ศิลปวัฒณธรรมสมัยใหม่

1. ศิลปวัฒนธรรมสมัยใหม่

2. ศิลปะบารอก (Baroque)
ความหมายของศิลปวัฒนธรรมแบบบารอก
1.) ศิลปะแบบบารอก (Baroque) พัฒนามาจากศิลปะแบบเรเนสซองส์
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17-18 มีลักษณะเฉพาะ คือ การแสดงออกถึงความมี
อิสรภาพของมนุษย์ตามแนวความคิดมนุษยนิยม (Humanism) ผลงานที่
ปรากฎมักแสดงออกถึงลักษณะแน่นอนตายตัวของศิลปิน
2.) ศิลปะแบบบารอกในความหมายทางวรรณกรรม หมายถึง การเขียนที่มุ่งพัฒนา
สติปัญญา เนน้ความรู้และวิธีการสืบสวนตามหลักวิทยาศาสตร์ และสะทอ้นถึงความ
ปรารถนาที่จะมีอิสรภาพของมนุษย์ตามแนวความคิดมนุษยนิยม แต่ใหค้วามสา คัญแก่
อารมณ์และใชพ้ฤติกรรมของมนุษย์เป็นโครงเรื่องสา คัญ

3. 3.) ศิลปะแบบบารอก เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐต่างๆ ในยุโรปมีความมัง่คัง่ทางเศรษฐกิจและมี
ความมัง่คัง่ทางการเมือง เป็นผลใหพ้ระราชวงศ์ ขุนนาง และพ่อคา้มีความพรอ้มที่จะอุปถัมภ์
การสรา้งสรรค์ผลงานของศิลปินแขนงต่างๆ ไดอ้ย่างเต็มที่

4. งานสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมแบบบารอก
งานจิตรกรรม ส่วนใหญ่ยังคงรับรูปแบบและเทคนิคจากสมัยเรเนสซองส์
แต่ไดพั้ฒนาฝีมือและเทคนิคการผสมสีที่วิจิตรงดงามยิ่งขึ้น นิยมใช้สีสดและฉูดฉาด
ภาพวาดมักปรากฎตามวัด วัง และคฤหาสน์ของชนชนั้กลางผูมั้ง่คัง่ แสดงชีวิตความ
เป็นอยู่ที่หรูหราสุขสบายของเจา้นายและเรื่องราวที่เก่ยีวขอ้งกับคริสตศ์าสนา
จิตรกรที่มีชื่อเสียง คือ เรมบรานด์(Rembrandt) รูเบนส์(Rubens)

5. เรมบรานด์ (Rembrandt) รูเบนส์(Rubens)

6. “การแต่งงานของ นักบุญแคทเธอ
รินแห่งอเล็กซานเดรีย"
โดย อันโตนิโอ ดา คอร์เรจจิโอ
“การตรึงกางเขนของนักบุญปีเตอร์”
(Crucifixion of St. Peter)
โดย คาราวัจโจ
(วัดซานตามาเรีย เดล พ็อพโพโล,โรม, อิตาลี)

7. Assumption of the Virgin
Mary โดย อันนบิาเล คารัคชี
(โรม, อิตาลี)

8. งานสถาปัตยกรรม
แสดงออกถึงความใหญ่โตหรูหรา และการ
ประดับประดาที่ฟุ่มเฟือย โดยนา ความรูท้าง
คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาใชง้าน
ก่อสรา้งมากขึ้น ผลงานชิ้นสา คัญของศิลปะ
แบบบารอก คือ พระราชวังแวซายส์
(Versailles) ของพระเจา้หลุยส์ที่
14 แห่งฝรัง่เศส
บาซิลิกาซุปเปอร์กา (Basilica
Superga)ตูริน, อิตาลี)

9. วิหารซุพเพอร์กา (Basilica di Superga)
ใกลเ้มืองตูริน ประเทศอิตาลี โดย ฟิลิโป คูวารา
(Filippo Juvarra)

10. ศิลปะด้านดนตรี มกีารพัฒนาไปมากทงั้
การรอ้งและการบรรเลงเครื่องดนตรี ขนาดขอ
งวงดนตรีขยายใหญ่ จากแบบ
Chamber Music ที่ใชผู้เ้ล่นไม่กี่
คน มาเป็นแบบ Orchestra ที่ใชผู้เ้ล่น
และเครื่องดนตรีจา นวนมาก มีการแต่งเพลงและ
ใชโ้นต้เพลง และเปิดการแสดงดนตรีในหอ้งโถง
ใหญ่ๆ นักดนตรีสา คัญ คือ โยฮันน์เซบาสเตียน
บาค (Johann Sebastian
Bach) ชาวเยอรมัน ซึ่งแต่งเพลงทางดา้น
ศาสนาเป็นส่วนใหญ่

11. งานด้านวรรณกรรม ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 ไดช้ื่อว่าเป็นยุคทองแห่ง
วรรณกรรมยุโรป มีผลงานชิ้นเอกของนักประพันธ์ชาวอังกฤษและฝรัง่เศสเกิดขึ้นมากมาย
ที่เด่นคือ งานเขียนทางปรัชญาการเมืองของ จอห์น ลอค (John Locke) และ
ผลงานของนักเขียนบทละครเสียดสีสังคมชนั้สูง ชื่อ โมลิแอร์(Moliere) เป็นตน้
John Locke
Moliere

12. ลัทธิคลาสสิกใหม่ (Neoclassicsm)
ศิลปะแบบนีโอคลาสสิก (Neo-Classicism) เกิดขึ้นในช่วง
คริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 งานสรา้งสรรค์ยังคงยึดรูปแบบ
คลาสสิกของกรีก-โรมัน แต่ใหค้วามสา คัญต่อเหตุผลมากที่สุด เนื่องจากในช่วงเวลาอยู่ใน
ยุคของเหตุผล (Age of Reason) หรือสมัยแห่งภูมิปัญญา (The
Enlightenment) มนุษย์มีความเชื่อมัน่ในเหตุผล เชื่อความสามารถและ
สติปัญญาของตน อันเป็นผลมาจากการปฏิบัติทางวิทยาศาสตร์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17
เป็นตน้มา

13. ประติมากรรมและจิตรกรรม
ประติมากรรมนิยมเลียนแบบประติมากรรมกรีกโรมัน
ส่วนจิตรกรรมเนน้ในเรื่องเสน้มากกว่าการใชสี้
"ใตร้่มเงาแดด" โดย ฟรานซิสโก โกยา
"พระราชวงศ์พระเจา้ชาลส์ที่4" โดย
ฟรานซิสโก โกยา

14. สถาปัตยกรรม สะทอ้นเรื่องราวของอารยธรรม
โบราณ ความสง่างามของทรวดทรง เนน้ความสมดุล
กลมกลืนไดสั้ดส่วน
พระที่นัง่วโรภาษพิมาน (พระราชวังบางปะอิน) พระที่นัง่อนันตสมาคม

15. นาฏกรรม แสดงความสมเหตุสมผลของเรื่องและมุ่งมัน่ที่จะสัง่สอน
นอกเหนือไปจากการใหค้วามเพลิดเพลิน
ดนตรี นิยมเน้อืเรื่องที่แสดงออกดา้นความคิดเห็น และในเรื่องความเสมอภาค
นักประพันธ์เพลงที่มีชื่อเสียงสมัย คือ วอล์ฟกัง อะมาเดอุส โมสาร์ต

16. ลัทธิจินตนิยม(Romanticism)
มลีักษณะเป็นแบบจินตนิยมซึ่งเนน้อารมณ์และ
ความรูสึ้กภายใน โดยไม่คา นึงถึงประเพณีนิยม
สรา้งงานโดยยึดถืออารมณ์ฝันและจินตนาการของ
ตน

17. จิตรกรรมมีผลงานปรากฎนอ้ยกว่า
วรรณกรรม แต่จิตรกรแสดงออกในอารมณ์และ
ความรูสึ้กของตนอย่างเต็มที่ ใชสี้ฉูดฉาดตัดกัน
อย่างรุนแรง มักเป็นภาพวาดทิวทัศน์ธรรมชาติ
หรือภาพสะทอ้นสังคมสมัยการปฏิวัติ
อุตสาหกรรม และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่
รุนแรง จิตรกรที่สา คัญคือ โจเซฟ เทอร์เนอร์
(Joseph Turner) ชาวอังกฤษ และ
เดอลาครัวซ์(Delacroix) ชาวฝรัง่เศส
เป็นตน้
Joseph Turner

18. สถาปัตยกรรม
งานสถาปัตยกรรม ลักษณะโรแมนติกในงานสถาปัตยกรรมไม่ปรากฎเด่นชัด
มากนัก ส่วนใหญ่จะปรากฎเป็นศิลปะแบบโกธิค ซึ่งเคยเป็นที่นิยมในสมัยกลาง
สถาปัตยกรรมแบบโกธิคเจริญรุ่งเรืองมากจนกลายเป็นศิลปะประจา ชาติของ
อังกฤษ ฝรัง่เศส และเยอรมณี ตัวอย่างที่สา คัญคือ ตึกรัฐสภาอังกฤษ เป็นตน้

19. ประติมากรรม
เนน้การแสดงอารมณ์ ความรูสึ้ก ประติมากรที่มีชื่อเสียง ไดแ้ก่ ฟรองซัว รูเด และ มาร์ซาย
แยส
การละคร
นิยมแสดงเรื่องที่ตัวเอกประสบปัญหา อุปสรรค มขีอ้ขัดแยง้ในชีวิตอย่างรันทด ซึ่งจะดึง
อารมณ์ของผูช้มใหเ้อาใจช่วยตัวเอกของ เรื่อง

20. ดนตรี
นักดนตรีและนักแต่งเพลงสมัยโรแมนติก เนน้การแสดงออกทางอารมณ์และ
ความรูสึ้กอย่างรุนแรง โดยเฉพาะความรูสึ้กชาตินิยม การประพันธ์เพลงมี
รูปแบบเสรีมากขึ้น ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ของแบบคลาสสิก ทงั้นี้เป็นผลมาจาก
การบุกเบอกของบีโธเฟน (Beethoven) นักดนตรีชาวเยอรมันที่มี
ผลงานยอดเยี่ยมทงั้ในรูปแบบคลาสสิกและโรแมนติก ประพันธ์กรอื่นๆ ที่มี
ชื่อเสียงในดนตรีโรแมนติก ไดแ้ก่ ไชคอฟสกี (Tchaikovsky) ชาว
รัฐเซีย และโชแปง (Chopin) ชาวโปแลนด์ เป็นตน้

21. Tchaikovsky Chopin

22. วรรณกรรม เนน้จินตนาการและอารมณ์ ถือความตอ้งการของผูป้ระพันธ์
สา คัญกว่าความตอ้งการของคนในสังคม บทรอ้ยกรองประเภทคีตกานท์
(lyric) ซึ่งเป็นโคลงสนั้ๆแสดงอารมณ์ของกวี ไดรั้บความนิยมสูงสุดในสมัยนี้

23. ลัทธิสัจนิยม(Realisticism)
จิตรกรรม สะทอ้นสภาพชีวิตจริงของมนุษย์ในดน้ลบ เช่น ชาวนาที่ยากไร้ซึ่งยึดถือ
การสรา้งใหเ้หมือนจริงและเป็นจริงอย่างที่ตาเห็น ส่วนใหญ่เป็นการสรา้งสรรค์ผลงานของ
จิตรกรชาวฝรัง่เศส

24. ผลงานของกุสตาฟ โฟล์แบรต์
(Gustave Flaubert)

25. สถาปัตยกรรม มีการสรา้งอาคารสูงหลายๆชนั้การ
ก่อสรา้งจะนา วัสดุที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่มาใช้เช่น
คอนกรีตอัดแรง อาคารส่วนใหญ่มีลักษณะเรียบง่าย ให้
ใชป้ระโยชน์ไดม้ากที่สุดในเน้อืที่จา กัด

26. ประติมากรรม นิยมปนั้และหล่อรูปคนมีสัดส่วนเหมือนคนจริง
ผิวรูปปนั้หยาบ ไม่เนียน เมื่อแสงส่องจะเห็นกลา้มเน้อืชัดเจน ศิลปินคน
สา คัญคือ โอกูสต์โรแดง

27. ดนตรีแต่งเพลงตามแนวความคิดที่ว่าดนตรีไม่ใช่สิ่งที่หล่ออกมาเป็นรูปแบบ
ตายตัว แต่ดนตรีตอ้งประกอบดว้ยสีสันและจังหวะ
การละคร สะทอ้นภาพสังคมในแง่มุมต่างๆ แลดงสมจริงเป็นธรรมชาติ บท
ละครเขียนเป็นรอ้ยแกว้ ผูบุ้กเบิกละครแนวน้คีือ เฮนริก อิบเซน ผูแ้ต่งเรื่องบา้น
ตุ๊กตา
วรรณกรรม สนใจขอ้เท็จจริงมากกว่าอารมณ์ความรูสึ้ก สะทอ้นภาพการ
ต่อสูด้ิ้นรนของมนุษย์ในสังคม ความเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรีบบ ชีวิตที่ไร้
ความหวัง นักเขียนมักจะบรรยายสภาพความเป็นอยู่ที่ทุกข์ยาก ชาลส์ดิกเกนส์
ผูเ้ขียนนวนิยายเรื่อง โอลิเวอร์ทวิสต์(Oliver Twist) งานเขียนน้มีี
ส่วนใหเ้กิดการปฏิรูปสังคมในอังกฤษ

28. จัดทาโดย
นางสาว พิชญา ปัญญาสาโรจน์ เลขที่ 24 ม.6.5
นางสาว ภาพิมล คงศรี เลขที่ 27 ม.6.5