รายงานเรื่อง ไฟฟา
                ้
 วิชา วิทยาศาสตร์
1. เครื่องใช้ไฟฟา หมายถึง เครื่องมือที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานรูปให้ความ
                 ้                                       ้
  เป็ นอยูของคนในบ้าน ในชุมชน ในสังคม มีความสุขและสะดวกต่างๆที่ตองการ เช่น
            ่                                                        ้
พลังงานความร้อน พลังงานเสียง พลังงานกล พลังงานเคมี และช่วยสบาย แต่ถาใช้กน   ้ ั
อย่างไม่ถกต้อง หรือไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลกรทบต่อสภาพแวดล้อม เช่น การสร้างเขือน
          ู                                                                    ่
เพื่อผลิตกระแสไฟฟาทาให้เนือที่ป่าถูกทาลายทังสัตว์ตางๆ ที่ดารงชิวิตอยูในบริเวณนัน
                   ้       ้                  ้     ่                  ่         ้
หรือการผลิตกระแสไฟฟาจากเชือเพลิง ก็สงผลกระทบ โดยเกิดมลภาวะทางอากาศ และ
                       ้      ้           ่
                                     ทางนาได้
2. ข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟา- ใช้เครื่องใช้ไฟฟา และอุปกรณ์ไฟฟาอย่าง
                                             ้                ้           ้
ระมัดระวัง- หมันตรวจดูแลสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟาให้อยูในสภาพที่ใช้ได้ดีและปลอดภัย-
                    ่                                 ้     ่
 ถ้าไม่มความรูจริง อย่าแก้หรือซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟาเองเป็ นอันขาด ผลเสียที่จะเกิดขึน
         ี        ้                                     ้                          ้
เมือใช้เครื่องใช้ไฟฟาอย่างไม่ระมัดระวัง- ถูกไฟฟาช็อต เนืองจากไฟฟาลัดวงจร หรือไฟฟา
   ่                   ้                          ้       ่         ้                ้
                      รัว- เกิดเพลิงไหม้เนืองจากไฟฟาลัดวงจร หรือไฟฟารัว
                         ่                 ่        ้              ้ ่


  3. อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานแสง ได้แก่ หลอดไฟฟาหลอดฟลูออเรส
                                 ้                                ้
 เซนต์ และหลอดไฟโฆษณา โธมัส แอลวา เอดิสน (ThomasAlva Edison) นัก
                                               ั
    ฟิ สิกส์ชาวอเมริกน ได้ประดิษฐ์หลอดไฟฟา ขึนเป็ นครังแรกเมื่อ พ.ศ. 2422 โดยใช้
                     ั                    ้ ้         ้
  คาร์บอนเส้นเล็กๆเป็ นไส้หลอดและต่อมาได้มีการพัฒนาขึน จนเป็ นหลอดไฟฟาที่ใช้ใน
                                                        ้                ้
                                      ปั จจุบน
                                             ั
4. หลอดไฟฟา เป็ นเครื่องใช้ไฟฟาที่มใช้ในทุกบ้านที่มการใช้พลังงานไฟฟา เป็ นเครื่องใช้ที่
             ้                 ้ ี                  ี               ้
 เปลี่ยนพลังงานไฟฟา ไปเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาที่ใช้ทวไป มี 3 ชนิด คือ1. หลอด
                   ้                                  ้    ั่
ไฟฟาแบบธรรมดา หลอดไฟฟาแบบธรรมดา มีการเปลี่ยนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟา
    ้                        ้                                                       ้
  เป็ นพลังงานความร้อน แล้วจึงเปลี่ยนเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาแบบธรรมดามี 2
                                                                 ้
                แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขียว มีสวนประกอบดังนี้
                                               ้        ่



 5. 1.1 ไส้หลอด ทาด้วยโลหะที่มจดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนได้มาก มีความทานสูง เช่น ทังสเตน
                                ี ุ
  1.2 หลอดแก้วทาจากแก้วที่ทนความร้อนได้ดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจนหมดภายในบรรจุกาซ       ๊
   ไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิดนีทาปฏิกิริยายากช่วยปองกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่
                                          ้                ้
หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้าบรรจุกาซออกซิเจนจะทาปฏิกิริยากับไส้หลอด ซึ่งทาให้ไส้
                                                 ๊
หลอดขาดง่าย 1.3 ขัวหลอดไฟ เป็ นจุดต่อวงจรไฟฟา มี 2 แบบ คือ แบบเขียวและแบบเกลียว เนืองจาก
                      ้                        ้                  ้                    ่
หลอดไฟฟาประเภทนีให้แสงสว่างได้ดวยการเปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานความร้อนก่อนที่จะให้แสง
        ้           ้               ้                    ้
สว่างออกมา จึงทาให้สิ้นเปลือง พลังงานไฟฟามากกว่าหลอดชนิดอื่น ในขนาดกาลังไฟฟา ของหลอดไฟ
                                        ้                                      ้
             ซึ่งจะกาหนดไว้ที่หลอดไฟทุกดวง เช่นหลอดไฟฟาขนาด 100 วัตต์ เป็ นต้น
                                                      ้
6. หลักการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา การที่หลอด ไฟฟาให้แสงสว่างได้เป็ นไป
                                    ้                    ้
 ตามหลักการดังนี้ เมือกระแสไฟฟาไหลผ่านไส้หลอด ซึ่งมีความต้านทานสูง พลังงาน
                      ่           ้
ไฟฟาจะเปลี่ยนเป็ นพลังงานความร้อน ทาให้ไส้หลอดร้อนจัดจนเปล่งแสง ออกมาได้ ซึ่ง
   ้
     มีการเปลี่ยนรูปพลังงานดังนี้ พลังงานไฟฟา ----> พลังงานความร้อน ---->
                                              ้
                                      พลังงานแสง


  7. 2.หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์(Fluorescent Lamp) หลอด
เรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วยหลอดแก้วที่
สูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ที่ปลายหลอดทังสองข้าง หลอด
                                                             ้
  เรืองแสงอาจทาเป็ นหลอดตรง หรือครึ่งวงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางานของ
                            หลอดเรืองแสง มีดงนี้
                                             ั
8. 2.1 ตัวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอน
   เล็กน้อย ผิวด้านในของหลอดเรืองแสงฉาบด้วยสารเรืองแสงชนิดต่างๆแล้วแต่ความ
 ต้องการให้เรืองแสงเป็ นสีใด เช่น ถ้าต้องการให้เรืองแสงสีเขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงค์ซิ
ลิเคต แสงสีขาวแกมฟาฉาบด้วยมักเนเซียมทังสเตน แสงสีชมพูฉาบด้วยแคดเนียมบอเรต
                        ้
       เป็ นต้น 2.2 ไส้หลอด ทาด้วยทังสเตนหรือวุลแฟรมอยูที่ปลายทังสองข้าง เมือ
                                                            ่        ้       ่
 กระแสไฟฟาผ่านไส้หลอดจะทาให้ไส้หลอดร้อนขึน ความร้อนที่เกิดขึนจะทาให้ไอปรอทที่
              ้                                 ้                  ้
 บรรจุไว้ในหลอดกลายเป็ นไอมากขึน แต่ขณะนันกระแสไฟฟายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก
                                     ้        ้           ้
                 เพราะปรอทยังเป็ นไอน้อยทาให้ความต้านทานของหลอดสูง
9. 2.3 สตาร์ตเตอร์ ทาหน้าที่เป็ นสวิตซ์ไฟฟาอัตโนมัตของวงจรโดยต่อขนานกับหลอด ทาด้วย
                                                    ้                ิ
  หลอดแก้วภายในบรรจุกาซนีออนและแผ่นโลหะคูที่งอตัวได้ เมือได้รบความร้อน เมือกระแสไฟฟา
                            ๊                               ่            ่ ั              ่        ้
ผ่านก๊าซนีออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อนขึน ทาให้แผ่นโลหะคูงอจนแตะติดกันทาให้กลายเป็ น
                                                          ้                     ่
วงจรปิ ดทาให้กระแสไฟฟาผ่านแผ่น โลหะได้ครบวงจร ก๊าซนีออนที่ตด ิิไฟอยู่จะดับและเย็นลง แผ่น
                          ้
 โลหะคูจะแยกออกจากกันทาให้เกิดความต้านทานสูงขึนอย่างทันทีซึ่งขณะ เดียวกันกระแสไฟฟาจะ
        ่                                                      ้                                 ้
ผ่านไส้หลอดได้มากขึนทาให้ไส้หลอดร้อนขึนมาก ปรอทก็ ิ้จะเป็ นไอมากขึนจนพอที่นากระแสไฟฟา
                      ้                                                                 ้              ้
 ได้ 2.4 แบลลัสต์ เป็ นขดลวดที่พนอยู่บนแกนเหล็ก ขณะกระแสไฟฟาไหลผ่านจะเกิดการเหนียวนา
                                       ั                                    ้               ่
  แม่เหล็กไฟฟาทาให้เกิดแรงเคลื่อน ไฟฟาเหนียวนาขึน เมือแผ่นโลหะคูในสตาร์ตเตอร์แยกตัวออก
               ้                                ้     ่       ้ ่                 ่
จากกันนันจะเกิดวงจรเปิ ดชัวขณะ แรงเคลื่อนไฟฟาเหนียวนาที่เกิดขึนในแบลลัสต์จึงทาให้เกิดความ
          ้                   ่                         ้        ่            ้
 ต่าง ศักย์ระหว่างไส้หลอดทังสองข้างสูงขึนเพียงพอที่จะทาให้กระแสไฟฟาไหลผ่าน ไอปรอทจากไส้
                                ้                 ้                                   ้
หลอดข้างหนึงไปยังไส้หลอดอีกข้างหนึงได้ แรงเคลื่อนไฟฟาเหนียวนาทีเิ่ กิดจากแบลลัสต์นนจะทา
             ่                                ่                        ้  ่                   ั้
ให้เกิดกระแสไฟฟา เหนียวนาไหลสวนทางกับกระแสไฟฟาจากวงจรไฟฟาในบ้าน ทาให้กระแส ไฟฟา
                 ้      ่                                          ้                ้                ้
                                  ที่จะเข้าสูวงจรของหลอดเรืองแสงลดลง
                                            ่
10. หลักการทางานของหลอดฟลูออเรสเซนต์ เมือกระแสไฟฟาผ่านไอปรอท จะคายพลังงานไฟฟา
                                               ่           ้                         ้
ให้แก่ไอปรอท ซึ่งจะทาให้อะตอม ของไอปรอทอยู่ในสภาวะถูกกระตุน (exited state) เป็ นผลให้
                                                               ้
 อะตอมปรอทคายพลังงานออกมาเพื่อ ลดระดับพลังงานในตัวเองในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต ซึ่ง
                                                                            ั
 มองไม่เห็น เมือรังสีชนิดนีไปกระทบกับสารวาวแสงที่ฉาบไว้ที่ผวด้านในของหลอดฟลูออเรส เซนต์
               ่           ้                                 ิ
 สารเหล่านีจะเปล่งแสงได้ โดยให้แสงสีตางๆตามชนิดของสารวาวแสงที่ฉาบไว้ภายในหลอดนัน เช่น
           ้                         ่                                            ้
          ซิงค์ซิลิเคท (Zinc silicate) ให้แสงสีเขียว ซิงค์เบริลเลียมซิลิเคท (Zinc
Berylliumsilicate) ให้แสงสีเหลืองนวล นอกจากนียงอาจผสมสารวาวแสงเหล่านี้ เพื่อให้ได้
                                                       ้ ั
                             แสงสีผสมที่แตกต่างกันออกไปได้อีกด้วย



11. 3.หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน เป็ นหลอดแก้วที่ถกลนไฟ       ู
 แล้วดัดให้เป็ นรูปหรือตัวอักษร ไม่มไส้หลอดแต่ที่ปลายทังสองข้างจะมีขวไฟฟาทาด้วยโลหะต่อกับ
                                    ี                  ้            ั้ ้
  แหล่งกาเนิดไฟฟา ที่มความต่างศักย์สงประมาณ 10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจน
                   ้    ี                 ู
 หมดแล้วใส่กาซบางชนิดที่ให้แสงสีตางๆออกมาเมื่อมีกระแสไฟฟาผ่าน เช่นก๊าซนีออนให้แสงสีแดง
               ๊                      ่                     ้
 หรือส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสีชมพู ความต่างศักย์ที่สงมากๆ จะทาให้กาซที่บรรจุไว้ในหลอดเกิดการ
                                                  ู              ๊
  แตกตัวเป็ นนีออน และนาไฟฟาได้ เมือกระแสไฟฟาผ่านก๊าซเหล่านีจะทาให้กาซร้อนติดไฟให้แสงสี
                              ้         ่       ้              ้       ๊
                                            ต่างๆได้
12. เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อน เป็ นเครื่องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานความร้อน
                  ้                                                           ้
  โดยใช้หลักการคือ เมือปล่อยกระแสไฟฟาผ่านขดลวดตัวนาที่มความต้านทานสูงๆ ลวดตัวนานันจะ
                        ่                ้                       ี                         ้
ร้อนจนสามารถนาความร้อนออกไปใช้ประโยชน์ได้ เนืองจากเป็ นเครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อน
                                                    ่                       ้
 มาก จึงสิ้นเปลี่ยนพลังงานไฟฟามากเมือเปรียบกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟาประเภทอื่นๆ เมื่อใช้ในเวลาที่
                               ้       ่                                ้
   เท่ากัน ฉะนันขณะใช้เครื่องใช้ไฟฟาให้พลังงานความร้อนจึงควรใช้ดวยความระมัดระวัง ตัวอย่าง
               ้                   ้                                  ้
เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อน เช่น เตารีด หม้อหุงข้าว กระทะไฟฟา กาต้มน้า เครื่องต้มกาแฟ
             ้                                                            ้
                                           เตาไฟฟา ฯลฯ
                                                  ้
13. ส่วนประกอบในเครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อน มีดงนี้ 1. ขดลวดความร้อน หรือแผ่นความ
                                ้                              ั
  ร้อน มักทาจากโลหะผสมระหว่างนิเกิลกับโครเมียม เรียกว่า นิโครม ซึ่งมีสมบัตคือมีจดหลอมเหลวสูง
                                                                           ิ     ุ
  มากจึงทนความร้อนได้สงเมือมีความร้อนเกิดขึนมากๆจึงไม่ขาด และมีความต้านทานสูงมาก 2. เทอโม
                         ู ่                    ้
สตาร์ท หรือสวิตซ์ความร้อนอัตโนมัติ ทาหน้าที่ควบคุมอุณหภูมไม่ให้รอนเกินไป มีสวนประกอบเป็ นโลหะ
                                                                 ิ       ้   ่
  ต่างชนิดกัน 2 แผ่นมาประกบกัน เมือได้รบความร้อนจะขยายตัวได้ไม่เท่ากัน เช่น เหล็กกับทองเหลือง
                                      ่ ั
โดยให้แผ่นโลหะทีขยายตัวได้นอย(เหล็ก)อยู่ดานบน ส่วนโลหะที่จะขยายตัวได้มาก(ทองเหลือง)อยู่ดานล่าง
                  ่          ้              ้                                              ้
 เมือกระแสไฟฟาไหลผ่านแผ่นโลหะทังสองมากขึน จะทาให้มอณหภูมสงจนแผ่นโลหะทังสองซึ่งขยายตัวได้
    ่         ้                   ้           ้          ี ุ         ิ ู       ้
  ต่างกันโลหะที่ขยายตัวได้ มากจะขยายตัวโค้งงอ เป็ นเหตุให้จดสัมผัสแยกออกจากกัน เกิดเป็ นวงจรเปิ ด
                                                             ุ
  กระแสไฟฟาจึงไหลผ่านไม่ได้ และเมือแผ่นโลหะทังสองเย็นลงก็จะสัมผัสกันเหมือนเดิม เกิดเป็ นวงจรปิ ด
            ้                       ่             ้
                                กระแสไฟฟาจึงไหลผ่านได้อีกครังหนึง
                                          ้                        ้ ่
14. 3. แผ่นไมกา หรือ แผ่นใยหิน ซึ่งเป็ นฉนวนไฟฟา ในเครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงาน
                                                  ้               ้
ความร้อนบางชนิด เช่นเตารีด หม้อหุงข้าว เตาไฟฟา จะมีแผ่นไมกา หรือใยหิน เพื่อ
                                                ้
ปองกันไม่ให้ขดลวดหลอมละลาย และปองกันไฟฟารัวขณะใช้งาน
 ้                                    ้        ้ ่
15. ข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อน เนืองจาก
                                    ้                           ่
เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อนจะมีกระแสไฟฟาปริมาณมากไหลผ่าน มากกว่า
             ้                                      ้
เครื่องใช้ประเภทอื่นๆ จึงควรใช้ดวยความระมัดระวังดังนี้ - หมันตรวจสอบดูแล
                                 ้                           ่
สายไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ ให้อยูในสภาพเรียบร้อยไม่ชารุด - เมือเลิกใช้งานต้องถอด
                             ่                             ่
เต้าเสียบออกจากเต้ารับทุกครังไม่ควรเสียบทิ้งไว้
                               ้

งานนำเสนอ1

  • 1.
    รายงานเรื่อง ไฟฟา ้ วิชา วิทยาศาสตร์
  • 2.
    1. เครื่องใช้ไฟฟา หมายถึงเครื่องมือที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานรูปให้ความ ้ ้ เป็ นอยูของคนในบ้าน ในชุมชน ในสังคม มีความสุขและสะดวกต่างๆที่ตองการ เช่น ่ ้ พลังงานความร้อน พลังงานเสียง พลังงานกล พลังงานเคมี และช่วยสบาย แต่ถาใช้กน ้ ั อย่างไม่ถกต้อง หรือไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลกรทบต่อสภาพแวดล้อม เช่น การสร้างเขือน ู ่ เพื่อผลิตกระแสไฟฟาทาให้เนือที่ป่าถูกทาลายทังสัตว์ตางๆ ที่ดารงชิวิตอยูในบริเวณนัน ้ ้ ้ ่ ่ ้ หรือการผลิตกระแสไฟฟาจากเชือเพลิง ก็สงผลกระทบ โดยเกิดมลภาวะทางอากาศ และ ้ ้ ่ ทางนาได้
  • 3.
    2. ข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟา- ใช้เครื่องใช้ไฟฟาและอุปกรณ์ไฟฟาอย่าง ้ ้ ้ ระมัดระวัง- หมันตรวจดูแลสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟาให้อยูในสภาพที่ใช้ได้ดีและปลอดภัย- ่ ้ ่ ถ้าไม่มความรูจริง อย่าแก้หรือซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟาเองเป็ นอันขาด ผลเสียที่จะเกิดขึน ี ้ ้ ้ เมือใช้เครื่องใช้ไฟฟาอย่างไม่ระมัดระวัง- ถูกไฟฟาช็อต เนืองจากไฟฟาลัดวงจร หรือไฟฟา ่ ้ ้ ่ ้ ้ รัว- เกิดเพลิงไหม้เนืองจากไฟฟาลัดวงจร หรือไฟฟารัว ่ ่ ้ ้ ่ 3. อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานแสง ได้แก่ หลอดไฟฟาหลอดฟลูออเรส ้ ้ เซนต์ และหลอดไฟโฆษณา โธมัส แอลวา เอดิสน (ThomasAlva Edison) นัก ั ฟิ สิกส์ชาวอเมริกน ได้ประดิษฐ์หลอดไฟฟา ขึนเป็ นครังแรกเมื่อ พ.ศ. 2422 โดยใช้ ั ้ ้ ้ คาร์บอนเส้นเล็กๆเป็ นไส้หลอดและต่อมาได้มีการพัฒนาขึน จนเป็ นหลอดไฟฟาที่ใช้ใน ้ ้ ปั จจุบน ั
  • 4.
    4. หลอดไฟฟา เป็นเครื่องใช้ไฟฟาที่มใช้ในทุกบ้านที่มการใช้พลังงานไฟฟา เป็ นเครื่องใช้ที่ ้ ้ ี ี ้ เปลี่ยนพลังงานไฟฟา ไปเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาที่ใช้ทวไป มี 3 ชนิด คือ1. หลอด ้ ้ ั่ ไฟฟาแบบธรรมดา หลอดไฟฟาแบบธรรมดา มีการเปลี่ยนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟา ้ ้ ้ เป็ นพลังงานความร้อน แล้วจึงเปลี่ยนเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาแบบธรรมดามี 2 ้ แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขียว มีสวนประกอบดังนี้ ้ ่ 5. 1.1 ไส้หลอด ทาด้วยโลหะที่มจดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนได้มาก มีความทานสูง เช่น ทังสเตน ี ุ 1.2 หลอดแก้วทาจากแก้วที่ทนความร้อนได้ดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจนหมดภายในบรรจุกาซ ๊ ไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิดนีทาปฏิกิริยายากช่วยปองกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่ ้ ้ หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้าบรรจุกาซออกซิเจนจะทาปฏิกิริยากับไส้หลอด ซึ่งทาให้ไส้ ๊ หลอดขาดง่าย 1.3 ขัวหลอดไฟ เป็ นจุดต่อวงจรไฟฟา มี 2 แบบ คือ แบบเขียวและแบบเกลียว เนืองจาก ้ ้ ้ ่ หลอดไฟฟาประเภทนีให้แสงสว่างได้ดวยการเปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานความร้อนก่อนที่จะให้แสง ้ ้ ้ ้ สว่างออกมา จึงทาให้สิ้นเปลือง พลังงานไฟฟามากกว่าหลอดชนิดอื่น ในขนาดกาลังไฟฟา ของหลอดไฟ ้ ้ ซึ่งจะกาหนดไว้ที่หลอดไฟทุกดวง เช่นหลอดไฟฟาขนาด 100 วัตต์ เป็ นต้น ้
  • 5.
    6. หลักการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา การที่หลอดไฟฟาให้แสงสว่างได้เป็ นไป ้ ้ ตามหลักการดังนี้ เมือกระแสไฟฟาไหลผ่านไส้หลอด ซึ่งมีความต้านทานสูง พลังงาน ่ ้ ไฟฟาจะเปลี่ยนเป็ นพลังงานความร้อน ทาให้ไส้หลอดร้อนจัดจนเปล่งแสง ออกมาได้ ซึ่ง ้ มีการเปลี่ยนรูปพลังงานดังนี้ พลังงานไฟฟา ----> พลังงานความร้อน ----> ้ พลังงานแสง 7. 2.หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์(Fluorescent Lamp) หลอด เรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วยหลอดแก้วที่ สูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ที่ปลายหลอดทังสองข้าง หลอด ้ เรืองแสงอาจทาเป็ นหลอดตรง หรือครึ่งวงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางานของ หลอดเรืองแสง มีดงนี้ ั
  • 6.
    8. 2.1 ตัวหลอดภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอน เล็กน้อย ผิวด้านในของหลอดเรืองแสงฉาบด้วยสารเรืองแสงชนิดต่างๆแล้วแต่ความ ต้องการให้เรืองแสงเป็ นสีใด เช่น ถ้าต้องการให้เรืองแสงสีเขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงค์ซิ ลิเคต แสงสีขาวแกมฟาฉาบด้วยมักเนเซียมทังสเตน แสงสีชมพูฉาบด้วยแคดเนียมบอเรต ้ เป็ นต้น 2.2 ไส้หลอด ทาด้วยทังสเตนหรือวุลแฟรมอยูที่ปลายทังสองข้าง เมือ ่ ้ ่ กระแสไฟฟาผ่านไส้หลอดจะทาให้ไส้หลอดร้อนขึน ความร้อนที่เกิดขึนจะทาให้ไอปรอทที่ ้ ้ ้ บรรจุไว้ในหลอดกลายเป็ นไอมากขึน แต่ขณะนันกระแสไฟฟายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก ้ ้ ้ เพราะปรอทยังเป็ นไอน้อยทาให้ความต้านทานของหลอดสูง
  • 7.
    9. 2.3 สตาร์ตเตอร์ทาหน้าที่เป็ นสวิตซ์ไฟฟาอัตโนมัตของวงจรโดยต่อขนานกับหลอด ทาด้วย ้ ิ หลอดแก้วภายในบรรจุกาซนีออนและแผ่นโลหะคูที่งอตัวได้ เมือได้รบความร้อน เมือกระแสไฟฟา ๊ ่ ่ ั ่ ้ ผ่านก๊าซนีออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อนขึน ทาให้แผ่นโลหะคูงอจนแตะติดกันทาให้กลายเป็ น ้ ่ วงจรปิ ดทาให้กระแสไฟฟาผ่านแผ่น โลหะได้ครบวงจร ก๊าซนีออนที่ตด ิิไฟอยู่จะดับและเย็นลง แผ่น ้ โลหะคูจะแยกออกจากกันทาให้เกิดความต้านทานสูงขึนอย่างทันทีซึ่งขณะ เดียวกันกระแสไฟฟาจะ ่ ้ ้ ผ่านไส้หลอดได้มากขึนทาให้ไส้หลอดร้อนขึนมาก ปรอทก็ ิ้จะเป็ นไอมากขึนจนพอที่นากระแสไฟฟา ้ ้ ้ ได้ 2.4 แบลลัสต์ เป็ นขดลวดที่พนอยู่บนแกนเหล็ก ขณะกระแสไฟฟาไหลผ่านจะเกิดการเหนียวนา ั ้ ่ แม่เหล็กไฟฟาทาให้เกิดแรงเคลื่อน ไฟฟาเหนียวนาขึน เมือแผ่นโลหะคูในสตาร์ตเตอร์แยกตัวออก ้ ้ ่ ้ ่ ่ จากกันนันจะเกิดวงจรเปิ ดชัวขณะ แรงเคลื่อนไฟฟาเหนียวนาที่เกิดขึนในแบลลัสต์จึงทาให้เกิดความ ้ ่ ้ ่ ้ ต่าง ศักย์ระหว่างไส้หลอดทังสองข้างสูงขึนเพียงพอที่จะทาให้กระแสไฟฟาไหลผ่าน ไอปรอทจากไส้ ้ ้ ้ หลอดข้างหนึงไปยังไส้หลอดอีกข้างหนึงได้ แรงเคลื่อนไฟฟาเหนียวนาทีเิ่ กิดจากแบลลัสต์นนจะทา ่ ่ ้ ่ ั้ ให้เกิดกระแสไฟฟา เหนียวนาไหลสวนทางกับกระแสไฟฟาจากวงจรไฟฟาในบ้าน ทาให้กระแส ไฟฟา ้ ่ ้ ้ ้ ที่จะเข้าสูวงจรของหลอดเรืองแสงลดลง ่
  • 8.
    10. หลักการทางานของหลอดฟลูออเรสเซนต์ เมือกระแสไฟฟาผ่านไอปรอทจะคายพลังงานไฟฟา ่ ้ ้ ให้แก่ไอปรอท ซึ่งจะทาให้อะตอม ของไอปรอทอยู่ในสภาวะถูกกระตุน (exited state) เป็ นผลให้ ้ อะตอมปรอทคายพลังงานออกมาเพื่อ ลดระดับพลังงานในตัวเองในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต ซึ่ง ั มองไม่เห็น เมือรังสีชนิดนีไปกระทบกับสารวาวแสงที่ฉาบไว้ที่ผวด้านในของหลอดฟลูออเรส เซนต์ ่ ้ ิ สารเหล่านีจะเปล่งแสงได้ โดยให้แสงสีตางๆตามชนิดของสารวาวแสงที่ฉาบไว้ภายในหลอดนัน เช่น ้ ่ ้ ซิงค์ซิลิเคท (Zinc silicate) ให้แสงสีเขียว ซิงค์เบริลเลียมซิลิเคท (Zinc Berylliumsilicate) ให้แสงสีเหลืองนวล นอกจากนียงอาจผสมสารวาวแสงเหล่านี้ เพื่อให้ได้ ้ ั แสงสีผสมที่แตกต่างกันออกไปได้อีกด้วย 11. 3.หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน เป็ นหลอดแก้วที่ถกลนไฟ ู แล้วดัดให้เป็ นรูปหรือตัวอักษร ไม่มไส้หลอดแต่ที่ปลายทังสองข้างจะมีขวไฟฟาทาด้วยโลหะต่อกับ ี ้ ั้ ้ แหล่งกาเนิดไฟฟา ที่มความต่างศักย์สงประมาณ 10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจน ้ ี ู หมดแล้วใส่กาซบางชนิดที่ให้แสงสีตางๆออกมาเมื่อมีกระแสไฟฟาผ่าน เช่นก๊าซนีออนให้แสงสีแดง ๊ ่ ้ หรือส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสีชมพู ความต่างศักย์ที่สงมากๆ จะทาให้กาซที่บรรจุไว้ในหลอดเกิดการ ู ๊ แตกตัวเป็ นนีออน และนาไฟฟาได้ เมือกระแสไฟฟาผ่านก๊าซเหล่านีจะทาให้กาซร้อนติดไฟให้แสงสี ้ ่ ้ ้ ๊ ต่างๆได้
  • 9.
    12. เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อน เป็นเครื่องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานความร้อน ้ ้ โดยใช้หลักการคือ เมือปล่อยกระแสไฟฟาผ่านขดลวดตัวนาที่มความต้านทานสูงๆ ลวดตัวนานันจะ ่ ้ ี ้ ร้อนจนสามารถนาความร้อนออกไปใช้ประโยชน์ได้ เนืองจากเป็ นเครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อน ่ ้ มาก จึงสิ้นเปลี่ยนพลังงานไฟฟามากเมือเปรียบกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟาประเภทอื่นๆ เมื่อใช้ในเวลาที่ ้ ่ ้ เท่ากัน ฉะนันขณะใช้เครื่องใช้ไฟฟาให้พลังงานความร้อนจึงควรใช้ดวยความระมัดระวัง ตัวอย่าง ้ ้ ้ เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อน เช่น เตารีด หม้อหุงข้าว กระทะไฟฟา กาต้มน้า เครื่องต้มกาแฟ ้ ้ เตาไฟฟา ฯลฯ ้
  • 10.
    13. ส่วนประกอบในเครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อน มีดงนี้1. ขดลวดความร้อน หรือแผ่นความ ้ ั ร้อน มักทาจากโลหะผสมระหว่างนิเกิลกับโครเมียม เรียกว่า นิโครม ซึ่งมีสมบัตคือมีจดหลอมเหลวสูง ิ ุ มากจึงทนความร้อนได้สงเมือมีความร้อนเกิดขึนมากๆจึงไม่ขาด และมีความต้านทานสูงมาก 2. เทอโม ู ่ ้ สตาร์ท หรือสวิตซ์ความร้อนอัตโนมัติ ทาหน้าที่ควบคุมอุณหภูมไม่ให้รอนเกินไป มีสวนประกอบเป็ นโลหะ ิ ้ ่ ต่างชนิดกัน 2 แผ่นมาประกบกัน เมือได้รบความร้อนจะขยายตัวได้ไม่เท่ากัน เช่น เหล็กกับทองเหลือง ่ ั โดยให้แผ่นโลหะทีขยายตัวได้นอย(เหล็ก)อยู่ดานบน ส่วนโลหะที่จะขยายตัวได้มาก(ทองเหลือง)อยู่ดานล่าง ่ ้ ้ ้ เมือกระแสไฟฟาไหลผ่านแผ่นโลหะทังสองมากขึน จะทาให้มอณหภูมสงจนแผ่นโลหะทังสองซึ่งขยายตัวได้ ่ ้ ้ ้ ี ุ ิ ู ้ ต่างกันโลหะที่ขยายตัวได้ มากจะขยายตัวโค้งงอ เป็ นเหตุให้จดสัมผัสแยกออกจากกัน เกิดเป็ นวงจรเปิ ด ุ กระแสไฟฟาจึงไหลผ่านไม่ได้ และเมือแผ่นโลหะทังสองเย็นลงก็จะสัมผัสกันเหมือนเดิม เกิดเป็ นวงจรปิ ด ้ ่ ้ กระแสไฟฟาจึงไหลผ่านได้อีกครังหนึง ้ ้ ่
  • 11.
    14. 3. แผ่นไมกาหรือ แผ่นใยหิน ซึ่งเป็ นฉนวนไฟฟา ในเครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงาน ้ ้ ความร้อนบางชนิด เช่นเตารีด หม้อหุงข้าว เตาไฟฟา จะมีแผ่นไมกา หรือใยหิน เพื่อ ้ ปองกันไม่ให้ขดลวดหลอมละลาย และปองกันไฟฟารัวขณะใช้งาน ้ ้ ้ ่ 15. ข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อน เนืองจาก ้ ่ เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานความร้อนจะมีกระแสไฟฟาปริมาณมากไหลผ่าน มากกว่า ้ ้ เครื่องใช้ประเภทอื่นๆ จึงควรใช้ดวยความระมัดระวังดังนี้ - หมันตรวจสอบดูแล ้ ่ สายไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ ให้อยูในสภาพเรียบร้อยไม่ชารุด - เมือเลิกใช้งานต้องถอด ่ ่ เต้าเสียบออกจากเต้ารับทุกครังไม่ควรเสียบทิ้งไว้ ้