SlideShare a Scribd company logo
1 of 16
Download to read offline
คัมภีร์ตักศิลา
กล่าวถึงโรคซึ่งระบาดอย่างรวดเร็วเหมือนห่าลง ที่เมืองตักศิลา ในคัมภีร์ใช้คาว่า โรคไข้พิษ โรคไข้เหนือและ
โรคไข้กาฬ
ไข้พิษ มีอาการตัวร้อนเป็นเปลว ตาแดง มือเท้าเย็น มีเม็ดขึ้นตามร่างกาย
ไข้เหนือ คือ ไข้ป่า หรือเรียกว่า ไข้จตุดง (คือไข้ป่าทั้ง 4 ภาค) บางทีเรียกว่าไข้จับสั่น มีอาการจับไข้ เป็น
เวลา ตอนจับไข้จะหนาวจนตัวสั่น ปวดศรีษะ ท้องผูก มือเท้าเย็น เป็นต้น
ไข้กาฬ เมื่อจะเกิดทาให้มีพิษร้อนภายในเป็นกาลัง เมื่อมีความร้อนจะมีเม็ดแดงๆ เท่ากับตุ่มยุงกัด ตามใน
ลาไส้ ไต ปอด ม้าม ทาให้มีอาการบวมขึ้นหรือไม่ก็เหลวไป มักจะตาย ภายใน 7 หรือ 11 วัน เมื่อ
ตายกาฬจะผุดขึ้นตามผิวหนังเป็นแผ่นเป็นวง
ไข้หวัด 2 จาพวก
ชื่อ อาการ
ไข้หวัดน้อย สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปวดศรีษะมาก ระวิงระไว ไอ จาม น้ามูกตก
ไข้หวัดใหญ่ ให้สะท้านสะท้านหนาว ปวดศรีษะ ให้ไอ จาม น้ามูกตกมาก ตัวร้อน อาเจียน ปากแห้ง ปากเปรี้ยว
ปากขม กินข้าวไม่ได้ แล้วแปรไปให้ไอมาก ทาพิษให้คอแห้ง ปากแห้ง ฟันแห้ง จมูก แห้ง น้ามูก
แห้ง บางทีกระทาให้น้ามูกไหลหยดย้อย
เพราะเหตุมันสมองนั้นเหลวออกไปหยดออกจากจมูกทั้งสองข้าง ไปปะทะกับศอเสมหะ จึงทาให้ไอ ถ้ารักษา
ไม่ คลายทาให้เป็นริดสีดวง ม่องคร่อ (หวัดลงปอด) หืด ไอ และฝี 7 ประการ การรักษาไข้หวัดทั้งสองประการ
นี้ ให้ยา ลดไข้รักษาตามอาการ ให้คนไข้นอนพักผ่อนมากๆ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอ เช่น ใส่เสื้อ
หนาๆ ใช้ผ้า คลุมอก อย่าให้อาบน้าหรือถูกน้าเย็นในขณะที่มีไข้ อาหารควรให้อาหารอ่อนๆ ที่ย่อยง่าย และ
อยู่ในอากาศที่ถ่ายเท ได้สะดวก คนไข้ไม่กินยาก็หาย อาบน้าก็หายภายใน 3 วัน 5 วัน (ถ้าเป็นหวัดธรรมดา)
ในคัมภีร์ตักศิลากล่าวไว้ว่า ไข้หวัดทั้ง 2 ประการนี้ เป็นเพราะเหตุ ฤดู 3 ประการ คือ โรคเกิดแต่คนทั้งหลาย
คือ ต้อง ร้อนอย่างหนึ่ง ต้องน้าค้าง อย่างหนึ่ง ต้องละอองฝนอย่างหนึ่ง จึงทาให้เป็นไข้หวัด
ไข้กาเดา 2 จาพวก
ไข้ อาการ Key
ไข้กาเดา
น้อย
ปวดศรีษะ ตาแดง ตัวร้อนเป็นเปลว ไอ สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปากขม ปากเปรี้ยว
กินข้าวไม่ได้ อาเจียน นอนไม่หลับ
สะบัด ปวดหัว
ตัวร้อน เป็น
เปลว ตาแดง ไอ
นอนไม่หลับ
ไข้กาเดา
ใหญ่
ปวดศรีษะมาก ตาแดง ตัวร้อนเป็นเปลว ไอ สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปาก แห้ง
คอแห้งเพดานแห้ง เชื่อมมัว เมื่อยไปทั้งตัว สะบัดร้อนสะบัดหนาว ไม่เป็นเวลา บาง
ทีผุดเป็นเม็ดเท่ายุงกัดทั้งตัว แต่เม็ดนั้นยอดไม่มี บางที ให้ไอเป็นโลหิตออกมา ทาง
จมูก ทางปาก บางทีให้ชักเท้ากามือกา ถ้าแพทย์แก้ไม่หายภายใน 3 วัน 5 วัน
สาคัญว่าเป็นไข้เพื่อเส้นเพื่อลมอัมพฤกษ์และไข้สันนิบาตไม่รู้วิธีที่จะแก้ไขกาเดาก็
จะเกิดกาฬ กาฬพิพิธ กาฬพิพัธ กาฬมูตร กาฬสิงคลี ก็จะทาให้ตายได้ จึงบอกให้ผู้
ที่เรียนแพทย์ ได้รู้ซึ่งลักษณะอาการไข้กาเดามิใช่เล็กน้อย จะว่าง่ายๆเป็นไข้สาคัญ
เปรียบเมือนดวงอาทิตย์ขึ้นดวงหนึ่งของโลกนั้นพอเป็นสุข ครั้นขึ้นมาเป็น สองดวง
โลกนั้นก็กระวนกระวาย ครั้นขึ้นสามดวงสัตว์ทั้งหลายก็ตายหมด ถ้าไม่ตายภายใน
7 วัน 9 วัน 11 วัน ก็กลายเป็นสันนิบาต สาประชวร
ไข้กาเดาน้อย +
ผุด เป็นเม็ด ไม่มี
ยอดขนาด เท่า
ยุงกัด
ไข้ 3 ฤดู
ฤดู เป็นไข้เพื่อ ให้นอนละเมอเพ้อฝันไปเป็นหวัด
ม่องคร่อหิว หาแรงมิได้ ให้เจ็บปาก
เท้าเย็นมือเย็น น้าลาย มากกระหาย
น้าบ่อยๆ
Key
ไข้ในคิมหันตฤดู เดือน5–
8
โลหิต ใหญ่กว่า ลม
เสมหะ
โลหิต ลม เสมหะ
ไข้ในวสันตฤดู
เดือน9–12
ลม ใหญ่กว่า
เลือดเสมหะ
ลม เลือด เสมหะ
ไข้ในเหมันตฤดู เดือน1–
4
กาเดา ดี ใหญ่ ลม
เสมหะ
อยากเนื้อพล่าปลายาให้อยากกิน
หวานอยากกินคาวให้บิดขี้เกียจ
คร้านเป็นฝีพุพอง เจ็บข้อมือข้อเท้า
สะท้าน หนาว แพทย์ต้องวางยา
ร้อนจึงชอบกับโรค
กาเดา ดี ลม
เสมหะ
ไข้คดไข้แหงน 2 จาพวก
ชื่อ อาการ Key
ไข้คด ชักงอ จนหลังขาดตาย มีอายุได้เพียงวันเดียว
ไข้แหงน ชักแอ่น จนเส้นท้องแตกตาย
ไข้ทั้ง 2 ประการนี้ มีอายุได้เพียงวันเดียว จุดสาคัญของไข้ทั้งสองประการนี้
1) ให้เอามือกดที่เนื้อ แขน ขา ถ้าพองขึ้นไม่ตายหรือ
2) ให้เอามือล้วงคอหรือทวารหนัก ถ้ายังอุ่นอยู่ อาการพอทุเลารักษาได้
ไข้กระโดง (ไข้กาฬ) 4 จาพวก)
ชื่อ อาการ Key
ไข้กระโดง
หิน
ทาพิษต่างๆไม่รู้ที่จะบอกแก่ใครได้ทีเดียว ถ้าจะนั่งถ่าย
อุจจาระปัสสาวะแทบขาดใจตาย
ขี้เยี่ยวแทบ
ขาดใจ
ไข้กระโดงน้า อาการจับไข้นอนเชื่อมมัวไป ไม่มีสติสมปฤดี ถึงจะเอารัง มดแดงเข้า
มาเคาะกัดให้ทั่วตัวก็ไม่รู้สึกตัวเลย
จับไข้มดแดงกัดไม่รู้สึก
ไข้กระโดง
แกลบ
มีสัณฐานผุดขึ้นมาเหมือนเม็ดทรายทั่วตัว ให้คันเป็นกาลัง แม้จะเกา
ให้ทั่วตัวก็ไม่หายคัน ถึงจะเอาไม้ขูดให้โลหิต ออกไปทั้งตัวก็ไม่หาย
คัน
ผุดเม็ดทรายเอาไม้ขูด
ไม่หายคัน
ไข้กระโดงไฟ มีลักษณะเป็นพิษเหมือนเปลวไฟ เผาทั่วกาย ร้อนใน กระหายน้า
ปาก ฟัน ลิ้น คอ แห้ง
พิษเหมือนเปลวไฟเผา
กาย
โรคฝี
ในแผน
ปัจจุบัน
เกิดจากการติดเชื้อสเต็ฟฟิโลค็อกคัส มีอาการสาคัญคือ มีตุ่มเกิดขึ้น กดแล้วเจ็บ ตอนเป็น ใหม่ๆ จะ
แข็งต่อมาจะนุ่มลง และกลัดหนอง บางครั้งจะแตกเอง 1 – 2 สัปดาห์ อาการจะทุเลาเมื่อฝีแตกฝีอาจ
เกิดอาการแทรกซ้อนได้ เช่น ถ้าเข้าสู่กระแสเลือด อาจเกิดโลหิตเป็นพิษ ฝีในไต ฝีในกระดูก ฝีใน
สมอง ตายได้
ในแผน
โบราณ
มีความหมายกว้างกว่า หมายถึง การเกิดโรคอะไรก็แล้วแต่ มีอาการออกทางผิวหนังเป็นตุ่ม
เป็นยอด ถ้าฝียอดเดียว เรียกว่า ฝียอดเดียว
ถ้าฝีหลายยอด เรียกว่า ฝีดาษ
ฝีไม่มีหัว เป็นฝีที่อยู่ลึก เรียกว่า ฝีหัวคว่า
ถ้ามีอาการทางกาย เช่น ซูบผอม ตัวเหลือง เบื่ออาหาร ไอ ปวดท้อง เจ็บอก เรียกว่า ฝีภายใน (ฝี
หลบอยู่ภายใน ร่างกาย)
ฝีในความหมายของแผนโบราณครอบคลุมตั้งแต่เกิดการติดเชื้อทั่วไป พยาธิ และมะเร็ง
กาฬ 6 จาพวก
ชื่อ ลักษณะ ตาแหน่งที่เกิด
กาฬแม่ตะงาว ผุดขึ้นมายาวรี ขนาด 1 – 2 นิ้ว ขึ้นขาหนีบต้นขาในที่ลับ สองข้าง
ขึ้นตามรักแร้ ตามหลังตามอก ถ้าจะขึ้นมา ทา พิษให้สลบ ถ้าไม่รู้ถึง
โรคสาคัญว่าลมจับ ถ้าสงสัยให้เอา เทียนส่องดู
ขา
หนีบ
ที่ลับ
รัก
แร้
กาฬตะบอง
ชนวน (ไข้
ตะบองชนวน)
ผุดขึ้นมามีสัณฐานเรียวเล็กเท่าหวายตะคร้า ขนาด 1 – 2
นิ้ว ยาวรี ผุดขึ้นมาบั้นเอว ก้นกบ ขาทั้งสอง ในที่ลับ ท้องน้อย ราว
ข้าง ใต้รักแร้ ทาพิษต่างๆ ดาก็มี แดงก็มี เขียวก็มี ทาพิษให้สลบ ให้
ลิ้นกระด้าง คางแข็ง
สีดา
แดง
เขียว
กาฬตะบองพะ
ลา(ไข้ตะบอง
พลา)
ขึ้นที่ขาหนีบทั้งสองข้างในที่ลับ มีสัณฐานโตเท่า 1 นิ้ว แดงก็มี ดาก็มี
เขียวก็มี ทาพิษให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง จับ แน่นิ่งไป
กาฬฟองสมุทร
(ไข้ฟองสมุทร)
ผุดขึ้นมาตามช่องอก ตามราวนมเท่าวงสะบ้ามอญ เขียว ก็มี ดาก็มี
ขนาด 2 นิ้ว 3 นิ้ว ยาวรี
ช่องอก ราวนม
กาฬตะบอง
พระ กาฬ (ไข้
ตะบอง พระ
กาฬ)
พูดอยู่ดีๆ เดินเหินได้ ผุดขึ้นมาตามราวข้าง โตขนาดผล มะตูม ขึ้น
ตามบั้นเอว ตามข้อต่อ ตามหัวไหล่ทั้งสองข้าง ตามข้อศอกทั้งสอง
ข้าง ตามเท้าและขา ตามโคนขาทั้ง สองข้าง ตามเข่าทั้งสองข้าง บวม
ลื่นขึ้นมาทาพิษมาก จะ เคลื่อนไหวตัวไม่ได้
ราวข้าง
กาฬมะเร็ง
นาคราช
เกิดขึ้นที่หัวแม่มือทั้งสองข้าง ข้างเดียวก็มี มีสัณฐานเท่า
เม็ดถั่วเขียว เท่าเม็ดถั่วดา เท่าผลผักปลั่งก็มี เลื่อมเป็น หลังเบี้ยเท่า
ผลมะยม เท่าผลเอ็น เท่าเม็ดหินก็มี มีอาการ ให้จับสะค้านร้อน
สะค้านหนาว ให้เชื่อมมัว ให้ปวดศรีษะ ทาพิษ ที่ผุดขึ้นมาเหมือนถูก
ไฟ ให้มือดาเหมือนดินหม้อ ทาพิษให้กลุ้ม หัวใจแน่นิ่งไป ให้เร่งรักษา
ให้ดี ถ้ารักษาไม่ คลายให้มือดา
หัวแม่มือ
ฝีกาฬ เกิดแทรกในไข้พิษ 10 ประการ
ชื่อ อาการ Key
กาฬฟองสมุทร ผุดขึ้นมาเท่าเมล็ดงาเมล็ดถั่ว เมล็ดถั่วดานูน สูงขึ้นมาเป็น หลังเบี้ยก็
มี เกิดขึ้นในปากในเพดานลิ้น ถ้าขึ้นในปากทาพิษ ให้กินข้าวกินน้า
ไม่ได้ ให้จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว ให้ เชื่อมมัว ตัวร้อนเป็นเปลว
เมล็ดงา เมล็ดถั่วดา
เป็นหลัง เบี้ย ขึ้นใน
ปาก กินข้าวไม่ได้
กาฬเลี่ยมสมุทร ผุดขึ้นที่ริมฝีปากทั้งสองข้าง บางทีเป็นเม็ดเท่าเมล็ดถั่วดาก็ มี ถ้าเม็ด
แตกร้าวเป็นโลหิตไหล ทาพิษให้จับสะท้านร้อน สะท้านหนาว เชื่อม
ซึม
เมล็ดถั่วดา ริมฝีปาก
ทั้งสองข้าง
กาฬทามควาย บังเกิดแต่ต้นกรามทั้งสองข้าง มีสัณฐานยาวไปเหมือนตัว ปลิง จับ
สะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมซึม
เหมือนตัวปลิง ผุด
ขึ้นที่กรามทั้ง สอง
ข้าง
กาฬทามสมุทร เกิดบวมยาวขึ้นมาตามข้างลิ้น ขากรรไกร ตามไรฟัน ต้นลิ้น จับ
สะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมซึม
บวมยาวตามข้างล้ิน
ขากรรไกร ไรฟัน
ไข้กาฬทูม ให้บวมตามขากรรไกรทั้งสองข้าง บางทีก็บวมแต่ข้างเดียว ทาพิษให้
จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมมัว ตัวร้อนเป็น เปลว ร้อนใน
กระหายน้า
บวมตามขากรรไกร
1 หรือ 2 ข้าง
ไข้กาฬทาม เหมือนกาฬทูม แต่ผิดกันที่บวมตั้งแต่ขากรรไกร มาถึงคอทั้ง สองข้าง
อาการเหมือนไข้กาฬทูม
บวมตามขากรรไกร
มาถึงต้นคอ
ไข้มะเร็งตะมอย ผุดขึ้นมาเท่าหัวแม่มือ ผลจิงจ้อ ถ้าฐานขาวหัวดา ทาพิษหนัก บางที
ผุดขึ้นมาที่ตัวที่แขน ที่ขา ให้ยาไม่หายแตก ออกได้แล้ว ถ้าไม่ตาย
กลายเป็นมะเร็ง จับสะท้านร้อน สะท้านหนาว ให้เชื่อมมัว
ขนาดเท่าหัวแม่มือ
ฐานขาวหัว ดา ทา
พิษหนัก ผุดที่ตัว
แขน ขา
ไข้มะเร็งปาก
ทูม
ผุดขึ้นมาจากหลังทั้งสองข้าง ข้างเดียวก็มี มีสัณฐานยอด เขียว
เหมือนน้าคราม ทาพิษต่างๆ ถ้าแพทย์ให้ยาไม่หาย กลับแตกออกไป
จะลงเหมือนปากทูม ถ้าแก้ดีไม่ตาย กลายเป็นมะเร็งปากหมู
หลังข้างเดียวหรือทั้ง
สองข้าง
ยอดเขียว
ไข้มะเร็งเปลว
ไฟ
ผุดขึ้นมาเท่าวงสะบ้ายอดเขียว ทาพิษเหมือนถูกไฟไหม้ให้สลบให้
แพทย์แก้ให้ดีถ้าแตกหวะออกไปได้ตาย
วงสะบ้า ยอดเขียว
พิษเหมือน ไฟไหม้
ไข้ละลอกแก้ว เกิดในท่ามกลางพิษไข้ มีลักษณะสัณฐานเกิดเท่าผลผักปลังก็ดี เท่า
เมล็ดถั่วดาก็มี เท่าเมล็ดถั่วเขียวก็มี เป็นเงาหนองก็มี
ผลปลัง ถั่ว เป็นเงา
หนองก็มี ผุด
ท่ามกลางพิษไข้
ไข้กาฬ 10 จาพวก
ชื่อ อาการ Key
ไข้ประกายดาษ ผุดขึ้นมาเหมือนเม็ดฝีดาษทั่วทั้งตัว ทาพิษให้สลบ จับ สะท้านร้อน
สะท้านหนาว จับเท้าเย็นมือเย็น ปวดศรีษะ ตา แดงดังโลหิต เชื่อม
ซึม ปวดในเนื้อในกระดูก ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ให้หอบให้สะอึก
ผุดทั่วตัวเหมือน
ฝีดาษ ตาแดง ปวด
กระดูก หอบ สะอึก
ไข้ประกายเพลิง ผุดขึ้นมาเหมือนประกายดาษ แต่เม็ดผิดกัน เม็ดใหญ่กว่า เม็ดทราย
ขึ้นทั่วทั่งตัวเหมือนประกายดาษ ร้อนเป็นไฟ ศรีษะนั้นร้อนเป็นไฟ
เหมือนไฟลวก ทาพิษมาก
ผุดเหมือนประกาย
ดาษ แต่เม็ด ใหญ่
กว่าเม็ดทราย ศรีษะ
ร้อน เป็นไฟ
ไข้ออกหัด ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดทรายทั่วทั่งตัว มียอดแหลมๆ ถ้าหลบเข้า ไปในท้อง
ให้ลง จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมซึม
เชื่อม มัว ให้ปวดศรีษะอยู่วันหนึ่งหรือสองวัน จึงมีเม็ดผุดขึ้นมา
ผุดทั่วตัวยอดแหลม
ไข้ออกเหือด ผุดเหมือนไข้ออกหัด แต่ไข้ออกเหือดยอดไม่แหลม หัดกับ เหือด
ลักษณะคล้ายกัน
เหมือนออกหัด แต่
ยอดไม่แหลม
ไข้เริมน้าค้าง ผุดขึ้นมาเป็นแผ่น ขนาด 1-2-3-4 นิ้ว เป็นเหล่าๆ กัน มีน้า ใสๆ จับ
สะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมมัว ปวดศรีษะ
ผุดเป็นแผ่น 1 – 4
นิ้ว เป็น เหล่าๆ มีน้า
ใสๆ
ไข้เริมน้าข้าว เหมือนเริมน้าค้าง ผิดกันท่ิ เริมน้าข้าวเม็ดจะมีสีขุ่น เหมือนเริมน้าค้าง
แต่มีสีขุ่น
ไข้ลาลาบเพลิง ผุดขึ้นมาเป็นแผ่น จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว ปวดศรีษะ เชื่อมมัว
ทาพิษต่างๆ ถ้าวางยาไม่ดีน้าเหลืองแตกตาย
ผุดเป็นแผ่น วางยา
ไม่ดี น้าเหลืองแตก
ตาย
ไข้ไฟลามทุ่ง ผุดขึ้นมาเป็นแผ่นเหมือนลาลาบเพลิง แต่เป็นรวดเร็วกว่า ลาลาบ
เพลิง
เหมือนลาลาบเพลิง
แต่อาการ เป็นเร็ว
กว่า
ไข้งูสวัด (ตวัด) เป็นเม็ดทรายผุดขึ้นมาเป็นแถว มีสัณฐานเหมือนงู เป็นเม็ด พองๆ
เป็นเงาหนองก็มี ถ้าหญิงเป็นซ้าย ชายเป็นขวา และ ถ้าข้ามสันหลัง
ไป รักษาไม่ได้(ตาย) จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว บางทีให้ปวดศีรษะ
บางทีก็ไม่จับ
ผุดเป็นเม็ดทรายเป็น
แถว เหมือนงู หญิง
ซ้าย ชายขวา
ไข้กาแพงทลาย ผุดขึ้นมาหัวเดียว ทาพิษมาก จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมซึม
ร้อนในกระหายน้า ให้ฟกบวมขึ้น ถ้าน้าเหลืองแตกพังออกมา วางยา
ไม่หยุดตาย
ผุดหัวเดียว ทาพิษ
มาก
ไข้รากสาด (ไข้กาฬ) 9 จาพวก
อาการของไข้รากสาด ลักษณะ จับเท้าเย็นมือเย็น ตัวร้อนเป็นเปลว ปวดศรีษะมาก ตาแดงเป็นโลหิต จับ
เพ้อร่ารี้ ร่าไรดังปีศาจเข้าสิง ให้ชักมือกาเท้ากา ตาเหลืองตาซ้อน ร้อนเป็นตอนเย็นเป็นตอน บางทีจับ
เหมือนหลับจับตัวเย็น ให้เหงื่อตกมาก แต่ร้อนภายในเป็นกาลัง ให้หอบให้สะอึก ลิ้นกระด้าง คางแข็งให้จับ
เชื่อมมัวไม่มีสติสมปฤดี บางทีกระทาพิษภายใน ให้ลงเป็นโลหิต ไอเป็นโลหิต อาเจียนเป็นโลหิต เป็นเสมหะ
โลหิตเน่า ผุดขึ้นมาเหมือน ลายต้นกระดาษก็มีลายเหมือนงูลายสาบก็มี ลายเหมือนสายเลือดก็มี ลายเหมือน
ดีบุกก็มี
ชื่อ ลักษณะ อาการ Key
ไข้รากสาด
ปานดา
ผุดขึ้นมาเท่ากับงบน้าอ้อย ผุดทั่วทั้งตัว ปวดหัว ตัวร้อนเป็น
เปลว ตาแดงเป็น
โลหิต อาเจียน เป็น
โลหิต มือเท้าเย็น ชัก
กามือกา ลิ้นกระด้าง
ค้าง แข็ง ร้อนเป็น
ตอนเย็น เป็นตอน
เหมือนงบน้าอ้อย
ลิ้นดา
ไข้รากสาด
ปานแดง
ผุดขึ้นมาเป็นเมล็ดถั่วเล็กๆ แดงๆ เป็นหมู่มี
ขนาด 1 – 2 นิ้ว ทั้งตัว
เมล็ดถั่วเล็กๆ แดงๆ
ไข้รากสาด
ปานขาว
ผุดขึ้นมาเท่าผลพุทรา ขาวเหมือนสีน้าข้าว เช็ด
ผุดขึ้นมาทั้งตัว
พุทราสีน้าข้าวเช็ด
ไข้รากสาด
ปานเขียว
ผุดขึ้นมาเป็นหมู่ ขนาด 1 – 2 – 3 นิ้ว เขียว ดัง
สีคราม ลิ้นก็เขียว ผุดขึ้นมาทั้งตัว
เป็นหมู่ 1 – 3 นิ้ว สี
เขียวดั่งครามลิ้นเขียว
ไข้รากสาด
ปานม่วง
ผุดขึ้นมาสีดุจผลปลังสุก (ตาย) สีผลปลังสุก (ตาย)
ไข้รากสาด
ปานเหลือง
ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดเล็กๆ มีขนาด 1-2-3 นิ้ว แต่
ผิวนั้นเหลือง ลิ้นเหลือง
ผุดเม็ดเล็กๆ ลิ้น
เหลือง
ไข้รากสาด
สามสหาย
ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดเล็กๆ เหมือนเท้าสุนัขมีสี แดง
ทั่วทั้งตัว
เท้าสุนัข
ไข้รากสาด
พนันเมือง
ผุดขึ้นมาเป็นหมู่เป็นริ้วมาเหมือนตัวปลิงโต
ขนาด 1-2-3 นิ้ว ดาเหมือนดินหม้อไปทั่ว ทั้งตัว
เป็นริ้วเหมือนตัวปลิง
สีดาเหมือนดินหม้อ
ไข้รากสาด
นางแย้ม
ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดเล็กๆ ขนาด 1-2-3 นิ้ว มี
ลักษณะเหมือนดอกนางแย้ม ผุดขึ้นมาทั่ว ทั้งตัว
เม็ดเล็กๆ 1 – 3 นิ้ว
เหมือนดอกนางแย้ม
ไข้ประดง (ไข้กาฬแทรกไข้พิษ) 8 จาพวก
ไข้ประดงทั้ง 8 ประการนี้ มีอาการจับคล้ายคลึงกัน คือ จับไข้ให้เท้าเย็นมือเย็น ตัวร้อนเป็นเปลว ร้อนใน
กระหายน้า ให้หอบ ให้สะอึก ให้เมื่อยในกระดูก ให้เสียวไปทั้งตัว จับสะท้ายร้อนสะท้านหนาว ให้เชื่อมมัว
ให้ปวดศรีษะเป็นกาลัง ให้ปากขม กลุ้มอกกลุ้มใจ
ชื่อ ลักษณะ อาการ Key
ไข้ประดงมด ผุดขึ้นมาเป็นเหมือนยุงกัดทั่วตัว คัน
ทาพิษให้แสบร้อน
มีอาการ เหมือนกัน คือ
ปวดหัว ตัวร้อนเป็น เปลว
หอบ สะอึก มือเท้าเย็น
เมื่อยใน กระดูก เสียวไป
ทั้งตัว
มดกินยุง
ไข้ประดงช้าง ผุดขึ้นมาเหมือนผิวมะกรูด ทาพิษให้
แสบร้อน คัน
ช้างผิวมะกรูด
ไข้ประดงควาย ผุดขึ้นมาเหมือนเงาหนอง ทาพิษให้
ปวดแสบปวดร้อน
ควายลงหนอง
ไข้ประดงวัว ผุดขึ้นมาเหมือนผลมะยมสุก ทาพิษ
ให้ปวดแสบปวด ร้อน
วัวกินมะยม
ไข้ประดงลิง ผุดขึ้นมาเหมือนเมล็ดข้าวสารคั่ว ทา
พิษให้ปวดแสบ ปวดร้อน
ลิงกินข้าวสาร
ไข้ประดงแมว ผุดขึ้นมามีสัณฐานดังปลา ทาพิษให้
ปวดแสบปวดร้อน
แมวกินปลา
ไข้ประดงแรด ผุดขึ้นมามีสัณฐานดังหนังแรด แล้ว
ทาให้คล้าดาเป็น เกล็ดดั่งหนังแรด
ทาพิษให้ปวดแสบปวดร้อน
แรดหนังหนา
ไข้ประดงไฟ ผุดขึ้นมาเหมือนไข้ระบุชาด มีเม็ด
แดง ยอดดา จับ สะท้านร้อน
สะท้านหนาว เชื่อมซึม กระหายน้า
มาก
ไฟเป็นไข้เม็ดแดง
ยอดดา
ไข้ประดงทั้ง 8 ประการนี้ ให้วางยาดับพิษกาฬและยากระทุ้งพิษกาฬ อย่าให้พิษกลับเข้าไปใน
กระดูกได้ ถ้าวางยากระทุ้งพิษไม่ออกสิ้นเชิงกลับทาพิษคุดในข้อในกระดูก ย่อมให้กลับกลายเป็นโรคเรื้อน
เป็นพยาธิ เป็นลมจับ โป่ง ลมประโคมหิน บวมไปทุกข้อทุกลา มีพิษ ให้ไหวตัวไม่ได้ ร้อนไปทั้งกลางวันและ
กลางคืน ราวกะคอจะแตกออกไป (ประดง 7 จาพวก ยกเว้นประดงแรดอย่างเดียว) ส่วนประดงแรดนั้นแก้
พิษตกคลายได้ปีหนึ่ง แต่เม็ดยอดยังไม่หาย กลายไปทาพิษให้คัน ผิวหนังดังหนังแรด คลายลงอยู่ปีหนึ่ง แล้ว
ให้ตกโลหิต กินตับกินปอดขาดออกมาตาย
ไข้พิษไข้กาฬ 21 จาพวก
ชื่อ อาการ Key
ไข้อีดา ผุดเป็นแผ่นขนาด 1-2 นิ้ว บางทีผุดขึ้นมาเท่าใบ
เทียน ใบพุทรา ทั่วทั้งตัวผุดขึ้นเป็นสีดา ให้จับเท้า
เย็นมือเย็น ตัวร้อนเป็นเปลวเพลิง ตาแดงดังโลหิต
ปวดศรีษะ ร้อนเป็นตอนเย็นเป็นตอน ไม่เสมอกัน
บางทีจับตั้งแต่รุ่งจนเที่ยง บางทีจับตั้งแต่เที่ยงจน
ค่า หรือบางทีจับ ตั้งแต่ค่าจนรุ่ง
อีแผ่น ตาแดงมือเท้า
เย็น
ไข้อีแดง เหมือนไข้อีดา แต่ว่าเป็นเม็ดสีแดง เหมือนไข้อีดา
แต่เบากว่า
ไข้ปานดา ผุดขึ้นมาเท่าวงสะบ้ามอญ เท่าใบพุทรา ขนาด 1-2
นิ้ว ผุดขึ้นมา เป็นสีดา ขึ้นมาครึ่งตัว ถ้าผุดขึ้นมา
ทั้งตัว สีดาดังผลหว้าสุก สีดังคราม สีดาดังหมึก
อาจตายได้ จับเท้าเย็นมือเย็น บางทีมือร้อนเท้า
ร้อน ตัวร้อนเป็นเปลว ปวดศรีษะ ตาแดง ร้อนใน
อกเชื่อมซึม พิษ ทาภายใน ถ้าใช้ยากระทุ้งพิษไม่
ออก ให้ร้อนให้กระหายน้า บางที ให้ลิ้นกระด้าง
คางแข็ง
ปานบ้า ตาแดงมือ
เท้า เย็น บางทีก็ร้อน
ไข้ปานแดง เหมือนไข้ปานดา เหมือนไข้ปานดา แต่สีแดงเบา
กว่าสีดา
ไข้มหาเมฆ ผุดขึ้นมาในเนื้อยังขึ้นไม่หมด มีสัณฐานเท่าผลจิงจ้อ
สุก เป็นเงาอยู่ในเนื้อ ผุดทั้งตัวก็มี สีดาดังเมฆ สีดา
นิล กระทาพิษให้เชื่อมมัว ให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง
ให้หอบ ให้สะอึก ให้ ปากแห้ง ฟันแห้ง ให้ถ่าย
อุจจาระปัสสาวะไม่รู้สึกตัว ให้เชื่อมมัวไม่ เป็นเวลา
ไม่มีสติสมปฤดี ให้สลบ
ผุดทั้งตัวสีดาเมฆ ขี้
เยี่ยวไม่รู้ตัว
ไข้มหานิล เหมือนไข้มหาเมฆ ผุดทั้งตัวสีดานิล
ไข้ข้าวไหม้น้อย ผุดขึ้นมาเหมือนมดกัด เป็นแผ่นทั่วตัว มียอดแหลม
ขาว ให้จับตัว ร้อนเป็นเปลวไฟ ให้มือเท้าเย็น ให้
เจ็บไปทั่วสรรพางค์กาย ให้เจ็บ เนื้อในกระดูก ให้
หอบ ให้สะอึก ให้เชื่อมมัว ลิ้นกระด้าง คางแข็ง
เป็นแผ่นเหมือนมด
กัด ยอดแหลมขาว
หอบ มือเท้าเย็น
ไข้ข้าวไหม้ใหญ่ ผุดขึ้นมาเหมือนมดกัด เป็นแผ่นทั่วทั้งตัว มียอด
แหลมขาว ให้จับ สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปวดศรีษะ
มาก ตาแดงดังโลหิต เท้าเย็นมือ เย็น เจ็บเนื้อใน
กระดูก ให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง (มีพิษแรงกว่าไข้
ข้าวไหม้น้อย)
เป็นแผ่นเหมือนมด
กัด ยอดแหลมขาว
ตาแดง มือเท้าเย็น
ไข้ข้าวไหม้ใบเกรียม ผุดขึ้นมาทั้งตัว ให้ปวดในเนื้อในกระดูก ผุดขึ้นมาดัง
ลมพิษแดงดัง ผลตาลึงสุก เป็นแผ่นทั่วทั้งตัว ใหญ่
เท่า 2-3 นิ้ว ก็มีเป็นเม็ดเล็กๆ เหมือนมดกัดก็มี
แล้วกลับดา ถ้ารักษาคลายพิษแล้ว ผุดขึ้นเป็นริ้ว
กลับดาเป็นหนังแรด อยู่หกเดือนตาย ถ้าลงไปกิน
ตับกินปอดขาด ออกมาตาย ให้จับสะบัดร้อนสะบัด
หนาว ให้ปวดศรีษะมาก ตาแดง ดังโลหิต ให้ร้อน
เป็นกาลัง ให้มือเย็นเท้าเย็น ให้ทาพิษเนื้อใน
กระดูก ให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ให้หอบให้สะอึก
เป็นแผ่นเหมือน
ลมพิษ ดาเป็นหนัง
แรด หอบ ตาแดง
มือเท้าเย็น
ไข้ดานหิน ผุดขึ้นมาที่ต้นขาทั้งสองข้าง เป็นวงเขียวก็มี เป็นสี
ผลหว้า สีคราม สีตาลึงสุก หรือสีหมึก จับให้ตัวเย็น
ดังหิน ให้ร้อนในกระหายน้า ทาพิษให้ลิ้นกระด้าง
คางแข็ง ปากแห้ง คอแห้ง เชื่อมซึม ทาให้พิษ สลบ
ถ้าจะรักษา ก็ให้เร่งรักษาตั้งแต่ยังเป็นใหม่ๆ ถ้า
เปื่อยออก มาแล้ว รักษาไม่หาย
ต้นขาทั้งสองข้างเป็น
วง
เขียว จับให้ตัวเย็นดัง
หิน
ไข้กระดานหิน ผุดขึ้นมาทั่วตัวเหมือนลมพิษ แดงดังผลตาลึงสุก
เป็นเม็ดๆ เหมือน ผดแล้วกลับดาลงติดเนื้อให้คัน
จับสะบัดร้อนสะบัดหนาวให้ปวด ศรีษะมาก ให้ตา
แดงดังโลหิต ให้เท้าเย็นมือเย็น ทาพิษให้เจ็บเนื้อ
ในกระดูก ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ให้หอบให้สะอึก ถ้า
แพทย์รักษาดี พิษนั้นคลายลง แต่ถ้าผุดขึ้นนั้นไม่
หาย ต่อสามเดือนจึงตาย
ผุดทั้งตัวเหมือน
ลมพิษ หอบ ตาแดง
มือเท้า เย็น
ไข้ดาวเรือง ผุดขึ้นมาเหมือนลายโคมครึ่งลูก ให้จับมือเย็นเท้า
เย็น ให้ตัวร้อน เป็นเปลว แดงดังโลหิต ปวดศรีษะ
มาก ดังว่าตาจะแตกออกมา ให้อาเจียนเป็นกาลัง
ให้ร้อนให้กระหายน้า ให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง บางที
ทาพิษถึงสลบ
ลายโคมครึ่งลูก ปวด
ศรีษะมากดั่งตาจะ
แตก
ไข้สังวาลย์พระอินทร ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดแดงๆ เป็นแถวๆ ถ้าหญิงขึ้นซ้าย
ชายขึ้นขวา สะพายแล่งคล้ายสังวาลย์ เป็นพิษให้
หอบ ให้สะอึก ให้สะบัดร้อน สะบัดหนาว
เม็ดแดงคล้าย
สังวาลย์ หอบ สะอึก
ไข้ไฟเดือนห้า ผุดขึ้นที่อกดาก็มี แดงก็มี สีดังเปลวไฟ ให้ร้อนใน
กระหายน้า เชื่อมมัว ไม่มีสติสมปฤดี ลิ้นกระด้าง
คางแข็ง ให้สลบ
ผุดที่อก สีดาแดงดัง
เปลวไฟ
ไข้เปลวไฟฟ้า กระทาพิษให้ร้อนเป็นที่สุด ให้ร้อนเป็นเปลว จับเอา
หัวอกดา จมูก ดา หน้าดา สีเป็นควัน ให้ปาก ลิ้น
ฟันแห้ง ให้ปาก ลิ้น แตกระแหง ลิ้นดา เพดานลอก
ให้สลบ ไม่มีสติสมปฤดี
จับหน้า จมูก ลิ้น ดา
ไข้สายฟ้าฟาด ผุดเป็นริ้วลงมาตามตัว ผุดทั้งหน้าทั้งหลัง ขนาด 1-
2 นิ้ว สีแดงดัง ผลตาลึงสุก เขียวดังสีครามก็มี ดัง
ผลหว้าสุกก็มี ดังสีดินหม้อก็มี ทาพิษให้ร้อนใน
กระหายน้า ให้ปากขม ปากแห้ง ฟันแห้ง ให้ร้อน
เป็น เปลวไปทั้งตัว ให้เชื่อมมัวเป็นกาลัง ไม่มี
สมปฤดี ให้สลบ
เป็นริ้วตามตัว ผุด
หน้า หลัง
ไข้ระบุชาด ผุดขึ้นมาเป็นเมล็ด เท่าเมล็ดผักปลังก็มี เท่าเมล็ด
เทียนก็มี เท่า เมล็ดงาก็มี เป็นเหล่ากันอยู่ ขนาด 1-
2 นิ้ว สีดังชาด ขึ้นทั้งตัว ทาพิษให้เชื่อมมัว ร้อนใน
กระหายน้า ให้หอบให้สะอึก กระทาพิษต่างๆ
เมล็ดปลัง สีดังชาด
ขึ้น ทั้งตัว
ไข้สุริยสูตร เหมือนไข้จันทรสูตร ผิดกันแต่ว่าพอพระอาทิตย์ขึ้น
แล้วกระทาพิษมากขึ้น บางทีให้สลบ ถ้าพระ
อาทิตย์ตกพิษก็คลาย
พระอาทิตย์ข้ินทา
พิษ ให้สลบ
ไข้จันทรสูตร ไม่มีการผุด ต่อพระจันทร์จึงทาพิษให้สลบ ถ้า
พระจันทร์ไม่ขึ้นพิษก็ คลายลง ให้จับตัวร้อนเป็น
เปลว เท้าเย็นมือเย็น ให้เชื่อมมัวไม่ได้สติ สมปฤดี
ให้หอบ ให้สะอึก ให้จับตัวแข็งไปเหมือนท่อนไม้ ให้
ลิ้น กระด้าง คางแข็ง จับไม่เป็นเวลา
พระจันทร์ขึ้นทาพิษ
ให้ สลบ แข็งเหมือน
ท่อน ไม้
ไข้เมฆสูตร เหมือนไข้สุริยสูตร แต่ผิดกันบ้าง เวลาเกิดพายุฟ้า
ฝนเมฆตั้งขึ้นทั่วทิศ กระทาพิษให้สลบ
เกิดพายุ ทาพิษให้
สลบ
ไข้หงษ์ระทด ไม่มีการผุด แต่ให้ตัวเกรียมไปทั่วทั้งตัว ให้ตัวร้อน
เป็นเปลว เท้าเย็น มือเย็น เชื่อมซึม หอบสะอึก จับ
ตัวแข็งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ไม่เป็น
เวลา ไม่มีสติสมปฤดี
ไหม้เกรียมไปทั้งตัว
แข็งเหมือนท่อนไม้
ลักษณะการผุดเกิดขึ้นมาบางที่ไม่เจ็บไข้ สบายอยู่เป็นปกติ ไข้เกิดภายในให้ผุดขึ้นเป็นแผ่น เป็นเม็ดสีแดง สี
ดา สีเขียวก้ดี เป็นทราย ทั่วทั้งตัวก็มี ผุดได้ 1 วัน 2 วัน 3 วัน จึงล้มไข้ และใน 1 วัน 2 วัน 3 วัน นั้น ทา
พิษต่างๆ ผุดขึ้นเป็นแผ่น เป็นเม็ด ทรายขึ้นมาเป็นสีแดง สีดา สีเขียว สีคราม เป็นรอดบ้าง ตายบ้าง
ให้แพทย์ให้ยากระทุ้งพิษไข้นั้นให้สิ้นถ้ากระทุ้งพิษขึ้นไม่หมดกลับไปลงกินตับกินปอดให้ถ่ายออกเป็นโลหิต
เสมหะ บางทีให้ลงทางปัสสาวะ ให้ปิดปัสสาวะ บางทีให้อาเจียนเป็นโลหิต ให้ไอ บางทีให้ร้อนในกระหายน้า
ให้หอบ ให้สะอึก ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ให้ชักตาเหลือก ตากลับ บางทีทาพิษให้จับหัวใจ ให้นอนกรนไปไม่มี
สมปฤดี ให้จับกรนคร่อกๆ บางทีกระทาให้ปิตตะสมุฏฐานกาเริบ ให้เหลืองไปทั่วกาย ถ้าแพทย์รักษาดีก็จะ
รอด ถ้ารักษาไม่ดีก็จะตาย ให้ตรองจงหนัก พระผู้เป็นเจ้าจึงให้แพทย์ พิจารณารักษาไข้พิษ ไข้เหนือให้
ละเอียด
ถ้าไม่รู้จักไข้เหนือ ไข้พิษ ห้ามมิให้ไปรักษาเขา เห็นแก่อามิสสินจ้าง โลภจะเอาทรัพย์เขาวางยาผิดเขาตาย
ลงด้วยพิษ ยาของแพทย์ แพทย์นั้นจะตกในมหาอเวจีนรก ถ้าแพทย์ผู้ใดประกอบไปด้วยเมตตาจิต มี
สติปัญญารักษาวางยาให้ถูก กับโรค แพทย์ผู้นั้นก็จะเจริญมีโภคทรัพย์มา มีอายุยืนนาน
มีข้อห้าม 10 ประการ
1. ห้ามวางยารสร้อน เผ็ด เปรี้ยว 2. ห้ามปล่อยปลิง (ห้ามเอาโลหิตออก)
3. ห้ามถูกเหล้า 4. ห้ามถูกน้ามัน
5. ห้ามกินน้าร้อน 6. ห้ามอาบน้าร้อน
7. ห้ามกินส้มมีผิวมีควัน 8. ห้ามกะทิ น้ามัน
9. ห้ามนวด 10. ห้ามประคบ
**ถ้าไม่รู้กระทาผิดดังกล่าวมานี้ อาจเป็นอันตรายถึงตายได้
เทียบเคียงโรคแผนปัจจุบัน
โรคทางแพทย์แผนไทย โรคทางแพทย์แผนปัจจุบัน
ไข้อีดา-ไข้อีแดง Scarlet fever
(เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pyogenes)
ไข้ปานดา-ไข้ปานแดง Leptospirosis/AIDS โรคฉี่หนู
ไข้มหาเฆม ,ไข้มหานิล ,ไข้ดานหิน ,ไข้กระดานหิน ,
ไข้สายฟ้าฟาด ,ไข้เปลวไฟฟ้า ,ไข้ข้าวไหม้ใบเกรียม
,ไข้ดาวเรือง ,กาฬตะบองกาฬ
Septicemia ภาวะตือเชื้อในกระแสเลือด
Sepsis ภาวะติดเชื้อ
Septic shock ภาวะช็อก
ไข้ระบุชาด Exantrem subitem/ Roseora Infantum /Sixt
disease หัดกุหลาบ
ไข้ไฟเดือนห้า Septicemia ภาวะตือเชื้อในกระแสเลือด
Sepsis ภาวะติดเชื้อ
Septic shock ภาวะช็อก
Hyperpyrexia with sepsis Infantum /Sixt disease
ไข้หัดกุหลาบ
ไข้ข้าวไหม้น้อย ,ไข้ข้าวไหม้ใหญ่ Meningitis เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ไข้สังวาลพระอินทร์ Acute phase of Herpes zoster โรคเริมระยะ
เฉียบพลัน
ไข้หงส์ระทด Malaria (มาลาเรียจาก Plasmodium ovale )
ไข้จันทรสูตร Malaria (มาลาเรียจาก Plasmodium vivax )
ไข้สุริยะสูตร Malaria (มาลาเรียจาก Plasmodium falciparum)
ไข้เมฆสูตร Malaria (มาลาเรียจาก Plasmodium malariae)
ไข้กาแพงทะลาย Abscess with cellulitis เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ
กาฬฟองสมุทร Typhoid fever ไข้ไทรฟรอยด์
กาฬเหลี่ยมสมุทร Aphthous fever ร้อนใน
ไข้กาฬทามสมุทร ,กาฬทามสมุทร Infection in Oral cavity ความผิดปกติของเนื้อเยื่อช่อง
ปาก
กาฬทามควาย Infectious submandibular การติดเชื้อในช่องเยื่อหุ้ม
คอชั้นลึก
Sialitis ต่อมน้าลายอักเสบ
กาฬละลอกแก้ว Exanthematous fever ไข้ออกผื่น
กาฬทูม Mump โรคคางทูม
กาฬทาม Lunwing s angina/ Malignant tumor of lower jaws
การอักเสบติดเชื้อของชั้นเนื้อเยื่อในโพรงใต้คาง
ไข้มะเร็งตะมอย Deep Abscesses การติดเชื้อในช่องเยื่อหุ้มคอชั้นลึก
ไข้มะเร็งปากทูม Chronic ulcer แผลเรื้อรัง
ไข้มะเร็งเปลวไฟ Necrotic ulcer
กาฬมะเร็งนาคราช Gangrene เนื้อตายเน่า
กาฬตะบองพะลา ,กาฬตะบองชนวน Lymphoma มะเร็งต่อมน้าเหลือง
กาฬแม่ตะง้าว Fever with lymphadenitis
ไข้กระโดงไฟ ,ไข้กระโดงน้า ,ไข้กระโดงแกลบ ,ไข้
กระโดงหิน
Fever classified by four manifestation
การเกิดอาการไข้ 4 ประการ
ไข้คด Tetanus บาดทะยัก
ไข้แหงน Mengococal meningitis /Meningococcemia โรคไข้
กาฬหลังแอ่น
ไข้หวัดน้อย Common cold /Upper respiratory tract infection
URI ไข้หวัด
ไข้หวัดใหญ่ Influenza /lower respiratory tract infection LRI
ไข้หวัดใหญ่
ไข้กาเดาน้อย Pyrexia ไข้
Dengue fever (DF) ไข้เดงกี
Chigunkunya fever ไข้ชิคุนกุนยา
ไข้กาเดาใหญ่ Pyrexia ไข้
Dengue hemorrhagic fever (DHF) ไขเลือดออก
Dengue shock syndrome ไข้เลือดออกที่มีภาวะช็อค
ไข้ในคิมหันตฤดู ,ไข้ในวสันตฤดู ,ไข้ในเหมันตฤดู Seasonal fever ไข้เปลี่ยนฤดู
ไข้รากสาดน้อย Typhoid fever ,Enterric fever ไข้ไทฟรอยด์
(เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella typhi)
ไข้รากสาดใหญ่ Typhus fever ไข้ไทฟัส
(เชื้อแบคทีเรีย Rickettsia prowazekii, Rickettsia
typhi, Ricketsia felis)
ไข้หัด Measles/Rubeola virus
(เกิดจากเชื้อไวรัส Rubeola virus)
ไข้เหือด Rubella ไข้หัดเยอรมัน
(เกิดจากเชื้อไวรัส Rubella virus)
ไข้งูสวัด Herpes zoster งูสวัด
(เกิดเชื้อไวรัส วีแซดวี varicella-zoster virus)
ไข้เริมน้าค้าง-ไข้เริมน้าข้าว Herpes simplex โรคเริม
(เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex)
ไข้ลาลาบเพลิง-ไข้ไฟลามทุ่ง Erysipelas ไฟลามทุ่ง
(เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Beta-hemolytic
streptococcus group A)
ยารักษาตามคัมภีร์ตักศิลา
ชื่อยา ส่วนประกอบ วิธีใช้ สรรพคุณ
ยากระทุ้งพิษขนานที่ 1
(ยาแก้ว 5 ดวง)
รากชิงชี่
รากย่านาง
รากคนทา
รากเท้ายายม่อม
รากมะเดื่อชุมพร
ยาทั้งหมดเอาเสมอภาคกัน
รับประทานครั้งละ 2-3
ช้อนโต๊ะ
กระทุ้งพิษไข้
ขนานที่ 2 (ยาประสะผิว
ภายนอก)
ใบย่านาง
ใบมะขาม
เถาวัลย์เปรียง
เอาหนักสิ่งละเสมอภาคกัน
บดแทรกดินประสิว
ละลายน้าซาวข้าวพ่น
ถ้ายังมิดีขึ้น กระทาพิษ
ให้ตัวร้อนเป็นเปลวถ้า
ตัวร้อนจัดให้แต่งยาพ่น
ซ้าอีก
ขนานที่ 3 (ยาพ่น
ภายนอก)
เถาขี้กาแดง เอาใบและราก
เถาย่านาง เอาใบและราก
รากฟักข้าว
เอาเสมอภาคภาค
บดแทรกดินประสิว
พอควร ละลายน้าซาว
ข้าวทั้งให้กินและพ่น
ภายนอก อาการไม่ดีขึ้น
ให้ใช้ขนานที่ 4
ขนานที่ 4 ยาพ่นและยา
กิน
ใบทองหลางใบมน
เปลือกทองหลางใบมน
ข้าวสาร
เอาสิ่งละเสมอภาคกัน
บดแทรกดินประสิว ทั้ง
กินทั้งพ่น เมื่อใช้ยากิน
กระทุ้งภายในและพ่น
ภายนอกแล้ว ก็ให้กินยา
รักษาภายในด้วย
กระทุ้งภายใน
ขนานที่ 5 ยาแปรไข้ ใบมะยม
ใบคนทีสอ
ใบมะนาว
ใบหมากผู้
หญ้าแพรก
ขมิ้นอ้อย
ใบมะกรูด
ใบมะเฟือง
ใบมะตูม
ใบหมากเมีย
หญ้าปากควาย
ยาหนักสิ่งละเสมอภาคกัน
บดละลายน้าซาวข้าว
รับประทานแปรใช้จาก
ร้ายเป็นดี
ขนานที่ 6 ยาพ่นแปรผิว
ภายนอก
รังหมาร่าที่ค้างแรมปี
หญ้าแพรก
หญ้าปากควาย
ใบมะเฟือง
ยาทั้งนี้เอาเสมอภาค
บดปั้นเป้นเม็ด เอาน้า
ซาวข้าวเป้นกระส่าย
พ่นเพียง 3 ครั้งเท่านั้น
ยาครอบไข้ตักศิลา จันทน์แดง
ใบสวาด
ง้วนหมู
รากจิงจ้อ
ใบผักหวานบ้าน
ใบมะนาว
กระลาพัก
จันทน์ขาว
หัวคล้า
บดแทรกพิมเสนพอควร
ใช้น้าซาวข้าวเป็น
กระสาย
รักษาภายใน
รากสะแก
รากฟักข้าว
เถาย่านาง
กฤษณา
ขอนดอก
ยาทั้งนี้หนักสิ่งละเสมอภาค

More Related Content

What's hot

ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนานยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนานUdomsak Chundang
 
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา Newพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา NewNickson Butsriwong
 
Case study โรคลม
Case study โรคลมCase study โรคลม
Case study โรคลมtacrm
 
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยาพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยาNickson Butsriwong
 
เภสัชกรรมไทย ( ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม )
เภสัชกรรมไทย ( ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม )เภสัชกรรมไทย ( ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม )
เภสัชกรรมไทย ( ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม )Utai Sukviwatsirikul
 
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการVorawut Wongumpornpinit
 
สมุนไพรไทย
สมุนไพรไทย สมุนไพรไทย
สมุนไพรไทย porntiwa karndon
 
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาสามัญประจําบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาสามัญประจําบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาสามัญประจําบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาสามัญประจําบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖Utai Sukviwatsirikul
 
สอนการใช้สมุนไพรสำหรับนักเรียน
สอนการใช้สมุนไพรสำหรับนักเรียนสอนการใช้สมุนไพรสำหรับนักเรียน
สอนการใช้สมุนไพรสำหรับนักเรียนduangkaew
 
สมุนไพรใกล้ตัว
สมุนไพรใกล้ตัวสมุนไพรใกล้ตัว
สมุนไพรใกล้ตัวThanyalak Chanmai
 
ติวสมุนไพรสด
ติวสมุนไพรสดติวสมุนไพรสด
ติวสมุนไพรสดMa' Nor
 

What's hot (20)

Con1
Con1Con1
Con1
 
Con18
Con18Con18
Con18
 
Con16
Con16Con16
Con16
 
Con10
Con10Con10
Con10
 
Con3
Con3Con3
Con3
 
Con12
Con12Con12
Con12
 
Con21
Con21Con21
Con21
 
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนานยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
 
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา Newพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
 
Case study โรคลม
Case study โรคลมCase study โรคลม
Case study โรคลม
 
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยาพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
 
Con19
Con19Con19
Con19
 
เภสัชกรรมไทย ( ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม )
เภสัชกรรมไทย ( ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม )เภสัชกรรมไทย ( ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม )
เภสัชกรรมไทย ( ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม )
 
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
 
สมุนไพรไทย
สมุนไพรไทย สมุนไพรไทย
สมุนไพรไทย
 
Herb
HerbHerb
Herb
 
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาสามัญประจําบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาสามัญประจําบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาสามัญประจําบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาสามัญประจําบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖
 
สอนการใช้สมุนไพรสำหรับนักเรียน
สอนการใช้สมุนไพรสำหรับนักเรียนสอนการใช้สมุนไพรสำหรับนักเรียน
สอนการใช้สมุนไพรสำหรับนักเรียน
 
สมุนไพรใกล้ตัว
สมุนไพรใกล้ตัวสมุนไพรใกล้ตัว
สมุนไพรใกล้ตัว
 
ติวสมุนไพรสด
ติวสมุนไพรสดติวสมุนไพรสด
ติวสมุนไพรสด
 

Con6

  • 1. คัมภีร์ตักศิลา กล่าวถึงโรคซึ่งระบาดอย่างรวดเร็วเหมือนห่าลง ที่เมืองตักศิลา ในคัมภีร์ใช้คาว่า โรคไข้พิษ โรคไข้เหนือและ โรคไข้กาฬ ไข้พิษ มีอาการตัวร้อนเป็นเปลว ตาแดง มือเท้าเย็น มีเม็ดขึ้นตามร่างกาย ไข้เหนือ คือ ไข้ป่า หรือเรียกว่า ไข้จตุดง (คือไข้ป่าทั้ง 4 ภาค) บางทีเรียกว่าไข้จับสั่น มีอาการจับไข้ เป็น เวลา ตอนจับไข้จะหนาวจนตัวสั่น ปวดศรีษะ ท้องผูก มือเท้าเย็น เป็นต้น ไข้กาฬ เมื่อจะเกิดทาให้มีพิษร้อนภายในเป็นกาลัง เมื่อมีความร้อนจะมีเม็ดแดงๆ เท่ากับตุ่มยุงกัด ตามใน ลาไส้ ไต ปอด ม้าม ทาให้มีอาการบวมขึ้นหรือไม่ก็เหลวไป มักจะตาย ภายใน 7 หรือ 11 วัน เมื่อ ตายกาฬจะผุดขึ้นตามผิวหนังเป็นแผ่นเป็นวง ไข้หวัด 2 จาพวก ชื่อ อาการ ไข้หวัดน้อย สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปวดศรีษะมาก ระวิงระไว ไอ จาม น้ามูกตก ไข้หวัดใหญ่ ให้สะท้านสะท้านหนาว ปวดศรีษะ ให้ไอ จาม น้ามูกตกมาก ตัวร้อน อาเจียน ปากแห้ง ปากเปรี้ยว ปากขม กินข้าวไม่ได้ แล้วแปรไปให้ไอมาก ทาพิษให้คอแห้ง ปากแห้ง ฟันแห้ง จมูก แห้ง น้ามูก แห้ง บางทีกระทาให้น้ามูกไหลหยดย้อย เพราะเหตุมันสมองนั้นเหลวออกไปหยดออกจากจมูกทั้งสองข้าง ไปปะทะกับศอเสมหะ จึงทาให้ไอ ถ้ารักษา ไม่ คลายทาให้เป็นริดสีดวง ม่องคร่อ (หวัดลงปอด) หืด ไอ และฝี 7 ประการ การรักษาไข้หวัดทั้งสองประการ นี้ ให้ยา ลดไข้รักษาตามอาการ ให้คนไข้นอนพักผ่อนมากๆ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอ เช่น ใส่เสื้อ หนาๆ ใช้ผ้า คลุมอก อย่าให้อาบน้าหรือถูกน้าเย็นในขณะที่มีไข้ อาหารควรให้อาหารอ่อนๆ ที่ย่อยง่าย และ อยู่ในอากาศที่ถ่ายเท ได้สะดวก คนไข้ไม่กินยาก็หาย อาบน้าก็หายภายใน 3 วัน 5 วัน (ถ้าเป็นหวัดธรรมดา) ในคัมภีร์ตักศิลากล่าวไว้ว่า ไข้หวัดทั้ง 2 ประการนี้ เป็นเพราะเหตุ ฤดู 3 ประการ คือ โรคเกิดแต่คนทั้งหลาย คือ ต้อง ร้อนอย่างหนึ่ง ต้องน้าค้าง อย่างหนึ่ง ต้องละอองฝนอย่างหนึ่ง จึงทาให้เป็นไข้หวัด
  • 2. ไข้กาเดา 2 จาพวก ไข้ อาการ Key ไข้กาเดา น้อย ปวดศรีษะ ตาแดง ตัวร้อนเป็นเปลว ไอ สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปากขม ปากเปรี้ยว กินข้าวไม่ได้ อาเจียน นอนไม่หลับ สะบัด ปวดหัว ตัวร้อน เป็น เปลว ตาแดง ไอ นอนไม่หลับ ไข้กาเดา ใหญ่ ปวดศรีษะมาก ตาแดง ตัวร้อนเป็นเปลว ไอ สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปาก แห้ง คอแห้งเพดานแห้ง เชื่อมมัว เมื่อยไปทั้งตัว สะบัดร้อนสะบัดหนาว ไม่เป็นเวลา บาง ทีผุดเป็นเม็ดเท่ายุงกัดทั้งตัว แต่เม็ดนั้นยอดไม่มี บางที ให้ไอเป็นโลหิตออกมา ทาง จมูก ทางปาก บางทีให้ชักเท้ากามือกา ถ้าแพทย์แก้ไม่หายภายใน 3 วัน 5 วัน สาคัญว่าเป็นไข้เพื่อเส้นเพื่อลมอัมพฤกษ์และไข้สันนิบาตไม่รู้วิธีที่จะแก้ไขกาเดาก็ จะเกิดกาฬ กาฬพิพิธ กาฬพิพัธ กาฬมูตร กาฬสิงคลี ก็จะทาให้ตายได้ จึงบอกให้ผู้ ที่เรียนแพทย์ ได้รู้ซึ่งลักษณะอาการไข้กาเดามิใช่เล็กน้อย จะว่าง่ายๆเป็นไข้สาคัญ เปรียบเมือนดวงอาทิตย์ขึ้นดวงหนึ่งของโลกนั้นพอเป็นสุข ครั้นขึ้นมาเป็น สองดวง โลกนั้นก็กระวนกระวาย ครั้นขึ้นสามดวงสัตว์ทั้งหลายก็ตายหมด ถ้าไม่ตายภายใน 7 วัน 9 วัน 11 วัน ก็กลายเป็นสันนิบาต สาประชวร ไข้กาเดาน้อย + ผุด เป็นเม็ด ไม่มี ยอดขนาด เท่า ยุงกัด ไข้ 3 ฤดู ฤดู เป็นไข้เพื่อ ให้นอนละเมอเพ้อฝันไปเป็นหวัด ม่องคร่อหิว หาแรงมิได้ ให้เจ็บปาก เท้าเย็นมือเย็น น้าลาย มากกระหาย น้าบ่อยๆ Key ไข้ในคิมหันตฤดู เดือน5– 8 โลหิต ใหญ่กว่า ลม เสมหะ โลหิต ลม เสมหะ ไข้ในวสันตฤดู เดือน9–12 ลม ใหญ่กว่า เลือดเสมหะ ลม เลือด เสมหะ ไข้ในเหมันตฤดู เดือน1– 4 กาเดา ดี ใหญ่ ลม เสมหะ อยากเนื้อพล่าปลายาให้อยากกิน หวานอยากกินคาวให้บิดขี้เกียจ คร้านเป็นฝีพุพอง เจ็บข้อมือข้อเท้า สะท้าน หนาว แพทย์ต้องวางยา ร้อนจึงชอบกับโรค กาเดา ดี ลม เสมหะ
  • 3. ไข้คดไข้แหงน 2 จาพวก ชื่อ อาการ Key ไข้คด ชักงอ จนหลังขาดตาย มีอายุได้เพียงวันเดียว ไข้แหงน ชักแอ่น จนเส้นท้องแตกตาย ไข้ทั้ง 2 ประการนี้ มีอายุได้เพียงวันเดียว จุดสาคัญของไข้ทั้งสองประการนี้ 1) ให้เอามือกดที่เนื้อ แขน ขา ถ้าพองขึ้นไม่ตายหรือ 2) ให้เอามือล้วงคอหรือทวารหนัก ถ้ายังอุ่นอยู่ อาการพอทุเลารักษาได้ ไข้กระโดง (ไข้กาฬ) 4 จาพวก) ชื่อ อาการ Key ไข้กระโดง หิน ทาพิษต่างๆไม่รู้ที่จะบอกแก่ใครได้ทีเดียว ถ้าจะนั่งถ่าย อุจจาระปัสสาวะแทบขาดใจตาย ขี้เยี่ยวแทบ ขาดใจ ไข้กระโดงน้า อาการจับไข้นอนเชื่อมมัวไป ไม่มีสติสมปฤดี ถึงจะเอารัง มดแดงเข้า มาเคาะกัดให้ทั่วตัวก็ไม่รู้สึกตัวเลย จับไข้มดแดงกัดไม่รู้สึก ไข้กระโดง แกลบ มีสัณฐานผุดขึ้นมาเหมือนเม็ดทรายทั่วตัว ให้คันเป็นกาลัง แม้จะเกา ให้ทั่วตัวก็ไม่หายคัน ถึงจะเอาไม้ขูดให้โลหิต ออกไปทั้งตัวก็ไม่หาย คัน ผุดเม็ดทรายเอาไม้ขูด ไม่หายคัน ไข้กระโดงไฟ มีลักษณะเป็นพิษเหมือนเปลวไฟ เผาทั่วกาย ร้อนใน กระหายน้า ปาก ฟัน ลิ้น คอ แห้ง พิษเหมือนเปลวไฟเผา กาย โรคฝี ในแผน ปัจจุบัน เกิดจากการติดเชื้อสเต็ฟฟิโลค็อกคัส มีอาการสาคัญคือ มีตุ่มเกิดขึ้น กดแล้วเจ็บ ตอนเป็น ใหม่ๆ จะ แข็งต่อมาจะนุ่มลง และกลัดหนอง บางครั้งจะแตกเอง 1 – 2 สัปดาห์ อาการจะทุเลาเมื่อฝีแตกฝีอาจ เกิดอาการแทรกซ้อนได้ เช่น ถ้าเข้าสู่กระแสเลือด อาจเกิดโลหิตเป็นพิษ ฝีในไต ฝีในกระดูก ฝีใน สมอง ตายได้ ในแผน โบราณ มีความหมายกว้างกว่า หมายถึง การเกิดโรคอะไรก็แล้วแต่ มีอาการออกทางผิวหนังเป็นตุ่ม เป็นยอด ถ้าฝียอดเดียว เรียกว่า ฝียอดเดียว ถ้าฝีหลายยอด เรียกว่า ฝีดาษ ฝีไม่มีหัว เป็นฝีที่อยู่ลึก เรียกว่า ฝีหัวคว่า ถ้ามีอาการทางกาย เช่น ซูบผอม ตัวเหลือง เบื่ออาหาร ไอ ปวดท้อง เจ็บอก เรียกว่า ฝีภายใน (ฝี หลบอยู่ภายใน ร่างกาย) ฝีในความหมายของแผนโบราณครอบคลุมตั้งแต่เกิดการติดเชื้อทั่วไป พยาธิ และมะเร็ง
  • 4. กาฬ 6 จาพวก ชื่อ ลักษณะ ตาแหน่งที่เกิด กาฬแม่ตะงาว ผุดขึ้นมายาวรี ขนาด 1 – 2 นิ้ว ขึ้นขาหนีบต้นขาในที่ลับ สองข้าง ขึ้นตามรักแร้ ตามหลังตามอก ถ้าจะขึ้นมา ทา พิษให้สลบ ถ้าไม่รู้ถึง โรคสาคัญว่าลมจับ ถ้าสงสัยให้เอา เทียนส่องดู ขา หนีบ ที่ลับ รัก แร้ กาฬตะบอง ชนวน (ไข้ ตะบองชนวน) ผุดขึ้นมามีสัณฐานเรียวเล็กเท่าหวายตะคร้า ขนาด 1 – 2 นิ้ว ยาวรี ผุดขึ้นมาบั้นเอว ก้นกบ ขาทั้งสอง ในที่ลับ ท้องน้อย ราว ข้าง ใต้รักแร้ ทาพิษต่างๆ ดาก็มี แดงก็มี เขียวก็มี ทาพิษให้สลบ ให้ ลิ้นกระด้าง คางแข็ง สีดา แดง เขียว กาฬตะบองพะ ลา(ไข้ตะบอง พลา) ขึ้นที่ขาหนีบทั้งสองข้างในที่ลับ มีสัณฐานโตเท่า 1 นิ้ว แดงก็มี ดาก็มี เขียวก็มี ทาพิษให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง จับ แน่นิ่งไป กาฬฟองสมุทร (ไข้ฟองสมุทร) ผุดขึ้นมาตามช่องอก ตามราวนมเท่าวงสะบ้ามอญ เขียว ก็มี ดาก็มี ขนาด 2 นิ้ว 3 นิ้ว ยาวรี ช่องอก ราวนม กาฬตะบอง พระ กาฬ (ไข้ ตะบอง พระ กาฬ) พูดอยู่ดีๆ เดินเหินได้ ผุดขึ้นมาตามราวข้าง โตขนาดผล มะตูม ขึ้น ตามบั้นเอว ตามข้อต่อ ตามหัวไหล่ทั้งสองข้าง ตามข้อศอกทั้งสอง ข้าง ตามเท้าและขา ตามโคนขาทั้ง สองข้าง ตามเข่าทั้งสองข้าง บวม ลื่นขึ้นมาทาพิษมาก จะ เคลื่อนไหวตัวไม่ได้ ราวข้าง กาฬมะเร็ง นาคราช เกิดขึ้นที่หัวแม่มือทั้งสองข้าง ข้างเดียวก็มี มีสัณฐานเท่า เม็ดถั่วเขียว เท่าเม็ดถั่วดา เท่าผลผักปลั่งก็มี เลื่อมเป็น หลังเบี้ยเท่า ผลมะยม เท่าผลเอ็น เท่าเม็ดหินก็มี มีอาการ ให้จับสะค้านร้อน สะค้านหนาว ให้เชื่อมมัว ให้ปวดศรีษะ ทาพิษ ที่ผุดขึ้นมาเหมือนถูก ไฟ ให้มือดาเหมือนดินหม้อ ทาพิษให้กลุ้ม หัวใจแน่นิ่งไป ให้เร่งรักษา ให้ดี ถ้ารักษาไม่ คลายให้มือดา หัวแม่มือ
  • 5. ฝีกาฬ เกิดแทรกในไข้พิษ 10 ประการ ชื่อ อาการ Key กาฬฟองสมุทร ผุดขึ้นมาเท่าเมล็ดงาเมล็ดถั่ว เมล็ดถั่วดานูน สูงขึ้นมาเป็น หลังเบี้ยก็ มี เกิดขึ้นในปากในเพดานลิ้น ถ้าขึ้นในปากทาพิษ ให้กินข้าวกินน้า ไม่ได้ ให้จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว ให้ เชื่อมมัว ตัวร้อนเป็นเปลว เมล็ดงา เมล็ดถั่วดา เป็นหลัง เบี้ย ขึ้นใน ปาก กินข้าวไม่ได้ กาฬเลี่ยมสมุทร ผุดขึ้นที่ริมฝีปากทั้งสองข้าง บางทีเป็นเม็ดเท่าเมล็ดถั่วดาก็ มี ถ้าเม็ด แตกร้าวเป็นโลหิตไหล ทาพิษให้จับสะท้านร้อน สะท้านหนาว เชื่อม ซึม เมล็ดถั่วดา ริมฝีปาก ทั้งสองข้าง กาฬทามควาย บังเกิดแต่ต้นกรามทั้งสองข้าง มีสัณฐานยาวไปเหมือนตัว ปลิง จับ สะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมซึม เหมือนตัวปลิง ผุด ขึ้นที่กรามทั้ง สอง ข้าง กาฬทามสมุทร เกิดบวมยาวขึ้นมาตามข้างลิ้น ขากรรไกร ตามไรฟัน ต้นลิ้น จับ สะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมซึม บวมยาวตามข้างล้ิน ขากรรไกร ไรฟัน ไข้กาฬทูม ให้บวมตามขากรรไกรทั้งสองข้าง บางทีก็บวมแต่ข้างเดียว ทาพิษให้ จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมมัว ตัวร้อนเป็น เปลว ร้อนใน กระหายน้า บวมตามขากรรไกร 1 หรือ 2 ข้าง ไข้กาฬทาม เหมือนกาฬทูม แต่ผิดกันที่บวมตั้งแต่ขากรรไกร มาถึงคอทั้ง สองข้าง อาการเหมือนไข้กาฬทูม บวมตามขากรรไกร มาถึงต้นคอ ไข้มะเร็งตะมอย ผุดขึ้นมาเท่าหัวแม่มือ ผลจิงจ้อ ถ้าฐานขาวหัวดา ทาพิษหนัก บางที ผุดขึ้นมาที่ตัวที่แขน ที่ขา ให้ยาไม่หายแตก ออกได้แล้ว ถ้าไม่ตาย กลายเป็นมะเร็ง จับสะท้านร้อน สะท้านหนาว ให้เชื่อมมัว ขนาดเท่าหัวแม่มือ ฐานขาวหัว ดา ทา พิษหนัก ผุดที่ตัว แขน ขา ไข้มะเร็งปาก ทูม ผุดขึ้นมาจากหลังทั้งสองข้าง ข้างเดียวก็มี มีสัณฐานยอด เขียว เหมือนน้าคราม ทาพิษต่างๆ ถ้าแพทย์ให้ยาไม่หาย กลับแตกออกไป จะลงเหมือนปากทูม ถ้าแก้ดีไม่ตาย กลายเป็นมะเร็งปากหมู หลังข้างเดียวหรือทั้ง สองข้าง ยอดเขียว ไข้มะเร็งเปลว ไฟ ผุดขึ้นมาเท่าวงสะบ้ายอดเขียว ทาพิษเหมือนถูกไฟไหม้ให้สลบให้ แพทย์แก้ให้ดีถ้าแตกหวะออกไปได้ตาย วงสะบ้า ยอดเขียว พิษเหมือน ไฟไหม้ ไข้ละลอกแก้ว เกิดในท่ามกลางพิษไข้ มีลักษณะสัณฐานเกิดเท่าผลผักปลังก็ดี เท่า เมล็ดถั่วดาก็มี เท่าเมล็ดถั่วเขียวก็มี เป็นเงาหนองก็มี ผลปลัง ถั่ว เป็นเงา หนองก็มี ผุด ท่ามกลางพิษไข้
  • 6. ไข้กาฬ 10 จาพวก ชื่อ อาการ Key ไข้ประกายดาษ ผุดขึ้นมาเหมือนเม็ดฝีดาษทั่วทั้งตัว ทาพิษให้สลบ จับ สะท้านร้อน สะท้านหนาว จับเท้าเย็นมือเย็น ปวดศรีษะ ตา แดงดังโลหิต เชื่อม ซึม ปวดในเนื้อในกระดูก ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ให้หอบให้สะอึก ผุดทั่วตัวเหมือน ฝีดาษ ตาแดง ปวด กระดูก หอบ สะอึก ไข้ประกายเพลิง ผุดขึ้นมาเหมือนประกายดาษ แต่เม็ดผิดกัน เม็ดใหญ่กว่า เม็ดทราย ขึ้นทั่วทั่งตัวเหมือนประกายดาษ ร้อนเป็นไฟ ศรีษะนั้นร้อนเป็นไฟ เหมือนไฟลวก ทาพิษมาก ผุดเหมือนประกาย ดาษ แต่เม็ด ใหญ่ กว่าเม็ดทราย ศรีษะ ร้อน เป็นไฟ ไข้ออกหัด ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดทรายทั่วทั่งตัว มียอดแหลมๆ ถ้าหลบเข้า ไปในท้อง ให้ลง จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมซึม เชื่อม มัว ให้ปวดศรีษะอยู่วันหนึ่งหรือสองวัน จึงมีเม็ดผุดขึ้นมา ผุดทั่วตัวยอดแหลม ไข้ออกเหือด ผุดเหมือนไข้ออกหัด แต่ไข้ออกเหือดยอดไม่แหลม หัดกับ เหือด ลักษณะคล้ายกัน เหมือนออกหัด แต่ ยอดไม่แหลม ไข้เริมน้าค้าง ผุดขึ้นมาเป็นแผ่น ขนาด 1-2-3-4 นิ้ว เป็นเหล่าๆ กัน มีน้า ใสๆ จับ สะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมมัว ปวดศรีษะ ผุดเป็นแผ่น 1 – 4 นิ้ว เป็น เหล่าๆ มีน้า ใสๆ ไข้เริมน้าข้าว เหมือนเริมน้าค้าง ผิดกันท่ิ เริมน้าข้าวเม็ดจะมีสีขุ่น เหมือนเริมน้าค้าง แต่มีสีขุ่น ไข้ลาลาบเพลิง ผุดขึ้นมาเป็นแผ่น จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว ปวดศรีษะ เชื่อมมัว ทาพิษต่างๆ ถ้าวางยาไม่ดีน้าเหลืองแตกตาย ผุดเป็นแผ่น วางยา ไม่ดี น้าเหลืองแตก ตาย ไข้ไฟลามทุ่ง ผุดขึ้นมาเป็นแผ่นเหมือนลาลาบเพลิง แต่เป็นรวดเร็วกว่า ลาลาบ เพลิง เหมือนลาลาบเพลิง แต่อาการ เป็นเร็ว กว่า ไข้งูสวัด (ตวัด) เป็นเม็ดทรายผุดขึ้นมาเป็นแถว มีสัณฐานเหมือนงู เป็นเม็ด พองๆ เป็นเงาหนองก็มี ถ้าหญิงเป็นซ้าย ชายเป็นขวา และ ถ้าข้ามสันหลัง ไป รักษาไม่ได้(ตาย) จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว บางทีให้ปวดศีรษะ บางทีก็ไม่จับ ผุดเป็นเม็ดทรายเป็น แถว เหมือนงู หญิง ซ้าย ชายขวา ไข้กาแพงทลาย ผุดขึ้นมาหัวเดียว ทาพิษมาก จับสะท้านร้อนสะท้านหนาว เชื่อมซึม ร้อนในกระหายน้า ให้ฟกบวมขึ้น ถ้าน้าเหลืองแตกพังออกมา วางยา ไม่หยุดตาย ผุดหัวเดียว ทาพิษ มาก
  • 7. ไข้รากสาด (ไข้กาฬ) 9 จาพวก อาการของไข้รากสาด ลักษณะ จับเท้าเย็นมือเย็น ตัวร้อนเป็นเปลว ปวดศรีษะมาก ตาแดงเป็นโลหิต จับ เพ้อร่ารี้ ร่าไรดังปีศาจเข้าสิง ให้ชักมือกาเท้ากา ตาเหลืองตาซ้อน ร้อนเป็นตอนเย็นเป็นตอน บางทีจับ เหมือนหลับจับตัวเย็น ให้เหงื่อตกมาก แต่ร้อนภายในเป็นกาลัง ให้หอบให้สะอึก ลิ้นกระด้าง คางแข็งให้จับ เชื่อมมัวไม่มีสติสมปฤดี บางทีกระทาพิษภายใน ให้ลงเป็นโลหิต ไอเป็นโลหิต อาเจียนเป็นโลหิต เป็นเสมหะ โลหิตเน่า ผุดขึ้นมาเหมือน ลายต้นกระดาษก็มีลายเหมือนงูลายสาบก็มี ลายเหมือนสายเลือดก็มี ลายเหมือน ดีบุกก็มี ชื่อ ลักษณะ อาการ Key ไข้รากสาด ปานดา ผุดขึ้นมาเท่ากับงบน้าอ้อย ผุดทั่วทั้งตัว ปวดหัว ตัวร้อนเป็น เปลว ตาแดงเป็น โลหิต อาเจียน เป็น โลหิต มือเท้าเย็น ชัก กามือกา ลิ้นกระด้าง ค้าง แข็ง ร้อนเป็น ตอนเย็น เป็นตอน เหมือนงบน้าอ้อย ลิ้นดา ไข้รากสาด ปานแดง ผุดขึ้นมาเป็นเมล็ดถั่วเล็กๆ แดงๆ เป็นหมู่มี ขนาด 1 – 2 นิ้ว ทั้งตัว เมล็ดถั่วเล็กๆ แดงๆ ไข้รากสาด ปานขาว ผุดขึ้นมาเท่าผลพุทรา ขาวเหมือนสีน้าข้าว เช็ด ผุดขึ้นมาทั้งตัว พุทราสีน้าข้าวเช็ด ไข้รากสาด ปานเขียว ผุดขึ้นมาเป็นหมู่ ขนาด 1 – 2 – 3 นิ้ว เขียว ดัง สีคราม ลิ้นก็เขียว ผุดขึ้นมาทั้งตัว เป็นหมู่ 1 – 3 นิ้ว สี เขียวดั่งครามลิ้นเขียว ไข้รากสาด ปานม่วง ผุดขึ้นมาสีดุจผลปลังสุก (ตาย) สีผลปลังสุก (ตาย) ไข้รากสาด ปานเหลือง ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดเล็กๆ มีขนาด 1-2-3 นิ้ว แต่ ผิวนั้นเหลือง ลิ้นเหลือง ผุดเม็ดเล็กๆ ลิ้น เหลือง ไข้รากสาด สามสหาย ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดเล็กๆ เหมือนเท้าสุนัขมีสี แดง ทั่วทั้งตัว เท้าสุนัข ไข้รากสาด พนันเมือง ผุดขึ้นมาเป็นหมู่เป็นริ้วมาเหมือนตัวปลิงโต ขนาด 1-2-3 นิ้ว ดาเหมือนดินหม้อไปทั่ว ทั้งตัว เป็นริ้วเหมือนตัวปลิง สีดาเหมือนดินหม้อ ไข้รากสาด นางแย้ม ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดเล็กๆ ขนาด 1-2-3 นิ้ว มี ลักษณะเหมือนดอกนางแย้ม ผุดขึ้นมาทั่ว ทั้งตัว เม็ดเล็กๆ 1 – 3 นิ้ว เหมือนดอกนางแย้ม
  • 8. ไข้ประดง (ไข้กาฬแทรกไข้พิษ) 8 จาพวก ไข้ประดงทั้ง 8 ประการนี้ มีอาการจับคล้ายคลึงกัน คือ จับไข้ให้เท้าเย็นมือเย็น ตัวร้อนเป็นเปลว ร้อนใน กระหายน้า ให้หอบ ให้สะอึก ให้เมื่อยในกระดูก ให้เสียวไปทั้งตัว จับสะท้ายร้อนสะท้านหนาว ให้เชื่อมมัว ให้ปวดศรีษะเป็นกาลัง ให้ปากขม กลุ้มอกกลุ้มใจ ชื่อ ลักษณะ อาการ Key ไข้ประดงมด ผุดขึ้นมาเป็นเหมือนยุงกัดทั่วตัว คัน ทาพิษให้แสบร้อน มีอาการ เหมือนกัน คือ ปวดหัว ตัวร้อนเป็น เปลว หอบ สะอึก มือเท้าเย็น เมื่อยใน กระดูก เสียวไป ทั้งตัว มดกินยุง ไข้ประดงช้าง ผุดขึ้นมาเหมือนผิวมะกรูด ทาพิษให้ แสบร้อน คัน ช้างผิวมะกรูด ไข้ประดงควาย ผุดขึ้นมาเหมือนเงาหนอง ทาพิษให้ ปวดแสบปวดร้อน ควายลงหนอง ไข้ประดงวัว ผุดขึ้นมาเหมือนผลมะยมสุก ทาพิษ ให้ปวดแสบปวด ร้อน วัวกินมะยม ไข้ประดงลิง ผุดขึ้นมาเหมือนเมล็ดข้าวสารคั่ว ทา พิษให้ปวดแสบ ปวดร้อน ลิงกินข้าวสาร ไข้ประดงแมว ผุดขึ้นมามีสัณฐานดังปลา ทาพิษให้ ปวดแสบปวดร้อน แมวกินปลา ไข้ประดงแรด ผุดขึ้นมามีสัณฐานดังหนังแรด แล้ว ทาให้คล้าดาเป็น เกล็ดดั่งหนังแรด ทาพิษให้ปวดแสบปวดร้อน แรดหนังหนา ไข้ประดงไฟ ผุดขึ้นมาเหมือนไข้ระบุชาด มีเม็ด แดง ยอดดา จับ สะท้านร้อน สะท้านหนาว เชื่อมซึม กระหายน้า มาก ไฟเป็นไข้เม็ดแดง ยอดดา ไข้ประดงทั้ง 8 ประการนี้ ให้วางยาดับพิษกาฬและยากระทุ้งพิษกาฬ อย่าให้พิษกลับเข้าไปใน กระดูกได้ ถ้าวางยากระทุ้งพิษไม่ออกสิ้นเชิงกลับทาพิษคุดในข้อในกระดูก ย่อมให้กลับกลายเป็นโรคเรื้อน เป็นพยาธิ เป็นลมจับ โป่ง ลมประโคมหิน บวมไปทุกข้อทุกลา มีพิษ ให้ไหวตัวไม่ได้ ร้อนไปทั้งกลางวันและ กลางคืน ราวกะคอจะแตกออกไป (ประดง 7 จาพวก ยกเว้นประดงแรดอย่างเดียว) ส่วนประดงแรดนั้นแก้ พิษตกคลายได้ปีหนึ่ง แต่เม็ดยอดยังไม่หาย กลายไปทาพิษให้คัน ผิวหนังดังหนังแรด คลายลงอยู่ปีหนึ่ง แล้ว ให้ตกโลหิต กินตับกินปอดขาดออกมาตาย
  • 9. ไข้พิษไข้กาฬ 21 จาพวก ชื่อ อาการ Key ไข้อีดา ผุดเป็นแผ่นขนาด 1-2 นิ้ว บางทีผุดขึ้นมาเท่าใบ เทียน ใบพุทรา ทั่วทั้งตัวผุดขึ้นเป็นสีดา ให้จับเท้า เย็นมือเย็น ตัวร้อนเป็นเปลวเพลิง ตาแดงดังโลหิต ปวดศรีษะ ร้อนเป็นตอนเย็นเป็นตอน ไม่เสมอกัน บางทีจับตั้งแต่รุ่งจนเที่ยง บางทีจับตั้งแต่เที่ยงจน ค่า หรือบางทีจับ ตั้งแต่ค่าจนรุ่ง อีแผ่น ตาแดงมือเท้า เย็น ไข้อีแดง เหมือนไข้อีดา แต่ว่าเป็นเม็ดสีแดง เหมือนไข้อีดา แต่เบากว่า ไข้ปานดา ผุดขึ้นมาเท่าวงสะบ้ามอญ เท่าใบพุทรา ขนาด 1-2 นิ้ว ผุดขึ้นมา เป็นสีดา ขึ้นมาครึ่งตัว ถ้าผุดขึ้นมา ทั้งตัว สีดาดังผลหว้าสุก สีดังคราม สีดาดังหมึก อาจตายได้ จับเท้าเย็นมือเย็น บางทีมือร้อนเท้า ร้อน ตัวร้อนเป็นเปลว ปวดศรีษะ ตาแดง ร้อนใน อกเชื่อมซึม พิษ ทาภายใน ถ้าใช้ยากระทุ้งพิษไม่ ออก ให้ร้อนให้กระหายน้า บางที ให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ปานบ้า ตาแดงมือ เท้า เย็น บางทีก็ร้อน ไข้ปานแดง เหมือนไข้ปานดา เหมือนไข้ปานดา แต่สีแดงเบา กว่าสีดา ไข้มหาเมฆ ผุดขึ้นมาในเนื้อยังขึ้นไม่หมด มีสัณฐานเท่าผลจิงจ้อ สุก เป็นเงาอยู่ในเนื้อ ผุดทั้งตัวก็มี สีดาดังเมฆ สีดา นิล กระทาพิษให้เชื่อมมัว ให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ให้หอบ ให้สะอึก ให้ ปากแห้ง ฟันแห้ง ให้ถ่าย อุจจาระปัสสาวะไม่รู้สึกตัว ให้เชื่อมมัวไม่ เป็นเวลา ไม่มีสติสมปฤดี ให้สลบ ผุดทั้งตัวสีดาเมฆ ขี้ เยี่ยวไม่รู้ตัว ไข้มหานิล เหมือนไข้มหาเมฆ ผุดทั้งตัวสีดานิล ไข้ข้าวไหม้น้อย ผุดขึ้นมาเหมือนมดกัด เป็นแผ่นทั่วตัว มียอดแหลม ขาว ให้จับตัว ร้อนเป็นเปลวไฟ ให้มือเท้าเย็น ให้ เจ็บไปทั่วสรรพางค์กาย ให้เจ็บ เนื้อในกระดูก ให้ หอบ ให้สะอึก ให้เชื่อมมัว ลิ้นกระด้าง คางแข็ง เป็นแผ่นเหมือนมด กัด ยอดแหลมขาว หอบ มือเท้าเย็น
  • 10. ไข้ข้าวไหม้ใหญ่ ผุดขึ้นมาเหมือนมดกัด เป็นแผ่นทั่วทั้งตัว มียอด แหลมขาว ให้จับ สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปวดศรีษะ มาก ตาแดงดังโลหิต เท้าเย็นมือ เย็น เจ็บเนื้อใน กระดูก ให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง (มีพิษแรงกว่าไข้ ข้าวไหม้น้อย) เป็นแผ่นเหมือนมด กัด ยอดแหลมขาว ตาแดง มือเท้าเย็น ไข้ข้าวไหม้ใบเกรียม ผุดขึ้นมาทั้งตัว ให้ปวดในเนื้อในกระดูก ผุดขึ้นมาดัง ลมพิษแดงดัง ผลตาลึงสุก เป็นแผ่นทั่วทั้งตัว ใหญ่ เท่า 2-3 นิ้ว ก็มีเป็นเม็ดเล็กๆ เหมือนมดกัดก็มี แล้วกลับดา ถ้ารักษาคลายพิษแล้ว ผุดขึ้นเป็นริ้ว กลับดาเป็นหนังแรด อยู่หกเดือนตาย ถ้าลงไปกิน ตับกินปอดขาด ออกมาตาย ให้จับสะบัดร้อนสะบัด หนาว ให้ปวดศรีษะมาก ตาแดง ดังโลหิต ให้ร้อน เป็นกาลัง ให้มือเย็นเท้าเย็น ให้ทาพิษเนื้อใน กระดูก ให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ให้หอบให้สะอึก เป็นแผ่นเหมือน ลมพิษ ดาเป็นหนัง แรด หอบ ตาแดง มือเท้าเย็น ไข้ดานหิน ผุดขึ้นมาที่ต้นขาทั้งสองข้าง เป็นวงเขียวก็มี เป็นสี ผลหว้า สีคราม สีตาลึงสุก หรือสีหมึก จับให้ตัวเย็น ดังหิน ให้ร้อนในกระหายน้า ทาพิษให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ปากแห้ง คอแห้ง เชื่อมซึม ทาให้พิษ สลบ ถ้าจะรักษา ก็ให้เร่งรักษาตั้งแต่ยังเป็นใหม่ๆ ถ้า เปื่อยออก มาแล้ว รักษาไม่หาย ต้นขาทั้งสองข้างเป็น วง เขียว จับให้ตัวเย็นดัง หิน ไข้กระดานหิน ผุดขึ้นมาทั่วตัวเหมือนลมพิษ แดงดังผลตาลึงสุก เป็นเม็ดๆ เหมือน ผดแล้วกลับดาลงติดเนื้อให้คัน จับสะบัดร้อนสะบัดหนาวให้ปวด ศรีษะมาก ให้ตา แดงดังโลหิต ให้เท้าเย็นมือเย็น ทาพิษให้เจ็บเนื้อ ในกระดูก ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ให้หอบให้สะอึก ถ้า แพทย์รักษาดี พิษนั้นคลายลง แต่ถ้าผุดขึ้นนั้นไม่ หาย ต่อสามเดือนจึงตาย ผุดทั้งตัวเหมือน ลมพิษ หอบ ตาแดง มือเท้า เย็น ไข้ดาวเรือง ผุดขึ้นมาเหมือนลายโคมครึ่งลูก ให้จับมือเย็นเท้า เย็น ให้ตัวร้อน เป็นเปลว แดงดังโลหิต ปวดศรีษะ มาก ดังว่าตาจะแตกออกมา ให้อาเจียนเป็นกาลัง ให้ร้อนให้กระหายน้า ให้ลิ้นกระด้าง คางแข็ง บางที ทาพิษถึงสลบ ลายโคมครึ่งลูก ปวด ศรีษะมากดั่งตาจะ แตก ไข้สังวาลย์พระอินทร ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดแดงๆ เป็นแถวๆ ถ้าหญิงขึ้นซ้าย ชายขึ้นขวา สะพายแล่งคล้ายสังวาลย์ เป็นพิษให้ หอบ ให้สะอึก ให้สะบัดร้อน สะบัดหนาว เม็ดแดงคล้าย สังวาลย์ หอบ สะอึก
  • 11. ไข้ไฟเดือนห้า ผุดขึ้นที่อกดาก็มี แดงก็มี สีดังเปลวไฟ ให้ร้อนใน กระหายน้า เชื่อมมัว ไม่มีสติสมปฤดี ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ให้สลบ ผุดที่อก สีดาแดงดัง เปลวไฟ ไข้เปลวไฟฟ้า กระทาพิษให้ร้อนเป็นที่สุด ให้ร้อนเป็นเปลว จับเอา หัวอกดา จมูก ดา หน้าดา สีเป็นควัน ให้ปาก ลิ้น ฟันแห้ง ให้ปาก ลิ้น แตกระแหง ลิ้นดา เพดานลอก ให้สลบ ไม่มีสติสมปฤดี จับหน้า จมูก ลิ้น ดา ไข้สายฟ้าฟาด ผุดเป็นริ้วลงมาตามตัว ผุดทั้งหน้าทั้งหลัง ขนาด 1- 2 นิ้ว สีแดงดัง ผลตาลึงสุก เขียวดังสีครามก็มี ดัง ผลหว้าสุกก็มี ดังสีดินหม้อก็มี ทาพิษให้ร้อนใน กระหายน้า ให้ปากขม ปากแห้ง ฟันแห้ง ให้ร้อน เป็น เปลวไปทั้งตัว ให้เชื่อมมัวเป็นกาลัง ไม่มี สมปฤดี ให้สลบ เป็นริ้วตามตัว ผุด หน้า หลัง ไข้ระบุชาด ผุดขึ้นมาเป็นเมล็ด เท่าเมล็ดผักปลังก็มี เท่าเมล็ด เทียนก็มี เท่า เมล็ดงาก็มี เป็นเหล่ากันอยู่ ขนาด 1- 2 นิ้ว สีดังชาด ขึ้นทั้งตัว ทาพิษให้เชื่อมมัว ร้อนใน กระหายน้า ให้หอบให้สะอึก กระทาพิษต่างๆ เมล็ดปลัง สีดังชาด ขึ้น ทั้งตัว ไข้สุริยสูตร เหมือนไข้จันทรสูตร ผิดกันแต่ว่าพอพระอาทิตย์ขึ้น แล้วกระทาพิษมากขึ้น บางทีให้สลบ ถ้าพระ อาทิตย์ตกพิษก็คลาย พระอาทิตย์ข้ินทา พิษ ให้สลบ ไข้จันทรสูตร ไม่มีการผุด ต่อพระจันทร์จึงทาพิษให้สลบ ถ้า พระจันทร์ไม่ขึ้นพิษก็ คลายลง ให้จับตัวร้อนเป็น เปลว เท้าเย็นมือเย็น ให้เชื่อมมัวไม่ได้สติ สมปฤดี ให้หอบ ให้สะอึก ให้จับตัวแข็งไปเหมือนท่อนไม้ ให้ ลิ้น กระด้าง คางแข็ง จับไม่เป็นเวลา พระจันทร์ขึ้นทาพิษ ให้ สลบ แข็งเหมือน ท่อน ไม้ ไข้เมฆสูตร เหมือนไข้สุริยสูตร แต่ผิดกันบ้าง เวลาเกิดพายุฟ้า ฝนเมฆตั้งขึ้นทั่วทิศ กระทาพิษให้สลบ เกิดพายุ ทาพิษให้ สลบ ไข้หงษ์ระทด ไม่มีการผุด แต่ให้ตัวเกรียมไปทั่วทั้งตัว ให้ตัวร้อน เป็นเปลว เท้าเย็น มือเย็น เชื่อมซึม หอบสะอึก จับ ตัวแข็งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ไม่เป็น เวลา ไม่มีสติสมปฤดี ไหม้เกรียมไปทั้งตัว แข็งเหมือนท่อนไม้ ลักษณะการผุดเกิดขึ้นมาบางที่ไม่เจ็บไข้ สบายอยู่เป็นปกติ ไข้เกิดภายในให้ผุดขึ้นเป็นแผ่น เป็นเม็ดสีแดง สี ดา สีเขียวก้ดี เป็นทราย ทั่วทั้งตัวก็มี ผุดได้ 1 วัน 2 วัน 3 วัน จึงล้มไข้ และใน 1 วัน 2 วัน 3 วัน นั้น ทา พิษต่างๆ ผุดขึ้นเป็นแผ่น เป็นเม็ด ทรายขึ้นมาเป็นสีแดง สีดา สีเขียว สีคราม เป็นรอดบ้าง ตายบ้าง ให้แพทย์ให้ยากระทุ้งพิษไข้นั้นให้สิ้นถ้ากระทุ้งพิษขึ้นไม่หมดกลับไปลงกินตับกินปอดให้ถ่ายออกเป็นโลหิต เสมหะ บางทีให้ลงทางปัสสาวะ ให้ปิดปัสสาวะ บางทีให้อาเจียนเป็นโลหิต ให้ไอ บางทีให้ร้อนในกระหายน้า ให้หอบ ให้สะอึก ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ให้ชักตาเหลือก ตากลับ บางทีทาพิษให้จับหัวใจ ให้นอนกรนไปไม่มี สมปฤดี ให้จับกรนคร่อกๆ บางทีกระทาให้ปิตตะสมุฏฐานกาเริบ ให้เหลืองไปทั่วกาย ถ้าแพทย์รักษาดีก็จะ
  • 12. รอด ถ้ารักษาไม่ดีก็จะตาย ให้ตรองจงหนัก พระผู้เป็นเจ้าจึงให้แพทย์ พิจารณารักษาไข้พิษ ไข้เหนือให้ ละเอียด ถ้าไม่รู้จักไข้เหนือ ไข้พิษ ห้ามมิให้ไปรักษาเขา เห็นแก่อามิสสินจ้าง โลภจะเอาทรัพย์เขาวางยาผิดเขาตาย ลงด้วยพิษ ยาของแพทย์ แพทย์นั้นจะตกในมหาอเวจีนรก ถ้าแพทย์ผู้ใดประกอบไปด้วยเมตตาจิต มี สติปัญญารักษาวางยาให้ถูก กับโรค แพทย์ผู้นั้นก็จะเจริญมีโภคทรัพย์มา มีอายุยืนนาน มีข้อห้าม 10 ประการ 1. ห้ามวางยารสร้อน เผ็ด เปรี้ยว 2. ห้ามปล่อยปลิง (ห้ามเอาโลหิตออก) 3. ห้ามถูกเหล้า 4. ห้ามถูกน้ามัน 5. ห้ามกินน้าร้อน 6. ห้ามอาบน้าร้อน 7. ห้ามกินส้มมีผิวมีควัน 8. ห้ามกะทิ น้ามัน 9. ห้ามนวด 10. ห้ามประคบ **ถ้าไม่รู้กระทาผิดดังกล่าวมานี้ อาจเป็นอันตรายถึงตายได้ เทียบเคียงโรคแผนปัจจุบัน โรคทางแพทย์แผนไทย โรคทางแพทย์แผนปัจจุบัน ไข้อีดา-ไข้อีแดง Scarlet fever (เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pyogenes) ไข้ปานดา-ไข้ปานแดง Leptospirosis/AIDS โรคฉี่หนู ไข้มหาเฆม ,ไข้มหานิล ,ไข้ดานหิน ,ไข้กระดานหิน , ไข้สายฟ้าฟาด ,ไข้เปลวไฟฟ้า ,ไข้ข้าวไหม้ใบเกรียม ,ไข้ดาวเรือง ,กาฬตะบองกาฬ Septicemia ภาวะตือเชื้อในกระแสเลือด Sepsis ภาวะติดเชื้อ Septic shock ภาวะช็อก ไข้ระบุชาด Exantrem subitem/ Roseora Infantum /Sixt disease หัดกุหลาบ ไข้ไฟเดือนห้า Septicemia ภาวะตือเชื้อในกระแสเลือด Sepsis ภาวะติดเชื้อ Septic shock ภาวะช็อก Hyperpyrexia with sepsis Infantum /Sixt disease ไข้หัดกุหลาบ ไข้ข้าวไหม้น้อย ,ไข้ข้าวไหม้ใหญ่ Meningitis เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • 13. ไข้สังวาลพระอินทร์ Acute phase of Herpes zoster โรคเริมระยะ เฉียบพลัน ไข้หงส์ระทด Malaria (มาลาเรียจาก Plasmodium ovale ) ไข้จันทรสูตร Malaria (มาลาเรียจาก Plasmodium vivax ) ไข้สุริยะสูตร Malaria (มาลาเรียจาก Plasmodium falciparum) ไข้เมฆสูตร Malaria (มาลาเรียจาก Plasmodium malariae) ไข้กาแพงทะลาย Abscess with cellulitis เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ กาฬฟองสมุทร Typhoid fever ไข้ไทรฟรอยด์ กาฬเหลี่ยมสมุทร Aphthous fever ร้อนใน ไข้กาฬทามสมุทร ,กาฬทามสมุทร Infection in Oral cavity ความผิดปกติของเนื้อเยื่อช่อง ปาก กาฬทามควาย Infectious submandibular การติดเชื้อในช่องเยื่อหุ้ม คอชั้นลึก Sialitis ต่อมน้าลายอักเสบ กาฬละลอกแก้ว Exanthematous fever ไข้ออกผื่น กาฬทูม Mump โรคคางทูม กาฬทาม Lunwing s angina/ Malignant tumor of lower jaws การอักเสบติดเชื้อของชั้นเนื้อเยื่อในโพรงใต้คาง ไข้มะเร็งตะมอย Deep Abscesses การติดเชื้อในช่องเยื่อหุ้มคอชั้นลึก ไข้มะเร็งปากทูม Chronic ulcer แผลเรื้อรัง ไข้มะเร็งเปลวไฟ Necrotic ulcer กาฬมะเร็งนาคราช Gangrene เนื้อตายเน่า กาฬตะบองพะลา ,กาฬตะบองชนวน Lymphoma มะเร็งต่อมน้าเหลือง กาฬแม่ตะง้าว Fever with lymphadenitis ไข้กระโดงไฟ ,ไข้กระโดงน้า ,ไข้กระโดงแกลบ ,ไข้ กระโดงหิน Fever classified by four manifestation การเกิดอาการไข้ 4 ประการ ไข้คด Tetanus บาดทะยัก ไข้แหงน Mengococal meningitis /Meningococcemia โรคไข้ กาฬหลังแอ่น ไข้หวัดน้อย Common cold /Upper respiratory tract infection URI ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ Influenza /lower respiratory tract infection LRI ไข้หวัดใหญ่ ไข้กาเดาน้อย Pyrexia ไข้ Dengue fever (DF) ไข้เดงกี Chigunkunya fever ไข้ชิคุนกุนยา ไข้กาเดาใหญ่ Pyrexia ไข้
  • 14. Dengue hemorrhagic fever (DHF) ไขเลือดออก Dengue shock syndrome ไข้เลือดออกที่มีภาวะช็อค ไข้ในคิมหันตฤดู ,ไข้ในวสันตฤดู ,ไข้ในเหมันตฤดู Seasonal fever ไข้เปลี่ยนฤดู ไข้รากสาดน้อย Typhoid fever ,Enterric fever ไข้ไทฟรอยด์ (เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella typhi) ไข้รากสาดใหญ่ Typhus fever ไข้ไทฟัส (เชื้อแบคทีเรีย Rickettsia prowazekii, Rickettsia typhi, Ricketsia felis) ไข้หัด Measles/Rubeola virus (เกิดจากเชื้อไวรัส Rubeola virus) ไข้เหือด Rubella ไข้หัดเยอรมัน (เกิดจากเชื้อไวรัส Rubella virus) ไข้งูสวัด Herpes zoster งูสวัด (เกิดเชื้อไวรัส วีแซดวี varicella-zoster virus) ไข้เริมน้าค้าง-ไข้เริมน้าข้าว Herpes simplex โรคเริม (เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex) ไข้ลาลาบเพลิง-ไข้ไฟลามทุ่ง Erysipelas ไฟลามทุ่ง (เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Beta-hemolytic streptococcus group A) ยารักษาตามคัมภีร์ตักศิลา ชื่อยา ส่วนประกอบ วิธีใช้ สรรพคุณ ยากระทุ้งพิษขนานที่ 1 (ยาแก้ว 5 ดวง) รากชิงชี่ รากย่านาง รากคนทา รากเท้ายายม่อม รากมะเดื่อชุมพร ยาทั้งหมดเอาเสมอภาคกัน รับประทานครั้งละ 2-3 ช้อนโต๊ะ กระทุ้งพิษไข้ ขนานที่ 2 (ยาประสะผิว ภายนอก) ใบย่านาง ใบมะขาม เถาวัลย์เปรียง เอาหนักสิ่งละเสมอภาคกัน บดแทรกดินประสิว ละลายน้าซาวข้าวพ่น ถ้ายังมิดีขึ้น กระทาพิษ ให้ตัวร้อนเป็นเปลวถ้า
  • 15. ตัวร้อนจัดให้แต่งยาพ่น ซ้าอีก ขนานที่ 3 (ยาพ่น ภายนอก) เถาขี้กาแดง เอาใบและราก เถาย่านาง เอาใบและราก รากฟักข้าว เอาเสมอภาคภาค บดแทรกดินประสิว พอควร ละลายน้าซาว ข้าวทั้งให้กินและพ่น ภายนอก อาการไม่ดีขึ้น ให้ใช้ขนานที่ 4 ขนานที่ 4 ยาพ่นและยา กิน ใบทองหลางใบมน เปลือกทองหลางใบมน ข้าวสาร เอาสิ่งละเสมอภาคกัน บดแทรกดินประสิว ทั้ง กินทั้งพ่น เมื่อใช้ยากิน กระทุ้งภายในและพ่น ภายนอกแล้ว ก็ให้กินยา รักษาภายในด้วย กระทุ้งภายใน ขนานที่ 5 ยาแปรไข้ ใบมะยม ใบคนทีสอ ใบมะนาว ใบหมากผู้ หญ้าแพรก ขมิ้นอ้อย ใบมะกรูด ใบมะเฟือง ใบมะตูม ใบหมากเมีย หญ้าปากควาย ยาหนักสิ่งละเสมอภาคกัน บดละลายน้าซาวข้าว รับประทานแปรใช้จาก ร้ายเป็นดี ขนานที่ 6 ยาพ่นแปรผิว ภายนอก รังหมาร่าที่ค้างแรมปี หญ้าแพรก หญ้าปากควาย ใบมะเฟือง ยาทั้งนี้เอาเสมอภาค บดปั้นเป้นเม็ด เอาน้า ซาวข้าวเป้นกระส่าย พ่นเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ยาครอบไข้ตักศิลา จันทน์แดง ใบสวาด ง้วนหมู รากจิงจ้อ ใบผักหวานบ้าน ใบมะนาว กระลาพัก จันทน์ขาว หัวคล้า บดแทรกพิมเสนพอควร ใช้น้าซาวข้าวเป็น กระสาย รักษาภายใน