Con12
- 1. คัมภีร์อุทรโรค
ว่าด้วยลักษณะมาน 18 ประการ มานเกิดขึ้นได้โดยอนุโลมตามธาตุวิปริต ในกองสมุฏฐานให้เป็นเหตุกระทาให้
ท้อง นั้นใหญ่ สมมติเรียกว่า “มาน”
มานน้า 4 ประการ
เกิดด้วย อาการ Key
โลหิตและน้าเหลือง
ซึมซาบไปในไส้ใหญ่
มีอาการทาให้ลาไส้นั้นพองขึ้นแน่นเข้าไปในท้อง บริโภคอาหารไม่ได้ ให้อิ่มไป
ด้วยลมและน้าเหลืองเป็นก้าลัง แล้วทาให้ท้องนั้นใหญ่ขึ้น จะลุกนั่งก็ไม่ได้ให้
เหนื่อยหอบ
ไส้พอง
ล้าไส้ปริ ไหลซึม
ออกมาขังในช่องท้อง
และไต
มีอาการกระทาให้ขัดอุจจาระ ให้อุจจาระเดินไม่ปกติ โดยก้าลังคูภทวารปิด
แล้วให้เสียดแทงล้าคอ กระทาการนวดเฟ้นจึงลั่น ผายลมก็ไม่สะดวกต่อเมื่อ
รับประทานยาถ่ายจึงคลายลง แล้วกลับเป็นใหม่อีกสองครั้งสามครั้ง โรคนั้น
ทวีขึ้นท้องนั้นใหญ่ทวีมา นานเข้ากระทาให้ซูบผอม หาโลหิตไม่ได้กินอาหาร ไม่
รู้รส นอนไม่หลับ
ทวารปิด ขัด
ขี้เยี่ยว
น้าเหลืองซึมไปในชิน
เนือ และขุมขน
มีอาการ กระทาให้บวมขึ้นทั้งตัวเป็นบั้นเป็นท่อน ครั้นถ่ายยาทายาลงไปก็ยุบ
กลับเป็นอีกมากกว่าเดิม เป็นอย่างนี้ หลายครั้งหลายหน ครั้นนานเข้าจะนั่งมิ
ไม่จะนอนราบละก็มิได้ ได้แต่นอนคดจึงค่อยสบาย แล้วบวมขึ้นไปทั้งตัว ดัง
เนื้อจะปริแตกออกจากกัน ผิวหนังใสซีด ไม่มีโลหิตจะเคลื่อนไหวร่างกายส่วน
ใดก็มิได้ นอนซมดังศพขึ้นพอง สมมุติว่า “มานทะลุน”
หนังใส บวม
นอนซม
น้าเหลืองซ่านเข้าไป
ขัง ในอยู่ในกระเพาะ
ปัสสาวะและมดลูก
มีอาการ กระทาให้น้าเหลืองนั้นซ่านและขังอยู่ในกระเพาะให้ขัดปัสสาวะ แต่
ไม่ขัดเหมือนปะระเมหะเป็นแต่ปัสสาวะมิสะดวกไม่มีฟองและน้อยไป มีสี ต่างๆ
กัน บางทีเหลือง ขาว ด้า แดง กาหนดแน่นอนไม่ได้ นานเข้า กระเพาะ
ปัสสาวะเบ่งออกมา เวลาเหงื่อออกเสียวไปทั้งร่างกาย สะบัดร้อนสะบัดหนาว
ร่างกายซูบ ซีด ผอม ไอ อาเจียนออกแต่น้าลาย รับประทานอาหารไม่ได้
อุจจาระไม่ปกติ
เสียวตัว ผอม
ไอ อาเจียน
มานทัง4ประการ เกิดแต่กองเตโช เป็นมันทธาตุ ยิ่งไปด้วยเสมหะมีก้าลัง คือ ไฟธาตุหย่อน อาการไม่ย่อยลงไปวันละ
2-3 เวลา สวิงสวายใจสั่น ไม่มีเรี่ยวแรงกระท้าให้ ท้องขึนอยู่เสมอๆ อุจจาระเป็นเมือกมัน เป็นเปลว หยาบ ละเอียด
ปวดมวน โทษทังนี เกิดแต่กองอาโปธาตุ 12 ประการ เป็นเหตุ
- 2. มานลม 4 ประการ
เกิดด้วย อาการ Key
อโธคมาวาตา
ตังอยู่ในท้องใต้
สะดือ 2 นิว
อาการกระทาให้ลมนั้นตั้งอยู่ในท้อง ไม่ได้พัดลมไปตามปกติ ให้พะอืดผะอม และ
ให้ท้องขึ้นอยู่เสมอ บางทีจุกบางทีแน่นไปทั่วท้อง รับประทานอาหาร ไม่ได้ให้อิ่ม
ไปด้วยลม ผายลมไม่สะดวก ท้องผูก เป็นพรรดึกด้วยลมกองนี้กระทา จึงให้ท้อง
ใหญ่ขึ้น พอสังเกตตั้งอยู่ใต้สะดือ 2 นิ้ว ครั้นลดลงก็กระจาย ออกแล้วกลับแข็ง
เข้าอีก ลอยขึ้นมาทับเส้นอัณฑพฤกษ์อยู่ลมนั้นจึงพัดกล้า ขึ้นให้ท้องใหญ่ออก
แล้วแข็งดังกล่าวมานี้
พะอืดพะอม จุก
ทั่วท้องผายลม
ไม่ สะดวก
ท้องผูก ท้อง
ใหญ่ แข็ง
อุทธังคมาวาตา
ค้างที่ ท้อง แน่น
อก ตังเหนือ
สะดือ 2 นิว
อาการกระทาให้ลมนั้นคั่งค้างอยู่ในท้อง ไม่ได้พัดลงตามปกติ แน่นหน้าอก
รับประทานอาหารไม่ได้ เรอไม่ออก ผายลมไม่สะดวก อุจจาระผูก ลมนั้นกล้า
พัดเตโชให้กาเริบ จึงแน่นให้ทั่วท้อง ลมนั้นตั้งอยู่เหนือสะดือ 2 นิ้ว แข็งดุจแผ่น
กระดานทับอยู่บนเส้นอัณฑพฤกษ์ ระคนด้วยลมอุทรวาต จึงพัดให้ท้อง ใหญ่ขึ้น
ท้องเต็มไปด้วยลมและใหญ่กว่าปกติ
แน่นอก เรอไม่
ออก กินไม่ได้
ท้องเต็มไป ด้วย
ลม
กุจฉิสยาวาตา
พัดใน ท้อง
ระคนกับลมอุทร
วาตขี่ไม่ปกติ
อาการ ลมกองนั้นพัดอยู่ในท้อง ระคนเข้ากับลมอุทรวาต ก็พลอยกาเริบขึ้น ไม่ได้
พัดลงไปสู่ทวาร ทวารจึงไม่ได้เปิดอุจจาระก็ไม่เป็นปกติ ถ้ารับประทาน ยาก็เดิน
โดยก้าลังยา ครั้นคลุมเข้าก็ทาให้แน่นอืดเฟ้อ ถ้าถ่ายไปก็ค่อยสบาย แล้วกลับเป็น
อีกหลายครั้ง ท้องใหญ่ขึ้นโดยกาลังวาโยกล้า พัดเตโชธาตุให้ดับ เสีย กระทาให้
ท้องขึ้นอยู่เป็นนิจ หายใจไม่สะดวกเหนื่อยมาก รับประทาน อาหารมักให้
คลื่นเหียนอาเจียนเวลาเช้าท้องค่อยหย่อนลง สบายไปจนถึง เที่ยงวันเวลาบ่าย
ท้องนั้นขึ้นไปจนถึงย่ารุ่ง หาความสุขไม่ได้
อืดเฟ้อ ท้องขึ้น
หายใจไม่
สะดวก กินมัก
อ้วก
โกฏฐาสยาวาตา อาการ ลมกองนี้ พัดอยู่ในลาไส้น้อยและลาไส้ใหญ่ เมื่อจะเกิดโทษระคนกัน เข้า
กับลมอุทรวาตก็พลอยกาเริบพัดไม่มีกาหนด ลาไส้นั้นก็พองขึ้น ดุจบุคคลเป่า
ลูกโป่ง ลูกโป่งก็พองขึ้นเต็มไปด้วยลมกระทาให้พะอืดพะอม ถ่าย อุจจาระไม่ได้
โทษอันนี้คือลมโกฏฐาสยาวาตามิให้พัดอุจจาระลงสู่คูถทวาร ทวารก็ไม่ได้เปิด
อุจจาระจึงเดินไม่ปกติ ทาให้จุกแน่นเสียดไปทั้งท้อง สะบัด ร้อนสะบัดหนาว โดย
ลมนั้นกระทาพิษ
พะอืดพะอม
ขับถ่ายไม่ได้
สะบัดร้อน
หนาว
- 3. มานหิน 4 ประการ
เกิดด้วย อาการ Key
อโธคมาวาตา
อัมพาต มุตฆาต
ระคน กัน
อาการ คือ ลมอโธคมาวาตาพัดขึ้นตามเกลียวอัมพาต เกลียวมุตฆาตนั้นกล้า
เหลือกาหนด กระทาให้เส้นนั้นพองแข็งเข้าติดกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ยัน ขึ้น
ไปถึงยอดอก ทาให้แน่นหน้าอกเป็นกาลัง ทาให้หนังท้องนั้นใหญ่ขึ้น โดย เส้นตึง
แข็งติดกันเข้าดุจทานบกั้นน้า คือ กั้นไม่ให้ลมตกลงได้สะดวก
แน่นหน้าอก ดุจ
ทานบกั้นน้า
อุทธังคมาวาตา
อัณฑพฤกษ์
สัณฑะฆาต
ระคนกัน
อาการคือลมอุทธังคมาวาตาพัดลงมานั้นกล้าเหลือกาลังยิ่งนัก และขังอยู่ใน
เกลียวอัณฑพฤกษ์ และสัณฑะฆาตนั้นก็พลอยกาเริบแข็งตัวตึงกล้าขึ้น ติดกัน
เป็นแผ่นอันหนึ่งอันเดียวกัน แล้วขึ้นไปยันหน้าอกด้านซ้าย แข็งดังท่อนเหล็ก
แน่นในทรวงอกมาก ท้องนั้นใหญ่ขึ้นโดยกาลังลม ถ้าได้บีบนวดจึงคลายลงบ้าง
หน้าอกซ้าย
ท้องใหญ่ขึ้น
กุจฉิสยาวาตา
อัมพาต ปัตคาด
ระคน กัน
อาการคือ ลมกุจฉิสยาวาตากาเริบขึ้นในท้องกล้ายิ่งนัก ไม่ได้พัดลงตามช่อง
ทวารจึงทาให้เป็นอัมพาต ปัตคาด เป็นเถาเป็นดานแข็ง โดยอานาจของลม เดิน
ในลาไส้นั้นกล้า เส้นนั้นก็พองขึ้นติดชายโครงด้านขวากระทาให้เจ็บอยู่ 23 วัน
แล้วหายไปโดยกาลังพิษวาโยกระทา
ชายโครง ขวา
โกฏฐาสยาวาตา
อัณฑพฤกษ์ รัต
ฆาต ระคนกัน
อาการคือลมโกฏฐาสยาวาตาพัดในลาไส้น้อยกล้ายิ่งนัก กระทาให้ลาไส้พอง ขึ้น
ทับอัณฑพฤกษ์ รัตคาตนั้น จึงลงไปแขวนติดกระดูกสันหลัง อยู่ยันลง มาถึง
ท้องน้อย ให้ตึงหัวเหน่ามาก แล้วตั้งเป็นก้อนใหญ่ขึ้น มีอาการให้ถ่วง ท้องน้อย
ยอกสันหลังและหน้าตะโพก
กระดูกสัน หลัง
ถ่วง ท้องน้อย
มานโลหิต 4 ประการ
เกิดด้วย อาการ Key
ระดูขัด มิได้มา
ตามปกติ ระคน
ด้วยลมอังคมัง
คานุสารีวาตา
อาการเมื่อกระทาให้เกิดโทษนั้น ระดูไม่ได้มาตามปกติในรอบเดือนจึงเป็นพิษ
ระคนด้วยลมอังคมังคานุสารีวาตาก็พากันกาเริบขึ้น กระทาให้เตโชธาตุนั้น เป็น
อธิกธาตุยิ่งขึ้น ตั้งเป็นก้อนเหนือสะดือทับกองลมอุทรวาตไม่ให้เดินเป็น ปกติ
เป็นก้อน เหนือ
สะดือ
ระดูมิได้เดินเป็น
ปกติ ระคนด้วย
ลมอันชื่อ วาโย
พิการ
อาการเมื่อกระทาให้เกิดโทษนั้น ระดูมิได้มาตามปกติในรอบเดือน ครั้นนาน เข้า
ก็กระทาให้เป็นพิษระคนด้วยลมอันชื่อว่า วาโยพิการ ก็พากันกาเริบ ฟุ้งซ่านไป
ทั้งอุทร จึงกระทาให้ท้องใหญ่ร่างกายซูบผอม ไอ ร้อนๆ หนาวๆ หรือ ร้อนๆ
หนาวๆ บ้างส่วนของร่างกาย บ้างทีมือบวม เท้าบวม หน้าตะโพก บวม ท้องขึ้น
อืดเฟ้อ จุกแน่น
ท้องใหญ่ ซูบ
ผอม ไอ ร้อนๆ
หนาวๆ มือเท้า
ตะโพกบวม อืด
เฟ้อ จุกแน่น
กองโลหิตกระท้า
พิษ ระคนด้วย
โลหิตระดูร้าง
โลหิตคลอดบุตร
โลหิต ต้องพิฆาต
โลหิตเน่า โลหิต
ตกหมกช้า
อาการเมื่อแรกจะบังเกิดขึ้น กระทาให้อาเจียนก่อน มีเหงื่อออกที่หน้ามากกระทา
ให้คลื่นเหียนอาเจียน น้าลายมีรสขม มือหน้าตาลาย สวิงสวาย แล้ว กระทาให้
ฟกบวมขึ้นที่ตะโพก หัวเหน่า สะดือ ท้องน้อย แล้วจึงฟกบวมไปทั่วร่างกาย แน่น
หน้าอก ท้องอืด หายใจไม่เต็มปอด นอนไม่หลับ อ่อนเพลียมาก รับประทาน
อาหารมิได้
มีเหงื่อออก
น้าลายขม ฟก
บวมทั่ว ร่างกาย
- 4. โลหิตจาง อาการเมื่อกระทาโทษนั้น ให้วิงเวียนหน้ามืดตามัว จุกเสียดถึงเวลาบ่าย เมื่อ
ทุเลาแล้วก็กลับเป็นอีกจนล่วงเข้าสามยาม จึงกระทาให้ท้องนั้นใหญ่ มีอาการ อืด
จุกแน่น ครั้นรับประทานยาถ่าย ก็ทาให้ท้องนั้นยุบลง ครั้นยุบลงแล้วกลับ มี
อาการเช่นเดิมอีก เป็นอยู่อย่างนี้ หลายต่อหลายครั้ง ต่อไปให้มีอาการใหม่
เกิดขึ้นอีก คือ กระทาให้บวมลงไปจนถึงหัวเข่า และเลื่อนขึ้นไปจนถึงใบหน้า
เบื่ออาหาร หอบ หิวโหย เป็นกาลัง
วิงเวียน หน้า
มืด เบื่ออาหาร
หอบ หิว โหย
มานเกิดแต่ดาน 2 ประการ
เกิดด้วย อาการ Key
ทักขิณมาน เกิด
แต่กองดาน
ทักขิณ คุณตังอยู่
ฝ่ายขวา (ท้อง
ด้านขวา)
อาการเมื่อจะบังเกิดขึ้น กระทาให้ร่างกาย มือ เท้า เย็น ดุน้าแข็ง ให้ แสยงขน
ขนลุกชัน ท้องบวมจุกแน่นอยู่เป็นประจ้า ปัสสาวะไม่สะดวก อุจจาระปวดถ่วง
คล้ายเป็นบิด แน่นหน้าอกเป็นส่วนมาก อาการนี้ จะบวม แต่ปลายเท้าขึ้นมา
ก่อน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร จุกแน่นท้อง นอนไม่หลับ ต่อเมื่ออาเจียนหรือ
อุจจาระออกมาจึงค่อยทุเลาลงบ้าง ให้ท้องข้างขวา แข็งเป็นดาน
แสยงขน ขนลุก
ชันท้อง บวม
ปัสสาวะไม่
สะดวก นอนไม่
หลับ
อุตรามาน เกิด
แต่กองอุตราคุณ
ตังอยู่ฝ่ายซ้าย
(ท้อง ด้านซ้าย)
อาการเมื่อจะบังเกิดขึ้นกระทาให้เสียดราวข้างด้านซ้ายตลอดสันหลัง วิงเวียน
เป็นประจาแน่นหน้าอก รับประทานอาหารไม่ได้ อาเจียนแต่ลมเปล่า สวิงสวาย
แสยงขนลุกขนชัน ท้องด้านซ้ายนั้นบวมแข็งเป็นด้านขึ้น ลักษณะอุตรมาน ก็
เหมือนกันกับทักขิณมานต่างกันแต่อุตรามานนั้น ตั้งอยู่ท้องด้านซ้าย ส่วนทักขิณ
มาน ตั้งอยู่ท้องด้านขวาเท่านั้น กระทาพิษ เหมือนกันทุกประการ
เสียวราวข้าง
วิงเวียน
สวิงสวาย แสยง
ขน
- 5. เทียบเคียงโรคการแพทย์แผนปัจจุบันคัมภีร์อุทรโรค
โรคทางการแพทย์แผนไทย โรคทางการแพทย์แผนปัจจุบัน
มานน้า 4 ประการ
มานน้า บังเกิดด้วยโลหิต น้าเหลืองระคนกัน ซึม
ซาบไปตามลาไส้
Intestinal tuberculosis วัณโรคช่องท้อง
มานน้า บังเกิดด้วยลาไส้ปริ น้าเหลืองไหลซึมออกมา
ขังอยู่ในท้องและไต
Intussusception /Hirschsprung’s disease ลาไส้
กลืนกัน
มานน้า บังเกิดด้วยน้าเหลืองซึมซาบซ่านไปในก้อน
เนื้อ และขุมขน
Congestive heart failure (CHF) ภาวะหัวใจ
ล้มเหลว
Cirrhosis โรคตับแข็ง
มานน้า บังเกิดด้วยน้าเหลือง ซ่านเข้าไปขังอยู่ใน
กระเพาะปัสสาวะ และมดลูก
Chronic renal failure (CRF) ภาวะไตวายเรื้อรัง
มานลม 4 ประการ
มานลม บังเกิดแต่กองอโธคมาวาตา
มานลม บังเกิดแต่กองอุทธังคมาวาตา
มานลม บังเกิดแต่กองกุจฉินสยาวาตา
มานลม บังเกิดแต่กองโกฏฐาสยาวาตา
Gaseous distention of abdomen ท้องอืด
ท้องเฟ้อ
มานหิน 4 ประการ
มานหิน บังเกิดแต่กองอโธคมาวาตา อัมพาต มุต
ฆาตระคนกัน
Renal calculi (RC) โรคนิ่วในไต
มานหิน บังเกิดแต่กองอุทธังคมาวาตา อัมพฤกษ์
สัณฑะฆาตระคนกัน
คล้าย Thalassemia ทาลัสซีเมีย
มานหิน บังเกิดแต่กองกุจฉินสยาวาตา อัมพาต
ปัตตะฆาตระคนกัน
Gall stone นิ่วในถุงน้าดี
Pancreatitis ตับอ่อนอักเสบ
มานหิน บังเกิดแต่กองโกฏฐาสยาวาตา อัณฑะ
พฤกษ์ รัตตะฆาต
Urinary calculi นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
มานโลหิต 4 ประการ
มานโลหิต บังเกิดแต่ระดูขัดมิได้มาตามปกติ ระคน
ด้วยลมอังคมังคานุสารีวาตา
Endometriosis เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
มานโลหิต บังเกิดแต่ระดูมิได้มาตามปกติ ระคนด้วย
ลมอันชื่อว่า วาโยพิการ
Pre-eclampsia ครรภ์เป็นพิษ
มานโลหิต บังเกิดแต่โลหิตกระทาพิษ(โลหิตเน่า) Death fetus in utero (DFIU) ทารกตายในครรภ์
มานโลหิต บังเกิดแต่กองโลหิต คือเมื่อโลหิตจาง Myoma uteri เนื้องอกในมดลูก
มานเกิดแต่ดาน 2 ประการ
มานทักขิณมาน บังเกิดแต่ดานทักขิณคุณ Appendictitis ไส้ติ่งอักเสบ