More Related Content
Similar to 2.ส่วนหน้าแผน (20)
2.ส่วนหน้าแผน
- 2. ข
คำนำ
คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง หน่วยของสิ่งมีชีวิตและชีวิตพืช กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เล่มนี้ จัดทาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลาเรียน 24 ชั่วโมง โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการทา
โครงงานวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับ เรื่อง หน่วยของสิ่งมีชีวิตและชีวิตพืช ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นี้
มีจานวน 8 ชุดดังนี้
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง กล้องจุลทรรศน์ (เวลา 3 ชั่วโมง)
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง โครงสร้างหน้าที่และส่วนประกอบของเซลล์
(เวลา 3 ชั่วโมง)
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การเคลื่อนที่ของสารผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (เวลา 3 ชั่วโมง)
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช (เวลา 3 ชั่วโมง)
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การลาเลียงของสารในพืช (เวลา 3 ชั่วโมง)
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง กระบวนการสืบพันธุ์ของพืช (เวลา 3 ชั่วโมง)
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การเจริญเติบโตและการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช(3ชั่วโมง)
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง เทคโนโลยีชีวภาพที่เกี่ยวข้องกับพืช (เวลา 3 ชั่วโมง)
ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อครู นักเรียนและ
ผู้สนใจให้มีความสะดวกในการนาไปใช้ สามารถนาไปจัดและปรับปรุงเพื่อใช้ในการเรียนการ
สอนที่มีประสิทธิภาพต่อไป
เอเดียน คุณาสิทธิ์
ผู้จัดทา
- 3. ค
สำรบัญ
เรื่อง หน้ำ
ปก .......................................................................................................................................... ก
คานา....................................................................................................................................... ข
สารบัญ................................................................................................................................... ค
สารบัญตาราง ......................................................................................................................... จ
การวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551............................. 1
แนวคิด............................................................................................................................. 1
หลักการ ......................................................................................................................... 2
จุดหมาย.......................................................................................................................... 2
โครงสร้างของหลักสูตร................................................................................................. 4
โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาบ้านกาเกาะระโยง................................................................ 8
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ช่วงชั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์..... 9
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง สาระการเรียนรู้พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ม. 1........................................ 25
คาอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตร์................................................................................................ 34
การวิเคราะห์องค์ประกอบของคาอธิบายรายวิชา.................................................................... 35
การกาหนดหน่วยการเรียนรู้................................................................................................... 36
การกาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ .......................................................................................... 41
กาหนดเค้าโครงการสอน........................................................................................................ 46
การวิเคราะห์ผู้เรียน................................................................................................................. 52
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 ........................................................................................ 59
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 2......................................................................................... 65
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3......................................................................................... 71
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4......................................................................................... 78
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 5......................................................................................... 84
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6......................................................................................... 90
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7......................................................................................... 97
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 8......................................................................................... 104
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 9......................................................................................... 112
- 4. ง
สำรบัญ (ต่อ)
เรื่อง หน้ำ
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 10....................................................................................... 119
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 11....................................................................................... 126
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 12....................................................................................... 133
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 13....................................................................................... 140
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 14....................................................................................... 147
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 15....................................................................................... 154
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 16....................................................................................... 161
แนวการตอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 – 8............................................................................ 195
แบบทดสอบก่อนเรียน .......................................................................................................... 289
แบบทดสอบหลังเรียน ........................................................................................................... 296
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน................................................................................. 303
กระดาษคาตอบก่อนเรียน....................................................................................................... 304
กระดาษคาตอบหลังเรียน ....................................................................................................... 305
บรรณานุกรม.......................................................................................................................... 306
ภาคผนวก............................................................................................................................... 308
- 5. จ
สำรบัญตำรำง
ตำรำงที่ หน้ำ
ตารางที่ 1 การวิเคราะห์องค์ประกอบของคาอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตร์..................................35
ตารางที่ 2 หน่วยการเรียนรู้และกาหนดชั่วโมงเรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์.....................36
ตารางที่ 3 กาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง หน่วยของสิ่งมีชีวิตและชีวิตพืช41
ตารางที่ 4 การกาหนดเค้าโครงการสอน หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง หน่วยของสิ่งมีชีวิตและชีวิตพืช46
ตารางที่ 5 วิเคราะห์ผู้เรียนด้านครอบครัว..................................................................................53
ตารางที่ 6 วิเคราะห์ผู้เรียนด้านพัฒนาการของผู้เรียน.................................................................55
ตารางที่ 7 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยของนักเรียน ปีการศึกษา 2553 ..................................57
- 6. 289
แบบทดสอบก่อนเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง หน่วยของชีวิตและชีวิตพืช
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
คาชี้แจง ให้นักเรียนทาเครื่องหมาย (X) ลงในช่องที่เห็นว่าถูกต้องลงในกระดาษที่แจกให้
ใช้รูปต่อไปนี้ตอบคำถำม ข้อ 1 และ 2
1. เมื่อจะใช้กล้องจุลทรรศน์จะวางแผ่นสไลด์ไว้
ที่ส่วนประกอบหมายเลขใด
ก. หมายเลข 4
ข. หมายเลข 5
ค. หมายเลข 6
ง. หมายเลข 7
2. ถ้าต้องการขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นนักเรียนจะ
ปรับส่วนประกอบหมายเลขใดอันดับแรก
ก. หมายเลข 4
ข. หมายเลข 5
ค. หมายเลข 7
ง. หมายเลข 9
3. จากข้อมูลต่อไปนี้
1) หมุนเลนส์ใกล้วัตถุให้เลนส์ที่มี
กาลังขยายต่าสุดอยู่ตรงกับแนวลากล้อง
2) เปิดหลอดไฟให้แสงผ่านเข้าลากล้อง
3) นาสไลด์เซลล์วางบนแท่นวางสไลด์
4) หมุนปุ่มปรับภาพหยาบ
5) ตามองที่เลนส์ใกล้ตาผ่านลากล้อง
หมุนปุ่มปรับภาพละเอียด
ข้อใดเรียงลาดับการใช้กล้องจุลทรรศน์ได้
ถูกต้อง
ก. 32145
ข. 23145
ค. 13254
ง. 1 2345
4. จากภาพ ข้อใดเป็นเซลล์ประสาทของคน
ก.
ข.
ค.
ง.
- 7. 290
5. จากภาพ ควรเป็นเซลล์ของสิ่งมีชีวิตใด
ก. หัวหอมแดง
ข. ว่านหางจระเข้
ค. ว่านกาบหอย
ง. สาหร่ายหางกระรอก
6. จากภาพ หมายเลข 1 คือ ส่วนใดของเซลล์
ก. เยื่อหุ้มเซลล์
ข. ไซโทพลาสซึม
ค. นิวเคลียส
ง. คลอโรพลาสต์
7. ถ้านักเรียนใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูเซลล์เยื่อ
หอม นักเรียนจะไม่พบส่วนประกอบใด
ก. ไซไทพลาสซึม
ข. นิวเคลียส
ค. คลอโรพลาสต์
ง. ผนังเซลล์
8. จากภาพเป็นส่วนประกอบของพืชที่
ทาหน้าที่ใด
ก. ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช
ข. ควบคุมการคายน้าของพืช
ค. ควบคุมการหายใจของพืช
ง. ควบคุมการแลกเปลี่ยนแก๊สภายในพืช
ใช้ชุดการทดลองต่อไปนี้ตอบคาถามข้อ 9 -10
9. เกล็ดด่างทับทิมในภาชนะทั้งสาม จะเกิดการ
แพร่จนอยู่ในภาวะสมดุล นักเรียนคิดว่าการแพร่
ในภาชนะใด อยู่ในภาวะสมดุลได้เร็วตามลาดับ
ก. ภาชนะที่ 1 , 3, 2
ข. ภาชนะที่ 3 , 2 ,1
ค. ภาชนะที่ 3 , 1, 2
ง. ภาชนะที่ 2 , 1, 3
- 8. 291
10. จากข้อ 9 ถ้าเราเปรียบเทียบการแพร่ใน
ภาชนะที่ 1 กับภาชนะที่ 3 ตัวแปรต้นที่ศึกษา
คืออะไร
ก. ขนาดของเกล็ดด่างทับทิม
ข. จานวนเกล็ดด่างทับทิม
ค. ความเข้มข้นของสารละลาย
ง. อุณหภูมิของสารละลาย
11. ข้อใดเป็นการออสโมซิส
ก. น้าและแร่ธาตุออกจากท่อลาเลียงน้าไปสู่
ส่วนต่าง ๆของพืช
ข. การฉีดยาฆ่าแมลง
ค. การกระจายของด่างทับทิมในน้า
ง. การละลายของเกลือในน้า
12. เด็กหญิงดวงใจนาปุ๋ ยคอกใส่ที่โคนต้นพืช
โดยรดน้าเพียงเล็กน้อย เช้าวันต่อมาต้นพืช
เหี่ยวและตายในที่สุด นักเรียนคิดว่าเกิดจาก
สาเหตุใด
ก. พืชได้รับธาตุอาหารมากเกินไป
ข. น้าจากต้นพืชเกิดจากออสโมซิสลงสู่ดิน
ค. พืชเกิดการคายน้าออกจากใบมาก
เกินไป
ง. น้าเกิดจากการออสโมซิสจากดินเข้าสู่
รากพืชมากเกินไป
13. โครงงานเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับการนา
หลักการแพร่และการออสโมซิสไปใช้มาก
ที่สุด
ก. โอเอซิสจากขุยกาบมะพร้าว
ข. การทาขนนตาล
ค. การฟอกสีไหมด้วยเปลือกนุ่น
ง. การทาเยื่อกระดาษจากชานอ้อย
14. ในการสกัดคลอโรฟิลล์จากใบพืช
วิธีการใดเหมาะสมที่สุด
ก. ต้มใบพืชกับน้า
ข. ต้มใบพืชกับน้าก่อนแล้วจึงนาไปต้มใน
เมทิลแอลกอฮอล์
ค. ต้มใบพืชกับน้าก่อนแล้วจึงนาไปต้มใน
เอทิลแอลกอฮอล์
ง. นาไปต้มกับแอลกอฮอล์ได้ทันที
15. ศึกษาภาพทดลองต่อไปนี้
จากภาพนักเรียนจะตั้งสมมติฐานการศึกษาว่า
อย่างไร
ก. แสงแดดมีความจาเป็นในการ
เจริญเติบโตของพืช
ข. ใบพืชในชุดการทดลอง B และ C
จะตรวจพบแป้ง
ค. ใบพืชในชุดการทดลองAจะตรวจพบแป้ง
ง. ชุดการทดลอง A และ C จะตรวจพบ
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
16. ต้องการให้ผลการทดลองเป็นไปตาม
สมมติฐานในข้อ 15 ควรควบคุมสิ่งใดให้
เหมือนกัน
1. ชนิดของพืชที่ปลูก
2. ระยะเวลาที่ถูกแสง
3. ปริมาณแสงที่ได้รับ
4. การให้น้าและปุ๋ ย
- 9. 292
ข้อใดถูกต้อง
ก. ข้อ 1,2
ข. ข้อ 1,2,3
ค. ข้อ 1,2,4
ง. ข้อ 2,3,4
17. ให้นักเรียนศึกษาภาพการทดลองต่อไปนี้
จากภาพถ้านาใบพืชชุดการทดลอง ก และ ข
ไปทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีนพบว่า ชุด
การทดลอง ก เปลี่ยนสารละลายไอโอดีนเป็น
สีม่วงแกมน้าเงิน นักเรียนคิดว่า ตัวแปรต้น
ของการทดลองนี้ คืออะไร
ก. สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์
ข. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ค. แก๊สออกซิเจน
ง. สารละลายไอโอดีน
18. ปัจจัยภายในที่ทาให้เกิดกระบวนการ
สังเคราะห์ด้วยแสงของพืชคืออะไร
ก. แสงแดด
ข. แก๊สออกซิเจน
ค. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ง. คลอโรฟิลล์
19.
จากสมการการสังเคราะห์แสง หลังจากพืช
ถูกแสงแล้ว 3 ชั่วโมง สาร A และ B คือ อะไร
ตามลาดับ
ก. น้า และน้าตาลกลูโคส
ข. น้าและแป้ ง
ค. น้าตาลกลูโคสและแป้ ง
ง. แป้ งและน้าตาลกลูโคส
20. จากภาพนักเรียนคิดว่า เมื่อนาหลอดทดลอง
ไปทดสอบกับธูปแดง ๆ ธูปจะสว่าง แสดงว่า
แก๊สที่เกิดขึ้นเป็นแก๊สชนิดใด
ก. แก๊สออกซิเจน
ข. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ค. แก๊สไนโตรเจน
ง. แก๊สแอมโมเนีย
21. โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องใด เกี่ยวข้องกับ
การนาความรู้เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์
ของพืชมาศึกษา
ก. การศึกษาปริมาณแก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์ที่มีผลต่อการหายใจ
ของแบคทีเรีย
ข. การแปลงเพศปลากัดด้วยไรแดง
ชุดการทดลอง ขชุดการทดลอง ก
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ A B น้า แก๊สออกซิเจน
แสง
คลอโรฟิลล์
- 10. 293
ค. แสงสีม่วงเพิ่มการเจริญเติบโตของ
ถั่วงอก
ง. น้าซาวข้าวเพิ่มการเจริญเติบโตของ
เห็ดนางฟ้า
22. การงอกของรากพืชต้องอาศัยปัจจัยใด
ก. แสงแดด
ข. ปริมาณน้า
ค. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ง. ธาตุอาหารพืช
23. การลาเลียงน้าและอาหารของพืชมีทิศ
การลาเลียงอย่างไร
ก. พืชลาเลียงน้าผ่านไซเล็ม จากด้านล่างสู่
ด้านบนของต้นพืช
ข. พืชลาเลียงน้าผ่านโฟเอ็ม จากด้านล่างสู่
ด้านบนของต้นพืช
ค. พืชลาเลียงอาหารผ่านไซเล็มจากด้านบนสู่
ด้านล่างของต้นพืช
ง. พืชลาเลียงอาหารผ่านโฟเอ็มจากด้านล่าง
สู่ด้านล่างของต้นพืช
24. จากข้อมูลต่อไปนี้
1) น้าออสโมซิสเข้าสู่เซลล์คุม
2) เซลล์คุมเต่งทาให้ปากใบจะเปิด
3) น้าจากดินออสโมซิสเข้าสู่ราก
4) น้าออสโมซิสไปตามเนื้อเยื่อท่อลาเลียง
น้าและเข้าสู่เซลล์ของใบ
ข้อใดเรียงลาดับการคายน้าของพืชได้ถูกต้อง
ก. 3 41 2
ข. 3 14 2
ค. 4 31 2
ง. 4 21 3
25. ท่อลาเลียงน้าของพืชใบเลี้ยงคู่แตกต่างจาก
ลาเลียงน้าของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวอย่างไร
ก. พืชใบเลี้ยงคู่จะมีท่อลาเลียงน้าอยู่ด้านใน
ท่อลาเลียงอาหารเป็นวงรอบ ๆ ลาต้น
ข. พืชใบเลี้ยงคู่จะมีท่อลาเลียงน้าอยู่ด้านนอก
ท่อลาเลียงอาหาร และอยู่กระจัดกระจาย
ทั่วลาต้น
ค. พืชใบเลี้ยงคู่จะมีท่อลาเลียงน้าและท่อ
ลาเลียงอาหารอยู่ด้านในเป็นวงรอบ ๆ ลาต้น
ง. พืชใบเลี้ยงคู่และพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมี
ท่อลาเลียงน้าอยู่ด้านนอกอยู่กระจัด
กระจาย ทั่วลาต้น
26. โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลองเรื่อง
ใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการลาเลียงของสารในพืช
ก. ดอกไม้สดสวยด้วยโอเอซิสจากขุยกาบ
มะพร้าว
ข. สารส้มชะลอความเหี่ยวของผัก
ค. น้ามะพร้าวชะลอความเหี่ยวของผักชี
ง. ไส้เดือนดินเพิ่มการเจริญเติบโตของผัก
27. ดอกไม้ชนิดใด เป็นดอกสมบูรณ์เพศทั้งหมด
ก. ดอกต้อยติ่ง ดอกมะเขือ ดอกฟักทอง
ข. ดอกมะเขือ ดอกมะลิ ดอกมะพร้าว
ค. ดอกกล้วยไม้ ดอกผักบุ้ง ดอกบัว
ง. ดอกฟักทอง ดอกกุหลาบ ดอกบัว
28. ข้อใดคือ เซลล์หมายเลข 5
ก. ทิวป์นิวเคลียส
ข. เซลล์ไข่
ค. สเปิร์มนิวเคลียส
ง. รังไข่
- 11. 294
29. หลังจากปฏิสนธิแล้วการเปลี่ยนแปลงใด
ถูกต้อง
ก. รังไข่เจริญไปเป็นผล
ข. ไข่เจริญไปเป็นเมล็ด
ค. ออวุลเจริญไปเป็นเนื้อของผล
ง. กลีบดอกกลายไปเปลือกผลไม้
30. โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับ
การนาความรู้เกี่ยวกับกระบวนการสืบพันธุ์
ของพืชไปใช้ประโยชน์น้อยที่สุด
ก. การศึกษาความเข้มข้นของสารละลาย
น้าตาลกับการงอกของละอองเรณู
ข. ปริมาณรากไทรที่มีผลต่อการงอก
ของรากกิ่งตอนโกศล
ค. น้าในเมล็ดมะละกอเร่งการงอก
ของรากพืช
ง. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เร่งอัตรา
การสังเคราะห์แสงของพืช
จากภาพต่อไปนี้ใช้ตอบคาถามข้อ 31 – 32
31. หมายเลข 5 คือส่วนใดของพืช
ก. รากแรกเกิด
ข. รูไมโครไพล์
ค. ยอดแรกเกิด
ง. ต้นอ่อน
32. เมื่อพืชงอกออกมาจากเมล็ด ต้นอ่อนจะ
ได้รับอาหารจากส่วนใดของพืช
ก. หมายเลข 1
ข. หมายเลข 2
ค. หมายเลข 3
ง. หมายเลข 7
33. ถ้านาเมล็ดพืชชนิดหนึ่งไปแช่น้าในเวลา
ต่างกันแล้วนามาเพาะในที่มืด ผลของ
การงอกนามาเขียนกราฟได้ดังรูป นักเรียนคิด
ว่าเขาต้องการศึกษาเรื่องใด
ก. แสงสว่างจาเป็นต่อการงอกหรือไม่
ข. เมล็ดพืชจะงอกได้ดีในที่มืดหรือที่สว่าง
ค. เมล็ดพืชที่แช่น้ากับเมล็ดพืชที่ไม่ได้
แช่น้ามีการงอกแตกต่างกันหรือไม่
ง. ระยะเวลาในการแช่เมล็ดพืชในน้ามีผล
ต่อการงอกของเมล็ดพืชหรือไม่
34. การเจริญเติบโตของพืชประกอบด้วย
กระบวนการเรียงลาดับก่อนหลัง ดังนี้
1. การขยายขนาดของเซลล์
2. การเพิ่มจานวนเซลล์
3. การแปรสภาพของเซลล์
4. การเกิดรูปของสิ่งมีชีวิต
ข้อใดถูกต้อง
ก. 12 34
ข. 2134
ค. 3421
ง. 4321
- 12. 295
35. ข้อใดเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณน้า
ภายในเซลล์
ก. ดอกบัวจะบานในตอนกลางวันและหุบใน
ตอนกลางคืน
ข. รากของพืชจะเจริญเข้าหาน้าและเจริญ
หนีแสง
ค. การหุบใบของไมยราบเมื่อมีการสัมผัส
หรือเมื่อได้รับการสั่นสะเทือน
ง. ปลายยอดของพืชจะเจริญเข้าหาแสง
36. “แคลลัส”มีความสมพันธ์กับสิ่งใด ต่อไปนี้
ก. พืช GMOs
ข. การตัดแต่งพันธุกรรม
ค. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ง. สิ่งมีชีวิตแปลงพันธุ์
37. สารที่เติมในอาหารสังเคราะห์เพื่อช่วย
ขยายขนาดและเปลี่ยนแปลงรูปร่างของ
เซลล์ คือ
ก. ฮอร์โมนออกซิน
ข. โซเดียมไฮโปคอลไรด์
ค. น้าตาลทรายขาว
ง. ฟีนิลอะรานีล
38. เกษตรกรที่ต้องการเร่งให้ผลไม้สุกเร็ว
ต้องบ่มด้วยสารเคมีชนิดใด
ก. จิบเบอเรลริน
ข. ออกซิน
ค. เอทิลีน
ง. โพแทสเซียมไนเตรท
39. แมลงห้า จะกินแมลงอื่น ๆ เป็นอาหาร
จะฆ่าเหยื่อโดยวิธีดูดหรือจับกินแมลงชนิด
ใดมีลักษณะดังกล่าว
ก. ด้วงเด่า
ข. ตัวต่อ
ค. ผึ้ง
ง. ผีเสื้อ
40. การนาเทคโนโลยีชีวภาพมาใช้มนุษย์ยัง
ไม่มั่นใจในเรื่องใด
ก. อาจมีผลต่อสุขภาพของพืชและสัตว์
ข. จะไปทาให้สายพันธุ์พืชพันธุ์พื้นเมือง
กลายพันธุ์
ค. มีราคาแพงไม่เหมาะกับประเทศกาลัง
พัฒนา
ง. ไม่สามารถควบคุมคุณภาพให้
แน่นอนได้
- 13. 296
แบบทดสอบหลังเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง หน่วยของชีวิตและชีวิตพืช
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
คาชี้แจง ให้นักเรียนทาเครื่องหมาย (X) ลงในช่องที่เห็นว่าถูกต้องลงในกระดาษที่แจกให้
1. เลนส์ชนิดใดที่เป็นส่วนประกอบของกล้อง
จุลทรรศน์แบบใช้แสง
ก. เลนส์เว้า
ข. เลนส์นูน
ค. เลนส์แม่เหล็ก
ง. กระจกนูน
ใช้รูปต่อไปนี้ตอบคำถำม ข้อ 2
2. ถ้าต้องการขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นนักเรียนจะ
ปรับส่วนประกอบหมายเลขใดอันดับแรก
ก. หมายเลข 4
ข. หมายเลข 5
ค. หมายเลข 7
ง. หมายเลข 9
3. จากข้อมูลต่อไปนี้
1) หมุนเลนส์ใกล้วัตถุให้เลนส์ที่มี
กาลังขยายต่าสุดอยู่ตรงกับแนวลากล้อง
2) เปิดหลอดไฟให้แสงผ่านเข้าลากล้อง
3) นาสไลด์เซลล์วางบนแท่นวางสไลด์
4) หมุนปุ่มปรับภาพหยาบ
5) ตามองที่เลนส์ใกล้ตาผ่านลากล้อง หมุน
ปุ่มปรับภาพละเอียด
ข้อใดเรียงลาดับการใช้กล้องจุลทรรศน์ได้
ถูกต้อง
ก. 32145
ข. 23145
ค. 13254
ง. 1 2345
4. เมื่อใช้กาลังขยายของเลนส์ใกล้ตา 10
และกาลังขยายของเลนส์ใกล้วัตถุ 40
ก. 50 เท่า
ข. 40 เท่า
ค. 400 เท่า
ง. 4000 เท่า
5. จากภาพส่วนประกอบหมายเลขใดที่ทาหน้าที่
ห่อหุ้มเซลล์
ก. หมายเลข 1
ข. หมายเลข 2
ค. หมายเลข 3
ง. หมายเลข 5
- 14. 297
6. ส่วนประกอบใดของเซลล์พืชที่แตกต่างจาก
เซลล์สัตว์
ก. ผนังเซลล์ และเยื่อหุ้มเซลล์
ข. ผนังเซลล์และคลอโรพลาสต์
ค. คลอโรพลาสต์และไซโทพลาสซึม
ง. ไซโทพลาสซึมและผนังเซลล์
7. ส่วนประกอบใดที่อยู่ในไซโทพลาสซึม
ที่ทาหน้าที่ สังเคราะห์โปรตีนและเอนไซม์
ก. ไรโบโซม
ข. คลอโรพลาสต์
ค. แวคิวโอล
ง. เซทริโอล
8. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. การแพร่ เป็นการเคลื่อนที่ของสารจาก
บริเวณที่ความเข้มข้นต่าไปสู่บริเวณที่มี
ความเข้มข้นต่า
ข. ถ้าอุณหภูมิลดลง การแพร่จะเกิดขึ้น
อย่างรวดเร็ว
ค. สารที่มีอนุภาคเล็กจะแพร่ได้ช้ากว่า
สารที่มีอนุภาคใหญ่
ง. สารที่มีอัตราการละลายได้ดีจะมี
การแพร่สูง
ใช้ชุดการทดลองต่อไปนี้ตอบคาถามข้อ 9
9. ถ้าเราเปรียบเทียบการแพร่ในภาชนะที่ 1
กับภาชนะที่ 3 ตัวแปรต้นที่ศึกษาคืออะไร
ก. ขนาดของเกล็ดด่างทับทิม
ข. จานวนเกล็ดด่างทับทิม
ค. ความเข้มข้นของสารละลาย
ง. อุณหภูมิของสารละลาย
10. กาหนดให้
สาร ก ความเข้มข้น 25%
สาร ข ความเข้มข้น 5%
นาสาร ข. ใส่ในถุงกระดาษ เซลโลเฟน
แล้วนาไปแช่ในบีกเกอร์ที่มีสารอยู่ ดังภาพ
นักเรียนคิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ก. สาร ก จะมีการเคลื่อนที่เข้าไปภายในถุง
ข. สาร ข จะมีการเคลื่อนที่ออกมา
ภายนอกถุง
ค. น้าภายนอกถุงจะมีการเคลื่อนที่เข้าไป
ภายในถุง
ง. น้าภายในถุงจะมีการเคลื่อนที่ออกมา
ภายนอกถุง
- 15. 298
11. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการ
ออสโมซิส
ก. การเคลื่อนที่ของน้าจากบริเวณน้ามาก
ไปยังบริเวณน้าน้อยกว่า
ข. การเคลื่อนที่ของน้าจากบริเวณน้าน้อย
ผ่านเยื่อเลือกผ่านไปยังบริเวณน้ามาก
ค. การเคลื่อนที่ของน้าจากสารละลาย
เข้มข้นผ่านเยื่อเลือกผ่านไปยัง
สารละลายเจือจาง
ง.เป็นการเคลื่อนที่ของน้าจากสารละลาย
เจือจางผ่านเยื่อเลือกผ่านไปยังสารละลาย
ที่เข้มข้นกว่า
12. เด็กหญิงดวงใจนาปุ๋ ยคอกใส่ที่โคนต้นพืช
โดยรดน้าเพียงเล็กน้อย เช้าวันต่อมาต้นพืช
เหี่ยวและตายในที่สุด นักเรียนคิดว่าเกิดจาก
สาเหตุใด
ก. พืชได้รับธาตุอาหารมากเกินไป
ข. น้าจากต้นพืชเกิดจากออสโมซิสลงสู่ดิน
ค. พืชเกิดการคายน้าออกจากใบมาก
เกินไป
ง. น้าเกิดจากการออสโมซิสจากดินเข้าสู่
รากพืชมากเกินไป
13. ในการสกัดคลอดรฟิลล์จากใบพืช
วิธีการใดเหมาะสมที่สุด
ก. ต้มใบพืชกับน้า
ข. ต้มใบพืชกับน้าก่อนแล้วจึงนาไปต้ม
ในเมทิลแอลกอฮอล์
ค. ต้มใบพืชกับน้าก่อนแล้วจึงนาไปต้ม
ในเอทิลแอลกอฮอล์
ง. นาไปต้มกับแอลกอฮอล์ได้ทันที
14. ศึกษาภาพทดลองต่อไปนี้
จากภาพนักเรียนจะตั้งสมมุติฐานการศึกษาว่า
อย่างไร
ก. แสงแดดมีความจาเป็นในการ
เจริญเติบโตของพืช
ข. ใบพืชในชุดการทดลอง B และ C
จะตรวจพบแป้ง
ค. ใบพืชในชุดการทดลองAจะตรวจพบแป้ง
ง. ชุดการทดลอง A และ C จะตรวจพบ
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
15. ให้นักเรียนศึกษาภาพการทดลองต่อไปนี้
จากภาพถ้านาใบพืชชุดการทดลอง ก และ ข
ไปทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีนพบว่า ชุด
การทดลอง ก เปลี่ยนสารละลายไอโอดีนเป็น
สีม่วงแกมน้าเงิน นักเรียนคิดว่า ตัวแปรต้น
ของการทดลองนี้ คืออะไร
ก. สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์
ข. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ค. แก๊สออกซิเจน
ง. สารละลายไอโอดีน
ชุดการทดลอง ขชุดการทดลอง ก
- 16. 299
16. ปัจจัยภายในที่ทาให้เกิดกระบวนการ
สังเคราะห์ด้วยแสงของพืชคืออะไร
ก. แสงแดด
ข. แก๊สออกซิเจน
ค. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ง. คลอโรฟิลล์
17.
จากสมการการสังเคราะห์แสง หลังจากพืช
ถูกแสงแล้ว 3 ชั่วโมง สาร A และ B คือ อะไร
ตามลาดับ
ก. น้า และน้าตาลกลูโคส
ข. น้าและแป้ ง
ค. น้าตาลกลูโคสและแป้ ง
ง. แป้งและน้าตาลกลูโคส
18. โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องใด เกี่ยวข้องกับ
การนาความรู้เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์
ของพืชมาศึกษา
ก. การศึกษาปริมาณแก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์ที่มีผลต่อการหายใจ
ของแบคทีเรีย
ข. การแปลงเพศปลากัดด้วยไรแดง
ค. แสงสีม่วงเพิ่มการเจริญเติบโตของ
ถั่วงอก
ง. น้าซาวข้าวเพิ่มการเจริญเติบโตของ
เห็ดนางฟ้า
19. ลักษณะของขนรากที่เป็นเส้นเล็ก ๆ รอบ
บริเวณราก มีผลดีต่อพืชอย่างไร
ก. ทาให้ลาเลียงอาหารในพืชได้มากขึ้น
ข. ทาให้ทาเลียงแร่ธาตุได้มากขึ้น
ค. ทาให้ทาต้นพืชมีขนาดใหญ่ลาเลียงสาร
ได้มากขึ้น
ง. ทาให้เพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสในการลาเลียงน้า
และแร่ธาตุเข้าสู่พืชมากขึ้น
20. การลาเลียงน้าและอาหารของพืชมีทิศการ
ลาเลียงอย่างไร
ก. พืชลาเลียงน้าผ่านไซเล็ม จากด้านล่างสู่
ด้านบนของต้นพืช
ข. พืชลาเลียงน้าผ่านโฟเอ็ม จากด้านล่างสู่
ด้านบนของต้นพืช
ค. พืชลาเลียงอาหารผ่านไซเล็มจากด้านบนสู่
ด้านล่างของต้นพืช
ง. พืชลาเลียงอาหารผ่านโฟเอ็มจากด้านล่าง
สู่ด้านล่างของต้นพืช
21. จากข้อมูลต่อไปนี้
1) น้าออสโมซิสเข้าสู่เซลล์คุม
2) เซลล์คุมเต่งทาให้ปากใบจะเปิด
3) น้าจากดินออสโมซิสเข้าสู่ราก
4) น้าออสโมซิสไปตามเนื้อเยื่อท่อลาเลียง
น้าและเข้าสู่เซลล์ของใบ
ข้อใดเรียงลาดับการคายน้าของพืชได้ถูกต้อง
ก. 3 41 2
ข. 3 14 2
ค. 4 31 2
ง. 4 21 3
22. การคายน้าของพืชไม่เกี่ยวข้องกับพืชใน
เรื่องใด
ก. ช่วยลดอุณหภูมิของใบพืช
ข. ช่วยให้รากดูดน้าและแร่ธาตุได้มากขึ้น
ค. ช่วยกาจัดน้าส่วนเกินที่พืชต้องการ
ง. ช่วยให้พืชสะสมน้าในลาต้นได้มากขึ้น
แสง
คลอโรฟิลล์
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ A B น้า แก๊สออกซิเจน
- 17. 300
23. ก่อนการปลูกพืช ทาไมจึงต้องเด็ดใบพืชที่
แก่ออกหลายใบ
ก. เป็นใบที่พืชไม่ต้องการ
ข. ลดการคายน้าของพืช
ค. เพื่อการคายน้าของพืช
ง. ทาให้พืชที่ปลูกสวยงาม
24. ท่อลาเลียงน้าของพืชใบเลี้ยงคู่แตกต่างจาก
ลาเลียงน้าของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวอย่างไร
ก. พืชใบเลี้ยงคู่จะมีท่อลาเลียงน้าอยู่ด้านใน
ท่อลาเลียงอาหารเป็นวงรอบ ๆ ลาต้น
ข. พืชใบเลี้ยงคู่จะมีท่อลาเลียงน้าอยู่ด้านนอก
ท่อลาเลียงอาหาร และอยู่กระจัดกระจาย
ทั่วลาต้น
ค. พืชใบเลี้ยงคู่จะมีท่อลาเลียงน้าและท่อ
ลาเลียงอาหารอยู่ด้านในเป็นวงรอบ ๆลาต้น
ง. พืชใบเลี้ยงคู่และพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมีท่อ
ลาเลียงน้าอยู่ด้านนอกอยู่กระจัดกระจาย
ทั่วลาต้น
25. โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง
เรื่องใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการลาเลียงของ
สารในพืช
ก. ดอกไม้สดสวยด้วยโอเอซิสจากขุยกาบ
มะพร้าว
ข. สารส้มชะลอความเหี่ยวของผัก
ค. น้ามะพร้าวชะลอความเหี่ยวของผักชี
ง. ไส้เดือนดินเพิ่มการเจริญเติบโตของผัก
26. ดอกไม้ชนิดใด เป็นดอกสมบูรณ์เพศทั้งหมด
ก. ดอกต้อยติ่ง ดอกมะเขือ ดอกฟักทอง
ข. ดอกมะเขือ ดอกมะลิ ดอกมะพร้าว
ค. ดอกกล้วยไม้ ดอกผักบุ้ง ดอกบัว
ง. ดอกฟักทอง ดอกกุหลาบ ดอกบัว
27. การปฏิสนธิเกิดขึ้นเมื่อใด
ก. ละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย
ข. สเปิร์มเซลล์ผสมกับเซลล์ไข่
ค. เมล็ดเริ่มงอกเป็นต้นใหม่
ง. กลีบดอกเริ่มบาน
28. หลังจากปฏิสนธิแล้วการเปลี่ยนแปลงใด
ถูกต้อง
ก. รังไข่เจริญไปเป็นผล
ข. ไข่เจริญไปเป็นเมล็ด
ค. ออวุลเจริญไปเป็นเนื้อของผล
ง. กลีบดอกกลายไปเปลือกผลไม้
29. การสืบพันธุ์ของพืชวิธีใดที่มีหลักการ
เหมือนกัน
ก. การติดตา การต่อกิ่ง การทาบกิ่ง
ข. การตอนกิ่ง การติดตา การชากิ่ง
ค. การทาบกิ่ง การติดตา การตอนกิ่ง
ง. การใช้หน่อ การติดตา การทาบกิ่ง
30. พืชชนิดใดที่มีวิธีการขยายพันธุ์ต่างไปจากพวก
ก. กุหลาบหิน
ข. โคมญี่ปุ่น
ค. ต้นตายใบเป็น
ง. สตรอเบอรี
31. โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับ
การนาความรู้เกี่ยวกับกระบวนการสืบพันธุ์
ของพืชไปใช้ประโยชน์น้อยที่สุด
ก. การศึกษาความเข้มข้นของสารละลาย
น้าตาลกับการงอกของละอองเรณู
ข. ปริมาณรากไทรที่มีผลต่อการงอก
ของรากกิ่งตอนโกศล
ค. น้าในเมล็ดมะละกอเร่งการงอกของรากพืช
ง. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เร่งอัตรา
การสังเคราะห์แสงของพืช
- 18. 301
32. จากภาพ เมื่อพืชงอกออกมาจากเมล็ด
ต้นอ่อนจะได้รับอาหารจากส่วนใดของพืช
ก. หมายเลข 1
ข. หมายเลข 2
ค. หมายเลข 3
ง. หมายเลข 7
33. ปัจจัยสาคัญในการงอกของเมล็ดพืชคือ
อะไร
ก. น้า อาหาร แก๊สออกซิเจน
ข. อุณหภูมิ แสงสว่าง น้า
ค. แก๊สออกซิเจน น้า อุณหภูมิ
ง. แสงสว่าง น้า อาหาร
34. ถ้านาเมล็ดพืชชนิดหนึ่งไปแช่น้าในเวลา
ต่างกันแล้วนามาเพาะในที่มืด ผลของ
การงอกนามาเขียนกราฟได้ดังรูป นักเรียน
คิดว่าเขาต้องการศึกษาเรื่องใด
ก. แสงสว่างจาเป็นต่อการงอกหรือไม่
ข. เมล็ดพืชจะงอกได้ดีในที่มืดหรือที่สว่าง
ค. เมล็ดพืชที่แช่น้ากับเมล็ดพืชที่ไม่ได้
แช่น้ามีการงอกแตกต่างกันหรือไม่
ง. ระยะเวลาในการแช่เมล็ดพืชในน้ามีผล
ต่อการงอกของเมล็ดพืชหรือไม่
35. การเจริญเติบโตของพืชประกอบด้วย
กระบวนการเรียงลาดับก่อนหลัง ดังนี้
1. การขยายขนาดของเซลล์
2. การเพิ่มจานวนเซลล์
3. การแปรสภาพของเซลล์
4. การเกิดรูปของสิ่งมีชีวิต
ข้อใดถูกต้อง
ก. 12 34
ข. 2134
ค. 3421
ง. 4321
36. ขณะที่พืชเจริญเติบโต ปรากฏว่าใบเลี้ยง
จะเหี่ยวและเล็กลง เพราะเหตุใด
ก. ใบเลี้ยงไม่คุ้นเคยต่อแสงสว่าง
ข. ใบเลี้ยงสูญเสียคลอโรฟิลล์ไป
ค. อาหารในใบเลี้ยงถูกใช้ไป
ง. น้าในใบเลี้ยงระเหยไปหมด
37. การหุบและกางใบของพืชตระกูลถั่วจะ
เกี่ยวข้องกับสิ่งเร้าในข้อใด
ก. อุณหภูมิ
ข. สารเคมี
ค. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ง. แสง
38. “แคลลัส”มีความสมพันธ์กับสิ่งใด ต่อไปนี้
ก. พืช GMOs
ข. การตัดแต่งพันธุกรรม
ค. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ง. สิ่งมีชีวิตแปลงพันธุ์
- 19. 302
39. เกษตรกรคนหนึ่งเพาะฟักแตนเบียนไข่
ของไหมป่าใส่ถุงไปแขวนไว้ที่กิ่งลาไยกาลัง
ออกดอกและติดผลอ่อน ๆ เมื่อแตนเบียนเป็น
ตัวเต็มวัยจะผสมพันธุ์และวางไข่ในไข่ของ
มวลลาไย จึงทาให้ไข่ของมวนลาไยถูกทาลาย
แมลงศัตรูพืชตามข้อมูลนี้ คืออะไร
ก. แตนเบียน
ข. มวนลาไย
ค. ตั๊กแตนลาไย
ง. ตัวไหมป่า
40. ถ้านักเรียนจะทาโครงงานวิทยาศาสตร์
ที่นาเทคโนโลยีชีวภาพที่เกี่ยวข้อง
กับพืชมาใช้ ชื่อเรื่องที่เป็นไปได้คืออะไร
ก. ฮอร์โมนจากสมองปลาหางนกยูง
เปลี่ยนสีปลากัด
ข. สารสกัดจากเมล็ดมะละกอเร่งการ
เจริญเติบโตของกบ
ค. ปุ๋ ยชีวภาพจากใบก้ามปูเร่งการเจริญเติบโต
ของพริก
ง. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อปลาวาฬเพื่อการ
ดารงพันธุ์
- 20. 303
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
1 ข 21 ค 1 ข 21 ก
2 ก 22 ข 2 ก 22 ง
3 ง 23 ก 3 ง 23 ข
4 ก 24 ก 4 ค 24 ก
5 ค 25 ก 5 ค 25 ง
6 ค 26 ง 6 ข 26 ค
7 ค 27 ค 7 ก 27 ข
8 ข 28 ค 8 ง 28 ก
9 ค 29 ก 9 ง 29 ก
10 ง 30 ง 10 ง 30 ง
11 ก 31 ข 11 ง 31 ง
12 ข 32 ง 12 ข 32 ง
13 ก 33 ง 13 ค 33 ค
14 ค 34 ข 14 ข 34 ง
15 ข 35 ค 15 ข 35 ข
16 ค 36 ค 16 ง 36 ค
17 ข 37 ก 17 ข 37 ก
18 ง 38 ค 18 ค 38 ค
19 ข 39 ก 19 ง 39 ข
20 ก 40 ก 20 ก 40 ค
- 23. 306
บรรณานุกรม
กนก จันทร์ขจร และคณะ. (2533). วิทยาศาสตร์ ม.1. พิมพ์ครั้งที่ 5. นนทบุรี : ไทยร่วมเกล้า.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2544). เอกสารประกอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544
คู่มือการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่ง
สินค้าและพัสดุภัณฑ์.
. (2545). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 . พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ :
คุรุสภาลาดพร้าว.
กฤษณีย์ ปิตุรัตน์. (2548). ผลการใช้ชุดฝึกเพื่อส่งเสริมความสามารถในการทาโครงงาน
วิทยาศาสตร์ที่พัฒนามาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
จังหวัดแม่ฮ่องสอน. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์ศึกษา
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
กุณฑรี เพชรทวีพรเดช และนิตยา บุญมี. (2548). วิทยาศาสตร์ ม.1. เล่ม 1. กรุงเทพฯ :
อักษรเจริญทัศน์.
เกริก ท่วมกลาง. (2546). แบบฝึกปฏิบัติการทาโครงงาน คู่มือการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ช่วงชั้นที่ 2 (ประถมศึกษาปีที่ 4- 6). : กรุงเทพฯ : สถาพรบุ๊คส์.
จักฬพล สว่างอารมณ์. (2543). ผลการใช้ชุดกิจกรรมฝึกทาโครงงานวิทยาศาสตร์ที่มีต่อ
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4.
วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาบูรพา.
ชาตรี เกิดธรรม. (2547). เทคนิคการสอนแบบโครงงาน. กรุงเทพฯ : ชมรมเด็ก.
เตือนใจ ไชยโย. (2545). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และความสามารถในการทา
โครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยการใช้แบบฝึกคิดหัวข้อและ
วางแผนการทาโครงงานวิทยาศาสตร์. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต
สาขาวิทยาศาสตร์ศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ถนัด ศรีบุญเรือง. (2549). วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 7. นนทบุรี : ไทยร่วมเกล้า.
. (2551). วิทยาศาสตร์ ม.1. เล่ม 1. นนทบุรี : ไทยร่วมเกล้า.
ถวัลย์ มาศจรัสและมณี เรืองขา. (2549). แนวการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโครงงาน.
กรุงเทพฯ : ดวงกมลสมัย.
- 24. 307
บัญชา แสนทวี และคณะ. (2546). วิทยาศาสตร์ เล่ม 1 ช่วงชั้นที่ 3 ชั้น ม.1. กรุงเทพฯ :
วัฒนาพาณิช.
ประดับ นาคแก้ว และดาวัลย์ เสริมบุญสุข. (2551). วิทยาศาสตร์ ม.1. กรุงเทพฯ :
สานักพิมพ์แม็ค .
ปิ่นศักดิ์ ชุมเกษียน และปิยาณี สมคิด. (2545). วิทยาศาสตร์ 2 ช่วงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3). นนทบุรี :
ไทยร่มเกล้า.
พเยาว์ ยินดีสุข และคณะ. (2546). วิทยาศาสตร์ ม.1. กรุงเทพฯ : พัฒนาคุณภาพวิชาการ.
พิมพันธ์ เดชะคุปต์. (2545). พฤติกรรมการสอนวิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ : พัฒนาคุณภาพวิชาการ
(วพ)จากัด
. (2551). การสอนคิดด้วยโครงงาน. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิมพ์พันธุ์ เดชะคุปต์ และคณะ. (2548). วิทยาศาสตร์ ม.1. กรุงเทพฯ : สถาบันพัฒนาคุณภาพ
วิชาการ.
. (2550). สุดยอดคู่มือครูแผนการจัดการเรียนรู้รายชั่วโมง. กรุงเทพฯ : สถาบันพัฒนา
คุณภาพวิชาการ.
พีระ พนาสุภน. (2551). แม็ค ม.ต้น. กรุงเทพฯ : ซีวีแอลการพิมพ์.
โรงเรียนบ้านอาปึลสนวน. (2551). แผนปฏิบัติการประจาปีการศึกษา 2551.กลุ่มบริหารงานทั่วไป.
. (2550). หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
(ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2). ฝ่ายวิชาการ.
ลิขิต ฉัตรสกุล และคณะ. (2533). วิทยาศาสตร์ เล่ม 2. กรุงเทพฯ : วัฒนาพาณิช.
วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์. (2550). นวัตกรรมตามแนวคิดแบบ Backward Design.กรุงเทพฯ :
ช้างทอง.
ศรีลักษณ์ ผลวัฒนะ. (2545). วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3). กรุงเทพฯ : นิยมวิทยา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2548). ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดารงชีวิต. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว.
สมพงศ์ จันทร์โพธิ์ศรี. (2549). โครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษา. : กรุงเทพฯ :
เจ้าพระยาระบบการพิมพ์.