SlideShare a Scribd company logo
คำำนำำ
         กำรศึกษำพระปริยัติธรรม ทีจะอำำนวยประโยชน์แก่ผู้ศึกษำ
                                  ่
เต็มที่ จำำต้องมีหนังสือเครื่องประกอบหลักสูตรครบบริบูรณ์ เพรำะ
หนังสือเครื่องประกอบเท่ำกับดวงประทีปสำำหรับส่องมรรคำ ให้ผู้ศึกษำ
มองเห็นแนวทำงได้สะดวกชัดเจน เพรำะฉะนั้น กองตำำรำแห่งมหำ-
มกุฏรำชวิทยำลัย ในพระบรมรำชูปถัมภ์ ซึงมีหน้ำที่จดพิมพ์หนังสือ
                                     ่          ั
ที่เกี่ยวแก่กำรศึกษำพระปริยัติธรรมทุกประเภท จึงได้คดจัดพิมพ์
                                                   ิ
หนังสือเครื่องอุปกรณ์ทั้งฝ่ำยนักธรรมทั้งฝ่ำยบำลีขึ้น เพื่อให้ผู้ศึกษำ
ได้รับควำมสะดวกในกำรศึกษำ และได้จัดพิมพ์เสร็จไปแล้วหลำย
เรื่อง เฉพำะหนังสือธัมมปทัฏฐกถำ ก็นับว่ำเป็นหนังสือสำำคัญเรื่อง
หนึ่ง เพรำะใช้เป็นหลักสูตรเปรียญธรรมประโยค ๓ ผู้ศึกษำบำล
ีีเมื่อเรียนบำลีไวยำกรณ์จบแล้ว ก็เริ่มเรียนธัมมปทัฏฐกถำเป็นลำำดับ
ไป    เห็นควรแปลเป็นภำษำไทยให้ตลอดเรื่อง จึงได้มอบให้
พระมหำอู นิสฺสโภ ป.ธ. ๗ วัดบวรนิเวศวิหำร เป็นผู้รับไปดำำเนินกำร.
ท่ำนได้ค้นคว้ำรวบรวมจำกหนังสือต่ำง ๆ ซึงพระเถรำนุเถระได้แปล
                                       ่
ไว้บ้ำง ขอให้ท่ำนที่เป็นกรรมกำรกองตำำรำช่วยแปลบ้ำง ขอให้
ท่ำนที่เป็นเปรียญในสำำนักเดียวและต่ำงสำำนักช่วยแปลบ้ำง.
         แต่กำรแปลนั้น ได้ขอให้แปลตำมวิธีกำรที่กองตำำรำได้วำงไว้
เพื่อให้หนังสือเป็นระเบียบเดียวกัน ไม่ลักลั่น โดยถือหลักว่ำ แปลให้ได้
ควำมชัด สำำนวนเรียบร้อย ไม่โลดโผนจนเสียหลักของภำษำ และแปล
เท่ำศัพท์อย่ำงพระกรรมกำรแปลเป็นตัวอย่ำงในสนำมหลวง ถ้ำทีไหน
                                                       ่
ถ้ำที่ไหนไม่มีศัพท์ เพิ่มเข้ำใหม่ ก็ทำำเครื่องหมำยวงเล็บ   []   ไว้ ถ้ำที่ไหน
บ่งถึงข้อธรรมก็ดี   เกี่ยวกับลัทธิธรรมเนียมก็ดี    ท่ำนชักควำมมำ
จำกบำลีหรือคัมภีร์อื่น ๆ ก็ดี ก็ได้ทำำเชิงอรรถบอกไว้ให้ทรำบ เพื่อ
สะดวกแก่ผู้ศึกษำซึ่งสนใจในกำรค้นคว้ำ.
         กองตำำรำ ฯ ขอแสดงควำมขอบใจท่ำนผูช่วยแปลและผู้มีส่วน
                                         ้
ช่วยให้หนังสือนี้สำำเร็จทุก ๆ ท่ำน และขออุทิศส่วนกุศลซึ่งเกิดจำก


หนังสือนี้ แต่ทำนบุรพูปัธยำจำรย์ผู้บริหำรพระศำสนำสืบ ๆ กันมำ.
               ่
กองตำำรำ
มหำกุฏรำชวิทยำลัย
๕ เมษำยน ๒๔๘๑
ประโยค๒    -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔            -   หน้ำที่   1
                                         ๖. บัณฑิตวรรค วรรณนำ
                                         ๑. เรื่องพระรำธเถระ                                 [
ข้อควำมเบื้องต้น]
              พระศำสดำเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรำรภท่ำนพระ
รำธะ ตรัสพระธรรมเทศนำนี้ว่ำ          "   นิธีนว ปวตฺตำร   "    เป็นต้น.
                           [    รำธพรำหมณ์ซูบผอมเพรำะไม่ได้บวช                ]
              ได้ยินว่ำ พระรำธะนั้น ในเวลำเป็นคฤหัสถ์ ได้เป็นพรำหมณ์
ตกยำกอยู่ในกรุงสำวัตถี.         เขำคิดว่ำ    "   เรำจักเลี้ยงชีพอยูในสำำนักของ
                                                                   ่
ภิกษุทั้งหลำย   "   ดังนี้แล้ว ไปสู่วิหำร ดำยหญ้ำ กวำดบริเวณ ถวำย
วัตถุมีนำ้ำล้ำงหน้ำเป็นต้น อยู่ในวิหำรแล้ว.        ภิกษุทั้งหลำยได้สงเครำะห์
เธอแล้วก็ตำม, แต่ก็ไม่ปรำรถนำจะให้บวช.                เขำเมื่อไม่ได้บวช จึง
ซูบผอมแล้ว.
                          [    รำธพรำหมณ์มีอุปนิสัยพระอรหัต           ]
              ภำยหลังวันหนึ่ง พระศำสดำทรงตรวจดูสัตว์โลกในเวลำใกล้รุ่ง
ทอดพระเนตรเห็นพรำหมณ์นั้นแล้ว ทรงใคร่ครวญอยู่ว่ำ                  "   เหตุอะไร
หนอ   ?"        ดังนีแล้ว ทรงทรำบว่ำ
                     ้                      "   รำธพรำหมณ์จักเป็นพระอรหันต์              "
ในเวลำเย็น      เป็นเหมือนเสด็จเที่ยวจำริกไปในวิหำร             เสด็จไปสู่

* พระมหำเปลี่ยน ป. ธ. ๗ วัดสัมพันธวงศ์ แปล.                 ปัจจุบันเป็นพระรำชวรญำณมุนี
ป. ธ. ๙ วัดบูรณศิริมำตยำรำม.
ประโยค๒     -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔         -    หน้ำที่   2
สำำนักของพรำหมณ์แล้วตรัสถำมว่ำ               "   พรำหมณ์ เธอเที่ยวทำำอะไร
อยู่   ?"   เขำกรำบทูลว่ำ     "   ข้ำพระองค์ทำำวัตตปฏิวัตรแก่ภิกษุทั้งหลำยอยู่
พระเจ้ำข้ำ.   "
                 พระศำสดำ.        เธอได้กำรสงเครำะห์จำกสำำนักของภิกษุเหล่ำนั้น
หรือ   ?
                 พรำหมณ์.       ได้พระเจ้ำข้ำ,       ข้ำพระองค์ได้แต่เพียงอำหำร, แต่
ท่ำนไม่ให้ข้ำพระองค์บวช.
                              [       พระสำรีบุตรเป็นผู้กตัญญูกตเวที    ]
                 พระศำสดำรับสังให้ประชุมภิกษุสงฆ์ในเพรำะเรื่องนั้นแล้ว ตรัส
                              ่
ถำมควำมนั้นแล้ว ตรัสถำมว่ำ             "   ภิกษุทั้งหลำย ใคร ๆ ระลึกถึง
คุณของพรำหมณ์นี้ได้ มีอยู่บำงหรือ
                           ้                 ?"      พระสำรีบุตรเถระกรำบทูลว่ำ
"   พระเจ้ำข้ำ     ข้ำพระองค์ระลึกได้,           เมื่อข้ำพระองค์เที่ยวบิณฑบำต
อยู่ในกรุงรำชคฤห์ พรำหมณ์นี้ให้คนถวำยภิกษำทัพพีหนึ่ง ที่เขำ
นำำมำเพื่อตน,         ข้ำพระองค์ระลึกถึงคุณของพรำหมณ์นี้ได้.        "         เมื่อพระ
ศำสดำตรัสว่ำ      "   สำรีบตร ก็กำรที่เธอเปลื้องพรำหมณ์ผู้มีอุปกำระ
                           ุ
                                       ? " ท่ำนกรำบทูลว่ำ
อันกระทำำแล้วอย่ำงนี้ จำกทุกข์ ไม่ควรหรือ
" ดีละ พระเข้ำข้ำ, ข้ำพระองค์จักให้เขำบวช " จึงให้พรำหมณ์นั้น
บวชแล้ว.
                    [ พรำหมณ์บวชแล้วเป็นคนว่ำง่ำย ]
           อำสนะที่สุดแห่งอำสนะในโรงฉันย่อมถึงแก่ท่ำน,  ท่ำนลำำบำก
ประโยค๒   -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔          -   หน้ำที่   3
อยู่ ด้วยอำหำรวัตถุมีขำวยำคูและภัตรเป็นต้น.
                      ้                                พระเถระพำท่ำนหลีก
ไปสู่ที่จำริกแล้ว.     กล่ำวสอน        พรำ่ำสอนท่ำนเนือง ๆ ว่ำ   "   สิ่งนี้ คุณ
ควรทำำ, สิ่งนี้ คุณไม่ควรทำำ       "   เป็นต้น.    ท่ำนได้เป็นผู้วำง่ำย มี
                                                                  ่
ปกติรับเอำโอวำทโดยเบื้องขวำแล้ว, เพรำะฉะนั้น เมื่อท่ำนปฏิบัตตำม
                                                            ิ
คำำที่พระเถระพรำ่ำสอนอยู่ โดย ๒-๓ วันเท่ำนั้น ก็ได้บรรลุพระอรหัต
แล้ว.    พระเถระพำท่ำนไปสู่สำำนักพระศำสดำ ถวำยบังคมนั่งแล้ว.
              ลำำดับนั้น พระศำสดำทรงทำำปฏิสันถำรกะท่ำนแล้ว ตรัสว่ำ
"   สำรีบตร อันเตวำสิกของเธอเป็นผู้ว่ำง่ำยแลหรือ
         ุ                                             ?"
              พระเถระ.       อย่ำงนั้น พระเจ้ำข้ำ,      เธอเป็นผู้ว่ำง่ำยเหลือเกิน,
เมื่อโทษไร ๆ ที่ขำพระองค์แม้กล่ำวสอนอยู่, ไม่เคยโกรธเลย.
                 ้
              พระศำสดำ.        สำรีบุตร เธอเมื่อได้สัทธิวิหำริกเห็นปำนนี้ จะพึง
รับได้ประมำณเท่ำไร   ?
              พระเถระ. ข้ำพระองค์พึงได้รับแม้มำกทีเดียว พระเจ้ำข้ำ.
                    [ พวกภิกษุสรรเสริญพระสำรีบตรและพระรำธะ ]
                                              ุ
              ภำยหลังวันหนึ่ง พวกภิกษุสนทนำกันในโรงธรรมว่ำ " ได้ยิน
ว่ำ พระสำรีบุตรเถระเป็นผู้กตัญญูกตเวที ระลึกถึงอุปกำระสักว่ำภิกษำ
ทัพพีหนึ่ง ให้พรำหมณ์ตกยำกบวชแล้ว;                แม้พระรำธเถระก็เป็นผู้อดทน
ต่อโอวำท ได้ท่ำนผู้ควรแก่กำรสังสอนเหมือนกันแล้ว.
                              ่                            "
                        [   พระศำสดำทรงแสดงอลีนจิตตชำดก              ]
              พระศำสดำทรงสดับกถำของภิกษุเหล่ำนั้นแล้ว ตรัสว่ำ                 "    ภิกษุ
ประโยค๒       -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔         -    หน้ำที่    4
ทั้งหลำย   มิใช่แต่ในบัดนี้เท่ำนั้น,           ถึงในกำลก่อน สำรีบตรเป็นผู้
                                                                 ุ
กตัญญูกตเวทีเหมือนกัน     "            ดังนี้แล้ว เพื่อจะประกำศควำมนั้น จึงตรัส
อลีนจิตตชำดก               "    เสนำหมู่ใหญ่อำศัยเจ้ำอลีนจิตตกุมำร                ร่ำเริง
                ทั่วกันแล้ว            ได้ให้ชำงจับพระเจ้ำโกศลทั้งเป็น
                                              ้
                ผู้ไม่พอพระทัยด้วยรำชสมบัติ, ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วย
                นิสัยอย่ำงนี้           เป็นผู้มีควำมเพียรอันปรำรภแล้ว
                เจริญกุศลธรรมอยู่, เพื่อบรรลุธรรมเป็นแดนเกษม
                จำกโยคะ            พึงบรรลุธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งสังโยชน์
                ทั้งปวงโดยลำำดับ.          "
            ได้ยินว่ำ ช้ำงตัวหนึ่งเที่ยวไปตัวเดียว รู้อุปกำระที่พวกช่ำงไม้
ทำำแล้วแก่ตน โดยภำวะคือทำำเท้ำให้หำยโรค แล้วให้ลูกช้ำงตัวขำว
ปลอด ในครั้งนั้น ได้เป็นพระสำรีบุตรเถระแล้ว.
                      [   ภิกษุควรเป็นผู้ว่ำง่ำยอย่ำงพระรำธเถระ          ]
            พระศำสดำครั้นตรัสชำดกปรำรภพระเถระอย่ำงนั้นแล้ว                         ทรง
ปรำรภพระรำธเถระ ตรัสว่ำ            "   ภิกษุทั้งหลำย ธรรมดำภิกษุควรเป็น
ผู้ว่ำง่ำยเหมือนรำธะ, แม้อำจำรย์ชี้โทษกล่ำวสอนอยู่ ก็ไม่ควรโกรธ,
อนึ่ง ควรเห็นบุคคลผู้ให้โอวำท เหมือนบุคคลผู้บอกขุมทรัพย์ให้ฉะนั้น                  "
ดังนีแล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม ได้ตรัสพระคำถำนี้ว่ำ
     ้                                                                       :-
๑. ขุ. ชำ. ๒๗/๕๒. ตทฏฺกถำ. ๓/๒๓.
ประโยค๒     -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔             -   หน้ำที่   5
                 "   บุคคล               นิคคหะ ชี้โทษ ว่ำเป็นเหมือนผู้บอกขุมทรัพย์ให้ ,
                 พึงคบผูมีปัญญำเช่นนั้น ซึ่งเป็นบัณฑิต,
                        ้                                          (เพรำะว่ำ)
                 เมื่อคบท่ำนผู้เช่นนั้น        มีแต่คุณอย่ำงประเสริฐ
                 ไม่มีโทษที่ลำมก.        "
                                                         [   แก้อรรถ   ]
             บรรดำบทเหล่ำนั้น บทว่ำ นิธีน ได้แก่ หม้อแห่งขุมทรัพย์อัน
เต็มด้วยเงินทองเป็นต้น ซึ่งเขำฝังเก็บไว้ในที่นั้น ๆ.
             บทว่ำ ปวตฺตำร คือ เหมือนอย่ำงผู้ทำำควำมอนุเครำะห์คน
เข็ญใจ ซึงเป็นอยู่โดยฝืดเคือง แล้วชักชวนว่ำ
         ่                                              "    ท่ำนจงมำ,       เรำจักชี้
อุบำยเลี้ยงชีพโดยสะดวกแก่ท่ำน        "       ดังนี้แล้ว นำำไปยังที่ขุมทรัพย์แล้ว
เหยียดออกบอกว่ำ      "   ท่ำนจงถือเอำทรัพย์นี้เลี้ยงชีพตำมสบำยเถิด."
             วินิจฉัยในบทว่ำ วชฺชทสฺสิน          :   ภิกษุผู้ชี้โทษมี ๒ จำำพวก คือ
ภิกษุคอยแส่หำโทษ ด้วยคิดว่ำ          "   เรำจักข่มภิกษุนั้นด้วยมำรยำทอัน
ไม่สมควร     หรือด้วยควำมพลั้งพลำดอันนี้ในท่ำมกลำงสงฆ์             "       ดังนี้
จำำพวก ๑.     ภิกษุผดำำรงอยู่แล้วตำมสภำพ ด้วยสำมำรถแห่งกำร
                    ู้
อุ้มชูด้วยกำรแลดูโทษนั้น ๆ เพื่อประโยชน์จะให้รู้สิ่งทียังไม่รู้ เพื่อ
                                                      ่
ต้องกำรจะได้ถือตำมเอำสิงที่รู้แล้ว เพรำะควำมเป็นผู้ปรำรถนำควำม
                       ่
เจริญแห่งคุณมีศีลเป็นต้นแก่ผู้นั้น       จำำพวก ๑;            ภิกษุจำำพวกหลังนี้

๑. พระรำชกวี (อำบ) วัดบวรนิเวศวิหำร แปลออกสอบเปรียญ ๖ ประโยค ใน
สนำมหลวง พ. ศ. ๒๔๖๔.
ประโยค๒      -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔          -   หน้ำที่   6
พระผูมีพระภำคทรงประสงค์ ในบทว่ำ วชฺชทสฺสน นี้.
     ้                                                                คนเข็ญใจถูก
ผู้อื่นคุกคำมก็ดี ตีก็ดี ชี้ขุมทรัพย์ให้ว่ำ    "   แกจงถือเอำทรัพย์นี้      "     ย่อม
ไม่ทำำควำมโกรธ,          มีแต่ปรำโมทย์อย่ำงเดียว ฉันใด;                เมื่อบุคคลเห็น
ปำนดังนั้น เห็นมำรยำทมิบงควรก็ดี ควำมพลำดพลั้งก็ดี แล้วบอก
                        ั
อยู่, ผูรบบอกไม่ควรทำำควำมโกรธ ควรเป็นผู้ยินดีอย่ำงเดียว ฉันนั้น.
        ้
ควรปรำรถนำทีเดียวว่ำ         "   ท่ำนเจ้ำข้ำ กรรมอันใหญ่ อันใต้เท้ำผูตั้ง
                                                                     ้
อยู่ในฐำนเป็นอำจำรย์ เป็นอุปัชฌำย์ ของกระผมแล้ว สังสอนอยู่
                                                  ่
กระทำำแล้ว, แม้ต่อไป ใต้เท้ำพึงโอวำทกระผม               "   ดังนี้.
                บทว่ำ นิคฺคยฺหวำทึ ควำมว่ำ ก็อำจำรย์บำงท่ำนเห็นมำรยำท
อันมิบังควรก็ดี ควำมพลั้งพลำดก็ดี ของพวกศิษย์มีสัทธิวิหำริกเป็น
อำทิแล้ว ไม่อำจเพื่อจะพูด ด้วยเกรงว่ำ          "   ศิษย์ผู้นี้อุปัฏฐำกเรำอยู่
ด้วยกิจวัตรมีให้นำ้ำบ้วนปำกเป็นต้น แก่เรำ โดยเคำรพ;                   ถ้ำเรำจักว่ำ
เธอไซร้,        เธอจักไม่อุปัฏฐำกเรำ, ควำมเสื่อมจักมีแก่เรำ ด้วยอำกำร
อย่ำงนี้   "   ดังนี้ ย่อมหำชื่อว่ำเป็นผู้กล่ำวนิคคหะไม่, เธอผู้นั้น ชื่อว่ำ
เรี่ยรำยหยำกเยื่อลงในศำสนำนี้.            ส่วนอำจำรย์ใด เมื่อเห็นโทษปำนนั้น
แล้ว คุกคำม ประณำม ลงทัณฑกรรม ไล่ออกจำกวิหำร ตำม
สมควรแก่โทษ ให้ศึกษำอยู่.                อำจำรย์นี้ ชื่อว่ำผู้กล่ำวนิคคหะ;
แม้เหมือนอย่ำงพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำ.            สมจริงอย่ำงนั้น พระผู้มีพระ-
ภำคตรัสคำำนี้ไว้ว่ำ     "   ดูก่อนอำนนท์ เรำจักกล่ำวข่ม ๆ,             ดูก่อน
อำนนท์ เรำจักกล่ำวยกย่อง ๆ, ผู้ใดเป็นสำระ, ผูนั้นจักดำำรงอยู่ได้.
                                             ้                                        "
                บทว่ำ เมธำวึ คือ ผู้ประกอบด้วยปัญญำมีโอชะเกิดแต่ธรรม.
ประโยค๒   -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔     -   หน้ำที่   7
            บทว่ำ ตำทิส เป็นต้น ควำมว่ำ บุคคลพึงคบ คือพึงเข้ำไป
นั่งใกล้ บัณฑิตเห็นปำนนั้น,      เพรำะเมื่ออันเตวำสิกคบอำจำรย์เช่นนั้น
อยู่, คุณอย่ำงประเสริฐย่อมมี โทษที่ลำมกย่อมไม่มี คือมีแต่ควำม
เจริญอย่ำงเดียว ไม่มีควำมเสื่อมเสีย.
            ในที่สุดเทศนำ ชนเป็นอันมำก บรรลุอริยผลทั้งหลำยมีโสดำ-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
                                            เรื่องพระรำธเถระ จบ.
ประโยค๒     -    พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔        -   หน้ำที่   8
                                     ๒. เรื่องภิกษุอัสสชิและปุนัพพสุกะ
[   ข้อควำมเบื้องต้น   ]
              พระศำสดำเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรำรภภิกษุอัสสชิ
และปุนัพพสุกะ ตรัสพระธรรมเทศนำนี้ว่ำ               "   โอวเทยฺยำนุสำเสยฺย     "
เป็นต้น.     ก็เทศนำตังขึ้นแล้วที่กิฏำคีรี.
                      ้
                                       [   ภิกษุลำมกต้องถูกปัพพำชนียกรรม       ]
              ดังได้สดับมำ ภิกษุ ๒ รูปนั้น             แม้เป็นสัทธิวิหำริกของพระ
อัครสำวกก็จริง,        ถึงอย่ำงนั้น เธอก็กลำยเป็นอลัชชี เป็นภิกษุชั่ว.
ภิกษุ ๒ รูปนั้น เมื่ออยู่ที่กิฏำคีรี กับภิกษุ ๕๐๐ รูป ซึงเป็นบริวำร-
                                                        ่
ของตน      (ล้วน)   เป็นผู้ชั่วช้ำ     ทำำอนำจำรหลำยอย่ำงหลำยประกำร
เป็นต้นว่ำ ปลูกต้นไม้กระถำงเองบ้ำง ใช้ให้เขำปลูกบ้ำง ทำำกรรมแห่ง
ภิกษุผู้ประทุษร้ำยตระกูล เลี้ยงชีพด้วยปัจจัยอันเกิดแต่กรรมนั้น ได้
ทำำอำวำสนั้นมิให้เป็นที่อยู่แห่งพวกภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก.       พระศำสดำ
ทรงสดับข่ำวนั้นแล้ว ตรัสเรียกพระอัครสำวกทั้ง ๒ พร้อมด้วยบริวำร
มำ เพื่อทรงประสงค์ทำำปัพพำชนียกรรมแก่พวกภิกษุพวกนั้นแล้ว ตรัสว่ำ
"   สำรีบตรและโมคคัลลำนะ
         ุ                           เธอพำกันไปเถิด,       ในภิกษุเหล่ำนั้น
เหล่ำใดไม่เชื่อฟังคำำของเธอ,           จงทำำปัพพำชนียกรรมแก่ภิกษุเหล่ำนั้น;
ส่วนเหล่ำใดเชื่อฟังคำำ,       จงว่ำกล่ำวพรำ่ำสอนเหล่ำนั้น,        ธรรมดำผู้ว่ำ
กล่ำวสั่งสอน ย่อมไม่เป็นที่รักของผู้ที่มใช่บัณฑิตเท่ำนั้น ,
                                        ิ                           แต่เป็นที่

*แปลออกสอบเปรียญ ๖ ประโยค                  ในสนำมหลวง พ.ศ. ๒๔๖๙.
ประโยค๒   -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔           -   หน้ำที่    9
รักที่ชอบใจของบัณฑิตทั้งหลำย     "         ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิ
แสดงธรรม จึงได้ตรัสพระคำถำนี้ว่ำ       :-
                "   ผู้ใดพึงว่ำกล่ำว       พึงสอน และพึงห้ำมจำก
                  ธรรมของอสัตบุรุษ,          ผูนั้นแล ย่อมเป็นที่รักของ
                                               ้
                  สัตบุรุษทังหลำย, ไม่เป็นที่รักของพวกอสัตบุรุษ.
                            ้                                          "
                                                            [ แก้อรรถ ]
             บรรดำบทเหล่ำนั้น บทว่ำ โอวเทยฺย ควำมว่ำ เมื่อเกิดเรื่อง
ขึ้นแล้ว จึงกล่ำว ชื่อว่ำย่อมโอวำท,          เมื่อยังไม่เกิดเรื่อง ชีโทษอัน
                                                                     ้
ยังไม่มำถึง ด้วยสำมำรถเป็นต้นว่ำ       "   แม้โทษจะพึงมีแก่ท่ำน    "    ดังนี้
ชื่อว่ำย่อมอนุศำสน์;     กล่ำวต่อหน้ำ ชื่อว่ำย่อมโอวำท,                ส่งฑูตหรือ
ศำสน์ไปในที่ลับหลัง ชื่อว่ำย่อมอนุศำสน์.            แม้กล่ำวครำวเดียว ชือ
                                                                        ่
ว่ำย่อมโอวำท,       กล่ำวบ่อย ๆ ชื่อว่ำย่อมอนุศำสน์.         อีกอย่ำงหนึ่ง
กำำลังโอวำทนั่นแล ชื่อว่ำอนุศำสน์ พึงกล่ำวสังสอนอย่ำงนี้ ด้วย
                                            ่
ประกำรฉะนี้.
             บทว่ำ อสฺพภำ ควำมว่ำ พึงห้ำมจำกอกุศลธรรม พึงให้ตั้ง
อยู่ในกุศลธรรม.        บทว่ำ สต ควำมว่ำ บุคคลเห็นปำนนี้นั้น ย่อม
เป็นที่รักแห่งสัตบุรุษทั้งหลำย มีพระพุทธเจ้ำเป็นต้น;          แต่ผู้ว่ำกล่ำว
ผู้สงสอนนั้น ย่อมไม่เป็นที่รักแห่งพวกที่ไม่เห็นธรรม มีปรโลกอัน
    ั่
ข้ำมล่วงแล้ว ผู้เห็นแก่อำมิส บวชเพื่อประโยชน์แก่กำรเลี้ยงชีพ
เหล่ำนั้น ชื่อว่ำอสัตบุรุษ ผู้ทมแทงด้วยหอกคือปำกอย่ำงนี้ว่ำ
                               ิ่                                      "   ท่ำน
ประโยค๒      -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔   -   หน้ำที่   10
ไม่ใช่พวกอุปัชฌำย์อำจำรย์ของพวกเรำ,          ว่ำกล่ำวพวกเรำทำำไม    ?"
             ในเวลำจบเทศนำ ชนเป็นอันมำก บรรลุอริยผลทั้งหลำย มี
โสดำปัตติผลเป็นต้นแล้ว.
             ฝ่ำยพระสำรีบุตรและพระโมคคัลลำนะ ไปที่กิฏำคีรีนั้น ว่ำกล่ำว
สั่งสอนภิกษุเหล่ำนั้นแล้ว.       ในภิกษุเหล่ำนั้น บำงพวกก็รับโอวำท
ตังใจประพฤติปฏิบัติ,
  ้                      บำงพวกก็สึกไป,       บำงพวกต้องปัพพำชนียกรรม
ดังนีแล.
     ้
                         เรื่องภิกษุอัสสชิและปุนัพพสุกะ   จบ.
ประโยค๒     -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔             -   หน้ำที่   11
                                                ๓. เรื่องพระฉันนเถระ
[   ข้อควำมเบื้องต้น     ]
                  พระศำสดำเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรำรภพระฉันน-
เถระ ตรัสพระธรรมเทศนำนี้ว่ำ             "   น ภเช ปำปเก มิตฺเต        "         เป็นต้น.
                                            [    พระฉันนเถระด่ำพระอัครสำวก              ]
                  ดังได้สดับมำ        ท่ำนพระฉันนะนั้นด่ำพระอัครสำวกทั้ง                   ว่ำ
"   เรำเมื่อตำมเสด็จออกมหำภิเนษกรมน์ กับพระลูกเจ้ำของเรำทั้งหลำย
ในเวลำนั้น มิได้เห็นผู้อื่นแม้สักคนเดียว,             แต่บัดนี้ ท่ำนพวกนี้เที่ยว
กล่ำวว่ำ     '   เรำชื่อสำรีบุตร, เรำชื่อโมคคัลลำนะ,          พวกเรำเป็นอัคร-
สำวก.    "        พระศำสดำทรงสดับข่ำวนั้นแต่สำำนักภิกษุทั้งหลำยแล้ว รับสั่ง
ให้หำพระฉันนเถระมำ ตรัสสอนแล้ว.                     ท่ำนนิ่งในชั่วขณะนั้นเท่ำนั้น
ยังกลับไปด่ำพระเถระทั้งหลำยเหมือนอย่ำงนั้นอีก.                       พระศำสดำรับสั่ง
ให้หำท่ำนซึ่งกำำลังด่ำมำแล้ว ตรัสสอนอย่ำงนั้นถึง ๓ ครั้งแล้ว ตรัส
เตือนว่ำ     "   ฉันนะ ชื่อว่ำอัครสำวกทั้ง ๒ เป็นกัลยำณมิตร เป็นบุรุษ
ชั้นสูง ของเธอ, เธอจงเสพ จงคบกัลยำณมิตรเห็นปำนนี้                     "       ดังนี้แล้ว
เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคำถำนี้ว่ำ               :-
                     "   บุคคลไม่ควรคบปำปมิตร,           ไม่ควรคบบุรุษตำ่ำช้ำ,
                     ควรคบกัลยำณมิตร,             ควรคบบุรุษสูงสุด.   "
*แปลออกสอบเปรียญ             ๖ ประโยค ในสนำมหลวง พ.ศ. ๒๔๖๙.
ประโยค๒     -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔          -   หน้ำที่   12
                                                                 [   แก้อรรถ   ]
                เนื้อควำมแห่งพระคำถำนั้นว่ำ            "   คนผูยินดีในอกุศลกรรม มี
                                                               ้
กำยทุจริตเป็นต้น ชื่อว่ำปำปมิตร,            คนผูชักนำำในเหตุอันไม่สมควร มี
                                                ้
กำรตัดช่องเป็นต้นก็ดี อันต่ำงโดยกำรแสวงหำไม่ควร ๒๑ อย่ำงชื่อว่ำบุรุษตำ่ำช้ำ . อนึ่ง
ชน ๒ จำำพวกนั้น ชือว่ำเป็นทั้งปำปมิตร
                  ่
ทั้งบุรุษตำ่ำช้ำ;   บุคคลไม่ควรคบ คือไม่ควรนั่งใกล้เขำเหล่ำนั้น;                    ฝ่ำย
ชนผูผิดตรงกันข้ำม ชื่อว่ำเป็นกัลยำณมิตร ทั้งสัตบุรุษ ,
    ้                                                                 บุคคลควร
คบ คือควรนั่งใกล้ท่ำนเหล่ำนั้น.
                ในเวลำจบเทศนำ ชนเป็นอันมำก บรรลุอริยผลทั้งหลำย มี
โสดำปัตติผลเป็นต้นแล้ว.
                           [   พระศำสดำตรัสสั่งให้ลงพรหมทัณฑ์พระฉันนะ                ]
                ฝ่ำยพระฉันนเถระ แม้ได้ฟังพระโอวำทแล้ว ก็ยังด่ำขู่พวกภิกษุ
อยู่อีกเหมือนนัยก่อนนั่นเอง.             แม้พวกภิกษุก็กรำบทูลแด่พระศำสดำ
อีก.     พระศำสดำตรัสว่ำ         "   ภิกษุทั้งหลำย เมื่อเรำยังมีชีวิตอยู่ พวก
เธอจักไม่อำจ เพื่อให้ฉันนะสำำเหนียกได้.                แต่เมื่อเรำปรินิพพำนแล้ว
จึงจักอำจ   "   ดังนี้แล้ว,     เมื่อพระอำนนท์ทูลถำม ในเวลำจวนจะ
เสด็จปรินิพพำนว่ำ      "   พระเจ้ำข้ำ อันพวกข้ำพระองค์จะพึงปฏิบัติใน
พระฉันนเถระอย่ำงไร         ?    จึงตรัสบังคับว่ำ   "   อำนนท์ พวกเธอพึงลง
พรหมทัณฑ์แก่ฉันนภิกษุเถิด.           "
๑. ปรมัตถโชติก หน้ำ ๒๖๕.
ประโยค๒    -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔      -   หน้ำที่   13
            พระฉันนะนั้น       เมือพระศำสดำเสด็จปรินิพพำนแล้ว ได้ฟัง
                                  ่
พรหมทัณฑ์ ที่พระอำนนทเถระยกขึ้นแล้ว มีทุกข์ เสียใจ ล้มสลบ
ถึง ๓ ครั้ง แล้ววิงวอนว่ำ      "   ข้ำแต่ท่ำนผู้เจริญ ขอท่ำนอย่ำให้กระผม
ฉิบหำยเลย   "   ดังนีแล้ว บำำเพ็ญวัตรอยู่โดยชอบ
                     ้                                  ต่อกำลไม่นำนนัก
ก็บรรลุพระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทำทั้งหลำยแล้ว ดังนี้แล.
                                   เรื่องพระฉันนเถระ จบ.
ประโยค๒            -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔           -   หน้ำที่   14
                                            ๔.       เรื่องพระมหำกัปปินเถระ
[   ข้อควำมเบื้องต้น   ]
              พระศำสดำเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน                       ทรงปรำรภพระมหำ
กัปปินเถระ ตรัสพระธรรมเทศนำนี้ว่ำ                    "   ธมฺมปีติ สุข เสติ    "
เป็นต้น.     ในเรื่องนั้น มีอนุบุพพีกถำ ดังต่อไปนี้               :-
                                [   พระปัจเจกพุทธะทูลขอหัตถกรรมทำำเสนำสนะ                  ]
              ได้ยินว่ำ ในอดีตกำล ท่ำนพระมหำกัปปินะ มีอภินิหำรได้ทำำไว้
แทบบำทมูลของพระพุทธเจ้ำทรงพระนำมว่ำปทุมุตตระ                            ท่องเที่ยว
อยู่ในสงสำร เกิดเป็นนำยช่ำงหูกผู้เป็นหัวหน้ำ ในบ้ำนช่ำงหูกแห่งหนึ่ง
ในที่ไม่ไกลแต่กรุงพำรำณสี.                ครังนั้น
                                             ้           พระปัจเจกพุทธะประมำณพัน
องค์ อยู่ในหิมวันตประเทศ ๘ เดือน อยู่ในชนบท ๔ เดือนอันเป็น
ฤดูฝน.      ครำวหนึ่ง พระปัจเจกพุทธะเหล่ำนั้น พักอยู่ในที่ไม่ไกลแต่
กรุงพำรำณสี แล้วส่งพระปัจเจกพุทธะ ๒ รูปไปยังสำำนักพระรำชำด้วย
     "
คำำว่ำ     ท่ำนทั้งหลำยจงทูลขอหัตถกรรมเพื่อประโยชน์แก่กำรทำำเสนำ-
สนะ. "       ก็ในกำลนั้น เป็นครำววัปปมงคลแรกนำขวัญของพระรำชำ.
ท้ำวเธอทรงสดับว่ำ          "   ได้ยินว่ำ พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยมำ              "     จึง
เสด็จออกไป ตรัสถำมถึงเหตุที่มำ แล้วตรัสว่ำ                    "   ข้ำแต่ทำนผู้เจริญ
                                                                         ่
วันนี้ยงไม่มีโอกำส.
       ั                   (เพรำะ)        พรุ่งนี้ ข้ำพเจ้ำทังหลำยจะมีกำรมงคล
                                                             ้
แรกนำขวัญ, ข้ำพเจ้ำจักทำำในวันที่ ๓                  "     ไม่ทรงอำรำธนำพระปัจเจก-

*พระมหำเฉย (พระรำชปัญญำกวี)                      ป.ธ. ๗ วัดสัมพันธวงศ์ แปล.
ประโยค๒    -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔          -   หน้ำที่   15
พุทธะทั้งหลำยไว้เลย        เสด็จเข้ำไปแล้ว.           พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำย
คิดว่ำ   "   เรำทังหลำยจักเข้ำไปสู่บ้ำนอื่น
                  ้                           "       หลีกไปแล้ว.
                                                  [   พวกบ้ำนช่ำงหูกทำำบุญ    ]
                ในขณะนั้น ภรรยำของนำยช่ำงหูกผู้หัวหน้ำ ไปสู่กรุงพำรำณสี
ด้วยกิจบำงอย่ำง เห็นพระปัจเจกพุทธะเหล่ำนั้น นมัสกำรแล้วถำมว่ำ
"   ท่ำนผู้เจริญ พระผู้เป็นเจ้ำมำในกำลมิใช่เวลำ เพรำะเหตุไร              ?"
ได้ทรำบควำมเป็นไปนั้นตั้งแต่ต้น เป็นหญิงมีศรัทธำ ถึงพร้อมด้วย
ปัญญำ นิมนต์ว่ำ      " ท่ำนผู้เจริญ ขอท่ำนทั้งหลำยจงรับภิกษำของดิฉัน
ทั้งหลำยในวันพรุ่งนี้. "
               พระปัจเจก. น้องหญิง พวกเรำมีมำก.
               หญิง. มีประมำณเท่ำไร ? เจ้ำข้ำ.
               พระปัจเจก. มีประมำณพันรูป น้องหญิง.
               หญิงนั้นกล่ำวว่ำ " ท่ำนผู้เจริญ พวกดิฉันมีประมำณพันคน
อยู่ในบ้ำนนี้,     คนหนึ่ง ๆ จักถวำยภิกษำแด่พระผู้เป็นเจ้ำรูปหนึ่ง ๆ
ขอท่ำนทั้งหลำย จงรับภิกษำเถิด, ดิฉันคนเดียวจักให้ทำำแม้ที่อยู่แก่
ท่ำนทั้งหลำย. "
               พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยรับ (อำรำธนำ) แล้ว. นำงเข้ำไปสู่
บ้ำน ป่ำวร้องว่ำ " เรำเห็นพระปัจเจกพุทธะประมำณพันองค์ นิมนต์
ไว้แล้ว,      ท่ำนทั้งหลำยจงจัดแจงที่เป็นที่นั่งแด่พระผู้เป็นเจ้ำทั้งหลำย,
จงจัดอำหำรวัตถุทั้งหลำยมีขำวต้มและข้ำวสวยเป็นต้น แด่พระผู้เป็น
                          ้
ประโยค๒      -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔           -   หน้ำที่   16
เจ้ำทังหลำยเถิด
      ้           "     แล้วให้สร้ำงปรำำในท่ำมกลำงบ้ำน ลำดอำสนะไว้
ในวันรุ่งขึ้น จึงให้นิมนต์พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยนั่ง อังคำสด้วย
โภชนะอันประณีต ในเวลำเสร็จภัตกิจ จึงพำหญิงทั้งหมดในบ้ำนนั้น
พร้อมกับหญิงเหล่ำนั้น นมัสกำรพระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยแล้ว รับ
เอำปฏิญญำเพื่อประโยชน์แก่กำรอยูตลอดไตรมำส แล้วป่ำวร้องชำวบ้ำน
                               ่
อีกว่ำ   "   แม่และพ่อทั้งหลำย บุรุษคนหนึ่ง ๆ แต่ตระกูลหนึ่ง ๆ
จงถือเอำเครื่องมือมีมดเป็นต้นเข้ำไปสู่ปำ นำำเอำทัพพสัมภำระมำสร้ำง
                     ี                 ่
ที่เป็นที่อยู่ของพระผู้เป็นเจ้ำทังหลำย.
                                 ้              "
               พวกชำวบ้ำนตั้งอยู่ในถ้อยคำำของนำงแล้ว คนหนึ่ง ๆ ทำำทีแห่ง
                                                                    ่
หนึ่ง ๆ แล้วให้สร้ำงศำลำมุงด้วยใบไม้พันหลัง พร้อมกับที่พักกลำง
คืนและกลำงวัน         แล้วอุปัฏฐำกพระปัจเจกพุทธะผู้เข้ำจำำนำำพรรษำใน
บรรณศำลำของตน ๆ ด้วยตั้งใจว่ำ               "   เรำจักอุปัฏฐำกโดยเคำรพ, เรำ
จักอุปัฏฐำกโดยเคำรพ.       "
               ในเวลำออกพรรษำแล้ว นำงชักชวนว่ำ                  "   ท่ำนทั้งหลำยจง
ตระเตรียมผ้ำเพื่อจีวร    (ถวำย)         แด่พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยผู้อยู่จำำ
พรรษำในบรรณศำลำของตน ๆ เถิด.                    "   แล้วให้ถวำยจีวรมีคำพันหนึ่ง
                                                                      ่
แด่พระปัจเจกพุทธะองค์หนึ่ง ๆ.             พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยออกพรรษำ
แล้ว ทำำอนุโมทนำแล้วก็หลีกไป.
                                    [    อำนิสงส์ทำนนำำให้เกิดในดำวดึงส์       ]
               แม้พวกชำวบ้ำน            ครั้นทำำบุญนี้แล้ว จุติจำกอัตภำพนั้นแล้วเกิด
ประโยค๒    -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔       -   หน้ำที่    17
ในภพดำวดึงส์ ได้มีนำมว่ำคณะเทวบุตรแล้ว.                 เทวบุตรเหล่ำนั้น
เสวยทิพยสมบัติในภพดำวดึงส์นั้น              ในกำลแห่งพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำ
ทรงพระนำมว่ำกัสสปะ         (มำ)    เกิดในเรือนของกุฎุมพี     ในกรุง
พำรำณสี.        หัวหน้ำช่ำงหูกได้เป็นบุตรของกุฎุมพีผู้ใหญ่.          ฝ่ำยภรรยำ
ของเขำ ก็ได้เป็นธิดำของกุฎุมพีผู้ใหญ่เหมือนกัน.             หญิงเหล่ำนั้น
แม้ทงหมด ถึงควำมเจริญวัยแล้ว เมื่อจะไปสูตระกูลผัว ก็ได้ไป
    ั้                                  ่
สู่เรือนของบุรุษเหล่ำนั้นนั่นแล.
                                              [   กุฎุมพีถวำยมหำทำน      ]
                ต่อมำวันหนึ่ง เขำป่ำวร้องกำรฟังธรรมในวิหำร.                  กุฎุมพี
เหล่ำนั้นแม้ทั้งหมด ได้ยินว่ำ     "   พระศำสดำจะทรงแสดงธรรม          "       ปรึกษำ
กันว่ำ    "   เรำทังหลำยจักฟังธรรม
                   ้                    "    แล้วได้ไปสู่วิหำรกับภรรยำ.                ใน
ขณะที่ชนเหล่ำนั้น เข้ำไปสู่ทำมกลำงวิหำร ฝนได้ตั้งเค้ำแล้ว,
                            ่                                                บรรพ-
ชิตทังหลำยมีสำมเณรเป็นต้น
     ้                                ผูเป็นกุลุปกะหรือเป็นญำติของชนเหล่ำ
                                        ้
ใดมีอยู่;        ชนเหล่ำนั้นก็เข้ำไปสู่บริเวณของบรรพชิตเหล่ำนั้น.               แต่
กุฎุมพีเหล่ำนั้นไม่อำจจะเข้ำไปในที่ไหน ๆ ได้          เพรำะควำมที่กุลุปกะ
หรือญำติเห็นปำนนั้นไม่มี ได้ยืนอยู่ท่ำมกลำงวิหำรนั่นเอง.
                ลำำดับนั้น กุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้ำ จึงกล่ำวกะกุฎุมพีผู้บริวำรเหล่ำ
นั้นว่ำ   "   ท่ำนทั้งหลำย จงดูอำกำรอันน่ำเกลียดของพวกเรำ, ธรรมดำ
กุลบุตรทั้งหลำย ละอำยด้วยเหตุมีประมำณเท่ำนี้ สมควรแล้ว.              "
                บริวำร.    นำย พวกเรำจะทำำอย่ำงไรเล่ำ       ?
                กุฎุมพี.   พวกเรำถึงอำกำรน่ำเกลียดนี้ เพรำะไม่มีสถำนที่ซงมี
                                                                        ึ่
ประโยค๒       -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔           -   หน้ำที่   18
คนคุ้นเคยกัน,      เรำทั้งหมดรวมทรัพย์กัน สร้ำงบริเวณเถอะ.
              บริวำร.      ดีละ นำย.
              คนผู้หัวหน้ำ ได้ให้ทรัพย์พันหนึ่ง,            ชนที่เหลือให้คนละ ๕๐๐,
พวกหญิงให้คนละ ๒๕๐.                      ชนเหล่ำนั้นรวบรวมทรัพย์นั้นแล้วเริ่ม
(สร้ำง)     ชื่อบริเวณใหญ่ เพื่อประโยชน์เป็นที่ประทับของพระศำสดำ
ซึ่งมีเรือนยอดพันหลังเป็นบริวำร.              เมื่อทรัพย์ไม่เพียงพอ เพรำะ
ควำมที่นวกรรมเป็นงำนใหญ่,                จึงได้ออกอีกคนละกึ่ง      จำกทรัพย์ที่
ตนให้แล้วในก่อน.        เมื่อบริเวณเสร็จแล้ว,           ชนเหล่ำนั้นเมื่อจะทำำกำร
ฉลองวิหำร      จึงถวำยมหำทำนแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้ำเป็นประมุข
ตลอด ๗ วัน แล้วจัดจีวรเพื่อภิกษุสองหมื่นรูป.
                            [      ภรรยำของกุฎุมพีถวำยดอกอังกำบ           ]
              ฝ่ำยภรรยำของกุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้ำ ไม่ทำำให้มีส่วนเสมอด้วยชน
ทั้งหมด     ตังอยู่ด้วยปัญญำของตน คิดว่ำ
              ้                                     "   เรำจักบูชำพระศำสดำ
ทำำให้ยง
       ิ่    (กว่ำเขำ) "            จึงถือเอำผอบดอกอังกำบ           กับผ้ำสำฎกมีสีดัง
ดอกอังกำบรำคำพันหนึ่ง ในเวลำอนุโมทนำ บูชำพระศำสดำด้วย
ดอกอังกำบแล้ว      วำงผ้ำสำฎกนั้นไว้           แทบบำทมูลของพระศำสดำ
ตังควำมปรำรถนำไว้ว่ำ
  ้                        "    ข้ำแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอสรีระของหม่อมฉัน
จงมีสีดุจดอกอังกำบนี่แหละ ในที่หม่อมฉันเกิดแล้ว ๆ, และขอหม่อม
ฉันจงมีนำมว่ำ อโนชำนั่นแล.           "
              พระศำสดำได้ทรงทำำอนุโมทนำว่ำ                  "   จงสำำเร็จอย่ำงนั้นเถิด.   "
ประโยค๒   -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔    -   หน้ำที่   19
                             [   กุฎุมพีภรรยำและบริวำรเกิดในรำชตระกูล       ]
         ชนเหล่ำนั้นแม้ทงหมด ดำำรงอยู่จนตลอดอำยุแล้ว จุตจำก
                        ั้                              ิ
อัตภำพนั้นแล้วก็เกิดในเทวโลก ในพุทธุปบำทกำลนี้ จุตจำก
                                                  ิ
เทวโลกแล้ว.        กุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้ำ เกิดในรำชตระกูล ในกุกกุฏวดีนคร
ถึงควำมเจริญวัยแล้ว ได้เป็นพระรำชำพระนำมว่ำ พระเจ้ำมหำกัปปินะ .
ชนที่เหลือได้เกิดในตระกูลมหำอำำมำตย์;              ภรรยำของกุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้ำ
เกิดในรำชตระกูล ในสำคลนคร ในมัททรัฐ.            พระนำงได้มีพระสรีระ
เช่นกับสีดอกอังกำบนั่นเทียว.       พระญำติขนำนพระนำมแก่พระนำงว่ำ
"   อโนชำ    "   นั่นแล.          พระนำงทรงถึงควำมเจริญวัยแล้ว ก็ไปสู่พระ
รำชมณเฑียรของพระเจ้ำกัปปินะ              ได้เป็นพระเทวีมีพระนำมว่ำ
อโนชำแล้ว.        แม้หญิงทั้งหลำยที่เหลือ เกิดในตระกูลอำำมำตย์ทั้งหลำย
ถึงควำมเจริญวัยแล้ว ก็ได้ไปสู่เรือนแห่งบุตรอำำมำตย์เหล่ำนั้นเหมือน
กัน.    ชนเหล่ำนั้นแม้ทุกคน ได้เสวยสมบัติเช่นกับสมบัติของพระรำชำ.
ในกำลใด พระรำชำทรงประดับเครื่องอลังกำรทังปวง ทรงช้ำงเที่ยวไป;
                                        ้
ในกำลนั้น แม้ชนเหล่ำนั้นก็เที่ยวไปเหมือนอย่ำงนั้น.       เมื่อพระรำชำ
เสด็จเที่ยวไปด้วยม้ำหรือด้วยรถ,       แม้ชนเหล่ำนั้น ก็เที่ยวไปเหมือน
อย่ำงนั้น.       ชนเหล่ำนั้นเสวยสมบัติร่วมกัน ด้วยอำนุภำพแห่งบุญที่ทำำ
ร่วมกัน ด้วยประกำรฉะนี้.
         ก็มำของพระรำชำมีอยู่ ๕ ม้ำ คือ ม้ำชื่อพละ ๑ พลวำหนะ ๑
            ้
ปุปผะ ๑ ปุปผวำหนะ ๑ สุปตตะ ๑.
                       ั                     บรรดำม้ำเหล่ำนั้น ม้ำชื่อ
สุปัตตะ พระรำชำทรงเอง.            ๔ ม้ำนอกนี้ ได้พระรำชำแก่พวกม้ำ
ประโยค๒             -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔          -   หน้ำที่   20
ใช้ เพื่อประโยชน์นำำข่ำวสำสน์มำ.
                                                 [    พระรำชำให้สืบข่ำวพระรัตนตรัย         ]
             พระรำชำให้ม้ำใช้เหล่ำนั้น บริโภคแต่เช้ำตรู่แล้ว ทรงส่งไป
ด้วยพระดำำรัสว่ำ           "    พวกท่ำนไปเถิด,           เที่ยวไป ๒ หรือ ๓ โยชน์แล้ว
ทรำบว่ำพระพุทธ พระธรรม หรือพระสงฆ์อุบติแล้ว จงนำำข่ำวที่
                                     ั
ให้เกิดสุขมำแก่เรำ.            "   ม้ำใช้เหล่ำนั้น ออกโดยประตูทั้ง ๔ เทียวไป
                                                                        ่
ได้ ๒-๓ โยชน์ ไม่ได้ข่ำวแล้วก็กลับ.
                                   [   พระรำชำได้ขำวพระรัตนตรัยจำกพ่อค้ำม้ำ
                                                  ่                                        ]
             ต่อมำวันหนึ่ง พระรำชำทรงม้ำชื่อสุปัตตะ อันอำำมำตย์พันหนึ่ง
แวดล้อม เสด็จไปพระรำชอุทยำน ทอดพระเนตรเห็นพวกพ่อค้ำ
ประมำณ ๕๐๐ ผูมีร่ำงอ่อนเพลียกำำลังเข้ำสู่พระนคร แล้วทรงดำำริว่ำ
             ้
"   ชนเหล่ำนี้ลำำบำกในกำรเดินทำงไกล,                          เรำจักฟังข่ำวดีอย่ำงหนึ่ง
จำกสำำนักแห่งชนเหล่ำนี้เป็นแน่               "       จึงรับสังให้เรียกพ่อค้ำเหล่ำนั้นมำ
                                                             ่
แล้วตรัสถำมว่ำ         "   ท่ำนทั้งหลำยมำจำกเมืองไหน             ?"
             พ่อค้ำ.           พระเจ้ำข้ำ พวกข้ำพระองค์มำจำกนครชื่อสำวัตถี
ซึ่งมีอยู่ในที่สุดประมำณ ๑๒๐ โยชน์ แต่พระนครนี้.
             พระรำชำ.              ก็ข่ำวอะไร ๆ อุบติขึ้นในประเทศของพวกท่ำน
                                                   ั
มีอยู่หรือ   ?
             พ่อค้ำ.           พระเจ้ำข้ำ ข่ำวอะไร ๆ อย่ำงอื่นไม่มี,          แต่พระสัมมำ
สัมพุทธเจ้ำทรงอุบัติขึ้นแล้ว.
             พระรำชำทรงมีสรีระอันปีตมีวรรณ ๕ ถูกต้องแล้ว ในทันใด
                                    ิ
ประโยค๒        -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔     -   หน้ำที่   21
นั้นนั่นเอง   ไม่อำจเพื่อกำำหนดอะไร ๆ ได้       ทรงยับยังอยู่
                                                        ้
ครู่หนึ่ง แล้วตรัสถำมว่ำ   "   พวกท่ำนกล่ำวอะไร   ?   พ่อ. " พวกพ่อค้ำ
กรำบทูลว่ำ " พระเจ้ำข้ำ พระพุทธเจ้ำทรงอุบติขึ้นแล้ว. " แม้ครั้ง
                                                 ั
ที่ ๒ แม้ครั้งที่ ๓ พระรำชำก็ทรงยับยั้งอยู่เหมือนอย่ำงนั้น. ในวำระ
ที่ ๔ ตรัสถำมว่ำ " พวกท่ำนกล่ำวอะไร ? พ่อ " เมื่อพ่อค้ำเหล่ำนั้น
กรำบทูลว่ำ " พระเจ้ำข้ำ พระพุทธเจ้ำทรงอุบติขึ้นแล้ว. " จึงตรัสว่ำ
                                                   ั
" พ่อทั้งหลำย เรำให้ทรัพย์แก่พวกท่ำนแสนหนึ่ง " แล้วตรัสถำมว่ำ
" ข่ำวอะไร ๆ แม้อื่นอีก มีอยู่หรือ ? พ่อ. " พวกพ่อค้ำกรำบทูลว่ำ
" มีอยู่ พระเจ้ำข้ำ, พระธรรมอุบติขึ้นแล้ว. " พระรำชำทรงสดับแม้
                                       ั
คำำนั้นแล้ว ทรงยับยั้งอยู่ตลอด ๓ วำระโดยนัยก่อนนั่นแล, ในวำระ
ที่ ๔ เมื่อพวกพ่อค้ำกรำบทูลบทว่ำ " ธมฺโม " จึงตรัสว่ำ " แม้ใน
เพรำะบทนี้ เรำให้ทรัพย์พวกท่ำนแสนหนึ่ง " แล้วตรัสถำมว่ำ
" ข่ำวแม้อื่นอีก มีอยู่หรือ ? พ่อ. " พวกพ่อค้ำกรำบทูลว่ำ " พระเจ้ำข้ำ
มีอยู่, พระสังฆรัตนะอุบติขึ้นแล้ว. " พระรำชำทรงสดับแม้คำำนั้นแล้ว
                          ั
ทรงยับยั้งอยู่ตลอด ๓ วำระอย่ำงนั้นเหมือนกัน,         ในวำระที่ ๔ เมื่อ
พวกพ่อค้ำกรำบทูลบทว่ำ " สงฺโฆ " จึงตรัสว่ำ " แม้ในเพรำะบทนี้
เรำให้ทรัพย์แก่พวกท่ำนแสนหนึ่ง " แล้วทรงแลดูอำำมำตย์พันหนึ่ง
ตรัสถำมว่ำ " พ่อทั้งหลำย พวกท่ำนจักทำำอย่ำงไร ? "
           อำำมำตย์.     พระเจ้ำข้ำ พระองค์จักทรงทำำอย่ำงไรเล่ำ ?
           พระรำชำ.         พ่อทั้งหลำย เรำได้สดับว่ำ ' พระพุทธเจ้ำทรง
อุบัตขึ้นแล้ว, พระธรรมอุบัติขึ้นแล้ว, พระสงฆ์อุบติขึ้นแล้ว ' จักทรง
      ิ                                                  ั
ประโยค๒     -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔   -   หน้ำที่   22
ไม่กลับมำอีก,       เรำจักอุทิศต่อพระศำสดำไปบวชในสำำนักของพระองค์.
            อำำมำตย์.     แม้ข้ำพระองค์ทั้งหลำย ก็จักบวชพร้อมด้วยพระองค์
พระเจ้ำข้ำ.
                           [   พระรำชำออกผนวชพร้อมกับอำำมำตย์        ]
            พระรำชำรับสั่งให้เจ้ำพนักงำนอำลักษณ์จำรึกอักษรลงในแผ่นทอง
แล้ว ตรัสกะพวกพ่อค้ำม้ำว่ำ" พระเทวีพระนำมว่ำอโนชำ จักพระรำช-
ทำนทรัพย์ ๓ แสนแก่พวกท่ำน ; ก็แลพวกท่ำนพึงทูลอย่ำงนี้ว่ำ ' ได้
ยินว่ำ พระรำชทรงสละควำมเป็นใหญ่ถวำยพระองค์แล้ว,        พระองค์
จงเสวยสมบัตตำมสบำยเถิด ;
            ิ                ก็ถ้ำพระเทวีจักตรัสถำมพวกท่ำนว่ำ
' พระรำชำเสด็จไปที่ไหน ? ' พวกท่ำนพึงทูลว่ำ ' พระรำชำตรัสว่ำ
จักบวชอุทิศพระศำสดำ ' แล้วก็เสด็จไป. "
            แม้อำำมำตย์ทงหลำยก็ส่งข่ำวไปแก่ภรรยำของตน ๆ อย่ำงนั้น
                        ั้
เหมือนกัน.        พระรำชำทรงส่งพวกพ่อค้ำไปแล้ว อันอำำมำตย์พันหนึ่ง
แวดล้อม เสด็จออกไปในขณะนั้นนั่นแล.
            ในวันนั้น แม้พระศำสดำเมือทรงตรวจดูสัตว์โลกในกำลใกล้รุ่ง
                                    ่
ได้ทอดพระเนตรเห็นพระเจ้ำมหำกัปปินะพร้อมบริวำร           ทรงดำำริ
ว่ำ   "   พระเจ้ำมหำกัปปินะนี้ ได้ทรงสดับควำมที่รัตนะ ๓ อุบัติขึ้น
แต่สำำนักของพวกพ่อค้ำแล้ว ทรงบูชำคำำของพ่อค้ำเหล่ำนั้นด้วยทรัพย์
๓ แสน ทรงสละรำชสมบัติ อันอำำมำตย์พันหนึ่งแวดล้อม ทรงประ -
สงค์เพื่อจะผนวช อุทิศเรำ จักเสด็จออกไปในวันพรุ่งนี้,          ท้ำวเธอ
พร้อมทั้งบริวำรจักบรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทำทังหลำย,
                                                    ้                    เรำ
ประโยค๒        -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔       -   หน้ำที่   23
จักทำำกำรต้อนรับท้ำวเธอ       "       ดังนี้แล้ว    ในวันรุ่งขึ้น ทรงบำตรและ
จีวรด้วยพระองค์เองทีเดียว เสด็จต้อนรับสิ้นทำง ๑๒๐ โยชน์ ดุจพระ
เจ้ำจักรพรรดิ์ทรงต้อนรับกำำนันฉะนั้น ประทับนั่งเปล่งพระรัศมี มี
พรรณ ๖ ณ ภำยใต้โคนต้นนิโครธ ริมฝั่งแม่นำ้ำจันทภำคำนที.
         ฝ่ำยพระรำชำเสด็จมำถึงแม่นำ้ำแห่งหนึ่งแล้ว ตรัสถำมว่ำ                 "    นี่ชื่อ
แม่นำ้ำอะไร   ?"
         อำำมำตย์.          ชืออำรวปัจฉำนที พระเจ้ำข้ำ.
                              ่
         พระรำชำ.            พ่อทั้งหลำย แม่นำ้ำนี้มีประมำณเท่ำไร        ?
         อำำมำตย์.          โดยลึก คำวุตหนึ่ง, โดยกว้ำง ๒ คำวุต พระเจ้ำข้ำ.
         พระรำช.            ก็ในแม่นำ้ำนี้ เรือหรือแพมีไหม     ?
         อำำมำตย์.          ไม่มี พระเจ้ำข้ำ.
         พระรำชำตรัสว่ำ               "   เมื่อเรำทังหลำยมัวหำยำนมีเรือเป็นต้น,
                                                    ้
ชำติย่อมนำำไปสูชรำ, ชรำย่อมไปสู่มรณะ, เรำไม่มีควำมสงสัย ออก
               ่
บวชอุทิศพระรัตนตรัย, ด้วยอำนุภำพแห่งพระรัตนตรัยนั้น นำ้ำนี้ อย่ำ
ได้เป็นเหมือนนำ้ำเลย    "      ดังนี้แล้ว ทรงระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ระลึก
ถึงพุทธำนุสติว่ำ    "   แม้เพรำะเหตุนี้ พระผู้มีพระภำคพระองค์นั้น
เป็นพระอรหันตสัมมำสัมพุทธเจ้ำ              "   เป็นต้น พร้อมทังบริวำรเสด็จไป
                                                              ้
บนหลังนำ้ำด้วยม้ำพันหนึ่ง.            ม้ำสินธพทั้งหลำยก็วิ่งไป ดุจวิ่งไปบน
หลังแผ่นหิน.       ปลำยกีบก็ไม่เปียก
๑. ถ้ำบำลีเป็น อคฺคำเนว เตมึสุ ก็แปลว่ำ ปลำยกีบเท่ำนั้น เปียกนำ้ำ.
ประโยค๒      -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔              -   หน้ำที่   24
             พระรำชำเสด็จข้ำมแม่นำ้ำนั้นแล้ว เสด็จไปข้ำงหน้ำ ทอดพระ
เนตรเห็นแม่นำ้ำอื่นอีก จึงตรัสถำมว่ำ          "   แม่นำ้ำนี้ชื่ออะไร   ?"
             อำำมำตย์.       ชือนีลวำหนำนที พระเจ้ำข้ำ.
                               ่
             พระรำชำ.         แม่นำ้ำนี้ประมำณเท่ำไร     ?
             อำำมำตย์.       ทังส่วนลึก ทั้งส่วนกว้ำง ประมำณกึ่งโยชน์พระเจ้ำข้ำ.
                               ้
             คำำที่เหลือก็เช่นกับคำำก่อนนั่นแหละ.
             ก็พระรำชำ ทอดพระเนตรเห็นแม่นำ้ำนั้นแล้ว ทรงระลึกถึง
ธรรมนำนุสติวำ
            ่          "   พระธรรมอันพระผู้มีพระภำคตรัสดีแล้ว          "        เป็นต้น
เสด็จไปแล้ว.        ครั้นเสด็จข้ำมแม่นำ้ำแม้นั้นไปได้แล้ว ทอดพระเนตร
เห็นแม่นำ้ำอื่นอีก จึงตรัสถำมว่ำ       "   แม่นำ้ำนี้ชื่ออะไร   ?"
             อำำมำตย์.       แม่นำ้ำนี้ชื่อว่ำจันทภำคำนที พระเจ้ำข้ำ.
             พระรำชำ. แม่นำ้ำนี้ประมำณเท่ำไร           ?
             อำำมำตย์.       ทังส่วนลึก ทั้งส่วนกว้ำง ประมำณโยชน์หนึ่ง พระ
                               ้
เจ้ำข้ำ.
             คำำที่เหลือก็เหมือนกับคำำก่อนนั่นแล.
             ส่วนพระรำชำทอดพระเนตรเห็นแม่นำ้ำนี้แล้ว                 ทรงระลึกถึง
สังฆำนุสติว่ำ      "   พระสงฆ์สำวกของพระผู้มีพระภำค เป็นผู้ปฏิบัติ
ดีแล้ว   "   เป็นต้น เสด็จไปแล้ว.          ก็เม่อเสด็จข้ำมแม่นำ้ำนั้นไป ได้ทอด
พระเนตรเห็นพระรัศมีมีพรรณ ๖ แต่พระสรีระของพระศำสดำ.                              กิ่ง
ค่ำคบ และใบ แห่งต้นนิโครธ ได้เป็นรำวกะว่ำสำำเร็จด้วยทองคำำ.
ประโยค๒   -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔            -   หน้ำที่   25
                             [     พระรำชำและอำำมำตย์ได้บรรลุคุณวิเศษ            ]
           พระรำชำทรงดำำริว่ำ        "   แสงสว่ำงนี้ ไม่ใช่แสงจันทร์, ไม่ใช่แสง
อำทิตย์, ไม่ใช่แสงสว่ำงแห่งเทวดำ มำร พรหม นำค ครุฑเป็นต้น
ผู้ใดผู้หนึ่ง,   เรำอุทิศพระศำสดำมำอยู่ จักเป็นผู้อันพระมหำโคดม-
พุทธเจ้ำทรงเห็นแล้วโดยแน่แท้.            "       ในทันใดนั้นนั่นแล ท้ำวเธอเสด็จ
ลงจำกหลังม้ำทรงน้อมพระสรีระ เข้ำไปเฝ้ำพระศำสดำ ตำมสำยพระ
รัศมี เสด็จเข้ำไปภำยในแห่งพระพุทธรัศมี รำวกะว่ำดำำลงไปใน
มโนสิลำรส ถวำยบังคมพระศำสดำแล้ว ประทับนั่ง ณ ส่วนข้ำงหนึ่ง
พร้อมกับอำำมำตย์พันหนึ่ง
           พระศำสดำทรงแสดงอนุปุพพีกถำแล้ว.                     ในเวลำจบเทศนำ
พระรำชำพร้อมด้วยบริวำร ตั้งอยู่แล้วในโสดำปัตติผล.                     ลำำดับนั้น
ชนเหล่ำนั้นทั้งหมด ลุกขึ้นทูลขอบรรพชำแล้ว.
           พระศำสดำทรงใคร่ครวญว่ำ    " บำตรจีวรสำำเร็จแล้วด้วยฤทธิ์
ของกุลบุตรเหล่ำนี้ จักมำหรือหนอแล ? " ทรงทรำบว่ำ " กุลบุตร
เหล่ำนี้ ได้ถวำยจีวรพันผืน แด่พระปัจเจกพุทธะพันองค์. ในกำล
แห่งพระพุทธเจ้ำพระนำมว่ำกัสสป ได้ถวำยจีวรสองหมื่น แม้แก่
ภิกษุสองหมื่นรูป.       ควำมมำแห่งบำตรและจีวรอันสำำเร็จแล้วด้วยฤทธิ์
ของกุลบุตรเหล่ำนี้ ไม่น่ำอัศจรรย์            "   ดังนีแล้ว ทรงเหยียดพระหัตถ์
                                                      ้
ขวำ ตรัสว่ำ      "   ท่ำนทั้งหลำยจงเป็นภิกษุมำเถิด, ท่ำนทั้งหลำยจงประ
พฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด.               "     ทันใดนั้นนั่นเอง
ประโยค๒     -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔            -   หน้ำที่   26
กุลบุตรเหล่ำนั้นเป็นรำวกะพระเถระมีพรรษำตัง ๑๐๐
                                         ้                     ทรงบริขำร ๘
เหำะขึ้นสู่เวหำส กลับลงมำถวำยบังคมพระศำสดำนั่งอยู่แล้ว.
                            [   พระนำงอโนชำเทวีเสด็จออกผนวช              ]
         ฝ่ำยพ่อค้ำเหล่ำนั้นไปสู่รำชตระกูลแล้ว            ให้เจ้ำหน้ำที่กรำบทูล
ข่ำวที่พระรำชำทรงส่งไป,          เมื่อพระเทวีรับสั่งว่ำ   "   จงมำเถิด   "        เข้ำ
ไปถวำยบังคมแล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ส่วนข้ำงหนึ่ง,                ลำำดับนั้น พระเทวี
ตรัสถำมพ่อค้ำเหล่ำนั้นว่ำ   "    พ่อทั้งหลำย พวกท่ำนมำเพรำะเหตุอะไร                ?"
         พ่อค้ำ.     พระรำชำทรงส่งพวกข้ำพระองค์มำยังสำำนักของพระ
องค์.    นัยว่ำ ขอพระองค์จงพระรำชทำนทรัพย์ ๓ แสนแก่พวก
ข้ำพระองค์.
         พระเทวี.    พ่อทั้งหลำย พวกท่ำนพูดมำกเกินไป.                    พวกท่ำน
ทำำอะไร แก่พระรำชำ,             พระรำชำทรงเลื่อมใสในอะไรของพวกท่ำน
จึงรับสังให้พระรำชทำนทรัพย์มีประมำณเท่ำนี้
        ่                                          ?
         พ่อค้ำ.    พระเจ้ำข้ำ       อะไร ๆ อย่ำงอื่น         พวกข้ำพระองค์มิได้ทำำ,
แต่พวกข้ำพระองค์ได้กรำบทูลข่ำวแด่พระรำชำ.
         พระเทวี.      พ่อค้ำทังหลำย ก็พวกท่ำนสำมำรถบอกแก่เรำบ้ำง
                               ้
ได้ไหม   ?
         พ่อค้ำ.    ได้ พระเจ้ำข้ำ.
         พระเทวี.    พ่อทั้งหลำย ถ้ำกระนั้น พวกท่ำนจงบอก.
         พ่อค้ำ.    พระเจ้ำข้ำ พระพุทธเจ้ำทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก.
         แม้พระเทวีทรงสดับคำำนั้นแล้ว          มีพระสรีระอันปีติถูกต้อง
ประโยค๒    -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔              -   หน้ำที่   27
แล้ว โดยนัยก่อนนั่นแล ทรงกำำหนดอะไร ๆ ไม่ได้ถึง ๓ ครั้ง, ใน
วำระที่ ๔ ทรงสดับบทว่ำ          "   พุทฺโธ   "   แล้วจึงตรัสว่ำ    "   พ่อทั้งหลำย
ในเพรำะบทนี้ พระรำชำพระรำชทำนอะไร                  ?"
            พ่อค้ำ.    ทรัพย์แสนหนึ่ง        พระเจ้ำข้ำ.
            พระเทวี.    พ่อทั้งหลำย พระรำชำทรงสดับข่ำวเห็นปำนนี้แล้ว
พระรำชทำนทรัพย์แสนหนึ่งแก่ทำนทั้งหลำย
                           ่                         (ชือว่ำ)
                                                        ่          ทรงกระทำำไม่
สมกันเลย.         แต่เรำจะให้แก่พวกท่ำน ๓ แสน ในเพรำะของกำำนัล
อันขัดสนของเรำ, ข่ำวอะไรอีก           ?      ที่ทำนทั้งหลำยกรำบทูลแล้ว.
                                                 ่
            พ่อค้ำเหล่ำนั้นกรำบทูลข่ำว ๒ อย่ำง แม้อื่นอีกว่ำ            "   ข่ำวอย่ำง
นี้ แลอย่ำงนี้.   "
            พระเทวีมีพระสรีระอันถูกต้องแล้ว          โดยนัยก่อนนั่นแล
ทรงกำำหนดอะไร ๆ ไม่ได้ถึง ๓ ครั้ง,                ในครั้งที่ ๔ ทรงสดับอย่ำง
นั้นเหมือนกันแล้ว รับสั่งให้พระรำชทำนทรัพย์ครังละ ๓ แสน.
                                              ้                                 พ่อค้ำ
เหล่ำนั้น ได้ทรัพย์ทงหมดเป็น ๑๒ แสน ด้วยประกำรฉะนี้.
                    ั้
            ลำำดับนั้น พระเทวีตรัสถำมพ่อค้ำเหล่ำนั้นว่ำ            "   พ่อทั้งหลำย
พระรำชำเสด็จไปไหน        ?"
            พ่อค้ำ.    พระเจ้ำข้ำ พระรำชำรับสังว่ำ
                                              ่             "     เรำจักบวชอุทิศพระ-
ศำสดำ   "      แล้วก็เสด็จไป.
            พระเทวี.    ข่ำวอะไร     ?    ที่พระองค์พระรำชทำนแก่เรำ.
            พ่อค้ำ.    นัยว่ำ พระองค์ทรงสละควำมเป็นใหญ่ทั้งหมด ถวำย
พระองค์.       นัยว่ำ พระองค์จงเสวยสมบัตตำมพระประสงค์เถิด.
                                        ิ
ประโยค๒   -   พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔      -   หน้ำที่   28
          พระเทวี.      ก็พวกอำำมำตย์ไปไหน     ?   พ่อ.
          พ่อค้ำ.     แม้อำำมำตย์เหล่ำนั้นกล่ำวว่ำ   '   เรำจักบวชกับพระรำชำ
เหมือนกัน   '   แล้วก็ไป พระเจ้ำข้ำ.
          พระนำง       รับสังให้เรียกภรรยำ ของอำำมำตย์เหล่ำนั้นมำแล้ว
                            ่
ตรัสว่ำ " แม่ทั้งหลำย สำมีของพวกเจ้ำ กล่ำวว่ำ ' เรำจักบวชกับ
พระรำชำ ' แล้วก็ไป, พวกเจ้ำจักทำำอย่ำงไร ? "
        หญิง. พระเจ้ำข้ำ ก็ข่ำวอะไร ? ที่พวกเขำส่งมำเพื่อพวก
หม่อมฉัน.
        พระเทวี. ได้ยินว่ำ อำำมำตย์เหล่ำนั้น สละสมบัติของตน ๆ แก่
พวกเจ้ำแล้ว, ได้ยินว่ำ พวกเจ้ำจงบริโภคสมบัตินั้นตำมชอบใจเถิด.
        หญิง. ก็พระองค์จักทรงทำำอย่ำงไรเล่ำ ? พระเจ้ำข้ำ.
        พระเทวี. แม่ทงหลำย ทีแรก พระรำชำนั้นทรงสดับข่ำวแล้ว
                       ั้
ประทับยืนในหนทำงเทียว             ทรงบูชำพระรัตนตรัยด้วยทรัพย์ ๓ แสน
ทรงสละสมบัตดุจก้อนนำ้ำลำย ตรัสว่ำ เรำจักบวช แล้วเสด็จออก
           ิ
ไป   ;      ส่วนเรำได้ฟังข่ำวพระรัตนตรัยแล้ว บูชำพระรัตนตรัยด้วย
ทัพย์ ๙ แสน     ;     ก็แล ชื่อว่ำสมบัตินี้ มิได้นำำทุกข์มำแด่พระรำชำ
เท่ำนั้น, ย่อมเป็นเหตุนำำทุกข์มำ แม้แก่เรำเหมือนกัน,          ใครจักคุกเข่ำ
รับเอำก้อนนำ้ำลำยที่พระรำชำทรงบ้วนทิ้งด้วยปำกเล่ำ         ?    เรำไม่
ต้องกำรด้วยสมบัติ,       แม้เรำก็จักไปบวชอุทิศพระศำสดำ.
          หญิง.       พระเข้ำข้ำ แม้พวกหม่อมฉันก็จักบวชกับพระองค์
เหมือนกัน.
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4
 -------------- --- 4

More Related Content

What's hot

บาลี 31 80
บาลี 31 80บาลี 31 80
บาลี 31 80Rose Banioki
 
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๒๕
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๒๕พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๒๕
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๒๕Rose Banioki
 
บาลี 53 80
บาลี 53 80บาลี 53 80
บาลี 53 80Rose Banioki
 
บาลี 42 80
บาลี 42 80บาลี 42 80
บาลี 42 80Rose Banioki
 
บาลี 60 80
บาลี 60 80บาลี 60 80
บาลี 60 80Rose Banioki
 
5 44++มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๓
5 44++มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๓5 44++มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๓
5 44++มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๓Tongsamut vorasan
 
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อนสมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
niralai
 
บาลี 61 80
บาลี 61 80บาลี 61 80
บาลี 61 80Rose Banioki
 
บาลี 41 80
บาลี 41 80บาลี 41 80
บาลี 41 80Rose Banioki
 
Tri91 21+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๒
Tri91 21+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๒Tri91 21+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๒
Tri91 21+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๒Tongsamut vorasan
 
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทรหยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทรPanda Jing
 

What's hot (12)

บาลี 31 80
บาลี 31 80บาลี 31 80
บาลี 31 80
 
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๒๕
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๒๕พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๒๕
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๒๕
 
บาลี 53 80
บาลี 53 80บาลี 53 80
บาลี 53 80
 
บาลี 42 80
บาลี 42 80บาลี 42 80
บาลี 42 80
 
บาลี 60 80
บาลี 60 80บาลี 60 80
บาลี 60 80
 
5 44++มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๓
5 44++มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๓5 44++มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๓
5 44++มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๓
 
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อนสมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
 
บาลี 61 80
บาลี 61 80บาลี 61 80
บาลี 61 80
 
บาลี 41 80
บาลี 41 80บาลี 41 80
บาลี 41 80
 
Tri91 21+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๒
Tri91 21+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๒Tri91 21+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๒
Tri91 21+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๒
 
บทสวดอาจารย์จรัล
บทสวดอาจารย์จรัลบทสวดอาจารย์จรัล
บทสวดอาจารย์จรัล
 
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทรหยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
 

Viewers also liked

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิตพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิตTongsamut vorasan
 
วิปัสสนานัย เล่ม2
วิปัสสนานัย เล่ม2วิปัสสนานัย เล่ม2
วิปัสสนานัย เล่ม2Tongsamut vorasan
 
ตัวอย่างแบบฟอร์ม หนังสือขอพระธรรมทูต
ตัวอย่างแบบฟอร์ม หนังสือขอพระธรรมทูตตัวอย่างแบบฟอร์ม หนังสือขอพระธรรมทูต
ตัวอย่างแบบฟอร์ม หนังสือขอพระธรรมทูตTongsamut vorasan
 
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) การศึกษาของคณะสงฆ์ ปัญหาที่รอทางออก
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   การศึกษาของคณะสงฆ์ ปัญหาที่รอทางออกพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   การศึกษาของคณะสงฆ์ ปัญหาที่รอทางออก
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) การศึกษาของคณะสงฆ์ ปัญหาที่รอทางออกTongsamut vorasan
 
1 07+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ
1 07+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ1 07+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ
1 07+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิTongsamut vorasan
 
สุภีร์ ทุมทอง อินทรีย์ ๕
สุภีร์ ทุมทอง   อินทรีย์ ๕สุภีร์ ทุมทอง   อินทรีย์ ๕
สุภีร์ ทุมทอง อินทรีย์ ๕Tongsamut vorasan
 
สุภีร์ ทุมทอง อริยสัจ
สุภีร์ ทุมทอง   อริยสัจสุภีร์ ทุมทอง   อริยสัจ
สุภีร์ ทุมทอง อริยสัจTongsamut vorasan
 
วิธีจองตั๋วเครื่องบิน โดยพระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร
วิธีจองตั๋วเครื่องบิน  โดยพระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโรวิธีจองตั๋วเครื่องบิน  โดยพระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร
วิธีจองตั๋วเครื่องบิน โดยพระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโรTongsamut vorasan
 
การใช้หลักพุทธธรรมในการทำธุรกิจ
การใช้หลักพุทธธรรมในการทำธุรกิจการใช้หลักพุทธธรรมในการทำธุรกิจ
การใช้หลักพุทธธรรมในการทำธุรกิจTongsamut vorasan
 
3 34+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๘
3 34+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๘3 34+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๘
3 34+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๘Tongsamut vorasan
 
อุบาสิกาแก้ว เสียงล้ำ อริยสาวิกา
อุบาสิกาแก้ว เสียงล้ำ   อริยสาวิกาอุบาสิกาแก้ว เสียงล้ำ   อริยสาวิกา
อุบาสิกาแก้ว เสียงล้ำ อริยสาวิกาTongsamut vorasan
 
สุภีร์ ทุมทอง มรรค
สุภีร์ ทุมทอง   มรรคสุภีร์ ทุมทอง   มรรค
สุภีร์ ทุมทอง มรรคTongsamut vorasan
 
สุชีพ ปุญญานุภาพ พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน ตอน ว่าด้วยพระสูตร
สุชีพ ปุญญานุภาพ   พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน ตอน ว่าด้วยพระสูตรสุชีพ ปุญญานุภาพ   พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน ตอน ว่าด้วยพระสูตร
สุชีพ ปุญญานุภาพ พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน ตอน ว่าด้วยพระสูตรTongsamut vorasan
 
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+21 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2Tongsamut vorasan
 
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์Tongsamut vorasan
 
สุภีร์ ทุมทอง สัลเลขธรรม
สุภีร์ ทุมทอง   สัลเลขธรรมสุภีร์ ทุมทอง   สัลเลขธรรม
สุภีร์ ทุมทอง สัลเลขธรรมTongsamut vorasan
 

Viewers also liked (20)

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิตพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
 
วิปัสสนานัย เล่ม2
วิปัสสนานัย เล่ม2วิปัสสนานัย เล่ม2
วิปัสสนานัย เล่ม2
 
ตัวอย่างแบบฟอร์ม หนังสือขอพระธรรมทูต
ตัวอย่างแบบฟอร์ม หนังสือขอพระธรรมทูตตัวอย่างแบบฟอร์ม หนังสือขอพระธรรมทูต
ตัวอย่างแบบฟอร์ม หนังสือขอพระธรรมทูต
 
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) การศึกษาของคณะสงฆ์ ปัญหาที่รอทางออก
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   การศึกษาของคณะสงฆ์ ปัญหาที่รอทางออกพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   การศึกษาของคณะสงฆ์ ปัญหาที่รอทางออก
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) การศึกษาของคณะสงฆ์ ปัญหาที่รอทางออก
 
1 07+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ
1 07+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ1 07+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ
1 07+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ
 
ภาค8
ภาค8ภาค8
ภาค8
 
สุภีร์ ทุมทอง อินทรีย์ ๕
สุภีร์ ทุมทอง   อินทรีย์ ๕สุภีร์ ทุมทอง   อินทรีย์ ๕
สุภีร์ ทุมทอง อินทรีย์ ๕
 
สุภีร์ ทุมทอง อริยสัจ
สุภีร์ ทุมทอง   อริยสัจสุภีร์ ทุมทอง   อริยสัจ
สุภีร์ ทุมทอง อริยสัจ
 
วิธีจองตั๋วเครื่องบิน โดยพระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร
วิธีจองตั๋วเครื่องบิน  โดยพระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโรวิธีจองตั๋วเครื่องบิน  โดยพระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร
วิธีจองตั๋วเครื่องบิน โดยพระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร
 
การใช้หลักพุทธธรรมในการทำธุรกิจ
การใช้หลักพุทธธรรมในการทำธุรกิจการใช้หลักพุทธธรรมในการทำธุรกิจ
การใช้หลักพุทธธรรมในการทำธุรกิจ
 
3 34+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๘
3 34+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๘3 34+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๘
3 34+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๘
 
เบญจศีล
เบญจศีลเบญจศีล
เบญจศีล
 
ภาค5
ภาค5ภาค5
ภาค5
 
อุบาสิกาแก้ว เสียงล้ำ อริยสาวิกา
อุบาสิกาแก้ว เสียงล้ำ   อริยสาวิกาอุบาสิกาแก้ว เสียงล้ำ   อริยสาวิกา
อุบาสิกาแก้ว เสียงล้ำ อริยสาวิกา
 
สุภีร์ ทุมทอง มรรค
สุภีร์ ทุมทอง   มรรคสุภีร์ ทุมทอง   มรรค
สุภีร์ ทุมทอง มรรค
 
สุชีพ ปุญญานุภาพ พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน ตอน ว่าด้วยพระสูตร
สุชีพ ปุญญานุภาพ   พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน ตอน ว่าด้วยพระสูตรสุชีพ ปุญญานุภาพ   พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน ตอน ว่าด้วยพระสูตร
สุชีพ ปุญญานุภาพ พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน ตอน ว่าด้วยพระสูตร
 
ปทวิจาร
ปทวิจารปทวิจาร
ปทวิจาร
 
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+21 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
 
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์
 
สุภีร์ ทุมทอง สัลเลขธรรม
สุภีร์ ทุมทอง   สัลเลขธรรมสุภีร์ ทุมทอง   สัลเลขธรรม
สุภีร์ ทุมทอง สัลเลขธรรม
 

Similar to -------------- --- 4

4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒Tongsamut vorasan
 
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒Wataustin Austin
 
บาลี 22 80
บาลี 22 80บาลี 22 80
บาลี 22 80Rose Banioki
 
6 53+จตุตถสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+จลุวรรค+วรรณา
6 53+จตุตถสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+จลุวรรค+วรรณา6 53+จตุตถสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+จลุวรรค+วรรณา
6 53+จตุตถสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+จลุวรรค+วรรณาTongsamut vorasan
 
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
maruay songtanin
 
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕Wataustin Austin
 
7 62+ทุติยสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๑
7 62+ทุติยสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๑7 62+ทุติยสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๑
7 62+ทุติยสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๑Tongsamut vorasan
 
Tri91 15+ทีฆนิกาย+ปาฏิกวรรค+เล่ม+๓+ภาค+๑ (1)
Tri91 15+ทีฆนิกาย+ปาฏิกวรรค+เล่ม+๓+ภาค+๑ (1)Tri91 15+ทีฆนิกาย+ปาฏิกวรรค+เล่ม+๓+ภาค+๑ (1)
Tri91 15+ทีฆนิกาย+ปาฏิกวรรค+เล่ม+๓+ภาค+๑ (1)Tongsamut vorasan
 
พุทธประวัติ
พุทธประวัติพุทธประวัติ
พุทธประวัติgueste13f2b
 
๒๒ สามัญญผลสูตร มจร.pdf
๒๒ สามัญญผลสูตร มจร.pdf๒๒ สามัญญผลสูตร มจร.pdf
๒๒ สามัญญผลสูตร มจร.pdf
maruay songtanin
 
7 61+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๓
7 61+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๓7 61+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๓
7 61+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๓Tongsamut vorasan
 
7 60+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๒
7 60+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๒7 60+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๒
7 60+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๒Tongsamut vorasan
 
(๕) มหากัสสปเถราปทาน มจร.pdf
(๕) มหากัสสปเถราปทาน มจร.pdf(๕) มหากัสสปเถราปทาน มจร.pdf
(๕) มหากัสสปเถราปทาน มจร.pdf
maruay songtanin
 
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญสวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญPhatphong Mahawattano
 

Similar to -------------- --- 4 (20)

6. ----------------- ---6
6. ----------------- ---66. ----------------- ---6
6. ----------------- ---6
 
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒
 
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒
4 42+มังคลัตถทีปนีแปล+เล่ม+๒
 
บาลี 22 80
บาลี 22 80บาลี 22 80
บาลี 22 80
 
มิลินทปัญหา
มิลินทปัญหามิลินทปัญหา
มิลินทปัญหา
 
6 53+จตุตถสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+จลุวรรค+วรรณา
6 53+จตุตถสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+จลุวรรค+วรรณา6 53+จตุตถสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+จลุวรรค+วรรณา
6 53+จตุตถสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+จลุวรรค+วรรณา
 
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
 
คู่มือพุทธบริษัท
คู่มือพุทธบริษัทคู่มือพุทธบริษัท
คู่มือพุทธบริษัท
 
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕
 
7 62+ทุติยสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๑
7 62+ทุติยสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๑7 62+ทุติยสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๑
7 62+ทุติยสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๑
 
Tri91 15+ทีฆนิกาย+ปาฏิกวรรค+เล่ม+๓+ภาค+๑ (1)
Tri91 15+ทีฆนิกาย+ปาฏิกวรรค+เล่ม+๓+ภาค+๑ (1)Tri91 15+ทีฆนิกาย+ปาฏิกวรรค+เล่ม+๓+ภาค+๑ (1)
Tri91 15+ทีฆนิกาย+ปาฏิกวรรค+เล่ม+๓+ภาค+๑ (1)
 
พุทธประวัติ
พุทธประวัติพุทธประวัติ
พุทธประวัติ
 
๒๒ สามัญญผลสูตร มจร.pdf
๒๒ สามัญญผลสูตร มจร.pdf๒๒ สามัญญผลสูตร มจร.pdf
๒๒ สามัญญผลสูตร มจร.pdf
 
7 61+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๓
7 61+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๓7 61+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๓
7 61+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๓
 
7 60+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๒
7 60+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๒7 60+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๒
7 60+ปฐมสมันตปาสาทิกาแปล+ภาค+๒
 
006
006006
006
 
006
006006
006
 
006
006006
006
 
(๕) มหากัสสปเถราปทาน มจร.pdf
(๕) มหากัสสปเถราปทาน มจร.pdf(๕) มหากัสสปเถราปทาน มจร.pdf
(๕) มหากัสสปเถราปทาน มจร.pdf
 
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญสวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
 

More from Tongsamut vorasan

หนังสืออนุสรณ์"งานพระราชทานเพลิงศพ" หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒
หนังสืออนุสรณ์"งานพระราชทานเพลิงศพ" หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒หนังสืออนุสรณ์"งานพระราชทานเพลิงศพ" หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒
หนังสืออนุสรณ์"งานพระราชทานเพลิงศพ" หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒
Tongsamut vorasan
 
Food reflectionบทพิจารณาอาหารภาษาอังกฤษ
Food reflectionบทพิจารณาอาหารภาษาอังกฤษFood reflectionบทพิจารณาอาหารภาษาอังกฤษ
Food reflectionบทพิจารณาอาหารภาษาอังกฤษ
Tongsamut vorasan
 
ระเบียบ รายนามวัด พระธรรมทูตจำพรรษาสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
ระเบียบ รายนามวัด พระธรรมทูตจำพรรษาสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริการะเบียบ รายนามวัด พระธรรมทูตจำพรรษาสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
ระเบียบ รายนามวัด พระธรรมทูตจำพรรษาสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
Tongsamut vorasan
 
คติธรรมแห่งชีวิต . โดย..พระพรหมคุณาภรณ์
คติธรรมแห่งชีวิต . โดย..พระพรหมคุณาภรณ์คติธรรมแห่งชีวิต . โดย..พระพรหมคุณาภรณ์
คติธรรมแห่งชีวิต . โดย..พระพรหมคุณาภรณ์
Tongsamut vorasan
 
เชื่อกรรม รู้กรรม แก้กรรม โดย.พระพรหมคุณาภรณ์
เชื่อกรรม รู้กรรม แก้กรรม โดย.พระพรหมคุณาภรณ์เชื่อกรรม รู้กรรม แก้กรรม โดย.พระพรหมคุณาภรณ์
เชื่อกรรม รู้กรรม แก้กรรม โดย.พระพรหมคุณาภรณ์
Tongsamut vorasan
 
เจอวิกฤตจะเลือกเอาวิวัฒน์ รหือจะเอาวิบัติ
เจอวิกฤตจะเลือกเอาวิวัฒน์ รหือจะเอาวิบัติเจอวิกฤตจะเลือกเอาวิวัฒน์ รหือจะเอาวิบัติ
เจอวิกฤตจะเลือกเอาวิวัฒน์ รหือจะเอาวิบัติ
Tongsamut vorasan
 
เจอวิกฤต จิตไม่วิบัติ โดย..พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตโต
เจอวิกฤต จิตไม่วิบัติ โดย..พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตโตเจอวิกฤต จิตไม่วิบัติ โดย..พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตโต
เจอวิกฤต จิตไม่วิบัติ โดย..พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตโต
Tongsamut vorasan
 
เพื่อความเจริญงอกงามแห่งธรรม
เพื่อความเจริญงอกงามแห่งธรรมเพื่อความเจริญงอกงามแห่งธรรม
เพื่อความเจริญงอกงามแห่งธรรม
Tongsamut vorasan
 
พุทธศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ ๔๔
พุทธศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ ๔๔พุทธศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ ๔๔
พุทธศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ ๔๔
Tongsamut vorasan
 
ทำเนียบวัดไทยในสังกัดสมัชชาสหรัฐอเมริกา 2018 2561 (4)
ทำเนียบวัดไทยในสังกัดสมัชชาสหรัฐอเมริกา 2018 2561 (4)ทำเนียบวัดไทยในสังกัดสมัชชาสหรัฐอเมริกา 2018 2561 (4)
ทำเนียบวัดไทยในสังกัดสมัชชาสหรัฐอเมริกา 2018 2561 (4)
Tongsamut vorasan
 
ระเบียบการขอพระไปปฏิบัติศาสนกิจชั่วคราวของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
ระเบียบการขอพระไปปฏิบัติศาสนกิจชั่วคราวของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริการะเบียบการขอพระไปปฏิบัติศาสนกิจชั่วคราวของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
ระเบียบการขอพระไปปฏิบัติศาสนกิจชั่วคราวของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
Tongsamut vorasan
 
ระเบียบวาระการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯ
ระเบียบวาระการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯระเบียบวาระการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯ
ระเบียบวาระการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯ
Tongsamut vorasan
 
ใบตอบรับเข้าร่วมประชุมครั้ง42 2018
ใบตอบรับเข้าร่วมประชุมครั้ง42 2018ใบตอบรับเข้าร่วมประชุมครั้ง42 2018
ใบตอบรับเข้าร่วมประชุมครั้ง42 2018
Tongsamut vorasan
 
ทะเบียนประวัติพระมาร่วมประชุมสมัชชาฯ๒๕๖
ทะเบียนประวัติพระมาร่วมประชุมสมัชชาฯ๒๕๖ทะเบียนประวัติพระมาร่วมประชุมสมัชชาฯ๒๕๖
ทะเบียนประวัติพระมาร่วมประชุมสมัชชาฯ๒๕๖
Tongsamut vorasan
 
กำหนดการการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในนสหรัฐอเมริกา
กำหนดการการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในนสหรัฐอเมริกากำหนดการการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในนสหรัฐอเมริกา
กำหนดการการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในนสหรัฐอเมริกา
Tongsamut vorasan
 
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
Tongsamut vorasan
 
หลักสูตรผู้บวชระยะสั้น
หลักสูตรผู้บวชระยะสั้นหลักสูตรผู้บวชระยะสั้น
หลักสูตรผู้บวชระยะสั้น
Tongsamut vorasan
 
หนังสือสอนพระบวชใหม่ นวโกวาท
หนังสือสอนพระบวชใหม่ นวโกวาทหนังสือสอนพระบวชใหม่ นวโกวาท
หนังสือสอนพระบวชใหม่ นวโกวาท
Tongsamut vorasan
 
เพลงชาติไทย แปลภาษาอังกฤษ2
เพลงชาติไทย แปลภาษาอังกฤษ2เพลงชาติไทย แปลภาษาอังกฤษ2
เพลงชาติไทย แปลภาษาอังกฤษ2
Tongsamut vorasan
 
ภพภูมิทั้ง 31ภูมิ ภาษาอังกฤษ
ภพภูมิทั้ง 31ภูมิ ภาษาอังกฤษภพภูมิทั้ง 31ภูมิ ภาษาอังกฤษ
ภพภูมิทั้ง 31ภูมิ ภาษาอังกฤษ
Tongsamut vorasan
 

More from Tongsamut vorasan (20)

หนังสืออนุสรณ์"งานพระราชทานเพลิงศพ" หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒
หนังสืออนุสรณ์"งานพระราชทานเพลิงศพ" หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒หนังสืออนุสรณ์"งานพระราชทานเพลิงศพ" หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒
หนังสืออนุสรณ์"งานพระราชทานเพลิงศพ" หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒
 
Food reflectionบทพิจารณาอาหารภาษาอังกฤษ
Food reflectionบทพิจารณาอาหารภาษาอังกฤษFood reflectionบทพิจารณาอาหารภาษาอังกฤษ
Food reflectionบทพิจารณาอาหารภาษาอังกฤษ
 
ระเบียบ รายนามวัด พระธรรมทูตจำพรรษาสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
ระเบียบ รายนามวัด พระธรรมทูตจำพรรษาสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริการะเบียบ รายนามวัด พระธรรมทูตจำพรรษาสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
ระเบียบ รายนามวัด พระธรรมทูตจำพรรษาสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
 
คติธรรมแห่งชีวิต . โดย..พระพรหมคุณาภรณ์
คติธรรมแห่งชีวิต . โดย..พระพรหมคุณาภรณ์คติธรรมแห่งชีวิต . โดย..พระพรหมคุณาภรณ์
คติธรรมแห่งชีวิต . โดย..พระพรหมคุณาภรณ์
 
เชื่อกรรม รู้กรรม แก้กรรม โดย.พระพรหมคุณาภรณ์
เชื่อกรรม รู้กรรม แก้กรรม โดย.พระพรหมคุณาภรณ์เชื่อกรรม รู้กรรม แก้กรรม โดย.พระพรหมคุณาภรณ์
เชื่อกรรม รู้กรรม แก้กรรม โดย.พระพรหมคุณาภรณ์
 
เจอวิกฤตจะเลือกเอาวิวัฒน์ รหือจะเอาวิบัติ
เจอวิกฤตจะเลือกเอาวิวัฒน์ รหือจะเอาวิบัติเจอวิกฤตจะเลือกเอาวิวัฒน์ รหือจะเอาวิบัติ
เจอวิกฤตจะเลือกเอาวิวัฒน์ รหือจะเอาวิบัติ
 
เจอวิกฤต จิตไม่วิบัติ โดย..พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตโต
เจอวิกฤต จิตไม่วิบัติ โดย..พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตโตเจอวิกฤต จิตไม่วิบัติ โดย..พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตโต
เจอวิกฤต จิตไม่วิบัติ โดย..พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตโต
 
เพื่อความเจริญงอกงามแห่งธรรม
เพื่อความเจริญงอกงามแห่งธรรมเพื่อความเจริญงอกงามแห่งธรรม
เพื่อความเจริญงอกงามแห่งธรรม
 
พุทธศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ ๔๔
พุทธศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ ๔๔พุทธศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ ๔๔
พุทธศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ ๔๔
 
ทำเนียบวัดไทยในสังกัดสมัชชาสหรัฐอเมริกา 2018 2561 (4)
ทำเนียบวัดไทยในสังกัดสมัชชาสหรัฐอเมริกา 2018 2561 (4)ทำเนียบวัดไทยในสังกัดสมัชชาสหรัฐอเมริกา 2018 2561 (4)
ทำเนียบวัดไทยในสังกัดสมัชชาสหรัฐอเมริกา 2018 2561 (4)
 
ระเบียบการขอพระไปปฏิบัติศาสนกิจชั่วคราวของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
ระเบียบการขอพระไปปฏิบัติศาสนกิจชั่วคราวของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริการะเบียบการขอพระไปปฏิบัติศาสนกิจชั่วคราวของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
ระเบียบการขอพระไปปฏิบัติศาสนกิจชั่วคราวของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
 
ระเบียบวาระการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯ
ระเบียบวาระการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯระเบียบวาระการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯ
ระเบียบวาระการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯ
 
ใบตอบรับเข้าร่วมประชุมครั้ง42 2018
ใบตอบรับเข้าร่วมประชุมครั้ง42 2018ใบตอบรับเข้าร่วมประชุมครั้ง42 2018
ใบตอบรับเข้าร่วมประชุมครั้ง42 2018
 
ทะเบียนประวัติพระมาร่วมประชุมสมัชชาฯ๒๕๖
ทะเบียนประวัติพระมาร่วมประชุมสมัชชาฯ๒๕๖ทะเบียนประวัติพระมาร่วมประชุมสมัชชาฯ๒๕๖
ทะเบียนประวัติพระมาร่วมประชุมสมัชชาฯ๒๕๖
 
กำหนดการการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในนสหรัฐอเมริกา
กำหนดการการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในนสหรัฐอเมริกากำหนดการการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในนสหรัฐอเมริกา
กำหนดการการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในนสหรัฐอเมริกา
 
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
 
หลักสูตรผู้บวชระยะสั้น
หลักสูตรผู้บวชระยะสั้นหลักสูตรผู้บวชระยะสั้น
หลักสูตรผู้บวชระยะสั้น
 
หนังสือสอนพระบวชใหม่ นวโกวาท
หนังสือสอนพระบวชใหม่ นวโกวาทหนังสือสอนพระบวชใหม่ นวโกวาท
หนังสือสอนพระบวชใหม่ นวโกวาท
 
เพลงชาติไทย แปลภาษาอังกฤษ2
เพลงชาติไทย แปลภาษาอังกฤษ2เพลงชาติไทย แปลภาษาอังกฤษ2
เพลงชาติไทย แปลภาษาอังกฤษ2
 
ภพภูมิทั้ง 31ภูมิ ภาษาอังกฤษ
ภพภูมิทั้ง 31ภูมิ ภาษาอังกฤษภพภูมิทั้ง 31ภูมิ ภาษาอังกฤษ
ภพภูมิทั้ง 31ภูมิ ภาษาอังกฤษ
 

-------------- --- 4

  • 1. คำำนำำ กำรศึกษำพระปริยัติธรรม ทีจะอำำนวยประโยชน์แก่ผู้ศึกษำ ่ เต็มที่ จำำต้องมีหนังสือเครื่องประกอบหลักสูตรครบบริบูรณ์ เพรำะ หนังสือเครื่องประกอบเท่ำกับดวงประทีปสำำหรับส่องมรรคำ ให้ผู้ศึกษำ มองเห็นแนวทำงได้สะดวกชัดเจน เพรำะฉะนั้น กองตำำรำแห่งมหำ- มกุฏรำชวิทยำลัย ในพระบรมรำชูปถัมภ์ ซึงมีหน้ำที่จดพิมพ์หนังสือ ่ ั ที่เกี่ยวแก่กำรศึกษำพระปริยัติธรรมทุกประเภท จึงได้คดจัดพิมพ์ ิ หนังสือเครื่องอุปกรณ์ทั้งฝ่ำยนักธรรมทั้งฝ่ำยบำลีขึ้น เพื่อให้ผู้ศึกษำ ได้รับควำมสะดวกในกำรศึกษำ และได้จัดพิมพ์เสร็จไปแล้วหลำย เรื่อง เฉพำะหนังสือธัมมปทัฏฐกถำ ก็นับว่ำเป็นหนังสือสำำคัญเรื่อง หนึ่ง เพรำะใช้เป็นหลักสูตรเปรียญธรรมประโยค ๓ ผู้ศึกษำบำล ีีเมื่อเรียนบำลีไวยำกรณ์จบแล้ว ก็เริ่มเรียนธัมมปทัฏฐกถำเป็นลำำดับ ไป เห็นควรแปลเป็นภำษำไทยให้ตลอดเรื่อง จึงได้มอบให้ พระมหำอู นิสฺสโภ ป.ธ. ๗ วัดบวรนิเวศวิหำร เป็นผู้รับไปดำำเนินกำร. ท่ำนได้ค้นคว้ำรวบรวมจำกหนังสือต่ำง ๆ ซึงพระเถรำนุเถระได้แปล ่ ไว้บ้ำง ขอให้ท่ำนที่เป็นกรรมกำรกองตำำรำช่วยแปลบ้ำง ขอให้ ท่ำนที่เป็นเปรียญในสำำนักเดียวและต่ำงสำำนักช่วยแปลบ้ำง. แต่กำรแปลนั้น ได้ขอให้แปลตำมวิธีกำรที่กองตำำรำได้วำงไว้ เพื่อให้หนังสือเป็นระเบียบเดียวกัน ไม่ลักลั่น โดยถือหลักว่ำ แปลให้ได้ ควำมชัด สำำนวนเรียบร้อย ไม่โลดโผนจนเสียหลักของภำษำ และแปล เท่ำศัพท์อย่ำงพระกรรมกำรแปลเป็นตัวอย่ำงในสนำมหลวง ถ้ำทีไหน ่ ถ้ำที่ไหนไม่มีศัพท์ เพิ่มเข้ำใหม่ ก็ทำำเครื่องหมำยวงเล็บ [] ไว้ ถ้ำที่ไหน บ่งถึงข้อธรรมก็ดี เกี่ยวกับลัทธิธรรมเนียมก็ดี ท่ำนชักควำมมำ จำกบำลีหรือคัมภีร์อื่น ๆ ก็ดี ก็ได้ทำำเชิงอรรถบอกไว้ให้ทรำบ เพื่อ สะดวกแก่ผู้ศึกษำซึ่งสนใจในกำรค้นคว้ำ. กองตำำรำ ฯ ขอแสดงควำมขอบใจท่ำนผูช่วยแปลและผู้มีส่วน ้ ช่วยให้หนังสือนี้สำำเร็จทุก ๆ ท่ำน และขออุทิศส่วนกุศลซึ่งเกิดจำก หนังสือนี้ แต่ทำนบุรพูปัธยำจำรย์ผู้บริหำรพระศำสนำสืบ ๆ กันมำ. ่
  • 3. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 1 ๖. บัณฑิตวรรค วรรณนำ ๑. เรื่องพระรำธเถระ [ ข้อควำมเบื้องต้น] พระศำสดำเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรำรภท่ำนพระ รำธะ ตรัสพระธรรมเทศนำนี้ว่ำ " นิธีนว ปวตฺตำร " เป็นต้น. [ รำธพรำหมณ์ซูบผอมเพรำะไม่ได้บวช ] ได้ยินว่ำ พระรำธะนั้น ในเวลำเป็นคฤหัสถ์ ได้เป็นพรำหมณ์ ตกยำกอยู่ในกรุงสำวัตถี. เขำคิดว่ำ " เรำจักเลี้ยงชีพอยูในสำำนักของ ่ ภิกษุทั้งหลำย " ดังนี้แล้ว ไปสู่วิหำร ดำยหญ้ำ กวำดบริเวณ ถวำย วัตถุมีนำ้ำล้ำงหน้ำเป็นต้น อยู่ในวิหำรแล้ว. ภิกษุทั้งหลำยได้สงเครำะห์ เธอแล้วก็ตำม, แต่ก็ไม่ปรำรถนำจะให้บวช. เขำเมื่อไม่ได้บวช จึง ซูบผอมแล้ว. [ รำธพรำหมณ์มีอุปนิสัยพระอรหัต ] ภำยหลังวันหนึ่ง พระศำสดำทรงตรวจดูสัตว์โลกในเวลำใกล้รุ่ง ทอดพระเนตรเห็นพรำหมณ์นั้นแล้ว ทรงใคร่ครวญอยู่ว่ำ " เหตุอะไร หนอ ?" ดังนีแล้ว ทรงทรำบว่ำ ้ " รำธพรำหมณ์จักเป็นพระอรหันต์ " ในเวลำเย็น เป็นเหมือนเสด็จเที่ยวจำริกไปในวิหำร เสด็จไปสู่ * พระมหำเปลี่ยน ป. ธ. ๗ วัดสัมพันธวงศ์ แปล. ปัจจุบันเป็นพระรำชวรญำณมุนี ป. ธ. ๙ วัดบูรณศิริมำตยำรำม.
  • 4. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 2 สำำนักของพรำหมณ์แล้วตรัสถำมว่ำ " พรำหมณ์ เธอเที่ยวทำำอะไร อยู่ ?" เขำกรำบทูลว่ำ " ข้ำพระองค์ทำำวัตตปฏิวัตรแก่ภิกษุทั้งหลำยอยู่ พระเจ้ำข้ำ. " พระศำสดำ. เธอได้กำรสงเครำะห์จำกสำำนักของภิกษุเหล่ำนั้น หรือ ? พรำหมณ์. ได้พระเจ้ำข้ำ, ข้ำพระองค์ได้แต่เพียงอำหำร, แต่ ท่ำนไม่ให้ข้ำพระองค์บวช. [ พระสำรีบุตรเป็นผู้กตัญญูกตเวที ] พระศำสดำรับสังให้ประชุมภิกษุสงฆ์ในเพรำะเรื่องนั้นแล้ว ตรัส ่ ถำมควำมนั้นแล้ว ตรัสถำมว่ำ " ภิกษุทั้งหลำย ใคร ๆ ระลึกถึง คุณของพรำหมณ์นี้ได้ มีอยู่บำงหรือ ้ ?" พระสำรีบุตรเถระกรำบทูลว่ำ " พระเจ้ำข้ำ ข้ำพระองค์ระลึกได้, เมื่อข้ำพระองค์เที่ยวบิณฑบำต อยู่ในกรุงรำชคฤห์ พรำหมณ์นี้ให้คนถวำยภิกษำทัพพีหนึ่ง ที่เขำ นำำมำเพื่อตน, ข้ำพระองค์ระลึกถึงคุณของพรำหมณ์นี้ได้. " เมื่อพระ ศำสดำตรัสว่ำ " สำรีบตร ก็กำรที่เธอเปลื้องพรำหมณ์ผู้มีอุปกำระ ุ ? " ท่ำนกรำบทูลว่ำ อันกระทำำแล้วอย่ำงนี้ จำกทุกข์ ไม่ควรหรือ " ดีละ พระเข้ำข้ำ, ข้ำพระองค์จักให้เขำบวช " จึงให้พรำหมณ์นั้น บวชแล้ว. [ พรำหมณ์บวชแล้วเป็นคนว่ำง่ำย ] อำสนะที่สุดแห่งอำสนะในโรงฉันย่อมถึงแก่ท่ำน, ท่ำนลำำบำก
  • 5. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 3 อยู่ ด้วยอำหำรวัตถุมีขำวยำคูและภัตรเป็นต้น. ้ พระเถระพำท่ำนหลีก ไปสู่ที่จำริกแล้ว. กล่ำวสอน พรำ่ำสอนท่ำนเนือง ๆ ว่ำ " สิ่งนี้ คุณ ควรทำำ, สิ่งนี้ คุณไม่ควรทำำ " เป็นต้น. ท่ำนได้เป็นผู้วำง่ำย มี ่ ปกติรับเอำโอวำทโดยเบื้องขวำแล้ว, เพรำะฉะนั้น เมื่อท่ำนปฏิบัตตำม ิ คำำที่พระเถระพรำ่ำสอนอยู่ โดย ๒-๓ วันเท่ำนั้น ก็ได้บรรลุพระอรหัต แล้ว. พระเถระพำท่ำนไปสู่สำำนักพระศำสดำ ถวำยบังคมนั่งแล้ว. ลำำดับนั้น พระศำสดำทรงทำำปฏิสันถำรกะท่ำนแล้ว ตรัสว่ำ " สำรีบตร อันเตวำสิกของเธอเป็นผู้ว่ำง่ำยแลหรือ ุ ?" พระเถระ. อย่ำงนั้น พระเจ้ำข้ำ, เธอเป็นผู้ว่ำง่ำยเหลือเกิน, เมื่อโทษไร ๆ ที่ขำพระองค์แม้กล่ำวสอนอยู่, ไม่เคยโกรธเลย. ้ พระศำสดำ. สำรีบุตร เธอเมื่อได้สัทธิวิหำริกเห็นปำนนี้ จะพึง รับได้ประมำณเท่ำไร ? พระเถระ. ข้ำพระองค์พึงได้รับแม้มำกทีเดียว พระเจ้ำข้ำ. [ พวกภิกษุสรรเสริญพระสำรีบตรและพระรำธะ ] ุ ภำยหลังวันหนึ่ง พวกภิกษุสนทนำกันในโรงธรรมว่ำ " ได้ยิน ว่ำ พระสำรีบุตรเถระเป็นผู้กตัญญูกตเวที ระลึกถึงอุปกำระสักว่ำภิกษำ ทัพพีหนึ่ง ให้พรำหมณ์ตกยำกบวชแล้ว; แม้พระรำธเถระก็เป็นผู้อดทน ต่อโอวำท ได้ท่ำนผู้ควรแก่กำรสังสอนเหมือนกันแล้ว. ่ " [ พระศำสดำทรงแสดงอลีนจิตตชำดก ] พระศำสดำทรงสดับกถำของภิกษุเหล่ำนั้นแล้ว ตรัสว่ำ " ภิกษุ
  • 6. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 4 ทั้งหลำย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่ำนั้น, ถึงในกำลก่อน สำรีบตรเป็นผู้ ุ กตัญญูกตเวทีเหมือนกัน " ดังนี้แล้ว เพื่อจะประกำศควำมนั้น จึงตรัส อลีนจิตตชำดก " เสนำหมู่ใหญ่อำศัยเจ้ำอลีนจิตตกุมำร ร่ำเริง ทั่วกันแล้ว ได้ให้ชำงจับพระเจ้ำโกศลทั้งเป็น ้ ผู้ไม่พอพระทัยด้วยรำชสมบัติ, ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วย นิสัยอย่ำงนี้ เป็นผู้มีควำมเพียรอันปรำรภแล้ว เจริญกุศลธรรมอยู่, เพื่อบรรลุธรรมเป็นแดนเกษม จำกโยคะ พึงบรรลุธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งสังโยชน์ ทั้งปวงโดยลำำดับ. " ได้ยินว่ำ ช้ำงตัวหนึ่งเที่ยวไปตัวเดียว รู้อุปกำระที่พวกช่ำงไม้ ทำำแล้วแก่ตน โดยภำวะคือทำำเท้ำให้หำยโรค แล้วให้ลูกช้ำงตัวขำว ปลอด ในครั้งนั้น ได้เป็นพระสำรีบุตรเถระแล้ว. [ ภิกษุควรเป็นผู้ว่ำง่ำยอย่ำงพระรำธเถระ ] พระศำสดำครั้นตรัสชำดกปรำรภพระเถระอย่ำงนั้นแล้ว ทรง ปรำรภพระรำธเถระ ตรัสว่ำ " ภิกษุทั้งหลำย ธรรมดำภิกษุควรเป็น ผู้ว่ำง่ำยเหมือนรำธะ, แม้อำจำรย์ชี้โทษกล่ำวสอนอยู่ ก็ไม่ควรโกรธ, อนึ่ง ควรเห็นบุคคลผู้ให้โอวำท เหมือนบุคคลผู้บอกขุมทรัพย์ให้ฉะนั้น " ดังนีแล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม ได้ตรัสพระคำถำนี้ว่ำ ้ :- ๑. ขุ. ชำ. ๒๗/๕๒. ตทฏฺกถำ. ๓/๒๓.
  • 7. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 5 " บุคคล นิคคหะ ชี้โทษ ว่ำเป็นเหมือนผู้บอกขุมทรัพย์ให้ , พึงคบผูมีปัญญำเช่นนั้น ซึ่งเป็นบัณฑิต, ้ (เพรำะว่ำ) เมื่อคบท่ำนผู้เช่นนั้น มีแต่คุณอย่ำงประเสริฐ ไม่มีโทษที่ลำมก. " [ แก้อรรถ ] บรรดำบทเหล่ำนั้น บทว่ำ นิธีน ได้แก่ หม้อแห่งขุมทรัพย์อัน เต็มด้วยเงินทองเป็นต้น ซึ่งเขำฝังเก็บไว้ในที่นั้น ๆ. บทว่ำ ปวตฺตำร คือ เหมือนอย่ำงผู้ทำำควำมอนุเครำะห์คน เข็ญใจ ซึงเป็นอยู่โดยฝืดเคือง แล้วชักชวนว่ำ ่ " ท่ำนจงมำ, เรำจักชี้ อุบำยเลี้ยงชีพโดยสะดวกแก่ท่ำน " ดังนี้แล้ว นำำไปยังที่ขุมทรัพย์แล้ว เหยียดออกบอกว่ำ " ท่ำนจงถือเอำทรัพย์นี้เลี้ยงชีพตำมสบำยเถิด." วินิจฉัยในบทว่ำ วชฺชทสฺสิน : ภิกษุผู้ชี้โทษมี ๒ จำำพวก คือ ภิกษุคอยแส่หำโทษ ด้วยคิดว่ำ " เรำจักข่มภิกษุนั้นด้วยมำรยำทอัน ไม่สมควร หรือด้วยควำมพลั้งพลำดอันนี้ในท่ำมกลำงสงฆ์ " ดังนี้ จำำพวก ๑. ภิกษุผดำำรงอยู่แล้วตำมสภำพ ด้วยสำมำรถแห่งกำร ู้ อุ้มชูด้วยกำรแลดูโทษนั้น ๆ เพื่อประโยชน์จะให้รู้สิ่งทียังไม่รู้ เพื่อ ่ ต้องกำรจะได้ถือตำมเอำสิงที่รู้แล้ว เพรำะควำมเป็นผู้ปรำรถนำควำม ่ เจริญแห่งคุณมีศีลเป็นต้นแก่ผู้นั้น จำำพวก ๑; ภิกษุจำำพวกหลังนี้ ๑. พระรำชกวี (อำบ) วัดบวรนิเวศวิหำร แปลออกสอบเปรียญ ๖ ประโยค ใน สนำมหลวง พ. ศ. ๒๔๖๔.
  • 8. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 6 พระผูมีพระภำคทรงประสงค์ ในบทว่ำ วชฺชทสฺสน นี้. ้ คนเข็ญใจถูก ผู้อื่นคุกคำมก็ดี ตีก็ดี ชี้ขุมทรัพย์ให้ว่ำ " แกจงถือเอำทรัพย์นี้ " ย่อม ไม่ทำำควำมโกรธ, มีแต่ปรำโมทย์อย่ำงเดียว ฉันใด; เมื่อบุคคลเห็น ปำนดังนั้น เห็นมำรยำทมิบงควรก็ดี ควำมพลำดพลั้งก็ดี แล้วบอก ั อยู่, ผูรบบอกไม่ควรทำำควำมโกรธ ควรเป็นผู้ยินดีอย่ำงเดียว ฉันนั้น. ้ ควรปรำรถนำทีเดียวว่ำ " ท่ำนเจ้ำข้ำ กรรมอันใหญ่ อันใต้เท้ำผูตั้ง ้ อยู่ในฐำนเป็นอำจำรย์ เป็นอุปัชฌำย์ ของกระผมแล้ว สังสอนอยู่ ่ กระทำำแล้ว, แม้ต่อไป ใต้เท้ำพึงโอวำทกระผม " ดังนี้. บทว่ำ นิคฺคยฺหวำทึ ควำมว่ำ ก็อำจำรย์บำงท่ำนเห็นมำรยำท อันมิบังควรก็ดี ควำมพลั้งพลำดก็ดี ของพวกศิษย์มีสัทธิวิหำริกเป็น อำทิแล้ว ไม่อำจเพื่อจะพูด ด้วยเกรงว่ำ " ศิษย์ผู้นี้อุปัฏฐำกเรำอยู่ ด้วยกิจวัตรมีให้นำ้ำบ้วนปำกเป็นต้น แก่เรำ โดยเคำรพ; ถ้ำเรำจักว่ำ เธอไซร้, เธอจักไม่อุปัฏฐำกเรำ, ควำมเสื่อมจักมีแก่เรำ ด้วยอำกำร อย่ำงนี้ " ดังนี้ ย่อมหำชื่อว่ำเป็นผู้กล่ำวนิคคหะไม่, เธอผู้นั้น ชื่อว่ำ เรี่ยรำยหยำกเยื่อลงในศำสนำนี้. ส่วนอำจำรย์ใด เมื่อเห็นโทษปำนนั้น แล้ว คุกคำม ประณำม ลงทัณฑกรรม ไล่ออกจำกวิหำร ตำม สมควรแก่โทษ ให้ศึกษำอยู่. อำจำรย์นี้ ชื่อว่ำผู้กล่ำวนิคคหะ; แม้เหมือนอย่ำงพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำ. สมจริงอย่ำงนั้น พระผู้มีพระ- ภำคตรัสคำำนี้ไว้ว่ำ " ดูก่อนอำนนท์ เรำจักกล่ำวข่ม ๆ, ดูก่อน อำนนท์ เรำจักกล่ำวยกย่อง ๆ, ผู้ใดเป็นสำระ, ผูนั้นจักดำำรงอยู่ได้. ้ " บทว่ำ เมธำวึ คือ ผู้ประกอบด้วยปัญญำมีโอชะเกิดแต่ธรรม.
  • 9. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 7 บทว่ำ ตำทิส เป็นต้น ควำมว่ำ บุคคลพึงคบ คือพึงเข้ำไป นั่งใกล้ บัณฑิตเห็นปำนนั้น, เพรำะเมื่ออันเตวำสิกคบอำจำรย์เช่นนั้น อยู่, คุณอย่ำงประเสริฐย่อมมี โทษที่ลำมกย่อมไม่มี คือมีแต่ควำม เจริญอย่ำงเดียว ไม่มีควำมเสื่อมเสีย. ในที่สุดเทศนำ ชนเป็นอันมำก บรรลุอริยผลทั้งหลำยมีโสดำ- ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล. เรื่องพระรำธเถระ จบ.
  • 10. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 8 ๒. เรื่องภิกษุอัสสชิและปุนัพพสุกะ [ ข้อควำมเบื้องต้น ] พระศำสดำเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรำรภภิกษุอัสสชิ และปุนัพพสุกะ ตรัสพระธรรมเทศนำนี้ว่ำ " โอวเทยฺยำนุสำเสยฺย " เป็นต้น. ก็เทศนำตังขึ้นแล้วที่กิฏำคีรี. ้ [ ภิกษุลำมกต้องถูกปัพพำชนียกรรม ] ดังได้สดับมำ ภิกษุ ๒ รูปนั้น แม้เป็นสัทธิวิหำริกของพระ อัครสำวกก็จริง, ถึงอย่ำงนั้น เธอก็กลำยเป็นอลัชชี เป็นภิกษุชั่ว. ภิกษุ ๒ รูปนั้น เมื่ออยู่ที่กิฏำคีรี กับภิกษุ ๕๐๐ รูป ซึงเป็นบริวำร- ่ ของตน (ล้วน) เป็นผู้ชั่วช้ำ ทำำอนำจำรหลำยอย่ำงหลำยประกำร เป็นต้นว่ำ ปลูกต้นไม้กระถำงเองบ้ำง ใช้ให้เขำปลูกบ้ำง ทำำกรรมแห่ง ภิกษุผู้ประทุษร้ำยตระกูล เลี้ยงชีพด้วยปัจจัยอันเกิดแต่กรรมนั้น ได้ ทำำอำวำสนั้นมิให้เป็นที่อยู่แห่งพวกภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก. พระศำสดำ ทรงสดับข่ำวนั้นแล้ว ตรัสเรียกพระอัครสำวกทั้ง ๒ พร้อมด้วยบริวำร มำ เพื่อทรงประสงค์ทำำปัพพำชนียกรรมแก่พวกภิกษุพวกนั้นแล้ว ตรัสว่ำ " สำรีบตรและโมคคัลลำนะ ุ เธอพำกันไปเถิด, ในภิกษุเหล่ำนั้น เหล่ำใดไม่เชื่อฟังคำำของเธอ, จงทำำปัพพำชนียกรรมแก่ภิกษุเหล่ำนั้น; ส่วนเหล่ำใดเชื่อฟังคำำ, จงว่ำกล่ำวพรำ่ำสอนเหล่ำนั้น, ธรรมดำผู้ว่ำ กล่ำวสั่งสอน ย่อมไม่เป็นที่รักของผู้ที่มใช่บัณฑิตเท่ำนั้น , ิ แต่เป็นที่ *แปลออกสอบเปรียญ ๖ ประโยค ในสนำมหลวง พ.ศ. ๒๔๖๙.
  • 11. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 9 รักที่ชอบใจของบัณฑิตทั้งหลำย " ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิ แสดงธรรม จึงได้ตรัสพระคำถำนี้ว่ำ :- " ผู้ใดพึงว่ำกล่ำว พึงสอน และพึงห้ำมจำก ธรรมของอสัตบุรุษ, ผูนั้นแล ย่อมเป็นที่รักของ ้ สัตบุรุษทังหลำย, ไม่เป็นที่รักของพวกอสัตบุรุษ. ้ " [ แก้อรรถ ] บรรดำบทเหล่ำนั้น บทว่ำ โอวเทยฺย ควำมว่ำ เมื่อเกิดเรื่อง ขึ้นแล้ว จึงกล่ำว ชื่อว่ำย่อมโอวำท, เมื่อยังไม่เกิดเรื่อง ชีโทษอัน ้ ยังไม่มำถึง ด้วยสำมำรถเป็นต้นว่ำ " แม้โทษจะพึงมีแก่ท่ำน " ดังนี้ ชื่อว่ำย่อมอนุศำสน์; กล่ำวต่อหน้ำ ชื่อว่ำย่อมโอวำท, ส่งฑูตหรือ ศำสน์ไปในที่ลับหลัง ชื่อว่ำย่อมอนุศำสน์. แม้กล่ำวครำวเดียว ชือ ่ ว่ำย่อมโอวำท, กล่ำวบ่อย ๆ ชื่อว่ำย่อมอนุศำสน์. อีกอย่ำงหนึ่ง กำำลังโอวำทนั่นแล ชื่อว่ำอนุศำสน์ พึงกล่ำวสังสอนอย่ำงนี้ ด้วย ่ ประกำรฉะนี้. บทว่ำ อสฺพภำ ควำมว่ำ พึงห้ำมจำกอกุศลธรรม พึงให้ตั้ง อยู่ในกุศลธรรม. บทว่ำ สต ควำมว่ำ บุคคลเห็นปำนนี้นั้น ย่อม เป็นที่รักแห่งสัตบุรุษทั้งหลำย มีพระพุทธเจ้ำเป็นต้น; แต่ผู้ว่ำกล่ำว ผู้สงสอนนั้น ย่อมไม่เป็นที่รักแห่งพวกที่ไม่เห็นธรรม มีปรโลกอัน ั่ ข้ำมล่วงแล้ว ผู้เห็นแก่อำมิส บวชเพื่อประโยชน์แก่กำรเลี้ยงชีพ เหล่ำนั้น ชื่อว่ำอสัตบุรุษ ผู้ทมแทงด้วยหอกคือปำกอย่ำงนี้ว่ำ ิ่ " ท่ำน
  • 12. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 10 ไม่ใช่พวกอุปัชฌำย์อำจำรย์ของพวกเรำ, ว่ำกล่ำวพวกเรำทำำไม ?" ในเวลำจบเทศนำ ชนเป็นอันมำก บรรลุอริยผลทั้งหลำย มี โสดำปัตติผลเป็นต้นแล้ว. ฝ่ำยพระสำรีบุตรและพระโมคคัลลำนะ ไปที่กิฏำคีรีนั้น ว่ำกล่ำว สั่งสอนภิกษุเหล่ำนั้นแล้ว. ในภิกษุเหล่ำนั้น บำงพวกก็รับโอวำท ตังใจประพฤติปฏิบัติ, ้ บำงพวกก็สึกไป, บำงพวกต้องปัพพำชนียกรรม ดังนีแล. ้ เรื่องภิกษุอัสสชิและปุนัพพสุกะ จบ.
  • 13. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 11 ๓. เรื่องพระฉันนเถระ [ ข้อควำมเบื้องต้น ] พระศำสดำเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรำรภพระฉันน- เถระ ตรัสพระธรรมเทศนำนี้ว่ำ " น ภเช ปำปเก มิตฺเต " เป็นต้น. [ พระฉันนเถระด่ำพระอัครสำวก ] ดังได้สดับมำ ท่ำนพระฉันนะนั้นด่ำพระอัครสำวกทั้ง ว่ำ " เรำเมื่อตำมเสด็จออกมหำภิเนษกรมน์ กับพระลูกเจ้ำของเรำทั้งหลำย ในเวลำนั้น มิได้เห็นผู้อื่นแม้สักคนเดียว, แต่บัดนี้ ท่ำนพวกนี้เที่ยว กล่ำวว่ำ ' เรำชื่อสำรีบุตร, เรำชื่อโมคคัลลำนะ, พวกเรำเป็นอัคร- สำวก. " พระศำสดำทรงสดับข่ำวนั้นแต่สำำนักภิกษุทั้งหลำยแล้ว รับสั่ง ให้หำพระฉันนเถระมำ ตรัสสอนแล้ว. ท่ำนนิ่งในชั่วขณะนั้นเท่ำนั้น ยังกลับไปด่ำพระเถระทั้งหลำยเหมือนอย่ำงนั้นอีก. พระศำสดำรับสั่ง ให้หำท่ำนซึ่งกำำลังด่ำมำแล้ว ตรัสสอนอย่ำงนั้นถึง ๓ ครั้งแล้ว ตรัส เตือนว่ำ " ฉันนะ ชื่อว่ำอัครสำวกทั้ง ๒ เป็นกัลยำณมิตร เป็นบุรุษ ชั้นสูง ของเธอ, เธอจงเสพ จงคบกัลยำณมิตรเห็นปำนนี้ " ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคำถำนี้ว่ำ :- " บุคคลไม่ควรคบปำปมิตร, ไม่ควรคบบุรุษตำ่ำช้ำ, ควรคบกัลยำณมิตร, ควรคบบุรุษสูงสุด. " *แปลออกสอบเปรียญ ๖ ประโยค ในสนำมหลวง พ.ศ. ๒๔๖๙.
  • 14. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 12 [ แก้อรรถ ] เนื้อควำมแห่งพระคำถำนั้นว่ำ " คนผูยินดีในอกุศลกรรม มี ้ กำยทุจริตเป็นต้น ชื่อว่ำปำปมิตร, คนผูชักนำำในเหตุอันไม่สมควร มี ้ กำรตัดช่องเป็นต้นก็ดี อันต่ำงโดยกำรแสวงหำไม่ควร ๒๑ อย่ำงชื่อว่ำบุรุษตำ่ำช้ำ . อนึ่ง ชน ๒ จำำพวกนั้น ชือว่ำเป็นทั้งปำปมิตร ่ ทั้งบุรุษตำ่ำช้ำ; บุคคลไม่ควรคบ คือไม่ควรนั่งใกล้เขำเหล่ำนั้น; ฝ่ำย ชนผูผิดตรงกันข้ำม ชื่อว่ำเป็นกัลยำณมิตร ทั้งสัตบุรุษ , ้ บุคคลควร คบ คือควรนั่งใกล้ท่ำนเหล่ำนั้น. ในเวลำจบเทศนำ ชนเป็นอันมำก บรรลุอริยผลทั้งหลำย มี โสดำปัตติผลเป็นต้นแล้ว. [ พระศำสดำตรัสสั่งให้ลงพรหมทัณฑ์พระฉันนะ ] ฝ่ำยพระฉันนเถระ แม้ได้ฟังพระโอวำทแล้ว ก็ยังด่ำขู่พวกภิกษุ อยู่อีกเหมือนนัยก่อนนั่นเอง. แม้พวกภิกษุก็กรำบทูลแด่พระศำสดำ อีก. พระศำสดำตรัสว่ำ " ภิกษุทั้งหลำย เมื่อเรำยังมีชีวิตอยู่ พวก เธอจักไม่อำจ เพื่อให้ฉันนะสำำเหนียกได้. แต่เมื่อเรำปรินิพพำนแล้ว จึงจักอำจ " ดังนี้แล้ว, เมื่อพระอำนนท์ทูลถำม ในเวลำจวนจะ เสด็จปรินิพพำนว่ำ " พระเจ้ำข้ำ อันพวกข้ำพระองค์จะพึงปฏิบัติใน พระฉันนเถระอย่ำงไร ? จึงตรัสบังคับว่ำ " อำนนท์ พวกเธอพึงลง พรหมทัณฑ์แก่ฉันนภิกษุเถิด. " ๑. ปรมัตถโชติก หน้ำ ๒๖๕.
  • 15. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 13 พระฉันนะนั้น เมือพระศำสดำเสด็จปรินิพพำนแล้ว ได้ฟัง ่ พรหมทัณฑ์ ที่พระอำนนทเถระยกขึ้นแล้ว มีทุกข์ เสียใจ ล้มสลบ ถึง ๓ ครั้ง แล้ววิงวอนว่ำ " ข้ำแต่ท่ำนผู้เจริญ ขอท่ำนอย่ำให้กระผม ฉิบหำยเลย " ดังนีแล้ว บำำเพ็ญวัตรอยู่โดยชอบ ้ ต่อกำลไม่นำนนัก ก็บรรลุพระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทำทั้งหลำยแล้ว ดังนี้แล. เรื่องพระฉันนเถระ จบ.
  • 16. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 14 ๔. เรื่องพระมหำกัปปินเถระ [ ข้อควำมเบื้องต้น ] พระศำสดำเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรำรภพระมหำ กัปปินเถระ ตรัสพระธรรมเทศนำนี้ว่ำ " ธมฺมปีติ สุข เสติ " เป็นต้น. ในเรื่องนั้น มีอนุบุพพีกถำ ดังต่อไปนี้ :- [ พระปัจเจกพุทธะทูลขอหัตถกรรมทำำเสนำสนะ ] ได้ยินว่ำ ในอดีตกำล ท่ำนพระมหำกัปปินะ มีอภินิหำรได้ทำำไว้ แทบบำทมูลของพระพุทธเจ้ำทรงพระนำมว่ำปทุมุตตระ ท่องเที่ยว อยู่ในสงสำร เกิดเป็นนำยช่ำงหูกผู้เป็นหัวหน้ำ ในบ้ำนช่ำงหูกแห่งหนึ่ง ในที่ไม่ไกลแต่กรุงพำรำณสี. ครังนั้น ้ พระปัจเจกพุทธะประมำณพัน องค์ อยู่ในหิมวันตประเทศ ๘ เดือน อยู่ในชนบท ๔ เดือนอันเป็น ฤดูฝน. ครำวหนึ่ง พระปัจเจกพุทธะเหล่ำนั้น พักอยู่ในที่ไม่ไกลแต่ กรุงพำรำณสี แล้วส่งพระปัจเจกพุทธะ ๒ รูปไปยังสำำนักพระรำชำด้วย " คำำว่ำ ท่ำนทั้งหลำยจงทูลขอหัตถกรรมเพื่อประโยชน์แก่กำรทำำเสนำ- สนะ. " ก็ในกำลนั้น เป็นครำววัปปมงคลแรกนำขวัญของพระรำชำ. ท้ำวเธอทรงสดับว่ำ " ได้ยินว่ำ พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยมำ " จึง เสด็จออกไป ตรัสถำมถึงเหตุที่มำ แล้วตรัสว่ำ " ข้ำแต่ทำนผู้เจริญ ่ วันนี้ยงไม่มีโอกำส. ั (เพรำะ) พรุ่งนี้ ข้ำพเจ้ำทังหลำยจะมีกำรมงคล ้ แรกนำขวัญ, ข้ำพเจ้ำจักทำำในวันที่ ๓ " ไม่ทรงอำรำธนำพระปัจเจก- *พระมหำเฉย (พระรำชปัญญำกวี) ป.ธ. ๗ วัดสัมพันธวงศ์ แปล.
  • 17. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 15 พุทธะทั้งหลำยไว้เลย เสด็จเข้ำไปแล้ว. พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำย คิดว่ำ " เรำทังหลำยจักเข้ำไปสู่บ้ำนอื่น ้ " หลีกไปแล้ว. [ พวกบ้ำนช่ำงหูกทำำบุญ ] ในขณะนั้น ภรรยำของนำยช่ำงหูกผู้หัวหน้ำ ไปสู่กรุงพำรำณสี ด้วยกิจบำงอย่ำง เห็นพระปัจเจกพุทธะเหล่ำนั้น นมัสกำรแล้วถำมว่ำ " ท่ำนผู้เจริญ พระผู้เป็นเจ้ำมำในกำลมิใช่เวลำ เพรำะเหตุไร ?" ได้ทรำบควำมเป็นไปนั้นตั้งแต่ต้น เป็นหญิงมีศรัทธำ ถึงพร้อมด้วย ปัญญำ นิมนต์ว่ำ " ท่ำนผู้เจริญ ขอท่ำนทั้งหลำยจงรับภิกษำของดิฉัน ทั้งหลำยในวันพรุ่งนี้. " พระปัจเจก. น้องหญิง พวกเรำมีมำก. หญิง. มีประมำณเท่ำไร ? เจ้ำข้ำ. พระปัจเจก. มีประมำณพันรูป น้องหญิง. หญิงนั้นกล่ำวว่ำ " ท่ำนผู้เจริญ พวกดิฉันมีประมำณพันคน อยู่ในบ้ำนนี้, คนหนึ่ง ๆ จักถวำยภิกษำแด่พระผู้เป็นเจ้ำรูปหนึ่ง ๆ ขอท่ำนทั้งหลำย จงรับภิกษำเถิด, ดิฉันคนเดียวจักให้ทำำแม้ที่อยู่แก่ ท่ำนทั้งหลำย. " พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยรับ (อำรำธนำ) แล้ว. นำงเข้ำไปสู่ บ้ำน ป่ำวร้องว่ำ " เรำเห็นพระปัจเจกพุทธะประมำณพันองค์ นิมนต์ ไว้แล้ว, ท่ำนทั้งหลำยจงจัดแจงที่เป็นที่นั่งแด่พระผู้เป็นเจ้ำทั้งหลำย, จงจัดอำหำรวัตถุทั้งหลำยมีขำวต้มและข้ำวสวยเป็นต้น แด่พระผู้เป็น ้
  • 18. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 16 เจ้ำทังหลำยเถิด ้ " แล้วให้สร้ำงปรำำในท่ำมกลำงบ้ำน ลำดอำสนะไว้ ในวันรุ่งขึ้น จึงให้นิมนต์พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยนั่ง อังคำสด้วย โภชนะอันประณีต ในเวลำเสร็จภัตกิจ จึงพำหญิงทั้งหมดในบ้ำนนั้น พร้อมกับหญิงเหล่ำนั้น นมัสกำรพระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยแล้ว รับ เอำปฏิญญำเพื่อประโยชน์แก่กำรอยูตลอดไตรมำส แล้วป่ำวร้องชำวบ้ำน ่ อีกว่ำ " แม่และพ่อทั้งหลำย บุรุษคนหนึ่ง ๆ แต่ตระกูลหนึ่ง ๆ จงถือเอำเครื่องมือมีมดเป็นต้นเข้ำไปสู่ปำ นำำเอำทัพพสัมภำระมำสร้ำง ี ่ ที่เป็นที่อยู่ของพระผู้เป็นเจ้ำทังหลำย. ้ " พวกชำวบ้ำนตั้งอยู่ในถ้อยคำำของนำงแล้ว คนหนึ่ง ๆ ทำำทีแห่ง ่ หนึ่ง ๆ แล้วให้สร้ำงศำลำมุงด้วยใบไม้พันหลัง พร้อมกับที่พักกลำง คืนและกลำงวัน แล้วอุปัฏฐำกพระปัจเจกพุทธะผู้เข้ำจำำนำำพรรษำใน บรรณศำลำของตน ๆ ด้วยตั้งใจว่ำ " เรำจักอุปัฏฐำกโดยเคำรพ, เรำ จักอุปัฏฐำกโดยเคำรพ. " ในเวลำออกพรรษำแล้ว นำงชักชวนว่ำ " ท่ำนทั้งหลำยจง ตระเตรียมผ้ำเพื่อจีวร (ถวำย) แด่พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยผู้อยู่จำำ พรรษำในบรรณศำลำของตน ๆ เถิด. " แล้วให้ถวำยจีวรมีคำพันหนึ่ง ่ แด่พระปัจเจกพุทธะองค์หนึ่ง ๆ. พระปัจเจกพุทธะทั้งหลำยออกพรรษำ แล้ว ทำำอนุโมทนำแล้วก็หลีกไป. [ อำนิสงส์ทำนนำำให้เกิดในดำวดึงส์ ] แม้พวกชำวบ้ำน ครั้นทำำบุญนี้แล้ว จุติจำกอัตภำพนั้นแล้วเกิด
  • 19. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 17 ในภพดำวดึงส์ ได้มีนำมว่ำคณะเทวบุตรแล้ว. เทวบุตรเหล่ำนั้น เสวยทิพยสมบัติในภพดำวดึงส์นั้น ในกำลแห่งพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำ ทรงพระนำมว่ำกัสสปะ (มำ) เกิดในเรือนของกุฎุมพี ในกรุง พำรำณสี. หัวหน้ำช่ำงหูกได้เป็นบุตรของกุฎุมพีผู้ใหญ่. ฝ่ำยภรรยำ ของเขำ ก็ได้เป็นธิดำของกุฎุมพีผู้ใหญ่เหมือนกัน. หญิงเหล่ำนั้น แม้ทงหมด ถึงควำมเจริญวัยแล้ว เมื่อจะไปสูตระกูลผัว ก็ได้ไป ั้ ่ สู่เรือนของบุรุษเหล่ำนั้นนั่นแล. [ กุฎุมพีถวำยมหำทำน ] ต่อมำวันหนึ่ง เขำป่ำวร้องกำรฟังธรรมในวิหำร. กุฎุมพี เหล่ำนั้นแม้ทั้งหมด ได้ยินว่ำ " พระศำสดำจะทรงแสดงธรรม " ปรึกษำ กันว่ำ " เรำทังหลำยจักฟังธรรม ้ " แล้วได้ไปสู่วิหำรกับภรรยำ. ใน ขณะที่ชนเหล่ำนั้น เข้ำไปสู่ทำมกลำงวิหำร ฝนได้ตั้งเค้ำแล้ว, ่ บรรพ- ชิตทังหลำยมีสำมเณรเป็นต้น ้ ผูเป็นกุลุปกะหรือเป็นญำติของชนเหล่ำ ้ ใดมีอยู่; ชนเหล่ำนั้นก็เข้ำไปสู่บริเวณของบรรพชิตเหล่ำนั้น. แต่ กุฎุมพีเหล่ำนั้นไม่อำจจะเข้ำไปในที่ไหน ๆ ได้ เพรำะควำมที่กุลุปกะ หรือญำติเห็นปำนนั้นไม่มี ได้ยืนอยู่ท่ำมกลำงวิหำรนั่นเอง. ลำำดับนั้น กุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้ำ จึงกล่ำวกะกุฎุมพีผู้บริวำรเหล่ำ นั้นว่ำ " ท่ำนทั้งหลำย จงดูอำกำรอันน่ำเกลียดของพวกเรำ, ธรรมดำ กุลบุตรทั้งหลำย ละอำยด้วยเหตุมีประมำณเท่ำนี้ สมควรแล้ว. " บริวำร. นำย พวกเรำจะทำำอย่ำงไรเล่ำ ? กุฎุมพี. พวกเรำถึงอำกำรน่ำเกลียดนี้ เพรำะไม่มีสถำนที่ซงมี ึ่
  • 20. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 18 คนคุ้นเคยกัน, เรำทั้งหมดรวมทรัพย์กัน สร้ำงบริเวณเถอะ. บริวำร. ดีละ นำย. คนผู้หัวหน้ำ ได้ให้ทรัพย์พันหนึ่ง, ชนที่เหลือให้คนละ ๕๐๐, พวกหญิงให้คนละ ๒๕๐. ชนเหล่ำนั้นรวบรวมทรัพย์นั้นแล้วเริ่ม (สร้ำง) ชื่อบริเวณใหญ่ เพื่อประโยชน์เป็นที่ประทับของพระศำสดำ ซึ่งมีเรือนยอดพันหลังเป็นบริวำร. เมื่อทรัพย์ไม่เพียงพอ เพรำะ ควำมที่นวกรรมเป็นงำนใหญ่, จึงได้ออกอีกคนละกึ่ง จำกทรัพย์ที่ ตนให้แล้วในก่อน. เมื่อบริเวณเสร็จแล้ว, ชนเหล่ำนั้นเมื่อจะทำำกำร ฉลองวิหำร จึงถวำยมหำทำนแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้ำเป็นประมุข ตลอด ๗ วัน แล้วจัดจีวรเพื่อภิกษุสองหมื่นรูป. [ ภรรยำของกุฎุมพีถวำยดอกอังกำบ ] ฝ่ำยภรรยำของกุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้ำ ไม่ทำำให้มีส่วนเสมอด้วยชน ทั้งหมด ตังอยู่ด้วยปัญญำของตน คิดว่ำ ้ " เรำจักบูชำพระศำสดำ ทำำให้ยง ิ่ (กว่ำเขำ) " จึงถือเอำผอบดอกอังกำบ กับผ้ำสำฎกมีสีดัง ดอกอังกำบรำคำพันหนึ่ง ในเวลำอนุโมทนำ บูชำพระศำสดำด้วย ดอกอังกำบแล้ว วำงผ้ำสำฎกนั้นไว้ แทบบำทมูลของพระศำสดำ ตังควำมปรำรถนำไว้ว่ำ ้ " ข้ำแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอสรีระของหม่อมฉัน จงมีสีดุจดอกอังกำบนี่แหละ ในที่หม่อมฉันเกิดแล้ว ๆ, และขอหม่อม ฉันจงมีนำมว่ำ อโนชำนั่นแล. " พระศำสดำได้ทรงทำำอนุโมทนำว่ำ " จงสำำเร็จอย่ำงนั้นเถิด. "
  • 21. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 19 [ กุฎุมพีภรรยำและบริวำรเกิดในรำชตระกูล ] ชนเหล่ำนั้นแม้ทงหมด ดำำรงอยู่จนตลอดอำยุแล้ว จุตจำก ั้ ิ อัตภำพนั้นแล้วก็เกิดในเทวโลก ในพุทธุปบำทกำลนี้ จุตจำก ิ เทวโลกแล้ว. กุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้ำ เกิดในรำชตระกูล ในกุกกุฏวดีนคร ถึงควำมเจริญวัยแล้ว ได้เป็นพระรำชำพระนำมว่ำ พระเจ้ำมหำกัปปินะ . ชนที่เหลือได้เกิดในตระกูลมหำอำำมำตย์; ภรรยำของกุฎุมพีผู้เป็นหัวหน้ำ เกิดในรำชตระกูล ในสำคลนคร ในมัททรัฐ. พระนำงได้มีพระสรีระ เช่นกับสีดอกอังกำบนั่นเทียว. พระญำติขนำนพระนำมแก่พระนำงว่ำ " อโนชำ " นั่นแล. พระนำงทรงถึงควำมเจริญวัยแล้ว ก็ไปสู่พระ รำชมณเฑียรของพระเจ้ำกัปปินะ ได้เป็นพระเทวีมีพระนำมว่ำ อโนชำแล้ว. แม้หญิงทั้งหลำยที่เหลือ เกิดในตระกูลอำำมำตย์ทั้งหลำย ถึงควำมเจริญวัยแล้ว ก็ได้ไปสู่เรือนแห่งบุตรอำำมำตย์เหล่ำนั้นเหมือน กัน. ชนเหล่ำนั้นแม้ทุกคน ได้เสวยสมบัติเช่นกับสมบัติของพระรำชำ. ในกำลใด พระรำชำทรงประดับเครื่องอลังกำรทังปวง ทรงช้ำงเที่ยวไป; ้ ในกำลนั้น แม้ชนเหล่ำนั้นก็เที่ยวไปเหมือนอย่ำงนั้น. เมื่อพระรำชำ เสด็จเที่ยวไปด้วยม้ำหรือด้วยรถ, แม้ชนเหล่ำนั้น ก็เที่ยวไปเหมือน อย่ำงนั้น. ชนเหล่ำนั้นเสวยสมบัติร่วมกัน ด้วยอำนุภำพแห่งบุญที่ทำำ ร่วมกัน ด้วยประกำรฉะนี้. ก็มำของพระรำชำมีอยู่ ๕ ม้ำ คือ ม้ำชื่อพละ ๑ พลวำหนะ ๑ ้ ปุปผะ ๑ ปุปผวำหนะ ๑ สุปตตะ ๑. ั บรรดำม้ำเหล่ำนั้น ม้ำชื่อ สุปัตตะ พระรำชำทรงเอง. ๔ ม้ำนอกนี้ ได้พระรำชำแก่พวกม้ำ
  • 22. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 20 ใช้ เพื่อประโยชน์นำำข่ำวสำสน์มำ. [ พระรำชำให้สืบข่ำวพระรัตนตรัย ] พระรำชำให้ม้ำใช้เหล่ำนั้น บริโภคแต่เช้ำตรู่แล้ว ทรงส่งไป ด้วยพระดำำรัสว่ำ " พวกท่ำนไปเถิด, เที่ยวไป ๒ หรือ ๓ โยชน์แล้ว ทรำบว่ำพระพุทธ พระธรรม หรือพระสงฆ์อุบติแล้ว จงนำำข่ำวที่ ั ให้เกิดสุขมำแก่เรำ. " ม้ำใช้เหล่ำนั้น ออกโดยประตูทั้ง ๔ เทียวไป ่ ได้ ๒-๓ โยชน์ ไม่ได้ข่ำวแล้วก็กลับ. [ พระรำชำได้ขำวพระรัตนตรัยจำกพ่อค้ำม้ำ ่ ] ต่อมำวันหนึ่ง พระรำชำทรงม้ำชื่อสุปัตตะ อันอำำมำตย์พันหนึ่ง แวดล้อม เสด็จไปพระรำชอุทยำน ทอดพระเนตรเห็นพวกพ่อค้ำ ประมำณ ๕๐๐ ผูมีร่ำงอ่อนเพลียกำำลังเข้ำสู่พระนคร แล้วทรงดำำริว่ำ ้ " ชนเหล่ำนี้ลำำบำกในกำรเดินทำงไกล, เรำจักฟังข่ำวดีอย่ำงหนึ่ง จำกสำำนักแห่งชนเหล่ำนี้เป็นแน่ " จึงรับสังให้เรียกพ่อค้ำเหล่ำนั้นมำ ่ แล้วตรัสถำมว่ำ " ท่ำนทั้งหลำยมำจำกเมืองไหน ?" พ่อค้ำ. พระเจ้ำข้ำ พวกข้ำพระองค์มำจำกนครชื่อสำวัตถี ซึ่งมีอยู่ในที่สุดประมำณ ๑๒๐ โยชน์ แต่พระนครนี้. พระรำชำ. ก็ข่ำวอะไร ๆ อุบติขึ้นในประเทศของพวกท่ำน ั มีอยู่หรือ ? พ่อค้ำ. พระเจ้ำข้ำ ข่ำวอะไร ๆ อย่ำงอื่นไม่มี, แต่พระสัมมำ สัมพุทธเจ้ำทรงอุบัติขึ้นแล้ว. พระรำชำทรงมีสรีระอันปีตมีวรรณ ๕ ถูกต้องแล้ว ในทันใด ิ
  • 23. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 21 นั้นนั่นเอง ไม่อำจเพื่อกำำหนดอะไร ๆ ได้ ทรงยับยังอยู่ ้ ครู่หนึ่ง แล้วตรัสถำมว่ำ " พวกท่ำนกล่ำวอะไร ? พ่อ. " พวกพ่อค้ำ กรำบทูลว่ำ " พระเจ้ำข้ำ พระพุทธเจ้ำทรงอุบติขึ้นแล้ว. " แม้ครั้ง ั ที่ ๒ แม้ครั้งที่ ๓ พระรำชำก็ทรงยับยั้งอยู่เหมือนอย่ำงนั้น. ในวำระ ที่ ๔ ตรัสถำมว่ำ " พวกท่ำนกล่ำวอะไร ? พ่อ " เมื่อพ่อค้ำเหล่ำนั้น กรำบทูลว่ำ " พระเจ้ำข้ำ พระพุทธเจ้ำทรงอุบติขึ้นแล้ว. " จึงตรัสว่ำ ั " พ่อทั้งหลำย เรำให้ทรัพย์แก่พวกท่ำนแสนหนึ่ง " แล้วตรัสถำมว่ำ " ข่ำวอะไร ๆ แม้อื่นอีก มีอยู่หรือ ? พ่อ. " พวกพ่อค้ำกรำบทูลว่ำ " มีอยู่ พระเจ้ำข้ำ, พระธรรมอุบติขึ้นแล้ว. " พระรำชำทรงสดับแม้ ั คำำนั้นแล้ว ทรงยับยั้งอยู่ตลอด ๓ วำระโดยนัยก่อนนั่นแล, ในวำระ ที่ ๔ เมื่อพวกพ่อค้ำกรำบทูลบทว่ำ " ธมฺโม " จึงตรัสว่ำ " แม้ใน เพรำะบทนี้ เรำให้ทรัพย์พวกท่ำนแสนหนึ่ง " แล้วตรัสถำมว่ำ " ข่ำวแม้อื่นอีก มีอยู่หรือ ? พ่อ. " พวกพ่อค้ำกรำบทูลว่ำ " พระเจ้ำข้ำ มีอยู่, พระสังฆรัตนะอุบติขึ้นแล้ว. " พระรำชำทรงสดับแม้คำำนั้นแล้ว ั ทรงยับยั้งอยู่ตลอด ๓ วำระอย่ำงนั้นเหมือนกัน, ในวำระที่ ๔ เมื่อ พวกพ่อค้ำกรำบทูลบทว่ำ " สงฺโฆ " จึงตรัสว่ำ " แม้ในเพรำะบทนี้ เรำให้ทรัพย์แก่พวกท่ำนแสนหนึ่ง " แล้วทรงแลดูอำำมำตย์พันหนึ่ง ตรัสถำมว่ำ " พ่อทั้งหลำย พวกท่ำนจักทำำอย่ำงไร ? " อำำมำตย์. พระเจ้ำข้ำ พระองค์จักทรงทำำอย่ำงไรเล่ำ ? พระรำชำ. พ่อทั้งหลำย เรำได้สดับว่ำ ' พระพุทธเจ้ำทรง อุบัตขึ้นแล้ว, พระธรรมอุบัติขึ้นแล้ว, พระสงฆ์อุบติขึ้นแล้ว ' จักทรง ิ ั
  • 24. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 22 ไม่กลับมำอีก, เรำจักอุทิศต่อพระศำสดำไปบวชในสำำนักของพระองค์. อำำมำตย์. แม้ข้ำพระองค์ทั้งหลำย ก็จักบวชพร้อมด้วยพระองค์ พระเจ้ำข้ำ. [ พระรำชำออกผนวชพร้อมกับอำำมำตย์ ] พระรำชำรับสั่งให้เจ้ำพนักงำนอำลักษณ์จำรึกอักษรลงในแผ่นทอง แล้ว ตรัสกะพวกพ่อค้ำม้ำว่ำ" พระเทวีพระนำมว่ำอโนชำ จักพระรำช- ทำนทรัพย์ ๓ แสนแก่พวกท่ำน ; ก็แลพวกท่ำนพึงทูลอย่ำงนี้ว่ำ ' ได้ ยินว่ำ พระรำชทรงสละควำมเป็นใหญ่ถวำยพระองค์แล้ว, พระองค์ จงเสวยสมบัตตำมสบำยเถิด ; ิ ก็ถ้ำพระเทวีจักตรัสถำมพวกท่ำนว่ำ ' พระรำชำเสด็จไปที่ไหน ? ' พวกท่ำนพึงทูลว่ำ ' พระรำชำตรัสว่ำ จักบวชอุทิศพระศำสดำ ' แล้วก็เสด็จไป. " แม้อำำมำตย์ทงหลำยก็ส่งข่ำวไปแก่ภรรยำของตน ๆ อย่ำงนั้น ั้ เหมือนกัน. พระรำชำทรงส่งพวกพ่อค้ำไปแล้ว อันอำำมำตย์พันหนึ่ง แวดล้อม เสด็จออกไปในขณะนั้นนั่นแล. ในวันนั้น แม้พระศำสดำเมือทรงตรวจดูสัตว์โลกในกำลใกล้รุ่ง ่ ได้ทอดพระเนตรเห็นพระเจ้ำมหำกัปปินะพร้อมบริวำร ทรงดำำริ ว่ำ " พระเจ้ำมหำกัปปินะนี้ ได้ทรงสดับควำมที่รัตนะ ๓ อุบัติขึ้น แต่สำำนักของพวกพ่อค้ำแล้ว ทรงบูชำคำำของพ่อค้ำเหล่ำนั้นด้วยทรัพย์ ๓ แสน ทรงสละรำชสมบัติ อันอำำมำตย์พันหนึ่งแวดล้อม ทรงประ - สงค์เพื่อจะผนวช อุทิศเรำ จักเสด็จออกไปในวันพรุ่งนี้, ท้ำวเธอ พร้อมทั้งบริวำรจักบรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทำทังหลำย, ้ เรำ
  • 25. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 23 จักทำำกำรต้อนรับท้ำวเธอ " ดังนี้แล้ว ในวันรุ่งขึ้น ทรงบำตรและ จีวรด้วยพระองค์เองทีเดียว เสด็จต้อนรับสิ้นทำง ๑๒๐ โยชน์ ดุจพระ เจ้ำจักรพรรดิ์ทรงต้อนรับกำำนันฉะนั้น ประทับนั่งเปล่งพระรัศมี มี พรรณ ๖ ณ ภำยใต้โคนต้นนิโครธ ริมฝั่งแม่นำ้ำจันทภำคำนที. ฝ่ำยพระรำชำเสด็จมำถึงแม่นำ้ำแห่งหนึ่งแล้ว ตรัสถำมว่ำ " นี่ชื่อ แม่นำ้ำอะไร ?" อำำมำตย์. ชืออำรวปัจฉำนที พระเจ้ำข้ำ. ่ พระรำชำ. พ่อทั้งหลำย แม่นำ้ำนี้มีประมำณเท่ำไร ? อำำมำตย์. โดยลึก คำวุตหนึ่ง, โดยกว้ำง ๒ คำวุต พระเจ้ำข้ำ. พระรำช. ก็ในแม่นำ้ำนี้ เรือหรือแพมีไหม ? อำำมำตย์. ไม่มี พระเจ้ำข้ำ. พระรำชำตรัสว่ำ " เมื่อเรำทังหลำยมัวหำยำนมีเรือเป็นต้น, ้ ชำติย่อมนำำไปสูชรำ, ชรำย่อมไปสู่มรณะ, เรำไม่มีควำมสงสัย ออก ่ บวชอุทิศพระรัตนตรัย, ด้วยอำนุภำพแห่งพระรัตนตรัยนั้น นำ้ำนี้ อย่ำ ได้เป็นเหมือนนำ้ำเลย " ดังนี้แล้ว ทรงระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ระลึก ถึงพุทธำนุสติว่ำ " แม้เพรำะเหตุนี้ พระผู้มีพระภำคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันตสัมมำสัมพุทธเจ้ำ " เป็นต้น พร้อมทังบริวำรเสด็จไป ้ บนหลังนำ้ำด้วยม้ำพันหนึ่ง. ม้ำสินธพทั้งหลำยก็วิ่งไป ดุจวิ่งไปบน หลังแผ่นหิน. ปลำยกีบก็ไม่เปียก ๑. ถ้ำบำลีเป็น อคฺคำเนว เตมึสุ ก็แปลว่ำ ปลำยกีบเท่ำนั้น เปียกนำ้ำ.
  • 26. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 24 พระรำชำเสด็จข้ำมแม่นำ้ำนั้นแล้ว เสด็จไปข้ำงหน้ำ ทอดพระ เนตรเห็นแม่นำ้ำอื่นอีก จึงตรัสถำมว่ำ " แม่นำ้ำนี้ชื่ออะไร ?" อำำมำตย์. ชือนีลวำหนำนที พระเจ้ำข้ำ. ่ พระรำชำ. แม่นำ้ำนี้ประมำณเท่ำไร ? อำำมำตย์. ทังส่วนลึก ทั้งส่วนกว้ำง ประมำณกึ่งโยชน์พระเจ้ำข้ำ. ้ คำำที่เหลือก็เช่นกับคำำก่อนนั่นแหละ. ก็พระรำชำ ทอดพระเนตรเห็นแม่นำ้ำนั้นแล้ว ทรงระลึกถึง ธรรมนำนุสติวำ ่ " พระธรรมอันพระผู้มีพระภำคตรัสดีแล้ว " เป็นต้น เสด็จไปแล้ว. ครั้นเสด็จข้ำมแม่นำ้ำแม้นั้นไปได้แล้ว ทอดพระเนตร เห็นแม่นำ้ำอื่นอีก จึงตรัสถำมว่ำ " แม่นำ้ำนี้ชื่ออะไร ?" อำำมำตย์. แม่นำ้ำนี้ชื่อว่ำจันทภำคำนที พระเจ้ำข้ำ. พระรำชำ. แม่นำ้ำนี้ประมำณเท่ำไร ? อำำมำตย์. ทังส่วนลึก ทั้งส่วนกว้ำง ประมำณโยชน์หนึ่ง พระ ้ เจ้ำข้ำ. คำำที่เหลือก็เหมือนกับคำำก่อนนั่นแล. ส่วนพระรำชำทอดพระเนตรเห็นแม่นำ้ำนี้แล้ว ทรงระลึกถึง สังฆำนุสติว่ำ " พระสงฆ์สำวกของพระผู้มีพระภำค เป็นผู้ปฏิบัติ ดีแล้ว " เป็นต้น เสด็จไปแล้ว. ก็เม่อเสด็จข้ำมแม่นำ้ำนั้นไป ได้ทอด พระเนตรเห็นพระรัศมีมีพรรณ ๖ แต่พระสรีระของพระศำสดำ. กิ่ง ค่ำคบ และใบ แห่งต้นนิโครธ ได้เป็นรำวกะว่ำสำำเร็จด้วยทองคำำ.
  • 27. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 25 [ พระรำชำและอำำมำตย์ได้บรรลุคุณวิเศษ ] พระรำชำทรงดำำริว่ำ " แสงสว่ำงนี้ ไม่ใช่แสงจันทร์, ไม่ใช่แสง อำทิตย์, ไม่ใช่แสงสว่ำงแห่งเทวดำ มำร พรหม นำค ครุฑเป็นต้น ผู้ใดผู้หนึ่ง, เรำอุทิศพระศำสดำมำอยู่ จักเป็นผู้อันพระมหำโคดม- พุทธเจ้ำทรงเห็นแล้วโดยแน่แท้. " ในทันใดนั้นนั่นแล ท้ำวเธอเสด็จ ลงจำกหลังม้ำทรงน้อมพระสรีระ เข้ำไปเฝ้ำพระศำสดำ ตำมสำยพระ รัศมี เสด็จเข้ำไปภำยในแห่งพระพุทธรัศมี รำวกะว่ำดำำลงไปใน มโนสิลำรส ถวำยบังคมพระศำสดำแล้ว ประทับนั่ง ณ ส่วนข้ำงหนึ่ง พร้อมกับอำำมำตย์พันหนึ่ง พระศำสดำทรงแสดงอนุปุพพีกถำแล้ว. ในเวลำจบเทศนำ พระรำชำพร้อมด้วยบริวำร ตั้งอยู่แล้วในโสดำปัตติผล. ลำำดับนั้น ชนเหล่ำนั้นทั้งหมด ลุกขึ้นทูลขอบรรพชำแล้ว. พระศำสดำทรงใคร่ครวญว่ำ " บำตรจีวรสำำเร็จแล้วด้วยฤทธิ์ ของกุลบุตรเหล่ำนี้ จักมำหรือหนอแล ? " ทรงทรำบว่ำ " กุลบุตร เหล่ำนี้ ได้ถวำยจีวรพันผืน แด่พระปัจเจกพุทธะพันองค์. ในกำล แห่งพระพุทธเจ้ำพระนำมว่ำกัสสป ได้ถวำยจีวรสองหมื่น แม้แก่ ภิกษุสองหมื่นรูป. ควำมมำแห่งบำตรและจีวรอันสำำเร็จแล้วด้วยฤทธิ์ ของกุลบุตรเหล่ำนี้ ไม่น่ำอัศจรรย์ " ดังนีแล้ว ทรงเหยียดพระหัตถ์ ้ ขวำ ตรัสว่ำ " ท่ำนทั้งหลำยจงเป็นภิกษุมำเถิด, ท่ำนทั้งหลำยจงประ พฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด. " ทันใดนั้นนั่นเอง
  • 28. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 26 กุลบุตรเหล่ำนั้นเป็นรำวกะพระเถระมีพรรษำตัง ๑๐๐ ้ ทรงบริขำร ๘ เหำะขึ้นสู่เวหำส กลับลงมำถวำยบังคมพระศำสดำนั่งอยู่แล้ว. [ พระนำงอโนชำเทวีเสด็จออกผนวช ] ฝ่ำยพ่อค้ำเหล่ำนั้นไปสู่รำชตระกูลแล้ว ให้เจ้ำหน้ำที่กรำบทูล ข่ำวที่พระรำชำทรงส่งไป, เมื่อพระเทวีรับสั่งว่ำ " จงมำเถิด " เข้ำ ไปถวำยบังคมแล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ส่วนข้ำงหนึ่ง, ลำำดับนั้น พระเทวี ตรัสถำมพ่อค้ำเหล่ำนั้นว่ำ " พ่อทั้งหลำย พวกท่ำนมำเพรำะเหตุอะไร ?" พ่อค้ำ. พระรำชำทรงส่งพวกข้ำพระองค์มำยังสำำนักของพระ องค์. นัยว่ำ ขอพระองค์จงพระรำชทำนทรัพย์ ๓ แสนแก่พวก ข้ำพระองค์. พระเทวี. พ่อทั้งหลำย พวกท่ำนพูดมำกเกินไป. พวกท่ำน ทำำอะไร แก่พระรำชำ, พระรำชำทรงเลื่อมใสในอะไรของพวกท่ำน จึงรับสังให้พระรำชทำนทรัพย์มีประมำณเท่ำนี้ ่ ? พ่อค้ำ. พระเจ้ำข้ำ อะไร ๆ อย่ำงอื่น พวกข้ำพระองค์มิได้ทำำ, แต่พวกข้ำพระองค์ได้กรำบทูลข่ำวแด่พระรำชำ. พระเทวี. พ่อค้ำทังหลำย ก็พวกท่ำนสำมำรถบอกแก่เรำบ้ำง ้ ได้ไหม ? พ่อค้ำ. ได้ พระเจ้ำข้ำ. พระเทวี. พ่อทั้งหลำย ถ้ำกระนั้น พวกท่ำนจงบอก. พ่อค้ำ. พระเจ้ำข้ำ พระพุทธเจ้ำทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก. แม้พระเทวีทรงสดับคำำนั้นแล้ว มีพระสรีระอันปีติถูกต้อง
  • 29. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 27 แล้ว โดยนัยก่อนนั่นแล ทรงกำำหนดอะไร ๆ ไม่ได้ถึง ๓ ครั้ง, ใน วำระที่ ๔ ทรงสดับบทว่ำ " พุทฺโธ " แล้วจึงตรัสว่ำ " พ่อทั้งหลำย ในเพรำะบทนี้ พระรำชำพระรำชทำนอะไร ?" พ่อค้ำ. ทรัพย์แสนหนึ่ง พระเจ้ำข้ำ. พระเทวี. พ่อทั้งหลำย พระรำชำทรงสดับข่ำวเห็นปำนนี้แล้ว พระรำชทำนทรัพย์แสนหนึ่งแก่ทำนทั้งหลำย ่ (ชือว่ำ) ่ ทรงกระทำำไม่ สมกันเลย. แต่เรำจะให้แก่พวกท่ำน ๓ แสน ในเพรำะของกำำนัล อันขัดสนของเรำ, ข่ำวอะไรอีก ? ที่ทำนทั้งหลำยกรำบทูลแล้ว. ่ พ่อค้ำเหล่ำนั้นกรำบทูลข่ำว ๒ อย่ำง แม้อื่นอีกว่ำ " ข่ำวอย่ำง นี้ แลอย่ำงนี้. " พระเทวีมีพระสรีระอันถูกต้องแล้ว โดยนัยก่อนนั่นแล ทรงกำำหนดอะไร ๆ ไม่ได้ถึง ๓ ครั้ง, ในครั้งที่ ๔ ทรงสดับอย่ำง นั้นเหมือนกันแล้ว รับสั่งให้พระรำชทำนทรัพย์ครังละ ๓ แสน. ้ พ่อค้ำ เหล่ำนั้น ได้ทรัพย์ทงหมดเป็น ๑๒ แสน ด้วยประกำรฉะนี้. ั้ ลำำดับนั้น พระเทวีตรัสถำมพ่อค้ำเหล่ำนั้นว่ำ " พ่อทั้งหลำย พระรำชำเสด็จไปไหน ?" พ่อค้ำ. พระเจ้ำข้ำ พระรำชำรับสังว่ำ ่ " เรำจักบวชอุทิศพระ- ศำสดำ " แล้วก็เสด็จไป. พระเทวี. ข่ำวอะไร ? ที่พระองค์พระรำชทำนแก่เรำ. พ่อค้ำ. นัยว่ำ พระองค์ทรงสละควำมเป็นใหญ่ทั้งหมด ถวำย พระองค์. นัยว่ำ พระองค์จงเสวยสมบัตตำมพระประสงค์เถิด. ิ
  • 30. ประโยค๒ - พระธัมมปทัฏฐกถำแปล ภำค ๔ - หน้ำที่ 28 พระเทวี. ก็พวกอำำมำตย์ไปไหน ? พ่อ. พ่อค้ำ. แม้อำำมำตย์เหล่ำนั้นกล่ำวว่ำ ' เรำจักบวชกับพระรำชำ เหมือนกัน ' แล้วก็ไป พระเจ้ำข้ำ. พระนำง รับสังให้เรียกภรรยำ ของอำำมำตย์เหล่ำนั้นมำแล้ว ่ ตรัสว่ำ " แม่ทั้งหลำย สำมีของพวกเจ้ำ กล่ำวว่ำ ' เรำจักบวชกับ พระรำชำ ' แล้วก็ไป, พวกเจ้ำจักทำำอย่ำงไร ? " หญิง. พระเจ้ำข้ำ ก็ข่ำวอะไร ? ที่พวกเขำส่งมำเพื่อพวก หม่อมฉัน. พระเทวี. ได้ยินว่ำ อำำมำตย์เหล่ำนั้น สละสมบัติของตน ๆ แก่ พวกเจ้ำแล้ว, ได้ยินว่ำ พวกเจ้ำจงบริโภคสมบัตินั้นตำมชอบใจเถิด. หญิง. ก็พระองค์จักทรงทำำอย่ำงไรเล่ำ ? พระเจ้ำข้ำ. พระเทวี. แม่ทงหลำย ทีแรก พระรำชำนั้นทรงสดับข่ำวแล้ว ั้ ประทับยืนในหนทำงเทียว ทรงบูชำพระรัตนตรัยด้วยทรัพย์ ๓ แสน ทรงสละสมบัตดุจก้อนนำ้ำลำย ตรัสว่ำ เรำจักบวช แล้วเสด็จออก ิ ไป ; ส่วนเรำได้ฟังข่ำวพระรัตนตรัยแล้ว บูชำพระรัตนตรัยด้วย ทัพย์ ๙ แสน ; ก็แล ชื่อว่ำสมบัตินี้ มิได้นำำทุกข์มำแด่พระรำชำ เท่ำนั้น, ย่อมเป็นเหตุนำำทุกข์มำ แม้แก่เรำเหมือนกัน, ใครจักคุกเข่ำ รับเอำก้อนนำ้ำลำยที่พระรำชำทรงบ้วนทิ้งด้วยปำกเล่ำ ? เรำไม่ ต้องกำรด้วยสมบัติ, แม้เรำก็จักไปบวชอุทิศพระศำสดำ. หญิง. พระเข้ำข้ำ แม้พวกหม่อมฉันก็จักบวชกับพระองค์ เหมือนกัน.