SlideShare a Scribd company logo
1 of 10
Download to read offline
พลังงานไฟฟา
          ้
ไฟฟาสถิต (Statics Electricity)
   ้

       ไฟฟาสถิต เป็ นกระแสไฟฟาที่เกิดจากการเสียดสีของวัตถุ 2 ชนิด คือแท่ง
          ้                     ้
แก้ วนามาขัดถูกบผ้ าไหม จะมีผลทาให้ ทาให้ อิเล็กตรอนย้ ายที่ แท่งแก้ วจะมี
               ั
อานาจไฟฟาดึงดูดวัตถุเบา ๆ เช่น เศษกระดาษ หรื อไฟฟาสถิตที่เกิดจาก
            ้                                      ้
ธรรมชาติ เช่น ฟาแล็บ ฟาร้ อง ฟาผ่า
                 ้     ้      ้
ไฟฟากระแส (Current Electricity)
   ้

      คือแหล่งกาเนิดไฟฟาที่มนุษย์สามารถผลิตขึ ้นมาเพื่อใช้ งานด้ านต่างๆได้ อย่าง
                       ้
มากมายโดยการส่งกระแสไฟฟาให้ เคลื่อน ที่ ไปในลวดตัวนา แบ่งออกเป็ น 2 ชนิดคือ
                         ้
ไฟฟากระแสตรง( Direct Current) ไฟฟากระแสสลับ (Alternation
   ้                                      ้
Current)
ไฟฟากระแสตรง (Direct Current)
   ้

        ไฟฟากระแสตรงนี ้จะมีทศทางการไหลไปในลวดตัวนาเพียงทิศทางเดียวโดย
            ้                ิ
กระแสไฟฟาจะไหลจากขัวลบไปยังขัวบวก เสมอ เราเรี ยกว่ากระแสอิเล็กตรอน
              ้          ้       ้
(Electron - Current) แต่เรานิยมให้ กระแสไฟฟาไหลจากขัวบวกไปหาขัวลบ
                                              ้           ้          ้
เราเรี ยกว่า กระแสนิยม (Conventional- Current)แหล่งกาเนิดไฟฟา    ้
กระแสตรงนันมีต้นกาเนิดมาจากเซลไฟฟา เช่น ถ่านไฟฉายและเบตเตอรี่ รถยนต์
                ้                   ้
• เซลไฟฟา คือต้ นกาเนิดแรงเคลื่อนไฟฟาที่ใช้ ปฏิกิริยาทางเคมี แบ่ง
         ้                          ้
  ตามลักษณะการใช้ งาน ได้ 2 ชนิดคือ

     1.) เซลปฐมภูมิ (Primary Cell) คือเซลไฟฟาที่นามาใช้ งาน
                                                  ้
  จนหมดสภาพแล้ วเราไม่สามารถนามาใช้ ได้ อีก เช่น ถ่านไฟฉาย
2.) เซลทุติยภูมิ (SecondaryCell)แบตเตอรี่ แบบสะสมคือเซลไฟฟาที่              ้
นามาใช้ งานแล้ วสามารถนากลับมาใช้ ใหม่ ได้ อีก โดยการเติมประจุ (Charge)
เข้ าที่เซลล์ไฟฟานี ้ เช่น แบตเตอรี่ รถยนต์ หรื อถ่านนิเกิลแคดเมี่ยมที่ใช้ กบ
                ้                                                           ั
โทรศัพท์มือถือ
ไฟฟากระแสสลับ (Alternation Current) เป็ นกระแสไฟฟาที่มี
               ้                                                    ้
การไหลเปลี่ยนแปลงอย่ตลอดเวลาคือมีทงขัวบวกและขัวลบ สลับกัน โดยหลักการ
                                       ั้ ้         ้
พื ้นฐานแล้ วกระแสไฟฟาสลับนี ้เกิด จากการเหนี่ยวนาของสนามแม่เหล็กตัดกับ
                      ้
ขดลวด โดยการ นาเอาขดลวดไปวางไว้ ระหว่างสนามแม่เหล็กและหมุนขดลวดนัน      ้
แล้ วใช้ เทคนิคในการต่อขัวทังสองของขดลวดออก มาเราก็สามารถบังคับให้
                         ้ ้
กระแสไฟฟาสลับออกมาใช้ งานได้
             ้
ทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาที่เกิดขึ ้นในขดลวด จะเปลี่ยนแปลงไปตามการ
                               ้
หมุนซึงตรวจดูความสัมพันธ์ ระหว่างมุมที่ขด ลวดกับขนาดทิศทางของ
      ่
แรงเคลื่อนไฟฟาที่เกิดขึ ้น จะได้ ผลดังรูป
             ้
เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (a)กาหนดให้ เป็ นมุม 0 องศาและกาหนดให้
                    ่
ขดลวดหมุนไปตามทิศทางของลูกศรในรูปเมื่อขดลวดอยู่ 0องศาขดลวดไม่ได้
ติดฟลักซ์แม่เหล็กแรงเคลื่อนไฟฟาจะเป็ น0 เมื่อขดลวดหมุนไปอยูที่ 30 องศา
                               ้                            ่
และ 60 องศาแรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงขึ ้นและมีกระแสไหลจาก A ไป B ถ้ า
                             ้   ่
กาหนดให้ ทิศดังกล่าวเป็ นบวกทิศของแรงเคลื่อนไฟฟาซึงเป็ นบวกด้ วยเมื่อ
                                                ้ ่
ขดลวดมาอยูตาแหน่งที่ (b) คือ 90 องศา ขดลวด A จะอยูใต้ แม่เหล็ก S พอดี
              ่                                         ่
แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงสุดเมื่อขดลวดหมุนไปที่ 120 องศา และ 150 องศา
                ้      ่
แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาลดลงและจะเป็ น 0 เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (c ) คือ
                  ้      ่                           ่
ที่ 180 องศา เมื่อเลย 180องศาไปจะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟาขึ ้นอีกแต่มีทิศทาง
                                                   ้
กลับกันกระแสจะไหลจาก B ไป A เมื่อขดลวดหมุนไปเรื่ อยๆก็จะได้ ขนาดและ
ทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาเหมือนรูปข้ างต้ น
                           ้
ผู้จัดทำ

 ด.ช. อมรศิลป์ กันวงค์ เลขที่ 17

 ด.ช. ชญำนนท์ ศรีโชติ เลขที่ 18

ด.ญ. กรรณิกำ กันทะไชย เลขที่ 19

  ด.ญ. กุลธิดำ ขัดแก้ ว เลขที่ 20

     ชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 3/3

More Related Content

What's hot

พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์Muk52
 
1.อิเล็กทรอนิกส์
1.อิเล็กทรอนิกส์1.อิเล็กทรอนิกส์
1.อิเล็กทรอนิกส์Jiraporn
 
ใบความรู้ เรื่อง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า
ใบความรู้ เรื่อง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้าใบความรู้ เรื่อง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า
ใบความรู้ เรื่อง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้าพัน พัน
 
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้าใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้าพัน พัน
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าAnunata5
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าAnunata5
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าAnunata5
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าAnunata5
 

What's hot (12)

Lesson16
Lesson16Lesson16
Lesson16
 
พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
1.อิเล็กทรอนิกส์
1.อิเล็กทรอนิกส์1.อิเล็กทรอนิกส์
1.อิเล็กทรอนิกส์
 
ไฟฟ้าม3
ไฟฟ้าม3ไฟฟ้าม3
ไฟฟ้าม3
 
ไฟฟ้ากระแสสลับ
ไฟฟ้ากระแสสลับไฟฟ้ากระแสสลับ
ไฟฟ้ากระแสสลับ
 
ใบความรู้ เรื่อง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า
ใบความรู้ เรื่อง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้าใบความรู้ เรื่อง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า
ใบความรู้ เรื่อง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า
 
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้าใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
ใบความรู้ที่ 3 เรื่องสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 

Viewers also liked

Radioecology and Technetium-99 - IST-2008
Radioecology and Technetium-99 - IST-2008Radioecology and Technetium-99 - IST-2008
Radioecology and Technetium-99 - IST-2008Konstantin German
 
тема 3. витамины
тема 3. витаминытема 3. витамины
тема 3. витаминыKonstantin German
 
Chemical kinetics for medicine students
Chemical kinetics for medicine studentsChemical kinetics for medicine students
Chemical kinetics for medicine studentsKonstantin German
 
กลุ่มที่ 5 (1)
กลุ่มที่ 5 (1)กลุ่มที่ 5 (1)
กลุ่มที่ 5 (1)Kunthida Kik
 
2013 co chem1304007marukgerman-tpgh-reo4-eng
2013 co chem1304007marukgerman-tpgh-reo4-eng2013 co chem1304007marukgerman-tpgh-reo4-eng
2013 co chem1304007marukgerman-tpgh-reo4-engKonstantin German
 
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3กลุ่มที่ 5 ห้อง 3
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3Kunthida Kik
 

Viewers also liked (8)

Radioecology and Technetium-99 - IST-2008
Radioecology and Technetium-99 - IST-2008Radioecology and Technetium-99 - IST-2008
Radioecology and Technetium-99 - IST-2008
 
тема 3. витамины
тема 3. витаминытема 3. витамины
тема 3. витамины
 
Chemical kinetics for medicine students
Chemical kinetics for medicine studentsChemical kinetics for medicine students
Chemical kinetics for medicine students
 
กลุ่มที่ 5 (1)
กลุ่มที่ 5 (1)กลุ่มที่ 5 (1)
กลุ่มที่ 5 (1)
 
1994 bressanone-sulfides
1994 bressanone-sulfides1994 bressanone-sulfides
1994 bressanone-sulfides
 
2013 co chem1304007marukgerman-tpgh-reo4-eng
2013 co chem1304007marukgerman-tpgh-reo4-eng2013 co chem1304007marukgerman-tpgh-reo4-eng
2013 co chem1304007marukgerman-tpgh-reo4-eng
 
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3กลุ่มที่ 5 ห้อง 3
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3
 
panikath hindu
panikath hindupanikath hindu
panikath hindu
 

Similar to งานนำเสนอ

งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6Thitikan
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpipopsin163
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์Muk52
 
ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์nom11
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดาbo222
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดาbo222
 
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าChapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าNapasorn Juiin
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)Nontawat Rupsung
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)Nontawat Rupsung
 
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดพลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดpanawan306
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าUp To You's Toey
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าUp To You's Toey
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าUp To You's Toey
 

Similar to งานนำเสนอ (20)

งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์
 
ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดา
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดา
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าChapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดพลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
 
ใบความรู้.05
ใบความรู้.05ใบความรู้.05
ใบความรู้.05
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 

งานนำเสนอ

  • 2. ไฟฟาสถิต (Statics Electricity) ้ ไฟฟาสถิต เป็ นกระแสไฟฟาที่เกิดจากการเสียดสีของวัตถุ 2 ชนิด คือแท่ง ้ ้ แก้ วนามาขัดถูกบผ้ าไหม จะมีผลทาให้ ทาให้ อิเล็กตรอนย้ ายที่ แท่งแก้ วจะมี ั อานาจไฟฟาดึงดูดวัตถุเบา ๆ เช่น เศษกระดาษ หรื อไฟฟาสถิตที่เกิดจาก ้ ้ ธรรมชาติ เช่น ฟาแล็บ ฟาร้ อง ฟาผ่า ้ ้ ้
  • 3. ไฟฟากระแส (Current Electricity) ้ คือแหล่งกาเนิดไฟฟาที่มนุษย์สามารถผลิตขึ ้นมาเพื่อใช้ งานด้ านต่างๆได้ อย่าง ้ มากมายโดยการส่งกระแสไฟฟาให้ เคลื่อน ที่ ไปในลวดตัวนา แบ่งออกเป็ น 2 ชนิดคือ ้ ไฟฟากระแสตรง( Direct Current) ไฟฟากระแสสลับ (Alternation ้ ้ Current)
  • 4. ไฟฟากระแสตรง (Direct Current) ้ ไฟฟากระแสตรงนี ้จะมีทศทางการไหลไปในลวดตัวนาเพียงทิศทางเดียวโดย ้ ิ กระแสไฟฟาจะไหลจากขัวลบไปยังขัวบวก เสมอ เราเรี ยกว่ากระแสอิเล็กตรอน ้ ้ ้ (Electron - Current) แต่เรานิยมให้ กระแสไฟฟาไหลจากขัวบวกไปหาขัวลบ ้ ้ ้ เราเรี ยกว่า กระแสนิยม (Conventional- Current)แหล่งกาเนิดไฟฟา ้ กระแสตรงนันมีต้นกาเนิดมาจากเซลไฟฟา เช่น ถ่านไฟฉายและเบตเตอรี่ รถยนต์ ้ ้
  • 5. • เซลไฟฟา คือต้ นกาเนิดแรงเคลื่อนไฟฟาที่ใช้ ปฏิกิริยาทางเคมี แบ่ง ้ ้ ตามลักษณะการใช้ งาน ได้ 2 ชนิดคือ 1.) เซลปฐมภูมิ (Primary Cell) คือเซลไฟฟาที่นามาใช้ งาน ้ จนหมดสภาพแล้ วเราไม่สามารถนามาใช้ ได้ อีก เช่น ถ่านไฟฉาย
  • 6. 2.) เซลทุติยภูมิ (SecondaryCell)แบตเตอรี่ แบบสะสมคือเซลไฟฟาที่ ้ นามาใช้ งานแล้ วสามารถนากลับมาใช้ ใหม่ ได้ อีก โดยการเติมประจุ (Charge) เข้ าที่เซลล์ไฟฟานี ้ เช่น แบตเตอรี่ รถยนต์ หรื อถ่านนิเกิลแคดเมี่ยมที่ใช้ กบ ้ ั โทรศัพท์มือถือ
  • 7. ไฟฟากระแสสลับ (Alternation Current) เป็ นกระแสไฟฟาที่มี ้ ้ การไหลเปลี่ยนแปลงอย่ตลอดเวลาคือมีทงขัวบวกและขัวลบ สลับกัน โดยหลักการ ั้ ้ ้ พื ้นฐานแล้ วกระแสไฟฟาสลับนี ้เกิด จากการเหนี่ยวนาของสนามแม่เหล็กตัดกับ ้ ขดลวด โดยการ นาเอาขดลวดไปวางไว้ ระหว่างสนามแม่เหล็กและหมุนขดลวดนัน ้ แล้ วใช้ เทคนิคในการต่อขัวทังสองของขดลวดออก มาเราก็สามารถบังคับให้ ้ ้ กระแสไฟฟาสลับออกมาใช้ งานได้ ้
  • 8. ทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาที่เกิดขึ ้นในขดลวด จะเปลี่ยนแปลงไปตามการ ้ หมุนซึงตรวจดูความสัมพันธ์ ระหว่างมุมที่ขด ลวดกับขนาดทิศทางของ ่ แรงเคลื่อนไฟฟาที่เกิดขึ ้น จะได้ ผลดังรูป ้
  • 9. เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (a)กาหนดให้ เป็ นมุม 0 องศาและกาหนดให้ ่ ขดลวดหมุนไปตามทิศทางของลูกศรในรูปเมื่อขดลวดอยู่ 0องศาขดลวดไม่ได้ ติดฟลักซ์แม่เหล็กแรงเคลื่อนไฟฟาจะเป็ น0 เมื่อขดลวดหมุนไปอยูที่ 30 องศา ้ ่ และ 60 องศาแรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงขึ ้นและมีกระแสไหลจาก A ไป B ถ้ า ้ ่ กาหนดให้ ทิศดังกล่าวเป็ นบวกทิศของแรงเคลื่อนไฟฟาซึงเป็ นบวกด้ วยเมื่อ ้ ่ ขดลวดมาอยูตาแหน่งที่ (b) คือ 90 องศา ขดลวด A จะอยูใต้ แม่เหล็ก S พอดี ่ ่ แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาสูงสุดเมื่อขดลวดหมุนไปที่ 120 องศา และ 150 องศา ้ ่ แรงเคลื่อนไฟฟาจะมีคาลดลงและจะเป็ น 0 เมื่อขดลวดอยูในตาแหน่ง (c ) คือ ้ ่ ่ ที่ 180 องศา เมื่อเลย 180องศาไปจะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟาขึ ้นอีกแต่มีทิศทาง ้ กลับกันกระแสจะไหลจาก B ไป A เมื่อขดลวดหมุนไปเรื่ อยๆก็จะได้ ขนาดและ ทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟาเหมือนรูปข้ างต้ น ้
  • 10. ผู้จัดทำ ด.ช. อมรศิลป์ กันวงค์ เลขที่ 17 ด.ช. ชญำนนท์ ศรีโชติ เลขที่ 18 ด.ญ. กรรณิกำ กันทะไชย เลขที่ 19 ด.ญ. กุลธิดำ ขัดแก้ ว เลขที่ 20 ชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 3/3