SlideShare a Scribd company logo
หล ักการทางานของเครืองใชไฟฟาแต่ละประเภท
                               ่       ้   ้
                         จ ัดทาโดย
 ด.ญ.อน ัญญา                       ใฝใจ
                                     ่        เลขที่ 36
 ด.ญ.ณัฐธิดา                       ปัญญาวงศ ์ เลขที่ 40
        ิ
 ด.ญ.ศรภ ัสสร                      ยะนา       เลขที่ 41
          ิ ิ
 ด.ญ.ศรภ ัทรา                      ยะนา       เลขที่ 42
                  ั้             ึ
                ชนม ัธยมศกษาปี ที่ 3/1
                             เสนอ
       อาจารย์จราภรณ์  ิ                 ไชยมงคล
                กลุมสาระวิทยาศาสตร์
                     ่
              โรงเรียนฟากกว๊านวิทยาคม
้
     เครืองใชไฟฟา คือ อุปกรณ์ทเปลียนพลังงาน
                ่           ้               ี่ ่
ไฟฟ้ าเป็ นพลังงานรูปอืน เพือนาไปใชใน ่ ่        ้
 ี ิ
ชวตประจาวัน ได ้แก่
          ่         ้
1. เครืองใชไฟฟ้ าทีให ้พลังงานแสงสว่าง
                                ่
            ่         ้
2. เครืองใชไฟฟ้ าทีให ้พลังงานความร ้อน
                                  ่
              ่         ้
3. เครืองใชไฟฟ้ าทีให ้พลังงานกล    ่
                  ้
4. เครืองใชไฟฟ้ าทีให ้พลังงานเสยง
        ่                     ่           ี
่  ้
1.เครืองใชไฟฟาทีให้พล ังงานแสงสว่าง
                    ้   ่
                               ี่ ้ ่
     หลอดไฟ เป็ นอุปกรณ์ทใชเปลียนพลังงาน
                                           ิ่
ไฟฟ้ าเป็ นแสงสว่างให ้เราสามารถมองเห็นสงต่างๆ
       ึ่             ั
ได ้ ซง โธมัส เอดิสน เป็ นผู ้ประดิษฐ์หลอดไฟเป็ น
                ้          ้             ้
ครังแรก โดยใชคาร์บอนเสนเล็กๆ เป็ นไสหลอดและ
   ้
ได ้มีการพัฒนาเรือยมาเป็ นลาดับ
                  ่
ประเภทของหลอดไฟ

                   ้               ้
     1. หลอดไฟฟาธรรมดา มีไสหลอดทีทาด ้วย   ่
                                ่
ลวดโลหะทีมจดหลอมเหลวสูง เชน ทังสเตนเสน
          ่ ี ุ                                ้
เล็กๆ ขดเอาไว ้เหมือนขดลวดสปริงภายใน
หลอดแก ้วสูบอากาศออกหมดแล ้วบรรจุกาซเฉื่อย
                                        ๊
   ่                        ้ ่
เชน อาร์กอน (Ar) ไว ้ ก๊าซนีชวยป้ องกันไม่ให ้หลอด
ไฟฟ้ าดา ลักษณะของหลอดไฟเป็ นดังรูป
หล ักการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา
                          ้

                              ้
      กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านไสหลอดซงมีความึ่
ต ้านทานสูงพลังงานไฟฟ้ า
                                         ้
จะเปลียนเป็ นพลังงานความร ้อน ทาให ้ไสหลอดร ้อน
      ่
จัดจนเปล่งแสง
ออกมาได ้ การเปลียนพลังงานเป็ นดังนี้
                  ่
 พล ังงานไฟฟา >>>พล ังงานความร้อน >>>
              ้
                    พล ังงานแสง
2. หลอดเรืองแสง หรือ หลอดฟลูออเรส
          ่
เซนต์ (fluorescent)

     เป็ นอุปกรณ์ทเปลียนพลังงานไฟฟ้ าเป็ น
                  ี่    ่
                     ึ่
พลังงานแสงสว่าง ซงมีการประดิษฐ์ในปี ค.ศ.
1938 โดยมีรปร่างหลายแบบ อาจทาเป็ นหลอด
             ู
      ั้
ตรง สน ยาว ขดเป็ นวงกลมหรือครึงวงกลม เป็ น
                               ่
ต ้น
หล ักการทางานของหลอดเรืองแสง
                               ้           ้
    เมือกระแสไฟฟ้ าผ่านไสหลอดจะทาให ้ไสหลอดร ้อน
         ่
ขึน ความร ้อนทีเกิดทาให ้ปรอททีบรรจุไว ้ในหลอด
  ้               ่                    ่
กลายเป็ นไอมากขึน เมือกระแสไฟฟ้ าผ่านไอปรอทได ้
                     ้   ่
จะคายพลังงานไฟฟ้ าให ้ไอปรอท ทาให ้อะตอมของไอ
ปรอทอยูในภาวะถูกกระตุ ้น และอะตอมปรอทจะคาย
               ่
พลังงานออกมาเพือลดระดับพลังงานของตนในรูปของ
                       ่
     ี ั                           ี ั
รังสอลตราไวโอเลต เมือรังสดงกล่าวกระทบสารเรือง
                           ่
แสงทีฉาบไว ้ทีผวในของหลอดเรืองแสงนันก็จะ
           ่     ่ ิ                     ้
                             ี ่
เปล่งแสงได ้ โดยให ้แสงสตางๆ ตามชนิดของสารเรือง
แสงทีฉาบไว ้ภายในหลอดนัน
             ่                   ้
ี่ ้ ่
อุปกรณ์ทใชเพือให้หลอดเรืองแสงทางาน
    1. สตาร์ตเตอร์ (starter) ทาหน ้าทีเป็ นสวิตซ ์
                                        ่
อัตโนมัตในขณะหลอดเรืองแสง ยังไม่ตดและหยุด
            ิ                         ิ
ทางานเมือหลอดติดแล ้ว
              ่
    2. แบลล ัสต์ (Ballast) ทาหน ้าทีเพิมความต่าง
                                    ่ ่
  ั
ศกย์ เพือให ้หลอดไฟเรืองแสงติดในตอนแรกและทา
          ่
หน ้าที่ ควบคุมกระแสไฟฟ้ าทีผานหลอด ให ้ลดลงเมือ
                            ่ ่                    ่
หลอดติดแล ้ว




  แบลล ัสต์
                                            สตาร์ตเตอร์
วิธการประหย ัดไฟฟา
   ี             ้

             ์          ้
1. ปิ ดสวิตซไฟเมือเลิกใชงาน
                 ่
2. หมั่นทาความสะอาดหลอดไฟทีบ ้าน เพราะจะชวย
                             ่             ่
   เพิมแสงสว่าง
        ่
           ้
3. ควรใชโคมไฟแบบมีแผ่นสะท ้อนแสงในห ้องต่าง ๆ
       ่ ่
   เพือชวยให ้แสงสว่างจากหลอดไฟ กระจายได ้อย่าง
               ิ
   เต็มประสทธิภาพ
่       ้
2. เครืองใชไฟฟาทีให้ความร้อน
                        ้   ่
        เตารีดไฟฟา เตารีดไฟฟาประกอบด้วย
                    ้               ้
    ่
  สวนประกอบทีสาค ัญ คือ แผ่นความร้อนเทอร์
                          ่
  โมสต ัท แผ่นขดลวดความร้อน แผ่นท ับผ้า และปุม่
                                      ้
  ปร ับความร้อนเตารีดไฟฟาใชแผ่นขดลวดความร้อน
                                ้
                                          ั
  ทาด้วยลวดนิโครมแผ่น แบนๆ วางสบไปมาไม่ได้ทา
  เปนขดลวดเหมือนเตาไฟฟา หรือ อาจทีเรียกว่า ไส ้
      ็                           ้         ่
               ึ่
  เตารีด ซงจะสอดอยูภายในระหว่างไมก้า (Mica) 2
                              ่
                      ้ ็
  แผ่น ไมก้านีเปนว ัตถุทนไฟและเปนฉนวนด้วย
                                        ็
หล ักการทางานของเตารีดไฟฟา     ้
                         ้       ี ี
      เตารีดไฟฟาเมือใชเต้าเสยบ เสยบเต้าร ับแล้ว
                   ้ ่
 กระแสไฟฟาจะไหลผ่านขดลวดให้ความร้อน คือ
               ้
 แถบลวดนิโครม หรือขดลวดความร้อน และจะ
 ถ่ายเทความร้อนให้ก ับแผ่นท ับผ้า ทาให้แผ่นท ับผ้า
 ร้อน การตงอุณหภูมให้มความร้อนมากหรือน้อย
            ั้         ิ   ี
          ้
 เท่าไร ขึนอยูชนิดของผ้าทีจะรีด
                 ่           ่
ชนิดของเตารีดไฟฟา     ้
    1.เตารีดไฟฟาแบบธรรมดา เตารีดไฟฟาชนิดนีเปนเตารีด
                  ้                                      ้           ้ ็
  ไฟฟาทีให้ความร้อนแก่เตารีดตลอดเวลาไม่สามารถปร ับ
       ้   ่
                          ้           ี
  อุณหภูมได้ เมือใชเตารีดเสยบเต้าร ับแล้วขดลวดความร้อน
             ิ  ่
  จะให้ความร้อนตลอดเวลา เมือต้องการลดอุณหภูมตองดึง
                                           ่                             ิ ้
         ี
  เต้าเสยบออก และถ้าต้องการเพิมอุณหภูมก็ใชเต้าเสยบ
                                             ่             ิ       ้       ี
    ี                              ึ่
  เสยบเต้าร ับใหม่อกครง ซงเตารีดชนิดนีไม่นยมก ันเพราะ
                        ี       ั้                     ้        ิ
  เกิดอ ันตรายได้งาย่
                             2.เตารีดไฟฟาชนิดอ ัตโนม ัติเตารีดชนิด
                                               ้
                            ้ ็
                          นีเปนเตารีดไฟฟาทีมเครืองปร ับอุณหภูม ิ
                                                 ้ ่ ี       ่
                          หรือเทอร์โมสต ัท
                          สามารถตงอุณหภูมตามทีตองการได้
                                        ั้          ิ          ่ ้
3.เตารีดไฟฟาชนิดไอนา เตารีดชนิดนีเปนเตา
                     ้            ้         ้ ็
รีดไฟฟาทีมทเก็บนาไว้ในต ัวเตารีดโดยทาให้ผใช ้
       ้    ่ ี ี่     ้                        ู้
ไม่ตองพรมนาตลอดเวลาทีรดผ้า เมือเตารีดร้อนก็
     ้          ้                ่ ี  ่
จะทาให้นาภาชนะภายในทีเก็บเดือด เมือต้องการ
          ้                    ่        ่
   ้ ้
ใชนาก็กดปุมให้ไปนาพุงออกมา จึงรีดผ้าได้เรียบดี
             ่           ้ ่
  ่ ้                      ่ ้            ้ ้
ยิงขึน อย่างไรก็ ตามทีใชในเตารีดชนิดนีตองเปนนา     ็ ้
สะอาด มิฉะนนแล้วจะเกิดเปนตะกอนอุดต ันได้
                  ั้                ็
วิธการประหย ัดไฟฟาจากเตารีด
                     ี              ้
                   ้                  ี
1. เมือเลิกใชงานต้องถอดปลกเสยบออกท ันที
      ่                          ๊ั
2. ตรวจสอบว่ามีกระแสไฟฟารวหรือไม่
                               ้ ่ั
           ้                            ิ่ ่
3. การใชงานอย่าวางเตารีดใกล้สงทีจะติดไฟได้งาย ่
  เพราะอาจเกิดอุบ ัติเหตุเพลิงไหม้ขนได้    ึ้
             ี               ี
4. เต้าเสยบ(ปลกเสยบ) ของเตารีด ต้องไม่แตกร้าว
                       ๊ั
  และสายทีขวปลกไม่ห ักพ ับ และไม่เปื่ อยชารุด
                 ่ ั้     ๊ั
่   ้
3.เครืองใชไฟฟาทีให้พล ังงานกล
             ้  ่
      พ ัดลมไฟฟา ของ BMW E36
                  ้
หล ักการทางานของ พ ัดลมไฟฟา สาหร ับ 4 สูบ
                               ้
1. ถ้าสวิทต์กญแจอยูตาแหน่ง off (พร้อมทีจะดึง
              ุ      ่                       ่
กุญแจออกได้) จากวงจร พ ัดลมม ันจะด ับ
                ุ      ่                 ่
2. ถ้าสวิทต์กญแจอยูตาแหน่ง run (เชน เวลาเราด ับ
เครืองโดยบิดกุญแจมากิกเดียว ไม่ใช่ 2 กิกมาตาแหน่ง
    ่                    ๊                 ๊
off ) จะเปนด ังนี้
            ็
2.1 พ ัดลม high speed จะติดเมือ pressure ของ
                                     ่
นายาแอร์ สูงกว่า 18 bar(จนกว่า pressure จะลงมาที่
  ้
15 bar) "หรือ" อุณหภูม. หม้อนาสูงกว่า 88 องศา)
                           ิ       ้
2.2 พ ัดลม low speed จะติดเมือ high speed relay
                                 ่
ไม่ได้ทางาน"และ" อุณหภูม ิ หม้อนาสูงกว่า 80 องศาc
                                       ้
ข้อสงเกตุ 4 สูบจะใช ้ motor ต ัวเดียว แต่ใช ้ R drop
      ั
เอาสาหร ับ low speed ของ 6 สูบ จะต่างก ัน
วิธประหย ัดไฟฟาเกียวก ับพ ัดลม
        ี               ้ ่
1. เลิกเปิ ดพัดลมทิงไว ้เมือไม่มใครอยู่
                      ้     ่      ี
            ้
2. ถ ้าใชพัดลมทีมระบบรีโมคอนโทรล ต ้องถอดปลั๊กทันที
                 ่ ี
  ทีเลิกใชงาน
    ่         ้
                                     ่       ้   ่  ้
3. เปิ ดลมแรงให ้กับพอดี เพราะยิงเปิ ดลมแรงขึน ยิงใชไฟ
  มากขึน  ้
4. หมั่นทาความสะอาดใบพัด ตะแกรงครอบและแผงหุ ้ม
  มอเตอร์ พัดลม อย่าให ้มีฝนเกาะุ่
                              ่
5.อย่าให ้ใบพัดโค ้งงอผิดสวน ความแรงจะลดลง
6. ตังพัดลมในทีมอากาศถ่ายเทสะดวก
      ้           ่ ี
่         ้
4. เครืองใชไฟฟาทีให้พล ังงานเสยง
                   ้    ่               ี
  ลาโพง
  หล ักการทางาน
       ลาโพง ประกอบด้วย โครงลาโพงและจะมี
  แม่เหล็กถาวรติดอยู่ พร้อมเหล็กประกบบน-ล่าง ซง            ึ่
                     ึ้
  จะมีแกนโผล่ขนมาด้านบนทาให้เกิดเปนชองว่าง      ็    ่
                                      ่
  แคบๆ เปนวงกลมเราเรียกว่าชองแก๊ปแม่เหล็ ก
             ็
                            ึ่
  (Magnetic Gap) ซงแรงแม่เหล็ กทงหมดจะถูกสง ั้           ่
  มารวมก ันอย่างหนาแน่นทีตรงนี้ ถ้าแม่เหล็ กมีขนาด
                                    ่
  เล็กก็ให้แรงน้อย (ว ัตต์ตา) ขนาดใหญ่ก็มแรงมาก
                                  ่                ี
  (ว ัตต์สง) ในปัจจุบ ันจะมีลาโพงทีออกแบบให้มว ัตต์
           ู                              ่            ี
                          ้
  สูงเปนพิเศษ โดยใชแม่เหล็ กขนาดใหญ่ และบาง
         ็
               ้               ั้
  แบบจะซอน 2 หรือ 3 ชน จะได้ว ัตต์สงขึนอีกมาก  ู ้
์
    วอยซคอยล์ คือ ขดลวดกาเนิดเสยง จะลอยอยู่                    ี
          ่
ภายในชองแก็ปแม่เหล็ กนี้ ซงม ันจะร ับพล ังงาน   ึ่
ไฟฟาจากเครืองขยายทีปอนเข้าไปจะทาให้ม ันเกิด
    ้                ่                   ่้
อานาจแม่เหล็ กไฟฟาขึนโดยกล ับขวไปมาตาม
                                  ้    ้                  ั้
  ั
สญญาณทางไฟฟาทีปอนเข้ามา เพราะสญญาณ
                            ้       ่้                                 ั
OUT PUTจากเครืองขยายนนเปนสญญาณไฟสล ับ
                              ่               ั้ ็           ั
ทาให้เกิดการดูดหรือผล ักก ันก ับแม่เหล็ กถาวรทีกน                           ่ ้
ลาโพง เปนการเปลียนพล ังงานไฟฟาเปนพล ังงาน
            ็                   ่                       ้          ็
      ่                  ่ั
กล สงแรงการสนสะเทือนนีผานไปย ังกรวย         ้ ่
                ่ ื่
(Cone) ทีเชอมติดก ับต ัววอยซคอยล์อยูให้สนตาม       ์                 ่   ่ั
ไปด้วย โดยมีสไปเดอร์ (Spider) และขอบ
(Surround) เปนต ัวคอยยึดให้ทงชุดทีขย ับเข้า
                       ็                             ั้          ่
        ้
ออกนีได้ศนย์กลางอยูตลอดเวลาไม่เซไปเซมา
                 ู                   ่
เพือผล ักอากาศให้เปนคลืนวิงมาเข้าหูของเรา
           ่                  ็       ่ ่
                 ี
ให้ได้ยนเปนเสยงต่างๆนนเอง วอยซคอยล์นก็ม ี
             ิ ็                   ่ั          ์    ้ี
                                ั้
หลายแบบ คือ แบบ 2 ชน 4 ชน แบบเปลือก    ั้
กระดาษ/ไฟเบอร์/ไมก้า หรือแบบเปลือกโลหะ
          ่ ็      ั้
แบบทีเปน 4 ชนและมีเปลือกเปนโลหะก็จะมีว ัตต์สง
                                          ็                   ู
กว่า มีความทนทานมากกว่าแบบอืน เพราะเมือ     ่          ่
        ์
วอยซคอยล์ทางานไปนนม ันจะมีความร้อนเกิดขึน
                           ั้                            ้
ถ้าใชวอยซ ์ 4 ชนลวดจะมีขนาดใหญ่กว่ากระแส
      ้               ั้
ผ่านได้มากกว่า และมีเปลือกโลหะทีชวยระบาย      ่ ่
ความร้อนออกจากขดลวดได้ก็จะได้วอยซคอยล์ทม ี        ์        ี่
ความทนทานมากขึนอีกมาก    ้
วิธการประหย ัด
   ี

1. ปิ ดสวิตซทกครงหล ังจากเลิกใช ้
              ์ ุ   ั้
            ี
2. ไม่ควรเสยบปลกทิงไว้
                  ๊ั ้
3. หมนทาความสะอาดเครืองเสยง
       ่ั               ่    ี
บรรณานุกรม
• http://www.mmv.ac.th/supphapong/sci%20926.htm

  http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/ty
  pe1/science03/11/Electricity-web/html/content-
  html/device-html/heat.html


  http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_det
  ail.php?mul_content_id=432

More Related Content

What's hot

1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้านvisavavit Phonthioua
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong2012
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1thanawan302
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าworaganchanthi
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าworaganchanthi
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าworaganchanthi
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าwattanakub00
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าworaganchanthi
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าworaganchanthi
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSarun Boonwong
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าteerawat2012
 
ปิโตรเลียม
ปิโตรเลียมปิโตรเลียม
ปิโตรเลียมjirat266
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
Nontawat Rupsung
 

What's hot (13)

1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ปิโตรเลียม
ปิโตรเลียมปิโตรเลียม
ปิโตรเลียม
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 

Viewers also liked

Acordo ortográfico para ocupados
Acordo ortográfico para ocupadosAcordo ortográfico para ocupados
Acordo ortográfico para ocupados
Cesar Wolf
 
İstanbul Şehir ve Medeniyet - 2004 - M. İbrahim Turhan
İstanbul Şehir ve Medeniyet - 2004 - M. İbrahim Turhanİstanbul Şehir ve Medeniyet - 2004 - M. İbrahim Turhan
İstanbul Şehir ve Medeniyet - 2004 - M. İbrahim Turhan
M. İbrahim Turhan
 
Pumping up Online Outreach & Engagement with Youth Social Media Ambassadors
Pumping up Online Outreach & Engagement with Youth Social Media AmbassadorsPumping up Online Outreach & Engagement with Youth Social Media Ambassadors
Pumping up Online Outreach & Engagement with Youth Social Media Ambassadors
YTH
 
Jardim
JardimJardim
Mis vacaciones
Mis vacacionesMis vacaciones
Mis vacacionesQuecar
 
Guion de observación
Guion de observaciónGuion de observación
Guion de observaciónAle Matus
 
Triptico Marlene Higuera
Triptico Marlene HigueraTriptico Marlene Higuera
Triptico Marlene Higueramonikyka
 
冷读术——elya妞
冷读术——elya妞冷读术——elya妞
冷读术——elya妞
elya
 
Assignment 8
Assignment 8Assignment 8
Assignment 8
danochsner
 
презентація напрямкE
презентація напрямкEпрезентація напрямкE
презентація напрямкE
olenabatig
 
Poemacommuitasensualidade g
Poemacommuitasensualidade gPoemacommuitasensualidade g
Poemacommuitasensualidade g
Manuel Santos
 
Qu´est ce qu´ils font?
Qu´est ce qu´ils font?Qu´est ce qu´ils font?
Qu´est ce qu´ils font?
rafaelmateos1
 
Igreja batista shekinah
Igreja batista shekinahIgreja batista shekinah
Igreja batista shekinahguestaaa10c
 
Classification Station
Classification StationClassification Station
Classification Stationguest1ba498
 

Viewers also liked (20)

Acordo ortográfico para ocupados
Acordo ortográfico para ocupadosAcordo ortográfico para ocupados
Acordo ortográfico para ocupados
 
Balance
BalanceBalance
Balance
 
İstanbul Şehir ve Medeniyet - 2004 - M. İbrahim Turhan
İstanbul Şehir ve Medeniyet - 2004 - M. İbrahim Turhanİstanbul Şehir ve Medeniyet - 2004 - M. İbrahim Turhan
İstanbul Şehir ve Medeniyet - 2004 - M. İbrahim Turhan
 
Ver1 1802 stormvind_den_lange
Ver1 1802 stormvind_den_langeVer1 1802 stormvind_den_lange
Ver1 1802 stormvind_den_lange
 
Pumping up Online Outreach & Engagement with Youth Social Media Ambassadors
Pumping up Online Outreach & Engagement with Youth Social Media AmbassadorsPumping up Online Outreach & Engagement with Youth Social Media Ambassadors
Pumping up Online Outreach & Engagement with Youth Social Media Ambassadors
 
Jardim
JardimJardim
Jardim
 
Mis vacaciones
Mis vacacionesMis vacaciones
Mis vacaciones
 
Guion de observación
Guion de observaciónGuion de observación
Guion de observación
 
Abstract mytv
Abstract mytvAbstract mytv
Abstract mytv
 
Triptico Marlene Higuera
Triptico Marlene HigueraTriptico Marlene Higuera
Triptico Marlene Higuera
 
冷读术——elya妞
冷读术——elya妞冷读术——elya妞
冷读术——elya妞
 
Assignment 8
Assignment 8Assignment 8
Assignment 8
 
презентація напрямкE
презентація напрямкEпрезентація напрямкE
презентація напрямкE
 
Flossing
FlossingFlossing
Flossing
 
Manha
ManhaManha
Manha
 
Poemacommuitasensualidade g
Poemacommuitasensualidade gPoemacommuitasensualidade g
Poemacommuitasensualidade g
 
Qu´est ce qu´ils font?
Qu´est ce qu´ils font?Qu´est ce qu´ils font?
Qu´est ce qu´ils font?
 
Enigmas y dilemas de aldo y juan
Enigmas y dilemas de aldo y juanEnigmas y dilemas de aldo y juan
Enigmas y dilemas de aldo y juan
 
Igreja batista shekinah
Igreja batista shekinahIgreja batista shekinah
Igreja batista shekinah
 
Classification Station
Classification StationClassification Station
Classification Station
 

Similar to วิทย์1

ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0887946598532
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0834799610
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0286983445
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0887946598532
 
Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้า
Sideshare  เรื่องการใช้ไฟฟ้าSideshare  เรื่องการใช้ไฟฟ้า
Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้าหัว' เห็ด.
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1boom500937
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1boom500937
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong20155
 
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305Jiraporn
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)ying08932
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305คณากรณ์ อุปปิง
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305คณากรณ์ อุปปิง
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiwush Pormchai
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiwush Pormchai
 

Similar to วิทย์1 (20)

ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้า
Sideshare  เรื่องการใช้ไฟฟ้าSideshare  เรื่องการใช้ไฟฟ้า
Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้า
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)
 
ประเภทพลังงานไฟฟ้า
ประเภทพลังงานไฟฟ้าประเภทพลังงานไฟฟ้า
ประเภทพลังงานไฟฟ้า
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า
 

วิทย์1

  • 1. หล ักการทางานของเครืองใชไฟฟาแต่ละประเภท ่ ้ ้ จ ัดทาโดย ด.ญ.อน ัญญา ใฝใจ ่ เลขที่ 36 ด.ญ.ณัฐธิดา ปัญญาวงศ ์ เลขที่ 40 ิ ด.ญ.ศรภ ัสสร ยะนา เลขที่ 41 ิ ิ ด.ญ.ศรภ ัทรา ยะนา เลขที่ 42 ั้ ึ ชนม ัธยมศกษาปี ที่ 3/1 เสนอ อาจารย์จราภรณ์ ิ ไชยมงคล กลุมสาระวิทยาศาสตร์ ่ โรงเรียนฟากกว๊านวิทยาคม
  • 2. เครืองใชไฟฟา คือ อุปกรณ์ทเปลียนพลังงาน ่ ้ ี่ ่ ไฟฟ้ าเป็ นพลังงานรูปอืน เพือนาไปใชใน ่ ่ ้ ี ิ ชวตประจาวัน ได ้แก่ ่ ้ 1. เครืองใชไฟฟ้ าทีให ้พลังงานแสงสว่าง ่ ่ ้ 2. เครืองใชไฟฟ้ าทีให ้พลังงานความร ้อน ่ ่ ้ 3. เครืองใชไฟฟ้ าทีให ้พลังงานกล ่ ้ 4. เครืองใชไฟฟ้ าทีให ้พลังงานเสยง ่ ่ ี
  • 3. ่ ้ 1.เครืองใชไฟฟาทีให้พล ังงานแสงสว่าง ้ ่ ี่ ้ ่ หลอดไฟ เป็ นอุปกรณ์ทใชเปลียนพลังงาน ิ่ ไฟฟ้ าเป็ นแสงสว่างให ้เราสามารถมองเห็นสงต่างๆ ึ่ ั ได ้ ซง โธมัส เอดิสน เป็ นผู ้ประดิษฐ์หลอดไฟเป็ น ้ ้ ้ ครังแรก โดยใชคาร์บอนเสนเล็กๆ เป็ นไสหลอดและ ้ ได ้มีการพัฒนาเรือยมาเป็ นลาดับ ่
  • 4. ประเภทของหลอดไฟ ้ ้ 1. หลอดไฟฟาธรรมดา มีไสหลอดทีทาด ้วย ่ ่ ลวดโลหะทีมจดหลอมเหลวสูง เชน ทังสเตนเสน ่ ี ุ ้ เล็กๆ ขดเอาไว ้เหมือนขดลวดสปริงภายใน หลอดแก ้วสูบอากาศออกหมดแล ้วบรรจุกาซเฉื่อย ๊ ่ ้ ่ เชน อาร์กอน (Ar) ไว ้ ก๊าซนีชวยป้ องกันไม่ให ้หลอด ไฟฟ้ าดา ลักษณะของหลอดไฟเป็ นดังรูป
  • 5. หล ักการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา ้ ้ กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านไสหลอดซงมีความึ่ ต ้านทานสูงพลังงานไฟฟ้ า ้ จะเปลียนเป็ นพลังงานความร ้อน ทาให ้ไสหลอดร ้อน ่ จัดจนเปล่งแสง ออกมาได ้ การเปลียนพลังงานเป็ นดังนี้ ่ พล ังงานไฟฟา >>>พล ังงานความร้อน >>> ้ พล ังงานแสง
  • 6. 2. หลอดเรืองแสง หรือ หลอดฟลูออเรส ่ เซนต์ (fluorescent) เป็ นอุปกรณ์ทเปลียนพลังงานไฟฟ้ าเป็ น ี่ ่ ึ่ พลังงานแสงสว่าง ซงมีการประดิษฐ์ในปี ค.ศ. 1938 โดยมีรปร่างหลายแบบ อาจทาเป็ นหลอด ู ั้ ตรง สน ยาว ขดเป็ นวงกลมหรือครึงวงกลม เป็ น ่ ต ้น
  • 7. หล ักการทางานของหลอดเรืองแสง ้ ้ เมือกระแสไฟฟ้ าผ่านไสหลอดจะทาให ้ไสหลอดร ้อน ่ ขึน ความร ้อนทีเกิดทาให ้ปรอททีบรรจุไว ้ในหลอด ้ ่ ่ กลายเป็ นไอมากขึน เมือกระแสไฟฟ้ าผ่านไอปรอทได ้ ้ ่ จะคายพลังงานไฟฟ้ าให ้ไอปรอท ทาให ้อะตอมของไอ ปรอทอยูในภาวะถูกกระตุ ้น และอะตอมปรอทจะคาย ่ พลังงานออกมาเพือลดระดับพลังงานของตนในรูปของ ่ ี ั ี ั รังสอลตราไวโอเลต เมือรังสดงกล่าวกระทบสารเรือง ่ แสงทีฉาบไว ้ทีผวในของหลอดเรืองแสงนันก็จะ ่ ่ ิ ้ ี ่ เปล่งแสงได ้ โดยให ้แสงสตางๆ ตามชนิดของสารเรือง แสงทีฉาบไว ้ภายในหลอดนัน ่ ้
  • 8. ี่ ้ ่ อุปกรณ์ทใชเพือให้หลอดเรืองแสงทางาน 1. สตาร์ตเตอร์ (starter) ทาหน ้าทีเป็ นสวิตซ ์ ่ อัตโนมัตในขณะหลอดเรืองแสง ยังไม่ตดและหยุด ิ ิ ทางานเมือหลอดติดแล ้ว ่ 2. แบลล ัสต์ (Ballast) ทาหน ้าทีเพิมความต่าง ่ ่ ั ศกย์ เพือให ้หลอดไฟเรืองแสงติดในตอนแรกและทา ่ หน ้าที่ ควบคุมกระแสไฟฟ้ าทีผานหลอด ให ้ลดลงเมือ ่ ่ ่ หลอดติดแล ้ว แบลล ัสต์ สตาร์ตเตอร์
  • 9. วิธการประหย ัดไฟฟา ี ้ ์ ้ 1. ปิ ดสวิตซไฟเมือเลิกใชงาน ่ 2. หมั่นทาความสะอาดหลอดไฟทีบ ้าน เพราะจะชวย ่ ่ เพิมแสงสว่าง ่ ้ 3. ควรใชโคมไฟแบบมีแผ่นสะท ้อนแสงในห ้องต่าง ๆ ่ ่ เพือชวยให ้แสงสว่างจากหลอดไฟ กระจายได ้อย่าง ิ เต็มประสทธิภาพ
  • 10. ้ 2. เครืองใชไฟฟาทีให้ความร้อน ้ ่ เตารีดไฟฟา เตารีดไฟฟาประกอบด้วย ้ ้ ่ สวนประกอบทีสาค ัญ คือ แผ่นความร้อนเทอร์ ่ โมสต ัท แผ่นขดลวดความร้อน แผ่นท ับผ้า และปุม่ ้ ปร ับความร้อนเตารีดไฟฟาใชแผ่นขดลวดความร้อน ้ ั ทาด้วยลวดนิโครมแผ่น แบนๆ วางสบไปมาไม่ได้ทา เปนขดลวดเหมือนเตาไฟฟา หรือ อาจทีเรียกว่า ไส ้ ็ ้ ่ ึ่ เตารีด ซงจะสอดอยูภายในระหว่างไมก้า (Mica) 2 ่ ้ ็ แผ่น ไมก้านีเปนว ัตถุทนไฟและเปนฉนวนด้วย ็
  • 11. หล ักการทางานของเตารีดไฟฟา ้ ้ ี ี เตารีดไฟฟาเมือใชเต้าเสยบ เสยบเต้าร ับแล้ว ้ ่ กระแสไฟฟาจะไหลผ่านขดลวดให้ความร้อน คือ ้ แถบลวดนิโครม หรือขดลวดความร้อน และจะ ถ่ายเทความร้อนให้ก ับแผ่นท ับผ้า ทาให้แผ่นท ับผ้า ร้อน การตงอุณหภูมให้มความร้อนมากหรือน้อย ั้ ิ ี ้ เท่าไร ขึนอยูชนิดของผ้าทีจะรีด ่ ่
  • 12. ชนิดของเตารีดไฟฟา ้ 1.เตารีดไฟฟาแบบธรรมดา เตารีดไฟฟาชนิดนีเปนเตารีด ้ ้ ้ ็ ไฟฟาทีให้ความร้อนแก่เตารีดตลอดเวลาไม่สามารถปร ับ ้ ่ ้ ี อุณหภูมได้ เมือใชเตารีดเสยบเต้าร ับแล้วขดลวดความร้อน ิ ่ จะให้ความร้อนตลอดเวลา เมือต้องการลดอุณหภูมตองดึง ่ ิ ้ ี เต้าเสยบออก และถ้าต้องการเพิมอุณหภูมก็ใชเต้าเสยบ ่ ิ ้ ี ี ึ่ เสยบเต้าร ับใหม่อกครง ซงเตารีดชนิดนีไม่นยมก ันเพราะ ี ั้ ้ ิ เกิดอ ันตรายได้งาย่ 2.เตารีดไฟฟาชนิดอ ัตโนม ัติเตารีดชนิด ้ ้ ็ นีเปนเตารีดไฟฟาทีมเครืองปร ับอุณหภูม ิ ้ ่ ี ่ หรือเทอร์โมสต ัท สามารถตงอุณหภูมตามทีตองการได้ ั้ ิ ่ ้
  • 13. 3.เตารีดไฟฟาชนิดไอนา เตารีดชนิดนีเปนเตา ้ ้ ้ ็ รีดไฟฟาทีมทเก็บนาไว้ในต ัวเตารีดโดยทาให้ผใช ้ ้ ่ ี ี่ ้ ู้ ไม่ตองพรมนาตลอดเวลาทีรดผ้า เมือเตารีดร้อนก็ ้ ้ ่ ี ่ จะทาให้นาภาชนะภายในทีเก็บเดือด เมือต้องการ ้ ่ ่ ้ ้ ใชนาก็กดปุมให้ไปนาพุงออกมา จึงรีดผ้าได้เรียบดี ่ ้ ่ ่ ้ ่ ้ ้ ้ ยิงขึน อย่างไรก็ ตามทีใชในเตารีดชนิดนีตองเปนนา ็ ้ สะอาด มิฉะนนแล้วจะเกิดเปนตะกอนอุดต ันได้ ั้ ็
  • 14. วิธการประหย ัดไฟฟาจากเตารีด ี ้ ้ ี 1. เมือเลิกใชงานต้องถอดปลกเสยบออกท ันที ่ ๊ั 2. ตรวจสอบว่ามีกระแสไฟฟารวหรือไม่ ้ ่ั ้ ิ่ ่ 3. การใชงานอย่าวางเตารีดใกล้สงทีจะติดไฟได้งาย ่ เพราะอาจเกิดอุบ ัติเหตุเพลิงไหม้ขนได้ ึ้ ี ี 4. เต้าเสยบ(ปลกเสยบ) ของเตารีด ต้องไม่แตกร้าว ๊ั และสายทีขวปลกไม่ห ักพ ับ และไม่เปื่ อยชารุด ่ ั้ ๊ั
  • 15. ้ 3.เครืองใชไฟฟาทีให้พล ังงานกล ้ ่ พ ัดลมไฟฟา ของ BMW E36 ้ หล ักการทางานของ พ ัดลมไฟฟา สาหร ับ 4 สูบ ้ 1. ถ้าสวิทต์กญแจอยูตาแหน่ง off (พร้อมทีจะดึง ุ ่ ่ กุญแจออกได้) จากวงจร พ ัดลมม ันจะด ับ ุ ่ ่ 2. ถ้าสวิทต์กญแจอยูตาแหน่ง run (เชน เวลาเราด ับ เครืองโดยบิดกุญแจมากิกเดียว ไม่ใช่ 2 กิกมาตาแหน่ง ่ ๊ ๊ off ) จะเปนด ังนี้ ็ 2.1 พ ัดลม high speed จะติดเมือ pressure ของ ่ นายาแอร์ สูงกว่า 18 bar(จนกว่า pressure จะลงมาที่ ้ 15 bar) "หรือ" อุณหภูม. หม้อนาสูงกว่า 88 องศา) ิ ้ 2.2 พ ัดลม low speed จะติดเมือ high speed relay ่ ไม่ได้ทางาน"และ" อุณหภูม ิ หม้อนาสูงกว่า 80 องศาc ้ ข้อสงเกตุ 4 สูบจะใช ้ motor ต ัวเดียว แต่ใช ้ R drop ั เอาสาหร ับ low speed ของ 6 สูบ จะต่างก ัน
  • 16. วิธประหย ัดไฟฟาเกียวก ับพ ัดลม ี ้ ่ 1. เลิกเปิ ดพัดลมทิงไว ้เมือไม่มใครอยู่ ้ ่ ี ้ 2. ถ ้าใชพัดลมทีมระบบรีโมคอนโทรล ต ้องถอดปลั๊กทันที ่ ี ทีเลิกใชงาน ่ ้ ่ ้ ่ ้ 3. เปิ ดลมแรงให ้กับพอดี เพราะยิงเปิ ดลมแรงขึน ยิงใชไฟ มากขึน ้ 4. หมั่นทาความสะอาดใบพัด ตะแกรงครอบและแผงหุ ้ม มอเตอร์ พัดลม อย่าให ้มีฝนเกาะุ่ ่ 5.อย่าให ้ใบพัดโค ้งงอผิดสวน ความแรงจะลดลง 6. ตังพัดลมในทีมอากาศถ่ายเทสะดวก ้ ่ ี
  • 17. ้ 4. เครืองใชไฟฟาทีให้พล ังงานเสยง ้ ่ ี ลาโพง หล ักการทางาน ลาโพง ประกอบด้วย โครงลาโพงและจะมี แม่เหล็กถาวรติดอยู่ พร้อมเหล็กประกบบน-ล่าง ซง ึ่ ึ้ จะมีแกนโผล่ขนมาด้านบนทาให้เกิดเปนชองว่าง ็ ่ ่ แคบๆ เปนวงกลมเราเรียกว่าชองแก๊ปแม่เหล็ ก ็ ึ่ (Magnetic Gap) ซงแรงแม่เหล็ กทงหมดจะถูกสง ั้ ่ มารวมก ันอย่างหนาแน่นทีตรงนี้ ถ้าแม่เหล็ กมีขนาด ่ เล็กก็ให้แรงน้อย (ว ัตต์ตา) ขนาดใหญ่ก็มแรงมาก ่ ี (ว ัตต์สง) ในปัจจุบ ันจะมีลาโพงทีออกแบบให้มว ัตต์ ู ่ ี ้ สูงเปนพิเศษ โดยใชแม่เหล็ กขนาดใหญ่ และบาง ็ ้ ั้ แบบจะซอน 2 หรือ 3 ชน จะได้ว ัตต์สงขึนอีกมาก ู ้
  • 18. วอยซคอยล์ คือ ขดลวดกาเนิดเสยง จะลอยอยู่ ี ่ ภายในชองแก็ปแม่เหล็ กนี้ ซงม ันจะร ับพล ังงาน ึ่ ไฟฟาจากเครืองขยายทีปอนเข้าไปจะทาให้ม ันเกิด ้ ่ ่้ อานาจแม่เหล็ กไฟฟาขึนโดยกล ับขวไปมาตาม ้ ้ ั้ ั สญญาณทางไฟฟาทีปอนเข้ามา เพราะสญญาณ ้ ่้ ั OUT PUTจากเครืองขยายนนเปนสญญาณไฟสล ับ ่ ั้ ็ ั ทาให้เกิดการดูดหรือผล ักก ันก ับแม่เหล็ กถาวรทีกน ่ ้ ลาโพง เปนการเปลียนพล ังงานไฟฟาเปนพล ังงาน ็ ่ ้ ็ ่ ่ั กล สงแรงการสนสะเทือนนีผานไปย ังกรวย ้ ่ ่ ื่ (Cone) ทีเชอมติดก ับต ัววอยซคอยล์อยูให้สนตาม ์ ่ ่ั ไปด้วย โดยมีสไปเดอร์ (Spider) และขอบ (Surround) เปนต ัวคอยยึดให้ทงชุดทีขย ับเข้า ็ ั้ ่ ้ ออกนีได้ศนย์กลางอยูตลอดเวลาไม่เซไปเซมา ู ่
  • 19. เพือผล ักอากาศให้เปนคลืนวิงมาเข้าหูของเรา ่ ็ ่ ่ ี ให้ได้ยนเปนเสยงต่างๆนนเอง วอยซคอยล์นก็ม ี ิ ็ ่ั ์ ้ี ั้ หลายแบบ คือ แบบ 2 ชน 4 ชน แบบเปลือก ั้ กระดาษ/ไฟเบอร์/ไมก้า หรือแบบเปลือกโลหะ ่ ็ ั้ แบบทีเปน 4 ชนและมีเปลือกเปนโลหะก็จะมีว ัตต์สง ็ ู กว่า มีความทนทานมากกว่าแบบอืน เพราะเมือ ่ ่ ์ วอยซคอยล์ทางานไปนนม ันจะมีความร้อนเกิดขึน ั้ ้ ถ้าใชวอยซ ์ 4 ชนลวดจะมีขนาดใหญ่กว่ากระแส ้ ั้ ผ่านได้มากกว่า และมีเปลือกโลหะทีชวยระบาย ่ ่ ความร้อนออกจากขดลวดได้ก็จะได้วอยซคอยล์ทม ี ์ ี่ ความทนทานมากขึนอีกมาก ้
  • 20. วิธการประหย ัด ี 1. ปิ ดสวิตซทกครงหล ังจากเลิกใช ้ ์ ุ ั้ ี 2. ไม่ควรเสยบปลกทิงไว้ ๊ั ้ 3. หมนทาความสะอาดเครืองเสยง ่ั ่ ี
  • 21. บรรณานุกรม • http://www.mmv.ac.th/supphapong/sci%20926.htm http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/ty pe1/science03/11/Electricity-web/html/content- html/device-html/heat.html http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_det ail.php?mul_content_id=432