More Related Content
Similar to 2562 final-project 14......
Similar to 2562 final-project 14...... (20)
2562 final-project 14......
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน รู้ได้อย่างไรว่าปวดไมเกรน
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นางสาว กิรญา มีวัฒนะกุล เลขที่ 14 ชั้น ม.6 ห้อง 14
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
นางสาวกิรญา มีวัฒนะกุล เลขที่ 14 ม6/14
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) : รู้ได้อย่างไรว่าปวดไมเกรน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) : Know Migraine
ประเภทโครงงาน : โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน : นางสาวกิรญา มีวัฒนะกุล
ชื่อที่ปรึกษา : คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน : ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ในปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจและสังคม การศึกษา การทางานต่างๆ มีการแข่งขันสูง ทาให้เกิดปัญหาทาง
สุขภาพร่างกายได้ง่าย ทาให้ผู้คนในสังคมต้องเผชิญกับความเครียดอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นความเครียดสะสม
ที่บั่นทอนร่างกายและจิตใจ ส่งผลให้เกิดอาการป่วยด้วยโรคต่าง ๆ หนึ่งในนั้นก็คืออาการปวดหัวไมเกรนที่หลาย
คนเผชิญอยู่ ยกตัวอย่างการศึกษาในปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าจานวนนักเรียนฆ่าตัวตายมีเพิ่มมากขึ้น เพราะมีปัญหา
ความเครียด ความกดดันจากคนรอบข้าง โรคไมเกรนนี้ส่วนใหญ่มักพบในวัยทางาน แต่ปัจจุบันนี้ก็พบในเด็กมาก
เช่นกัน ความเครียดของเด็กจะส่งผล กระทบถึงร่างกายและจิตใจ รวมถึงพัฒนาการการเรียนรู้ต่างๆ อาจทาให้เกิด
อาการทางกายที่ไม่ทราบสาเหตุ ทาให้เกิดอาการทางจิตใจ เช่น นอนไม่หลับ ขาดสมาธิ รับประทานได้น้อยลง อาจ
เกิดความเครียดเรื้อรัง หรือ เครียดจนปวดหัวไมเกรนบ่อยๆ อาจส่งผลกระทบถึงการเจริญพัฒนาของเซลล์ประสาท
ในสมอง หรือทาให้เกิดการเจ็บป่วย อาจส่งผลถึงการใช้ชีวิตประจาวัน การเรียน และสัมพันธภาพกับคนรอบข้าง
เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงคิดทาโครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาสื่อให้ความรู้เรื่องของโรคไมเกรน โดย
รวบรวมข้อมูล เนื้อหามาจัดทาเป็นเว็บบล็อก เพื่อให้ความรู้และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านและผู้ที่ต้องการศึกษามาก
ที่สุด
- 3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อกเรื่องโรคปวดศีรษะไมเกรน
2. เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
3. เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1. ศึกษาสาเหตุการเกิดโรคปวดศีรษะไมเกรน
2. ศึกษาความแตกต่างการปวดหัวไมเกรนและการปวดหัวอื่นๆ
3. ศึกษาอาการปวดศีรษะไมเกรน
4. ศึกษาวิธีการป้องกันและรักษาการเกิดโรคปวดศีรษะไมเกรน
5. ศึกษาโรคไมเกรนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
6. ศึกษาปัจจัย การวินิจฉัยโรค
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
การใช้สื่อเพื่อการศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ต เรื่องปวดหัวไมเกรน ข้าพเจ้าได้รวบรวมศึกษาข้อมูล ดังต่อไปนี้
โรคไมเกรนคืออะไร
เป็นโรคที่ก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะเรื้อรังชนิดหนึ่ง มีลักษณะเฉพาะตัวที่สาคัญ คือ อาการปวดศีรษะ
โดยมักปวดข้างเดียว หรือเริ่มปวดข้างเดียวก่อนแล้วจึงปวดทั้ง 2 ข้าง แต่ละครั้งที่ปวดมักจะย้ายข้างไปมาหรือย้าย
ตาแหน่งได้บางครั้งอาจปวดทั้ง 2 ข้างขึ้นมาพร้อมๆ กันตั้งแต่แรก ผู้ป่วยโรคไมเกรนส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ในวัย
เจริญพันธุ์ ผู้หญิงจะเป็นมากกว่าผู้ชาย และมักเป็นในผู้ที่มีความเครียดทางอารมณ์และจิตใจสูง
โรคนี้พบบ่อยแค่ไหน
โรคไมเกรนจะพบราว 7% ของประชากร, ส่วนโรคปวดศีรษะจากความเครียดนั้นขึ้นอยู่กับสภาวะ
สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ฐานะ และสภาพของสังคม ในเมืองหลวงจะพบผู้ป่วยกลุ่มนี้มากกว่าในชนบท ปัจจุบันนี้คง
ยอมรับว่า เกือบทุกคนมีความเครียด แต่ใครจะปวดหัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับรูปแบบต่างๆ ของการแสดงออกของอาการ
เครียด เช่น ปวดหัว ปวดท้อง นอนไม่หลับ หงุดหงิด เบื่ออาหาร ท้องผูก ท้องอืดเฟ้อ ตลอดจนท้อแท้เบื่อหน่ายได้
มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทาให้โรคไมเกรนเป็นมากขึ้น
1.ภาวะเครียด
2.การอดนอน
3.การขาดการพักผ่อน หรือทางานมากเกินไป
4.ขณะมีระดู หรือรับประทานยาคุมกาเนิด
5.เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์
6.อาหารบางชนิด เช่น กล้วยหอม เนยแข็ง และช็อกโกแล
- 4. 4
โรคไมเกรนมีอาการอย่างไร
1.ปวดศีรษะครึ่งซีก อาจเป็นบริเวณขมับหรือท้ายทอย แต่บางครั้งก็อาจเป็นสองข้างพร้อมกัน หรือเป็นสลับข้างกัน
ได้
2.ลักษณะการปวดศีรษะส่วนมากจะปวดตุ้บๆ นานครั้งหนึ่งๆเกิน 20 นาที (ยกเว้นจะได้รับประทานยา) แต่
บางครั้งถ้าเป็นรุนแรงอาจปวดนานเป็นวันๆ หรือสัปดาห์ก็ได้ผู้ป่วยบางรายอาจมีปวดตื้อๆสลับกับปวดตุ้บๆใน
สมองก็ได้
3.อาการปวดศีรษะมักเป็นรุนแรง และส่วนมากจะมีคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วยเสมอ โดยอาจเป็นขณะปวด
ศีรษะ ก่อนหรือหลังปวดศีรษะก็ได้บางรายมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากจนรับประทานอะไรไม่ได้
4.อาการนาจะเป็นอาการทางสายตา โดยจะมีอาการนามาก่อนปวดศีรษะราว 10-20 นาที เช่น เห็นแสงเป็น
เส้นๆ ระยิบระยับ แสงจ้าสะท้อนหรือเห็นภาพบิดเบี้ยวนาหน้ามาก่อน
ใครบ้างที่เป็นโรคไมเกรน
→ โรคไมเกรนพบบ่อยในผู้หญิงวัยสาว ระหว่าง 20-40 ปี ในเด็ก และผู้สูงอายุพบน้อย
→ ผู้ชายพบว่าเป็นไมเกรนน้อยกว่าผู้หญิง 3-4 เท่าตัว แต่ถ้าผู้ชายเป็นมักจะมีอาการรุนแรงกว่า
→ โดยมีอาการปวดตาข้างใดข้างหนึ่ง น้าตาไหล ตาแดง ปวดรุนแรงมากติดต่อกันเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์
→ และอาจเป็นซ้าบ่อยๆทุก 6-12 เดือน โรคไมเกรนมักพบบ่อยกับสมาชิกอื่นๆในครอบครัวที่เป็นผู้หญิง เช่น
แม่ น้องสาว น้า ป้า เป็นต้น
ปวดศีรษะไมเกรนกับปวดศีรษะจากสาเหตุอื่นแตกต่างกัน
โรคไมเกรนรักษาอย่างไรการปวดศีรษะจากโรคไมเกรน มักรักษาไม่หายด้วยยาแก้ปวดพาราเซตตามอน
ธรรมดา ยาที่ได้ผลดีคือยาแก้ปวดแอสไพริน ขนาด 2 เม็ด ในขณะปวด
ข้อระวังห้ามรับประทานแอสไพรินในขณะท้องว่าง และผู้ป่วยโรคแผลในกระเพาะอาหารห้าม
รับประทานแอสไพรินเด็ดขาด เพราะอาจเกิดเลือดออกในกระเพาะได้มากๆ และอาจทาให้ถึงแก่กรรมได้ในผู้ป่วย
ที่ไม่แน่ใจว่าจะมีโรคกระเพาะหรือไม่ให้รับประทานยาเคลือบกระเพาะอาหารหรือนมร่วมด้วย ก็จะป้องกันการ
ระคายเคืองของแอสไพรินต่อเยื่อบุกระเพาะอาหารได้
การวินิจฉัย
ลักษณะต่างๆ ของอาการปวด เช่น ตาแหน่ง ความรุนแรง ลักษณะการปวด การดาเนินของการปวด
อาการที่เกิดร่วมด้วย เช่น ไข้ตาแดง ตาโปน น้ามูกมีกลิ่นเหม็น คลื่นไส้ เวียนหัว
ความผิดปกติของการทางานของสมองหรืออวัยวะต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการปวด เช่น ความคิดอ่าน
เชื่องช้า มองเห็นภาพซ้อน แขนขาอ่อนแรง เดินเซ
ปัจจัยกระตุ้นอาการปวด เช่น ความเครียด แสงจ้าๆ อาหารบางชนิด อดอาหาร นอนหลับไม่เพียงพอ
ปัจจัยทุเลาอาการปวด เช่น การนอนหลับ การนวดหนังศีรษะ ยา
แพทย์อาจต้องส่งตรวจเพิ่มเติมเพื่อให้การวินิจฉัยแยกโรคที่อาจมีอาการคล้ายคลึงกับโรคไมเกรน
- 5. 5
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
กาหนดปัญหาเพื่อที่จะศึกษาโรคปวดศีรษะไมเกรน
หาข้อมูล วางแผนการจัดการเนื้อหา
ลงมือปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้
รวบรวมข้อมูล
ประเมินผลการศึกษา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
: คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
: ไม่มี
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
ต้องการให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านและศึกษาเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าตั้งใจศึกษาหาข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อ
ต้องการนามาเป็นความรู้ที่ทุกคนอาจจะต้องเผชิญเกี่ยวกับโรคนี้ เพื่อเรียนรู้วิธีป้องกัน สาเหตุ ของโรคนี้ได้อย่างดี
และข้าพเจ้าหวังได้รับความรู้ที่ศึกษาวิธีการสร้างเว็บบล็อกเพื่อใช้เป็นสื่อในการเผยแพร่ความรู้อีกด้วย