SlideShare a Scribd company logo
1
เมทริกซ
•นิยาม
•มิติของเมทริกซ
การเทากันของเมทริกซTransposeMatrixการบวกลบเมทริกซ
เมทริกซศูนย
การคูณเมทริกซ
ดวยสเกลาร
การคูณเมทริกซ
ดวยเมทริกซ
เมทริกซเอกลักษณ(I)
Determinant
Minor
Co-factor
ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ
•มิติ2x2
•มิติ3x3
การสมการเชิงเสนโดยใชเมทริกซ
กฎของคราเมอร
adjointmatrix
การดําเนินการเชิงแถว
โจทยปญหา
2
เมทริกซ
1.เมทริกซ
กลุมของจํานวนซึ่งถูกเขียนเรียงเปนแถวและเปนหลักหรือคอลัมน
ภายในเครื่องหมาย [ ] หรือ ( )
ตัวอยาง เชน
1 2 3
4 5 6
A
⎡ ⎤
= ⎢ ⎥
⎣ ⎦
11a คือสมาชิกแถวที่ 1 และหลักที่ 1 ………….ซึ่งก็คือ 1
12a คือสมาชิกแถวที่ 1 และหลักที่ 2 ………….ซึ่งก็คือ 2
13a คือสมาชิกแถวที่ 1 และหลักที่ 3 ………….ซึ่งก็คือ 3
21a คือสมาชิกแถวที่ 2 และหลักที่ 1 ………….ซึ่งก็คือ 4
22a คือสมาชิกแถวที่ 2 และหลักที่ 2 ………….ซึ่งก็คือ 5
23a คือสมาชิกแถวที่ 2 และหลักที่ 3 ………….ซึ่งก็คือ 6
A เปนเมตริกซที่มีแถว 2 แถว และหลัก 3 หลัก
แถวที่ 1หลักที่ 2
3
2.การเทากันของเมทริกซ
เมทริกซ A เทากับ เมทริกซ B ก็ตอเมื่อ
ตัวอยาง เชน
1.
1 2 3 4
,
3 4 1 2
A B
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
= =⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
เมทริกซ A ≠ เมทริกซ B เพราะวา
1) ถึงแม เมทริกซ A มีมิติ 2x2 และ เมทริกซ B มีมิติ 2x2 เทากัน
2) แต สมาชิกของเมทริกซ A ไมเหมือนกับสมาชิกของเมทริกซ B ทุกตัว คือ
ให mna เปนสมาชิกของเมทริกซ A และ mnb เปนสมาชิกของเมทริกซ B เมื่อ
, {1,2}m n∈ แลว
11 11
12 12
21 21
22 22
a b
a b
a b
a b
≠
≠
≠
≠
1 3
2 4
3 1
4 2
≠
≠
≠
≠
เมตริกซ A มี มิติ ของเมทริกซ คือ (จํานวนแถว)x(จํานวนหลัก) ซึ่งก็คือ 2x3
มีมิติเทากัน
มีสมาชิกเหมือนกันทุกตัว
4
2. กําหนดให
1 2 2
,
4 6 4
x
A B
y
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
= =⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
และ A=B จงหาคา x
และ y
วิธีทํา A=B หมายความวา
1 2 2
4 6 4
x
y
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
1x∴ = และ 6y =
3. ถา
3 2 3 2
2 1 2
4 0 4 0
x y x y
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟= −⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
จงหาคา x และ y
วิธีทํา
3 2 3 2
2 1 2
4 0 4 0
x y x y
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟= −⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
แสดงวา……………
( )
( )
2 1.......... 1
2 ............... 2
x x
y y
= −
=
จากสมการ……...…..(1)…………x=1
และจากสมการ……….(2)…………y=0
เทากัน
เทากัน
เทากัน
เทากัน
5
4.
2 7 2 7
5 0 5 0
x y
y x
2⎡ ⎤ ⎡ ⎤
=⎢ ⎥ ⎢ ⎥−1⎣ ⎦ ⎣ ⎦
จงหาคา x และ y
วิธีทํา
2 7 2 7
5 0 5 0
x y
y x
2⎡ ⎤ ⎡ ⎤
=⎢ ⎥ ⎢ ⎥−1⎣ ⎦ ⎣ ⎦
แสดงวา……………
( )
( )
2 ............... 1
1........... 2
x y
y x
=
= −
นําสมการ (1)-(2)………………….
( 1) 2
1
1
x x y y
x x y
y
− − = −
− + =
∴ =
แทนคา y=1 ลงในสมการ (1) ………...
2
2(1)
2
x y
x
x
=
=
∴ =
3.เมทริกซสลับเปลี่ยน (Transpose Matrix)
เมทริกซที่มีการสลับเปลี่ยน สมาชิกจากแถวเปนหลัก และจากหลักเปนแถว
เราแทนเมทริกซที่สลับเปลี่ยนแลวดวย
t
A วาเปนเมทริกซสลับเปลี่ยนของเมทริกซ A
ตัวอยาง เชน
เทากัน
เทากัน
6
1. เมตริกซ
1 2
3 4
5 6
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา
t
A
วิธีทํา
A …..
1 2
3 4
5 6
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 3 5
2 4 6
⎡ ⎤
⎢ ⎥
⎣ ⎦
…….
t
A
เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 1 คือ 1 , 2
∴เมทริกซ
t
A มีสมาชิกในหลักที่ 1 คือ 1 , 2
เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 2 คือ 3 , 4
∴เมทริกซ
t
A มีสมาชิกในหลักที่ 2 คือ 3 , 4
เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 3 คือ 5 , 6
∴เมทริกซ
t
A มีสมาชิกในหลักที่ 3 คือ 5 , 6
ขอสังเกต - มิติของเมทริกซ A คือ 3x2
มิติของเมทริกซ
t
A คือ 2x3
2. เมตริกซ
1 0 2
1 2 1
2 0 1
A
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา
t
A
วิธีทํา
7
1 0 2
...... 1 2 1
2 0 1
A
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
−⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 1 2
0 2 0 ......
2 1 1
t
A
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 1 คือ -1 , 0 , 2
∴เมทริกซ
t
A มีสมาชิกในหลักที่ 1 คือ -1 , 0 , 2
เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 2 คือ 1 , 2 , -1
∴เมทริกซ
t
A มีสมาชิกในหลักที่ 2 คือ 1 , 2 , -1
เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 3 คือ 2 , 0 , 1
∴เมทริกซ
t
A มีสมาชิกในหลักที่ 3 คือ 2 , 0 , 1
3. เมตริกซ
3 4 1 2
5 6 7 4
3 2 1 5
A
⎡ ⎤
⎢ ⎥= ⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
จงหา
t
A
วิธีทํา
3 4 1 2
........ 5 6 7 4
3 2 1 5
A
⎡ ⎤
⎢ ⎥
⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
3
6
.........
1
2 4 5
t
A
5 3⎡ ⎤
⎢ ⎥4 2⎢ ⎥
⎢ ⎥1 7
⎢ ⎥
⎣ ⎦
8
เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 1 คือ 3 , 4 , 1 , 2
∴เมทริกซ
t
A มีสมาชิกในหลักที่ 1 คือ 3 , 4 , 1 , 2
เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 2 คือ 5 , 6 , 7 , 4
∴เมทริกซ
t
A มีสมาชิกในหลักที่ 2 คือ 5 , 6 , 7 , 4
เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 3 คือ 3 , 2 , 1 , 5
∴เมทริกซ
t
A มีสมาชิกในหลักที่ 3 คือ 3 , 2 , 1 , 5
4.เมทริกซศูนย
เมทริกซที่มีสมาชิกทุกตัวเปนศูนย
ตัวอยาง เชน
- เมทริกซศูนยที่มี มิติ 1x1 คือ [ ]0
- เมทริกซศูนยที่มี มิติ 1x2 คือ [ ]0 0
- เมทริกซศูนยที่มี มิติ 2x2 คือ
0 0
0 0
⎡ ⎤
⎢ ⎥
⎣ ⎦
- เมทริกซศูนยที่มี มิติ 3x2 คือ
0 0
0 0
0 0
⎡ ⎤
⎢ ⎥
⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
……………..เปนตน
5.การบวกลบเมทริกซ
เมทริกซที่สามารถนํามาบวกลบกันไดตองเปนเมทริกซที่มี มิติ เหมือนกัน
เมทริกซบวกกัน คือ เมทริกซ A + เมทริกซ B เขียนแทนดวย เมทริกซ A+B คือ
เมทริกซที่นําสมาชิกของเมทริกซ A และเมทริกซ B ในแถวและหลักเดียวกัน มาบวกกัน
9
เมทริกซลบกัน คือ เมทริกซ A - เมทริกซ B เขียนแทนดวย เมทริกซ A-B คือ
เมทริกซที่นําสมาชิกของเมทริกซ A และเมทริกซ B ในแถวและหลักเดียวกัน มาลบกันตามลําดับ
ตัวอยาง เชน
1. เมทริกซ
1 2
3 4
A
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
และเมทริกซ
5 6
7 8
B
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหาเมทริกซ A B+
วิธีทํา
1) เมทริกซ A มีมิติเดียวกับ เมทริกซ B คือ 2x2 สามารถหา A+B ได
2)
1 2 5 6
3 4 7 8
A B
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
+ = +⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
1 5 2 6
3 7 4 8
6 8
10 12
A B
A B
+ +⎛ ⎞
+ = ⎜ ⎟
+ +⎝ ⎠
⎛ ⎞
∴ + = ⎜ ⎟
⎝ ⎠
2. ถา
2
1 2 2 82
5 9 34 2
yx y
xx
⎛ ⎞+ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞
+ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
−⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠
แลวจงหาคา x+y
วิธีทํา
2
2
2
1 2 2 82
5 9 34 2
2 81 (2 ) 2
9 34 5 2
2 81 2 3
9 39 3
yx y
xx
x y y
x x
x y
x
⎛ ⎞+ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞
+ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
−⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠
⎛ ⎞+ + + ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
−+ + ⎝ ⎠⎝ ⎠
⎛ ⎞+ + ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
−⎝ ⎠⎝ ⎠
10
2
1 2...............(1)
2 3 8..............(2)
3 3.................(3)
x
y
x
+ =
+ =
= −
จากสมการ (1) และ (3)…… สามารถหาคา x=-1 ไดดังนี้
2
2
1 2
1
1, 1
x
x
x
+ =
=
= −
3 3
3
3
1
x
x
x
= −
−
=
= −
จากสมการ (2) ………..2 3 8y+ =
3 6
6
3
2
y
y
y
=
=
∴ =
( 1) 2 1x y∴ + = − + =
3. ให [ ]1 1 2A = − และ
2
4
1
B
⎡ ⎤
⎢ ⎥= ⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
จงหา ,t t
A B A B+ −
วิธีทํา
t
A B+
[ ]1 1 2A = −
1 2
1 4
2 1
⎡ ⎤ ⎡ ⎤
⎢ ⎥ ⎢ ⎥− +⎢ ⎥ ⎢ ⎥
⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ ⎣ ⎦
คาที่เลือก
11
1 2
1 4
2 1
+⎡ ⎤
⎢ ⎥− +⎢ ⎥
⎢ ⎥+⎣ ⎦
t
A B+
3
3
3
⎡ ⎤
⎢ ⎥
⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
t
A B−
1 2
1 4
2 1
⎡ ⎤ ⎡ ⎤
⎢ ⎥ ⎢ ⎥− −⎢ ⎥ ⎢ ⎥
⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ ⎣ ⎦
1 2
1 4
2 1
−⎡ ⎤
⎢ ⎥− −⎢ ⎥
⎢ ⎥−⎣ ⎦
1
5
1
−⎡ ⎤
⎢ ⎥−⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
t
A B−
สมบัติการบวกของเมทริกซ
ถา S เปนเซตของเมทริกซมิติใดๆ และ , ,A B C S∈
1) A B S+ ∈
2) A B B A+ = +
3) ( ) ( )A B C A B C+ + = + +
4) 0 0A A A+ = + = เมื่อ 0 เปนเมทริกซศูนยที่มีมิติเทากับ A
5) ( ) ( ) 0A A A A+ − = − + =
6) ( )t t t
A B A B+ = +
12
จากขอ 4) และ 5)……..เราเรียก 0 วาเปน เมทริกซเอกลักษณการบวก
(-A) วาเปน เมทริกซผกผันการบวกของ A
แบบฝกหัด
1. กําหนดเมทริกซตอไปนี้
1 4 5
2 1
, 7 2 6
0 1 12
8 9 3
A B
⎛ ⎞
− 5⎡ ⎤ ⎜ ⎟
= =⎢ ⎥ ⎜ ⎟
⎣ ⎦ ⎜ ⎟
⎝ ⎠
1.1) จงหามิติของเมทริกซ A และ เมทริกซ B
1.2) จงหา
2
23 32 12( )a b a+ −
1.3) จงหา 22 334 3a b+
13
2. จงเขียนเมทริกซ 4 4[ ]ij xC c= ซึ่ง ijc =
3. จงหาคาของตัวแปร x และ y ที่ทําใหสมการเมทริกซตอไปนี้เปนจริง
3.1)
3 2 3 2
2 1
4 4
x y x y
⎡ ⎤ ⎡ ⎤
⎢ ⎥ ⎢ ⎥= − 2⎢ ⎥ ⎢ ⎥
⎢ ⎥ ⎢ ⎥0 0⎣ ⎦ ⎣ ⎦
3.2)
2 2 2
5 5 1
x y
y x
7 7⎡ ⎤ ⎡ ⎤
=⎢ ⎥ ⎢ ⎥0 − 0⎣ ⎦ ⎣ ⎦
,i i j=
,i j i j+ ≠
14
3.3)
2
1 00
24 2
x
y yx
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠⎝ ⎠
4. จงพิจารณาวาเมทริกซที่กําหนดใหบวกกันไดหรือไม ถาไดจงหาผลบวก
4.1)
1 3 2 5
,
5 2 3 4
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
4.2)
2 3 0 0
,
5 4 0 0
−⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
4.3)
1 2 3 5 0
,
3 4 4 0
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
8⎝ ⎠ ⎝ ⎠
15
4.4) [ ]
2
3 , 1 4 5
7
⎡ ⎤
⎢ ⎥
⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
4.5)
2
0
3 ,
0
4
⎡ ⎤
⎡ ⎤⎢ ⎥
⎢ ⎥⎢ ⎥
⎣ ⎦⎢ ⎥⎣ ⎦
4.6)
7 5 3 1 2
,
3 1 2 7 5
0⎡ ⎤ ⎡ ⎤
⎢ ⎥ ⎢ ⎥0⎣ ⎦ ⎣ ⎦
5. กําหนด , ,A B C
0 − 2 3 1 − 2 7 5 0 2⎡ ⎤ ⎡ ⎤ ⎡ ⎤
= = =⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥1 4 −1 4 2 −8 3 −1 − 2⎣ ⎦ ⎣ ⎦ ⎣ ⎦
จงหา
5.1) A+B
16
5.2) C-B
5.3) จงหาเมทริกซ X ซึ่งทําให A+X=C
6. กําหนด
0 1 2
1 0 3
2 3 0
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= − −⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
จงหาคาของ t
A A+
17
7. ให
2 3 1 1 1 0
, ,
2 4 3 5 0 1
A B C
−⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞
= = =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
−⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
และ
a b
A B C
d c
⎛ ⎞
− + = ⎜ ⎟
⎝ ⎠
แลว จงหาคาของ 2a-b+c+d
6.การคูณเมทริกซดวยสเกลาร
ถา A เปนเมทริกซมิติใดๆ และ k เปนจํานวนจริงใดๆ kA คือ เมทริกซที่เกิดจาก
การนํา k คูณเขาไปในสมาชิกทุกตัวของเมทริกซ A
ij mxn
ij mxn
A a
kA ka
⎡ ⎤= ⎣ ⎦
⎡ ⎤= ⎣ ⎦
18
ตัวอยาง เชน
1. ถา
1
1 0 3
A
2 6⎡ ⎤
= ⎢ ⎥−⎣ ⎦
จงหา 5 2A A−
วิธีทํา
1) หาเมทริกซ 5A
1
1 0 3
A
2 6⎡ ⎤
= ⎢ ⎥−⎣ ⎦
1)
5
5( 1) 0) 3)
5
A
A
5( 5(2) 5(6)⎡ ⎤
= ⎢ ⎥− 5( 5(⎣ ⎦
5 10 30⎡ ⎤
= ⎢ ⎥−5 0 15⎣ ⎦
2) หาเมทริกซ 2A
1
1 0 3
A
2 6⎡ ⎤
= ⎢ ⎥−⎣ ⎦
1)
2
2( 1) 0) 3)
2
A
A
2( 2(2) 2(6)⎡ ⎤
= ⎢ ⎥− 2( 2(⎣ ⎦
2 4 12⎡ ⎤
= ⎢ ⎥−2 0 6⎣ ⎦
3) หาเมทริกซ 5 2A A−
5 2
5 0
5 2
( 5 0
5 2
3 0
A A
A A
A A
5 10 30 2 4 12⎡ ⎤ ⎡ ⎤
− = −⎢ ⎥ ⎢ ⎥− 15 −2 0 6⎣ ⎦ ⎣ ⎦
(5− 2) (10− 4) (30 −12)⎡ ⎤
− = ⎢ ⎥− −(−2)) ( −0) (15− 6)⎣ ⎦
3 6 18⎡ ⎤
− = ⎢ ⎥− 9⎣ ⎦
2. ถา
1 0
1 2
A
−⎡ ⎤
⎢ ⎥= 2 1⎢ ⎥
⎢ ⎥−⎣ ⎦
จงตรวจสอบวา (2 ) 2t t
A A= หรือไม
วิธีทํา
1) หาเมทริกซ (2 )t
A
19
1 0
1 2
A
−⎡ ⎤
⎢ ⎥= 2 1⎢ ⎥
⎢ ⎥−⎣ ⎦
2( 1) 0)
2
1) 2)
2 0
2
4
A
A
− 2(⎡ ⎤
⎢ ⎥= 2(2) 2(1)⎢ ⎥
⎢ ⎥2( 2(−⎣ ⎦
−⎡ ⎤
⎢ ⎥= 4 2⎢ ⎥
⎢ ⎥2 −⎣ ⎦
(2 )t
A
−2 4 2⎡ ⎤
= ⎢ ⎥0 2 − 4⎣ ⎦
2) หาเมทริกซ 2 t
A
1 0
1 2
A
−⎡ ⎤
⎢ ⎥= 2 1⎢ ⎥
⎢ ⎥−⎣ ⎦
1 1t
A
− 2⎡ ⎤
= ⎢ ⎥0 1 − 2⎣ ⎦
2( 1) 1)
2
2
2
t
t
A
A
− 2(2) 2(⎡ ⎤
= ⎢ ⎥2(0) 2(1) 2(−2)⎣ ⎦
− 4 2⎡ ⎤
= ⎢ ⎥0 2 − 4⎣ ⎦
3) (2 ) 2t t
A A∴ =
20
สมบัติการคูณเมทริกซดวยสเกลาร
ถา ,c d R∈ และ ,A B เปนเมทริกซมิติ mxn ใดๆ
1) 1 A A⋅ =
2) ( 1)A A− = −
3) ( ) ( ) ( )cd A c dA d cA= =
4) ( )c A B cA cB± = ±
5) ( )c d A cA dA+ = +
6) ( )t t
cA cA=
7.เมทริกซเอกลักษณสําหรับการคูณ (I)
7.1 เมทริกซจัตุรัส
เมทริกซที่มี จํานวนแถว เทากับ จํานวนหลัก
ตัวอยาง เชน [ ]
1 2 3
1 2
1 , , ,...
3 4
⎡ ⎤
⎡ ⎤ ⎢ ⎥4 5 6⎢ ⎥ ⎢ ⎥
⎣ ⎦ ⎢ ⎥7 8 9⎣ ⎦
เปนตน
7.2 เมทริกซเอกลักษณ (I)
ถา A เปนเมทริกซจัตุรัส เรียกสมาชิกในแนวทแยงมุมจากซายบนลงมาลางขวาวา “สมาชิกใน
แนวทแยงมุมหลัก” เชน
ถา
1 2
3 4
A
⎡ ⎤
= ⎢ ⎥
⎣ ⎦
สมาชิกในแนวทแยงมุมหลัก คือ 1,4
21
ถา
1 2 3
6
7 8 9
B
⎡ ⎤
⎢ ⎥= 4 5⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
สมาชิกในแนวทแยงมุมหลัก คือ 1,5,9
เมทริกซเอกลักษณ คือ เมทริกซจัตุรัสที่มีสมาชิกในแนวทแยงมุมหลัก เปน 1
ทั้งหมด และสมาชิกตัวอื่น เปน 0 ทั้งหมด เราใชสัญลักษณ nI แทนเมทริกซเอกลักษณมิติ nxn
เชน 2 3
1 0 0
1
0 1 0
0 0 1
I
⎛ ⎞
0⎡ ⎤ ⎜ ⎟
= , Ι =⎢ ⎥ ⎜ ⎟0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟
⎝ ⎠
เปนตน
8.การคูณเมทริกซดวยเมทริกซ
8.1 การพิจารณาวาเมทริกซ 2 เมทริกซคูณกันได
ใหเมทริกซ
ij mxn
ij pxq
A a
b
⎡ ⎤= ⎣ ⎦
⎡ ⎤Β = ⎣ ⎦
เมทริกซ A คูณกับ เมทริกซ B เขียนสัญลักษณเปน AxB จะไดเมทริกซ C ซึ่งมีคุณสมบัติดังนี้
ij m x n ij p x qAxB a x b⎡ ⎤ ⎡ ⎤= ⎣ ⎦ ⎣ ⎦
ij m x qC c⎡ ⎤= ⎣ ⎦
AxB สามารถคูณกันได เมื่อ จํานวนหลัก
ของเมทริกซ A เทากับจํานวนแถวของเมทริกซ B
เมื่อ , , ,m n p q I+
∈
n p=
22
ตัวอยาง เชน
1. ถา A เปนเมทริกซ มิติ 2 x 3 และ B เปนเมทริกซ มิติ 3 x 2 แลว AxB
สามารถคูณกันได เปน เมทริกซ C ที่มีมิติ 2x2
2. ถา A เปนเมทริกซ มิติ 1 x 3 และ B เปนเมทริกซ มิติ 2 x 2 แลว AxB ไม
สามารถคูณกันได เพราะจํานวนหลักของเมทริกซ A ไมเทากับจํานวนแถวของเมทริกซ
B
8.2 การหาสมาชิกของผลคูณของเมทริกซ
A x B C=
หรือ อาจเขียน AxB เปน AB
ตัวอยาง เชน
เทากัน
ไมเทากัน
เมทริกซตัวตั้ง เมทริกซตัวคูณ เมทริกซผลคูณ
สมาชิกของเมทริกซผลคูณ ในแถวที่ i หลักที่ j
สมาชิก ในแถวที่ i ของเมทริกซตัวตั้ง สมาชิก ในหลักที่ j ของเมทริกซตัวคูณx
คูณกันเปนคูๆตามลําดับ แลวนํามาบวกกัน
23
1. ถา
2
A
1 2⎡ ⎤
⎢ ⎥= −1 0⎢ ⎥
⎢ ⎥3⎣ ⎦
และ B
1 5 2⎡ ⎤
= ⎢ ⎥−2 0 1⎣ ⎦
จงหา AB
วิธีทํา
2 3
3 2 3 3
3 5 4
1 5 2
2 1 15 8x
x x
1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞
1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠
3 5 4
1 5 2
2 1 15 8
1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞
1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠
3 5 4
1 5 2
2 1 15 8
1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞
1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠
3 5 4
1 5 2
2 1 15 8
1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞
1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠
(1)(1)+(2)(-2)= -3
เทากันคูณกันได
(1)(5)+(2)(0)= 5
(1)(2)+(2)(1)= 4
(-1)(1)+(0)(-2)= -1
24
3 5 4
1 5 2
2 1 15 8
1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞
1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠
3 5 4
1 5 2
2 1 15 8
1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞
1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠
3 5 4
1 5 2
2 1 15 8
1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞
1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠
3 5 4
1 5 2
2 1 15 8
1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞
1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠
3 5 4
1 5 2
2 1 15 8
1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞
1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠
(-1)(5)+(0)(0)= -5
(-1)(2)+(0)(1)= -2
(3)(1)+(2)(-2)= -1
(3)(5)+(2)(0)= 15
(3)(2)+(2)(1)= 8
25
2. ถา
1 2 1
2 1 2
1 1 2
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ
1 0 0
0 1 0
0 0 1
B
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา AxB
วิธีทํา
1) พิจารณาวา AxB สามารถคูณกันได
3 3 3 3
1 2 1 1 0 0
2 1 2 0 1 0
1 1 2 0 0 1x x
x
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
2)
1 2 1 1 0 0 (1)(1) (2)(0) (1)(0) (1)(0) (2)(1) (1)(0) (1)(0) (2)(0) (1)(1)
2 1 2 0 1 0 (2)(1) (1)(0) (2)(0) (2)(0) (1)(1) (2)(0) (2)(0) (1)(0) (2)(1)
1 1 2 0 0 1 (1)(1) (1)(0) (2)(0) (1)(0) (1)(1) (2)(0)
x
+ + + + + +⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
= + + + + + +⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟ + + + +⎝ ⎠ ⎝ ⎠ (1)(0) (1)(0) (2)(1)
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟+ +⎝ ⎠
1 2 1 1 0 0 1 2 1
2 1 2 0 1 0 2 1 2
1 1 2 0 0 1 1 1 2
x
⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
3. ถา [ ]2 1 1A = − และ B
1 0⎡ ⎤
⎢ ⎥= 1 2⎢ ⎥
⎢ ⎥2 0⎣ ⎦
จงตรวจสอบวา ( )t t t
A B B A⋅ = ⋅
วิธีทํา
1) หา ( )t
A B⋅
[ ]2 1 1A
B
= −
1 0⎡ ⎤
⎢ ⎥= 1 2⎢ ⎥
⎢ ⎥2 0⎣ ⎦
[ ]
[ ]
[ ]
[ ]
2 1 1
(2)(1) ( 1)(1) (1)(2) (2)(0) ( 1)(2) (1)(0)
2 1 2 0 2 0
3 2
A B
A B
A B
A B
1 0⎡ ⎤
⎢ ⎥⋅ = − ⋅ 1 2⎢ ⎥
⎢ ⎥2 0⎣ ⎦
⋅ = + − + + − +
⋅ = − + − +
⋅ = −
3
( )
2
t
A B
⎡ ⎤
⋅ = ⎢ ⎥−⎣ ⎦
เทากันคูณกันได
26
2) หา t t
B A⋅
B
1 0⎡ ⎤
⎢ ⎥= 1 2⎢ ⎥
⎢ ⎥2 0⎣ ⎦
[ ]2 1 1A = −
t
B
1 1 2⎡ ⎤
= ⎢ ⎥0 2 0⎣ ⎦
2
1
1
t
A
⎡ ⎤
⎢ ⎥= −⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
2
1
1
(1)(2) (1)( 1) (2)(1)
(0)(2) (2)( 1) (0)(1)
2 1 2
0 2 0
3
2
t t
t t
t t
t t
B A
B A
B A
B A
⎡ ⎤
1 1 2⎡ ⎤ ⎢ ⎥= −⎢ ⎥ ⎢ ⎥0 2 0⎣ ⎦ ⎢ ⎥⎣ ⎦
+ − +⎡ ⎤
= ⎢ ⎥+ − +⎣ ⎦
− +⎡ ⎤
= ⎢ ⎥− +⎣ ⎦
⎡ ⎤
∴ = ⎢ ⎥−⎣ ⎦
3) ( )t t t
AB B A∴ = ⋅
27
สมบัติการคูณของเมทริกซ
ถา S เปนเซตของเมทริกซมิติใดๆ และ , ,A B C S∈
1) A B S⋅ ∈
2) ( ) ( )AB C A BC=
3) IA AI A= =
เมื่อ A เปนเมทริกซจัตุรัส และ I เปนเมทริกซเอกลักษณที่มีมิติเดียวกับ A
4)
( )
( )
A B C AB AC
B C A BA CA
+ = +
+ = +
5) ( )t t t
AB B A=
แบบฝกหัด
1. กําหนดให
1 3
4 5
A
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ
0 4
2 1
B
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−⎝ ⎠
จงหาเมทริกซตอไปนี้
1.1) 4A
28
1.2) 3B−
1.3) A−
1.4) 2 3B A−
2. กําหนดให
2 5
4 1
A
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−⎝ ⎠
และ
4 3
1 2
B
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−⎝ ⎠
จงหาคาของ 2 t
A B−
29
3. กําหนดให
2 1 4
3 0 5
A
−⎡ ⎤
= ⎢ ⎥
⎣ ⎦
และ
1 0
1 2
4 3
B
⎡ ⎤
⎢ ⎥= −⎢ ⎥
⎢ ⎥−⎣ ⎦
จงหา ,AB BA และ
( )t
AB
30
4. จงหาผลคูณของเมทริกซตอไปนี้
4.1) [ ]
1
2 1 1 3
4
x
⎡ ⎤
⎢ ⎥− ⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
4.2) [ ]
5
3 2
1
x
⎡ ⎤
⎢ ⎥0 − 4 −⎢ ⎥
⎢ ⎥−⎣ ⎦
4.3)
8
2
3
2
x
⎡ ⎤
1 8⎡ ⎤ ⎢ ⎥
⎢ ⎥ ⎢ ⎥−1 0 4⎣ ⎦ ⎢ ⎥⎣ ⎦
31
4.4)
4
5
0
x
−⎡ ⎤
3 − 2 1⎡ ⎤ ⎢ ⎥−⎢ ⎥ ⎢ ⎥0 5 7⎣ ⎦ ⎢ ⎥⎣ ⎦
4.5)
1 0
1 1x
⎡ ⎤
2 4 5⎡ ⎤ ⎢ ⎥−⎢ ⎥ ⎢ ⎥3 2 8⎣ ⎦ ⎢ ⎥0 −1⎣ ⎦
32
4.6)
1
2
3
4
x
⎡ ⎤
1 −5 4 3⎡ ⎤ ⎢ ⎥
⎢ ⎥ ⎢ ⎥2 3 4 2⎢ ⎥ ⎢ ⎥
⎢ ⎥3 2 3 2 ⎢ ⎥⎣ ⎦
⎣ ⎦
5. จงหา 3
A เมื่อกําหนดเมทริกซ A ตอไปนี้
5.1)
1 1
0 1
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎝ ⎠
33
5.2)
1 0
0 1
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
−⎝ ⎠
6. กําหนด
2 2 1
, ,
3 2 0 1
x y y a
A B C
z y
+⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞
= = =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
−⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
ถา AB C=
แลว a=?
34
7. จงหาคาของ x ที่ทําให [ ]2
3 4 2 1
1 6 0 1 1 0
5 2 1 2
x x
⎛ ⎞⎡ ⎤
⎜ ⎟⎢ ⎥⎡ ⎤ − − =⎣ ⎦⎜ ⎟⎢ ⎥
⎜ ⎟⎢ ⎥−⎝ ⎠⎣ ⎦
8. กําหนด
0 6 6
,
4 2 4 4
a
A B
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
= =⎜ ⎟ ⎜ ⎟
−⎝ ⎠ ⎝ ⎠
และ
0 4
0 4
C
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
คา a ที่สอดคลองกับ
สมการ ( ) ( ) (4 )t t t t t
A B B A C+ = มีคาเทากับเทาใด
35
9.ดีเทอรมิแนนต (Determinant)
เมทริกซที่สามารถหาคาดีเทอรมิแนนตได ก็ตอเมื่อ เมทริกซนั้นตองเปนเมทริกซจัตุรัส
9.1 ดีเทอรมิแนนตของเมทริกซมิติ 2x2
ถา เมทริกซ
a b
A
c d
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
เมทริกซ A สามารถหาคาดีเทอรมิแนนตของ A เขียน
แทนดวย det(A) หรือ A
det( )
a b
A ad bc
c d
= = −
หลักการจํา
a b
A ad bc
c d
= = −
ตัวอยาง เชน
1. ถา
2 2
2 4
A
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา det( )A
วิธีทํา
det( ) (2)(2)
8 4
4
A
2 2
= = (2)(4) −
2 4
= −
=
(+)
(-)
(+)
(-)
det( )A
36
2. ถา
1 5
0 4
B
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา det( )B
วิธีทํา
det( ) (0)(5)
4 0
4
B
1 5
= = (1)(4) −
0 4
= −
=
3. ถา
1 1
1 0
C
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−⎝ ⎠
จงหา det( )C
วิธีทํา
det( ) ( 1)(1)
0 1
1
C
−1 1
= = (−1)(0) − −
−1 0
= +
=
9.2 ดีเทอรมิแนนตของเมทริกซมิติ 3x3
ถา เมทริกซ
11 12 13
21 22 23
31 32 33
a a a
A a a a
a a a
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
สามารถหา det(A) ไดดังนี้
11 12 13 11 12
21 22 23 21 22
31 32 33 31 32
11 22 33 12 23 31 13 21 32
31 22 13 32 23 11 33 21
det( )
( )( )( ) ( )( )( ) ( )( )( )
( )( )( ) ( )( )( ) ( )( )
a a a a a
A a a a a a
a a a a a
a a a a a a a a a
a a a a a a a a
=
= + +
− − − 12( )a
(+)
(-)
det( )B
(+)
(-)
det( )C
(+) (+) (+)
(-) (-) (-)
37
ตัวอยาง เชน
1. ถา
1 2 3
4 5 6
7 8 9
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา det(A)
วิธีทํา
1 2 3 2
det( ) 4 5 6 4 5
7 8 9 7 8
(1)(5)(9) (2)(6)(7) (3)(4)(8) (7)(5)(3) (8)(6)(1) (9)(4)(2)
45 84 96 105 48 72
0
A
1
=
= + + − − −
= + + − − −
=
2. ถา
2 3
0 1
0 0
a
A b
c
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา det(A)
วิธีทํา
2 3 2
det( )
(2)(1)(0) (3)(0)(0) (0)( )(3) (0)(1)(9) ( )(0)(2)
0 0 0 0 0
a a
A b b
c
abc b c
abc
abc
= 0 1 0
0 0 0 0
= + + − − −
= + + − − −
=
(+)(+)(+)
(-) (-)(-)
(+)(+)(+)
(-) (-)(-)
38
9.3 การหาดีเทอรมิแนนตโดยวิธีตัวประกอบรวมเกี่ยว(Co-factor)
9.3.1 ไมเนอร (Minor) ของสมาชิกในเมทริกซ
ไมเนอร (Minor) ของสมาชิกในเมทริกซ A คือ ดีเทอรมิแนนตของเมทริกซที่เกิดจาก
การตัดแถวและหลักที่สมาชิกนั้นอยูออกไป ใชสัญลักษณ ( )ijM A แทน ไมเนอรของสมาชิก
ในแถวที่ i หลักที่ j ของเมทริกซ A ตัวอยาง เชน
1. ถา
1 2 3
3 1 2
2 3 1
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จะสามารถหาไมเนอรของสมาชิกตางๆในเมทริกซ A ได
ดังนี้
11( )M A
1 2 3
3 1 2
2 3 1
1 2
3 1
5−
12 ( )M A
1 2 3
3 1 2
2 3 1
3 2
2 1 1−
13 ( )M A
1 2 3
3 1 2
2 3 1
3 1
2 3
7
21( )M A
1 2 3
3 1 2
2 3 1
2 3
3 1
7−
39
22 ( )M A
1 2 3
3 1 2
2 3 1
1 3
2 1
5−
23 ( )M A
1 2 3
3 1 2
2 3 1
1 2
2 3 1−
31( )M A
1 2 3
3 1 2
2 3 1
2 3
1 2 1
32 ( )M A
1 2 3
3 1 2
2 3 1
1 3
3 2
7−
33 ( )M A
1 2 3
3 1 2
2 3 1
1 2
3 1
5−
9.3.2 ตัวประกอบรวมเกี่ยว (Co-factor) ของสมาชิกในเมทริกซ
ตัวประกอบรวมเกี่ยว (Co-factor) ของสมาชิกในแถวที่ i และหลักที่ j เขียนแทนดวย
( )ijC A คือ ผลคูณของ
( )
( 1) i j+
− กับ ( )ijM A
( )
( ) ( 1) ( )i j
ij ijC A M A+
= −
ตัวอยาง เชน
40
1. จากตัวอยางที่แลวในหัวขอของไมเนอร
ถา
1 2 3
3 1 2
2 3 1
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
สามารถหา ( )ijC A ของสมาชิกตางๆในเมทริกซ A ไดดังนี้
(1 1) 2
11 11( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 5) 5C A M A+
= − = − − = −
(1 2) 3
12 12( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 1)C A M A+
= − = − − = 1
(1 3) 4
13 13( ) ( 1) ( ) ( 1) (7)C A M A+
= − = − = 7
(2 1) 3
21 21( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 7)C A M A+
= − = − − = 7
(2 2) 4
22 22( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 5) 5C A M A+
= − = − − = −
(2 3) 5
23 23( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 1)C A M A+
= − = − − = 1
(3 1) 4
31 31( ) ( 1) ( ) ( 1) (1)C A M A+
= − = − = 1
(3 2) 5
32 32( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 7)C A M A+
= − = − − = 7
(3 3) 6
33 33( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 5) 5C A M A+
= − = − − = −
9.3.3 การหาดีเทอรมิแนนตแบบใชตัวประกอบรวมเกี่ยว
ถา
11 12 13
21 22 23
31 32 33
a a a
A a a a
a a a
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
det( )A
11 12 13
21 22 23
31 32 33
a a a
a a a
a a a
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
11 11 12 12 13 13a C a C a C+ +
41
11 12 13
21 22 23
31 32 33
a a a
a a a
a a a
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
21 21 22 22 23 23a C a C a C+ +
11 12 13
21 22 23
31 32 33
a a a
a a a
a a a
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
31 31 32 32 33 33a C a C a C+ +
11 12 13
21 22 23
31 32 33
a a a
a a a
a a a
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
11 11 21 21 31 31a C a C a C+ +
11 12 13
21 22 23
31 32 33
a a a
a a a
a a a
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
12 12 22 22 32 32a C a C a C+ +
11 12 13
21 22 23
31 32 33
a a a
a a a
a a a
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
13 13 23 23 33 33a C a C a C+ +
การหา det(A) โดยวิธีนี้ สามารถหาได 6 แบบ ซึ่งทั้ง 6 แบบ จะใหคาออกมา
เทากัน คือ เปนคาของ det(A)……… ตัวอยาง เชน
1. กําหนดให
2 3
0 1
0 0
a
A b
c
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา det(A)
วิธีทํา
1) เลือก แถว หรือ หลัก ของเมทริกซที่ทําใหสามารถหาคา det(A) ไดโดยงาย
42
2 3
0 1
0 0
a
b
c
31 32 33(0) (0) ( )C C c C+ +
det( )A 33cC
2) หา 33 ( )C A
33 ( )M A
2 3
0 1
0 0
a
b
c
2
0
a
b
ab
(3 3)
33 33
6
( ) ( 1) ( )
( 1) ( )
C A M A
ab
ab
+
= −
= −
=
3) 33det( ) ( )A cC c ab abc= = =
2. กําหนดให
1 2 3
4 5 6
7 8 9
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา det(A)
วิธีทํา
1) เลือก แถว หรือ หลัก ของเมทริกซ A
43
1 2 3
4 5 6
7 8 9
11 12 13(1) (2) (3)C C C+ +
det( )A 11 12 132 3C C C+ +
2) หา 11 12,C C และ 13C
11( )M A
1 2 3
4 5 6
7 8 9
5 6
8 9
3−
12 ( )M A
1 2 3
4 5 6
7 8 9
4 6
7 9
6−
13 ( )M A
1 2 3
4 5 6
7 8 9
4 5
7 8
3−
(1 1) 2
11 11( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 3) 3C A M A+
= − = − − = −
(1 2) 3
12 12( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 6)C A M A+
= − = − − = 6
44
(1 3) 4
13 13( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 3) 3C A M A+
= − = − − = −
3) 11 12 13det( ) 2 3A C C C= + +
( 3) 2(6) 3( 3)
( 3) 12 9
0
= − + + −
= − + −
=
สมบัติของดีเทอรมิแนนต
ให , ,A B C เปนเมทริกซจัตุรัสที่มีมิติ nxn ใดๆ
1)
t
A A=
2)
n
kA k A=
3) AB A B=
4)
mm
A A=
5)
1 1
A
A
−
=
เมื่อ
1
A−
คือ เมทริกซผกผันการคูณของเมทริกซ A
10.ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ
10.1 ตัวผกผันการคูณของเมทริกซที่มีมิติ 2x2
ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ A คือ เมทริกซที่คูณกับเมทริกซ A แลวไดเมทริกซ
เอกลักษณ (I) ใชสัญลักษณ
1
A−
แทน ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ A
1 1
A A A A I− −
⋅ = ⋅ =
45
ถา
a b
A
c d
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 1 d b
A
c aad bc
− −⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−− ⎝ ⎠
ตัวอยาง เชน
1. ถา
1 2
3 4
A
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา
1
A−
วิธีทํา
จากสูตร
1 1 d b
A
c aad bc
− −⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−− ⎝ ⎠
4 21
3 1(1)(4) (3)(2)
4 21
3 12
2 1
3 1
2 2
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−− ⎝ ⎠
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−− ⎝ ⎠
−⎛ ⎞
⎜ ⎟= −⎜ ⎟
⎝ ⎠
การตรวจสอบ
จากผลลัพธที่ได คือ เมทริกซ
2 1
3 1
2 2
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
−⎜ ⎟
⎝ ⎠
2 1 2 1
1 2 1 2 1 0
3 1 3 1
3 4 3 4 0 1
2 2 2 2
− −⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎜ ⎟ ⎜ ⎟= =− −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
46
1)
3 1
2 1 (1)( 2) (2)( ) (1)(1) (2)( )
1 2 2 2
3 1
3 4 3 1
(3)( 2) (4)( ) (3)(1) (4)( )2 2
2 2
−⎛ ⎞
− − + +⎛ ⎞ ⎜ ⎟⎛ ⎞⎜ ⎟ = ⎜ ⎟−⎜ ⎟⎜ ⎟ −⎝ ⎠ ⎜ ⎟− + +⎜ ⎟⎝ ⎠
⎝ ⎠
2 3 1 1
6 6 3 2
1 0
0 1
− + −⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
− + −⎝ ⎠
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
2)
2 1 ( 2)(1) (1)(3) ( 2)(2) (1)(4)
1 2
3 1 3 1 3 1
3 4 ( )(1) ( )(3) ( )(2) ( )(4)
2 2 2 2 2 2
− − + − +⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎛ ⎞⎜ ⎟ ⎜ ⎟=− − −⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟+ +⎝ ⎠
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
2 3 4 4
3 3
3 2
2 2
1 0
0 1
− + − +⎛ ⎞
⎜ ⎟=
⎜ ⎟− −
⎝ ⎠
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
3)
1 2 1
1 2
3 1
3 4
2 2
− −⎛ ⎞
⎛ ⎞ ⎜ ⎟∴ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎝ ⎠
⎝ ⎠
2. ถา
2 4
1 5
A
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ
3
5
B
⎡ ⎤
= ⎢ ⎥
⎣ ⎦
แลว คา x+y ที่ไดจากสมการ
1 x
A B
y
− ⎡ ⎤
=⎢ ⎥
⎣ ⎦
คือเทาใด
วิธีทํา
1) ใชสมบัติ
1 1
A A A A I− −
⋅ = ⋅ =
จากสมการ
1 x
A B
y
− ⎡ ⎤
=⎢ ⎥
⎣ ⎦
นําเมทริกซ A คูณทั้ง 2 ขาง
47
1
1
x
A A AB
y
x
AA AB
y
x
I AB
y
x
AB
y
−
−
⎡ ⎤⎡ ⎤
=⎢ ⎥⎢ ⎥
⎣ ⎦⎣ ⎦
⎡ ⎤
⎡ ⎤ =⎢ ⎥⎣ ⎦
⎣ ⎦
⎡ ⎤
=⎢ ⎥
⎣ ⎦
⎡ ⎤
∴ =⎢ ⎥
⎣ ⎦
2) หา
x
y
⎡ ⎤
⎢ ⎥
⎣ ⎦
2 4 3
1 5 5
(2)(3) (4)(5)
(1)(3) (5)(5)
26
28
x
AB
y
x
y
x
y
x
y
⎡ ⎤
=⎢ ⎥
⎣ ⎦
⎡ ⎤ ⎛ ⎞⎡ ⎤
= ⎜ ⎟⎢ ⎥ ⎢ ⎥
⎣ ⎦ ⎝ ⎠⎣ ⎦
+⎡ ⎤ ⎡ ⎤
=⎢ ⎥ ⎢ ⎥+⎣ ⎦ ⎣ ⎦
⎡ ⎤ ⎡ ⎤
∴ =⎢ ⎥ ⎢ ⎥
⎣ ⎦ ⎣ ⎦
26, 28x y∴ = =
3) 26 28 54x y+ = + =
3. ถา
1 1
2 1
A
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ
2 1
3 2
B
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ
1
2C A B−
= + แลว
det( )C เทากับเทาใด
วิธีทํา
48
1) หา
1
A−
1 1
2 1
A
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 1 11
2 1( 1)(1) (2)(1)
A− −⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
− −− − ⎝ ⎠
1 11
2 13
1 1
3 3
2 1
3 3
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
− −− ⎝ ⎠
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
2) หา C
1
2
1 1
2 13 3
2
2 1 3 2
3 3
1 1
4 23 3
2 1 6 4
3 3
11 7
3 3
20 13
3 3
C A B
C
C
C
−
= +
−⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎛ ⎞
= +⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎝ ⎠
⎜ ⎟
⎝ ⎠
−⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎛ ⎞
= +⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎝ ⎠
⎜ ⎟
⎝ ⎠
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
3) หา det( )C
49
11 7
3 3
det( )
20 13
3 3
11 13 20 7
( )( ) ( )( )
3 3 3 3
1
3
C =
= −
=
4. ถา
1 2
3
A
a
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ
1 1
2 1
B
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ
1 1
2C AB B− −
= +
แลวคาของ a ที่ทําให det( ) 1C = เทากับเทาใด
วิธีทํา
1) จาก
1 1
2C AB B− −
= +
1
[2 ]C A I B−
= +
นําเมทริกซ B คูณทั้ง 2 ขาง
1
1
[[2 ] ]
[2 ][ ]
[2 ][ ]
2
CB A I B B
CB A I B B
CB A I I
CB A I
−
−
= +
= +
= +
∴ = +
2) จาก 2CB A I= +
ใส det เขาไปทั้ง 2 ขาง
2
2
CB A I
C B A I
= +
= +
จากโจทย det(C)=1
และ
det( ) ( 1)(1) (2)(1)
1 2
3
B = − −
= − −
= −
1 1
2 1
B
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
(1)( 3) 2
2 3
A I
A I
− = +
∴ + = −
50
3) หา 2A I+
1 2 1 0
2 2
3 0 1
2 4 1 0
2 6 0 1
3 4
2 7
A I
a
a
a
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
+ = +⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
= +⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
3 4
2 (3)(7) (2 )(4)
2 7
21 8
A I a
a
a
+ = = −
= −
4) หา a
จาก 2 3A I+ = −
21 8 3
21 3 8
24 8
3
a
a
a
a
− = −
+ =
=
∴ =
10.2 ตัวผกผันการคูณของเมทริกซที่มีมิติ 3x3
10.2.1 เมทริกซผูกพันของ A (Adjoint Matrix)
คือ เมทริกซที่เกิดจากการนําเอาตัวประกอบรวมเกี่ยว(Co-factor) ของสมาชิก ija คือ
( )ijC A ไปแทนที่สมาชิก ija หลังจากนั้นนําเมทริกซดังกลาวไปหาเมทริกซสลับเปลี่ยน เราใช
สัญลักษณ ( )adj A แทน “เมทริกซผูกพันของ A”
( ) [ ( )]t
ijadj A C A=
10.2.2 เมทริกซผกผันของ A (Inverse Matrix)
เราใชสัญลักษณ 1
A−
แทน “เมทริกซผกผันของเมทริกซ A” สามารถหาไดตามสูตร
51
1 1
[ ( )]
det( )
A adj A
A
−
=
ขอสังเกต
1) ถาเมทริกซ A มีคา det( ) 0A = เราจะไมสามารถหาเมทริกซ 1
A−
ได
2) เมทริกซ A ที่มีคา det( ) 0A = นี้ เราเรียกเมทริกซพวกนี้วา “เมทริกซเอกฐาน”
ตัวอยาง เชน
1. ให
1 0 1
2 1 0
1 1 1
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
จงหา 1
A−
วิธีทํา
1) หา det(A)
1 0
det( )
(1)(1)(1) (0)(0)(1) (1)(2)( 1) (1)(1)(1) ( 1)(0)(1) (1)(2)(0)
1 0 2 1 0 0
2
A
1 1 0
= 2 1 0 2 1
1 −1 1 1−1
= + + − − − − −
= + − − − −
= −
2) หา ( )adj A
(1 1) 2
11
1 0
( ) ( 1) ( 1)
1 1
C A + ⎛ ⎞
= − = − [(1)(1)−(−1)(0)] = 1⎜ ⎟
−⎝ ⎠
(1 2) 3
12
2 0
( ) ( 1) ( 1)
1 1
C A + ⎛ ⎞
= − = − [(2)(1)−(1)(0)] = − 2⎜ ⎟
⎝ ⎠
(+)(+)(+)
(-) (-)(-)
det( ) 0A ≠ แสดง
วาสามารถหา 1
A−
ได
52
(1 3) 4
13
2 1
( ) ( 1) ( 1)
1 1
C A + ⎛ ⎞
= − = − [(2)(−1)−(1)(1)] = −3⎜ ⎟
−⎝ ⎠
(2 1) 3
21
0 1
( ) ( 1) ( 1)
1 1
C A + ⎛ ⎞
= − = − [(0)(1)−(−1)(1)] = −1⎜ ⎟
−⎝ ⎠
(2 2) 4
22
1 1
( ) ( 1) ( 1)
1 1
C A + ⎛ ⎞
= − = − [(1)(1)−(1)(1)] = 0⎜ ⎟
⎝ ⎠
(2 3) 5
23
1 0
( ) ( 1) ( 1)
1 1
C A + ⎛ ⎞
= − = − [(1)(−1)−(1)(0)] = 1⎜ ⎟
−⎝ ⎠
(3 1) 4
31
0 1
( ) ( 1) ( 1)
1 0
C A + ⎛ ⎞
= − = − [(0)(0)−(1)(1)] = −1⎜ ⎟
⎝ ⎠
(3 2) 5
32
1 1
( ) ( 1) ( 1)
2 0
C A + ⎛ ⎞
= − = − [(1)(0)−(2)(1)] = 2⎜ ⎟
⎝ ⎠
(3 3) 6
33
1 0
( ) ( 1) ( 1)
2 1
C A + ⎛ ⎞
= − = − [(1)(1)−(2)(0)] = 1⎜ ⎟
⎝ ⎠
( ) [ ( )]
1 2 3
1 0 1
1 2 1
1 1 1
2 0 2
3 1 1
t
ij
t
adj A C A=
− −⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
− −⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
3) หา 1
A−
53
จาก
1 1
[ ( )]
det( )
A adj A
A
−
=
1
1
1 1 1
1
2 0 2
2
3 1 1
1 1 1
2 2 2
1 0 1
3 1 1
2 2 2
A
A
−
−
− −⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟− ⎜ ⎟−⎝ ⎠
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟− −
⎜ ⎟
⎝ ⎠
2. ถา
0 0
0 0
0 0
a
A b
c
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ A ไมเปนเมทริกซเอกฐาน แลว จงหา 1
A−
วิธีทํา
1) เมทริกซ A ไมเปน เมทริกซเอกฐาน (det( ) 0)A ≠ …….สามารถหา 1
A−
ได
2) หา det( )A
0
det( )
(0)(0)(0) (0)(0)(0) (0)( )(0) (0)(0)(0) ( )(0)(0)
a a
A b b
c
abc b c
abc
0 0
= 0 0 0
0 0 0 0
= + + − − −
=
3) หา ( )adj A
(1 1) 2
11
0
( ) ( 1) ( 1) )
0
b
C A bc bc
c
+ ⎛ ⎞
= − = − ]( =⎜ ⎟
⎝ ⎠
(1 2) 3
12
0 0
( ) ( 1) ( 1)
0
C A
c
+ ⎛ ⎞
= − = − (0) = 0⎜ ⎟
⎝ ⎠
(+)(+)(+)
(-) (-)(-)
54
(1 3) 4
13
0
( ) ( 1) ( 1)
0 0
b
C A + ⎛ ⎞
= − = − (0) = 0⎜ ⎟
⎝ ⎠
(2 1) 3
21
0 0
( ) ( 1) ( 1)
0
C A
c
+ ⎛ ⎞
= − = − (0) = 0⎜ ⎟
⎝ ⎠
(2 2) 4
22
0
( ) ( 1) ( 1) )
0
a
C A ac ac
c
+ ⎛ ⎞
= − = − ( =⎜ ⎟
⎝ ⎠
(2 3) 5
23
0
( ) ( 1) ( 1)
0 0
a
C A + ⎛ ⎞
= − = − (0) = 0⎜ ⎟
⎝ ⎠
(3 1) 4
31
0 0
( ) ( 1) ( 1)
0
C A
b
+ ⎛ ⎞
= − = − (0) = 0⎜ ⎟
⎝ ⎠
(3 2) 5
32
0
( ) ( 1) ( 1)
0 0
a
C A + ⎛ ⎞
= − = − (0) = 0⎜ ⎟
⎝ ⎠
(3 3) 6
33
0
( ) ( 1) ( 1) )
0
a
C A ab ab
b
+ ⎛ ⎞
= − = − ( =⎜ ⎟
⎝ ⎠
( ) [ ( )]
0 0
0 0
0 0
0 0
0 0
0 0
t
ij
t
adj A C A
bc
ac
ab
bc
ac
ab
=
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
4.หา 1
A−
55
1
1
1
1
[ ( )]
det( )
0 0
1
0 0
0 0
1
0 0
1
0 0
1
0 0
A adj A
A
bc
A ac
abc
ab
a
A
b
c
−
−
−
=
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟=
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠
3. ถา
2 1 0 3 0 0
4 3 5 0 3 0
2 6 8 0 0 3
A
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
แลว จงหา 1
A−
วิธีทํา
จาก…………….
2 1 0 3 0 0
4 3 5 0 3 0
2 6 8 0 0 3
A
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
1 1
2 1 0 1 0 0
4 3 5 3 0 1 0
2 6 8 0 0 1
2 1 0
4 3 5 3
2 6 8
2 1 0 2 1 0 2 1 0
4 3 5 4 3 5 3 4 3 5
2 6 8 2 6 8 2 6 8
A
A I
A I
− −
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞
⎜ ⎟
=⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
=⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠
56
สมบัติของเมทริกซผกผันการคูณ
ให A เปนเมทริกซจัตุรัส มิติ nxn ใดๆ และ k R∈
1
1
11
1
11
1 1
1
1
2 1 0
3 4 3 5
2 6 8
2 1 0
3 4 3 5
2 6 8
2 1 0
3 4 3 5
2 6 8
2 1 0
(3 ) 4 3 5
2 6 8
2 1 0
1
4 3 5
3
2 6 8
2 1
0
3 3
4 5
1
3 3
2 8
2
3 3
AI
A
A
A
A
A
−
−
−−
−
−−
− −
−
−
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
⎡ ⎤⎛ ⎞
⎢ ⎥⎜ ⎟
= ⎢ ⎥⎜ ⎟
⎜ ⎟⎢ ⎥
⎝ ⎠⎣ ⎦
⎡ ⎤⎛ ⎞
⎢ ⎥⎜ ⎟
= ⎢ ⎥⎜ ⎟
⎜ ⎟⎢ ⎥
⎝ ⎠⎣ ⎦
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟=
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠
57
1) 1 1
AA A A I− −
= = เมื่อ I เปนเมทริกซเอกลักษณที่มีมิติเดียวกับ A
2)
1 1
( )A A− −
=
3)
1 11
( ) ( )kA A
k
− −
= เมื่อ 0k ≠
4)
1 1 1
( )AB B A− − −
=
5)
1 1
( ) ( )t t
A A− −
=
4. ถา
0 2 1
0 0 5
0 0 0
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา B ซึ่งทําให 3
A B I=
วิธีทํา
1) จาก ……………….. 3
A B I=
3 1
[ ]B A −
∴ =
2) หา 3
A
เริ่มจาก……
2
0 2 1 0 2 1
0 0 5 0 0 5
0 0 0 0 0 0
A AA
⎛ ⎞⎛ ⎞
⎜ ⎟⎜ ⎟
= = ⎜ ⎟⎜ ⎟
⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠⎝ ⎠
(0)(0) (2)(0) (1)(0) (0)(2) (2)(0) (1)(0) (0)(1) (2)(5) (1)(0)
(0)(0) (0)(0) (5)(0) (0)(2) (0)(0) (5)(0) (0)(1) (0)(5) (5)(0)
(0)(0) (0)(0) (0)(0) (0)(2) (0)(0) (0)(0) (0)(1) (0)(5) (
+ + + + + +
= + + + + + +
+ + + + + + 0)(0)
0 0 10
0 0 0
0 0 0
⎡ ⎤
⎢ ⎥
⎢ ⎥
⎢ ⎥⎣ ⎦
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
58
3 2
0 0 10 0 2 1
0 0 0 0 0 5
0 0 0 0 0 0
A A A
⎛ ⎞⎛ ⎞
⎜ ⎟⎜ ⎟
= = ⎜ ⎟⎜ ⎟
⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠⎝ ⎠
(0)(0) (0)(0) (10)(0) (0)(2) (0)(0) (10)(0) (0)(1) (0)(5) (0)(0)
(0)(0) (0)(0) (0)(0) (0)(2) (0)(0) (0)(0) (0)(1) (0)(5) (0)(0)
(0)(0) (0)(0) (0)(0) (0)(2) (0)(0) (0)(0) (0)(1
+ + + + + +
= + + + + + +
+ + + + ) (0)(5) (0)(0)
0 0 0
0 0 0
0 0 0
⎡ ⎤
⎢ ⎥
⎢ ⎥
⎢ ⎥+ +⎣ ⎦
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
3) หา
3 1
[ ]A −
เมทริกซ 3
A เปนเมทริกซเอกฐาน เพราะวา คา
3
det( ) 0A =
จึงไมสามารถหาเมทริกซ
3 1
[ ]A −
ได……..จาก
3 1
[ ]B A −
=
จึงไมมีเมทริกซ B ซึ่งทําให 3
A B I=
แบบฝกหัด
1. จงหาดีเทอรมิแนนตของเมทริกซตอไปนี้
1.1)
1 2
4 6
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎝ ⎠
59
1.2)
2
1x xy
x y
⎛ ⎞−
⎜ ⎟
−⎝ ⎠
1.3)
1 0 1
2 3 4
1 5 2
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
−⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1.4)
0 1 4
2 1 2
1 1 0
⎛ ⎞
⎜ ⎟
−⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
60
1.5)
1 2 5 2
2 0 1 2
1 3 8 0
1 1 2
⎛ ⎞
⎜ ⎟−⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− −⎜ ⎟
⎜ ⎟−1⎝ ⎠
2. กําหนด
6
5 6 0
9 1 1
x
x
5 7 5 6
− + =
8 8 9 จงหาคา x
61
3. กําหนดให
1 3
0 2
A
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ
3 4
1 2
B
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหาคาของ
3.1) det(A)
3.2) det(B)
3.3) det( )t
A
3.4) det(AB)
3.5) det(BA)
62
3.6) det(A+B)
3.7)
1
det( )A−
3.8)
1
det( )B−
4. กําหนด
1 2 2 1 2 1
, ,
3 4 3 0 4 3
A B C
−⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞
= = =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
และ
2 3
2 4
D
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหา det(ABCD)
63
5. กําหนด
1 3
2 2
A
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−⎝ ⎠
และ
2 1
1 4
B
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−⎝ ⎠
จงหาคาของ
1 2
det(2 )t
A B−
6. กําหนด
2 0
1 1
A
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
−⎝ ⎠
และ 2 1
A B A−
= จงหาคาของ det(2B)
64
7. ถา
5 4 6
2 0 7
1 2 0
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหาคาของ
7.1) 13 ( )C A
7.2) 23 ( )C A
7.3) 33 ( )C A
65
8. กําหนด
4
3 8 0
1
x y
A
x y
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟− −⎝ ⎠
โดยที่ 21( ) 6C A = − และ 23 ( ) 4C A =
แลว 33 ( )C A เทากับเทาใด
66
9. ให A,B และ C เปน nxn เมทริกซ เมื่อ n เปนจํานวนเต็มที่มากกวา 2 และ
det(A)=1 , det(B)=2 และ det(C)=-3 แลวจงหา
9.1)
2 1
det( )t
A BC B−
9.2)
1 1
det( )t
BC AB C− −
10. ถา
2 2
2 2
2 2
sin 1 cos
sin 1 cos
sin 1 cos
A A
A B B
C C
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จงหาคาของ
2
det( )A
67
11. กําหนดให A และ B เปนเมทริกซมิติ 2x2 ถา
5 4
2
8 16
A B
⎛ ⎞
+ = ⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ
2 1
1 5
A B
⎛ ⎞
− = ⎜ ⎟
− −⎝ ⎠
จงหา
1
det(2 )A B−
68
12. กําหนดให A เปนเมทริกซมิติ 2x2 และ det(A)=4 ถา I เปนเมทริกซเอกลักษณ
และ A-3I เปนเมทริกซเอกฐาน แลว det(A+3I) เทากับเทาใด
69
13. ให A,B และ C เปนเมทริกซมิติ 3x3 ถา det(A)=-3 และ
1
2 3t t t
A B A C A−
− = − จงหา det(2 )t
C B−
14. จงหา 1
A−
14.1)
1 0 2
2 6 4
3 1 6
A
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
70
14.2)
1 1 1
1 0 1
1 1 0
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
15. กําหนดให
1 1
2 1
A
−⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
ถา B เปนเมทริกซ ที่ 1
2B A−
= แลวจงหาคาของ
det(3 )adjB
71
16. ให A เปนเมทริกซ และ I เปนเมทริกซเอกลักษณมิติ 3x3 ถา
1 2 1 0 2 3
3 0 1 , 3 1 2
2 1 0 0 2 1
B C
− −⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
= = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ ⎝ ⎠
สอดคลองกับสมการ
1
0
2
AB AC I− − = จงหา 1
A−
72
17. ถา
1
1 1 1 2
0 0 1 , 0 1 1
0 1 1 0
a b
A A
c d
−
− −⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
= = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
แลว จงหา a+b+c+d
73
11.การดําเนินการเชิงแถวของเมทริกซ
กําหนดให
1 2 3
4 5 6
7 8 9
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
จากเมทริกซ A เราสามารถดําเนินการเชิงแถวกับเมทริกซ A ไดดังตอไปนี้ เชน
1) 2 12R R+ หมายความวาคาของสมาชิกของเมทริกซในแถวที่ 1 และ 3 คงที่ แต
สมาชิกในแถวที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงคือ นํา 2 ไปคูณสมาชิกในแถวที่ 1 แลวนํามาบวก
กับสมาชิกในแถวที่ 2 จะกลายเปนสมาชิกใหมในแถวที่ 2 ดังนี้
1 2 3 1 2 3
4 2(1) 5 2(2) 6 2(3) 6 9 12
7 8 9 7 8 9
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
+ + + =⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
2) 3 2( 1)R R+ − หมายความวาคาสมาชิกในแถวที่ 3 มีการเปลี่ยนแปลงคือ นํา (-1)
คูณสมาชิกในแถวที่ 2 แลวบวกกับสมาชิกในแถวที่ 3 นั้น จะกลายเปนสมาชิกใหมใน
แถวที่ 3
1 2 3 1 2 3
4 5 6 4 5 6
7 ( 1)(4) 8 ( 1)(5) 9 ( 1)(6) 3 3 3
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟+ − + − + −⎝ ⎠ ⎝ ⎠
แถวที่ 1(R1)
แถวที่ 2(R2)
แถวที่ 3(R3)
2 12R R+
3 2( 1)R R+ −
74
3)
2
2
R
หมายความวา สมาชิกในแถวที่ 2 ใหม คือสมาชิกในแถวที่ 2 เดิมหารดวย 2
1 2 3 1 3
1
2 2 2 2 2
4 5 6 4 5 6
7 8 9 3 3 3
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
4) 22R และ 1 3R R+ มีการดําเนินการของสมาชิกในแถวที่ 2 และ 1 ดังนี้
1 7 2 8 3 9 8 10 12
4(2) 5(2) 6(2) 8 10 12
7 8 9 7 8 9
+ + +⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
11.1 การใชตัวดําเนินการเชิงแถวหา det(A)
หลักการคือ การใชตัวดําเนินการเชิงแถวมาดําเนินการกับเมทริกซจากโจทย แลวทําใหได
เมทริกซใหมที่สามารถหา det(A) ไดงายขึ้น โดยคา det(A) จะยังคงเทาเดิม ตัวอยาง เชน
1. จงหา
1 2 3
4 5 6
7 8 9
วิธีทํา
1 2 3
4 5 6
7 8 9
1 2 3
4 1 5 2 6 3
7 1 8 2 9 3
− − −
− − −
1 2 3
3 3 3
6 6 6
=
2
2
R
1 3R R+
2(2)R
2 1R R−
3 1R R−
75
1 2 3
3 3 3
6 2(3) 6 2(3) 6 2(3)− − −
1 2 3
3 3 3
0 0 0
0
=
=
1 2 3
4 5 6 0
7 8 9
∴ =
2. จงหา
1 0 1
2 1 0
1 1 1−
วิธีทํา
1 1 0 ( 1) 1 1
2 1 0
1 1 1
− − − −
−
3 22R R−
1 0 1
2 1 0
1 1 1−
1 3R R−
33
3 3
33
0 1 0
2 1 0
1 1 1
(1)
( 1)
C
M+
=
−
=
= −
76
0 1
2 1
(0)(1) (2)(1)
2
=
= −
= −
1 0 1
2 1 0 2
1 1 1
∴ = −
−
3. จงหา
2 1 0
4 3 5
2 6 8
วิธีทํา
2 1 0
4 3 5
2 6 8
2 1 0
4 2(2) 3 2(1) 5 2(0)
2 2 6 1 8 0
− − −
− − −
11
1 1
11
2 1 0
0 1 5
0 5 8
2
2( 1)
1 5
2
5 8
2[(1)(8) (5)(5)]
2[8 25]
34
C
M+
=
=
= −
=
= −
= −
= −
2 1 0
4 3 5 34
2 6 8
∴ = −
2 12R R−
3 1R R−
77
4. จงหา
0 2 1
5 1 2
9 3 3
−
− −
วิธีทํา
0 2 1
5 1 2
9 3 3
−
− −
0 2 1
5 2(0) 1 2(2) ( 2) 2(1)
9 3(0) ( 3) 3(2) ( 3) 1(3)
+ + − +
+ − + − +
13
1 3
13
0 2 1
5 5 0
9 3 0
( 1)
5 5
9 3
(5)(3) (9)(5)
15 45
30
C
M+
=
=
= −
=
= −
= −
−
0 2 1
5 1 2 30
9 3 3
∴ − = −
− −
11.2 การใชตัวดําเนินการเชิงแถวหา
1
A−
ถา กําหนด
11 12 13
21 22 23
31 32 33
a a a
A a a a
a a a
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
สามารถหา
1
A−
โดยการดําเนินการเชิงแถวไดใน
รูปแบบดังนี้
2 12R R+
3 13R R+
78
เขียน
11 12 13
21 22 23
31 32 33
1 0 0
0 1 0
0 0 1
a a a
a a a
a a a
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
11 12 13
21 22 23
31 32 33
1 0 0
0 1 0
0 0 1
b b b
b b b
b b b
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
ตัวอยาง เชน
1. จงหา
1
A−
จาก
1 0 1
2 1 0
1 1 1
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
วิธีทํา
1 0 1 1 0 0
2 1 0 0 1 0
1 1 1 0 0 1
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
1 0 1 1 0 0
0 1 2 1 0
0 1 0 0 1
⎛ ⎞
⎜ ⎟
− −2⎜ ⎟
⎜ ⎟− −1⎝ ⎠
1 0 1 1 0 0
0 1 2 1 0
0 0 1
⎛ ⎞
⎜ ⎟
− − 2⎜ ⎟
⎜ ⎟−2 −3 1⎝ ⎠
ดําเนินการเชิงแถว
2 12R R−
3 1R R−
3 2R R+
1
A−
79
1 0 1 1 0 0
0 1 2 1 0
3 1 1
0 0
2 2 2
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− − 2⎜ ⎟
⎜ ⎟− −
1⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 1 1
1 0
2 2 2
0 1
3 1 1
0 0
2 2 2
−⎛ ⎞
0⎜ ⎟
⎜ ⎟
0 1 0 −1⎜ ⎟
⎜ ⎟− −
1⎜ ⎟
⎝ ⎠
1
1 1 1
2 2 2
1 0 1
3 1 1
2 2 2
A−
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
∴ = −⎜ ⎟
⎜ ⎟− −
⎜ ⎟
⎝ ⎠
2. จงหา
1
A−
จาก
2 1 1
3 2 2
1 3 3
A
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟− −⎝ ⎠
วิธีทํา
3
( 2)
R
−
1 3R R−
2 32R R+
80
2 1 1 0 0
3 2 0 1 0
1 3 0 0 1
−1⎛ ⎞
⎜ ⎟
− 2⎜ ⎟
⎜ ⎟− −3⎝ ⎠
1 1
1 0 0
2 2 2
3 2 0 1 0
1 3 0 0 1
−1⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− 2⎜ ⎟
⎜ ⎟− −3
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 1
1 0 0
2 2 2
7 7 3
0 1 0
2 2 2
7 5 1
0 0 1
2 2 2
−1⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− −⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− − −⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 1
1 0 0
2 2 2
3 2
0 1 1 0
7 7
7 5 1
0 0 1
2 2 2
−1⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
−⎜ ⎟−
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− − −⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠
1
2
R
2 13R R−
3 1R R−
2
2
( )
7
R
−
81
2 1
1 0 0 0
7 7
3 2
0 1 1 0
7 7
0 0 1 1
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
−⎜ ⎟−
⎜ ⎟
⎜ ⎟
−6 −1⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
2 1
1 0 0 0
7 7
3 2
0 1 1 0
7 7
1 1 1
0 0
6 6 6
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
−⎜ ⎟−
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− −⎜ ⎟1⎜ ⎟
⎝ ⎠
2 1
1 0 0 0
7 7
11 5 1
0 1
42 42 6
1 1 1
0 0
6 6 6
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− −⎜ ⎟0
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− −⎜ ⎟1⎜ ⎟
⎝ ⎠
1
2 1
0
7 7
11 5 1
42 42 6
1 1 1
6 6 6
A−
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− −⎜ ⎟∴ =
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− −⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 2
1
2
R R−
3 2
7
2
R R+
3
( 6)
R
−
2 3R R+
82
3. จงหา
1
A−
จาก
0 0
0 0
0 0
a
A b
c
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
เมื่อ , , 0a b c ≠
วิธีทํา
0 1 0 0
0 0 1 0
0 0 0 0 1
a
b
c
0⎛ ⎞
⎜ ⎟
0⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1
1 0 0 0
1
0 1 0 0
1
0 0 0 0
a
b
c
⎛ ⎞
0⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟0
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟1⎜ ⎟
⎝ ⎠
1
1
0 0
1
0 0
1
0 0
a
A
b
c
−
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟∴ =
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
12.การแกสมการเชิงเสนโดยใชเมทริกซ
12.1 สมการเชิงเสน 2 ตัวแปร
จะอยูในรูปแบบขางลางนี้ เมื่อ 1 2 1 2 1 2, , , , ,a a b b c c R∈
1 1 1
2 2 2
...........(1)
..........(2)
a x b y c
a x b y c
+ =
+ =
1R
a
2R
b
3R
c
83
สามารถเปลี่ยนเปนสมการเมทริกซไดดังนี้
11 1
2 2 2
ca b x
a b y c
⎛ ⎞⎛ ⎞⎛ ⎞
= ⎜ ⎟⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠
เราสามารถหาเมทริกซ
x
y
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎝ ⎠
ไดดังนี้
1 1
11 1 1 1 1 1
2 2 2 2 2 2 2
1
11 1
2 2 2
1
11 1
2 2 2
ca b a b a bx
a b a b a by c
ca bx
I
a by c
ca bx
a by c
− −
−
−
⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎛ ⎞
= ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞⎛ ⎞⎛ ⎞
= ⎜ ⎟⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞⎛ ⎞⎛ ⎞
= ⎜ ⎟⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
ตัวอยาง เชน
1. ระบบสมการ x+2y = 4
2x+y = 5
จงหาคา x และ y
วิธีทํา
1) เขียนสมการเมทริกซ
1 2 4
2 1 5
x
y
⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞
=⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠
2) หาเมทริกซ
x
y
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1
1 2 4
2 1 5
x
y
−
⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
1 2 41
2 1 5(1)(1) (2)(2)
(1)(4) ( 2)(5)1
( 2)(4) (1)(5)3
x
y
x
y
−⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟
−−⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠
+ −⎛ ⎞ ⎛ ⎞
= −⎜ ⎟ ⎜ ⎟
− +⎝ ⎠ ⎝ ⎠
84
61
33
2
1
x
y
x
y
−⎛ ⎞ ⎛ ⎞−
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
−⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
12.2 สมการเชิงเสน 3 ตัวแปร
จะอยูในรูปแบบขางลางนี้ เมื่อ 1 2 3 1 2 3 1 2 3, , , , , , , ,a a a b b b c c c R∈
1 1 1 1
2 2 2 2
3 3 3 3
...........(1)
..........(2)
..........(3)
a x b y c z d
a x b y c z d
a x b y c z d
+ + =
+ + =
+ + =
สามารถเปลี่ยนเปนสมการเมทริกซ ไดดังนี้
11 1 1
2 2 2 2
3 3 3 3
da b c x
a b c y d
a b c z d
⎛ ⎞⎛ ⎞⎛ ⎞
⎜ ⎟⎜ ⎟⎜ ⎟
= ⎜ ⎟⎜ ⎟⎜ ⎟
⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠
สามารถหา
x
y
z
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
ไดดังนี้
1
11 1 1
2 2 2 2
3 3 3 3
dx a b c
y a b c d
z a b c d
−
⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
= ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
ตัวอยาง เชน
1. จงหาคา x , y และ z จากสมการเชิงเสนตอไปนี้
4 3 2 5
4 2
3 2 2 7
x y z
x y z
x y z
+ − =
− + = −
+ + =
วิธีทํา
85
1) เขียนสมการเมทริกซ
4 3 2 5
1 4 1 2
3 2 2 7
x
y
z
−⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
− = −⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠
2) หาเมทริกซ
x
y
z
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1
4 3 2 5
1 4 1 2
3 2 2 7
10 1 14 5
1
10 14 1 2
65
5 6 19 7
10 10 5 5
1
1 14 6 2
65
14 1 19 7
1
65
t
x
y
z
x
y
z
x
y
z
x
y
z
−
−⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
= − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
−⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟
= − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟− − −⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
− − −⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟
= − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟−⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟−⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠
(⎛ ⎞
⎜ ⎟
=⎜ ⎟ −⎜ ⎟
⎝ ⎠
5) ( 10)( 2) ( 5)(7)
(1)(5) (14)( 2) ( 6)(7)
65
1
65
65
65
1
1
1
x
y
z
x
y
z
−10)( + − − + −⎛ ⎞
⎜ ⎟
+ − + −⎜ ⎟
⎜ ⎟(14)(5)+(1)(−2)+(−19)(7)⎝ ⎠
−⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
= −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
∴ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
86
12.3 การใชกฎของคราเมอร
กําหนดระบบสมการเชิงเสน
1 1 1 1
2 2 2 2
3 3 3 3
...........(1)
..........(2)
..........(3)
a x b y c z d
a x b y c z d
a x b y c z d
+ + =
+ + =
+ + =
จะหาคา x , y และ z ไดดังสมการตอไปนี้
1 1 1 1 1 1 1 1 1
2 2 2 2 2 2 2 2 2
3 3 3 3 3 3 3 3 3
1 1 1 1 1 1 1 1 1
2 2 2 2 2 2
3 3 3 3 3 3
, ,
d b c a d c a b d
d b c a d c a b d
d b c a d c a b d
x y z
a b c a b c a b c
a b c a b c
a b c a b c
= = =
2 2 2
3 3 3
a b c
a b c
ตัวอยาง เชน
1. จงหารากของระบบสมการเชิงเสน
2 5
3 2 2 3
3 3 2
x y z
x y z
x y z
+ − =
− + = −
− − = −
วิธีทํา
5 1 1
3 2 2
2 3 3 42
1
2 1 42
3 2 2
1 3 3
x
−
− −
− − −
= = =
−1
−
− −
87
1
3 2
3 84
2
2 1 42
3 2 2
1 3 3
y
2 5 −
3 −
1 − 2 −
= = =
−1
−
− −
2
2 42
1
2 1 42
3 2 2
1 3 3
z
2 1 5
3 − −3
1 −3 − −
= = = −
−1
−
− −
12.4 การใชการดําเนินการเชิงแถวแกสมการเชิงเสน
กําหนดระบบสมการเชิงเสน
1 1 1 1
2 2 2 2
3 3 3 3
...........(1)
..........(2)
..........(3)
a x b y c z d
a x b y c z d
a x b y c z d
+ + =
+ + =
+ + =
เขียน
1 1 1 1
2 2 2 2
3 3 3 3
a b c d
a b c d
a b c d
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1
2
3
1 0 0
0 1 0
0 0 1
e
e
e
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
ดําเนินการเชิงแถว
x
y
z
88
ตัวอยาง เชน
1. ระบบสมการ
2 5
3 2 2 3
3 3 2
x y z
x y z
x y z
+ − =
− + = −
− − = −
จงหารากของสมการ
วิธีทํา
2 1 1
3 2
1 3 3
− 5⎛ ⎞
⎜ ⎟
− 2 −3⎜ ⎟
⎜ ⎟− − − 2⎝ ⎠
1 1
1
2 2 2
3 2
1 3 3
− 5⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− 2 −3⎜ ⎟
⎜ ⎟− − −2
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 1
1
2 2 2
7 7
0
2 2 2
7 5 9
0
2 2 2
− 5⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− −21⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− − −⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 1
1
2 2 2
0 1
7 5 9
0
2 2 2
− 5⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
−1 3⎜ ⎟
⎜ ⎟− − −
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1
2
R
2 13R R−
3 1R R−
2
2
( )
7
R
−
89
1 0
0 1
0 0
0 1⎛ ⎞
⎜ ⎟
−1 3⎜ ⎟
⎜ ⎟−6 6⎝ ⎠
1 0
0 1
0 0
0 1⎛ ⎞
⎜ ⎟
−1 3⎜ ⎟
⎜ ⎟1 −1⎝ ⎠
1 0
0 1
0 0
0 1⎛ ⎞
⎜ ⎟
0 2⎜ ⎟
⎜ ⎟1 −1⎝ ⎠
1, 2, 1x y z∴ = = = −
แบบฝกหัด
1.จงหา det ของเมทริกซตอไปนี้โดยการใชการดําเนินการเชิงแถว
1.1)
1 0 1
2 3 4
1 5 2
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
−⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1 2
1
2
R R−
3 2
7
2
R R+
3
( 6)
R
−
2 3R R+
90
1.2)
0 1 4
2 1 2
1 1 0
⎛ ⎞
⎜ ⎟
−⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1.3)
1 1
0 1 2 3
1 0 1 2
2 1 0 1
⎛ ⎞
⎜ ⎟− 2 − 2⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
−⎜ ⎟
⎜ ⎟− −⎝ ⎠
91
1.4)
0
0
0
a b
a c
b c
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
1.5)
1 2 4
3 8 0
1 2 1
⎛ ⎞
⎜ ⎟
−⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
92
1.6)
1 2 5 2
2 0 1 2
1 3 8 0
1 1 2
⎛ ⎞
⎜ ⎟−⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟
− −⎜ ⎟
⎜ ⎟−1⎝ ⎠
2.จงหา
1
A−
ของเมทริกซ A ตอไปนี้โดยการใชการดําเนินการเชิงแถว
2.1)
1 2 4
3 8 0
1 2 1
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
93
2.2)
1 0 2
2 6 4
3 1 6
A
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟−⎝ ⎠
2.3)
1 1 1
1 0 1
1 1 0
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
94
2.4)
1 1 0
0 1 2
3 0 1
A
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
2.5)
1 1 1
2 3 19
1 7 8
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
95
2.6)
1 2 3
1 3 4
1 4 3
A
⎛ ⎞
⎜ ⎟
= ⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
96
3.จงแกระบบสมการตอไปนี้โดยใชกฎของคราเมอร และการดําเนินการเชิงแถว
3.1)
2 3
3 2
x y
x y
− =
+ = −
97
3.2)
2 2
2 1
2 3 2 10
x y z
x y z
x y z
− − = −
− + + = −
+ − =
98
3.3)
2 9
2 0
3 2 11
x y z
x y z
x y z
− + =
+ − =
− + =
99
3.4)
2 2 1
3 2
2 2 2 0
3 1
x y z
x z t
x y z t
x y z t
+ − = −
+ − =
− + + + =
− + + =
100
3.5)
2 3 9
3 4
2 5 5 17
x y z
x y
x y z
− + =
− + = −
− + =
101
3.6)
3 3
2 3 20
7 23
x y z
x y z
x y z
+ − =
− + =
+ + =
102
3.7)
2 4 1
2 2
3 2 3
x y z
x y
x y z
+ + =
+ = −
− − + =
103
4. กําหนดให
4 12 9
7 10 5
1 0 0
A
−⎛ ⎞
⎜ ⎟
= −⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎝ ⎠
และ , ,B C D เปนเมทริกซมิติ 3x3 ซึ่ง
A B C D∼ ∼ ∼ โดยที่
B ไดจาก A โดยการดําเนินการ 1 2
4
3
R R−
C ไดจาก B โดยการดําเนินการ 15R
D ไดจาก C โดยการดําเนินการ 23R
แลว det(D) เทากับเทาใด
5. ระบบสมการเชิงเสน
1
1
2
x y kz
x ky z
x y kz
+ + =
+ + =
+ + = −
จงหาเงื่อนไขสําหรับคา k ที่จะทําใหระบบสมการมีคําตอบเดียว มีหลายคําตอบ และไมมีคําตอบ
104
6. กําหนดระบบสมการ
2
2
2 3
( 3)
x y z
x y z
x y k z k
+ + =
+ + =
+ + − =
จงหาจํานวนจริง k ที่ทําใหระบบสมการที่กําหนดใหไมมีคําตอบ

More Related Content

What's hot

กาพย์เห่เรือ
กาพย์เห่เรือกาพย์เห่เรือ
กาพย์เห่เรือ
Warodom Techasrisutee
 
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียงเฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
โรงเรียนเทพลีลา
 
โครงสร้างอะตอม Atoms
โครงสร้างอะตอม Atomsโครงสร้างอะตอม Atoms
โครงสร้างอะตอม Atoms
BELL N JOYE
 
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออนมวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
พัน พัน
 
Ep03 บวก ลบ คูณ หาร เลขนัยสำคัญ (เรียนฟิสิกส์กับครูอุ๋ย)
Ep03 บวก ลบ คูณ หาร เลขนัยสำคัญ (เรียนฟิสิกส์กับครูอุ๋ย)Ep03 บวก ลบ คูณ หาร เลขนัยสำคัญ (เรียนฟิสิกส์กับครูอุ๋ย)
Ep03 บวก ลบ คูณ หาร เลขนัยสำคัญ (เรียนฟิสิกส์กับครูอุ๋ย)
wiriya kosit
 
พันธะไอออนิก57
พันธะไอออนิก57 พันธะไอออนิก57
พันธะไอออนิก57
Saipanya school
 
อินทิเกรต
อินทิเกรตอินทิเกรต
อินทิเกรตkrurutsamee
 
บทที่ 4 การพยากรณ์
บทที่ 4 การพยากรณ์บทที่ 4 การพยากรณ์
บทที่ 4 การพยากรณ์
Dr.Krisada [Hua] RMUTT
 
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4krusarawut
 
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตโจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
Kuntoonbut Wissanu
 
แบบฝึกหัดรูปสี่เหลี่ยมป.5 6
แบบฝึกหัดรูปสี่เหลี่ยมป.5 6แบบฝึกหัดรูปสี่เหลี่ยมป.5 6
แบบฝึกหัดรูปสี่เหลี่ยมป.5 6Jaar Alissala
 
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456kanjana2536
 
บทที่ 2 การพยากรณ์
บทที่ 2 การพยากรณ์บทที่ 2 การพยากรณ์
บทที่ 2 การพยากรณ์
Teetut Tresirichod
 
ฟิสิกส์พื้นฐาน
ฟิสิกส์พื้นฐานฟิสิกส์พื้นฐาน
ฟิสิกส์พื้นฐาน
โรงเรียนเทพลีลา
 
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิดแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
คุณครูพี่อั๋น
 
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
KruGift Girlz
 
Matrix1
Matrix1Matrix1

What's hot (20)

กาพย์เห่เรือ
กาพย์เห่เรือกาพย์เห่เรือ
กาพย์เห่เรือ
 
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียงเฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
 
โครงสร้างอะตอม Atoms
โครงสร้างอะตอม Atomsโครงสร้างอะตอม Atoms
โครงสร้างอะตอม Atoms
 
Electrochem 1
Electrochem 1Electrochem 1
Electrochem 1
 
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออนมวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
 
Ep03 บวก ลบ คูณ หาร เลขนัยสำคัญ (เรียนฟิสิกส์กับครูอุ๋ย)
Ep03 บวก ลบ คูณ หาร เลขนัยสำคัญ (เรียนฟิสิกส์กับครูอุ๋ย)Ep03 บวก ลบ คูณ หาร เลขนัยสำคัญ (เรียนฟิสิกส์กับครูอุ๋ย)
Ep03 บวก ลบ คูณ หาร เลขนัยสำคัญ (เรียนฟิสิกส์กับครูอุ๋ย)
 
พันธะไอออนิก57
พันธะไอออนิก57 พันธะไอออนิก57
พันธะไอออนิก57
 
อินทิเกรต
อินทิเกรตอินทิเกรต
อินทิเกรต
 
บทที่ 4 การพยากรณ์
บทที่ 4 การพยากรณ์บทที่ 4 การพยากรณ์
บทที่ 4 การพยากรณ์
 
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4
 
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตโจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
 
แบบฝึกหัดรูปสี่เหลี่ยมป.5 6
แบบฝึกหัดรูปสี่เหลี่ยมป.5 6แบบฝึกหัดรูปสี่เหลี่ยมป.5 6
แบบฝึกหัดรูปสี่เหลี่ยมป.5 6
 
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
 
บทที่ 2 การพยากรณ์
บทที่ 2 การพยากรณ์บทที่ 2 การพยากรณ์
บทที่ 2 การพยากรณ์
 
ฟิสิกส์พื้นฐาน
ฟิสิกส์พื้นฐานฟิสิกส์พื้นฐาน
ฟิสิกส์พื้นฐาน
 
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิดแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
 
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
 
Ast.c2560.5tp
Ast.c2560.5tpAst.c2560.5tp
Ast.c2560.5tp
 
Matrix1
Matrix1Matrix1
Matrix1
 
09 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่3_สัจนิรันดร์และการอ้างเหตุผล
09 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่3_สัจนิรันดร์และการอ้างเหตุผล09 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่3_สัจนิรันดร์และการอ้างเหตุผล
09 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่3_สัจนิรันดร์และการอ้างเหตุผล
 

Similar to เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix)

Exponential and logarithm function
Exponential and logarithm functionExponential and logarithm function
Exponential and logarithm function
Thanuphong Ngoapm
 
เมทริกซ์
เมทริกซ์เมทริกซ์
เมทริกซ์
Terayut Jeenjam
 
60 matrix-021060
60 matrix-02106060 matrix-021060
60 matrix-021060
Sutthi Kunwatananon
 
60 matrix-081060
60 matrix-08106060 matrix-081060
60 matrix-081060
Sutthi Kunwatananon
 
ระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้น
kruthanapornkodnara
 
สื่อเรื่องกราฟ
สื่อเรื่องกราฟสื่อเรื่องกราฟ
สื่อเรื่องกราฟKanchanid Kanmungmee
 
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมภัชรณันติ์ ศรีประเสริฐ
 
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
ภัชรณันติ์ ศรีประเสริฐ
 
Discrete-Chapter 03 Matrices
Discrete-Chapter 03 MatricesDiscrete-Chapter 03 Matrices
Discrete-Chapter 03 MatricesWongyos Keardsri
 
59 matrix-101059
59 matrix-10105959 matrix-101059
59 matrix-101059
Sutthi Kunwatananon
 
เอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
เอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันเอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
เอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
krurutsamee
 
Matrix problem p
Matrix problem pMatrix problem p
Matrix problem p
Thanuphong Ngoapm
 
แบบฝึกทักษะเมทริกซ์ เล่ม 1 ระบบสมการเชิงเส้น เผยแพร่
แบบฝึกทักษะเมทริกซ์ เล่ม 1 ระบบสมการเชิงเส้น เผยแพร่แบบฝึกทักษะเมทริกซ์ เล่ม 1 ระบบสมการเชิงเส้น เผยแพร่
แบบฝึกทักษะเมทริกซ์ เล่ม 1 ระบบสมการเชิงเส้น เผยแพร่
Chon Chom
 
Calculus
CalculusCalculus
60 vector 3 d-full
60 vector 3 d-full60 vector 3 d-full
60 vector 3 d-full
Sutthi Kunwatananon
 
Pat1 58-10+key
Pat1 58-10+keyPat1 58-10+key
Pat1 58-10+key
Sutthi Kunwatananon
 
Pat1 58-03+key
Pat1 58-03+keyPat1 58-03+key
Pat1 58-03+key
Sutthi Kunwatananon
 

Similar to เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix) (20)

Exponential and logarithm function
Exponential and logarithm functionExponential and logarithm function
Exponential and logarithm function
 
เมทริกซ์
เมทริกซ์เมทริกซ์
เมทริกซ์
 
Matrix1
Matrix1Matrix1
Matrix1
 
60 matrix-021060
60 matrix-02106060 matrix-021060
60 matrix-021060
 
60 matrix-081060
60 matrix-08106060 matrix-081060
60 matrix-081060
 
ข้อสอบ
ข้อสอบข้อสอบ
ข้อสอบ
 
ระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้น
 
สื่อเรื่องกราฟ
สื่อเรื่องกราฟสื่อเรื่องกราฟ
สื่อเรื่องกราฟ
 
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
 
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
 
Discrete-Chapter 03 Matrices
Discrete-Chapter 03 MatricesDiscrete-Chapter 03 Matrices
Discrete-Chapter 03 Matrices
 
59 matrix-101059
59 matrix-10105959 matrix-101059
59 matrix-101059
 
เอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
เอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันเอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
เอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
 
Matrix problem p
Matrix problem pMatrix problem p
Matrix problem p
 
แบบฝึกทักษะเมทริกซ์ เล่ม 1 ระบบสมการเชิงเส้น เผยแพร่
แบบฝึกทักษะเมทริกซ์ เล่ม 1 ระบบสมการเชิงเส้น เผยแพร่แบบฝึกทักษะเมทริกซ์ เล่ม 1 ระบบสมการเชิงเส้น เผยแพร่
แบบฝึกทักษะเมทริกซ์ เล่ม 1 ระบบสมการเชิงเส้น เผยแพร่
 
Calculus
CalculusCalculus
Calculus
 
60 vector 3 d-full
60 vector 3 d-full60 vector 3 d-full
60 vector 3 d-full
 
Pat1 58-10+key
Pat1 58-10+keyPat1 58-10+key
Pat1 58-10+key
 
Pat1 58-03+key
Pat1 58-03+keyPat1 58-03+key
Pat1 58-03+key
 
Math1
Math1Math1
Math1
 

More from Thanuphong Ngoapm

เฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdf
เฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdfเฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdf
เฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565
เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565
เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565
Thanuphong Ngoapm
 
การประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdf
การประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdfการประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdf
การประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
Thanuphong Ngoapm
 
intro_linear_algebra_key6.1.pdf
intro_linear_algebra_key6.1.pdfintro_linear_algebra_key6.1.pdf
intro_linear_algebra_key6.1.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
math_เครื่องกล_เฉลย.pdf
math_เครื่องกล_เฉลย.pdfmath_เครื่องกล_เฉลย.pdf
math_เครื่องกล_เฉลย.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
เฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdfเฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
เฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdfเฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
เฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdfเฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
ลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdf
ลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdfลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdf
ลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdf
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdfความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdf
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
ความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdf
ความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdfความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdf
ความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
ตรีโกณ_onet_เฉลย.pdf
ตรีโกณ_onet_เฉลย.pdfตรีโกณ_onet_เฉลย.pdf
ตรีโกณ_onet_เฉลย.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
สถิติ_onet_เฉลย.pdf
สถิติ_onet_เฉลย.pdfสถิติ_onet_เฉลย.pdf
สถิติ_onet_เฉลย.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
เลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdf
เลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdfเลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdf
เลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
การให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdf
การให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdfการให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdf
การให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
จำนวนจริง_onet_เฉลย.pdf
จำนวนจริง_onet_เฉลย.pdfจำนวนจริง_onet_เฉลย.pdf
จำนวนจริง_onet_เฉลย.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
เซต_onet_เฉลย.pdf
เซต_onet_เฉลย.pdfเซต_onet_เฉลย.pdf
เซต_onet_เฉลย.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
analyticalof3rdPolynomial.pdf
analyticalof3rdPolynomial.pdfanalyticalof3rdPolynomial.pdf
analyticalof3rdPolynomial.pdf
Thanuphong Ngoapm
 
4thpolynoml.pdf
4thpolynoml.pdf4thpolynoml.pdf
4thpolynoml.pdf
Thanuphong Ngoapm
 

More from Thanuphong Ngoapm (20)

เฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdf
เฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdfเฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdf
เฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdf
 
เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565
เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565
เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565
 
การประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdf
การประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdfการประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdf
การประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdf
 
อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
 
intro_linear_algebra_key6.1.pdf
intro_linear_algebra_key6.1.pdfintro_linear_algebra_key6.1.pdf
intro_linear_algebra_key6.1.pdf
 
math_เครื่องกล_เฉลย.pdf
math_เครื่องกล_เฉลย.pdfmath_เครื่องกล_เฉลย.pdf
math_เครื่องกล_เฉลย.pdf
 
เฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdfเฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdf
 
เฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdfเฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdf
 
เฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdfเฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdf
 
ลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdf
ลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdfลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdf
ลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdf
 
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdf
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdfความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdf
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdf
 
ความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdf
ความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdfความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdf
ความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdf
 
ตรีโกณ_onet_เฉลย.pdf
ตรีโกณ_onet_เฉลย.pdfตรีโกณ_onet_เฉลย.pdf
ตรีโกณ_onet_เฉลย.pdf
 
สถิติ_onet_เฉลย.pdf
สถิติ_onet_เฉลย.pdfสถิติ_onet_เฉลย.pdf
สถิติ_onet_เฉลย.pdf
 
เลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdf
เลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdfเลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdf
เลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdf
 
การให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdf
การให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdfการให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdf
การให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdf
 
จำนวนจริง_onet_เฉลย.pdf
จำนวนจริง_onet_เฉลย.pdfจำนวนจริง_onet_เฉลย.pdf
จำนวนจริง_onet_เฉลย.pdf
 
เซต_onet_เฉลย.pdf
เซต_onet_เฉลย.pdfเซต_onet_เฉลย.pdf
เซต_onet_เฉลย.pdf
 
analyticalof3rdPolynomial.pdf
analyticalof3rdPolynomial.pdfanalyticalof3rdPolynomial.pdf
analyticalof3rdPolynomial.pdf
 
4thpolynoml.pdf
4thpolynoml.pdf4thpolynoml.pdf
4thpolynoml.pdf
 

Recently uploaded

การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
Prachyanun Nilsook
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdfรายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
NitayataNuansri
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 

Recently uploaded (9)

การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
 
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdfรายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
 

เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix)

  • 1. 1 เมทริกซ •นิยาม •มิติของเมทริกซ การเทากันของเมทริกซTransposeMatrixการบวกลบเมทริกซ เมทริกซศูนย การคูณเมทริกซ ดวยสเกลาร การคูณเมทริกซ ดวยเมทริกซ เมทริกซเอกลักษณ(I) Determinant Minor Co-factor ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ •มิติ2x2 •มิติ3x3 การสมการเชิงเสนโดยใชเมทริกซ กฎของคราเมอร adjointmatrix การดําเนินการเชิงแถว โจทยปญหา
  • 2. 2 เมทริกซ 1.เมทริกซ กลุมของจํานวนซึ่งถูกเขียนเรียงเปนแถวและเปนหลักหรือคอลัมน ภายในเครื่องหมาย [ ] หรือ ( ) ตัวอยาง เชน 1 2 3 4 5 6 A ⎡ ⎤ = ⎢ ⎥ ⎣ ⎦ 11a คือสมาชิกแถวที่ 1 และหลักที่ 1 ………….ซึ่งก็คือ 1 12a คือสมาชิกแถวที่ 1 และหลักที่ 2 ………….ซึ่งก็คือ 2 13a คือสมาชิกแถวที่ 1 และหลักที่ 3 ………….ซึ่งก็คือ 3 21a คือสมาชิกแถวที่ 2 และหลักที่ 1 ………….ซึ่งก็คือ 4 22a คือสมาชิกแถวที่ 2 และหลักที่ 2 ………….ซึ่งก็คือ 5 23a คือสมาชิกแถวที่ 2 และหลักที่ 3 ………….ซึ่งก็คือ 6 A เปนเมตริกซที่มีแถว 2 แถว และหลัก 3 หลัก แถวที่ 1หลักที่ 2
  • 3. 3 2.การเทากันของเมทริกซ เมทริกซ A เทากับ เมทริกซ B ก็ตอเมื่อ ตัวอยาง เชน 1. 1 2 3 4 , 3 4 1 2 A B ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ = =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ เมทริกซ A ≠ เมทริกซ B เพราะวา 1) ถึงแม เมทริกซ A มีมิติ 2x2 และ เมทริกซ B มีมิติ 2x2 เทากัน 2) แต สมาชิกของเมทริกซ A ไมเหมือนกับสมาชิกของเมทริกซ B ทุกตัว คือ ให mna เปนสมาชิกของเมทริกซ A และ mnb เปนสมาชิกของเมทริกซ B เมื่อ , {1,2}m n∈ แลว 11 11 12 12 21 21 22 22 a b a b a b a b ≠ ≠ ≠ ≠ 1 3 2 4 3 1 4 2 ≠ ≠ ≠ ≠ เมตริกซ A มี มิติ ของเมทริกซ คือ (จํานวนแถว)x(จํานวนหลัก) ซึ่งก็คือ 2x3 มีมิติเทากัน มีสมาชิกเหมือนกันทุกตัว
  • 4. 4 2. กําหนดให 1 2 2 , 4 6 4 x A B y ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ = =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ และ A=B จงหาคา x และ y วิธีทํา A=B หมายความวา 1 2 2 4 6 4 x y ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 1x∴ = และ 6y = 3. ถา 3 2 3 2 2 1 2 4 0 4 0 x y x y ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟= −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ จงหาคา x และ y วิธีทํา 3 2 3 2 2 1 2 4 0 4 0 x y x y ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟= −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ แสดงวา…………… ( ) ( ) 2 1.......... 1 2 ............... 2 x x y y = − = จากสมการ……...…..(1)…………x=1 และจากสมการ……….(2)…………y=0 เทากัน เทากัน เทากัน เทากัน
  • 5. 5 4. 2 7 2 7 5 0 5 0 x y y x 2⎡ ⎤ ⎡ ⎤ =⎢ ⎥ ⎢ ⎥−1⎣ ⎦ ⎣ ⎦ จงหาคา x และ y วิธีทํา 2 7 2 7 5 0 5 0 x y y x 2⎡ ⎤ ⎡ ⎤ =⎢ ⎥ ⎢ ⎥−1⎣ ⎦ ⎣ ⎦ แสดงวา…………… ( ) ( ) 2 ............... 1 1........... 2 x y y x = = − นําสมการ (1)-(2)…………………. ( 1) 2 1 1 x x y y x x y y − − = − − + = ∴ = แทนคา y=1 ลงในสมการ (1) ………... 2 2(1) 2 x y x x = = ∴ = 3.เมทริกซสลับเปลี่ยน (Transpose Matrix) เมทริกซที่มีการสลับเปลี่ยน สมาชิกจากแถวเปนหลัก และจากหลักเปนแถว เราแทนเมทริกซที่สลับเปลี่ยนแลวดวย t A วาเปนเมทริกซสลับเปลี่ยนของเมทริกซ A ตัวอยาง เชน เทากัน เทากัน
  • 6. 6 1. เมตริกซ 1 2 3 4 5 6 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟= ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา t A วิธีทํา A ….. 1 2 3 4 5 6 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 3 5 2 4 6 ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎣ ⎦ ……. t A เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 1 คือ 1 , 2 ∴เมทริกซ t A มีสมาชิกในหลักที่ 1 คือ 1 , 2 เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 2 คือ 3 , 4 ∴เมทริกซ t A มีสมาชิกในหลักที่ 2 คือ 3 , 4 เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 3 คือ 5 , 6 ∴เมทริกซ t A มีสมาชิกในหลักที่ 3 คือ 5 , 6 ขอสังเกต - มิติของเมทริกซ A คือ 3x2 มิติของเมทริกซ t A คือ 2x3 2. เมตริกซ 1 0 2 1 2 1 2 0 1 A −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา t A วิธีทํา
  • 7. 7 1 0 2 ...... 1 2 1 2 0 1 A −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 2 0 2 0 ...... 2 1 1 t A −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 1 คือ -1 , 0 , 2 ∴เมทริกซ t A มีสมาชิกในหลักที่ 1 คือ -1 , 0 , 2 เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 2 คือ 1 , 2 , -1 ∴เมทริกซ t A มีสมาชิกในหลักที่ 2 คือ 1 , 2 , -1 เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 3 คือ 2 , 0 , 1 ∴เมทริกซ t A มีสมาชิกในหลักที่ 3 คือ 2 , 0 , 1 3. เมตริกซ 3 4 1 2 5 6 7 4 3 2 1 5 A ⎡ ⎤ ⎢ ⎥= ⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ จงหา t A วิธีทํา 3 4 1 2 ........ 5 6 7 4 3 2 1 5 A ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ 3 6 ......... 1 2 4 5 t A 5 3⎡ ⎤ ⎢ ⎥4 2⎢ ⎥ ⎢ ⎥1 7 ⎢ ⎥ ⎣ ⎦
  • 8. 8 เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 1 คือ 3 , 4 , 1 , 2 ∴เมทริกซ t A มีสมาชิกในหลักที่ 1 คือ 3 , 4 , 1 , 2 เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 2 คือ 5 , 6 , 7 , 4 ∴เมทริกซ t A มีสมาชิกในหลักที่ 2 คือ 5 , 6 , 7 , 4 เมทริกซ A มีสมาชิกในแถวที่ 3 คือ 3 , 2 , 1 , 5 ∴เมทริกซ t A มีสมาชิกในหลักที่ 3 คือ 3 , 2 , 1 , 5 4.เมทริกซศูนย เมทริกซที่มีสมาชิกทุกตัวเปนศูนย ตัวอยาง เชน - เมทริกซศูนยที่มี มิติ 1x1 คือ [ ]0 - เมทริกซศูนยที่มี มิติ 1x2 คือ [ ]0 0 - เมทริกซศูนยที่มี มิติ 2x2 คือ 0 0 0 0 ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎣ ⎦ - เมทริกซศูนยที่มี มิติ 3x2 คือ 0 0 0 0 0 0 ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ ……………..เปนตน 5.การบวกลบเมทริกซ เมทริกซที่สามารถนํามาบวกลบกันไดตองเปนเมทริกซที่มี มิติ เหมือนกัน เมทริกซบวกกัน คือ เมทริกซ A + เมทริกซ B เขียนแทนดวย เมทริกซ A+B คือ เมทริกซที่นําสมาชิกของเมทริกซ A และเมทริกซ B ในแถวและหลักเดียวกัน มาบวกกัน
  • 9. 9 เมทริกซลบกัน คือ เมทริกซ A - เมทริกซ B เขียนแทนดวย เมทริกซ A-B คือ เมทริกซที่นําสมาชิกของเมทริกซ A และเมทริกซ B ในแถวและหลักเดียวกัน มาลบกันตามลําดับ ตัวอยาง เชน 1. เมทริกซ 1 2 3 4 A ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และเมทริกซ 5 6 7 8 B ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหาเมทริกซ A B+ วิธีทํา 1) เมทริกซ A มีมิติเดียวกับ เมทริกซ B คือ 2x2 สามารถหา A+B ได 2) 1 2 5 6 3 4 7 8 A B ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ + = +⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 1 5 2 6 3 7 4 8 6 8 10 12 A B A B + +⎛ ⎞ + = ⎜ ⎟ + +⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ∴ + = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 2. ถา 2 1 2 2 82 5 9 34 2 yx y xx ⎛ ⎞+ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ + =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠ แลวจงหาคา x+y วิธีทํา 2 2 2 1 2 2 82 5 9 34 2 2 81 (2 ) 2 9 34 5 2 2 81 2 3 9 39 3 yx y xx x y y x x x y x ⎛ ⎞+ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ + =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎛ ⎞+ + + ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −+ + ⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎛ ⎞+ + ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎝ ⎠⎝ ⎠
  • 10. 10 2 1 2...............(1) 2 3 8..............(2) 3 3.................(3) x y x + = + = = − จากสมการ (1) และ (3)…… สามารถหาคา x=-1 ไดดังนี้ 2 2 1 2 1 1, 1 x x x + = = = − 3 3 3 3 1 x x x = − − = = − จากสมการ (2) ………..2 3 8y+ = 3 6 6 3 2 y y y = = ∴ = ( 1) 2 1x y∴ + = − + = 3. ให [ ]1 1 2A = − และ 2 4 1 B ⎡ ⎤ ⎢ ⎥= ⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ จงหา ,t t A B A B+ − วิธีทํา t A B+ [ ]1 1 2A = − 1 2 1 4 2 1 ⎡ ⎤ ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥− +⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ ⎣ ⎦ คาที่เลือก
  • 11. 11 1 2 1 4 2 1 +⎡ ⎤ ⎢ ⎥− +⎢ ⎥ ⎢ ⎥+⎣ ⎦ t A B+ 3 3 3 ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ t A B− 1 2 1 4 2 1 ⎡ ⎤ ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥− −⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ ⎣ ⎦ 1 2 1 4 2 1 −⎡ ⎤ ⎢ ⎥− −⎢ ⎥ ⎢ ⎥−⎣ ⎦ 1 5 1 −⎡ ⎤ ⎢ ⎥−⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ t A B− สมบัติการบวกของเมทริกซ ถา S เปนเซตของเมทริกซมิติใดๆ และ , ,A B C S∈ 1) A B S+ ∈ 2) A B B A+ = + 3) ( ) ( )A B C A B C+ + = + + 4) 0 0A A A+ = + = เมื่อ 0 เปนเมทริกซศูนยที่มีมิติเทากับ A 5) ( ) ( ) 0A A A A+ − = − + = 6) ( )t t t A B A B+ = +
  • 12. 12 จากขอ 4) และ 5)……..เราเรียก 0 วาเปน เมทริกซเอกลักษณการบวก (-A) วาเปน เมทริกซผกผันการบวกของ A แบบฝกหัด 1. กําหนดเมทริกซตอไปนี้ 1 4 5 2 1 , 7 2 6 0 1 12 8 9 3 A B ⎛ ⎞ − 5⎡ ⎤ ⎜ ⎟ = =⎢ ⎥ ⎜ ⎟ ⎣ ⎦ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1.1) จงหามิติของเมทริกซ A และ เมทริกซ B 1.2) จงหา 2 23 32 12( )a b a+ − 1.3) จงหา 22 334 3a b+
  • 13. 13 2. จงเขียนเมทริกซ 4 4[ ]ij xC c= ซึ่ง ijc = 3. จงหาคาของตัวแปร x และ y ที่ทําใหสมการเมทริกซตอไปนี้เปนจริง 3.1) 3 2 3 2 2 1 4 4 x y x y ⎡ ⎤ ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥= − 2⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥0 0⎣ ⎦ ⎣ ⎦ 3.2) 2 2 2 5 5 1 x y y x 7 7⎡ ⎤ ⎡ ⎤ =⎢ ⎥ ⎢ ⎥0 − 0⎣ ⎦ ⎣ ⎦ ,i i j= ,i j i j+ ≠
  • 14. 14 3.3) 2 1 00 24 2 x y yx ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠⎝ ⎠ 4. จงพิจารณาวาเมทริกซที่กําหนดใหบวกกันไดหรือไม ถาไดจงหาผลบวก 4.1) 1 3 2 5 , 5 2 3 4 ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 4.2) 2 3 0 0 , 5 4 0 0 −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 4.3) 1 2 3 5 0 , 3 4 4 0 ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ 8⎝ ⎠ ⎝ ⎠
  • 15. 15 4.4) [ ] 2 3 , 1 4 5 7 ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ 4.5) 2 0 3 , 0 4 ⎡ ⎤ ⎡ ⎤⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎢ ⎥ ⎣ ⎦⎢ ⎥⎣ ⎦ 4.6) 7 5 3 1 2 , 3 1 2 7 5 0⎡ ⎤ ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥0⎣ ⎦ ⎣ ⎦ 5. กําหนด , ,A B C 0 − 2 3 1 − 2 7 5 0 2⎡ ⎤ ⎡ ⎤ ⎡ ⎤ = = =⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥1 4 −1 4 2 −8 3 −1 − 2⎣ ⎦ ⎣ ⎦ ⎣ ⎦ จงหา 5.1) A+B
  • 16. 16 5.2) C-B 5.3) จงหาเมทริกซ X ซึ่งทําให A+X=C 6. กําหนด 0 1 2 1 0 3 2 3 0 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ จงหาคาของ t A A+
  • 17. 17 7. ให 2 3 1 1 1 0 , , 2 4 3 5 0 1 A B C −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ = = =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ และ a b A B C d c ⎛ ⎞ − + = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ แลว จงหาคาของ 2a-b+c+d 6.การคูณเมทริกซดวยสเกลาร ถา A เปนเมทริกซมิติใดๆ และ k เปนจํานวนจริงใดๆ kA คือ เมทริกซที่เกิดจาก การนํา k คูณเขาไปในสมาชิกทุกตัวของเมทริกซ A ij mxn ij mxn A a kA ka ⎡ ⎤= ⎣ ⎦ ⎡ ⎤= ⎣ ⎦
  • 18. 18 ตัวอยาง เชน 1. ถา 1 1 0 3 A 2 6⎡ ⎤ = ⎢ ⎥−⎣ ⎦ จงหา 5 2A A− วิธีทํา 1) หาเมทริกซ 5A 1 1 0 3 A 2 6⎡ ⎤ = ⎢ ⎥−⎣ ⎦ 1) 5 5( 1) 0) 3) 5 A A 5( 5(2) 5(6)⎡ ⎤ = ⎢ ⎥− 5( 5(⎣ ⎦ 5 10 30⎡ ⎤ = ⎢ ⎥−5 0 15⎣ ⎦ 2) หาเมทริกซ 2A 1 1 0 3 A 2 6⎡ ⎤ = ⎢ ⎥−⎣ ⎦ 1) 2 2( 1) 0) 3) 2 A A 2( 2(2) 2(6)⎡ ⎤ = ⎢ ⎥− 2( 2(⎣ ⎦ 2 4 12⎡ ⎤ = ⎢ ⎥−2 0 6⎣ ⎦ 3) หาเมทริกซ 5 2A A− 5 2 5 0 5 2 ( 5 0 5 2 3 0 A A A A A A 5 10 30 2 4 12⎡ ⎤ ⎡ ⎤ − = −⎢ ⎥ ⎢ ⎥− 15 −2 0 6⎣ ⎦ ⎣ ⎦ (5− 2) (10− 4) (30 −12)⎡ ⎤ − = ⎢ ⎥− −(−2)) ( −0) (15− 6)⎣ ⎦ 3 6 18⎡ ⎤ − = ⎢ ⎥− 9⎣ ⎦ 2. ถา 1 0 1 2 A −⎡ ⎤ ⎢ ⎥= 2 1⎢ ⎥ ⎢ ⎥−⎣ ⎦ จงตรวจสอบวา (2 ) 2t t A A= หรือไม วิธีทํา 1) หาเมทริกซ (2 )t A
  • 19. 19 1 0 1 2 A −⎡ ⎤ ⎢ ⎥= 2 1⎢ ⎥ ⎢ ⎥−⎣ ⎦ 2( 1) 0) 2 1) 2) 2 0 2 4 A A − 2(⎡ ⎤ ⎢ ⎥= 2(2) 2(1)⎢ ⎥ ⎢ ⎥2( 2(−⎣ ⎦ −⎡ ⎤ ⎢ ⎥= 4 2⎢ ⎥ ⎢ ⎥2 −⎣ ⎦ (2 )t A −2 4 2⎡ ⎤ = ⎢ ⎥0 2 − 4⎣ ⎦ 2) หาเมทริกซ 2 t A 1 0 1 2 A −⎡ ⎤ ⎢ ⎥= 2 1⎢ ⎥ ⎢ ⎥−⎣ ⎦ 1 1t A − 2⎡ ⎤ = ⎢ ⎥0 1 − 2⎣ ⎦ 2( 1) 1) 2 2 2 t t A A − 2(2) 2(⎡ ⎤ = ⎢ ⎥2(0) 2(1) 2(−2)⎣ ⎦ − 4 2⎡ ⎤ = ⎢ ⎥0 2 − 4⎣ ⎦ 3) (2 ) 2t t A A∴ =
  • 20. 20 สมบัติการคูณเมทริกซดวยสเกลาร ถา ,c d R∈ และ ,A B เปนเมทริกซมิติ mxn ใดๆ 1) 1 A A⋅ = 2) ( 1)A A− = − 3) ( ) ( ) ( )cd A c dA d cA= = 4) ( )c A B cA cB± = ± 5) ( )c d A cA dA+ = + 6) ( )t t cA cA= 7.เมทริกซเอกลักษณสําหรับการคูณ (I) 7.1 เมทริกซจัตุรัส เมทริกซที่มี จํานวนแถว เทากับ จํานวนหลัก ตัวอยาง เชน [ ] 1 2 3 1 2 1 , , ,... 3 4 ⎡ ⎤ ⎡ ⎤ ⎢ ⎥4 5 6⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎣ ⎦ ⎢ ⎥7 8 9⎣ ⎦ เปนตน 7.2 เมทริกซเอกลักษณ (I) ถา A เปนเมทริกซจัตุรัส เรียกสมาชิกในแนวทแยงมุมจากซายบนลงมาลางขวาวา “สมาชิกใน แนวทแยงมุมหลัก” เชน ถา 1 2 3 4 A ⎡ ⎤ = ⎢ ⎥ ⎣ ⎦ สมาชิกในแนวทแยงมุมหลัก คือ 1,4
  • 21. 21 ถา 1 2 3 6 7 8 9 B ⎡ ⎤ ⎢ ⎥= 4 5⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ สมาชิกในแนวทแยงมุมหลัก คือ 1,5,9 เมทริกซเอกลักษณ คือ เมทริกซจัตุรัสที่มีสมาชิกในแนวทแยงมุมหลัก เปน 1 ทั้งหมด และสมาชิกตัวอื่น เปน 0 ทั้งหมด เราใชสัญลักษณ nI แทนเมทริกซเอกลักษณมิติ nxn เชน 2 3 1 0 0 1 0 1 0 0 0 1 I ⎛ ⎞ 0⎡ ⎤ ⎜ ⎟ = , Ι =⎢ ⎥ ⎜ ⎟0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ เปนตน 8.การคูณเมทริกซดวยเมทริกซ 8.1 การพิจารณาวาเมทริกซ 2 เมทริกซคูณกันได ใหเมทริกซ ij mxn ij pxq A a b ⎡ ⎤= ⎣ ⎦ ⎡ ⎤Β = ⎣ ⎦ เมทริกซ A คูณกับ เมทริกซ B เขียนสัญลักษณเปน AxB จะไดเมทริกซ C ซึ่งมีคุณสมบัติดังนี้ ij m x n ij p x qAxB a x b⎡ ⎤ ⎡ ⎤= ⎣ ⎦ ⎣ ⎦ ij m x qC c⎡ ⎤= ⎣ ⎦ AxB สามารถคูณกันได เมื่อ จํานวนหลัก ของเมทริกซ A เทากับจํานวนแถวของเมทริกซ B เมื่อ , , ,m n p q I+ ∈ n p=
  • 22. 22 ตัวอยาง เชน 1. ถา A เปนเมทริกซ มิติ 2 x 3 และ B เปนเมทริกซ มิติ 3 x 2 แลว AxB สามารถคูณกันได เปน เมทริกซ C ที่มีมิติ 2x2 2. ถา A เปนเมทริกซ มิติ 1 x 3 และ B เปนเมทริกซ มิติ 2 x 2 แลว AxB ไม สามารถคูณกันได เพราะจํานวนหลักของเมทริกซ A ไมเทากับจํานวนแถวของเมทริกซ B 8.2 การหาสมาชิกของผลคูณของเมทริกซ A x B C= หรือ อาจเขียน AxB เปน AB ตัวอยาง เชน เทากัน ไมเทากัน เมทริกซตัวตั้ง เมทริกซตัวคูณ เมทริกซผลคูณ สมาชิกของเมทริกซผลคูณ ในแถวที่ i หลักที่ j สมาชิก ในแถวที่ i ของเมทริกซตัวตั้ง สมาชิก ในหลักที่ j ของเมทริกซตัวคูณx คูณกันเปนคูๆตามลําดับ แลวนํามาบวกกัน
  • 23. 23 1. ถา 2 A 1 2⎡ ⎤ ⎢ ⎥= −1 0⎢ ⎥ ⎢ ⎥3⎣ ⎦ และ B 1 5 2⎡ ⎤ = ⎢ ⎥−2 0 1⎣ ⎦ จงหา AB วิธีทํา 2 3 3 2 3 3 3 5 4 1 5 2 2 1 15 8x x x 1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞ 1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠ 3 5 4 1 5 2 2 1 15 8 1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞ 1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠ 3 5 4 1 5 2 2 1 15 8 1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞ 1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠ 3 5 4 1 5 2 2 1 15 8 1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞ 1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠ (1)(1)+(2)(-2)= -3 เทากันคูณกันได (1)(5)+(2)(0)= 5 (1)(2)+(2)(1)= 4 (-1)(1)+(0)(-2)= -1
  • 24. 24 3 5 4 1 5 2 2 1 15 8 1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞ 1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠ 3 5 4 1 5 2 2 1 15 8 1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞ 1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠ 3 5 4 1 5 2 2 1 15 8 1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞ 1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠ 3 5 4 1 5 2 2 1 15 8 1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞ 1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠ 3 5 4 1 5 2 2 1 15 8 1 2 −⎡ ⎤ ⎛ ⎞ 1 5 2⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥−1 0 ⋅ = − − −⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥ −2 0 1⎣ ⎦ ⎜ ⎟⎢ ⎥3 −⎣ ⎦ ⎝ ⎠ (-1)(5)+(0)(0)= -5 (-1)(2)+(0)(1)= -2 (3)(1)+(2)(-2)= -1 (3)(5)+(2)(0)= 15 (3)(2)+(2)(1)= 8
  • 25. 25 2. ถา 1 2 1 2 1 2 1 1 2 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ 1 0 0 0 1 0 0 0 1 B ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา AxB วิธีทํา 1) พิจารณาวา AxB สามารถคูณกันได 3 3 3 3 1 2 1 1 0 0 2 1 2 0 1 0 1 1 2 0 0 1x x x ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 2) 1 2 1 1 0 0 (1)(1) (2)(0) (1)(0) (1)(0) (2)(1) (1)(0) (1)(0) (2)(0) (1)(1) 2 1 2 0 1 0 (2)(1) (1)(0) (2)(0) (2)(0) (1)(1) (2)(0) (2)(0) (1)(0) (2)(1) 1 1 2 0 0 1 (1)(1) (1)(0) (2)(0) (1)(0) (1)(1) (2)(0) x + + + + + +⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ = + + + + + +⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ + + + +⎝ ⎠ ⎝ ⎠ (1)(0) (1)(0) (2)(1) ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟+ +⎝ ⎠ 1 2 1 1 0 0 1 2 1 2 1 2 0 1 0 2 1 2 1 1 2 0 0 1 1 1 2 x ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 3. ถา [ ]2 1 1A = − และ B 1 0⎡ ⎤ ⎢ ⎥= 1 2⎢ ⎥ ⎢ ⎥2 0⎣ ⎦ จงตรวจสอบวา ( )t t t A B B A⋅ = ⋅ วิธีทํา 1) หา ( )t A B⋅ [ ]2 1 1A B = − 1 0⎡ ⎤ ⎢ ⎥= 1 2⎢ ⎥ ⎢ ⎥2 0⎣ ⎦ [ ] [ ] [ ] [ ] 2 1 1 (2)(1) ( 1)(1) (1)(2) (2)(0) ( 1)(2) (1)(0) 2 1 2 0 2 0 3 2 A B A B A B A B 1 0⎡ ⎤ ⎢ ⎥⋅ = − ⋅ 1 2⎢ ⎥ ⎢ ⎥2 0⎣ ⎦ ⋅ = + − + + − + ⋅ = − + − + ⋅ = − 3 ( ) 2 t A B ⎡ ⎤ ⋅ = ⎢ ⎥−⎣ ⎦ เทากันคูณกันได
  • 26. 26 2) หา t t B A⋅ B 1 0⎡ ⎤ ⎢ ⎥= 1 2⎢ ⎥ ⎢ ⎥2 0⎣ ⎦ [ ]2 1 1A = − t B 1 1 2⎡ ⎤ = ⎢ ⎥0 2 0⎣ ⎦ 2 1 1 t A ⎡ ⎤ ⎢ ⎥= −⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ 2 1 1 (1)(2) (1)( 1) (2)(1) (0)(2) (2)( 1) (0)(1) 2 1 2 0 2 0 3 2 t t t t t t t t B A B A B A B A ⎡ ⎤ 1 1 2⎡ ⎤ ⎢ ⎥= −⎢ ⎥ ⎢ ⎥0 2 0⎣ ⎦ ⎢ ⎥⎣ ⎦ + − +⎡ ⎤ = ⎢ ⎥+ − +⎣ ⎦ − +⎡ ⎤ = ⎢ ⎥− +⎣ ⎦ ⎡ ⎤ ∴ = ⎢ ⎥−⎣ ⎦ 3) ( )t t t AB B A∴ = ⋅
  • 27. 27 สมบัติการคูณของเมทริกซ ถา S เปนเซตของเมทริกซมิติใดๆ และ , ,A B C S∈ 1) A B S⋅ ∈ 2) ( ) ( )AB C A BC= 3) IA AI A= = เมื่อ A เปนเมทริกซจัตุรัส และ I เปนเมทริกซเอกลักษณที่มีมิติเดียวกับ A 4) ( ) ( ) A B C AB AC B C A BA CA + = + + = + 5) ( )t t t AB B A= แบบฝกหัด 1. กําหนดให 1 3 4 5 A −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ 0 4 2 1 B ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ จงหาเมทริกซตอไปนี้ 1.1) 4A
  • 28. 28 1.2) 3B− 1.3) A− 1.4) 2 3B A− 2. กําหนดให 2 5 4 1 A −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ และ 4 3 1 2 B ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ จงหาคาของ 2 t A B−
  • 29. 29 3. กําหนดให 2 1 4 3 0 5 A −⎡ ⎤ = ⎢ ⎥ ⎣ ⎦ และ 1 0 1 2 4 3 B ⎡ ⎤ ⎢ ⎥= −⎢ ⎥ ⎢ ⎥−⎣ ⎦ จงหา ,AB BA และ ( )t AB
  • 30. 30 4. จงหาผลคูณของเมทริกซตอไปนี้ 4.1) [ ] 1 2 1 1 3 4 x ⎡ ⎤ ⎢ ⎥− ⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ 4.2) [ ] 5 3 2 1 x ⎡ ⎤ ⎢ ⎥0 − 4 −⎢ ⎥ ⎢ ⎥−⎣ ⎦ 4.3) 8 2 3 2 x ⎡ ⎤ 1 8⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥−1 0 4⎣ ⎦ ⎢ ⎥⎣ ⎦
  • 31. 31 4.4) 4 5 0 x −⎡ ⎤ 3 − 2 1⎡ ⎤ ⎢ ⎥−⎢ ⎥ ⎢ ⎥0 5 7⎣ ⎦ ⎢ ⎥⎣ ⎦ 4.5) 1 0 1 1x ⎡ ⎤ 2 4 5⎡ ⎤ ⎢ ⎥−⎢ ⎥ ⎢ ⎥3 2 8⎣ ⎦ ⎢ ⎥0 −1⎣ ⎦
  • 32. 32 4.6) 1 2 3 4 x ⎡ ⎤ 1 −5 4 3⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥2 3 4 2⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥3 2 3 2 ⎢ ⎥⎣ ⎦ ⎣ ⎦ 5. จงหา 3 A เมื่อกําหนดเมทริกซ A ตอไปนี้ 5.1) 1 1 0 1 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠
  • 33. 33 5.2) 1 0 0 1 −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ 6. กําหนด 2 2 1 , , 3 2 0 1 x y y a A B C z y +⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ = = =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ถา AB C= แลว a=?
  • 34. 34 7. จงหาคาของ x ที่ทําให [ ]2 3 4 2 1 1 6 0 1 1 0 5 2 1 2 x x ⎛ ⎞⎡ ⎤ ⎜ ⎟⎢ ⎥⎡ ⎤ − − =⎣ ⎦⎜ ⎟⎢ ⎥ ⎜ ⎟⎢ ⎥−⎝ ⎠⎣ ⎦ 8. กําหนด 0 6 6 , 4 2 4 4 a A B ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ = =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ ⎝ ⎠ และ 0 4 0 4 C ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ คา a ที่สอดคลองกับ สมการ ( ) ( ) (4 )t t t t t A B B A C+ = มีคาเทากับเทาใด
  • 35. 35 9.ดีเทอรมิแนนต (Determinant) เมทริกซที่สามารถหาคาดีเทอรมิแนนตได ก็ตอเมื่อ เมทริกซนั้นตองเปนเมทริกซจัตุรัส 9.1 ดีเทอรมิแนนตของเมทริกซมิติ 2x2 ถา เมทริกซ a b A c d ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ เมทริกซ A สามารถหาคาดีเทอรมิแนนตของ A เขียน แทนดวย det(A) หรือ A det( ) a b A ad bc c d = = − หลักการจํา a b A ad bc c d = = − ตัวอยาง เชน 1. ถา 2 2 2 4 A ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา det( )A วิธีทํา det( ) (2)(2) 8 4 4 A 2 2 = = (2)(4) − 2 4 = − = (+) (-) (+) (-) det( )A
  • 36. 36 2. ถา 1 5 0 4 B ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา det( )B วิธีทํา det( ) (0)(5) 4 0 4 B 1 5 = = (1)(4) − 0 4 = − = 3. ถา 1 1 1 0 C −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ จงหา det( )C วิธีทํา det( ) ( 1)(1) 0 1 1 C −1 1 = = (−1)(0) − − −1 0 = + = 9.2 ดีเทอรมิแนนตของเมทริกซมิติ 3x3 ถา เมทริกซ 11 12 13 21 22 23 31 32 33 a a a A a a a a a a ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ สามารถหา det(A) ไดดังนี้ 11 12 13 11 12 21 22 23 21 22 31 32 33 31 32 11 22 33 12 23 31 13 21 32 31 22 13 32 23 11 33 21 det( ) ( )( )( ) ( )( )( ) ( )( )( ) ( )( )( ) ( )( )( ) ( )( ) a a a a a A a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a = = + + − − − 12( )a (+) (-) det( )B (+) (-) det( )C (+) (+) (+) (-) (-) (-)
  • 37. 37 ตัวอยาง เชน 1. ถา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา det(A) วิธีทํา 1 2 3 2 det( ) 4 5 6 4 5 7 8 9 7 8 (1)(5)(9) (2)(6)(7) (3)(4)(8) (7)(5)(3) (8)(6)(1) (9)(4)(2) 45 84 96 105 48 72 0 A 1 = = + + − − − = + + − − − = 2. ถา 2 3 0 1 0 0 a A b c ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา det(A) วิธีทํา 2 3 2 det( ) (2)(1)(0) (3)(0)(0) (0)( )(3) (0)(1)(9) ( )(0)(2) 0 0 0 0 0 a a A b b c abc b c abc abc = 0 1 0 0 0 0 0 = + + − − − = + + − − − = (+)(+)(+) (-) (-)(-) (+)(+)(+) (-) (-)(-)
  • 38. 38 9.3 การหาดีเทอรมิแนนตโดยวิธีตัวประกอบรวมเกี่ยว(Co-factor) 9.3.1 ไมเนอร (Minor) ของสมาชิกในเมทริกซ ไมเนอร (Minor) ของสมาชิกในเมทริกซ A คือ ดีเทอรมิแนนตของเมทริกซที่เกิดจาก การตัดแถวและหลักที่สมาชิกนั้นอยูออกไป ใชสัญลักษณ ( )ijM A แทน ไมเนอรของสมาชิก ในแถวที่ i หลักที่ j ของเมทริกซ A ตัวอยาง เชน 1. ถา 1 2 3 3 1 2 2 3 1 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จะสามารถหาไมเนอรของสมาชิกตางๆในเมทริกซ A ได ดังนี้ 11( )M A 1 2 3 3 1 2 2 3 1 1 2 3 1 5− 12 ( )M A 1 2 3 3 1 2 2 3 1 3 2 2 1 1− 13 ( )M A 1 2 3 3 1 2 2 3 1 3 1 2 3 7 21( )M A 1 2 3 3 1 2 2 3 1 2 3 3 1 7−
  • 39. 39 22 ( )M A 1 2 3 3 1 2 2 3 1 1 3 2 1 5− 23 ( )M A 1 2 3 3 1 2 2 3 1 1 2 2 3 1− 31( )M A 1 2 3 3 1 2 2 3 1 2 3 1 2 1 32 ( )M A 1 2 3 3 1 2 2 3 1 1 3 3 2 7− 33 ( )M A 1 2 3 3 1 2 2 3 1 1 2 3 1 5− 9.3.2 ตัวประกอบรวมเกี่ยว (Co-factor) ของสมาชิกในเมทริกซ ตัวประกอบรวมเกี่ยว (Co-factor) ของสมาชิกในแถวที่ i และหลักที่ j เขียนแทนดวย ( )ijC A คือ ผลคูณของ ( ) ( 1) i j+ − กับ ( )ijM A ( ) ( ) ( 1) ( )i j ij ijC A M A+ = − ตัวอยาง เชน
  • 40. 40 1. จากตัวอยางที่แลวในหัวขอของไมเนอร ถา 1 2 3 3 1 2 2 3 1 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ สามารถหา ( )ijC A ของสมาชิกตางๆในเมทริกซ A ไดดังนี้ (1 1) 2 11 11( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 5) 5C A M A+ = − = − − = − (1 2) 3 12 12( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 1)C A M A+ = − = − − = 1 (1 3) 4 13 13( ) ( 1) ( ) ( 1) (7)C A M A+ = − = − = 7 (2 1) 3 21 21( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 7)C A M A+ = − = − − = 7 (2 2) 4 22 22( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 5) 5C A M A+ = − = − − = − (2 3) 5 23 23( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 1)C A M A+ = − = − − = 1 (3 1) 4 31 31( ) ( 1) ( ) ( 1) (1)C A M A+ = − = − = 1 (3 2) 5 32 32( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 7)C A M A+ = − = − − = 7 (3 3) 6 33 33( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 5) 5C A M A+ = − = − − = − 9.3.3 การหาดีเทอรมิแนนตแบบใชตัวประกอบรวมเกี่ยว ถา 11 12 13 21 22 23 31 32 33 a a a A a a a a a a ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ det( )A 11 12 13 21 22 23 31 32 33 a a a a a a a a a ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 11 11 12 12 13 13a C a C a C+ +
  • 41. 41 11 12 13 21 22 23 31 32 33 a a a a a a a a a ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 21 21 22 22 23 23a C a C a C+ + 11 12 13 21 22 23 31 32 33 a a a a a a a a a ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 31 31 32 32 33 33a C a C a C+ + 11 12 13 21 22 23 31 32 33 a a a a a a a a a ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 11 11 21 21 31 31a C a C a C+ + 11 12 13 21 22 23 31 32 33 a a a a a a a a a ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 12 12 22 22 32 32a C a C a C+ + 11 12 13 21 22 23 31 32 33 a a a a a a a a a ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 13 13 23 23 33 33a C a C a C+ + การหา det(A) โดยวิธีนี้ สามารถหาได 6 แบบ ซึ่งทั้ง 6 แบบ จะใหคาออกมา เทากัน คือ เปนคาของ det(A)……… ตัวอยาง เชน 1. กําหนดให 2 3 0 1 0 0 a A b c ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา det(A) วิธีทํา 1) เลือก แถว หรือ หลัก ของเมทริกซที่ทําใหสามารถหาคา det(A) ไดโดยงาย
  • 42. 42 2 3 0 1 0 0 a b c 31 32 33(0) (0) ( )C C c C+ + det( )A 33cC 2) หา 33 ( )C A 33 ( )M A 2 3 0 1 0 0 a b c 2 0 a b ab (3 3) 33 33 6 ( ) ( 1) ( ) ( 1) ( ) C A M A ab ab + = − = − = 3) 33det( ) ( )A cC c ab abc= = = 2. กําหนดให 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา det(A) วิธีทํา 1) เลือก แถว หรือ หลัก ของเมทริกซ A
  • 43. 43 1 2 3 4 5 6 7 8 9 11 12 13(1) (2) (3)C C C+ + det( )A 11 12 132 3C C C+ + 2) หา 11 12,C C และ 13C 11( )M A 1 2 3 4 5 6 7 8 9 5 6 8 9 3− 12 ( )M A 1 2 3 4 5 6 7 8 9 4 6 7 9 6− 13 ( )M A 1 2 3 4 5 6 7 8 9 4 5 7 8 3− (1 1) 2 11 11( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 3) 3C A M A+ = − = − − = − (1 2) 3 12 12( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 6)C A M A+ = − = − − = 6
  • 44. 44 (1 3) 4 13 13( ) ( 1) ( ) ( 1) ( 3) 3C A M A+ = − = − − = − 3) 11 12 13det( ) 2 3A C C C= + + ( 3) 2(6) 3( 3) ( 3) 12 9 0 = − + + − = − + − = สมบัติของดีเทอรมิแนนต ให , ,A B C เปนเมทริกซจัตุรัสที่มีมิติ nxn ใดๆ 1) t A A= 2) n kA k A= 3) AB A B= 4) mm A A= 5) 1 1 A A − = เมื่อ 1 A− คือ เมทริกซผกผันการคูณของเมทริกซ A 10.ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ 10.1 ตัวผกผันการคูณของเมทริกซที่มีมิติ 2x2 ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ A คือ เมทริกซที่คูณกับเมทริกซ A แลวไดเมทริกซ เอกลักษณ (I) ใชสัญลักษณ 1 A− แทน ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ A 1 1 A A A A I− − ⋅ = ⋅ =
  • 45. 45 ถา a b A c d ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 d b A c aad bc − −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −− ⎝ ⎠ ตัวอยาง เชน 1. ถา 1 2 3 4 A ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา 1 A− วิธีทํา จากสูตร 1 1 d b A c aad bc − −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −− ⎝ ⎠ 4 21 3 1(1)(4) (3)(2) 4 21 3 12 2 1 3 1 2 2 −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −− ⎝ ⎠ −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −− ⎝ ⎠ −⎛ ⎞ ⎜ ⎟= −⎜ ⎟ ⎝ ⎠ การตรวจสอบ จากผลลัพธที่ได คือ เมทริกซ 2 1 3 1 2 2 −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 2 1 2 1 1 2 1 2 1 0 3 1 3 1 3 4 3 4 0 1 2 2 2 2 − −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎜ ⎟ ⎜ ⎟= =− −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
  • 46. 46 1) 3 1 2 1 (1)( 2) (2)( ) (1)(1) (2)( ) 1 2 2 2 3 1 3 4 3 1 (3)( 2) (4)( ) (3)(1) (4)( )2 2 2 2 −⎛ ⎞ − − + +⎛ ⎞ ⎜ ⎟⎛ ⎞⎜ ⎟ = ⎜ ⎟−⎜ ⎟⎜ ⎟ −⎝ ⎠ ⎜ ⎟− + +⎜ ⎟⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 2 3 1 1 6 6 3 2 1 0 0 1 − + −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ − + −⎝ ⎠ ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 2) 2 1 ( 2)(1) (1)(3) ( 2)(2) (1)(4) 1 2 3 1 3 1 3 1 3 4 ( )(1) ( )(3) ( )(2) ( )(4) 2 2 2 2 2 2 − − + − +⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎜ ⎟ ⎜ ⎟=− − −⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟+ +⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 2 3 4 4 3 3 3 2 2 2 1 0 0 1 − + − +⎛ ⎞ ⎜ ⎟= ⎜ ⎟− − ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 3) 1 2 1 1 2 3 1 3 4 2 2 − −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟∴ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 2. ถา 2 4 1 5 A ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ 3 5 B ⎡ ⎤ = ⎢ ⎥ ⎣ ⎦ แลว คา x+y ที่ไดจากสมการ 1 x A B y − ⎡ ⎤ =⎢ ⎥ ⎣ ⎦ คือเทาใด วิธีทํา 1) ใชสมบัติ 1 1 A A A A I− − ⋅ = ⋅ = จากสมการ 1 x A B y − ⎡ ⎤ =⎢ ⎥ ⎣ ⎦ นําเมทริกซ A คูณทั้ง 2 ขาง
  • 47. 47 1 1 x A A AB y x AA AB y x I AB y x AB y − − ⎡ ⎤⎡ ⎤ =⎢ ⎥⎢ ⎥ ⎣ ⎦⎣ ⎦ ⎡ ⎤ ⎡ ⎤ =⎢ ⎥⎣ ⎦ ⎣ ⎦ ⎡ ⎤ =⎢ ⎥ ⎣ ⎦ ⎡ ⎤ ∴ =⎢ ⎥ ⎣ ⎦ 2) หา x y ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎣ ⎦ 2 4 3 1 5 5 (2)(3) (4)(5) (1)(3) (5)(5) 26 28 x AB y x y x y x y ⎡ ⎤ =⎢ ⎥ ⎣ ⎦ ⎡ ⎤ ⎛ ⎞⎡ ⎤ = ⎜ ⎟⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎣ ⎦ ⎝ ⎠⎣ ⎦ +⎡ ⎤ ⎡ ⎤ =⎢ ⎥ ⎢ ⎥+⎣ ⎦ ⎣ ⎦ ⎡ ⎤ ⎡ ⎤ ∴ =⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎣ ⎦ ⎣ ⎦ 26, 28x y∴ = = 3) 26 28 54x y+ = + = 3. ถา 1 1 2 1 A −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ 2 1 3 2 B ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ 1 2C A B− = + แลว det( )C เทากับเทาใด วิธีทํา
  • 48. 48 1) หา 1 A− 1 1 2 1 A −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 11 2 1( 1)(1) (2)(1) A− −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ − −− − ⎝ ⎠ 1 11 2 13 1 1 3 3 2 1 3 3 −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ − −− ⎝ ⎠ −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 2) หา C 1 2 1 1 2 13 3 2 2 1 3 2 3 3 1 1 4 23 3 2 1 6 4 3 3 11 7 3 3 20 13 3 3 C A B C C C − = + −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎛ ⎞ = +⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎛ ⎞ = +⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 3) หา det( )C
  • 49. 49 11 7 3 3 det( ) 20 13 3 3 11 13 20 7 ( )( ) ( )( ) 3 3 3 3 1 3 C = = − = 4. ถา 1 2 3 A a ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ 1 1 2 1 B −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ 1 1 2C AB B− − = + แลวคาของ a ที่ทําให det( ) 1C = เทากับเทาใด วิธีทํา 1) จาก 1 1 2C AB B− − = + 1 [2 ]C A I B− = + นําเมทริกซ B คูณทั้ง 2 ขาง 1 1 [[2 ] ] [2 ][ ] [2 ][ ] 2 CB A I B B CB A I B B CB A I I CB A I − − = + = + = + ∴ = + 2) จาก 2CB A I= + ใส det เขาไปทั้ง 2 ขาง 2 2 CB A I C B A I = + = + จากโจทย det(C)=1 และ det( ) ( 1)(1) (2)(1) 1 2 3 B = − − = − − = − 1 1 2 1 B −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (1)( 3) 2 2 3 A I A I − = + ∴ + = −
  • 50. 50 3) หา 2A I+ 1 2 1 0 2 2 3 0 1 2 4 1 0 2 6 0 1 3 4 2 7 A I a a a ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ + = +⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ = +⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 3 4 2 (3)(7) (2 )(4) 2 7 21 8 A I a a a + = = − = − 4) หา a จาก 2 3A I+ = − 21 8 3 21 3 8 24 8 3 a a a a − = − + = = ∴ = 10.2 ตัวผกผันการคูณของเมทริกซที่มีมิติ 3x3 10.2.1 เมทริกซผูกพันของ A (Adjoint Matrix) คือ เมทริกซที่เกิดจากการนําเอาตัวประกอบรวมเกี่ยว(Co-factor) ของสมาชิก ija คือ ( )ijC A ไปแทนที่สมาชิก ija หลังจากนั้นนําเมทริกซดังกลาวไปหาเมทริกซสลับเปลี่ยน เราใช สัญลักษณ ( )adj A แทน “เมทริกซผูกพันของ A” ( ) [ ( )]t ijadj A C A= 10.2.2 เมทริกซผกผันของ A (Inverse Matrix) เราใชสัญลักษณ 1 A− แทน “เมทริกซผกผันของเมทริกซ A” สามารถหาไดตามสูตร
  • 51. 51 1 1 [ ( )] det( ) A adj A A − = ขอสังเกต 1) ถาเมทริกซ A มีคา det( ) 0A = เราจะไมสามารถหาเมทริกซ 1 A− ได 2) เมทริกซ A ที่มีคา det( ) 0A = นี้ เราเรียกเมทริกซพวกนี้วา “เมทริกซเอกฐาน” ตัวอยาง เชน 1. ให 1 0 1 2 1 0 1 1 1 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ จงหา 1 A− วิธีทํา 1) หา det(A) 1 0 det( ) (1)(1)(1) (0)(0)(1) (1)(2)( 1) (1)(1)(1) ( 1)(0)(1) (1)(2)(0) 1 0 2 1 0 0 2 A 1 1 0 = 2 1 0 2 1 1 −1 1 1−1 = + + − − − − − = + − − − − = − 2) หา ( )adj A (1 1) 2 11 1 0 ( ) ( 1) ( 1) 1 1 C A + ⎛ ⎞ = − = − [(1)(1)−(−1)(0)] = 1⎜ ⎟ −⎝ ⎠ (1 2) 3 12 2 0 ( ) ( 1) ( 1) 1 1 C A + ⎛ ⎞ = − = − [(2)(1)−(1)(0)] = − 2⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (+)(+)(+) (-) (-)(-) det( ) 0A ≠ แสดง วาสามารถหา 1 A− ได
  • 52. 52 (1 3) 4 13 2 1 ( ) ( 1) ( 1) 1 1 C A + ⎛ ⎞ = − = − [(2)(−1)−(1)(1)] = −3⎜ ⎟ −⎝ ⎠ (2 1) 3 21 0 1 ( ) ( 1) ( 1) 1 1 C A + ⎛ ⎞ = − = − [(0)(1)−(−1)(1)] = −1⎜ ⎟ −⎝ ⎠ (2 2) 4 22 1 1 ( ) ( 1) ( 1) 1 1 C A + ⎛ ⎞ = − = − [(1)(1)−(1)(1)] = 0⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (2 3) 5 23 1 0 ( ) ( 1) ( 1) 1 1 C A + ⎛ ⎞ = − = − [(1)(−1)−(1)(0)] = 1⎜ ⎟ −⎝ ⎠ (3 1) 4 31 0 1 ( ) ( 1) ( 1) 1 0 C A + ⎛ ⎞ = − = − [(0)(0)−(1)(1)] = −1⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (3 2) 5 32 1 1 ( ) ( 1) ( 1) 2 0 C A + ⎛ ⎞ = − = − [(1)(0)−(2)(1)] = 2⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (3 3) 6 33 1 0 ( ) ( 1) ( 1) 2 1 C A + ⎛ ⎞ = − = − [(1)(1)−(2)(0)] = 1⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ( ) [ ( )] 1 2 3 1 0 1 1 2 1 1 1 1 2 0 2 3 1 1 t ij t adj A C A= − −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ − −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ 3) หา 1 A−
  • 53. 53 จาก 1 1 [ ( )] det( ) A adj A A − = 1 1 1 1 1 1 2 0 2 2 3 1 1 1 1 1 2 2 2 1 0 1 3 1 1 2 2 2 A A − − − −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟− ⎜ ⎟−⎝ ⎠ −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟− − ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 2. ถา 0 0 0 0 0 0 a A b c ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ A ไมเปนเมทริกซเอกฐาน แลว จงหา 1 A− วิธีทํา 1) เมทริกซ A ไมเปน เมทริกซเอกฐาน (det( ) 0)A ≠ …….สามารถหา 1 A− ได 2) หา det( )A 0 det( ) (0)(0)(0) (0)(0)(0) (0)( )(0) (0)(0)(0) ( )(0)(0) a a A b b c abc b c abc 0 0 = 0 0 0 0 0 0 0 = + + − − − = 3) หา ( )adj A (1 1) 2 11 0 ( ) ( 1) ( 1) ) 0 b C A bc bc c + ⎛ ⎞ = − = − ]( =⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (1 2) 3 12 0 0 ( ) ( 1) ( 1) 0 C A c + ⎛ ⎞ = − = − (0) = 0⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (+)(+)(+) (-) (-)(-)
  • 54. 54 (1 3) 4 13 0 ( ) ( 1) ( 1) 0 0 b C A + ⎛ ⎞ = − = − (0) = 0⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (2 1) 3 21 0 0 ( ) ( 1) ( 1) 0 C A c + ⎛ ⎞ = − = − (0) = 0⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (2 2) 4 22 0 ( ) ( 1) ( 1) ) 0 a C A ac ac c + ⎛ ⎞ = − = − ( =⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (2 3) 5 23 0 ( ) ( 1) ( 1) 0 0 a C A + ⎛ ⎞ = − = − (0) = 0⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (3 1) 4 31 0 0 ( ) ( 1) ( 1) 0 C A b + ⎛ ⎞ = − = − (0) = 0⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (3 2) 5 32 0 ( ) ( 1) ( 1) 0 0 a C A + ⎛ ⎞ = − = − (0) = 0⎜ ⎟ ⎝ ⎠ (3 3) 6 33 0 ( ) ( 1) ( 1) ) 0 a C A ab ab b + ⎛ ⎞ = − = − ( =⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ( ) [ ( )] 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 t ij t adj A C A bc ac ab bc ac ab = ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 4.หา 1 A−
  • 55. 55 1 1 1 1 [ ( )] det( ) 0 0 1 0 0 0 0 1 0 0 1 0 0 1 0 0 A adj A A bc A ac abc ab a A b c − − − = ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟= ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 3. ถา 2 1 0 3 0 0 4 3 5 0 3 0 2 6 8 0 0 3 A ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ แลว จงหา 1 A− วิธีทํา จาก……………. 2 1 0 3 0 0 4 3 5 0 3 0 2 6 8 0 0 3 A ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 1 1 2 1 0 1 0 0 4 3 5 3 0 1 0 2 6 8 0 0 1 2 1 0 4 3 5 3 2 6 8 2 1 0 2 1 0 2 1 0 4 3 5 4 3 5 3 4 3 5 2 6 8 2 6 8 2 6 8 A A I A I − − ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ =⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠
  • 56. 56 สมบัติของเมทริกซผกผันการคูณ ให A เปนเมทริกซจัตุรัส มิติ nxn ใดๆ และ k R∈ 1 1 11 1 11 1 1 1 1 2 1 0 3 4 3 5 2 6 8 2 1 0 3 4 3 5 2 6 8 2 1 0 3 4 3 5 2 6 8 2 1 0 (3 ) 4 3 5 2 6 8 2 1 0 1 4 3 5 3 2 6 8 2 1 0 3 3 4 5 1 3 3 2 8 2 3 3 AI A A A A A − − −− − −− − − − − ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎡ ⎤⎛ ⎞ ⎢ ⎥⎜ ⎟ = ⎢ ⎥⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎢ ⎥ ⎝ ⎠⎣ ⎦ ⎡ ⎤⎛ ⎞ ⎢ ⎥⎜ ⎟ = ⎢ ⎥⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎢ ⎥ ⎝ ⎠⎣ ⎦ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟= ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠
  • 57. 57 1) 1 1 AA A A I− − = = เมื่อ I เปนเมทริกซเอกลักษณที่มีมิติเดียวกับ A 2) 1 1 ( )A A− − = 3) 1 11 ( ) ( )kA A k − − = เมื่อ 0k ≠ 4) 1 1 1 ( )AB B A− − − = 5) 1 1 ( ) ( )t t A A− − = 4. ถา 0 2 1 0 0 5 0 0 0 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา B ซึ่งทําให 3 A B I= วิธีทํา 1) จาก ……………….. 3 A B I= 3 1 [ ]B A − ∴ = 2) หา 3 A เริ่มจาก…… 2 0 2 1 0 2 1 0 0 5 0 0 5 0 0 0 0 0 0 A AA ⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎜ ⎟⎜ ⎟ = = ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠⎝ ⎠ (0)(0) (2)(0) (1)(0) (0)(2) (2)(0) (1)(0) (0)(1) (2)(5) (1)(0) (0)(0) (0)(0) (5)(0) (0)(2) (0)(0) (5)(0) (0)(1) (0)(5) (5)(0) (0)(0) (0)(0) (0)(0) (0)(2) (0)(0) (0)(0) (0)(1) (0)(5) ( + + + + + + = + + + + + + + + + + + + 0)(0) 0 0 10 0 0 0 0 0 0 ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥⎣ ⎦ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠
  • 58. 58 3 2 0 0 10 0 2 1 0 0 0 0 0 5 0 0 0 0 0 0 A A A ⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎜ ⎟⎜ ⎟ = = ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠⎝ ⎠ (0)(0) (0)(0) (10)(0) (0)(2) (0)(0) (10)(0) (0)(1) (0)(5) (0)(0) (0)(0) (0)(0) (0)(0) (0)(2) (0)(0) (0)(0) (0)(1) (0)(5) (0)(0) (0)(0) (0)(0) (0)(0) (0)(2) (0)(0) (0)(0) (0)(1 + + + + + + = + + + + + + + + + + ) (0)(5) (0)(0) 0 0 0 0 0 0 0 0 0 ⎡ ⎤ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥ ⎢ ⎥+ +⎣ ⎦ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 3) หา 3 1 [ ]A − เมทริกซ 3 A เปนเมทริกซเอกฐาน เพราะวา คา 3 det( ) 0A = จึงไมสามารถหาเมทริกซ 3 1 [ ]A − ได……..จาก 3 1 [ ]B A − = จึงไมมีเมทริกซ B ซึ่งทําให 3 A B I= แบบฝกหัด 1. จงหาดีเทอรมิแนนตของเมทริกซตอไปนี้ 1.1) 1 2 4 6 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠
  • 59. 59 1.2) 2 1x xy x y ⎛ ⎞− ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ 1.3) 1 0 1 2 3 4 1 5 2 −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1.4) 0 1 4 2 1 2 1 1 0 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠
  • 60. 60 1.5) 1 2 5 2 2 0 1 2 1 3 8 0 1 1 2 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟−⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−1⎝ ⎠ 2. กําหนด 6 5 6 0 9 1 1 x x 5 7 5 6 − + = 8 8 9 จงหาคา x
  • 61. 61 3. กําหนดให 1 3 0 2 A −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ 3 4 1 2 B ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหาคาของ 3.1) det(A) 3.2) det(B) 3.3) det( )t A 3.4) det(AB) 3.5) det(BA)
  • 62. 62 3.6) det(A+B) 3.7) 1 det( )A− 3.8) 1 det( )B− 4. กําหนด 1 2 2 1 2 1 , , 3 4 3 0 4 3 A B C −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ = = =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ และ 2 3 2 4 D ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหา det(ABCD)
  • 63. 63 5. กําหนด 1 3 2 2 A −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ และ 2 1 1 4 B −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ จงหาคาของ 1 2 det(2 )t A B− 6. กําหนด 2 0 1 1 A −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ และ 2 1 A B A− = จงหาคาของ det(2B)
  • 64. 64 7. ถา 5 4 6 2 0 7 1 2 0 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหาคาของ 7.1) 13 ( )C A 7.2) 23 ( )C A 7.3) 33 ( )C A
  • 65. 65 8. กําหนด 4 3 8 0 1 x y A x y ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟− −⎝ ⎠ โดยที่ 21( ) 6C A = − และ 23 ( ) 4C A = แลว 33 ( )C A เทากับเทาใด
  • 66. 66 9. ให A,B และ C เปน nxn เมทริกซ เมื่อ n เปนจํานวนเต็มที่มากกวา 2 และ det(A)=1 , det(B)=2 และ det(C)=-3 แลวจงหา 9.1) 2 1 det( )t A BC B− 9.2) 1 1 det( )t BC AB C− − 10. ถา 2 2 2 2 2 2 sin 1 cos sin 1 cos sin 1 cos A A A B B C C ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จงหาคาของ 2 det( )A
  • 67. 67 11. กําหนดให A และ B เปนเมทริกซมิติ 2x2 ถา 5 4 2 8 16 A B ⎛ ⎞ + = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ 2 1 1 5 A B ⎛ ⎞ − = ⎜ ⎟ − −⎝ ⎠ จงหา 1 det(2 )A B−
  • 68. 68 12. กําหนดให A เปนเมทริกซมิติ 2x2 และ det(A)=4 ถา I เปนเมทริกซเอกลักษณ และ A-3I เปนเมทริกซเอกฐาน แลว det(A+3I) เทากับเทาใด
  • 69. 69 13. ให A,B และ C เปนเมทริกซมิติ 3x3 ถา det(A)=-3 และ 1 2 3t t t A B A C A− − = − จงหา det(2 )t C B− 14. จงหา 1 A− 14.1) 1 0 2 2 6 4 3 1 6 A −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠
  • 70. 70 14.2) 1 1 1 1 0 1 1 1 0 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 15. กําหนดให 1 1 2 1 A −⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ถา B เปนเมทริกซ ที่ 1 2B A− = แลวจงหาคาของ det(3 )adjB
  • 71. 71 16. ให A เปนเมทริกซ และ I เปนเมทริกซเอกลักษณมิติ 3x3 ถา 1 2 1 0 2 3 3 0 1 , 3 1 2 2 1 0 0 2 1 B C − −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ = = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ ⎝ ⎠ สอดคลองกับสมการ 1 0 2 AB AC I− − = จงหา 1 A−
  • 72. 72 17. ถา 1 1 1 1 2 0 0 1 , 0 1 1 0 1 1 0 a b A A c d − − −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ = = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ แลว จงหา a+b+c+d
  • 73. 73 11.การดําเนินการเชิงแถวของเมทริกซ กําหนดให 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ จากเมทริกซ A เราสามารถดําเนินการเชิงแถวกับเมทริกซ A ไดดังตอไปนี้ เชน 1) 2 12R R+ หมายความวาคาของสมาชิกของเมทริกซในแถวที่ 1 และ 3 คงที่ แต สมาชิกในแถวที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงคือ นํา 2 ไปคูณสมาชิกในแถวที่ 1 แลวนํามาบวก กับสมาชิกในแถวที่ 2 จะกลายเปนสมาชิกใหมในแถวที่ 2 ดังนี้ 1 2 3 1 2 3 4 2(1) 5 2(2) 6 2(3) 6 9 12 7 8 9 7 8 9 ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ + + + =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 2) 3 2( 1)R R+ − หมายความวาคาสมาชิกในแถวที่ 3 มีการเปลี่ยนแปลงคือ นํา (-1) คูณสมาชิกในแถวที่ 2 แลวบวกกับสมาชิกในแถวที่ 3 นั้น จะกลายเปนสมาชิกใหมใน แถวที่ 3 1 2 3 1 2 3 4 5 6 4 5 6 7 ( 1)(4) 8 ( 1)(5) 9 ( 1)(6) 3 3 3 ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟+ − + − + −⎝ ⎠ ⎝ ⎠ แถวที่ 1(R1) แถวที่ 2(R2) แถวที่ 3(R3) 2 12R R+ 3 2( 1)R R+ −
  • 74. 74 3) 2 2 R หมายความวา สมาชิกในแถวที่ 2 ใหม คือสมาชิกในแถวที่ 2 เดิมหารดวย 2 1 2 3 1 3 1 2 2 2 2 2 4 5 6 4 5 6 7 8 9 3 3 3 ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 4) 22R และ 1 3R R+ มีการดําเนินการของสมาชิกในแถวที่ 2 และ 1 ดังนี้ 1 7 2 8 3 9 8 10 12 4(2) 5(2) 6(2) 8 10 12 7 8 9 7 8 9 + + +⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 11.1 การใชตัวดําเนินการเชิงแถวหา det(A) หลักการคือ การใชตัวดําเนินการเชิงแถวมาดําเนินการกับเมทริกซจากโจทย แลวทําใหได เมทริกซใหมที่สามารถหา det(A) ไดงายขึ้น โดยคา det(A) จะยังคงเทาเดิม ตัวอยาง เชน 1. จงหา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 วิธีทํา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 2 3 4 1 5 2 6 3 7 1 8 2 9 3 − − − − − − 1 2 3 3 3 3 6 6 6 = 2 2 R 1 3R R+ 2(2)R 2 1R R− 3 1R R−
  • 75. 75 1 2 3 3 3 3 6 2(3) 6 2(3) 6 2(3)− − − 1 2 3 3 3 3 0 0 0 0 = = 1 2 3 4 5 6 0 7 8 9 ∴ = 2. จงหา 1 0 1 2 1 0 1 1 1− วิธีทํา 1 1 0 ( 1) 1 1 2 1 0 1 1 1 − − − − − 3 22R R− 1 0 1 2 1 0 1 1 1− 1 3R R− 33 3 3 33 0 1 0 2 1 0 1 1 1 (1) ( 1) C M+ = − = = −
  • 76. 76 0 1 2 1 (0)(1) (2)(1) 2 = = − = − 1 0 1 2 1 0 2 1 1 1 ∴ = − − 3. จงหา 2 1 0 4 3 5 2 6 8 วิธีทํา 2 1 0 4 3 5 2 6 8 2 1 0 4 2(2) 3 2(1) 5 2(0) 2 2 6 1 8 0 − − − − − − 11 1 1 11 2 1 0 0 1 5 0 5 8 2 2( 1) 1 5 2 5 8 2[(1)(8) (5)(5)] 2[8 25] 34 C M+ = = = − = = − = − = − 2 1 0 4 3 5 34 2 6 8 ∴ = − 2 12R R− 3 1R R−
  • 77. 77 4. จงหา 0 2 1 5 1 2 9 3 3 − − − วิธีทํา 0 2 1 5 1 2 9 3 3 − − − 0 2 1 5 2(0) 1 2(2) ( 2) 2(1) 9 3(0) ( 3) 3(2) ( 3) 1(3) + + − + + − + − + 13 1 3 13 0 2 1 5 5 0 9 3 0 ( 1) 5 5 9 3 (5)(3) (9)(5) 15 45 30 C M+ = = = − = = − = − − 0 2 1 5 1 2 30 9 3 3 ∴ − = − − − 11.2 การใชตัวดําเนินการเชิงแถวหา 1 A− ถา กําหนด 11 12 13 21 22 23 31 32 33 a a a A a a a a a a ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ สามารถหา 1 A− โดยการดําเนินการเชิงแถวไดใน รูปแบบดังนี้ 2 12R R+ 3 13R R+
  • 78. 78 เขียน 11 12 13 21 22 23 31 32 33 1 0 0 0 1 0 0 0 1 a a a a a a a a a ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 11 12 13 21 22 23 31 32 33 1 0 0 0 1 0 0 0 1 b b b b b b b b b ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ตัวอยาง เชน 1. จงหา 1 A− จาก 1 0 1 2 1 0 1 1 1 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ วิธีทํา 1 0 1 1 0 0 2 1 0 0 1 0 1 1 1 0 0 1 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ 1 0 1 1 0 0 0 1 2 1 0 0 1 0 0 1 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ − −2⎜ ⎟ ⎜ ⎟− −1⎝ ⎠ 1 0 1 1 0 0 0 1 2 1 0 0 0 1 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ − − 2⎜ ⎟ ⎜ ⎟−2 −3 1⎝ ⎠ ดําเนินการเชิงแถว 2 12R R− 3 1R R− 3 2R R+ 1 A−
  • 79. 79 1 0 1 1 0 0 0 1 2 1 0 3 1 1 0 0 2 2 2 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − − 2⎜ ⎟ ⎜ ⎟− − 1⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 1 1 0 2 2 2 0 1 3 1 1 0 0 2 2 2 −⎛ ⎞ 0⎜ ⎟ ⎜ ⎟ 0 1 0 −1⎜ ⎟ ⎜ ⎟− − 1⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 1 1 2 2 2 1 0 1 3 1 1 2 2 2 A− −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ∴ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟− − ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 2. จงหา 1 A− จาก 2 1 1 3 2 2 1 3 3 A −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟− −⎝ ⎠ วิธีทํา 3 ( 2) R − 1 3R R− 2 32R R+
  • 80. 80 2 1 1 0 0 3 2 0 1 0 1 3 0 0 1 −1⎛ ⎞ ⎜ ⎟ − 2⎜ ⎟ ⎜ ⎟− −3⎝ ⎠ 1 1 1 0 0 2 2 2 3 2 0 1 0 1 3 0 0 1 −1⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − 2⎜ ⎟ ⎜ ⎟− −3 ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 1 0 0 2 2 2 7 7 3 0 1 0 2 2 2 7 5 1 0 0 1 2 2 2 −1⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − − −⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 1 0 0 2 2 2 3 2 0 1 1 0 7 7 7 5 1 0 0 1 2 2 2 −1⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟− ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − − −⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 2 R 2 13R R− 3 1R R− 2 2 ( ) 7 R −
  • 81. 81 2 1 1 0 0 0 7 7 3 2 0 1 1 0 7 7 0 0 1 1 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟− ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −6 −1⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 2 1 1 0 0 0 7 7 3 2 0 1 1 0 7 7 1 1 1 0 0 6 6 6 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟− ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − −⎜ ⎟1⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 2 1 1 0 0 0 7 7 11 5 1 0 1 42 42 6 1 1 1 0 0 6 6 6 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − −⎜ ⎟0 ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − −⎜ ⎟1⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 2 1 0 7 7 11 5 1 42 42 6 1 1 1 6 6 6 A− ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − −⎜ ⎟∴ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 2 1 2 R R− 3 2 7 2 R R+ 3 ( 6) R − 2 3R R+
  • 82. 82 3. จงหา 1 A− จาก 0 0 0 0 0 0 a A b c ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ เมื่อ , , 0a b c ≠ วิธีทํา 0 1 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 1 a b c 0⎛ ⎞ ⎜ ⎟ 0⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 0 0 0 1 0 1 0 0 1 0 0 0 0 a b c ⎛ ⎞ 0⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟0 ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟1⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 0 0 1 0 0 1 0 0 a A b c − ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟∴ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 12.การแกสมการเชิงเสนโดยใชเมทริกซ 12.1 สมการเชิงเสน 2 ตัวแปร จะอยูในรูปแบบขางลางนี้ เมื่อ 1 2 1 2 1 2, , , , ,a a b b c c R∈ 1 1 1 2 2 2 ...........(1) ..........(2) a x b y c a x b y c + = + = 1R a 2R b 3R c
  • 83. 83 สามารถเปลี่ยนเปนสมการเมทริกซไดดังนี้ 11 1 2 2 2 ca b x a b y c ⎛ ⎞⎛ ⎞⎛ ⎞ = ⎜ ⎟⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠ เราสามารถหาเมทริกซ x y ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ไดดังนี้ 1 1 11 1 1 1 1 1 2 2 2 2 2 2 2 1 11 1 2 2 2 1 11 1 2 2 2 ca b a b a bx a b a b a by c ca bx I a by c ca bx a by c − − − − ⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎛ ⎞ = ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞⎛ ⎞⎛ ⎞ = ⎜ ⎟⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞⎛ ⎞⎛ ⎞ = ⎜ ⎟⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ตัวอยาง เชน 1. ระบบสมการ x+2y = 4 2x+y = 5 จงหาคา x และ y วิธีทํา 1) เขียนสมการเมทริกซ 1 2 4 2 1 5 x y ⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞ =⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 2) หาเมทริกซ x y ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 2 4 2 1 5 x y − ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 1 2 41 2 1 5(1)(1) (2)(2) (1)(4) ( 2)(5)1 ( 2)(4) (1)(5)3 x y x y −⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ −−⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠ + −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − +⎝ ⎠ ⎝ ⎠
  • 84. 84 61 33 2 1 x y x y −⎛ ⎞ ⎛ ⎞− =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 12.2 สมการเชิงเสน 3 ตัวแปร จะอยูในรูปแบบขางลางนี้ เมื่อ 1 2 3 1 2 3 1 2 3, , , , , , , ,a a a b b b c c c R∈ 1 1 1 1 2 2 2 2 3 3 3 3 ...........(1) ..........(2) ..........(3) a x b y c z d a x b y c z d a x b y c z d + + = + + = + + = สามารถเปลี่ยนเปนสมการเมทริกซ ไดดังนี้ 11 1 1 2 2 2 2 3 3 3 3 da b c x a b c y d a b c z d ⎛ ⎞⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎜ ⎟⎜ ⎟⎜ ⎟ = ⎜ ⎟⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠ สามารถหา x y z ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ไดดังนี้ 1 11 1 1 2 2 2 2 3 3 3 3 dx a b c y a b c d z a b c d − ⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ตัวอยาง เชน 1. จงหาคา x , y และ z จากสมการเชิงเสนตอไปนี้ 4 3 2 5 4 2 3 2 2 7 x y z x y z x y z + − = − + = − + + = วิธีทํา
  • 85. 85 1) เขียนสมการเมทริกซ 4 3 2 5 1 4 1 2 3 2 2 7 x y z −⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − = −⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠⎝ ⎠ ⎝ ⎠ 2) หาเมทริกซ x y z ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 4 3 2 5 1 4 1 2 3 2 2 7 10 1 14 5 1 10 14 1 2 65 5 6 19 7 10 10 5 5 1 1 14 6 2 65 14 1 19 7 1 65 t x y z x y z x y z x y z − −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ = − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ = − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟− − −⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ − − −⎛ ⎞ ⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ = − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟−⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟−⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠ (⎛ ⎞ ⎜ ⎟ =⎜ ⎟ −⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 5) ( 10)( 2) ( 5)(7) (1)(5) (14)( 2) ( 6)(7) 65 1 65 65 65 1 1 1 x y z x y z −10)( + − − + −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ + − + −⎜ ⎟ ⎜ ⎟(14)(5)+(1)(−2)+(−19)(7)⎝ ⎠ −⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ∴ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
  • 86. 86 12.3 การใชกฎของคราเมอร กําหนดระบบสมการเชิงเสน 1 1 1 1 2 2 2 2 3 3 3 3 ...........(1) ..........(2) ..........(3) a x b y c z d a x b y c z d a x b y c z d + + = + + = + + = จะหาคา x , y และ z ไดดังสมการตอไปนี้ 1 1 1 1 1 1 1 1 1 2 2 2 2 2 2 2 2 2 3 3 3 3 3 3 3 3 3 1 1 1 1 1 1 1 1 1 2 2 2 2 2 2 3 3 3 3 3 3 , , d b c a d c a b d d b c a d c a b d d b c a d c a b d x y z a b c a b c a b c a b c a b c a b c a b c = = = 2 2 2 3 3 3 a b c a b c ตัวอยาง เชน 1. จงหารากของระบบสมการเชิงเสน 2 5 3 2 2 3 3 3 2 x y z x y z x y z + − = − + = − − − = − วิธีทํา 5 1 1 3 2 2 2 3 3 42 1 2 1 42 3 2 2 1 3 3 x − − − − − − = = = −1 − − −
  • 87. 87 1 3 2 3 84 2 2 1 42 3 2 2 1 3 3 y 2 5 − 3 − 1 − 2 − = = = −1 − − − 2 2 42 1 2 1 42 3 2 2 1 3 3 z 2 1 5 3 − −3 1 −3 − − = = = − −1 − − − 12.4 การใชการดําเนินการเชิงแถวแกสมการเชิงเสน กําหนดระบบสมการเชิงเสน 1 1 1 1 2 2 2 2 3 3 3 3 ...........(1) ..........(2) ..........(3) a x b y c z d a x b y c z d a x b y c z d + + = + + = + + = เขียน 1 1 1 1 2 2 2 2 3 3 3 3 a b c d a b c d a b c d ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 2 3 1 0 0 0 1 0 0 0 1 e e e ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ดําเนินการเชิงแถว x y z
  • 88. 88 ตัวอยาง เชน 1. ระบบสมการ 2 5 3 2 2 3 3 3 2 x y z x y z x y z + − = − + = − − − = − จงหารากของสมการ วิธีทํา 2 1 1 3 2 1 3 3 − 5⎛ ⎞ ⎜ ⎟ − 2 −3⎜ ⎟ ⎜ ⎟− − − 2⎝ ⎠ 1 1 1 2 2 2 3 2 1 3 3 − 5⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − 2 −3⎜ ⎟ ⎜ ⎟− − −2 ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 1 2 2 2 7 7 0 2 2 2 7 5 9 0 2 2 2 − 5⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − −21⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − − −⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 1 1 2 2 2 0 1 7 5 9 0 2 2 2 − 5⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −1 3⎜ ⎟ ⎜ ⎟− − − ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 2 R 2 13R R− 3 1R R− 2 2 ( ) 7 R −
  • 89. 89 1 0 0 1 0 0 0 1⎛ ⎞ ⎜ ⎟ −1 3⎜ ⎟ ⎜ ⎟−6 6⎝ ⎠ 1 0 0 1 0 0 0 1⎛ ⎞ ⎜ ⎟ −1 3⎜ ⎟ ⎜ ⎟1 −1⎝ ⎠ 1 0 0 1 0 0 0 1⎛ ⎞ ⎜ ⎟ 0 2⎜ ⎟ ⎜ ⎟1 −1⎝ ⎠ 1, 2, 1x y z∴ = = = − แบบฝกหัด 1.จงหา det ของเมทริกซตอไปนี้โดยการใชการดําเนินการเชิงแถว 1.1) 1 0 1 2 3 4 1 5 2 −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1 2 1 2 R R− 3 2 7 2 R R+ 3 ( 6) R − 2 3R R+
  • 90. 90 1.2) 0 1 4 2 1 2 1 1 0 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1.3) 1 1 0 1 2 3 1 0 1 2 2 1 0 1 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟− 2 − 2⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟ ⎜ ⎟− −⎝ ⎠
  • 91. 91 1.4) 0 0 0 a b a c b c ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1.5) 1 2 4 3 8 0 1 2 1 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠
  • 92. 92 1.6) 1 2 5 2 2 0 1 2 1 3 8 0 1 1 2 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟−⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ − −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−1⎝ ⎠ 2.จงหา 1 A− ของเมทริกซ A ตอไปนี้โดยการใชการดําเนินการเชิงแถว 2.1) 1 2 4 3 8 0 1 2 1 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠
  • 93. 93 2.2) 1 0 2 2 6 4 3 1 6 A −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟−⎝ ⎠ 2.3) 1 1 1 1 0 1 1 1 0 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠
  • 94. 94 2.4) 1 1 0 0 1 2 3 0 1 A −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 2.5) 1 1 1 2 3 19 1 7 8 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠
  • 95. 95 2.6) 1 2 3 1 3 4 1 4 3 A ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠
  • 97. 97 3.2) 2 2 2 1 2 3 2 10 x y z x y z x y z − − = − − + + = − + − =
  • 98. 98 3.3) 2 9 2 0 3 2 11 x y z x y z x y z − + = + − = − + =
  • 99. 99 3.4) 2 2 1 3 2 2 2 2 0 3 1 x y z x z t x y z t x y z t + − = − + − = − + + + = − + + =
  • 100. 100 3.5) 2 3 9 3 4 2 5 5 17 x y z x y x y z − + = − + = − − + =
  • 101. 101 3.6) 3 3 2 3 20 7 23 x y z x y z x y z + − = − + = + + =
  • 102. 102 3.7) 2 4 1 2 2 3 2 3 x y z x y x y z + + = + = − − − + =
  • 103. 103 4. กําหนดให 4 12 9 7 10 5 1 0 0 A −⎛ ⎞ ⎜ ⎟ = −⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ และ , ,B C D เปนเมทริกซมิติ 3x3 ซึ่ง A B C D∼ ∼ ∼ โดยที่ B ไดจาก A โดยการดําเนินการ 1 2 4 3 R R− C ไดจาก B โดยการดําเนินการ 15R D ไดจาก C โดยการดําเนินการ 23R แลว det(D) เทากับเทาใด 5. ระบบสมการเชิงเสน 1 1 2 x y kz x ky z x y kz + + = + + = + + = − จงหาเงื่อนไขสําหรับคา k ที่จะทําใหระบบสมการมีคําตอบเดียว มีหลายคําตอบ และไมมีคําตอบ
  • 104. 104 6. กําหนดระบบสมการ 2 2 2 3 ( 3) x y z x y z x y k z k + + = + + = + + − = จงหาจํานวนจริง k ที่ทําใหระบบสมการที่กําหนดใหไมมีคําตอบ