More Related Content
Similar to กลุ่ม 7 ม.303 (20)
กลุ่ม 7 ม.303
- 2. ด.ญ.สุทธิ ดา ไชยลังกา เลขที่ 29
ด.ญ.อั จจิมา ใจเย็น เลขที่ 30
ด.ญ.อั ฐภิญญา วงศ์สม เลขที่ 31
ม.3/3
เสนอ
ครู จิราภรณ์ ไชยมงคล
- 3. เครืองใช้ไฟฟามี 4 ประเภท ได้แก่
่ ้
1. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้แสงสว่าง
่ ้
2. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน
่ ้
3. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล
่ ้
4. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง
่ ้
- 4. หลอดไฟฟา เป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีมใี ช้ในทุกบ้านทีมการใช้พลังงานไฟฟา เป็ นเครืองใช้ทเี่ ปลียน
้ ่ ้ ่ ่ี ้ ่ ่
พลังงานไฟฟา ไปเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาทีใ่ ช้ทวไป มี 3 ชนิด คือ
้ ้ ั่
1. หลอดไฟฟาแบบธรรมดา
้
2. หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์
3. หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน
- 5. 1.1 หลอดไฟฟาแบบธรรมดา
้
หลอดไฟฟาแบบธรรมดา มีการเปลียนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานความร้อน แล้วจึง
้ ่ ้
เปลียนเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาแบบธรรมดามี 2 แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขียว มีส่วนประกอบ
่ ้ ้
ดังนี้
1. ไส้หลอด ทาด้วยโลหะทีมจุดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนได้มาก มีความทานสูง เช่น ทังสเตน
่ี
2. หลอดแก้วทาจากแก้วทีทนความร้อนได้ด ี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจนหมดภายในบรรจุก๊าซ
่
ไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิดนีทาปฏิกรยายาก ช่วยป้ องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่
้ ิิ
หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้าบรรจุก๊าซออกซิเจนจะทาปฏิกรยากับไส้หลอด ซึงทาให้ไส้
ิิ ่
หลอดขาดง่าย
3. ขัวหลอดไฟ เป็ นจุดต่อวงจรไฟฟา มี 2 แบบ คือ แบบเขียวและแบบเกลียว
้ ้ ้
เนืองจากหลอดไฟฟาประเภทนีใ้ ห้แสงสว่างได้ด้วยการเปล่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงาน
่ ้ ้
ความร้อนก่อนทีจะให้แสงสว่างออกมา จึงทาให้สนเปลือง พลังงานไฟฟา มากกว่าหลอดชนิดอืน ใน
่ ้ิ ่ ้ ่
ขนาด กาลังไฟฟา ของหลอดไฟซึงจะกาหนดไว้ทหลอดไฟทุกดวง เช่น หลอดไฟาขนาด 100
้ ่ ี่ ้
วัตต์ เป็ นต้น
- 6. 1.2 หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์(Fluorescent Lamp)
หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วยหลอดแก้วทีสูบอากาศออกจน ่
หมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ทปลายหลอดทังสองข้าง หลอดเรืองแสงอาจทาเป็ นหลอดตรง หรือครึง
ี่ ้ ่
วงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางานของหลอดเรืองแสง มีดงนี้ ั
1. ตัวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอน เล็กน้อย ผิวด้าน
ในของหลอดเรืองแสงฉาบด้วยสารเรืองแสงชนิดต่างๆ แล้วแต่ความต้องการให้เรืองแสงเป็ นสีใด เช่น ถ้า
ต้องการให้เรืองแสงสีเขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงค์ซลเิ คต แสงสีขาวแกมฟาฉาบด้วยมักเนเซียมทังสเตน แสงสี
ิ ้
ชมพู ฉาบด้วยแคดเนียมบอเรต เป็ นต้น
2. ไส้หลอด ทาด้วยทังสเตนหรือวุ ลแฟรมอยู่ทปลายทังสองข้าง เมือกระแสไฟฟาผ่านไส้หลอดจะทา
ี่ ้ ่ ้
ให้ไส้หลอดร้อนขึน ความร้อนทีเ่ กิดขึนจะทาให้ไอปรอททีบรรจุไว้ในหลอดกลายเป็ นไอมากขึน แต่ขณะนัน
้ ้ ่ ้ ้
กระแสไฟฟายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก เพราะปรอทยังเป็ นไอน้อยทาให้ความต้านทานของหลอดสูง
้
3. สตาร์ตเตอร์ ทาหน้าทีเ่ ป็ นสวิตซ์ไฟฟาอัตโนมัตของวงจรโดยต่อขนานกับหลอด ทาด้วย
้ ิ
หลอดแก้วภายในบรรจุก๊าซนีออนและแผ่นโลหะคู่ทงอตัวได้ เมือได้รบความร้อน เมือกระแสไฟฟาผ่านก๊าซ
ี่ ่ ั ่ ้
นีออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อนขึน ทาให้แผ่นโลหะคู่งอจนแตะติดกันทาให้กลายเป็ นวงจรปิ ดทาให้
้
กระแสไฟฟาผ่านแผ่นโลหะได้ครบวงจร ก๊าซนีออนทีตดไฟอยู่จะดับและเย็นลง แผ่นโลหะคู่จะแยกออกจากกัน
้ ่ิ
ทาให้เกิดความต้านทานสูงขึนอย่างทันทีซงขณะเดียวกันกระแสไฟฟาจะผ่านไส้หลอดได้มากขึนทาให้ไส้หลอด
้ ึ่ ้ ้
- 7. 4. แบลลัสต์ เป็ นขดลวดทีพนอยู่บนแกนเหล็ก ขณะกระแสไฟฟาไหลผ่านจะเกิดการเหนียวนาแม่เหล็กไฟฟาทาให้
่ ั ้ ่ ้
เกิดแรงเคลือนไฟฟาเหนียวนาขึน เมือแผ่นโลหะคู่ในสตาร์ตเตอร์ แยกตัวออกจากกันนันจะเกิดวงจรเปิ ด
่ ้ ่ ้ ่ ้
ชัวขณะ แรงเคลือนไฟฟาเหนียวนาทีเ่ กิดขึนในแบลลัสต์จงทาให้เกิดความต่างศักย์ระหว่างไส้หลอดทังสองข้าง
่ ่ ้ ่ ้ ึ ้
สูงขึนเพียงพอทีจะทาให้กระแสไฟฟาไหลผ่านไอปรอทจากไส้หลอดข้างหนึงไปยังไส้หลอดอีกข้างหนึง
้ ่ ้ ่ ่
ได้ แรงเคลือนไฟฟาเหนียวนาทีเ่ กิดจากแบลลัสต์นนจะทาให้เกิดกระแสไฟฟาเหนียวนาไหลสวนทางกับ
่ ้ ่ ั้ ้ ่
กระแสไฟฟาจากวงจรไฟฟาในบ้าน ทาให้กระแส ไฟฟาทีจะเข้าสู่วงจรของหลอดเรืองแสงลดลง
้ ้ ้ ่
หลักการทางานของหลอดเรืองแสง
เมือกระแสไฟฟาผ่านไอปรอทจะคายพลังงานไฟฟาให้อะตอมไอปรอท ทาให้อะตอมของไอปรอทอยู่ในสภาวะถูก
่ ้ ้
กระตุ้น (excited state) และอะตอมของปรอทจะคายพลังงานออกมาเพือลดระดับพลังงาน ในรูปของรังสี
่
อัลตราไวโอเลต ซึงอยู่ในช่วงของแสงทีมองไม่เห็น เมือรังสีนกระทบสารเรืองแสงทีฉาบไว้ทผวหลอด สารเรืองแสง
่ ่ ่ ้ี ่ ี่ ิ
จะเปล่งแสงสีต่างๆตามชนิดของสารเรืองแสงทีฉาบไว้ในหลอดนัน
่ ้
ข้อดีของหลอดเรืองแสง
1. เมือให้พลังงานไฟฟาเท่ากันจะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดาประมาณ 4 เท่า และมี
่ ้ ้
อายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟฟาธรรมดาประมาณ 8 เท่า
้
2. อุณหภูมของหลอดไม่สูงเท่ากับหลอดไฟฟาแบบธรรมดา
ิ ้
3. ถ้าต้องการแสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟาธรรมดา จะใช้วตต์ทต่ากว่า จึงเสียค่าไฟฟาน้อยกว่า
้ ั ี่ ้
- 8. ข้อดีของหลอดเรืองแสง
1. เมือให้พลังงานไฟฟาเท่ากันจะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดาประมาณ 4 เท่า และมี
่ ้ ้
อายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟฟาธรรมดาประมาณ 8 เท่า
้
2. อุณหภูมของหลอดไม่สูงเท่ากับหลอดไฟฟาแบบธรรมดา
ิ ้
3. ถ้าต้องการแสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟาธรรมดา จะใช้วตต์ทต่ากว่า จึงเสียค่าไฟฟาน้อยกว่า
้ ั ี่ ้
ข้อเสียของหลอดเรืองแสง
1. เมือติดตังจะเสียค่าใช้จายสูงกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดา เพราะต้องใช้แบลลัสต์และสตาร์ตเตอร์
่ ้ ่ ้
เสมอ
2. หลอดเรืองแสงมักระพริบเล็กน้อยไม่เหมาะในการใช้อ่านหนังสือ
ตัวเลขทีปรากฏบนหลอดไฟฟาธรรมดาและหลอดเรืองแสงซึงบอก กาลังไฟฟาเป็ นวัตต์(W) เป็ นการ
่ ้ ่ ้
บอกถึงปริมาณพลังงานไฟฟาทีใ่ ช้ไปใน 1 วินาที เช่น 20 W หมายถึง หลอดไฟฟานีจะใช้พลังงานไป 20 จูล
้ ้ ้
ในเวลา 1 วินาที ดังนันหลอดไฟฟาและหลอดเรืองแสงทีมกาลังไฟฟามาก เมือใช้งานก็ยงสินเปลืองกระแสไฟฟา
้ ้ ่ี ้ ่ ิ่ ้ ้
มาก ทาให้เสียค่าใช้จายมากขึนด้วย ปัจจุบนมีการผลิตหลอดไฟพร้อมอุปกรณ์ประกอบ เช่น บัลลาสต์ แบบ
่ ้ ั
ประหยัดพลังงานขึนมาใช้หลายชนิด เช่น หลอดตะเกียบ หลอดผอม บัลลาสต์เบอร์ 5 เป็ นต้น
้
- 9. 1.3 หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน
หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน เป็ นหลอดแก้วทีถูกลนไฟแล้วดัดให้เป็ นรูป
่
หรือตัวอักษร ไม่มไี ส้หลอดแต่ทปลายทังสองข้างจะมีขวไฟฟาทาด้วยโลหะ ต่อกับแหล่งกาเนิด
ี่ ้ ั้ ้
ไฟฟา ทีมความต่างศักย์สูงประมาณ 10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจน
้ ่ี
หมดแล้วใส่ก๊าซบางชนิดทีใ่ ห้แสงสีต่างๆออกมาเมือมีกระแสไฟฟาผ่าน เช่นก๊าซนีออนให้แสงสี
่ ้
แดงหรือส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสีชมพู ความต่างศักย์ทสูงมากๆ จะทาให้ก๊าซทีบรรจุไว้ในหลอด
ี่ ่
เกิดการแตกตัวเป็ นอิออน และนาไฟฟาได้ เมือกระแสไฟฟาผ่านก๊าซเหล่านีจะทาให้ก๊าซร้อนติด
้ ่ ้ ้
ไฟให้แสงสีต่างๆได้
- 10. 2.1เครื่องใช้ไฟฟ้ าที่ให้ความร้อน
เตารีดไฟฟ้ า
เตาไฟฟ้ า
หม้อหุงข้าวไฟฟ้ า
หม้อต้มน้าไฟฟ้ า
ส่วนประกอบสาคัญของเครืองใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อน คือ ขดลวดหรือแผ่นความร้อน
่ ่
หรือขดลวดนิโครม ซึงเป็ นโลหะผสมระหว่างนิกเกิลกับโครเมียม ลวดนิโครมมีคุณสมบัตดงนี้
่ ิ ั
1. มีความต้านทานไฟฟ้าสูง เพือให้เกิดความร้อนสูง
่
2. มีจุดหลอดเหลวสูงทาให้ขดลวดไม่ขาดเมือเกิดความร้อนทีขดลวด
่ ่
ข้อควรระวังในการใช้เครื่องไฟฟ้ าที่ให้ความร้อน
กระแสไฟฟ้าทีผ่านเครืองใช้ไฟฟ้ามีปริมาณมากกว่าเครืองใช้ไฟฟ้าอื่นๆ หลายเท่า จึงควร
่ ่ ่
ตรวจสภาพสายไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ ให้อยูในสภาพดีเสมอ เมื่อเลิกใช้ตองถอดเต้าเสียบออก
่ ้
ทุกครัง
้
- 11. 2.2เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน
่ ้
เตารีดไฟฟา ้
เตาไฟฟา ้
หม้อหุงข้าวไฟฟา ้
หม้อต้มน้าไฟฟา ้
ส่วนประกอบสาคัญของเครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานความร้อน คือ ขดลวดหรือแผ่นความร้อนหรือขดลวดนิโครม
่ ้
ซึงเป็ นโลหะผสมระหว่างนิกเกิลกับโครเมียม ลวดนิโครมมีคุณสมบัตดงนี้
่ ิ ั
1. มีความต้านทานไฟฟาสูง เพือให้เกิดความร้อนสูง
้ ่
2. มีจุดหลอดเหลวสูงทาให้ขดลวดไม่ขาดเมือเกิดความร้อนทีขดลวด
่ ่
ข้อควรระวังในการใช้เครืองไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน
่ ้
กระแสไฟฟาทีผานเครืองใช้ไฟฟามีปริมาณมากกว่าเครืองใช้ไฟฟาอืนๆ หลายเท่า จึงควรตรวจสภาพสายไฟ
้ ่ ่ ่ ้ ่ ้ ่
เต้ารับ เต้าเสียบ ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ เมือเลิกใช้ต้องถอดเต้าเสียบออกทุกครัง
่ ้
3. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง
่ ้
เครืองรับวิทยุ คือ เครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยรับคลืนจากสถานีส่งแล้วใช้
่ ่ ้ ่ ้ ่
อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงทีอยู่ในรูปสัญญาณไฟฟาให้แรงขึน จนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสียง
่ ้ ้ ่
ดังแผนผัง
- 12. เครื่องบันทึกเสียง คือ เครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยใช้ไดนาโมเปลียนเสียงพู ด
่ ้ ่ ้ ่
หรือเสียงร้องเป็ นสัญญาณไฟฟา แล้วบันทึกสัญญาณไฟฟาลงแถบบันทึกเสียงในรูปของสัญญาณแม่เหล็ก เมือนา
้ ้
แถบบันทึกเสียงทีบนทึกมาเล่น สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลียนเป็ นสัญญาณไฟฟา และสัญญาณไฟฟานีจะถูกขยาย
่ั ่ ้ ้ ้
ให้แรงขึนด้วยอุ ปกรณ์ไฟฟาจนเพียงพอทีจะทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสียงอีกครังหนึง ดังแผนภาพ
้ ้ ่ ่ ้ ่
รูป แผนผังการเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะบันทึก
่ ่
รูป แผนผังการเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะเล่น
่ ่
คลื่นเสียง คือ เครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยใช้ไมโครโฟน เปลียนเสียงพู ดหรือ
่ ้ ่ ้ ่
เสียงร้องเป็ นสัญญาณไฟฟา แล้วใช้อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิคส์ขยายสัญญาณเสียงทีอยู่ในรูปสัญญาณไฟฟาได้แรง
้ ่ ้
ขึน จนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสียง
้ ่
- 14. 3.1 เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล
่ ้
เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล มีการเปลียนรูปพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานกล โดยอาศัยหลักการ
่ ้ ่ ้
เหนียวนาแม่เหล็กไฟฟา ด้วยอุปกรณ์ ทีเ่ รียกว่า มอเตอร ์์ และ เครืองควบคุมความเร็ว ซึงเป็ น
่ ้ ่ ่
อุปกรณ์หลักในเครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล ตัวอย่าง เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล เช่น
่ ้ ่ ้
เครืองปรับอากาศ ตู้เย็น เครืองดูดฝุ่ น พัดลม เครืองซักผ้า เครืองปันน้าผลไม้ ฯลฯ
่ ่ ่ ่ ่
- 15. 3.2 เครืองควบคุมความเร็วของมอเตอร์ ทาได้โดย การเพิมหรือ
่ ่
ลดความต้านทานให้กระแสไฟฟาผ่านได้มากหรือน้อยภานในเครืองใช้ไฟฟา
้ ่ ้
นัน ซึงเป็ นผลให้ความเร็วของการหมุนมอเตอร์เปลียนไปจากเดิม เช่น เมือ
้ ่ ่ ่
ต้องการให้พดลมหมุนช้าลง ก็ให้เพิมความต้านทานเพือให้กระแสไฟฟาเข้าได้
ั ่ ่ ้
น้อยลงเป็ นผลให้พดลมหมุนช้าลง ฉะนันในเครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล
ั ้ ่ ้
จะต้องมีเครืองควบคุมความเร็วของมอตอร์เสมอ
่
การเลือก เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล จะต้องพิจารณาดู
่ ้
ข้อกาหนดในการใช้ เช่น ใช้กบความต่างศักย์ไฟฟาเท่าใด ทังนีเ้ พือความ
ั ้ ้ ่
ปลอดภัยในการใช้เครืองใช้ไฟฟา และไม่ให้เกิดความเสียหายแก่เครืองใช้ไฟฟา
่ ้ ่ ้
นัน และเพือเป็ นการประหยัดพลังงานไฟฟา ควรพิจารณากาลังไฟฟาของ
้ ่ ้ ้
เครืองใช้ไฟฟานันๆด้วย
่ ้ ้
- 16. 4.1เครื่องใช้ไฟฟาที่ให้พลังงานเสียง
้
เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง เป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง เช่น
่ ้ ่ ้ ่ ้
เครืองรับวิทยุ เครืองบันทึกเสียง เครืองขยายเสียง
่ ่ ่
เครื่องรับวิทยุ
เป็ นอุปกรณ์ทเี่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยเครืองรับวิทยุอาศัยการรับคลืนวิทยุจาก
่ ้ ่ ่
สถานีส่ง แล้วใช้อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงทีอยู่ในรูปของสัญญาณไฟฟาให้แรงขึนจนเพียงพอ
่ ้ ้
ทีทาให้ลาโพงเสียงสันสะเทือนเป็ นเสียงให้เราได้ยน ดังแผนผัง
่ ่ ิ
- 17. สถานีวทยุกระจายเสียงแต่ละสถานีจะส่งคลืนวิทยุด้วยความถีทแตกต่างกัน ซึงเราสามารถเลือกสถานีเพือรับฟั ง
ิ ่ ่ ี่ ่ ่
ได้โดยหมุนปุ่มเลือกสถานี
เครื่องบันทึกเสียง
เครืองบันทึกเสียงเป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยขณะบันทึกใช้การพู ดผ่าน
่ ่ ้ ่ ้
ไมโครโฟน ซึงจะเปลียนเสียงเป็ นสัญญาณไฟฟา แล้วบันทึกลงในแถบบันทึกเสียงซึงฉาบด้วยสารแม่เหล็กในรูปของ
่ ่ ้ ่
สัญญาณแม่เหล็ก เมือนาแถบบันทึกเสียงทีบนทึกไว้มาเล่น สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลียนกลับไปเป็ นสัญญาณไฟฟา
่ ่ั ่ ้
และสัญญาณไฟฟาจะถูกขยายให้แรงขึนด้วยอุปกรณ์ไฟฟา สัญญาณไฟฟาจะถูกส่งไปถึงลาโพง ทาให้ลาโพง
้ ้ ้ ้
สันสะเทือนกลับเป็ นเสียงขึนอีกครังหนึง ดังแผนผัง
่ ้ ้ ่
การเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะบันทึก
่ ่
- 18. การเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะเล่น
่ ่
ภาพที่ 43 แผนผังการเปลียนพลังงานของเครืองบันทึกเสียงขณะบันทึก - ขณะ
่ ่
เล่น
ทีมา : รัตนาภรณ์ อิทธิไพสิฐพันธุ์ และคณะ . สมุดเสริมความรู้ ทักษะปฏิบต ิ และแบบทดสอบตาม
่ ั
จุดประสงค์ วิทยาศาสตร์ ว 306 ชันมัธยมศึกษาปี่ ท ี่ 3 . 2543. หน้า 45.
้
เครื่องขยายเสียง
เป็ นเครืองใช้ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยการใช้ไมโครโฟนเปลียนเสียงเป็ น
่ ้ ่ ้ ่
สัญญาณไฟฟา แล้วขยายสัญญาณไฟฟาให้แรงขึนด้วยอุ ปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ จนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ น
้ ้ ้ ่
เสียง
เครืองขยายเสียงมีส่วนประกอบดังนี้
่
• ไมโครโฟน เปลียนพลังงานเสียงให้เป็ นสัญญาณไฟฟา
่ ้
• เครืองขยายสัญญาณไฟฟา ขยายสัญญาณไฟฟาให้แรงขึน
่ ้ ้ ้
• ลาโพง เปลียนสัญญาณไฟฟาให้เป็ นพลังงานเสียง
่ ้
- 19. เครืองใช้ไฟฟาหลายชนิด สามารถเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานอืนๆ หลายรูปได้
่ ้ ่ ้ ่
พร้อมกัน เช่น โทรทัศน์สามารถเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานแสง และพลังงานเสียง
่ ้
ในเวลาเดียวกัน
ภาพที่ 42 แผนผังการเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงาน
่ ้
เสียงของเครืองรับวิทยุ
่
ทีมา : รัตนาภรณ์ อิทธิไพสิฐพันธุ์ และคณะ . สมุดเสริมความรู้ ทักษะ
่
ปฏิบต ิ และแบบทดสอบตามจุดประสงค์ วิทยาศาสตร์ ว 306 ชันมัธยมศึกษาปี่ ท ี่
ั ้
3 . 2543. หน้า 44.