SlideShare a Scribd company logo
1 of 30
Download to read offline
แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามรูปแบบ B-Slim Model
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ/วิชาภาษาอังกฤษ
ประถมศึกษาปีที่ 4
Unit: Food and Drink Topic: Likes / Dislikes
สอนวันที่.............เดือน......................................พ.ศ.2557
ส่งครั้งที่ 1 วันที่ 3 กันยายน 2557
ส่งครั้งที่ 2 วันที่ 6 กันยายน 2557
ส่งครั้งที่ 3 วันที่ 8 กันยายน 2557
ส่งครั้งที่ 4 วันที่ 9 กันยายน 2557
ส่งครั้งที่ 5 วันที่ 10 กันยายน 2557
กลุ่มเรียนที่ 1 วันจันทร์ 09.00-11.40 น. ศษ. 106
1. นางสาวกชกร ดงเทียมสี 55010513005
2. นายรุ่งเพชร เพชรชรินพันธ์ 55010513031
3. นายพีรพงษ์ ศรีสุรักษ์ 55010513054
นิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาอังกฤษ รหัสวิชาเอก EN ระบบปกติ
Mentors
ชื่อ – สกุล ลายมือชื่อ
1. นางสาวนันทนัช วิเชียรเพริศ 54010513024
2. นายอัครเดช ถนอมชาติ 54010513067
แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามรูปแบบ B-Slim Model
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ/วิชาภาษาอังกฤษ
ประถมศึกษาปีที่ 4
Unit: Food and Drink Topic: Likes / Dislikes
สอนวันที่.............เดือน......................................พ.ศ.2557
1. จุดประสงค์
1. จับคู่รูปภาพให้ตรงตามคาศัพท์ได้ (Getting 1)
2. จัดเรียงรูปภาพเพื่อสื่อความหมายให้ตรงตามประโยคที่ฟังได้ (Getting 2)
3. ถามและพูดโต้ตอบเกี่ยวกับอาหารที่ชอบและไม่ชอบได้อย่างถูกต้อง (Getting 3)
4. สัมภาษณ์และรายงานผลการสัมภาษณ์โดยใช้คาศัพท์และโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่เรียนมาได้
(Using 1)
5. พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่ชอบหรือไม่ชอบพร้อมให้เหตุผลประกอบ โดยใช้คาศัพท์และ
โครงสร้างทางไวยากรณ์ที่เรียนมาได้ (Using 2)
6. แสดงบทบาทสมมุติ (role play) ตามสถานการณ์ที่กาหนดให้ได้ (Using 3)
2. ตัวชี้วัด
ต 1.1.1.3/ป.4 เลือก/ระบุภาพหรือสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและ
ข้อความ สั้นๆที่ฟังหรืออ่าน (Getting 1,2)
ต 1.1.2.1/ป.4 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล (Getting 3)
ต 1.1.3.1/ป.4 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว (Using 1,2)
ต 1.1.3.3/ป.4 พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆเกี่ยวกับเรื่องต่างๆใกล้ตัว (Using 1,2)
ต 2.2.1.1/ป.4 พูดและทาท่าประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
(Using 3)
ต 4.4.1.1/ป.4 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา (Using 3)
3. เนื้อหา
Vocabulary: dislike, French fries, hamburger, hotdog, like, pizza, salad, soup, spaghetti
Structure: How to use like(s)/dislike(s)
Informative: S. + like(s) + Object.
Negative: S. + dislike(s) + Object./ S + do not/does not like + Object.
Affirmative: Do you like .............? Yes, (he/she) likes......... .
Does (he/she) like.............? No, (he/she) dislikes.......... .
Example: - I like pizza and spaghetti.
- She likes salad.
- I dislike hamburger or hotdog.
- She dislikes pizza.
- Do you like soup?
- Does she like salad?
4. สื่อการเรียนรู้
4.1) Video เกี่ยวกับอาหาร
4.2) Power point คาศัพท์และโครงสร้างไวยากรณ์
4.3) Text 3
4.4) ใบงาน Match the meanings
4.5) บัตรภาพพร้อมและบัตรคาพร้อมความหมาย
4.6) กระดาษ A4
4.7) บัตรภาพ
4.8) ใบงาน Interview
4.9) สลากคาศัพท์และลูกเต๋า
5. กิจกรรมการเรียนรู้
Teacher Student
ขั้นทาความเข้าใจตัวป้อน
(Comprehensible Input)
1. ครูกล่าวทักทาย
2. ครูเปิด video เกี่ยวกับอาหารเพื่อนาเข้าสู่บทเรียน
3. ครูถามคาถามเพื่อทดสอบความเข้าใจ 3 คาถาม เช่น
- How many kinds of food in the video?
- What food is in the video?
4. ครูแจก Text 1 จากนั้นครูอธิบายคาศัพท์เกี่ยวกับ
Favorite food ใน power point และให้นักเรียนอ่าน
ออกเสียงตาม
5. ครูแจก Text 2 จากนั้นครูอธิบายเรื่องการใช้
Like/dislike
เช่น I like hamburger.
I dislike hotdog.
1. นักเรียนกล่าวทักทาย
2. นักเรียนดู video นาเข้าสู่บทเรียน
3. นักเรียนตอบคาถาม เช่น
- There is one kind of food in the video.
- I like hamburger.
4. นักเรียนเรียนรู้คาศัพท์จาก power point และ
ออกเสียงตาม
5. นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการใช้ like/dislike
และทาความเข้าใจ
6. ครูฝึกให้นักเรียนแต่งประโยคจากโครงสร้างที่สอน เพื่อ
ตรวจสอบความเข้าใจนักเรียน
7. ครูแจก Text 3 เรื่อง Favorite foodให้นักเรียน
จากนั้นครูเปิด audio sound เรื่อง Favorite Food ให้
นักเรียนฟัง 2 รอบ
8. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม audio sound ทีละ
ประโยค
9. ครูถามคาถามเกี่ยวกับเรื่อง Favorite Food เพื่อ
ทดสอบความเข้าใจของนักเรียน 3 คาถาม เช่น
- How many kinds of food are in the
conversation?
- What kind of food does Jacob like?
- In the story, what do they eat?
ขั้นกิจกรรมเพื่อความเข้าใจและฝึก
(Intake- Getting It)
Getting 1 Activity 1: Matching the meanings
1. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- ครูแจกบัตรภาพและบัตรคาพร้อมความหมายให้
นักเรียนคนละ 1 ใบ
- ครูให้นักเรียนจับคู่บัตรภาพและบัตรคาพร้อม
ความหมายกับเพื่อนให้ถูกต้อง
- ครูให้นักเรียนแต่ละคู่จับกลุ่มกันโดยในแต่ละกลุ่มต้องไม่
มีคู่คาศัพท์ที่เหมือนกัน
- ครูแจกใบงาน Matching the meanings ให้นักเรียน
ทุกคน
- ครูให้นักเรียนทาใบงาน โดยสามารถช่วยเหลือกัน
ภายในกลุ่มได้
2. ครูให้เวลาในการดาเนินกิจกรรม 10 นาที
3. ครูเฉลยคาตอบบน Power point
4. ครูตรวจและให้คะแนน
Getting 2 Activity 2: Unscramble picture
sentences
1. ครูให้นักเรียนจับคู่
6. นักเรียนฝึกแต่งประโยค like/dislike
7. นักเรียนรับ Text 3 และฟังเรื่อง Favorite food 2
รอบ
8. นักเรียนอ่านออกเสียงตาม audio sound ทีละ
ประโยค
9. นักเรียนตอบคาถามเกี่ยวกับ Text 3
- There are four kinds of food.
- He likes pizza and spaghetti.
- They eat pizza.
1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- นักเรียนรับบัตรภาพและบัตรคาพร้อมความหมาย
1 ใบ
- นักเรียนจับคู่บัตรภาพและบัตรคาพร้อมความหมาย
กับเพื่อน
- นักเรียนแต่ละคู่จับกลุ่มกันโดยแต่ละกลุ่มต้องไม่มีคู่
คาศัพท์ที่เหมือนกัน
- นักเรียนรับใบงาน Matching the meanings
- นักเรียนทาใบงาน
2. นักเรียนดาเนินกิจกรรม
3. นักเรียนดูคาตอบบน Power point
1. นักเรียนจับคู่
2. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- ครูแสดงประโยคบน Power point
- ครูเปิด audio sound ให้นักเรียนฟัง
- ครูแจกบัตรภาพและกระดาษ A4 สาหรับเรียงบัตรภาพ
ให้นักเรียนทุกคู่
- ครูให้นักเรียนเรียงบัตรภาพลงบนกระดาษ A4 เพื่อให้
สื่อความหมายตรงตามประโยคที่ได้ฟัง
- ครูให้เวลาทากิจกรรม 15 นาที
3. ครูให้นักเรียนทากิจกรรม
4. ครูเฉลยคาตอบบน Power point
5. ครูตรวจและให้คะแนน
Getting 3 Activity 3: Chain-drill
1. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
2. ครูแสดงโครงสร้างประโยคบน Power point
3. ครูถามนักเรียนคนแรกว่า Do you like pizza?
4. ครูสุ่มเลือกบัตรภาพเพื่อให้นักเรียนใช้เป็นคาศัพท์ใน
คาถาม
5. ครูให้นักเรียนที่ถูกถามคนแรกถามเพื่อนร่วมชั้นคน
อื่นๆ โดยใช้โครงสร้างคาถามเดียวกับครูและคาศัพท์จาก
บัตรภาพ
6. ครูสังเกตและประเมินทักษะการพูด
ขั้นกิจกรรมเพื่อความเข้าใจและฝึก
(Intake – Using It)
Using 1 Activity 4: Interview
1. ครูอธิบายวิธีการทากิจกรรมให้นักเรียนฟัง
- ครูแจกใบงาน Interview ให้นักเรียน
- ครูให้นักเรียนสัมภาษณ์เพื่อน 3 คน ในหัวข้อที่กาหนด
ในใบงานและบันทึกผลการสัมภาษณ์ลงในใบงานที่มอบ
ให้
- ครูให้นักเรียนเขียนอธิบายข้อมูลสั้นๆของเพื่อนที่ได้
สัมภาษณ์ลงในใบงาน Interview
2. ครูให้นักเรียนดาเนินกิจกรรม
3. ครูให้นักเรียนออกมานาเสนอข้อมูลของเพื่อนที่เขียน
หน้าชั้นเรียน
4. ครูสังเกตและประเมินผล
2. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- นักเรียนดูประโยคบน Power point
- นักเรียนฟัง audio sound
- นักเรียนรับกระดาษ A4 และบัตรภาพ
- นักเรียนเรียงบัตรภาพเพื่อให้สื่อความหมายตรงตาม
ประโยคที่ได้ฟัง
3. นักเรียนทากิจกรรม
4. นักเรียนดูคาตอบบน Power point
1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
2. นักเรียนดูโครงสร้างประโยคบน Power point
3. นักเรียนตอบคาถามโดยใช้โครงสร้าง Yes, I like....
หรือ No, I dislike.....
4. นักเรียนดูบัตรภาพ
5. นักเรียนถามเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ โดยใช้โครงสร้าง
คาถามเดียวกับครูและคาศัพท์จากบัตรภาพ
1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- นักเรียนรับใบงาน Interview
- นักเรียนสัมภาษณ์เพื่อน 3 คนและบันทึกผลการ
สัมภาษณ์
- นักเรียนเขียนอธิบายข้อมูลสั้นๆของเพื่อนที่ได้
สัมภาษณ์
2. นักเรียนดาเนินกิจกรรม
3. นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน
Using 2 Activity 5: Questioning ladder game
1. ครูให้นักเรียนทุกคนเข้าแถวต่อกันตามรูปบันไดงูบน
power point โดยกาหนดให้ทุกคนเปรียบเสมือนช่อง
เดินบนเกมบันไดงู
2. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- ครูให้นักเรียนคนแรกของแถวถือกล่องสลากคาศัพท์
- ครูให้นักเรียนคนที่ถือกล่องสลากคาศัพท์หยิบสลากมา
1 ใบ
- ครูให้นักเรียนที่ถือกล่องอ่านคาศัพท์ จากนั้นใช้คาศัพท์
นั้นแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้าง “I like….because....”
“I dislike….because....”
- ครูเปิดเงื่อนไขบันไดงูบน Power point แล้วให้นักเรียน
ที่ถือกล่องปฏิบัติตามเงื่อนไข
- ครูให้นักเรียนที่ถือกล่องทอดลูกเต๋า
- ครูให้นักเรียนส่งกล่องให้เพื่อนคนถัดไปในแถวตามแต้ม
ลูกเต๋า
- ครูให้นักเรียนทอดลูกเต๋าต่อ จนกว่ากล่องสลากคาศัพท์
จะถึงคนสุดท้ายของแถว
- ครูให้เวลานักเรียนในการทากิจกรรม 25 นาที
3. ครูให้นักเรียนดาเนินกิจกรรม
4. ครูสังเกตและประเมินผล
Using 3 Activity 6: Role play
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน
2. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรมดังนี้
- ครูให้นักเรียนแสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ที่
กาหนดให้
- ครูแสดงบทสนทนาบน Power point
- ครูให้เวลานักเรียนเตรียมตัว 10 นาที
3. ครูให้นักเรียนดาเนินกิจกรรม
4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมติ ที
ละกลุ่มจนครบ
5. ครูสังเกตและประเมินผล
1. นักเรียนต่อแถวกันเป็นบันไดงูเว้นระยะห่าง 1 ช่วง
แขน
j
2. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- นักเรียนคนแรกของแถวรับกล่องสลากคาศัพท์
- นักเรียนคนที่ถือกล่องสลากคาศัพท์ หยิบสลากมา 1
ใบ
- นักเรียนที่ถือกล่องอ่านคาศัพท์ พร้อมทั้งใช้คาศัพท์
นั้นแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้าง“I like…because...”
“I dislike….because....”
- นักเรียนที่ถือกล่องปฏิบัติตามเงื่อนไขบน Power
point
- นักเรียนที่ถือกล่องทอดลูกเต๋า
- นักเรียนส่งกล่องให้เพื่อนคนถัดไปในแถวตามแต้ม
ลูกเต๋า
- นักเรียนทอยลูกเต๋าต่อ จนกว่ากล่องสลากคาศัพท์จะ
ถึงคนสุดท้ายของแถว
3. นักเรียนดาเนินกิจกรรม
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน
2. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม
- นักเรียนแสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ที่ครู
กาหนด
- นักเรียนดูบทสนทนาบน Power point
- นักเรียนเตรียมตัว
3. นักเรียนดาเนินกิจกรรม
4. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมติ
6. การวัดผลและประเมินผล
กิจกรรมที่จะประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือประเมิน
1. Getting 1 (คาศัพท์)
Getting 2 (คาศัพท์และโครงสร้าง)
Getting 3 (ทักษะการพูด)
2. Using 1 (ทักษะการเขียนและการพูด)
Using 2 (ทักษะการพูด)
Using 3 (ทักษะการพูด)
ตรวจให้คะแนน
ตรวจให้คะแนน
ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน
ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน
ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน
ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน
-
-
แบบประเมินทักษะการพูดนาเสนอ
แบบประเมินทักษะการพูดนาเสนอ
แบบประเมินทักษะการพูดนาเสนอ
แบบประเมินทักษะการพูดนาเสนอ
7. กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………..………………………..………………
………………………………………………………………………………………………………………..………………………..………………
Text1
Vocabulary
like (v.); enjoy someone or something
dislike (v.); not like someone or
something
hamburger (n.); a piece of beef between two circle bread
hot dogs (n.); a sausage in a long bread
pizza (n.); a circle of bread with vegetables and meat
spaghetti (n.); pasta made in long line
French fries (n.); sticks of fried potato
soup (n.); meat and
vegetables boiled together
salad (n.); many kinds of vegetable mixed together
Text 2
Structure
Structure:
Informative: S. + like(s) + Object.
Negative: S. + dislike(s) + Object./ S + do not/does not like + Object.
Affirmative: Do you like .............? Yes, (he/she) likes......... .
Does (he/she) like.............? No, (he/she) dislikes.......... .
Informative: S. + like(s) + Object.
This structure is used to tell when you are happy with someone or something. We
always add ''s" after the main verb of a sentence (like) when the subject is the third singular
person (he/she/it).
Example: - I like pizza and spaghetti.
- You like hamburger.
- They like
pizza. - He likes hot dog. - She likes hamburger.
Negative: S. + dislike(s) + Object./ S + do not/does not like + Object.
This structure is used to tell when you aren't happy or enjoy someone or
something. Don't forget to add "s" when the subject is the third singular person.
Examples: - I dislike/do not like pizza and spaghetti.
- You dislike/do not like hamburger.
- They dislike/do not like French Fries.
He dislikes/does not like pizza.
She dislikes/does not like hamburger.
Affirmative:
Do you like .............? Does he/she like.............?
Yes, I like............ No, I dislike...............
No, I do not like........
Yes, (he/she) likes......... . No, (he/she) dislikes.......... .
No, (he/she) does not like..........
we don't add "s" after the main verb in a question.
Example:
Conversation
Favorite Food
Mr. Taylor: OK, kids, what do you
want? They have hamburgers,
hot dogs, pizza, and spaghetti.
Jacob: I don't like hamburgers or
hot dogs. I like pizza and spaghetti. I want spaghetti.
Mr. Taylor: How about you, Ashley? Do you want spaghetti?
Ashley: No, I don't like spaghetti. I like pizza. I also like hot
dogs, and hamburgers.
Mr. Taylor: Let's have pizza then.
Jacob: All right.
Getting 1
Activity 1: Matching the meaning
Direction: Match the word and definition with picture.
French fries
1
2
pizza
dislike
7
6
5
salad
hamburger
soup
hot dogs
3
4
Getting 2
Activity2: Unscramble picture sentences
Direction: Listen to the audio. Then, order the picture to make a sentence.
1. Jacob
2. Ashley
like
8
Getting 3
Activity 3: Chain-drill
Direction: Make a chain-drill.
Teacher: Do you like pizza?
Student 1: I like/do not like pizza. Do you like ..........................?
Student 2: I like/do not like ...................?
Student 2: Do you like ....................?
Student 3: I like/do not like ...................?
Student 3: Do you like ....................?
Student 4: I like/do not like ....................?
Student 4: Do you like ....................?
แบบประเมินทักษะการพูด (Getting 3, Using 1,2,3)
กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล
ประเด็น/คะแนน
การออกเสียง
(3)
ความถูกต้องของ
เนื้อหา
(3)
ท่าทาง
ประกอบการ
สนทนา (2)
ความ
คล่องแคล่ว
(2)
รวม
คะแนน
(10)
สรุปการประเมิน
3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน
(ลงชื่อ).....................................................ผู้ประเมิน
(........................................................)
วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก
6-7 คะแนน หมายถึง ดี
4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้
1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
เกณฑ์การให้คะแนนการพูด
1. การออกเสียง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้
สื่อสารได้ชัดเจน
2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้
1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
2. ความถูกต้องของเนื้อหา (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา
2 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน
1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา
3. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์
1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ
4. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร
1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
Using 1
Activity 4: Interview
Direction: Interview three of your friends. Write the information of your friends in
short paragraph and present in front of the class.
Names
Foods
Example:
Ashley ……..….......……… …………….......... ….........………….
Hamburger 
Hot dog 
Pizza 
Spaghetti 
French fries 
Soup 
Salad 
Example
Ashley likes hamburger, pizza, spaghetti and soup. But she dislikes hot dog, French fries and
salad.
…………………………………………………………………………………………......................................
…………………………………………………………………………………………......................................
…………………………………………………………………………………………......................................
…………………………………………………………………………………………......................................
…………………………………………………………………………………………......................................
…………………………………………………………………………………………......................................
…………………………………………………………………………………………......................................
แบบประเมินทักษะการพูด (Getting 3, Using 1,2,3)
กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล
ประเด็น/คะแนน
การออกเสียง
(3)
ความถูกต้องของ
เนื้อหา
ท่าทาง
ประกอบการ
ความ
คล่องแคล่ว
รวม
คะแนน
สรุปการประเมิน
(3) สนทนา (2) (2) (10)
3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน
(ลงชื่อ).....................................................ผู้ประเมิน
(........................................................)
วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก
6-7 คะแนน หมายถึง ดี
4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้
1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
เกณฑ์การให้คะแนนการพูด
1. การออกเสียง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้
สื่อสารได้ชัดเจน
2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้
1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
2. ความถูกต้องของเนื้อหา (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา
2 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน
1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา
3. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์
1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ
4. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร
1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ( การอภิปราย ) (Using 1)
กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล
ประเด็น/คะแนน
การออกเสียง
(3)
ความถูกต้อง
ตามหัวข้อที่ได้รับ
มอบหมาย
(3)
ความ
คล่องแคล่ว
(2)
ท่าทาง
ประกอบการ
สนทนา
(2)
คะแนนรวม
(10)
3 2 1 3 2 1 2 1 2 1
(ลงชื่อ)........................................................ผู้ประเมิน
(............................................................)
วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. .................
หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก
6-7 คะแนน หมายถึง ดี
4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้
1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
เกณฑ์การให้คะแนนการอภิปราย
1. การออกเสียง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้
สื่อสารได้ชัดเจน
2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้
1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
2. ความถูกต้องตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงพูดได้ตรงตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย
2 คะแนน หมายถึงพูดเบี่ยงเบนเล็กน้อยจากหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย
1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ตรงตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย
3. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร
1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง
4. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์
1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
Using 2
Activity 5: Questioning ladder game
Direction:
1) Get in a line in a shape of Snakes Ladders.
2) First person in line holds a box containing vocabulary lots.
3) The person holding the box draws a lot from the box.
4) Read the word out loud and make a sentence using the following structure:
I like …. because ….. / I dislike …… because ……..
Example: I like hamburger because I like meat,
5) Act or follow the condition in your square.
6) Throw a dice and pass the box to the person at the number they rolled.
7) Repeat until the box reaches the last person of the line.
Finish
1
Eat a hamburger
2
Move forward 4
steps
32
Tell 5 kinds of
food you dislike
3
Eat a pizza
29
Move back 3
steps
4
Move back 2
steps
5
Eat hot dogs
and you like it
12
Move forward 4
steps
13
Move back to
#9
14
Tell 2 kinds of
food you dislike
15
Move forward 1
step
16
Tell 3 kinds of
food you like
17
Move back 4
steps
18
Move forward 5
steps
19
Eat soup and
you dislike it
20
Tell 2 kinds of food
you dislike
21
Move back 4
steps
28
Eat french fries
and you like it
30
Eat salad and
you like it
31
Start again
Conditions
1. Act like you enjoy eating hamburger
2. Move forward 4 steps
3. Act like you are enjoy eating spaghetti
4. Move back 2 steps
5. Act like you do not enjoy eating hamburger
6. Move back 1 step
7. Move back 2 steps
8. Move forward 1 step
9. Tell 3 kinds of food you like
10. Move forward 4 steps
11. Act like you enjoy eating soup
12. Move forward 4 steps
13. Move back to number 9
14. Act like you do not enjoy eating soup
15. Move forward 1 step
16. Act like you enjoy eating french fries
17. Move back 3 steps
18. Move forward 5 steps
19. Act like you enjoy eating pizza
20. Act like you enjoy eating hot dogs
21. Move back 4 steps
22. Move forward 4 steps
23. Act like you do not enjoy eating salad
6
Move back 1
step
7
Move back 2
steps
8
Eat hot dogs 9
Tell 3 kinds of
food you like
10
Eat a hamburger
and dislike it
11
Tell 2 kinds of
food you
dislike
22
Move forward 4
steps
23
Eat salad and
you like it
24
Eat french fries
and you dislike
it
25
Eat hamburger
and you like it
26
Tell 3 kinds of
food you like
27
Move back 1
step
24. Act like you do not enjoy eating pizza
25. Tell 3 kinds of food you dislike
26. Act like you do not enjoy eating spaghetti
27. Move back 1 step
28. Tell 3 kinds of food you like
29. Move back 3 steps
30. Act like you do not enjoy eating french fries
31. Start again!
32. Act like you enjoy eating hamburger
แบบประเมินทักษะการพูด (Getting 3, Using 1,2,3)
กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล
ประเด็น/คะแนน
การออกเสียง
(3)
ความถูกต้องของ
เนื้อหา
(3)
ท่าทาง
ประกอบการ
สนทนา (2)
ความ
คล่องแคล่ว
(2)
รวม
คะแนน
(10)
สรุปการประเมิน
3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน
(ลงชื่อ).....................................................ผู้ประเมิน
(........................................................)
วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก
6-7 คะแนน หมายถึง ดี
4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้
1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
เกณฑ์การให้คะแนนการพูด
1. การออกเสียง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้
สื่อสารได้ชัดเจน
2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้
1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
2. ความถูกต้องของเนื้อหา (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา
2 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน
1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา
3. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์
1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ
4. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร
1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
Using 3
Activity 6: Role play
Direction: Work in group and do role play by using the situation below.
Situation
There are three people, Mr. Taylor, Jacob and Ashley.
They are going to eat at a restaurant. But they cannot
decide what to eat.
Mr. Taylor asks Jacob and Ashley what food do they
like or dislike.
Favorite Food
Mr. Taylor: OK, kids, what do you want? They have hamburgers,
hot dogs, pizza, and spaghetti.
Jacob: I don't like hamburgers or hot dogs. I like pizza and spaghetti. I
want spaghetti.
Mr. Taylor: How about you, Ashley? Do you want spaghetti?
Ashley: No, I don't like spaghetti. I like pizza. I also like hot dogs, and
hamburgers.
Mr. Taylor: Let's have pizza then.
Jacob: All right.
แบบประเมินทักษะการพูด (Getting 3, Using 1,2,3)
กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล
ประเด็น/คะแนน
การออกเสียง
(3)
ความถูกต้องของ
เนื้อหา
(3)
ท่าทาง
ประกอบการ
สนทนา (2)
ความ
คล่องแคล่ว
(2)
รวม
คะแนน
(10)
สรุปการประเมิน
3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน
(ลงชื่อ).....................................................ผู้ประเมิน
(........................................................)
วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก
6-7 คะแนน หมายถึง ดี
4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้
1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
เกณฑ์การให้คะแนนการพูด
1. การออกเสียง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้
สื่อสารได้ชัดเจน
2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้
1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
2. ความถูกต้องของเนื้อหา (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา
2 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน
1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา
3. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์
1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ
4. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร
1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์

More Related Content

What's hot

แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6
แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6 แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6
แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6 Tharinee Japhimai
 
Tbl ครั้งที่ 4
Tbl ครั้งที่ 4Tbl ครั้งที่ 4
Tbl ครั้งที่ 4Pianolittlegirl
 
Writing lesson plan
Writing lesson planWriting lesson plan
Writing lesson planBelinda Bow
 
Speaking lesson plan
Speaking lesson planSpeaking lesson plan
Speaking lesson planBelinda Bow
 
แผนเขียน ครั้งที่ 5
แผนเขียน ครั้งที่ 5แผนเขียน ครั้งที่ 5
แผนเขียน ครั้งที่ 5Pianolittlegirl
 
ภาษาอังกฤษ ป6 dlit
ภาษาอังกฤษ ป6 dlitภาษาอังกฤษ ป6 dlit
ภาษาอังกฤษ ป6 dlitNong Sangsuwan
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านWanida Keawprompakdee
 
Cbi ครั้งที่ 2
Cbi ครั้งที่ 2 Cbi ครั้งที่ 2
Cbi ครั้งที่ 2 Praew Kavintra
 
Listening lesson plan
Listening lesson planListening lesson plan
Listening lesson planBelinda Bow
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3Tharinee Japhimai
 
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5Aiwilovekao
 
Reading lesson plan
Reading lesson planReading lesson plan
Reading lesson planBelinda Bow
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังWanida Keawprompakdee
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_านDaraAlice Edu
 
Speaking lesson plan
Speaking lesson planSpeaking lesson plan
Speaking lesson planAiwilovekao
 

What's hot (20)

แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6
แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6 แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6
แผน B-slim Unit: Shopping Topic: Price P6
 
B slim from PAD
B slim from PADB slim from PAD
B slim from PAD
 
Tbl ครั้งที่ 4
Tbl ครั้งที่ 4Tbl ครั้งที่ 4
Tbl ครั้งที่ 4
 
PPP Model
PPP ModelPPP Model
PPP Model
 
Tbl
TblTbl
Tbl
 
Writing lesson plan
Writing lesson planWriting lesson plan
Writing lesson plan
 
Speaking lesson plan
Speaking lesson planSpeaking lesson plan
Speaking lesson plan
 
แผนเขียน ครั้งที่ 5
แผนเขียน ครั้งที่ 5แผนเขียน ครั้งที่ 5
แผนเขียน ครั้งที่ 5
 
ภาษาอังกฤษ ป6 dlit
ภาษาอังกฤษ ป6 dlitภาษาอังกฤษ ป6 dlit
ภาษาอังกฤษ ป6 dlit
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
 
Cbi ครั้งที่ 2
Cbi ครั้งที่ 2 Cbi ครั้งที่ 2
Cbi ครั้งที่ 2
 
Listening lesson plan
Listening lesson planListening lesson plan
Listening lesson plan
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ PPP Unit: Career Topic: Future Career M3
 
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5
แผนอ่าน ส่งครั้งที่ 5
 
Reading lesson plan
Reading lesson planReading lesson plan
Reading lesson plan
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง
 
Speaking Lesson Plan by ETM
Speaking Lesson Plan by ETMSpeaking Lesson Plan by ETM
Speaking Lesson Plan by ETM
 
PPP Lesson Plan
PPP Lesson PlanPPP Lesson Plan
PPP Lesson Plan
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
 
Speaking lesson plan
Speaking lesson planSpeaking lesson plan
Speaking lesson plan
 

Viewers also liked

Dewan Perwakilan Rakyat Bermutu
Dewan Perwakilan Rakyat BermutuDewan Perwakilan Rakyat Bermutu
Dewan Perwakilan Rakyat BermutuEmzet Juwitour
 
โปรแกรมต่อใบประกอบครู
โปรแกรมต่อใบประกอบครูโปรแกรมต่อใบประกอบครู
โปรแกรมต่อใบประกอบครูWanvipa TOey
 
2015-07 Te Kura Whenua
2015-07 Te Kura Whenua2015-07 Te Kura Whenua
2015-07 Te Kura WhenuaFiona Coyle
 
Il Parlamento Europeo
Il Parlamento EuropeoIl Parlamento Europeo
Il Parlamento Europeolucamaserati
 
Juwiter SMPN 1 Sukamulia Lombok Timur
Juwiter SMPN 1 Sukamulia Lombok TimurJuwiter SMPN 1 Sukamulia Lombok Timur
Juwiter SMPN 1 Sukamulia Lombok TimurEmzet Juwitour
 

Viewers also liked (11)

Dewan Perwakilan Rakyat Bermutu
Dewan Perwakilan Rakyat BermutuDewan Perwakilan Rakyat Bermutu
Dewan Perwakilan Rakyat Bermutu
 
trabajo
trabajotrabajo
trabajo
 
โปรแกรมต่อใบประกอบครู
โปรแกรมต่อใบประกอบครูโปรแกรมต่อใบประกอบครู
โปรแกรมต่อใบประกอบครู
 
Kti tri wahyuni
Kti tri wahyuniKti tri wahyuni
Kti tri wahyuni
 
Assignment 2
Assignment 2Assignment 2
Assignment 2
 
2015-07 Te Kura Whenua
2015-07 Te Kura Whenua2015-07 Te Kura Whenua
2015-07 Te Kura Whenua
 
Duty to english
Duty to englishDuty to english
Duty to english
 
Il Parlamento Europeo
Il Parlamento EuropeoIl Parlamento Europeo
Il Parlamento Europeo
 
Juwiter SMPN 1 Sukamulia Lombok Timur
Juwiter SMPN 1 Sukamulia Lombok TimurJuwiter SMPN 1 Sukamulia Lombok Timur
Juwiter SMPN 1 Sukamulia Lombok Timur
 
Komatsu Presentation
Komatsu PresentationKomatsu Presentation
Komatsu Presentation
 
Publicidad En TelevisióN
Publicidad En TelevisióNPublicidad En TelevisióN
Publicidad En TelevisióN
 

Similar to B slim

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim สำหรับทำ call
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim สำหรับทำ callแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim สำหรับทำ call
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim สำหรับทำ callWanida Keawprompakdee
 
B slim ครั้งที่ 3
B slim ครั้งที่ 3B slim ครั้งที่ 3
B slim ครั้งที่ 3Pianolittlegirl
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slimแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slimWanida Keawprompakdee
 
แผนB slim.pdf
แผนB slim.pdfแผนB slim.pdf
แผนB slim.pdfBelinda Bow
 
แผน Eng m.3
แผน Eng m.3แผน Eng m.3
แผน Eng m.3Milmilk
 
แผนที่ 12 summary and posttest
แผนที่ 12 summary and posttestแผนที่ 12 summary and posttest
แผนที่ 12 summary and posttestTeacher Sophonnawit
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1Krudoremon
 
แผนการเขียน
แผนการเขียนแผนการเขียน
แผนการเขียนUbonpan Sornsakul
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_านDaraAlice Edu
 
แผนที่ 7 local food (lab pla)
แผนที่ 7 local food (lab pla)แผนที่ 7 local food (lab pla)
แผนที่ 7 local food (lab pla)Teacher Sophonnawit
 

Similar to B slim (20)

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim สำหรับทำ call
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim สำหรับทำ callแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim สำหรับทำ call
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim สำหรับทำ call
 
B slim ครั้งที่ 3
B slim ครั้งที่ 3B slim ครั้งที่ 3
B slim ครั้งที่ 3
 
B slim
B slim  B slim
B slim
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slimแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ B slim
 
แผนB slim.pdf
แผนB slim.pdfแผนB slim.pdf
แผนB slim.pdf
 
Speaking plan
Speaking planSpeaking plan
Speaking plan
 
แผน Eng m.3
แผน Eng m.3แผน Eng m.3
แผน Eng m.3
 
แผน B slim
แผน B slimแผน B slim
แผน B slim
 
B slim
B slim B slim
B slim
 
Listening
ListeningListening
Listening
 
Listening Lesson Plan
Listening Lesson PlanListening Lesson Plan
Listening Lesson Plan
 
แผนที่ 12 summary and posttest
แผนที่ 12 summary and posttestแผนที่ 12 summary and posttest
แผนที่ 12 summary and posttest
 
B-SLIM Model
B-SLIM Model B-SLIM Model
B-SLIM Model
 
Writing 5
Writing 5Writing 5
Writing 5
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
Nutthayapopol16
Nutthayapopol16Nutthayapopol16
Nutthayapopol16
 
แผนการเขียน
แผนการเขียนแผนการเขียน
แผนการเขียน
 
new portfolio
new portfolionew portfolio
new portfolio
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
 
แผนที่ 7 local food (lab pla)
แผนที่ 7 local food (lab pla)แผนที่ 7 local food (lab pla)
แผนที่ 7 local food (lab pla)
 

More from Meow Gochkorn (14)

Clil pillar1 task1
Clil pillar1 task1Clil pillar1 task1
Clil pillar1 task1
 
Clil pillar3 task3
Clil pillar3 task3Clil pillar3 task3
Clil pillar3 task3
 
Clil pillar1 task1
Clil pillar1 task1Clil pillar1 task1
Clil pillar1 task1
 
Cbi writing
Cbi writingCbi writing
Cbi writing
 
Cbi speaking
Cbi speakingCbi speaking
Cbi speaking
 
Cbi reading
Cbi readingCbi reading
Cbi reading
 
Cbi listening
Cbi listeningCbi listening
Cbi listening
 
B slim
B slimB slim
B slim
 
Writing Plan
Writing PlanWriting Plan
Writing Plan
 
Reading plan
Reading planReading plan
Reading plan
 
Listennig plan
Listennig planListennig plan
Listennig plan
 
CLIL
CLILCLIL
CLIL
 
CBI
CBICBI
CBI
 
CALL
CALLCALL
CALL
 

B slim

  • 1. แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามรูปแบบ B-Slim Model กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ/วิชาภาษาอังกฤษ ประถมศึกษาปีที่ 4 Unit: Food and Drink Topic: Likes / Dislikes สอนวันที่.............เดือน......................................พ.ศ.2557 ส่งครั้งที่ 1 วันที่ 3 กันยายน 2557 ส่งครั้งที่ 2 วันที่ 6 กันยายน 2557 ส่งครั้งที่ 3 วันที่ 8 กันยายน 2557 ส่งครั้งที่ 4 วันที่ 9 กันยายน 2557 ส่งครั้งที่ 5 วันที่ 10 กันยายน 2557 กลุ่มเรียนที่ 1 วันจันทร์ 09.00-11.40 น. ศษ. 106 1. นางสาวกชกร ดงเทียมสี 55010513005 2. นายรุ่งเพชร เพชรชรินพันธ์ 55010513031 3. นายพีรพงษ์ ศรีสุรักษ์ 55010513054 นิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาอังกฤษ รหัสวิชาเอก EN ระบบปกติ Mentors ชื่อ – สกุล ลายมือชื่อ 1. นางสาวนันทนัช วิเชียรเพริศ 54010513024 2. นายอัครเดช ถนอมชาติ 54010513067 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามรูปแบบ B-Slim Model กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ/วิชาภาษาอังกฤษ ประถมศึกษาปีที่ 4 Unit: Food and Drink Topic: Likes / Dislikes สอนวันที่.............เดือน......................................พ.ศ.2557
  • 2. 1. จุดประสงค์ 1. จับคู่รูปภาพให้ตรงตามคาศัพท์ได้ (Getting 1) 2. จัดเรียงรูปภาพเพื่อสื่อความหมายให้ตรงตามประโยคที่ฟังได้ (Getting 2) 3. ถามและพูดโต้ตอบเกี่ยวกับอาหารที่ชอบและไม่ชอบได้อย่างถูกต้อง (Getting 3) 4. สัมภาษณ์และรายงานผลการสัมภาษณ์โดยใช้คาศัพท์และโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่เรียนมาได้ (Using 1) 5. พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่ชอบหรือไม่ชอบพร้อมให้เหตุผลประกอบ โดยใช้คาศัพท์และ โครงสร้างทางไวยากรณ์ที่เรียนมาได้ (Using 2) 6. แสดงบทบาทสมมุติ (role play) ตามสถานการณ์ที่กาหนดให้ได้ (Using 3) 2. ตัวชี้วัด ต 1.1.1.3/ป.4 เลือก/ระบุภาพหรือสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและ ข้อความ สั้นๆที่ฟังหรืออ่าน (Getting 1,2) ต 1.1.2.1/ป.4 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล (Getting 3) ต 1.1.3.1/ป.4 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว (Using 1,2) ต 1.1.3.3/ป.4 พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆเกี่ยวกับเรื่องต่างๆใกล้ตัว (Using 1,2) ต 2.2.1.1/ป.4 พูดและทาท่าประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (Using 3) ต 4.4.1.1/ป.4 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา (Using 3) 3. เนื้อหา Vocabulary: dislike, French fries, hamburger, hotdog, like, pizza, salad, soup, spaghetti Structure: How to use like(s)/dislike(s) Informative: S. + like(s) + Object. Negative: S. + dislike(s) + Object./ S + do not/does not like + Object. Affirmative: Do you like .............? Yes, (he/she) likes......... . Does (he/she) like.............? No, (he/she) dislikes.......... .
  • 3. Example: - I like pizza and spaghetti. - She likes salad. - I dislike hamburger or hotdog. - She dislikes pizza. - Do you like soup? - Does she like salad? 4. สื่อการเรียนรู้ 4.1) Video เกี่ยวกับอาหาร 4.2) Power point คาศัพท์และโครงสร้างไวยากรณ์ 4.3) Text 3 4.4) ใบงาน Match the meanings 4.5) บัตรภาพพร้อมและบัตรคาพร้อมความหมาย 4.6) กระดาษ A4 4.7) บัตรภาพ 4.8) ใบงาน Interview 4.9) สลากคาศัพท์และลูกเต๋า 5. กิจกรรมการเรียนรู้ Teacher Student ขั้นทาความเข้าใจตัวป้อน (Comprehensible Input) 1. ครูกล่าวทักทาย 2. ครูเปิด video เกี่ยวกับอาหารเพื่อนาเข้าสู่บทเรียน 3. ครูถามคาถามเพื่อทดสอบความเข้าใจ 3 คาถาม เช่น - How many kinds of food in the video? - What food is in the video? 4. ครูแจก Text 1 จากนั้นครูอธิบายคาศัพท์เกี่ยวกับ Favorite food ใน power point และให้นักเรียนอ่าน ออกเสียงตาม 5. ครูแจก Text 2 จากนั้นครูอธิบายเรื่องการใช้ Like/dislike เช่น I like hamburger. I dislike hotdog. 1. นักเรียนกล่าวทักทาย 2. นักเรียนดู video นาเข้าสู่บทเรียน 3. นักเรียนตอบคาถาม เช่น - There is one kind of food in the video. - I like hamburger. 4. นักเรียนเรียนรู้คาศัพท์จาก power point และ ออกเสียงตาม 5. นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการใช้ like/dislike และทาความเข้าใจ
  • 4. 6. ครูฝึกให้นักเรียนแต่งประโยคจากโครงสร้างที่สอน เพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจนักเรียน 7. ครูแจก Text 3 เรื่อง Favorite foodให้นักเรียน จากนั้นครูเปิด audio sound เรื่อง Favorite Food ให้ นักเรียนฟัง 2 รอบ 8. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม audio sound ทีละ ประโยค 9. ครูถามคาถามเกี่ยวกับเรื่อง Favorite Food เพื่อ ทดสอบความเข้าใจของนักเรียน 3 คาถาม เช่น - How many kinds of food are in the conversation? - What kind of food does Jacob like? - In the story, what do they eat? ขั้นกิจกรรมเพื่อความเข้าใจและฝึก (Intake- Getting It) Getting 1 Activity 1: Matching the meanings 1. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - ครูแจกบัตรภาพและบัตรคาพร้อมความหมายให้ นักเรียนคนละ 1 ใบ - ครูให้นักเรียนจับคู่บัตรภาพและบัตรคาพร้อม ความหมายกับเพื่อนให้ถูกต้อง - ครูให้นักเรียนแต่ละคู่จับกลุ่มกันโดยในแต่ละกลุ่มต้องไม่ มีคู่คาศัพท์ที่เหมือนกัน - ครูแจกใบงาน Matching the meanings ให้นักเรียน ทุกคน - ครูให้นักเรียนทาใบงาน โดยสามารถช่วยเหลือกัน ภายในกลุ่มได้ 2. ครูให้เวลาในการดาเนินกิจกรรม 10 นาที 3. ครูเฉลยคาตอบบน Power point 4. ครูตรวจและให้คะแนน Getting 2 Activity 2: Unscramble picture sentences 1. ครูให้นักเรียนจับคู่ 6. นักเรียนฝึกแต่งประโยค like/dislike 7. นักเรียนรับ Text 3 และฟังเรื่อง Favorite food 2 รอบ 8. นักเรียนอ่านออกเสียงตาม audio sound ทีละ ประโยค 9. นักเรียนตอบคาถามเกี่ยวกับ Text 3 - There are four kinds of food. - He likes pizza and spaghetti. - They eat pizza. 1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - นักเรียนรับบัตรภาพและบัตรคาพร้อมความหมาย 1 ใบ - นักเรียนจับคู่บัตรภาพและบัตรคาพร้อมความหมาย กับเพื่อน - นักเรียนแต่ละคู่จับกลุ่มกันโดยแต่ละกลุ่มต้องไม่มีคู่ คาศัพท์ที่เหมือนกัน - นักเรียนรับใบงาน Matching the meanings - นักเรียนทาใบงาน 2. นักเรียนดาเนินกิจกรรม 3. นักเรียนดูคาตอบบน Power point 1. นักเรียนจับคู่
  • 5. 2. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - ครูแสดงประโยคบน Power point - ครูเปิด audio sound ให้นักเรียนฟัง - ครูแจกบัตรภาพและกระดาษ A4 สาหรับเรียงบัตรภาพ ให้นักเรียนทุกคู่ - ครูให้นักเรียนเรียงบัตรภาพลงบนกระดาษ A4 เพื่อให้ สื่อความหมายตรงตามประโยคที่ได้ฟัง - ครูให้เวลาทากิจกรรม 15 นาที 3. ครูให้นักเรียนทากิจกรรม 4. ครูเฉลยคาตอบบน Power point 5. ครูตรวจและให้คะแนน Getting 3 Activity 3: Chain-drill 1. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม 2. ครูแสดงโครงสร้างประโยคบน Power point 3. ครูถามนักเรียนคนแรกว่า Do you like pizza? 4. ครูสุ่มเลือกบัตรภาพเพื่อให้นักเรียนใช้เป็นคาศัพท์ใน คาถาม 5. ครูให้นักเรียนที่ถูกถามคนแรกถามเพื่อนร่วมชั้นคน อื่นๆ โดยใช้โครงสร้างคาถามเดียวกับครูและคาศัพท์จาก บัตรภาพ 6. ครูสังเกตและประเมินทักษะการพูด ขั้นกิจกรรมเพื่อความเข้าใจและฝึก (Intake – Using It) Using 1 Activity 4: Interview 1. ครูอธิบายวิธีการทากิจกรรมให้นักเรียนฟัง - ครูแจกใบงาน Interview ให้นักเรียน - ครูให้นักเรียนสัมภาษณ์เพื่อน 3 คน ในหัวข้อที่กาหนด ในใบงานและบันทึกผลการสัมภาษณ์ลงในใบงานที่มอบ ให้ - ครูให้นักเรียนเขียนอธิบายข้อมูลสั้นๆของเพื่อนที่ได้ สัมภาษณ์ลงในใบงาน Interview 2. ครูให้นักเรียนดาเนินกิจกรรม 3. ครูให้นักเรียนออกมานาเสนอข้อมูลของเพื่อนที่เขียน หน้าชั้นเรียน 4. ครูสังเกตและประเมินผล 2. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - นักเรียนดูประโยคบน Power point - นักเรียนฟัง audio sound - นักเรียนรับกระดาษ A4 และบัตรภาพ - นักเรียนเรียงบัตรภาพเพื่อให้สื่อความหมายตรงตาม ประโยคที่ได้ฟัง 3. นักเรียนทากิจกรรม 4. นักเรียนดูคาตอบบน Power point 1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม 2. นักเรียนดูโครงสร้างประโยคบน Power point 3. นักเรียนตอบคาถามโดยใช้โครงสร้าง Yes, I like.... หรือ No, I dislike..... 4. นักเรียนดูบัตรภาพ 5. นักเรียนถามเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ โดยใช้โครงสร้าง คาถามเดียวกับครูและคาศัพท์จากบัตรภาพ 1. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - นักเรียนรับใบงาน Interview - นักเรียนสัมภาษณ์เพื่อน 3 คนและบันทึกผลการ สัมภาษณ์ - นักเรียนเขียนอธิบายข้อมูลสั้นๆของเพื่อนที่ได้ สัมภาษณ์ 2. นักเรียนดาเนินกิจกรรม 3. นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน
  • 6. Using 2 Activity 5: Questioning ladder game 1. ครูให้นักเรียนทุกคนเข้าแถวต่อกันตามรูปบันไดงูบน power point โดยกาหนดให้ทุกคนเปรียบเสมือนช่อง เดินบนเกมบันไดงู 2. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - ครูให้นักเรียนคนแรกของแถวถือกล่องสลากคาศัพท์ - ครูให้นักเรียนคนที่ถือกล่องสลากคาศัพท์หยิบสลากมา 1 ใบ - ครูให้นักเรียนที่ถือกล่องอ่านคาศัพท์ จากนั้นใช้คาศัพท์ นั้นแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้าง “I like….because....” “I dislike….because....” - ครูเปิดเงื่อนไขบันไดงูบน Power point แล้วให้นักเรียน ที่ถือกล่องปฏิบัติตามเงื่อนไข - ครูให้นักเรียนที่ถือกล่องทอดลูกเต๋า - ครูให้นักเรียนส่งกล่องให้เพื่อนคนถัดไปในแถวตามแต้ม ลูกเต๋า - ครูให้นักเรียนทอดลูกเต๋าต่อ จนกว่ากล่องสลากคาศัพท์ จะถึงคนสุดท้ายของแถว - ครูให้เวลานักเรียนในการทากิจกรรม 25 นาที 3. ครูให้นักเรียนดาเนินกิจกรรม 4. ครูสังเกตและประเมินผล Using 3 Activity 6: Role play 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน 2. ครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรมดังนี้ - ครูให้นักเรียนแสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ที่ กาหนดให้ - ครูแสดงบทสนทนาบน Power point - ครูให้เวลานักเรียนเตรียมตัว 10 นาที 3. ครูให้นักเรียนดาเนินกิจกรรม 4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมติ ที ละกลุ่มจนครบ 5. ครูสังเกตและประเมินผล 1. นักเรียนต่อแถวกันเป็นบันไดงูเว้นระยะห่าง 1 ช่วง แขน j 2. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - นักเรียนคนแรกของแถวรับกล่องสลากคาศัพท์ - นักเรียนคนที่ถือกล่องสลากคาศัพท์ หยิบสลากมา 1 ใบ - นักเรียนที่ถือกล่องอ่านคาศัพท์ พร้อมทั้งใช้คาศัพท์ นั้นแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้าง“I like…because...” “I dislike….because....” - นักเรียนที่ถือกล่องปฏิบัติตามเงื่อนไขบน Power point - นักเรียนที่ถือกล่องทอดลูกเต๋า - นักเรียนส่งกล่องให้เพื่อนคนถัดไปในแถวตามแต้ม ลูกเต๋า - นักเรียนทอยลูกเต๋าต่อ จนกว่ากล่องสลากคาศัพท์จะ ถึงคนสุดท้ายของแถว 3. นักเรียนดาเนินกิจกรรม 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน 2. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการทากิจกรรม - นักเรียนแสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ที่ครู กาหนด - นักเรียนดูบทสนทนาบน Power point - นักเรียนเตรียมตัว 3. นักเรียนดาเนินกิจกรรม 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมติ
  • 7. 6. การวัดผลและประเมินผล กิจกรรมที่จะประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือประเมิน 1. Getting 1 (คาศัพท์) Getting 2 (คาศัพท์และโครงสร้าง) Getting 3 (ทักษะการพูด) 2. Using 1 (ทักษะการเขียนและการพูด) Using 2 (ทักษะการพูด) Using 3 (ทักษะการพูด) ตรวจให้คะแนน ตรวจให้คะแนน ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน ตรวจให้คะแนนตามแบบประเมิน - - แบบประเมินทักษะการพูดนาเสนอ แบบประเมินทักษะการพูดนาเสนอ แบบประเมินทักษะการพูดนาเสนอ แบบประเมินทักษะการพูดนาเสนอ 7. กิจกรรมเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………..………………………..……………… ………………………………………………………………………………………………………………..………………………..………………
  • 8. Text1 Vocabulary like (v.); enjoy someone or something dislike (v.); not like someone or something hamburger (n.); a piece of beef between two circle bread hot dogs (n.); a sausage in a long bread pizza (n.); a circle of bread with vegetables and meat spaghetti (n.); pasta made in long line
  • 9. French fries (n.); sticks of fried potato soup (n.); meat and vegetables boiled together salad (n.); many kinds of vegetable mixed together Text 2 Structure Structure: Informative: S. + like(s) + Object. Negative: S. + dislike(s) + Object./ S + do not/does not like + Object. Affirmative: Do you like .............? Yes, (he/she) likes......... . Does (he/she) like.............? No, (he/she) dislikes.......... .
  • 10. Informative: S. + like(s) + Object. This structure is used to tell when you are happy with someone or something. We always add ''s" after the main verb of a sentence (like) when the subject is the third singular person (he/she/it). Example: - I like pizza and spaghetti. - You like hamburger. - They like pizza. - He likes hot dog. - She likes hamburger. Negative: S. + dislike(s) + Object./ S + do not/does not like + Object. This structure is used to tell when you aren't happy or enjoy someone or something. Don't forget to add "s" when the subject is the third singular person. Examples: - I dislike/do not like pizza and spaghetti. - You dislike/do not like hamburger. - They dislike/do not like French Fries. He dislikes/does not like pizza. She dislikes/does not like hamburger. Affirmative: Do you like .............? Does he/she like.............? Yes, I like............ No, I dislike............... No, I do not like........ Yes, (he/she) likes......... . No, (he/she) dislikes.......... . No, (he/she) does not like.......... we don't add "s" after the main verb in a question. Example:
  • 11. Conversation Favorite Food Mr. Taylor: OK, kids, what do you want? They have hamburgers, hot dogs, pizza, and spaghetti. Jacob: I don't like hamburgers or hot dogs. I like pizza and spaghetti. I want spaghetti.
  • 12. Mr. Taylor: How about you, Ashley? Do you want spaghetti? Ashley: No, I don't like spaghetti. I like pizza. I also like hot dogs, and hamburgers. Mr. Taylor: Let's have pizza then. Jacob: All right. Getting 1 Activity 1: Matching the meaning Direction: Match the word and definition with picture. French fries 1 2 pizza
  • 14. Getting 2 Activity2: Unscramble picture sentences Direction: Listen to the audio. Then, order the picture to make a sentence. 1. Jacob 2. Ashley like 8
  • 15. Getting 3 Activity 3: Chain-drill Direction: Make a chain-drill. Teacher: Do you like pizza? Student 1: I like/do not like pizza. Do you like ..........................? Student 2: I like/do not like ...................? Student 2: Do you like ....................? Student 3: I like/do not like ...................? Student 3: Do you like ....................? Student 4: I like/do not like ....................? Student 4: Do you like ....................?
  • 16. แบบประเมินทักษะการพูด (Getting 3, Using 1,2,3) กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล ประเด็น/คะแนน การออกเสียง (3) ความถูกต้องของ เนื้อหา (3) ท่าทาง ประกอบการ สนทนา (2) ความ คล่องแคล่ว (2) รวม คะแนน (10) สรุปการประเมิน 3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน (ลงชื่อ).....................................................ผู้ประเมิน (........................................................) วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. .............. หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6-7 คะแนน หมายถึง ดี 4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้
  • 17. 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การให้คะแนนการพูด 1. การออกเสียง (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้ สื่อสารได้ชัดเจน 2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้ 1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้ 2. ความถูกต้องของเนื้อหา (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา 2 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน 1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา 3. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์ 1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ 4. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร 1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
  • 18. Using 1 Activity 4: Interview Direction: Interview three of your friends. Write the information of your friends in short paragraph and present in front of the class. Names Foods Example: Ashley ……..….......……… …………….......... ….........…………. Hamburger  Hot dog  Pizza  Spaghetti  French fries  Soup  Salad  Example Ashley likes hamburger, pizza, spaghetti and soup. But she dislikes hot dog, French fries and salad. …………………………………………………………………………………………...................................... …………………………………………………………………………………………...................................... …………………………………………………………………………………………...................................... …………………………………………………………………………………………...................................... …………………………………………………………………………………………...................................... …………………………………………………………………………………………...................................... …………………………………………………………………………………………...................................... แบบประเมินทักษะการพูด (Getting 3, Using 1,2,3) กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล ประเด็น/คะแนน การออกเสียง (3) ความถูกต้องของ เนื้อหา ท่าทาง ประกอบการ ความ คล่องแคล่ว รวม คะแนน สรุปการประเมิน
  • 19. (3) สนทนา (2) (2) (10) 3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน (ลงชื่อ).....................................................ผู้ประเมิน (........................................................) วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. .............. หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6-7 คะแนน หมายถึง ดี 4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การให้คะแนนการพูด 1. การออกเสียง (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้ สื่อสารได้ชัดเจน 2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้ 1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้ 2. ความถูกต้องของเนื้อหา (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา 2 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน 1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา
  • 20. 3. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์ 1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ 4. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร 1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ( การอภิปราย ) (Using 1) กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล ประเด็น/คะแนน การออกเสียง (3) ความถูกต้อง ตามหัวข้อที่ได้รับ มอบหมาย (3) ความ คล่องแคล่ว (2) ท่าทาง ประกอบการ สนทนา (2) คะแนนรวม (10) 3 2 1 3 2 1 2 1 2 1
  • 21. (ลงชื่อ)........................................................ผู้ประเมิน (............................................................) วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ................. หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6-7 คะแนน หมายถึง ดี 4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การให้คะแนนการอภิปราย 1. การออกเสียง (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้ สื่อสารได้ชัดเจน 2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้ 1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้ 2. ความถูกต้องตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงพูดได้ตรงตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย 2 คะแนน หมายถึงพูดเบี่ยงเบนเล็กน้อยจากหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย 1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ตรงตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย 3. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร 1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง 4. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์ 1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
  • 22. Using 2 Activity 5: Questioning ladder game Direction: 1) Get in a line in a shape of Snakes Ladders. 2) First person in line holds a box containing vocabulary lots. 3) The person holding the box draws a lot from the box. 4) Read the word out loud and make a sentence using the following structure: I like …. because ….. / I dislike …… because …….. Example: I like hamburger because I like meat, 5) Act or follow the condition in your square. 6) Throw a dice and pass the box to the person at the number they rolled. 7) Repeat until the box reaches the last person of the line.
  • 23. Finish 1 Eat a hamburger 2 Move forward 4 steps 32 Tell 5 kinds of food you dislike 3 Eat a pizza 29 Move back 3 steps 4 Move back 2 steps 5 Eat hot dogs and you like it 12 Move forward 4 steps 13 Move back to #9 14 Tell 2 kinds of food you dislike 15 Move forward 1 step 16 Tell 3 kinds of food you like 17 Move back 4 steps 18 Move forward 5 steps 19 Eat soup and you dislike it 20 Tell 2 kinds of food you dislike 21 Move back 4 steps 28 Eat french fries and you like it 30 Eat salad and you like it 31 Start again
  • 24. Conditions 1. Act like you enjoy eating hamburger 2. Move forward 4 steps 3. Act like you are enjoy eating spaghetti 4. Move back 2 steps 5. Act like you do not enjoy eating hamburger 6. Move back 1 step 7. Move back 2 steps 8. Move forward 1 step 9. Tell 3 kinds of food you like 10. Move forward 4 steps 11. Act like you enjoy eating soup 12. Move forward 4 steps 13. Move back to number 9 14. Act like you do not enjoy eating soup 15. Move forward 1 step 16. Act like you enjoy eating french fries 17. Move back 3 steps 18. Move forward 5 steps 19. Act like you enjoy eating pizza 20. Act like you enjoy eating hot dogs 21. Move back 4 steps 22. Move forward 4 steps 23. Act like you do not enjoy eating salad 6 Move back 1 step 7 Move back 2 steps 8 Eat hot dogs 9 Tell 3 kinds of food you like 10 Eat a hamburger and dislike it 11 Tell 2 kinds of food you dislike 22 Move forward 4 steps 23 Eat salad and you like it 24 Eat french fries and you dislike it 25 Eat hamburger and you like it 26 Tell 3 kinds of food you like 27 Move back 1 step
  • 25. 24. Act like you do not enjoy eating pizza 25. Tell 3 kinds of food you dislike 26. Act like you do not enjoy eating spaghetti 27. Move back 1 step 28. Tell 3 kinds of food you like 29. Move back 3 steps 30. Act like you do not enjoy eating french fries 31. Start again! 32. Act like you enjoy eating hamburger
  • 26. แบบประเมินทักษะการพูด (Getting 3, Using 1,2,3) กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล ประเด็น/คะแนน การออกเสียง (3) ความถูกต้องของ เนื้อหา (3) ท่าทาง ประกอบการ สนทนา (2) ความ คล่องแคล่ว (2) รวม คะแนน (10) สรุปการประเมิน 3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน (ลงชื่อ).....................................................ผู้ประเมิน (........................................................) วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. .............. หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6-7 คะแนน หมายถึง ดี 4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การให้คะแนนการพูด 1. การออกเสียง (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้ สื่อสารได้ชัดเจน 2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้ 1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
  • 27. 2. ความถูกต้องของเนื้อหา (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา 2 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน 1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา 3. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์ 1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ 4. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร 1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ Using 3 Activity 6: Role play Direction: Work in group and do role play by using the situation below. Situation There are three people, Mr. Taylor, Jacob and Ashley. They are going to eat at a restaurant. But they cannot decide what to eat. Mr. Taylor asks Jacob and Ashley what food do they like or dislike.
  • 28. Favorite Food Mr. Taylor: OK, kids, what do you want? They have hamburgers, hot dogs, pizza, and spaghetti. Jacob: I don't like hamburgers or hot dogs. I like pizza and spaghetti. I want spaghetti. Mr. Taylor: How about you, Ashley? Do you want spaghetti? Ashley: No, I don't like spaghetti. I like pizza. I also like hot dogs, and hamburgers. Mr. Taylor: Let's have pizza then. Jacob: All right.
  • 29. แบบประเมินทักษะการพูด (Getting 3, Using 1,2,3) กลุ่มที่ ชื่อ-สกุล ประเด็น/คะแนน การออกเสียง (3) ความถูกต้องของ เนื้อหา (3) ท่าทาง ประกอบการ สนทนา (2) ความ คล่องแคล่ว (2) รวม คะแนน (10) สรุปการประเมิน 3 2 1 3 2 1 2 1 2 1 ผ่าน ไม่ผ่าน (ลงชื่อ).....................................................ผู้ประเมิน (........................................................) วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. .............. หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6-7 คะแนน หมายถึง ดี 4-5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การให้คะแนนการพูด 1. การออกเสียง (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ทาให้ สื่อสารได้ชัดเจน 2 คะแนน หมายถึงออกเสียงศัพท์/ประโยคด้วยเสียงหนักแน่นผิดบางคา แต่ยังพอสื่อสารได้ 1 คะแนน หมายถึงเสียงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งจนสื่อสารไม่ได้
  • 30. 2. ความถูกต้องของเนื้อหา (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเนื้อหา 2 คะแนน หมายถึงพูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนื้อหาบางส่วน 1 คะแนน หมายถึงพูดไม่ถูกต้อง ไม่ตรงประเด็นตามเนื้อหา 3. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงแสดงท่าทางประกอบได้เหมาะสมกับคาพูดและอารมณ์ 1 คะแนน หมายถึงพูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ 4. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึงพูดต่อเนื่องไม่ติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสาร 1 คะแนน หมายถึงพูดเป็นคาๆ หยุดเป็นระยะๆ พูดติดขัด ทาให้เกิดการสื่อสารไม่ต่อเนื่อง เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน 6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์