SlideShare a Scribd company logo
เครื่ องใช้ไฟฟ้ า
ความหมายของเครื่ องใช้ไฟฟ้ า
• เครื่องใช้ ไฟฟา คือ อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานรูปอื่น
                 ้                               ้
  เพื่อนาไปใช้ ในชีวิตประจาวัน
เครื่ องใช้ไฟฟ้ า แบ่งออกเป็ น 4 ประเภท
•   1. เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ แสงสว่าง
                      ้
•   2. เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ ความร้ อน
                          ้
•   3. เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานกล
                        ้
•   4. เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานเสียง
                            ้
1.เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้แสงสว่าง คือ
• เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ แสงสว่าง
                   ้
•                    หลอดไฟฟา เป็ นเครื่ องใช้ ไฟฟาที่มีใช้ ในทุกบ้ านที่มีการใช้ พลังงานไฟฟา เป็ น
                             ้                    ้                                         ้
  เครื่ องใช้ ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟา ไปเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาที่ใช้ ทวไป มี 3 ชนิด คือ
                                  ้                                    ้        ั่
•         1. หลอดไฟฟาแบบธรรมดา
                         ้
•          2. หลอดเรื่ องแสงหรื อหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp)
•           3. หลอดไฟโฆษณาหรื อหลอดนีออน
1.1 หลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดา
•             หลอดไฟฟาแบบธรรมดา มีการเปลี่ยนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานความ
                        ้                                                     ้
    ร้ อน แล้ วจึงเปลี่ยนเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาแบบธรรมดามี 2 แบบ คือแบบเกลียวและแบบ
                                                 ้
    เขี ้ยว มีส่วนประกอบดังนี ้
•          1. ไส้ หลอด ทาด้ วยโลหะที่มีจดหลอดเหลวสูง ทนความร้ อนได้ มาก มีความทานสูง เช่น
                                        ุ
    ทังสเตน
•          2. หลอดแก้ วทาจากแก้ วที่ทนความร้ อนได้ ดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจนหมดภายใน
    บรรจุก๊าซไนโตรเจนและอาร์ กอนเล็กน้ อย ก๊ าซชนิดนี ้ทาปฏิกิริยายาก ช่วยปองกันไม่ให้ ไส้ หลอด
                                                                            ้
    ระเหิดไปจับที่หลอดแก้ ว และช่วยไม่ให้ ไส้ หลอดไม่ขาดง่าย ถ้ าบรรจุก๊าซออกซิเจนจะทา
    ปฏิกิริยากับไส้ หลอด ซึงทาให้ ไส้ หลอดขาดง่าย
                              ่
•         3. ขัวหลอดไฟ เป็ นจุดต่อวงจรไฟฟา มี 2 แบบ คือ แบบเขี ้ยวและแบบเกลียว
                  ้                        ้
•              เนื่องจากหลอดไฟฟาประเภทนี ้ให้ แสงสว่างได้ ด้วยการเปล่ยนพลังงานไฟฟาเป็ น
                                  ้                                               ้
    พลังงานความร้ อนก่อนที่จะให้ แสงสว่างออกมา จึงทาให้ สิ ้นเปลื่อง พลังงานไฟฟา มากกว่า
                                                                                ้
    หลอดชนิดอื่น ในขนาด กาลังไฟฟ้ า ของหลอดไฟซึงจะกาหนดไว้ ที่หลอดไฟทุกดวง เช่น หลอด
                                                       ่
    ไฟาขนาด 100 วัตต์ เป็ นต้ น
        ้
1.2 หลอดเรื องแสงหรื อหลอดฟลูออเรสเซนต์
• หลอดเรื องแสงหรื อหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้ วยหลอดแก้ วที่สบ                   ู
  อากาศออกจนหมดแล้ วบรรจุไอปรอทไว้ เล็กน้ อย มีไส้ ที่ปลายหลอดทังสองข้ าง หลอดเรื องแสง
                                                                           ้
  อาจทาเป็ นหลอดตรง หรื อครึ่งวงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางานของหลอดเรื องแสง มี
  ดังนี ้
           1. ตัวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้ วบรรจุไอปรอทและก๊ าซอาร์ กอน
  เล็กน้ อย ผิวด้ านในของหลอดเรื องแสงฉาบด้ วยสารเรื องแสงชนิดต่างๆ แล้ วแต่ความต้ องการให้
  เรื องแสงเป็ นสีใด เช่น ถ้ าต้ องการให้ เรื องแสงสีเขียว ต้ องฉาบด้ วยสารซิงค์ซิลิเคต แสงสีขาวแกม
  ฟาฉาบด้ วยมักเนเซียมทังสเตน แสงสีชมพูฉาบด้ วยแคดเนียมบอเรต เป็ นต้ น
   ้
          2. ไส้ หลอด ทาด้ วยทังสเตนหรื อวุลแฟรมอยู่ที่ปลายทังสองข้ าง เมื่อกระแสไฟฟาผ่านไส้
                                                                   ้                       ้
  หลอดจะทาให้ ไส้ หลอดร้ อนขึ ้น ความร้ อนที่เกิดขึ ้นจะทาให้ ไอปรอทที่บรรจุไว้ ในหลอดกลายเป็ น
  ไอมากขึ ้น แต่ขณะนันกระแสไฟฟายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก เพราะปรอทยังเป็ นไอน้ อยทาให้
                         ้            ้
  ความต้ านทานของหลอดสูง
• 4. แบลลัสต์ เป็ นขดลวดที่พนอยู่บนแกนเหล็ก ขณะกระแสไฟฟาไหลผ่านจะเกิดการเหนี่ยวนา
                                    ั                                 ้
  แม่เหล็กไฟฟาทาให้ เกิดแรงเคลื่อนไฟฟาเหนี่ยวนาขึ ้น เมื่อแผ่นโลหะคูในสตาร์ ตเตอร์ แยกตัว
                  ้                             ้                         ่
  ออกจากกันนันจะเกิดวงจรเปิ ดชัวขณะ แรงเคลื่อนไฟฟาเหนี่ยวนาที่เกิดขึ ้นในแบลลัสต์จึงทา
                    ้                         ่                 ้
  ให้ เกิดความต่างศักย์ระหว่างไส้ หลอดทังสองข้ างสูงขึ ้นเพียงพอที่จะทาให้ กระแสไฟฟาไหลผ่าน
                                                    ้                                ้
  ไอปรอทจากไส้ หลอดข้ างหนึงไปยังไส้ หลอดอีกข้ างหนึงได้ แรงเคลื่อนไฟฟาเหนี่ยวนาที่เกิด
                                        ่                     ่               ้
  จากแบลลัสต์นนจะทาให้ เกิดกระแสไฟฟาเหนี่ยวนาไหลสวนทางกับกระแสไฟฟาจากวงจรไฟฟา
                      ั้                          ้                              ้          ้
  ในบ้ าน ทาให้ กระแส ไฟฟาที่จะเข้ าสู่วงจรของหลอดเรื องแสงลดลง
                                  ้
•                        หลักการทางานของหลอดเรื องแสง
           เมื่อกระแสไฟฟาผ่านไอปรอทจะคายพลังงานไฟฟาให้ อะตอมไอปรอท ทาให้ อะตอมของ
                                ้                                 ้
  ไอปรอทอยู่ในสภาวะถูกกระตุ้น (excited state) และอะตอมของปรอทจะคายพลังงาน
  ออกมาเพื่อลดระดับพลังงาน ในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต ซึงอยู่ในช่วงของแสงที่มองไม่เห็น
                                                      ั             ่
  เมื่อรังสีนี ้กระทบสารเรื องแสงที่ฉาบไว้ ที่ผิวหลอด สารเรื องแสงจะเปล่งแสงสีต่างๆตามชนิดของ
  สารเรื องแสงที่ฉาบไว้ ในหลอดนัน         ้
•                        ข้ อดีของหลอดเรื องแสง
           1. เมื่อให้ พลังงานไฟฟาเท่ากันจะให้ แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดาประมาณ
                                      ้                                     ้
  4 เท่า และมีอายุการใช้ งานนานกว่าหลอดไฟฟาธรรมดาประมาณ 8 เท่า
                                                          ้
          2. อุณหภูมิของหลอดไม่สงเท่ากับหลอดไฟฟาแบบธรรมดา
                                            ู               ้
          3. ถ้ าต้ องการแสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟาธรรมดา จะใช้ วตต์ที่ต่ากว่า จึงเสียค่าไฟฟา
                                                        ้               ั                ้
  น้ อยกว่า
•    ข้ อเสียของหลอดเรื องแสง
            1. เมื่อติดตังจะเสียค่าใช้ จ่ายสูงกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดา เพราะต้ องใช้ แบลลัสต์และ
                         ้                               ้
    สตาร์ ตเตอร์ เสมอ
            2. หลอดเรื องแสงมักระพริ บเล็กน้ อยไม่เหมาะในการใช้ อ่านหนังสือ

•          ตัวเลขที่ปรากฏบนหลอดไฟฟาธรรมดาและหลอดเรื องแสงซึงบอก กาลังไฟฟาเป็ นวัตต์
                                         ้                        ่                ้
    (W) เป็ นการบอกถึงปริ มาณพลังงานไฟฟาที่ใช้ ไปใน 1 วินาที เช่น 20 W หมายถึง หลอด
                                               ้
    ไฟฟานี ้จะใช้ พลังงานไป 20 จูลในเวลา 1 วินาที ดังนันหลอดไฟฟาและหลอดเรื องแสงที่มี
         ้                                              ้      ้
    กาลังไฟฟามาก เมื่อใช้ งานก็ยิ่งสิ ้นเปลืองกระแสไฟฟามาก ทาให้ เสียค่าใช้ จ่ายมากขึ ้น
               ้                                      ้
    ด้ วย ปั จจุบนมีการผลิตหลอดไฟพร้ อมอุปกรณ์ประกอบ เช่น บัลลาสต์ แบบประหยัดพลังงาน
                 ั
    ขึ ้นมาใช้ หลายชนิด เช่น หลอดตะเกียบ หลอดผอม บัลลาสต์เบอร์ 5 เป็ นต้ น
1.3 หลอดไฟฟ้ าโฆษณาหรื อหลอดนีออน
• หลอดไฟโฆษณาหรื อหลอดนีออน
•               หลอดไฟโฆษณาหรื อหลอดนีออน เป็ นหลอดแก้ วทีถกลนไฟแล้ วดัดให้ เป็ น
                                                                  ่ ู
  รูปหรื อตัวอักษร ไม่มีไส้ หลอดแต่ทปลายทังสองข้ างจะมีขวไฟฟาทาด้ วยโลหะ ต่อกับ
                                     ี่        ้             ั้ ้
  แหล่งกาเนิดไฟฟา ที่มีความต่างศักย์สงประมาณ 10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบ
                   ้                       ู
  อากาศออกจนหมดแล้ วใส่ก๊าซบางชนิดที่ให้ แสงสีตางๆออกมาเมื่อมีกระแสไฟฟาผ่าน
                                                        ่                          ้
  เช่นก๊ าซนีออนให้ แสงสีแดงหรื อส้ ม ก๊ าซฮีเลียมให้ แสงสีชมพู ความต่างศักย์ทสงมากๆ
                                                                              ี่ ู
  จะทาให้ ก๊าซที่บรรจุไว้ ในหลอดเกิดการแตกตัวเป็ นอิออน และนาไฟฟาได้ เมื่อ
                                                                      ้
  กระแสไฟฟาผ่านก๊ าซเหล่านี ้จะทาให้ ก๊าซร้ อนติดไฟให้ แสงสีตางๆได้
              ้                                                 ่
2.เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้ความร้อน
• เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานความร้ อน
                     ้
•              เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานความร้ อน เป็ นเครื่ องใช้ ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ น
                              ้                                                             ้
  พลังงานความร้ อน โดยใช้ หลักการคือ เมื่อปล่อยกระแสไฟฟาผ่านขดลวดตัวนาที่มีความ
                                                                    ้
  ต้ านทานสูงๆ ลวดตัวนานันจะร้ อนจนสามารถนาความร้ อนออกไปใช้ ประโยชน์ได้ เนื่องจากเป็ น
                                  ้
  เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานความร้ อนมาก จึงสิ ้นเปลี่ยนพลังงานไฟฟามากเมื่อเปรี ยบกับการใช้
                 ้                                                               ้
  เครื่ องใช้ ไฟฟาประเภทอื่นๆ มือใช้ ในเวลาที่เท่ากัน ฉะนันขณะใช้ เครื่ องใช้ ไฟฟาให้ พลังงาน
                   ้                                              ้                      ้
  ความร้ อนจึงควรใช้ ด้วยความระมัดระวัง ตัวอย่างเครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานความร้ อน เช่น
                                                                        ้
  เตารี ด หม้ อหุงข้ าว กระทะไฟฟา กาต้ มน ้า เครื่ องต้ มกาแฟ เตาไฟฟา ฯลฯ
                                       ้                                     ้
3. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล
• เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานกล
                  ้
•               เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานกล มีการเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานกล โดย
                               ้                                             ้
  อาศัยหลักการเหนี่ยวนาแม่เหล็กไฟฟา ด้ วยอุปกรณ์ ที่เรี ยกว่า มอเตอร ์์ และ เครื่ องควบคุม
                                             ้
  ความเร็ ว ซึงเป็ นอุปกรณ์หลักในเครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานกล ตัวอย่าง เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้
                ่                                 ้                                            ้
  พลังงานกล เช่น เครื่ องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่ องดูดฝุ่ น พัดลม เครื่ องซักผ้ า เครื่ องปั่ นน ้าผลไม้
  ฯลฯ
•
4. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานเสี ยง

• เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานเสียง
                 ้
•               เครื่ องใช้ ไฟฟาที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง ได้ แก่ เครื่ องรับวิทย เครื่ อง
                                ้                        ้
  ขยายเสียง เครื่ องบันทึกเสียง ฯลฯ
•                  เครื่ องรับวิทยุ เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยรับ
                                                                    ้
  คลื่นวิทยุ จากสถานีสงแล้ วใช้ อปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงที่มีอยู่ในรูปของ
                              ่         ุ
  สัญญาณไฟฟาให้ แรงขึ ้นเมื่อผ่านสัญญาณไฟฟานี ้ไปยังลาโพงจะทาให้ ลาโพงสันสะเทือน
                    ้                                      ้                          ่
  เปลี่ยนเป็ นเสียงที่สามารถรับฟั งได้ ดังแผนผัง
• หลักการทางานของหลอดเรืองแสง
• เมื่อกระแสไฟฟาผ่านไส้ หลอดจะทาให้ ไส้ หลอดร้ อนขึ ้น ความร้ อนที่เกิดทาให้ ปรอทที่บรรจุไว้ ใน
                   ้
  หลอดกลายเป็ นไอมากขึ ้น เมื่อกระแสไฟฟาผ่านไอปรอทได้ จะคายพลังงานไฟฟาให้ ไอปรอท ทา
                                          ้                                    ้
  ให้ อะตอมของไอปรอทอยู่ในภาวะถูกกระตุ้น และอะตอมปรอทจะคายพลังงานออกมาเพื่อลด
  ระดับพลังงานของตนในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต เมื่อรังสีดงกล่าวกระทบสารเรื องแสงที่ฉาบ
                                        ั                   ั
  ไว้ ที่ผิวในของหลอดเรื องแสงนันก็จะเปล่งแสงได้ โดยให้ แสงสีตางๆ ตามชนิดของสารเรื องแสงที่
                                ้                             ่
  ฉาบไว้ ภายในหลอดนัน เช่น แคดเมียมบอเรทจะให้ แสงสีชมพู ซิงค์ซิลิเคทให้ แสงสี
                         ้
  เขียว แมกนีเซียมทังสเตนให้ แสงสีขาวอมฟา และยังอาจผสมสารเหล่านี ้เพื่อให้ ได้ สีผสมที่
                                            ้
  แตกต่างออกไปอีกด้ วย
• ข้ อดีของหลอดเรืองแสง
• 1. มีประสิทธิภาพสูงกว่าหลอดไฟฟาธรรมดา เสียค่าไฟฟาเท่ากัน แต่ได้ ไฟที่สว่างกว่า
                                    ้                    ้
• 2. ให้ แสงที่เย็นตา กระจายไปทัวหลอด ไม่รวมเป็ นจุดเหมือนหลอดไฟฟาธรรมดา
                                  ่                                    ้
• 3. อาจจัดสีของแสงแปรเปลี่ยนได้ โดยการเปลี่ยนชนิดสารเรื องแสง
• 4. อุณหภูมิของหลอดเรื องแสงไม่สงเท่ากับหลอดไฟธรรมดาขณะทางาน
                                      ู
• 3. หลอดนีออน หรือหลอดไฟโฆษณา เป็ นอุปกรณ์ไฟฟาที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นแสงสว่าง มี
                                                            ้
  ลักษณะเป็ นหลอดแก้ วที่ถกลนไฟ ดัดเป็ นรูปหรื ออักษรต่างๆ สูบอากาศออกเป็ น
                                ู
  สูญญากาศ แล้ วใส่ก๊าซบางชนิดที่ให้ แสงสีตางๆ ออกมาได้ เมื่อมีกระแสไฟฟาผ่านหลอดชนิดนี ้
                                               ่                                  ้
  ไม่มีไส้ หลอดไฟ แต่ใช้ ขวไฟฟาทาด้ วยโลหะติดอยู่ที่ปลายทัง้ 2 ข้ าง แล้ วต่อกับแหล่งกาเนิด
                           ั้ ้
  ไฟฟาที่มีความต่างศักย์สงประมาณ 10,000 โวลต์ ซึงมีความต่างศักย์ที่สงมาก จะทาให้ ก๊าซที่
       ้                      ู                         ่                   ู
  บรรจุไว้ ในหลอดเกิดการแตกตัวเป็ นนีออนและนาไฟฟาได้ เมื่อกระแสไฟฟาผ่านก๊ าซเหล่านี ้จะ
                                                          ้                   ้
  ทาให้ ก๊าซร้ อนติดไฟให้ แสงสีตางๆ ได้
                                   ่
• ตัวอย่างก๊ าซชนิดต่างๆ ที่บรรจุในหลอดโฆษณา
• ก๊ าซนีออน ให้ แสงสีแดง
• ก๊ าซฮีเลียม ให้ แสงสีชมพู
• ก๊ าซอาร์ กอน ให้ แสงสีขาวอมน ้าเงิน และถ้ าใช้ ก๊าซต่างๆ ผสมกันก็จะได้ สีตางๆ ออกไป
                                                                                ่
  ข้ อแนะนาการใช้ หลอดไฟอย่างประหยัด
• 1. ใช้ หลอดเรื องแสงจะให้ แสงสว่างมากกว่าหลอดธรรมดาประมาณ 4 เท่า เมื่อใช้ พลังงานไฟฟ้ า
  เท่ากัน และอายุการใช้ งานจะทนกว่าประมาณ 8 เท่า
• 2. ใช้ แสงสว่างให้ เหมาะกับการใช้ งาน ที่ใดต้ องการแสงสว่างไม่มากนักควรติดไฟน้ อยดวง
• 3. ทาความสะอาดโป๊ ะไฟ จะให้ แสงสว่างเต็มที่
• 4. ปิ ดไฟทุกครังที่ไม่จาเป็ นต้ องใช้
                   ้
• จัดทาโดย
•   ด.ช.พลากร มูลทาทอง เลขที่ 9 ม.3/3
•   ด.ช.ภาณุเดช แก้ วก้ อน เลขที่ 10 ม.3/3
•   ด.ช.วัฒนา ถาคาดี            เลขที่ 11 ม.3/3
•   ด.ช.วีรวัฒน์ แก้ วประสิทธิ์ เลขที่ 12 ม.3/3
                                  เสนอ
                         ครู จิราภรณ์ ไชยมงคล
                       โรงเรี ยนฟากกว๊ านวิทยาคม

More Related Content

What's hot

ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305Jiraporn
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าI'am Jeed
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
Nontawat Rupsung
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiwush Pormchai
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33cororosang2010
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าteerawat2012
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้าpatarapan
 
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้างานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้าSarun Boonwong
 

What's hot (9)

ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
ไฟฟ้ากลุ่มที่ 1 ม305
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 
ไฟฟ้า 303
ไฟฟ้า 303ไฟฟ้า 303
ไฟฟ้า 303
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้างานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
 

Viewers also liked

Medical tourism new
Medical tourism   newMedical tourism   new
Medical tourism new
Nilu Pareek
 
Heartland 2050 Food Insecurity
Heartland 2050 Food InsecurityHeartland 2050 Food Insecurity
Heartland 2050 Food Insecurity
Heartland2050
 
Steering Committee Presentation- Nov2013
Steering Committee Presentation- Nov2013Steering Committee Presentation- Nov2013
Steering Committee Presentation- Nov2013
Heartland2050
 
Steering Committee-Apr2014- Equity & Engagement Committee Update
Steering Committee-Apr2014- Equity & Engagement Committee UpdateSteering Committee-Apr2014- Equity & Engagement Committee Update
Steering Committee-Apr2014- Equity & Engagement Committee Update
Heartland2050
 
Steering Committee-Apr2014- Vision Committee Structure
Steering Committee-Apr2014- Vision Committee StructureSteering Committee-Apr2014- Vision Committee Structure
Steering Committee-Apr2014- Vision Committee Structure
Heartland2050
 
Transformational Transportation Technologies Workshop
Transformational Transportation Technologies WorkshopTransformational Transportation Technologies Workshop
Transformational Transportation Technologies Workshop
Heartland2050
 
Steering Committee-Minutes-June2013
Steering Committee-Minutes-June2013Steering Committee-Minutes-June2013
Steering Committee-Minutes-June2013
Heartland2050
 
MAPA Startup Challenge Presentation
MAPA Startup Challenge PresentationMAPA Startup Challenge Presentation
MAPA Startup Challenge Presentation
Heartland2050
 
Capacitacion tesis
Capacitacion tesisCapacitacion tesis
Capacitacion tesis
Luizz Angel Suárez
 
Heartland 2050 meeting 3
Heartland 2050 meeting 3 Heartland 2050 meeting 3
Heartland 2050 meeting 3
Heartland2050
 
Heartland 2050 Healthy Homes
Heartland 2050 Healthy HomesHeartland 2050 Healthy Homes
Heartland 2050 Healthy Homes
Heartland2050
 
Heartland 2050 Infill in Midtown and East Omaha
Heartland 2050 Infill in Midtown and East OmahaHeartland 2050 Infill in Midtown and East Omaha
Heartland 2050 Infill in Midtown and East Omaha
Heartland2050
 
Heartland 2050 Council Bluffs West Broadway
Heartland 2050 Council Bluffs West BroadwayHeartland 2050 Council Bluffs West Broadway
Heartland 2050 Council Bluffs West Broadway
Heartland2050
 
Heartland 2050 Winter Summit Enhancing Transportation Demand Management
Heartland 2050 Winter Summit Enhancing Transportation Demand ManagementHeartland 2050 Winter Summit Enhancing Transportation Demand Management
Heartland 2050 Winter Summit Enhancing Transportation Demand Management
Heartland2050
 
Red Hat OpenShift Container Platform Overview
Red Hat OpenShift Container Platform OverviewRed Hat OpenShift Container Platform Overview
Red Hat OpenShift Container Platform Overview
James Falkner
 
كتابة الخبر والتحقيق الصحفي
كتابة الخبر والتحقيق الصحفيكتابة الخبر والتحقيق الصحفي
كتابة الخبر والتحقيق الصحفي
Hassan Khedr
 
الصحافة وتطورها والقوالب الصحفية
الصحافة وتطورها والقوالب الصحفيةالصحافة وتطورها والقوالب الصحفية
الصحافة وتطورها والقوالب الصحفية
Hassan Khedr
 

Viewers also liked (17)

Medical tourism new
Medical tourism   newMedical tourism   new
Medical tourism new
 
Heartland 2050 Food Insecurity
Heartland 2050 Food InsecurityHeartland 2050 Food Insecurity
Heartland 2050 Food Insecurity
 
Steering Committee Presentation- Nov2013
Steering Committee Presentation- Nov2013Steering Committee Presentation- Nov2013
Steering Committee Presentation- Nov2013
 
Steering Committee-Apr2014- Equity & Engagement Committee Update
Steering Committee-Apr2014- Equity & Engagement Committee UpdateSteering Committee-Apr2014- Equity & Engagement Committee Update
Steering Committee-Apr2014- Equity & Engagement Committee Update
 
Steering Committee-Apr2014- Vision Committee Structure
Steering Committee-Apr2014- Vision Committee StructureSteering Committee-Apr2014- Vision Committee Structure
Steering Committee-Apr2014- Vision Committee Structure
 
Transformational Transportation Technologies Workshop
Transformational Transportation Technologies WorkshopTransformational Transportation Technologies Workshop
Transformational Transportation Technologies Workshop
 
Steering Committee-Minutes-June2013
Steering Committee-Minutes-June2013Steering Committee-Minutes-June2013
Steering Committee-Minutes-June2013
 
MAPA Startup Challenge Presentation
MAPA Startup Challenge PresentationMAPA Startup Challenge Presentation
MAPA Startup Challenge Presentation
 
Capacitacion tesis
Capacitacion tesisCapacitacion tesis
Capacitacion tesis
 
Heartland 2050 meeting 3
Heartland 2050 meeting 3 Heartland 2050 meeting 3
Heartland 2050 meeting 3
 
Heartland 2050 Healthy Homes
Heartland 2050 Healthy HomesHeartland 2050 Healthy Homes
Heartland 2050 Healthy Homes
 
Heartland 2050 Infill in Midtown and East Omaha
Heartland 2050 Infill in Midtown and East OmahaHeartland 2050 Infill in Midtown and East Omaha
Heartland 2050 Infill in Midtown and East Omaha
 
Heartland 2050 Council Bluffs West Broadway
Heartland 2050 Council Bluffs West BroadwayHeartland 2050 Council Bluffs West Broadway
Heartland 2050 Council Bluffs West Broadway
 
Heartland 2050 Winter Summit Enhancing Transportation Demand Management
Heartland 2050 Winter Summit Enhancing Transportation Demand ManagementHeartland 2050 Winter Summit Enhancing Transportation Demand Management
Heartland 2050 Winter Summit Enhancing Transportation Demand Management
 
Red Hat OpenShift Container Platform Overview
Red Hat OpenShift Container Platform OverviewRed Hat OpenShift Container Platform Overview
Red Hat OpenShift Container Platform Overview
 
كتابة الخبر والتحقيق الصحفي
كتابة الخبر والتحقيق الصحفيكتابة الخبر والتحقيق الصحفي
كتابة الخبر والتحقيق الصحفي
 
الصحافة وتطورها والقوالب الصحفية
الصحافة وتطورها والقوالب الصحفيةالصحافة وتطورها والقوالب الصحفية
الصحافة وتطورها والقوالب الصحفية
 

Similar to เครื่องใช้ไฟฟ้า

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1boom500937
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1boom500937
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0887946598532
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0286983445
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0887946598532
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong20155
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiwush Pormchai
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าchindekthai01
 
งาน Sideshare
งาน Sideshareงาน Sideshare
งาน SideshareThananop
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305คณากรณ์ อุปปิง
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305คณากรณ์ อุปปิง
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSarun Boonwong
 
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้านvisavavit Phonthioua
 

Similar to เครื่องใช้ไฟฟ้า (20)

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
งาน Sideshare
งาน Sideshareงาน Sideshare
งาน Sideshare
 
งาน Sideshare
งาน Sideshareงาน Sideshare
งาน Sideshare
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
 
ประเภทพลังงานไฟฟ้า
ประเภทพลังงานไฟฟ้าประเภทพลังงานไฟฟ้า
ประเภทพลังงานไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
 
G8injv'.=hwaahk
G8injv'.=hwaahkG8injv'.=hwaahk
G8injv'.=hwaahk
 

เครื่องใช้ไฟฟ้า

  • 2. ความหมายของเครื่ องใช้ไฟฟ้ า • เครื่องใช้ ไฟฟา คือ อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานรูปอื่น ้ ้ เพื่อนาไปใช้ ในชีวิตประจาวัน
  • 3. เครื่ องใช้ไฟฟ้ า แบ่งออกเป็ น 4 ประเภท • 1. เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ แสงสว่าง ้ • 2. เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ ความร้ อน ้ • 3. เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานกล ้ • 4. เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานเสียง ้
  • 4. 1.เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้แสงสว่าง คือ • เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ แสงสว่าง ้ • หลอดไฟฟา เป็ นเครื่ องใช้ ไฟฟาที่มีใช้ ในทุกบ้ านที่มีการใช้ พลังงานไฟฟา เป็ น ้ ้ ้ เครื่ องใช้ ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟา ไปเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาที่ใช้ ทวไป มี 3 ชนิด คือ ้ ้ ั่ • 1. หลอดไฟฟาแบบธรรมดา ้ • 2. หลอดเรื่ องแสงหรื อหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) • 3. หลอดไฟโฆษณาหรื อหลอดนีออน
  • 5. 1.1 หลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดา • หลอดไฟฟาแบบธรรมดา มีการเปลี่ยนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานความ ้ ้ ร้ อน แล้ วจึงเปลี่ยนเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟาแบบธรรมดามี 2 แบบ คือแบบเกลียวและแบบ ้ เขี ้ยว มีส่วนประกอบดังนี ้ • 1. ไส้ หลอด ทาด้ วยโลหะที่มีจดหลอดเหลวสูง ทนความร้ อนได้ มาก มีความทานสูง เช่น ุ ทังสเตน • 2. หลอดแก้ วทาจากแก้ วที่ทนความร้ อนได้ ดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจนหมดภายใน บรรจุก๊าซไนโตรเจนและอาร์ กอนเล็กน้ อย ก๊ าซชนิดนี ้ทาปฏิกิริยายาก ช่วยปองกันไม่ให้ ไส้ หลอด ้ ระเหิดไปจับที่หลอดแก้ ว และช่วยไม่ให้ ไส้ หลอดไม่ขาดง่าย ถ้ าบรรจุก๊าซออกซิเจนจะทา ปฏิกิริยากับไส้ หลอด ซึงทาให้ ไส้ หลอดขาดง่าย ่ • 3. ขัวหลอดไฟ เป็ นจุดต่อวงจรไฟฟา มี 2 แบบ คือ แบบเขี ้ยวและแบบเกลียว ้ ้ • เนื่องจากหลอดไฟฟาประเภทนี ้ให้ แสงสว่างได้ ด้วยการเปล่ยนพลังงานไฟฟาเป็ น ้ ้ พลังงานความร้ อนก่อนที่จะให้ แสงสว่างออกมา จึงทาให้ สิ ้นเปลื่อง พลังงานไฟฟา มากกว่า ้ หลอดชนิดอื่น ในขนาด กาลังไฟฟ้ า ของหลอดไฟซึงจะกาหนดไว้ ที่หลอดไฟทุกดวง เช่น หลอด ่ ไฟาขนาด 100 วัตต์ เป็ นต้ น ้
  • 6. 1.2 หลอดเรื องแสงหรื อหลอดฟลูออเรสเซนต์ • หลอดเรื องแสงหรื อหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้ วยหลอดแก้ วที่สบ ู อากาศออกจนหมดแล้ วบรรจุไอปรอทไว้ เล็กน้ อย มีไส้ ที่ปลายหลอดทังสองข้ าง หลอดเรื องแสง ้ อาจทาเป็ นหลอดตรง หรื อครึ่งวงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางานของหลอดเรื องแสง มี ดังนี ้ 1. ตัวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้ วบรรจุไอปรอทและก๊ าซอาร์ กอน เล็กน้ อย ผิวด้ านในของหลอดเรื องแสงฉาบด้ วยสารเรื องแสงชนิดต่างๆ แล้ วแต่ความต้ องการให้ เรื องแสงเป็ นสีใด เช่น ถ้ าต้ องการให้ เรื องแสงสีเขียว ต้ องฉาบด้ วยสารซิงค์ซิลิเคต แสงสีขาวแกม ฟาฉาบด้ วยมักเนเซียมทังสเตน แสงสีชมพูฉาบด้ วยแคดเนียมบอเรต เป็ นต้ น ้ 2. ไส้ หลอด ทาด้ วยทังสเตนหรื อวุลแฟรมอยู่ที่ปลายทังสองข้ าง เมื่อกระแสไฟฟาผ่านไส้ ้ ้ หลอดจะทาให้ ไส้ หลอดร้ อนขึ ้น ความร้ อนที่เกิดขึ ้นจะทาให้ ไอปรอทที่บรรจุไว้ ในหลอดกลายเป็ น ไอมากขึ ้น แต่ขณะนันกระแสไฟฟายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก เพราะปรอทยังเป็ นไอน้ อยทาให้ ้ ้ ความต้ านทานของหลอดสูง
  • 7. • 4. แบลลัสต์ เป็ นขดลวดที่พนอยู่บนแกนเหล็ก ขณะกระแสไฟฟาไหลผ่านจะเกิดการเหนี่ยวนา ั ้ แม่เหล็กไฟฟาทาให้ เกิดแรงเคลื่อนไฟฟาเหนี่ยวนาขึ ้น เมื่อแผ่นโลหะคูในสตาร์ ตเตอร์ แยกตัว ้ ้ ่ ออกจากกันนันจะเกิดวงจรเปิ ดชัวขณะ แรงเคลื่อนไฟฟาเหนี่ยวนาที่เกิดขึ ้นในแบลลัสต์จึงทา ้ ่ ้ ให้ เกิดความต่างศักย์ระหว่างไส้ หลอดทังสองข้ างสูงขึ ้นเพียงพอที่จะทาให้ กระแสไฟฟาไหลผ่าน ้ ้ ไอปรอทจากไส้ หลอดข้ างหนึงไปยังไส้ หลอดอีกข้ างหนึงได้ แรงเคลื่อนไฟฟาเหนี่ยวนาที่เกิด ่ ่ ้ จากแบลลัสต์นนจะทาให้ เกิดกระแสไฟฟาเหนี่ยวนาไหลสวนทางกับกระแสไฟฟาจากวงจรไฟฟา ั้ ้ ้ ้ ในบ้ าน ทาให้ กระแส ไฟฟาที่จะเข้ าสู่วงจรของหลอดเรื องแสงลดลง ้ • หลักการทางานของหลอดเรื องแสง เมื่อกระแสไฟฟาผ่านไอปรอทจะคายพลังงานไฟฟาให้ อะตอมไอปรอท ทาให้ อะตอมของ ้ ้ ไอปรอทอยู่ในสภาวะถูกกระตุ้น (excited state) และอะตอมของปรอทจะคายพลังงาน ออกมาเพื่อลดระดับพลังงาน ในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต ซึงอยู่ในช่วงของแสงที่มองไม่เห็น ั ่ เมื่อรังสีนี ้กระทบสารเรื องแสงที่ฉาบไว้ ที่ผิวหลอด สารเรื องแสงจะเปล่งแสงสีต่างๆตามชนิดของ สารเรื องแสงที่ฉาบไว้ ในหลอดนัน ้ • ข้ อดีของหลอดเรื องแสง 1. เมื่อให้ พลังงานไฟฟาเท่ากันจะให้ แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดาประมาณ ้ ้ 4 เท่า และมีอายุการใช้ งานนานกว่าหลอดไฟฟาธรรมดาประมาณ 8 เท่า ้ 2. อุณหภูมิของหลอดไม่สงเท่ากับหลอดไฟฟาแบบธรรมดา ู ้ 3. ถ้ าต้ องการแสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟาธรรมดา จะใช้ วตต์ที่ต่ากว่า จึงเสียค่าไฟฟา ้ ั ้ น้ อยกว่า
  • 8. ข้ อเสียของหลอดเรื องแสง 1. เมื่อติดตังจะเสียค่าใช้ จ่ายสูงกว่าหลอดไฟฟาแบบธรรมดา เพราะต้ องใช้ แบลลัสต์และ ้ ้ สตาร์ ตเตอร์ เสมอ 2. หลอดเรื องแสงมักระพริ บเล็กน้ อยไม่เหมาะในการใช้ อ่านหนังสือ • ตัวเลขที่ปรากฏบนหลอดไฟฟาธรรมดาและหลอดเรื องแสงซึงบอก กาลังไฟฟาเป็ นวัตต์ ้ ่ ้ (W) เป็ นการบอกถึงปริ มาณพลังงานไฟฟาที่ใช้ ไปใน 1 วินาที เช่น 20 W หมายถึง หลอด ้ ไฟฟานี ้จะใช้ พลังงานไป 20 จูลในเวลา 1 วินาที ดังนันหลอดไฟฟาและหลอดเรื องแสงที่มี ้ ้ ้ กาลังไฟฟามาก เมื่อใช้ งานก็ยิ่งสิ ้นเปลืองกระแสไฟฟามาก ทาให้ เสียค่าใช้ จ่ายมากขึ ้น ้ ้ ด้ วย ปั จจุบนมีการผลิตหลอดไฟพร้ อมอุปกรณ์ประกอบ เช่น บัลลาสต์ แบบประหยัดพลังงาน ั ขึ ้นมาใช้ หลายชนิด เช่น หลอดตะเกียบ หลอดผอม บัลลาสต์เบอร์ 5 เป็ นต้ น
  • 9. 1.3 หลอดไฟฟ้ าโฆษณาหรื อหลอดนีออน • หลอดไฟโฆษณาหรื อหลอดนีออน • หลอดไฟโฆษณาหรื อหลอดนีออน เป็ นหลอดแก้ วทีถกลนไฟแล้ วดัดให้ เป็ น ่ ู รูปหรื อตัวอักษร ไม่มีไส้ หลอดแต่ทปลายทังสองข้ างจะมีขวไฟฟาทาด้ วยโลหะ ต่อกับ ี่ ้ ั้ ้ แหล่งกาเนิดไฟฟา ที่มีความต่างศักย์สงประมาณ 10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบ ้ ู อากาศออกจนหมดแล้ วใส่ก๊าซบางชนิดที่ให้ แสงสีตางๆออกมาเมื่อมีกระแสไฟฟาผ่าน ่ ้ เช่นก๊ าซนีออนให้ แสงสีแดงหรื อส้ ม ก๊ าซฮีเลียมให้ แสงสีชมพู ความต่างศักย์ทสงมากๆ ี่ ู จะทาให้ ก๊าซที่บรรจุไว้ ในหลอดเกิดการแตกตัวเป็ นอิออน และนาไฟฟาได้ เมื่อ ้ กระแสไฟฟาผ่านก๊ าซเหล่านี ้จะทาให้ ก๊าซร้ อนติดไฟให้ แสงสีตางๆได้ ้ ่
  • 10. 2.เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้ความร้อน • เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานความร้ อน ้ • เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานความร้ อน เป็ นเครื่ องใช้ ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ น ้ ้ พลังงานความร้ อน โดยใช้ หลักการคือ เมื่อปล่อยกระแสไฟฟาผ่านขดลวดตัวนาที่มีความ ้ ต้ านทานสูงๆ ลวดตัวนานันจะร้ อนจนสามารถนาความร้ อนออกไปใช้ ประโยชน์ได้ เนื่องจากเป็ น ้ เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานความร้ อนมาก จึงสิ ้นเปลี่ยนพลังงานไฟฟามากเมื่อเปรี ยบกับการใช้ ้ ้ เครื่ องใช้ ไฟฟาประเภทอื่นๆ มือใช้ ในเวลาที่เท่ากัน ฉะนันขณะใช้ เครื่ องใช้ ไฟฟาให้ พลังงาน ้ ้ ้ ความร้ อนจึงควรใช้ ด้วยความระมัดระวัง ตัวอย่างเครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานความร้ อน เช่น ้ เตารี ด หม้ อหุงข้ าว กระทะไฟฟา กาต้ มน ้า เครื่ องต้ มกาแฟ เตาไฟฟา ฯลฯ ้ ้
  • 11. 3. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล • เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานกล ้ • เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานกล มีการเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานกล โดย ้ ้ อาศัยหลักการเหนี่ยวนาแม่เหล็กไฟฟา ด้ วยอุปกรณ์ ที่เรี ยกว่า มอเตอร ์์ และ เครื่ องควบคุม ้ ความเร็ ว ซึงเป็ นอุปกรณ์หลักในเครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานกล ตัวอย่าง เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ ่ ้ ้ พลังงานกล เช่น เครื่ องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่ องดูดฝุ่ น พัดลม เครื่ องซักผ้ า เครื่ องปั่ นน ้าผลไม้ ฯลฯ •
  • 12. 4. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานเสี ยง • เครื่ องใช้ ไฟฟาที่ให้ พลังงานเสียง ้ • เครื่ องใช้ ไฟฟาที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง ได้ แก่ เครื่ องรับวิทย เครื่ อง ้ ้ ขยายเสียง เครื่ องบันทึกเสียง ฯลฯ • เครื่ องรับวิทยุ เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสียง โดยรับ ้ คลื่นวิทยุ จากสถานีสงแล้ วใช้ อปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงที่มีอยู่ในรูปของ ่ ุ สัญญาณไฟฟาให้ แรงขึ ้นเมื่อผ่านสัญญาณไฟฟานี ้ไปยังลาโพงจะทาให้ ลาโพงสันสะเทือน ้ ้ ่ เปลี่ยนเป็ นเสียงที่สามารถรับฟั งได้ ดังแผนผัง
  • 13. • หลักการทางานของหลอดเรืองแสง • เมื่อกระแสไฟฟาผ่านไส้ หลอดจะทาให้ ไส้ หลอดร้ อนขึ ้น ความร้ อนที่เกิดทาให้ ปรอทที่บรรจุไว้ ใน ้ หลอดกลายเป็ นไอมากขึ ้น เมื่อกระแสไฟฟาผ่านไอปรอทได้ จะคายพลังงานไฟฟาให้ ไอปรอท ทา ้ ้ ให้ อะตอมของไอปรอทอยู่ในภาวะถูกกระตุ้น และอะตอมปรอทจะคายพลังงานออกมาเพื่อลด ระดับพลังงานของตนในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต เมื่อรังสีดงกล่าวกระทบสารเรื องแสงที่ฉาบ ั ั ไว้ ที่ผิวในของหลอดเรื องแสงนันก็จะเปล่งแสงได้ โดยให้ แสงสีตางๆ ตามชนิดของสารเรื องแสงที่ ้ ่ ฉาบไว้ ภายในหลอดนัน เช่น แคดเมียมบอเรทจะให้ แสงสีชมพู ซิงค์ซิลิเคทให้ แสงสี ้ เขียว แมกนีเซียมทังสเตนให้ แสงสีขาวอมฟา และยังอาจผสมสารเหล่านี ้เพื่อให้ ได้ สีผสมที่ ้ แตกต่างออกไปอีกด้ วย • ข้ อดีของหลอดเรืองแสง • 1. มีประสิทธิภาพสูงกว่าหลอดไฟฟาธรรมดา เสียค่าไฟฟาเท่ากัน แต่ได้ ไฟที่สว่างกว่า ้ ้ • 2. ให้ แสงที่เย็นตา กระจายไปทัวหลอด ไม่รวมเป็ นจุดเหมือนหลอดไฟฟาธรรมดา ่ ้ • 3. อาจจัดสีของแสงแปรเปลี่ยนได้ โดยการเปลี่ยนชนิดสารเรื องแสง • 4. อุณหภูมิของหลอดเรื องแสงไม่สงเท่ากับหลอดไฟธรรมดาขณะทางาน ู
  • 14. • 3. หลอดนีออน หรือหลอดไฟโฆษณา เป็ นอุปกรณ์ไฟฟาที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นแสงสว่าง มี ้ ลักษณะเป็ นหลอดแก้ วที่ถกลนไฟ ดัดเป็ นรูปหรื ออักษรต่างๆ สูบอากาศออกเป็ น ู สูญญากาศ แล้ วใส่ก๊าซบางชนิดที่ให้ แสงสีตางๆ ออกมาได้ เมื่อมีกระแสไฟฟาผ่านหลอดชนิดนี ้ ่ ้ ไม่มีไส้ หลอดไฟ แต่ใช้ ขวไฟฟาทาด้ วยโลหะติดอยู่ที่ปลายทัง้ 2 ข้ าง แล้ วต่อกับแหล่งกาเนิด ั้ ้ ไฟฟาที่มีความต่างศักย์สงประมาณ 10,000 โวลต์ ซึงมีความต่างศักย์ที่สงมาก จะทาให้ ก๊าซที่ ้ ู ่ ู บรรจุไว้ ในหลอดเกิดการแตกตัวเป็ นนีออนและนาไฟฟาได้ เมื่อกระแสไฟฟาผ่านก๊ าซเหล่านี ้จะ ้ ้ ทาให้ ก๊าซร้ อนติดไฟให้ แสงสีตางๆ ได้ ่ • ตัวอย่างก๊ าซชนิดต่างๆ ที่บรรจุในหลอดโฆษณา • ก๊ าซนีออน ให้ แสงสีแดง • ก๊ าซฮีเลียม ให้ แสงสีชมพู • ก๊ าซอาร์ กอน ให้ แสงสีขาวอมน ้าเงิน และถ้ าใช้ ก๊าซต่างๆ ผสมกันก็จะได้ สีตางๆ ออกไป ่ ข้ อแนะนาการใช้ หลอดไฟอย่างประหยัด • 1. ใช้ หลอดเรื องแสงจะให้ แสงสว่างมากกว่าหลอดธรรมดาประมาณ 4 เท่า เมื่อใช้ พลังงานไฟฟ้ า เท่ากัน และอายุการใช้ งานจะทนกว่าประมาณ 8 เท่า • 2. ใช้ แสงสว่างให้ เหมาะกับการใช้ งาน ที่ใดต้ องการแสงสว่างไม่มากนักควรติดไฟน้ อยดวง • 3. ทาความสะอาดโป๊ ะไฟ จะให้ แสงสว่างเต็มที่ • 4. ปิ ดไฟทุกครังที่ไม่จาเป็ นต้ องใช้ ้
  • 15. • จัดทาโดย • ด.ช.พลากร มูลทาทอง เลขที่ 9 ม.3/3 • ด.ช.ภาณุเดช แก้ วก้ อน เลขที่ 10 ม.3/3 • ด.ช.วัฒนา ถาคาดี เลขที่ 11 ม.3/3 • ด.ช.วีรวัฒน์ แก้ วประสิทธิ์ เลขที่ 12 ม.3/3 เสนอ ครู จิราภรณ์ ไชยมงคล โรงเรี ยนฟากกว๊ านวิทยาคม