SlideShare a Scribd company logo
1 of 14
Download to read offline
สุนทรียศึกษา :
การสรางสรรคแบบแผนการเรียนรูในทางบวก
(วิชาครูที่สํานึกรูถึงคุณคาสิ่งดีงาม)
อุทัยวรรณ กาญจนกามล
สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน
1
ใจความโดยสรุป
บทความชิ้นนี้กลาวถึง ประสบการณจากการนําวิชาครูที่รูคุณคาสิ่งดีงามมาใชในหองเรียน โดยเนน
การประยุกตใชกระบวนการเรียนรูแบบ“สุนทรียปรัศนี” มาเปนกรอบคิดเพื่อการพัฒนาคน และ
ทีมงาน วิชาครูที่“สํานึกรูในคุณคาสิ่งดีงาม”จะมุงเนนการสื่อสารระหวางผูเรียน โดยใช
ประสบการณแหงความสําเร็จและปฏิบัติการที่ถือวาดีที่สุดที่เคยไดทํามาของทั้งเหลานักศึกษาและ
อาจารยมาเปนตัวแบบและจุดประกายความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองในทางบวก โดยเชื่อวาการ
คนหาประสบการณการทํางานที่เคยทําไดดีที่สุด มาแลกเปลี่ยนเรียนรู จะกอใหเกิดพลังความคิด
และการกระทําในทางบวก กระบวนการดังกลาวจะทําใหผูเรียนมีความภาคภูมิใจที่ไดแสดงทัศนะ
จากความสําเร็จของตนเอง กอใหเกิดความบันดาลใจระหวางผูเรียนใหรวมกันระดมความคิดและ
เรียนรูจากสิ่งดีงาม ทําใหเกิดนวัตกรรมจากการรวมกันคิดรวมกันทํา ยังผลใหเกิดการเรียนรูและ
ฝกปฏิบัติงานรวมกันอยางสนุกสนานมั่นใจ และสามารถตอยอดความคิดลึกซึ้งในเนื้อหาใหมที่จะ
เรียนรูของผูเรียน อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพผูสอนไดมากยิ่งขึ้น
อารัมภบท
Poor teachers - tell พฤติกรรมของ“ครูแย”แคบอกสั่ง
Ordinary teachers - expain “ครูทั่วไป”ใหเด็กฟงนั่งขานไข
Good teachers - demonstrate ทําใหดูคือ“ครูดี”มีทัศนไกล
Great teachers - inspire บันดาลใจใหมุงมั่นนั้น“ยอดครู”
ก.)ฉันทาคติ ในประสบการณแหงความสําเร็จ
ฐานคิดดั้งเดิมของวิชาครูนั้นเริ่มจากการอนุมาณวา“ผูเรียนไมรู” กระบวนการเรียนรูของ
ผูเรียนจึงมักเริ่มจากสิ่งที่มาจากในตํารา และเนื้อหาของตําราก็มักจะมาจากภายนอกประสบการณ
และนอกวิถีชีวิตของผูเรียนเปนดานหลัก ดังนั้น โจทยที่นํามาใหคิด ใหทดลอง หรือฝกปฏิบัติจึงมา
จากภายนอกผูเรียนเกือบทั้งสิ้น ผลตามของการเรียนรูแบบดั้งเดิมก็คือ ความไมตระหนักถึงคุณคา
ของสิ่งที่มีอยูในตนเอง ผูเรียนตระหนักอยูเสมอวาตนเองขาดแคลนความรู การแสวงหาความรูจึง
เริ่มตนจากผูอื่น หรือสิ่งอื่นที่ไกลตัวออกไป บริบทของการเรียนจึงไมสอดคลองกับวิถีชีวิต สังคม
สิ่งแวดลอมและวัฒนธรรมชุมชน หรือทองถิ่นของตนเอง ดังนั้น ยิ่งเรียนสูงขึ้น ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
เทาใดก็ยิ่งหางจากภูมิธรรมของตนเอง หางไกลจากรากวัฒนธรรมชุมชน ไปจนกระทั่งเกิดความไร
สํานึกและไรรากทางวัฒนธรรมในที่สุด นอกจากนั้นผลที่เห็นไดชัดจากกระบวนการการเรียนการ
สอนดังกลาวก็คือ เกิด การแขงขันกันไขวควาหาความรู นอกตัวตน เกิดการแกงแยงแขงขัน สราง
ความเคยชินใหกับตนเองดวยการ“เรียนพิเศษกับครูกวดวิชา” มีบรรยากาศเอื้ออํานวยใหเกิดการ
2
เรียนรูแบบปจเจกสูงขึ้นเปนเงาตามตัว ขาดความเคารพ นับถือและใหเกียรติระหวางผูเรียนดวยกัน
และความนับถือตนเองก็พลอยลดลงไปดวย
จากความทาทายตอสิ่งที่เกิดขึ้นดังกลาว ทําใหนักการศึกษารวมสมัยหัวกาวหนาบางกลุม
หันมาใหความสนใจกับ สิ่งที่มีอิทธิพลทางจิตใจของผูเรียน ใหความสําคัญกับทัศนคติในการเรียนรู
มากขึ้นเปนลําดับ โดยถือวา ทัศนคติคือทุกสิ่ง (Attitude is everything) และในปลายศตวรรษที่
20 ไดมีการเปลี่ยนแปลงทฤษฏีวาดวย“การเรียนรูจากการใชปญหาเปนตัวตั้ง” และการเนนหนัก
ในเรื่องการแสวงหาความรูแบบดั้งเดิม มาเปน “การใชสติปญญาที่มีประสบการณอยูแลวในตัว
ผูเรียนเปนฐาน” และเรียนรูในมุมมองตอโลกและชีวิตในดานบวกเปนปจจัยสําคัญ การทดลอง
กระบวนการเรียนรูแบบใหมนี้ มีชื่อวา สุนทรียปรัศนี (Appreciative Inquiry)
สุนทรีย(Appreciation) หมายถึง ความงดงาม ความรูสึกในคุณคาและความดีงามของสิ่ง
ใดสิ่งหนึ่ง และ ปรัศนี (Inquiry) นั้นหมายถึง การแสวงหา การคนพบ หรือการตั้งคําถาม
สุนทรียปรัศนี ในวิชาแหงความเปนครู คือกระบวนการเรียนการสอนที่เริ่มตนจากการ
สรางบรรยากาศใหผูเรียนไดคนหาและแสดงออกถึงสิ่งดีงามที่ผูเรียนเคยมีประสบการณมากอน มี
ความตระหนักถึงคุณคาของสิ่งที่ตนมี ยิ่งมีโอกาสไดแสดงออกก็ยิ่งทําใหเกิดความภาคภูมิใจและ
ความมั่นใจในตนเองและนับถือตนเอง ซึ่งเปนความบันดาลใจทําใหเกิดความมุงมั่นที่จะทําใหดี
ยิ่งขึ้นกวาเดิม ถือไดวาเปนขั้นตอนแรกของการพัฒนาจิตใจของผูเรียนที่สําคัญยิ่ง
การเริ่มตนพูดคุย สนทนาถึงชวงเวลาที่ดีที่สุด ที่นักศึกษาเคยปฏิบัติ และนําเอาสิ่งเหลานั้น
มาวิเคราะห แลวนําเสนอถึงปจจัย เครื่องชี้วัดและที่มาแหงความสําเร็จ และสิ้นสุดลงดวยการหาทาง
ชื่นชมในสิ่งที่พวกเขาไดกระทํารวมกัน ทําใหเขามีความภาคภูมิใจ ทั้งหมดนี้เปนกระบวนการ
เรียนรูในบรรยากาศของความเปนประชาธิปไตย ที่แตละคนตางมีสวนรวมอยางเทาเทียมกัน เปน
หมูคณะหรือ ทีมงาน โดยมีภาวะผูนําแบบประชาธิปไตยและสัมพันธภาพที่ดีดวย
ข.) การ เนนย้ําคุณคาแหงความสําเร็จในฐานะที่เปนสวนเสริมสรางวิสัยทัศนในทางบวก
ในการเรียนรูแบบสุนทรีย จะมีกระบวนคนหาและพบพานกับประสบการณแหงความสําเร็จของ
นักศึกษาเพราะเริ่มจากความเชื่อวาประสบการณที่ดีทั้งหลายเปนปจจัย
สําคัญที่จะเสริมสรางความมั่นใจและเปนสวนสําคัญที่จะกอใหเกิดการมองหา
โอกาสใหมในทางที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ถือวาเปนการทาทายความสามรถในการคิดและจินตนาการของ
นักศึกษาไปในเวลาเดียวกัน
ประสบการณแหงความสําเร็จจะเปนภูมิหลัง เสริมสงใหนักศึกษาคิดถึงอุดมคติ
ในเรื่องการพัฒนาเติบโตงอกงามและพลังที่จะโรมรันมากกวาการรองรับแคปญหาที่ตนเองประสบ
3
อยู และในรูปแบบของ “การปฏิบัติการที่ดีที่สุด” ในชวงเวลาหนึ่ง หรือตนแบบปฏิบัติการใน
บรรยากาศของความมีชื่อเสียงเกียติยศจะทําใหเกิดสภาวะความเปนจริงที่เสริมสงใหอนาคตดีตาม
ไปดวย
ค.) การปลูกฝงความเชื่อวาจินตนาการในเชิงบวกจะนําไปสู “ปฏิบัติการในเชิงบวก”ดวย
สุนทรียปรัศนี เนนย้ําในเรื่องการสรางภาพลักษณ ในทางที่ดีจะเสริมสงใหเกิดวัตร
ปฏิบัติที่ดี ดังนั้นพิธีกรรมที่นํามาใชในกระบวนการเรียนรูทั้งหลายจึงเริ่มตนจากการใชจินตนาการ
ที่เปนอุดมคติเปนพลังขับดันใหเกิดปฏิบัติการที่ดีเลิศ ดังนั้นผูจัดประสบการณเรียนรูทั้งหลาย
จําเปนอยางยิ่งที่จะตองตระหนักวา “ความผิดพลาด และปญหาทั้งปวง”จะทําใหเกิดการบั่นทอน
กําลังใจและความสําเร็จในอนาคตเชนกัน ดวยเหตุที่วามันกลายเปนแหลงฟกตัวของความวิตกกังวล
ความประหวั่นพรั่นพรึง ความเจ็บปวด และความสูญเสียไปโดยใชเหตุ จินตนาการของความเปน
อุดมคติตางหาก ที่จะทําใหผูเรียนรู มีความบันดาลใจ ที่จะเรียนดวยความสุข สนุกสนาน และมี
ความคาดหวังถึงสิ่งที่ทําดวยตัวเองในอนาคตวาจะทําใหไดดีที่สุด
ง.) คุณคาแหงการตั้งคําถามกันสองตอสอง ตอกลุม หรือทีมงานเพื่อเสริมสรางพลังทีมงาน
เปนโอกาส ในชั้นเรียน ที่จะทําใหนักศึกษาเกิดความอยากรูอยากเห็น และการคนพบความสําเร็จ
ในตัวเพื่อนรวมชั้นเรียนซึ่งจะสงผลใหตางฝายตางสนใจ เชื่อใจ ชื่นชมซึ่งกันและกัน และนําไปสู
การเคารพนับถือกันและกัน การจัดประสบการเรียนรูที่ใหความสําคัญกับการตั้งชุดคําถาม ที่
นําไปสูการเสริมสรางพลังใจแกผูเรียนและทําใหผูเรียนใครครวญถึงสิ่งที่ตนได เคยทํามาในอดีต
ซึ่งการไดแลกเปลี่ยนเรียนรูระหวางกันและกันถึงประสบการณแหงความสําเร็จ หรือการกลาวขาน
ถึงวันเวลาที่ดีที่สุด ตลอดจนการกอใหเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองและผูทํางานดวยกันจะนํามาซึ่ง
ความบันดาลใจใฝเรียนรูซึ่งเปนพลังอันยิ่งใหญ และกลายเปนเวทีที่ฟกตัวของผูมีพลังขับเคลื่อน
สังคมไปสูการเปลี่ยนแปลงที่ดี และจุดประกายใหผูคนในสังคมในอนาคต ดังนั้นทามกลาง
บรรยากาศของการสัมภาษณกันและกัน และนําเสนอสิ่งที่ดี การสนทนาในมุมมองที่หลากหลาย
จะกลายเปนสีสันใหมในพื้นที่แหงการเรียนรู และไดแทรกสํานึกแหงความดีงามไดอยางวิเศษสุด
ถึงแมวาการจัดประสบการณเรียนรูแบบสุนทรียภาพนี้จะลอกเรียนแบบจากสุนทรียปรัศนี
แตบรรยากาศและสภาวะแวดลอมของ การเรียนรูในหองเรียนและโรงประลองของวิทยาลัยจะตาง
ไปจาก การทํางานตามสภาวะความเปนจริงของสถาบัน องคกรหรือชุมชนซึ่ง วิสัยทัศนรวมและ
ปฏิบัติการรวมกันของทีมงาน จะเปนปจจัยสําคัญของการอยูรอดและเติบโตขององคกรหรือชุมชน
ซึ่งเปนผลกระทบโดยตรงตอองคกรหรือชุมชนเอง ในขณะที่ชั้นเรียนหรือโรงประลองในวิทยาลัย
นั้นเปนแหลงเรียนรู “ชั่วคราว” หรือเปนไดแค “เสมือนจริง” นี่ถือเปนขอจํากัดที่สําคัญ ที่จะตอง
4
ตระหนักวาเวลาในการคิดและทํารวมกันนั้นสั้นและฉาบฉวยในกลุมเล็กๆในแตละชวงใชนอยเชน
20 นาที หรือ3ชั่วโมงและสวนใหญก็จะอยูในชวงเวลาที่เปน “ปจจุบัน” รวมกัน
ดังนั้น สุนทรียศึกษา จึงเปนรูปแบบการเรียนรู ที่จะตองออกแบบใหเขมขนในเรื่องกระบวนการคิด
และการมีสวนรวมใหมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการใหความสําคัญกับขอมูลที่มาจากแหลงเรียนรู
ใหมากขึ้น
สุนทรียศึกษา ในชีวิตประจําวัน
สุนทรียศึกษาชวยใหการเรียนรูโลกในทางบวก มองโลกในแงดี เริ่มจากชั้นเรียน
ประจําวันในปการศึกษาใหม มันชวยนําทางใหอาจารยมีจิตสํานึก และตัดสินใจที่จะกาวไปใน
ทางบวกรวมกับนักศึกษา ไมวาจะใชบทเรียนหรืออุปกรณใด ๆ มันก็จะชวยใหนักศึกษาสามารถ
เขาถึงพลังที่มีอยูในตัวเอง ทั้งทักษะและพรสวรรค แลวนํามันออกมาใชในการเรียนรูไดอยาง มั่นใจ
ภาคภูมิใจและนับถือตัวเองและคนรอบขางมากขึ้น
ตัวอยางดังตอไปนี้จะชวยทําใหเห็นรูปธรรมของสิ่งที่กลาวมาขางตนชัดเจนยิ่งขึ้น
1. ทีมงาน สุนทรียศึกษาชวยใหนักศึกษาทํางาน เปนทีมไดอยางไรในชั้นเรียน? คําตอบคือ
เริ่มตั้งแตการตั้งคําถามที่เสริมสรางพลังใจ จากประสบการณเรียนรูของเขาเอง โดยขอให
ทีมงานแตละกลุมที่กอตั้งกันเอง ลองทบทวนถึงสิ่งที่ทําใหเกิดความสุข คามสําเร็จ
ความรูสึกถึงความสําเร็จ ความภาคภูมิใจที่เคยมี และโดยไมใชการใหคะแนนในการ
สอบมาเปนตัวตั้ง แตละกลุมจะไดรับงาน 2 แบบคือ
1.)เลาประสบการณที่ดีที่สุดที่ทุกคนในกลุมเคยมีไมวาเรื่องใดก็ตาม
2.)เลาเรื่องที่เปนปจจัยเกื้อหนุนทําใหเกิดประสบการณที่ดีที่สุดนั้น
จากนั้นก็ใหแตละกลุมนํามาเสนอผลงานของกลุมโดยใช แผนฟลิปชารต และ
นําเสนอดวยวาจา กระบวนการเรียนรูเริ่มจากการระดมความคิดในเรื่องปจจัยที่กอ
เกิดทีมงานที่ดี และตอจากนั้นใหกลุมจินตนาการถึง สิ่งที่อยากใหกลุมมีเปนอุดมคติ วาทีม
ในฝนของกลุมเปนเชนไร
เมื่อมีการนําเสนอภายหลังจากที่ไดระดมความคิดแลวในชั้นเรียนที่ประชุมรวม
โดยเนนย้ําใหผูที่จะนําเสนอ ใชประเด็นที่เปนองคประกอบของการทํางาน เพื่อใหเปนทีม
ในฝน อาจารย มีหนาที่รวบรวมประเด็นสําคัญ ที่นักศึกษาไดนําเสนอ โดยวัตถุดิบตองมา
จากความคิดและการระดมสมองของนักศึกษาเปนหลักไมใชความคิดของอาจารย
และไมจําเปนตองวิจารณ
จากนั้นกลุมยอยจะไดรับงานตอมาอีกก็คือ นําสิ่งที่มีอยูในกลุมอื่นมาเสริมสิ่งที่
กลุมเองมีอยู โดยการแลกเปลี่ยนและสนทนากลุม
5
ในชวงสุดทาย กลุมยอยทุกกลุมไดจะรับงานใหระดมความคิดกันอีกครั้ง ใหระบุ
ถึง วิธีการที่จะทําใหทีมงานของตนเอง ไปสูอุดมคติ
ในชวงที่มีกิจกรรม อาจารยตองทําใหทีมงานกลุมแนใจวา การระดมความคิด เหลานั้นเปน
ประสบการณที่ดีที่สุดของเขา และเปนพลังชีวิตที่เขาไดคิดไดทําจริงๆไมใชสักแตพูดให
สวยงาม
ประการตอมาคือ จะตองไมเอยถึงประสบการณ ที่ลมเหลวเลย และจะตองไมมี
การพูดถึงสิ่งเสื่อมทราม เลวรายใหไดยิน
ในระหวางการสนทนา การฟงเรื่องราวของกันและกัน ก็เนนใหฟงกันอยางตั้งใจ
ไมขัดจังหวะ ไมขัดคอ เมื่อจะนําเสนอในสิ่งที่แตกตาง ไปจากผูเลาจะตองไมมีคําวา“แต”
และแทนที่คําวาแต ดวยคําวา “และ” ตลอดกาล
2. ผูนําชั้นเลิศ สิ่งที่สําคัญประการตอมาคือ การระดมความคิดในเรื่องคุณลักษณะของ
ผูนําในอุดมคติและองคประกอบของสวนที่ทําใหเปนผูนําในอุดมคติ เชนเดียวกับประเด็นแรก
การระดมความคิดจะใชประสบการณเดิมที่เคยมีมาของผูนําที่ดีที่สุดในสายตาของพวกเขา แต
หากมีเวลาก็ใหพวกเขาจินตนาการถึงผูนําในอุดมคติและแลกเปลี่ยนกันในกลุมและในชั้นเรียน
เราจะตองเริ่มจากการอภิปรายกันในกลุมเล็กกอนเสมอ แลวรายงานตอกลุมใหญของชั้น
เรียน ที่พิเศษยิ่งกวานั้นก็คือ การมอบหมายใหแตละกลุมคัดเลือกผูที่เห็นวาสามารถจะพูดหนาชั้น
ไดในเวลา2นาที ในเรื่อง “ผูนําในดวงใจ” ลงทายดวยการอภิปรายถึงแนวทางการลงมือปฏิบัติวา
ตอนนี้เราอยูตรงไหน (ทั้งครูและศิษย) และจะไปสูสิ่งที่ปรารถนาโดยทางใดไดบาง
ขณะที่นักศึกษากําลังรายงาน อาจารยมีหนาที่คนหาสิ่งดีที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เพื่อใหเกิด
บรรยากาศแหงความชื่นชม ดังนั้นคําถามจากปากอาจารยจึงควรจะเปน “ผูนําที่ดีที่สุดในสายตา
ของทานนั้นทําอะไรบาง จึงไดชื่อวาดีสุดๆ” ก็จะทําใหเกิดการแผวถางทางนําไปสูความคิดในเชิง
บวกมากกวาลบ ไมบอกวา ไมดีนั้นเปนเชนไร
3. องคกรที่มีความเปนเลิศ ในสวนที่สําคัญที่ควรแกการเรียนรูและที่นักศึกษาควรสนใจก็
คือ
ธรรมชาติขององคกรที่ถือวาดีเลิศนั้นมีคุณลักษณะเปนเชนไรบาง? มีอะไรเปนตัวอยางที่ชัดเจน
และเปนรูปธรรม ? แลวหลังจากนั้นใหนักศึกษา ทบทวนวา ภาษาและกิริยาอาการที่แสดงถึง
ความเปนเลิศเทาที่เห็นนั้นเปนเชนไรในองคกรดังกลาว? และในชวงทาย ใหนักศึกษารายงานถึง
สิ่งที่ไดสังเกตเห็นในเรื่องดีๆโดยปราศจากการ พูดคุยหรือสนทนาในสิ่งที่ไมดี
4. ทฤษฏีองคการ ในชวงป ๒๕๓๕ เดวิด โคออปเปอรริเดอร เริ่มใชสุนทรียปรัศนี
เปนรูปแบบของการทําหลักสูตรพํฒนาองคกร ไดนําเอาทฤษฏีองคการมาผสมผสานกัน
ทําวิจัยในรูปแบบการพํฒนา ผูนําการเปลี่ยนแปลงไดบงชี้วาความสําคัญที่ทําใหองคกร
6
ประสพความสําเร็จนั้น คือการสื่อสาร 2 ทางที่เทาเทียมกัน และขอมูลที่ไดก็นํามาใช
ปรับทัศนคติของผูเรียนได รวมถึงบอกไดวามีปจจัยใดที่นําไปสูความเปนเลิศของ
องคการ
5. การสัมภาษณผูนําการเปลี่ยนแปลง สวนใหญในหลักสูตรปริญญาตรี มักไมคอยมีการ
สัมภาษณ หรือสนทนากับใครในเรื่องที่ตน กําลังศึกษาอยู วิธีการนี้จะมีประโยชนคือ
การสรางคําถามชุดหนึ่งขึ้นมา แลวนํามาฝกหัดสัมภาษณกันและกัน แนนอนที่สุด คําถาม
เหลานั้นก็จะมุงเนนใหผูเรียนไดทบทวนผลงานที่ยอดเยี่ยมของตัวเองที่เคยทํามา (อาทิ
ระบบการทํางาน หรือบุคลิกภาพของตัวเอง ) หรือไมก็ แสดงละครกันในกลุม ถึง “การ
เปน ผูนําที่ดีเขาทํากันยังไง?” และ“มันจูงใจยังไงบาง?”
6. การนําเสนอ ตัวอยางสุดทายของปฏิบัติการสุนทรียศึกษาก็คือ ใหทดลองปฏิบัติการ
นําเสนอเปนกลุมอยางสรางสรรคและคิดกันเองเปนกลุม เปนโอกาสอันวิเศษที่จะทําให
นักศึกษาทํางานกันเปนทีม และการพูดในที่สาธารณะเปนงานใหนักศึกษาทําตองเตรียม
อยางประณีต
สิ่งที่อาจารยจะตองทบทวนกอนอื่น ลีลาการนําสูบทเรียนแตละครั้งเปนเชนไร? มีความ
ตื่นเตน มีชีวิตชีวา และนาสนใจหรือไม ? ประการสําคัญก็คือมีเทคนิกหรือกระบวนการมีสวนรวม
ของผูเรียนจริงหรือไม หากมีการจัดประสบการการเรียนรูที่มีลักษณะหรรษาวิชาการดวย ก็ยิ่งทํา
ใหมีเสนห ทําใหผูเรียนประทับใจมากขึ้นเปนทวีคูณ
กระบวนการดังกลาว สามารถทําใหการเรียนรู มีชีวิตชีวาสดใสสนุกสนานและผลที่ตามมาก็
คือนักศึกษาจะตระหนักมากยิ่งขึ้นถึงความสําคัญของการสนทนาอยางมีสวนรวม การคิดและวาง
แผนการทํางานรวมกันในฐานะ “ผูเรียนรู” และออกแบบจัดประสบการณเรียนรูของตัวเองและ
ของกลุม ไดอยางดีเยี่ยม ในเวลาตอมาไดเชนเดียวกัน
สิ่งที่ชวยไดมากในการเรียนรูก็คือ
1.คําถามที่เสริมสรางพลังใจงายๆ และถามถึง สิ่งที่เขาคุนเคยหรือมีอยูแลว
2.คําถามที่เปดโอกาสใหนักศึกษาไดเห็นถึงสิ่งที่ใชการไดดีในอดีต เปนทุนสํารอง
และศักยภาพของตัวเองที่คนพบได บางคนอาจจะหาตัวตนพบไดในเวลาเดียวกัน
3.กิจกรรมการเรียนการสอนที่เปดโอกาสการเรียนรู ตั้งแตการทดลอง การปฏิบัติการ
และการสะทอนความรูสึกภายหลังจากที่ปฏิบัติเสร็จแลว และการสรางเงื่อนไขที่ทําให
นักศึกษารูสึกถึงสิ่งที่เขาทําสําเร็จเปนหลัก
7
ดังนั้นสิ่งสําคัญที่อาจารยจะตองเตรียมตัวและเตรียมใจก็คือ การปรับบทบาทความ
เปนครูแบบดั้งเดิมในฐานะของผูประสาทวิชา โดยมีครูเปนศูนยกลาง มาเปนผูเอื้ออํานวย
ใหเกิดการเรียนรูที่ผูเรียนเปนศูนยกลาง จากที่สงเสริมความคิดแบบปจเจกมาเปนความคิด
แบบรวมหมู จากที่เคยคับแคบใชวิธีสั่งการและหาคําตอบที่ถูกตองสอดคลองกับครูมาเปน
การแสดงความคิดเห็นแบบประชาธิปไตย มีความคิดหลากหลายที่งดงามได นั่นหมายถึง
ประชาธิปไตยในรูปแบบพหุนิยม ที่เคารพในความคิดของผูอื่นและตัวเองดวย ซึ่งทาทาย
อยางยิ่งตอการจัดการศึกษาในแนวเพาะบม “ความเปนไท”ใหกับผูเรียนเอง
โจทยที่อาจารยจะตองขบคิดเพื่อสรางบรรยากาศแหงการเรียนรูใหมก็คือ
1. ทําอยางไรจึงจะทําใหผูเรียนมีความบันดาลใจในการรวมกันระดมความคิดในทีมงาน
ของตนเอง ?
ดังนั้นผูสอนจะตองพยายามสราง “ชุดคําถาม” ที่นําไปสูการระดมความคิด
คนหาความดีงาม และสิ่งเปนประสบการณความสําเร็จที่วิเศษของผูเรียน เปนหลัก
ก.)แมนักศึกษาจะนําปญหามาถาม ทางออกก็คือ การใหหลักคิด โดยใหมองหาสิ่ง
ที่ใชการไดสถานการณ แหงปญหานั้นแลวเปลี่ยนคําวา“ปญหา”มาเปน“ความทาทายที่จะ
เปลี่ยนแปลงไปสูสิ่งที่ดีกวา”เปนสําคัญ แลวนํามาถอดบทเรียน อาทิ “อะไรทําใหทีมงาน
ยังสามารถทํางาน หรืออยูกันไดในขณะที่มีปญหาเกิดขึ้น”
ข.)หากนักศึกษามีความกังวล หรือกระวนกระวายเมื่อเจอสถานการณบางอยางที่
กดดัน ใหอาจารยอยูกับเขาและแนะนําใหเขาคนหาประสบการณที่ใกลเคียงกับความหมาย
เดิมของประเด็นที่เปนปญหา
2.ทําอยางไรจึงจะฉายใหเห็นปจจัยที่ทีผลทําใหทุกสิ่งใชการได และใหมองหาโอกาสและ
ความเปนไปได
3.ทําอยางไรจึงจะเราอารมณนักศึกษาสนใจวิธีการที่จะนําไปสูความ สําเร็จเปนสําคัญ
เนื่องจาก ประสบการณแหงความสําเร็จและสวนที่ดีที่สุดของปฏิบัติการทั้งหลาย สามารถ
ปลดปลอยสิ่งที่ดีที่มีอยูภายในตัวของผูเรียนออกมาไดอยางเปนธรรมชาติ ทําใหเขาจินตนาการเปน
และสามารถจินตนาการในสิ่งที่ดีที่สุดไดซึ่งจะเปนหนทางที่ทําใหเขามีปฏิบัติการที่ดีที่สุดได
เชนเดียวกัน
8
ผลพวงของสุนทรียศึกษา
นอกจากสุนทรียศึกษาจะเปนเครื่องมือที่มีประโยชนในการจัดการกับชั้นเรียนแลว
ประโยชนที่ไดรับมากกวานั้นก็คือ ในขณะที่มีการเรียนรู ระหวางกันในสิ่งดีงาม จะทําใหผูเรียน
รูจักตนเองมากขึ้น นับถือตนเอง และมีความมั่นใจมากขึ้นกวาเดิม และที่สําคัญก็คือ ผูเรียนเกิดความ
บันดาลใจ เมื่อไดรับคําถามที่เสริมสรางพลังจากครู
สุนทรียศึกษาจะทําใหเกิดผลลัพธที่ชื่นชูใจกับนักศึกษาทั้งในทันทีทันใด หรือไมก็มีการสั่ง
สมไปทีละเล็กละนอย กลาวคือ
1.)เราไดสังเกตเห็นถึงพลังที่เกิดขึ้นจากการเรียนรูและ การปฏิสัมพันธระหวางนักศึกษาดวยกัน
ในทางที่ดี เรามักไดยินคําถามบอยครั้งวาเมื่อไหร จะมีการเรียนรูเชนนี้อีก และมีสถานการณที่
นําไปสูระดับที่สูง หรือลึกซึ้งไปกวานี้อีก
2.)นักศึกษามีความรูสึกดีมั่นใจและปลอดภัยเนื่องจากการพูดจาสนทนาถึงสิ่งดี ๆ กับกลุมทําให
ความลังเลและหวาดกลัวลดนอยลง
การฉายภาพในทางที่ดีตอตัวใครก็ตามเปนการใหเกียรติในประสบการณของเขาไปในตัว
และเมื่อคําถามวามันเกิดขึ้นไดอยางไร สิ่งที่ไดรับสะทอนกลับภายหลังจากกิจกรรมผานไปแลวก็
คือ “มันงายมากที่จะพูดถึงใครบางคนที่อยูในระหวางปฏิบัติการที่ดีที่สุดของฉัน”
และ “เมื่อพูดถึงความลมเหลว ฉันไดกลบความจริงบางอยางไวมิกลาพูด แมกระทั่งกับตัว
ฉันเอง”
3.) ภาพจากจินตนาการที่เปนความหวังในอนาคตจะ ชวยเสริมสรางพลังในตัวเขาเอง( ทําใหเขา
สามารถทําอะไรไดในอนาคตไดดีกวา เมื่อเปรียบเทียบกับภาพในจินตนาการที่วางเปลา) พลังที่
เกิดขึ้นจากความบันดาลใจจะทําใหเกิดความคิด และนวัตกรรมที่สรางสรรคไดดีกวา
มีผูตั้งคําถามวาเมื่อเราพูดกันแตความสําเร็จและสิ่งดีงามแลว ในสวนที่ไมดีละมีหรือไมและ
หากมีเราจะทําอยางไรกับมันดี?
คําตอบก็คือ กอนอื่นเราตองเริ่มตนที่ ชีวิตจริงมิไดโรยดวยกลีบกุหลาบ เราเชื่อวา
ภาพลักษณที่เลวรายก็ดึงความสนใจที่จะใหเรียนรูไดเชนเดียวกัน แตเราสามารถเรียนรูไดดีที่สุด ใน
สิ่งที่ใชการไดและใชไดผลมากกวาสวนที่เลวราย
ดังนั้นแทนที่จะใชเวลาใหสูญเสียไปกับสิ่งปรักหักหักพังเราควรใชสมาธิในสวนที่เปนการ
มองโลกในดานดี เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ความปรักหักพัง และความผิดพลาดนั้นเราทําไดอยางดีที่สุด
แคซอมแซม แกไข และดูเยี่ยงไวไมใหเอาอยาง ในขณะที่ปญญาที่ไดจากการปฎิบัติดีนั้นสามารถ
นํามาตอยอด เสริมสรางใหดียิ่งขึ้น และเสริมสรางพลังทีมงานไดดวย
9
4.) นักศึกษา เชื่อในตัวเองมากขึ้นและมีความมั่นใจในประสบการณของตนเอง การมีสวนรวมจึงมี
บรรยากาศที่ดี ซึ่งตรงนี้ถือวาเปนสิ่งเปราะบางเนื่องจากการเรียนรูในโรงเรียนหรือวิทยาลัย ที่อาศัย
ตํารา หนังสือและครูคือคําตอบสุดทาย
5.) นักศึกษา มีทักษะและความมั่นใจในสุนทรียปรัศนีวา เปนทางเลือกที่จะทําใหริเริ่มสรางสรรค
แทนการวิเคราะหและแกไขปญหา วิธีการแกไขปญหาแบบดั้งเดิม คือกิจกรรมอันทรงพลังที่เราเคย
เชื่อวามันใชการไดดี การตรงเขาไปสูปญหาทําใหเรา เขาไปอยูในวังวนของความคิดเดิม คือการ
แกไขสิ่งปรักหักพัง ซึ่งในทายที่สุดเราก็พบวา ที่ทําไดอยางดีที่สุดก็คือการลดปญหา หรือการ
เยียวยาเทานั้นเอง ในขณะที่การตกผลึกความคิดที่ดีงามที่ตนเองเคยมีประสบการณมาแลวในอดีด
นําไปสูการสรางวิสัยทัศนในทางที่ดี ทําใหหลุดจากกรอบความคิดเดิม ที่เอาปญหาเปนตัวตั้ง ซึ่ง
เปลี่ยนผานระบบคิดที่อาศัยปญญาเปนตัวจุดประกาย สามารถกอเกิดนวัตกรรมไดอยางคาดไมถึง
ยิ่งไปกวานั้นก็คือ สุนทรียปรัศนีแตะเขาไปในเรื่องของการคนพบพรสวรรคที่ซอนตัวอยู
ภายในตัวของผูเรียน ซึ่งจะทําใหผูเรียนนําเอาศักยภาพของตนเองออกมาใชไดอยางนาอัศจรรย
การเขาถึงชีวิตในฐานะ เปนสิ่งมหัศจรรย ดูจะมีชีวิตชีวาที่จะกอใหเกิดความเปลี่ยนแปลง
ไดมากกวาชีวิตที่รุมลอมดวยปญหาที่จําเปนจะตองไดรับการแกไขเปนแนแท !
6.) ทัศนคติบวกตอนักศึกษาวาเปนผูรูมีคุณคาและเปนของจริง
สุนทรียปรัศนี จะชวยเปดโลกของการเรียนรูในชั้นเรียน พบตัวเองวางอกงาม เจริญเติบโต
ในระยะเริ่มแรกของการพัฒนาตนเอง ซึ่งเปนรากฐาน สําคัญสําหรับเรียนรูทางวัฒนธรรมที่
สรางสรรคและสรางเสริมสุขภาพตนเองไดอีกตางหาก ไมวา ทางกาย ใจ สังคมหรือจิตวิญญาณ
นักศึกษาสวนใหญสามารถรายงานไดอยางกระตือรือรนวาพวกเขามีประสบการณที่ดีใน
การทํางานรวมกันเปนทีมมากยิ่งขึ้น มีการคนพบที่นาตื่นเตนรวมกับคนแปลกหนา และเขาใจเพื่อน
และมุมมองของเพื่อนมากขึ้น นี่เปนความลึกซึ้งยิ่งขึ้นของการใชพลังชีวิตรวมกันระหวางมนุษยตอ
มนุษยในอนาคต และทําใหสัมพันธภาพของผูเรียนในชั้นเรียนแนบแนนขึ้นอีกดวย
ในทางกลับกัน การฟงคําบรรยายในชั้นเรียนจากอาจารยเปนวัฒนธรรมแบบปจเจกอยาง
เห็นไดชัดกลาวคือ อากัปกิรียาเพงตรงไปที่อาจารยเปนหนึ่งเดียว และแบบตัวใครตัวมัน เพื่อจะซึม
ซับในสิ่งที่อาจารยถายทอด ในขณะที่กระบวนการของสุนทรียศึกษา เปนเรื่องของการรับฟง
เรื่องราวดีงามของกันและกัน เปนกระบวนการกลุม ที่ทําใหเขาใจสังคม โลก และชีวิตของคนอื่น
ไดมากขึ้น ในขณะ เดียวกัน ก็เผยใหเห็นถึงสิ่งดีๆ และสิ่งที่ตนเองคิดวาดีที่สุด ตอคนอื่นไดอยางไม
เกอเขิน และเปนโอกาสดีที่ไดแลกเปลี่ยนเรียนรูซึ่งกันและกัน มันเปนสํานึกแหงการเกาะเกี่ยวพึ่งพา
อาศัยกันและกัน เคารพนับถือซึ่งกันและกัน ในบรรยากาศแหงความเอื้ออาทร การแบงปน การ
สนับสนุนและรวมงานกันอยางเคียงบาเคียงไหลหรืออาจไปไกลจนถึงการรวมหัวจมทายในฐานะ
พันธมิตรหรือภาคีคนหนึ่งหรือแมกระทั่งในฐานะของแนวรวมแลวแตวาการจัดประสบการณ
เรียนรูจะกอใหเกิดความบันดาลใจขนาดไหน
10
7.) สุนทรียศึกษา ใหบทบาทของความเปนครูในฐานะผูจัดประสบการณเรียนรูเปนดานหลัก
นั่นคือ ครูมีบทบาทเปนผูชี้แนะ ผูจุดประกาย เปนวิทยากรกระบวนการ เปนผูประสาน
สัมพันธ ผูเสริมสรางพลังใจ และผูกอกระแสกลุมพลัง ซึ่งถือวาเปนผลตามที่ดีของการเรียนการ
สอนในปจจุบัน นักศึกษาได มองโลกในแงดี มี่นใจในตนเองและ มีความสุขขณะที่เรียนรูไปดวย
เปนหรรษาวิชาการ และทําใหอะไรงายเขา ซึ่งในทางปฏิบัติ เราพบวาเปนความงายยิ่งขึ้นที่จะ
กอใหเกิด พัฒนาการในตัวผูเรียนเอง เนื่องจากเปนการเรียนรูจากประสบการณของตัวเอง
สิ่งที่ไดพบเห็น และไดยิน เรื่องราวประสบการณแหงความสําเร็จเกิดขึ้นกับ
นักศึกษาคนแลวคนเลา จะทําใหครูมีความรูสึกยินดี มํากําลังใจสอนมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งเหลานี้ถือ
เปนวัตถุดิบนําเขา เพื่อการเรียนรูใหลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก และเมื่อเราพึมพํากับตัวเองว า “เออจริงซิ”
หรือ“ใชแลว”ก็ยิ่งทําใหเราเห็นวาเราเดินทางมาในหนทางที่ถูกตอง
ทั้งผูจัดประสบการเรียนรู และนักศึกษาเอง การจัดวางกรอบความคิดในทางบวก
ถือวาเปนพลังสําคัญในชั้นเรียนที่จะสรางความบันดาลใจ อยากรูอยากเห็นและอยากคนควาหา
ความรูใหม ทําใหมองเห็นหนทางที่เปนไปไดใหมๆมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเปนความหมายและทิศทาง
ใหมของการศึกษา เราไดพบ การจัดวางกรอบความคิดในความสํานึกถึงคุณคาของความเปนมนุษย
ในตัวผูเรียน ซึ่งเปนพลังชุมชนแหงการเรียนรู และเขาใกลวัตถุประสงคที่แทจริงของการศึกษาเพื่อ
ความเปนไท ซึ่งเราเชื่อและหวังวา กิจกรรมทั้งหลายที่มีรากเหงามาจาก สัมมาทิฐิ จะมีมากขึ้นใน
มวลมนุษยชาติ ซึ่งถือเปนความทาทายอยางยิ่งของวงการศึกษาที่กําลังหาทางปฏิรูปการศึกษาใน
แวดวงของตนเอง เพื่อมุงสูอิสรภาพอยางแทจริง
ปจฉิมกถา: ผูเขียนขอฝากขอสังเกตเพื่อกอใหเกิดการวิภากษในวันขางหนาเกี่ยวกับกระบวนการ
แหงสุนทรียศึกษา ไวอยางยนยอ 6 ประการเพื่อใหเขาใจและจดจําไดงาย กลาวคือสุนทรียศึกษา
เปนเรื่องของ......
1) การเพิ่มเติมเสริมสรางจากขางใน (Internalization)
2) การกอเกิดความบันดาลใจใหรวมคิด (Inspiration)
3) การรวมเนรมิตนวัตกรรม (Innovation)
4) การรวมเหนี่ยวนําสูปฏิบัติการ (Implementation)
5) การรวมสรางพื้นฐานการพัฒนา (Improvement)
6) การศึกษาที่ทําใหเกิดภูมิคุมกัน (Immunity)
ดวยความเชื่อในพุทธปรัชญาที่วา สัตวโลกยอมเปนไปตามกรรม (กัมมุณา วัตติ โลโก) เรา
สามารถเปนพุทธะได หากเราคนพบ“อริยะมรรค”ไดดังเชนที่พระพุทธองคทรงคนพบ
ความเปนพุทธะ คือความเปนผู รู ผูตื่น ผูเบิกบาน สิ่งสําคัญที่พระพุทธเจาทรงคนพบและ
สถาปนาตนเองเปนพุทธะไดนั้นคืออริยะสัจจะ การเริ่มตนจากสิ่งดีงาม ที่รํารึกไดวา “เคยทํา” จะ
11
เปนปจจัยหนุนเนื่องใหเกิด สิ่งดีงามอีกหลายหลากตามมา ไมวาจะเปนความคิดเห็นที่ดี
(สัมมาทิษฐิ)( สัมมากัมมันตะ)วาจาที่ไพเราะ( สัมมาวาจา)( สัมมาสังกัปปะ)( สัมมาวายามะ)สติ
ดี( สัมมาสติ)มี( สัมมาสมาธิ ) และดวยหลักแหงการหนุนเนื่องนั้นเอง(อิทัปปจจัยตา) ก็สามารถ
จะทําให คน กลุมคน ชุมชน และสังคม “จุติใหม” (Reincarnation)ในโลกใบนี้ กองทุกข
กองนี้ และเปลี่ยนแปลง ไปสูโลกที่ดีกวาไดไมยากนัก “ใจ” เปนผูนําสรรพสิ่ง “ใจ”เปนใหญ ทุก
สิ่งสําเร็จไดดวย”ใจ” หากคิด พูด ทํา ในสิ่งดี หรือชั่ว ฉันใด ความสุข หรือความทุกขก็จะติดตาม
ตัว เหมือนลอเกวียนหมุนเตา ตามรอยเทาโคฉันนั้น
และทายที่สุดนี้ ขอผนวกบทเพลง 2 ลีลาที่อาจทําใหบทความชิ้นนี้อานแลวผอนคลายไม
หนักไปในทางวิชาการมากเกินไป แมจะมีเนื้อหาบริบทตางกัน แตเปาหมายในบทเพลงนั้นพอง
พานกันยิ่งนัก
ความรักที่ยิ่งใหญที่สุดทั้งหลายทั้งปวง
(อยูที่นี่ และตรงนี้ กับผูเรียนของเรา)
ฉันเชื่อวาเด็กทั้งหลายคืออนาคตของเรา
ฟูมฟกเขาใหดีและใหโอกาสเขาไดกาวไปในทิศทางที่เขาปรารถนา
แสดงใหเขาเห็นถึงความงดงามที่มีอยูภายในจิตใจของเขา
ใหเกียรติเขาและปลูกฝงใหเขารูสึกภาคภูมิใจในตนเอง
ถาจะใหงายขึ้นอีกก็คือ มาทําใหเขาไดหัวเราะกันอยางเบิกบาน
ดังเชนที่เราไดเคยสัมผัสในเยาววัย
ทุกชีวิตตางแสวงหาวีรบุรุษในดวงใจของตนเอง
ฉันเองก็ไมรูเหมือนกันวาเขาไปหากันที่ไหน
และฉันก็ไมพบวาใครจะเปนแบบอยางใหฉันไดดังปรารถนา
มันเปนความรูสึกอางวาง ในโลกที่อยูยากในปจจุบัน
ดังนั้นฉันจึงเรียนรูที่จะพึ่งพาตนเอง
ฉันปรารถนามานานแลวที่จะไมครอบงําหรืออยูภายใตเงื้อมเงาของใคร
หากฉันประสพความสําเร็จหรือแมลมเหลวฉันก็ไมหวั่น
เพราะ อยางนอยที่สุด ฉันก็ไดทําในสิ่งที่ฉันเชื่อ
และแมนใครจะบังอาจยื้อยุดฉุดกระชากวิญญาณของฉันไป ทําใหฉันสูญเสัยทุกอยาง
เขาก็ไมอาจฉุดกระชากเกียรติศักดิ์ของฉันไปดวยได
เพราะฉันไดพานพบแลววา ความรักอันยิ่งใหญนั้นบังเกิดแลวแกตัวฉัน
12
เพราะฉันไดพานพบแลววา ความรักอันยิ่งใหญที่สุดนั้นอยูภายในตัวของฉันเอง
ความรักอันยิ่งใหญทั้งปวงนั้นงายแกการทําอะไร ๆใหสําเร็จได
ความรักอันยิ่งใหญนั้นคือรูจัก“รัก”ตัวเอง ซึ่งไมไดหมายถึง“หลงรัก”ตัวเอง
หากแตรูซึ้งถึงคุณคาของตัวเอง
และการไดเรียนรูที่จะรักตัวเองตางหาก คือ ความรักอันยิ่งใหญทั้งปวง
และหากจะมีเหตุบังเอิญตองไปอยูในที่พิเศษแหงหนใดก็ตามที่ทานเคยฝนไว
คือไดพบความรัก มีครอบครัวที่อบอุน และประสพความสําเร็จในงานที่ทํา
จงเขาไปอยูในมุมสงบ แลวคนหาพลังแหงความรักอันกลาแกรงของทานเองใหเจอ
แปลจากเนื้อเพลงยอดนิยมอันดับหนึ่งของ Whitney Houston ป๒๕๒๙
–The Greatest Love of All
มหาวิทยาลัยในฝน
หากจะเปรียบมหา’ลัยเปนดั่งเชนเตาเผา คณะก็คงเหมือนเบา ที่หลอมพวกเราออกมา
ถานกอนแดงที่โหมไฟแรงคือ ภาควิชา ที่หลอมคนใหมีคา อีกพัฒนาใหสมคาคน
กอนจะสอบเอ็นทรานสเขามาศึกษา แขงขันกันดังเหมือนบา กวดวิชาไปทุกแหงหน
ผานเขามามุงหวังปริญญาคาลน กลับพบแตความหมองหมน ไมเหมือนที่ตนตั้งใจ
ยามเรียนหางไกลผูใหความคิด จะหวังเพื่อนที่ใกลชิด ก็มีแตความหมองไหม
ประคองตัวเองมิใหตองถูกรีไทร ตางเหยียบบากันไป เหมือนไตบันไดอาถรรพ
ขอวอนกราบพอพิมพแมพิมพทั้งหลาย ไดโปรดหลอหลอมเหลาบัณฑิตไทย
เหมือนที่คนเขาหมายมั่น ประสาทวิชา ประสานดวงใจ คิดใฝสรางสรรค กระตุนใหคนรักกัน
บากบั่นเพื่อคนยากไร
อยาใหเปรียบมหา’ลัยเปนเชนสนามรบ ที่คิดถึงเพียงวันชีพจบในชวงอนาคตใกล ใหการศึกษา
สมดังปรัชญามหา’ลัย บรรลุเปาหมายยิ่งใหญ เพื่อลูกหลานไทยแทจริง
เนื้อเพลง : อุทัยวรรณ กาญจนกามล
13
14

More Related Content

What's hot

ปรัชญาอัตถิภาวนิยม Existentialism ตอน ทัศนะต่อโลกของปรัชญาอัตถิภาวนิยม
ปรัชญาอัตถิภาวนิยม Existentialism ตอน ทัศนะต่อโลกของปรัชญาอัตถิภาวนิยมปรัชญาอัตถิภาวนิยม Existentialism ตอน ทัศนะต่อโลกของปรัชญาอัตถิภาวนิยม
ปรัชญาอัตถิภาวนิยม Existentialism ตอน ทัศนะต่อโลกของปรัชญาอัตถิภาวนิยมPadvee Academy
 
ความคิดสร้างสรรค์ สร้างได้ (Creative Thinking)
ความคิดสร้างสรรค์ สร้างได้ (Creative Thinking)ความคิดสร้างสรรค์ สร้างได้ (Creative Thinking)
ความคิดสร้างสรรค์ สร้างได้ (Creative Thinking)Padvee Academy
 
โครงการจิตอาสาพัฒนาห้องน้ำโรงเรียนบ้านบัว อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
โครงการจิตอาสาพัฒนาห้องน้ำโรงเรียนบ้านบัว อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่นโครงการจิตอาสาพัฒนาห้องน้ำโรงเรียนบ้านบัว อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
โครงการจิตอาสาพัฒนาห้องน้ำโรงเรียนบ้านบัว อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่นอนุชา โคยะทา
 
การจัดบรรยากาศในชั้นเรียน
การจัดบรรยากาศในชั้นเรียนการจัดบรรยากาศในชั้นเรียน
การจัดบรรยากาศในชั้นเรียนaeimzaza aeimzaza
 
ใบความรู้สาระเศรษฐศาสตร์
ใบความรู้สาระเศรษฐศาสตร์ใบความรู้สาระเศรษฐศาสตร์
ใบความรู้สาระเศรษฐศาสตร์krunimsocial
 
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราPPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราIam Champooh
 
การวัดและประเมินผลทักษะการคิด
การวัดและประเมินผลทักษะการคิดการวัดและประเมินผลทักษะการคิด
การวัดและประเมินผลทักษะการคิดIct Krutao
 
เป้าหมายของชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนา
เป้าหมายของชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนาเป้าหมายของชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนา
เป้าหมายของชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนาศศิพร แซ่เฮ้ง
 
โครงงานเรื่องกล่องเอนกประสงค์จากไม้ไอติม
โครงงานเรื่องกล่องเอนกประสงค์จากไม้ไอติมโครงงานเรื่องกล่องเอนกประสงค์จากไม้ไอติม
โครงงานเรื่องกล่องเอนกประสงค์จากไม้ไอติมtanapatwangklaew
 
ทฤษฎีการสร้างความรู้
ทฤษฎีการสร้างความรู้ทฤษฎีการสร้างความรู้
ทฤษฎีการสร้างความรู้Rainbow Tiwa
 
เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ
เศรษฐกิจพอเพียง  ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง  ตามแนวพระราชดำริ
เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริKawow
 
NIADEI the innovation's method
NIADEI the innovation's methodNIADEI the innovation's method
NIADEI the innovation's methodpantapong
 
ทฤษฏีไวก็อตสกี้
ทฤษฏีไวก็อตสกี้ทฤษฏีไวก็อตสกี้
ทฤษฏีไวก็อตสกี้Proud N. Boonrak
 
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิดทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิดNote Na-ngam
 
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)rutchadaphun123
 
กิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศกิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศPanatda Maraphong
 
เค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทย
เค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทยเค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทย
เค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทยPiyarerk Bunkoson
 
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็คtumetr1
 
กิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศกิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศJutarat Bussadee
 

What's hot (20)

ปรัชญาอัตถิภาวนิยม Existentialism ตอน ทัศนะต่อโลกของปรัชญาอัตถิภาวนิยม
ปรัชญาอัตถิภาวนิยม Existentialism ตอน ทัศนะต่อโลกของปรัชญาอัตถิภาวนิยมปรัชญาอัตถิภาวนิยม Existentialism ตอน ทัศนะต่อโลกของปรัชญาอัตถิภาวนิยม
ปรัชญาอัตถิภาวนิยม Existentialism ตอน ทัศนะต่อโลกของปรัชญาอัตถิภาวนิยม
 
ระบบใบสำคัญจ่าย 2
ระบบใบสำคัญจ่าย 2ระบบใบสำคัญจ่าย 2
ระบบใบสำคัญจ่าย 2
 
ความคิดสร้างสรรค์ สร้างได้ (Creative Thinking)
ความคิดสร้างสรรค์ สร้างได้ (Creative Thinking)ความคิดสร้างสรรค์ สร้างได้ (Creative Thinking)
ความคิดสร้างสรรค์ สร้างได้ (Creative Thinking)
 
โครงการจิตอาสาพัฒนาห้องน้ำโรงเรียนบ้านบัว อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
โครงการจิตอาสาพัฒนาห้องน้ำโรงเรียนบ้านบัว อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่นโครงการจิตอาสาพัฒนาห้องน้ำโรงเรียนบ้านบัว อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
โครงการจิตอาสาพัฒนาห้องน้ำโรงเรียนบ้านบัว อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
 
การจัดบรรยากาศในชั้นเรียน
การจัดบรรยากาศในชั้นเรียนการจัดบรรยากาศในชั้นเรียน
การจัดบรรยากาศในชั้นเรียน
 
ใบความรู้สาระเศรษฐศาสตร์
ใบความรู้สาระเศรษฐศาสตร์ใบความรู้สาระเศรษฐศาสตร์
ใบความรู้สาระเศรษฐศาสตร์
 
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราPPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
 
การวัดและประเมินผลทักษะการคิด
การวัดและประเมินผลทักษะการคิดการวัดและประเมินผลทักษะการคิด
การวัดและประเมินผลทักษะการคิด
 
เป้าหมายของชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนา
เป้าหมายของชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนาเป้าหมายของชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนา
เป้าหมายของชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนา
 
โครงงานเรื่องกล่องเอนกประสงค์จากไม้ไอติม
โครงงานเรื่องกล่องเอนกประสงค์จากไม้ไอติมโครงงานเรื่องกล่องเอนกประสงค์จากไม้ไอติม
โครงงานเรื่องกล่องเอนกประสงค์จากไม้ไอติม
 
ทฤษฎีการสร้างความรู้
ทฤษฎีการสร้างความรู้ทฤษฎีการสร้างความรู้
ทฤษฎีการสร้างความรู้
 
เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ
เศรษฐกิจพอเพียง  ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง  ตามแนวพระราชดำริ
เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ
 
NIADEI the innovation's method
NIADEI the innovation's methodNIADEI the innovation's method
NIADEI the innovation's method
 
ทฤษฏีไวก็อตสกี้
ทฤษฏีไวก็อตสกี้ทฤษฏีไวก็อตสกี้
ทฤษฏีไวก็อตสกี้
 
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิดทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
 
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
 
กิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศกิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศ
 
เค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทย
เค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทยเค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทย
เค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทย
 
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
 
กิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศกิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศ
 

Viewers also liked

Appreciative inquiry in facilitator's world uthaiwan kanchanakamol
Appreciative inquiry in facilitator's world  uthaiwan kanchanakamolAppreciative inquiry in facilitator's world  uthaiwan kanchanakamol
Appreciative inquiry in facilitator's world uthaiwan kanchanakamolDental Faculty,Phayao University.
 
แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบokแผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบokDental Faculty,Phayao University.
 
55 05-01 การศึกษาทุนทางสังคมกระบี่
55 05-01 การศึกษาทุนทางสังคมกระบี่55 05-01 การศึกษาทุนทางสังคมกระบี่
55 05-01 การศึกษาทุนทางสังคมกระบี่Dental Faculty,Phayao University.
 
Php 5 Power Programming
Php 5 Power ProgrammingPhp 5 Power Programming
Php 5 Power Programmingkansas
 
อัตชีวประวัติ อุทัยวรรณ กาญจนกามล 56 สั้น
อัตชีวประวัติ อุทัยวรรณ กาญจนกามล 56 สั้นอัตชีวประวัติ อุทัยวรรณ กาญจนกามล 56 สั้น
อัตชีวประวัติ อุทัยวรรณ กาญจนกามล 56 สั้นDental Faculty,Phayao University.
 
สุนทรียปรัศนีที่ ห้วยเฮี๊ยะ
สุนทรียปรัศนีที่ ห้วยเฮี๊ยะสุนทรียปรัศนีที่ ห้วยเฮี๊ยะ
สุนทรียปรัศนีที่ ห้วยเฮี๊ยะDental Faculty,Phayao University.
 
คู่มือ นวัตกรสังคม เนื้อหาหลักสูตร
คู่มือ นวัตกรสังคม เนื้อหาหลักสูตรคู่มือ นวัตกรสังคม เนื้อหาหลักสูตร
คู่มือ นวัตกรสังคม เนื้อหาหลักสูตรDental Faculty,Phayao University.
 
หลักสูตรการเสริมสร้างพลังชุมชน สำหรับอสม.และ เจ้าหน้าที่ สาธารณสุข
หลักสูตรการเสริมสร้างพลังชุมชน สำหรับอสม.และ เจ้าหน้าที่ สาธารณสุขหลักสูตรการเสริมสร้างพลังชุมชน สำหรับอสม.และ เจ้าหน้าที่ สาธารณสุข
หลักสูตรการเสริมสร้างพลังชุมชน สำหรับอสม.และ เจ้าหน้าที่ สาธารณสุขDental Faculty,Phayao University.
 
สุนทรียปรัศนี in facilitator's world uthaiwan kanchanakamol
สุนทรียปรัศนี in facilitator's world  uthaiwan kanchanakamolสุนทรียปรัศนี in facilitator's world  uthaiwan kanchanakamol
สุนทรียปรัศนี in facilitator's world uthaiwan kanchanakamolDental Faculty,Phayao University.
 
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สากระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สาDental Faculty,Phayao University.
 
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวกการเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวกDental Faculty,Phayao University.
 
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...Dental Faculty,Phayao University.
 
แผนที่เดินดิน อุทัยวรรณ กาญจนกามล
แผนที่เดินดิน   อุทัยวรรณ กาญจนกามลแผนที่เดินดิน   อุทัยวรรณ กาญจนกามล
แผนที่เดินดิน อุทัยวรรณ กาญจนกามลDental Faculty,Phayao University.
 
ความหมายและความสำคัญของสุนทรียะ
ความหมายและความสำคัญของสุนทรียะความหมายและความสำคัญของสุนทรียะ
ความหมายและความสำคัญของสุนทรียะPop Punkum
 

Viewers also liked (19)

Appreciative inquiry in facilitator's world uthaiwan kanchanakamol
Appreciative inquiry in facilitator's world  uthaiwan kanchanakamolAppreciative inquiry in facilitator's world  uthaiwan kanchanakamol
Appreciative inquiry in facilitator's world uthaiwan kanchanakamol
 
แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบokแผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
 
A Social Vaccine for Globalization.Full paper.
A Social Vaccine for Globalization.Full paper.A Social Vaccine for Globalization.Full paper.
A Social Vaccine for Globalization.Full paper.
 
Andrea
AndreaAndrea
Andrea
 
55 05-01 การศึกษาทุนทางสังคมกระบี่
55 05-01 การศึกษาทุนทางสังคมกระบี่55 05-01 การศึกษาทุนทางสังคมกระบี่
55 05-01 การศึกษาทุนทางสังคมกระบี่
 
Php 5 Power Programming
Php 5 Power ProgrammingPhp 5 Power Programming
Php 5 Power Programming
 
อัตชีวประวัติ อุทัยวรรณ กาญจนกามล 56 สั้น
อัตชีวประวัติ อุทัยวรรณ กาญจนกามล 56 สั้นอัตชีวประวัติ อุทัยวรรณ กาญจนกามล 56 สั้น
อัตชีวประวัติ อุทัยวรรณ กาญจนกามล 56 สั้น
 
สุนทรียปรัศนีที่ ห้วยเฮี๊ยะ
สุนทรียปรัศนีที่ ห้วยเฮี๊ยะสุนทรียปรัศนีที่ ห้วยเฮี๊ยะ
สุนทรียปรัศนีที่ ห้วยเฮี๊ยะ
 
คู่มือ นวัตกรสังคม เนื้อหาหลักสูตร
คู่มือ นวัตกรสังคม เนื้อหาหลักสูตรคู่มือ นวัตกรสังคม เนื้อหาหลักสูตร
คู่มือ นวัตกรสังคม เนื้อหาหลักสูตร
 
หลักสูตรการเสริมสร้างพลังชุมชน สำหรับอสม.และ เจ้าหน้าที่ สาธารณสุข
หลักสูตรการเสริมสร้างพลังชุมชน สำหรับอสม.และ เจ้าหน้าที่ สาธารณสุขหลักสูตรการเสริมสร้างพลังชุมชน สำหรับอสม.และ เจ้าหน้าที่ สาธารณสุข
หลักสูตรการเสริมสร้างพลังชุมชน สำหรับอสม.และ เจ้าหน้าที่ สาธารณสุข
 
สุนทรียปรัศนี in facilitator's world uthaiwan kanchanakamol
สุนทรียปรัศนี in facilitator's world  uthaiwan kanchanakamolสุนทรียปรัศนี in facilitator's world  uthaiwan kanchanakamol
สุนทรียปรัศนี in facilitator's world uthaiwan kanchanakamol
 
นวัตกรสังคม FAME model Uthaiwan
นวัตกรสังคม FAME model Uthaiwanนวัตกรสังคม FAME model Uthaiwan
นวัตกรสังคม FAME model Uthaiwan
 
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สากระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
 
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวกการเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
 
Ai ที่ป่าไหน่ พัฒนา
Ai ที่ป่าไหน่ พัฒนาAi ที่ป่าไหน่ พัฒนา
Ai ที่ป่าไหน่ พัฒนา
 
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...
 
Ai ที่บางน้ำผึ้ง
Ai ที่บางน้ำผึ้งAi ที่บางน้ำผึ้ง
Ai ที่บางน้ำผึ้ง
 
แผนที่เดินดิน อุทัยวรรณ กาญจนกามล
แผนที่เดินดิน   อุทัยวรรณ กาญจนกามลแผนที่เดินดิน   อุทัยวรรณ กาญจนกามล
แผนที่เดินดิน อุทัยวรรณ กาญจนกามล
 
ความหมายและความสำคัญของสุนทรียะ
ความหมายและความสำคัญของสุนทรียะความหมายและความสำคัญของสุนทรียะ
ความหมายและความสำคัญของสุนทรียะ
 

Similar to สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน-

Best01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครูBest01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครูPrasong Somarat
 
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1  Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1 Prasong Somarat
 
Best1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครูBest1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครูPrasong Somarat
 
ปรัชญาการศึกษากับการเรียนรู้ของมนุษย์
ปรัชญาการศึกษากับการเรียนรู้ของมนุษย์ปรัชญาการศึกษากับการเรียนรู้ของมนุษย์
ปรัชญาการศึกษากับการเรียนรู้ของมนุษย์pentanino
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยNoppasorn Boonsena
 
วิถีสู่การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน
วิถีสู่การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืนวิถีสู่การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน
วิถีสู่การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืนJiraprapa Suwannajak
 
การบริหารการศึกษาPp
การบริหารการศึกษาPpการบริหารการศึกษาPp
การบริหารการศึกษาPpKamjornT
 
การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1Apinun Nadee
 
การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1Apinun Nadee
 
คู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากรคู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากรMontree Jareeyanuwat
 
คู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากรคู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากรMontree Jareeyanuwat
 
คู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากรคู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากรMontree Jareeyanuwat
 
1 กระตุกต่อมคิด
1 กระตุกต่อมคิด1 กระตุกต่อมคิด
1 กระตุกต่อมคิดNirut Uthatip
 
1.แนวคิดก..
1.แนวคิดก..1.แนวคิดก..
1.แนวคิดก..krupotjanee
 
Education problem of thailand
Education problem of thailandEducation problem of thailand
Education problem of thailandtenglifangad
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานสุชาติ องค์มิ้น
 
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วยภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วยPamkritsaya3147
 

Similar to สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน- (20)

Best01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครูBest01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครู
 
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1  Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
 
Best1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครูBest1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครู
 
ปรัชญาการศึกษากับการเรียนรู้ของมนุษย์
ปรัชญาการศึกษากับการเรียนรู้ของมนุษย์ปรัชญาการศึกษากับการเรียนรู้ของมนุษย์
ปรัชญาการศึกษากับการเรียนรู้ของมนุษย์
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
 
Learning by project
Learning by projectLearning by project
Learning by project
 
วิถีสู่การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน
วิถีสู่การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืนวิถีสู่การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน
วิถีสู่การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน
 
การบริหารการศึกษาPp
การบริหารการศึกษาPpการบริหารการศึกษาPp
การบริหารการศึกษาPp
 
การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1
 
การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1
 
คู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากรคู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากร
 
คู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากรคู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากร
 
คู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากรคู่มือครูและบุคลากร
คู่มือครูและบุคลากร
 
1 กระตุกต่อมคิด
1 กระตุกต่อมคิด1 กระตุกต่อมคิด
1 กระตุกต่อมคิด
 
996 File
996 File996 File
996 File
 
1.แนวคิดก..
1.แนวคิดก..1.แนวคิดก..
1.แนวคิดก..
 
Education problem of thailand
Education problem of thailandEducation problem of thailand
Education problem of thailand
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วยภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วย
 
วิจัย
วิจัยวิจัย
วิจัย
 

More from Dental Faculty,Phayao University.

สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามลสุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามลDental Faculty,Phayao University.
 
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...Dental Faculty,Phayao University.
 
เพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณ
เพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณเพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณ
เพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณDental Faculty,Phayao University.
 
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก อุทัยวรรณ กาญจนกามล
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก  อุทัยวรรณ กาญจนกามลการเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก  อุทัยวรรณ กาญจนกามล
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก อุทัยวรรณ กาญจนกามลDental Faculty,Phayao University.
 
การอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคม
การอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคมการอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคม
การอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคมDental Faculty,Phayao University.
 

More from Dental Faculty,Phayao University. (7)

Globalization Vaccine for Marginalize pelple in Health
Globalization Vaccine for Marginalize pelple in HealthGlobalization Vaccine for Marginalize pelple in Health
Globalization Vaccine for Marginalize pelple in Health
 
สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามลสุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
 
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
 
เพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณ
เพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณเพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณ
เพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณ
 
A Social Vaccine for Globalization.
A Social Vaccine for Globalization.A Social Vaccine for Globalization.
A Social Vaccine for Globalization.
 
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก อุทัยวรรณ กาญจนกามล
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก  อุทัยวรรณ กาญจนกามลการเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก  อุทัยวรรณ กาญจนกามล
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก อุทัยวรรณ กาญจนกามล
 
การอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคม
การอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคมการอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคม
การอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคม
 

สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน-

  • 2. ใจความโดยสรุป บทความชิ้นนี้กลาวถึง ประสบการณจากการนําวิชาครูที่รูคุณคาสิ่งดีงามมาใชในหองเรียน โดยเนน การประยุกตใชกระบวนการเรียนรูแบบ“สุนทรียปรัศนี” มาเปนกรอบคิดเพื่อการพัฒนาคน และ ทีมงาน วิชาครูที่“สํานึกรูในคุณคาสิ่งดีงาม”จะมุงเนนการสื่อสารระหวางผูเรียน โดยใช ประสบการณแหงความสําเร็จและปฏิบัติการที่ถือวาดีที่สุดที่เคยไดทํามาของทั้งเหลานักศึกษาและ อาจารยมาเปนตัวแบบและจุดประกายความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองในทางบวก โดยเชื่อวาการ คนหาประสบการณการทํางานที่เคยทําไดดีที่สุด มาแลกเปลี่ยนเรียนรู จะกอใหเกิดพลังความคิด และการกระทําในทางบวก กระบวนการดังกลาวจะทําใหผูเรียนมีความภาคภูมิใจที่ไดแสดงทัศนะ จากความสําเร็จของตนเอง กอใหเกิดความบันดาลใจระหวางผูเรียนใหรวมกันระดมความคิดและ เรียนรูจากสิ่งดีงาม ทําใหเกิดนวัตกรรมจากการรวมกันคิดรวมกันทํา ยังผลใหเกิดการเรียนรูและ ฝกปฏิบัติงานรวมกันอยางสนุกสนานมั่นใจ และสามารถตอยอดความคิดลึกซึ้งในเนื้อหาใหมที่จะ เรียนรูของผูเรียน อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพผูสอนไดมากยิ่งขึ้น อารัมภบท Poor teachers - tell พฤติกรรมของ“ครูแย”แคบอกสั่ง Ordinary teachers - expain “ครูทั่วไป”ใหเด็กฟงนั่งขานไข Good teachers - demonstrate ทําใหดูคือ“ครูดี”มีทัศนไกล Great teachers - inspire บันดาลใจใหมุงมั่นนั้น“ยอดครู” ก.)ฉันทาคติ ในประสบการณแหงความสําเร็จ ฐานคิดดั้งเดิมของวิชาครูนั้นเริ่มจากการอนุมาณวา“ผูเรียนไมรู” กระบวนการเรียนรูของ ผูเรียนจึงมักเริ่มจากสิ่งที่มาจากในตํารา และเนื้อหาของตําราก็มักจะมาจากภายนอกประสบการณ และนอกวิถีชีวิตของผูเรียนเปนดานหลัก ดังนั้น โจทยที่นํามาใหคิด ใหทดลอง หรือฝกปฏิบัติจึงมา จากภายนอกผูเรียนเกือบทั้งสิ้น ผลตามของการเรียนรูแบบดั้งเดิมก็คือ ความไมตระหนักถึงคุณคา ของสิ่งที่มีอยูในตนเอง ผูเรียนตระหนักอยูเสมอวาตนเองขาดแคลนความรู การแสวงหาความรูจึง เริ่มตนจากผูอื่น หรือสิ่งอื่นที่ไกลตัวออกไป บริบทของการเรียนจึงไมสอดคลองกับวิถีชีวิต สังคม สิ่งแวดลอมและวัฒนธรรมชุมชน หรือทองถิ่นของตนเอง ดังนั้น ยิ่งเรียนสูงขึ้น ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เทาใดก็ยิ่งหางจากภูมิธรรมของตนเอง หางไกลจากรากวัฒนธรรมชุมชน ไปจนกระทั่งเกิดความไร สํานึกและไรรากทางวัฒนธรรมในที่สุด นอกจากนั้นผลที่เห็นไดชัดจากกระบวนการการเรียนการ สอนดังกลาวก็คือ เกิด การแขงขันกันไขวควาหาความรู นอกตัวตน เกิดการแกงแยงแขงขัน สราง ความเคยชินใหกับตนเองดวยการ“เรียนพิเศษกับครูกวดวิชา” มีบรรยากาศเอื้ออํานวยใหเกิดการ 2
  • 3. เรียนรูแบบปจเจกสูงขึ้นเปนเงาตามตัว ขาดความเคารพ นับถือและใหเกียรติระหวางผูเรียนดวยกัน และความนับถือตนเองก็พลอยลดลงไปดวย จากความทาทายตอสิ่งที่เกิดขึ้นดังกลาว ทําใหนักการศึกษารวมสมัยหัวกาวหนาบางกลุม หันมาใหความสนใจกับ สิ่งที่มีอิทธิพลทางจิตใจของผูเรียน ใหความสําคัญกับทัศนคติในการเรียนรู มากขึ้นเปนลําดับ โดยถือวา ทัศนคติคือทุกสิ่ง (Attitude is everything) และในปลายศตวรรษที่ 20 ไดมีการเปลี่ยนแปลงทฤษฏีวาดวย“การเรียนรูจากการใชปญหาเปนตัวตั้ง” และการเนนหนัก ในเรื่องการแสวงหาความรูแบบดั้งเดิม มาเปน “การใชสติปญญาที่มีประสบการณอยูแลวในตัว ผูเรียนเปนฐาน” และเรียนรูในมุมมองตอโลกและชีวิตในดานบวกเปนปจจัยสําคัญ การทดลอง กระบวนการเรียนรูแบบใหมนี้ มีชื่อวา สุนทรียปรัศนี (Appreciative Inquiry) สุนทรีย(Appreciation) หมายถึง ความงดงาม ความรูสึกในคุณคาและความดีงามของสิ่ง ใดสิ่งหนึ่ง และ ปรัศนี (Inquiry) นั้นหมายถึง การแสวงหา การคนพบ หรือการตั้งคําถาม สุนทรียปรัศนี ในวิชาแหงความเปนครู คือกระบวนการเรียนการสอนที่เริ่มตนจากการ สรางบรรยากาศใหผูเรียนไดคนหาและแสดงออกถึงสิ่งดีงามที่ผูเรียนเคยมีประสบการณมากอน มี ความตระหนักถึงคุณคาของสิ่งที่ตนมี ยิ่งมีโอกาสไดแสดงออกก็ยิ่งทําใหเกิดความภาคภูมิใจและ ความมั่นใจในตนเองและนับถือตนเอง ซึ่งเปนความบันดาลใจทําใหเกิดความมุงมั่นที่จะทําใหดี ยิ่งขึ้นกวาเดิม ถือไดวาเปนขั้นตอนแรกของการพัฒนาจิตใจของผูเรียนที่สําคัญยิ่ง การเริ่มตนพูดคุย สนทนาถึงชวงเวลาที่ดีที่สุด ที่นักศึกษาเคยปฏิบัติ และนําเอาสิ่งเหลานั้น มาวิเคราะห แลวนําเสนอถึงปจจัย เครื่องชี้วัดและที่มาแหงความสําเร็จ และสิ้นสุดลงดวยการหาทาง ชื่นชมในสิ่งที่พวกเขาไดกระทํารวมกัน ทําใหเขามีความภาคภูมิใจ ทั้งหมดนี้เปนกระบวนการ เรียนรูในบรรยากาศของความเปนประชาธิปไตย ที่แตละคนตางมีสวนรวมอยางเทาเทียมกัน เปน หมูคณะหรือ ทีมงาน โดยมีภาวะผูนําแบบประชาธิปไตยและสัมพันธภาพที่ดีดวย ข.) การ เนนย้ําคุณคาแหงความสําเร็จในฐานะที่เปนสวนเสริมสรางวิสัยทัศนในทางบวก ในการเรียนรูแบบสุนทรีย จะมีกระบวนคนหาและพบพานกับประสบการณแหงความสําเร็จของ นักศึกษาเพราะเริ่มจากความเชื่อวาประสบการณที่ดีทั้งหลายเปนปจจัย สําคัญที่จะเสริมสรางความมั่นใจและเปนสวนสําคัญที่จะกอใหเกิดการมองหา โอกาสใหมในทางที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ถือวาเปนการทาทายความสามรถในการคิดและจินตนาการของ นักศึกษาไปในเวลาเดียวกัน ประสบการณแหงความสําเร็จจะเปนภูมิหลัง เสริมสงใหนักศึกษาคิดถึงอุดมคติ ในเรื่องการพัฒนาเติบโตงอกงามและพลังที่จะโรมรันมากกวาการรองรับแคปญหาที่ตนเองประสบ 3
  • 4. อยู และในรูปแบบของ “การปฏิบัติการที่ดีที่สุด” ในชวงเวลาหนึ่ง หรือตนแบบปฏิบัติการใน บรรยากาศของความมีชื่อเสียงเกียติยศจะทําใหเกิดสภาวะความเปนจริงที่เสริมสงใหอนาคตดีตาม ไปดวย ค.) การปลูกฝงความเชื่อวาจินตนาการในเชิงบวกจะนําไปสู “ปฏิบัติการในเชิงบวก”ดวย สุนทรียปรัศนี เนนย้ําในเรื่องการสรางภาพลักษณ ในทางที่ดีจะเสริมสงใหเกิดวัตร ปฏิบัติที่ดี ดังนั้นพิธีกรรมที่นํามาใชในกระบวนการเรียนรูทั้งหลายจึงเริ่มตนจากการใชจินตนาการ ที่เปนอุดมคติเปนพลังขับดันใหเกิดปฏิบัติการที่ดีเลิศ ดังนั้นผูจัดประสบการณเรียนรูทั้งหลาย จําเปนอยางยิ่งที่จะตองตระหนักวา “ความผิดพลาด และปญหาทั้งปวง”จะทําใหเกิดการบั่นทอน กําลังใจและความสําเร็จในอนาคตเชนกัน ดวยเหตุที่วามันกลายเปนแหลงฟกตัวของความวิตกกังวล ความประหวั่นพรั่นพรึง ความเจ็บปวด และความสูญเสียไปโดยใชเหตุ จินตนาการของความเปน อุดมคติตางหาก ที่จะทําใหผูเรียนรู มีความบันดาลใจ ที่จะเรียนดวยความสุข สนุกสนาน และมี ความคาดหวังถึงสิ่งที่ทําดวยตัวเองในอนาคตวาจะทําใหไดดีที่สุด ง.) คุณคาแหงการตั้งคําถามกันสองตอสอง ตอกลุม หรือทีมงานเพื่อเสริมสรางพลังทีมงาน เปนโอกาส ในชั้นเรียน ที่จะทําใหนักศึกษาเกิดความอยากรูอยากเห็น และการคนพบความสําเร็จ ในตัวเพื่อนรวมชั้นเรียนซึ่งจะสงผลใหตางฝายตางสนใจ เชื่อใจ ชื่นชมซึ่งกันและกัน และนําไปสู การเคารพนับถือกันและกัน การจัดประสบการเรียนรูที่ใหความสําคัญกับการตั้งชุดคําถาม ที่ นําไปสูการเสริมสรางพลังใจแกผูเรียนและทําใหผูเรียนใครครวญถึงสิ่งที่ตนได เคยทํามาในอดีต ซึ่งการไดแลกเปลี่ยนเรียนรูระหวางกันและกันถึงประสบการณแหงความสําเร็จ หรือการกลาวขาน ถึงวันเวลาที่ดีที่สุด ตลอดจนการกอใหเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองและผูทํางานดวยกันจะนํามาซึ่ง ความบันดาลใจใฝเรียนรูซึ่งเปนพลังอันยิ่งใหญ และกลายเปนเวทีที่ฟกตัวของผูมีพลังขับเคลื่อน สังคมไปสูการเปลี่ยนแปลงที่ดี และจุดประกายใหผูคนในสังคมในอนาคต ดังนั้นทามกลาง บรรยากาศของการสัมภาษณกันและกัน และนําเสนอสิ่งที่ดี การสนทนาในมุมมองที่หลากหลาย จะกลายเปนสีสันใหมในพื้นที่แหงการเรียนรู และไดแทรกสํานึกแหงความดีงามไดอยางวิเศษสุด ถึงแมวาการจัดประสบการณเรียนรูแบบสุนทรียภาพนี้จะลอกเรียนแบบจากสุนทรียปรัศนี แตบรรยากาศและสภาวะแวดลอมของ การเรียนรูในหองเรียนและโรงประลองของวิทยาลัยจะตาง ไปจาก การทํางานตามสภาวะความเปนจริงของสถาบัน องคกรหรือชุมชนซึ่ง วิสัยทัศนรวมและ ปฏิบัติการรวมกันของทีมงาน จะเปนปจจัยสําคัญของการอยูรอดและเติบโตขององคกรหรือชุมชน ซึ่งเปนผลกระทบโดยตรงตอองคกรหรือชุมชนเอง ในขณะที่ชั้นเรียนหรือโรงประลองในวิทยาลัย นั้นเปนแหลงเรียนรู “ชั่วคราว” หรือเปนไดแค “เสมือนจริง” นี่ถือเปนขอจํากัดที่สําคัญ ที่จะตอง 4
  • 5. ตระหนักวาเวลาในการคิดและทํารวมกันนั้นสั้นและฉาบฉวยในกลุมเล็กๆในแตละชวงใชนอยเชน 20 นาที หรือ3ชั่วโมงและสวนใหญก็จะอยูในชวงเวลาที่เปน “ปจจุบัน” รวมกัน ดังนั้น สุนทรียศึกษา จึงเปนรูปแบบการเรียนรู ที่จะตองออกแบบใหเขมขนในเรื่องกระบวนการคิด และการมีสวนรวมใหมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการใหความสําคัญกับขอมูลที่มาจากแหลงเรียนรู ใหมากขึ้น สุนทรียศึกษา ในชีวิตประจําวัน สุนทรียศึกษาชวยใหการเรียนรูโลกในทางบวก มองโลกในแงดี เริ่มจากชั้นเรียน ประจําวันในปการศึกษาใหม มันชวยนําทางใหอาจารยมีจิตสํานึก และตัดสินใจที่จะกาวไปใน ทางบวกรวมกับนักศึกษา ไมวาจะใชบทเรียนหรืออุปกรณใด ๆ มันก็จะชวยใหนักศึกษาสามารถ เขาถึงพลังที่มีอยูในตัวเอง ทั้งทักษะและพรสวรรค แลวนํามันออกมาใชในการเรียนรูไดอยาง มั่นใจ ภาคภูมิใจและนับถือตัวเองและคนรอบขางมากขึ้น ตัวอยางดังตอไปนี้จะชวยทําใหเห็นรูปธรรมของสิ่งที่กลาวมาขางตนชัดเจนยิ่งขึ้น 1. ทีมงาน สุนทรียศึกษาชวยใหนักศึกษาทํางาน เปนทีมไดอยางไรในชั้นเรียน? คําตอบคือ เริ่มตั้งแตการตั้งคําถามที่เสริมสรางพลังใจ จากประสบการณเรียนรูของเขาเอง โดยขอให ทีมงานแตละกลุมที่กอตั้งกันเอง ลองทบทวนถึงสิ่งที่ทําใหเกิดความสุข คามสําเร็จ ความรูสึกถึงความสําเร็จ ความภาคภูมิใจที่เคยมี และโดยไมใชการใหคะแนนในการ สอบมาเปนตัวตั้ง แตละกลุมจะไดรับงาน 2 แบบคือ 1.)เลาประสบการณที่ดีที่สุดที่ทุกคนในกลุมเคยมีไมวาเรื่องใดก็ตาม 2.)เลาเรื่องที่เปนปจจัยเกื้อหนุนทําใหเกิดประสบการณที่ดีที่สุดนั้น จากนั้นก็ใหแตละกลุมนํามาเสนอผลงานของกลุมโดยใช แผนฟลิปชารต และ นําเสนอดวยวาจา กระบวนการเรียนรูเริ่มจากการระดมความคิดในเรื่องปจจัยที่กอ เกิดทีมงานที่ดี และตอจากนั้นใหกลุมจินตนาการถึง สิ่งที่อยากใหกลุมมีเปนอุดมคติ วาทีม ในฝนของกลุมเปนเชนไร เมื่อมีการนําเสนอภายหลังจากที่ไดระดมความคิดแลวในชั้นเรียนที่ประชุมรวม โดยเนนย้ําใหผูที่จะนําเสนอ ใชประเด็นที่เปนองคประกอบของการทํางาน เพื่อใหเปนทีม ในฝน อาจารย มีหนาที่รวบรวมประเด็นสําคัญ ที่นักศึกษาไดนําเสนอ โดยวัตถุดิบตองมา จากความคิดและการระดมสมองของนักศึกษาเปนหลักไมใชความคิดของอาจารย และไมจําเปนตองวิจารณ จากนั้นกลุมยอยจะไดรับงานตอมาอีกก็คือ นําสิ่งที่มีอยูในกลุมอื่นมาเสริมสิ่งที่ กลุมเองมีอยู โดยการแลกเปลี่ยนและสนทนากลุม 5
  • 6. ในชวงสุดทาย กลุมยอยทุกกลุมไดจะรับงานใหระดมความคิดกันอีกครั้ง ใหระบุ ถึง วิธีการที่จะทําใหทีมงานของตนเอง ไปสูอุดมคติ ในชวงที่มีกิจกรรม อาจารยตองทําใหทีมงานกลุมแนใจวา การระดมความคิด เหลานั้นเปน ประสบการณที่ดีที่สุดของเขา และเปนพลังชีวิตที่เขาไดคิดไดทําจริงๆไมใชสักแตพูดให สวยงาม ประการตอมาคือ จะตองไมเอยถึงประสบการณ ที่ลมเหลวเลย และจะตองไมมี การพูดถึงสิ่งเสื่อมทราม เลวรายใหไดยิน ในระหวางการสนทนา การฟงเรื่องราวของกันและกัน ก็เนนใหฟงกันอยางตั้งใจ ไมขัดจังหวะ ไมขัดคอ เมื่อจะนําเสนอในสิ่งที่แตกตาง ไปจากผูเลาจะตองไมมีคําวา“แต” และแทนที่คําวาแต ดวยคําวา “และ” ตลอดกาล 2. ผูนําชั้นเลิศ สิ่งที่สําคัญประการตอมาคือ การระดมความคิดในเรื่องคุณลักษณะของ ผูนําในอุดมคติและองคประกอบของสวนที่ทําใหเปนผูนําในอุดมคติ เชนเดียวกับประเด็นแรก การระดมความคิดจะใชประสบการณเดิมที่เคยมีมาของผูนําที่ดีที่สุดในสายตาของพวกเขา แต หากมีเวลาก็ใหพวกเขาจินตนาการถึงผูนําในอุดมคติและแลกเปลี่ยนกันในกลุมและในชั้นเรียน เราจะตองเริ่มจากการอภิปรายกันในกลุมเล็กกอนเสมอ แลวรายงานตอกลุมใหญของชั้น เรียน ที่พิเศษยิ่งกวานั้นก็คือ การมอบหมายใหแตละกลุมคัดเลือกผูที่เห็นวาสามารถจะพูดหนาชั้น ไดในเวลา2นาที ในเรื่อง “ผูนําในดวงใจ” ลงทายดวยการอภิปรายถึงแนวทางการลงมือปฏิบัติวา ตอนนี้เราอยูตรงไหน (ทั้งครูและศิษย) และจะไปสูสิ่งที่ปรารถนาโดยทางใดไดบาง ขณะที่นักศึกษากําลังรายงาน อาจารยมีหนาที่คนหาสิ่งดีที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เพื่อใหเกิด บรรยากาศแหงความชื่นชม ดังนั้นคําถามจากปากอาจารยจึงควรจะเปน “ผูนําที่ดีที่สุดในสายตา ของทานนั้นทําอะไรบาง จึงไดชื่อวาดีสุดๆ” ก็จะทําใหเกิดการแผวถางทางนําไปสูความคิดในเชิง บวกมากกวาลบ ไมบอกวา ไมดีนั้นเปนเชนไร 3. องคกรที่มีความเปนเลิศ ในสวนที่สําคัญที่ควรแกการเรียนรูและที่นักศึกษาควรสนใจก็ คือ ธรรมชาติขององคกรที่ถือวาดีเลิศนั้นมีคุณลักษณะเปนเชนไรบาง? มีอะไรเปนตัวอยางที่ชัดเจน และเปนรูปธรรม ? แลวหลังจากนั้นใหนักศึกษา ทบทวนวา ภาษาและกิริยาอาการที่แสดงถึง ความเปนเลิศเทาที่เห็นนั้นเปนเชนไรในองคกรดังกลาว? และในชวงทาย ใหนักศึกษารายงานถึง สิ่งที่ไดสังเกตเห็นในเรื่องดีๆโดยปราศจากการ พูดคุยหรือสนทนาในสิ่งที่ไมดี 4. ทฤษฏีองคการ ในชวงป ๒๕๓๕ เดวิด โคออปเปอรริเดอร เริ่มใชสุนทรียปรัศนี เปนรูปแบบของการทําหลักสูตรพํฒนาองคกร ไดนําเอาทฤษฏีองคการมาผสมผสานกัน ทําวิจัยในรูปแบบการพํฒนา ผูนําการเปลี่ยนแปลงไดบงชี้วาความสําคัญที่ทําใหองคกร 6
  • 7. ประสพความสําเร็จนั้น คือการสื่อสาร 2 ทางที่เทาเทียมกัน และขอมูลที่ไดก็นํามาใช ปรับทัศนคติของผูเรียนได รวมถึงบอกไดวามีปจจัยใดที่นําไปสูความเปนเลิศของ องคการ 5. การสัมภาษณผูนําการเปลี่ยนแปลง สวนใหญในหลักสูตรปริญญาตรี มักไมคอยมีการ สัมภาษณ หรือสนทนากับใครในเรื่องที่ตน กําลังศึกษาอยู วิธีการนี้จะมีประโยชนคือ การสรางคําถามชุดหนึ่งขึ้นมา แลวนํามาฝกหัดสัมภาษณกันและกัน แนนอนที่สุด คําถาม เหลานั้นก็จะมุงเนนใหผูเรียนไดทบทวนผลงานที่ยอดเยี่ยมของตัวเองที่เคยทํามา (อาทิ ระบบการทํางาน หรือบุคลิกภาพของตัวเอง ) หรือไมก็ แสดงละครกันในกลุม ถึง “การ เปน ผูนําที่ดีเขาทํากันยังไง?” และ“มันจูงใจยังไงบาง?” 6. การนําเสนอ ตัวอยางสุดทายของปฏิบัติการสุนทรียศึกษาก็คือ ใหทดลองปฏิบัติการ นําเสนอเปนกลุมอยางสรางสรรคและคิดกันเองเปนกลุม เปนโอกาสอันวิเศษที่จะทําให นักศึกษาทํางานกันเปนทีม และการพูดในที่สาธารณะเปนงานใหนักศึกษาทําตองเตรียม อยางประณีต สิ่งที่อาจารยจะตองทบทวนกอนอื่น ลีลาการนําสูบทเรียนแตละครั้งเปนเชนไร? มีความ ตื่นเตน มีชีวิตชีวา และนาสนใจหรือไม ? ประการสําคัญก็คือมีเทคนิกหรือกระบวนการมีสวนรวม ของผูเรียนจริงหรือไม หากมีการจัดประสบการการเรียนรูที่มีลักษณะหรรษาวิชาการดวย ก็ยิ่งทํา ใหมีเสนห ทําใหผูเรียนประทับใจมากขึ้นเปนทวีคูณ กระบวนการดังกลาว สามารถทําใหการเรียนรู มีชีวิตชีวาสดใสสนุกสนานและผลที่ตามมาก็ คือนักศึกษาจะตระหนักมากยิ่งขึ้นถึงความสําคัญของการสนทนาอยางมีสวนรวม การคิดและวาง แผนการทํางานรวมกันในฐานะ “ผูเรียนรู” และออกแบบจัดประสบการณเรียนรูของตัวเองและ ของกลุม ไดอยางดีเยี่ยม ในเวลาตอมาไดเชนเดียวกัน สิ่งที่ชวยไดมากในการเรียนรูก็คือ 1.คําถามที่เสริมสรางพลังใจงายๆ และถามถึง สิ่งที่เขาคุนเคยหรือมีอยูแลว 2.คําถามที่เปดโอกาสใหนักศึกษาไดเห็นถึงสิ่งที่ใชการไดดีในอดีต เปนทุนสํารอง และศักยภาพของตัวเองที่คนพบได บางคนอาจจะหาตัวตนพบไดในเวลาเดียวกัน 3.กิจกรรมการเรียนการสอนที่เปดโอกาสการเรียนรู ตั้งแตการทดลอง การปฏิบัติการ และการสะทอนความรูสึกภายหลังจากที่ปฏิบัติเสร็จแลว และการสรางเงื่อนไขที่ทําให นักศึกษารูสึกถึงสิ่งที่เขาทําสําเร็จเปนหลัก 7
  • 8. ดังนั้นสิ่งสําคัญที่อาจารยจะตองเตรียมตัวและเตรียมใจก็คือ การปรับบทบาทความ เปนครูแบบดั้งเดิมในฐานะของผูประสาทวิชา โดยมีครูเปนศูนยกลาง มาเปนผูเอื้ออํานวย ใหเกิดการเรียนรูที่ผูเรียนเปนศูนยกลาง จากที่สงเสริมความคิดแบบปจเจกมาเปนความคิด แบบรวมหมู จากที่เคยคับแคบใชวิธีสั่งการและหาคําตอบที่ถูกตองสอดคลองกับครูมาเปน การแสดงความคิดเห็นแบบประชาธิปไตย มีความคิดหลากหลายที่งดงามได นั่นหมายถึง ประชาธิปไตยในรูปแบบพหุนิยม ที่เคารพในความคิดของผูอื่นและตัวเองดวย ซึ่งทาทาย อยางยิ่งตอการจัดการศึกษาในแนวเพาะบม “ความเปนไท”ใหกับผูเรียนเอง โจทยที่อาจารยจะตองขบคิดเพื่อสรางบรรยากาศแหงการเรียนรูใหมก็คือ 1. ทําอยางไรจึงจะทําใหผูเรียนมีความบันดาลใจในการรวมกันระดมความคิดในทีมงาน ของตนเอง ? ดังนั้นผูสอนจะตองพยายามสราง “ชุดคําถาม” ที่นําไปสูการระดมความคิด คนหาความดีงาม และสิ่งเปนประสบการณความสําเร็จที่วิเศษของผูเรียน เปนหลัก ก.)แมนักศึกษาจะนําปญหามาถาม ทางออกก็คือ การใหหลักคิด โดยใหมองหาสิ่ง ที่ใชการไดสถานการณ แหงปญหานั้นแลวเปลี่ยนคําวา“ปญหา”มาเปน“ความทาทายที่จะ เปลี่ยนแปลงไปสูสิ่งที่ดีกวา”เปนสําคัญ แลวนํามาถอดบทเรียน อาทิ “อะไรทําใหทีมงาน ยังสามารถทํางาน หรืออยูกันไดในขณะที่มีปญหาเกิดขึ้น” ข.)หากนักศึกษามีความกังวล หรือกระวนกระวายเมื่อเจอสถานการณบางอยางที่ กดดัน ใหอาจารยอยูกับเขาและแนะนําใหเขาคนหาประสบการณที่ใกลเคียงกับความหมาย เดิมของประเด็นที่เปนปญหา 2.ทําอยางไรจึงจะฉายใหเห็นปจจัยที่ทีผลทําใหทุกสิ่งใชการได และใหมองหาโอกาสและ ความเปนไปได 3.ทําอยางไรจึงจะเราอารมณนักศึกษาสนใจวิธีการที่จะนําไปสูความ สําเร็จเปนสําคัญ เนื่องจาก ประสบการณแหงความสําเร็จและสวนที่ดีที่สุดของปฏิบัติการทั้งหลาย สามารถ ปลดปลอยสิ่งที่ดีที่มีอยูภายในตัวของผูเรียนออกมาไดอยางเปนธรรมชาติ ทําใหเขาจินตนาการเปน และสามารถจินตนาการในสิ่งที่ดีที่สุดไดซึ่งจะเปนหนทางที่ทําใหเขามีปฏิบัติการที่ดีที่สุดได เชนเดียวกัน 8
  • 9. ผลพวงของสุนทรียศึกษา นอกจากสุนทรียศึกษาจะเปนเครื่องมือที่มีประโยชนในการจัดการกับชั้นเรียนแลว ประโยชนที่ไดรับมากกวานั้นก็คือ ในขณะที่มีการเรียนรู ระหวางกันในสิ่งดีงาม จะทําใหผูเรียน รูจักตนเองมากขึ้น นับถือตนเอง และมีความมั่นใจมากขึ้นกวาเดิม และที่สําคัญก็คือ ผูเรียนเกิดความ บันดาลใจ เมื่อไดรับคําถามที่เสริมสรางพลังจากครู สุนทรียศึกษาจะทําใหเกิดผลลัพธที่ชื่นชูใจกับนักศึกษาทั้งในทันทีทันใด หรือไมก็มีการสั่ง สมไปทีละเล็กละนอย กลาวคือ 1.)เราไดสังเกตเห็นถึงพลังที่เกิดขึ้นจากการเรียนรูและ การปฏิสัมพันธระหวางนักศึกษาดวยกัน ในทางที่ดี เรามักไดยินคําถามบอยครั้งวาเมื่อไหร จะมีการเรียนรูเชนนี้อีก และมีสถานการณที่ นําไปสูระดับที่สูง หรือลึกซึ้งไปกวานี้อีก 2.)นักศึกษามีความรูสึกดีมั่นใจและปลอดภัยเนื่องจากการพูดจาสนทนาถึงสิ่งดี ๆ กับกลุมทําให ความลังเลและหวาดกลัวลดนอยลง การฉายภาพในทางที่ดีตอตัวใครก็ตามเปนการใหเกียรติในประสบการณของเขาไปในตัว และเมื่อคําถามวามันเกิดขึ้นไดอยางไร สิ่งที่ไดรับสะทอนกลับภายหลังจากกิจกรรมผานไปแลวก็ คือ “มันงายมากที่จะพูดถึงใครบางคนที่อยูในระหวางปฏิบัติการที่ดีที่สุดของฉัน” และ “เมื่อพูดถึงความลมเหลว ฉันไดกลบความจริงบางอยางไวมิกลาพูด แมกระทั่งกับตัว ฉันเอง” 3.) ภาพจากจินตนาการที่เปนความหวังในอนาคตจะ ชวยเสริมสรางพลังในตัวเขาเอง( ทําใหเขา สามารถทําอะไรไดในอนาคตไดดีกวา เมื่อเปรียบเทียบกับภาพในจินตนาการที่วางเปลา) พลังที่ เกิดขึ้นจากความบันดาลใจจะทําใหเกิดความคิด และนวัตกรรมที่สรางสรรคไดดีกวา มีผูตั้งคําถามวาเมื่อเราพูดกันแตความสําเร็จและสิ่งดีงามแลว ในสวนที่ไมดีละมีหรือไมและ หากมีเราจะทําอยางไรกับมันดี? คําตอบก็คือ กอนอื่นเราตองเริ่มตนที่ ชีวิตจริงมิไดโรยดวยกลีบกุหลาบ เราเชื่อวา ภาพลักษณที่เลวรายก็ดึงความสนใจที่จะใหเรียนรูไดเชนเดียวกัน แตเราสามารถเรียนรูไดดีที่สุด ใน สิ่งที่ใชการไดและใชไดผลมากกวาสวนที่เลวราย ดังนั้นแทนที่จะใชเวลาใหสูญเสียไปกับสิ่งปรักหักหักพังเราควรใชสมาธิในสวนที่เปนการ มองโลกในดานดี เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ความปรักหักพัง และความผิดพลาดนั้นเราทําไดอยางดีที่สุด แคซอมแซม แกไข และดูเยี่ยงไวไมใหเอาอยาง ในขณะที่ปญญาที่ไดจากการปฎิบัติดีนั้นสามารถ นํามาตอยอด เสริมสรางใหดียิ่งขึ้น และเสริมสรางพลังทีมงานไดดวย 9
  • 10. 4.) นักศึกษา เชื่อในตัวเองมากขึ้นและมีความมั่นใจในประสบการณของตนเอง การมีสวนรวมจึงมี บรรยากาศที่ดี ซึ่งตรงนี้ถือวาเปนสิ่งเปราะบางเนื่องจากการเรียนรูในโรงเรียนหรือวิทยาลัย ที่อาศัย ตํารา หนังสือและครูคือคําตอบสุดทาย 5.) นักศึกษา มีทักษะและความมั่นใจในสุนทรียปรัศนีวา เปนทางเลือกที่จะทําใหริเริ่มสรางสรรค แทนการวิเคราะหและแกไขปญหา วิธีการแกไขปญหาแบบดั้งเดิม คือกิจกรรมอันทรงพลังที่เราเคย เชื่อวามันใชการไดดี การตรงเขาไปสูปญหาทําใหเรา เขาไปอยูในวังวนของความคิดเดิม คือการ แกไขสิ่งปรักหักพัง ซึ่งในทายที่สุดเราก็พบวา ที่ทําไดอยางดีที่สุดก็คือการลดปญหา หรือการ เยียวยาเทานั้นเอง ในขณะที่การตกผลึกความคิดที่ดีงามที่ตนเองเคยมีประสบการณมาแลวในอดีด นําไปสูการสรางวิสัยทัศนในทางที่ดี ทําใหหลุดจากกรอบความคิดเดิม ที่เอาปญหาเปนตัวตั้ง ซึ่ง เปลี่ยนผานระบบคิดที่อาศัยปญญาเปนตัวจุดประกาย สามารถกอเกิดนวัตกรรมไดอยางคาดไมถึง ยิ่งไปกวานั้นก็คือ สุนทรียปรัศนีแตะเขาไปในเรื่องของการคนพบพรสวรรคที่ซอนตัวอยู ภายในตัวของผูเรียน ซึ่งจะทําใหผูเรียนนําเอาศักยภาพของตนเองออกมาใชไดอยางนาอัศจรรย การเขาถึงชีวิตในฐานะ เปนสิ่งมหัศจรรย ดูจะมีชีวิตชีวาที่จะกอใหเกิดความเปลี่ยนแปลง ไดมากกวาชีวิตที่รุมลอมดวยปญหาที่จําเปนจะตองไดรับการแกไขเปนแนแท ! 6.) ทัศนคติบวกตอนักศึกษาวาเปนผูรูมีคุณคาและเปนของจริง สุนทรียปรัศนี จะชวยเปดโลกของการเรียนรูในชั้นเรียน พบตัวเองวางอกงาม เจริญเติบโต ในระยะเริ่มแรกของการพัฒนาตนเอง ซึ่งเปนรากฐาน สําคัญสําหรับเรียนรูทางวัฒนธรรมที่ สรางสรรคและสรางเสริมสุขภาพตนเองไดอีกตางหาก ไมวา ทางกาย ใจ สังคมหรือจิตวิญญาณ นักศึกษาสวนใหญสามารถรายงานไดอยางกระตือรือรนวาพวกเขามีประสบการณที่ดีใน การทํางานรวมกันเปนทีมมากยิ่งขึ้น มีการคนพบที่นาตื่นเตนรวมกับคนแปลกหนา และเขาใจเพื่อน และมุมมองของเพื่อนมากขึ้น นี่เปนความลึกซึ้งยิ่งขึ้นของการใชพลังชีวิตรวมกันระหวางมนุษยตอ มนุษยในอนาคต และทําใหสัมพันธภาพของผูเรียนในชั้นเรียนแนบแนนขึ้นอีกดวย ในทางกลับกัน การฟงคําบรรยายในชั้นเรียนจากอาจารยเปนวัฒนธรรมแบบปจเจกอยาง เห็นไดชัดกลาวคือ อากัปกิรียาเพงตรงไปที่อาจารยเปนหนึ่งเดียว และแบบตัวใครตัวมัน เพื่อจะซึม ซับในสิ่งที่อาจารยถายทอด ในขณะที่กระบวนการของสุนทรียศึกษา เปนเรื่องของการรับฟง เรื่องราวดีงามของกันและกัน เปนกระบวนการกลุม ที่ทําใหเขาใจสังคม โลก และชีวิตของคนอื่น ไดมากขึ้น ในขณะ เดียวกัน ก็เผยใหเห็นถึงสิ่งดีๆ และสิ่งที่ตนเองคิดวาดีที่สุด ตอคนอื่นไดอยางไม เกอเขิน และเปนโอกาสดีที่ไดแลกเปลี่ยนเรียนรูซึ่งกันและกัน มันเปนสํานึกแหงการเกาะเกี่ยวพึ่งพา อาศัยกันและกัน เคารพนับถือซึ่งกันและกัน ในบรรยากาศแหงความเอื้ออาทร การแบงปน การ สนับสนุนและรวมงานกันอยางเคียงบาเคียงไหลหรืออาจไปไกลจนถึงการรวมหัวจมทายในฐานะ พันธมิตรหรือภาคีคนหนึ่งหรือแมกระทั่งในฐานะของแนวรวมแลวแตวาการจัดประสบการณ เรียนรูจะกอใหเกิดความบันดาลใจขนาดไหน 10
  • 11. 7.) สุนทรียศึกษา ใหบทบาทของความเปนครูในฐานะผูจัดประสบการณเรียนรูเปนดานหลัก นั่นคือ ครูมีบทบาทเปนผูชี้แนะ ผูจุดประกาย เปนวิทยากรกระบวนการ เปนผูประสาน สัมพันธ ผูเสริมสรางพลังใจ และผูกอกระแสกลุมพลัง ซึ่งถือวาเปนผลตามที่ดีของการเรียนการ สอนในปจจุบัน นักศึกษาได มองโลกในแงดี มี่นใจในตนเองและ มีความสุขขณะที่เรียนรูไปดวย เปนหรรษาวิชาการ และทําใหอะไรงายเขา ซึ่งในทางปฏิบัติ เราพบวาเปนความงายยิ่งขึ้นที่จะ กอใหเกิด พัฒนาการในตัวผูเรียนเอง เนื่องจากเปนการเรียนรูจากประสบการณของตัวเอง สิ่งที่ไดพบเห็น และไดยิน เรื่องราวประสบการณแหงความสําเร็จเกิดขึ้นกับ นักศึกษาคนแลวคนเลา จะทําใหครูมีความรูสึกยินดี มํากําลังใจสอนมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งเหลานี้ถือ เปนวัตถุดิบนําเขา เพื่อการเรียนรูใหลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก และเมื่อเราพึมพํากับตัวเองว า “เออจริงซิ” หรือ“ใชแลว”ก็ยิ่งทําใหเราเห็นวาเราเดินทางมาในหนทางที่ถูกตอง ทั้งผูจัดประสบการเรียนรู และนักศึกษาเอง การจัดวางกรอบความคิดในทางบวก ถือวาเปนพลังสําคัญในชั้นเรียนที่จะสรางความบันดาลใจ อยากรูอยากเห็นและอยากคนควาหา ความรูใหม ทําใหมองเห็นหนทางที่เปนไปไดใหมๆมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเปนความหมายและทิศทาง ใหมของการศึกษา เราไดพบ การจัดวางกรอบความคิดในความสํานึกถึงคุณคาของความเปนมนุษย ในตัวผูเรียน ซึ่งเปนพลังชุมชนแหงการเรียนรู และเขาใกลวัตถุประสงคที่แทจริงของการศึกษาเพื่อ ความเปนไท ซึ่งเราเชื่อและหวังวา กิจกรรมทั้งหลายที่มีรากเหงามาจาก สัมมาทิฐิ จะมีมากขึ้นใน มวลมนุษยชาติ ซึ่งถือเปนความทาทายอยางยิ่งของวงการศึกษาที่กําลังหาทางปฏิรูปการศึกษาใน แวดวงของตนเอง เพื่อมุงสูอิสรภาพอยางแทจริง ปจฉิมกถา: ผูเขียนขอฝากขอสังเกตเพื่อกอใหเกิดการวิภากษในวันขางหนาเกี่ยวกับกระบวนการ แหงสุนทรียศึกษา ไวอยางยนยอ 6 ประการเพื่อใหเขาใจและจดจําไดงาย กลาวคือสุนทรียศึกษา เปนเรื่องของ...... 1) การเพิ่มเติมเสริมสรางจากขางใน (Internalization) 2) การกอเกิดความบันดาลใจใหรวมคิด (Inspiration) 3) การรวมเนรมิตนวัตกรรม (Innovation) 4) การรวมเหนี่ยวนําสูปฏิบัติการ (Implementation) 5) การรวมสรางพื้นฐานการพัฒนา (Improvement) 6) การศึกษาที่ทําใหเกิดภูมิคุมกัน (Immunity) ดวยความเชื่อในพุทธปรัชญาที่วา สัตวโลกยอมเปนไปตามกรรม (กัมมุณา วัตติ โลโก) เรา สามารถเปนพุทธะได หากเราคนพบ“อริยะมรรค”ไดดังเชนที่พระพุทธองคทรงคนพบ ความเปนพุทธะ คือความเปนผู รู ผูตื่น ผูเบิกบาน สิ่งสําคัญที่พระพุทธเจาทรงคนพบและ สถาปนาตนเองเปนพุทธะไดนั้นคืออริยะสัจจะ การเริ่มตนจากสิ่งดีงาม ที่รํารึกไดวา “เคยทํา” จะ 11
  • 12. เปนปจจัยหนุนเนื่องใหเกิด สิ่งดีงามอีกหลายหลากตามมา ไมวาจะเปนความคิดเห็นที่ดี (สัมมาทิษฐิ)( สัมมากัมมันตะ)วาจาที่ไพเราะ( สัมมาวาจา)( สัมมาสังกัปปะ)( สัมมาวายามะ)สติ ดี( สัมมาสติ)มี( สัมมาสมาธิ ) และดวยหลักแหงการหนุนเนื่องนั้นเอง(อิทัปปจจัยตา) ก็สามารถ จะทําให คน กลุมคน ชุมชน และสังคม “จุติใหม” (Reincarnation)ในโลกใบนี้ กองทุกข กองนี้ และเปลี่ยนแปลง ไปสูโลกที่ดีกวาไดไมยากนัก “ใจ” เปนผูนําสรรพสิ่ง “ใจ”เปนใหญ ทุก สิ่งสําเร็จไดดวย”ใจ” หากคิด พูด ทํา ในสิ่งดี หรือชั่ว ฉันใด ความสุข หรือความทุกขก็จะติดตาม ตัว เหมือนลอเกวียนหมุนเตา ตามรอยเทาโคฉันนั้น และทายที่สุดนี้ ขอผนวกบทเพลง 2 ลีลาที่อาจทําใหบทความชิ้นนี้อานแลวผอนคลายไม หนักไปในทางวิชาการมากเกินไป แมจะมีเนื้อหาบริบทตางกัน แตเปาหมายในบทเพลงนั้นพอง พานกันยิ่งนัก ความรักที่ยิ่งใหญที่สุดทั้งหลายทั้งปวง (อยูที่นี่ และตรงนี้ กับผูเรียนของเรา) ฉันเชื่อวาเด็กทั้งหลายคืออนาคตของเรา ฟูมฟกเขาใหดีและใหโอกาสเขาไดกาวไปในทิศทางที่เขาปรารถนา แสดงใหเขาเห็นถึงความงดงามที่มีอยูภายในจิตใจของเขา ใหเกียรติเขาและปลูกฝงใหเขารูสึกภาคภูมิใจในตนเอง ถาจะใหงายขึ้นอีกก็คือ มาทําใหเขาไดหัวเราะกันอยางเบิกบาน ดังเชนที่เราไดเคยสัมผัสในเยาววัย ทุกชีวิตตางแสวงหาวีรบุรุษในดวงใจของตนเอง ฉันเองก็ไมรูเหมือนกันวาเขาไปหากันที่ไหน และฉันก็ไมพบวาใครจะเปนแบบอยางใหฉันไดดังปรารถนา มันเปนความรูสึกอางวาง ในโลกที่อยูยากในปจจุบัน ดังนั้นฉันจึงเรียนรูที่จะพึ่งพาตนเอง ฉันปรารถนามานานแลวที่จะไมครอบงําหรืออยูภายใตเงื้อมเงาของใคร หากฉันประสพความสําเร็จหรือแมลมเหลวฉันก็ไมหวั่น เพราะ อยางนอยที่สุด ฉันก็ไดทําในสิ่งที่ฉันเชื่อ และแมนใครจะบังอาจยื้อยุดฉุดกระชากวิญญาณของฉันไป ทําใหฉันสูญเสัยทุกอยาง เขาก็ไมอาจฉุดกระชากเกียรติศักดิ์ของฉันไปดวยได เพราะฉันไดพานพบแลววา ความรักอันยิ่งใหญนั้นบังเกิดแลวแกตัวฉัน 12
  • 13. เพราะฉันไดพานพบแลววา ความรักอันยิ่งใหญที่สุดนั้นอยูภายในตัวของฉันเอง ความรักอันยิ่งใหญทั้งปวงนั้นงายแกการทําอะไร ๆใหสําเร็จได ความรักอันยิ่งใหญนั้นคือรูจัก“รัก”ตัวเอง ซึ่งไมไดหมายถึง“หลงรัก”ตัวเอง หากแตรูซึ้งถึงคุณคาของตัวเอง และการไดเรียนรูที่จะรักตัวเองตางหาก คือ ความรักอันยิ่งใหญทั้งปวง และหากจะมีเหตุบังเอิญตองไปอยูในที่พิเศษแหงหนใดก็ตามที่ทานเคยฝนไว คือไดพบความรัก มีครอบครัวที่อบอุน และประสพความสําเร็จในงานที่ทํา จงเขาไปอยูในมุมสงบ แลวคนหาพลังแหงความรักอันกลาแกรงของทานเองใหเจอ แปลจากเนื้อเพลงยอดนิยมอันดับหนึ่งของ Whitney Houston ป๒๕๒๙ –The Greatest Love of All มหาวิทยาลัยในฝน หากจะเปรียบมหา’ลัยเปนดั่งเชนเตาเผา คณะก็คงเหมือนเบา ที่หลอมพวกเราออกมา ถานกอนแดงที่โหมไฟแรงคือ ภาควิชา ที่หลอมคนใหมีคา อีกพัฒนาใหสมคาคน กอนจะสอบเอ็นทรานสเขามาศึกษา แขงขันกันดังเหมือนบา กวดวิชาไปทุกแหงหน ผานเขามามุงหวังปริญญาคาลน กลับพบแตความหมองหมน ไมเหมือนที่ตนตั้งใจ ยามเรียนหางไกลผูใหความคิด จะหวังเพื่อนที่ใกลชิด ก็มีแตความหมองไหม ประคองตัวเองมิใหตองถูกรีไทร ตางเหยียบบากันไป เหมือนไตบันไดอาถรรพ ขอวอนกราบพอพิมพแมพิมพทั้งหลาย ไดโปรดหลอหลอมเหลาบัณฑิตไทย เหมือนที่คนเขาหมายมั่น ประสาทวิชา ประสานดวงใจ คิดใฝสรางสรรค กระตุนใหคนรักกัน บากบั่นเพื่อคนยากไร อยาใหเปรียบมหา’ลัยเปนเชนสนามรบ ที่คิดถึงเพียงวันชีพจบในชวงอนาคตใกล ใหการศึกษา สมดังปรัชญามหา’ลัย บรรลุเปาหมายยิ่งใหญ เพื่อลูกหลานไทยแทจริง เนื้อเพลง : อุทัยวรรณ กาญจนกามล 13
  • 14. 14