SlideShare a Scribd company logo
1 of 20
Download to read offline
แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามรูปแบบ Task-Based Learning
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ/วิชาภาษาอังกฤษ
มัธยมศึกษาปีที่ 2
Unit: People Topic: Friends Sub-topic: Giving advice/ Listening to friends
สอนวันที่.............เดือน......................................พ.ศ.2557
ส่งครั้งที่ 1 วันที่ 8 ตุลาคม 2557
ส่งครั้งที่ 2 วันที่ 9 ตุลาคม 2557
ส่งครั้งที่ 3 วันที่ 10 ตุลาคม 2557
ส่งครั้งที่ 4 วันที่ 11 ตุลาคม 2557
ส่งครั้งที่ 5 วันที่ 12 ตุลาคม 2557
กลุ่มเรียนที่ 1 วันจันทร์ 09.00-11.40 น. ศษ. 106
1. นางสาวกชกร ดงเทียมสี 55010513005
2. นายรุ่งเพชร เพชรชรินพันธ์ 55010513031
3. นายพีรพงษ์ ศรีสุรักษ์ 55010513054
นิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาอังกฤษ รหัสวิชาเอก EN ระบบปกติ
Mentors
ชื่อ – สกุล ลายมือชื่อ
1. นางสาวนันทนัช วิเชียรเพริศ 54010513024
2. นายอัครเดช ถนอมชาติ 54010513067
แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามรูปแบบ Task-Based Language Learning
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ/วิชาภาษาอังกฤษ
มัธยมศึกษาปีที่ 2
Unit: People Topic: Friends Sub-topic: Giving advice/ Listening to friends
สอนวันที่.............เดือน......................................พ.ศ.2557
1. จุดประสงค์
1. เขียนให้คาแนะนาเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ที่กาหนดให้ได้ (Task Cycle 1)
2. เขียนและพูดนาเสนอเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของตนเอง และให้คาแนะนาเกี่ยวกับแนวทาง
แก้ปัญหาให้แก่ผู้อื่นได้ (Task Cycle 2)
3. เขียนและพูดนาเสนอข้อมูล แนวทางการแก้ปัญหาพร้อมให้เหตุผลสั้นๆในสถานการณ์ที่กาหนดให้
ได้ (Language Focus)
2. ตัวชี้วัด
ต 1.1.1.3/ม.2 ระบุ/เขียนประโยค และข้อความ ให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน
(Task Cycle 1)
ต 1.1.3.3/ม.2 พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม เรื่องต่างๆใกล้ตัว และประสบการณ์พร้อมทั้ง
ให้เหตุผลสั้นๆประกอบ (Task Cycle 2, language focus)
3. เนื้อหา
Structure: Past Modals:
Subject + Should/ Could/ Would (not) + have + the Past Participle
Example:
Subject Modal (not) Have + Past
Participle
I should have saved more money.
You shouldn’t have paid your bill late.
We could have done our homework.
I would have done my homework.
Non-grammatical structure: Brainstorming
4. สื่อการเรียนรู้
4.1) Video นาเข้าสู่บทเรียน
4.2) Text 1,2,3
4.3) Power point โครงสร้างไวยากรณ์
4.4) ใบงาน Giving advice
4.5) ใบงาน Help me
4.6) กระดาษปรู๊ฟ
4.7) ปากกาเคมี
5. กิจกรรมการเรียนรู้
Teacher Student
Pre-Task
1. ครูกล่าวทักทาย
2. ครูเปิด video เกี่ยวกับปัญหาในชีวิตประจาวันเพื่อ
นาเข้าสู่บทเรียน
3. ครูถามคาถามเพื่อทดสอบความเข้าใจ 3 คาถาม เช่น
- What is the video about?
- What he should have done?
4. ครูแจก Text 1 จากนั้นครูอธิบายคาศัพท์เกี่ยวกับ
Problem ใน power point และให้นักเรียนอ่านออก
เสียงตาม
5. ครูแจก Text 2 จากนั้นครูอธิบายเรื่องการใช้
Should have และ must have
เช่น I should have saved more money. Now I'm
broke.
1. นักเรียนกล่าวทักทาย
2. นักเรียนดู video นาเข้าสู่บทเรียน
3. นักเรียนตอบคาถาม เช่น
- The video is about problem.
- He should have save more money.
4. นักเรียนเรียนรู้คาศัพท์จาก power point และ
ออกเสียงตาม
5. นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการใช้ Should
have, must have และทาความเข้าใจ
Someone must have stolen my credit
card!!
6. ครูฝึกให้นักเรียนแต่งประโยคจากโครงสร้างที่สอน เพื่อ
ตรวจสอบความเข้าใจนักเรียน
7. ครูแจก Text 2 และสอนเทคนิคการระดมความคิด
(brainstorming)
8. ครูกาหนดสถานการณ์ให้นักเรียนระดมความคิดหา
แนวทางการแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด
9. ครูแจก Text 3 เรื่อง Problem ให้นักเรียนจากนั้นครู
เปิด audio sound เรื่อง Problem ให้นักเรียนฟัง 2
รอบ
10. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม audio sound ทีละ
ประโยค
11. ครูถามคาถามเกี่ยวกับเรื่อง Problem เพื่อทดสอบ
ความเข้าใจของนักเรียน 3 คาถาม เช่น
- What shouldn't he have done?
- What could Paul have done differently?
- What would you have done?
Task Cycle
Task Cycle 1: Giving advice
1. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- ครูแจกใบงาน Giving advice ให้นักเรียนคนละ 1 ใบ
- ครูให้นักเรียนดูรูปภาพและเขียนให้คาแนะนาในการ
แก้ปัญหาในภาพตามโครงสร้างที่ได้สอน
2. ครูให้เวลาในการดาเนินกิจกรรม 10 นาที
3. ครูเฉลยคาตอบที่เป็นไปได้บน Power point
4. ครูตรวจและให้คะแนน
Task Cycle 2: Help me
1. ครูอธิบายวิธีการทากิจกรรมให้นักเรียนฟัง
- ครูแจกใบงาน Help me ให้นักเรียน
- ครูให้นักเรียนเขียนเล่าสถานการณ์ที่เป็นปัญหาสาหรับ
ตนเองลงบนใบงาน
- ครูให้นักเรียนไปขอคาแนะนาจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน 3
คนและเขียนลงบนใบงาน
6. นักเรียนฝึกแต่งประโยค Should have , must
have
7. นักเรียนรับ Text 2 และฟังเรื่องการระดมความคิด
(brainstorming)
8. นักเรียนระดมความคิดหาแนวทางการแก้ปัญหาให้
ได้มากที่สุด
9. นักเรียนรับ Text 3 และฟังเรื่อง Problem 2 รอบ
10. นักเรียนอ่านออกเสียงตาม audio sound ทีละ
ประโยค
11. นักเรียนตอบคาถามเกี่ยวกับ Text 3
- He shouldn't have played soccer so long.
- He could have done his homework and
called his mother.
- Answer will vary
1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- นักเรียนรับใบงาน Giving advice ให้นักเรียนคนละ
1 ใบ
- นักเรียนดูรูปภาพและเขียนให้คาแนะนาในการ
แก้ปัญหาในภาพตามโครงสร้างที่ได้เรียน
2. นักเรียนดาเนินกิจกรรม
3. นักเรียนดูคาตอบที่เป็นไปได้บน Power point
1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- นักเรียนรับใบงาน Help me
- นักเรียนเขียนเล่าสถานการณ์ที่เป็นปัญหาสาหรับ
ตนเองลงบนใบงาน
- นักเรียนไปขอคาแนะนาจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน 3 คน
และเขียนลงบนใบงาน
2. ครูให้นักเรียนดาเนินกิจกรรม
3. ครูให้นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียนทีละคน
4. ครูสังเกตและประเมินผล
(Language Focus)
Language Focus: Brainstorming
1. ครูให้นักเรียนจับกลุ่มกลุ่มละ 4 คน
2. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- ครูแจกกระดาษปรู๊ฟและปากกาเคมีให้นักเรียนทุกกลุ่ม
- ครูแสดงสถานการณ์ใน Text 3 บน Power point
- ครูให้นักเรียนระดมความคิดหาแนวทางแก้ปัญหาให้
ได้มากที่สุด แล้วเขียนลงบนกระดาษปรู๊ฟ
- ครูให้นักเรียนคัดเลือกแนวทางการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
ของแต่ละโครงสร้างประโยคที่ได้เรียน แล้วออกมา
นาเสนอและอภิปรายหน้าชั้นพร้อมให้เหตุผล
3. ครูตรวจความถูกต้องและแก้ไขข้อผิดพลาดของ
นักเรียนระหว่างการอภิปรายโครงสร้างประโยค
4. ครูให้เวลาดาเนินกิจกรรม 30 นาที
5. ครูให้นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นทีละกลุ่ม
6. ครูสรุปกฎโครงสร้างไวยากรณ์ที่ได้สอนร่วมกับ
นักเรียนและถามคาถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ
7. ครูสังเกตและประเมินผล
2. นักเรียนดาเนินกิจกรรม
3. นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน
1. นักเรียนจับกลุ่มกลุ่มละ 4 คน
2. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- นักเรียนรับกระดาษปรู๊ฟและปากกาเคมี
- นักเรียนดูสถานการณ์บน Power point
- นักเรียนระดมความคิดหาแนวทางการแก้ปัญหา
แล้วเขียนลงบนกระดาษปรู๊ฟ
- นักเรียนคัดเลือกแนวทางการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด 5
แนวทางแล้วออกมานาเสนอหน้าชั้นพร้อมให้เหตุผล
3. นักเรียนรับฟังและแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเอง
4. นักเรียนดาเนินกิจกรรม
5. นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นทีละกลุ่ม
6. นักเรียนสรุปกฎโครงสร้างไวยากรณ์ที่ได้เรียน
ร่วมกับครูและตอบคาถาม
6. การวัดผลและประเมินผล
กิจกรรมที่จะประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือประเมิน
1. Task cycle 1
2. Task cycle 2
3. Language focus
ตรวจให้คะแนน
ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน
ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน
แบบประเมินทักษะเขียน
และการพูดนาเสนอ
แบบประเมินทักษะเขียน
และการพูดนาเสนอ
แบบประเมินทักษะเขียน
และการพูดนาเสนอ
7. กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………..………………………..………………
………………………………………………………………………………………………………………..………………………..………………
Language focus
Brainstorming
Direction: 1. Work in group and imagine you were Carlos in Text 3.
2. Brainstorm to find solutions as many as you can by using the
structures you have learned.
3. Choose and write the best solutions for each structure and
explain why you choose it.
4. Present and discuss about the solutions and sentence
structures in front of the class.
He should have ....................................................
He shouldn't have ...............................................
He could have ......................................................
He would have .....................................................
Task cycle 2
Help me
Direction: Describe a situation which you made a mistake in the past that
you shouldn't have done. Get advices from three of your classmate on
what you should have done. Then, present in front of the class.
What happened?
Name of advisers What should you have done?
แบบปะเมินทักษะการพูด (Task cycle 1,2, Language
Focus)
กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล
ประเด็น/คะแนน
การออกเสียง
(3)
ความถูกต้องของ
เนื้อหา
(3)
ท่าทาง
ประกอบการ
สนทนา (2)
ความ
คล่องแคล่ว
(2)
รวม
คะแนน
(10)
สรุปการประเมิน
3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน
(ลงชื่อ).....................................................ผู้ประเมิน
(........................................................)
วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก
6-7 คะแนน หมายถึง ดี
4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้
1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
เกณฑ์การให้คะแนนการพูด
1. การออกเสียง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้
สื่อสารได้ชัดเจน
2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้
1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
2. ความถูกต้องของเนื้อหา (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา
2 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน
1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา
3. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์
1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ
4. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร
1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ( การอภิปราย ) (Task cycle 1,2, Language Focus)
กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล
ประเด็น/คะแนน
การออกเสียง
(3)
ความถูกต้อง
ตามหัวข้อที่ได้รับ
มอบหมาย
(3)
ความ
คล่องแคล่ว
(2)
ท่าทาง
ประกอบการ
สนทนา
(2)
คะแนนรวม
(10)
3 2 1 3 2 1 2 1 2 1
(ลงชื่อ)........................................................ผู้ประเมิน
(............................................................)
วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. .................
หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก
6-7 คะแนน หมายถึง ดี
4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้
1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
เกณฑ์การให้คะแนนการอภิปราย
1. การออกเสียง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้
สื่อสารได้ชัดเจน
2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้
1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
2. ความถูกต้องตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงพูดได้ตรงตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย
2 คะแนน หมายถึงพูดเบี่ยงเบนเล็กน้อยจากหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย
1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ตรงตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย
3. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร
1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง
4. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์
1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
Task cycle1
Giving advice
Direction: Write two sentences - informative and negative form of
giving advices for each picture.
1. ..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
2.
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
3. ..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
4. ..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
5. ..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
6. ..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
แบบประเมินการเขียน (Task cycle 1,2, Language Focus)
เลขที่ ชื่อ - สกุล
การใช้ภาษา
(5)
เนื้อหา
(5)
รวม
คะแนน
5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 10
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน
(................................................................)
วันที่..........เดือน.................................พ.ศ. .................
เกณฑ์การให้คะแนนการเขียน
เกณฑ์การให้คะแนนการใช้ภาษา
5คะแนน หมายถึงใช้คาศัพท์และโครงสร้างได้อย่างถูกต้อง
4 คะแนน หมายถึงใช้คาศัพท์และโครงสร้างได้ แต่มีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย
3 คะแนน หมายถึง ใช้คาศัพท์และโครงสร้างได้ แต่มีข้อผิดพลาดอย่างชัดเจน
2 คะแนน หมายถึงสะกดคาศัพท์ผิดพลาด ใช้โครงสร้างผิดพลาดเป็นส่วนใหญ่
1 คะแนน หมายถึงไม่สามารถใช้คาศัพท์และโครงสร้างได้เลย
เกณฑ์การให้คะแนนเนื้อหา
5คะแนน หมายถึงมีเนื้อหาครบถ้วน ถูกต้องตรงตามที่กาหนด
4 คะแนน หมายถึงเนื้อหาขาดรายละเอียดเล็กน้อย
3 คะแนน หมายถึง เนื้อหาขาดรายละเอียดและขาดความสัมพันธ์ต่อเนื่อง
2 คะแนน หมายถึงเนื้อหาขาดข้อมูลสาคัญบ้างและขาดความสัมพันธ์ต่อเนื่อง
1 คะแนน หมายถึงเนื้อหาไม่ถูกต้องตามที่กาหนด
สรุปเกณฑ์การประเมิน
8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก
5-7 คะแนน หมายถึง ดี
3-5 คะแนน หมายถึง พอใช้
1-2 คะแนน หมายถึงควรปรับปรุง
หมายเหตุ ให้คะแนน 3คะแนนขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์
Text 2
Brainstorming
There are four principles in brainstorming:
After gathering all
the ideas, you can start
deciding what is the best
solution
Brainstorming is a technique to find a conclusion or solution for a
specific problem by gathering a list of ideas contributed by group members.
This technique can be used in group or individually.
4. Combine and improve ideas: Good ideas may come from combining
two previous ideas.
3. Welcome unusual ideas: Unusual ideas usually generated from new
perspectives. This can leads to new and
effective solutions.
2. Do not criticize: Criticism will stop the flow of ideas.
1. Focus on quantity: More ideas means more chance of finding the best
solution.
Text 1
Vocabulary
already (v.)
something was completed before
something else happened. It is often
used with the present perfect or past
perfect.
anywhere (adv.)
in, to, or at any place
EG. You won't find a better plumber
anywhere in England.
I was wondering if there was anywhere
I could go to get this mended.
dark (adj.)
the part of the day between the end
of the afternoon and night
A child or young person who is
grounded is not allowed to go out as a
grounded (adj.)
invite (v.)
punishment
EG. I smashed some stuff and now I'm
grounded for a week.
to ask or request someone to go to an
event
mad (adj.)
mentally ill, or unable to behave in a
reasonable way
EG. I think I must be going mad.
wonder (v.)
to feel or express great surprise at
something
comparative of bad: more unpleasant,
difficult, or severe than before or than
something else that is also bad
worse (n.)
Text 2
Structure
Past Modals: Should (not) / Must (not) + have + the Past Participle
Use a modal + have + past participle to express regret, give advice, and express certainty
about thing in the past.
Past Regret and Advice
Use should / should not + have + past participle to give better solutions (advice) or when
you want to express a wish that the event had happened differently (regret)
Subject Modal (not) Have + Past
Participle
I should have done my homework
You shouldn’t have paid your bill late. Now you have to pay a
penalty.
We could have done our homework
I would have done my homework
Text 3
Conversation
Paul: Carlos, do you want to come over and play video games?
Carlos: No, I can't go anywhere. I'm grounded for a week.
Paul: Why? What happened?
Carlos: Well, yesterday I went to Robert's house to do my homework. I told my mom I
would be home before dark.
Paul: And what happened?
Carlos: Well, just as we were starting to do our homework, Derek called and invited us
to play soccer at the park. So we went and played. The time went by really quickly
and when I got home it was already dark. My mom was worried because she had
called Robert's house and I wasn't there. And she was mad because I was late and to
make it even worse, I hadn't done my homework.
Paul: Oh, wow! you could have called your mother.
Carlos: I know, and I should have done my homework, too.
Paul: No wonder she was mad. May be you can come over next week.

More Related Content

What's hot

Reading lesson plan
Reading lesson planReading lesson plan
Reading lesson planBelinda Bow
 
แผนการอ่าน
แผนการอ่านแผนการอ่าน
แผนการอ่านSerena Sunisa
 
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Introductory Stories)
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Introductory Stories)แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Introductory Stories)
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Introductory Stories)Sommawan Keawsangthongcharoen
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านWanida Keawprompakdee
 
แผน 1 the curious boy and the fish
แผน 1 the curious boy and the fishแผน 1 the curious boy and the fish
แผน 1 the curious boy and the fishTeacher Sophonnawit
 
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5Aiwilovekao
 
Speaking lesson plan
Speaking lesson planSpeaking lesson plan
Speaking lesson planBelinda Bow
 
แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)Kruthai Kidsdee
 
แผน Eng m.3
แผน Eng m.3แผน Eng m.3
แผน Eng m.3Milmilk
 
Listening lesson plan
Listening lesson planListening lesson plan
Listening lesson planBelinda Bow
 
Speaking lesson plan
Speaking lesson planSpeaking lesson plan
Speaking lesson planAiwilovekao
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังWanida Keawprompakdee
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูด
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูดแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูด
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูดWanida Keawprompakdee
 
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3Aiwilovekao
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_านDaraAlice Edu
 
แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6
แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6 แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6
แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6 Tharinee Japhimai
 

What's hot (20)

PPP Model
PPP ModelPPP Model
PPP Model
 
Reading lesson plan
Reading lesson planReading lesson plan
Reading lesson plan
 
แผนการอ่าน
แผนการอ่านแผนการอ่าน
แผนการอ่าน
 
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Introductory Stories)
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Introductory Stories)แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Introductory Stories)
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Introductory Stories)
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
 
แผน B slim
แผน B slimแผน B slim
แผน B slim
 
แผน 1 the curious boy and the fish
แผน 1 the curious boy and the fishแผน 1 the curious boy and the fish
แผน 1 the curious boy and the fish
 
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5
 
Speaking lesson plan
Speaking lesson planSpeaking lesson plan
Speaking lesson plan
 
แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)
 
แผน Eng m.3
แผน Eng m.3แผน Eng m.3
แผน Eng m.3
 
Listening lesson plan
Listening lesson planListening lesson plan
Listening lesson plan
 
Speaking lesson plan
Speaking lesson planSpeaking lesson plan
Speaking lesson plan
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูด
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูดแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูด
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูด
 
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
 
Thesis oral presentaton
Thesis oral presentatonThesis oral presentaton
Thesis oral presentaton
 
แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6
แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6 แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6
แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6
 
PPP Lesson Plan
PPP Lesson PlanPPP Lesson Plan
PPP Lesson Plan
 

Similar to Tbl

แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_านDaraAlice Edu
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนWanida Keawprompakdee
 
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านบทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านKanjana Pothinam
 
แผนFamous people
แผนFamous peopleแผนFamous people
แผนFamous peopleIct Krutao
 
กิจกรรมค่ายวิชาการ
กิจกรรมค่ายวิชาการกิจกรรมค่ายวิชาการ
กิจกรรมค่ายวิชาการsomthawin
 
B-SLIM Model Lesson Plan
B-SLIM Model Lesson PlanB-SLIM Model Lesson Plan
B-SLIM Model Lesson PlanSilence Aholic
 
แผนที่ 12 summary and posttest
แผนที่ 12 summary and posttestแผนที่ 12 summary and posttest
แผนที่ 12 summary and posttestTeacher Sophonnawit
 
อบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Up
อบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Upอบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Up
อบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Upกมลรัตน์ ฉิมพาลี
 
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์Kobwit Piriyawat
 

Similar to Tbl (20)

Ppp+มิ้น+..
Ppp+มิ้น+..Ppp+มิ้น+..
Ppp+มิ้น+..
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
 
Speaking plan
Speaking planSpeaking plan
Speaking plan
 
B slim
B slim B slim
B slim
 
B slim from PAD
B slim from PADB slim from PAD
B slim from PAD
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
 
Writing lesson plan
Writing lesson planWriting lesson plan
Writing lesson plan
 
ใบความรู้
ใบความรู้ใบความรู้
ใบความรู้
 
ใบความรู้
ใบความรู้ใบความรู้
ใบความรู้
 
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านบทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
 
แผนFamous people
แผนFamous peopleแผนFamous people
แผนFamous people
 
กิจกรรมค่ายวิชาการ
กิจกรรมค่ายวิชาการกิจกรรมค่ายวิชาการ
กิจกรรมค่ายวิชาการ
 
B-SLIM Model Lesson Plan
B-SLIM Model Lesson PlanB-SLIM Model Lesson Plan
B-SLIM Model Lesson Plan
 
แผนที่ 12 summary and posttest
แผนที่ 12 summary and posttestแผนที่ 12 summary and posttest
แผนที่ 12 summary and posttest
 
อบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Up
อบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Upอบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Up
อบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Up
 
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
 
Web
WebWeb
Web
 
Listening
ListeningListening
Listening
 
ใบความรู้โครงงานคุณธรรม
ใบความรู้โครงงานคุณธรรมใบความรู้โครงงานคุณธรรม
ใบความรู้โครงงานคุณธรรม
 
1
11
1
 

More from Meow Gochkorn (15)

Clil pillar1 task1
Clil pillar1 task1Clil pillar1 task1
Clil pillar1 task1
 
Clil pillar3 task3
Clil pillar3 task3Clil pillar3 task3
Clil pillar3 task3
 
Clil pillar1 task1
Clil pillar1 task1Clil pillar1 task1
Clil pillar1 task1
 
Cbi writing
Cbi writingCbi writing
Cbi writing
 
Cbi speaking
Cbi speakingCbi speaking
Cbi speaking
 
Cbi reading
Cbi readingCbi reading
Cbi reading
 
Cbi listening
Cbi listeningCbi listening
Cbi listening
 
B slim
B slimB slim
B slim
 
Writing Plan
Writing PlanWriting Plan
Writing Plan
 
Reading plan
Reading planReading plan
Reading plan
 
Listennig plan
Listennig planListennig plan
Listennig plan
 
CLIL
CLILCLIL
CLIL
 
CBI
CBICBI
CBI
 
CALL
CALLCALL
CALL
 
B slim
B slimB slim
B slim
 

Tbl

  • 1. แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามรูปแบบ Task-Based Learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ/วิชาภาษาอังกฤษ มัธยมศึกษาปีที่ 2 Unit: People Topic: Friends Sub-topic: Giving advice/ Listening to friends สอนวันที่.............เดือน......................................พ.ศ.2557 ส่งครั้งที่ 1 วันที่ 8 ตุลาคม 2557 ส่งครั้งที่ 2 วันที่ 9 ตุลาคม 2557 ส่งครั้งที่ 3 วันที่ 10 ตุลาคม 2557 ส่งครั้งที่ 4 วันที่ 11 ตุลาคม 2557 ส่งครั้งที่ 5 วันที่ 12 ตุลาคม 2557 กลุ่มเรียนที่ 1 วันจันทร์ 09.00-11.40 น. ศษ. 106 1. นางสาวกชกร ดงเทียมสี 55010513005 2. นายรุ่งเพชร เพชรชรินพันธ์ 55010513031 3. นายพีรพงษ์ ศรีสุรักษ์ 55010513054 นิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาอังกฤษ รหัสวิชาเอก EN ระบบปกติ Mentors ชื่อ – สกุล ลายมือชื่อ 1. นางสาวนันทนัช วิเชียรเพริศ 54010513024 2. นายอัครเดช ถนอมชาติ 54010513067 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามรูปแบบ Task-Based Language Learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ/วิชาภาษาอังกฤษ มัธยมศึกษาปีที่ 2 Unit: People Topic: Friends Sub-topic: Giving advice/ Listening to friends
  • 2. สอนวันที่.............เดือน......................................พ.ศ.2557 1. จุดประสงค์ 1. เขียนให้คาแนะนาเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ที่กาหนดให้ได้ (Task Cycle 1) 2. เขียนและพูดนาเสนอเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของตนเอง และให้คาแนะนาเกี่ยวกับแนวทาง แก้ปัญหาให้แก่ผู้อื่นได้ (Task Cycle 2) 3. เขียนและพูดนาเสนอข้อมูล แนวทางการแก้ปัญหาพร้อมให้เหตุผลสั้นๆในสถานการณ์ที่กาหนดให้ ได้ (Language Focus) 2. ตัวชี้วัด ต 1.1.1.3/ม.2 ระบุ/เขียนประโยค และข้อความ ให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน (Task Cycle 1) ต 1.1.3.3/ม.2 พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม เรื่องต่างๆใกล้ตัว และประสบการณ์พร้อมทั้ง ให้เหตุผลสั้นๆประกอบ (Task Cycle 2, language focus) 3. เนื้อหา Structure: Past Modals: Subject + Should/ Could/ Would (not) + have + the Past Participle Example: Subject Modal (not) Have + Past Participle I should have saved more money. You shouldn’t have paid your bill late.
  • 3. We could have done our homework. I would have done my homework. Non-grammatical structure: Brainstorming 4. สื่อการเรียนรู้ 4.1) Video นาเข้าสู่บทเรียน 4.2) Text 1,2,3 4.3) Power point โครงสร้างไวยากรณ์ 4.4) ใบงาน Giving advice 4.5) ใบงาน Help me 4.6) กระดาษปรู๊ฟ 4.7) ปากกาเคมี 5. กิจกรรมการเรียนรู้ Teacher Student Pre-Task 1. ครูกล่าวทักทาย 2. ครูเปิด video เกี่ยวกับปัญหาในชีวิตประจาวันเพื่อ นาเข้าสู่บทเรียน 3. ครูถามคาถามเพื่อทดสอบความเข้าใจ 3 คาถาม เช่น - What is the video about? - What he should have done? 4. ครูแจก Text 1 จากนั้นครูอธิบายคาศัพท์เกี่ยวกับ Problem ใน power point และให้นักเรียนอ่านออก เสียงตาม 5. ครูแจก Text 2 จากนั้นครูอธิบายเรื่องการใช้ Should have และ must have เช่น I should have saved more money. Now I'm broke. 1. นักเรียนกล่าวทักทาย 2. นักเรียนดู video นาเข้าสู่บทเรียน 3. นักเรียนตอบคาถาม เช่น - The video is about problem. - He should have save more money. 4. นักเรียนเรียนรู้คาศัพท์จาก power point และ ออกเสียงตาม 5. นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการใช้ Should have, must have และทาความเข้าใจ
  • 4. Someone must have stolen my credit card!! 6. ครูฝึกให้นักเรียนแต่งประโยคจากโครงสร้างที่สอน เพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจนักเรียน 7. ครูแจก Text 2 และสอนเทคนิคการระดมความคิด (brainstorming) 8. ครูกาหนดสถานการณ์ให้นักเรียนระดมความคิดหา แนวทางการแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด 9. ครูแจก Text 3 เรื่อง Problem ให้นักเรียนจากนั้นครู เปิด audio sound เรื่อง Problem ให้นักเรียนฟัง 2 รอบ 10. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม audio sound ทีละ ประโยค 11. ครูถามคาถามเกี่ยวกับเรื่อง Problem เพื่อทดสอบ ความเข้าใจของนักเรียน 3 คาถาม เช่น - What shouldn't he have done? - What could Paul have done differently? - What would you have done? Task Cycle Task Cycle 1: Giving advice 1. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - ครูแจกใบงาน Giving advice ให้นักเรียนคนละ 1 ใบ - ครูให้นักเรียนดูรูปภาพและเขียนให้คาแนะนาในการ แก้ปัญหาในภาพตามโครงสร้างที่ได้สอน 2. ครูให้เวลาในการดาเนินกิจกรรม 10 นาที 3. ครูเฉลยคาตอบที่เป็นไปได้บน Power point 4. ครูตรวจและให้คะแนน Task Cycle 2: Help me 1. ครูอธิบายวิธีการทากิจกรรมให้นักเรียนฟัง - ครูแจกใบงาน Help me ให้นักเรียน - ครูให้นักเรียนเขียนเล่าสถานการณ์ที่เป็นปัญหาสาหรับ ตนเองลงบนใบงาน - ครูให้นักเรียนไปขอคาแนะนาจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน 3 คนและเขียนลงบนใบงาน 6. นักเรียนฝึกแต่งประโยค Should have , must have 7. นักเรียนรับ Text 2 และฟังเรื่องการระดมความคิด (brainstorming) 8. นักเรียนระดมความคิดหาแนวทางการแก้ปัญหาให้ ได้มากที่สุด 9. นักเรียนรับ Text 3 และฟังเรื่อง Problem 2 รอบ 10. นักเรียนอ่านออกเสียงตาม audio sound ทีละ ประโยค 11. นักเรียนตอบคาถามเกี่ยวกับ Text 3 - He shouldn't have played soccer so long. - He could have done his homework and called his mother. - Answer will vary 1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - นักเรียนรับใบงาน Giving advice ให้นักเรียนคนละ 1 ใบ - นักเรียนดูรูปภาพและเขียนให้คาแนะนาในการ แก้ปัญหาในภาพตามโครงสร้างที่ได้เรียน 2. นักเรียนดาเนินกิจกรรม 3. นักเรียนดูคาตอบที่เป็นไปได้บน Power point 1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - นักเรียนรับใบงาน Help me - นักเรียนเขียนเล่าสถานการณ์ที่เป็นปัญหาสาหรับ ตนเองลงบนใบงาน - นักเรียนไปขอคาแนะนาจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน 3 คน และเขียนลงบนใบงาน
  • 5. 2. ครูให้นักเรียนดาเนินกิจกรรม 3. ครูให้นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียนทีละคน 4. ครูสังเกตและประเมินผล (Language Focus) Language Focus: Brainstorming 1. ครูให้นักเรียนจับกลุ่มกลุ่มละ 4 คน 2. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - ครูแจกกระดาษปรู๊ฟและปากกาเคมีให้นักเรียนทุกกลุ่ม - ครูแสดงสถานการณ์ใน Text 3 บน Power point - ครูให้นักเรียนระดมความคิดหาแนวทางแก้ปัญหาให้ ได้มากที่สุด แล้วเขียนลงบนกระดาษปรู๊ฟ - ครูให้นักเรียนคัดเลือกแนวทางการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ของแต่ละโครงสร้างประโยคที่ได้เรียน แล้วออกมา นาเสนอและอภิปรายหน้าชั้นพร้อมให้เหตุผล 3. ครูตรวจความถูกต้องและแก้ไขข้อผิดพลาดของ นักเรียนระหว่างการอภิปรายโครงสร้างประโยค 4. ครูให้เวลาดาเนินกิจกรรม 30 นาที 5. ครูให้นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นทีละกลุ่ม 6. ครูสรุปกฎโครงสร้างไวยากรณ์ที่ได้สอนร่วมกับ นักเรียนและถามคาถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ 7. ครูสังเกตและประเมินผล 2. นักเรียนดาเนินกิจกรรม 3. นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน 1. นักเรียนจับกลุ่มกลุ่มละ 4 คน 2. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - นักเรียนรับกระดาษปรู๊ฟและปากกาเคมี - นักเรียนดูสถานการณ์บน Power point - นักเรียนระดมความคิดหาแนวทางการแก้ปัญหา แล้วเขียนลงบนกระดาษปรู๊ฟ - นักเรียนคัดเลือกแนวทางการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด 5 แนวทางแล้วออกมานาเสนอหน้าชั้นพร้อมให้เหตุผล 3. นักเรียนรับฟังและแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเอง 4. นักเรียนดาเนินกิจกรรม 5. นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นทีละกลุ่ม 6. นักเรียนสรุปกฎโครงสร้างไวยากรณ์ที่ได้เรียน ร่วมกับครูและตอบคาถาม 6. การวัดผลและประเมินผล กิจกรรมที่จะประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือประเมิน 1. Task cycle 1 2. Task cycle 2 3. Language focus ตรวจให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน แบบประเมินทักษะเขียน และการพูดนาเสนอ แบบประเมินทักษะเขียน และการพูดนาเสนอ แบบประเมินทักษะเขียน และการพูดนาเสนอ 7. กิจกรรมเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………..………………………..……………… ………………………………………………………………………………………………………………..………………………..………………
  • 6. Language focus Brainstorming Direction: 1. Work in group and imagine you were Carlos in Text 3. 2. Brainstorm to find solutions as many as you can by using the structures you have learned. 3. Choose and write the best solutions for each structure and explain why you choose it. 4. Present and discuss about the solutions and sentence structures in front of the class. He should have .................................................... He shouldn't have ............................................... He could have ...................................................... He would have .....................................................
  • 7. Task cycle 2 Help me Direction: Describe a situation which you made a mistake in the past that you shouldn't have done. Get advices from three of your classmate on what you should have done. Then, present in front of the class. What happened? Name of advisers What should you have done? แบบปะเมินทักษะการพูด (Task cycle 1,2, Language Focus)
  • 8. กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล ประเด็น/คะแนน การออกเสียง (3) ความถูกต้องของ เนื้อหา (3) ท่าทาง ประกอบการ สนทนา (2) ความ คล่องแคล่ว (2) รวม คะแนน (10) สรุปการประเมิน 3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน (ลงชื่อ).....................................................ผู้ประเมิน (........................................................) วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. .............. หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6-7 คะแนน หมายถึง ดี 4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การให้คะแนนการพูด 1. การออกเสียง (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้ สื่อสารได้ชัดเจน 2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้ 1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้ 2. ความถูกต้องของเนื้อหา (3 คะแนน)
  • 9. 3 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา 2 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน 1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา 3. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์ 1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ 4. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร 1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
  • 10. แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ( การอภิปราย ) (Task cycle 1,2, Language Focus) กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล ประเด็น/คะแนน การออกเสียง (3) ความถูกต้อง ตามหัวข้อที่ได้รับ มอบหมาย (3) ความ คล่องแคล่ว (2) ท่าทาง ประกอบการ สนทนา (2) คะแนนรวม (10) 3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 (ลงชื่อ)........................................................ผู้ประเมิน (............................................................) วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ................. หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6-7 คะแนน หมายถึง ดี 4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การให้คะแนนการอภิปราย 1. การออกเสียง (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้ สื่อสารได้ชัดเจน 2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้
  • 11. 1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้ 2. ความถูกต้องตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงพูดได้ตรงตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย 2 คะแนน หมายถึงพูดเบี่ยงเบนเล็กน้อยจากหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย 1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ตรงตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย 3. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร 1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง 4. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์ 1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ Task cycle1 Giving advice Direction: Write two sentences - informative and negative form of giving advices for each picture. 1. .................................................................. ..................................................................
  • 12. .................................................................. .................................................................. 2. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. 3. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. 4. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. 5. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. 6. ..................................................................
  • 14. 17 18 19 20 21 22 23 24 ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน (................................................................) วันที่..........เดือน.................................พ.ศ. ................. เกณฑ์การให้คะแนนการเขียน เกณฑ์การให้คะแนนการใช้ภาษา 5คะแนน หมายถึงใช้คาศัพท์และโครงสร้างได้อย่างถูกต้อง 4 คะแนน หมายถึงใช้คาศัพท์และโครงสร้างได้ แต่มีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย 3 คะแนน หมายถึง ใช้คาศัพท์และโครงสร้างได้ แต่มีข้อผิดพลาดอย่างชัดเจน 2 คะแนน หมายถึงสะกดคาศัพท์ผิดพลาด ใช้โครงสร้างผิดพลาดเป็นส่วนใหญ่ 1 คะแนน หมายถึงไม่สามารถใช้คาศัพท์และโครงสร้างได้เลย เกณฑ์การให้คะแนนเนื้อหา 5คะแนน หมายถึงมีเนื้อหาครบถ้วน ถูกต้องตรงตามที่กาหนด 4 คะแนน หมายถึงเนื้อหาขาดรายละเอียดเล็กน้อย 3 คะแนน หมายถึง เนื้อหาขาดรายละเอียดและขาดความสัมพันธ์ต่อเนื่อง 2 คะแนน หมายถึงเนื้อหาขาดข้อมูลสาคัญบ้างและขาดความสัมพันธ์ต่อเนื่อง 1 คะแนน หมายถึงเนื้อหาไม่ถูกต้องตามที่กาหนด สรุปเกณฑ์การประเมิน 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 5-7 คะแนน หมายถึง ดี 3-5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1-2 คะแนน หมายถึงควรปรับปรุง
  • 15. หมายเหตุ ให้คะแนน 3คะแนนขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ Text 2 Brainstorming There are four principles in brainstorming: After gathering all the ideas, you can start deciding what is the best solution Brainstorming is a technique to find a conclusion or solution for a specific problem by gathering a list of ideas contributed by group members. This technique can be used in group or individually. 4. Combine and improve ideas: Good ideas may come from combining two previous ideas. 3. Welcome unusual ideas: Unusual ideas usually generated from new perspectives. This can leads to new and effective solutions. 2. Do not criticize: Criticism will stop the flow of ideas. 1. Focus on quantity: More ideas means more chance of finding the best solution.
  • 16. Text 1 Vocabulary already (v.) something was completed before something else happened. It is often used with the present perfect or past perfect. anywhere (adv.) in, to, or at any place EG. You won't find a better plumber anywhere in England. I was wondering if there was anywhere I could go to get this mended. dark (adj.) the part of the day between the end of the afternoon and night A child or young person who is grounded is not allowed to go out as a
  • 17. grounded (adj.) invite (v.) punishment EG. I smashed some stuff and now I'm grounded for a week. to ask or request someone to go to an event mad (adj.) mentally ill, or unable to behave in a reasonable way EG. I think I must be going mad. wonder (v.) to feel or express great surprise at something comparative of bad: more unpleasant, difficult, or severe than before or than something else that is also bad
  • 18. worse (n.) Text 2 Structure Past Modals: Should (not) / Must (not) + have + the Past Participle Use a modal + have + past participle to express regret, give advice, and express certainty about thing in the past. Past Regret and Advice Use should / should not + have + past participle to give better solutions (advice) or when you want to express a wish that the event had happened differently (regret) Subject Modal (not) Have + Past Participle I should have done my homework You shouldn’t have paid your bill late. Now you have to pay a penalty. We could have done our homework I would have done my homework
  • 20. Paul: Carlos, do you want to come over and play video games? Carlos: No, I can't go anywhere. I'm grounded for a week. Paul: Why? What happened? Carlos: Well, yesterday I went to Robert's house to do my homework. I told my mom I would be home before dark. Paul: And what happened? Carlos: Well, just as we were starting to do our homework, Derek called and invited us to play soccer at the park. So we went and played. The time went by really quickly and when I got home it was already dark. My mom was worried because she had called Robert's house and I wasn't there. And she was mad because I was late and to make it even worse, I hadn't done my homework. Paul: Oh, wow! you could have called your mother. Carlos: I know, and I should have done my homework, too. Paul: No wonder she was mad. May be you can come over next week.