SlideShare a Scribd company logo
1 of 5
Download to read offline
โดย กุญแจการแพทย์แผนไทย
คัมภีร์ปฐมจินดา
กล่าวถึง โรคเกี่ยวกับสตรี มารดาและทารก หญิงมีครรภ์ก่อนคลอด หลังคลอด
แต่งโดยพระอาจารย์ชีวกโกมารภัจจ์
ท้าวมหาพรหม บอกแก่พรหมทั้งหลายว่าแผ่นดินใหม่นี้จะบังเกิดพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เพราะได้เห็นดอกอุบล 5 ดอก ผุด
ขึ้นมาเหนือน้้า งามหาที่จะอุปมามิได้ ดังนี้
1) พระพุทธกกุสันโธ
2) พระพุทธโกนาคม
3) พระพุทธกัสสป
4) พระพุทธพระสมณโคดม
5) พระศรีอริยเมตไตรย์
สัตว์ที่มาปฏิสนธิในชมพูทวีป
1) ชลามพุชะ (ตัว) 3) สังเสทชะ (หนอน)
2) อัณฑะชะ (ไข่) 4) อุปปาติกะ (เกิดเอง)
สตรีผิดจากบุรุษ 2 ประการ
1) ต่อมเลือด (มดลูก) 2) น้้านมส้าหรับบุตร
*สังเกต จะแตกต่างกับคัมภีร์มหาโชตรัตน์ ซึ่งมี 4 ประการ
ในคัมภีร์กล่าวว่า พระอาจารย์ของหมอชีวกโกมารภัจจ์ คือ ฤทธิยาธรดาบส ผู้เป็นผู้หยั่งรู้ลักษณะหญิง และน้้าใจสตรีทั้งดีและ
ชั่ว เป็นผู้แจ้งว่าเด็กที่เกิดมาวันที่ร้ายแล้วต้องแผนซางที่ร้ายแต่เลี้ยงง่าย เพราะอาศัยน้้านมมารดา ซึ่งน้้านมสตรีมีดีและร้าย 6
จ้าพวก ดังนี้ (ดี 4 จ้าพวก ให้โทษ 2 จ้าพวก)
ลักษณะหญิงที่มีน้านมให้โทษ
ผู้หญิง ลักษณะ Key
หญิงยักขินี กลิ่นตัวคาวดังน้้าล้างเนื้อ ลูกตาแดง เนื้อขาวเหลือง นมยาน หัวนมเล็ก
เสียงพูดแหบเครือดังเสียงการ้อง ฝ่ามือและเท้ายาว ห้องตัวยาว จมูกยาว
หนังริมตาหย่อน สะดือลึก สันทัดคน (ไม่พีไม่ผอม) กินของมาก เป็นหญิงมี
กามแรง เด็กกินนมหญิงนี้จะเกิดโรค
1 ยักษ์นมยาน
2 เสียงการ้อง
3 กลิ่นตัวคาว
หญิงหัสดี กลิ่นตัวเหมือนบุรุษ ตาแดง ผิวเนื้อขาว นมดังคอน้้าเต้า ริมฝีปากกลม
เสียงแข็งดังเสียงแพะ ฝ่าเท้าใหญ่ข้างเล็กข้าง เจรจาปากไม่มิดกัน เดินไป
มามักสะดุด เป็นหยิงกามแรง เด็กกินน้้านมหญิงนี้เหมือนกินยาพิษ
1 นมน้้าเต้า
2 เสียงแพะ
3 กลิ่นตัวเหมือนบุรุษ
4 นมเหมือนยาพิษ
โดย กุญแจการแพทย์แผนไทย
ลักษณะน้านมดีของหญิงเบญจกัลยานี (กลิ่น)
กลิ่นตัวหญิง อาการ Key
กลิ่นหอมดังกล้วยไม้ กลิ่นตัวดังกล้วยไม้ ไหล่ผาย สะเอวรัด หลังราบ ตัวด้า แก้มใส เต้านม
ดังอุบลเพิ่งแย้ม ผิวเนื้อแดง เสียงสังข์ น้้านมรสหวานมัน
1 แก้มใส
2 เต้านมดังอุบล
3 เสียงดังสังข์
กลิ่นตัวดังดอกอุบล กลิ่นตัวดังดอกอุบล เสียงดังแตร ไหล่ผาย ตะโพกรัด แก้มพอง นิ้วมือ
และนิ้วเท้าเรียวแฉล้ม เต้านมดังบัวบาน ผิวเนื้อเหลือง น้้านมหวาน
1 เต้านมดังบัวบาน
ไม่มีกลิ่นตัว กลิ่นตัวไม่ปรากฎ (ไม่มีกลิ่นตัว) เอวกลม ขนตางอน จมูกสูง เต้านม
กลม หัวนมงอนดังอุบลเพิ่งแย้ม น้้านมหวาน
1 เต้านมกลม
2 หัวนมงอน
จักจั่นหอมเผ็ด กลิ่นตัวหอมเผ็ด เสียงดังจักจั่น ปากดังปากเอื้อน ตาดังตาทราย ผมแข็ง
ชัน ไหล่ผาย ตะโพกผาย หน้าผากสวย ท้องดังกาบกล้วย นมพวง
น้้านมขาวดังสังข์ น้้านมมันข้น
1 เต้าพวง
2 นมขาวดังสังข์
กุมารใดดื่มกิน ดุจดื่มกินโอสถทิพย์ เรียกว่า ทิพโอสถประโยธร ดุจน้้าสุรมฤต กุมารใดจะมีโรคก็อาจบ้าบัดโรคได้ เพราะน้้านม
มีคุณ และมิได้แสลงโรค
โดย กุญแจการแพทย์แผนไทย
พิจารณาดูน้านมดีและร้าย
ให้เอาใส่ขันลงแล้วให้แม่นมนั้นหล่อมองดู ถ้าสีและน้้านมขาวดังสังข์และจมในขัน สัณฐานเหมือนดอกลูกบัวเกาะ นมอย่างนี้
จัดเป็น น้้านมอย่างเอก
ถ้าหล่อน้้านมลง และน้้านมกระจายแต่ว่าข้นจมลงถึงก้นขันแต่ไม่กลมเข้า น้้านมอย่างนี้จัดเป็น น้้านมอย่างโท
ถ้ารสน้้านมเปรี้ยว ขม ฝาด จืด จาง และมีกลิ่นคาว จัดเป็นน้้านมให้โทษทั้งสิ้น
ลักษณะน้านมพิการ 3 จ้าพวก
1) สตรีระดูขัด
2) สตรีอยู่ไฟมิได้และน้้านมดิบ
3) สตรีมีครรภ์อ่อน น้้านมเป็นน้้าเหลือง ไหลเป็นสายเลือดและน้้านมระคนกัน ให้ประกอบยาประจุโลหิต และรุน้้านม บ้ารุง
น้้านม ให้โลหิตและน้้านมบริสุทธิ์จึงจะสิ้นโทษร้าย ถ้าน้้านมลอยเรี่ยราด ไม่คุมกันเข้า เป็นเพราะโลหิตก้าเริบ ให้แต่งยาประจุ
โลหิต โลหิตจึงจะงาม น้้านมจึงจะบริบูรณ์
ลักษณะน้านมให้โทษ 3 จ้าพวก
ด้วยเหตุมารดาอยู่ไฟมิได้ ท้องเขียวดังท้องค่าง
1) น้้านมจาง สีเขียวดังน้้าต้มหอยแมลงภู่
2) น้้านมจาง มีรสเปรี้ยว
3) น้้านมเป็นฟองลอย
พระอาจารย์ว่า แพทย์ทั้งหลายมิได้ถือเอาคัมภีร์ฉันทศาสตร์
- อิ่มไปด้วยโลภ
- หลง
- ทิฐิมานะ
แพทย์เชื่อว่า มีตาอันบอดประกอบไปด้วยโทษ
แพทย์ผู้ใดมิได้เรียนคัมภีร์ฉันทศาสตร์ มิได้รู้จักก้าเนิดแห่งซาง และสรรพคุณยา น้าไปเที่ยวรักษา
- ด้วยใจโลภจะใคร่ได้ทรัพย์
- ถือทิฐิมานะว่าตัวรู้กว่าคนทั้งหลาย
- หลงใหลถือผิดเป็นชอบ
- มีความโกรธแก่ท่าน
ท่านว่าหมอโกหก เมืองโสฬสมหานคร จับเอาตัวมาฆ่าเสียมาก แพทย์มิได้รู้จักก้าเนิดโรค วางยาผิดแก่โรค พระบาลีกล่าวไว้ว่า
วางยาผิดโรคครั้งหนึ่ง ดุจประหารด้วยหอก
วางยาผิดโรคครั้งสอง ดุจเผาด้วยไฟ
วางยาผิดโรคครั้งสาม ดุจสายฟ้าฟาด (ฟ้าผ่า)
อันว่าโรคก้าเริบขึ้นกว่าร้อยเท่าพันเท่า ตายแล้วจะตกนรก
โดย กุญแจการแพทย์แผนไทย
ครรภ์รักษา
สตรีเมื่อตั้งครรภ์ 15 วัน หรือ 1 เดือน จะปรากฎเส้นเอ็นสีเขียวผ่านหน้าอก หัวนมด้าคล้้า และตั้งขึ้น กับมีเม้ดครอบหัวนม
มารดามักจะเป็นโรคหรือมีอาการต่างๆ ต้องมียาครรภ์รักษา ใช้รักษา ป้องกัน เพื่อไม่ให้แท้งหรือตกเลือด
ครรภ์วิปลาส
(สาเหตุที่ท้าให้ครรภ์ตกไป : การแท้งบุตร)
1) เกิดกามวิตก หนาไปด้วยเตโชธาตุสมุฏฐาน ไฟราคะเผาผลาญแรงกล้าอยู่เป็นนิจ (ธาตุก้าเริบ)
2) กินของที่ไม่ควรกิน กินของเผ็ดร้อน ของที่กินแล้วลงท้องหรือยาที่แสลงโรคต่างๆ กินยาขับโดยตั้งใจ
(ธาตุน้้าก้าเริบ)
3) โกรธท้าร้ายตัวเอง ปากร้าย จิตมีความโกรธ ท้าร้ายตัวเอง ปากร้าย ใช้ถ้อยค้าหยาบคายด่าว่าสามีหรือผู้อื่น ถูกเขาทุตี
ด้วยก้าลัง
4) ปีศาจท้าโทษ ลูกในครรภ์ถูกปีศาจท้าโทษ หรือต้องศาสตราคุณไสย
ครรภ์ปริมณฑล
ในระยะ 10 เดือน ระหว่างตั้งครรภ์ หญิงย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บ จึงต้องจัดยาให้ แก้ไข้ แก้บิด ท้องเสีย ลงวิงเวียน แก้ไข้ร้อนๆ
หนาวๆ ระส่้าระส่าย ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ยาส้าหรับครรภ์ 7-8 เดือน ยากุมารไม่ดิ้น ยาให้คลอดง่าย ยาชักมดลูก เป็นต้น
ครรภ์ประสูติ
ทารกคลอดจากครรภ์มารดาด้วยลมกัมมัชวาตพัดก้าเริบ เส้นและเอ็นที่รัดตัวเด็กไว้ก็คลายออกพร้อมให้ศีรษะกลับลงเบื้องต่้า
ฤกษ์ยามดีก็คลอดจากครรภ์มารดา เรียกว่า ตกฟาก
ระยะปฐมวัยตั้งแต่รู้ชันคอถึงรู้ย่าง จะมีลักษณะ เรียกว่า ส้ารอก 7 ประการ
จะมีโรคเกิดกับทารกอยู่ก่อนหรือโรคจรมาแทรก เรียกว่า โรคทับ 8 ประการ
โดย กุญแจการแพทย์แผนไทย
ลักษณะของซาง
ซางขุม กลางลิ้นขึ้นซีดขาว เป็นจุดขาวเป็นขุมที่ลิ้น ปาก กระพุ้งแก้ม เพดาน เจ็บ น้้าลายไหล
ซางโจร ขึ้นในไส้พุง หัวตับ กระดูกสันหลัง ครั้นแก่นานหนักขึ้นมาดังดอกบุก
ซางฝ้าย ขึ้นในลิ้น ในปาก
ซางข้าว ไม่ได้อธิบาย น่าจะเป็นซางขาว คือลักษณะละอองขาว
ซางช้าง ให้ลงท้อง
ซางม้า ครั้นถึง 2 วัน ก็ติดกันเข้ามีสีด้าเขียวร้ายนัก
ซางควาย หนังสือกองประกอบไม่ได้อธิบาย ซางควายถ้าด้าถึง 12 วันตาย
ซางข้าวเปลือก เกิดในลิ้น ในปาก ดังลิ้นวัว
ซางไฟ ถ้าขึ้นกลางลิ้น ลิ้นด้า และริมแดง ร้ายนัก

More Related Content

What's hot

คัมภีร์เวชศึกษา.pdf
คัมภีร์เวชศึกษา.pdfคัมภีร์เวชศึกษา.pdf
คัมภีร์เวชศึกษา.pdfPipopWatveangkam
 
แบบบันทึกเคส ยะลา
แบบบันทึกเคส ยะลาแบบบันทึกเคส ยะลา
แบบบันทึกเคส ยะลาCotton On
 
Case study muscle bone join
Case study muscle bone joinCase study muscle bone join
Case study muscle bone jointacrm
 
การฟื้นฟูสภาพคนพิการ Copy
การฟื้นฟูสภาพคนพิการ   Copyการฟื้นฟูสภาพคนพิการ   Copy
การฟื้นฟูสภาพคนพิการ CopyNithimar Or
 
หน่วยที่ 5.3.1 สารปนเปื้อนในอาหาร
หน่วยที่ 5.3.1 สารปนเปื้อนในอาหารหน่วยที่ 5.3.1 สารปนเปื้อนในอาหาร
หน่วยที่ 5.3.1 สารปนเปื้อนในอาหารtumetr
 
ยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณ
ยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณ
ยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณUtai Sukviwatsirikul
 
วิธีสอนการสร้างความคิดรวบยอด
วิธีสอนการสร้างความคิดรวบยอดวิธีสอนการสร้างความคิดรวบยอด
วิธีสอนการสร้างความคิดรวบยอดKiingz Phanumas
 
ยาสามัญประจำบ้าน ฉบับที่4
ยาสามัญประจำบ้าน ฉบับที่4ยาสามัญประจำบ้าน ฉบับที่4
ยาสามัญประจำบ้าน ฉบับที่4Surang Judistprasert
 
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)firstnarak
 
รายงานเรื่อง สมุนไพรไทย
รายงานเรื่อง สมุนไพรไทยรายงานเรื่อง สมุนไพรไทย
รายงานเรื่อง สมุนไพรไทยFreesia Gardenia
 

What's hot (20)

Con15
Con15Con15
Con15
 
Con11
Con11Con11
Con11
 
Con16
Con16Con16
Con16
 
Con2
Con2Con2
Con2
 
Con19
Con19Con19
Con19
 
Con13
Con13Con13
Con13
 
Con3
Con3Con3
Con3
 
Con21
Con21Con21
Con21
 
คัมภีร์เวชศึกษา.pdf
คัมภีร์เวชศึกษา.pdfคัมภีร์เวชศึกษา.pdf
คัมภีร์เวชศึกษา.pdf
 
แบบบันทึกเคส ยะลา
แบบบันทึกเคส ยะลาแบบบันทึกเคส ยะลา
แบบบันทึกเคส ยะลา
 
Case study muscle bone join
Case study muscle bone joinCase study muscle bone join
Case study muscle bone join
 
การฟื้นฟูสภาพคนพิการ Copy
การฟื้นฟูสภาพคนพิการ   Copyการฟื้นฟูสภาพคนพิการ   Copy
การฟื้นฟูสภาพคนพิการ Copy
 
หน่วยที่ 5.3.1 สารปนเปื้อนในอาหาร
หน่วยที่ 5.3.1 สารปนเปื้อนในอาหารหน่วยที่ 5.3.1 สารปนเปื้อนในอาหาร
หน่วยที่ 5.3.1 สารปนเปื้อนในอาหาร
 
ยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณ
ยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณ
ยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณ
 
วิธีสอนการสร้างความคิดรวบยอด
วิธีสอนการสร้างความคิดรวบยอดวิธีสอนการสร้างความคิดรวบยอด
วิธีสอนการสร้างความคิดรวบยอด
 
ยาสามัญประจำบ้าน ฉบับที่4
ยาสามัญประจำบ้าน ฉบับที่4ยาสามัญประจำบ้าน ฉบับที่4
ยาสามัญประจำบ้าน ฉบับที่4
 
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)
 
รายงานเรื่อง สมุนไพรไทย
รายงานเรื่อง สมุนไพรไทยรายงานเรื่อง สมุนไพรไทย
รายงานเรื่อง สมุนไพรไทย
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
 
อจท. แผน 1 1 สุขศึกษาฯ ป.5
อจท. แผน 1 1 สุขศึกษาฯ ป.5อจท. แผน 1 1 สุขศึกษาฯ ป.5
อจท. แผน 1 1 สุขศึกษาฯ ป.5
 

Con9

  • 1. โดย กุญแจการแพทย์แผนไทย คัมภีร์ปฐมจินดา กล่าวถึง โรคเกี่ยวกับสตรี มารดาและทารก หญิงมีครรภ์ก่อนคลอด หลังคลอด แต่งโดยพระอาจารย์ชีวกโกมารภัจจ์ ท้าวมหาพรหม บอกแก่พรหมทั้งหลายว่าแผ่นดินใหม่นี้จะบังเกิดพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เพราะได้เห็นดอกอุบล 5 ดอก ผุด ขึ้นมาเหนือน้้า งามหาที่จะอุปมามิได้ ดังนี้ 1) พระพุทธกกุสันโธ 2) พระพุทธโกนาคม 3) พระพุทธกัสสป 4) พระพุทธพระสมณโคดม 5) พระศรีอริยเมตไตรย์ สัตว์ที่มาปฏิสนธิในชมพูทวีป 1) ชลามพุชะ (ตัว) 3) สังเสทชะ (หนอน) 2) อัณฑะชะ (ไข่) 4) อุปปาติกะ (เกิดเอง) สตรีผิดจากบุรุษ 2 ประการ 1) ต่อมเลือด (มดลูก) 2) น้้านมส้าหรับบุตร *สังเกต จะแตกต่างกับคัมภีร์มหาโชตรัตน์ ซึ่งมี 4 ประการ ในคัมภีร์กล่าวว่า พระอาจารย์ของหมอชีวกโกมารภัจจ์ คือ ฤทธิยาธรดาบส ผู้เป็นผู้หยั่งรู้ลักษณะหญิง และน้้าใจสตรีทั้งดีและ ชั่ว เป็นผู้แจ้งว่าเด็กที่เกิดมาวันที่ร้ายแล้วต้องแผนซางที่ร้ายแต่เลี้ยงง่าย เพราะอาศัยน้้านมมารดา ซึ่งน้้านมสตรีมีดีและร้าย 6 จ้าพวก ดังนี้ (ดี 4 จ้าพวก ให้โทษ 2 จ้าพวก) ลักษณะหญิงที่มีน้านมให้โทษ ผู้หญิง ลักษณะ Key หญิงยักขินี กลิ่นตัวคาวดังน้้าล้างเนื้อ ลูกตาแดง เนื้อขาวเหลือง นมยาน หัวนมเล็ก เสียงพูดแหบเครือดังเสียงการ้อง ฝ่ามือและเท้ายาว ห้องตัวยาว จมูกยาว หนังริมตาหย่อน สะดือลึก สันทัดคน (ไม่พีไม่ผอม) กินของมาก เป็นหญิงมี กามแรง เด็กกินนมหญิงนี้จะเกิดโรค 1 ยักษ์นมยาน 2 เสียงการ้อง 3 กลิ่นตัวคาว หญิงหัสดี กลิ่นตัวเหมือนบุรุษ ตาแดง ผิวเนื้อขาว นมดังคอน้้าเต้า ริมฝีปากกลม เสียงแข็งดังเสียงแพะ ฝ่าเท้าใหญ่ข้างเล็กข้าง เจรจาปากไม่มิดกัน เดินไป มามักสะดุด เป็นหยิงกามแรง เด็กกินน้้านมหญิงนี้เหมือนกินยาพิษ 1 นมน้้าเต้า 2 เสียงแพะ 3 กลิ่นตัวเหมือนบุรุษ 4 นมเหมือนยาพิษ
  • 2. โดย กุญแจการแพทย์แผนไทย ลักษณะน้านมดีของหญิงเบญจกัลยานี (กลิ่น) กลิ่นตัวหญิง อาการ Key กลิ่นหอมดังกล้วยไม้ กลิ่นตัวดังกล้วยไม้ ไหล่ผาย สะเอวรัด หลังราบ ตัวด้า แก้มใส เต้านม ดังอุบลเพิ่งแย้ม ผิวเนื้อแดง เสียงสังข์ น้้านมรสหวานมัน 1 แก้มใส 2 เต้านมดังอุบล 3 เสียงดังสังข์ กลิ่นตัวดังดอกอุบล กลิ่นตัวดังดอกอุบล เสียงดังแตร ไหล่ผาย ตะโพกรัด แก้มพอง นิ้วมือ และนิ้วเท้าเรียวแฉล้ม เต้านมดังบัวบาน ผิวเนื้อเหลือง น้้านมหวาน 1 เต้านมดังบัวบาน ไม่มีกลิ่นตัว กลิ่นตัวไม่ปรากฎ (ไม่มีกลิ่นตัว) เอวกลม ขนตางอน จมูกสูง เต้านม กลม หัวนมงอนดังอุบลเพิ่งแย้ม น้้านมหวาน 1 เต้านมกลม 2 หัวนมงอน จักจั่นหอมเผ็ด กลิ่นตัวหอมเผ็ด เสียงดังจักจั่น ปากดังปากเอื้อน ตาดังตาทราย ผมแข็ง ชัน ไหล่ผาย ตะโพกผาย หน้าผากสวย ท้องดังกาบกล้วย นมพวง น้้านมขาวดังสังข์ น้้านมมันข้น 1 เต้าพวง 2 นมขาวดังสังข์ กุมารใดดื่มกิน ดุจดื่มกินโอสถทิพย์ เรียกว่า ทิพโอสถประโยธร ดุจน้้าสุรมฤต กุมารใดจะมีโรคก็อาจบ้าบัดโรคได้ เพราะน้้านม มีคุณ และมิได้แสลงโรค
  • 3. โดย กุญแจการแพทย์แผนไทย พิจารณาดูน้านมดีและร้าย ให้เอาใส่ขันลงแล้วให้แม่นมนั้นหล่อมองดู ถ้าสีและน้้านมขาวดังสังข์และจมในขัน สัณฐานเหมือนดอกลูกบัวเกาะ นมอย่างนี้ จัดเป็น น้้านมอย่างเอก ถ้าหล่อน้้านมลง และน้้านมกระจายแต่ว่าข้นจมลงถึงก้นขันแต่ไม่กลมเข้า น้้านมอย่างนี้จัดเป็น น้้านมอย่างโท ถ้ารสน้้านมเปรี้ยว ขม ฝาด จืด จาง และมีกลิ่นคาว จัดเป็นน้้านมให้โทษทั้งสิ้น ลักษณะน้านมพิการ 3 จ้าพวก 1) สตรีระดูขัด 2) สตรีอยู่ไฟมิได้และน้้านมดิบ 3) สตรีมีครรภ์อ่อน น้้านมเป็นน้้าเหลือง ไหลเป็นสายเลือดและน้้านมระคนกัน ให้ประกอบยาประจุโลหิต และรุน้้านม บ้ารุง น้้านม ให้โลหิตและน้้านมบริสุทธิ์จึงจะสิ้นโทษร้าย ถ้าน้้านมลอยเรี่ยราด ไม่คุมกันเข้า เป็นเพราะโลหิตก้าเริบ ให้แต่งยาประจุ โลหิต โลหิตจึงจะงาม น้้านมจึงจะบริบูรณ์ ลักษณะน้านมให้โทษ 3 จ้าพวก ด้วยเหตุมารดาอยู่ไฟมิได้ ท้องเขียวดังท้องค่าง 1) น้้านมจาง สีเขียวดังน้้าต้มหอยแมลงภู่ 2) น้้านมจาง มีรสเปรี้ยว 3) น้้านมเป็นฟองลอย พระอาจารย์ว่า แพทย์ทั้งหลายมิได้ถือเอาคัมภีร์ฉันทศาสตร์ - อิ่มไปด้วยโลภ - หลง - ทิฐิมานะ แพทย์เชื่อว่า มีตาอันบอดประกอบไปด้วยโทษ แพทย์ผู้ใดมิได้เรียนคัมภีร์ฉันทศาสตร์ มิได้รู้จักก้าเนิดแห่งซาง และสรรพคุณยา น้าไปเที่ยวรักษา - ด้วยใจโลภจะใคร่ได้ทรัพย์ - ถือทิฐิมานะว่าตัวรู้กว่าคนทั้งหลาย - หลงใหลถือผิดเป็นชอบ - มีความโกรธแก่ท่าน ท่านว่าหมอโกหก เมืองโสฬสมหานคร จับเอาตัวมาฆ่าเสียมาก แพทย์มิได้รู้จักก้าเนิดโรค วางยาผิดแก่โรค พระบาลีกล่าวไว้ว่า วางยาผิดโรคครั้งหนึ่ง ดุจประหารด้วยหอก วางยาผิดโรคครั้งสอง ดุจเผาด้วยไฟ วางยาผิดโรคครั้งสาม ดุจสายฟ้าฟาด (ฟ้าผ่า) อันว่าโรคก้าเริบขึ้นกว่าร้อยเท่าพันเท่า ตายแล้วจะตกนรก
  • 4. โดย กุญแจการแพทย์แผนไทย ครรภ์รักษา สตรีเมื่อตั้งครรภ์ 15 วัน หรือ 1 เดือน จะปรากฎเส้นเอ็นสีเขียวผ่านหน้าอก หัวนมด้าคล้้า และตั้งขึ้น กับมีเม้ดครอบหัวนม มารดามักจะเป็นโรคหรือมีอาการต่างๆ ต้องมียาครรภ์รักษา ใช้รักษา ป้องกัน เพื่อไม่ให้แท้งหรือตกเลือด ครรภ์วิปลาส (สาเหตุที่ท้าให้ครรภ์ตกไป : การแท้งบุตร) 1) เกิดกามวิตก หนาไปด้วยเตโชธาตุสมุฏฐาน ไฟราคะเผาผลาญแรงกล้าอยู่เป็นนิจ (ธาตุก้าเริบ) 2) กินของที่ไม่ควรกิน กินของเผ็ดร้อน ของที่กินแล้วลงท้องหรือยาที่แสลงโรคต่างๆ กินยาขับโดยตั้งใจ (ธาตุน้้าก้าเริบ) 3) โกรธท้าร้ายตัวเอง ปากร้าย จิตมีความโกรธ ท้าร้ายตัวเอง ปากร้าย ใช้ถ้อยค้าหยาบคายด่าว่าสามีหรือผู้อื่น ถูกเขาทุตี ด้วยก้าลัง 4) ปีศาจท้าโทษ ลูกในครรภ์ถูกปีศาจท้าโทษ หรือต้องศาสตราคุณไสย ครรภ์ปริมณฑล ในระยะ 10 เดือน ระหว่างตั้งครรภ์ หญิงย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บ จึงต้องจัดยาให้ แก้ไข้ แก้บิด ท้องเสีย ลงวิงเวียน แก้ไข้ร้อนๆ หนาวๆ ระส่้าระส่าย ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ยาส้าหรับครรภ์ 7-8 เดือน ยากุมารไม่ดิ้น ยาให้คลอดง่าย ยาชักมดลูก เป็นต้น ครรภ์ประสูติ ทารกคลอดจากครรภ์มารดาด้วยลมกัมมัชวาตพัดก้าเริบ เส้นและเอ็นที่รัดตัวเด็กไว้ก็คลายออกพร้อมให้ศีรษะกลับลงเบื้องต่้า ฤกษ์ยามดีก็คลอดจากครรภ์มารดา เรียกว่า ตกฟาก ระยะปฐมวัยตั้งแต่รู้ชันคอถึงรู้ย่าง จะมีลักษณะ เรียกว่า ส้ารอก 7 ประการ จะมีโรคเกิดกับทารกอยู่ก่อนหรือโรคจรมาแทรก เรียกว่า โรคทับ 8 ประการ
  • 5. โดย กุญแจการแพทย์แผนไทย ลักษณะของซาง ซางขุม กลางลิ้นขึ้นซีดขาว เป็นจุดขาวเป็นขุมที่ลิ้น ปาก กระพุ้งแก้ม เพดาน เจ็บ น้้าลายไหล ซางโจร ขึ้นในไส้พุง หัวตับ กระดูกสันหลัง ครั้นแก่นานหนักขึ้นมาดังดอกบุก ซางฝ้าย ขึ้นในลิ้น ในปาก ซางข้าว ไม่ได้อธิบาย น่าจะเป็นซางขาว คือลักษณะละอองขาว ซางช้าง ให้ลงท้อง ซางม้า ครั้นถึง 2 วัน ก็ติดกันเข้ามีสีด้าเขียวร้ายนัก ซางควาย หนังสือกองประกอบไม่ได้อธิบาย ซางควายถ้าด้าถึง 12 วันตาย ซางข้าวเปลือก เกิดในลิ้น ในปาก ดังลิ้นวัว ซางไฟ ถ้าขึ้นกลางลิ้น ลิ้นด้า และริมแดง ร้ายนัก