SlideShare a Scribd company logo
1 of 9
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน สมุนไพรช่วยรักษาโรคมะเร็ง
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาว ศิริรัตน์ เรียวกลาง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3 เลขที่ 47
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวศิริรัตน์ เรียวกลาง เลขที่ 47 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) สมุนไพรช่วยรักษาโรคมะเร็ง
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Herbs help to cure cancer.
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว ศิริรัตน์ เรียวกลาง
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ปัจจุบันนี้โรคไม่ติดต่อ เป็นปัญหาด้านสุขภาพของประชากรโลก โรคที่ว่านี้ก็คือโรคมะเร็ง โรคมะเร็งเป็น
สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทยมานานติดต่อกันหลายปีและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นโรคที่มีความละเอียด
ซับซ้อน ในการวินิจฉัยและรักษา เป็นลักษณะเฉพาะของโรค รวมถึงยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย
จึงป็นโรคที่ควรให้ความสาคัญเป็นพิเศษ ร่างกายคนเรา มีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น แต่เราชนะไม่ป่วยเป็นมะเร็ง ได้เพราะ
ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่งด้วยระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถ ต่อสู่กับมะเร็งได้ ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทาลาย
ด้วยวิธีต่างๆ เป็นสาเหตุสาคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ได้แก่ การกินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ อาหารไม่สะอาดเต็มไปด้วย
สารพิษ สารก่อมะเร็ง การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษ และการไม่ออกกาลังกาย การรักษาโรคมะเร็งตามทฤษฎี
ทางการแพทย์ มี 2 วิธีที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายคือ การใช้รังสี และการใช้เคมีบาบัด ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็ใช้หลักการ
เดียวกันคือ การทาลายเนื้อร้าย แต่ไม่สามารถเลือกทาลายได้เพียงเนื้อร้าย เซลล์ดีจานวนมากต้องถูกทาลายไป
ด้วย ยกตัวอย่างเช่น เซลล์ผม เซลล์ผิวหนัง เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร เซลล์เม็ดเลือดในไขกระดูก จึงเกิดผลข้างเคียง
ตามมาเช่น ผมร่วง แผลในปาก อ่อนเพลีย เออาหาร โลหิตจาง เม็ดเลือดขาวต่า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เกล็ดเลือดต่าทา
ให้เลือดออกง่าย อีกทั้งผู้ป่วยยังมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นอีก จากการ กระจายตัวของเซลล์มะเร็งดังนั้น จึงได้มีการนา
สมุนไพรมาบารุงมาร่างกายมารักษาอาการต่างๆของโรคมะเร็ง หลักของการรักษามี 4 อย่างคือ บารุงสุขภาพ
(health maintenance) รักษาโรค (disease cure) การคืนสู่สภาพปกติ (Rasayana /restoration of normal
function) จิตวิญญาณ (spiritual approach) หลักที่สาคัญคือต้องหาสาเหตุของการเจ็บป่วยที่ทาให้เกิดการขาด
ความสมดุลและแก้ไขส่วนขาดและลดส่วนเกิน โดยทั่วไปจะเป็นส่วนประกอบของสมุนไพรหลายๆ ชนิด ซึ่งจะเข้าไป
3
ช่วยระบบการทางานของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายพร้อมๆ กันและบารุงร่างกายไปด้วย สมุนไพรสามารถออกฤทธิ์
ต่างๆได้ เช่น ระงับการสร้างเส้นเลือดใหม่ ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง ระงับการอักเสบ
ซ่อมแซม DNA ต้านการอ็อกซิไดส์ กาจัดอนุมูลอิสระ ยับยั้งจุลชีพ
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1) เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรต่างๆ ที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง
2) เพื่อใช้เป็นสื่อในการศึกษาสาหรับผู้ที่สนใจเรื่องสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคมะเร็ง
3) เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนาความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1. จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่องสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคมะเร็ง
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
1). ลักษณะของโรคมะเร็ง
มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ ที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้
เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจานวนเซลล์ รวดเร็ว และมากกว่าปกติ ดังนั้น จึงอาจทาให้เกิดก้อนเนื้อ
ผิดปกติ และในที่สุดก็จะ ทาให้เกิดการตายของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะการ
เจริญเติบโตของหลอดเลือด ถ้าเซลล์พวกนี้เกิดอยู่ในอวัยวะใดก็จะ เรียกชื่อ มะเร็ง ตามอวัยวะนั้นเช่น มะเร็งปอด
มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็ง เม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้าเหลือง และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
เท่าที่มีรายงานไว้ใน ขณะนี้ มะเร็งที่พบในร่างกายมนุษย์มีมากกว่า 100 ชนิด มะเร็งแต่ละชนิดจะมีการ ดาเนินของ
โรคไม่เหมือนกัน เช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง จะมีการดาเนินชนิดของ โรค ที่รุนแรง ผู้ป่วยจะมีชีวิตการอยู่รอดสั้น
กว่าผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
ดังนั้น การรักษามะเร็งแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่เป็นมะเร็ง ระยะ
ของมะเร็ง สภาพร่างกาย และความเหมาะสม ของผู้ป่วยมะเร็ง การรักษาจะยากหรือง่ายนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของ
เซลล์มะเร็งและ การดาเนินโรคของมะเร็งด้วย เช่น มะเร็งต่อมน้าเหลือง มะเร็งผิวหนัง รักษาง่ายกว่า มะเร็งปอด
มะเร็งสมอง เป็นต้น
อาการและอาการแสดงของโรคมะเร็ง
1. ไม่มีอาการใดเลยในช่วงแรกขณะที่ร่างกายมีเซลล์มะเร็งเป็นจานวนน้อย
2. มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญาณอันตราย 8 ประการ ที่เป็นสัญญาณเตือน ว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อการ
ตรวจค้นหาโรคมะเร็ง หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่ทาให้มีสัญญาณ เหล่านี้ เพื่อการรักษาและแก้ไขทางการแพทย์ที่ถูกต้อง
ก่อนที่จะกลายเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นมะเร็งระยะลุกลาม
3. มีอาการป่วยของโรคทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้าหนักลด ร่างกายทรุดโทรม ไม่สดชื่น และไม่แจ่มใส
4. มีอาการที่บ่งบอกว่า มะเร็งอยู่ในระยะลุกลาม หรือเป็นมาก ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมะเร็ง ชนิดใดและมีการกระจายของ
โรคอยู่ที่ส่วนใดของร่างกายที่สาคัญที่สุดของอาการในกลุ่ม นี้ ได้แก่ อาการเจ็บปวด ที่แสน ทุกข์ทรมาน
4
สัญญาณอันตราย 7 ประการที่ทุกคนควรจะจาไว้เพื่อสุขภาพที่ดี ได้แก่
1.มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายอุจจาระ และปัสสาวะ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดา หรือปัสสาวะเป็นเลือด
2. กลืนอาหารลาบาก หรือมีอาการเสียด แน่นท้องเป็นเวลานาน
3. มีอาการเสียงแหบ และไอเรื้อรัง
4. มีเลือดออกผิดปกติ จากทวารต่างๆ
5. แผลซึ่งรักษาแล้วไม่ยอมหาย
6. มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามร่างกาย
7. มีก้อนตุ่มที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
มะเร็งที่รักษาให้หายได้
ปัจจุบันนี้ แพทย์สามารถรักษามะเร็งหลายชนิดให้หายได้ หรืออย่างน้อยก็ ทาให้ ผู้ป่วยมะเร็งมีชีวิตการอยู่รอดที่
ยาวนานเท่ากับบุคคลปกติที่อยู่ในวัยเดียวกัน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของมะเร็งที่พบ เพราะมะเร็ง
ระยะ เริ่มแรกย่อมมีการตอบสนอง ต่อการรักษาหรือมีโอกาสหายมากกว่าระยะลุกลาม หรือระยะสุดท้าย
มะเร็งต่าง ๆ ที่สามารถรักษาให้หายได้ในปัจจุบันนี้ ที่สาคัญ มีดังนี้
มะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลันชนิดลิมป์โฟ ไซติค ลิวคีเมีย
มะเร็งต่อมน้าเหลืองชนิดฮอร์ดกิ้น
มะเร็งไตในเด็กชนิด วิมส์ ทูเมอร์
มะเร็งลูกอัณฑะ
มะเร็งกระดูก ชนิด อ๊อสติโอเจนนิค ซาร์โคม่า
มะเร็งรังไข่ชนิดเนื้อเยื่อบุผิว
มะเร็งผิวหนังบางชนิดเช่น Basal cell carcinoma
มะเร็งเต้านม
มะเร็งปอดชนิด Small cell
มะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งชนิดเนื้อเยื่อ Germ cell
สาเหตุและ ปัจจัยเสี่ยง
สาเหตุและปัจจัย เสี่ยงของการเกิดมะเร็ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทที่สาคัญ คือ
1. เกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือ ภายนอกร่างกาย ซึ่งปัจจุบันนี้เชื่อกันว่ามะเร็ง ส่วนใหญ่ เกิดจากสาเหตุได้แก่
1.1 สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหารและเครื่องดื่ม เช่น สารพิษจาก เชื้อราที่มีชื่อ อัลฟาทอกซิน (Alfatoxin) สารก่อ
มะเร็งที่เกิดจากการปิ้ง ย่าง พวกไฮโดคาร์บอน (Hydrocarbon) สารเคมีที่ใช้ในขบวนการถนอมอาหาร ชื่อไนโตรซา
มิน (Nitosamine) สีผสมอาหารที่มาจากสีย้อมผ้า
1.2 รังสีเอ็กซเรย์ อุลตราไวโอเลตจากแสงแดด
1.3 เชื้อไวรัส ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสฮิวแมนแพบพิลโลมา
5
1.4 การติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ
1.5 จากพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่และดื่มสุรา เป็นต้น
2. เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกาย ซึ่งมีเป็นส่วนน้อย เช่น เด็กที่มีความพิการ มาแต่ กาเนิดมีโอกาสเป็น
มะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น การมีภูมิคุ้มกันที่บกพร่องและภาวะ ทุพโภชนาการ เช่น การขาดไวตามินบางชนิด เช่น
ไวตามินเอ ซี เป็นต้น จะเห็นว่า มะเร็งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อม ดังนั้น มะเร็งก็น่าจะเป็นโรคที่สามารถ
ป้องกัน ได้เช่นเดียวกับโรคติดเชื้ออื่นๆ (Hill R.P,Tannock IF,1987) ถ้าประชาชนมี ความรู้เกี่ยวกับสารก่อมะเร็ง
และสารช่วยหรือให้เกิด มะเร็งที่มีอยู่ในสิ่งแวด ล้อมแล้ว พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเหล่านั้น เช่น งดสูบบุหรี่
หรือหลีกเลี่ยงจากบริเวณ ที่มีควันบุหรี่ เป็นต้น สาหรับสาเหตุภายในร่างกายนั้นการป้องกันคงไม่ได้ผลแต่ทาให้ ทราบ
ว่า ตนเองจัดอยู่ในกลุ่มที่มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็น มะเร็งสูงหรือมากกว่ากลุ่ม อื่น ๆ ดังนั้นก็ควรไปพบแพทย์เพื่อขอ
คาแนะนาเกี่ยวกับความรู้เรื่องมะเร็งต่อไป กรณีที่เป็น มะเร็ง ได้ตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งจะมีการตอบสนองต่อ
การรักษาค่อนข้างดี
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการ เป็นโรคมะเร็ง มีดังนี้
1. ผู้ที่สูบบุหรี่ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของระบบหายใจ ได้แก่ ปอด และกล่องเสียง เป็นต้น
2. ผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจา จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ตับ ถ้าทั้งดื่มสุราและสูบบุหรี่จัด จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ช่อง
ปากและในลาคอด้วย
3. ผู้ที่เป็นพาหะของเชื้อ ไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือผู้ที่ชอบรับประทานอาหารที่มี สารพิษ ชื่อ อัลฟาทอกซิล ที่พบ
จากเชื้อราที่ปนเปื้อนในอาหารเช่น ถั่วลิสงป่น เป็นต้น หากรับประทานประจาจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ และหาก
ได้รับทั้ง 2 อย่าง โอกาส จะเป็นมะเร็งตับมากขึ้น
4. ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจา จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เต้านม ลาไส้ใหญ่ เยื่อบุมดลูก และต่อม
ลูกหมาก
5. ผู้ที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ และรับประทานอาหารที่ใส่ดิน ประสิวเป็นประจา จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งท่อน้าดีในตับ
6. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอันเกิดจากความผิดปกติจากพันธุกรรมหรือติดเชื้อไวรัส เอดส์ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
ต่อมน้าเหลือง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งของหลอดเลือด เป็นต้น
7. ผู้ที่รับประทานอาหารเค็ม จัด อาหารที่มีส่วนผสมดินประสิวและส่วนไหม้เกรียม ของอาหารเป็นประจาจะเสี่ยง ต่อ
การเป็นมะเร็งกระเพาะ อาหารและลาไส้ใหญ่
8. ผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว อาทิ มะเร็งของจอตา มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลาไส้ใหญ่ชนิดที่
เป็นติ่งเนื้อ เป็นต้น
9. ผู้ที่ตากแดดจัดเป็นประจาจะ ได้รับอันตรายจากแสงแดดที่ มีปริมาณของแสงอุลตรา ไวโอเลต จานวนมาก มีผลทา
ให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้
6
2). สมุนไพรที่รักษาโรคมะเร็ง
สมุนไพรที่มีผลการทดสอบที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษามะเร็ง ได้แก่
ฟ้าทะลายโจร (Andrographis Paniculata)
ในอินเดียใช้ในการรักษาไทฟอยด์ แก้อักเสบ แก้มาลาเรีย
กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และมีสารสาคัญ คือ Andrographolide
สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด
มะตูม (Aegle Mermelos)
สารจากผลมะตูมสามารถยับยั้ง มะเร็งต่อมไทรอยด์
(Thyroid Cancer)และมีฤทธิ์ยับยั้งไวรัสและต้านการอักเสบ
บัวบก (Centella Asiatica)
มีสาร Asiaticoside ที่ช่วยให้แผลเรื้อรังหายเร็วขึ้น เพิ่มภูมิคุ้มกัน
และในบราซิลมีการใช้เพื่อรักษามะเร็งมดลูก
ขมิ้น (Curcuma Longa)
มีสารสาคัญ คือ Curoumin มีฤทธิ์ต้านการออกซิไดซ์ และต้านการอักเสบ
ที่รุนแรง สามารถทาให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็ง
ผิวหนัง มะเร็งลาไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลาไส้เล็ก มะเร็งรังไข่
นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราอีกด้วย
หญ้างวงช้างดอกขาว (Heliotropium indicum)
อายุรเวท ใช้ใบในการรักษาโรคลมพิษ แผล การอักเสบเฉพาะที่ กลาก ปวดข้อ
(Rheumatism) มีอัลคาลอยด์ Indicine-N-Oxide ที่มีฤทธิ์ยับยั้งเนื้องอก มีการ
ทดลองทางคลินิกในลูคีเมีย และ Solid Tumour
7
ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)
มีสาร Aloe-Emodin ที่กระตุ้น Macrophage ให้กาจัดเซลล์มะเร็ง และยัง
มี Acemannan ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังช่วยกระตุ้นการ
เจริญของเซลล์ปกติและยับยั้งการ เจริญของเซลล์มะเร็งด้วย
กะเพรา (Ocimum Sanctum)
เป็นสมุนไพรที่ใช้ในการแพทย์โบราณหลายระบบ เช่น อายุรเวท สิทธา ยูนานิ กรีก
โรมัน เป็นต้น ทั้งยังใช้ในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ
หัวใจ ผิวหนัง ฯลฯ
ลูกใต้ใบ/หญ้าใต้ใบ ( Phyllanthus Niruri/Amaus)
เป็นที่รู้จักว่าเป็น Stonebreaker และมีการใช้แพร่หลายทั่วโลก ในระบบปัสสาวะและ
น้าดี ตับอักเสบ หวัด วัณโรคและโรคจากไวรัสอื่น ๆ
ดีปลี (Piper Longum)
มี Piperine ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการออกซิไดซ์ทั้ง in Vitro และ in Vivo จึงเป็น
ส่วนประกอบของตารับยารักษามะเร็งของอายุรเวท
บอระเพ็ด (Tinospora Cordifolia)
สาร สาคัญจากบอระเพ็ดช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาวและ
สามารถลดขนาดเนื้องอกได้ 58.8% เทียบเท่า Cyclophosphamide
รักขน (Semecarpus Anacardium)
ผลของรักขนมีการใช้ในอายุรเวทเพื่อรักษามะเร็ง มีงานวิจัยแสดงว่า สารสกัด
คลอโรฟอร์ม มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง และยืดอายุในกรณี Leukemia, Melanoma และ
Glioma ในสัตว์ทดลองที่ถูกเหนี่ยวนาให้เป็นมะเร็งตับ สารสกัดจากรักขนทาให้
เนื้อเยื่อตับเป็นปกติ ยาเตรียม Anacertin Forte นิยมใช้รักษามะเร็งหลอดอาหาร
8
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1). กาหนดหัวข้อโครงงานตามความสนใจ
2). หาข้อมูลที่เกี่ยวข้องและนาข้อมูลที่ได้เสนอครูที่ปรึกษาพร้อมทั้งตั้งคาถามและสมมติฐาน
3). รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจโดยค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต หรือแหล่งเรียนรู้อื่นๆ เช่น ห้องสมุด
4). ลงมือปฏิบัติตามแบบแผนโครงร่าง
5). ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพร้อมทั้งแก้ไขข้อบกพร่อง
6). นาเสนอโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1). คอมพิวเตอร์ โปรแกรม Micrisoft Word
2). อินเทอร์เน็ตใช้ในการค้นหาข้อมูล
3). บราวเซอร์ที่ใช้ในการศึกษาข้อมูล
งบประมาณ____________________________
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
9
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1) มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมุนไพรที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งชนิดต่างๆ
2) สามานาความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้
3) นาความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ให้แก่ผู้อื่น
4) ผู้ที่สนใจอ่านบทความสามารถนาความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ได้จริง
สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1) กลุ่มสาระการเรียนรุ้วิทยาสาสตร์
2) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
1) http://www.alternativecomplete.com/alternative5.php
2) https://health.kapook.com/view127678.html
3) http://www.herbalextract.net/

More Related Content

What's hot

แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)tthanch chai
 
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัยพัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัยguestd1493f
 
โครงงานสื่อการสอนวิชาสุขศึกษา
โครงงานสื่อการสอนวิชาสุขศึกษาโครงงานสื่อการสอนวิชาสุขศึกษา
โครงงานสื่อการสอนวิชาสุขศึกษาnammint
 
โรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้าโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้าNattanichaYRC
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สุขภาพดีมีความสุข
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สุขภาพดีมีความสุขชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สุขภาพดีมีความสุข
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สุขภาพดีมีความสุขHathaichon Nonruongrit
 
แบบโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Sarita Witesd
 
นวัตกรรมสุขศึกษา
นวัตกรรมสุขศึกษานวัตกรรมสุขศึกษา
นวัตกรรมสุขศึกษาkrusupkij
 
กิจกรรมที่ 5
กิจกรรมที่ 5กิจกรรมที่ 5
กิจกรรมที่ 5qnlivyatan
 
โครงร่าง1
โครงร่าง1โครงร่าง1
โครงร่าง1qnlivyatan
 
โครงการปันรัก
โครงการปันรักโครงการปันรัก
โครงการปันรักพัน พัน
 
โครงการปันรัก
โครงการปันรักโครงการปันรัก
โครงการปันรักkessara61977
 
ใบงานที่ 6
ใบงานที่ 6ใบงานที่ 6
ใบงานที่ 6Krc Jeffrey Carr
 

What's hot (17)

2562 final-project 03
2562 final-project 032562 final-project 03
2562 final-project 03
 
2557 โครงงาน3
2557 โครงงาน32557 โครงงาน3
2557 โครงงาน3
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)
 
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัยพัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย
 
Asa kilantham
Asa kilanthamAsa kilantham
Asa kilantham
 
โครงงานสื่อการสอนวิชาสุขศึกษา
โครงงานสื่อการสอนวิชาสุขศึกษาโครงงานสื่อการสอนวิชาสุขศึกษา
โครงงานสื่อการสอนวิชาสุขศึกษา
 
โรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้าโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้า
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สุขภาพดีมีความสุข
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สุขภาพดีมีความสุขชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สุขภาพดีมีความสุข
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สุขภาพดีมีความสุข
 
แบบโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
นวัตกรรมสุขศึกษา
นวัตกรรมสุขศึกษานวัตกรรมสุขศึกษา
นวัตกรรมสุขศึกษา
 
กิจกรรมที่ 5
กิจกรรมที่ 5กิจกรรมที่ 5
กิจกรรมที่ 5
 
โครงร่าง1
โครงร่าง1โครงร่าง1
โครงร่าง1
 
โครงการปันรัก
โครงการปันรักโครงการปันรัก
โครงการปันรัก
 
โครงการปันรัก
โครงการปันรักโครงการปันรัก
โครงการปันรัก
 
ใบงานที่ 6
ใบงานที่ 6ใบงานที่ 6
ใบงานที่ 6
 
Ngan ku krongrang1
Ngan ku krongrang1Ngan ku krongrang1
Ngan ku krongrang1
 
Ngan ku krongrang1
Ngan ku krongrang1Ngan ku krongrang1
Ngan ku krongrang1
 

Similar to 2560 project -1 new

Computer project
Computer projectComputer project
Computer projectMaryW6
 
โครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษาโครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษาBream Mie
 
2562 final-project1-18-vasaraj
2562 final-project1-18-vasaraj2562 final-project1-18-vasaraj
2562 final-project1-18-vasarajKUMBELL
 
The massage with herb for health
The massage with herb for healthThe massage with herb for health
The massage with herb for healthSirintra Chaiwong
 
โครงงานร่าง
โครงงานร่างโครงงานร่าง
โครงงานร่างAom Nachanok
 
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5Ffim Radchasan
 
รักษาโรคมะเร็ง
รักษาโรคมะเร็งรักษาโรคมะเร็ง
รักษาโรคมะเร็งpornkanok02
 
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Guy Prp
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอมjetaimej_
 

Similar to 2560 project -1 new (20)

Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
โครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษาโครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษา
 
2562 final-project1-18-vasaraj
2562 final-project1-18-vasaraj2562 final-project1-18-vasaraj
2562 final-project1-18-vasaraj
 
2557 โครงงาน3
2557 โครงงาน32557 โครงงาน3
2557 โครงงาน3
 
The massage with herb for health
The massage with herb for healthThe massage with herb for health
The massage with herb for health
 
โครงงานร่าง
โครงงานร่างโครงงานร่าง
โครงงานร่าง
 
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5
 
Cf
CfCf
Cf
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
รักษาโรคมะเร็ง
รักษาโรคมะเร็งรักษาโรคมะเร็ง
รักษาโรคมะเร็ง
 
Final Project computer_4
Final Project computer_4Final Project computer_4
Final Project computer_4
 
Do you-know-green-tea
Do you-know-green-teaDo you-know-green-tea
Do you-know-green-tea
 
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Obesity
ObesityObesity
Obesity
 
Obesity
ObesityObesity
Obesity
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
Pingpong
PingpongPingpong
Pingpong
 
Great
GreatGreat
Great
 
Daniellll
DaniellllDaniellll
Daniellll
 

2560 project -1 new

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2560 ชื่อโครงงาน สมุนไพรช่วยรักษาโรคมะเร็ง ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว ศิริรัตน์ เรียวกลาง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3 เลขที่ 47 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม 1. นางสาวศิริรัตน์ เรียวกลาง เลขที่ 47 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) สมุนไพรช่วยรักษาโรคมะเร็ง ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Herbs help to cure cancer. ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว ศิริรัตน์ เรียวกลาง ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน) ปัจจุบันนี้โรคไม่ติดต่อ เป็นปัญหาด้านสุขภาพของประชากรโลก โรคที่ว่านี้ก็คือโรคมะเร็ง โรคมะเร็งเป็น สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทยมานานติดต่อกันหลายปีและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นโรคที่มีความละเอียด ซับซ้อน ในการวินิจฉัยและรักษา เป็นลักษณะเฉพาะของโรค รวมถึงยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย จึงป็นโรคที่ควรให้ความสาคัญเป็นพิเศษ ร่างกายคนเรา มีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น แต่เราชนะไม่ป่วยเป็นมะเร็ง ได้เพราะ ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่งด้วยระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถ ต่อสู่กับมะเร็งได้ ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทาลาย ด้วยวิธีต่างๆ เป็นสาเหตุสาคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ได้แก่ การกินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ อาหารไม่สะอาดเต็มไปด้วย สารพิษ สารก่อมะเร็ง การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษ และการไม่ออกกาลังกาย การรักษาโรคมะเร็งตามทฤษฎี ทางการแพทย์ มี 2 วิธีที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายคือ การใช้รังสี และการใช้เคมีบาบัด ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็ใช้หลักการ เดียวกันคือ การทาลายเนื้อร้าย แต่ไม่สามารถเลือกทาลายได้เพียงเนื้อร้าย เซลล์ดีจานวนมากต้องถูกทาลายไป ด้วย ยกตัวอย่างเช่น เซลล์ผม เซลล์ผิวหนัง เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร เซลล์เม็ดเลือดในไขกระดูก จึงเกิดผลข้างเคียง ตามมาเช่น ผมร่วง แผลในปาก อ่อนเพลีย เออาหาร โลหิตจาง เม็ดเลือดขาวต่า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เกล็ดเลือดต่าทา ให้เลือดออกง่าย อีกทั้งผู้ป่วยยังมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นอีก จากการ กระจายตัวของเซลล์มะเร็งดังนั้น จึงได้มีการนา สมุนไพรมาบารุงมาร่างกายมารักษาอาการต่างๆของโรคมะเร็ง หลักของการรักษามี 4 อย่างคือ บารุงสุขภาพ (health maintenance) รักษาโรค (disease cure) การคืนสู่สภาพปกติ (Rasayana /restoration of normal function) จิตวิญญาณ (spiritual approach) หลักที่สาคัญคือต้องหาสาเหตุของการเจ็บป่วยที่ทาให้เกิดการขาด ความสมดุลและแก้ไขส่วนขาดและลดส่วนเกิน โดยทั่วไปจะเป็นส่วนประกอบของสมุนไพรหลายๆ ชนิด ซึ่งจะเข้าไป
  • 3. 3 ช่วยระบบการทางานของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายพร้อมๆ กันและบารุงร่างกายไปด้วย สมุนไพรสามารถออกฤทธิ์ ต่างๆได้ เช่น ระงับการสร้างเส้นเลือดใหม่ ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง ระงับการอักเสบ ซ่อมแซม DNA ต้านการอ็อกซิไดส์ กาจัดอนุมูลอิสระ ยับยั้งจุลชีพ วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) 1) เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรต่างๆ ที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง 2) เพื่อใช้เป็นสื่อในการศึกษาสาหรับผู้ที่สนใจเรื่องสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคมะเร็ง 3) เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนาความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้ ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) 1. จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่องสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคมะเร็ง หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน) 1). ลักษณะของโรคมะเร็ง มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ ที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้ เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจานวนเซลล์ รวดเร็ว และมากกว่าปกติ ดังนั้น จึงอาจทาให้เกิดก้อนเนื้อ ผิดปกติ และในที่สุดก็จะ ทาให้เกิดการตายของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะการ เจริญเติบโตของหลอดเลือด ถ้าเซลล์พวกนี้เกิดอยู่ในอวัยวะใดก็จะ เรียกชื่อ มะเร็ง ตามอวัยวะนั้นเช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็ง เม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้าเหลือง และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น เท่าที่มีรายงานไว้ใน ขณะนี้ มะเร็งที่พบในร่างกายมนุษย์มีมากกว่า 100 ชนิด มะเร็งแต่ละชนิดจะมีการ ดาเนินของ โรคไม่เหมือนกัน เช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง จะมีการดาเนินชนิดของ โรค ที่รุนแรง ผู้ป่วยจะมีชีวิตการอยู่รอดสั้น กว่าผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น ดังนั้น การรักษามะเร็งแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่เป็นมะเร็ง ระยะ ของมะเร็ง สภาพร่างกาย และความเหมาะสม ของผู้ป่วยมะเร็ง การรักษาจะยากหรือง่ายนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของ เซลล์มะเร็งและ การดาเนินโรคของมะเร็งด้วย เช่น มะเร็งต่อมน้าเหลือง มะเร็งผิวหนัง รักษาง่ายกว่า มะเร็งปอด มะเร็งสมอง เป็นต้น อาการและอาการแสดงของโรคมะเร็ง 1. ไม่มีอาการใดเลยในช่วงแรกขณะที่ร่างกายมีเซลล์มะเร็งเป็นจานวนน้อย 2. มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญาณอันตราย 8 ประการ ที่เป็นสัญญาณเตือน ว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อการ ตรวจค้นหาโรคมะเร็ง หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่ทาให้มีสัญญาณ เหล่านี้ เพื่อการรักษาและแก้ไขทางการแพทย์ที่ถูกต้อง ก่อนที่จะกลายเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นมะเร็งระยะลุกลาม 3. มีอาการป่วยของโรคทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้าหนักลด ร่างกายทรุดโทรม ไม่สดชื่น และไม่แจ่มใส 4. มีอาการที่บ่งบอกว่า มะเร็งอยู่ในระยะลุกลาม หรือเป็นมาก ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมะเร็ง ชนิดใดและมีการกระจายของ โรคอยู่ที่ส่วนใดของร่างกายที่สาคัญที่สุดของอาการในกลุ่ม นี้ ได้แก่ อาการเจ็บปวด ที่แสน ทุกข์ทรมาน
  • 4. 4 สัญญาณอันตราย 7 ประการที่ทุกคนควรจะจาไว้เพื่อสุขภาพที่ดี ได้แก่ 1.มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายอุจจาระ และปัสสาวะ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดา หรือปัสสาวะเป็นเลือด 2. กลืนอาหารลาบาก หรือมีอาการเสียด แน่นท้องเป็นเวลานาน 3. มีอาการเสียงแหบ และไอเรื้อรัง 4. มีเลือดออกผิดปกติ จากทวารต่างๆ 5. แผลซึ่งรักษาแล้วไม่ยอมหาย 6. มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามร่างกาย 7. มีก้อนตุ่มที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มะเร็งที่รักษาให้หายได้ ปัจจุบันนี้ แพทย์สามารถรักษามะเร็งหลายชนิดให้หายได้ หรืออย่างน้อยก็ ทาให้ ผู้ป่วยมะเร็งมีชีวิตการอยู่รอดที่ ยาวนานเท่ากับบุคคลปกติที่อยู่ในวัยเดียวกัน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของมะเร็งที่พบ เพราะมะเร็ง ระยะ เริ่มแรกย่อมมีการตอบสนอง ต่อการรักษาหรือมีโอกาสหายมากกว่าระยะลุกลาม หรือระยะสุดท้าย มะเร็งต่าง ๆ ที่สามารถรักษาให้หายได้ในปัจจุบันนี้ ที่สาคัญ มีดังนี้ มะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลันชนิดลิมป์โฟ ไซติค ลิวคีเมีย มะเร็งต่อมน้าเหลืองชนิดฮอร์ดกิ้น มะเร็งไตในเด็กชนิด วิมส์ ทูเมอร์ มะเร็งลูกอัณฑะ มะเร็งกระดูก ชนิด อ๊อสติโอเจนนิค ซาร์โคม่า มะเร็งรังไข่ชนิดเนื้อเยื่อบุผิว มะเร็งผิวหนังบางชนิดเช่น Basal cell carcinoma มะเร็งเต้านม มะเร็งปอดชนิด Small cell มะเร็งหลังโพรงจมูก มะเร็งชนิดเนื้อเยื่อ Germ cell สาเหตุและ ปัจจัยเสี่ยง สาเหตุและปัจจัย เสี่ยงของการเกิดมะเร็ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทที่สาคัญ คือ 1. เกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือ ภายนอกร่างกาย ซึ่งปัจจุบันนี้เชื่อกันว่ามะเร็ง ส่วนใหญ่ เกิดจากสาเหตุได้แก่ 1.1 สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหารและเครื่องดื่ม เช่น สารพิษจาก เชื้อราที่มีชื่อ อัลฟาทอกซิน (Alfatoxin) สารก่อ มะเร็งที่เกิดจากการปิ้ง ย่าง พวกไฮโดคาร์บอน (Hydrocarbon) สารเคมีที่ใช้ในขบวนการถนอมอาหาร ชื่อไนโตรซา มิน (Nitosamine) สีผสมอาหารที่มาจากสีย้อมผ้า 1.2 รังสีเอ็กซเรย์ อุลตราไวโอเลตจากแสงแดด 1.3 เชื้อไวรัส ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสฮิวแมนแพบพิลโลมา
  • 5. 5 1.4 การติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ 1.5 จากพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่และดื่มสุรา เป็นต้น 2. เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกาย ซึ่งมีเป็นส่วนน้อย เช่น เด็กที่มีความพิการ มาแต่ กาเนิดมีโอกาสเป็น มะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น การมีภูมิคุ้มกันที่บกพร่องและภาวะ ทุพโภชนาการ เช่น การขาดไวตามินบางชนิด เช่น ไวตามินเอ ซี เป็นต้น จะเห็นว่า มะเร็งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อม ดังนั้น มะเร็งก็น่าจะเป็นโรคที่สามารถ ป้องกัน ได้เช่นเดียวกับโรคติดเชื้ออื่นๆ (Hill R.P,Tannock IF,1987) ถ้าประชาชนมี ความรู้เกี่ยวกับสารก่อมะเร็ง และสารช่วยหรือให้เกิด มะเร็งที่มีอยู่ในสิ่งแวด ล้อมแล้ว พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเหล่านั้น เช่น งดสูบบุหรี่ หรือหลีกเลี่ยงจากบริเวณ ที่มีควันบุหรี่ เป็นต้น สาหรับสาเหตุภายในร่างกายนั้นการป้องกันคงไม่ได้ผลแต่ทาให้ ทราบ ว่า ตนเองจัดอยู่ในกลุ่มที่มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็น มะเร็งสูงหรือมากกว่ากลุ่ม อื่น ๆ ดังนั้นก็ควรไปพบแพทย์เพื่อขอ คาแนะนาเกี่ยวกับความรู้เรื่องมะเร็งต่อไป กรณีที่เป็น มะเร็ง ได้ตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งจะมีการตอบสนองต่อ การรักษาค่อนข้างดี ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการ เป็นโรคมะเร็ง มีดังนี้ 1. ผู้ที่สูบบุหรี่ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของระบบหายใจ ได้แก่ ปอด และกล่องเสียง เป็นต้น 2. ผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจา จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ตับ ถ้าทั้งดื่มสุราและสูบบุหรี่จัด จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ช่อง ปากและในลาคอด้วย 3. ผู้ที่เป็นพาหะของเชื้อ ไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือผู้ที่ชอบรับประทานอาหารที่มี สารพิษ ชื่อ อัลฟาทอกซิล ที่พบ จากเชื้อราที่ปนเปื้อนในอาหารเช่น ถั่วลิสงป่น เป็นต้น หากรับประทานประจาจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ และหาก ได้รับทั้ง 2 อย่าง โอกาส จะเป็นมะเร็งตับมากขึ้น 4. ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจา จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เต้านม ลาไส้ใหญ่ เยื่อบุมดลูก และต่อม ลูกหมาก 5. ผู้ที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ และรับประทานอาหารที่ใส่ดิน ประสิวเป็นประจา จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งท่อน้าดีในตับ 6. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอันเกิดจากความผิดปกติจากพันธุกรรมหรือติดเชื้อไวรัส เอดส์ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ต่อมน้าเหลือง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งของหลอดเลือด เป็นต้น 7. ผู้ที่รับประทานอาหารเค็ม จัด อาหารที่มีส่วนผสมดินประสิวและส่วนไหม้เกรียม ของอาหารเป็นประจาจะเสี่ยง ต่อ การเป็นมะเร็งกระเพาะ อาหารและลาไส้ใหญ่ 8. ผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว อาทิ มะเร็งของจอตา มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลาไส้ใหญ่ชนิดที่ เป็นติ่งเนื้อ เป็นต้น 9. ผู้ที่ตากแดดจัดเป็นประจาจะ ได้รับอันตรายจากแสงแดดที่ มีปริมาณของแสงอุลตรา ไวโอเลต จานวนมาก มีผลทา ให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้
  • 6. 6 2). สมุนไพรที่รักษาโรคมะเร็ง สมุนไพรที่มีผลการทดสอบที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษามะเร็ง ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร (Andrographis Paniculata) ในอินเดียใช้ในการรักษาไทฟอยด์ แก้อักเสบ แก้มาลาเรีย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และมีสารสาคัญ คือ Andrographolide สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด มะตูม (Aegle Mermelos) สารจากผลมะตูมสามารถยับยั้ง มะเร็งต่อมไทรอยด์ (Thyroid Cancer)และมีฤทธิ์ยับยั้งไวรัสและต้านการอักเสบ บัวบก (Centella Asiatica) มีสาร Asiaticoside ที่ช่วยให้แผลเรื้อรังหายเร็วขึ้น เพิ่มภูมิคุ้มกัน และในบราซิลมีการใช้เพื่อรักษามะเร็งมดลูก ขมิ้น (Curcuma Longa) มีสารสาคัญ คือ Curoumin มีฤทธิ์ต้านการออกซิไดซ์ และต้านการอักเสบ ที่รุนแรง สามารถทาให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็ง ผิวหนัง มะเร็งลาไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลาไส้เล็ก มะเร็งรังไข่ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราอีกด้วย หญ้างวงช้างดอกขาว (Heliotropium indicum) อายุรเวท ใช้ใบในการรักษาโรคลมพิษ แผล การอักเสบเฉพาะที่ กลาก ปวดข้อ (Rheumatism) มีอัลคาลอยด์ Indicine-N-Oxide ที่มีฤทธิ์ยับยั้งเนื้องอก มีการ ทดลองทางคลินิกในลูคีเมีย และ Solid Tumour
  • 7. 7 ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) มีสาร Aloe-Emodin ที่กระตุ้น Macrophage ให้กาจัดเซลล์มะเร็ง และยัง มี Acemannan ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังช่วยกระตุ้นการ เจริญของเซลล์ปกติและยับยั้งการ เจริญของเซลล์มะเร็งด้วย กะเพรา (Ocimum Sanctum) เป็นสมุนไพรที่ใช้ในการแพทย์โบราณหลายระบบ เช่น อายุรเวท สิทธา ยูนานิ กรีก โรมัน เป็นต้น ทั้งยังใช้ในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ หัวใจ ผิวหนัง ฯลฯ ลูกใต้ใบ/หญ้าใต้ใบ ( Phyllanthus Niruri/Amaus) เป็นที่รู้จักว่าเป็น Stonebreaker และมีการใช้แพร่หลายทั่วโลก ในระบบปัสสาวะและ น้าดี ตับอักเสบ หวัด วัณโรคและโรคจากไวรัสอื่น ๆ ดีปลี (Piper Longum) มี Piperine ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการออกซิไดซ์ทั้ง in Vitro และ in Vivo จึงเป็น ส่วนประกอบของตารับยารักษามะเร็งของอายุรเวท บอระเพ็ด (Tinospora Cordifolia) สาร สาคัญจากบอระเพ็ดช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาวและ สามารถลดขนาดเนื้องอกได้ 58.8% เทียบเท่า Cyclophosphamide รักขน (Semecarpus Anacardium) ผลของรักขนมีการใช้ในอายุรเวทเพื่อรักษามะเร็ง มีงานวิจัยแสดงว่า สารสกัด คลอโรฟอร์ม มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง และยืดอายุในกรณี Leukemia, Melanoma และ Glioma ในสัตว์ทดลองที่ถูกเหนี่ยวนาให้เป็นมะเร็งตับ สารสกัดจากรักขนทาให้ เนื้อเยื่อตับเป็นปกติ ยาเตรียม Anacertin Forte นิยมใช้รักษามะเร็งหลอดอาหาร
  • 8. 8 วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน 1). กาหนดหัวข้อโครงงานตามความสนใจ 2). หาข้อมูลที่เกี่ยวข้องและนาข้อมูลที่ได้เสนอครูที่ปรึกษาพร้อมทั้งตั้งคาถามและสมมติฐาน 3). รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจโดยค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต หรือแหล่งเรียนรู้อื่นๆ เช่น ห้องสมุด 4). ลงมือปฏิบัติตามแบบแผนโครงร่าง 5). ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพร้อมทั้งแก้ไขข้อบกพร่อง 6). นาเสนอโครงงาน เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1). คอมพิวเตอร์ โปรแกรม Micrisoft Word 2). อินเทอร์เน็ตใช้ในการค้นหาข้อมูล 3). บราวเซอร์ที่ใช้ในการศึกษาข้อมูล งบประมาณ____________________________ ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 1 6 1 7 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทาเอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน
  • 9. 9 ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) 1) มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมุนไพรที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งชนิดต่างๆ 2) สามานาความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้ 3) นาความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ให้แก่ผู้อื่น 4) ผู้ที่สนใจอ่านบทความสามารถนาความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ได้จริง สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง 1) กลุ่มสาระการเรียนรุ้วิทยาสาสตร์ 2) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) 1) http://www.alternativecomplete.com/alternative5.php 2) https://health.kapook.com/view127678.html 3) http://www.herbalextract.net/