กิจกรรมหน้าเสาธง จากคู่มือเข้าค่ายจริยธรรม ของ กลุ่มรักษ์ธรรม

1.  กิจกรรมหน้ าเสาธง 
เมือถึงเวลาให้ นักเรียนทุกคนเข้ าแถวหน้ าเสาธง ให้ ส่งตัวแทนออกมาฐานละ 1 คนรวม5 คน เข้ า
่
แถวเรียงหน้ าเสาธง และตัวแทน 2 คน ชักธงชาติ (พยายามผลัดเปลียนกันออกมาแสดงกิจกรรมหน้ าเสาธงทุก
่
วัน) เพือพูดปลุกใจให้ รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ก่ อนทีจะเคารพธงชาติ ไหว้ พระสวดมนต์ แผ่เมตตา
่ ่
และทาเรื่องอืนต่ อไป
่
คนที่ 1 ออกมาพูดแนะนาตัว แล้ วพูดดังนี.้ -
สวัสดีครับ(ค่ ะ) ข้ าพเจ้ า ด.ช.(ด.ญ.)...................อยู่ฐาน.................ต่ อไปนีเ้ พือน ๆ และน้ อง ๆ จะได้
่
ทาความเคารพธงชาตินะครับ ธงชาติ โดยชื่อเต็มเรียกว่ าธงไตรรงค์ มี 3 สี คือ สี แดง สี ขาว และสี นาเงิน อัน
้
เป็ นสัญญลักษณ์ ของชาติไทยนะครับ
เพือนๆ และน้ องๆ ครับ สี แดง เปรียบเหมือนอะไรครับ? สี แดง เปรียบเหมือนกับ ชี วตและเลือด
่ ิ
เนือของเรา ซึ่งบรรพบุรุษของเราได้ ยอมเสียสละเลือดเนือและชีวตเพือป้ องกันความเป็ นชาติไทยเอาไว้ คาว่ า
้ ้ ิ ่
ชาติ มีความหมายสาคัญยิง 4 ประการด้วยกันนะครับ
่
ข้ อ 1. ชาติหมายถึง ทรัพยากรธรรมชาติ อันเป็ นผืนแผ่นดินไทย
ข้ อ 2. ชาติหมายถึง ประเพณีวฒนธรรมของชาติไทย
ั
ข้ อ 3. ชาติหมายถึง อานาจอธิปไตยของชาติไทย
ข้ อ 4. ชาติหมายถึง บุคคลในชาติ อันได้ แก่ ความเป็ นมนุษยชาติ
เพือน ๆ และน้ อง ๆ ครับ ถ้ าเราสู ญเสีย ความเป็ นมนุษยชาติแล้ ว เราก็จะสู ญเสียอะไรทั้งหมดไม่
่
ว่ าชาติอนหมายถึง แผ่นดินหรือประเพณีวฒนธรรม แม้ อานาจอธิปไตยก็จะสู ญเสียหมด เราจะสู ญเสียความ
ั ั
เป็ นชาติ สู ญเสียอิสรภาพหมดสิ้น
เพือน ๆ น้ อง ๆ รักชาติไหมครับ? ถ้ ารักชาติทุกคนต้ องทาตัวให้ ดี ต้ องไม่ ตดอบายมุขนะครับ เวลา
่ ิ
เข้ าแถวก็ต้องเข้ าแถวให้ ตรงนะครับ ถ้ าเราทาตัวเราไม่ มนคง ชาติจะมันคงได้ ไหมครับ ไม่ ได้ นะครับ ทุกคน
ั่ ่
พร้ อมทีจะร้ องเพลงชาติแล้ วยังครับ (พร้ อมแล้ วครับ, ค่ ะ) เคารพธงชาติ ธงขึน ทั้งหมดตรง (ร้ องเพลงชาติ
่ ้
พร้ อมกัน)
ประเทศไทยรวมเลือดเนือชาติเชื้อไทย เป็ นประชารัฐไผทของไทยทุกส่ วน
้
อยู่ดารงคงไว้ ได้ ท้งมวล
ั ด้ วยไทยล้ วนหมายรักสามัคคี
ไทยนีรักสงบ แต่ ถึงรบไม่ ขลาด
้ เอกราชจะไม่ ให้ ใครข่ มขี่
สละเลือดทุกหยาดเป็ นชาติพลี เถลิงประเทศชาติไทยทวีมชัย ชโย.
ี

2. คนที่ 2 ออกมาพูดแนะนาตัว แล้ วพูด ดังนี.้ -
สวัสดีครับ(ค่ ะ) ข้ าพเจ้ า ด.ช.(ด.ญ.).....................อยู่ฐาน...............เพือนๆและน้ องๆ ทราบไหมครับ
่
สี ขาว หมายถึงอะไร? สี ขาว หมายถึง ศาสนาอันเป็ นทีพงทางใจของเรา เราต้ องพยายามควบคุมจิตใจให้
่ ึ่
สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ การสวดมนต์ เป็ นวิธีหนึ่งในทางศาสนา ทีจะทาให้ จตใจของเรา สะอาด สว่ าง สงบ ถ้ า
่ ิ
เราทาจิตใจของเราให้ สะอาด สว่ าง สงบ เวลาเราจะทาอะไรก็ทาได้ ดี เพราะเรามีจตใจทีสงบเป็ นสมาธิ เวลาเรา
ิ ่
จะทาอะไรหรือฟังอะไร ต้ องตั้งใจฟังนะครับ เพือนๆ และน้ องๆ อยากเรียนเก่ งต้ องตั้งใจสวดมนต์ ทาสมาธิแผ่
่
เมตตาให้ ดๆ นะครับ เวลาเราสวดมนต์ ต้องสวดให้ ไพเราะ ช้ าๆ และให้ สวดโดยพร้ อมเพรียงกันนะครับทั้งหมด
ี
เตรียมตัวไหว้ พระ สวดมนต์ แผ่เมตตาพร้ อมกัน-
อะระหัง สั มมาสั มพุทโธ ภะคะวา,
พระผู้มพระภาคเจ้ า, เป็ นพระอรหันต์ , ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์ สิ้นเชิง,
ี
ตรัสรู้ ชอบได้ โดยพระองค์ เอง, (กราบ)
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ,
ข้ าพเจ้ าอภิวาทพระผู้มพระภาคเจ้ า, ผู้รู้ ผู้ตน ผู้เบิกบาน,
ี ื่ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,
พระธรรม เป็ นธรรมทีพระผู้มพระภาคเจ้ า, ตรัสไว้ ดแล้ ว,
่ ี ี
ธัมมัง นะมัสสามิ,
ข้ าพเจ้ านมัสการพระธรรม, (กราบ)
สุ ปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสั งโฆ,
พระสงฆ์ สาวกของพระผู้มพระภาคเจ้ า, ปฏิบัตดแล้ ว,
ี ิ ี
สั งฆัง นะมามิ,
ข้ าพเจ้ านอบน้ อมพระสงฆ์ , (กราบ)
มาตาปิ ตุ คุณง อะหัง วันทามิ,
ั
ข้ าพเจ้ าไหว้ คุณบิดามารดา, ผู้ให้ กาเนิดและอุปการะเลียงดูแก่ ข้าพเจ้ า,
้ (กราบ)
คุรุ อาจาริเย คุณง อะหัง วันทามิ,
ั
ข้ าพเจ้ าไหว้ คูณครู อาจารย์ , ผู้ให้ ความรู้ และอบรมสั่งสอนให้ ข้าพเจ้ าปฎิบัตดี (กราบ).
ิ
บทแผ่ เมตตา
สั พเพ สั ตตา, สัตว์ โลกทั้งหลายทีเ่ ป็ นเพือนทุกข์ , เกิด แก่ เจ็บ ตาย, ด้ วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น,
่
อะเวรา, จงเป็ นสุ ขเป็ นสุ ขเถิด, อย่ าได้ มเี วรแก่ กนและกันเลย,
ั
อัพพะยาปัชฌา, จงเป็ นสุ ขเป็ นสุ ขเถิด, อย่ าได้ เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย,
อะนีฆา, จงเป็ นสุ ขเป็ นสุ ขเถิด, อย่ าได้ มความทุกข์ กายทุกข์ ใจเลย,
ี
สุ ขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ,จงมีความสุ ขกายสุ ขใจ, รักษาตนให้ พ้นจากทุกข์ ภัย, ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเทอญ.

3. คนที่ 3 ออกมาพูดแนะนาตัว แล้ วพูดดังนี.้
สวัสดีค่ะ(ครับ) ข้ าพเจ้ าด.ญ.(ด.ช.)................... อยู่ฐาน ............. เพือน ๆ และน้ อง ๆ คะ สี นาเงิน
่ ้
หมายถึง สถาบันพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ หมายถึง ผู้ทมีสติปัญญา ทาให้ ผ้ อนพอใจ ชื่ นใจ
ี่ ู ื่
เรียกว่ า ราชา พระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัวของเรา พระองค์ ทรงมีคุณธรรมทีเ่ รียกว่ า ทศพิธราชธรรม
พระองค์ ท่านทางานเพือผู้อน พระองค์ ท่านทางานสนุกเป็ นสุ ขขณะทางาน อันเป็ นสติปัญญาสู งสุ ด
่ ่ื
ขอให้ เพือนๆ และน้ องๆ ใช้ สติปัญญาในการดาเนินชีวต และทางานให้ สนุกเป็ นสุ ขเมือทางานเหมือน
่ ิ ่
พระองค์ ท่านนะคะ และเพือเป็ นการสดุดคุณงามความดีของพระองค์ ท่าน ขอให้ พวกเราร้ อง เพลงสดุดีมหา-
่ ี
ราชา พร้ อมกันนะคะ
เพลงสดุดีมหาราชา
ขอเดชะองค์ พระประมุขภูมพล ิ
มิงขวัญปวงชนประชาชาติไทย
่
มหาราช ขัตติยะ ภูวนัย
ดุจร่ มโพธิ์ร่มไทรของปวงประชา
ขอเดชะองค์ สมเด็จพระราชินี
คู่บุญบารมีจกรีเกริกฟา
ั ้
องค์ สมเด็จพระเจ้ าอยู่หัวมหาราชา
ข้ าพระพุทธเจ้ าขอสดุดี
อ่ า...องค์ พระสยมบรมราชันย์ ขวัญหล้ า
เปล่ งบุญญาสมสง่ าบารมี
ผองข้ าพระพุทธเจ้ า
น้ อมเกล้ าขออัญชุลี สดุดมหาราชา......... สดุดมหาราชินี.....
ี ี
คนที่ 4 ออกมาพูดแนะนาตัว แล้ วพูดดังนี-
้
สวัสดีครับ(ค่ ะ) ข้ าพเจ้ า ด.ช.(ด.ญ.) ....................อยู่ ฐาน ...............ต่ อไปนีเ้ พือนๆ และน้ องๆจะได้
่
กล่ าวคาปฏิญาณพร้ อมกันนะครับ
นะ อะนะริยง กะริสสามิ,
ั ข้ าพเจ้ าจักไม่ กระทาสิ่งทีตาทราม,
่ ่
ทุติยมปิ นะ อะนะริยง กะริสสามิ, แม้ ครั้งทีสอง ข้ าพเจ้าจักไม่กระทาสิ่งทีตาทราม,
ั ั ่ ่ ่
ตะติยมปิ นะ อะนะริยง กะริสสามิ, แม้ ครั้งทีสาม ข้ าพเจ้าจักไม่กระทาสิ่งทีตาทราม,
ั ั ่ ่ ่
ข้ าพเจ้ าขอรักผู้อน, ข้ าพเจ้ าขอบังคับตนเอง ข้ าพเจ้ าขอทางานให้ สนุก เป็ นสุ ขเมือทางาน,
ื่ ่
นี่คออุดมการณ์ ของพวกเรา
ื

4. คนที่ 5 ออกมาแนะนาตัว แล้ วพูดดังนี้
สวัสดีค่ะ(ครับ) ข้ าพเจ้ าด.ญ.(ด.ช.)..........อยู่ฐาน.... ....ต่ อไปนีขอเรียนเชิญคุณครู ......................
้
ออกมาอบรมจริยธรรมหน้ าเสาธง (หยุดรอให้ คุณครู เดินออกมาก่ อน แล้ วกล่ าวว่ า) ทั้งหมดตรง ทาความ
เคารพ " เคารพพระธรรมทีมีอยู่ในคุณครู " เมื่อคุณครู กล่ าวจบ ให้ นักเรียนกล่ าวคาว่ า “ขอบคุณ
่
พระธรรมทีมีอยู่ในคุณครู ”
่
เมืองแก้ว
เมืองใดไม่ มทหารหาญ
ี เมืองนั้นไม่ นานเป็ นข้ า
เมืองใดไร้ จอมพารา เมืองนั้นไม่ ช้าอับจน
เมืองใดไม่ มพาณิชย์ เลิศ
ี เมืองนั้นย่ อมเกิดขัดสน
เมืองใดไร้ ศิลป์ โสภณ เมืองนั้นไม่ พ้นเสื่อมทราม
เมืองใดไม่ มกวีแก้ ว
ี เมืองนั้นไม่ แคล้ วคนหยาม
เมืองใดแม้ ไร้ นารีงาม เมืองนั้นสิ้นความภูมใจิ
เมืองใดไม่ มดนตรีเลิศ
ี เมืองนั้นไม่ เพริดพิสมัย
เมืองใดไร้ ธรรมอาไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่ นอน
พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 6