SlideShare a Scribd company logo
1 of 50
Download to read offline
การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิ ต
             จัดทาโดย
      1.ด.ญ จิดาภา ลอยเมฆ
   2.ด.ญ ธิ ดารัตน์ เพ็ญพันธ์นาค
     3.ด.ญ บุษกร พันธุ์คุมเก่า
                            ้
    4.ด.ญ ปนัดดา จิตธนานนท์
      5.ด.ญ รุ่ งอรุ ณ ศรี สว่าง
    6. ด.ญ วรรณกร ช่ออัญชัญ
    7.ด.ญ กมลชนก นันทวัตร
                เสนอ
     อ.กฤษตยช ทองธรรมชาติ
        มัธยมศึกษาปี ที่2/1
คานา
รายงานเรื่ องนี้จดทาขึ้นเพื่อเพือนๆพี่ๆน้องๆได้ศึกษาเกี่ยวกับ
                 ั              ่
วิชาคณิ ตในเรื่ องของการประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิ ต
        และได้นะไปใช้ประโยชน์ต่อไปไม่มากก็นอย      ้
                                              ผูจดทา
                                                ้ั
สารบัญ
•   เรื่ อง                                         หน้ า
•   การประยุกต์ ของการเปลี่ยนแปลงทางเรขาคณิต       1
•   การประยุกต์ ของการเลื่อนขนาน                   2-6
•   สมบัตของการเลื่อน
            ิ                                     7 -17
•   โจทย์ ประยุกต์ ของการเลื่อนขนาน            18-26
•   โจทย์ ประยุกต์ ของการสะท้ อน               27-31
•   การประยุกต์ การหมุน                         32-38
•   สมบัตการหมุน
              ิ                                  33-43
•   โจทย์ ประยุกต์ ของการหมุน                   44-50
•   การประยุกต์ ของการสะท้ อน                   51-60
•              การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต
•       การแปลงทางเรขาคณิต เป็ นการเปลี่ยนตาแหน่ งของรูปเรขาคณิต
  โดยลักษณะและขนาดของรูปยังคงเดิม การเปลี่ยนตาแหน่ งของรูป
  เรขาคณิตที่จะศึกษาในบทนีเ้ ป็ นการเปลี่ยนตาแหน่ งของรูปเรขาคณิต
  โดยการเลื่อนขนาน
• การสะท้ อน และการหมุน
•       รูปต้ นแบบ คือ รูปเรขาคณิตที่จะนาไปเปลี่ยนตาแหน่ งโดยการ
  เลื่อนขนาน การสะท้ อน หรือ การหมุน
การประยุกต์ของการเลื่อนขนาน
    การเลื่อนขนานบนระนาบเป็ นการแปลงทางเรขาคณิตที่มีการเลื่อน
 จุดทุกจุดไปบนระนาบตามแนวเส้ นตรงในทิศทางเดียวกัน และเป็ น
 ระยะทางเท่ ากันตามที่กาหนด
พิจารณาการเลื่อนรูปสามเหลี่ยมABCD
                   C                 C’
              D                D’
                    B
              A               A’     B’
• จากรูป มีการเลื่อนจุด a ไปที่จด a’
                                 ุ
•              เลื่อนจุด b ไปที่จด b’ุ
•              เลื่อนจุด c ไปที่จด c’
                                   ุ
•              เลื่อนจุด d ไปที่จด d’  ุ
• ในทิศทางเดียวกันและเป็ นระยะทางเท่ากัน
• จะได้ วา aa’ , bb’ , cc’ , dd’ ขนานกันและยาวเท่ากัน
         ่

• หมายเหตุ จุด a กับจุด a’ , จุด b กับจุด b’ , จุด c กับจุด c’และจุด d กับ
  จุด d’ เรี ยกว่า จุดที่สมนัยกัน
• ตัวอย่ างที่ 1 กาหนดรูป ABC เป็ นรูปต้ นแบบ ดังรูป จงสร้ างรูปที่ได้
  จากการเลื่อนขนานรูป ABC ขนานกับรังสี PQ และห่ างไปเท่ ากับ
  ความยาวของส่ วนของเส้ นตรง PQ

                                B      P
                   A




                                                 Q
                         C
• วิธีทา

                             B
                    A


                        C                       B’
                                        A’


                                          C’
1. ลากเส้ นประ AA’ , BB’ และ CC’ ให้ ขนานกับรังสี PQ และให้ AA’ = BB’ = PQ
2. ลาก A’B’ , B’C’ และ C’A’ จะได้ รูป A’B’C’ เป็ นรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูป
  ABC ไปในทิศทางเดียวกับรังสี PQ และมีระยะทางห่างเท่ากับความยาวของส่วนของ
   เส้ นตรง PQ
• ข้ อสังเกต 1.รูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานกับรูปต้ นแบบเท่ ากันทุก
  ประการ
•             2.AA’= BB’= CC’
•           3.AA’ // BB’ // CC’
• สมบัติของการเลื่อนขนาน
• 1.สามารถเลื่อนรูปต้ นแบบทับภาพที่ได้ จากการเลื่อนขนานได้ สนิทโดยไม่ต้อง
  พลิกรูปหรื อกล่าวว่า รูปต้ นแบบและภาพที่ได้ จากการเลื่อนขนานเท่ากันทุก
  ประการ
• 2.ส่วนของเส้ นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดที่สมนัยกันแต่ละคูจะขนานกันและยาว
                                                         ่
  เท่ากันทุกเส้ น
• 3.ส่วนของเส้ นตรงบนรูปต้ นแบบและภาพที่ได้ จากการเลื่อนขนานของส่วน
  ของเส้ นตรงนันจะขนานกันและยาวเท่ากัน
                  ้
• ตัวอย่างที่ 2 กาหนดรูปสามเหลี่ยม pqr เป็ นรูปต้ นแบบ ดังรูป
                                  Y

                              Q

                    P

                             R
                                 O                 X
• 1) จงสร้ างรูปที่ได้ จากเลื่อนขนานรูปสามเหลี่ยมPQR ขนานกับแกนxไป
  ทางขวา6หน่วย
• 2)จงสร้ างรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูปสามเหลี่ยมPQRขนานกับแกนYลงมา
  ด้ านล่าง5หน่วย
• วิธีทา จากรูป จะได้ พิกดของรูปสามเหลี่ยมPQRคือp(-5,3),q(-1,4)และR
                          ั
  (-2,1)
• 1)เลื่อนญ(-5,3),q(-1,4)ขนานกับแกนxไปทางขวา6หน่วย ดังนี ้
• วิธีทา
                       Y


               Q                 Q’
           P
                           P’
               R                R’
                                      X
                   o
•       จะได้ รูปสามเหลี่ยม p’q’r’ เป็ นรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูป
    สามเหลี่ยม
•   pqr ขนานกับแกน x ไปทางขวา 6 หน่ วย
•       พิกัดของจุด p’ คือ ( -5+6,3) = (1,3)
•       พิกัดของจุด q’ คือ (-1+6,4) = (5,4)
•       พิกัดของจุด r’ คือ (-2+6,1) = (4,1)
•   2) เลื่อน p (-5,3), q(-1,4) และ r(-2,1) ขนานกับแกน y ลงมา
    ด้ านล่ าง
•   5 หน่ วย ดังนี ้
• 1.
                    Y

                 Q

        P
             R
                         X
                   Q’’
       P’’

             R’’
•       จะได้ รูปสามเหลี่ยม p’’q’’r’’ เป็ นรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูป
    สามเหลี่ยม pqr ขนานกับแกน y ลงมาด้ านล่ าง 5 หน่ วย
•        พิกัดของจุด p’’ คือ (-5,3-5) = (-5,-2)
•        พิกัดของจุด q’’ คือ (-1,4-5) = (-1,-1)
•         พิกัดของจุด r’’ คือ (-2,1-5) = (-2,-4)
•   ข้ อสังเกต 1) เมื่อเลื่อนรูปต้ นแบบขนานกับแกน x เฉพาะสมาชิกตัว
    แรกของพิกดของจุดของรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานเท่ านันที่
                 ั                                             ้
    เปลี่ยนแปลง ส่ วนสมาชิกตัวหลังของพิกัดของจุดคงเดิม
•                  2) เมื่อเลื่อนรูปต้ นแบบขนานกับแกน y เฉพาะสมาชิกตัว
    หลังของพิกัดของจุดของรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานเท่ านันที่   ้
    เปลี่ยนแปลง ส่ วนสมาชิกตัวแรกของพิกัดของจุดคงเดิม
ตัวอย่างที่ 3 กาหนดรูปสี่เหลี่ยม abcd เป็ นรูปต้ นแบบ จงสร้ างรูปสี่เหลี่ยม
a’’b’’c’’d’’ ซึงเป็ นรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูปสี่เหลี่ยม abcd ขนานกับแกน
               ่
X ไปทางซ้ าย 8 หน่วยและขนานกับแกน y ลงมาด้ านล่าง 7 หน่วย
                                  Y

                                                 C
                                        D

                                    A        B
                                O                    X
• วิธีทา จากโจทย์ การเลื่อนขนานรูปสี่เหลียม abcd จะต้ องเลื่อนขนาน 2 ครัง
                                         ่                              ้
• คือครังที่ 1 เลื่อนขนานกับแกน x ไปทางซ้ าย 8 หน่วย ดังนี ้
        ้
                                      y



                                 C’                  C
                      D’                  D
                               B’                B
                     A’                   A
                                    o                    x




• จะได้ รูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานครึงที่1คือ รูปสี่เหลี่ยม A’B’C’D’
                                     ้
• ครังที่ 2 เลื่อนขนานกับแกน y ลงมาด้ านล่าง 7 หน่วย
     ้

                                 Y




                                                       X
                                     o
•




• จะได้ รูปสี่เหลี่ยม a’’b’’c’’d’’ เป็ นรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนาน
  รูปสี่เหลี่ยม
• ABCD ขนานกับแกน x ไปทางซ้ าย 8 หน่ วย และขนานกับ
  แกน y ลงมาด้ านล่ าง 7 หน่ วยตามต้ องการ
โจทย์ประยุกต์ของการเลื่อนขนาน
• เราสามารถนาความรู้เรื่องการเลื่อนขนานมาประยุกต์ ใช้
  แก้ ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ได้ ดังตัวอย่ าง ต่ อไปนี ้
• ตัวอย่ างที่ 4 จงหาพืนที่โดยประมาณของส่ วนที่แรเงาของรูป
                       ้
  ต่ อไปนี ้
• วิธีทา จากการคาดคะเน ถ้ าใช้ การเลื่อนขนานส่ วนโค้ ง EC ด้ วย
  CD
• ให้ ต่อกับส่ วนโค้ ง ed จะได้ รูปครึ่งวงกลมที่มี รัศมี ยาว 14 ซม.
  ดังรูป
• นั่นคือหาพืนที่ของส่ วนที่แรเงาได้ โดยนาพืนที่ของรูป
             ้                                ้
  ABCD ลบด้ วยพืนที่รูปครึ่งวงกลมที่มีรัศมี 14 ซม. นั่นเอง
                     ้
• จากรูป       ABCD กว้ าง 14 ซม. ยาว 28 ซม.
• พืนที่ของ
     ้           ABCD                = กว้ าง x ยาว
•                                = 14 x 28
•                                = 392 ตาราง ซม.
• พืนที่ของรูป ครึ่งวงกลมประมาณ = 1 ∏r²
       ้
•                                     2
•                                    1х2214x14
•                                    2 7
•                                 = 308 ตาราง ซม.
• ดังนันพืนที่โดยประมาณของส่ วนที่แรเงา = 392 – 308
       ้ ้
•                                   = 84 ตาราง ซม.
• ตอบ ประมาณ 84 ตารางเซนติเมตร
ตัวอย่างที่ 5 หมูบ้านโคมลอยตังอยูที่ ตาแหน่ง p และหมูบ้านโคมขัน
                  ่             ้ ่                   ่
ตังอยูที่ตาแหน่ง Q โดยมีถนน กัน ระหว่างหมูบ้านทัง้ 2 ดังแผนภาพ
    ้ ่                            ้         ่
ทางการต้ องการสร้ างสะพานลอย คนข้ ามเพื่อความสะดวกและความ
ปลอดภัย ในการข้ ามถนนของประชาชนในหมูบ้านทังสอง จงหา
                                           ่     ้
ตาแหน่งที่จะสร้ างสะพานลอยโดยสะพานลอยตังฉากกับแนวถนนและ
                                               ้
ให้ เส้ นทางเดินระหว่างหมูบ้านทังสอง ผ่านสะพานลอยมีระยะทางรวม
                         ่       ้
สันที่สด
   ้ ุ
• วิธีทา สร้ างแบบจาลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อหาตาแหน่งของ
    สะพานลอย โดยสมมติ ให้ สะพานลอยตังอยูที่จด r และ s โดย rs
                                         ้ ่ ุ
ตังฉากกับริมฝั่ งทังสอง ของถนนและ rs เท่ากับความกว้ างของถนน ดังรูป
  ้                ้
• จากโจทย์ ต้องการให้ pr + rs+ Sq สันที่สุดแต่ เนื่องจาก rs
                                              ้
  แทนความกว้ างของถนน ซึ่งมีค่าคงตัวนั่นคือ pr+rs+sq จะสัน         ้
  ที่สุดเมื่อ pr + sq สันที่สุดซึ่งทาได้ โดย นา sq มาต่ อกับ pr ให้
                           ้
  เป็ นส่ วนขอ
• เส้ นตรงเดียวกัน (ใช้ ความรู้ท่ ว่า เมื่อกาหนดจุดให้ สองจุดส่ วนขอ
                                    ี
  เส้ นตรงที่สันที่สุดที่เชื่อระหว่ าง จุดทังสองคือ ส่ วนของเส้ นตรง)
               ้                            ้
• ดังนัน ต้ องพยายามทาให้ sq มาต่ อกับ pr เพื่อทาให้ เป็ นส่ วน
        ้
  ของเส้ นตรงเดียวกัน เราจึงเลื่อนขนาน sq ไป rq’ ด้ วย sr จะ
  ได้ rq’ เป็ นตัวแทนของ sq ดังรูป
• จากรูปจะเห็นว่า pr + sq = pr + rq’ แต่เนื่องจาก pr และ rq’
  ยังไม่อยูในแนวเส้ นตรงเดียวกันจึงต้ องพยายาม หาตาแหน่งของจุด r ที่
          ่
  ทาให้ pr และ rq’ อยูในแนวเส้ นตรงเดียวกันซึงทาได้ ดงนี ้
                         ่                     ่     ั

       หมูบ้านโคมลอย P

                         R


                    S                         Q’


                                          Q หมูบ้านโคมขัน
• จากรูปให้ xy เป็ นเวกเตอร์ ท่ มีขนาด เท่ ากับความกว้ างของถนน
                                ี
  ทิศทางตังฉากกับริมฝั่ ง ถนนทังสองข้ างให้ เลื่อนขนานจุด q ด้ วย
               ้                    ้
  เวกเตอร์ xy ไปที่จุด q’ แล้ วลาก pq’ ตัดริมฝั่ งถนนที่จุด r
  จากนันลาก rs ตังฉากกับริมฝั่ งถนนทังสองข้ าง
           ้         ้                  ้
•      จะได้ ว่า pr + sq = pr + rq’ = rq’
• ดังนัน pr + rs + sq สันที่สุดตามต้ องการ
             ้               ้
•      นันคือ จุด r และจุด s จะเป็ นตาแหน่ งของสะพานลอย ซึ่ง
         ้
  เส้ นทางเดินระหว่ างหมู่บ้านโคมลอยและหมู่บ้านโคมขันผ่ าน
  สะพานลอยมีระยะทางรวม สันที่สุดตามต้ องการ
                                  ้
โจทย์ประยุกต์ของการสะท้อน
• เราสามารถนาความรู้เรื่ องการสะท้ อนมาประยุกต์ใช้ แก้ ปัญหาทาง
  คณิตศาสตร์ ได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี ้
• ตัวอย่างที่ 4 กาหนดจุด a และจุด b อยูห่างจากเส้ นตรง ℓ ดังรูป จง
                                        ่
  หาจุด c บนเส้ นตรง ℓ ซึงระยะทางจากจุด a ถึงจุด c และจุด b ถึงจุด
                          ่
  c รวมกันแล้ ว สันที่สด
                  ้ ุ
                                    B
                   A

                            C

                                     B’
• วิธีทา หาจุด b’ ซึงเป็ นภาพที่ได้ ปากการสะท้ อน จุด b โดยมีเส้ นตรง
                       ่
  ℓ เป็ นเส้ นสะท้ อนลาก ab’ ตามเส้ นตรง ℓ ที่จด c
                                                 ุ
• จะได้ eb’ = cb และ ac+cb’ = ac + cb
• ซึง ac + cb’ = ab’ ซึงเป็ นส่วนของเส้ นตรง เชื่อมระหว่าง จุดa,b’
    ่                        ่
• จึงเป็ นระยะทางที่สนที่สด
                       ั้ ุ
• ดังนัน จุด c เป็ นจุดบนเส้ นตรง ℓ ที่ทาให้ ac + cb สันที่สด
        ้                                              ้ ุ
• ตัวอย่ างที่ 5 ตาบนวังพลอย ตังอยู่ท่ ตาแหน่ ง p ตาบนวังเพชร
                                   ้       ี
  ตังอยู่ท่ ตาแหน่ ง q บนฝั่ งเดียวกัน ต้ องการสร้ างสถานีรถไฟ
    ้       ี                        ้
  ระหว่ างตาบน ทังสอง จงหาตาแหน่ ง ที่จะสร้ าง สถานีรถไฟ โดย
                     ้
  ให้ ระยะทางจากสถานีรถไฟถึงตาบนวังพลอย รวมกับระยะทาง
  จากสถานีรถไฟ ถึงตาบนวังเพชรสันที่สุด ้




วิธีทา สร้ างแบบจาลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อหาตาแหน่ งของสถานี
    รถไฟได้ ดังนี ้
• 1


               Q


      P

           R       ℓ

      P’
• จากรูป ให้ เส้ นตรง ℓ แทนแนวกัน ทางรถไฟและเป็ นเส้ นสะท้ อน
                                    ้
• สร้ างจด p’ เป็ นภาพที่ได้ จากการสะท้ อนจุด p ซึงเป็ นตาแหน่งที่ตงของ
                                                  ่                ั้
  ตาบลวังพลอยแล้ วลาก p’q ตัดเส้ นตรง ℓ ที่จด r ุ
• จะได้ pr+rq = p’r + rq เป็ นระยะที่สนที่สด
                                           ั้ ุ
• ดังนัน r เป็ นตาแหน่ง ที่จะสร้ างสถานีรถไฟ โดยระยะทางจากสถานี
        ้
  รถไฟถึงตาบลวังพลอย รวมกับระยะทางจากสถานีรถไฟ ถึงตาบลวัง
  เพชรสันที่สด
          ้ ุ
การประยุกต์การหมุน
• การหมุน คือ การแปลงที่มีการจับคูของจุดแต่ละจุดบนรูปแบบกับจุดแต่
                                     ่
  ละจุดของรูปที่ได้ จากการหมุน เรี ยกว่า จุดหมุน และหมุนไปในทิศทาง
  และขนาดของมุมที่กาหนดให้
• จากรูป เป็ นการหมุนจุด P รอบจุด O ทวนเข็มนาฬกา    ิ
                                P1
                  P2                  P


                           02
                                01
ิ
• จุด P1 เป็ นจุดที่ได้ จากการหมุนจุด P รอบจุด O ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด
  01
                                                               ิ
• จุด P2 เป็ นจุดที่ได้ จากการหมุนจุด P รอบจุด O ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุม
  ขนาด 02
• จุดหมุน อาจอยูบนรูปต้ นแบบหรื ออยูนอกรูปต้ นแบบก็ได้ แต่จดที่สมนัยกันกับ
                   ่                  ่                    ุ
  รูปต้ นแบบจะอยูห่างจากจุดหมุนเป็ นระยะทางเท่ากัน และหมุนด้ วยขนาดของ
                     ่
  มุมเท่ากัน ดังตัวอย่างต่อไปนี ้
• 1. ตัวอย่างการหมุน
• 1. จุดหมุนอยูบนรูปต้ นแบบ
                ่
                     A

                              B’
                B                    A’




                          C

• จากรูป จุด C เป็ นจุดหมุน และ ACA’ = BCB’
• 2. จุดหมุนอยูภายนอกรูปต้ นแบบ
              ่
                 A’



                          C’
               B’              B
                                   A
                      O        C




จากรูป จุด O เป็ นจุดหมุน และ AOA’ = BOB’ = COC’
• ตัวอย่างที่1

                     P




                         K
                 R   Q
• วิธีทา ให้ O เป็ นจุดหมุนภายนอก        PQR
                                               P
                 P’

                            Q’       R
                                               Q


                      R’
                                 O
•   มีขนตอนการสร้ างดังนี ้
               ั้
•   ขันที่1 ลาก OP แล้ วสร้ าง POP’ = K และ PO’ = OP
           ้
•   ขันที่2 ลาก OQ แล้ วสร้ าง QOQ’ = K และ OQ’ = OQ
       ้
•   ขันที่3 ลาก OR แล้ วสร้ าง ROR’ = K และ OR’ = OR
             ้
•   ขันที่4 ลาก P’Q’R’
         ้
•   ข้ อสังเกต 1) PQR กับรูป P’Q’R’ เท่ากันทุกประการ
•                 2) OQ = OQ’ , OP = OP’ , OR = OR’
•                 3)m(QOQ’) = m(POP’) = m(ROR’)
• สมบัตการหมุน
         ิ
• 1.สามารถเลื่ อนรูปต้ นแบบทันภาพที่ได้ จากการหมุนได้ สนิท โดยไม่ ต้อง
  พลิกรูปหรือกล่ าวว่ า รูปต้ นแบบและภาพที่ได้ จากการหมุนเท่ ากันทุก
  ประการ
• 2.จุดบนรูปต้ นแบบและจุดบนภาพที่ได้ จากการหมุนแต่ ละคู่ จะอยู่บน
  วงกลมที่มีจุดหมุนเป็ นจุดศูนย์ กลางเดีบวกัน แต่ ละวงกลมเหล่ านีไม่
                                                                 ้
  จาเป็ นต้ องมีรัสมียาวเท่ ากัน
• 3.ส่ วนของเส้ นตรงบนรูปต้ นแบบและภาพที่จากการหมุนไม่ จาเป็ นต้ อง
  ขนานกัน
• ตัวอย่างที่2 จงสร้ างส่วนของเส้ นตรง A’B’ ที่เกิดจากการหมุนส่วนของเส้ นตรง
                               ิ
  AB รอบจุด O ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด 45 องศา
• วิธีทา                                B
                        B’


                    A

                                          45


                                               O



                        A’
ิ
1. ลาก OA โดยให้ O เป็ นจุดหมุน หมุน OA ทิศทางทวนเข็มนาฬกาเป็ นมุม 45
   องศา ถุงจุด A’ ทาให้ OA = OA’
                                                           ิ
2. ลาก OB โดยให้ O เป็ นจุดหมุน หมุน OB ทิศทางทวนเข็มนาฬกาเป็ นมุม
   45 องศา ถึงจุด B ทาให้ OB = OB’
3. ลาก A’B’ จะได้ A’B’ เป็ นภาพที่ได้ จากการหมุน AB ทิศทางทวนเข็ม
       ิ
   นาฬกาด้ วยมุมขนาด 45 องศา ตามต้ องการ
• ตัวอย่างที่3
• จงสร้ างรูปที่เกิดจากการหมุนรูป สามเหลี่ยมABC ทวนเข้ มนาฬิกา ด้ วยมุม
  ขนาด90องศา รอบ
                       C’




                                                 A

                 A’
                             B’             B
                                                                   C
                                     90
• วิธีทา
                                                     ิ
• 1. ลาก OA โดยให้ o เป็ นจุดหมุน หมุน OA ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด
  90 องศา ถึงจุด A’ ทาให้ OA = OA’
                                                       ิ
• 2. ลาก OB โดยให้ O เป็ นจุดหมุน หมุน OB ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด
  90 องศา ถึงจุด B’ ทาให้ OB =OB’
                                                         ิ
• 3. ลาก OC โดยให้ O เป็ นจุดหมุน หมุน OC ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด
  90 องศา ถึงจุด C’ ทาให้ OC = OC’
• 4. ลาก A’B’ , B’C’ ทาให้ รูป สามเหลียม ABC เป็ นภาพที่ได้ จากการหมุน
                                      ่
                                 ิ
  รูป สามเหลี่ยม ABC ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด 90 องศา รอบจุด O ตาม
  ต้ องการ
โจทย์ประยุกต์ของการหมุน
• เราสามารถนาความรู้เรื่ องการหมุนมาประยุกต์ใช้ ในการแก้ ปัญหาทาง
  คณิตศาสตร์ ได้
• ดังตัวอย่างตัวไปนี ้
• วิธีทา
• หมุนรูปสามเหลี่ยม ก ทวนเข็มนาฬิกา รอบจุดหมุน O ขนาด 90 องศา
  และหมุนรูปครึ่งวงกลม ข ตามเข็มนาฬิการอบจุดหมุน O ขนาด 90
  องศา จะได้ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ ากว้ าง 3 เซนติเมตร ยาว 5 เซนติเมตร
• ตัวอย่ างที่5
• จงหาพืนที่โดยประมาณของส่ วนที่แรเงา ของรูปต่ อไปนี ้ เมื่อกาหนดให้
          ้
  พืนที่ของรูป A เท่ ากับพืนที่ของรูป B และพืนที่ของรูป B และพืนที่ของ
     ้                      ้                ้                 ้
  รูป C เท่ ากับพืนที่ของรูป C
                  ้
• วิธีทา จากรูปสี่เหลี่ยม PQRS มีความกว้ าง 21 เซนติเมตร
•                                    มีความยาว 28+56 =84
  เซนติเมตร
• จะได้ พืนที่ของ สี่เหลี่ยม PQRS = 21x84
            ้
•                                = 1,764 ตารางเซนติเมตร
• วิธีทา            14ซม. 7ซม.
                   S        R
                           A
           28ซม.
                           B


                       C

                                   56ซม.


                       D


                   P           Q

More Related Content

What's hot

ชุดที่ 1 แบบรูปและความสัมพันธ์
ชุดที่ 1  แบบรูปและความสัมพันธ์ ชุดที่ 1  แบบรูปและความสัมพันธ์
ชุดที่ 1 แบบรูปและความสัมพันธ์
Aobinta In
 
โครงสร้างคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม ม.ต้น
โครงสร้างคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม ม.ต้นโครงสร้างคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม ม.ต้น
โครงสร้างคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม ม.ต้น
Inmylove Nupad
 
ปริซึม
ปริซึมปริซึม
ปริซึม
krookay2012
 
ฮิสโทแกรม
ฮิสโทแกรมฮิสโทแกรม
ฮิสโทแกรม
krookay2012
 
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.6 พื้นฐาน)
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.6 พื้นฐาน)บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.6 พื้นฐาน)
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.6 พื้นฐาน)
sawed kodnara
 
การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละการประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
นายเค ครูกาย
 

What's hot (20)

ข้อสอบ O net คณิต ป.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net คณิต ป.6 ชุด 1ข้อสอบ O net คณิต ป.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net คณิต ป.6 ชุด 1
 
พื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรพื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตร
 
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิดแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
 
ชุดที่ 1 แบบรูปและความสัมพันธ์
ชุดที่ 1  แบบรูปและความสัมพันธ์ ชุดที่ 1  แบบรูปและความสัมพันธ์
ชุดที่ 1 แบบรูปและความสัมพันธ์
 
91 โครงงานคณิตศาสตร์ ตอนที่4_เส้นตรงล้อมเส้นโค้ง
91 โครงงานคณิตศาสตร์ ตอนที่4_เส้นตรงล้อมเส้นโค้ง91 โครงงานคณิตศาสตร์ ตอนที่4_เส้นตรงล้อมเส้นโค้ง
91 โครงงานคณิตศาสตร์ ตอนที่4_เส้นตรงล้อมเส้นโค้ง
 
โครงสร้างคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม ม.ต้น
โครงสร้างคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม ม.ต้นโครงสร้างคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม ม.ต้น
โครงสร้างคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม ม.ต้น
 
ความคล้าย
ความคล้ายความคล้าย
ความคล้าย
 
โครงงานเรขาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความสัมพันธ์ของพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เ...
โครงงานเรขาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความสัมพันธ์ของพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เ...โครงงานเรขาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความสัมพันธ์ของพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เ...
โครงงานเรขาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความสัมพันธ์ของพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เ...
 
ปริซึม
ปริซึมปริซึม
ปริซึม
 
ฮิสโทแกรม
ฮิสโทแกรมฮิสโทแกรม
ฮิสโทแกรม
 
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.6 พื้นฐาน)
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.6 พื้นฐาน)บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.6 พื้นฐาน)
บทที่ 1 อัตราส่วนตรีโกณมิติ(ม.6 พื้นฐาน)
 
แบบทดสอบ เรื่องพหุนาม
แบบทดสอบ เรื่องพหุนามแบบทดสอบ เรื่องพหุนาม
แบบทดสอบ เรื่องพหุนาม
 
4ใบความรู้ เรื่องพื้นฐานทางเรขาคณิต
4ใบความรู้ เรื่องพื้นฐานทางเรขาคณิต4ใบความรู้ เรื่องพื้นฐานทางเรขาคณิต
4ใบความรู้ เรื่องพื้นฐานทางเรขาคณิต
 
การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละการประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องทศนิยมและเศษส่วน
หน่วยการเรียนรู้ที่  1   เรื่องทศนิยมและเศษส่วนหน่วยการเรียนรู้ที่  1   เรื่องทศนิยมและเศษส่วน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องทศนิยมและเศษส่วน
 
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
 
กรณฑ์ที่สอง
กรณฑ์ที่สองกรณฑ์ที่สอง
กรณฑ์ที่สอง
 
เอกสารประกอบการเรียนการสอน
เอกสารประกอบการเรียนการสอนเอกสารประกอบการเรียนการสอน
เอกสารประกอบการเรียนการสอน
 
สัญลักษณ์แทนการบวก
สัญลักษณ์แทนการบวกสัญลักษณ์แทนการบวก
สัญลักษณ์แทนการบวก
 
แผนที่ 8 การนำไปใช้ 1
แผนที่ 8 การนำไปใช้ 1 แผนที่ 8 การนำไปใช้ 1
แผนที่ 8 การนำไปใช้ 1
 

Viewers also liked

การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละการประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
krookay2012
 
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.2
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.2ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.2
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.2
ทับทิม เจริญตา
 
พหหุนาม
พหหุนามพหหุนาม
พหหุนาม
krookay2012
 
เอกนาม
เอกนามเอกนาม
เอกนาม
krookay2012
 
เลขยกกำลัง
เลขยกกำลังเลขยกกำลัง
เลขยกกำลัง
krookay2012
 
การแปลงทางเรขาคณิต 1
การแปลงทางเรขาคณิต 1การแปลงทางเรขาคณิต 1
การแปลงทางเรขาคณิต 1
kruyafkk
 
การนำเอาการแปลงทางคณิตศาสตร์มาใช้
การนำเอาการแปลงทางคณิตศาสตร์มาใช้การนำเอาการแปลงทางคณิตศาสตร์มาใช้
การนำเอาการแปลงทางคณิตศาสตร์มาใช้
Sornkaewwongwaiwitaya School
 
การแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิตการแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิต
kruyafkk
 
การแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิตการแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิต
kroojaja
 
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
นายเค ครูกาย
 
กราฟ ม.3
กราฟ ม.3กราฟ ม.3
กราฟ ม.3
krookay2012
 
พื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรพื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตร
Jiraprapa Suwannajak
 
คู่มือการใช้โปรแกรม Gsp เรื่องการสร้าง
คู่มือการใช้โปรแกรม Gsp เรื่องการสร้างคู่มือการใช้โปรแกรม Gsp เรื่องการสร้าง
คู่มือการใช้โปรแกรม Gsp เรื่องการสร้าง
เนาวรัตน์ กาบขุนทด
 

Viewers also liked (20)

การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละการประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
การประยุกต์อัตราส่วนและร้อยละ
 
การแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิตการแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิต
 
แบบฝึกหัดการแปลงทางเรขาคณิต ม.๒
แบบฝึกหัดการแปลงทางเรขาคณิต ม.๒แบบฝึกหัดการแปลงทางเรขาคณิต ม.๒
แบบฝึกหัดการแปลงทางเรขาคณิต ม.๒
 
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.2
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.2ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.2
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.2
 
พหหุนาม
พหหุนามพหหุนาม
พหหุนาม
 
เอกนาม
เอกนามเอกนาม
เอกนาม
 
เลขยกกำลัง
เลขยกกำลังเลขยกกำลัง
เลขยกกำลัง
 
เอกนามและพหุนาม
เอกนามและพหุนาม เอกนามและพหุนาม
เอกนามและพหุนาม
 
การแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิตการแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิต
 
การแปลงทางเรขาคณิต 1
การแปลงทางเรขาคณิต 1การแปลงทางเรขาคณิต 1
การแปลงทางเรขาคณิต 1
 
การนำเอาการแปลงทางคณิตศาสตร์มาใช้
การนำเอาการแปลงทางคณิตศาสตร์มาใช้การนำเอาการแปลงทางคณิตศาสตร์มาใช้
การนำเอาการแปลงทางคณิตศาสตร์มาใช้
 
การแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิตการแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิต
 
การแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิตการแปลงทางเรขาคณิต
การแปลงทางเรขาคณิต
 
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
 
การประยุกต์เกี่ยวกับอัตราส่วนและร้อยละ
การประยุกต์เกี่ยวกับอัตราส่วนและร้อยละการประยุกต์เกี่ยวกับอัตราส่วนและร้อยละ
การประยุกต์เกี่ยวกับอัตราส่วนและร้อยละ
 
กราฟ ม.3
กราฟ ม.3กราฟ ม.3
กราฟ ม.3
 
การประยุกต์2
การประยุกต์2การประยุกต์2
การประยุกต์2
 
พื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรพื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตร
 
สมบัติของเลขยกกำลัง
สมบัติของเลขยกกำลังสมบัติของเลขยกกำลัง
สมบัติของเลขยกกำลัง
 
คู่มือการใช้โปรแกรม Gsp เรื่องการสร้าง
คู่มือการใช้โปรแกรม Gsp เรื่องการสร้างคู่มือการใช้โปรแกรม Gsp เรื่องการสร้าง
คู่มือการใช้โปรแกรม Gsp เรื่องการสร้าง
 

Similar to การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต

พื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรพื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตร
Ritthinarongron School
 
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยมชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
วิเชียร กีรติศักดิ์กุล
 
คณิตศาสตร์ 24 2
คณิตศาสตร์ 24 2 คณิตศาสตร์ 24 2
คณิตศาสตร์ 24 2
krookay2012
 
Final เตรียมสอบ
Final เตรียมสอบFinal เตรียมสอบ
Final เตรียมสอบ
Te'tee Pudcha
 
แผนที่ 2 รูปสามเหลี่ยมคล้าย 1 (ซ่อมแซม)
แผนที่ 2 รูปสามเหลี่ยมคล้าย 1  (ซ่อมแซม)แผนที่ 2 รูปสามเหลี่ยมคล้าย 1  (ซ่อมแซม)
แผนที่ 2 รูปสามเหลี่ยมคล้าย 1 (ซ่อมแซม)
ทับทิม เจริญตา
 
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปี 2552
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปี 2552ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปี 2552
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปี 2552
waranyuati
 
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับประถมศึกษา ปี 2552
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับประถมศึกษา ปี 2552ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับประถมศึกษา ปี 2552
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับประถมศึกษา ปี 2552
waranyuati
 
กฏการกระดอนและกฏการเข้ามุม
กฏการกระดอนและกฏการเข้ามุมกฏการกระดอนและกฏการเข้ามุม
กฏการกระดอนและกฏการเข้ามุม
krurain
 

Similar to การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต (20)

Chapter 04 applied geometry
Chapter 04 applied geometry Chapter 04 applied geometry
Chapter 04 applied geometry
 
111
111111
111
 
Analytic geometry1
Analytic geometry1Analytic geometry1
Analytic geometry1
 
การคำนวณปรับแก้สำหรับการแปลงพิกัด
การคำนวณปรับแก้สำหรับการแปลงพิกัดการคำนวณปรับแก้สำหรับการแปลงพิกัด
การคำนวณปรับแก้สำหรับการแปลงพิกัด
 
work1
work1work1
work1
 
พื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรพื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตร
 
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยมชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
 
Calculus
CalculusCalculus
Calculus
 
คณิตศาสตร์ 24 2
คณิตศาสตร์ 24 2 คณิตศาสตร์ 24 2
คณิตศาสตร์ 24 2
 
Conic section-clip vidva
Conic section-clip vidvaConic section-clip vidva
Conic section-clip vidva
 
Inferential Statistics & Regression
Inferential Statistics & RegressionInferential Statistics & Regression
Inferential Statistics & Regression
 
Final เตรียมสอบ
Final เตรียมสอบFinal เตรียมสอบ
Final เตรียมสอบ
 
Wan
WanWan
Wan
 
Wan
WanWan
Wan
 
แผนที่ 2 รูปสามเหลี่ยมคล้าย 1 (ซ่อมแซม)
แผนที่ 2 รูปสามเหลี่ยมคล้าย 1  (ซ่อมแซม)แผนที่ 2 รูปสามเหลี่ยมคล้าย 1  (ซ่อมแซม)
แผนที่ 2 รูปสามเหลี่ยมคล้าย 1 (ซ่อมแซม)
 
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปี 2552
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปี 2552ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปี 2552
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปี 2552
 
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับประถมศึกษา ปี 2552
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับประถมศึกษา ปี 2552ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับประถมศึกษา ปี 2552
ข้อสอบ Gsp จัดโดย สสวท. รอบคัดเลือกระดับประถมศึกษา ปี 2552
 
ตรีโกณมิต..[1]
ตรีโกณมิต..[1]ตรีโกณมิต..[1]
ตรีโกณมิต..[1]
 
Student-pilot-handbook-by-tutor ferry (Ex)
Student-pilot-handbook-by-tutor ferry (Ex)Student-pilot-handbook-by-tutor ferry (Ex)
Student-pilot-handbook-by-tutor ferry (Ex)
 
กฏการกระดอนและกฏการเข้ามุม
กฏการกระดอนและกฏการเข้ามุมกฏการกระดอนและกฏการเข้ามุม
กฏการกระดอนและกฏการเข้ามุม
 

More from krookay2012

เอกนาม
เอกนามเอกนาม
เอกนาม
krookay2012
 
ความคล้าย
ความคล้ายความคล้าย
ความคล้าย
krookay2012
 
เอกสารการสอนพื้นที่และปริมาตร
เอกสารการสอนพื้นที่และปริมาตรเอกสารการสอนพื้นที่และปริมาตร
เอกสารการสอนพื้นที่และปริมาตร
krookay2012
 
คณิตศาสตร์ม.31
คณิตศาสตร์ม.31คณิตศาสตร์ม.31
คณิตศาสตร์ม.31
krookay2012
 
คณิตศาสตร์ม.32
คณิตศาสตร์ม.32คณิตศาสตร์ม.32
คณิตศาสตร์ม.32
krookay2012
 
คณิตศาสตร์ม.33
คณิตศาสตร์ม.33คณิตศาสตร์ม.33
คณิตศาสตร์ม.33
krookay2012
 
คณิตศาสตร์ม.34
คณิตศาสตร์ม.34คณิตศาสตร์ม.34
คณิตศาสตร์ม.34
krookay2012
 
อสมการ2
อสมการ2อสมการ2
อสมการ2
krookay2012
 
อสมการ
อสมการอสมการ
อสมการ
krookay2012
 
พื้นที่และปริมาตร
พื้นที่และปริมาตรพื้นที่และปริมาตร
พื้นที่และปริมาตร
krookay2012
 
ค่ากลาง
ค่ากลางค่ากลาง
ค่ากลาง
krookay2012
 
การแจกแจงความถี่
การแจกแจงความถี่การแจกแจงความถี่
การแจกแจงความถี่
krookay2012
 
งานคณิตศาสตร์อาจารย์เค
งานคณิตศาสตร์อาจารย์เคงานคณิตศาสตร์อาจารย์เค
งานคณิตศาสตร์อาจารย์เค
krookay2012
 
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
krookay2012
 
งานนำเสนอ12
งานนำเสนอ12งานนำเสนอ12
งานนำเสนอ12
krookay2012
 
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
krookay2012
 
คณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์คณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์
krookay2012
 

More from krookay2012 (19)

เอกนาม
เอกนามเอกนาม
เอกนาม
 
ความคล้าย
ความคล้ายความคล้าย
ความคล้าย
 
เอกสารการสอนพื้นที่และปริมาตร
เอกสารการสอนพื้นที่และปริมาตรเอกสารการสอนพื้นที่และปริมาตร
เอกสารการสอนพื้นที่และปริมาตร
 
คณิตศาสตร์ม.31
คณิตศาสตร์ม.31คณิตศาสตร์ม.31
คณิตศาสตร์ม.31
 
คณิตศาสตร์ม.32
คณิตศาสตร์ม.32คณิตศาสตร์ม.32
คณิตศาสตร์ม.32
 
คณิตศาสตร์ม.33
คณิตศาสตร์ม.33คณิตศาสตร์ม.33
คณิตศาสตร์ม.33
 
คณิตศาสตร์ม.34
คณิตศาสตร์ม.34คณิตศาสตร์ม.34
คณิตศาสตร์ม.34
 
อสมการ2
อสมการ2อสมการ2
อสมการ2
 
อสมการ
อสมการอสมการ
อสมการ
 
พื้นที่และปริมาตร
พื้นที่และปริมาตรพื้นที่และปริมาตร
พื้นที่และปริมาตร
 
ค่ากลาง
ค่ากลางค่ากลาง
ค่ากลาง
 
การแจกแจงความถี่
การแจกแจงความถี่การแจกแจงความถี่
การแจกแจงความถี่
 
งานคณิตศาสตร์อาจารย์เค
งานคณิตศาสตร์อาจารย์เคงานคณิตศาสตร์อาจารย์เค
งานคณิตศาสตร์อาจารย์เค
 
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
 
งานนำเสนอ12
งานนำเสนอ12งานนำเสนอ12
งานนำเสนอ12
 
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
คณิตศาสตร์ 60 เฟรม กาญจนรัตน์
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
คณิต
คณิตคณิต
คณิต
 
คณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์คณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์
 

การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต

  • 1. การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิ ต จัดทาโดย 1.ด.ญ จิดาภา ลอยเมฆ 2.ด.ญ ธิ ดารัตน์ เพ็ญพันธ์นาค 3.ด.ญ บุษกร พันธุ์คุมเก่า ้ 4.ด.ญ ปนัดดา จิตธนานนท์ 5.ด.ญ รุ่ งอรุ ณ ศรี สว่าง 6. ด.ญ วรรณกร ช่ออัญชัญ 7.ด.ญ กมลชนก นันทวัตร เสนอ อ.กฤษตยช ทองธรรมชาติ มัธยมศึกษาปี ที่2/1
  • 2. คานา รายงานเรื่ องนี้จดทาขึ้นเพื่อเพือนๆพี่ๆน้องๆได้ศึกษาเกี่ยวกับ ั ่ วิชาคณิ ตในเรื่ องของการประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิ ต และได้นะไปใช้ประโยชน์ต่อไปไม่มากก็นอย ้ ผูจดทา ้ั
  • 3. สารบัญ • เรื่ อง หน้ า • การประยุกต์ ของการเปลี่ยนแปลงทางเรขาคณิต 1 • การประยุกต์ ของการเลื่อนขนาน 2-6 • สมบัตของการเลื่อน ิ 7 -17 • โจทย์ ประยุกต์ ของการเลื่อนขนาน 18-26 • โจทย์ ประยุกต์ ของการสะท้ อน 27-31 • การประยุกต์ การหมุน 32-38 • สมบัตการหมุน ิ 33-43 • โจทย์ ประยุกต์ ของการหมุน 44-50 • การประยุกต์ ของการสะท้ อน 51-60
  • 4. การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต • การแปลงทางเรขาคณิต เป็ นการเปลี่ยนตาแหน่ งของรูปเรขาคณิต โดยลักษณะและขนาดของรูปยังคงเดิม การเปลี่ยนตาแหน่ งของรูป เรขาคณิตที่จะศึกษาในบทนีเ้ ป็ นการเปลี่ยนตาแหน่ งของรูปเรขาคณิต โดยการเลื่อนขนาน • การสะท้ อน และการหมุน • รูปต้ นแบบ คือ รูปเรขาคณิตที่จะนาไปเปลี่ยนตาแหน่ งโดยการ เลื่อนขนาน การสะท้ อน หรือ การหมุน
  • 5. การประยุกต์ของการเลื่อนขนาน การเลื่อนขนานบนระนาบเป็ นการแปลงทางเรขาคณิตที่มีการเลื่อน จุดทุกจุดไปบนระนาบตามแนวเส้ นตรงในทิศทางเดียวกัน และเป็ น ระยะทางเท่ ากันตามที่กาหนด พิจารณาการเลื่อนรูปสามเหลี่ยมABCD C C’ D D’ B A A’ B’
  • 6. • จากรูป มีการเลื่อนจุด a ไปที่จด a’ ุ • เลื่อนจุด b ไปที่จด b’ุ • เลื่อนจุด c ไปที่จด c’ ุ • เลื่อนจุด d ไปที่จด d’ ุ • ในทิศทางเดียวกันและเป็ นระยะทางเท่ากัน • จะได้ วา aa’ , bb’ , cc’ , dd’ ขนานกันและยาวเท่ากัน ่ • หมายเหตุ จุด a กับจุด a’ , จุด b กับจุด b’ , จุด c กับจุด c’และจุด d กับ จุด d’ เรี ยกว่า จุดที่สมนัยกัน
  • 7. • ตัวอย่ างที่ 1 กาหนดรูป ABC เป็ นรูปต้ นแบบ ดังรูป จงสร้ างรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูป ABC ขนานกับรังสี PQ และห่ างไปเท่ ากับ ความยาวของส่ วนของเส้ นตรง PQ B P A Q C
  • 8. • วิธีทา B A C B’ A’ C’ 1. ลากเส้ นประ AA’ , BB’ และ CC’ ให้ ขนานกับรังสี PQ และให้ AA’ = BB’ = PQ 2. ลาก A’B’ , B’C’ และ C’A’ จะได้ รูป A’B’C’ เป็ นรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูป ABC ไปในทิศทางเดียวกับรังสี PQ และมีระยะทางห่างเท่ากับความยาวของส่วนของ เส้ นตรง PQ
  • 9. • ข้ อสังเกต 1.รูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานกับรูปต้ นแบบเท่ ากันทุก ประการ • 2.AA’= BB’= CC’ • 3.AA’ // BB’ // CC’
  • 10. • สมบัติของการเลื่อนขนาน • 1.สามารถเลื่อนรูปต้ นแบบทับภาพที่ได้ จากการเลื่อนขนานได้ สนิทโดยไม่ต้อง พลิกรูปหรื อกล่าวว่า รูปต้ นแบบและภาพที่ได้ จากการเลื่อนขนานเท่ากันทุก ประการ • 2.ส่วนของเส้ นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดที่สมนัยกันแต่ละคูจะขนานกันและยาว ่ เท่ากันทุกเส้ น • 3.ส่วนของเส้ นตรงบนรูปต้ นแบบและภาพที่ได้ จากการเลื่อนขนานของส่วน ของเส้ นตรงนันจะขนานกันและยาวเท่ากัน ้
  • 11. • ตัวอย่างที่ 2 กาหนดรูปสามเหลี่ยม pqr เป็ นรูปต้ นแบบ ดังรูป Y Q P R O X
  • 12. • 1) จงสร้ างรูปที่ได้ จากเลื่อนขนานรูปสามเหลี่ยมPQR ขนานกับแกนxไป ทางขวา6หน่วย • 2)จงสร้ างรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูปสามเหลี่ยมPQRขนานกับแกนYลงมา ด้ านล่าง5หน่วย • วิธีทา จากรูป จะได้ พิกดของรูปสามเหลี่ยมPQRคือp(-5,3),q(-1,4)และR ั (-2,1) • 1)เลื่อนญ(-5,3),q(-1,4)ขนานกับแกนxไปทางขวา6หน่วย ดังนี ้
  • 13. • วิธีทา Y Q Q’ P P’ R R’ X o
  • 14. จะได้ รูปสามเหลี่ยม p’q’r’ เป็ นรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูป สามเหลี่ยม • pqr ขนานกับแกน x ไปทางขวา 6 หน่ วย • พิกัดของจุด p’ คือ ( -5+6,3) = (1,3) • พิกัดของจุด q’ คือ (-1+6,4) = (5,4) • พิกัดของจุด r’ คือ (-2+6,1) = (4,1) • 2) เลื่อน p (-5,3), q(-1,4) และ r(-2,1) ขนานกับแกน y ลงมา ด้ านล่ าง • 5 หน่ วย ดังนี ้
  • 15. • 1. Y Q P R X Q’’ P’’ R’’
  • 16. จะได้ รูปสามเหลี่ยม p’’q’’r’’ เป็ นรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูป สามเหลี่ยม pqr ขนานกับแกน y ลงมาด้ านล่ าง 5 หน่ วย • พิกัดของจุด p’’ คือ (-5,3-5) = (-5,-2) • พิกัดของจุด q’’ คือ (-1,4-5) = (-1,-1) • พิกัดของจุด r’’ คือ (-2,1-5) = (-2,-4) • ข้ อสังเกต 1) เมื่อเลื่อนรูปต้ นแบบขนานกับแกน x เฉพาะสมาชิกตัว แรกของพิกดของจุดของรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานเท่ านันที่ ั ้ เปลี่ยนแปลง ส่ วนสมาชิกตัวหลังของพิกัดของจุดคงเดิม • 2) เมื่อเลื่อนรูปต้ นแบบขนานกับแกน y เฉพาะสมาชิกตัว หลังของพิกัดของจุดของรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานเท่ านันที่ ้ เปลี่ยนแปลง ส่ วนสมาชิกตัวแรกของพิกัดของจุดคงเดิม
  • 17. ตัวอย่างที่ 3 กาหนดรูปสี่เหลี่ยม abcd เป็ นรูปต้ นแบบ จงสร้ างรูปสี่เหลี่ยม a’’b’’c’’d’’ ซึงเป็ นรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานรูปสี่เหลี่ยม abcd ขนานกับแกน ่ X ไปทางซ้ าย 8 หน่วยและขนานกับแกน y ลงมาด้ านล่าง 7 หน่วย Y C D A B O X
  • 18. • วิธีทา จากโจทย์ การเลื่อนขนานรูปสี่เหลียม abcd จะต้ องเลื่อนขนาน 2 ครัง ่ ้ • คือครังที่ 1 เลื่อนขนานกับแกน x ไปทางซ้ าย 8 หน่วย ดังนี ้ ้ y C’ C D’ D B’ B A’ A o x • จะได้ รูปที่ได้ จากการเลื่อนขนานครึงที่1คือ รูปสี่เหลี่ยม A’B’C’D’ ้
  • 19. • ครังที่ 2 เลื่อนขนานกับแกน y ลงมาด้ านล่าง 7 หน่วย ้ Y X o
  • 20. • • จะได้ รูปสี่เหลี่ยม a’’b’’c’’d’’ เป็ นรูปที่ได้ จากการเลื่อนขนาน รูปสี่เหลี่ยม • ABCD ขนานกับแกน x ไปทางซ้ าย 8 หน่ วย และขนานกับ แกน y ลงมาด้ านล่ าง 7 หน่ วยตามต้ องการ
  • 21. โจทย์ประยุกต์ของการเลื่อนขนาน • เราสามารถนาความรู้เรื่องการเลื่อนขนานมาประยุกต์ ใช้ แก้ ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ได้ ดังตัวอย่ าง ต่ อไปนี ้ • ตัวอย่ างที่ 4 จงหาพืนที่โดยประมาณของส่ วนที่แรเงาของรูป ้ ต่ อไปนี ้
  • 22. • วิธีทา จากการคาดคะเน ถ้ าใช้ การเลื่อนขนานส่ วนโค้ ง EC ด้ วย CD • ให้ ต่อกับส่ วนโค้ ง ed จะได้ รูปครึ่งวงกลมที่มี รัศมี ยาว 14 ซม. ดังรูป
  • 23. • นั่นคือหาพืนที่ของส่ วนที่แรเงาได้ โดยนาพืนที่ของรูป ้ ้ ABCD ลบด้ วยพืนที่รูปครึ่งวงกลมที่มีรัศมี 14 ซม. นั่นเอง ้ • จากรูป ABCD กว้ าง 14 ซม. ยาว 28 ซม. • พืนที่ของ ้ ABCD = กว้ าง x ยาว • = 14 x 28 • = 392 ตาราง ซม. • พืนที่ของรูป ครึ่งวงกลมประมาณ = 1 ∏r² ้ • 2 • 1х2214x14 • 2 7 • = 308 ตาราง ซม.
  • 24. • ดังนันพืนที่โดยประมาณของส่ วนที่แรเงา = 392 – 308 ้ ้ • = 84 ตาราง ซม. • ตอบ ประมาณ 84 ตารางเซนติเมตร
  • 25. ตัวอย่างที่ 5 หมูบ้านโคมลอยตังอยูที่ ตาแหน่ง p และหมูบ้านโคมขัน ่ ้ ่ ่ ตังอยูที่ตาแหน่ง Q โดยมีถนน กัน ระหว่างหมูบ้านทัง้ 2 ดังแผนภาพ ้ ่ ้ ่ ทางการต้ องการสร้ างสะพานลอย คนข้ ามเพื่อความสะดวกและความ ปลอดภัย ในการข้ ามถนนของประชาชนในหมูบ้านทังสอง จงหา ่ ้ ตาแหน่งที่จะสร้ างสะพานลอยโดยสะพานลอยตังฉากกับแนวถนนและ ้ ให้ เส้ นทางเดินระหว่างหมูบ้านทังสอง ผ่านสะพานลอยมีระยะทางรวม ่ ้ สันที่สด ้ ุ
  • 26. • วิธีทา สร้ างแบบจาลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อหาตาแหน่งของ สะพานลอย โดยสมมติ ให้ สะพานลอยตังอยูที่จด r และ s โดย rs ้ ่ ุ ตังฉากกับริมฝั่ งทังสอง ของถนนและ rs เท่ากับความกว้ างของถนน ดังรูป ้ ้
  • 27. • จากโจทย์ ต้องการให้ pr + rs+ Sq สันที่สุดแต่ เนื่องจาก rs ้ แทนความกว้ างของถนน ซึ่งมีค่าคงตัวนั่นคือ pr+rs+sq จะสัน ้ ที่สุดเมื่อ pr + sq สันที่สุดซึ่งทาได้ โดย นา sq มาต่ อกับ pr ให้ ้ เป็ นส่ วนขอ • เส้ นตรงเดียวกัน (ใช้ ความรู้ท่ ว่า เมื่อกาหนดจุดให้ สองจุดส่ วนขอ ี เส้ นตรงที่สันที่สุดที่เชื่อระหว่ าง จุดทังสองคือ ส่ วนของเส้ นตรง) ้ ้ • ดังนัน ต้ องพยายามทาให้ sq มาต่ อกับ pr เพื่อทาให้ เป็ นส่ วน ้ ของเส้ นตรงเดียวกัน เราจึงเลื่อนขนาน sq ไป rq’ ด้ วย sr จะ ได้ rq’ เป็ นตัวแทนของ sq ดังรูป
  • 28. • จากรูปจะเห็นว่า pr + sq = pr + rq’ แต่เนื่องจาก pr และ rq’ ยังไม่อยูในแนวเส้ นตรงเดียวกันจึงต้ องพยายาม หาตาแหน่งของจุด r ที่ ่ ทาให้ pr และ rq’ อยูในแนวเส้ นตรงเดียวกันซึงทาได้ ดงนี ้ ่ ่ ั หมูบ้านโคมลอย P R S Q’ Q หมูบ้านโคมขัน
  • 29. • จากรูปให้ xy เป็ นเวกเตอร์ ท่ มีขนาด เท่ ากับความกว้ างของถนน ี ทิศทางตังฉากกับริมฝั่ ง ถนนทังสองข้ างให้ เลื่อนขนานจุด q ด้ วย ้ ้ เวกเตอร์ xy ไปที่จุด q’ แล้ วลาก pq’ ตัดริมฝั่ งถนนที่จุด r จากนันลาก rs ตังฉากกับริมฝั่ งถนนทังสองข้ าง ้ ้ ้ • จะได้ ว่า pr + sq = pr + rq’ = rq’ • ดังนัน pr + rs + sq สันที่สุดตามต้ องการ ้ ้ • นันคือ จุด r และจุด s จะเป็ นตาแหน่ งของสะพานลอย ซึ่ง ้ เส้ นทางเดินระหว่ างหมู่บ้านโคมลอยและหมู่บ้านโคมขันผ่ าน สะพานลอยมีระยะทางรวม สันที่สุดตามต้ องการ ้
  • 30. โจทย์ประยุกต์ของการสะท้อน • เราสามารถนาความรู้เรื่ องการสะท้ อนมาประยุกต์ใช้ แก้ ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ ได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี ้ • ตัวอย่างที่ 4 กาหนดจุด a และจุด b อยูห่างจากเส้ นตรง ℓ ดังรูป จง ่ หาจุด c บนเส้ นตรง ℓ ซึงระยะทางจากจุด a ถึงจุด c และจุด b ถึงจุด ่ c รวมกันแล้ ว สันที่สด ้ ุ B A C B’
  • 31. • วิธีทา หาจุด b’ ซึงเป็ นภาพที่ได้ ปากการสะท้ อน จุด b โดยมีเส้ นตรง ่ ℓ เป็ นเส้ นสะท้ อนลาก ab’ ตามเส้ นตรง ℓ ที่จด c ุ • จะได้ eb’ = cb และ ac+cb’ = ac + cb • ซึง ac + cb’ = ab’ ซึงเป็ นส่วนของเส้ นตรง เชื่อมระหว่าง จุดa,b’ ่ ่ • จึงเป็ นระยะทางที่สนที่สด ั้ ุ • ดังนัน จุด c เป็ นจุดบนเส้ นตรง ℓ ที่ทาให้ ac + cb สันที่สด ้ ้ ุ
  • 32. • ตัวอย่ างที่ 5 ตาบนวังพลอย ตังอยู่ท่ ตาแหน่ ง p ตาบนวังเพชร ้ ี ตังอยู่ท่ ตาแหน่ ง q บนฝั่ งเดียวกัน ต้ องการสร้ างสถานีรถไฟ ้ ี ้ ระหว่ างตาบน ทังสอง จงหาตาแหน่ ง ที่จะสร้ าง สถานีรถไฟ โดย ้ ให้ ระยะทางจากสถานีรถไฟถึงตาบนวังพลอย รวมกับระยะทาง จากสถานีรถไฟ ถึงตาบนวังเพชรสันที่สุด ้ วิธีทา สร้ างแบบจาลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อหาตาแหน่ งของสถานี รถไฟได้ ดังนี ้
  • 33. • 1 Q P R ℓ P’
  • 34. • จากรูป ให้ เส้ นตรง ℓ แทนแนวกัน ทางรถไฟและเป็ นเส้ นสะท้ อน ้ • สร้ างจด p’ เป็ นภาพที่ได้ จากการสะท้ อนจุด p ซึงเป็ นตาแหน่งที่ตงของ ่ ั้ ตาบลวังพลอยแล้ วลาก p’q ตัดเส้ นตรง ℓ ที่จด r ุ • จะได้ pr+rq = p’r + rq เป็ นระยะที่สนที่สด ั้ ุ • ดังนัน r เป็ นตาแหน่ง ที่จะสร้ างสถานีรถไฟ โดยระยะทางจากสถานี ้ รถไฟถึงตาบลวังพลอย รวมกับระยะทางจากสถานีรถไฟ ถึงตาบลวัง เพชรสันที่สด ้ ุ
  • 35. การประยุกต์การหมุน • การหมุน คือ การแปลงที่มีการจับคูของจุดแต่ละจุดบนรูปแบบกับจุดแต่ ่ ละจุดของรูปที่ได้ จากการหมุน เรี ยกว่า จุดหมุน และหมุนไปในทิศทาง และขนาดของมุมที่กาหนดให้ • จากรูป เป็ นการหมุนจุด P รอบจุด O ทวนเข็มนาฬกา ิ P1 P2 P 02 01
  • 36. ิ • จุด P1 เป็ นจุดที่ได้ จากการหมุนจุด P รอบจุด O ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด 01 ิ • จุด P2 เป็ นจุดที่ได้ จากการหมุนจุด P รอบจุด O ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุม ขนาด 02 • จุดหมุน อาจอยูบนรูปต้ นแบบหรื ออยูนอกรูปต้ นแบบก็ได้ แต่จดที่สมนัยกันกับ ่ ่ ุ รูปต้ นแบบจะอยูห่างจากจุดหมุนเป็ นระยะทางเท่ากัน และหมุนด้ วยขนาดของ ่ มุมเท่ากัน ดังตัวอย่างต่อไปนี ้
  • 37. • 1. ตัวอย่างการหมุน • 1. จุดหมุนอยูบนรูปต้ นแบบ ่ A B’ B A’ C • จากรูป จุด C เป็ นจุดหมุน และ ACA’ = BCB’
  • 38. • 2. จุดหมุนอยูภายนอกรูปต้ นแบบ ่ A’ C’ B’ B A O C จากรูป จุด O เป็ นจุดหมุน และ AOA’ = BOB’ = COC’
  • 40. • วิธีทา ให้ O เป็ นจุดหมุนภายนอก PQR P P’ Q’ R Q R’ O
  • 41. มีขนตอนการสร้ างดังนี ้ ั้ • ขันที่1 ลาก OP แล้ วสร้ าง POP’ = K และ PO’ = OP ้ • ขันที่2 ลาก OQ แล้ วสร้ าง QOQ’ = K และ OQ’ = OQ ้ • ขันที่3 ลาก OR แล้ วสร้ าง ROR’ = K และ OR’ = OR ้ • ขันที่4 ลาก P’Q’R’ ้ • ข้ อสังเกต 1) PQR กับรูป P’Q’R’ เท่ากันทุกประการ • 2) OQ = OQ’ , OP = OP’ , OR = OR’ • 3)m(QOQ’) = m(POP’) = m(ROR’)
  • 42. • สมบัตการหมุน ิ • 1.สามารถเลื่ อนรูปต้ นแบบทันภาพที่ได้ จากการหมุนได้ สนิท โดยไม่ ต้อง พลิกรูปหรือกล่ าวว่ า รูปต้ นแบบและภาพที่ได้ จากการหมุนเท่ ากันทุก ประการ • 2.จุดบนรูปต้ นแบบและจุดบนภาพที่ได้ จากการหมุนแต่ ละคู่ จะอยู่บน วงกลมที่มีจุดหมุนเป็ นจุดศูนย์ กลางเดีบวกัน แต่ ละวงกลมเหล่ านีไม่ ้ จาเป็ นต้ องมีรัสมียาวเท่ ากัน • 3.ส่ วนของเส้ นตรงบนรูปต้ นแบบและภาพที่จากการหมุนไม่ จาเป็ นต้ อง ขนานกัน
  • 43. • ตัวอย่างที่2 จงสร้ างส่วนของเส้ นตรง A’B’ ที่เกิดจากการหมุนส่วนของเส้ นตรง ิ AB รอบจุด O ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด 45 องศา • วิธีทา B B’ A 45 O A’
  • 44. ิ 1. ลาก OA โดยให้ O เป็ นจุดหมุน หมุน OA ทิศทางทวนเข็มนาฬกาเป็ นมุม 45 องศา ถุงจุด A’ ทาให้ OA = OA’ ิ 2. ลาก OB โดยให้ O เป็ นจุดหมุน หมุน OB ทิศทางทวนเข็มนาฬกาเป็ นมุม 45 องศา ถึงจุด B ทาให้ OB = OB’ 3. ลาก A’B’ จะได้ A’B’ เป็ นภาพที่ได้ จากการหมุน AB ทิศทางทวนเข็ม ิ นาฬกาด้ วยมุมขนาด 45 องศา ตามต้ องการ
  • 45. • ตัวอย่างที่3 • จงสร้ างรูปที่เกิดจากการหมุนรูป สามเหลี่ยมABC ทวนเข้ มนาฬิกา ด้ วยมุม ขนาด90องศา รอบ C’ A A’ B’ B C 90
  • 46. • วิธีทา ิ • 1. ลาก OA โดยให้ o เป็ นจุดหมุน หมุน OA ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด 90 องศา ถึงจุด A’ ทาให้ OA = OA’ ิ • 2. ลาก OB โดยให้ O เป็ นจุดหมุน หมุน OB ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด 90 องศา ถึงจุด B’ ทาให้ OB =OB’ ิ • 3. ลาก OC โดยให้ O เป็ นจุดหมุน หมุน OC ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด 90 องศา ถึงจุด C’ ทาให้ OC = OC’ • 4. ลาก A’B’ , B’C’ ทาให้ รูป สามเหลียม ABC เป็ นภาพที่ได้ จากการหมุน ่ ิ รูป สามเหลี่ยม ABC ทวนเข็มนาฬกาด้ วยมุมขนาด 90 องศา รอบจุด O ตาม ต้ องการ
  • 47. โจทย์ประยุกต์ของการหมุน • เราสามารถนาความรู้เรื่ องการหมุนมาประยุกต์ใช้ ในการแก้ ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ ได้ • ดังตัวอย่างตัวไปนี ้
  • 48. • วิธีทา • หมุนรูปสามเหลี่ยม ก ทวนเข็มนาฬิกา รอบจุดหมุน O ขนาด 90 องศา และหมุนรูปครึ่งวงกลม ข ตามเข็มนาฬิการอบจุดหมุน O ขนาด 90 องศา จะได้ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ ากว้ าง 3 เซนติเมตร ยาว 5 เซนติเมตร
  • 49. • ตัวอย่ างที่5 • จงหาพืนที่โดยประมาณของส่ วนที่แรเงา ของรูปต่ อไปนี ้ เมื่อกาหนดให้ ้ พืนที่ของรูป A เท่ ากับพืนที่ของรูป B และพืนที่ของรูป B และพืนที่ของ ้ ้ ้ ้ รูป C เท่ ากับพืนที่ของรูป C ้ • วิธีทา จากรูปสี่เหลี่ยม PQRS มีความกว้ าง 21 เซนติเมตร • มีความยาว 28+56 =84 เซนติเมตร • จะได้ พืนที่ของ สี่เหลี่ยม PQRS = 21x84 ้ • = 1,764 ตารางเซนติเมตร
  • 50. • วิธีทา 14ซม. 7ซม. S R A 28ซม. B C 56ซม. D P Q