SlideShare a Scribd company logo
1 of 20
Download to read offline
ด.ญ.สุทธิ ดา ไชยลังกา เลขที่ 29
  ด.ญ.อั จจิมา ใจเย็น เลขที่ 30
ด.ญ.อั ฐภิญญา วงศ์สม เลขที่ 31
             ม.3/3
              เสนอ
   ครู จิราภรณ์ ไชยมงคล
เครืองใช้ไฟฟามี 4 ประเภท ได้แก่
     ่       ้
  1. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้แสงสว่าง
         ่       ้

 2. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน
        ่       ้

3. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล
       ่       ้

4. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง
       ่       ้
หลอดไฟฟา เป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีมใี ช้ในทุกบ้านทีมการใช้พลังงานไฟฟา เป็ นเครืองใช้ทเี่ ปลียน
            ้          ่      ้ ่                   ่ี             ้          ่            ่
พลังงานไฟฟา ไปเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาทีใ่ ช้ทวไป มี 3 ชนิด คือ
          ้                               ้      ั่

1. หลอดไฟฟาแบบธรรมดา
           ้
2. หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์
3. หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน
1.1 หลอดไฟฟาแบบธรรมดา
              ้

 หลอดไฟฟาแบบธรรมดา มีการเปลียนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานความร้อน แล้วจึง
            ้                         ่                             ้
เปลียนเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาแบบธรรมดามี 2 แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขียว มีส่วนประกอบ
    ่                             ้                                         ้
ดังนี้
        1. ไส้หลอด ทาด้วยโลหะทีมจุดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนได้มาก มีความทานสูง เช่น ทังสเตน
                                ่ี
        2. หลอดแก้วทาจากแก้วทีทนความร้อนได้ด ี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจนหมดภายในบรรจุก๊าซ
                                ่
ไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิดนีทาปฏิกรยายาก ช่วยป้ องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่
                                        ้      ิิ
หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้าบรรจุก๊าซออกซิเจนจะทาปฏิกรยากับไส้หลอด ซึงทาให้ไส้
                                                                      ิิ              ่
หลอดขาดง่าย
       3. ขัวหลอดไฟ เป็ นจุดต่อวงจรไฟฟา มี 2 แบบ คือ แบบเขียวและแบบเกลียว
               ้                          ้                     ้
              เนืองจากหลอดไฟฟาประเภทนีใ้ ห้แสงสว่างได้ด้วยการเปล่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงาน
                 ่            ้                                               ้
ความร้อนก่อนทีจะให้แสงสว่างออกมา จึงทาให้สนเปลือง พลังงานไฟฟา มากกว่าหลอดชนิดอืน ใน
                     ่                       ้ิ ่                 ้                     ่
ขนาด กาลังไฟฟา ของหลอดไฟซึงจะกาหนดไว้ทหลอดไฟทุกดวง เช่น หลอดไฟาขนาด 100
                   ้                ่          ี่                        ้
วัตต์ เป็ นต้น
1.2 หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์(Fluorescent Lamp)
หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วยหลอดแก้วทีสูบอากาศออกจน    ่
หมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ทปลายหลอดทังสองข้าง หลอดเรืองแสงอาจทาเป็ นหลอดตรง หรือครึง
                                           ี่              ้                                      ่
วงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางานของหลอดเรืองแสง มีดงนี้                 ั
               1. ตัวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอน เล็กน้อย ผิวด้าน
ในของหลอดเรืองแสงฉาบด้วยสารเรืองแสงชนิดต่างๆ แล้วแต่ความต้องการให้เรืองแสงเป็ นสีใด เช่น ถ้า
ต้องการให้เรืองแสงสีเขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงค์ซลเิ คต แสงสีขาวแกมฟาฉาบด้วยมักเนเซียมทังสเตน แสงสี
                                                         ิ                    ้
ชมพู ฉาบด้วยแคดเนียมบอเรต เป็ นต้น
               2. ไส้หลอด ทาด้วยทังสเตนหรือวุ ลแฟรมอยู่ทปลายทังสองข้าง เมือกระแสไฟฟาผ่านไส้หลอดจะทา
                                                                  ี่        ้   ่         ้
ให้ไส้หลอดร้อนขึน ความร้อนทีเ่ กิดขึนจะทาให้ไอปรอททีบรรจุไว้ในหลอดกลายเป็ นไอมากขึน แต่ขณะนัน
                   ้                ้                        ่                      ้         ้
กระแสไฟฟายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก เพราะปรอทยังเป็ นไอน้อยทาให้ความต้านทานของหลอดสูง
          ้
              3. สตาร์ตเตอร์ ทาหน้าทีเ่ ป็ นสวิตซ์ไฟฟาอัตโนมัตของวงจรโดยต่อขนานกับหลอด ทาด้วย
                                                       ้              ิ
หลอดแก้วภายในบรรจุก๊าซนีออนและแผ่นโลหะคู่ทงอตัวได้ เมือได้รบความร้อน เมือกระแสไฟฟาผ่านก๊าซ
                                                    ี่               ่ ั          ่         ้
นีออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อนขึน ทาให้แผ่นโลหะคู่งอจนแตะติดกันทาให้กลายเป็ นวงจรปิ ดทาให้
                                                 ้
กระแสไฟฟาผ่านแผ่นโลหะได้ครบวงจร ก๊าซนีออนทีตดไฟอยู่จะดับและเย็นลง แผ่นโลหะคู่จะแยกออกจากกัน
            ้                                                  ่ิ
ทาให้เกิดความต้านทานสูงขึนอย่างทันทีซงขณะเดียวกันกระแสไฟฟาจะผ่านไส้หลอดได้มากขึนทาให้ไส้หลอด
                            ้                 ึ่                          ้             ้
4. แบลลัสต์ เป็ นขดลวดทีพนอยู่บนแกนเหล็ก ขณะกระแสไฟฟาไหลผ่านจะเกิดการเหนียวนาแม่เหล็กไฟฟาทาให้
                                     ่ ั                                 ้                ่            ้
เกิดแรงเคลือนไฟฟาเหนียวนาขึน เมือแผ่นโลหะคู่ในสตาร์ตเตอร์ แยกตัวออกจากกันนันจะเกิดวงจรเปิ ด
             ่           ้ ่             ้ ่                                            ้
ชัวขณะ แรงเคลือนไฟฟาเหนียวนาทีเ่ กิดขึนในแบลลัสต์จงทาให้เกิดความต่างศักย์ระหว่างไส้หลอดทังสองข้าง
  ่                       ่         ้ ่           ้               ึ                                  ้
สูงขึนเพียงพอทีจะทาให้กระแสไฟฟาไหลผ่านไอปรอทจากไส้หลอดข้างหนึงไปยังไส้หลอดอีกข้างหนึง
      ้              ่                        ้                              ่                     ่
ได้ แรงเคลือนไฟฟาเหนียวนาทีเ่ กิดจากแบลลัสต์นนจะทาให้เกิดกระแสไฟฟาเหนียวนาไหลสวนทางกับ
               ่            ้ ่                              ั้                   ้ ่
กระแสไฟฟาจากวงจรไฟฟาในบ้าน ทาให้กระแส ไฟฟาทีจะเข้าสู่วงจรของหลอดเรืองแสงลดลง
          ้                       ้                       ้ ่
                               หลักการทางานของหลอดเรืองแสง
 เมือกระแสไฟฟาผ่านไอปรอทจะคายพลังงานไฟฟาให้อะตอมไอปรอท ทาให้อะตอมของไอปรอทอยู่ในสภาวะถูก
    ่            ้                                    ้
กระตุ้น (excited state) และอะตอมของปรอทจะคายพลังงานออกมาเพือลดระดับพลังงาน ในรูปของรังสี
                                                                                   ่
อัลตราไวโอเลต ซึงอยู่ในช่วงของแสงทีมองไม่เห็น เมือรังสีนกระทบสารเรืองแสงทีฉาบไว้ทผวหลอด สารเรืองแสง
                       ่                        ่          ่        ้ี                ่     ี่ ิ
จะเปล่งแสงสีต่างๆตามชนิดของสารเรืองแสงทีฉาบไว้ในหลอดนัน
                                                    ่                  ้
                                 ข้อดีของหลอดเรืองแสง
            1. เมือให้พลังงานไฟฟาเท่ากันจะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดาประมาณ 4 เท่า และมี
                   ่                      ้                                     ้
อายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟฟาธรรมดาประมาณ 8 เท่า
                                            ้
          2. อุณหภูมของหลอดไม่สูงเท่ากับหลอดไฟฟาแบบธรรมดา
                             ิ                                  ้
          3. ถ้าต้องการแสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟาธรรมดา จะใช้วตต์ทต่ากว่า จึงเสียค่าไฟฟาน้อยกว่า
                                                        ้                  ั ี่                  ้
ข้อดีของหลอดเรืองแสง
          1. เมือให้พลังงานไฟฟาเท่ากันจะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดาประมาณ 4 เท่า และมี
                 ่                ้                                 ้
อายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟฟาธรรมดาประมาณ 8 เท่า
                                    ้
         2. อุณหภูมของหลอดไม่สูงเท่ากับหลอดไฟฟาแบบธรรมดา
                     ิ                            ้
         3. ถ้าต้องการแสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟาธรรมดา จะใช้วตต์ทต่ากว่า จึงเสียค่าไฟฟาน้อยกว่า
                                                ้             ั ี่                 ้
                         ข้อเสียของหลอดเรืองแสง
         1. เมือติดตังจะเสียค่าใช้จายสูงกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดา เพราะต้องใช้แบลลัสต์และสตาร์ตเตอร์
               ่       ้              ่             ้
เสมอ
         2. หลอดเรืองแสงมักระพริบเล็กน้อยไม่เหมาะในการใช้อ่านหนังสือ

        ตัวเลขทีปรากฏบนหลอดไฟฟาธรรมดาและหลอดเรืองแสงซึงบอก กาลังไฟฟาเป็ นวัตต์(W) เป็ นการ
                 ่                ้                        ่              ้
บอกถึงปริมาณพลังงานไฟฟาทีใ่ ช้ไปใน 1 วินาที เช่น 20 W หมายถึง หลอดไฟฟานีจะใช้พลังงานไป 20 จูล
                          ้                                           ้ ้
ในเวลา 1 วินาที ดังนันหลอดไฟฟาและหลอดเรืองแสงทีมกาลังไฟฟามาก เมือใช้งานก็ยงสินเปลืองกระแสไฟฟา
                       ้        ้                 ่ี     ้       ่          ิ่ ้            ้
มาก ทาให้เสียค่าใช้จายมากขึนด้วย ปัจจุบนมีการผลิตหลอดไฟพร้อมอุปกรณ์ประกอบ เช่น บัลลาสต์ แบบ
                     ่      ้          ั
ประหยัดพลังงานขึนมาใช้หลายชนิด เช่น หลอดตะเกียบ หลอดผอม บัลลาสต์เบอร์ 5 เป็ นต้น
                   ้
1.3 หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน
                หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน เป็ นหลอดแก้วทีถูกลนไฟแล้วดัดให้เป็ นรูป
                                                              ่
หรือตัวอักษร ไม่มไี ส้หลอดแต่ทปลายทังสองข้างจะมีขวไฟฟาทาด้วยโลหะ ต่อกับแหล่งกาเนิด
                               ี่     ้           ั้ ้
ไฟฟา ทีมความต่างศักย์สูงประมาณ 10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจน
    ้ ่ี
หมดแล้วใส่ก๊าซบางชนิดทีใ่ ห้แสงสีต่างๆออกมาเมือมีกระแสไฟฟาผ่าน เช่นก๊าซนีออนให้แสงสี
                                              ่          ้
แดงหรือส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสีชมพู ความต่างศักย์ทสูงมากๆ จะทาให้ก๊าซทีบรรจุไว้ในหลอด
                                                    ี่                 ่
เกิดการแตกตัวเป็ นอิออน และนาไฟฟาได้ เมือกระแสไฟฟาผ่านก๊าซเหล่านีจะทาให้ก๊าซร้อนติด
                                    ้    ่             ้           ้
ไฟให้แสงสีต่างๆได้
2.1เครื่องใช้ไฟฟ้ าที่ให้ความร้อน
เตารีดไฟฟ้ า
เตาไฟฟ้ า
หม้อหุงข้าวไฟฟ้ า
หม้อต้มน้าไฟฟ้ า
ส่วนประกอบสาคัญของเครืองใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อน คือ ขดลวดหรือแผ่นความร้อน
                         ่          ่
หรือขดลวดนิโครม ซึงเป็ นโลหะผสมระหว่างนิกเกิลกับโครเมียม ลวดนิโครมมีคุณสมบัตดงนี้
                   ่                                                           ิ ั
1. มีความต้านทานไฟฟ้าสูง เพือให้เกิดความร้อนสูง
                             ่
2. มีจุดหลอดเหลวสูงทาให้ขดลวดไม่ขาดเมือเกิดความร้อนทีขดลวด
                                         ่             ่
ข้อควรระวังในการใช้เครื่องไฟฟ้ าที่ให้ความร้อน
กระแสไฟฟ้าทีผ่านเครืองใช้ไฟฟ้ามีปริมาณมากกว่าเครืองใช้ไฟฟ้าอื่นๆ หลายเท่า จึงควร
             ่       ่                           ่
ตรวจสภาพสายไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ ให้อยูในสภาพดีเสมอ เมื่อเลิกใช้ตองถอดเต้าเสียบออก
                                       ่                        ้
ทุกครัง
      ้
2.2เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน
             ่          ้
เตารีดไฟฟา      ้
เตาไฟฟา  ้
หม้อหุงข้าวไฟฟา     ้
หม้อต้มน้าไฟฟา    ้
ส่วนประกอบสาคัญของเครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานความร้อน คือ ขดลวดหรือแผ่นความร้อนหรือขดลวดนิโครม
                                ่         ้
ซึงเป็ นโลหะผสมระหว่างนิกเกิลกับโครเมียม ลวดนิโครมมีคุณสมบัตดงนี้
  ่                                                                ิ ั
1. มีความต้านทานไฟฟาสูง เพือให้เกิดความร้อนสูง
                            ้           ่
2. มีจุดหลอดเหลวสูงทาให้ขดลวดไม่ขาดเมือเกิดความร้อนทีขดลวด
                                                ่           ่
ข้อควรระวังในการใช้เครืองไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน
                              ่   ้
กระแสไฟฟาทีผานเครืองใช้ไฟฟามีปริมาณมากกว่าเครืองใช้ไฟฟาอืนๆ หลายเท่า จึงควรตรวจสภาพสายไฟ
               ้ ่ ่ ่              ้                 ่        ้ ่
เต้ารับ เต้าเสียบ ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ เมือเลิกใช้ต้องถอดเต้าเสียบออกทุกครัง
                                              ่                           ้
3. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง
           ่          ้
เครืองรับวิทยุ คือ เครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยรับคลืนจากสถานีส่งแล้วใช้
    ่                     ่           ้     ่           ้                       ่
อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงทีอยู่ในรูปสัญญาณไฟฟาให้แรงขึน จนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสียง
                                                  ่              ้     ้             ่
ดังแผนผัง
เครื่องบันทึกเสียง คือ เครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยใช้ไดนาโมเปลียนเสียงพู ด
                            ่      ้        ่             ้                                ่
หรือเสียงร้องเป็ นสัญญาณไฟฟา แล้วบันทึกสัญญาณไฟฟาลงแถบบันทึกเสียงในรูปของสัญญาณแม่เหล็ก เมือนา
                              ้                        ้
แถบบันทึกเสียงทีบนทึกมาเล่น สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลียนเป็ นสัญญาณไฟฟา และสัญญาณไฟฟานีจะถูกขยาย
                  ่ั                               ่                   ้               ้ ้
ให้แรงขึนด้วยอุ ปกรณ์ไฟฟาจนเพียงพอทีจะทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสียงอีกครังหนึง ดังแผนภาพ
        ้               ้            ่               ่                    ้ ่

รูป แผนผังการเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะบันทึก
                 ่               ่

รูป แผนผังการเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะเล่น
                 ่               ่

คลื่นเสียง คือ เครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยใช้ไมโครโฟน เปลียนเสียงพู ดหรือ
                     ่      ้        ่           ้                                    ่
เสียงร้องเป็ นสัญญาณไฟฟา แล้วใช้อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิคส์ขยายสัญญาณเสียงทีอยู่ในรูปสัญญาณไฟฟาได้แรง
                         ้                                                ่                 ้
ขึน จนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสียง
 ้                 ่
3.1 เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล
          ่      ้
  เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล มีการเปลียนรูปพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานกล โดยอาศัยหลักการ
        ่     ้                           ่               ้
เหนียวนาแม่เหล็กไฟฟา ด้วยอุปกรณ์ ทีเ่ รียกว่า มอเตอร ์์ และ เครืองควบคุมความเร็ว ซึงเป็ น
    ่                 ้                                           ่                    ่
อุปกรณ์หลักในเครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล ตัวอย่าง เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล เช่น
                    ่       ้                           ่       ้
เครืองปรับอากาศ ตู้เย็น เครืองดูดฝุ่ น พัดลม เครืองซักผ้า เครืองปันน้าผลไม้ ฯลฯ
      ่                       ่                   ่            ่ ่
3.2 เครืองควบคุมความเร็วของมอเตอร์ ทาได้โดย การเพิมหรือ
                   ่                                                ่
ลดความต้านทานให้กระแสไฟฟาผ่านได้มากหรือน้อยภานในเครืองใช้ไฟฟา
                                  ้                             ่         ้
นัน ซึงเป็ นผลให้ความเร็วของการหมุนมอเตอร์เปลียนไปจากเดิม เช่น เมือ
  ้ ่                                                 ่                     ่
ต้องการให้พดลมหมุนช้าลง ก็ให้เพิมความต้านทานเพือให้กระแสไฟฟาเข้าได้
                 ั                     ่                ่             ้
น้อยลงเป็ นผลให้พดลมหมุนช้าลง ฉะนันในเครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล
                       ั                   ้      ่       ้
จะต้องมีเครืองควบคุมความเร็วของมอตอร์เสมอ
              ่
                   การเลือก เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล จะต้องพิจารณาดู
                                ่        ้
ข้อกาหนดในการใช้ เช่น ใช้กบความต่างศักย์ไฟฟาเท่าใด ทังนีเ้ พือความ
                              ั                     ้       ้ ่
ปลอดภัยในการใช้เครืองใช้ไฟฟา และไม่ให้เกิดความเสียหายแก่เครืองใช้ไฟฟา
                         ่          ้                             ่           ้
นัน และเพือเป็ นการประหยัดพลังงานไฟฟา ควรพิจารณากาลังไฟฟาของ
   ้        ่                                ้                          ้
เครืองใช้ไฟฟานันๆด้วย
     ่          ้ ้
4.1เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานเสียง
                ้

      เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง เป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง เช่น
          ่       ้                             ่       ้        ่           ้
เครืองรับวิทยุ เครืองบันทึกเสียง เครืองขยายเสียง
    ่               ่                 ่

เครื่องรับวิทยุ
     เป็ นอุปกรณ์ทเี่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยเครืองรับวิทยุอาศัยการรับคลืนวิทยุจาก
                         ่             ้                       ่                       ่
สถานีส่ง แล้วใช้อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงทีอยู่ในรูปของสัญญาณไฟฟาให้แรงขึนจนเพียงพอ
                                                           ่                    ้        ้
ทีทาให้ลาโพงเสียงสันสะเทือนเป็ นเสียงให้เราได้ยน ดังแผนผัง
  ่                   ่                        ิ
สถานีวทยุกระจายเสียงแต่ละสถานีจะส่งคลืนวิทยุด้วยความถีทแตกต่างกัน ซึงเราสามารถเลือกสถานีเพือรับฟั ง
       ิ                              ่               ่ ี่          ่                      ่
ได้โดยหมุนปุ่มเลือกสถานี

เครื่องบันทึกเสียง
     เครืองบันทึกเสียงเป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยขณะบันทึกใช้การพู ดผ่าน
         ่                     ่       ้        ่           ้
ไมโครโฟน ซึงจะเปลียนเสียงเป็ นสัญญาณไฟฟา แล้วบันทึกลงในแถบบันทึกเสียงซึงฉาบด้วยสารแม่เหล็กในรูปของ
            ่        ่                        ้                             ่
สัญญาณแม่เหล็ก เมือนาแถบบันทึกเสียงทีบนทึกไว้มาเล่น สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลียนกลับไปเป็ นสัญญาณไฟฟา
                       ่                 ่ั                                    ่                      ้
และสัญญาณไฟฟาจะถูกขยายให้แรงขึนด้วยอุปกรณ์ไฟฟา สัญญาณไฟฟาจะถูกส่งไปถึงลาโพง ทาให้ลาโพง
                ้                    ้                ้             ้
สันสะเทือนกลับเป็ นเสียงขึนอีกครังหนึง ดังแผนผัง
  ่                      ้       ้ ่


                                           การเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะบันทึก
                                                  ่               ่
การเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะเล่น
           ่                ่
                           ภาพที่ 43 แผนผังการเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะบันทึก - ขณะ
                                                      ่                  ่
เล่น
          ทีมา : รัตนาภรณ์ อิทธิไพสิฐพันธุ์ และคณะ . สมุดเสริมความรู้ ทักษะปฏิบต ิ และแบบทดสอบตาม
             ่                                                                 ั
จุดประสงค์ วิทยาศาสตร์ ว 306 ชันมัธยมศึกษาปี่ ท ี่ 3 . 2543. หน้า 45.
                                    ้

เครื่องขยายเสียง
      เป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยการใช้ไมโครโฟนเปลียนเสียงเป็ น
               ่       ้         ่            ้                                     ่
สัญญาณไฟฟา แล้วขยายสัญญาณไฟฟาให้แรงขึนด้วยอุ ปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ จนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ น
                 ้                        ้      ้                                        ่
เสียง
      เครืองขยายเสียงมีส่วนประกอบดังนี้
           ่
             • ไมโครโฟน เปลียนพลังงานเสียงให้เป็ นสัญญาณไฟฟา
                               ่                              ้
             • เครืองขยายสัญญาณไฟฟา ขยายสัญญาณไฟฟาให้แรงขึน
                   ่                    ้                  ้       ้
             • ลาโพง เปลียนสัญญาณไฟฟาให้เป็ นพลังงานเสียง
                         ่                  ้
เครืองใช้ไฟฟาหลายชนิด สามารถเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานอืนๆ หลายรูปได้
      ่       ้                    ่             ้            ่
พร้อมกัน เช่น โทรทัศน์สามารถเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานแสง และพลังงานเสียง
                                ่           ้
ในเวลาเดียวกัน
                        ภาพที่ 42 แผนผังการเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงาน
                                                   ่             ้
   เสียงของเครืองรับวิทยุ
                  ่
              ทีมา : รัตนาภรณ์ อิทธิไพสิฐพันธุ์ และคณะ . สมุดเสริมความรู้ ทักษะ
                ่
   ปฏิบต ิ และแบบทดสอบตามจุดประสงค์ วิทยาศาสตร์ ว 306 ชันมัธยมศึกษาปี่ ท ี่
        ั                                                          ้
   3 . 2543. หน้า 44.
กลุ่ม 7 ม.303

More Related Content

What's hot

เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าWatcharagon Kong
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)Nontawat Rupsung
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1Karnchana Duangta
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiwush Pormchai
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าI'am Jeed
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33cororosang2010
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าteerawat2012
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้าpatarapan
 

What's hot (9)

เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ไฟฟ้า 303
ไฟฟ้า 303ไฟฟ้า 303
ไฟฟ้า 303
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 

Viewers also liked

Slide show sa cworkshop apr23
Slide show   sa cworkshop apr23Slide show   sa cworkshop apr23
Slide show sa cworkshop apr23Mary Bowman-Kruhm
 
Belvis (Types of Characters In Literature)
Belvis (Types of Characters In Literature)Belvis (Types of Characters In Literature)
Belvis (Types of Characters In Literature)Christine Belvis
 
Bringing down the moon
Bringing down the moonBringing down the moon
Bringing down the moonJana Hillis
 
Mexican Folklore Ballet
Mexican Folklore BalletMexican Folklore Ballet
Mexican Folklore Balletchio601
 
Mexican's Vacation
Mexican's  VacationMexican's  Vacation
Mexican's Vacationa c
 
Autoestima Femenina Mafalda
Autoestima Femenina MafaldaAutoestima Femenina Mafalda
Autoestima Femenina Mafaldalosdehinojosos
 
Highlander Folktales
Highlander FolktalesHighlander Folktales
Highlander Folktalesbbrendli
 
The stranger foil characters
The stranger foil charactersThe stranger foil characters
The stranger foil charactersAlisha Punjwani
 
Si tanduk panjang
Si tanduk panjangSi tanduk panjang
Si tanduk panjangWie Wien
 
Michael Martinez Slide Share Digital Story About Mexican Muralist Diego Rivera
Michael Martinez   Slide Share Digital Story About Mexican Muralist Diego RiveraMichael Martinez   Slide Share Digital Story About Mexican Muralist Diego Rivera
Michael Martinez Slide Share Digital Story About Mexican Muralist Diego Riveramike25
 
From Ketamine to Collars Evidence, Controversies And An International Dialogu...
From Ketamine to Collars Evidence, Controversies And An International Dialogu...From Ketamine to Collars Evidence, Controversies And An International Dialogu...
From Ketamine to Collars Evidence, Controversies And An International Dialogu...Barbara Stanley
 
Cultural narratives
Cultural narrativesCultural narratives
Cultural narrativesmonicachay
 

Viewers also liked (20)

Slide show sa cworkshop apr23
Slide show   sa cworkshop apr23Slide show   sa cworkshop apr23
Slide show sa cworkshop apr23
 
Cocaína, prisão, educação
Cocaína, prisão, educaçãoCocaína, prisão, educação
Cocaína, prisão, educação
 
Belvis (Types of Characters In Literature)
Belvis (Types of Characters In Literature)Belvis (Types of Characters In Literature)
Belvis (Types of Characters In Literature)
 
Bringing down the moon
Bringing down the moonBringing down the moon
Bringing down the moon
 
Ad
AdAd
Ad
 
Mexican Folklore Ballet
Mexican Folklore BalletMexican Folklore Ballet
Mexican Folklore Ballet
 
Mexican's Vacation
Mexican's  VacationMexican's  Vacation
Mexican's Vacation
 
Autoestima Femenina Mafalda
Autoestima Femenina MafaldaAutoestima Femenina Mafalda
Autoestima Femenina Mafalda
 
Chapter 11
Chapter 11Chapter 11
Chapter 11
 
Mexico
MexicoMexico
Mexico
 
Folktales[1]
Folktales[1]Folktales[1]
Folktales[1]
 
Highlander Folktales
Highlander FolktalesHighlander Folktales
Highlander Folktales
 
Pinturas del siglo xx
Pinturas del siglo xxPinturas del siglo xx
Pinturas del siglo xx
 
The stranger foil characters
The stranger foil charactersThe stranger foil characters
The stranger foil characters
 
Emil nolde
Emil noldeEmil nolde
Emil nolde
 
Si tanduk panjang
Si tanduk panjangSi tanduk panjang
Si tanduk panjang
 
Michael Martinez Slide Share Digital Story About Mexican Muralist Diego Rivera
Michael Martinez   Slide Share Digital Story About Mexican Muralist Diego RiveraMichael Martinez   Slide Share Digital Story About Mexican Muralist Diego Rivera
Michael Martinez Slide Share Digital Story About Mexican Muralist Diego Rivera
 
016 Vaticano Museo
016 Vaticano Museo016 Vaticano Museo
016 Vaticano Museo
 
From Ketamine to Collars Evidence, Controversies And An International Dialogu...
From Ketamine to Collars Evidence, Controversies And An International Dialogu...From Ketamine to Collars Evidence, Controversies And An International Dialogu...
From Ketamine to Collars Evidence, Controversies And An International Dialogu...
 
Cultural narratives
Cultural narrativesCultural narratives
Cultural narratives
 

Similar to กลุ่ม 7 ม.303

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1boom500937
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1boom500937
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0887946598532
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0286983445
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0887946598532
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong20155
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiwush Pormchai
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าchindekthai01
 
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้างานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้าSarun Boonwong
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1thanawan302
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305คณากรณ์ อุปปิง
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305คณากรณ์ อุปปิง
 
Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้า
Sideshare  เรื่องการใช้ไฟฟ้าSideshare  เรื่องการใช้ไฟฟ้า
Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้าหัว' เห็ด.
 

Similar to กลุ่ม 7 ม.303 (20)

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้างานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทพลังงานไฟฟ้า
ประเภทพลังงานไฟฟ้าประเภทพลังงานไฟฟ้า
ประเภทพลังงานไฟฟ้า
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1
 
วิทย์1
วิทย์1วิทย์1
วิทย์1
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
 
กลุ่มที่ 1
กลุ่มที่ 1กลุ่มที่ 1
กลุ่มที่ 1
 
Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้า
Sideshare  เรื่องการใช้ไฟฟ้าSideshare  เรื่องการใช้ไฟฟ้า
Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้า
 

กลุ่ม 7 ม.303

  • 1.
  • 2. ด.ญ.สุทธิ ดา ไชยลังกา เลขที่ 29 ด.ญ.อั จจิมา ใจเย็น เลขที่ 30 ด.ญ.อั ฐภิญญา วงศ์สม เลขที่ 31 ม.3/3 เสนอ ครู จิราภรณ์ ไชยมงคล
  • 3. เครืองใช้ไฟฟามี 4 ประเภท ได้แก่ ่ ้ 1. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้แสงสว่าง ่ ้ 2. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน ่ ้ 3. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล ่ ้ 4. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง ่ ้
  • 4. หลอดไฟฟา เป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีมใี ช้ในทุกบ้านทีมการใช้พลังงานไฟฟา เป็ นเครืองใช้ทเี่ ปลียน ้ ่ ้ ่ ่ี ้ ่ ่ พลังงานไฟฟา ไปเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาทีใ่ ช้ทวไป มี 3 ชนิด คือ ้ ้ ั่ 1. หลอดไฟฟาแบบธรรมดา ้ 2. หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ 3. หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน
  • 5. 1.1 หลอดไฟฟาแบบธรรมดา ้ หลอดไฟฟาแบบธรรมดา มีการเปลียนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานความร้อน แล้วจึง ้ ่ ้ เปลียนเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาแบบธรรมดามี 2 แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขียว มีส่วนประกอบ ่ ้ ้ ดังนี้ 1. ไส้หลอด ทาด้วยโลหะทีมจุดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนได้มาก มีความทานสูง เช่น ทังสเตน ่ี 2. หลอดแก้วทาจากแก้วทีทนความร้อนได้ด ี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจนหมดภายในบรรจุก๊าซ ่ ไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิดนีทาปฏิกรยายาก ช่วยป้ องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่ ้ ิิ หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้าบรรจุก๊าซออกซิเจนจะทาปฏิกรยากับไส้หลอด ซึงทาให้ไส้ ิิ ่ หลอดขาดง่าย 3. ขัวหลอดไฟ เป็ นจุดต่อวงจรไฟฟา มี 2 แบบ คือ แบบเขียวและแบบเกลียว ้ ้ ้ เนืองจากหลอดไฟฟาประเภทนีใ้ ห้แสงสว่างได้ด้วยการเปล่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงาน ่ ้ ้ ความร้อนก่อนทีจะให้แสงสว่างออกมา จึงทาให้สนเปลือง พลังงานไฟฟา มากกว่าหลอดชนิดอืน ใน ่ ้ิ ่ ้ ่ ขนาด กาลังไฟฟา ของหลอดไฟซึงจะกาหนดไว้ทหลอดไฟทุกดวง เช่น หลอดไฟาขนาด 100 ้ ่ ี่ ้ วัตต์ เป็ นต้น
  • 6. 1.2 หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์(Fluorescent Lamp) หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วยหลอดแก้วทีสูบอากาศออกจน ่ หมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ทปลายหลอดทังสองข้าง หลอดเรืองแสงอาจทาเป็ นหลอดตรง หรือครึง ี่ ้ ่ วงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางานของหลอดเรืองแสง มีดงนี้ ั 1. ตัวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอน เล็กน้อย ผิวด้าน ในของหลอดเรืองแสงฉาบด้วยสารเรืองแสงชนิดต่างๆ แล้วแต่ความต้องการให้เรืองแสงเป็ นสีใด เช่น ถ้า ต้องการให้เรืองแสงสีเขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงค์ซลเิ คต แสงสีขาวแกมฟาฉาบด้วยมักเนเซียมทังสเตน แสงสี ิ ้ ชมพู ฉาบด้วยแคดเนียมบอเรต เป็ นต้น 2. ไส้หลอด ทาด้วยทังสเตนหรือวุ ลแฟรมอยู่ทปลายทังสองข้าง เมือกระแสไฟฟาผ่านไส้หลอดจะทา ี่ ้ ่ ้ ให้ไส้หลอดร้อนขึน ความร้อนทีเ่ กิดขึนจะทาให้ไอปรอททีบรรจุไว้ในหลอดกลายเป็ นไอมากขึน แต่ขณะนัน ้ ้ ่ ้ ้ กระแสไฟฟายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก เพราะปรอทยังเป็ นไอน้อยทาให้ความต้านทานของหลอดสูง ้ 3. สตาร์ตเตอร์ ทาหน้าทีเ่ ป็ นสวิตซ์ไฟฟาอัตโนมัตของวงจรโดยต่อขนานกับหลอด ทาด้วย ้ ิ หลอดแก้วภายในบรรจุก๊าซนีออนและแผ่นโลหะคู่ทงอตัวได้ เมือได้รบความร้อน เมือกระแสไฟฟาผ่านก๊าซ ี่ ่ ั ่ ้ นีออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อนขึน ทาให้แผ่นโลหะคู่งอจนแตะติดกันทาให้กลายเป็ นวงจรปิ ดทาให้ ้ กระแสไฟฟาผ่านแผ่นโลหะได้ครบวงจร ก๊าซนีออนทีตดไฟอยู่จะดับและเย็นลง แผ่นโลหะคู่จะแยกออกจากกัน ้ ่ิ ทาให้เกิดความต้านทานสูงขึนอย่างทันทีซงขณะเดียวกันกระแสไฟฟาจะผ่านไส้หลอดได้มากขึนทาให้ไส้หลอด ้ ึ่ ้ ้
  • 7. 4. แบลลัสต์ เป็ นขดลวดทีพนอยู่บนแกนเหล็ก ขณะกระแสไฟฟาไหลผ่านจะเกิดการเหนียวนาแม่เหล็กไฟฟาทาให้ ่ ั ้ ่ ้ เกิดแรงเคลือนไฟฟาเหนียวนาขึน เมือแผ่นโลหะคู่ในสตาร์ตเตอร์ แยกตัวออกจากกันนันจะเกิดวงจรเปิ ด ่ ้ ่ ้ ่ ้ ชัวขณะ แรงเคลือนไฟฟาเหนียวนาทีเ่ กิดขึนในแบลลัสต์จงทาให้เกิดความต่างศักย์ระหว่างไส้หลอดทังสองข้าง ่ ่ ้ ่ ้ ึ ้ สูงขึนเพียงพอทีจะทาให้กระแสไฟฟาไหลผ่านไอปรอทจากไส้หลอดข้างหนึงไปยังไส้หลอดอีกข้างหนึง ้ ่ ้ ่ ่ ได้ แรงเคลือนไฟฟาเหนียวนาทีเ่ กิดจากแบลลัสต์นนจะทาให้เกิดกระแสไฟฟาเหนียวนาไหลสวนทางกับ ่ ้ ่ ั้ ้ ่ กระแสไฟฟาจากวงจรไฟฟาในบ้าน ทาให้กระแส ไฟฟาทีจะเข้าสู่วงจรของหลอดเรืองแสงลดลง ้ ้ ้ ่ หลักการทางานของหลอดเรืองแสง เมือกระแสไฟฟาผ่านไอปรอทจะคายพลังงานไฟฟาให้อะตอมไอปรอท ทาให้อะตอมของไอปรอทอยู่ในสภาวะถูก ่ ้ ้ กระตุ้น (excited state) และอะตอมของปรอทจะคายพลังงานออกมาเพือลดระดับพลังงาน ในรูปของรังสี ่ อัลตราไวโอเลต ซึงอยู่ในช่วงของแสงทีมองไม่เห็น เมือรังสีนกระทบสารเรืองแสงทีฉาบไว้ทผวหลอด สารเรืองแสง ่ ่ ่ ้ี ่ ี่ ิ จะเปล่งแสงสีต่างๆตามชนิดของสารเรืองแสงทีฉาบไว้ในหลอดนัน ่ ้ ข้อดีของหลอดเรืองแสง 1. เมือให้พลังงานไฟฟาเท่ากันจะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดาประมาณ 4 เท่า และมี ่ ้ ้ อายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟฟาธรรมดาประมาณ 8 เท่า ้ 2. อุณหภูมของหลอดไม่สูงเท่ากับหลอดไฟฟาแบบธรรมดา ิ ้ 3. ถ้าต้องการแสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟาธรรมดา จะใช้วตต์ทต่ากว่า จึงเสียค่าไฟฟาน้อยกว่า ้ ั ี่ ้
  • 8. ข้อดีของหลอดเรืองแสง 1. เมือให้พลังงานไฟฟาเท่ากันจะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดาประมาณ 4 เท่า และมี ่ ้ ้ อายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟฟาธรรมดาประมาณ 8 เท่า ้ 2. อุณหภูมของหลอดไม่สูงเท่ากับหลอดไฟฟาแบบธรรมดา ิ ้ 3. ถ้าต้องการแสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟาธรรมดา จะใช้วตต์ทต่ากว่า จึงเสียค่าไฟฟาน้อยกว่า ้ ั ี่ ้ ข้อเสียของหลอดเรืองแสง 1. เมือติดตังจะเสียค่าใช้จายสูงกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดา เพราะต้องใช้แบลลัสต์และสตาร์ตเตอร์ ่ ้ ่ ้ เสมอ 2. หลอดเรืองแสงมักระพริบเล็กน้อยไม่เหมาะในการใช้อ่านหนังสือ ตัวเลขทีปรากฏบนหลอดไฟฟาธรรมดาและหลอดเรืองแสงซึงบอก กาลังไฟฟาเป็ นวัตต์(W) เป็ นการ ่ ้ ่ ้ บอกถึงปริมาณพลังงานไฟฟาทีใ่ ช้ไปใน 1 วินาที เช่น 20 W หมายถึง หลอดไฟฟานีจะใช้พลังงานไป 20 จูล ้ ้ ้ ในเวลา 1 วินาที ดังนันหลอดไฟฟาและหลอดเรืองแสงทีมกาลังไฟฟามาก เมือใช้งานก็ยงสินเปลืองกระแสไฟฟา ้ ้ ่ี ้ ่ ิ่ ้ ้ มาก ทาให้เสียค่าใช้จายมากขึนด้วย ปัจจุบนมีการผลิตหลอดไฟพร้อมอุปกรณ์ประกอบ เช่น บัลลาสต์ แบบ ่ ้ ั ประหยัดพลังงานขึนมาใช้หลายชนิด เช่น หลอดตะเกียบ หลอดผอม บัลลาสต์เบอร์ 5 เป็ นต้น ้
  • 9. 1.3 หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน เป็ นหลอดแก้วทีถูกลนไฟแล้วดัดให้เป็ นรูป ่ หรือตัวอักษร ไม่มไี ส้หลอดแต่ทปลายทังสองข้างจะมีขวไฟฟาทาด้วยโลหะ ต่อกับแหล่งกาเนิด ี่ ้ ั้ ้ ไฟฟา ทีมความต่างศักย์สูงประมาณ 10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจน ้ ่ี หมดแล้วใส่ก๊าซบางชนิดทีใ่ ห้แสงสีต่างๆออกมาเมือมีกระแสไฟฟาผ่าน เช่นก๊าซนีออนให้แสงสี ่ ้ แดงหรือส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสีชมพู ความต่างศักย์ทสูงมากๆ จะทาให้ก๊าซทีบรรจุไว้ในหลอด ี่ ่ เกิดการแตกตัวเป็ นอิออน และนาไฟฟาได้ เมือกระแสไฟฟาผ่านก๊าซเหล่านีจะทาให้ก๊าซร้อนติด ้ ่ ้ ้ ไฟให้แสงสีต่างๆได้
  • 10. 2.1เครื่องใช้ไฟฟ้ าที่ให้ความร้อน เตารีดไฟฟ้ า เตาไฟฟ้ า หม้อหุงข้าวไฟฟ้ า หม้อต้มน้าไฟฟ้ า ส่วนประกอบสาคัญของเครืองใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อน คือ ขดลวดหรือแผ่นความร้อน ่ ่ หรือขดลวดนิโครม ซึงเป็ นโลหะผสมระหว่างนิกเกิลกับโครเมียม ลวดนิโครมมีคุณสมบัตดงนี้ ่ ิ ั 1. มีความต้านทานไฟฟ้าสูง เพือให้เกิดความร้อนสูง ่ 2. มีจุดหลอดเหลวสูงทาให้ขดลวดไม่ขาดเมือเกิดความร้อนทีขดลวด ่ ่ ข้อควรระวังในการใช้เครื่องไฟฟ้ าที่ให้ความร้อน กระแสไฟฟ้าทีผ่านเครืองใช้ไฟฟ้ามีปริมาณมากกว่าเครืองใช้ไฟฟ้าอื่นๆ หลายเท่า จึงควร ่ ่ ่ ตรวจสภาพสายไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ ให้อยูในสภาพดีเสมอ เมื่อเลิกใช้ตองถอดเต้าเสียบออก ่ ้ ทุกครัง ้
  • 11. 2.2เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน ่ ้ เตารีดไฟฟา ้ เตาไฟฟา ้ หม้อหุงข้าวไฟฟา ้ หม้อต้มน้าไฟฟา ้ ส่วนประกอบสาคัญของเครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานความร้อน คือ ขดลวดหรือแผ่นความร้อนหรือขดลวดนิโครม ่ ้ ซึงเป็ นโลหะผสมระหว่างนิกเกิลกับโครเมียม ลวดนิโครมมีคุณสมบัตดงนี้ ่ ิ ั 1. มีความต้านทานไฟฟาสูง เพือให้เกิดความร้อนสูง ้ ่ 2. มีจุดหลอดเหลวสูงทาให้ขดลวดไม่ขาดเมือเกิดความร้อนทีขดลวด ่ ่ ข้อควรระวังในการใช้เครืองไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน ่ ้ กระแสไฟฟาทีผานเครืองใช้ไฟฟามีปริมาณมากกว่าเครืองใช้ไฟฟาอืนๆ หลายเท่า จึงควรตรวจสภาพสายไฟ ้ ่ ่ ่ ้ ่ ้ ่ เต้ารับ เต้าเสียบ ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ เมือเลิกใช้ต้องถอดเต้าเสียบออกทุกครัง ่ ้ 3. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง ่ ้ เครืองรับวิทยุ คือ เครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยรับคลืนจากสถานีส่งแล้วใช้ ่ ่ ้ ่ ้ ่ อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงทีอยู่ในรูปสัญญาณไฟฟาให้แรงขึน จนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสียง ่ ้ ้ ่ ดังแผนผัง
  • 12. เครื่องบันทึกเสียง คือ เครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยใช้ไดนาโมเปลียนเสียงพู ด ่ ้ ่ ้ ่ หรือเสียงร้องเป็ นสัญญาณไฟฟา แล้วบันทึกสัญญาณไฟฟาลงแถบบันทึกเสียงในรูปของสัญญาณแม่เหล็ก เมือนา ้ ้ แถบบันทึกเสียงทีบนทึกมาเล่น สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลียนเป็ นสัญญาณไฟฟา และสัญญาณไฟฟานีจะถูกขยาย ่ั ่ ้ ้ ้ ให้แรงขึนด้วยอุ ปกรณ์ไฟฟาจนเพียงพอทีจะทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสียงอีกครังหนึง ดังแผนภาพ ้ ้ ่ ่ ้ ่ รูป แผนผังการเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะบันทึก ่ ่ รูป แผนผังการเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะเล่น ่ ่ คลื่นเสียง คือ เครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยใช้ไมโครโฟน เปลียนเสียงพู ดหรือ ่ ้ ่ ้ ่ เสียงร้องเป็ นสัญญาณไฟฟา แล้วใช้อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิคส์ขยายสัญญาณเสียงทีอยู่ในรูปสัญญาณไฟฟาได้แรง ้ ่ ้ ขึน จนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสียง ้ ่
  • 13.
  • 14. 3.1 เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล ่ ้ เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล มีการเปลียนรูปพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานกล โดยอาศัยหลักการ ่ ้ ่ ้ เหนียวนาแม่เหล็กไฟฟา ด้วยอุปกรณ์ ทีเ่ รียกว่า มอเตอร ์์ และ เครืองควบคุมความเร็ว ซึงเป็ น ่ ้ ่ ่ อุปกรณ์หลักในเครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล ตัวอย่าง เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล เช่น ่ ้ ่ ้ เครืองปรับอากาศ ตู้เย็น เครืองดูดฝุ่ น พัดลม เครืองซักผ้า เครืองปันน้าผลไม้ ฯลฯ ่ ่ ่ ่ ่
  • 15. 3.2 เครืองควบคุมความเร็วของมอเตอร์ ทาได้โดย การเพิมหรือ ่ ่ ลดความต้านทานให้กระแสไฟฟาผ่านได้มากหรือน้อยภานในเครืองใช้ไฟฟา ้ ่ ้ นัน ซึงเป็ นผลให้ความเร็วของการหมุนมอเตอร์เปลียนไปจากเดิม เช่น เมือ ้ ่ ่ ่ ต้องการให้พดลมหมุนช้าลง ก็ให้เพิมความต้านทานเพือให้กระแสไฟฟาเข้าได้ ั ่ ่ ้ น้อยลงเป็ นผลให้พดลมหมุนช้าลง ฉะนันในเครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล ั ้ ่ ้ จะต้องมีเครืองควบคุมความเร็วของมอตอร์เสมอ ่ การเลือก เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล จะต้องพิจารณาดู ่ ้ ข้อกาหนดในการใช้ เช่น ใช้กบความต่างศักย์ไฟฟาเท่าใด ทังนีเ้ พือความ ั ้ ้ ่ ปลอดภัยในการใช้เครืองใช้ไฟฟา และไม่ให้เกิดความเสียหายแก่เครืองใช้ไฟฟา ่ ้ ่ ้ นัน และเพือเป็ นการประหยัดพลังงานไฟฟา ควรพิจารณากาลังไฟฟาของ ้ ่ ้ ้ เครืองใช้ไฟฟานันๆด้วย ่ ้ ้
  • 16. 4.1เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานเสียง ้ เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง เป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง เช่น ่ ้ ่ ้ ่ ้ เครืองรับวิทยุ เครืองบันทึกเสียง เครืองขยายเสียง ่ ่ ่ เครื่องรับวิทยุ เป็ นอุปกรณ์ทเี่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยเครืองรับวิทยุอาศัยการรับคลืนวิทยุจาก ่ ้ ่ ่ สถานีส่ง แล้วใช้อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงทีอยู่ในรูปของสัญญาณไฟฟาให้แรงขึนจนเพียงพอ ่ ้ ้ ทีทาให้ลาโพงเสียงสันสะเทือนเป็ นเสียงให้เราได้ยน ดังแผนผัง ่ ่ ิ
  • 17. สถานีวทยุกระจายเสียงแต่ละสถานีจะส่งคลืนวิทยุด้วยความถีทแตกต่างกัน ซึงเราสามารถเลือกสถานีเพือรับฟั ง ิ ่ ่ ี่ ่ ่ ได้โดยหมุนปุ่มเลือกสถานี เครื่องบันทึกเสียง เครืองบันทึกเสียงเป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยขณะบันทึกใช้การพู ดผ่าน ่ ่ ้ ่ ้ ไมโครโฟน ซึงจะเปลียนเสียงเป็ นสัญญาณไฟฟา แล้วบันทึกลงในแถบบันทึกเสียงซึงฉาบด้วยสารแม่เหล็กในรูปของ ่ ่ ้ ่ สัญญาณแม่เหล็ก เมือนาแถบบันทึกเสียงทีบนทึกไว้มาเล่น สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลียนกลับไปเป็ นสัญญาณไฟฟา ่ ่ั ่ ้ และสัญญาณไฟฟาจะถูกขยายให้แรงขึนด้วยอุปกรณ์ไฟฟา สัญญาณไฟฟาจะถูกส่งไปถึงลาโพง ทาให้ลาโพง ้ ้ ้ ้ สันสะเทือนกลับเป็ นเสียงขึนอีกครังหนึง ดังแผนผัง ่ ้ ้ ่ การเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะบันทึก ่ ่
  • 18. การเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะเล่น ่ ่ ภาพที่ 43 แผนผังการเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะบันทึก - ขณะ ่ ่ เล่น ทีมา : รัตนาภรณ์ อิทธิไพสิฐพันธุ์ และคณะ . สมุดเสริมความรู้ ทักษะปฏิบต ิ และแบบทดสอบตาม ่ ั จุดประสงค์ วิทยาศาสตร์ ว 306 ชันมัธยมศึกษาปี่ ท ี่ 3 . 2543. หน้า 45. ้ เครื่องขยายเสียง เป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยการใช้ไมโครโฟนเปลียนเสียงเป็ น ่ ้ ่ ้ ่ สัญญาณไฟฟา แล้วขยายสัญญาณไฟฟาให้แรงขึนด้วยอุ ปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ จนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ น ้ ้ ้ ่ เสียง เครืองขยายเสียงมีส่วนประกอบดังนี้ ่ • ไมโครโฟน เปลียนพลังงานเสียงให้เป็ นสัญญาณไฟฟา ่ ้ • เครืองขยายสัญญาณไฟฟา ขยายสัญญาณไฟฟาให้แรงขึน ่ ้ ้ ้ • ลาโพง เปลียนสัญญาณไฟฟาให้เป็ นพลังงานเสียง ่ ้
  • 19. เครืองใช้ไฟฟาหลายชนิด สามารถเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานอืนๆ หลายรูปได้ ่ ้ ่ ้ ่ พร้อมกัน เช่น โทรทัศน์สามารถเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานแสง และพลังงานเสียง ่ ้ ในเวลาเดียวกัน ภาพที่ 42 แผนผังการเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงาน ่ ้ เสียงของเครืองรับวิทยุ ่ ทีมา : รัตนาภรณ์ อิทธิไพสิฐพันธุ์ และคณะ . สมุดเสริมความรู้ ทักษะ ่ ปฏิบต ิ และแบบทดสอบตามจุดประสงค์ วิทยาศาสตร์ ว 306 ชันมัธยมศึกษาปี่ ท ี่ ั ้ 3 . 2543. หน้า 44.