More Related Content Similar to ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บางส่วน)
Similar to ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บางส่วน) (20) More from สอบครูดอทคอม เว็บเตรียมสอบ
More from สอบครูดอทคอม เว็บเตรียมสอบ (20) ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บางส่วน)6. หลักการศึกษา
กลุ่มเป้ าหมายของการจัดการศึกษา
- เด็กก่อนวัยเรียน การเตรียมความพร้อมเพื่อส่งเสริม
พัฒนาการทุกด้าน
- บุคคลในวัยเรียน การศึกษาภาคบังคับ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาระดับอุดมศึกษา
- ผู้ด้อยโอกาส หรือบุคคลลักษณะพิเศษ
- ผู้มีงานทํา และประชาชนทั่วไป
8. หลักการศึกษา
ดัชนีชี้วัดการจัดการศึกษา
- คุณภาพของผู้เรียน ได้แก่ ความรู้ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรม
ทักษะ และพฤติกรรม
- คุณภาพของการจัดการเรียนการสอน เช่น คุณภาพของครู
สภาพแวดล้อม รูปแบบและระบบการเรียนการสอน สื่อและ
เทคโนโลยี กระบวนการเรียนรู้
- ความคุ้มค่าในการจัดการศึกษา คือ ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษานั้นให้ผล
คุ้มกับการลงทุนหรือไม่
- ผลลัพธ์ของการจัดการศึกษา ได้แก่ นักเรียนที่สําเร็จการศึกษาจาก
โรงเรียน เป็นอย่างไร
10. หลักการศึกษา
หลักการจัดระบบ โครงสร้าง กระบวนการ
จัดการศึกษา
-หลักเอกภาพด้านนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏิบัติ
-หลักการกระจายอํานาจ
-การกําหนดมาตรฐานการศึกษา
-การส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
-การระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ
- การมีส่วนร่วม
15. มาตรฐานการศึกษาชาติ
ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน 11 ตัวบ่งชี้
มฐ.1 คุณลักษณะของคนไทยที่พึงประสงค์
ทั้งในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก(5ตบช.)
มฐ.2 แนวการจัดการศึกษา(3ตบช.)
มฐ.3 แนวการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้/
สังคมแห่งความรู้(3ตบช.)
19. มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย
18 มาตรฐาน 82 ตัวบ่งชี้
ด้าน มาตรฐาน ตัวบ่งชี้
ด้านคุณภาพเด็ก 8 32
ด้านการจัดการเรียนรู้ 2 14
ด้านการบริหารและจัดการศึกษา6 32
ด้านพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ 2 4
รวมทุกด้าน 18 82โครงสร้างมฐ.
มฐ. 1- 8
มฐ. 9- 10
มฐ. 17- 18
มฐ. 11- 16
20. มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
18 มาตรฐาน 84 ตัวบ่งชี้
ด้าน มาตรฐาน ตัวบ่งชี้
ด้านคุณภาพนักเรียน 8 33
ด้านการเรียนการสอน 2 14
ด้านการบริหารจัดการศึกษา 6 33
ด้านพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ 2 4
รวมทุกด้าน 18 84โครงสร้างมฐ.
มฐ. 1- 8
มฐ. 9- 10
มฐ. 11- 16
มฐ. 17- 18
22. ประเมินรอบสอง 14 มฐ. 60 ตบช.
สํานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
มฐ.ด้านผู้เรียน
7 32
15
13
5
2มฐ.ด้านครู
มฐ.ด้านผู้บริหาร
25. จุดหมายของหลักสูตร 9 ข้อ
มุ่งพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
1.เห็นคุณค่า มีวินัยในตัวเอง ปฏิบัติตามหลักธรรมศาสนา มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมพึงประสงค์
2. มีความคิดสร้างสรรค์ใฝ่ รู้ ใฝ่ เรียน
3.มีความรู้อันเป็นสากล มีทักษะศักยภาพด้านสื่อสาร เทคโนฯ
4. มีทักษะกระบวนการคณิตฯ วิทย์ฯ การคิด การสร้างปัญญา การดําเนินชีวิต
5.รักการออกกําลังกาย ดูแลสุขภาพ บุคลิกภาพ
6.มีประสิทธิภาพการผลิต การบริโภค ทนิยมผลิตมากกว่าบริโภค
7.เข้าใจประวัติศาสตร์ชาติไทย ภูมิใจในความเป็นไทย
8. สํานึกอนุรักษ์ภาษา ศิลป วัฒนธรรมประเพณี กีฬาภูมิปัญญาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม
9.รักประเทศชาติ ท้องถิ่น ทําประโยชน์สิ่งดีงามให้สังคม
31. เวลาเรียน/ปี
ช่วงชั้น ป. 1-3
800-1000 ชั่วโมง หรือวันละ 4-5ชั่วโมง
ช่วงชั้น ป. 4-6
800-1000 ชั่วโมง หรือวันละ 4-5ชั่วโมง
ช่วงชั้น ม. 1-3
1000-1200 ชั่วโมง หรือวันละ 5-6ชั่วโมง
ช่วงชั้น ม. 4-6
1200 ชั่วโมง หรือวันละไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
ช่วงชั้นที่ 4
(ม.4-ม.6)
จัดหลักสูตร
เป็นหน่วยกิต
(40ชั่วโมง
ต่อภาคเรียน
คือ 1หน่วยกิต)
35. นโยบายแนวทางการจัดหลักสูตรฯ
สัดส่วนกลุ่มสาระ 3 กลุ่ม
1 กลุ่มพื้นฐานทางวิชาการและการเรียนรู้
ไทย อังกฤษ คณิต วิทย์ คอม : ให้เรียน ในห้องและอาจนอกห้อง
2 กลุ่มพื้นฐานการอยู่ร่วมกันในสังคม
ประวัติ ภูมิ ศาสนา ศิลธรรม จริยะรรมหน้าที่พลเมือง
เศรษฐศาสตร์ สุขศึกษา : ให้เรียน ในห้องและนอกห้องเท่าๆกัน
37. การกําหนดเวลาเรียน
กลุ่ม 1 และ 2 : ควรเรียนช่วงเช้า
กลุ่ม 3 : ควรเรียนช่วงบ่าย
:ไม่ควรคิดคะแนนสอบ
ให้เข้าเรียนสมํ่าเสมอสามารถสอบผ่าน
แต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกัน
38. จุดเน้นในการเรียนกลุ่มสาระต่างๆ
ภาษาไทย : การออกเสียง ควบกลํ้า เขียนเรียงความย่อความ
ใช้ถ้อยคําเหมาะสม
ภาษาอังกฤษ : การพูดตอบโต้ การอ่านเก็บใจความ เขียน
วิทยาศาสตร์ : กระบวนการใช้เครื่องมือทดลองวิทยาศาสตร์
คิดวิเคราะห์หาเหตุผล
คณิตศาสตร์ : หลักการคํานวณ คิดหาเหตุผล ลําดับต่อเนื่อง
คิดวิเคราะห์ด้วยกรบวนการวิทยาศาสตร์
39. จุดเน้นในการเรียนกลุ่มสาระ(ต่อ)
คอมพิวเตอร์: เข้าใจภาษาคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ สร้าง
โปรแกรม สร้างเว็บไซต์ เก็บ ค้นหาข้อมูล ใช้คอมเรียนรู้กลุ่มสาระ
สังคม ศาสนา วัฒนธรรม: ประวัติศาสตร์ชาติไทย ความเป็นไทย
เอกลักษณ์ ประเพณีวัฒนธรรมไทย ปลูกฝังคนดี มีคุณธรรม
สุขศึกษา พลศึกษา: การออกกําลังกาย การเล่นกีฬา มีระเบียบ มี
นํ้าใจนักกีฬา ไม่ใช้สารเสพติด ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา
ไม่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ พฤติกรรมเสี่ยง
การงานอาชีพ: ฝึกทักษะผลิตสินค้าและบริการ รู้จักวิธีการ
ประกอบอาชีพ เข้าใจการพัฒนาการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า
47. การจัดการเรียนการสอน(เรียนรู้) แบบต่างๆ
วิธีสอนที่ยึดครู
เป็นศูนย์กลาง
(Teache – Centered Method)
-วิธีสอนแบบบรรยาย
-วิธีสอนแบบสาธิต
-วิธีสอนโดยการทบทวน
- ฯลฯ
วิธีสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
(Child - centered Method)
-แบบบูรณาการ -แบบทดลอง -แบบโครงการ
-แบบศูนย์การเรียน -แบบสืบสวนสอบสวน
-แบบแบ่งกลุ่มทํางาน -แบบอภิปราย -แบบหน่วย
-แบบอุปนัย -แบบนิรนัย -แบบแสดงบทบาท
-แบบวิทยาศาสตร์ -แบบผู้เรียนมีส่วนร่วม
50. การจัดการเรียนการสอนแบบต่างๆ
•การสอนแบบโมดูล (Module)
•การเรียนรู้ที่เรียกว่า 4 MAT
•CIPPA MODEL
C : Construct ให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง
I : Interaction ให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์
ซึ่งกันและกัน
P : Participation ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้
P : Process / Product ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้กระบวนการควบคู่กันไปกับผลงาน
A : Application ให้ผู้เรียนนําความรู้ประประยุกต์ใช้
58. ทฤษฎีการเรียนรู้การวางเงื่อนไขแบบการกระทํา (Operant
Conditioning theory)
เจ้าของ เบอร์รัส สกินเนอร์ (Burrhus Skinner)
แนวคิดสําคัญ
- พฤติกรรมที่บุคคลกระทําหรือแสดงออกจะเกิดผลกรรมตามมาเสมอ
- ผลกรรมที่เกิดตามหลังการกระทําต่างๆ นี้ จะทําให้บุคคลเกิดการเรียนรู้
ว่าตนจะทําหรือไม่ทําพฤติกรรมเช่นนั้นอีกในอนาคต(การเรียนรู้)
หลักการนํามาใช้
- การเสริมแรงทางบวก (Positive Reinforcement)
- การเสริมแรงทางลบ (Negative Reinforcement)
- การลงโทษ (Punishment)
59. การเสริมแรงทางบวก (Positive Reinforcement)
ตัวเสริมแรงที่เป็นสิ่งของ (Material Reinforcer) เช่น ขนม ของเล่น เสื้อผ้า
นํ้าหอม รถยนต์ ฯลฯ
ตัวเสริมแรงทางสังคม (Social Reinforcer) เช่น ยิ้ม มองอย่างสนใจ การ
แตะตัว จับมือ ฯลฯ
ตัวเสริมแรงที่เป็นกิจกรรม (Activity Reinforcer) เช่น กิจกรรมน่าชืนชม
เป็นประโยชน์
ตัวเสริมแรงที่เป็นเบี้ยอรรถกร (Token Reinforcer) เช่น ดาว คูปอง โบนัส
เงิน คะแนน เป็นต้น
60. การลงโทษ (Punishment)
1) ทําทันทีหรือเร็วที่สุดเมื่อพฤติกรรมที่ไม่ต้องการเกิดขึ้น
2) ควรให้มีความรุนแรงพอเหมาะไม่มากหรือน้อยเกินไป
3) ควรให้ผู้ถูกลงโทษรู้ว่าพฤติกรรมใดที่ถูกลงโทษและเพราะเหตุใด
4) ควรใช้เหตุผลไม่ใช้อารมณ์
5) ควรใช้การลงโทษควบคู่กับการเสริมแรงทางบวก (ระงับพฤติกรรมที่ไม่พึงปรารถนา
โดยการลงโทษ และเมื่อทําพฤติกรรมที่พึงปรารถนาต้องรีบให้การเสริมแรงทางบวก)
6) ผู้ลงโทษต้องเป็นตัวแบบที่ดีในทุกๆ ด้าน
7) การลงโทษควรเป็นวิธีสุดท้าย ถ้าไม่จําเป็นไม่ควรใช้การลงโทษ (การลงโทษควรใช้ใน
กรณีที่ทําพฤติกรรมอันตรายต่อชีวิต เช่น เด็กเอามือไปแหย่ปลั๊กไฟ ฯลฯ )
61. จิตวิทยาพัฒนาการ
พัฒนาการ (Development) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่เป็นระบบ
ระเบียบ สามารถคาดคะเน ตามสมควร เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้า
ของบุคคล อันเป็นผลมาจากวุฒิภาวะและประสบการณ์ ซึ่งเกิดขึ้นตลอด
ชีวิตตั้งแต่แรกเกิด
องค์ประกอบของพัฒนาการ ประกอบด้วย
-วุฒิภาวะ (Maturity) -การเรียนรู้ (Learning)
ความแตกต่างของบุคคล ประกอบด้วย
- พันธุกรรม (Heredity) - สิ่งแวดล้อม (Environment)
62. ประเภทพัฒนาการ
นักจิตวิทยาได้แบ่งพัฒนาการออกเป็น 4 ด้าน
-พัฒนาการทางด้านร่างกาย (Physical Develop Metric)
- พัฒนาการทางด้านสติปัญญา (Mental Development)
- พัฒนาการทางด้านอารมณ์ (Emotional Development)
- พัฒนาการทางด้านสังคม (Social Development)
ตัวอย่างพัฒนาการ
- ด้านร่างกาย เช่น เดินและวิ่งได้ ประสาทยังไม่สัมพันธ์กัน
- ด้านสติปัญญา เช่น อยากรู้อยากเห็น คิดเกมขึ้นเล่นเองได้
- ด้านอารมณ์ เช่น หงุดหงิดร้องไห้ง่าย อายง่าย รักครู
- ด้านสังคม เช่น ชอบทําให้ผู้อื่นพอใจ แบ่งปันไม่เป็น
67. มฐ.งานแนะแนวตามหลักสูตรฯ
มาตรฐานที่ 1 รู้จัก เข้าใจและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
มาตรฐานที่ 2 มีความสามารถในการแสวงหาและใช้ข้อมูล
สารสนเทศ
มาตรฐานที่ 3 มีความสามารถในการตัดสินใจและแก้ปัญหาได้
อย่างเหมาะสม
มาตรฐานที่ 4 มีความสามารถในการปรับตัวและการดํารงชีวิต
อย่างมีความสุข
68. ความหมาย1. สื่อการศึกษา หมายถึง ตัวกลางหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการ
เรียนรู้ เกิดการพัฒนา
2. เทคโนโลยีทางการศึกษา มาจากเทคโน (วิธีการ) + โลยี (วิทยา) หมายถึง
ศาสตร์ที่ว่าด้วยวิธีการทางการศึกษา ครอบคลุมระบบการนําวิธีการ มา
ปรับปรุงประสิทธิภาพของการศึกษาให้สูงขึ้น
3. นวัตกรรมทางการศึกษา หมายถึง ความคิดและวิธีการปฏิบัติใหม่ๆ ที่
ส่งเสริมให้กระบวนการทางการศึกษามีประสิทธิภาพ
สื่อและนวัตกรรมทางการศึกษา
71. กรวยประสบการณ์
กรวยประสบการณ์ (Cone Of Experience)เอ็ดการ์ เดล
วจนะลักษณ์ (Verbal Symbols) ได้แก่ คําบรรยา ตํารา คู่มือ
แบบฝึกหัด เอกสารสิ่งพิมพ์
ทัศนสัญลักษณ์ (Visual Symbols) ได้แก่ แผนที่ แผนภูมิ กราฟ
โปสเตอร์ การ์ตูน แผนภาพ หรือไดอะแกรม
ภาพนิ่ง/ เสียง (Recording Radio Still Picture) ได้แก่ รูปภาพ สไลด์
ฟิล์มสตริป แผ่นใส แถบ/จานเสียง รายการวิทยุ สไลด์ประกอบเสียง
ภาพยนตร์ (Motion Picture)
โทรทัศน์ รายการโทรทัศน์สด Video
นิทรรศการ (Exhilbits)
การศึกษานอกสถานที่ ชุมชน โรงงาน
72. กรวยประสบการณ์
กรวยประสบการณ์ (Cone Of Experience)เอ็ดการ์ เดล
การสาธิต (Demonstration) ได้แก่ เครื่องมืออุปกรณ์สําหรับการสาธิต
นาฏการ (Dramatized Experience) การแสดงบทบาทสมมุติ
ละคร หุ่น
ประสบการณ์จําลอง (Contrived Experience) ได้แก่ หุ่นจําลอง
ของตัวอย่าง สถานการณ์สมมุติ
ประสบการณ์จริง (Direct purpose –Full Experience) ได้แก่
ของจริง ประสบการณ์จริง
73. สื่อการเรียนรู้โดยทั่วไป
1. วัสดุ (Software) ได้แก่ วัสดุต่าง ๆ เช่น บัตรคํา รูปภาพ แผนภูมิ
หุ่นจําลอง แถบบันทึกเสียง จานเสียง ฟิล์มต่าง ๆ
2. เครื่องมือ (Hardware) ได้แก่ เครื่องมืออุปกรณ์ และเครื่องอีเล็ค
โทร นิคต่าง ๆ ช่วยผลิต รายการสําหรับเสนอสาระต่างกับวัสดุ เช่น เครื่อง
ฉายชนิดต่าง ๆ เครื่องเสียง ชนิดต่าง ๆ และเครื่องบันทึกภาพ บันทึกเสียง
เป็นต้น
3. วิธีการ (Technique) ได้แก่ การปฏิบัติต่าง ๆ เช่น การสํารวจ การ
สาธิต ละคร นิทรรศการ เป็นต้น
74. ลักษณะสื่อการเรียนรู้ตามหลักสูตรฯ
• สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือ ตํารา เอกสาร หนังสือพิมพ์ วรสาร
จดหมายรายงาน วิทยานิพนธ์
• สื่อเทคโนโลยี เช่น วีดีทัศน์ เทป CAI อินเตอร์เน็ต
การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
• สื่ออื่น จําแนกเป็น
- บุคคล เช่น ครู นร ผู้ปกครอง ผู้นํา ภูมิปัญญาชาวบ้าน
- ธรรมชาติ รวมถึง ห้องเรียนห้องแล็ป ห้องสมุด ศูนย์ฯ
- กิจกรรมกระบวนการ เช่น การสาธิต บทบาทสมมุติ การแสดง
ละคร โครงงาน นิทรรศการ เกม เพลง ใบงาน
75. สื่อ ICT การเรียนรู้สมัยใหม่
ICT (Information and Communication
Technology)
• คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer-Assisted Instruction)
• การสอนบนเว็บ (Web-Based Instruction)
• การเรียนออนไลน์ (On-line Learning)
• ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Library)
• หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book)
• การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม
76. สื่อการเรียนรู้ที่สําคัญ
E – Learning
การเรียนรู้ออนไลน์ การเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Learning )
เป็นรูปแบบวิธีการเรียนรู้บนฐานเทคโนโลยี (Technology-based learning)
ซึ่งครอบคลุมวิธีการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ผ่าน
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท อาทิ คอมพิวเตอร์ หรืออินเทอร์เน็ต (internet)
อาทิเช่น
• การเรียนรู้บนคอมพิวเตอร์ (computer-based learning)
• การเรียนรู้บนเว็บ (web-based learning) ต่างๆ
77. 1. คุณค่าด้านวิชาการ
1.1 ทําให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์ตรง
1.2 ทําให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีกว่าและมากกว่าไม่ใช่สื่อการสอน
1.3 ลักษณะที่เป็นรูปธรรมของสื่อการสอน ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ
ความหมายของสิ่งต่าง ๆ ได้กว้างขวางและเป็นแนวทางให้เข้าใจสิ่งนั้น ๆ
ได้ดียิ่งขึ้น
1.4 ส่วนเสริมด้านความคิด และการแก้ปัญหา
1.5 ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ถูกต้อง และจําเรื่องราวได้มากและได้นาน
1.6 สื่อการสอนบางชนิด ช่วยเร่งทักษะในการเรียนรู้ เช่น ภาพยนตร์
ภาพนิ่ง เป็นต้น
คุณค่าของสื่อ
78. 2. คุณค่าด้านจิตวิทยาการเรียนรู้
2.1 ทําให้เกิดความสนใจ และต้องเรียนรู้ในสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น
2.2 ทําให้เกิดความคิดรวบยอดเป็นเพียงอย่างเดียว
2.3 เร้าความสนใจ ทําให้เกิดความพึงพอใจ และยั่วยุให้กระทํา
กิจกรรมด้วยตนเอง
3. คุณค่าด้านเศรษฐกิจการศึกษา
3.1 ช่วยให้ผู้เรียนที่เรียนช้าเรียนได้เร็วและมากขึ้น
3.2 ประหยัดเวลาในการทําความเข้าใจเนื้อหาต่าง ๆ
3.3 ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เหมือนกันครั้งละหลาย ๆ คน
3.4 ช่วยขจัดปัญหาเรื่องเวลา สถานที่ ขนาด และระยะทาง
คุณค่าของสื่อ
81. จุดประสงค์ทางการศึกษาบลูม (Benjamin S. Bloom) และ คณะ
ได้จําแนกจุดประสงค์ทางการศึกษา
(Taxonomy of Education Objects)
• ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain)
• ด้านจิตพิสัย (Effective Domain)
• ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain)
3 ด้าน
การวัดและประเมินผลการศึกษา
85. 1. สถานศึกษารับผิดชอบการประเมินผลการเรียนของผู้เรียน
และทุกฝ่ ายมีส่วนร่วม
2. ครอบคลุมและสอดคล้องกับมาตรฐานแต่ละระดับ
3. ประเมินเพื่อปรับปรุง พัฒนาผู้เรียน และตัดสินผลการเรียน
4. วัดด้วยวิธีที่เหมาะสมและหลากหลายตามสภาพจริง
5. ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบผลการประเมินได้
6. เทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษารูปแบบต่างๆ
7. ประเมินผลรวมด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์แต่ละช่วงชั้น
หลักการวัดและประเมินผลฯ
88. • ต้องเรียนสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระ และต้องได้รับ
การตัดสินผลการเรียน
• ผ่านการอ่านออก เขียนได้ คิดวิเคราะห์
• ต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามที่กําหนด
• ต้องผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เกณฑ์การจบการศึกษาภาคบังคับ ช่วงชั้น 1-3
89. • ต้องเรียนสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มและได้หน่วยกิตครบ
ครบตามที่กําหนด และต้องได้รับการตัดสินผลการเรียน
• ผ่านการอ่านออก เขียนได้ คิดวิเคราะห์
• ต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามที่กําหนด
• ต้องผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เกณฑ์การผ่านการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ม.4-6)
94. เอกสารหลักสูตร/ประเมินผู้เรียน
ปพ.2 (ใบประกาศนียบัตร)
ปพ. 4 ( ผลพัฒนาคุณภาพที่พึงฯ)
ปพ. 6 (พัฒนาคุณภาพรายบุคคล)
ปพ. 8 (ระเบียนสะสม)
ปพ. 9 (บันทึกผลเรียนรู้รายวิชา)
ปพ. 1 (ระเบียบแสดงผลการเรียน)
ปพ. 3 (แบบรายงานผู้จบการศึกษา)
ปพ. 5 (บันทึกผลการพัฒนา นร.)
ปพ.7 (ใบรับรองผลการเรียน/ชค)
1-3(ศธ.) 4-9(ร.ร.):จัดทํา