แปลโดยพยัญ ชนะเรื่อ งพราหมณ์ช ื่อ
ว่า จูเ ฬกสาฎก ตอนที่ ๒
 ๑.

อถสฺส สรีรํ ผรมานา ปญฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชิ.
 ๒. โส สตฺถารํ ปูชิตุกาโม หุตฺวา “สเจ อิมํ สาฏกํ ทสฺ
สามิ เนว พฺราหฺมณิยา น มยฺหํ ปารุปนํ ภวิสฺสตี”ติ
จินฺเตสิ.
 ๑. ครั้งนัน อ. ปีติ มีวรรณะ ๕ เกิดขึ้นแล้ว แผ่ไปอยู่
้
ตลอดสรีระ ของพราหมณ์นน ฯ
ั้
 ๒. อ. พราหมณ์นั้น เป็นผู้ใคร่เพืออันบูชา ซึ่งพระ
่
ศาสดา เป็น คิดแล้ว ว่า ถ้าว่า อ. เรา จักถวาย ซึ่ง
ผ้าสาฎกผืนนีไซร้, (อ. ผ้าเป็นเครื่องห่ม) ของนาง
้
พราหมณี (จักมี) หามิได้นั่นเทียว อ. ผ้าเป็นเครื่อง
ห่ม ของเรา จักมี หามิได้ ดังนี้ ฯ
 ๓.

อถสฺส มจฺเฉรจิตฺตานํ สหสฺสํ อุปฺปชฺชิ ปุเนกํ
สทฺธาจิตฺตํ อุปฺปชฺชิ.
 ๔. ตํ อภิภวิตฺวา ปุน มจฺเฉรสหสฺสํ อุปฺปชฺชิ.
 ๓. ครั้งนั้น อ. พัน แห่งจิตดวงประกอบพร้อมแล้ว
ด้วยความตระหนี่ ท. เกิดขึ้นแล้ว แก่พราหมณ์นั้น,
อ. จิตดวงประกอบพร้อมแล้วด้วยศรัทธา ดวงหนึง
่
เกิดขึ้นแล้ว อีก,
 ๔. อ. พันแห่งจิตดวงประกอบพร้อมแล้วด้วยความ
ตระหนี่ เกิดขึ้นแล้ว ครอบงําอยู่ ซึ่งจิตดวงประกอบ
 ๕.

อิติสฺส พลวมจฺเฉรํ พนฺธิตฺวา คณฺหนฺตํ วิย สทฺธา
จิตฺตํ ปฏิพาหติเยว.
 ๖. ตสฺส “ทสฺสามิ น ทสฺสามี”ติ
จินฺเตนฺตสฺเสว
ปฐมยาโม อปคโต มชฺฌิมยาโม สมฺปตฺโต.
 ๕. อ. ความตระหนี่มกําลัง แห่งพราหมณ์นน
ี
ั้
ราวกะว่าผูกถือเอาอยู่ ย่อมห้ามซึ่งจิตดวงประกอบ
พร้อมแล้วด้วยศรัทธานั่นเทียว ด้วยประการฉะนี้ ฯ
 ๖. เมือพราหมณ์นน คิดอยูว่า อ. เรา จักถวาย อ.
่
ั้
่
เรา จักไม่ถวาย ดังนีนั่นเทียว อ. ปฐมยาม เป็นไปล่
้
วงวิเศษแล้ว อ.มัชฌิมยาม ถึงพร้อมแล้ว ฯ
 ๗.

มชฺฌมยาเม สมฺปตฺเต ตสฺมมปิ ทาตุ นาสกฺขิ.
ิ
ิ ฺ
 ๗. ในลำาดับนั้น ครั้นเมือมัชฌิมยาม ถึงพร้อมแล้ว
่
อ. พราหมณนั้น ไม่ได้อาจแล้ว เพืออันถวาย ใน
่
มัชฌิมยามนั้น ฯ

แปลโดยพยัญชนะเรื่องพราหมณ์ชื่อว่า จูเฬกสาฎก๒

  • 1.
    แปลโดยพยัญ ชนะเรื่อ งพราหมณ์ชื่อ ว่า จูเ ฬกสาฎก ตอนที่ ๒  ๑. อถสฺส สรีรํ ผรมานา ปญฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชิ.  ๒. โส สตฺถารํ ปูชิตุกาโม หุตฺวา “สเจ อิมํ สาฏกํ ทสฺ สามิ เนว พฺราหฺมณิยา น มยฺหํ ปารุปนํ ภวิสฺสตี”ติ จินฺเตสิ.  ๑. ครั้งนัน อ. ปีติ มีวรรณะ ๕ เกิดขึ้นแล้ว แผ่ไปอยู่ ้ ตลอดสรีระ ของพราหมณ์นน ฯ ั้  ๒. อ. พราหมณ์นั้น เป็นผู้ใคร่เพืออันบูชา ซึ่งพระ ่ ศาสดา เป็น คิดแล้ว ว่า ถ้าว่า อ. เรา จักถวาย ซึ่ง ผ้าสาฎกผืนนีไซร้, (อ. ผ้าเป็นเครื่องห่ม) ของนาง ้ พราหมณี (จักมี) หามิได้นั่นเทียว อ. ผ้าเป็นเครื่อง ห่ม ของเรา จักมี หามิได้ ดังนี้ ฯ
  • 2.
     ๓. อถสฺส มจฺเฉรจิตฺตานํสหสฺสํ อุปฺปชฺชิ ปุเนกํ สทฺธาจิตฺตํ อุปฺปชฺชิ.  ๔. ตํ อภิภวิตฺวา ปุน มจฺเฉรสหสฺสํ อุปฺปชฺชิ.  ๓. ครั้งนั้น อ. พัน แห่งจิตดวงประกอบพร้อมแล้ว ด้วยความตระหนี่ ท. เกิดขึ้นแล้ว แก่พราหมณ์นั้น, อ. จิตดวงประกอบพร้อมแล้วด้วยศรัทธา ดวงหนึง ่ เกิดขึ้นแล้ว อีก,  ๔. อ. พันแห่งจิตดวงประกอบพร้อมแล้วด้วยความ ตระหนี่ เกิดขึ้นแล้ว ครอบงําอยู่ ซึ่งจิตดวงประกอบ
  • 3.
     ๕. อิติสฺส พลวมจฺเฉรํพนฺธิตฺวา คณฺหนฺตํ วิย สทฺธา จิตฺตํ ปฏิพาหติเยว.  ๖. ตสฺส “ทสฺสามิ น ทสฺสามี”ติ จินฺเตนฺตสฺเสว ปฐมยาโม อปคโต มชฺฌิมยาโม สมฺปตฺโต.  ๕. อ. ความตระหนี่มกําลัง แห่งพราหมณ์นน ี ั้ ราวกะว่าผูกถือเอาอยู่ ย่อมห้ามซึ่งจิตดวงประกอบ พร้อมแล้วด้วยศรัทธานั่นเทียว ด้วยประการฉะนี้ ฯ  ๖. เมือพราหมณ์นน คิดอยูว่า อ. เรา จักถวาย อ. ่ ั้ ่ เรา จักไม่ถวาย ดังนีนั่นเทียว อ. ปฐมยาม เป็นไปล่ ้ วงวิเศษแล้ว อ.มัชฌิมยาม ถึงพร้อมแล้ว ฯ
  • 4.
     ๗. มชฺฌมยาเม สมฺปตฺเตตสฺมมปิ ทาตุ นาสกฺขิ. ิ ิ ฺ  ๗. ในลำาดับนั้น ครั้นเมือมัชฌิมยาม ถึงพร้อมแล้ว ่ อ. พราหมณนั้น ไม่ได้อาจแล้ว เพืออันถวาย ใน ่ มัชฌิมยามนั้น ฯ