SlideShare a Scribd company logo
1 of 9
Download to read offline
คัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา
ทุราวสา 12 จาพวก
ทุราวสา 4 (นาปัสสาวะให้โทษ) ให้ปวดหัวเหน่าให้แสบองคชาต ให้สะบัดร้อนสะบัดหนาว เป็นไปต่างๆ
สี ลักษณะ Key
สีดา น้ำครำม (น้ำคร้ำ) ด้ำแดง(โลหิต) ขำวเหลือง
ครำมฝำง เช็ดขมินโลหิตสดๆ แดงดังน้ำต้มฝำง
สีขาว น้ำข้ำวเช็ด
สีเหลือง น้ำขมินสด
มุตตะฆาต 4
เกิดด้วยกระทบชอกชา จึงสาแดงโทษ ให้ขัดสองราวข้างเส้นปัตคาด ให้เสียดแทงในอก เคลื่อนกายไม่สะดวก
บริโภคอาหารมิได้ให้อาเจียนลมเปล่า เป็นต้น
สี ลักษณะ Key
แดงขุ่นข้น ให้ปวดขัดเจ็บเสียวเป็นก้ำลัง ปวด
เป็นโลหิตช้ำปนโลหิตสด เลือดสด
เป็นหนองน้ำขุ่นข้น เป็นหนอง
เป็นสีด้ำดุจน้ำครำม น้ำครำม
มุตกิต 4
กระท้าให้เจ็บ ให้ขัด ไหลหยดย้อยออกมา แล้วให้ปวดหัวเหน่า ข้อสะโพก แสบในอก บริโภคอาหารไม่รู้รส
ทังนี เกิดเพื่อโลหิตชา
สี ลักษณะ(กลิ่น) Key
ดุจ เป็นโลหิตชา ดังน้ำปลำเน่ำ เลือดซ้ำปลำเน่ำ
เป็นโลหิตจาง ดุจน้ำซำนหมำก เลือดจำงซำนหมำก
เป็นนาหนองจางๆ ดุจน้ำซำวข้ำว หนองซำวข้ำว
เป็นเมือกคล่องๆขัดๆ ดุจน้ำมูกไหล เมือกมูกไหล
โทสัณฑะฆำต
สตรี บุรุษ
เกิดกระดูกแห้ง เป็นก้อนเท่าฟองไข่ไก่ ติดกระสันหลัง แรกเกิดโรคเป็นไข้พิษต่ำงๆ คือว่ำ ตกต้นไม้ หก
ล้ม ถูกทุบถองโบยตี ช้ำใน โลหิตก็คุมกันเข้ำเป็น
ก้อน
ท้าให้เกิดอาการ เจ็บหลังบิดตัวอยู่ 14-15 วัน จึงเป็นลม
จุก แดก แน่นอกดุจขาดใจ
ท้ำำให้เกิดอำกำรเจ็บร้อนเสียดแทงในอก เสียด
แทงสัน หลัง สมมติว่ำเป็นเม็ดยอดภำยใน
ถ้ากินยาเผ็ดร้อน โลหิตก็แห้งติดสันหลัง จึงได้ชื่อว่า “สัน
นิจ โลหิต”
ถ้ำวำงยำผิด โลหิตนันจะกระจำยออกมำ แล่น
เข้ำ กระดูกสันหลัง ชือว่ำ “สันนิจโลหิต”
ทาให้ลงเป็นโลหิตเป็นก้อน เป็นลิ ม เป็นแท่งโลหิต บางทีก็
ตก ทวารหนักเบา เป็นดังนาชานหมากจางๆ ดังดินสอพอง
ลงสู่ทวำรหนักเบำ เรียกว่ำ “อำสัณฑะฆำต”
เหตุว่ำ เพรำะไข้อันพิฆำต บอบช้ำปีศำจก็พลอย
สิง
ถ้ารู้ไม่ถึงก็ตาย ถ้ำรู้ไม่ทันก็ตำย
ตรีสัณฑะฆำต เกิดกำฬ เป็นเม็ดเท่ำเมล็ดข้ำวสำรหัก ตำมอวัยวะ ดังนี
เกิดที่ ลักษณะ Key
ตับ ลงเป็นโลหิต แล้วเป็นผี
เข้ำสิง เข้ำจ้ำอยู่
ตับเลือดผี
หัวใจ เจรจำมิได้ แน่นิงไป ใจนิง
ไส้ (อ่อน-
แก่)
ให้จุกเสียด ท้องเฟ้อ
เป็นมำน
ไส้มำน
ปอด กระหำยน้ำเป็นอันมำก ปอดกระหำยน้ำ
ดี เจรจำด้วยผี พูดเพ้อไป
อำกำรคลังเพ้อไปต่ำงๆ
ดีผีเพ้อ
ถ้าบุคคลใดเป็นดังกล่าวมาได้ 7-8 วัน โลหิตแตกซ่านไปในทวารทัง 9 เรียกว่า “ลักปิด” เป็นต้นเหตุ
แห่งสัณฑะฆาต เป็นกรรมของผู้นัน ถ้าแก้มิคลายก็ถึงแก่ความตาย
ปะระเมหะ 20 จาพวก
สัณฑะฆาต 4
เกิดเพื่อ อาการ Key
โลหิตแห้ง ถ้ำบังเกิดแก่สตรีว่ำด้วยโลหิตเดินไม่สะดวก คุมกันเป็นก้อนประมำณ
เท่ำฟองไข่ ติดกระดูกสันหลังข้ำงใน มักให้เจ็บหลังบิดตัวให้จุกแน่น
หน้ำอกดังจะขำดใจ ถ้ำ บุรุษว่ำด้วยไข้อันถึงพิฆำต คือตกต้นไม้ ถูกทุบ
ถองโบยตี สำหัส พิกำรช้ำในอก โลหิตจึงเกำะเป็นก้อนดำน กระท้ำให้
ร้อน เสียดแน่นอกสันหลัง มีประเภทต่ำงๆ ถ้ำกินยำร้อนโลหิตก็จะ
ละลำยออก ทังที เป็นลิมก้อนใหญ่ลงสู่ช่องทวำรหนักได้ ชือว่ำอสัน
โลหิต เป็นอสำทิยโรค (อำสัณฑะฆำต)
เลือดเดินไม่
สะดวก บิดจุกอก
กาฬ เกิดขึนภำยใน ดี ตับ ปอด และหัวใจ บังเกิดสัณฐำนดุจเม็ดข้ำวสำร
หัก บำงทีขึน ในไส้อ่อน ไส้แก่ ให้คลังเพ้อ ถ้ำขึนตับ ให้ตับหย่อน ให้
ตกโลหิต มีอำกำรดุจ ปีศำจเข้ำสิง ถ้ำขึนในปอดให้กระหำยน้ำ ถ้ำขึน
ดีตับปอดหัวใจ
ดัง ข้ำวสำรหัก
เมือโลหิต แตก
ในหัวใจให้นิงไปเจรจำมิได้ ถ้ำขึน ในไส้อ่อนไส้แก่ให้จุกโลหิต ท้องขึน
ท้องพองดังมำนกระษัย ถ้ำเป็นดังกล่ำวมำนี ก้ำหนด 7-8-9 วัน
โลหิตจะแตกออกในทวำรทัง9 เรียกว่ำ รัตตะปิตตโรค เป็น ต้น
แห่งสัณฑะฆำต เป็นอติสัยโรค (ตรีสัณฑะฆำต)
ซ่ำนในทวำรทัง9
จะ เรียกว่ำ รัตตะ
ปิตตะโรค (อติสัย
โรค)
ปัตคาต บังเกิดมีอำกำรท้ำให้ท้องผูกเป็นพรรดึกและให้เลือดแห้งแล้วจึงบังเกิด
วำโยกล้ำ พัดโลหิตให้เป็นก้อนเข้ำในอุทร ให้เจ็บไปทัวสรรพำงค์กำย
เมือยบันเอว และมือ เท้ำตำย ให้ขบขัดเบำและตะโพก ให้ท้องขึนและ
ดึงลงในทวำรเบำ บริโภคอำหำร ไม่รู้รส ให้ปำกเปื่อย เสียงแทบแห้ง
เวียนศีรษะอยู่เป็นนิจ น้ำตำไหลและตำมืด หูตึง เมือจะเป็นให้มึนตึงตัว
ไม่อยำกรับประทำนอำหำร บำงครำวให้ร้อน บำง ครำวให้หนำว
บำงครังอยำกเปรียวอยำกหวำน โทษทังสินนี เกิดเพือปัตคำตให้ โทษ
(โทสัณธฆำต)
เป็นพรรดึก เลือด
แห้ง เกิดวำโยกล้ำ
พัดโลหิต เป็น
ก้อนเข้ำอยู่ใน
อุทร
กร่อนแห้ง บังเกิดมีกำรกระท้ำให้เจ็บกระบอกตำ ให้เมือยไปทังตัว เจ็บที สะดือ
ตลอดไปถึง อัณฑะ ให้คันองคชำต ให้เจ็บแสบร้อน แล้วแตกออกเป็น
น้ำเหลืองไหลซึม อนึง กระท้ำให้เม็ดงอกขึนในรูองคชำตเท่ำผลพริก
เทศ ครันนำนเข้ำดังยอดหูด ปัสสำวะก็เปลียนไปเป็นสีต่ำงๆ 4
ประกำร ดังแจ้งอยู่ในทุรวสำแล้วบังเกิดขึน เพือสมุฏฐำนธำตุและอชิน
โรค กล่ำวคือ ส้ำแดงมีของมันคำว เป็นต้น กระท้ำให้ อำเจียนเป็น
น้ำลำย น้ำลำยฝำด อสำทิยโรค รักษำยำกนัก
เม็ดงอกในรู
องคชำต เท่ำ ผล
พริกเทศ เป็นอสำ
ทยำ โรค เจ็บ
กระบอกตำ
สะดือถึงอัณฑะ
คัน องคชำต
องคสูตร 4
เดือน อาการ Key
5-7 คิมหันตฤดู เมือจะเกิดให้ลูกอัณฑะขวำนันพองแดงขึน ดังผลต้ำลึงสุก ท้ำให้ปวด
แสบปวด ร้อนไปตำมเส้นเอ็นทังปวง เจ็บแต่รำวข้ำง ให้เสียดแทง
อุจจำระผูกเป็นพรรดึก ขัดปัสสำวะเดินไม่สะดวก โทษทังนี เกิดเพือ
โลหิต 3 ส่วน วำโยระคน 2 ส่วน รักษำยำก
ไข่ขวำพองแดง
เจ็บรำว ข้ำง
ท้องผูก
8-10 วสันตฤดู มักให้เจ็บในอกและขำทัง 2 ข้ำง ให้เจ็บเสียวตำมกระดูกสันหลัง
กระหวัดมำรำว นม และบ่ำทัง 2 ข้ำง แล่นไปปลำยเท้ำทัง 2 ข้ำง ให้
ขบให้ตอดดังมดตะนอย ต่อย ให้สะท้ำนร้อนสะท้ำนหนำว วิงเวียน
หน้ำตำ ให้ชักหลังงอ เวลำปัสสำวะให้ แสบร้อนในรูองคชำต จุก
อุจจำระให้เป็นมูกเลือดออกมำ โรคนี เกิดเพือวำโย 2 ส่วน เพือเสโท
โลหิต 1 ส่วน บังเกิดแต่ล้ำไส้ออกมำ ลักษณะดังนี เป็น อสำทิยโรค
รักษำยำกนัก
ให้ขบตอด ดังมด
ตะนอย ต่อย เจ็บ
อกและขำ 2 ข้ำง
เวลำเยียวให้แสบ
ร้อนในรูไข่
11-1 เหมันตฤดู เมือบังเกิดขึนให้ปวดในรูองคชำต ปัสสำวะเล็ดออกมำ ปัสสำวะหยด
ย้อย เจ็บ บันเอว ทำนอำหำรไม่ได้ โทษเกิดเพือเสมหะ 3 ส่วน โลหิต
2 ส่วน ครันนำนเข้ำ ท้ำให้ไส้ขำดออกมำก็ถึงแก่ควำมตำยเป็นอติสัย
ปวดรูไข่ จนเยียว
เล็ด เจ็บ เอว กิน
ไม่ได้
โรครักษำไม่ได้เลย ถ้ำจะแก้ แก้ แต่ยังอ่อนอยู่ ถ้ำแก้ให้แก้โลหิต
เสียก่อน แล้วจึงแก้เสมหะต่อไปตำมล้ำดับ
2-4 สันนิบาตฤดู เวลำเกิดขึนกระท้ำให้ผิวอัณฑะด้ำ และบวมมีพิษแสบร้อนมำก อัณฑะ
ฟกข้ำง หนึง มีพิษแสบร้อนมำก เจ็บตำข้ำงหนึง ปวดศีรษะข้ำงหนึง
บังเกิดด้วยโลหิต สันนิบำต ปัสสำวะเป็นน้ำเหลืองโลหิตเจือออกมำ
แสบตำมช่องปัสสำวะ ให้ เสียดสองรำวข้ำงและหน้ำอกขึนมำตำม
เกลียวปัดคำต จับเป็นเวลำ ทำนอำหำร ไม่ได้ อำเจียนลมเปล่ำต้นคอ
คอแห้ง น้ำลำยเหนียว ตกเสมหะโลหิตทำงทวำร หนักดุจเป็นบิด ร้อน
นัยต์ตำ สวิงสวำย กองสันนิบำตฤดูทัง 3 มำประชุมพร้อม กันก้ำหนด
มิได้
ไข่ด้ำบวม ไข่ฟก
ข้ำงหนึง แสบ
ร้อน เจ็บตำข้ำง
หนึง ปวดหัวเข่ำ
ข้ำงหนึง เยียว
เหลือง มีเลือดปน
องคสูตร จะแบ่งตาม ฤดู ต่างๆ แต่จะไม่เหมือนกับฤดูสมุฏฐานที่ปรากฎในคัมภีร์สมุฏฐานวินิจฉัย หรือ เวช
ศึกษา
อุปทุม 4
เกิด อาการ Key
อาการอักเสบ เนืองด้วยเสพเมถุนกับสตรีที ยังไม่มีระดู ข่มขืนกระท้ำช้ำเรำด้วยควำม
ก้ำหนัด สตรีเพศพรหมจำรี บุรุษข่มเหงด้วยก้ำหนัดยินดีด้วย ซึงสตรีเป็น
เพศพรหมจำรี นันมิรู้รสก้ำหนัดยินดีด้วย เปรียบประดุจดังช้ำงสำรตัว
ใหญ่เข้ำไปอยู่ในโพรงอัน แคบแล้วจะได้คิดว่ำเจ็บปวดนันหำมิได้ ครัน
ออกจำกช่องแคบแล้วกระท้ำให้ เจ็บปวดต่ำงๆ คือ ให้องค์ก้ำเนิดช้ำนัก
เดำะ เป็นหนอง เป็นโลหิตไหลออกมำ ตำมช่องทวำรเบำของตนเองได้รับ
ควำมเจ็บปวดเวทนำยิงนัก คือ ให้แสบร้อน ปัสสำวะไม่สะดวก ให้ล้ำช่อง
ปัสสำวะบวมขึนและก็เป็นหนองไหลออกมำตำม ช่องทวำรเบำ
เล่นของเด็ก
เลยเจ็บตัว
เสพเมถุนกับ หญิง
แพศยา (หญิง
โสเภณี)
เนืองจำกสตรีนันคบชู้สู่ชำยและช่องสังวำสนัน ช้ำชอกด้วยกิเลสตัณหำ
เป็นนิจ ด้วยเหตุที ทวำรทีชุ่มด้วยลำมกตัณหำนันครันชำยไปร่วมประเวณี
ด้วยสตรีนันก็ กระท้ำให้บังเกิดซึงโรคสมมติว่ำ อุปทุม โดยก้ำลังที ชุ่มนัน
ล้ำรำบดุจน้ำใบไม้ น้ำ หญ้ำเน่ำและเมือมีผู้ไปย้ำน้ำนัน ก็กัดเอำเปื่อยพัง
ไปเกิดทุกข์เวทนำเป็นอันมำก
เล่นโสเภณีเลย
ติดโรค
เกิดเพราะนิ่ว บุรุษกลำยเป็นนำครำชมักเกิดที ปลำยองค์ก้ำเนิด แล้วลำมไปในช่อง
ปัสสำวะองค์ ก้ำเนิดบวมขึนแล้วแข็งเข้ำเป็นดำน (ถ้ำสตรีออกมำทวำร
ครรภ์เป็นดังดำก สมมติว่ำดำกโลหิตนันหำมิได้ คือ อุปุทังโรค ดังกล่ำวมำ
นี ) นำนเข้ำก็ลำมมำถึง หัวเหน่ำ กระท้ำให้โลหิตเป็นลิ ม เป็นแท่ง
ออกมำ บำงทีปลำยดำกขำดออกมำ เหม็นคำวนัก บำงทีเป็นหนอง เป็น
โลหิตออกมำ ให้ปวดหัวเหน่ำและท้องน้อยดัง จะขำดใจ โรคดังกล่ำวมำนี
เป็น อติสัยโรค รักษำมิได้ ถ้ำจะรักษำก็รักษำยำก
กลำยเป็น
นำครำช
เกิดเพราะ โทษ
ดาน และกษัย
กล่อน และกาฬ
มูตร
มักเกิดขึนตังแต่สะดือลงไปถึงหัวเหน่ำ เรียกว่ำ โรคส้ำหรับบุรุษ บุคคล
บริสุทธิ์ที มิมำกทำงกำมตัณหำ คือสมณะ ภิกษุ สำมเณร พรหมณ์
ทังหลำย อันมีศีลอัน บริสุทธิ์ ไม่ได้เสพเมถุนกับมำตุคำมเลย โรคนันก็
บังเกิดด้วยโทษดำนและกษัย กล่อนและกำฬมูตร มักเกิดแต่สะดือลงไป
หำหัวเหน่ำให้ขัดปัสสำวะ คือ กร่อน ถึงองค์ก้ำเนิด ให้องค์ก้ำเนิดบวม ท้ำ
ให้แสบร้อน ปัสสำวะมิได้ รับประทำนยำถูก ก็หำยไป แล้วกลับมำเป็นอีก
หลำยครังหลำยหน ครันนำนเข้ำก็กลำยเป็นหนอง บุพโพโลหิตออกมำ
ทำงช่องทวำรเบำให้เจ็บปวดต่ำงๆ ผู้ใดเป็นดังกล่ำวมำนี เรียกว่ำ “โรค
บุรุษ” จะได้เป็นอุปทม นันหำมิได้
เกิดกับพระ
ด้วยกำฬมูตร
และกษัย
กร่อน
ไส้ด้วน 4
เกิด อาการ Key
กับหญิงมี ประจ้า
เดือน
ท้ำให้เกิดเป็นเม็ด เป็นแผล ภำยในบ้ำง เป็นเม็ด เป็นผืน เป็นวงเท่ำแผ่น
ตำม ร่ำงกำยภำยนอกบ้ำง อำกำร ให้ปวดแสบ ขัดยอก และปวด
ปัสสำวะ
แสบ ขัดยอก
ปวดฉี
รุนแรง กระทบชอกช้ำภำยใน มีลักษณะพึงสังเกต คือ เป็นเม็ด เป็นแผล แล้วมี
หนอง น้ำเหลืองออกมำ บ้ำงก็เป็นเม็ดที องคชำตหรือตำมร่ำงกำย
ภำยนอก อำกำร ให้ปวดเจ็บยิงนัก บำงทีขัดตำมข้อ ปัสสำวะขัด ปวด
แสบ
ขัดข้อ ปวดแสบ
ฉี ขัด
สาส่อน จึงเกิดเป็นเม็ดทังข้ำงในและข้ำงนอก มีหนองออกมำหรือเป็นฝี 2 หน้ำ
ขำ บำงที เป็นเม็ดผืนขึนทัวร่ำงกำย (ฝีมะม่วง) อำกำร ให้เจ็บปวดยิงนัก
ขัด ยอก ปวดตำมกระดูก ขัดปัสสำวะ
ปวดกระดูก ฉี
ขัด
กับหญิงแพศยา เกิดเป็นฝีอุปทุม (กำมโรค) เป็นเม็ดที ปลำยหรือรอบองคชำตภำยใน
ช่องปัสสำวะ แล้วแตกออกเป็นโลหิต น้ำเหลือง น้ำหนอง ออกมำบ้ำง
กลำยเป็นฝี อำกำร ท้ำพิษให้ปวดแสบปวดร้อนดังไฟลวก บำงทีท้ำให้
เน่ำแต่ปลำย องคชำต ลำมเข้ำภำยในช่องปัสสำวะ ท้ำให้ปวดแสบ ขัด
ปัสสำวะ
แสบร้อน
องคชำตเน่ำ
อีกนัยหนึ่งเรียกว่า “ไส้ลาม” มักเรียกคู่กันกับไส้ด้วน มีลักษณะ ผุดขึนเป็นเม็ดเหมือนกัน แต่เม็ดนันมักเกิด
จากภายในออกมาภายนอก ภายในลามถึงหัวเหน่า ท้องน้อย ผุดขึนดังเช่น ฝีแตกเป็นหนองออกทางปัสสาวะ
ชายหญิงก็เหมือนกัน อาการ ให้ปวดมวนจุกเสียดแน่นในอก โดยนาเหลืองซึมเข้าไปในล้าไส้ ให้อาเจียนหรือ
ท้องเดินเป็นมูกเลือด เบื่ออาหาร ปวดขัด ตามกระดูก ปัสสาวะปวดแสบยิ่งนัก
ช้ำรัว 4
เกิด อาการ Key
คลอดบุตร แล้วอยู่
ไฟไม่ได้
เนืองจำกมดลูกไม่เข้ำอู่หรือปวดขึนกลับอยู่นำนจนกลำยเป็น
หนองและโลหิต รำว 2-3 เดือนก็มีโลหิตจำงๆ ไหลปนออกมำ
กับน้ำเหลืองอันมีพิษไหลถึงไหนก็มี ผืน ท้ำให้ขอบทวำรเป็นหัว
ขำวๆ แล้วแตกลำมไปเรือย อำกำร ท้ำให้ปวดแสบปวดร้อน
คันในช่องคลอดและขอบทวำรเบำ และปวด เสียวในมดลูก
ปัสสำวะหยดย้อย
ปวดมดลูก คันช่องคลอด
เป็นฝีที มดลูก มีลักษณะบวม ปัสสำวะเป็นน้ำเหลืองบำงครังเป็นเหมือน
น้ำคำวปลำ อำกำร ให้เจ็บปวดที มดลูกเป็นก้ำลัง ขัดเสียวทีหัว
เหน่ำ ปัสสำวะหยดย้อย อีก จ้ำพวกหนึงเกิดกับสตรีรุ่นสำวที
ยังไม่มีระดูประจ้ำเดือนร่วมเมถุนกับบุรุษ ถูก ข่มขืนจำกชำย
โดยหักหำญถึงโลหิตออกจำกช่องทวำร มีอำกำรเจ็บปวดแสบ
จน กลำยเป็นแผลเน่ำเปื่อย ขัดปัสสำวะและหยดย้อย
แบ่งเป็น 2 ลักษณะ 1)
ปวดมดลูก ขัดหัวเหน่ำ
2) ยังไม่มีเมน แล้วถูก
ข่มขืน จนเลือดออก
กลำยเป็นแผลเน่ำ
เสพเมถุน ปำกทวำรเปื่อยเน่ำได้รับควำมชอกช้ำภำยในถึงมดลูกจึงเกิด
เป็นน้ำหนอง น้ำเหลืองเน่ำร้ำยไหลหยดย้อยลุกลำมกัด
เนืออ่อนภำยใน
ปวดมดลูกชอกช้ำ
เสพเมถุน ส่าส่อน จึงเกิดโรคตำมนำม สมมติว่ำอุปทุม (กำมโรค) ร้ำยแรงนักให้มี
น้ำเหลืองน้ำหนอง ไหลออกมำ ปัสสำวะกระปริตกระปรอย
อำกำร ให้ปวดแสบปวดร้อนภำยในช่องคลอด และช่องทวำร
เบำ ปัสสำวะหยด ย้อย เจ็บ ขัด บริเวณหัวเหน่ำ
แสบร้อนในช่องคลอด
การเทียบเคียงโรคทางแพทย์แผนปัจจุบันคัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา
โรคทำงกำรแพทย์แผนไทย โรคทำงกำรแพทย์แผนปัจจุบัน
ทุรำวสำ
ปัสสำวะออกมำเป็นสีขำวขุ่นดังน้ำข้ำวเช็ดมีหนอง Pyelonephritis กรวยไตอักเสบ
GC
ปัสสำวะออกมำเป็นสีเหลือง ดังน้ำขมินสด Jaundice ดีซ่ำน
ปัสสำวะออกมำเป็นโลหิตสดๆ แดงดังน้ำฝำงต้ม Glomerulonephritis หน่วยไตอักเสบ
ปัสสำวะออกมสำเป็นสีด้ำ ดังน้ำครำมหรือน้ำคร้ำ - G6PD deficiency, Glucose-6-phosphatase
dehydrogenase deficiency ภำวะเม็ดเลือดแดง
แตกจำกกำรขำดเอนไซม์จีซิกพีดี
- โรคมำลำเรียชนิดรุนแรง หรือมีภำวะแทรกซ้อน
มุตฆำต
ปัสสำวะออกมำแดงขุ่นข้นให้ปวดขัดเจ็บเสียวเป็น
ก้ำลัง
- urinary calculi นิวท่อไต
- cystitis กระเพำะปัสสำวะอักเสบ
ปัสสำวะออกมำแดงขุ่นข้นเป็นโลหิตช้ำปนโลหิตสด - Glomerulonephritis หน่วยไตอักเสบ
- renal calculi โรคนิวในไต
ปัสสำวะออกแดงขุ่นข้น เป็นหนองช้ำขุ่น Pyelonephritis กรวยไตอักเสบ
ปัสสำวะออกมำแดงขุ่นข้น เป็นสีด้ำดุจดังน้ำครำม
(น้ำคร้ำ)
G6PD deficiency, Glucose-6-phosphatase
dehydrogenase deficiency ภำวะเม็ดเลือดแดง
มุตกิจ
ปัสสำวะออกมำดุจโลหิตช้ำ และดังน้ำปลำเน่ำ Glomerulonephritis หน่วยไตอักเสบ
ปัสสำวะออกมำเป็นโลหิตจำงดุจน้ำชำนหมำก อำจเป็นทำงเดินปัสสำวะอักเสบ, นิว
ปัสสำวะออกมำเป็นน้ำหนองจำง ๆ ดุจน้ำซำวข้ำว - อำจเป็นโรคPyelonephritis กรวยไตอักเสบ
- Gonorrhea หนองในแท้
ปัสสำวะออกมำเป็นเมือกคล่อง ๆ ขัดหยดย้อยดุจ
น้ำมูกไหลเลือกออกมำ
- อำจเป็นโรคไตเรือรัง
- Chlamydia หนองในเทียม
- vaginitis ช่องคลอดอักเสบ
ปะระเมหะ
สัณฑะฆาต
สัณฑะฆำต เกิดพเพือโลหิตแห้ง Dry hematoma
สัณฑฆำต เกิดเพือกำฬ - Tuberculosis วัณโรค
- Cirrhosis โรคตับแข็ง
สัณฑฆำต เกิดเพือปัตคำด Constipation ท้องผูก
สัณฑฆำต เกิดเพือกล่อนแห้ง -
องคสูตร
องคสูตร เกิดในเดือน ๕-๖-๗ ( คิมหันตฤดู) Orchitis อัณฑะอักเสบ
องคสูตร เกิดในเดือน ๘-๙-๑๐ ( วสันตฤดู) Renal calculi นิวในไต
องคสูตร เกิดในเดือน ๑๑–๑๒-๑ ( เหมันตฤดู)
องคสูตร เกิดในเดือน ๒-๓-๔ ( สันนิปำตฤดู ) Severe orchitis อัณฑะอักเสบ
ชารั่ว
เกิดเพรำะสตรีคลอดบุตรแล้ว อยู่ไฟไม่ได้ pelvic inflammatory diseases ได้แก่
- endometritis เยือบุมดลูกอักเสบ
- salpingitis ปีกมดลูกอักเสบ
เกิดเพรำะเสพเมถุนมำกเกินประมำณ Sexually transmitted disease หรือ STD
โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์
เกิดเพรำะเป็นฝีทีมดลูก - Myomauteri เนืองอกมดลูก
- Sexually transmitted disease หรือ STD
โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์
- Vaginitis ช่องคลอดอักเสบ
เกิดเพรำะสตรีชอบประกอบเมถุนกำมส้ำส่อนเป็น
เนืองนิจ
Sexually transmitted disease หรือ STD
โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์
อุปทม
อุปทม เกิดเพรำะกำรอักเสบ เนืองด้วยเสพเมถุนกับ
สตรีทียังไม่มีระดู ข่มขืน
Gonorrhea หนองในแท้
อุปทม เกิดเพรำะเสพเมถุนกับหญิงแพศยำ Sexually transmitted disease หรือ STD
โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์
อุปทม เกิดเพรำะโทษดำนและกระษัยกล่อน และ
กำฬมูตร
Smegma
อุปทมเกิดเพรำะนิว นิวในระบบทำงเดินปัสสำวะ
ไส้ด้วน
เกิดจำกชำย ชอบเสพเมถุนส้ำส่อน Sexually transmitted disease หรือ STD
โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์เกิดจำกชำยเสพเมถุนกับสตรี ซึงก้ำลังมีประจ้ำเดือน
เกิดจำกชำยเสพเมถุนรุนแรง
เกิดจำกชำยเสพเมถุนกับสตรีแพศยำลำมก
โทสัณฑะฆำต Dry haematoma
ตรีสัณฑะฆำต - Tuberculosis วัณโรค
- Cirrhosis โรคตับแข็ง
ยาที่ใช้รักษาอาการตามคัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา
ชือยำ ส่วนประกอบ วิธีใช้ สรรพคุณ
ยำแก้น้ำปัสสำวะ
ขำวขันดังน้ำข้ำว
เช็ด
กำรบูร
เทียนด้ำ
ผลเอ็น
อ้ำพัน
หัวแห้วหมู
ขิงแห้ง
บดเป็นผง ละลำยน้ำสุก
เป็นน้ำกระสำย ขนำด
รับประทำน ครังละ 1
ช้อนชำ วันละ 2 เวลำ
ก่อนอำหำรเช้ำ-เย็น
แก้น้ำ
ปัสสำวะขำว
ข้นดังน้ำข้ำว
เช็ด
ยำแก้น้ำปัสสำวะ
สีเหลืองดังน้ำขมิน
ลูกสมอไทย
มหำหิงคุ์
รำกเจตมูลเพลิงแดง
สำรส้ม
สุพรรณถันแดง
เทียนด้ำ หนัก 1 บำท
ดอกค้ำไทย หนัก 2 บำท
บดเป็นผงละลำยน้ำ
มะนำว ขนำดรับประทำน
ครังละครึงช้อนชำ วันละ
2 เวลำ ก่อนอำหำร เช้ำ-
เย็น
แก้น้ำ
ปัสสำวะสี
เหลืองดังน้ำ
ขมิน
ยำแก้น้ำปัสสำวะ
สีแดงดังน้ำฝำงต้ม
หัวแห้วหมู
รำกมะตูม
เทียนด้ำ
รำกเสนียด
ใบสะเดำ
รำกอังกำบ
ผลเอ็น
โกฐสอ
เกลือสินเธำว์
บดเป็นผง ลำยน้ำอ้อย
แดง ขนำดรับประทำน
วันละ 2 เวลำ ก่อน
อำหำรเช้ำ-เย็น
แก้น้ำ
ปัสสำวะสีแดง
ดังน้ำฝำงต้ม
ยำแก้น้ำปัสสำวะ
เป็นสีด้ำดุจน้ำ
ครำมหรือน้ำคร้ำ
รำกย่ำนำง
เถำวัลย์เปรียง
รำกกระทุงหมำบ้ำ
ฝำงเสน
หัวแห้วหมู
หญ้ำชันกำด
แก่นขีเหล็ก
รำกตะไคร้หำงนำค
ขมินอ้อย
ไพล
รำกหนำมรอบตัว
รำกหวำยขม
ต้มรับประทำน ต้ม 3 เอำ
1 รับประทำนครังละ 1
ช้อนโต๊ะ 3 เวลำก่อน
อำหำร
แก้น้ำ
ปัสสำวะเป็นสี
ด้ำดุจน้ำครำม
หรือน้ำคร้ำ
หนักสิงละ 1สลึง
หนักสิงละ 2 บำท
หนักสิงละเสมอ
ภำคกัน
ยำทังนีหนัก
สิงละเสมอ
ภำค

More Related Content

What's hot

Case study โรคลม
Case study โรคลมCase study โรคลม
Case study โรคลมtacrm
 
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนานยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนานUdomsak Chundang
 
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยาพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยาNickson Butsriwong
 
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการVorawut Wongumpornpinit
 
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา Newพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา NewNickson Butsriwong
 
การย่อยอาหารของมนุษย์ Human digestive system
การย่อยอาหารของมนุษย์ Human digestive systemการย่อยอาหารของมนุษย์ Human digestive system
การย่อยอาหารของมนุษย์ Human digestive systemPat Pataranutaporn
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Kannaree Jar
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย ป.5 ใหม่1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย  ป.5   ใหม่1ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย  ป.5   ใหม่1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย ป.5 ใหม่1sripayom
 
สไลด์ ภูมิปัญญาไทย ป.5+489+dltvsocp5+55t2soc p05 f19-1page
สไลด์ ภูมิปัญญาไทย ป.5+489+dltvsocp5+55t2soc p05 f19-1pageสไลด์ ภูมิปัญญาไทย ป.5+489+dltvsocp5+55t2soc p05 f19-1page
สไลด์ ภูมิปัญญาไทย ป.5+489+dltvsocp5+55t2soc p05 f19-1pagePrachoom Rangkasikorn
 
Case study muscle bone join
Case study muscle bone joinCase study muscle bone join
Case study muscle bone jointacrm
 

What's hot (20)

Con14
Con14Con14
Con14
 
Con2
Con2Con2
Con2
 
Con4
Con4Con4
Con4
 
Con3
Con3Con3
Con3
 
Con1
Con1Con1
Con1
 
Case study โรคลม
Case study โรคลมCase study โรคลม
Case study โรคลม
 
Con10
Con10Con10
Con10
 
Con21
Con21Con21
Con21
 
Con19
Con19Con19
Con19
 
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนานยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
 
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยาพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
 
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
 
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา Newพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
 
การย่อยอาหารของมนุษย์ Human digestive system
การย่อยอาหารของมนุษย์ Human digestive systemการย่อยอาหารของมนุษย์ Human digestive system
การย่อยอาหารของมนุษย์ Human digestive system
 
เล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทานเล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทาน
 
Herb
HerbHerb
Herb
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย ป.5 ใหม่1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย  ป.5   ใหม่1ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย  ป.5   ใหม่1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย ป.5 ใหม่1
 
สไลด์ ภูมิปัญญาไทย ป.5+489+dltvsocp5+55t2soc p05 f19-1page
สไลด์ ภูมิปัญญาไทย ป.5+489+dltvsocp5+55t2soc p05 f19-1pageสไลด์ ภูมิปัญญาไทย ป.5+489+dltvsocp5+55t2soc p05 f19-1page
สไลด์ ภูมิปัญญาไทย ป.5+489+dltvsocp5+55t2soc p05 f19-1page
 
Case study muscle bone join
Case study muscle bone joinCase study muscle bone join
Case study muscle bone join
 

Similar to Con13 (20)

Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
อาหาร
อาหารอาหาร
อาหาร
 
ยา
ยายา
ยา
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
Herbs
HerbsHerbs
Herbs
 
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
 
แหล่ให้ทานช้าง
แหล่ให้ทานช้างแหล่ให้ทานช้าง
แหล่ให้ทานช้าง
 
กิจกรรมหน้าเสาธง
กิจกรรมหน้าเสาธงกิจกรรมหน้าเสาธง
กิจกรรมหน้าเสาธง
 
วิชุมมาลา ฉันท์
วิชุมมาลา ฉันท์วิชุมมาลา ฉันท์
วิชุมมาลา ฉันท์
 
Tri91 03++มหาวิภังค์+เล่ม+๑+ภาค+๓
Tri91 03++มหาวิภังค์+เล่ม+๑+ภาค+๓Tri91 03++มหาวิภังค์+เล่ม+๑+ภาค+๓
Tri91 03++มหาวิภังค์+เล่ม+๑+ภาค+๓
 

Con13

  • 1. คัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา ทุราวสา 12 จาพวก ทุราวสา 4 (นาปัสสาวะให้โทษ) ให้ปวดหัวเหน่าให้แสบองคชาต ให้สะบัดร้อนสะบัดหนาว เป็นไปต่างๆ สี ลักษณะ Key สีดา น้ำครำม (น้ำคร้ำ) ด้ำแดง(โลหิต) ขำวเหลือง ครำมฝำง เช็ดขมินโลหิตสดๆ แดงดังน้ำต้มฝำง สีขาว น้ำข้ำวเช็ด สีเหลือง น้ำขมินสด มุตตะฆาต 4 เกิดด้วยกระทบชอกชา จึงสาแดงโทษ ให้ขัดสองราวข้างเส้นปัตคาด ให้เสียดแทงในอก เคลื่อนกายไม่สะดวก บริโภคอาหารมิได้ให้อาเจียนลมเปล่า เป็นต้น สี ลักษณะ Key แดงขุ่นข้น ให้ปวดขัดเจ็บเสียวเป็นก้ำลัง ปวด เป็นโลหิตช้ำปนโลหิตสด เลือดสด เป็นหนองน้ำขุ่นข้น เป็นหนอง เป็นสีด้ำดุจน้ำครำม น้ำครำม มุตกิต 4 กระท้าให้เจ็บ ให้ขัด ไหลหยดย้อยออกมา แล้วให้ปวดหัวเหน่า ข้อสะโพก แสบในอก บริโภคอาหารไม่รู้รส ทังนี เกิดเพื่อโลหิตชา สี ลักษณะ(กลิ่น) Key ดุจ เป็นโลหิตชา ดังน้ำปลำเน่ำ เลือดซ้ำปลำเน่ำ เป็นโลหิตจาง ดุจน้ำซำนหมำก เลือดจำงซำนหมำก เป็นนาหนองจางๆ ดุจน้ำซำวข้ำว หนองซำวข้ำว เป็นเมือกคล่องๆขัดๆ ดุจน้ำมูกไหล เมือกมูกไหล โทสัณฑะฆำต สตรี บุรุษ เกิดกระดูกแห้ง เป็นก้อนเท่าฟองไข่ไก่ ติดกระสันหลัง แรกเกิดโรคเป็นไข้พิษต่ำงๆ คือว่ำ ตกต้นไม้ หก ล้ม ถูกทุบถองโบยตี ช้ำใน โลหิตก็คุมกันเข้ำเป็น ก้อน
  • 2. ท้าให้เกิดอาการ เจ็บหลังบิดตัวอยู่ 14-15 วัน จึงเป็นลม จุก แดก แน่นอกดุจขาดใจ ท้ำำให้เกิดอำกำรเจ็บร้อนเสียดแทงในอก เสียด แทงสัน หลัง สมมติว่ำเป็นเม็ดยอดภำยใน ถ้ากินยาเผ็ดร้อน โลหิตก็แห้งติดสันหลัง จึงได้ชื่อว่า “สัน นิจ โลหิต” ถ้ำวำงยำผิด โลหิตนันจะกระจำยออกมำ แล่น เข้ำ กระดูกสันหลัง ชือว่ำ “สันนิจโลหิต” ทาให้ลงเป็นโลหิตเป็นก้อน เป็นลิ ม เป็นแท่งโลหิต บางทีก็ ตก ทวารหนักเบา เป็นดังนาชานหมากจางๆ ดังดินสอพอง ลงสู่ทวำรหนักเบำ เรียกว่ำ “อำสัณฑะฆำต” เหตุว่ำ เพรำะไข้อันพิฆำต บอบช้ำปีศำจก็พลอย สิง ถ้ารู้ไม่ถึงก็ตาย ถ้ำรู้ไม่ทันก็ตำย ตรีสัณฑะฆำต เกิดกำฬ เป็นเม็ดเท่ำเมล็ดข้ำวสำรหัก ตำมอวัยวะ ดังนี เกิดที่ ลักษณะ Key ตับ ลงเป็นโลหิต แล้วเป็นผี เข้ำสิง เข้ำจ้ำอยู่ ตับเลือดผี หัวใจ เจรจำมิได้ แน่นิงไป ใจนิง ไส้ (อ่อน- แก่) ให้จุกเสียด ท้องเฟ้อ เป็นมำน ไส้มำน ปอด กระหำยน้ำเป็นอันมำก ปอดกระหำยน้ำ ดี เจรจำด้วยผี พูดเพ้อไป อำกำรคลังเพ้อไปต่ำงๆ ดีผีเพ้อ ถ้าบุคคลใดเป็นดังกล่าวมาได้ 7-8 วัน โลหิตแตกซ่านไปในทวารทัง 9 เรียกว่า “ลักปิด” เป็นต้นเหตุ แห่งสัณฑะฆาต เป็นกรรมของผู้นัน ถ้าแก้มิคลายก็ถึงแก่ความตาย ปะระเมหะ 20 จาพวก สัณฑะฆาต 4 เกิดเพื่อ อาการ Key โลหิตแห้ง ถ้ำบังเกิดแก่สตรีว่ำด้วยโลหิตเดินไม่สะดวก คุมกันเป็นก้อนประมำณ เท่ำฟองไข่ ติดกระดูกสันหลังข้ำงใน มักให้เจ็บหลังบิดตัวให้จุกแน่น หน้ำอกดังจะขำดใจ ถ้ำ บุรุษว่ำด้วยไข้อันถึงพิฆำต คือตกต้นไม้ ถูกทุบ ถองโบยตี สำหัส พิกำรช้ำในอก โลหิตจึงเกำะเป็นก้อนดำน กระท้ำให้ ร้อน เสียดแน่นอกสันหลัง มีประเภทต่ำงๆ ถ้ำกินยำร้อนโลหิตก็จะ ละลำยออก ทังที เป็นลิมก้อนใหญ่ลงสู่ช่องทวำรหนักได้ ชือว่ำอสัน โลหิต เป็นอสำทิยโรค (อำสัณฑะฆำต) เลือดเดินไม่ สะดวก บิดจุกอก กาฬ เกิดขึนภำยใน ดี ตับ ปอด และหัวใจ บังเกิดสัณฐำนดุจเม็ดข้ำวสำร หัก บำงทีขึน ในไส้อ่อน ไส้แก่ ให้คลังเพ้อ ถ้ำขึนตับ ให้ตับหย่อน ให้ ตกโลหิต มีอำกำรดุจ ปีศำจเข้ำสิง ถ้ำขึนในปอดให้กระหำยน้ำ ถ้ำขึน ดีตับปอดหัวใจ ดัง ข้ำวสำรหัก เมือโลหิต แตก
  • 3. ในหัวใจให้นิงไปเจรจำมิได้ ถ้ำขึน ในไส้อ่อนไส้แก่ให้จุกโลหิต ท้องขึน ท้องพองดังมำนกระษัย ถ้ำเป็นดังกล่ำวมำนี ก้ำหนด 7-8-9 วัน โลหิตจะแตกออกในทวำรทัง9 เรียกว่ำ รัตตะปิตตโรค เป็น ต้น แห่งสัณฑะฆำต เป็นอติสัยโรค (ตรีสัณฑะฆำต) ซ่ำนในทวำรทัง9 จะ เรียกว่ำ รัตตะ ปิตตะโรค (อติสัย โรค) ปัตคาต บังเกิดมีอำกำรท้ำให้ท้องผูกเป็นพรรดึกและให้เลือดแห้งแล้วจึงบังเกิด วำโยกล้ำ พัดโลหิตให้เป็นก้อนเข้ำในอุทร ให้เจ็บไปทัวสรรพำงค์กำย เมือยบันเอว และมือ เท้ำตำย ให้ขบขัดเบำและตะโพก ให้ท้องขึนและ ดึงลงในทวำรเบำ บริโภคอำหำร ไม่รู้รส ให้ปำกเปื่อย เสียงแทบแห้ง เวียนศีรษะอยู่เป็นนิจ น้ำตำไหลและตำมืด หูตึง เมือจะเป็นให้มึนตึงตัว ไม่อยำกรับประทำนอำหำร บำงครำวให้ร้อน บำง ครำวให้หนำว บำงครังอยำกเปรียวอยำกหวำน โทษทังสินนี เกิดเพือปัตคำตให้ โทษ (โทสัณธฆำต) เป็นพรรดึก เลือด แห้ง เกิดวำโยกล้ำ พัดโลหิต เป็น ก้อนเข้ำอยู่ใน อุทร กร่อนแห้ง บังเกิดมีกำรกระท้ำให้เจ็บกระบอกตำ ให้เมือยไปทังตัว เจ็บที สะดือ ตลอดไปถึง อัณฑะ ให้คันองคชำต ให้เจ็บแสบร้อน แล้วแตกออกเป็น น้ำเหลืองไหลซึม อนึง กระท้ำให้เม็ดงอกขึนในรูองคชำตเท่ำผลพริก เทศ ครันนำนเข้ำดังยอดหูด ปัสสำวะก็เปลียนไปเป็นสีต่ำงๆ 4 ประกำร ดังแจ้งอยู่ในทุรวสำแล้วบังเกิดขึน เพือสมุฏฐำนธำตุและอชิน โรค กล่ำวคือ ส้ำแดงมีของมันคำว เป็นต้น กระท้ำให้ อำเจียนเป็น น้ำลำย น้ำลำยฝำด อสำทิยโรค รักษำยำกนัก เม็ดงอกในรู องคชำต เท่ำ ผล พริกเทศ เป็นอสำ ทยำ โรค เจ็บ กระบอกตำ สะดือถึงอัณฑะ คัน องคชำต องคสูตร 4 เดือน อาการ Key 5-7 คิมหันตฤดู เมือจะเกิดให้ลูกอัณฑะขวำนันพองแดงขึน ดังผลต้ำลึงสุก ท้ำให้ปวด แสบปวด ร้อนไปตำมเส้นเอ็นทังปวง เจ็บแต่รำวข้ำง ให้เสียดแทง อุจจำระผูกเป็นพรรดึก ขัดปัสสำวะเดินไม่สะดวก โทษทังนี เกิดเพือ โลหิต 3 ส่วน วำโยระคน 2 ส่วน รักษำยำก ไข่ขวำพองแดง เจ็บรำว ข้ำง ท้องผูก 8-10 วสันตฤดู มักให้เจ็บในอกและขำทัง 2 ข้ำง ให้เจ็บเสียวตำมกระดูกสันหลัง กระหวัดมำรำว นม และบ่ำทัง 2 ข้ำง แล่นไปปลำยเท้ำทัง 2 ข้ำง ให้ ขบให้ตอดดังมดตะนอย ต่อย ให้สะท้ำนร้อนสะท้ำนหนำว วิงเวียน หน้ำตำ ให้ชักหลังงอ เวลำปัสสำวะให้ แสบร้อนในรูองคชำต จุก อุจจำระให้เป็นมูกเลือดออกมำ โรคนี เกิดเพือวำโย 2 ส่วน เพือเสโท โลหิต 1 ส่วน บังเกิดแต่ล้ำไส้ออกมำ ลักษณะดังนี เป็น อสำทิยโรค รักษำยำกนัก ให้ขบตอด ดังมด ตะนอย ต่อย เจ็บ อกและขำ 2 ข้ำง เวลำเยียวให้แสบ ร้อนในรูไข่ 11-1 เหมันตฤดู เมือบังเกิดขึนให้ปวดในรูองคชำต ปัสสำวะเล็ดออกมำ ปัสสำวะหยด ย้อย เจ็บ บันเอว ทำนอำหำรไม่ได้ โทษเกิดเพือเสมหะ 3 ส่วน โลหิต 2 ส่วน ครันนำนเข้ำ ท้ำให้ไส้ขำดออกมำก็ถึงแก่ควำมตำยเป็นอติสัย ปวดรูไข่ จนเยียว เล็ด เจ็บ เอว กิน ไม่ได้
  • 4. โรครักษำไม่ได้เลย ถ้ำจะแก้ แก้ แต่ยังอ่อนอยู่ ถ้ำแก้ให้แก้โลหิต เสียก่อน แล้วจึงแก้เสมหะต่อไปตำมล้ำดับ 2-4 สันนิบาตฤดู เวลำเกิดขึนกระท้ำให้ผิวอัณฑะด้ำ และบวมมีพิษแสบร้อนมำก อัณฑะ ฟกข้ำง หนึง มีพิษแสบร้อนมำก เจ็บตำข้ำงหนึง ปวดศีรษะข้ำงหนึง บังเกิดด้วยโลหิต สันนิบำต ปัสสำวะเป็นน้ำเหลืองโลหิตเจือออกมำ แสบตำมช่องปัสสำวะ ให้ เสียดสองรำวข้ำงและหน้ำอกขึนมำตำม เกลียวปัดคำต จับเป็นเวลำ ทำนอำหำร ไม่ได้ อำเจียนลมเปล่ำต้นคอ คอแห้ง น้ำลำยเหนียว ตกเสมหะโลหิตทำงทวำร หนักดุจเป็นบิด ร้อน นัยต์ตำ สวิงสวำย กองสันนิบำตฤดูทัง 3 มำประชุมพร้อม กันก้ำหนด มิได้ ไข่ด้ำบวม ไข่ฟก ข้ำงหนึง แสบ ร้อน เจ็บตำข้ำง หนึง ปวดหัวเข่ำ ข้ำงหนึง เยียว เหลือง มีเลือดปน องคสูตร จะแบ่งตาม ฤดู ต่างๆ แต่จะไม่เหมือนกับฤดูสมุฏฐานที่ปรากฎในคัมภีร์สมุฏฐานวินิจฉัย หรือ เวช ศึกษา อุปทุม 4 เกิด อาการ Key อาการอักเสบ เนืองด้วยเสพเมถุนกับสตรีที ยังไม่มีระดู ข่มขืนกระท้ำช้ำเรำด้วยควำม ก้ำหนัด สตรีเพศพรหมจำรี บุรุษข่มเหงด้วยก้ำหนัดยินดีด้วย ซึงสตรีเป็น เพศพรหมจำรี นันมิรู้รสก้ำหนัดยินดีด้วย เปรียบประดุจดังช้ำงสำรตัว ใหญ่เข้ำไปอยู่ในโพรงอัน แคบแล้วจะได้คิดว่ำเจ็บปวดนันหำมิได้ ครัน ออกจำกช่องแคบแล้วกระท้ำให้ เจ็บปวดต่ำงๆ คือ ให้องค์ก้ำเนิดช้ำนัก เดำะ เป็นหนอง เป็นโลหิตไหลออกมำ ตำมช่องทวำรเบำของตนเองได้รับ ควำมเจ็บปวดเวทนำยิงนัก คือ ให้แสบร้อน ปัสสำวะไม่สะดวก ให้ล้ำช่อง ปัสสำวะบวมขึนและก็เป็นหนองไหลออกมำตำม ช่องทวำรเบำ เล่นของเด็ก เลยเจ็บตัว เสพเมถุนกับ หญิง แพศยา (หญิง โสเภณี) เนืองจำกสตรีนันคบชู้สู่ชำยและช่องสังวำสนัน ช้ำชอกด้วยกิเลสตัณหำ เป็นนิจ ด้วยเหตุที ทวำรทีชุ่มด้วยลำมกตัณหำนันครันชำยไปร่วมประเวณี ด้วยสตรีนันก็ กระท้ำให้บังเกิดซึงโรคสมมติว่ำ อุปทุม โดยก้ำลังที ชุ่มนัน ล้ำรำบดุจน้ำใบไม้ น้ำ หญ้ำเน่ำและเมือมีผู้ไปย้ำน้ำนัน ก็กัดเอำเปื่อยพัง ไปเกิดทุกข์เวทนำเป็นอันมำก เล่นโสเภณีเลย ติดโรค เกิดเพราะนิ่ว บุรุษกลำยเป็นนำครำชมักเกิดที ปลำยองค์ก้ำเนิด แล้วลำมไปในช่อง ปัสสำวะองค์ ก้ำเนิดบวมขึนแล้วแข็งเข้ำเป็นดำน (ถ้ำสตรีออกมำทวำร ครรภ์เป็นดังดำก สมมติว่ำดำกโลหิตนันหำมิได้ คือ อุปุทังโรค ดังกล่ำวมำ นี ) นำนเข้ำก็ลำมมำถึง หัวเหน่ำ กระท้ำให้โลหิตเป็นลิ ม เป็นแท่ง ออกมำ บำงทีปลำยดำกขำดออกมำ เหม็นคำวนัก บำงทีเป็นหนอง เป็น โลหิตออกมำ ให้ปวดหัวเหน่ำและท้องน้อยดัง จะขำดใจ โรคดังกล่ำวมำนี เป็น อติสัยโรค รักษำมิได้ ถ้ำจะรักษำก็รักษำยำก กลำยเป็น นำครำช
  • 5. เกิดเพราะ โทษ ดาน และกษัย กล่อน และกาฬ มูตร มักเกิดขึนตังแต่สะดือลงไปถึงหัวเหน่ำ เรียกว่ำ โรคส้ำหรับบุรุษ บุคคล บริสุทธิ์ที มิมำกทำงกำมตัณหำ คือสมณะ ภิกษุ สำมเณร พรหมณ์ ทังหลำย อันมีศีลอัน บริสุทธิ์ ไม่ได้เสพเมถุนกับมำตุคำมเลย โรคนันก็ บังเกิดด้วยโทษดำนและกษัย กล่อนและกำฬมูตร มักเกิดแต่สะดือลงไป หำหัวเหน่ำให้ขัดปัสสำวะ คือ กร่อน ถึงองค์ก้ำเนิด ให้องค์ก้ำเนิดบวม ท้ำ ให้แสบร้อน ปัสสำวะมิได้ รับประทำนยำถูก ก็หำยไป แล้วกลับมำเป็นอีก หลำยครังหลำยหน ครันนำนเข้ำก็กลำยเป็นหนอง บุพโพโลหิตออกมำ ทำงช่องทวำรเบำให้เจ็บปวดต่ำงๆ ผู้ใดเป็นดังกล่ำวมำนี เรียกว่ำ “โรค บุรุษ” จะได้เป็นอุปทม นันหำมิได้ เกิดกับพระ ด้วยกำฬมูตร และกษัย กร่อน ไส้ด้วน 4 เกิด อาการ Key กับหญิงมี ประจ้า เดือน ท้ำให้เกิดเป็นเม็ด เป็นแผล ภำยในบ้ำง เป็นเม็ด เป็นผืน เป็นวงเท่ำแผ่น ตำม ร่ำงกำยภำยนอกบ้ำง อำกำร ให้ปวดแสบ ขัดยอก และปวด ปัสสำวะ แสบ ขัดยอก ปวดฉี รุนแรง กระทบชอกช้ำภำยใน มีลักษณะพึงสังเกต คือ เป็นเม็ด เป็นแผล แล้วมี หนอง น้ำเหลืองออกมำ บ้ำงก็เป็นเม็ดที องคชำตหรือตำมร่ำงกำย ภำยนอก อำกำร ให้ปวดเจ็บยิงนัก บำงทีขัดตำมข้อ ปัสสำวะขัด ปวด แสบ ขัดข้อ ปวดแสบ ฉี ขัด สาส่อน จึงเกิดเป็นเม็ดทังข้ำงในและข้ำงนอก มีหนองออกมำหรือเป็นฝี 2 หน้ำ ขำ บำงที เป็นเม็ดผืนขึนทัวร่ำงกำย (ฝีมะม่วง) อำกำร ให้เจ็บปวดยิงนัก ขัด ยอก ปวดตำมกระดูก ขัดปัสสำวะ ปวดกระดูก ฉี ขัด กับหญิงแพศยา เกิดเป็นฝีอุปทุม (กำมโรค) เป็นเม็ดที ปลำยหรือรอบองคชำตภำยใน ช่องปัสสำวะ แล้วแตกออกเป็นโลหิต น้ำเหลือง น้ำหนอง ออกมำบ้ำง กลำยเป็นฝี อำกำร ท้ำพิษให้ปวดแสบปวดร้อนดังไฟลวก บำงทีท้ำให้ เน่ำแต่ปลำย องคชำต ลำมเข้ำภำยในช่องปัสสำวะ ท้ำให้ปวดแสบ ขัด ปัสสำวะ แสบร้อน องคชำตเน่ำ อีกนัยหนึ่งเรียกว่า “ไส้ลาม” มักเรียกคู่กันกับไส้ด้วน มีลักษณะ ผุดขึนเป็นเม็ดเหมือนกัน แต่เม็ดนันมักเกิด จากภายในออกมาภายนอก ภายในลามถึงหัวเหน่า ท้องน้อย ผุดขึนดังเช่น ฝีแตกเป็นหนองออกทางปัสสาวะ ชายหญิงก็เหมือนกัน อาการ ให้ปวดมวนจุกเสียดแน่นในอก โดยนาเหลืองซึมเข้าไปในล้าไส้ ให้อาเจียนหรือ ท้องเดินเป็นมูกเลือด เบื่ออาหาร ปวดขัด ตามกระดูก ปัสสาวะปวดแสบยิ่งนัก
  • 6. ช้ำรัว 4 เกิด อาการ Key คลอดบุตร แล้วอยู่ ไฟไม่ได้ เนืองจำกมดลูกไม่เข้ำอู่หรือปวดขึนกลับอยู่นำนจนกลำยเป็น หนองและโลหิต รำว 2-3 เดือนก็มีโลหิตจำงๆ ไหลปนออกมำ กับน้ำเหลืองอันมีพิษไหลถึงไหนก็มี ผืน ท้ำให้ขอบทวำรเป็นหัว ขำวๆ แล้วแตกลำมไปเรือย อำกำร ท้ำให้ปวดแสบปวดร้อน คันในช่องคลอดและขอบทวำรเบำ และปวด เสียวในมดลูก ปัสสำวะหยดย้อย ปวดมดลูก คันช่องคลอด เป็นฝีที มดลูก มีลักษณะบวม ปัสสำวะเป็นน้ำเหลืองบำงครังเป็นเหมือน น้ำคำวปลำ อำกำร ให้เจ็บปวดที มดลูกเป็นก้ำลัง ขัดเสียวทีหัว เหน่ำ ปัสสำวะหยดย้อย อีก จ้ำพวกหนึงเกิดกับสตรีรุ่นสำวที ยังไม่มีระดูประจ้ำเดือนร่วมเมถุนกับบุรุษ ถูก ข่มขืนจำกชำย โดยหักหำญถึงโลหิตออกจำกช่องทวำร มีอำกำรเจ็บปวดแสบ จน กลำยเป็นแผลเน่ำเปื่อย ขัดปัสสำวะและหยดย้อย แบ่งเป็น 2 ลักษณะ 1) ปวดมดลูก ขัดหัวเหน่ำ 2) ยังไม่มีเมน แล้วถูก ข่มขืน จนเลือดออก กลำยเป็นแผลเน่ำ เสพเมถุน ปำกทวำรเปื่อยเน่ำได้รับควำมชอกช้ำภำยในถึงมดลูกจึงเกิด เป็นน้ำหนอง น้ำเหลืองเน่ำร้ำยไหลหยดย้อยลุกลำมกัด เนืออ่อนภำยใน ปวดมดลูกชอกช้ำ เสพเมถุน ส่าส่อน จึงเกิดโรคตำมนำม สมมติว่ำอุปทุม (กำมโรค) ร้ำยแรงนักให้มี น้ำเหลืองน้ำหนอง ไหลออกมำ ปัสสำวะกระปริตกระปรอย อำกำร ให้ปวดแสบปวดร้อนภำยในช่องคลอด และช่องทวำร เบำ ปัสสำวะหยด ย้อย เจ็บ ขัด บริเวณหัวเหน่ำ แสบร้อนในช่องคลอด
  • 7. การเทียบเคียงโรคทางแพทย์แผนปัจจุบันคัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา โรคทำงกำรแพทย์แผนไทย โรคทำงกำรแพทย์แผนปัจจุบัน ทุรำวสำ ปัสสำวะออกมำเป็นสีขำวขุ่นดังน้ำข้ำวเช็ดมีหนอง Pyelonephritis กรวยไตอักเสบ GC ปัสสำวะออกมำเป็นสีเหลือง ดังน้ำขมินสด Jaundice ดีซ่ำน ปัสสำวะออกมำเป็นโลหิตสดๆ แดงดังน้ำฝำงต้ม Glomerulonephritis หน่วยไตอักเสบ ปัสสำวะออกมสำเป็นสีด้ำ ดังน้ำครำมหรือน้ำคร้ำ - G6PD deficiency, Glucose-6-phosphatase dehydrogenase deficiency ภำวะเม็ดเลือดแดง แตกจำกกำรขำดเอนไซม์จีซิกพีดี - โรคมำลำเรียชนิดรุนแรง หรือมีภำวะแทรกซ้อน มุตฆำต ปัสสำวะออกมำแดงขุ่นข้นให้ปวดขัดเจ็บเสียวเป็น ก้ำลัง - urinary calculi นิวท่อไต - cystitis กระเพำะปัสสำวะอักเสบ ปัสสำวะออกมำแดงขุ่นข้นเป็นโลหิตช้ำปนโลหิตสด - Glomerulonephritis หน่วยไตอักเสบ - renal calculi โรคนิวในไต ปัสสำวะออกแดงขุ่นข้น เป็นหนองช้ำขุ่น Pyelonephritis กรวยไตอักเสบ ปัสสำวะออกมำแดงขุ่นข้น เป็นสีด้ำดุจดังน้ำครำม (น้ำคร้ำ) G6PD deficiency, Glucose-6-phosphatase dehydrogenase deficiency ภำวะเม็ดเลือดแดง มุตกิจ ปัสสำวะออกมำดุจโลหิตช้ำ และดังน้ำปลำเน่ำ Glomerulonephritis หน่วยไตอักเสบ ปัสสำวะออกมำเป็นโลหิตจำงดุจน้ำชำนหมำก อำจเป็นทำงเดินปัสสำวะอักเสบ, นิว ปัสสำวะออกมำเป็นน้ำหนองจำง ๆ ดุจน้ำซำวข้ำว - อำจเป็นโรคPyelonephritis กรวยไตอักเสบ - Gonorrhea หนองในแท้ ปัสสำวะออกมำเป็นเมือกคล่อง ๆ ขัดหยดย้อยดุจ น้ำมูกไหลเลือกออกมำ - อำจเป็นโรคไตเรือรัง - Chlamydia หนองในเทียม - vaginitis ช่องคลอดอักเสบ ปะระเมหะ สัณฑะฆาต สัณฑะฆำต เกิดพเพือโลหิตแห้ง Dry hematoma สัณฑฆำต เกิดเพือกำฬ - Tuberculosis วัณโรค - Cirrhosis โรคตับแข็ง สัณฑฆำต เกิดเพือปัตคำด Constipation ท้องผูก สัณฑฆำต เกิดเพือกล่อนแห้ง - องคสูตร องคสูตร เกิดในเดือน ๕-๖-๗ ( คิมหันตฤดู) Orchitis อัณฑะอักเสบ องคสูตร เกิดในเดือน ๘-๙-๑๐ ( วสันตฤดู) Renal calculi นิวในไต
  • 8. องคสูตร เกิดในเดือน ๑๑–๑๒-๑ ( เหมันตฤดู) องคสูตร เกิดในเดือน ๒-๓-๔ ( สันนิปำตฤดู ) Severe orchitis อัณฑะอักเสบ ชารั่ว เกิดเพรำะสตรีคลอดบุตรแล้ว อยู่ไฟไม่ได้ pelvic inflammatory diseases ได้แก่ - endometritis เยือบุมดลูกอักเสบ - salpingitis ปีกมดลูกอักเสบ เกิดเพรำะเสพเมถุนมำกเกินประมำณ Sexually transmitted disease หรือ STD โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์ เกิดเพรำะเป็นฝีทีมดลูก - Myomauteri เนืองอกมดลูก - Sexually transmitted disease หรือ STD โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์ - Vaginitis ช่องคลอดอักเสบ เกิดเพรำะสตรีชอบประกอบเมถุนกำมส้ำส่อนเป็น เนืองนิจ Sexually transmitted disease หรือ STD โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์ อุปทม อุปทม เกิดเพรำะกำรอักเสบ เนืองด้วยเสพเมถุนกับ สตรีทียังไม่มีระดู ข่มขืน Gonorrhea หนองในแท้ อุปทม เกิดเพรำะเสพเมถุนกับหญิงแพศยำ Sexually transmitted disease หรือ STD โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์ อุปทม เกิดเพรำะโทษดำนและกระษัยกล่อน และ กำฬมูตร Smegma อุปทมเกิดเพรำะนิว นิวในระบบทำงเดินปัสสำวะ ไส้ด้วน เกิดจำกชำย ชอบเสพเมถุนส้ำส่อน Sexually transmitted disease หรือ STD โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์เกิดจำกชำยเสพเมถุนกับสตรี ซึงก้ำลังมีประจ้ำเดือน เกิดจำกชำยเสพเมถุนรุนแรง เกิดจำกชำยเสพเมถุนกับสตรีแพศยำลำมก โทสัณฑะฆำต Dry haematoma ตรีสัณฑะฆำต - Tuberculosis วัณโรค - Cirrhosis โรคตับแข็ง
  • 9. ยาที่ใช้รักษาอาการตามคัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา ชือยำ ส่วนประกอบ วิธีใช้ สรรพคุณ ยำแก้น้ำปัสสำวะ ขำวขันดังน้ำข้ำว เช็ด กำรบูร เทียนด้ำ ผลเอ็น อ้ำพัน หัวแห้วหมู ขิงแห้ง บดเป็นผง ละลำยน้ำสุก เป็นน้ำกระสำย ขนำด รับประทำน ครังละ 1 ช้อนชำ วันละ 2 เวลำ ก่อนอำหำรเช้ำ-เย็น แก้น้ำ ปัสสำวะขำว ข้นดังน้ำข้ำว เช็ด ยำแก้น้ำปัสสำวะ สีเหลืองดังน้ำขมิน ลูกสมอไทย มหำหิงคุ์ รำกเจตมูลเพลิงแดง สำรส้ม สุพรรณถันแดง เทียนด้ำ หนัก 1 บำท ดอกค้ำไทย หนัก 2 บำท บดเป็นผงละลำยน้ำ มะนำว ขนำดรับประทำน ครังละครึงช้อนชำ วันละ 2 เวลำ ก่อนอำหำร เช้ำ- เย็น แก้น้ำ ปัสสำวะสี เหลืองดังน้ำ ขมิน ยำแก้น้ำปัสสำวะ สีแดงดังน้ำฝำงต้ม หัวแห้วหมู รำกมะตูม เทียนด้ำ รำกเสนียด ใบสะเดำ รำกอังกำบ ผลเอ็น โกฐสอ เกลือสินเธำว์ บดเป็นผง ลำยน้ำอ้อย แดง ขนำดรับประทำน วันละ 2 เวลำ ก่อน อำหำรเช้ำ-เย็น แก้น้ำ ปัสสำวะสีแดง ดังน้ำฝำงต้ม ยำแก้น้ำปัสสำวะ เป็นสีด้ำดุจน้ำ ครำมหรือน้ำคร้ำ รำกย่ำนำง เถำวัลย์เปรียง รำกกระทุงหมำบ้ำ ฝำงเสน หัวแห้วหมู หญ้ำชันกำด แก่นขีเหล็ก รำกตะไคร้หำงนำค ขมินอ้อย ไพล รำกหนำมรอบตัว รำกหวำยขม ต้มรับประทำน ต้ม 3 เอำ 1 รับประทำนครังละ 1 ช้อนโต๊ะ 3 เวลำก่อน อำหำร แก้น้ำ ปัสสำวะเป็นสี ด้ำดุจน้ำครำม หรือน้ำคร้ำ หนักสิงละ 1สลึง หนักสิงละ 2 บำท หนักสิงละเสมอ ภำคกัน ยำทังนีหนัก สิงละเสมอ ภำค