More Related Content
Similar to ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
Similar to ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305 (20)
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
- 3. เครืองใช้ไฟฟ้ า คือ อุปกรณ์ทเ่ี ปลียนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานรูปอื่น เพือนาไปใช้ในชีวตประจาวัน ได้แก่
่ ่ ่ ิ
1. เครื่องใช้ไฟฟ้ าทีให้แสงสว่าง
่
2. เครื่องใช้ไฟฟ้ าทีให้ความร้อน
่
3. เครื่องใช้ไฟฟ้ าทีให้พลังงานกล
่
4. เครื่องใช้ไฟฟ้ าทีให้พลังงานเสียง
่
นอกจากนี้ยงมีเครื่องใช้ไฟฟ้ าทีสามารถเปลียนเป็ นพลังงานรูปอื่นหลายรูปในเวลาเดียวกัน
ั ่ ่
16.3.1 เครื่องใช้ไฟฟ้ าทีให้แสงสว่าง
่
หลอดไฟ เป็ นอุปกรณ์ทใช้เปลียนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นแสงสว่างให้เราสามารถมองเห็นสิงต่างๆ ได้ ซึง โธมัส เอดิ
่ี ่ ่ ่
สัน เป็ นผูประดิษฐ์หลอดไฟเป็ นครังแรก โดยใช้คาร์บอนเส้นเล็กๆ เป็ นไส้หลอดและได้มการพัฒนาเรื่อยมา
้ ้ ี
เป็ นลาดับ
ไปหน้าแรก
- 4. ประเภทของหลอดไฟ
1. หลอดไฟฟ้ าธรรมดา มีไส้หลอดทีทาด้วยลวดโลหะทีมจดหลอมเหลวสูง เช่น
่ ่ ีุ
ทังสเตนเส้นเล็กๆ ขดเอาไว้เหมือนขดลวดสปริงภายในหลอดแก้วสูบอากาศออก
หมดแล ้วบรรจุกาซเฉื่อย เช่น อาร์กอน (Ar) ไว้ ก๊าซนี้ช่วยป้ องกันไม่ให้หลอดไฟฟ้ า
๊
ดา ลักษณะของหลอดไฟเป็ นดังรูป
ไปหน้าแรก
- 5. หลักการทางานของหลอดไฟฟ้ าธรรมดา
กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านไส้หลอดซึงมีความต้านทานสูง พลังงานไฟฟ้ าจะเปลียนเป็ นพลังงานความ
่ ่
ร้อน ทาให้ไส้หลอดร้อนจัดจนเปล่งแสงออกมาได้ การเปลียนพลังงานเป็ นดังนี้
่
พลังงานไฟฟ้ า >>>พลังงานความร้อน >>>พลังงานแสง
2. หลอดเรื่องแสง หรือ หลอดฟลูออเรสเซนต์ (fluorescent) เป็ นอุปกรณ์ทเ่ี ปลียน ่
พลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานแสงสว่าง ซึงมีการประดิษฐ์ในปี ค.ศ. 1938 โดยมีรูปร่างหลายแบบ
่
อาจทาเป็ นหลอดตรง สัน ยาว ขดเป็ นวงกลมหรือครึ่งวงกลม เป็ นต้น
้
ส่วนประกอบของหลอดเรืองแสง
ตัวหลอดมีไส้โลหะทังสเตนติดอยู่ทปลายทัง 2 ข้าง ของหลอดแก้ว ซึงผิวภายในของหลอดฉาบ
่ี ้ ่
ด้วยสารเรื่องแสง อากาศในหลอดแก้วถูกสูบออกจนหมดแล้วใส่ไอปรอทไว้เล็กน้อย ดังรูป
ไปหน้าแรก
- 6. อุปกรณ์ทใช้เพือให้หลอดเรืองแสงทางาน
่ี ่
1. สตาร์ตเตอร์ (starter) ทาหน้าทีเ่ ป็ นสวิตซ์อตโนมัตในขณะหลอดเรืองแสง ยังไม่ตดและหยุด
ั ิ ิ
ทางานเมือหลอดติดแล้ว
่
2. แบลลัสต์ (Ballast) ทาหน้าทีเ่ พิมความต่างศักย์ เพือให้หลอดไฟเรืองแสงติดในตอนแรกและทา
่ ่
หน้าที่ ควบคุมกระแสไฟฟ้ าทีผ่านหลอด ให้ลดลงเมือหลอดติดแล ้ว
่ ่
ไปหน้าแรก
- 8. หลักการทางานของหลอดเรืองแสง
เมือกระแสไฟฟ้ าผ่านไส้หลอดจะทาให้ไส้หลอดร้อนขึ้น ความร้อนทีเ่ กิดทาให้ปรอททีบรรจุไว้ในหลอด
่ ่
กลายเป็ นไอมากขึ้น เมือกระแสไฟฟ้ าผ่านไอปรอทได้จะคายพลังงานไฟฟ้ าให้ไอปรอท ทาให้อะตอมของไอ
่
ปรอทอยู่ในภาวะถูกกระตุน และอะตอมปรอทจะคายพลังงานออกมาเพือลดระดับพลังงานของตนในรูป
้ ่
ของรังสีอลตราไวโอเลต เมือรังสีดงกล่าวกระทบสารเรืองแสงทีฉาบไว้ทผวในของหลอดเรืองแสงนันก็จะ
ั ่ ั ่ ่ี ิ ้
เปล่งแสงได้ โดยให้แสงสีต่างๆ ตามชนิดของสารเรืองแสงทีฉาบไว้ภายในหลอดนัน เช่น แคดเมียมบอเรท
่ ้
จะให้แสงสีชมพู ซิงค์ซลเิ คทให้แสงสีเขียว แมกนีเซียมทังสเตนให้แสงสีขาวอมฟ้ า และยังอาจผสมสาร
ิ
เหล่านี้เพือให้ได้สผสมทีแตกต่างออกไปอีกด้วย
่ ี ่
ข้อดีของหลอดเรืองแสง
1. มีประสิทธิภาพสูงกว่าหลอดไฟฟ้ าธรรมดา เสียค่าไฟฟ้ าเท่ากัน แต่ได้ไฟทีสว่างกว่า
่
2. ให้แสงทีเ่ ย็นตา กระจายไปทัวหลอด ไม่รวมเป็ นจุดเหมือนหลอดไฟฟ้ าธรรมดา
่
3. อาจจัดสีของแสงแปรเปลียนได้ โดยการเปลียนชนิดสารเรืองแสง
่ ่
ไปหน้าแรก
- 9. 4. อุณหภูมของหลอดเรืองแสงไม่สูงเท่ากับหลอดไฟธรรมดาขณะทางาน
ิ
3. หลอดนีออน หรือหลอดไฟโฆษณา เป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้ าทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นแสงสว่าง มี
่
ลักษณะเป็ นหลอดแก้วทีถกลนไฟ ดัดเป็ นรูปหรืออักษรต่างๆ สูบอากาศออกเป็ นสูญญากาศ แล ้ว
ู่
ใส่กาซบางชนิดทีให้แสงสีต่างๆ ออกมาได้ เมือมีกระแสไฟฟ้ าผ่านหลอดชนิดนี้ไม่มไส้หลอดไฟ แต่
๊ ่ ่ ี
ใช้ขวไฟฟ้ าทาด้วยโลหะติดอยู่ทปลายทัง 2 ข้าง แล้วต่อกับแหล่งกาเนิดไฟฟ้ าทีมความต่างศักย์สูง
ั้ ่ี ้ ่ ี
ประมาณ 10,000 โวลต์ ซึงมีความต่างศักย์ทสูงมาก จะทาให้กาซทีบรรจุไว้ในหลอดเกิดการ
่ ่ี ๊ ่
แตกตัวเป็ นนีออนและนาไฟฟ้ าได้ เมือกระแสไฟฟ้ าผ่านก๊าซเหล่านี้จะทาให้กาซร้อนติดไฟให้แสงสี
่ ๊
ต่างๆ ได้
ตัวอย่างก๊าซชนิดต่างๆ ทีบรรจุในหลอดโฆษณา
่
ก๊าซนีออน ให้แสงสีแดง
ไปหน้าแรก
ก๊าซฮีเลียม ให้แสงสีชมพู
ก๊าซอาร์กอน ให้แสงสีขาวอมนาเงิน และถ้าใช้กาซต่างๆ ผสมกันก็จะได้สต่างๆ ออกไป
้ ๊ ี