SlideShare a Scribd company logo
หลักการของไดนาโม
เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำหรือไดนำโม สำมำรถเปลี่ยนพลังงำนกลเป็นพลังงำน
ไฟฟ้ำ ใช้หลักกำรเหมือนกับแรงกระทำำบนขดลวด เพียงแต่ทำำหน้ำที่เปลี่ยน
พลังงำนไฟฟ้ำเป็นพลังงำนกลเท่ำนั้นเองประกอบด้วยขดลวดเหนี่ยวนำำ
เคลื่อนที่สัมพัทธ์กับแท่งแม่เหล็ก โดยอำศัยกำรเหนี่ยวนำำในขดลวดของ
เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ จะทำำให้เกิดกระแสไฟฟ้ำ ซึงสำมำรถจัดกระแสไฟได้สอง
แบบคือกระแสตรง และกระแสสลับ พลังงำนไฟฟ้ำจำกเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำเป็น
ไปตำมกฎกำรอนุรักษ์พลังงำน

เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำและไดนำโม สำมำรถเปลี่ยนพลังงำนกลเป็นพลังงำนไฟฟ้ำ
เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำประกอบด้วยขดลวดเหนี่ยวนำำเคลื่อนที่สัมพัทธ์กับแท่งแม่
เหล็กทำำให้เกิดไฟฟ้ำ ตัวอย่ำงกำรใช้งำน เช่น กรณีไฟฟ้ำพลังนำ้ำ จะมีนำ้ำตก
ลงมำหมุนใบพัดของเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ




เรำสำมำรถคำำนวณแรงเคลื่อนไฟฟ้ำจำกเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำได้ดังนี้
สมมติ ขดลวดมี N รอบ และแต่ละรอบมีพื้นที่ A ให้ขดลวดหมุนด้วยอัตรำเร็ว
เชิงมุม       รอบแกนที่ตั้งฉำกกับสนำมแม่เหล็ก B แรงเคลื่อนไฟฟ้ำคือ

          E = E0sin(ω.t) เมื่อ E0 คือ แรงเคลื่อนไฟฟ้ำสูงสุด
การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยไดนาโม



       ไฟฟ้ำที่เรำใช้กันทั่วไปตำมบ้ำนเรือน หรือสถำนที่ต่ำงๆ หรือกระแสไฟฟ้ำที่
ใช้ในกำรประกอบกิจกำรต่ำง ๆนั้น ทั้งหมดเป็นกระแสไฟฟ้ำที่ผลิตด้วยไดนำโม
ดังนั้นเรำควรรูสักนิดครับว่ำ เจ้ำไดนำโม ( หรือบำงคนอำจเรียกว่ำเครื่องกำำเนิด
                ้
ไฟฟ้ำก็ได้) มันทำำประกอบด้วยสิ่งใดบ้ำงและมันทำำให้เกิดกระแสไฟฟ้ำได้
อย่ำงไรส่วนประกอบหลักๆ หรือส่วนที่สำำคัญของเจ้ำไดนำโมนี้ไม่มีอะไรมำกหรือ
ไม่ซับซ้อนเลยครับ มันประกอบด้วย

1 แม่เหล็ก ไว้สำำหรับทำำให้เกิดสนำมแม่เหล็กครับ

2 ขดลวด ซึงต้องเป็นขดลวดทีมีฉนวนหุ้มหรือเคลือบด้วยฉนวน
          ่               ่

3 พวกส่วนประกอบย่อยๆ คือ แปรง , แหวน เป็นต้นดูภำพ




    กำรเกิดกระแสไฟฟ้ำนั้นก็คือเกิดกระแสไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำนั่นเอง ........โดยเมือ
ออกแรงหมุนที่แกนเพื่อให้ขดลวดหมุน ขดลวดก็จะเคลื่อน ที่ตดกับสนำมหรือ
                                                           ั
เส้นแรงแม่เหล็ก ซึ่งได้จำกแท่งแม่เหล็กซึ่งวำงตำำแหน่งดังภำพครับ...........

  เมื่อขดลวดหมุนตัดกับเส้นแรงหรือสนำมแม่เหล็ก ก็จะเป็นกำรทำำให้เพิ่มและ
ลดควำมเข้มของสนำมแม่เหล็กให้แก่ขดลวด ก็จะเกิดกระแสไฟฟ้ำขึ้นในขดลวด
ตำมหลักของกำรเกิดกระแสไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำ ที่กล่ำวแล้วในเรื่องกระแสไฟฟ้ำ
เหนี่ยวนำำ
การกำาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ[
ค่ำของแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับจะเกิดขึ้นมำกหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับตำำแหน่งของขด
ลวดตัวนำำขณะหมุนตัดกับเส้นแรงแม่เหล็กในสนำมแม่เหล็กนั้น ถ้ำทิศทำงกำรเคลื่อนที่
ของขดลวดตัวนำำตั้งฉำกกับเส้นแรงแม่เหล็ก แรงดันไฟฟ้ำที่เกิดขึ้นจะมีค่ำสูงสุดและจะมี
ค่ำน้อยลง เมื่อทิศทำงกำรเคลื่อนที่ของขดลวดตัวนำำตัดกับเส้นแรงแม่เหล็กในมุมน้อย
กว่ำ 90 ๐ และจะมีค่ำเป็นศูนย์เมื่อขดลวดตัวนำำวำงขนำนกับเส้นแรงแม่เหล็ก




       จะเห็นว่ำใน 1 วัฎจักรของกำรหมุนขดลวดตัวนำำ คือ หมุนไป 360 ๐ ทำงกลนำ้ำจะ
เกิดรูปคลื่นไซน์ 1 ลูกคลื่น หรือ 1 วัฎจักร ถ้ำขดลวดตัวนำำนี้หมุนด้วยควำมเร็วคงที่และ
สภำพของเส้นแรงแม่เหล็กมีควำมหนำแน่นเท่ำกันตลอด รอบพื้นที่ของกำรตัดแรงดัน
ไฟฟ้ำสลับรูปคลื่นไซน์ที่จะมีค่ำคงที่และถ้ำมีกำรหมุนของขดลวดต่อเนื่องตลอดไป จะ
ทำำให้เกิดจำำนวนรอบของแรงดันไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำต่อเนื่องกันไป นั่นคือกำรเกิดแรงดัน
ไฟฟ้ำกระแสสลับ




      ค่ำแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับชั่วขณะ คือ ค่ำของแรงไฟฟ้ำกระแสสลับรูปคลื่นไซน์
ที่เรำวัดได้ในแต่ละมุมของกำรหมุนของขดลวดตัวนำำในเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ โดยมุมของ
กำรเคลื่อนที่นี้วันเป็นองศำ ซึงค่ำของแรงดันชั่วขณะสำมำรถหำได้จำกสมกำร
                              ่




    เมื่อแบ่งกำรหมุนของขดลวดตัวนำำใน 1 วัฎจักร (360 ๐) เมื่อคำำนวณค่ำแรงดันชั่ว
ขณะที่เกิดขึ้น ณ มุมต่ำงๆ ตั้งแต่ตำำแหน่ง 0 ( 0 องศำ) ตำำแหน่ง 1 (30 องศำ) และ
ตำำแหน่ง 2, 3, 4 จนถึงตำำแหน่งที่ 12 โดยเพิ่มค่ำมุมทีละ 30 ๐ เรำจะได้รูปคลื่นไซน์
ของแรงดันไฟฟ้ำสลับที่เกิดขึ้นมีขนดดังรูป




       ควำมถี่ของกระแสสลับ (Frequency ตัวย่อ f) หมำยถึง จำำนวนวัฏจักรของกำรเกิด
รูปคลื่นไซน์ต่อเวลำ 1 วินำที




       ถ้ำเกิดรูปคลื่นไซน์ 2 วัฏจักรต่อเวลำ 1 วินำที ก็แสดงว่ำไฟฟ้ำกระแสสลับที่เกิด
ขึ้นมีควำมถี่ 2 วัฏจักรต่อเวลำ 1 วินำที หรือเรียกแทนในหน่วยเฮิรตซ์ (Hz) หรือควำมถี่
ไฟฟ้ำกระแสสลับ 50 เฮิรตซ์ ก็คือกำรเกิดรูปคลื่นไซน์จำำนวน 50 วัฏจักรต่อเวลำ 1
วินำที และจำกรูป 4.2 รูปคลื่นไซน์นี้มีควำมถี่เท่ำกับ 1 เฮิรตซ์ เป็นต้น

      ค่ำต่ำงๆ ที่สำำคัญของรูปคลื่นไซน์ นอกจำกควำมถี่และคำบเวลำนั้นมีอีก 4 ค่ำ คือ
ค่ำสูงสุด(Maximum) ค่ำยอดถึงยอด(Peak-to-Peak) ค่ำเฉลี่ย(Average) และค่ำใช้
งำน(Effective)
ค่ำยอดถึงยอด วัตถุจำกจุดยอดของรูปคลื่นไซน์ด้ำนบวกจนถึงจุดยอดของรูปคลื่น
ไซน์ด้ำนลบ นั่นคือ ค่ำยอดถึงยอดเท่ำกับ 2 เท่ำของค่ำสูงสุด
       ค่ำเฉลีย ค่ำเฉลี่ยของรูปคลื่นไซน์นั้นเรำพิจำรณำเฉพำะด้ำนใดด้ำนหนึ่ง คือด้ำน
              ่
บวกหรือด้ำนลบเพียงด้ำนเดียว เพรำะถ้ำพิจำรณำทั้งวัฏจักรจะได้ค่ำเฉลี่ยเท่ำกับศูนย์
ดังนั้นค่ำเฉลี่ยจึงเป็นปริมำณทำงไฟตรง พิจำรณำตั้งแต่ 0 องศำ ถึง 180 องศำ




     ค่ำแรงดันใช้งำน (Effective Voltage) ปกติเมื่อนำำมิเตอร์ไฟฟ้ำกระแสสลับ เช่น
AC.Voltmeter หรือ RMS. Voltmeter ไปวัดแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับที่เต้ำรับในบ้ำนจะ
อ่ำนค่ำได้ 220 V เมื่อนำำเครื่องมือวัดรูปร่ำงของรูปคลื่นไฟสลับ (ไซน์) ดังกล่ำว เช่น นำำ
ออสซิลโลสโคปไปวัดจะได้รูปคลื่นไซน์
หลักกำรของไฟฟ้ำกระแสตรง

ไฟฟ้ำกระแสตรง หมำยถึง กระแสไฟฟ้ำที่มีทิศทำงไหลไปในทิศทำงเดียวเสมอคือไหล
จำกขั้วบวกไปสู่ขั้วลบ (กระแสสมมุต) กระแสจะไหลจำกแหล่งกำำเนิดไฟฟ้ำผ่ำนตัวนำำ
                                 ิ
เข้ำไปทำำงำนยังอุปกรณ์ไฟฟ้ำแล้วไหลกลับแหล่งกำำเนิดโดยไม่มีกำรไหลกลับขั้วจำก
ลบไปบวก

    ในงำนควบคุมมอเตอร์มักจะนำำไฟฟ้ำกระแสตรงไปใช้ในวงจรควบคุม




 แหล่งจ่ายกำาลังไฟฟ้ากระแสตรง




          คือ แหล่งพลังงำนไฟฟ้ำที่ไม่มีกำรเปลี่ยนทิศทำงกำรไหลของกระแสในช่วง
กำรจ่ำย
          ตัวอย่ำง เช่น แบตเตอรี่และแผงเซลล์แสงอำทิตย์


  กำาลังไฟฟ้าที่อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องการใช้
     กำำลังไฟฟ้ำที่อุปกรณ์ไฟฟ้ำกระแสตรงใช้ คำำนวณได้จำก ควำมต่ำงศักย์ไฟฟ้ำหรือ
แรงดันไฟฟ้ำและกระแสไฟฟ้ำที่ใช้ไป
วงจรไฟฟ้ากระแสตรง
   วงจรไฟฟ้ำกระแสตรงประกอบด้วย วงจรอันดับหรืออนุกรม วงจรขนำน และวงจร
ผสม
วงจรอันดับ หรือ อนุกรม




      วงจรอันดับ เป็นวงจรที่ต่อตัวต้ำนทำนแบบอนุกรมหรืออันดับโดยเอำปลำยด้ำน
หนึ่งต่อกับอีกปลำยด้ำนหนึ่งไปเรื่อยๆ สรุปผลที่ได้จำกกำรต่อวงจรแบบอันดับ

        1. ควำมต้ำนทำนรวมของวงจรเท่ำกับค่ำของควำมต้ำนทำนย่อยทั้งหมดรวมกัน
        2. กระแสที่ไหลในวงจรเท่ำกันตลอดหรือกระแสที่ไหลผ่ำนจุด
แต่ละจุดในวงจรมีค่ำเดียวกัน
        3. แรงดันที่ตกคร่อมตัวต้ำนทำนแต่ละตัวรวมกันเท่ำกับแรงดันไฟฟ้ำที่ป้อนให้
กับวงจร

วงจรขนาน




      วงจรขนำน เป็นวงจรทีมีกระแสไฟฟ้ำไหลผ่ำนปลำยทำงหรือตั้งแต่ 2 ทำงขึ้นไป
                          ่
จนครบวงจร
สรุปผลที่ได้จำกกำรต่อวงจรแบบขนำน
1. แรงดันไฟฟ้ำตกคร่อมที่มำจำกวงจรย่อยเท่ำกับแรงดันไฟฟ้ำของแหล่งจ่ำย
นั่นเอง
เพรำะว่ำควำมต้ำนทำนแต่ละตัวต่ำงก็ขนำนกับแหล่งกำำเนิด
          2. กระไฟฟ้ำรวมในวงจรขนำนเท่ำกับกระแสไฟฟ้ำทั้งหมดรวมกัน
          3. ควำมต้ำนทำนรวมของวงจรขนำนจะมีค่ำน้อยกว่ำหรือเท่ำกับตัวต้ำนทำนที่มี
ค่ำน้อยที่สุดในวงจร
วงจรผสม




      วงจรผสม หมำยถึง กำรต่อวงจรทั้งแบบอนุกรมและขนำนเข้ำไปในวงจรเดียวกัน
เช่นตัวต้ำนทำนตัวหนึ่งต่ออนุกรมกับตัวต้ำนทำนอีกตัวหนึ่ง แล้วนำำตัวต้ำนทำนทั้งสอง
ไปต่อขนำนกับตัวต้ำนทำนอีกตัวหนึ่ง
หลักการของไดนาโม

More Related Content

What's hot

บทที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่
บทที่ 1  แรงและการเคลื่อนที่บทที่ 1  แรงและการเคลื่อนที่
บทที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่
Pinutchaya Nakchumroon
 
คลื่น (Wave) (For Power Point)
คลื่น (Wave) (For Power Point)คลื่น (Wave) (For Power Point)
คลื่น (Wave) (For Power Point)
Physics Lek
 
แม่เหล็กไฟฟ้า
แม่เหล็กไฟฟ้าแม่เหล็กไฟฟ้า
แม่เหล็กไฟฟ้าTheerawat Duangsin
 
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียนEvolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Thanyamon Chat.
 
เสียงกับการได้ยิน
เสียงกับการได้ยินเสียงกับการได้ยิน
เสียงกับการได้ยินkrubenjamat
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
benjamars nutprasat
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
คลื่น ม.3.pdf
คลื่น ม.3.pdfคลื่น ม.3.pdf
คลื่น ม.3.pdf
ssuser920267
 
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆApinya Phuadsing
 
กิจกรรม ออกแบบและสร้างอุปกรณ์รางรถไฟเหาะ
กิจกรรม ออกแบบและสร้างอุปกรณ์รางรถไฟเหาะกิจกรรม ออกแบบและสร้างอุปกรณ์รางรถไฟเหาะ
กิจกรรม ออกแบบและสร้างอุปกรณ์รางรถไฟเหาะ
Silpakorn University
 
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ ความต้านทานไฟฟ้า
ความสัมพันธ์ระหว่าง  ความต่างศักย์ไฟฟ้า  กระแสไฟฟ้า  และ ความต้านทานไฟฟ้าความสัมพันธ์ระหว่าง  ความต่างศักย์ไฟฟ้า  กระแสไฟฟ้า  และ ความต้านทานไฟฟ้า
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ ความต้านทานไฟฟ้า
เรียนฟิสิกส์กับครูเอ็ม Miphukham
 
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52krukrajeab
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3
Wuttipong Tubkrathok
 
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่เกษรา จุ้งลก
 
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้าใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
พัน พัน
 
Fundamental of electrical ไฟฟ้าเบื้องต้น-r1
Fundamental of electrical ไฟฟ้าเบื้องต้น-r1Fundamental of electrical ไฟฟ้าเบื้องต้น-r1
Fundamental of electrical ไฟฟ้าเบื้องต้น-r1
MaloNe Wanger
 
ไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิตไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิต
Chanthawan Suwanhitathorn
 
เรื่อง โพลาไรเซชันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่อง  โพลาไรเซชันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเรื่อง  โพลาไรเซชันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่อง โพลาไรเซชันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าSomporn Laothongsarn
 

What's hot (20)

บทที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่
บทที่ 1  แรงและการเคลื่อนที่บทที่ 1  แรงและการเคลื่อนที่
บทที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่
 
คลื่น (Wave) (For Power Point)
คลื่น (Wave) (For Power Point)คลื่น (Wave) (For Power Point)
คลื่น (Wave) (For Power Point)
 
แม่เหล็กไฟฟ้า
แม่เหล็กไฟฟ้าแม่เหล็กไฟฟ้า
แม่เหล็กไฟฟ้า
 
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียนEvolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
 
เสียงกับการได้ยิน
เสียงกับการได้ยินเสียงกับการได้ยิน
เสียงกับการได้ยิน
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
คลื่น ม.3.pdf
คลื่น ม.3.pdfคลื่น ม.3.pdf
คลื่น ม.3.pdf
 
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
 
กิจกรรม ออกแบบและสร้างอุปกรณ์รางรถไฟเหาะ
กิจกรรม ออกแบบและสร้างอุปกรณ์รางรถไฟเหาะกิจกรรม ออกแบบและสร้างอุปกรณ์รางรถไฟเหาะ
กิจกรรม ออกแบบและสร้างอุปกรณ์รางรถไฟเหาะ
 
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ ความต้านทานไฟฟ้า
ความสัมพันธ์ระหว่าง  ความต่างศักย์ไฟฟ้า  กระแสไฟฟ้า  และ ความต้านทานไฟฟ้าความสัมพันธ์ระหว่าง  ความต่างศักย์ไฟฟ้า  กระแสไฟฟ้า  และ ความต้านทานไฟฟ้า
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ ความต้านทานไฟฟ้า
 
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
เอกสารประกอบการเรียนฟิสิกส์ม.6.1.52
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3
 
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่
แผนการสอนปรับพื้นฐานม.4 การเคลื่อนที่
 
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้าใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
 
Fundamental of electrical ไฟฟ้าเบื้องต้น-r1
Fundamental of electrical ไฟฟ้าเบื้องต้น-r1Fundamental of electrical ไฟฟ้าเบื้องต้น-r1
Fundamental of electrical ไฟฟ้าเบื้องต้น-r1
 
ไฟฟ้าสถิตPpt
ไฟฟ้าสถิตPptไฟฟ้าสถิตPpt
ไฟฟ้าสถิตPpt
 
ไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิตไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิต
 
เรื่อง โพลาไรเซชันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่อง  โพลาไรเซชันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเรื่อง  โพลาไรเซชันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่อง โพลาไรเซชันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 
สนามไฟฟ้า (Electric filed)
สนามไฟฟ้า (Electric filed)สนามไฟฟ้า (Electric filed)
สนามไฟฟ้า (Electric filed)
 

Similar to หลักการของไดนาโม

หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpipopsin163
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอKunthida Kik
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าThitikan
 
งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6Thitikan
 
ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์nom11
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดาbo222
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดาbo222
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าAtjimaice
 
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดพลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดpanawan306
 
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2Apinya Phuadsing
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
Nontawat Rupsung
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)Nontawat Rupsung
 
พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์Muk52
 

Similar to หลักการของไดนาโม (20)

หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอ
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า
 
งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6
 
ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์
 
Lesson16
Lesson16Lesson16
Lesson16
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดา
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดา
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดพลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
 
54101 unit10
54101 unit1054101 unit10
54101 unit10
 
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 
พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์
 

Recently uploaded

3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
atwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtxatwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtx
Bangkok, Thailand
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
Prachyanun Nilsook
 
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdfงานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 

Recently uploaded (10)

3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
 
atwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtxatwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtx
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
 
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdfงานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
 

หลักการของไดนาโม

  • 1. หลักการของไดนาโม เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำหรือไดนำโม สำมำรถเปลี่ยนพลังงำนกลเป็นพลังงำน ไฟฟ้ำ ใช้หลักกำรเหมือนกับแรงกระทำำบนขดลวด เพียงแต่ทำำหน้ำที่เปลี่ยน พลังงำนไฟฟ้ำเป็นพลังงำนกลเท่ำนั้นเองประกอบด้วยขดลวดเหนี่ยวนำำ เคลื่อนที่สัมพัทธ์กับแท่งแม่เหล็ก โดยอำศัยกำรเหนี่ยวนำำในขดลวดของ เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ จะทำำให้เกิดกระแสไฟฟ้ำ ซึงสำมำรถจัดกระแสไฟได้สอง แบบคือกระแสตรง และกระแสสลับ พลังงำนไฟฟ้ำจำกเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำเป็น ไปตำมกฎกำรอนุรักษ์พลังงำน เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำและไดนำโม สำมำรถเปลี่ยนพลังงำนกลเป็นพลังงำนไฟฟ้ำ เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำประกอบด้วยขดลวดเหนี่ยวนำำเคลื่อนที่สัมพัทธ์กับแท่งแม่ เหล็กทำำให้เกิดไฟฟ้ำ ตัวอย่ำงกำรใช้งำน เช่น กรณีไฟฟ้ำพลังนำ้ำ จะมีนำ้ำตก ลงมำหมุนใบพัดของเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ เรำสำมำรถคำำนวณแรงเคลื่อนไฟฟ้ำจำกเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำได้ดังนี้ สมมติ ขดลวดมี N รอบ และแต่ละรอบมีพื้นที่ A ให้ขดลวดหมุนด้วยอัตรำเร็ว เชิงมุม รอบแกนที่ตั้งฉำกกับสนำมแม่เหล็ก B แรงเคลื่อนไฟฟ้ำคือ E = E0sin(ω.t) เมื่อ E0 คือ แรงเคลื่อนไฟฟ้ำสูงสุด
  • 2. การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยไดนาโม ไฟฟ้ำที่เรำใช้กันทั่วไปตำมบ้ำนเรือน หรือสถำนที่ต่ำงๆ หรือกระแสไฟฟ้ำที่ ใช้ในกำรประกอบกิจกำรต่ำง ๆนั้น ทั้งหมดเป็นกระแสไฟฟ้ำที่ผลิตด้วยไดนำโม ดังนั้นเรำควรรูสักนิดครับว่ำ เจ้ำไดนำโม ( หรือบำงคนอำจเรียกว่ำเครื่องกำำเนิด ้ ไฟฟ้ำก็ได้) มันทำำประกอบด้วยสิ่งใดบ้ำงและมันทำำให้เกิดกระแสไฟฟ้ำได้ อย่ำงไรส่วนประกอบหลักๆ หรือส่วนที่สำำคัญของเจ้ำไดนำโมนี้ไม่มีอะไรมำกหรือ ไม่ซับซ้อนเลยครับ มันประกอบด้วย 1 แม่เหล็ก ไว้สำำหรับทำำให้เกิดสนำมแม่เหล็กครับ 2 ขดลวด ซึงต้องเป็นขดลวดทีมีฉนวนหุ้มหรือเคลือบด้วยฉนวน ่ ่ 3 พวกส่วนประกอบย่อยๆ คือ แปรง , แหวน เป็นต้นดูภำพ กำรเกิดกระแสไฟฟ้ำนั้นก็คือเกิดกระแสไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำนั่นเอง ........โดยเมือ ออกแรงหมุนที่แกนเพื่อให้ขดลวดหมุน ขดลวดก็จะเคลื่อน ที่ตดกับสนำมหรือ ั เส้นแรงแม่เหล็ก ซึ่งได้จำกแท่งแม่เหล็กซึ่งวำงตำำแหน่งดังภำพครับ........... เมื่อขดลวดหมุนตัดกับเส้นแรงหรือสนำมแม่เหล็ก ก็จะเป็นกำรทำำให้เพิ่มและ ลดควำมเข้มของสนำมแม่เหล็กให้แก่ขดลวด ก็จะเกิดกระแสไฟฟ้ำขึ้นในขดลวด ตำมหลักของกำรเกิดกระแสไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำ ที่กล่ำวแล้วในเรื่องกระแสไฟฟ้ำ เหนี่ยวนำำ
  • 3. การกำาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ[ ค่ำของแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับจะเกิดขึ้นมำกหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับตำำแหน่งของขด ลวดตัวนำำขณะหมุนตัดกับเส้นแรงแม่เหล็กในสนำมแม่เหล็กนั้น ถ้ำทิศทำงกำรเคลื่อนที่ ของขดลวดตัวนำำตั้งฉำกกับเส้นแรงแม่เหล็ก แรงดันไฟฟ้ำที่เกิดขึ้นจะมีค่ำสูงสุดและจะมี ค่ำน้อยลง เมื่อทิศทำงกำรเคลื่อนที่ของขดลวดตัวนำำตัดกับเส้นแรงแม่เหล็กในมุมน้อย กว่ำ 90 ๐ และจะมีค่ำเป็นศูนย์เมื่อขดลวดตัวนำำวำงขนำนกับเส้นแรงแม่เหล็ก จะเห็นว่ำใน 1 วัฎจักรของกำรหมุนขดลวดตัวนำำ คือ หมุนไป 360 ๐ ทำงกลนำ้ำจะ เกิดรูปคลื่นไซน์ 1 ลูกคลื่น หรือ 1 วัฎจักร ถ้ำขดลวดตัวนำำนี้หมุนด้วยควำมเร็วคงที่และ สภำพของเส้นแรงแม่เหล็กมีควำมหนำแน่นเท่ำกันตลอด รอบพื้นที่ของกำรตัดแรงดัน ไฟฟ้ำสลับรูปคลื่นไซน์ที่จะมีค่ำคงที่และถ้ำมีกำรหมุนของขดลวดต่อเนื่องตลอดไป จะ ทำำให้เกิดจำำนวนรอบของแรงดันไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำต่อเนื่องกันไป นั่นคือกำรเกิดแรงดัน ไฟฟ้ำกระแสสลับ ค่ำแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับชั่วขณะ คือ ค่ำของแรงไฟฟ้ำกระแสสลับรูปคลื่นไซน์ ที่เรำวัดได้ในแต่ละมุมของกำรหมุนของขดลวดตัวนำำในเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ โดยมุมของ กำรเคลื่อนที่นี้วันเป็นองศำ ซึงค่ำของแรงดันชั่วขณะสำมำรถหำได้จำกสมกำร ่ เมื่อแบ่งกำรหมุนของขดลวดตัวนำำใน 1 วัฎจักร (360 ๐) เมื่อคำำนวณค่ำแรงดันชั่ว ขณะที่เกิดขึ้น ณ มุมต่ำงๆ ตั้งแต่ตำำแหน่ง 0 ( 0 องศำ) ตำำแหน่ง 1 (30 องศำ) และ
  • 4. ตำำแหน่ง 2, 3, 4 จนถึงตำำแหน่งที่ 12 โดยเพิ่มค่ำมุมทีละ 30 ๐ เรำจะได้รูปคลื่นไซน์ ของแรงดันไฟฟ้ำสลับที่เกิดขึ้นมีขนดดังรูป ควำมถี่ของกระแสสลับ (Frequency ตัวย่อ f) หมำยถึง จำำนวนวัฏจักรของกำรเกิด รูปคลื่นไซน์ต่อเวลำ 1 วินำที ถ้ำเกิดรูปคลื่นไซน์ 2 วัฏจักรต่อเวลำ 1 วินำที ก็แสดงว่ำไฟฟ้ำกระแสสลับที่เกิด ขึ้นมีควำมถี่ 2 วัฏจักรต่อเวลำ 1 วินำที หรือเรียกแทนในหน่วยเฮิรตซ์ (Hz) หรือควำมถี่ ไฟฟ้ำกระแสสลับ 50 เฮิรตซ์ ก็คือกำรเกิดรูปคลื่นไซน์จำำนวน 50 วัฏจักรต่อเวลำ 1 วินำที และจำกรูป 4.2 รูปคลื่นไซน์นี้มีควำมถี่เท่ำกับ 1 เฮิรตซ์ เป็นต้น ค่ำต่ำงๆ ที่สำำคัญของรูปคลื่นไซน์ นอกจำกควำมถี่และคำบเวลำนั้นมีอีก 4 ค่ำ คือ ค่ำสูงสุด(Maximum) ค่ำยอดถึงยอด(Peak-to-Peak) ค่ำเฉลี่ย(Average) และค่ำใช้ งำน(Effective)
  • 5. ค่ำยอดถึงยอด วัตถุจำกจุดยอดของรูปคลื่นไซน์ด้ำนบวกจนถึงจุดยอดของรูปคลื่น ไซน์ด้ำนลบ นั่นคือ ค่ำยอดถึงยอดเท่ำกับ 2 เท่ำของค่ำสูงสุด ค่ำเฉลีย ค่ำเฉลี่ยของรูปคลื่นไซน์นั้นเรำพิจำรณำเฉพำะด้ำนใดด้ำนหนึ่ง คือด้ำน ่ บวกหรือด้ำนลบเพียงด้ำนเดียว เพรำะถ้ำพิจำรณำทั้งวัฏจักรจะได้ค่ำเฉลี่ยเท่ำกับศูนย์ ดังนั้นค่ำเฉลี่ยจึงเป็นปริมำณทำงไฟตรง พิจำรณำตั้งแต่ 0 องศำ ถึง 180 องศำ ค่ำแรงดันใช้งำน (Effective Voltage) ปกติเมื่อนำำมิเตอร์ไฟฟ้ำกระแสสลับ เช่น AC.Voltmeter หรือ RMS. Voltmeter ไปวัดแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับที่เต้ำรับในบ้ำนจะ อ่ำนค่ำได้ 220 V เมื่อนำำเครื่องมือวัดรูปร่ำงของรูปคลื่นไฟสลับ (ไซน์) ดังกล่ำว เช่น นำำ ออสซิลโลสโคปไปวัดจะได้รูปคลื่นไซน์
  • 6. หลักกำรของไฟฟ้ำกระแสตรง ไฟฟ้ำกระแสตรง หมำยถึง กระแสไฟฟ้ำที่มีทิศทำงไหลไปในทิศทำงเดียวเสมอคือไหล จำกขั้วบวกไปสู่ขั้วลบ (กระแสสมมุต) กระแสจะไหลจำกแหล่งกำำเนิดไฟฟ้ำผ่ำนตัวนำำ ิ เข้ำไปทำำงำนยังอุปกรณ์ไฟฟ้ำแล้วไหลกลับแหล่งกำำเนิดโดยไม่มีกำรไหลกลับขั้วจำก ลบไปบวก ในงำนควบคุมมอเตอร์มักจะนำำไฟฟ้ำกระแสตรงไปใช้ในวงจรควบคุม แหล่งจ่ายกำาลังไฟฟ้ากระแสตรง คือ แหล่งพลังงำนไฟฟ้ำที่ไม่มีกำรเปลี่ยนทิศทำงกำรไหลของกระแสในช่วง กำรจ่ำย ตัวอย่ำง เช่น แบตเตอรี่และแผงเซลล์แสงอำทิตย์ กำาลังไฟฟ้าที่อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องการใช้ กำำลังไฟฟ้ำที่อุปกรณ์ไฟฟ้ำกระแสตรงใช้ คำำนวณได้จำก ควำมต่ำงศักย์ไฟฟ้ำหรือ แรงดันไฟฟ้ำและกระแสไฟฟ้ำที่ใช้ไป
  • 7. วงจรไฟฟ้ากระแสตรง วงจรไฟฟ้ำกระแสตรงประกอบด้วย วงจรอันดับหรืออนุกรม วงจรขนำน และวงจร ผสม วงจรอันดับ หรือ อนุกรม วงจรอันดับ เป็นวงจรที่ต่อตัวต้ำนทำนแบบอนุกรมหรืออันดับโดยเอำปลำยด้ำน หนึ่งต่อกับอีกปลำยด้ำนหนึ่งไปเรื่อยๆ สรุปผลที่ได้จำกกำรต่อวงจรแบบอันดับ 1. ควำมต้ำนทำนรวมของวงจรเท่ำกับค่ำของควำมต้ำนทำนย่อยทั้งหมดรวมกัน 2. กระแสที่ไหลในวงจรเท่ำกันตลอดหรือกระแสที่ไหลผ่ำนจุด แต่ละจุดในวงจรมีค่ำเดียวกัน 3. แรงดันที่ตกคร่อมตัวต้ำนทำนแต่ละตัวรวมกันเท่ำกับแรงดันไฟฟ้ำที่ป้อนให้ กับวงจร วงจรขนาน วงจรขนำน เป็นวงจรทีมีกระแสไฟฟ้ำไหลผ่ำนปลำยทำงหรือตั้งแต่ 2 ทำงขึ้นไป ่ จนครบวงจร สรุปผลที่ได้จำกกำรต่อวงจรแบบขนำน
  • 8. 1. แรงดันไฟฟ้ำตกคร่อมที่มำจำกวงจรย่อยเท่ำกับแรงดันไฟฟ้ำของแหล่งจ่ำย นั่นเอง เพรำะว่ำควำมต้ำนทำนแต่ละตัวต่ำงก็ขนำนกับแหล่งกำำเนิด 2. กระไฟฟ้ำรวมในวงจรขนำนเท่ำกับกระแสไฟฟ้ำทั้งหมดรวมกัน 3. ควำมต้ำนทำนรวมของวงจรขนำนจะมีค่ำน้อยกว่ำหรือเท่ำกับตัวต้ำนทำนที่มี ค่ำน้อยที่สุดในวงจร วงจรผสม วงจรผสม หมำยถึง กำรต่อวงจรทั้งแบบอนุกรมและขนำนเข้ำไปในวงจรเดียวกัน เช่นตัวต้ำนทำนตัวหนึ่งต่ออนุกรมกับตัวต้ำนทำนอีกตัวหนึ่ง แล้วนำำตัวต้ำนทำนทั้งสอง ไปต่อขนำนกับตัวต้ำนทำนอีกตัวหนึ่ง