Submit Search
Upload
เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1ม
•
3 likes
•
17,115 views
W
Woraphon Tungsiri
Follow
เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1ม
Read less
Read more
Education
Report
Share
Report
Share
1 of 42
Download now
Download to read offline
Recommended
แบบประเมินชิ้นงาน
แบบประเมินชิ้นงาน
krunueng1
แบบประเมินชิ้นงาน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
krupornpana55
แบบทดสอบทวีปยุโรป
แบบทดสอบทวีปยุโรป
นันทนา วงศ์สมิตกุล
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...
Prachoom Rangkasikorn
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P4 6 u04-2
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
krupornpana55
ข้อสอบPisaวิทย์
ข้อสอบPisaวิทย์
Dnavaroj Dnaka
ข้อสอบPisaวิทย์...เอาไว้เตรียมความพร้อม
ระบบย่อยอาหารของสัตว์
ระบบย่อยอาหารของสัตว์
Anissa Aromsawa
ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2
Sukanya Nak-on
ระบบขับถ่ายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
Recommended
แบบประเมินชิ้นงาน
แบบประเมินชิ้นงาน
krunueng1
แบบประเมินชิ้นงาน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
krupornpana55
แบบทดสอบทวีปยุโรป
แบบทดสอบทวีปยุโรป
นันทนา วงศ์สมิตกุล
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...
Prachoom Rangkasikorn
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P4 6 u04-2
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
krupornpana55
ข้อสอบPisaวิทย์
ข้อสอบPisaวิทย์
Dnavaroj Dnaka
ข้อสอบPisaวิทย์...เอาไว้เตรียมความพร้อม
ระบบย่อยอาหารของสัตว์
ระบบย่อยอาหารของสัตว์
Anissa Aromsawa
ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2
Sukanya Nak-on
ระบบขับถ่ายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
Jariya Jaiyot
โครงงานสุขศึกษา
โครงงานสุขศึกษา
Tatsawan Khejonrak
ดดด
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
mayureesongnoo
การแยกสาร (Purification)
การแยกสาร (Purification)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
การแยกสาร (Purification) วิทยาศาสตร์ 4 รหัส ว 22102 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
พนภาค ผิวเกลี้ยง
พันธะเคมี
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ไพบููลย์ หัดรัดชัย
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
Jariya Jaiyot
แบบทดสอบ
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
sukanya petin
การรับรู้และการตอบสนอง
ชุดฝึกทักษะเรื่องไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
ชุดฝึกทักษะเรื่องไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
พนภาค ผิวเกลี้ยง
ไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและการจำแนกสาร ชุดที่ 1 สสารและสาร
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและการจำแนกสาร ชุดที่ 1 สสารและสาร
Ketsarin Prommajun
เผยแพร่ผลงานชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและการจำแนกสาร ชุดที่ 1 สสารและสาร โดย นางเกษรินทร์ กาญจณะดี
สถานะของสาร ม.1
สถานะของสาร ม.1
Wuttipong Tubkrathok
Powerpoint เรื่อง สถานะของสาร
หน่วย 3
หน่วย 3
ศิวากรณ์ บุญนิล
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
Napadon Yingyongsakul
ข้อสอบวิทยาศาสตร์เหล่านี้ เป็นข้อสอบที่เคยถูกนำมาใช้ในการประเมินโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Programe for International Student Assessment หรือ PISA) ซึ่งบางข้อถูกใช้ในการประเมินผลจริง และบางข้อถูกใช้ในการทดลองภาคสนาม เป็นแนวทางให้กับคุณครูทุกท่านในการประกอบวางแผนพัฒนานักเรียนเพื่อรองรับการประเมินผล
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
dnavaroj
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
โครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้ก
Ploy Siriwanna
ปัจจุบันขนมเค้กเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนเป็นอย่างมากและยังได้เป็นส่วนหนึ่งของพิธีต่างๆ เช่น พิธีแต่งงาน ฉลองวันเกิด ปาร์ตี้สังสรรค์ และมอบเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ กลุ่มของพวกเราเลยได้จัดทำโครงงานนี้ขึ้นมาเพื่อศึกษาการทำขนมเค้กต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เค้กชาเขียว เค้กใบเตย เค้กกล้วยหอม เค้กฝอยทอง ฯลฯ ซึ่งนำไปสู่การประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
SAKANAN ANANTASOOK
ชุดการสอน วิชาสังคมศึกษา ระดับชั้น ม.3 หน่วยทวีปอเมริกาเหนือ เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
ssuser858855
การจัดทําโครงงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้และประสบการณ์ในการทําโครงงาน และเพื่อศึกษาการเจริญเติบโตของยีสต์ในนํ้าหมักชนิดต่างๆ โดยใช้รูปแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง ซึ่งทําการทดลอง 2 ชุด ได้แก่ ชุดควบคุม จํานวน 1 ตัวอย่างการทดลอง และชุดทดลอง จํานวน 5 ตัวอย่างการทดลอง รวม 6 ตัวอย่างการทดลอง โดยสังเกตการเจริญเติบโตของยีสต์ในเวลา 20.00 น. ของทุกวัน เป็นเวลา 5 วัน จากนั้นติดตามผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และอภิปรายผลการทดลอง เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ถูกต้องและตรงตามความเป็นจริง ผลการศึกษาและจัดทําโครงงานพบว่า ผลการทดลองในครั้งนี้ นํ้าหมักกล้วย มีการเจริญเติบโตของยีสต์สูงสุดจากนํ้าหมักทั้งหมด ซึ่งเป็นผลมากจากการที่กล้วยมีปริมาณสารประกอบอินทรีย์รวมกันมากกว่าพืชและผลไม้ตัวอย่างที่นํามาทดลอง และยีสต์ใช้สารประกอบอินทรีย์ ในกระบวนการเจริญเติบโต โดยนําคาร์บอนในสารประกอบอินทรีย์มาสร้างเป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และแอลกอฮอล์ซึ่งทําให้ยีสต์ในขวดนํ้าหมักกล้วยสร้างแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ได้มาก จึงทําให้ แป้งโฮลวีทมีโพรงอากาศมาก ส่งผลให้ขวดนํ้าหมักกล้วยมีระดับความสูง สูงกว่าขวดอื่นๆ จากผลการศึกษายังพบอีกว่า เวลาที่วัดการเจริญเติบโตของยีสต์ควรมีความถี่มากขึ้น และควรทดลองในช่วงที่มีอุณหภูมิคงที่ เพื่อที่จะได้ผลการทดลองที่ละเอียด ถูกต้อง และตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น คําสําคัญ : ยีสต์ นํ้าหมัก การเจริญเติบโตของยีสต์ สารประกอบอินทรีย์
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
dnavaroj
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
Aomiko Wipaporn
โครงงานสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้
โครงงานสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้
thanapisit marakul na ayudhya
ส่งอาจาร ศุภโชค
Nervous system
Nervous system
Krumam Siri
เผยแพร่เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา พ21101 สุขศึกษา เรื่องพัฒนาการแห่งชีวิต ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของนางสาวศิริพร สิทธิกูล ตำแหน่งครู วิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียน สิริรัตนาธร เขตบางนา กรุงเทพมหานคร สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2
The massage with herb for health
The massage with herb for health
Sirintra Chaiwong
นางสาวสิรนทรา ไชยวงค์ ม.6/2 เลขที่ 35
More Related Content
What's hot
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
Jariya Jaiyot
โครงงานสุขศึกษา
โครงงานสุขศึกษา
Tatsawan Khejonrak
ดดด
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
mayureesongnoo
การแยกสาร (Purification)
การแยกสาร (Purification)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
การแยกสาร (Purification) วิทยาศาสตร์ 4 รหัส ว 22102 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
พนภาค ผิวเกลี้ยง
พันธะเคมี
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ไพบููลย์ หัดรัดชัย
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
Jariya Jaiyot
แบบทดสอบ
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
sukanya petin
การรับรู้และการตอบสนอง
ชุดฝึกทักษะเรื่องไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
ชุดฝึกทักษะเรื่องไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
พนภาค ผิวเกลี้ยง
ไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและการจำแนกสาร ชุดที่ 1 สสารและสาร
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและการจำแนกสาร ชุดที่ 1 สสารและสาร
Ketsarin Prommajun
เผยแพร่ผลงานชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและการจำแนกสาร ชุดที่ 1 สสารและสาร โดย นางเกษรินทร์ กาญจณะดี
สถานะของสาร ม.1
สถานะของสาร ม.1
Wuttipong Tubkrathok
Powerpoint เรื่อง สถานะของสาร
หน่วย 3
หน่วย 3
ศิวากรณ์ บุญนิล
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
Napadon Yingyongsakul
ข้อสอบวิทยาศาสตร์เหล่านี้ เป็นข้อสอบที่เคยถูกนำมาใช้ในการประเมินโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Programe for International Student Assessment หรือ PISA) ซึ่งบางข้อถูกใช้ในการประเมินผลจริง และบางข้อถูกใช้ในการทดลองภาคสนาม เป็นแนวทางให้กับคุณครูทุกท่านในการประกอบวางแผนพัฒนานักเรียนเพื่อรองรับการประเมินผล
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
dnavaroj
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
โครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้ก
Ploy Siriwanna
ปัจจุบันขนมเค้กเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนเป็นอย่างมากและยังได้เป็นส่วนหนึ่งของพิธีต่างๆ เช่น พิธีแต่งงาน ฉลองวันเกิด ปาร์ตี้สังสรรค์ และมอบเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ กลุ่มของพวกเราเลยได้จัดทำโครงงานนี้ขึ้นมาเพื่อศึกษาการทำขนมเค้กต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เค้กชาเขียว เค้กใบเตย เค้กกล้วยหอม เค้กฝอยทอง ฯลฯ ซึ่งนำไปสู่การประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
SAKANAN ANANTASOOK
ชุดการสอน วิชาสังคมศึกษา ระดับชั้น ม.3 หน่วยทวีปอเมริกาเหนือ เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
ssuser858855
การจัดทําโครงงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้และประสบการณ์ในการทําโครงงาน และเพื่อศึกษาการเจริญเติบโตของยีสต์ในนํ้าหมักชนิดต่างๆ โดยใช้รูปแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง ซึ่งทําการทดลอง 2 ชุด ได้แก่ ชุดควบคุม จํานวน 1 ตัวอย่างการทดลอง และชุดทดลอง จํานวน 5 ตัวอย่างการทดลอง รวม 6 ตัวอย่างการทดลอง โดยสังเกตการเจริญเติบโตของยีสต์ในเวลา 20.00 น. ของทุกวัน เป็นเวลา 5 วัน จากนั้นติดตามผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และอภิปรายผลการทดลอง เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ถูกต้องและตรงตามความเป็นจริง ผลการศึกษาและจัดทําโครงงานพบว่า ผลการทดลองในครั้งนี้ นํ้าหมักกล้วย มีการเจริญเติบโตของยีสต์สูงสุดจากนํ้าหมักทั้งหมด ซึ่งเป็นผลมากจากการที่กล้วยมีปริมาณสารประกอบอินทรีย์รวมกันมากกว่าพืชและผลไม้ตัวอย่างที่นํามาทดลอง และยีสต์ใช้สารประกอบอินทรีย์ ในกระบวนการเจริญเติบโต โดยนําคาร์บอนในสารประกอบอินทรีย์มาสร้างเป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และแอลกอฮอล์ซึ่งทําให้ยีสต์ในขวดนํ้าหมักกล้วยสร้างแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ได้มาก จึงทําให้ แป้งโฮลวีทมีโพรงอากาศมาก ส่งผลให้ขวดนํ้าหมักกล้วยมีระดับความสูง สูงกว่าขวดอื่นๆ จากผลการศึกษายังพบอีกว่า เวลาที่วัดการเจริญเติบโตของยีสต์ควรมีความถี่มากขึ้น และควรทดลองในช่วงที่มีอุณหภูมิคงที่ เพื่อที่จะได้ผลการทดลองที่ละเอียด ถูกต้อง และตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น คําสําคัญ : ยีสต์ นํ้าหมัก การเจริญเติบโตของยีสต์ สารประกอบอินทรีย์
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
dnavaroj
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
Aomiko Wipaporn
โครงงานสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้
โครงงานสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้
thanapisit marakul na ayudhya
ส่งอาจาร ศุภโชค
What's hot
(20)
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
โครงงานสุขศึกษา
โครงงานสุขศึกษา
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
เล่มที่ 1 ระบบสุริยะ
การแยกสาร (Purification)
การแยกสาร (Purification)
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือ
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
ชุดฝึกทักษะเรื่องไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
ชุดฝึกทักษะเรื่องไฟฟ้าสถิต ชุดที่ 1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและการจำแนกสาร ชุดที่ 1 สสารและสาร
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและการจำแนกสาร ชุดที่ 1 สสารและสาร
สถานะของสาร ม.1
สถานะของสาร ม.1
หน่วย 3
หน่วย 3
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
โครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้ก
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
โครงงานสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้
โครงงานสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้
Similar to เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1ม
Nervous system
Nervous system
Krumam Siri
เผยแพร่เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา พ21101 สุขศึกษา เรื่องพัฒนาการแห่งชีวิต ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของนางสาวศิริพร สิทธิกูล ตำแหน่งครู วิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียน สิริรัตนาธร เขตบางนา กรุงเทพมหานคร สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2
The massage with herb for health
The massage with herb for health
Sirintra Chaiwong
นางสาวสิรนทรา ไชยวงค์ ม.6/2 เลขที่ 35
วิจัยญี่ปุ่น
วิจัยญี่ปุ่น
Kritsadin Khemtong
This research document is uploaded for people who want to improve Japanese vocabularies.
แบบฝึกชุดที่ 1
แบบฝึกชุดที่ 1
kruking2
9789740328049
9789740328049
Chirawat Wangka
แต่งหน้าพัฒนาบุคลิก
งานนำเสนอโปสเตอร์ กลุ่มที่ 8 ห้อง 342
งานนำเสนอโปสเตอร์ กลุ่มที่ 8 ห้อง 342
ChanyaProm
งานนำเสนอโปสเตอร์ เรื่อง การเจริญของ embryo ของคน กลุ่มที่ 8 ห้อง 342
แผน 1 1
แผน 1 1
tery10
2560 project438 (1)
2560 project438 (1)
saruta38605
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาณาจักรสัตว์
ตัวอย่างโครงการสอน
ตัวอย่างโครงการสอน
Krupol Phato
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
thitichaya24
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
นิเทศการเรียนรู้ 64เทอม2.pdf
นิเทศการเรียนรู้ 64เทอม2.pdf
peter dontoom
นิเทศการเรียนรู้ 64เทอม2.pdf
ระบบร่างกาย
ระบบร่างกาย
Aobinta In
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 อวัยวะภายในร่างกายที่สำคัญ ปอด ตับ ไต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 อวัยวะภายในร่างกายที่สำคัญ ปอด ตับ ไต
tawitch58
อวัยวะภายใน แผนที่ 2
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
pitsanu duangkartok
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
ศูนย์ที่ 4 ชุดที่10
ศูนย์ที่ 4 ชุดที่10
Chok Ke
1281946738 ubon
1281946738 ubon
Waree Wera
ศูนย์ที่ 3 ชุดที่ 10
ศูนย์ที่ 3 ชุดที่ 10
Chok Ke
เล่ม ระบบร่างกาย New
เล่ม ระบบร่างกาย New
savong0
วิเคราะห็การออกแบบเว็บไซ
วิเคราะห็การออกแบบเว็บไซ
Jirawat Fishingclub
การศึกษา
การศึกษา
นางสาววรรณภา บุญพันธ์
Similar to เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1ม
(20)
Nervous system
Nervous system
The massage with herb for health
The massage with herb for health
วิจัยญี่ปุ่น
วิจัยญี่ปุ่น
แบบฝึกชุดที่ 1
แบบฝึกชุดที่ 1
9789740328049
9789740328049
งานนำเสนอโปสเตอร์ กลุ่มที่ 8 ห้อง 342
งานนำเสนอโปสเตอร์ กลุ่มที่ 8 ห้อง 342
แผน 1 1
แผน 1 1
2560 project438 (1)
2560 project438 (1)
ตัวอย่างโครงการสอน
ตัวอย่างโครงการสอน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
นิเทศการเรียนรู้ 64เทอม2.pdf
นิเทศการเรียนรู้ 64เทอม2.pdf
ระบบร่างกาย
ระบบร่างกาย
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 อวัยวะภายในร่างกายที่สำคัญ ปอด ตับ ไต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 อวัยวะภายในร่างกายที่สำคัญ ปอด ตับ ไต
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
ศูนย์ที่ 4 ชุดที่10
ศูนย์ที่ 4 ชุดที่10
1281946738 ubon
1281946738 ubon
ศูนย์ที่ 3 ชุดที่ 10
ศูนย์ที่ 3 ชุดที่ 10
เล่ม ระบบร่างกาย New
เล่ม ระบบร่างกาย New
วิเคราะห็การออกแบบเว็บไซ
วิเคราะห็การออกแบบเว็บไซ
การศึกษา
การศึกษา
Recently uploaded
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
NitayataNuansri
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
ภาษาอังกฤษเพื่อปฏิบัติกรรมฐาน
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
พระพุทธศาสนามหายาน
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
Prachyanun Nilsook
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย และบทความทางวิชาการ โครงการพัฒนาอาจารย์สู่การเป็นนักวิจัยมืออาชีพ จัดโดย สำนักวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ณ ห้องประชุมประพันธ์ศิริ อาคารสำนักบริหารจรูญ-หทัย มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา วันที่ 27 - 28 พฤษภาคม 2567
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
สุเมธี ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
สุเมธี ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
สุเมธี ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
Recently uploaded
(9)
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1ม
1.
เอกสารประกอบการเรียน วิชา พ31101 สุขศึกษาและพลศึกษา1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
4 เล่มที่ 1 เรื่อง ระบบอวัยวะของร่างกาย นางสาวณิชกมล อุทัยดา ตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการ โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32
2.
เอกสารประกอบการเรียน วิชา พ31101
สุขศึกษาและพลศึกษา1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เล่มที่ 1 เรื่อง ระบบอวัยวะของร่างกาย สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ซึ่งเป็นสื่อการเรียนที่นามาใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยเอกสารประกอบการเรียนเล่มนี้ มีการรวบรวมเนื้อหาความรู้และแบบฝึกทักษะในรูปแบบต่าง ๆ มาไว้ ในเล่มเพื่อเพิ่มทักษะด้านต่าง ๆ ให้แก่ผู้เรียน มีทั้งหมด 7 เล่ม ดังนี้ เล่มที่ 1 ระบบอวัยวะของร่างกาย เล่มที่ 2 การวางแผนพัฒนาสุขภาพ เล่มที่ 3 พฤติกรรมทางเพศ เล่มที่ 4 เพศกับวัฒนธรรมไทย เล่มที่ 5 สิทธิผู้บริโภค เล่มที่ 6 สื่อโฆษณากับสุขภาพ เล่มที่ 7 โรคติดต่อ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารประกอบการเรียนเล่มนี้ คงเป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอน และนักเรียนที่นาไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและนักเรียนได้ใช้ในการศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสามารถฝึกทักษะด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ ในการเรียนรู้ต่อไป ณิชกมล อุทัยดา คานา
3.
เรื่อง หน้า คานา สารบัญ คาแนะนาในการใช้เอกสารประกอบการเรียน สาระการเรียนรู้และตัวชี้วัด แบบทดสอบก่อนเรียน......................................................................... ระบบผิวหนัง....................................................................................... ระบบโครงกระดูก................................................................................ ระบบกล้ามเนื้อ................................................................................... แบบฝึกทักษะที่ 1................................................................................ แบบฝึกทักษะที่
2................................................................................ แบบฝึกทักษะที่ 3................................................................................ แบบทดสอบหลังเรียน......................................................................... เฉลยแบบฝึกทักษะที่1......................................................................... เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 2........................................................................ เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 3........................................................................ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน............................................................... เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน................................................................. บรรณานุกรม....................................................................................... 1 4 7 10 14 16 18 20 23 25 27 29 32 35 สารบัญ
4.
เอกสารประกอบการเรียน เล่มนี้ สร้างขึ้นเพื่อให้นักเรียนสามารถใช้ศึกษา หาความรู้ได้ด้วยตนเอง
โดยนักเรียนจะได้รับประโยชน์จากบทเรียนตามจุดประสงค์ ที่ตั้งไว้ด้วยการปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. ศึกษาสาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อให้ทราบว่าเมื่อเรียนจบ แล้วนักเรียนจะได้รับความรู้ความเข้าใจในเรื่องใดบ้าง 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อทดสอบว่านักเรียนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ เรื่องที่จะศึกษามากน้อยเพียงใดเรื่องใดบ้าง 3. ศึกษาเนื้อหาบทเรียนในเอกสารตามลาดับ หากไม่เข้าใจหรือมีข้อสงสัยให้ ถามครูผู้สอนหรือพลิกไปศึกษาเนื้อหาเดิมอีกครั้งหนึ่ง 5. นักเรียนต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง โดยไม่เปิดดูเฉลยก่อนเรียน ขณะที่ทาแบบฝึกทักษะและแบบทดสอบ คาแนะนาในการใช้เอกสารประกอบการเรียน 4. ลงมือทาแบบฝึกทักษะและแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดประเมินความรู้ ความเข้าใจในเรื่องที่ได้ศึกษา
5.
สาระที่ 1 การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ มาตรฐานการเรียนรู้
พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ตัวชี้วัด อธิบายกระบวนการสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางาน ของระบบอวัยวะ ต่าง ๆ จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด 1. อธิบายกระบวนการสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางาน ของระบบ ผิวหนังได้ 2. อธิบายกระบวนการสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางาน ของระบบ โครงกระดูกได้ 3. อธิบายกระบวนการสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางาน ของระบบ กล้ามเนื้อได้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐานและตัวชี้วัด
6.
คาชี้แจง : จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว 1.
ผิวหนังบริเวณใดของร่างกายมีความหนามากที่สุด ก. หนังตา แก้ม ข. ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ค. ข้อศอก น่อง ง. หนังหู ฝ่ามือ 2. ผิวหนังประกอบไปด้วยส่วนสาคัญ 2 ส่วนคือ ก. หนังแท้และหนังเทียม ข. หนังกาพร้าและรูขุมขน ค. หนังกาพร้าและหนังแท้ ง. หนังกาพร้าและหนังเทียม 3. ข้อใด ไม่ใช่ วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดารงประสิทธิภาพของระบบผิวหนัง ก. ใช้ครีมที่มียี่ห้อและราคาแพงเท่านั้นในการบารุงผิว ข. อาบน้าชาระล้างร่างกายอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ค. ทาครีมกันแดดก่อนออกไปเผชิญแสงแดดเสมอ ง. ดื่มน้าอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว 4. ข้อใดกล่าวถึงความสาคัญของระบบกระดูกได้ถูกต้อง ก. เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อทาให้เคลื่อนไหวได้ ข. เป็นที่รองรับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ค. เป็นที่สร้างเม็ดเลือด ง. ถูกทุกข้อ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
7.
5. ข้อใด ไม่ใช่
กระดูกแกน ก. กระดูกแขน กระดูกขา ข. กระดูกสันหลัง ค. กระดูกซี่โครง ง. กระดูกศีรษะ 6. การบริโภคอาหารประเภทใดที่มีผลช่วยบารุงระบบกระดูก ก. วิตามินเอและดี ข. คาร์โบไฮเดรต ค. แคลเซียม ง. โปรตีน 7. ใครมีพฤติกรรมที่ดี มีส่วนช่วยดารงประสิทธิภาพของระบบกระดูกมากที่สุด ก. สมพรดื่มน้าอัดลมเป็นประจาทุกวัน ข. สมควรชอบเล่นกีฬาประเภทผาดโผน ค. สมชายกินเนื้อสัตว์และดื่มนมเป็นประจาทุกวัน ง. สมหญิงไม่มีเวลาออกกาลังกายจึงอาศัยการกินอาหารเสริมแทนมาก ๆ 8. ข้อใดคือลักษณะของกล้ามเนื้อลาย ก. เกาะกระดูกเพื่อให้เป็นรูปร่างของร่างกาย ข. ทางานอยู่ภายใต้อาจจิตใจ เช่น กล้ามเนื้อแขน และขา ค. ทางานนอกเหมืออานาจจิตใจ มีลักษณะเรียบ เช่น กล้ามเนื้อที่ลาไส้ ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
8.
9. ข้อใด ไม่ได้
มีส่วนประกอบของกล้ามเนื้อเรียบ ก. กล้ามเนื้อที่หลอดลมปอด ข. กล้ามเนื้อในกระเพาะอาหาร ค. กล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อทรวงอก ง. กล้ามเนื้อที่ผนังมดลูกและลาไส้ 10. สิ่งใดก่อให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเมื่อยล้าและอ่อนแรงได้มากที่สุด ก. การกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์มากเกินไป ข. การนั่งทางานท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน ๆ ค. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ ง. การเล่นกีฬาและออกกาลังกายนาน ๆ #########################
9.
1. ระบบผิวหนัง (Integumentary
System) ระบบผิวหนังเป็นระบบที่ห่อหุ้มร่างกาย มีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ชั้นนอกสุดของร่างกาย ปกคลุมห่อหุ้มร่างกายทั้งหมดของเราไว้ ผิวหนังของผู้ใหญ่คนหนึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 3,000 ตารางนิ้ว มีความหนาประมาณ 1 – 4 มิลลิเมตร โดยความหนาของผิวหนังจะแตกต่างกันไปตามอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และบริเวณที่ถูกเสียดสี โดยผิวหนังส่วนที่หนาที่สุดของร่างกายคือ บริเวณฝ่ามือ และฝ่าเท้า ส่วนผิวหนังส่วนที่บางที่สุดของร่างกาย คือบริเวณหนังตา และหนังหู ภายในผิวหนังนั้นมีปลายประสาทรับรู้ ความรู้สึกอยู่มากมายเพื่อรับรู้การสัมผัสความเจ็บปวด และอุณหภูมิร้อนเย็นต่าง ๆ นอกจากนี้บนผิวหนัง ยังมีรูเล็ก ๆ ซึ่งเรียกว่า รูขุมขน ซึ่งเป็นรูเปิดของขุมขน ท่อต่อมไขมันและต่อมเหงื่อผิวหนัง สามารถยืดหยุ่น ได้มาก และผิวหนังบนร่างกายส่วนใหญ่สามารถเลื่อนไปเลื่อนมาได้แต่ก็มีบางส่วนที่ติดแน่นกับอวัยวะ เช่น หนังศีรษะด้านนอกของใบหู ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และตามรอยพับของข้อต่อต่าง ๆ นอกจากนี้ผิวหนังบริเวณ ฝ่ามือและฝ่าเท้าจะมีรอยนูนอยู่เป็นจานวนมากโดยเฉพาะปลายนิ้วมือจะมีสันนูนเรียงกันเป็น ร้อยหวาย หรือรอยก้นหอย ซึ่งรอยนี้จะต่างแตกกันออกไปในแต่ละบุคคล และบริเวณผิวหนังที่กล้ามเนื้อเกาะอยู่ จะเกิดเป็นรอยย่นได้เมื่อกล้ามเนื้อเกิดการหดตัว เช่น บริเวณใบหน้ามีกล้ามเนื้อยึดติดที่ผิวหนังมากเมื่อ แสดงอารมณ์โกรธ กลัว ยิ้มแย้มแจ่มใส หรือเศร้าหมองจะทาให้เกิดร่องรอยบนผิวหนังอย่างเห็นได้ชัด 1.1 โครงสร้างและส่วนประกอบของผิวหนัง ผิวหนังประกอบด้วย 2 ส่วน คือส่วนที่อยู่ บนพื้นผิว เรียกว่า หนังกาพร้า (Epidermis) ส่วนที่ลึกไป เรียกว่า หนังแท้ (Dermis) 1. หนังกาพร้า (Epidermis) เป็นผิวบนสุด ที่ประกอบด้วยเซลล์บาง ๆ ตรงพื้นผิวไม่มี นิวเคลียส เป็นส่วนที่หลุดลอกเป็นขี้ไคล แล้วสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนอยู่เสมอ ส่วนต่างที่เกิดจาก หนังกาพร้า ได้แก่ เล็บมือ เล็บเท้า รูขุมขนในชั้นหนังแท้ ส่วนเซลล์ชั้นในสุดที่ทาหน้าผลิตสีผิว (Melanin) เรียกว่าสเตรตัมเจอร์มินาทิวัม (Stratum Germinativum) 2. หนังแท้ (Dermis) หนังแท้อยู่ใต้หนังกาพร้า หนาประมาณ 1-2 มิลิเมตร ประกอบด้วย เยื่อเกี่ยวพัน 2 ชั้น คือ 2.1 ชั้นบนหรือชั้นตื้น (Papillary Layer) เป็นที่นูนมาแทรกหนังกาพร้า เรียกว่า เพ็บพิลลารี (Papillary) มีหลอดเลือด และปลายเส้นประสาทฝอย ระบบอวัยวะของร่างกาย
10.
2.2 ชั้นล่างหรือชั้นลึกลงไป (Reticular
Layer) มีไขมันอยู่ มีรากผมหรือขนและ ต่อมไขมัน(Sebaceous Glands) ส่วนประกอบของชั้นผิวหนัง ที่มา : https://sites.google.com/site/sukhsuksam4 ที่มา : http://i93.photobucket.com/albums/l61/nyzmxy/LH%20Series/skinstructure.jpg ที่มา :http://bodysystemm.wikispaces.com/file/view/13.jpg/352387448/360x288/13.jpg
11.
1.2 ความสาคัญของของระบบผิวหนัง 1. เป็นส่วนที่ห่อหุ้มร่างกาย
สาหรับป้องกันอันตรายต่าง ๆ หรืออาจเกิดขึ้นกับอวัยวะ ใต้ผิวหนัง 2. เป็นอวัยวะรับสัมผัสความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ร้อน หนาว 3. เป็นอวัยวะขับถ่ายของเสีย เช่น เหงื่อ 4. เป็นอวัยวะที่ช่วยขับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ใต้ต่อมผิวหนังให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ขับไขมันไปหล่อเลี้ยงเส้นขนหรือผมให้เงางาม 5. ช่วยเป็นส่วนป้องกันรังสีต่าง ๆ ไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย 6. ช่วยควบคุมความร้อนในร่างกายให้อยู่คงที่อยู่เสมอ ร่างกายคนเราขณะปกติมี อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส หรือถ้าอากาศอบอ้าวร้อนเกินไปก็จะระบายความร้อนออกทางรูขุมขน 1.3 การสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางานของระบบผิวหนัง ผิวหนังเป็นอวัยวะภายนอกที่ห่อหุ้มร่างกาย ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพของบุคลและบ่งบอก การมีสุขภาพที่ดีและไม่ดีของแต่ละคนด้วย เช่นคนที่มีสุขภาพที่ดีผิวหนัง หรือผิวพรรณจะเต่งตึง สดใส แข็งแรง เป็นต้น ดังนั้นจึงจาเป็นต้องสร้างเสริมและดูแลผิวหนังให้มีสภาพที่สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ อยู่เสมอ ดังนี้ 1. อาบน้าชาระร่างกายให้สะอาดด้วยสบู่อย่างน้อยวัยละ 1-2 ครั้ง 2. ทาครีมบารุงผิวที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับผิวของตนเอง 3. ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเมื่อต้องไปเผชิญกับแดดร้อนจัด 4. สวมเสื้อผ้าที่สะอาดพอดีตัว ไม่คับหรือหลวมเกินไป และเหมาะสมกันสภาพอากาศ 5. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และเพียงพอต่อความต้องการโดยเฉพาะผักและผลไม้ 6. ดื่มน้าสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว โดยน้าจะช่วยให้ผิวพรรณสดชื่นแจ่มใส 7. ออกกาลังกายเป็นประจาเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง 8. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่งโมง 9. ดูแลผิวหนังอย่าให้เป็นแผล ถ้ามีควรรีบรักษาเพื่อไม่ให้เกิดแผลเรื้อรัง นักเรียนมีวิธีการดูแลผิวอย่างไรบ้าง เหมือนหรือแตกต่างกันกับเพื่อน ๆ
12.
2. ระบบโครงกระดูก (Skeletal
System) ร่างกายของมนุษย์ที่เจริญเติบโตเต็มที่จะประกอบด้วยกระดูกทั้งหมด 206 ชิ้นแบ่งเป็น กระดูกแกน 80 ชิ้น เช่น กะโหลกศีรษะ กระดูกสันหลัง กระดูกก้นกบกระดูกซี่โครงอีกพวกหนึ่ง คือ กระดูกรยางค์ จานวน 126 ชิ้น เช่น กระดูกแขนขา สะบัก ไหปลาร้า เชิงกรานกระดูกแกน (Axial Skeleton) เป็นกระดูกที่เป็นแกนกลางของร่างกาย ทาหน้าที่ค้าจุนและป้องกันอันตราย ให้แก่อวัยวะสาคัญภายในร่างกาย มีจานวนทั้งสิ้น 80 ชิ้น 2.1 โครงสร้างกระดูกของคนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. กระดูกแกน (Axial Skeleton) หมายถึง กระดูกที่อยู่บริเวณกลาง ๆ ของร่างกาย ประกอบด้วย 1.1 กระดูกกะโหลกศีรษะ (Skull) ภายในกะโหลกศีรษะเป็นโพรงสาหรับบรรจุสมอง จะมีกระดูกกะโหลกศีรษะและกระดูกย่อยหลาย ๆ ชิ้นเชื่อมติดกัน กระดูกกะโหลกศีรษะจึงทาหน้าที่ห่อหุ้ม และป้องกันสมองด้วย 1.2 กระดูกสันหลัง (Vertebra) เป็นส่วนของกระดูกแกนที่ช่วยค้าจุนและรองรับน้าหนัก ของร่างกาย กระดูกสันหลังเป็นแนวกระดูกที่ทอดอยู่ทางด้านหลังของร่างกาย ประกอบด้วยกระดูกชิ้น เล็กๆ เป็นข้อ ๆ ติดกันด้วยกล้ามเนื้อและเอ็น ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อจะมีแผ่นกระดูกอ่อนหรือที่ เรียกทั่วไปว่า “หมอนรองกระดูก (Intervertebral Disc)” ทาหน้าที่รองและเชื่อมกระดูกสันหลังแต่ละข้อ เพื่อป้องกันการเสียดสี ถ้าแผ่นกระดูกอ่อนนี้เสื่อมเราจะปวดหลังและไม่สามารถบิดหรือเอียงตัวได้ 1.3 กระดูกซี่โครง (Ribe) มีลักษณะเป็นซี่ ๆ มีทั้งหมด 12 คู่ หรือ 24 ชิ้น ทาหน้าที่เป็น กาแพงให้ส่วนอก กระดูกซี่โครงจะเชื่อมกบกระดูกอก (Sternum) ด้วยกระดูกอ่อน ระหว่างกระดูกซี่โครง มีกล้ามเนื้อยึดซี่โครงทั้งแถบนอกและแถบในการหดตัวและการคลายตัวของกล้ามเนื้อ 2 ชุดนี้สลับกัน เกิดการเคลื่อนที่เข้า ออกของอากาศภายนอกและภายในช่องอก มีผลทาให้กระดุกซี่โครงเคลื่อนขึ้นและลง และทาให้ปริมาตรภายในช่องอกเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย 2. กระดูกรยางค์ (Appendicular Skeleton) เป็นกระดูกที่เชื่อมต่อกับกระดูกแกน ทาหน้าที่ค้าจุนและเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย มีจานวนทั้งสิ้น 126 ชิ้น ประกอบด้วย 2.1 กระดูกแขน มีจานวน 64 ชิ้น (ข้างละ 32 ชิ้น) 2.2 กระดูกขา มีจานวน 62 ชิ้น (ข้างละ 31 ชิ้น)
13.
เมื่อศึกษาถึงโครงสร้างของกระดูกพบว่า กระดูกของมนุษย์แบ่งออกเป็น 2
ชนิด คือ 1. กระดูกอ่อน (Caitilage) เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งประกอบด้วยเซลล์กระดูกอ่อน (Chondrocyte) สารระหว่างเซลล์ และเส้นใยชนิดต่าง ๆ โดยทั่งไปกระดูกอ่อนแทรกซึมสารระหว่างเซลล์ มาเนื่องจากไม่มีหลอดเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยงกระดูกอ่อน 2. กระดูก (Bone) เป็นโครงสร้างที่เจริญมาจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือกระดูกอ่อนก็ได้ ประกอบด้วยเซลล์กระดูก เส้นใยชนิดต่าง ๆ และสารระหว่างเซลล์ ซึ่งมีผลึกไฮดรอกซีอะพาไทต์ มาเสริม ทาให้กระดูกกระดูกมีความแข็งแรงมากกว่ากระดูกอ่อน โครงกระดูกของมนุษย์จะเชื่อมกันด้วยข้อต่อซึ่งจะทาให้ร่างกายของมนุษย์เคลื่อนไหวได้ หลายทิศทาง จากการศึกษาพบว่า ข้อต่อที่เชื่อมต่อกระดูกแต่ละชิ้นในร่างกายมนุษย์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. ข้อต่อที่เคลื่อนไหวไม่ได้ (Immovable Joint) เป็นข้อต่อที่ทาหน้าที่ยึดกระดูกเอาไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย เช่น ข้อต่อกระดูกศีรษะ เรียกว่า ซูเจอร์ (Suture) เป็นต้น 2. ข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้ (Movable Joint)เป็นข้อต่อที่เชื่อมต่อกระดูกแล้วทาให้ เคลื่อนไหวได้ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น ข้อต่อที่กระดูกนิ้วมือ นิ้วเท้า เป็นต้น 2.2 ความสาคัญของระบบโครงกระดูก 1. ประกอบเป็นโครงร่างส่วนที่แข็งของร่างกาย 2. เป็นที่รองรับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย 3. เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อทาให้มีการเคลื่อนไหวได้ 4. เป็นที่สร้างเม็ดเลือด 5. เป็นที่เก็บและจ่ายแคลเซียม ฟอสเฟต และแมกนีเซียม 6. ป้องกันอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ปอด หัวใจ ตับ สมอง และประสาท 2.3 การสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางานของระบบโครงกระดูก 1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี เช่น เนื้อสัตว์ นม และผลไม้ต่าง ๆ 2. ออกกาลังกายเป็นประจาสม่าเสมอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
14.
ภาพประกอบการศึกษาระบบโครงกระดูก ที่มา : https://maulchon.files.wordpress.com/2012/06/033.jpg
15.
3. ระบบกล้ามเนื้อ ระบบกล้ามเนื้อ (Muscular
System)จะทางานร่วมกับระบบโครงกระดูกเพื่อให้ร่างกาย สามารถเคลื่อนไหวได้ นอกจากนี้ยังทาหน้าที่เป็นโครงร่างของร่างกายอีกด้วย 3.1 โครงสร้างระบบกล้ามเนื้อ แบ่งได้ดังนี้ 1. กล้ามเนื้อลาย (Striated Muscle or Cross-Strjated Muscle) มีลายตามขวาง ตลอดความยาว เกาะติดกับโครงกระดูกหรือกระดูกช่วยทาให้เป็นรูปร่างของร่างกายและอยู่ภายใต้อานาจ จิตใจ กล้ามเนื้อลายนับว่าเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคลื่อนไหวของร่างกายทั้งหมด เช่น กล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อขา กล้ามเนื้อทรวงอก เป็นต้น และเป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุด ลักษณะในการทางานของ กล้ามเนื้อลายคือดึงรั้งกระดูกให้มีการเคลื่อนไหวตามที่ใจต้องการ คนที่ออกกาลังเสมอเส้นใยกล้ามเนื้อ จะโตขึ้น และหนาขึ้น แต่จานวนไม่เพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อลายมีหน้าที่เคลื่อนไหวร่างกายที่ข้อต่อต่าง ๆ เคลื่อนไหวลูกตา ช่วยในการเคี้ยวและการกลืน เคลื่อนไหวลิ้น เคลื่อนไหวใบหน้าแสดงอารมณ์ต่าง ๆ และยังประกอบเป็นผนังอก และผนังท้อง ตลอดจนการควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ ภาพกล้ามเนื้อลาย ที่มา : http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Movement/pic- movement/m1.PNG
16.
2. กล้ามเนื้อเรียบ (Smooth
Muscle) เป็นกล้ามเนื้อที่มีลักษณะเรียบ ไม่มีลาย และไม่อยู่ในอานาจจิตใจเป็นส่วนประกอบของอวัยวะภายในร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อที่หลอดลมปอด กล้ามเนื้อในกระเพาะอาหาร ลาไส้ อวัยวะสืบพันธุ์ มดลูก เส้นเลือดดา ฯลฯ ซึ่งอยู่นอกอานาจของจิตใจ แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของระบบประสาทอิสระ (Autonomie Nervous System )มีลักษณะเป็นเซลล์ รูปกระสวยมีนิวเคลียสรูปไข่อยู่ตรงกลาง ภาพกล้ามเนื้อเรียบ ที่มา : http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Movement/pic- movement/m6.PNG 3. กล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiac Muscle)กล้ามเนื้อหัวใจจะพบที่บริเวณหัวใจและผนัง เส้นเลือดเข้าสู่หัวใจเท่านั้น เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจมีลักษณะคล้ายกับกล้ามเนื้อลายคือ มีการเรียงตัว ให้เป็นลายเมื่อส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ กล้ามเนื้อหัวใจมีลักษณะแตกกิ่งก้านและสานกัน มีรอยต่อและ ช่องระหว่างเซลล์ซึ่งบริเวณที่มีความต้านทานไฟฟ้าต่าทาให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจสามารถส่งกระแสไฟฟ้า ผ่านจากเซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่งได้
17.
ภาพกล้ามเนื้อหัวใจ ที่มา : http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Movement/pic- movement/m5.PNG 3.2
ความสาคัญของระบบกล้ามเนื้อ 1. ช่วยให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้จากการทางาน ซึ่งในการเคลื่อนไหวของร่างกายนี้ ต้องอาศัยการทางานของระบบโครงกระดูกและข้อต่อต่างๆด้วย โดยอาศัยการยึดและหดตัวของกล้ามเนื้อ 2. ช่วยให้อวัยวะภายในต่างๆเช่นหัวใจ ปอด กระเพาะอาหาร ลาไส้เล็ก ลาไส้ใหญ่ หลอดเลือด ทางานได้ตามปกติและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการบีบตัวของกล้ามเนื้ออวัยวะดังกล่าว 3. ผลิตความร้อนให้ความอบอุ่นร่างกาย ซึ่งความร้อนนี้เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ แล้วเกิดปฏิกิริยาทางเคมี 4. ช่วยป้องกันอวัยวะภายในไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือน 5. เป็นที่เกิดพลังงานของร่างกาย 3.3 การสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางานของระบบกล้ามเนื้อ 1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และมีปริมาณที่เพียงพอต่อต่อความต้องการของ ร่างกาย 2. ออกกาลังสม่าเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละอย่างน้อย 30 นาที โดยเน้น รูปแบบการบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เป็นต้น
18.
3. ทาจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ดูแลสุขภาพจิตของตนเองให้ดี 4.
ควรมีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทางานหนักหรือหักโหมจนเกินไป โดยเฉพาะ ลักษณะงาน ที่ต้องทางานอยู่ท่าเดิมนาน ๆ จะทาให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนล้าและเกิดความไม่แข็งแรงได้ 5. เมื่อเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อ เช่น มีอาการปวดหลังเรื้อรัง ควรรีบไปพบแพทย์ ภาพประกอบกล้ามเนื้อทั้ง 3 ประเภท ที่มา : http://www.wangchan.ac.th/teacher_issue/t712/pic-1/431111.jpg ****************************************
19.
1. คาชี้แจง :
จากภาพให้นักเรียนเติมส่วนประกอบของผิวหนังให้ถูกต้อง 2. คาชี้แจง : จากภาพให้นักเรียนเติมส่วนประกอบของชั้นผิวหนัง เป็นภาษาอังกฤษ แบบฝึกทักษะที่ 1
20.
3. คาชี้แจง :
ให้นักเรียนวาดรูปส่วนประกอบของชั้นผิวหนังและบอกส่วนประกอบ 4.คาชี้แจง : ให้นักเรียนสรุปการสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางานของระบบผิวหนัง เป็นผังมโนทัศน์
21.
1. คาชี้แจง :
ให้นักเรียนเติมรายละเอียดของโครงกระดูกของร่างกาย แบบฝึกทักษะที่ 2
22.
2. คาชี้แจง :
จงตอบคาถามต่อไปนี้ 1. โครงกระดูกมีความสาคัญอย่างไรต่อร่างกาย ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ 2. โครงกระดูกของร่างกายแบ่งเป็นกี่กลุ่ม อะไรบ้าง ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ 3. นักเรียนมีวิธีในการดูแลและสร้างเสริมประสิทธิภาพการทางานของระบบโครงกระดูกอย่างไร ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ *************************************
23.
1. คาชี้แจง :
จงตอบคาถามต่อไปนี้ 1. กล้ามเนื้อมีความสาคัญอย่างไร ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ 2. กล้ามเนื้อแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ 3. นักเรียนมีวิธีการสร้างเสริมประสิทธิภาพการทางานของกล้ามเนื้ออย่างไร ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................ *********************************** แบบฝึกทักษะที่ 3
24.
2. คาชี้แจง :
จงวาดรูปกล้ามเนื้อและแสดงส่วนประกอบ กล้ามเนื้อลาย กล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อหัวใจ
25.
คาชี้แจง : จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว 1.
ข้อใด ไม่ได้ มีส่วนประกอบของกล้ามเนื้อเรียบ ก. กล้ามเนื้อที่หลอดลมปอด ข. กล้ามเนื้อในกระเพาะอาหาร ค. กล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อทรวงอก ง. กล้ามเนื้อที่ผนังมดลูกและลาไส้ 2. ผิวหนังบริเวณใดของร่างกายมีความหนามากที่สุด ก. หนังตา แก้ม ข. ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ค. ข้อศอก น่อง ง. หนังหู ฝ่ามือ 3. ข้อใดกล่าวถึงความสาคัญของระบบกระดูกได้ถูกต้อง ก. เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อทาให้เคลื่อนไหวได้ ข. เป็นที่รองรับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ค. เป็นที่สร้างเม็ดเลือด ง. ถูกทุกข้อ 4. ข้อใด ไม่ใช่ วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดารงประสิทธิภาพของระบบผิวหนัง ก. ใช้ครีมที่มียี่ห้อและราคาแพงเท่านั้นในการบารุงผิว ข. อาบน้าชาระล้างร่างกายอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ค. ทาครีมกันแดดก่อนออกไปเผชิญแสงแดดเสมอ ง. ดื่มน้าอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว แบบทดสอบหลังเรียน
26.
5. ข้อใด ไม่ใช่
กระดูกแกน ก. กระดูกแขน กระดูกขา ข. กระดูกสันหลัง ค. กระดูกซี่โครง ง. กระดูกศีรษะ 6. การบริโภคอาหารประเภทใดที่มีผลช่วยบารุงระบบกระดูก ก. วิตามินเอและดี ข. คาร์โบไฮเดรต ค. แคลเซียม ง. โปรตีน 7. ข้อใดคือลักษณะของกล้ามเนื้อลาย ก. เกาะกระดูกเพื่อให้เป็นรูปร่างของร่างกาย ข. ทางานอยู่ภายใต้อาจจิตใจ เช่น กล้ามเนื้อแขน และขา ค. ทางานนอกเหมืออานาจจิตใจ มีลักษณะเรียบ เช่น กล้ามเนื้อที่ลาไส้ ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข 8. ผิวหนังประกอบไปด้วยส่วนสาคัญ 2 ส่วนคือ ก. หนังแท้และหนังเทียม ข. หนังกาพร้าและรูขุมขน ค. หนังกาพร้าและหนังแท้ ง. หนังกาพร้าและหนังเทียม
27.
9. สิ่งใดก่อให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเมื่อยล้าและอ่อนแรงได้มากที่สุด ก. การกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์มากเกินไป ข.
การนั่งทางานท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน ๆ ค. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ ง. การเล่นกีฬาและออกกาลังกายนาน ๆ 10. ใครมีพฤติกรรมที่ดี มีส่วนช่วยดารงประสิทธิภาพของระบบกระดูกมากที่สุด ก. สมพรดื่มน้าอัดลมเป็นประจาทุกวัน ข. สมควรชอบเล่นกีฬาประเภทผาดโผน ค. สมชายกินเนื้อสัตว์และดื่มนมเป็นประจาทุกวัน ง. สมหญิงไม่มีเวลาออกกาลังกายจึงอาศัยการกินอาหารเสริมแทนมาก ๆ #########################
28.
ภาคผนวก
29.
1. คาชี้แจง :
จากภาพให้นักเรียนเติมส่วนประกอบของผิวหนังให้ถูกต้อง 2. คาชี้แจง : จากภาพให้นักเรียนเติมส่วนประกอบของชั้นผิวหนัง เป็นภาษาอังกฤษ เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 1 เส้นขน หนังกาพร้า หนังแท้ สเตรตัมคอร์เนียม ไขมัน ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน เส้นเลือดฝอย เซลล์ไขมัน เส้นเลือด รากผม Hair Sebaceous Hair follicle Subcutaneous Layer Epidermis Dermis Pore Sweat gland Nerve ending Skin
30.
3. คาชี้แจง :
ให้นักเรียนวาดรูปส่วนประกอบของชั้นผิวหนังและบอกส่วนประกอบ 4.คาชี้แจง : ให้นักเรียนสรุปการสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางานของระบบผิวหนังเป็นผังมโน ทัศน์ แนวการตอบ ขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของผู้สอน
31.
1. คาชี้แจง :
ให้นักเรียนเติมรายละเอียดของโครงกระดูกของร่างกาย เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 2 กะโหลก กระดูกคอ กระดูกไหปลาร้า กระดูกซี่โครง กระดูกอก กระดูกสันหลังบริเวณเอว กระดูกเชิงกราน กระดูกก้นกบ กระดูกสะบัก กระดูกต้นแขน กระดูกกระเบนเหน็บ กระดูกปลายแขน กระดูกข้อมือ กระดูกต้นขา กระดูกมือ กระดูกสะบ้า กระดูกน่อง กระดูกแข้ง กระดูกเท้า
32.
2. คาชี้แจง :
จงตอบคาถามต่อไปนี้ 1. โครงกระดูกมีความสาคัญอย่างไรต่อร่างกาย (แนวตอบ) 1. ประกอบเป็นโครงร่างส่วนที่แข็งของร่างกาย 2. เป็นที่รองรับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย 3. เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อทาให้มีการเคลื่อนไหวได้ 4. เป็นที่สร้างเม็ดเลือด 5. เป็นที่เก็บและจ่ายแคลเซียม ฟอสเฟต และแมกนีเซียม 6. ป้องกันอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ปอด หัวใจ ตับ สมอง และประสาท 2. โครงกระดูกของร่างกายแบ่งเป็นกี่กลุ่ม อะไรบ้าง (แนวตอบ) โครงกระดูกของคนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กระดูกแกนและกระดูกรยางค์ 3. นักเรียนมีวิธีในการดูแลและสร้างเสริมประสิทธิภาพการทางานของระบบโครงกระดูกอย่างไร (แนวตอบ) 1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี เช่น เนื้อสัตว์ นม และผลไม้ต่าง ๆ 2. ออกกาลังกายเป็นประจาสม่าเสมอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง *************************************
33.
1. คาชี้แจง :
จงตอบคาถามต่อไปนี้ 1. กล้ามเนื้อมีความสาคัญอย่างไร (แนวตอบ) 1. ช่วยให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้จากการทางาน ซึ่งในการเคลื่อนไหวของร่างกายนี้ ต้องอาศัยการทางานของระบบโครงกระดูกและข้อต่อต่างๆด้วย โดยอาศัยการยึดและหดตัวของกล้ามเนื้อ 2. ช่วยให้อวัยวะภายในต่างๆเช่นหัวใจ ปอด กระเพาะอาหาร ลาไส้เล็ก ลาไส้ใหญ่ หลอดเลือด ทางานได้ตามปกติและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการบีบตัวของกล้ามเนื้ออวัยวะดังกล่าว 3. ผลิตความร้อนให้ความอบอุ่นร่างกาย ซึ่งความร้อนนี้เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ แล้วเกิดปฏิกิริยาทางเคมี 4. ช่วยป้องกันอวัยวะภายในไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือน 5. เป็นที่เกิดพลังงานของร่างกาย 2. กล้ามเนื้อแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง (แนวตอบ) กล้ามเนื้อแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ กล้ามเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อลาย และกล้ามเนื้อหัวใจ 3. นักเรียนมีวิธีการสร้างเสริมประสิทธิภาพการทางานของกล้ามเนื้ออย่างไร (แนวตอบ) 1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และมีปริมาณที่เพียงพอต่อต่อความต้องการ ของร่างกาย 2. ออกกาลังสม่าเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละอย่างน้อย 30 นาที โดยเน้นรูปแบบการบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เป็นต้น 3. ทาจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ดูแลสุขภาพจิตของตนเองให้ดี 4. ควรมีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทางานหนักหรือหักโหมจนเกินไป โดยเฉพาะ ลักษณะงานที่ต้องทางานอยู่ท่าเดิมนาน ๆ จะทาให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนล้าและเกิดความไม่แข็งแรงได้ 5. เมื่อเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อ เช่น มีอาการปวดหลังเรื้อรัง ควรรีบไปพบแพทย์ *********************************** เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 3
34.
2. คาชี้แจง :
จงวาดรูปกล้ามเนื้อและแสดงส่วนประกอบ (แนวตอบ) กล้ามเนื้อลาย กล้ามเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อหัวใจ
35.
คาชี้แจง : จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว 1.
ผิวหนังบริเวณใดของร่างกายมีความหนามากที่สุด ก. หนังตา แก้ม ข. ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ค. ข้อศอก น่อง ง. หนังหู ฝ่ามือ 2. ผิวหนังประกอบไปด้วยส่วนสาคัญ 2 ส่วนคือ ก. หนังแท้และหนังเทียม ข. หนังกาพร้าและรูขุมขน ค. หนังกาพร้าและหนังแท้ ง. หนังกาพร้าและหนังเทียม 3. ข้อใด ไม่ใช่ วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดารงประสิทธิภาพของระบบผิวหนัง ก. ใช้ครีมที่มียี่ห้อและราคาแพงเท่านั้นในการบารุงผิว ข. อาบน้าชาระล้างร่างกายอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ค. ทาครีมกันแดดก่อนออกไปเผชิญแสงแดดเสมอ ง. ดื่มน้าอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว 4. ข้อใดกล่าวถึงความสาคัญของระบบกระดูกได้ถูกต้อง ก. เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อทาให้เคลื่อนไหวได้ ข. เป็นที่รองรับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ค. เป็นที่สร้างเม็ดเลือด ง. ถูกทุกข้อ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
36.
5. ข้อใด ไม่ใช่
กระดูกแกน ก. กระดูกแขน กระดูกขา ข. กระดูกสันหลัง ค. กระดูกซี่โครง ง. กระดูกศีรษะ 6. การบริโภคอาหารประเภทใดที่มีผลช่วยบารุงระบบกระดูก ก. วิตามินเอและดี ข. คาร์โบไฮเดรต ค. แคลเซียม ง. โปรตีน 7. ใครมีพฤติกรรมที่ดี มีส่วนช่วยดารงประสิทธิภาพของระบบกระดูกมากที่สุด ก. สมพรดื่มน้าอัดลมเป็นประจาทุกวัน ข. สมควรชอบเล่นกีฬาประเภทผาดโผน ค. สมชายกินเนื้อสัตว์และดื่มนมเป็นประจาทุกวัน ง. สมหญิงไม่มีเวลาออกกาลังกายจึงอาศัยการกินอาหารเสริมแทนมาก ๆ 8. ข้อใดคือลักษณะของกล้ามเนื้อลาย ก. เกาะกระดูกเพื่อให้เป็นรูปร่างของร่างกาย ข. ทางานอยู่ภายใต้อาจจิตใจ เช่น กล้ามเนื้อแขน และขา ค. ทางานนอกเหมืออานาจจิตใจ มีลักษณะเรียบ เช่น กล้ามเนื้อที่ลาไส้ ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
37.
9. ข้อใด ไม่ได้
มีส่วนประกอบของกล้ามเนื้อเรียบ ก. กล้ามเนื้อที่หลอดลมปอด ข. กล้ามเนื้อในกระเพาะอาหาร ค. กล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อทรวงอก ง. กล้ามเนื้อที่ผนังมดลูกและลาไส้ 10. สิ่งใดก่อให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเมื่อยล้าและอ่อนแรงได้มากที่สุด ก. การกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์มากเกินไป ข. การนั่งทางานท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน ๆ ค. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ ง. การเล่นกีฬาและออกกาลังกายนาน ๆ #########################
38.
คาชี้แจง : จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว 1.
ข้อใด ไม่ได้ มีส่วนประกอบของกล้ามเนื้อเรียบ ก. กล้ามเนื้อที่หลอดลมปอด ข. กล้ามเนื้อในกระเพาะอาหาร ค. กล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อทรวงอก ง. กล้ามเนื้อที่ผนังมดลูกและลาไส้ 2. ผิวหนังบริเวณใดของร่างกายมีความหนามากที่สุด ก. หนังตา แก้ม ข. ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ค. ข้อศอก น่อง ง. หนังหู ฝ่ามือ 3. ข้อใดกล่าวถึงความสาคัญของระบบกระดูกได้ถูกต้อง ก. เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อทาให้เคลื่อนไหวได้ ข. เป็นที่รองรับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ค. เป็นที่สร้างเม็ดเลือด ง. ถูกทุกข้อ 4. ข้อใด ไม่ใช่ วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดารงประสิทธิภาพของระบบผิวหนัง ก. ใช้ครีมที่มียี่ห้อและราคาแพงเท่านั้นในการบารุงผิว ข. อาบน้าชาระล้างร่างกายอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ค. ทาครีมกันแดดก่อนออกไปเผชิญแสงแดดเสมอ ง. ดื่มน้าอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
39.
5. ข้อใด ไม่ใช่
กระดูกแกน ก. กระดูกแขน กระดูกขา ข. กระดูกสันหลัง ค. กระดูกซี่โครง ง. กระดูกศีรษะ 6. การบริโภคอาหารประเภทใดที่มีผลช่วยบารุงระบบกระดูก ก. วิตามินเอและดี ข. คาร์โบไฮเดรต ค. แคลเซียม ง. โปรตีน 7. ข้อใดคือลักษณะของกล้ามเนื้อลาย ก. เกาะกระดูกเพื่อให้เป็นรูปร่างของร่างกาย ข. ทางานอยู่ภายใต้อาจจิตใจ เช่น กล้ามเนื้อแขน และขา ค. ทางานนอกเหมืออานาจจิตใจ มีลักษณะเรียบ เช่น กล้ามเนื้อที่ลาไส้ ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข 8. ผิวหนังประกอบไปด้วยส่วนสาคัญ 2 ส่วนคือ ก. หนังแท้และหนังเทียม ข. หนังกาพร้าและรูขุมขน ค. หนังกาพร้าและหนังแท้ ง. หนังกาพร้าและหนังเทียม
40.
9. สิ่งใดก่อให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเมื่อยล้าและอ่อนแรงได้มากที่สุด ก. การกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์มากเกินไป ข.
การนั่งทางานท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน ๆ ค. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ ง. การเล่นกีฬาและออกกาลังกายนาน ๆ 10. ใครมีพฤติกรรมที่ดี มีส่วนช่วยดารงประสิทธิภาพของระบบกระดูกมากที่สุด ก. สมพรดื่มน้าอัดลมเป็นประจาทุกวัน ข. สมควรชอบเล่นกีฬาประเภทผาดโผน ค. สมชายกินเนื้อสัตว์และดื่มนมเป็นประจาทุกวัน ง. สมหญิงไม่มีเวลาออกกาลังกายจึงอาศัยการกินอาหารเสริมแทนมาก ๆ #########################
41.
กิตติ ปรมัตถผล และคณะ.
(2556). สุขศึกษา 4 รายวิชา รายวิชาพื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์เอมพันธ์ จากัด กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุ ภัณฑ์. ---------- (2553). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์. กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์. https://sites.google.com/site/sukhsuksam4 http://i93.photobucket.com/albums/l61/nyzmxy/LH%20Series/skinstructure.jpg http://bodysystemm.wikispaces.com/file/view/13.jpg/352387448/360x288/13.jpg https://maulchon.files.wordpress.com/2012/06/033.jpg http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Movement/pic-movement/m1.PNG http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Movement/pic-movement/m6.PNG http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Movement/pic-movement/m5.PNG บรรณานุกรม
Download now