแล้ว
รูปที่ 7.24 แสดงขั้นตอนการลบไฟล์ไลบารี
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
4.4 การจัดการออบเจ็กต์ในไลบารี
ไม่ว่าเราจะทาอะไรกับออบเจ็กต์ทั้งหลายในไลบารีก็ตาม เราจะต้องเปิดไฟล์ไลบารีขึ้นมาใช้
ก่อนเสมอ (ดูขั้นตอนการเปิดไฟล์ไลบารีก่อนหน้านี้)
การใส่ออบเจ็กต์ลงในไลบารี เราก็ทาตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ใช้ คลิกเลือกออบเจ็กต์ในหน้าของ PageMaker
ขั้นตอนที่ 2 คลิกปุ่ม ใน Library palette
ดังรูปที่ 7.25
- 17. รูปที่ 7.25 แสดง Library
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
4.5 การลบออกเจกต์ออกจากไลบารี ก็สามารถทาได้ตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกเลือกรูปออกเจกต์ใน Library palette
ขั้นตอนที่ 2 เลือกคาสั่ง Remove Item…
ขั้นตอนที่ 3 คลิกปุ่ม OK
ขั้นตอนที่ 4 ออบเจ็กต์หายไปจาก Library palette ดังรูปที่ 7.26
รูปที่ 7.26 แสดงการลบออบเจ็กต์จาก Library
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 18. 4.6 การนาออบเจ็กต์ในไลบารีมาใส่ไว้ในหน้าของ PageMaker ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 เลือกคาสั่ง Display images หรือ Display both
ขั้นตอนที่ 2 คลิกค้างที่ออบเจ็กต์ใน Library palette
ขั้นตอนที่ 3 ลากออบเจ็กต์ไปวางในหน้า ตัวชี้เมาส์จะเปลี่ยนเป็น
ขั้นตอนที่ 4 ปล่อยเมาส์ให้ออบเจ็กต์ปรากฏ ดังรูปที่ 7.27
รูปที่ 7.27 แสดงการนาออบเจ็กต์ในไลบารีมาใส่ไว้ในหน้าของ PageMaker
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
- 19. ใบงานที่ 7.1
กาหนดเวลาในการปฏิบัติงาน 180 นาที
จุดประสงค์ของงาน
1. การใช้เครื่องมือหรือคาสั่งต่างๆ นารวมกันทาใบปลิว
กิจกรรม
คาสั่ง ให้นักศึกษาทาใบปลิว ดังนี้
1 File>New>Document Setup ตั้งค่าหน้ากระดาษตามตัวอย่างจะได้ขนาดกระดาษของ
ใบปลิว
2 สร้างเส้น Guide แบ่งตาแหน่งของการใส่รูปภาพและข้อความ
3 ให้ใช้เครื่องมือรูปออบเจ็กต์ต่าง ๆ วาดรูปทรงตกแต่งใบปลิว ใส่ข้อความที่เป็นข้อมูล
ต้องการนาเสนองานใบปลิว ใส่รูปภาพ ให้สวยงาม
ตัวอย่าง
เกณฑ์การพิจารณา
1. ตั้งค่าหน้ากระดาษได้ถูกต้อง
2. สร้างเส้น จัดตาแหน่งรูปภาพได้ถูกต้อง
3. ตกแต่งรูปภาพ รูปวาดให้สวยงาม
4. ปฏิบัติงานเสร็จตามเวลาที่กาหนด