More Related Content
Similar to การสืบพันธุ์ (20)
More from Wan Ngamwongwan (20)
การสืบพันธุ์
- 2. ความสาคัญของการสืบพันธุ์
1. การสืบพันธุ์ เป็นกระบวนการที่สาคัญที่สุดในการสร้างหน่วยสิ่งมีชีวต
ิ
ขึ้นมาใหม่ เพื่อทดแทนหน่วยสิ่งมีชีวิตเดิมที่ตายหรือดับสูญไป ทาให้
สิ่งมีชีวิตดารงพันธุ์สบต่อเนื่องกันไปเป็นระยะเวลาอันยาวนาน
ื
2. การสืบพันธุ์โดยเฉพาะแบบอาศัยเพศ ทาให้เกิดความแตกต่างแปร
ผันของลักษณะภายในสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน(Variation) ซึ่งเป็นกลไกสาคัญ
ยิ่งในกระบวนการปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและก่อให้เกิด
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 3. ความสาคัญของการสืบพันธุ์
Design 3. นักชีววิทยาบางท่านมีความเห็นว่า การสืบพันธุ์น่าจะเป็น
Plan
คุณสมบัติสาคัญที่สุดในการใช้เป็นหลักตัดสินว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ เช่น ไวรัส ถ้าอยู่นอกเซลล์ของผู้ถูกอาศัย
จะเป็นผลึกไม่มีกิจกรรมใดๆ แต่ถ้าเข้าไปอยู่ภายในเซลล์ของผู้ถูก
อาศัย จะสามารถเพิ่มจานวนขึ้นได้ จึงจัดไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิต
เนื่องจากสามารถทวีจานวน หรือ สืบพันธุ์ได้
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 4. การสืบพันธุ์ของสัตว์ (Animal reproduction)
• แบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction)
การสร้างรุ่นลูกทีมพนธุกรรมเหมือนเดิมทุกประการ (ไม่มการ
่ี ั ี
รวมกันของเซลล์สบพันธุ์ (gamete)
ื
• แบบอาศัยเพศ (Sexual reproduction)
การสร้างรุ่นลูกโดยกระบวนการปฏิสนธิของเซลล์สืบพันธุ์ (male
gamete: sperm + female gamete: egg) ทาให้รนลูกมี ุ่
ความแปรผันทางพันธุกรรม
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 5. การสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
การแตกหน่อ (budding)
สิ่งมีชีวิตตัวใหม่งอกออกมาจากตัวเดิม
แล้วหลุดออกมาเป็นสิ่งมีชีวตตัวใหม่
ิ
เช่น ยีสต์
การสืบพันธุ์แบบ budding ในยีสต์
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 6. การแบ่งตัว (binary fission)
สิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งแบ่งเป็นสิ่งมีชีวิตสองตัว
เช่น อะมีบา พารามีเซียม ยูกลีนา
Animation แสดงการสืบพันธุ์ตัวแบบ Binary Fission
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 7. การสืบพันธุ์คล้ายการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
เช่น พารามมีเซียม เซลล์มี 2 นิวเคลียส
คือ ไมโครนิวเคลียส (Micronucleus)
และแมโครนิวเคลียส (Macronucleus)
พารามิเซียม 2 เซลล์จะจับคู่กัน
(Conjugation) เพื่อแลกเปลี่ยนสาร
พันธุกรรม จากนั้นจึงแยกกัน และแบ่ง
เซลล์เพิ่มจานวนตามปกติ
การสืบพันธุ์ของพารามีเซียม
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 9. การสืบพันธุ์ของสัตว์
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
การงอกใหม่ (regeneration)
ส่วนที่หลุดไปจากสิ่งมีชีวิตหนึ่งพัฒนาไป
เป็นสิ่งมีชีวิตตัวใหม่ได้ โดยเซลล์ในส่วนที่
หลุดไปนั้นเกิดรีเจนเนอเรชัน ่
(regeneration) กลับเป็นเนือเยื่อเจริญได้
้
อีก ตัวอย่างเช่น ดาวทะเล พลานาเรีย
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 11. การแตกหน่อ (budding)
สิ่งมีชีวิตตัวใหม่งอกออกมาจากตัวเดิม แล้วหลุดออกมาเป็นสิ่งมีชีวิตตัวใหม่ เช่น
ไฮดรา ฟองน้า
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร การ budding ของ ไฮดรา
- 12. Parthenogenesis
Parthenogenesis พบในผึ้ง มด ต่อ แตน โดยไข่ (n) ที่ไม่ได้รับการ
ผสมจะเจริญกลายเป็นตัวผู้
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 14. Sporulation
Sporulation หรือ การสร้างสปอร์ คือการแบ่งนิวเคลียสหลายครั้ง แล้วจึง
แบ่ง cytoplasm ได้เซลล์ลูกมากมาย โดยมีผนังแข็งมาหุ้มเซลล์ สปอร์จะใช้
ในการกระจายพันธุ์ เช่น ฟังไจ
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 15. Fragmentation
Fragmentation เกิดตัวใหม่โดยการหลุดออกเป็นท่อนๆ เช่น สาหร่ายที่
เป็นสาย พยาธิตัวตืด
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 16. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
เกิดจาก การปฏิสนธิ (Fertilization) ของเซลล์สืบพันธุเ์ พศผู้หรืออสุจิ กับ
เซลล์สืบพันธุ์เพศเมียหรือเซลล์ไข่ อาจจะเกิดภายในหรือภายนอกร่างกายของ
สัตว์เพศเมียก็ได้ โดยเซลล์ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วเรียกว่า ไซโกต (zygote)
จะเจริญเติบโตเป็นเอ็มบริโอ (Embryo) และตัวเต็มวัยที่สามารถสืบพันธุ์
เพิ่มจานวนประชากรต่อไปได้
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 17. ตัวอย่าง การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
Hermaphroditism : สิ่งมีชีวิตนั้นมี 2 เพศในตัวเดียว
ไส้เดือน มีส่วน Clitellum ซึ่งเป็นบริเวณปล้องที่มีต่อมสร้างสารเมือกที่เป็น
เปลือกหุ้มเซลล์ไข่
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 18. แมลง
เป็นสัตว์แยกเพศ
ปฏิสนธิภายใน
Accessory
gland Ovary
Ejaculatory
Testis duct
Oviduct
Spermatheca
Vas Penis Vagina
deferens
Seminal Accessory
vesicle gland
Male honeybee (drone) Female honeybee (queen)
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 19. ระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์
Human Reproductive system
Male reproductive system
Female reproductive system
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 20. การสืบพันธุ์ของคน
ระบบสืบพันธุเ์ พศชาย (Male Reproductive System)
ระบบสืบพันธุเ์ พศชาย เป็นระบบ
ที่ทาหน้าที่ในการสร้างเซลล์
สืบพันธุ์ คือ sperm และทา
หน้าที่ในการนาส่ง sperm เข้าไป
ในอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงเพื่อผสม
กับเซลล์ไข่ต่อไป นอกจากนี้ยังทา
หน้าที่สร้าง hormone เพศชายอีก
ด้วย
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 23. อวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย ประกอบด้วย
ถุงอัณฑะ (scrotal sac หรือ scrotum)
ถุงอัณฑะเป็นส่วนผิวหนังที่มีลกษณะเป็นถุงยื่นออกมาจากส่วนล่างของผนัง
ั
หน้าท้อง ภายในถุงอัณฑะแต่ละข้างประกอบด้วย อัณฑะ epididymis และ
ปลายด้านล่างของ spermatid cord ผิวหนังของถุงอัณฑะบางและเป็น
รอยย่น (rugose) เนื่องจากในชั้นผิวหนังของถุงอัณฑะมีกล้ามเนื้อเรียบ
เรียกว่า dartos muscle ซึ่งถูกเลี้ยงโดยระบบประสาทอัตโนมัติ
sympathetic กล้ามเนื้อ dartos จะทาหน้าที่ปรับอุณหภูมิของอัณฑะให้
คงที่ ซึ่งจาเป็นต่อการสร้างและการพัฒนาของ sperm ที่ต้องการอุณหภูมิที่
ต่ากว่าอุณหภูมิของร่างกายประมาณ 3-5 องศาเซลเซียส
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 24. อัณฑะ(testis)
อัณฑะ เป็นอวัยวะที่เคลื่อนไหวได้อยู่ในถุง
อัณฑะ ถ้าหากอัณฑะยังไม่สามารถเคลื่อนลง
มาอยู่ในถุงอัณฑะ เรียกสภาพนี้ว่า
cryptochidism ซึ่งจะมีผลทาให้ไม่สามารถ
สร้าง sperm ได้
อัณฑะ เป็นต่อมเพศชองชายทาหน้าที่ผลิตตัวอสุจิ (Sperm) และสร้าง
ฮอร์โมนเพศชาย อัณฑะมี 2 ข้าง ภายในประกอบด้วยหลอดสร้างตัว
อสุจิ (Seminiferous tubules) มีลักษณะเป็นท่อเล็ก ๆ ขดเรียงกันอยู่
มากมาย ทาหน้าที่สร้างตัวอสุจิ นอกจากนีภายในอัณฑะยังมีเซลล์ทา
้
หน้าที่สร้างฮอร์โมนเพศชายเพื่อควบคุมลักษณะต่าง ๆ ของเพศชาย เช่น
เสียงห้าว มีหนวดเครา เป็นต้น
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 25. หลอดเก็บอสุจิ (Epididymis) เป็นที่พักของอสุจิที่
สร้างจากหลอดสร้างอสุจิ หลอดเก็บอสุจิจะอยู่ด้านบน
ของอัณฑะต่อเชื่อมกับหลอดนาอสุจิ อสุจิจะพักอยู่ใน
เอพิดไดมิส ได้นานถึง 6 สัปดาห์ จนกระทั่งแข็งแรง
ิ
และพร้อมที่จะผสมกับไข่ได้ต่อไป
ท่อนาอสุจิ (Vas deferens) อยู่ต่อจาก
หลอดเก็บอสุจิ ทาหน้าที่ลาเลียงอสุจิไป
เก็บไว้ที่ต่อมสร้างน้าเลี้ยงอสุจิ
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 26. ต่อมสร้างน้าเลี้ยงอสุจิ (Seminal vesicle) เป็นท่อ2ท่อขดไปมา อยู่ต่อ
จากหลอดนาอสุจิ ทาหน้าที่สร้างสารอาหารสาหรับเลี้ยงอสุจิ ได้แก่
น้าตาลฟรักโทส วิตามินซี โปรตีนโกลบูลิน และสร้างของเหลวเพื่อทาให้
เกิดสภาพที่เหมาะสมกับตัวอสุจิ รวมเรียกว่า เซมินัลฟลูอิด (seminal
fluid)
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 27. ต่อมลูกหมาก (Prostate gland) อยู่บริเวณตอนต้นของท่อปัสสาวะ ทา
หน้าที่สร้างสารที่เป็นเบสอ่อน ๆ เข้าไปในท่อปัสสาวะปนกับน้าเลี้ยงตัว
อสุจิเพื่อลดความเป็นกรด เพื่อให้เกิดสภาพที่เหมาะสมสาหรับตัวอสุจิ
ต่อมคาวเปอร์ (Cowper’s gland) มี 2
ต่อม ขนาดเท่าเม็ดถั่ว อยู่ใต้ต่อมลูกหมาก
ทาหน้าที่สร้างน้าเมือกหล่อลื่นในท่อ
ปัสสาวะ เพื่อให้ตัวอสุจิเคลื่อนตัวได้สะดวก
และเร็วขึ้น
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 28. การสร้างตัวอสุจิและการหลั่งน้าอสุจิ
เริมจากหลอดสร้างตัวอสุจิซึ่งอยู่ภายในอัณฑะสร้างตัวอสุจิออกมา ถูกนาไป
่
พักไว้ที่หลอดเก็บตัวอสุจิ จนตัวอสุจิแข็งแรงพร้อมที่จะปฏิสนธิ แล้วถูก
ลาเลียงไปตามหลอดนาตัวอสุจิเพื่อนาไปเก็บไว้ที่ต่อมสร้างน้าเลี้ยงอสุจิ เมื่อ
ถูกกระตุ้นให้หลั่งน้าอสุจิ น้าอสุจิจะถูกขับออกมาทางท่อปัสสาวะและออกจาก
ร่างกายตรงปลายสุดของอวัยวะเพศชาย ซึ่งต่อมลูกหมากจะหลั่งสารเข้าผสม
กับน้าเลี้ยงตัวอสุจิเพื่อปรับสภาพให้เหมาะสมกับตัวอสุจิ และต่อมคาวเปอร์
จะสร้างเมือกหล่อลื่นในท่อปัสสาวะเพื่อให้ตัวอสุจิเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้น
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 29. โดยทั่วไปเพศชายจะเริ่มสร้างตัวอสุจิเมื่ออายุประมาณ 12-13 ปี และ
สร้างไปจนตลอดชีวิต การหลั่งน้าอสุจิออกมาแต่ละครั้งจะมีของเหลว
ออกมาเฉลี่ยประมาณ 3-4 ลูกบาศก์เซนติเมตร และมีตัวอสุจิเฉลี่ย
ประมาณ 350-500 ล้านตัว ซึ่งปริมาณน้าอสุจิและตัวอสุจิอาจ
แตกต่างไปตามความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย เชื้อชาติ และ
สภาพแวดล้อม
สาหรับชายที่เป็นหมันจะมีตัวอสุจิน้อยกว่า 30-50 ล้านตัวต่อ
1 ลูกบาศก์เซนติเมตร หรือมีตัวอสุจิที่ผิดปรกติมากกว่าร้อยละ 25
ตัวอสุจิเมื่อออกจากร่างกายจะมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
แต่ถ้าอยู่ในมดลูกของเพศหญิงจะอยู่ได้ประมาณ 24-48 ชั่วโมง
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 30. penis
เป็นอวัยวะที่ทาหน้าที่เป็นทางผ่านของน้าปัสสาวะและน้าอสุจิ
ประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้ (erectile tissue) ซึ่งมีลักษณะ
เป็นแท่งทรงกระบอก 3 แท่ง ภายในมีลักษณะคล้ายฟองน้า จะมี
ต่อมเหงื่อ และต่อมไขมันมาก เมื่อมีการหลั่งสารออกจากต่อมพร้อม
กับเซลล์ที่หลุดลอกออกจากผิวหนังมารวมตัวกันจะเป็นก้อนสีขาวขุ่น
เรียกว่า smegma ถ้าหากทาความสะอาดบริเวณนี้ไม่ดีจะก่อให้เกิดการ
ติดเชื้อได้ ดังนันการผ่าตัดเอา prepuce ออกซึ่งเรียกว่าการทา
้
circumcision จะทาให้สามารถทาความสะอาดบริเวณนี้ได้งาย ่
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 31. การสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศชาย (Spermatogenesis)
อวัยวะที่ทาหน้าที่สร้างอสุจิ คือ อัณฑะ (testis) โดยภายในอัณฑะจะ
ประกอบด้วย หลอดสร้างอสุจิ (seminiferous tubules) จานวน
มากมาย โดยระหว่างการเกิดอวัยวะสืบพันธุ์จะมีกลุมเซลล์ ชื่อ ไพรมอร์
่
เดียล เจอร์มเซลล์ (primordial germ cell) เป็นกลุ่มเซลล์เริ่มแรก ที่
เคลื่อนเข้ามาอยู่ในหลอดสร้างอสุจิของอัณฑะ มีการแบ่งตัว
แบบ mitosis หลายครั้งได้เซลล์ที่เรียกว่า สเปอร์มาโทโกเนีย
(spermatogonia) มากมาย
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 32. spermatogonia จะมีการจาลองโครโมโซมอีกเท่าตัว พร้อมที่จะ
แบ่งตัวแบบ meiosis เรียกเซลล์นี้ว่า สเปอร์มาโทไซต์ระยะแรก
(primary spermatocyte) ซึ่งจะแบ่งตัวแบบ meiosis ขั้น
ที่ 1 ได้ สเปอร์มาโทไซต์ระยะที่ 2 (secondary spermatocyte)
และแบ่งตัวแบบ meiosis ขั้นที่ 2 ต่อไป จะได้ สเปอร์มาติด
(spermatid) ซึ่งจะเจริญต่อไปเป็นตัวอสุจิโดยการสลัด cytoplasm ทิ้ง
ที่ส่วนหัวของสเปิร์มจะมี acrosome ซึ่งเปลี่ยนแปลงมา
จาก Golgi bodies จึงมีเอนไซม์อยู่ด้วย (hyaluronidase)
ที่ส่วน Middle pieceจะมี centriole2 อัน และ
มี mitochondria เรียงตัวเป็นเกลียวรอบ ๆ หลอด
microtubules เพื่อสร้างพลังงานให้แก่เซลล์อสุจิ
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 36. ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง (Female Reproductive System)
ระบบสืบพันธุเ์ พศหญิงเป็นระบบที่ทาหน้าที่คล้ายกับระบบสืบพันธุ์เพศชาย
ซึ่งนอกจาก สร้างเซลล์สืบพันธุ์คือเซลล์ไข่ และสร้าง hormone เพศหญิง
แล้ว ยังทาหน้าที่ดูแลฟูมพักให้ เซลล์ไข่ที่ผสมติดให้พัฒนากลายเป็นตัวอ่อน
จนคลอดออกมา
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 38. รังไข่ ทาหน้าที่ผลิตไข่และฮอร์โมนเพศหญิง
ซึ่งจะกาหนดลักษณะต่างๆในเพศหญิง เช่น
ตะโพกผาย เสียงแหลม สาหรับรังไข่จะมี
2 อัน ซึ่งจะอยู่คนละข้างของมดลูกจะมี
ลักษณะคล้ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ยาวประมาณ 2-3 cm. หนา 1 cm.
ท่อนาไข่ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปีกมดลูก เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างรังไข่ทั้งสองข้าง
กับมดลูก ทาหน้าที่เป็นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูกและเป็นบริเวณ
ที่อสุจิจะเข้าปฏิสนธิกับไข่ ท่อนาไข่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตร
และยาวประมาณ 6 - 7 เซนติเมตร
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 39. มดลูก มีรูปร่างคล้ายผลชมพู่หัวกลับลง กว้าง
ประมาณ 4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6 - 8
เซนติเมตร หนาประมาณ 2 เซนติเมตร อยู่ใน
บริเวณอุ้งกระดูกเชิงกรานระหว่างกระเพาะ
ปัสสาวะกับทวารหนัก ทาหน้าที่เป็นที่ฝังตัวของ
ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วและเป็นที่เจริญเติบโตของ
ทารกในครรภ์
กระเพาะปัสสาวะ ทวารหนัก
ช่องคลอด อยู่ต่อจากมดลูกลงมา ทาหน้าที่เป็น
ทางผ่านของตัวอสุจิเข้าสู่มดลูกและเป็นทางออก
ของทารกเมื่อครบกาหนดคลอด
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 41. FSH
Graafian follicle
สร้าง
LH
estrogen
ลักษณะที่2ของเพศหญิง สร้าง
โพรเจสเทอโรน
ผล
มดลูกหนาตัว
ยับยั้งการตกไข่
การเปลี่ยนแปลงภายในรังไข่
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 46. ภาพของไข่ก่อนจะถูกผสม ไข่จะถูกปก ภาพของ sperm จานวนหนึ่ง
คลุมไว้ด้วย zona pellicuda ซึ่งทา กาลังแข่งกันก่อให้เกิดการปฏิสนธิ
หน้าปกป้องและดัก sperm
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 48. กระบวนการปฏิสนธิของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
(1) สเปิร์มผ่านเข้าไปในชั้นของ
follicle cells และรวมกับ
receptor molecules ที่อยู่ที่ชั้น
zona pellucida
(2) acrosomal reaction
เกิดขึ้นโดยสเปิร์มปล่อยเอนไซม์ย่อย
ชั้น zona pellucida
(3) ทาให้สเปิร์มสามารถเข้าไปถึง plasma membrane ของไข่ได้
และ membrane proteins ของสเปิร์มรวมกับ receptor ที่
plasma membrane ของไข่
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 49. กระบวนการปฏิสนธิของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
(4) plasma membrane ของ
สเปิร์มและไข่เชื่อมติดกัน ดังนั้น
นิวเคลียสของสเปิร์มเข้าไปใน
ไซโตพลาสซึมของไข่
(5) เกิด cortical reaction โดยเอนไซม์ที่ปล่อยออกมาจาก
cortical granules ทาให้ชั้น zona pellucida มีลักษณะแข็ง ทา
หน้าที่ป้องกันไม่ให้สเปิร์มตัวอื่นเข้าไปในไข่อีก (การทีสเปิร์มเข้าไปใน
่
ไข่หลายตัว เรียกว่า polyspermy)
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 50. ทีมา Frederich H. Martini. Edwin F. Bartholomew. Essentials
่
of anatomy and physiology. U.S.A., Prentice-Hall , Inc. 1997.
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 51. ภาพของไข่ที่ได้รับการผสม กลายเป็นตัว ภาพตัวอ่อนอายุ 6 วัน
อ่อนได้ 5 วัน และยังมี sperm ที่ ในมดลูกของเพศหญิง
หลงเหลือว่ายอยู่รอบๆ ส่วนสีเขียวใน
ภาพคือส่วนหางของ sperm
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 53. การปฏิสนธิ (Fertilization) คือ การที่อสุจิของเพศชายเกิดการผสมกับไข่
ของเพศหญิง เกิดเป็นไข่ที่ถูกผสมและมีจานวนโครโมโซม 2n ( 46 แท่ง)
การปฏิสนธิมักเกิดขึ้นที่บริเวณของท่อนาไข่บริเวณ Ampula ระยะเวลาที่ไข่
ผสมกับ Sperm นั้นสั้นมาก เกิดขึ้นภายใน 6-8 ชั่วโมง หลังจากไข่ตก และ
เมื่อเกิดการปฏิสนธิแล้วไข่ที่ถูกผสมจะ เรียกว่า Fertilized ovum ต่อมาจะมี
การเคลื่อนที่พร้อมกับการแบ่งตัวแบบ Mitosis ไปพร้อมๆ กัน จนกลายเป็น
Blastocyte เพื่อเตรียมฝังตัวที่ผนังมดลูก
ในวันที่ 7 หลังการปฏิสนธิ Blastocyte จะเริ่มฝังตัวในผนัง
มดลูก และจะฝังตัวเรียบร้อยในวันที่ 14 ประมาณ วันที่ 16 จะเกิด
Primitive streak มี 3 ชั้น ซึ่งจะเจริญเป็นทารกต่อไป
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร
- 54. The End
สวัสดี
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร