More Related Content
More from pongsatornpalata
More from pongsatornpalata (7)
Con14
- 1. คัมภีร์กระษัย มี 2 ประเภท แบ่งได้ 26 จำพวก คือ 1) เกิดเป็นอุปปำติกะ 18 จำพวก 2) เกิดแต่กองธำตุ
สมุฏฐำน 8 จำพวก
เกิดเป็นอุปาติกะ 18 จาพวก
ชื่อ อาการ key
กระษัย
ปลวก
เกิดขึ้นเพื่อสัณฑะฆาต กระทาให้ปวดขบทรวงดังจะขาดใจตายเป็นแล้ว หายไป
1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน ก็กลับเป็นอีก เป็นอย่างนี้หลายครั้ง หลายหน ครั้น
นานขึ้นทาให้ผิวเนื้อขาวซีดและเผือดผอมแห้งลง มิทันรู้ว่า ฝีปลวก ต่างกัน
ตรงที่ฝีปลวกมีหนอง กระษัยปลวกไม่มีหนอง
ปลวก
เกิดเพื่อสัณฑะฆาต
กระษัยนำ เกิดเพื่อโลหิต น้าเหลือง เสมหะ ประการใดประการหนึ่ง ถ้าเป็นทั้ง 3 ประการ
เรียกว่า กระษัยโลหิต (กระษัยเลือด) ถ้าสตรีตั้งใต้สะดือ 3 นิ้ว ถ้าบุรุษตั้งเหนือ
สะดือ 3 นิ้ว (ถ้าสตรีแจ้งในคัมภีร์มหาโชตรัตน์ บุรุษแจ้ง ในคัมภีร์มุจฉาปัก
ขันทิกา) กระษัยนี้ถ้าบังเกิดในผู้ใด ทาให้ปวดขบถึงยอ ดอกดังจะขาดใจ แล้ว
ตั้งลามขึ้นไปดังฝีมะเร็งทรวงอกและฝีปลวก
น้า
เกิดเพื่อโลหิต
น้าเหลือง เสมหะ
กระษัย
รำก
บังเกิดเพื่อลมร้อง ให้อาเจียนลมเปล่าและให้ลั่นอยู่ในอุทรดังจ๊อก ๆ ให้ ตึงทั้ง
กายดุจบุคคลเอาเชือกมารัดไว้ให้ผู้นั้นร้องครวญครางอยู่ทั้งวันทั้ง คืนมิได้ขาด
ดังจะขาดใจตาย
ราก
บังเกิดเพื่อลม
กระษัย
ลม
เกิดเพื่อ 6 จาพวก
1) เกิดเพื่อลมในไส้ เป็นดานลมเข้าประมาณเท่าลูกในตาลเมื่อนานเข้าให้ แข็ง
ไปทั้ง 2 ข้าง ให้จุกเสียดแน่นในอก
2) เกิดเพื่อลมนอกลาไส้ ให้แล่นเข้ากระดูก ให้เมื่อยขบในกระดูก ดังจะ แยก
จากกัน
3) เกิดเพราะลมอุทรวาท เกิดแต่ปลายเท้าขึ้นมาถึงศรีษะ เมื่อจะเป็นแก่ บุคคล
ลมนั้นพัดอยู่เพียงยอดอก แล่นเข้าในลาไส้ มักให้เป็นฝีรวงผึ้ง เจ็บปวดพัน
ประมาณ
4) เกิดเพื่อลมที่พัดจากกระหม่อมถึงปลายเท้า หากพัดไม่ตลอดตันอยู่แค่ ไหน
ให้เจ็บอยู่แค่นั้น
5) เกิดเพื่อลมทั่วกาย ลมอันนั้นประมวลกันเข้า ตั้งอยู่เหนือสะดือเท่าลูก
มะเดื่อให้จุกเสียด แน่นอกเป็นกาลัง
6) เกิดเพื่อลมที่ตั้งอยู่ 4 แห่ง คือ ใต้สะดือ 1 แห่ง เหนือสะดือ 1 แห่ง ริม
สะดือซ้าย 1 แห่ง ริมสะดือขวา 1 แห่ง
1) ในไส้เท่าลูกในตาล
2) นอกไส้ เมื่อย
กระดูก
3) อุทรวาทพัดขึ้น อยู่
ยอดอก
4) พัดลง ตันแค่ ไหน
เจ็บแค่นั้น
5) ทั่วกาย ลูก มะเดื่อ
เหนือ สะดือ
6) สี่จุด บน ล่าง ซ้าย
ขวา รอบสะดือขวา
และซ้าย
คัมภีร์กระษัย
- 2. กระษัย
จุก
กล่าวคือ วาโยเดินแทงเข้าไปในเส้นเอ็นภายใน เป็นอาคันตุกวาตะและ เส้นนั้น
พองขึ้นในท้อง ให้จุกให้แดก ดังจะขาดใจ นอนคว่าร้องอยู่เป็นนิจ จะนอน
หงายมิได้ ให้ทุกขเวทนาเป็นกาลัง
แทงเส้นนอนหงาย
ไม่ได้
กระษัย
ลิน
กระบือ
เกิดเพื่อโลหิตลิ่ม ติดอยู่ชายตับเป็นตัวแข็งยาวออกมัาจากชายโครง
ด้านขวา มีสัณฐานเหมือนลิ้นกระบือ กระทาให้ครั้นตัว ให้ร้อนให้จับเป็น เวลา
ให้จุกแน่นอก บริโภคอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับเป็นนิจ ให้กายซูบ ผอมแห้งไป
ครั้นนานเข้ํา กระษัยแตก ออกเป็นโลหิต น้ําเหลืองไหลซึมไป ในลาไส้ใหญ่ไส้
น้อยให้ไส้พองท้องใหญ่ ได้ชื่อว่ามานกระษัย รักษา ยากนานไปกระษัยแตก
ออกแก้ไม่ได้ (ให้แก้แต่ยังเป็นลิ้นกระบือ)
กระบือ เกิดพื่อโลหิต
ลิ่ม
ติดอยู่ชายตับ
กระษัย
ดำน
(แข็งดุจ
ศิลำ)
ตั้งอยู่ยอดอกแข็งดังศิลา ถ้าตั้งลามไปถึงท้องน้อยเมื่อใด กระทาให้ร้อง คราง
อยู่ทั้งกลางวันกลางคืน ถูกเย็นเข้าไม่ได้ ถ้าถูกร้อนเข้าค่อยสงบลง หน่อยแล้ว
กลับปวดอีก ทาให้จุกเสียดแน่นหน้าอก บริโภคอาหารมิได้ ถ้า ลามลงถึงหัวเห
น่าเมื่อใด เป็นอติสัยโรค รักษามิได้ ถ้าจะรักษาต้องรักษา แต่ยังไม่ลงถึงหัวเห
น่า
อกแข็งดังศิลา ถูกเย็น
ไม่ได้ ถูกร้อนสงบ
กระษัย
เหล็ก
(แข็งดุจ
ศิลำ)
มีอาการกระทาให้หัวเหน่าและท้องน้อยแข็งดุจดังแผ่นศิลา ให้ไหวตัวไป มา
มิได้ ครั้นแกเข้าแข็งลามขึ้นไปถึงยอดอก ให้บริโภคอาหารไม่ได้ ให้ ปวดขบดัง
จะขาดใจตาย
หัวเหน่าและท้องน้อย
แข็งดุจศิลา แก่เข้า
ลามไปถึงยอดอก
กระษัย
เชือก
(แข็งดุจ
เหล็ก)
ตั้งขึ้นแต่หัวเหน่า หยั่งถึงหัวใจแข็งดุจเหล็ก ให้แน่นชายโครงเป็นกาลัง ให้ จุก
เสียด ให้ขัดอุจจาระขัดปัสสาวะ ให้ปัสสาวะดาเป็นมันกระทาให้ บริโภคอาหาร
มิได้ ให้อิ่มไปด้วยลม ให้จับเป็นเวลา บางทีให้ร้อน บางทีให้ หนาว ต่อมานวด
จึงคลายหน่อย ถ้ามิได้นวดให้ตึง จะย่อตัวมิได้ ดุจบุคคล เอาเหล็กมาเสียบไว้ มี
ความเวทนาเป็นกาลัง
ฉี่ดา
แข็งดุจเหล็ก
นวดแล้วคลาย
กระษัย
เชือก
เกิดเพื่อลมตะคริวขึ้นมาแต่แม่เท้า ขึ้นตามลาเส้นตะคริว ทาให้ปวดสะดุ้ง
ทั้งตัว แล้วขึ้นเสียดเอาชายโครงทั้ง 2 ให้ร้องดังจะขาดใจ บางทีให้ขบไป ทั่ว
ทั้งตัว ถ้าจะรักษาให้นวดเสียก่อน ให้คลายแล้วจึงแต่งยาให้กิน
เกิดเพื่อลมตะคริว
ปวด สะดุ้ง นวดก่อน
ค่อย กินยา
กระษัย
ปลำหมอ
มีจิตวิญญาณเกิดขึ้นในลาไส้ ถ้าข้างขึ้นตัวกระษัยบ่ายศีรษะขึ้นมา กัดเอา ชาย
ตับ ชายม้าม และปอด ทาให้จุกแดก ถ้าข้างแรมตัวกระษัยบ่ายศีรษะ ลงใน
ท้องน้อยและหัวเหน่าทาให้ขัดอุจจาระปัสสาวะ ให้เจ็บปวดเวทนา เป็นกาลัง
ให้ร้องครวญครางอยู่ดังจะขาดใจตาย
มีจิตวิญญาณเกิดขึ้นใน
ลาไส้ข้างขึ้นกัด (ตับ
ม้าม ปอด)
ข้างแรมขัดอุจจาระ
ปัสสาวะ
- 3. กระษัย
ปลำดุก
เกิดขึ้นเพื่อโลหิตและน้าเหลืองระคนกัน มีจิตวิญญาณดังปลาดุก เกิดขึ้น ใน
กระเพาะข้าว ถ้าสตรีจับมดลูก ให้มีสัณฐานดังหญิงตั้งครรภ์ได้ 7-8 เดือน บาง
ทีแทงไปซ้ายไปขวา ถ้าข้างขึ้นยันไปยอดอกให้เจ็บอก ต้อง สมมติได้ บางทีให้
หอบให้สะอึก ถ้าข้างแรม เลื่อนลงมาท้องน้อยและหัวเหน่า บางทีต่าลงไป
กระดูกสันหลัง ตึงลงไปดันหน้าขาทั้ง 2 ข้าง มิทันรู้ก็ ว่ามีครรภ์
เกิดขึ้นเพื่อโลหิตและ
น้าเหลืองระคนกัน
เกิดในกระเพาะอาหาร
กระษัย
เต่ำ
เกิดเพื่อดานเสมหะ ตั้งอยู่ชายโครงซ้ายขวาเท่าฟองไข่แล้วลามขึ้นมาจุก อยู่
ยอดอก กระทาให้จับทุกเวลาน้าขึ้นให้กายซูบผอมผิวเนื้อเหลืองดุจทาขมิ้น
ครั้นนานเข้าโลหิตตกทวารหนัก ทวารเบา โทษทั้งนี้ คือ ตัวกระษัย แตก
ออกเป็นอสาทิยโรค
เกิดเพื่อดานเสมหะ
อยู่ชายโครงซ้ายขวา
เท่าฟองไข่
กระษัย
ล้น
เกิดด้วยน้าเหลือง โดยกาลังวาโยพัด ให้เป็นฟองแล้วข้นเข้าเป็นก้อน
กระทาให้ท้องลั่นขึ้นลั่นลง ข้างขึ้นให้แดกอกข้างแรมให้ถ่วงหัวเหน่า ดัง จะ
ขาดใจตาย
เกิดด้วยน้าเหลืองวาโย
พัดเป็นฟอง
กระษัยปู เกิดเพื่อโลหิตคุมกัน มีสัณฐานดังปูทะเล เข้ากินอยู่ในกระเพาะข้าว ให้ปวดขบ
ท้องน้อยเป็นกาลัง บริโภคอาหารทับลงไปเมื่อใดค่อยสงบลงครั้น สิ้นอาหาร
แล้วกระทาให้ขัดอยู่ในลาไส้ อั้นไปทั้งท้องเจ็บดังจะขาดใจ
เกิดเพื่อโลหิตคุมกัน มี
สัณฐานดังปูทะเลอยู่
ในกระเพาะอาหาร
กระษัย
เพลิง
(ไฟ)
เกิดเพื่อเตโชธาตุ 3 ประการ คือ สันตัปปัคคี ชีรนัคคี ปริทัยหัคคี ทั้ง 3 นี้
กระทาให้จับแต่เวลาบ่าย ให้จักษุแดง ให้เจ็บอยู่ยอดอก มักเป็นฝีมะเร็ง ทรวง
ให้บวมหน้า บวมท้อง ให้ตัวเย็น แต่ร้อนในดังไฟเผา ตั้งเหนือสะดือ 3 นิ้ว ให้
จุกอกให้แดกอก ให้เสียดสีข้างจะไหวตัวก็มิได้จับเส้นปัตคาต ปวดขบเป็นกาลัง
บริโภคอาหารเข้าไปให้ผะอืดผะอม ให้ท้องขึ้นและไม่ ผายลม ให้แน่นบริโภค
อาหารไม่ได้ ให้เหงื่อตกทุกเส้นขน
เกิดเพื่อเตโชธาตุ 3
ประการ สันตัปปัคคี
ชิรณัคคี ปริทัยหัคคี
กระษัย
ท้น
เกิดเพื่อบริโภคอาหาร เมื่อท้องว่างอยู่และยังมิได้บริโภคอาหารก็สงบเป็น ปกติ
ดี ครั้นบริโภคอาหารเข้าไปน้อยก็ดี มากก็ดี จึงกระทาให้ท้นขึ้นมายอ ดอก บาง
ทีให้อาเจียน บางทีให้แน่นอกและชายโครง ให้หายใจไม่ตลอด ท้อง ดังจะ
สิ้นใจแล้วกระทาให้แน่นขึ้นมาแต่ท้องน้อยชักเอากระเพาะข้าว แขวนขึ้น
เกิดเพื่อบริโภคอาหาร
เมื่อยังท้องว่าง ท้นขึ้น
ยอดอก อาเจียน แน่น
ชายโครง
กระษัย
ปลำไหล
ครั้นนานเข้าจึงกระทาโทษ เอาหางชอนลงไปแทงเอาหัวเหน่า และทวารหนัก
เบาแล้วให้ขัดอุจจาระ ปัสสาวะ ให้ปัสสาวะเหลืองดังขมิ้น บางทีแดง ดังน้าฝาง
ต้ม ดังน้าดอกคา และตัวกระษัยพันขึ้นตามลาไส้ เอาหัวแทงขึ้น ไปถึงชายตับ
และกระเพาะข้าว ถ้าบริโภคอาหารลงไปตัว กระษัยก็กัดเอา ชายตับ ชายม้าม
เจ็บปวดยิ่งนัก บางทีให้เมื่อยขบทุกข้อ ทุกกระดูก บางทีให้ขนชูดุจไข้เจ็บ
หางชอนไปหัวเน่าและ
ทวาร
หัวชอนไปถึงชายตับ
และกระเพาะอาหาร
- 4. เกิดแต่กองธาตุสมุฏฐาน
ชื่อ อำกำร Key
กล่อนดิน เมื่อจะบังเกิดตั้งเป็นก้อนขึ้นที่หัวเหน่าซ้ายหรือขวา แล้วเลื่อนลงมาอัณฑะ
กาเริบฟกช้าจับต้องเข้ามิได้ จะกระทบผ้านุ่งก็มิได้ ให้เจ็บเสียวตลอดถึง หัวใจ
ให้เสียวตามราวข้างและทรวงอก ให้ปวดขบในทรวงอกเป็นกาลัง ให้ เจ็บทั่ว
สรรพางค์กาย
บังเกิดตั้งเป็นก้อนที่
หัวเหน่า เลื่อนลงมา
อัณฑะกาเริบฟกช้า
กล่อนนำ เกิดเพื่อกองอาโปธาตุ คือ โลหิต น้าเหลือง เสลด อย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้า
เกิดทั้ง 3 เรียกว่า กระษัยโลหิต ถ้าสตรีเกิดใต้สะดือ 3 นิ้ว ถ้าบุรุษเกิด เหนือ
สะดือ 3 นิ้ว ให้ท้องใหญ่ดุจกันกับสตรี (เหมือนกับกระษัยน้าที่ได้ กล่าว
มาแล้ว) กระษัยนี้เกิดขึ้นแก่บุคคลใดแล้ว ทาให้ปวดขบยอดอกให้ เจ็บปวดดัง
จะขาดใจตาย บางที่ตั้งลามไปถึงตับและหัวใจเป็นดุจฝีมะเร็ง ทรวงอกและฝี
ปลวก
เกิดเพื่อกองอาโปธาตุ
โลหิต น้าเหลือง
เสลด คล้ายกระษัย
น้า
กล่อนไฟ กล่าวคือ เพลิงธาตุทั้ง 4 มิได้เป็นปกติ จึงให้วิปริตแปรไปต่างๆ บางทีให้ ตั้ง
ในนาภีและทรวงอก กระทาให้แน่นหน้าอก บริโภคอาหารมิได้ บางทีให้ จักษุ
ปวดดังจะขาดใจตาย บางทีให้เสโทตกทุกเส้นขน ทาให้จักษุแดง ให้ รุมเจ็บ
อยู่ที่ยอดอก ให้เจ็บแต่เวลาบ่ายให้บวมหน้ํา บวมหลัง บวมเท้า ถ้า บวม 3
อย่างรักษาไม่ได้
กล่าววคือเพลิงทั้ง 4
มิได้ปกติ
กล่อนเถำ เกิดเพื่อลมสัณฑะฆาต และปัตคาต แล่นในลาไส้ให้เส้นพอง แข็งขวางอยู่ หัว
เหน่ามาบรรจบเกลียวข้าง ถ้าผู้ชายขึ้นขวา หญิงขึ้นซ้าย เสียดมาตาม ชาย
โครงถึงยอดอก ปวดขบในอก เสียวตลอดถึงลาคอ บางทีให้อาเจียน แต่
น้าลาย ถ้าอาเจียนออกมาอาการปวดทุเลา ทาให้อาการดุจฝีปลวก ฝี มะเร็ง
ทรวงอก ผิดกันที่น้ามูตร ถ้าเป็นกระษัย น้ามูตรแดงติดเหลือง เอา ถ้วยรองไว้
ดู ถ้ามันนอนก้นสีดังน้ําปูนกินหมาก ถ้าฝีสีดา โรคนี้เป็นเพราะ กินของคาว
หวานนัก เป็นๆ หายๆ ประมาณ 12-13 ปี แล้วกลายเป็นมานกระษัย รักษา
ไม่ได้ ให้แก้แต่ยังอ่อน
กษัยนำ
กษัยลม
กษัยไฟ
กระษัยน้าา กระษัยลม กระษัยไฟ เหมือนที่กล่าวแล้ว
- 6. โรคทำงกำรแพทย์แผนไทย โรคทำงกำรแพทย์แผนปัจจุบัน
เกิดแต่อุปปาติกะโรค 18 จาพวก
กระษัยล้น Dyspepsia อาการปวดแน่นท้อง
Indigestion อาหารไม่ย่อย
Inflammatory bowel diseases ลาไส้อักเสบ
Gastritis กระเพาะอาหารอักเสบ
Regional enteritis ลาไส้อุดตันบางส่วน
กระษัยรำก Regional enteritis ลาไส้อุดตันบางส่วน
ศูนย์อาเจียนถูกกระตุ้น
กรดเกินในกระเพาะอาหาร
Gastritis กระเพาะอาหารอักเสบ
กระษัยเหล็ก Cystitis กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
มีก้อน มีการอักเสบที่ลาไส้ตรง หรือไส้เลื่อน มีก้อนไปกดทับ
Appendicitis ไส้ติ่งอักเสบเรื้อรัง
Benign prostatic hypertrophy,BPH ต่อมลูกหมากโต
การอักเสบอวัยวะในอุ้งเชิงกราน
กระษัยปู กรดในกระเพาะอาหาร
Peptic ulcer กระเพาะอาหารเป็นแผล
พยาธิในระบบทางเดินอาหาร หรือพยาธิลาไส้
กระษัยจุก Intestinal distension ลาไส้พอง
แผลในกระเพาะอาหารหรือลาไส้ส่วนต้น
Pancreatitis ตับอ่อนอักเสบ
กระษัยปลำไหล พยาธิลาไส้
พยาธิในตับ
กระษัยปลำหมอ พยาธิลาไส้
การอักเสบของระบบทางเดินอาหาร
ปัสสาวะไม่ออก
กระษัยปลำดุก พยาธิลาไส้
Myoma uteri เนื้องอกในมดลูก
ถูงน้าในปีกมดลูก ,เนื้องอกในรังไข่
Ovarian cyst ถุงน้าในรังไข่
Uterine cancer มะเร็งในมดลูก
- 7. โรคทำงแพทย์แผนไทย โรคทำงแพทย์แผนปัจจุบัน
กระษัยปลวก Pleuritis เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
Lung cancer มะเร็งปอด
Lung tuberculosis วัณโรคปอด
กระษัยลินกระบือ Hepatomegaly ตับโต
Hepatitis ตับอักเสบ
Cirrhosis ตับแข็ง
Liver cancer มะเร็งตับ
Cholecystitis ถุงน้าดีอักเสบ
กระษัยเต่ำ โรคตับ
Cholecystitis ถุงน้าดีอักเสบ
Cacinoma of gallbladder มะเร็งถุงน้าดี
Carcinoma of pancreas มะเร็งตับอ่อน
Hemolytic Anemia โรคเม็ดเลือดอายุสั้น แตกง่าย
กระษัยดำน ท้องอืด
Stomach cancer มะเร็งกระเพาะอาหาร
Peptic ulcer แผลในกระเพาะอาหาร
Peptic ulcer perforate กระเพาะอาหารทะลุ
Peritonitis เยื่อบุช่องท้องอักเสบ
กระษัยท้น Peptic ulcer แผลในกระเพาะอาหาร
Cholecystitis ถุงน้าดีอักเสบเรื้อรัง
Aperistalsis ระบบทางเดินอาหารตอนต้นอักเสบ
หรือมีการอุดตัน หรือมีเนื้องอก
Esophagitis หลอดอาหารส่วนต้นอักเสบ
กระษัยเสียด ภาวะขาดแร่ธาตุ
ขาดวิตามิน
อาการทางประสาท
Polyneuritis/peripheral neuropathy ปลาย
ประสาทอักเสบ
กระษัยเพลิง(ไฟ) เป็นไข้ ตัวเย็น
เป้นไข้ ที่ทาให้หัวใจอักเสบ พิการ และล้มเหลวในที่สุด
อาหารไม่ย่อย
Cholecystitis ถุงน้าดีอักเสบเรื้อรัง
- 8. โรคทำงแพทย์แผนไทย โรคทำงแพทย์แผนปัจจุบัน
กระษัยนำ โรคเรื้องรังของปอดไต และทางเดินปัสสาวะ
อาการเกี่ยวกับมดลูก
Cystitis กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
มะเร็งที่อุ้งเชิงกราน
กระษัยเชือก Gallstone / cholelithiasis นิ่วในถุงน้าดี
Cystitis กระพาะปัสสาวะอักเสบ
Cancer มะเร็ง
กระษัยลม อาหารไม่ย่อย
Osteoporosis กระดูกพรุน
เกิดแต่กองสมุฏฐำน 8 จำพวก
กระษัยกล่อนดิน Inguinal hernia ไส้เลื่อน
กระษัยกล่อนนำ โรคเรื้องรังของปอดไต และทางเดินปัสสาวะ
อาการเกี่ยวกับมดลูก
Cystitis กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
มะเร็งที่อุ้งเชิงกราน
กระษัยกล่อนลม อาหารไม่ย่อย
กรดเกินในกระเพาะอาหาร
Peptic ulcer แผลในกระเพาะอาการ
Gastritis กระเพาะอาหารอักเสบ
กระษัยกล่อนไฟ กรดเกินในกระเพาะอาหาร
อาหารไม่ย่อย
ความผิดปกติของถุงน้าดี
Cirrhosis ตับแข็ง
Hyper thyroids ธัยรอยด์เป็นพิษ
กระษัยกร่อนเถำ Renal calculus / Kindney stone นิ่วในระบบ
ทางเดินปัสาวะ