SlideShare a Scribd company logo
1 of 21
Download to read offline

                               
                               
                                 




                                              จัดพิมพโดย
    
 ⌫          
                                  ⌫
                                       ⌫ 



          ⌫  


        ⌫


                      ⌫
            
                                                ⌦  
                  
                                                    
           ⌫⌫
          ⌫              
                                                      ⌦
         
                                                         
       ⌫                       
⌫       ⌫⌫
⌫             
๓๗
                                               เย จาเนเก ปะมาเทนะ,                  มิใชนอยเพราะเผลอผลัน,
                                                 กายะวาจามะเนเหวะ,                    ทางกายาวาจาจิต,
                                 
                                   ปุญญัง เม อะนุโมทันตุ,               จงอนุโมทนากุศล,
                                        คัณหันตุ ผะละมุตตะมัง,               ถือเอาผลอันอุกฤษฏ,
                                
                                         เวรา โน เจ ปะมุญจันตุ,               ถามีเวรจงเปลืองปลิด,
                                                                                                        ้
                                
                                  สัพพะโทสัง ขะมันตุ เม.               อดโทษขาทั่วหนาเทอญ.
                                                          ๑๖. คํากรวดน้ํายอ
⌫⌫                          
                                     อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
                                       ขอผลบุญนี้จงสําเร็จแกญาติทั้งหลายของขาพเจา           ขอญาติทั้งหลายของ
                                 
                                  ขาพเจาจงเปนสุขเถิด
                               
                                                                 ๑๗. บทแผเมตตา
                                  
                                         สัพเพ สัตตา,        สัตวทั้งหลายที่เปนเพื่อนทุกข, เกิด แก เจ็บ ตาย,
                                                         ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น,
                                   
                                     อะเวรา โหนตุ,       จงเปนสุขเปนสุขเถิด, อยาไดมีเวรซึ่งกันและกันเลย,
                               
                                         อัพยาปชฌา โหนตุ,จงเปนสุขเปนสุขเถิด, อยาไดเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย,
                                 อะนีฆา โหนตุ, จงเปนสุขเปนสุขเถิด, อยาไดมความทุกขกายทุกขใจเลย,
                                                                                                      ี
                            
                                 สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ.จงมีความสุขกายสุขใจ,รักษาตนใหพนจากทุกขภย
                                                                                                                            ั
                                                ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เทอญ.
                               
                        
                        คูมือพุทธบริษัท                                     บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๓๖                                                                                        ๑
ตัณหุปาทานะเฉทะนัง,          ตัวตัณหาอุปาทาน,                                                                   คําทําวัตรเชา
เย สันตาเน หินา ธัมมา,       สิ่งชั่วในดวงใจ,
ยาวะ นิพพานะโต มะมัง,        กวาเราจะถึงนิพพาน,
                                                                                                          ๑. คําบูชาพระรัตนตรัย
นัสสันตุ สัพพะทา เยวะ,       มลายสิ้นจากสันดาน,
ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว,        ทุก ๆ ภพที่เราเกิด,                               อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา,
อุชุจิตตัง สะติปญญา,        มีจิตตรงและสติ, ทั้งปญญาอันประเสริฐ,                 พระผูมีพระภาคเจา, เปนพระอรหันต, ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกขสิ้นเชิง,
สัลเลโข วิรยัมหินา,
            ิ                พรอมทั้งความเพียรเลิศ, เปนเครื่องขูดกิเลสหาย,         ตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง,
มารา ละภันตุ โนกาสัง,        โอกาสอยาพึงมี, แกหมูมารสิ้นทั้งหลาย,           พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ,
                                                                                   ขาพเจาอภิวาทพระผูมีพระภาคเจา, ผูรู ผูตื่น ผูเบิกบาน,   (กราบ)
กาตุญจะ วิริเยสุ เม,         เปนชองประทุษราย, ทําลายลางความเพียรจม,
                                                                               สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,
พุทธาทิปะวะโร นาโถ,          พระพุทธผูบวรนาถ,
                                                                                   พระธรรม เปนธรรมที่พระผูมีพระภาคเจา, ตรัสไวดีแลว
ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม,        พระธรรมที่พึ่งอุดม,
                                                                               ธัมมัง นะมัสสามิ.
นาโถ ปจเจกะพุทโธ จะ,        พระปจเจกะพุทธะ-
                                                                                   ขาพเจานมัสการพระธรรม                                         (กราบ)
สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง,       สมทบพระสงฆที่พึ่งผยอง,                           สุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
เตโสตตะมานุภาเวนะ,           ดวยอานุภาพนั้น,                                      พระสงฆสาวกของพระผูมพระภาคเจา, ปฏิบัติดีแลว,
                                                                                                        ี
มาโรกาสัง ละภันตุ มา,        ขอหมูมารอยาไดชอง,                             สังฆัง นะมามิ.
ทะสะปุญญานุภาเวนะ,           ดวยเดชบุญทั้งสิบปอง,                                ขาพเจานอบนอมพระสงฆ.                                        (กราบ)
มาโรกาสัง ละภันตุ มาฯ        อยาเปดโอกาสแกมาร เทอญฯ                                               …….. …….. …….. ……..
เย เกจิ ขุททะกา ปาณา,        สัตวเล็กทั้งหลายใด,
มะหันตาป มะยา หะตา,         ทั้งสัตวใหญเราห้ําหั่น,

                         คูมือพุทธบริษัท                                                                 บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๒                                                                             ๓๕
                         ๒. ปุพพภาคนมการ                                               ๑๕. กรวดน้ําตอนเย็น (อุททิสสนาธิฏฐานคาถา)
                                                                                      (หันทะ มะยัง อุททิสสะนาธิฏฐานะคาถาโย ภะณามะ เสฯ)
(หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เสฯ)
                                                                              อิมินา ปุญญะกัมเมนะ,           ดวยบุญนี้อุทิศให,
 นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต,            ขอนอบนอมแดพระผูมีพระภาคเจาพระองคนั้น,   อุปชฌายา คุณุตตะรา,           อุปชฌายผูเลิศคุณ,
 อะระหะโต,                       ซึ่งเปนผูไกลจากกิเลส,                      อาจะริยูปะการา จะ,             แลอาจารยผูเกือหนุน,
                                                                                                                             ้
 สัมมาสัมพุทธัสสะ.             ตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง.                    มาตา ปตา จะ ญาตะกา,           ทั้งพอแมและปวงญาติ,
                             (วา ๓ ครั้ง)                                    สุริโย จันทิมา ราชา,           สูรยจันทรแลราชา,
                        …….. …….. …….. ……..                                   คุณะวันตา นะราป จะ,           ผูทรงคุณหรือสูงชาติ,
                            ๓. พุทธาภิถุติ.                                   พรัหมะมารา จะ อินทา จะ,        พรหมมารและอินทราช,
               (หันทะ มะยัง พุทธาภิถุติง กะโรมะ เสฯ)                          โลกะปาลา จะ เทวะตา,            ทั้งทวยเทพและโลกบาล,
                                                                              ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ,         ยมราชมนุษยมิตร,
 โย โส ตะถาคะโต,              พระตถาคตเจานั้น พระองคใด,
                                                                              มัชฌัตตา เวริกาป จะ,          ผูเปนกลางผูจองผลาญ,
 อะระหัง,                     เปนผูไกลจากกิเลส,
                                                                              สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ,        ขอใหเปนสุขศานติ์, ทุกทั่วหนาอยาทุกขทน,
 สัมมาสัมพุทโธ,               เปนผูตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง,
                                                                              ปุญญานิ ปะกะตานิ เม,           บุญผองที่ขาทํา, จงชวยอํานวยศุภผล,
 วิชชาจะระณะสัมปนโน,         เปนผูถึงพรอมดวยวิชชาและจรณะ,
                                                                              สุขัง จะ ติวธัง เทนตุ,
                                                                                           ิ                 ใหสุขสามอยางลน,
 สุคะโต,                      เปนผูไปแลวดวยดี,
                                                                              ขิปปง ปาเปถะ โวมะตัง,         ใหลุถึงนิพพานพลัน,
 โลกะวิทู,                    เปนผูรูโลกอยางแจมแจง,
                                                                              อิมินา ปุญญะกัมเมนะ,           ดวยบุญนี้ที่เราทํา,
 อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ, เปนผูสามารถฝกบุรุษที่สมควรฝกได
                                                                              อิมินา อุททิเสนะ จะ,           แลอุทิศใหปวงสัตว,
                                 อยางไมมีใครยิ่งกวา,
                                                                              ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ,          เราพลันไดซึ่งการตัด,
 สัตถา เทวะมะนุสสานัง,           เปนครูผูสอนของเทวดาและมนุษยทั้งหลาย,

                             คูมือพุทธบริษัท                                                        บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๓๔                                                                                      ๓
       5.สุญญตาพุทโธ…ทั้งเนื้อทั้งตัว, ทั้งผลงานที่ทําไปแลวทั้งหมดทั้งสิน, เรา
                                                                         ้                 พุทโธ,                   เปนผูรู ผูตื่น ผูเบิกบานดวยธรรม,
ขอยกใหพระธรรมทั้งหมด, เราจะไมหวังที่จะเอาอะไร, เราจะไมหวังที่จะเปนอะไร                 ภะคะวา,                  เปนผูมีความจําเริญ จําแนกธรรมสั่งสอนสัตว,
, ไมวาในโลกนี้หรือโลกไหนๆ, โดยประการทั้งปวง, เพราะทุกสิ่งทุกอยางเปนของ                 โย อิมัง โลกัง สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพรัหมะกัง,
พระธรรมสุญญตา,
                                                                                           สัสสะมะณะพราหมะณิง ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง สะยัง อะภิญญา,
     (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โลภะ โทสะ โมหะ)
                                                                                           สัจฉิกัตวา ปะเวเทสิ,     พระผูมีพระภาคเจาพระองคใด, ไดทรงทําความดับ
          6.สุญญตาพุทโธ…ทุก ๆชีวิต ตางก็มีความทุกขอยูแลว, เราคนหนึ่งจะไม
                                                                                               ทุกขใหแจงดวยพระปญญาอันยิ่งเองแลว, ทรงสอนโลกนี้พรอมทั้งเทวดา,
เพิ่มทุกขเพิ่มโทษ, ใหแกทุก ๆชีวิต, ถึงแมวาเขาจะดานินทา ใสรายทุบตี, หรือโดย
                                                                                               มาร พรหม, และหมูสัตว พรอมทั้งสมณพราหมณ, พรอมทั้งเทวดาและมนุษย
ที่สุดฆาเราใหตายก็เชิญเถิด, เราจะไมทําตอบ, เพราะการทําตอบเลวสองเทา,
                                                                                               ใหรูตาม,
พระพุทธเจาตรัสไว, บุญกุศลใด ๆ, ที่ขาพเจาไดกระทําใหเกิดขึ้นแลว,ขอบุญกุศล
                                                                                           โย ธัมมัง เทเสสิ,          พระผูมีพระภาคเจาพระองคใด,ทรงแสดงธรรมแลว
นั้น ๆ, จงถึงแกทุกๆชีวิต, ทั้งที่ตายไปแลวดวย, ทั้งที่มีชีวิตอยูเดี๋ยวนีดวย, ขอใหมี
                                                                            ้
ความสุข, แลวพนจากทุกขทงปวง, เขาสูพระนิพพานโดยเร็วพลันเทอญ.
                                ั้                                                         อาทิกัลยาณัง,         ไพเราะในเบื้องตน,
          (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โทสะ)                                   มัชเฌกัลยาณัง,        ไพเราะในทามกลาง,
          7.สุญญตาพุทโธ…ตอไปนี้, ขาพเจาตองเชื่อฟง, ตองขยัน ตองไมดอ, ตอ   ื้       ปะริโยสานะกัลยาณัง, ไพเราะในที่สด, ุ
พระธรรมอีกตอไป,                                                                           สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พรัหมมะจะริยง    ั
          (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โลภะ โทสะ โมหะ)                         ประกาเสสิ, ทรงประกาศพรหมจรรย, คือแบบแหงการปฏิบัติอันประเสริฐ,
          8.สุญญตาพุทโธ…ทําหนาที่ไมหวังอะไร, ไมเปนอะไร, สะอาด สวาง                        บริสุทธิ์ บริบูรณ สิ้นเชิง, พรอมทั้งอรรถะ(คําอธิบาย), พรอมทั้งพยัญชนะ(หัวขอ)
สงบ, ใจอยูกับนิพพาน, เพราะไมมีเรา, มีแตอนิจจังทุกขังอนัตตา, ที่เกิดดับถี่ยิบ, ไม       ตะมะหัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ,
มีเบื้องตน ไมมีที่สุด,                                                                       ขาพเจาบูชาอยางยิ่ง เฉพาะพระผูมีพระภาคเจาพระองคนน,
                                                                                                                                                    ั้
          (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โลภะ โทสะ โมหะ)                         ตะมะหัง ภะคะวันตัง สิระสา นะมามิ.
หมายเหตุ บทสวดภาวนาสุญญตาพุทโธนี้ใชไดทั้งกันและแกกิเลสทังปวง ตองทํา   ้
                                                                                               ขาพเจานอบนอมพระผูมีพระภาคเจาพระองคนั้น ดวยเศียรเกลา.
ใหมาก เจริญใหมาก เชาเย็นกอนเขานอน ทําจนเกิดความชํานาญจริง ๆจึงจะไดผล
                                                                                                                 (กราบระลึกถึงพระพุทธคุณ)

                                   คูมือพุทธบริษัท                                                                 บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๔                                                                                 ๓๓
                             ๔. ธัมมาภิถุติ                                           ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในครูอุปชฌายอาจารย
                                                                                                                                                 (กราบ)
                                                                                      ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในทุกสิ่งทุกอยาง             (กราบ)
               (หันทะ มะยัง ธัมมาภิถุติง กะโรมะ เสฯ)                                      1.สุญญตาพุทโธ…ดีเหลือเกินวันนี,้ เรายังมีชีวิตอยู, เราจะทําหนาทีของ่
                                                                                ความเปนมนุษย, ใหดีที่สุด, จนสุดความสามารถในทุก ๆ กรณี, แตเราจะไมหวัง
โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,                                                  อะไรจากใคร ๆ, โดยที่สุดแมแตคําวา “ขอบใจ”, เพราะอํานาจอยูที่พระธรรม,
   พระธรรมนั้นใด,         เปนสิ่งที่พระผูมีพระภาคเจาไดตรัสไวดแลวเปนตน,
                                                                    ี                    (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โลภะ)
สันทิฏฐิโก,               เปนสิ่งที่ผูศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นไดดวยตนเอง,
                                                                                         2.สุญญตาพุทโธ…ชีวิตของเรานี้, ตองแก ตองเจ็บ ตองตาย แนนอน, จะ
อะกาลิโก,               เปนสิ่งที่ปฏิบัติได และใหผลไดไมจํากัดกาล,          แกแบบไหน, จะเจ็บแบบไหน, เวลาไหน ตรงไหน, มาเถิดเราพรอมแลว, ถึง
เอหิปสสิโก,            เปนสิ่งที่ควรกลาวกะผูอื่นวา ทานจงมาดูเถิด,         อยางไรเราจะไมเปนทุกข, เพราะไมใชของเรา, แตเปนของพระธรรม,
โอปะนะยิโก,             เปนสิ่งที่ควรนอมเขามาใสตัว,                                   (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โมหะ)
ปจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญูหิ, เปนสิ่งที่ผูรูก็รูไดเฉพาะตน,                            3.สุญญตาพุทโธ…ญาติทั้งหลาย, มีมารดาบิดาเปนตน, ตลอดถึงทรัพย
ตะมะหัง ธัมมัง อะภิปชะยามิ, ขาพเจาบูชาอยางยิ่ง เฉพาะพระธรรมนั้น,
                      ู                                                         สมบัติทั้งหมดทั้งสิ้น, ตองพลัดพราก, ลมหายตายจากกันไปอยางแนนอน ไมวันใด
                                                                                ก็วันหนึ่ง, ถึงเปนเชนนันเราจะไมเปนทุกข, เพราะไมใชของเรา, แตเปนของพระ
                                                                                                           ้
ตะมะหัง ธัมมัง สิระสา นะมามิ.
                                                                                ธรรม,
   ขาพเจานอบนอมพระธรรมนั้น ดวยเศียรเกลา.
                                                                                          (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โมหะ)
                        (กราบระลึกถึงพระธรรมคุณ)
                                                                                          4.สุญญตาพุทโธ…ไมวาเราจะทําอะไรลงไปก็ตาม, คนทั้งหลายตอง,
                                                                                รูสึกกับเราอยางนอย 3 ประเภท, คือเขาวาเราดีบาง, เขาวาเราไมดีบาง, เขาไมสนใจ
                                                                                กับเราเลยบาง, เราจะไมคานไมเถียง, และไมหวันไหว, โดยประการทังปวง, ถาเขา
                                                                                                                                    ่                  ้
                            
                                                     วาเราดีก็ถูกของเขา, เขาวาเราไมดีก็ถูกของเขา, เขาไมสนใจเราเลยก็ถูกของเขา,
                                                  อยางนั้นเอง, เราจะไมเปนทุกข, เพราะธรรมะใครทําใครได,
                                                                                          (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โลภะ โทสะ โมหะ)


                              คูมือพุทธบริษัท                                                            บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๓๒                                                                                 ๕
ชีวิตัง เม อะนิยะตัง,            ชีวิตของเรา เปนของไมเที่ยง,                                             ๕. สังฆาภิถุติ
มะระณัง เม นิยะตัง,              ความตายของเรา เปนของเที่ยง,
                                                                                           (หันทะ มะยัง ธัมมาภิถุติ กะโรมะ เสฯ)
วะตะ,                            ควรที่จะสังเวช,
                                                                          โย โส สุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
อะยัง กาโย,                      รางกายนี,้
                                                                              สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปฏิบัติดีแลว,
อะจิรัง,                         มิไดตั้งอยูนาน,
                                             
                                                                          อุชุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
อะเปตะวิญญาโณ,                   ครั้นปราศจากวิญญาณ,
                                                                              สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปฏิบัติตรงแลว,
ฉุทโฑ,                           อันเขาทิ้งเสียแลว,                      ญายะปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
อะธิเสสสะติ,                     จักนอนทับ,                                   สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด,
ปะฐะวิง,                         ซึ่งแผนดิน,                                 ปฏิบัติเพื่อรูธรรมเปนเครื่องออกจากทุกขแลว,
กะลิงคะรัง อิวะ,                 ประดุจวาทอนไมและทอนฟน,              สามีจิปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
นิรัตถัง.                        หาประโยชนมิได.                             สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปฏิบัติสมควรแลว,
                                                                          ยะทิทัง,
                ๑๔. บทสวดภาวนาสุญญตาพุทโธ                                     ไดแกบุคคลเหลานี้คือ,
                                                                          จัตตาริ ปุรสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา,
                                                                                     ิ
                        (สัมมาทิฎฐิปฏิบัติธรรม)
                                                                              คูแหงบุรุษ ๔ คู, นับเรียงตัวบุรุษ ได ๘ บุรษ,
                                                                                                                            ุ
 นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ(วา 3 หน)                เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
          ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในพระพุทธเจา            (กราบ)       นั่นแหละ สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา ,
          ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในพระธรรม                (กราบ)   อาหุเนยโย, เปนสงฆควรแกสักการระที่เขานํามาบูชา,
          ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในพระสงฆ                (กราบ)   ปาหุเนยโย, เปนสงฆควรแกสักการระที่เขาจัดไวตอนรับ,
          ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในพระมารดาพระบิดา        (กราบ)   ทักขิเนยโย, เปนผูควรรับทักษิณาทาน,

                             คูมือพุทธบริษัท                                                       บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๖                                                               ๓๑
อัญชะลิกะระณีโย,      เปนผูที่บุคคลทั่วไปควรทําอัญชลี,      มัตตัญุตา จะ ภัตตัสมิง, ความเปนผูรูประมาณในการบริโภค,
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ,                              ปนตัญจะ สะยะนาสะนัง, การนอน การนั่ง ในที่อันสงัด,
   เปนเนื้อนาบุญของโลก, ไมมีนาบุญอื่นยิ่งกวา,              อะธิจิตเต จะ อาโยโค, ความหมั่นประกอบในการทําจิตใหยิ่ง,
ตะมะหัง สังฆัง อะภิปชะยามิ,
                    ู                                         เอตัง พุทธานะสาสะนัง, ธรรม ๖ อยางนี้ เปนคําสั่งสอนของพระพุทธเจา
   ขาพเจาบูชาอยางยิ่ง เฉพาะพระสงฆหมูนั้น,                     ทั้งหลาย.
ตะมะหัง สังฆัง สิระสา นะมามิ,
   ขาพเจานอบนอมพระสงฆหมูนั้น ดวยเศียรเกลา,                                       ๑๓. บทพิจารณาสังขาร
                         (กราบระลึกถึงพระธรรมคุณ)             สัพเพ สังขารา อะนิจจา,
                         ……………………………………………………….
                                                                   สังขารคือรางกาย จิตใจ, แลรูปธรรม นามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น,
                         ๖.รตนัตตยัปปณามคาถา                       มันไมเที่ยง, เกิดขึ้นแลวดับไป มีแลวหายไป,
                                                              สัพเพ สังขารา ทุกขา,,
         (หันทะ มะยัง ระตะนัตตะยัปปะณามะคาถาโย เจวะ
                                                                   สังขารคือรางกาย จิตใจ, แลรูปธรรม นามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น,
             สังเวคะปะริกิตตนะปาฐัญจะ ภะณามะ เสฯ)                  มันเปนทุกขทนยาก, เพราะเกิดขึ้นแลว, แก เจ็บ ตายไป,
พุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหัณณะโว,                                สัพเพ ธัมมา อะนัตตา,
   พระพุทธเจาผูบริสุทธิ์ มีพระกรุณาดุจหวงมหรรณพ,
                                                                 สิ่งทั้งหลายทั้งปวง, ทั้งที่เปนสังขาร แลมิใชสังขาร ทั้งหมดทั้งสิ้น,
โยจจันตะสุทธัพพะระญาณะโลจะโน,                                     ไมใชตัวไมใชตน ไมควรถือวาเรา วาของเรา วาตัววาตนของเรา,
   พระองคใด มีตาคือญาณอันประเสริฐหมดจดถึงที่สุด,             อะธุวัง ชิวิตง,
                                                                            ั                  ชีวิตเปนของไมยั่งยืน,
โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะฆาตะโก,                                   ธุวัง มะระณัง,           ความตายเปนของยั่งยืน,
   เปนผูฆาเสียซึ่งบาป และอุปกิเลสของโลก,
                                                              อะวัสสัง มะยามะริตัพพัง, อันเราจะพึ่งตายเปนแท,
วันทามิ พุทธัง อะหะมาทะเรนะ ตัง,
                                                              มะระณะปะริโยสานัง        ชีวิตของเรา มีความตายเปนที่สุดรอบ,
   ขาพเจาไหวพระพุทธเจาพระองคนั้น โดยใจเคารพเอื้อเฟอ,
                                คูมือพุทธบริษัท                                         บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๓๐                                                                            ๗
อุจจาสะยะนะ มะหาสะยะนา เวรมะณี,                                              ธัมโม ปะทีโป วิยะ ตัสสะ สัตถุโน,
  เจตนาเปนเครื่องเวนจากการนอนบนที่นอนสูง และที่นอนใหญ.                         พระธรรมของพระศาสดา สวางรุงเรืองเปรียบดวงประทีป,
                                                                             โย มัคคะปากามะตะเภทะภินทะโก,
                       ๑๒. โอวาทปาติโมกขคาถา                                      จําแนกประเภท คือ มรรค ผล นิพพาน, สวนใด,
                                                                             โลกุตตะโร โย จะ ตะทัตถะทีปะโน,
        (หันทะ มะยัง โอวาทะปาติโมกขะคาถาโย ภะณามะ เส)                             ซึ่งเปนตัวโลกุตตระ, และสวนใดที่ชี้แนวแหงโลกุตตระนั้น,
สัพพะปาปสสะ อะกะระณัง, การไมทําบาปทั้งปวง,                                 วันทามิ ธัมมัง อะหะมาทะเรนะ ตัง,
กุสะลัสสูปะสัมปะทา,          การทํากุศลใหถึงพรอม,                               ขาพเจาไหวพระธรรมนั้น โดยใจเคารพเอือเฟอ,
                                                                                                                       ้
สะจิตตะปะริโยทะปะนัง,        การชําระจิตของตนใหขาวรอบ,                      สังโฆ สุเขตตาภะยะติเขตตะสัญญิโต,
เอตัง พุทธานะสาสะนัง,ธรรม ๓ อยางนี้ เปนคําสั่งสอนของพระพุทธเจาทั้งหลาย,        พระสงฆเปนนาบุญอันยิ่งใหญกวานาบุญอันดีทั้งหลาย,
ขันติ ปะระมัง ตะโป ตีติกขา,                                                  โย ทิฏฐะสันโต สุคะตานุโพธะโก,
  ขันตี คือความอดกลั้น เปนธรรมเครื่องเผากิเลสอยางยิ่ง,                          เปนผูเห็นพระนิพพาน, ตรัสรูตามพระสุคต, หมูใด,
นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา,                                              โลลัปปะหีโน อะริโย สุเมธะโส,
  ผูรูทั้งหลาย กลาวพระนิพพานวาเปนธรรมอันยิ่ง,                                เปนผูละกิเลสเครื่องโลเล เปนพระอริยเจา มีปญญาดี,
นะ หิ ปพพะชิโต ปะรูปะฆาตี,                                                  วันทามิ สังฆัง อะหะมาทะเรนะ ตัง,
  ผูกําจัดสัตวอนอยู ไมชื่อวาเปนบรรพชิตเลย,
                 ื่                                                               ขาพเจาไหวพระสงฆหมูนั้น โดยใจเคารพเอื้อเฟอ,
สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต,                                               อิจเจวะเมกันตะภิปูชะเนยยะกัง, วัตถุตตะยัง วันทะยะตาภิสังขะตัง,
  ผูทําสัตวอื่นใหลําบากอยู ไมชื่อวาเปนสมณะเลย,                        ปุญญัง มะยา ยัง มะมะ สัพพุปททะวา, มาโหนตุ เว ตัสสะ ปะภาวะ
อะนูปะวาโท อะนูปะฆาโต,                                                       สิทธิยา. บุญใด ที่ขาพเจาผูไหวอยูซึ่งวัตถุสาม, คือพระรัตนตรัย อันควรบูชายิ่งโดย
  การไมพูดราย, การไมทําราย                                               สวนเดียว, ไดกระทําแลวเปนอยางยิ่งเชนนี้น,ี้ ขออุปทวะ(ความชั่ว)ทั้งหลาย, จงอยา
ปาติโมกเข จะ สังวะโร, การสํารวมในปาติโมกข,                                  มีแกขาพเจาเลย, ดวยอํานาจความสําเร็จอันเกิดจากบุญนั้น.

                                 คูมือพุทธบริษัท                                                       บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๘                                                         ๒๙
                          ๗. สังเวคปริกิตตนปาฐะ                                      ๑๑. อัฏฐสิกขาปทปาฐะ
อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปนโน,
   พระตถาคตเจาเกิดขึ้นแลว ในโลกนี้,
                                                                       (หันทะ มะยัง อัฏฐะสิกขาปาทะปาฐัง ภะณามะ เส)
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ,                                        ปาณาติปาตา เวระมะณี,
   เปนผูไกลจากกิเลส, ตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง,               เจตนาเปนเครื่องเวนจากการฆา,
ธัมโม จะ เทสิโต นิยยานิโก,                                    อะทินทานา เวระมะณี,
   และพระธรรมที่ทรงแสดง เปนธรรมเครื่องออกจากทุกข,              เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การถือเอาสิ่งของที่เจาของไมไดใหแลว,
อุปะสะมิโก ปะรินิพพานิโก,                                     อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี,
   เปนเครื่องสงบกิเลส, เปนไปเพื่อปรินิพพาน,                    เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การกระทําอันมิใชพรหมจรรย,
สัมโพธะคามี สุคะตัปปะเวทิโต,                                  มุสาวาทา เวระมะณี,
   เปนไปเพื่อความรูพรอม, เปนธรรมที่พระสุคตประกาศ,            เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การพูดไมจริง,
มะยันตัง ธัมมัง สุตวา เอวัง ชานามะ,                           สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี,
       พวกเราเมื่อไดฟงธรรมนั้นแลว, จึงไดรูอยางนี้วา,      เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การเสพของเมา, มีสุราและเมรัยเปนตน,
ชาติป ทุกขา,             แมความเกิดก็เปนทุกข,                อันเปนที่ตั้งของความประมาท,
ชะราป ทุกขา,        แมความแกก็เปนทุกข,                   วิกาละโภชะนา เวระมะณี,
มะระณัมป ทุกขัง,    แมความตายก็เปนทุกข,                      เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การบริโภคอาหารในยามวิกาล,
โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาป ทุกขา,                     นัจจะ คีตะ วาทิตะ วิสูกะ ทัสสะนา, มาลา คันธะวิเลปะนะ ธา
   แมความโศก ความร่ําไรรําพัน ความไมสบายกาย ความไมสบายใจ   ระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี,
   ความคับแคนใจ ก็เปนทุกข,                                    เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การฟอนรํา, การขับเพลง, การดนตรี, การดูการเลน
อัปปเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข,                                       ชนิดที่เปนขาศึกตอกุศล, การทรัดทรงสวมใส, การประดับ การตกแตงตน,
   ความประสบกับสิ่งไมเปนที่รักที่พอใจก็เปนทุกข,              ดวยพวงมาลาเครองกลน และเครองผดทา,
                                                                                  ื่ ิ่        ื่ ั
                                  คูมือพุทธบริษัท                                    บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๒๘                                                            ๙
                          ๑๐. สรณคมนปาฐะ                  ปเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข,
                                                               ความพลัดพรากจากสิ่งเปนที่รักที่พอใจ ก็เปนทุกข,
        (หันทะ มะยัง ติสะระณะคะมะนะปาฐัง ภะณามะ เส)       ยัมปจฉัง นะ ละภะติ ตัมป ทุกขัง,
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ,                                        มีความปรารถนาสิ่งใด ไมไดสิ่งนั้น นั่นก็เปนทุกข,
  ขาพเจาขอถือเอาพระพุทธเจา เปนสรณะ,                   สังขิตเตนะ ปญจุปาทานักขันธา ทุกขา,
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ,                                       วาโดยยอ อุปาทานขันธทั้ง ๕ เปนตัวทุกข,
  ขาพเจาขอถือเอาพระธรรม เปนสรณะ,                       เสยยะถีทัง,                ไดแกสิ่งเหลานี้ คือ,
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ,                                   รูปูปาทานักขันโธ,       ขันธ อันเปนที่ตั้งแหงความยึดมั่น คือรูป,
  ขาพเจาขอถือเอาพระสงฆ เปนสรณะ,
                                                          เวทะนูปาทานักขันโธ, ขันธ อันเปนที่ตั้งแหงความยึดมั่น คือเวทนา,
ทุติยัมป พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ,
                                                          สัญูปาทานักขันโธ,      ขันธ อันเปนที่ตั้งแหงความยึดมั่น คือสัญญา,
  แมครั้งที่สอง, ขาพเจาขอถือเอาพระพุทธเจา เปนสรณะ,
                                                          สังขารูปาทานักขันโธ, ขันธ อันเปนที่ตั้งแหงความยึดมั่น คือสังขาร,
ทุติยัมป ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ,
  แมครั้งที่สอง, ขาพเจาขอถือเอาพระธรรม เปนสรณะ,
                                                          วิญญาณูปาทานักขันโธ, ขันธ อันเปนที่ตั้งแหงความยึดมั่น คือวิญญาณ,
ทุติยัมป สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ,                         เยสัง ปะริญญายะ,        เพื่อใหสาวกกําหนดรอบรูอปาทานขันธ เหลานี้เอง,
                                                                                                              ุ
  แมครั้งที่สอง, ขาพเจาขอถือเอาพระสงฆ เปนสรณะ,       ธะระมาโน โส ภะคะวา, จึงพระผูมีพระภาคเจานัน เมือยังทรงพระชนมอยู,
                                                                                                           ้ ่
ตะติยัมป พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ,                         เอวัง พะหุลง สาวะเก วิเนติ,
                                                                     ั
  แมครั้งที่สาม, ขาพเจาขอถือเอาพระพุทธเจา เปนสรณะ,        ยอมทรงแนะนําสาวกทั้งหลาย เชนนี้เปนสวนมาก,
ตะติยัมป ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ,                         เอวังภาคา จะ ปะนัสสะ ภะคะวะโต สาวะเกสุ อะนุสาสะนี พะหุลา
  แมครั้งที่สาม, ขาพเจาขอถือเอาพระธรรม เปนสรณะ,       ปะวัตตะติ,
ตะติยัมป สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ,                              อนึ่ง คําสั่งสอนของพระผูมพระภาคเจานัน, ยอมเปนไปในสาวกทั้งหลาย,
                                                                                         ี             ้
  แมครั้งที่สาม, ขาพเจาขอถือเอาพระสงฆ เปนสรณะ,            สวนมาก, มีสวนคือการจําแนกอยางนี้วา,

                              คูมือพุทธบริษัท                                      บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๑๐                                                                              ๒๗
รูปง อะนิจจัง,                    รูปไมเที่ยง,                                สัพเพป อันตะรายา เม มเหสูง ตัสสะ เตชะสา.
เวทะนา อะนิจจา,                    เวทนาไมเที่ยง,                                  อันตรายทั้งปวง อยาไดมแกขาพเจา ดวยเดชแหงบุญนั้น.
                                                                                                           ี 
                                                                                                            ………………………………………….
สัญญา อะนิจจา,                     สัญญาไมเที่ยง,
                                                                                                             (กราบหมอบลงวา)
สังขารา อะนิจจา,                   สังขารไมเที่ยง,
                                                                                กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
วิญญาณัง อะนิจจัง,                 วิญญาณไมเทียง,
                                                 ่
                                                                                    ดวยกายก็ดี ดวยวาจาก็ดี ดวยใจก็ด,ี
รูปง อะนัตตา,                     รูปไมใชตัวตน,
                                                                                สังเฆ กุกมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
                                                                                         ั
เวทะนา อะนัตตา,                    เวทนาไมใชตัวตน,
                                                                                    กรรมนาติเตียนอันใด ที่ขาพเจากระทําแลว ในพระสงฆ,
สัญญา อะนัตตา,                     สัญญาไมใชตัวตน,
                                                                                สังโฆ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,
สังขารา อะนัตตา,                   สังขารไมใชตัวตน,                               ขอพระสงฆ จงงดซึ่งโทษลวงเกินอันนั้น,
วิญญาณัง อะนัตตา,                  วิญญาณไมใชตัวตน,                           กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ.
สัพเพ สังขารา อะนิจจา,             สังขารทั้งหลายทั้งปวง ไมใชตัวตน ดังนี้,        เพื่อการสํารวมระวัง ในพระสงฆ ในกาลตอไป.
สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ,             ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไมใชตัวตน ดังนี้,
เต(ผูชาย) (ตา(ผูหญิง) มะยัง โอติณณามหะ,                                                             ๙. ปุพพภาคนมการ
                                    พวกเราทั้งหลาย เปนผูถูกครอบงําแลว,      (หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เสฯ)
ชาติยา,                             โดยความเกิด,
ชะรามะระเณนะ,                 โดยความแก และความตาย,                            นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, ขอนอบนอมแดพระผูมีพระภาคเจา พระองคนั้น
โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ,                               อะระหะโต,            ซึ่งเปนผูไกลจากกิเลส,
   โดยความโศก ความร่ําไรรําพัน ความไมสบายกาย ความไมสบายใจ                     สัมมาสัมพุทธัสสะ.    ตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง.
   ความคับแคนใจ ทั้งหลาย,                                                                                         (วา ๓ ครั้ง)


                                คูมือพุทธบริษัท                                                          บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๒๖                                                                         ๑๑
ตะติยานุสสะติฎฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง,                              ทุกโขติณณา,            เปนผูถูกความทุกข หยั่งเอาแลว,
  ขาพเจาไหวพระสงฆหมูนั้น, อันเปนที่ตั้งแหงความระลึก องคที่สาม   ทุกขะปะเรตา,           เปนผูมีความทุกข เปนเบื้องหนาแลว,
  ดวยเศียรเกลา,                                                       อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธสสะ อันตะกิริยา ปญญาเย
สังฆัสสาหัสมิ ทาโส(ผูชาย) ทาสี(ผูหญิง) วะ สังโฆ เม สามิกิส          ถาติ,
สะโร,                                                                        ทําไฉน การทําที่สุดแหงกองทุกขทั้งสิ้นนี้, จะพึงปรากฏชัด แกเราได,
  ขาพเจาเปนทาสของพระสงฆ, พระสงฆเปนนาย มีอิสระเหนือขาพเจา,                                    ……………………………………….

สังโฆ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม,                                                              (ฆราวาสวา)
  พระสงฆเปนเครื่องกําจัดทุกข, และทรงไวซึ่งประโยชน แกขาพเจา,
                                                                        จิระปะรินิพพุตัมป ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา,
สังฆัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง,                                  เราทั้งหลายผูถึงแลวซึ่งพระผูมีพระภาคเจา, แมปรินิพพานนานแลว พระองค
  ขาพเจามอบกายถวายชีวิตนี้ แดพระสงฆ,                                    นั้นเปนสรณะ,
วันทันโตหัง(ผูชาย) วันทันตีหัง(ผูหญิง) จะริสสามิ สังฆัสโสปะฏิ       ธัมมัญจะ สังฆัญจะ,             ถึงพระธรรมดวย, ถึงพระสงฆดวย,
ปนนะตัง,                                                               ตัสสะ ภะคะวะโต            สาสะนัง ยะถาสะติ ยะถาพะลัง มะนะสิกะโรมะ
  ขาพเจาผูไหวอยูจักประพฤติตาม, ซึ่งความปฏิบัติดีของพระสงฆ,
                                                                        อะนุปะฏิปชชามะ,
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง,                            จักทําในใจอยู, ปฏิบัติตามอยู, ซึ่งคําสั่งสอนของพระผูมีพระภาคเจานั้น
  สรณะอื่นของขาพเจาไมมี, พระสงฆเปนสรณะอันประเสริฐของขาพเจา,         ตามสติกําลัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุสาสะเน,                              สา สา โน ปะฏิปตติ, ขอใหความปฏิบัตินั้น ๆ ของเราทั้งหลาย,
  ดวยการกลาวคําสัจจนี้, ขาพเจาพึงเจริญในพระศาสนา ของพระศาสดา,
                                                                        อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยายะ สังวัตตะตุ.
สังฆัง เม วันทะมาเนนะ(ผูชาย) วันทะมานายะ(ผูหญิง) ยัง ปุญญัง              จงเปนไปเพื่อทําที่สุดแหงกองทุกข ทั้งสิ้นนี้ เทอญ.
ปะสุตัง อิธะ,
  ขาพเจาผูไหวอยูซึ่งพระสงฆ, ไดขวนขวายบุญใด ในบัดนี้,


                               คูมือพุทธบริษัท                                                    บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๑๒                                                                              ๒๕
                          (พระภิกษุสามเณรวา)                                  อาหุเนยโย,       เปนสงฆควรแกสักการะที่เขานํามาบูชา,
                                                                               ปาหุเนยโย,       เปนสงฆควรแกสักการะที่เขาจัดไวตอนรับ,
จิ ร ะปะะริ นิ พ พุ ตั ม ป ตั ง ภะคะวั น ตั ง อุ ท ทิ ส สะ อะระหั น ตั ง
                                                                               ทักขิเณยโย,      เปนผูควรรับทักษิณาทาน,
สัมมาสัมพุทธัง,
                                                                               อัญชะลิกะระณีโย, เปนผูที่บุคคลทั่วไปควรทําอัญชลี,
  เราทั้งหลาย อุทิศเฉพาะพระผูมีพระภาคเจา, ผูไกลจากกิเลส, ตรัสรูชอบไดโดย
  พระองคเอง, แมปรินิพพานนานแลว พระองคนั้น,                                 อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสา ติ.
                                                                                   เปนเนื้อนาบุญของโลก, ไมมีนาบุญอื่นยิ่งกวา ดังนี.้
สัทธา อะคารัสมา อะนะคาริยัง ปพพะชิตา,                                                                       …………………………………
  เปนผูศรัทธา ออกบวชจากเรือน, ไมเกี่ยวของดวยเรือนแลว,                                                   ๘. สังฆาภิคีติ
ตัสมิง ภะคะวะติ พรัหมะจะริยัง จะรามะ,
  ประพฤติอยูซึ่งพรหมจรรย, ในพระผูมีพระภาคเจาพระองคนั้น,                                   (หันทะ มะยัง สังฆาภิคติง กะโรมะ เสฯ)
                                                                                                                    ี
ภิกขูนัง สิกขาสาชีวะสะมาปนนา,
                                                                               สัทธัมมะโช สุปะฎิปตติคุณาภิยุตโต,
  ถึงพรอมดวยสิกขาและธรรมเปนเครื่องเลี้ยงชีวิต ของภิกษุทั้งหลาย,
                                                                                   พระสงฆที่เกิดโดยพระสัทธรรม, ประกอบดวยคุณมีความปฏิบัติดีเปนตน,
ตัง โน พรัหมะจะริยัง อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะ
                                                                               โยฏฐัพพิโธ อะริยะปุคคะละสังฆะเสฎโฐ,
กิริยายะสังวัตตะตุ.                                                                เปนหมูแหงพระอริยบุคคลอันประเสริฐ แปดจําพวก,
  ขอใหพรหมจรรยของเราทั้งหลายนั้น, จงเปนไปเพื่อการทําที่สุดแหงกองทุกข
                                                                               สีลาทิธัมมะปะวะราสะยะกายะจิตโต,
  ทั้งสิ้น นี้ เทอญ.
                                                                                   มีกายและจิต อันอาศัยธรรมมีศีลเปนตน อันบวร,
                       ๘.เขมาเขมสรณทีปคาถา                                    วันทามะหัง ตะมะริยานะคะณัง สุสทธัง,
                                                                                                             ุ
      (หันทะ มะยัง เขมาเขมะสะระณะทีปคาถาโย ภะณามะ เส)                             ขาพเจาไหวหมูแหงพระอริยเจาเหลานัน อันบริสุทธิ์ดวยดี,
                                                                                                                         ้

พะหุง เว สะระณัง ยันติ      ปพพะตานิ วะนานิ จะ,                               สังโฆ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง,
                                                                                   พระสงฆ หมูใด เปนสรณะอันเกษมสูงสุด ของสัตวทั้งหลาย,
อารามะรุกขะเจตยานิ          มะนุสสา ภะยะตัชชิตา,

                               คูมือพุทธบริษัท                                                         บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๒๔                                                          ๑๓
ธัมโม ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,                                   มนุษยเปนอันมาก เมื่อเกิดมีภัยคุกคามแลว, ก็ถือเอาภูเขาบาง ปาไมบาง,
   ขอพระธรรม จงงดซึ่งโทษลวงเกินอันนัน,
                                     ้                            อารามและรุกขเจดียบาง เปนสรณะ,
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม.                                เนตัง โข สะระณัง เขมัง                เนตัง สะระณะมุตตะมัง,
   เพื่อการสํารวมระวัง ในพระธรรม ในกาลตอไป.                  เนตัง สะระณะมาคัมมะ                   สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ.
                                      ……………………
                                                                  นั่นมิใชสรณะอันเกษมเลย, นั่นมิใชสรณะอันสูงสุด,
                                 ๗. สังฆานุสสติ                   เขาอาศัยสรณะนั่นแลว ยอมไมพนจากทุกขทั้งปวงได,
           (หันทะ มะยัง สังฆานุสสะตินะยัง กะโรมะ เสฯ)         โย จะ พุทธัญจะ ธัมมัญจะ               สังฆัญจะ สะระณัง คะโต,
สุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,                             จัตตาริ อะริยะสัจจานิ                 สัมมัปปญญายะ ปสสะติ,
   สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจานั้น หมูใด, ปฏิบัติดีแลว,       สวนผูใดถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ เปนสรณะแลว,
อุชุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,                               เห็นอริยสัจจคอ ความจริงอันประเสริฐสี่ ดวยปญญาอันชอบ,
                                                                                ื
   สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปฏิบัติตรงแลว,      ทุกขัง ทุกขะสะมุปปาทัง                ทุกขัสสะ จะ อะติกะมัง
ญายะปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,                           อริยัญจัฏฐังคิกัง มัคคัง              ทุกขูปะสะมะคามินัง,
   สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด,                          คือเห็นความทุกข, เหตุใหเกิดทุกข, ความกาวลวงทุกขเสียได,
   ปฏิบัติเพื่อรูธรรมเปนเครื่องออกจากทุกขแลว,                 และหนทางมีองคแปดอันประเสริฐ, เครื่องถึงความระงับทุกข,
สามีจิปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,                         เอตัง โข สะระณัง เขมัง                เอตัง สะระณะมุตตะมัง,
  สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปฏิบัติสมควรแลว,     เอตัง สะระณะมาคัมมะ                   สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ.
ยะทิทัง,ไดแกบุคคลเหลานีคือ,
                          ้                                       นั่นแหละเปนสรณะอันเกษม, นั่นเปนสรณะอันสูงสุด,
จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา,                         เขาอาศัยสรณะนั่นแลว ยอมพนจากทุกขทงปวงได.
                                                                                                       ั้
   คูแหงบุรุษ ๔ คู, นับเรียงตัวบุรุษได ๘ บุรษ,
                                                ุ
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,                                                  ⌫
   นั่นแหละ สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา ,

                                   คูมือพุทธบริษัท                                    บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
๑๔                                                                          ๒๓
                          ๙. ธัมมคารวาทิคาถา                                 ธัมมัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง,
                                                                               ขาพเจามอบกายถวายชีวิตนี้ แดพระธรรม,
         (หันทะ มะยัง ธัมมะคาระวาทิคาถาโย ภะณามะ เส)                       วันทันโตหัง (ผูชาย) วันทันตีหัง (ผูหญิง) จะริสสามิ ธัมมัสเสวะ
เย จะ อะคีตา สัมพุทธา               เย จะ พุทธา อะนาคะตา,                  สุธัมมะตัง,
                                                                               ขาพเจาผูไหวอยูจักประพฤติตาม, ซึ่งความเปนธรรมดีของพระธรรม,
โย เจตะระหิ สัมพุทโธ                พะหุนนัง โสกะนาสะโน,
  พระพุทธเจาบรรดาที่ลวงไปแลวดวย, ที่ยังไมมาตรัสรูดวย,               นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง,
  และพระพุทธเจาผูขจัดโศกของมหาชนในกาลบัดนี้ ดวย,                            สรณะอื่นของขาพเจาไมมี, พระธรรมเปนสรณะอันประเสริฐของขาพเจา,
สัพเพ สัทธัมมะคะรุโน                วิหะริงสุ วิหาติ จะ,                   เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุสาสะเน,
                                                                               ดวยการกลาวคําสัจจนี้, ขาพเจาพึงเจริญในพระศาสนา ของพระศาสดา,
อะถาป วิหะริสสันติ                 เอสา พุทธานะธัมมะตา,
  พระพุทธเจาทังปวง ทุกพระองค เคารพพระธรรม,
               ้                                                           ธัมมัง เม วันทะมาเนนะ(ผูชาย) วันทามานายะ(ผูหญิง) ยัง ปุญญัง
  ไดเปนมาแลวดวย, กําลังเปนอยูดวย, และจักเปนดวย,
                                                                          ปะสุตัง อิธะ,
  เพราะธรรมดา ของพระพุทธเจาทั้งหลาย, เปนเชนนันเอง,้                         ขาพเจาผูไหวอยูซึ่งพระธรรม, ไดขวนขวายบุญใด ในบัดนี้,
ตัสมา หิ อัตตะกาเมนะ                มะหัตตะมะภิกังขะตา,                    สัพเพป อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา.
สัมธัมโม คะรุกาตัพโพ                สะรัง พุทธานะสาสะนัง,                      อันตรายทั้งปวง อยาไดมแกขาพเจา, ดวยเดชแหงบุญนัน.
                                                                                                      ี                          ้
  เพราะฉะนั้น บุคคลผูรักตน, หวังอยูเฉพาะคุณเบื้องสูง, เมื่อระลึกไดถึง
                                                                                                        (กราบหมอบลงวา)
  คําสั่งสอนของพระพุทธเจาอยู, จงทําความเคารพพระธรรม,
                                                                           กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
นะ หิ ธัมโม อะธัมโม จะ              อุโภ สะมะวิปากิโน,
                                                                               ดวยกายก็ดี ดวยวาจาก็ดี ดวยใจก็ด,ี
  ธรรม และ อธรรม จะมีผลเหมือนกันทั้งสองอยาง หามิได,
                                                                           ธัมเม กุกมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
                                                                                    ั
อะธัมโม นิระยัง เนติ                ธัมโม ปาเปติ สุคะติง.
                                                                               กรรมนาติเตียนอันใด ที่ขาพเจากระทําแลว ในพระธรรม
  อธรรม ยอมนําไปนรก, ธรรม ยอมนําใหถึงสุคติ.

                               คูมือพุทธบริษัท                                                      บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
คู่มือพุทธบริษัทสวดมนต์แปลฉบับเข้าค่าย
คู่มือพุทธบริษัทสวดมนต์แปลฉบับเข้าค่าย
คู่มือพุทธบริษัทสวดมนต์แปลฉบับเข้าค่าย
คู่มือพุทธบริษัทสวดมนต์แปลฉบับเข้าค่าย

More Related Content

What's hot

เพทาย2
เพทาย2เพทาย2
เพทาย2paythai
 
สิทธิพงษ์6 6
สิทธิพงษ์6 6สิทธิพงษ์6 6
สิทธิพงษ์6 6pure2585
 
Tri91 20+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๑
Tri91 20+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๑Tri91 20+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๑
Tri91 20+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๑Tongsamut vorasan
 
พิธีสะเดาะห์เคราะห์2
พิธีสะเดาะห์เคราะห์2พิธีสะเดาะห์เคราะห์2
พิธีสะเดาะห์เคราะห์2Tongsamut vorasan
 
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)Ballista Pg
 
บทสวดมนต์ข้ามปี
บทสวดมนต์ข้ามปีบทสวดมนต์ข้ามปี
บทสวดมนต์ข้ามปีTongsamut vorasan
 
Ebooksint มนต์พิธี
Ebooksint มนต์พิธีEbooksint มนต์พิธี
Ebooksint มนต์พิธีRose Banioki
 
text บทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวร.pdf
text บทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวร.pdftext บทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวร.pdf
text บทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวร.pdfPUise Thitalampoon
 
ราตรี
ราตรีราตรี
ราตรีsunnajung
 
โปรแกรม
โปรแกรมโปรแกรม
โปรแกรมAtinee
 
คู่มือทำวัตรเช้า เย็น แปลไทย
คู่มือทำวัตรเช้า เย็น แปลไทยคู่มือทำวัตรเช้า เย็น แปลไทย
คู่มือทำวัตรเช้า เย็น แปลไทยSarod Paichayonrittha
 
กิจกรรมหน้าเสาธง
กิจกรรมหน้าเสาธงกิจกรรมหน้าเสาธง
กิจกรรมหน้าเสาธงniralai
 
กระทู้ ธรรมศึกษาชั้นเอก
กระทู้ ธรรมศึกษาชั้นเอกกระทู้ ธรรมศึกษาชั้นเอก
กระทู้ ธรรมศึกษาชั้นเอกTheeraphisith Candasaro
 
2 18+ธมฺมปทฏฐกถา+(จตุตฺโถ+ภาโค)
2 18+ธมฺมปทฏฐกถา+(จตุตฺโถ+ภาโค)2 18+ธมฺมปทฏฐกถา+(จตุตฺโถ+ภาโค)
2 18+ธมฺมปทฏฐกถา+(จตุตฺโถ+ภาโค)Tongsamut vorasan
 

What's hot (18)

เพทาย2
เพทาย2เพทาย2
เพทาย2
 
สิทธิพงษ์6 6
สิทธิพงษ์6 6สิทธิพงษ์6 6
สิทธิพงษ์6 6
 
Tri91 20+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๑
Tri91 20+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๑Tri91 20+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๑
Tri91 20+มัชฌิมนิกาย+มัชฌิมปัณณาสก์+เล่ม+๒+ภาค+๑
 
พิธีสะเดาะห์เคราะห์2
พิธีสะเดาะห์เคราะห์2พิธีสะเดาะห์เคราะห์2
พิธีสะเดาะห์เคราะห์2
 
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
สวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๖ (ฉบับ สสส.)
 
บทสวดมนต์ข้ามปี
บทสวดมนต์ข้ามปีบทสวดมนต์ข้ามปี
บทสวดมนต์ข้ามปี
 
Ebooksint มนต์พิธี
Ebooksint มนต์พิธีEbooksint มนต์พิธี
Ebooksint มนต์พิธี
 
สวดมนต์แปล(ตัวใหญ่)
สวดมนต์แปล(ตัวใหญ่)สวดมนต์แปล(ตัวใหญ่)
สวดมนต์แปล(ตัวใหญ่)
 
พุทธธรรม (ฉบับปรับขยาย)
พุทธธรรม (ฉบับปรับขยาย)พุทธธรรม (ฉบับปรับขยาย)
พุทธธรรม (ฉบับปรับขยาย)
 
Aksorn 3
Aksorn 3Aksorn 3
Aksorn 3
 
text บทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวร.pdf
text บทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวร.pdftext บทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวร.pdf
text บทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวร.pdf
 
ราตรี
ราตรีราตรี
ราตรี
 
โปรแกรม
โปรแกรมโปรแกรม
โปรแกรม
 
คู่มือทำวัตรเช้า เย็น แปลไทย
คู่มือทำวัตรเช้า เย็น แปลไทยคู่มือทำวัตรเช้า เย็น แปลไทย
คู่มือทำวัตรเช้า เย็น แปลไทย
 
กิจกรรมหน้าเสาธง
กิจกรรมหน้าเสาธงกิจกรรมหน้าเสาธง
กิจกรรมหน้าเสาธง
 
Voice vacaka
Voice vacakaVoice vacaka
Voice vacaka
 
กระทู้ ธรรมศึกษาชั้นเอก
กระทู้ ธรรมศึกษาชั้นเอกกระทู้ ธรรมศึกษาชั้นเอก
กระทู้ ธรรมศึกษาชั้นเอก
 
2 18+ธมฺมปทฏฐกถา+(จตุตฺโถ+ภาโค)
2 18+ธมฺมปทฏฐกถา+(จตุตฺโถ+ภาโค)2 18+ธมฺมปทฏฐกถา+(จตุตฺโถ+ภาโค)
2 18+ธมฺมปทฏฐกถา+(จตุตฺโถ+ภาโค)
 

Similar to คู่มือพุทธบริษัทสวดมนต์แปลฉบับเข้าค่าย

สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญสวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญPhatphong Mahawattano
 
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์Nhui Srr
 
บทสวด
บทสวดบทสวด
บทสวดsanunya
 
คำขอแก้บน ศีลข้อ ๔ สัจจะอธิษฐาน กับพระพุทธโสธร
คำขอแก้บน ศีลข้อ ๔ สัจจะอธิษฐาน กับพระพุทธโสธรคำขอแก้บน ศีลข้อ ๔ สัจจะอธิษฐาน กับพระพุทธโสธร
คำขอแก้บน ศีลข้อ ๔ สัจจะอธิษฐาน กับพระพุทธโสธรNhui Srr
 
คู่มือการบวช
คู่มือการบวชคู่มือการบวช
คู่มือการบวชniralai
 
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖Tongsamut vorasan
 
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖Wataustin Austin
 
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖Tongsamut vorasan
 
บาลี 36 80
บาลี 36 80บาลี 36 80
บาลี 36 80Rose Banioki
 
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะบทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะอุษณีษ์ ศรีสม
 
2.เพิ่มวินัยที่มาในฯเล่มอื่นภาคผนวกหน้า407 472
2.เพิ่มวินัยที่มาในฯเล่มอื่นภาคผนวกหน้า407 4722.เพิ่มวินัยที่มาในฯเล่มอื่นภาคผนวกหน้า407 472
2.เพิ่มวินัยที่มาในฯเล่มอื่นภาคผนวกหน้า407 472dhammer
 
บทบูชาพระบรมสาริกธาติ
บทบูชาพระบรมสาริกธาติบทบูชาพระบรมสาริกธาติ
บทบูชาพระบรมสาริกธาติPojjanee Paniangvait
 
Tri91 25+สังยุตตนิกาย+สคาถวรรค+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
Tri91 25+สังยุตตนิกาย+สคาถวรรค+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)Tri91 25+สังยุตตนิกาย+สคาถวรรค+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
Tri91 25+สังยุตตนิกาย+สคาถวรรค+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)Tongsamut vorasan
 
บาลี 24 80
บาลี 24 80บาลี 24 80
บาลี 24 80Rose Banioki
 
2 24คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๒
2 24คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๒2 24คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๒
2 24คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๒Tongsamut vorasan
 
2 บทสวดมนต์ - 9 มนต์ เพื่อความก้าวหน้า
2 บทสวดมนต์ - 9 มนต์ เพื่อความก้าวหน้า2 บทสวดมนต์ - 9 มนต์ เพื่อความก้าวหน้า
2 บทสวดมนต์ - 9 มนต์ เพื่อความก้าวหน้าPanuwat Beforetwo
 

Similar to คู่มือพุทธบริษัทสวดมนต์แปลฉบับเข้าค่าย (20)

สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญสวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
สวดมนต์ วัดพระธาตุจอมมอญ
 
คู่มือพุทธบริษัท
คู่มือพุทธบริษัทคู่มือพุทธบริษัท
คู่มือพุทธบริษัท
 
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
 
บทสวด
บทสวดบทสวด
บทสวด
 
ภาค 2
ภาค 2ภาค 2
ภาค 2
 
-------------- --- 1
 -------------- --- 1 -------------- --- 1
-------------- --- 1
 
คำขอแก้บน ศีลข้อ ๔ สัจจะอธิษฐาน กับพระพุทธโสธร
คำขอแก้บน ศีลข้อ ๔ สัจจะอธิษฐาน กับพระพุทธโสธรคำขอแก้บน ศีลข้อ ๔ สัจจะอธิษฐาน กับพระพุทธโสธร
คำขอแก้บน ศีลข้อ ๔ สัจจะอธิษฐาน กับพระพุทธโสธร
 
บทสวดมนต์
บทสวดมนต์บทสวดมนต์
บทสวดมนต์
 
คู่มือการบวช
คู่มือการบวชคู่มือการบวช
คู่มือการบวช
 
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
 
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
 
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
3 36คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๖
 
บาลี 36 80
บาลี 36 80บาลี 36 80
บาลี 36 80
 
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะบทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
 
2.เพิ่มวินัยที่มาในฯเล่มอื่นภาคผนวกหน้า407 472
2.เพิ่มวินัยที่มาในฯเล่มอื่นภาคผนวกหน้า407 4722.เพิ่มวินัยที่มาในฯเล่มอื่นภาคผนวกหน้า407 472
2.เพิ่มวินัยที่มาในฯเล่มอื่นภาคผนวกหน้า407 472
 
บทบูชาพระบรมสาริกธาติ
บทบูชาพระบรมสาริกธาติบทบูชาพระบรมสาริกธาติ
บทบูชาพระบรมสาริกธาติ
 
Tri91 25+สังยุตตนิกาย+สคาถวรรค+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
Tri91 25+สังยุตตนิกาย+สคาถวรรค+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)Tri91 25+สังยุตตนิกาย+สคาถวรรค+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
Tri91 25+สังยุตตนิกาย+สคาถวรรค+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
 
บาลี 24 80
บาลี 24 80บาลี 24 80
บาลี 24 80
 
2 24คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๒
2 24คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๒2 24คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๒
2 24คัณฐีพระธัมมปทัฏฐกถา+ยกศัพท์แปล+ภาค๒
 
2 บทสวดมนต์ - 9 มนต์ เพื่อความก้าวหน้า
2 บทสวดมนต์ - 9 มนต์ เพื่อความก้าวหน้า2 บทสวดมนต์ - 9 มนต์ เพื่อความก้าวหน้า
2 บทสวดมนต์ - 9 มนต์ เพื่อความก้าวหน้า
 

More from niralai

334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10niralai
 
332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชาniralai
 
331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษาniralai
 
338มารยาทไทย
338มารยาทไทย338มารยาทไทย
338มารยาทไทยniralai
 
337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนาniralai
 
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)niralai
 
336เบญจศีล
336เบญจศีล336เบญจศีล
336เบญจศีลniralai
 
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธniralai
 
339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!niralai
 
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทยniralai
 
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศniralai
 
343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูดniralai
 
342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5niralai
 
341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษาniralai
 
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษาniralai
 
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดีniralai
 
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12niralai
 
350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6niralai
 
349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4niralai
 
351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3niralai
 

More from niralai (20)

334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10
 
332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา
 
331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา
 
338มารยาทไทย
338มารยาทไทย338มารยาทไทย
338มารยาทไทย
 
337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา
 
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
 
336เบญจศีล
336เบญจศีล336เบญจศีล
336เบญจศีล
 
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
 
339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!
 
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
 
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
 
343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด
 
342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5
 
341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา
 
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
 
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
 
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
 
350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6
 
349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4
 
351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3
 

คู่มือพุทธบริษัทสวดมนต์แปลฉบับเข้าค่าย

  • 1.     จัดพิมพโดย    ⌫   ⌫  ⌫ 
  • 2.  ⌫   ⌫    ⌫    ⌦      ⌫⌫  ⌫   ⌦     ⌫  ⌫ ⌫⌫ ⌫ 
  • 3. ๓๗  เย จาเนเก ปะมาเทนะ, มิใชนอยเพราะเผลอผลัน,  กายะวาจามะเนเหวะ, ทางกายาวาจาจิต,       ปุญญัง เม อะนุโมทันตุ, จงอนุโมทนากุศล,   คัณหันตุ ผะละมุตตะมัง, ถือเอาผลอันอุกฤษฏ,     เวรา โน เจ ปะมุญจันตุ, ถามีเวรจงเปลืองปลิด, ้     สัพพะโทสัง ขะมันตุ เม. อดโทษขาทั่วหนาเทอญ.     ๑๖. คํากรวดน้ํายอ ⌫⌫        อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย     ขอผลบุญนี้จงสําเร็จแกญาติทั้งหลายของขาพเจา ขอญาติทั้งหลายของ       ขาพเจาจงเปนสุขเถิด       ๑๗. บทแผเมตตา       สัพเพ สัตตา, สัตวทั้งหลายที่เปนเพื่อนทุกข, เกิด แก เจ็บ ตาย,     ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น,         อะเวรา โหนตุ, จงเปนสุขเปนสุขเถิด, อยาไดมีเวรซึ่งกันและกันเลย,     อัพยาปชฌา โหนตุ,จงเปนสุขเปนสุขเถิด, อยาไดเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย,     อะนีฆา โหนตุ, จงเปนสุขเปนสุขเถิด, อยาไดมความทุกขกายทุกขใจเลย, ี         สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ.จงมีความสุขกายสุขใจ,รักษาตนใหพนจากทุกขภย  ั     ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เทอญ.         คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 4. ๓๖ ๑ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง, ตัวตัณหาอุปาทาน, คําทําวัตรเชา เย สันตาเน หินา ธัมมา, สิ่งชั่วในดวงใจ, ยาวะ นิพพานะโต มะมัง, กวาเราจะถึงนิพพาน, ๑. คําบูชาพระรัตนตรัย นัสสันตุ สัพพะทา เยวะ, มลายสิ้นจากสันดาน, ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว, ทุก ๆ ภพที่เราเกิด, อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, อุชุจิตตัง สะติปญญา, มีจิตตรงและสติ, ทั้งปญญาอันประเสริฐ, พระผูมีพระภาคเจา, เปนพระอรหันต, ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกขสิ้นเชิง, สัลเลโข วิรยัมหินา, ิ พรอมทั้งความเพียรเลิศ, เปนเครื่องขูดกิเลสหาย, ตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง, มารา ละภันตุ โนกาสัง, โอกาสอยาพึงมี, แกหมูมารสิ้นทั้งหลาย, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ, ขาพเจาอภิวาทพระผูมีพระภาคเจา, ผูรู ผูตื่น ผูเบิกบาน, (กราบ) กาตุญจะ วิริเยสุ เม, เปนชองประทุษราย, ทําลายลางความเพียรจม, สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, พุทธาทิปะวะโร นาโถ, พระพุทธผูบวรนาถ, พระธรรม เปนธรรมที่พระผูมีพระภาคเจา, ตรัสไวดีแลว ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม, พระธรรมที่พึ่งอุดม, ธัมมัง นะมัสสามิ. นาโถ ปจเจกะพุทโธ จะ, พระปจเจกะพุทธะ- ขาพเจานมัสการพระธรรม (กราบ) สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง, สมทบพระสงฆที่พึ่งผยอง, สุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, เตโสตตะมานุภาเวนะ, ดวยอานุภาพนั้น, พระสงฆสาวกของพระผูมพระภาคเจา, ปฏิบัติดีแลว, ี มาโรกาสัง ละภันตุ มา, ขอหมูมารอยาไดชอง, สังฆัง นะมามิ. ทะสะปุญญานุภาเวนะ, ดวยเดชบุญทั้งสิบปอง, ขาพเจานอบนอมพระสงฆ. (กราบ) มาโรกาสัง ละภันตุ มาฯ อยาเปดโอกาสแกมาร เทอญฯ …….. …….. …….. …….. เย เกจิ ขุททะกา ปาณา, สัตวเล็กทั้งหลายใด, มะหันตาป มะยา หะตา, ทั้งสัตวใหญเราห้ําหั่น, คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 5. ๓๕ ๒. ปุพพภาคนมการ ๑๕. กรวดน้ําตอนเย็น (อุททิสสนาธิฏฐานคาถา) (หันทะ มะยัง อุททิสสะนาธิฏฐานะคาถาโย ภะณามะ เสฯ) (หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เสฯ) อิมินา ปุญญะกัมเมนะ, ดวยบุญนี้อุทิศให, นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, ขอนอบนอมแดพระผูมีพระภาคเจาพระองคนั้น, อุปชฌายา คุณุตตะรา, อุปชฌายผูเลิศคุณ, อะระหะโต, ซึ่งเปนผูไกลจากกิเลส, อาจะริยูปะการา จะ, แลอาจารยผูเกือหนุน, ้ สัมมาสัมพุทธัสสะ. ตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง. มาตา ปตา จะ ญาตะกา, ทั้งพอแมและปวงญาติ, (วา ๓ ครั้ง) สุริโย จันทิมา ราชา, สูรยจันทรแลราชา, …….. …….. …….. …….. คุณะวันตา นะราป จะ, ผูทรงคุณหรือสูงชาติ, ๓. พุทธาภิถุติ. พรัหมะมารา จะ อินทา จะ, พรหมมารและอินทราช, (หันทะ มะยัง พุทธาภิถุติง กะโรมะ เสฯ) โลกะปาลา จะ เทวะตา, ทั้งทวยเทพและโลกบาล, ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ, ยมราชมนุษยมิตร, โย โส ตะถาคะโต, พระตถาคตเจานั้น พระองคใด, มัชฌัตตา เวริกาป จะ, ผูเปนกลางผูจองผลาญ, อะระหัง, เปนผูไกลจากกิเลส, สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ, ขอใหเปนสุขศานติ์, ทุกทั่วหนาอยาทุกขทน, สัมมาสัมพุทโธ, เปนผูตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง, ปุญญานิ ปะกะตานิ เม, บุญผองที่ขาทํา, จงชวยอํานวยศุภผล, วิชชาจะระณะสัมปนโน, เปนผูถึงพรอมดวยวิชชาและจรณะ, สุขัง จะ ติวธัง เทนตุ, ิ ใหสุขสามอยางลน, สุคะโต, เปนผูไปแลวดวยดี, ขิปปง ปาเปถะ โวมะตัง, ใหลุถึงนิพพานพลัน, โลกะวิทู, เปนผูรูโลกอยางแจมแจง, อิมินา ปุญญะกัมเมนะ, ดวยบุญนี้ที่เราทํา, อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ, เปนผูสามารถฝกบุรุษที่สมควรฝกได อิมินา อุททิเสนะ จะ, แลอุทิศใหปวงสัตว, อยางไมมีใครยิ่งกวา, ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ, เราพลันไดซึ่งการตัด, สัตถา เทวะมะนุสสานัง, เปนครูผูสอนของเทวดาและมนุษยทั้งหลาย, คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 6. ๓๔ ๓ 5.สุญญตาพุทโธ…ทั้งเนื้อทั้งตัว, ทั้งผลงานที่ทําไปแลวทั้งหมดทั้งสิน, เรา ้ พุทโธ, เปนผูรู ผูตื่น ผูเบิกบานดวยธรรม, ขอยกใหพระธรรมทั้งหมด, เราจะไมหวังที่จะเอาอะไร, เราจะไมหวังที่จะเปนอะไร ภะคะวา, เปนผูมีความจําเริญ จําแนกธรรมสั่งสอนสัตว, , ไมวาในโลกนี้หรือโลกไหนๆ, โดยประการทั้งปวง, เพราะทุกสิ่งทุกอยางเปนของ โย อิมัง โลกัง สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพรัหมะกัง, พระธรรมสุญญตา, สัสสะมะณะพราหมะณิง ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง สะยัง อะภิญญา, (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โลภะ โทสะ โมหะ) สัจฉิกัตวา ปะเวเทสิ, พระผูมีพระภาคเจาพระองคใด, ไดทรงทําความดับ 6.สุญญตาพุทโธ…ทุก ๆชีวิต ตางก็มีความทุกขอยูแลว, เราคนหนึ่งจะไม ทุกขใหแจงดวยพระปญญาอันยิ่งเองแลว, ทรงสอนโลกนี้พรอมทั้งเทวดา, เพิ่มทุกขเพิ่มโทษ, ใหแกทุก ๆชีวิต, ถึงแมวาเขาจะดานินทา ใสรายทุบตี, หรือโดย มาร พรหม, และหมูสัตว พรอมทั้งสมณพราหมณ, พรอมทั้งเทวดาและมนุษย ที่สุดฆาเราใหตายก็เชิญเถิด, เราจะไมทําตอบ, เพราะการทําตอบเลวสองเทา, ใหรูตาม, พระพุทธเจาตรัสไว, บุญกุศลใด ๆ, ที่ขาพเจาไดกระทําใหเกิดขึ้นแลว,ขอบุญกุศล โย ธัมมัง เทเสสิ, พระผูมีพระภาคเจาพระองคใด,ทรงแสดงธรรมแลว นั้น ๆ, จงถึงแกทุกๆชีวิต, ทั้งที่ตายไปแลวดวย, ทั้งที่มีชีวิตอยูเดี๋ยวนีดวย, ขอใหมี ้ ความสุข, แลวพนจากทุกขทงปวง, เขาสูพระนิพพานโดยเร็วพลันเทอญ. ั้ อาทิกัลยาณัง, ไพเราะในเบื้องตน, (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โทสะ) มัชเฌกัลยาณัง, ไพเราะในทามกลาง, 7.สุญญตาพุทโธ…ตอไปนี้, ขาพเจาตองเชื่อฟง, ตองขยัน ตองไมดอ, ตอ ื้ ปะริโยสานะกัลยาณัง, ไพเราะในที่สด, ุ พระธรรมอีกตอไป, สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พรัหมมะจะริยง ั (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โลภะ โทสะ โมหะ) ประกาเสสิ, ทรงประกาศพรหมจรรย, คือแบบแหงการปฏิบัติอันประเสริฐ, 8.สุญญตาพุทโธ…ทําหนาที่ไมหวังอะไร, ไมเปนอะไร, สะอาด สวาง บริสุทธิ์ บริบูรณ สิ้นเชิง, พรอมทั้งอรรถะ(คําอธิบาย), พรอมทั้งพยัญชนะ(หัวขอ) สงบ, ใจอยูกับนิพพาน, เพราะไมมีเรา, มีแตอนิจจังทุกขังอนัตตา, ที่เกิดดับถี่ยิบ, ไม ตะมะหัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ, มีเบื้องตน ไมมีที่สุด, ขาพเจาบูชาอยางยิ่ง เฉพาะพระผูมีพระภาคเจาพระองคนน, ั้ (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โลภะ โทสะ โมหะ) ตะมะหัง ภะคะวันตัง สิระสา นะมามิ. หมายเหตุ บทสวดภาวนาสุญญตาพุทโธนี้ใชไดทั้งกันและแกกิเลสทังปวง ตองทํา ้ ขาพเจานอบนอมพระผูมีพระภาคเจาพระองคนั้น ดวยเศียรเกลา. ใหมาก เจริญใหมาก เชาเย็นกอนเขานอน ทําจนเกิดความชํานาญจริง ๆจึงจะไดผล (กราบระลึกถึงพระพุทธคุณ) คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 7. ๓๓ ๔. ธัมมาภิถุติ ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในครูอุปชฌายอาจารย  (กราบ) ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในทุกสิ่งทุกอยาง (กราบ) (หันทะ มะยัง ธัมมาภิถุติง กะโรมะ เสฯ) 1.สุญญตาพุทโธ…ดีเหลือเกินวันนี,้ เรายังมีชีวิตอยู, เราจะทําหนาทีของ่ ความเปนมนุษย, ใหดีที่สุด, จนสุดความสามารถในทุก ๆ กรณี, แตเราจะไมหวัง โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, อะไรจากใคร ๆ, โดยที่สุดแมแตคําวา “ขอบใจ”, เพราะอํานาจอยูที่พระธรรม, พระธรรมนั้นใด, เปนสิ่งที่พระผูมีพระภาคเจาไดตรัสไวดแลวเปนตน,  ี (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โลภะ) สันทิฏฐิโก, เปนสิ่งที่ผูศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นไดดวยตนเอง,  2.สุญญตาพุทโธ…ชีวิตของเรานี้, ตองแก ตองเจ็บ ตองตาย แนนอน, จะ อะกาลิโก, เปนสิ่งที่ปฏิบัติได และใหผลไดไมจํากัดกาล, แกแบบไหน, จะเจ็บแบบไหน, เวลาไหน ตรงไหน, มาเถิดเราพรอมแลว, ถึง เอหิปสสิโก, เปนสิ่งที่ควรกลาวกะผูอื่นวา ทานจงมาดูเถิด, อยางไรเราจะไมเปนทุกข, เพราะไมใชของเรา, แตเปนของพระธรรม, โอปะนะยิโก, เปนสิ่งที่ควรนอมเขามาใสตัว, (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โมหะ) ปจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญูหิ, เปนสิ่งที่ผูรูก็รูไดเฉพาะตน, 3.สุญญตาพุทโธ…ญาติทั้งหลาย, มีมารดาบิดาเปนตน, ตลอดถึงทรัพย ตะมะหัง ธัมมัง อะภิปชะยามิ, ขาพเจาบูชาอยางยิ่ง เฉพาะพระธรรมนั้น, ู สมบัติทั้งหมดทั้งสิ้น, ตองพลัดพราก, ลมหายตายจากกันไปอยางแนนอน ไมวันใด ก็วันหนึ่ง, ถึงเปนเชนนันเราจะไมเปนทุกข, เพราะไมใชของเรา, แตเปนของพระ ้ ตะมะหัง ธัมมัง สิระสา นะมามิ. ธรรม, ขาพเจานอบนอมพระธรรมนั้น ดวยเศียรเกลา. (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โมหะ) (กราบระลึกถึงพระธรรมคุณ) 4.สุญญตาพุทโธ…ไมวาเราจะทําอะไรลงไปก็ตาม, คนทั้งหลายตอง, รูสึกกับเราอยางนอย 3 ประเภท, คือเขาวาเราดีบาง, เขาวาเราไมดีบาง, เขาไมสนใจ กับเราเลยบาง, เราจะไมคานไมเถียง, และไมหวันไหว, โดยประการทังปวง, ถาเขา ่ ้     วาเราดีก็ถูกของเขา, เขาวาเราไมดีก็ถูกของเขา, เขาไมสนใจเราเลยก็ถูกของเขา,   อยางนั้นเอง, เราจะไมเปนทุกข, เพราะธรรมะใครทําใครได, (ขอนี้เปนวิธีปฏิบัติธรรมทั้งกันทั้งแก โลภะ โทสะ โมหะ) คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 8. ๓๒ ๕ ชีวิตัง เม อะนิยะตัง, ชีวิตของเรา เปนของไมเที่ยง, ๕. สังฆาภิถุติ มะระณัง เม นิยะตัง, ความตายของเรา เปนของเที่ยง, (หันทะ มะยัง ธัมมาภิถุติ กะโรมะ เสฯ) วะตะ, ควรที่จะสังเวช, โย โส สุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อะยัง กาโย, รางกายนี,้ สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปฏิบัติดีแลว, อะจิรัง, มิไดตั้งอยูนาน,  อุชุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อะเปตะวิญญาโณ, ครั้นปราศจากวิญญาณ, สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปฏิบัติตรงแลว, ฉุทโฑ, อันเขาทิ้งเสียแลว, ญายะปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อะธิเสสสะติ, จักนอนทับ, สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปะฐะวิง, ซึ่งแผนดิน, ปฏิบัติเพื่อรูธรรมเปนเครื่องออกจากทุกขแลว, กะลิงคะรัง อิวะ, ประดุจวาทอนไมและทอนฟน, สามีจิปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, นิรัตถัง. หาประโยชนมิได. สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปฏิบัติสมควรแลว, ยะทิทัง, ๑๔. บทสวดภาวนาสุญญตาพุทโธ ไดแกบุคคลเหลานี้คือ, จัตตาริ ปุรสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา, ิ (สัมมาทิฎฐิปฏิบัติธรรม) คูแหงบุรุษ ๔ คู, นับเรียงตัวบุรุษ ได ๘ บุรษ, ุ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ(วา 3 หน) เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในพระพุทธเจา (กราบ) นั่นแหละ สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา , ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในพระธรรม (กราบ) อาหุเนยโย, เปนสงฆควรแกสักการระที่เขานํามาบูชา, ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในพระสงฆ (กราบ) ปาหุเนยโย, เปนสงฆควรแกสักการระที่เขาจัดไวตอนรับ, ขาพเจาเคารพพระธรรม ที่มีอยูในพระมารดาพระบิดา (กราบ) ทักขิเนยโย, เปนผูควรรับทักษิณาทาน, คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 9. ๓๑ อัญชะลิกะระณีโย, เปนผูที่บุคคลทั่วไปควรทําอัญชลี, มัตตัญุตา จะ ภัตตัสมิง, ความเปนผูรูประมาณในการบริโภค, อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ, ปนตัญจะ สะยะนาสะนัง, การนอน การนั่ง ในที่อันสงัด, เปนเนื้อนาบุญของโลก, ไมมีนาบุญอื่นยิ่งกวา, อะธิจิตเต จะ อาโยโค, ความหมั่นประกอบในการทําจิตใหยิ่ง, ตะมะหัง สังฆัง อะภิปชะยามิ, ู เอตัง พุทธานะสาสะนัง, ธรรม ๖ อยางนี้ เปนคําสั่งสอนของพระพุทธเจา ขาพเจาบูชาอยางยิ่ง เฉพาะพระสงฆหมูนั้น, ทั้งหลาย. ตะมะหัง สังฆัง สิระสา นะมามิ, ขาพเจานอบนอมพระสงฆหมูนั้น ดวยเศียรเกลา, ๑๓. บทพิจารณาสังขาร (กราบระลึกถึงพระธรรมคุณ) สัพเพ สังขารา อะนิจจา, ………………………………………………………. สังขารคือรางกาย จิตใจ, แลรูปธรรม นามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น, ๖.รตนัตตยัปปณามคาถา มันไมเที่ยง, เกิดขึ้นแลวดับไป มีแลวหายไป, สัพเพ สังขารา ทุกขา,, (หันทะ มะยัง ระตะนัตตะยัปปะณามะคาถาโย เจวะ สังขารคือรางกาย จิตใจ, แลรูปธรรม นามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น, สังเวคะปะริกิตตนะปาฐัญจะ ภะณามะ เสฯ) มันเปนทุกขทนยาก, เพราะเกิดขึ้นแลว, แก เจ็บ ตายไป, พุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหัณณะโว, สัพเพ ธัมมา อะนัตตา, พระพุทธเจาผูบริสุทธิ์ มีพระกรุณาดุจหวงมหรรณพ,  สิ่งทั้งหลายทั้งปวง, ทั้งที่เปนสังขาร แลมิใชสังขาร ทั้งหมดทั้งสิ้น, โยจจันตะสุทธัพพะระญาณะโลจะโน, ไมใชตัวไมใชตน ไมควรถือวาเรา วาของเรา วาตัววาตนของเรา, พระองคใด มีตาคือญาณอันประเสริฐหมดจดถึงที่สุด, อะธุวัง ชิวิตง, ั ชีวิตเปนของไมยั่งยืน, โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะฆาตะโก, ธุวัง มะระณัง, ความตายเปนของยั่งยืน, เปนผูฆาเสียซึ่งบาป และอุปกิเลสของโลก, อะวัสสัง มะยามะริตัพพัง, อันเราจะพึ่งตายเปนแท, วันทามิ พุทธัง อะหะมาทะเรนะ ตัง, มะระณะปะริโยสานัง ชีวิตของเรา มีความตายเปนที่สุดรอบ, ขาพเจาไหวพระพุทธเจาพระองคนั้น โดยใจเคารพเอื้อเฟอ, คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 10. ๓๐ ๗ อุจจาสะยะนะ มะหาสะยะนา เวรมะณี, ธัมโม ปะทีโป วิยะ ตัสสะ สัตถุโน, เจตนาเปนเครื่องเวนจากการนอนบนที่นอนสูง และที่นอนใหญ. พระธรรมของพระศาสดา สวางรุงเรืองเปรียบดวงประทีป, โย มัคคะปากามะตะเภทะภินทะโก, ๑๒. โอวาทปาติโมกขคาถา จําแนกประเภท คือ มรรค ผล นิพพาน, สวนใด, โลกุตตะโร โย จะ ตะทัตถะทีปะโน, (หันทะ มะยัง โอวาทะปาติโมกขะคาถาโย ภะณามะ เส) ซึ่งเปนตัวโลกุตตระ, และสวนใดที่ชี้แนวแหงโลกุตตระนั้น, สัพพะปาปสสะ อะกะระณัง, การไมทําบาปทั้งปวง, วันทามิ ธัมมัง อะหะมาทะเรนะ ตัง, กุสะลัสสูปะสัมปะทา, การทํากุศลใหถึงพรอม, ขาพเจาไหวพระธรรมนั้น โดยใจเคารพเอือเฟอ, ้ สะจิตตะปะริโยทะปะนัง, การชําระจิตของตนใหขาวรอบ, สังโฆ สุเขตตาภะยะติเขตตะสัญญิโต, เอตัง พุทธานะสาสะนัง,ธรรม ๓ อยางนี้ เปนคําสั่งสอนของพระพุทธเจาทั้งหลาย, พระสงฆเปนนาบุญอันยิ่งใหญกวานาบุญอันดีทั้งหลาย, ขันติ ปะระมัง ตะโป ตีติกขา, โย ทิฏฐะสันโต สุคะตานุโพธะโก, ขันตี คือความอดกลั้น เปนธรรมเครื่องเผากิเลสอยางยิ่ง, เปนผูเห็นพระนิพพาน, ตรัสรูตามพระสุคต, หมูใด, นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา, โลลัปปะหีโน อะริโย สุเมธะโส, ผูรูทั้งหลาย กลาวพระนิพพานวาเปนธรรมอันยิ่ง, เปนผูละกิเลสเครื่องโลเล เปนพระอริยเจา มีปญญาดี, นะ หิ ปพพะชิโต ปะรูปะฆาตี, วันทามิ สังฆัง อะหะมาทะเรนะ ตัง, ผูกําจัดสัตวอนอยู ไมชื่อวาเปนบรรพชิตเลย, ื่ ขาพเจาไหวพระสงฆหมูนั้น โดยใจเคารพเอื้อเฟอ, สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต, อิจเจวะเมกันตะภิปูชะเนยยะกัง, วัตถุตตะยัง วันทะยะตาภิสังขะตัง, ผูทําสัตวอื่นใหลําบากอยู ไมชื่อวาเปนสมณะเลย, ปุญญัง มะยา ยัง มะมะ สัพพุปททะวา, มาโหนตุ เว ตัสสะ ปะภาวะ อะนูปะวาโท อะนูปะฆาโต, สิทธิยา. บุญใด ที่ขาพเจาผูไหวอยูซึ่งวัตถุสาม, คือพระรัตนตรัย อันควรบูชายิ่งโดย การไมพูดราย, การไมทําราย สวนเดียว, ไดกระทําแลวเปนอยางยิ่งเชนนี้น,ี้ ขออุปทวะ(ความชั่ว)ทั้งหลาย, จงอยา ปาติโมกเข จะ สังวะโร, การสํารวมในปาติโมกข, มีแกขาพเจาเลย, ดวยอํานาจความสําเร็จอันเกิดจากบุญนั้น. คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 11. ๒๙ ๗. สังเวคปริกิตตนปาฐะ ๑๑. อัฏฐสิกขาปทปาฐะ อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปนโน, พระตถาคตเจาเกิดขึ้นแลว ในโลกนี้, (หันทะ มะยัง อัฏฐะสิกขาปาทะปาฐัง ภะณามะ เส) อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, ปาณาติปาตา เวระมะณี, เปนผูไกลจากกิเลส, ตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง, เจตนาเปนเครื่องเวนจากการฆา, ธัมโม จะ เทสิโต นิยยานิโก, อะทินทานา เวระมะณี, และพระธรรมที่ทรงแสดง เปนธรรมเครื่องออกจากทุกข, เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การถือเอาสิ่งของที่เจาของไมไดใหแลว, อุปะสะมิโก ปะรินิพพานิโก, อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี, เปนเครื่องสงบกิเลส, เปนไปเพื่อปรินิพพาน, เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การกระทําอันมิใชพรหมจรรย, สัมโพธะคามี สุคะตัปปะเวทิโต, มุสาวาทา เวระมะณี, เปนไปเพื่อความรูพรอม, เปนธรรมที่พระสุคตประกาศ, เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การพูดไมจริง, มะยันตัง ธัมมัง สุตวา เอวัง ชานามะ, สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี, พวกเราเมื่อไดฟงธรรมนั้นแลว, จึงไดรูอยางนี้วา, เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การเสพของเมา, มีสุราและเมรัยเปนตน, ชาติป ทุกขา, แมความเกิดก็เปนทุกข, อันเปนที่ตั้งของความประมาท, ชะราป ทุกขา, แมความแกก็เปนทุกข, วิกาละโภชะนา เวระมะณี, มะระณัมป ทุกขัง, แมความตายก็เปนทุกข, เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การบริโภคอาหารในยามวิกาล, โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาป ทุกขา, นัจจะ คีตะ วาทิตะ วิสูกะ ทัสสะนา, มาลา คันธะวิเลปะนะ ธา แมความโศก ความร่ําไรรําพัน ความไมสบายกาย ความไมสบายใจ ระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี, ความคับแคนใจ ก็เปนทุกข, เจตนาเปนเครื่องเวนจาก การฟอนรํา, การขับเพลง, การดนตรี, การดูการเลน อัปปเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข, ชนิดที่เปนขาศึกตอกุศล, การทรัดทรงสวมใส, การประดับ การตกแตงตน, ความประสบกับสิ่งไมเปนที่รักที่พอใจก็เปนทุกข, ดวยพวงมาลาเครองกลน และเครองผดทา,  ื่ ิ่ ื่ ั คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 12. ๒๘ ๙ ๑๐. สรณคมนปาฐะ ปเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข, ความพลัดพรากจากสิ่งเปนที่รักที่พอใจ ก็เปนทุกข, (หันทะ มะยัง ติสะระณะคะมะนะปาฐัง ภะณามะ เส) ยัมปจฉัง นะ ละภะติ ตัมป ทุกขัง, พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ, มีความปรารถนาสิ่งใด ไมไดสิ่งนั้น นั่นก็เปนทุกข, ขาพเจาขอถือเอาพระพุทธเจา เปนสรณะ, สังขิตเตนะ ปญจุปาทานักขันธา ทุกขา, ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, วาโดยยอ อุปาทานขันธทั้ง ๕ เปนตัวทุกข, ขาพเจาขอถือเอาพระธรรม เปนสรณะ, เสยยะถีทัง, ไดแกสิ่งเหลานี้ คือ, สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ, รูปูปาทานักขันโธ, ขันธ อันเปนที่ตั้งแหงความยึดมั่น คือรูป, ขาพเจาขอถือเอาพระสงฆ เปนสรณะ, เวทะนูปาทานักขันโธ, ขันธ อันเปนที่ตั้งแหงความยึดมั่น คือเวทนา, ทุติยัมป พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ, สัญูปาทานักขันโธ, ขันธ อันเปนที่ตั้งแหงความยึดมั่น คือสัญญา, แมครั้งที่สอง, ขาพเจาขอถือเอาพระพุทธเจา เปนสรณะ, สังขารูปาทานักขันโธ, ขันธ อันเปนที่ตั้งแหงความยึดมั่น คือสังขาร, ทุติยัมป ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, แมครั้งที่สอง, ขาพเจาขอถือเอาพระธรรม เปนสรณะ, วิญญาณูปาทานักขันโธ, ขันธ อันเปนที่ตั้งแหงความยึดมั่น คือวิญญาณ, ทุติยัมป สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ, เยสัง ปะริญญายะ, เพื่อใหสาวกกําหนดรอบรูอปาทานขันธ เหลานี้เอง, ุ แมครั้งที่สอง, ขาพเจาขอถือเอาพระสงฆ เปนสรณะ, ธะระมาโน โส ภะคะวา, จึงพระผูมีพระภาคเจานัน เมือยังทรงพระชนมอยู, ้ ่ ตะติยัมป พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ, เอวัง พะหุลง สาวะเก วิเนติ, ั แมครั้งที่สาม, ขาพเจาขอถือเอาพระพุทธเจา เปนสรณะ, ยอมทรงแนะนําสาวกทั้งหลาย เชนนี้เปนสวนมาก, ตะติยัมป ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, เอวังภาคา จะ ปะนัสสะ ภะคะวะโต สาวะเกสุ อะนุสาสะนี พะหุลา แมครั้งที่สาม, ขาพเจาขอถือเอาพระธรรม เปนสรณะ, ปะวัตตะติ, ตะติยัมป สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ, อนึ่ง คําสั่งสอนของพระผูมพระภาคเจานัน, ยอมเปนไปในสาวกทั้งหลาย, ี ้ แมครั้งที่สาม, ขาพเจาขอถือเอาพระสงฆ เปนสรณะ, สวนมาก, มีสวนคือการจําแนกอยางนี้วา, คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 13. ๑๐ ๒๗ รูปง อะนิจจัง, รูปไมเที่ยง, สัพเพป อันตะรายา เม มเหสูง ตัสสะ เตชะสา. เวทะนา อะนิจจา, เวทนาไมเที่ยง, อันตรายทั้งปวง อยาไดมแกขาพเจา ดวยเดชแหงบุญนั้น. ี  …………………………………………. สัญญา อะนิจจา, สัญญาไมเที่ยง, (กราบหมอบลงวา) สังขารา อะนิจจา, สังขารไมเที่ยง, กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, วิญญาณัง อะนิจจัง, วิญญาณไมเทียง, ่ ดวยกายก็ดี ดวยวาจาก็ดี ดวยใจก็ด,ี รูปง อะนัตตา, รูปไมใชตัวตน, สังเฆ กุกมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, ั เวทะนา อะนัตตา, เวทนาไมใชตัวตน, กรรมนาติเตียนอันใด ที่ขาพเจากระทําแลว ในพระสงฆ, สัญญา อะนัตตา, สัญญาไมใชตัวตน, สังโฆ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง, สังขารา อะนัตตา, สังขารไมใชตัวตน, ขอพระสงฆ จงงดซึ่งโทษลวงเกินอันนั้น, วิญญาณัง อะนัตตา, วิญญาณไมใชตัวตน, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ. สัพเพ สังขารา อะนิจจา, สังขารทั้งหลายทั้งปวง ไมใชตัวตน ดังนี้, เพื่อการสํารวมระวัง ในพระสงฆ ในกาลตอไป. สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ, ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไมใชตัวตน ดังนี้, เต(ผูชาย) (ตา(ผูหญิง) มะยัง โอติณณามหะ, ๙. ปุพพภาคนมการ พวกเราทั้งหลาย เปนผูถูกครอบงําแลว, (หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เสฯ) ชาติยา, โดยความเกิด, ชะรามะระเณนะ, โดยความแก และความตาย, นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, ขอนอบนอมแดพระผูมีพระภาคเจา พระองคนั้น โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ, อะระหะโต, ซึ่งเปนผูไกลจากกิเลส, โดยความโศก ความร่ําไรรําพัน ความไมสบายกาย ความไมสบายใจ สัมมาสัมพุทธัสสะ. ตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง. ความคับแคนใจ ทั้งหลาย, (วา ๓ ครั้ง) คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 14. ๒๖ ๑๑ ตะติยานุสสะติฎฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง, ทุกโขติณณา, เปนผูถูกความทุกข หยั่งเอาแลว, ขาพเจาไหวพระสงฆหมูนั้น, อันเปนที่ตั้งแหงความระลึก องคที่สาม ทุกขะปะเรตา, เปนผูมีความทุกข เปนเบื้องหนาแลว, ดวยเศียรเกลา, อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธสสะ อันตะกิริยา ปญญาเย สังฆัสสาหัสมิ ทาโส(ผูชาย) ทาสี(ผูหญิง) วะ สังโฆ เม สามิกิส ถาติ, สะโร, ทําไฉน การทําที่สุดแหงกองทุกขทั้งสิ้นนี้, จะพึงปรากฏชัด แกเราได, ขาพเจาเปนทาสของพระสงฆ, พระสงฆเปนนาย มีอิสระเหนือขาพเจา, ………………………………………. สังโฆ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม, (ฆราวาสวา) พระสงฆเปนเครื่องกําจัดทุกข, และทรงไวซึ่งประโยชน แกขาพเจา, จิระปะรินิพพุตัมป ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา, สังฆัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง, เราทั้งหลายผูถึงแลวซึ่งพระผูมีพระภาคเจา, แมปรินิพพานนานแลว พระองค ขาพเจามอบกายถวายชีวิตนี้ แดพระสงฆ, นั้นเปนสรณะ, วันทันโตหัง(ผูชาย) วันทันตีหัง(ผูหญิง) จะริสสามิ สังฆัสโสปะฏิ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ, ถึงพระธรรมดวย, ถึงพระสงฆดวย, ปนนะตัง, ตัสสะ ภะคะวะโต สาสะนัง ยะถาสะติ ยะถาพะลัง มะนะสิกะโรมะ ขาพเจาผูไหวอยูจักประพฤติตาม, ซึ่งความปฏิบัติดีของพระสงฆ, อะนุปะฏิปชชามะ, นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง, จักทําในใจอยู, ปฏิบัติตามอยู, ซึ่งคําสั่งสอนของพระผูมีพระภาคเจานั้น สรณะอื่นของขาพเจาไมมี, พระสงฆเปนสรณะอันประเสริฐของขาพเจา, ตามสติกําลัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุสาสะเน, สา สา โน ปะฏิปตติ, ขอใหความปฏิบัตินั้น ๆ ของเราทั้งหลาย, ดวยการกลาวคําสัจจนี้, ขาพเจาพึงเจริญในพระศาสนา ของพระศาสดา, อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยายะ สังวัตตะตุ. สังฆัง เม วันทะมาเนนะ(ผูชาย) วันทะมานายะ(ผูหญิง) ยัง ปุญญัง จงเปนไปเพื่อทําที่สุดแหงกองทุกข ทั้งสิ้นนี้ เทอญ. ปะสุตัง อิธะ, ขาพเจาผูไหวอยูซึ่งพระสงฆ, ไดขวนขวายบุญใด ในบัดนี้, คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 15. ๑๒ ๒๕ (พระภิกษุสามเณรวา) อาหุเนยโย, เปนสงฆควรแกสักการะที่เขานํามาบูชา, ปาหุเนยโย, เปนสงฆควรแกสักการะที่เขาจัดไวตอนรับ, จิ ร ะปะะริ นิ พ พุ ตั ม ป ตั ง ภะคะวั น ตั ง อุ ท ทิ ส สะ อะระหั น ตั ง ทักขิเณยโย, เปนผูควรรับทักษิณาทาน, สัมมาสัมพุทธัง, อัญชะลิกะระณีโย, เปนผูที่บุคคลทั่วไปควรทําอัญชลี, เราทั้งหลาย อุทิศเฉพาะพระผูมีพระภาคเจา, ผูไกลจากกิเลส, ตรัสรูชอบไดโดย พระองคเอง, แมปรินิพพานนานแลว พระองคนั้น, อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสา ติ. เปนเนื้อนาบุญของโลก, ไมมีนาบุญอื่นยิ่งกวา ดังนี.้ สัทธา อะคารัสมา อะนะคาริยัง ปพพะชิตา, ………………………………… เปนผูศรัทธา ออกบวชจากเรือน, ไมเกี่ยวของดวยเรือนแลว, ๘. สังฆาภิคีติ ตัสมิง ภะคะวะติ พรัหมะจะริยัง จะรามะ, ประพฤติอยูซึ่งพรหมจรรย, ในพระผูมีพระภาคเจาพระองคนั้น, (หันทะ มะยัง สังฆาภิคติง กะโรมะ เสฯ) ี ภิกขูนัง สิกขาสาชีวะสะมาปนนา, สัทธัมมะโช สุปะฎิปตติคุณาภิยุตโต, ถึงพรอมดวยสิกขาและธรรมเปนเครื่องเลี้ยงชีวิต ของภิกษุทั้งหลาย, พระสงฆที่เกิดโดยพระสัทธรรม, ประกอบดวยคุณมีความปฏิบัติดีเปนตน, ตัง โน พรัหมะจะริยัง อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะ โยฏฐัพพิโธ อะริยะปุคคะละสังฆะเสฎโฐ, กิริยายะสังวัตตะตุ. เปนหมูแหงพระอริยบุคคลอันประเสริฐ แปดจําพวก, ขอใหพรหมจรรยของเราทั้งหลายนั้น, จงเปนไปเพื่อการทําที่สุดแหงกองทุกข สีลาทิธัมมะปะวะราสะยะกายะจิตโต, ทั้งสิ้น นี้ เทอญ. มีกายและจิต อันอาศัยธรรมมีศีลเปนตน อันบวร, ๘.เขมาเขมสรณทีปคาถา วันทามะหัง ตะมะริยานะคะณัง สุสทธัง, ุ (หันทะ มะยัง เขมาเขมะสะระณะทีปคาถาโย ภะณามะ เส) ขาพเจาไหวหมูแหงพระอริยเจาเหลานัน อันบริสุทธิ์ดวยดี, ้ พะหุง เว สะระณัง ยันติ ปพพะตานิ วะนานิ จะ, สังโฆ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง, พระสงฆ หมูใด เปนสรณะอันเกษมสูงสุด ของสัตวทั้งหลาย, อารามะรุกขะเจตยานิ มะนุสสา ภะยะตัชชิตา, คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 16. ๒๔ ๑๓ ธัมโม ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง, มนุษยเปนอันมาก เมื่อเกิดมีภัยคุกคามแลว, ก็ถือเอาภูเขาบาง ปาไมบาง, ขอพระธรรม จงงดซึ่งโทษลวงเกินอันนัน, ้ อารามและรุกขเจดียบาง เปนสรณะ, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม. เนตัง โข สะระณัง เขมัง เนตัง สะระณะมุตตะมัง, เพื่อการสํารวมระวัง ในพระธรรม ในกาลตอไป. เนตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ. …………………… นั่นมิใชสรณะอันเกษมเลย, นั่นมิใชสรณะอันสูงสุด, ๗. สังฆานุสสติ เขาอาศัยสรณะนั่นแลว ยอมไมพนจากทุกขทั้งปวงได, (หันทะ มะยัง สังฆานุสสะตินะยัง กะโรมะ เสฯ) โย จะ พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สะระณัง คะโต, สุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, จัตตาริ อะริยะสัจจานิ สัมมัปปญญายะ ปสสะติ, สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจานั้น หมูใด, ปฏิบัติดีแลว, สวนผูใดถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ เปนสรณะแลว, อุชุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, เห็นอริยสัจจคอ ความจริงอันประเสริฐสี่ ดวยปญญาอันชอบ, ื สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปฏิบัติตรงแลว, ทุกขัง ทุกขะสะมุปปาทัง ทุกขัสสะ จะ อะติกะมัง ญายะปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อริยัญจัฏฐังคิกัง มัคคัง ทุกขูปะสะมะคามินัง, สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, คือเห็นความทุกข, เหตุใหเกิดทุกข, ความกาวลวงทุกขเสียได, ปฏิบัติเพื่อรูธรรมเปนเครื่องออกจากทุกขแลว, และหนทางมีองคแปดอันประเสริฐ, เครื่องถึงความระงับทุกข, สามีจิปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, เอตัง โข สะระณัง เขมัง เอตัง สะระณะมุตตะมัง, สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา หมูใด, ปฏิบัติสมควรแลว, เอตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ. ยะทิทัง,ไดแกบุคคลเหลานีคือ, ้ นั่นแหละเปนสรณะอันเกษม, นั่นเปนสรณะอันสูงสุด, จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา, เขาอาศัยสรณะนั่นแลว ยอมพนจากทุกขทงปวงได. ั้ คูแหงบุรุษ ๔ คู, นับเรียงตัวบุรุษได ๘ บุรษ, ุ เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,  ⌫ นั่นแหละ สงฆสาวกของพระผูมีพระภาคเจา , คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล
  • 17. ๑๔ ๒๓ ๙. ธัมมคารวาทิคาถา ธัมมัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง, ขาพเจามอบกายถวายชีวิตนี้ แดพระธรรม, (หันทะ มะยัง ธัมมะคาระวาทิคาถาโย ภะณามะ เส) วันทันโตหัง (ผูชาย) วันทันตีหัง (ผูหญิง) จะริสสามิ ธัมมัสเสวะ เย จะ อะคีตา สัมพุทธา เย จะ พุทธา อะนาคะตา, สุธัมมะตัง, ขาพเจาผูไหวอยูจักประพฤติตาม, ซึ่งความเปนธรรมดีของพระธรรม, โย เจตะระหิ สัมพุทโธ พะหุนนัง โสกะนาสะโน, พระพุทธเจาบรรดาที่ลวงไปแลวดวย, ที่ยังไมมาตรัสรูดวย, นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง, และพระพุทธเจาผูขจัดโศกของมหาชนในกาลบัดนี้ ดวย, สรณะอื่นของขาพเจาไมมี, พระธรรมเปนสรณะอันประเสริฐของขาพเจา, สัพเพ สัทธัมมะคะรุโน วิหะริงสุ วิหาติ จะ, เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุสาสะเน, ดวยการกลาวคําสัจจนี้, ขาพเจาพึงเจริญในพระศาสนา ของพระศาสดา, อะถาป วิหะริสสันติ เอสา พุทธานะธัมมะตา, พระพุทธเจาทังปวง ทุกพระองค เคารพพระธรรม, ้ ธัมมัง เม วันทะมาเนนะ(ผูชาย) วันทามานายะ(ผูหญิง) ยัง ปุญญัง ไดเปนมาแลวดวย, กําลังเปนอยูดวย, และจักเปนดวย,  ปะสุตัง อิธะ, เพราะธรรมดา ของพระพุทธเจาทั้งหลาย, เปนเชนนันเอง,้ ขาพเจาผูไหวอยูซึ่งพระธรรม, ไดขวนขวายบุญใด ในบัดนี้, ตัสมา หิ อัตตะกาเมนะ มะหัตตะมะภิกังขะตา, สัพเพป อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา. สัมธัมโม คะรุกาตัพโพ สะรัง พุทธานะสาสะนัง, อันตรายทั้งปวง อยาไดมแกขาพเจา, ดวยเดชแหงบุญนัน. ี  ้ เพราะฉะนั้น บุคคลผูรักตน, หวังอยูเฉพาะคุณเบื้องสูง, เมื่อระลึกไดถึง (กราบหมอบลงวา) คําสั่งสอนของพระพุทธเจาอยู, จงทําความเคารพพระธรรม, กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, นะ หิ ธัมโม อะธัมโม จะ อุโภ สะมะวิปากิโน, ดวยกายก็ดี ดวยวาจาก็ดี ดวยใจก็ด,ี ธรรม และ อธรรม จะมีผลเหมือนกันทั้งสองอยาง หามิได, ธัมเม กุกมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, ั อะธัมโม นิระยัง เนติ ธัมโม ปาเปติ สุคะติง. กรรมนาติเตียนอันใด ที่ขาพเจากระทําแลว ในพระธรรม อธรรม ยอมนําไปนรก, ธรรม ยอมนําใหถึงสุคติ. คูมือพุทธบริษัท บทสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นแปล