More Related Content
Similar to จิตวิทยาการแนะแนวและการให้คำปรึกษา 2
Similar to จิตวิทยาการแนะแนวและการให้คำปรึกษา 2 (20)
จิตวิทยาการแนะแนวและการให้คำปรึกษา 2
- 7. หลักการแนะแนว (ต่อ)
8. การแนะแนวมีจุดมุ่งหมายทั้งด้านการป้ องกันปัญหา
การแก้ปัญหาและการส่งเสริมพัฒนาการ
9. ผู้ทาหน้าที่แนะแนว มีหลักในการช่วยเหลือให้บุคคล
ปรับตัวได้ดีและมีการวางแผนที่ดี
10. การแนะแนวมีหลักการในการช่วยเหลือให้บุคคล
ปรับตัวได้ดีและมีการวางแผนที่ดี
11. การแนะแนวสามารถยืดหยุ่นได้และสนองความ
ต้องการของโรงเรียนและชุมชน
- 9. ความมุ่งหมายทั่วไป
ความมุ่งหมายทั่วไป หมายถึง ความมุ่งหมายของการแนะ
แนวโดยส่วนรวม นั่นคือ การแนะแนวไม่ว่าจะจัดในสถานที่ใดก็
ตาม ย่อมมีความมั่งหมายทั่วไปเหมือนกัน หรืออาจเรียกว่า เป็น
หน้าที่ของการแนะแนวก็ได้ มี 3 ประการคือ
1.เพื่อป้ องกันปัญหา (Prevention) การแนะแนวมุ่งจะ
ป้ องกันไม่ให้นักเรียน เกิดปัญหาหรือความยุ่งยากในการดาเนิน
ชีวิตของตนเพราะปัญหาและความยุ่งยากต่างๆ นั้นสามารถ
ป้ องกันได้และการปล่อยให้นักเรียนเกิดปัญหาขึ้นแล้วค่อยตาม
แก้ไข ช่วยเหลือในภายหลังนั้นทาได้ยากและต้องใช้เวลานาน
ในบางกรณีอาจจะแก้ไขไม่ได้อีกด้วย
- 10. ความมุ่งหมายทั่วไป (ต่อ)
2.เพื่อแก้ไขปัญหา (Curation) การแนะแนวมุ่งจะให้
ความช่วยเหลือนักเรียน ในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับตน
เพราะถ้าปล่อยให้นักเรียนประสบปัญหาโดย ไม่ให้ความช่วยเหลือ
แล้ว นักเรียนย่อมจะไม่สามารถดารงตนอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ
สุข ได้ และในบางครั้งอาจจะมีการปรับตัวที่ผิดๆ ทาให้เกิดปัญหา
เพิ่มมากยิ่งขึ้น
- 11. ความมุ่งหมายทั่วไป (ต่อ)
3.เพื่อส่งเสริมพัฒนา (Development) การแนะแนวมุ่งจะ
ให้การส่งเสริมนักเรียนทุกคนให้เกิดความเจริญงอกงาม
มีพัฒนาการ ในด้านต่างๆ อย่างสมบูรณ์ เพื่อที่นักเรียนแต่ละคน
จะได้รับการส่งเสริมและแสดงความสามารถในด้านต่างๆ ของตน
ออกมาอย่างเต็มที่ โดยไม่ให้มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรคขัดขวางความ
เจริญก้าวหน้าและพัฒนาการของนักเรียน
- 12. ความมุ่งหมายเฉพาะ
ความมุ่งหมายเฉพาะ หมายถึง ความมุ่งหมายของการ
แนะแนวที่สถานศึกษาซึ่งจัดให้มีบริการแนะแนวเป็ นผู้กาหนด
ขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาเป้ าหมายหลักสูตร และสภาพ
สังคมของสถานศึกษานั้นๆ แต่อย่างไรก็ตามความมุ่งหมายเฉพาะ
ของการแนะแนวสาหรับสถานศึกษาแต่ละแห่งก็ย่อมจะมีความ
คล้ายคลึงกันไม่แตกต่างกันมากนัก เช่น
1.เพื่อช่วยให้นักเรียนแต่ละคนได้รู้จักตนเองอย่างแท้จริง
(Self-Understanding) คือ การช่วยให้นักเรียนรู้ถึงความต้องการ
ความคิด ความสามารถ ความถนัด และข้อจากัดต่างๆ ของตน อัน
จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษา อาชีพ
และ การดาเนินชีวิตของนักเรียน
- 13. ความมุ่งหมายเฉพาะ (ต่อ)
2. เพื่อช่วยให้นักเรียนรู้จักปรับตัว (Self-Adjustment)
ให้เหมาะสมกับตนเองและสภาพแวดล้อม คือ การช่วยให้นักเรียน
รู้จักวิธี ปฏิบัติตนเพื่อจะดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเหมาะสม
และเป็นสุข
3.เพื่อช่วยให้นักเรียนรู้จักนาตนเอง (Self-Direction)
คือ การช่วยให้นักเรียนมีความเชื่อมั่นในตนเอง รู้จักใช้สติปัญญา
ความสามารถของตน แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างฉลาด และ
เหมาะ สม สามารถวางแผนการชีวิตในอนาคต และสามารถ
นาตนเอง ไปสู่ เป้ าหมายที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
- 23. ความหมายการให้คาปรึกษา
การให้คาปรึกษา หมายถึง กระบวนการให้ความช่วยเหลือ
ติดต่อสื่อสารกันด้วยวาจาและกิริยาท่าทาง ที่เกิดจากสัมพันธภาพ
ทางวิชาชีพของบุคคลอย่างน้อย 2 คน คือ ผู้ให้และผู้รับคาปรึกษา
ผู้ให้คาปรึกษาในที่นี้หมายถึง ครูที่มีคุณลักษณะที่เอื้อต่อการให้
คาปรึกษา มีความรู้และทักษะในการให้คาปรึกษา ทาหน้าที่ให้
ความช่วยเหลือแก่ผู้รับคาปรึกษาหรือนักเรียน ซึ่งเป็ นผู้ที่กาลัง
ประสบความยุ่งยากใจ หรือมีความทุกข์และต้องการความ
ช่วยเหลือให้เข้าใจตนเอง เข้าใจสิ่งแวดล้อม ให้มีทักษะในการ
ตัดสินใจ และหาทางออกเพื่อลดหรือขจัดความทุกข์
ความยุ่งยากใจด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนา
ตนเองไปสู่เป้ าหมายที่ต้องการ
- 27. ประเภทของการให้คาปรึกษา
การให้คาปรึกษาสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. การให้คาปรึกษารายบุคคล คือ การให้ความช่วยเหลือแก่
นักเรียนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ครั้งละ 1 คน
2. การให้คาปรึกษากลุ่ม คือการให้การช่วยเหลือแก่นักเรียน
จานวนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงในเรื่องที่คล้ายคลึงกัน
หรือมีความต้องการที่จะพัฒนาตนในเรื่องเดียวกัน โดยใช้ความสัมพันธ์
และอิทธิพลของกลุ่มในการช่วยเหลือสมาชิกในด้านกาลังใจ ความเห็น
อกเห็นใจ การให้ข้อมูลย้อนกลับ และข้อเสนอแนะ เพื่อให้สมาชิกเข้าใจ
ตนเอง เข้าใจปัญหา ได้แนวทางแก้ไขปัญหา หรือพัฒนาตนจากการ
พูดคุยและพิจารณาร่วมกันในกลุ่ม ซึ่งจะทาให้การให้คาปรึกษามี
ประสิทธิภาพ เพราะสมาชิกมีโอกาสสร้างปฏิสัมพันธ์กันได้
- 29. ข้อควรคานึงในการให้คาปรึกษา (ต่อ)
3. หลีกเลี่ยงการถามข้อมูลที่ละเอียดอ่อน หรือเจาะจง
เกินไป เพราะอาจทาให้นักเรียนอึดอัดใจ และไม่ให้ความร่วมมือใน
การปรึกษาได้
4. หลีกเลี่ยงการแนะนาให้นักเรียนปฏิบัติตามความเห็น
ของครู เพราะนักเรียนอาจเคยปฏิบัติในสิ่งที่ครูแนะนามาแล้วแต่
ไม่ประสบความสาเร็จ หรืออาจเป็ นคาแนะนาที่นักเรียนไม่
ต้องการ ซึ่งจะทาให้นักเรียนหลีกเลี่ยงที่จะมารับคาปรึกษาต่อไป
5. หลีกเลี่ยงการเกิดอารมณ์ร่วมและการเห็นชอบกับ
พฤติกรรมของนักเรียนที่จะเป็นการเสริมแรงให้นักเรียนคิดและ
ทาพฤติกรรมเหมือนเดิมทาให้นักเรียนไม่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงไป
ในทางที่ดีขึ้น
- 30. ข้อควรคานึงในการให้คาปรึกษา (ต่อ)
6. ไม่ควรรีบด่วนที่จะสรุปและแก้ปัญหา โดยที่นักเรียน
ไม่มีโอกาสได้สารวจปัญหา และสาเหตุมากพอ
7. หลังจากการให้คาปรึกษาแต่ละครั้งแล้ว ครูควรบันทึก
ผลการให้คาปรึกษาไว้เพื่อเป็นข้อมูลในการให้คาปรึกษาต่อไป
8. ต้องรักษาความลับ และประโยชน์ของนักเรียน โดย
ต้องระมัดระวังที่จะไม่นาเรื่องราวของนักเรียนไปพูดในที่ต่างๆ
แม้จะไม่เอ่ยชื่อก็ตาม เพราะคนฟังอาจปะติดปะต่อเรื่องราวเอง
หรือสอบถามกันจนรู้ว่าเป็ นเรื่องราวของนักเรียนคนใด ซึ่งจะ
ส่งผลเสียหายต่อนักเรียนดังกล่าว และกระทบถึงความน่าเชื่อถือ
ไว้วางใจของระบบการให้คาปรึกษาได้