More Related Content
More from น้องอุ่ย ลุลา (7)
K2
- 1. นางสาวภัทราภรณ์ วงษ์ศา เลขที่ 11
นางสาววันชนก วิริยกิจ เลขที่ 12
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำาคัญของโครงงาน
ความหมายของโครงงาน
กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้ทำาการศึกษาค้นคว้าและฝึก
ปฏิบัติด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดย
อาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นๆ ไปใช้ในการ
ศึกษาหาคำาตอบ โดยมีครูผู้สอนคอยกระตุ้นแนะนำาและให้คำาปรึกษาแก่
ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การเลือกหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า ดำาเนินงาน
ตามแผน กำาหนดขั้นตอนการดำาเนินงานและการนำาเสนอผลงาน ซึ่งอาจ
ทำาเป็นบุคคลหรือเป็นกลุ่ม
โครงงาน คือ การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆสิ่งที่
อยากรู้คำาตอบให้ลึกซึ้ง
หรือเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆให้มากขึ้น โดยใช้กระบวนการ วิธีการที่ศึกษา
อย่างมีระบบ เป็นขั้นตอน
มีการวางแผนในการศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้
จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคำาตอบในเรื่องนั้นๆ
ความสำาคัญของโครงงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความ
สนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทาง
วิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็น
สำาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยง
ความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่
ปรึกษาและให้คำาแนะนำา
ความสามารถที่เกิดจากการทำาโครงงานคอมพิวเตอร์
- 2. นางสาวภัทราภรณ์ วงษ์ศา เลขที่ 11
นางสาววันชนก วิริยกิจ เลขที่ 12
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทำาให้ผู้เรียนเกิดความ
สามารถในด้านต่าง ๆ ที่สำาคัญ 5 ประการ ดังนี้
1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่
นักเรียนเป็นผู้ทำาโครงงานต้องนำาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียน
ให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทำาโครงงาน
ต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วย
ปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนำา
เสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
2. ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ
ดังนี้
- การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและ
แยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจากอะไร
- การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนำาความรู้ต่าง ๆ ที่
เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้
ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน
- การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนำาความรู้มาสร้าง
สรรค์ผลงานใหม่ ๆ
- การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิด
ไตร่ตรองว่าควรทำาโครงงานใดและไม่ควรทำาโครง งานใด
เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม
เช่น โครงงานระบบคำานวณเลขหวย สำาหรับหาเลขที่คาดว่าสลาก
กินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม
ทำาให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมาก
ขึ้น
- 3. นางสาวภัทราภรณ์ วงษ์ศา เลขที่ 11
นางสาววันชนก วิริยกิจ เลขที่ 12
- การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็น
ขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้
วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือ
ประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนำาเสนอผลการ
ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คำา
ปรึกษา
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา
เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้
ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นำาความรู้
และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนำาไปประยุกต์
ใช้ในชีวิตประจำาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อ
ให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนำาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถ
เลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะ
สม และมีคุณธรรม
ขั้นตอนการพัฒนาโครงงาน
การจัดทำาโครงงานคอมพิวเตอร์ ถือเป็นกระบวนการในการทำาโครงงาน
ที่ต้องดำาเนินการอย่างเป็นลำาดับขั้นตอน เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
ต่อการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
หัวข้อ ส่วนใหญ่ที่นำามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มา
จากปัญหา คำาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ การสังเหตสิ่งต่างๆ ที่
เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว
- 4. นางสาวภัทราภรณ์ วงษ์ศา เลขที่ 11
นางสาววันชนก วิริยกิจ เลขที่ 12
ปัญหาที่จะนำา มาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์นั้นได้จากแหล่งที่ต่างกัน
ได้แก่ การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ หรือวารสาร
ต่างๆ การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการ
วิทยุและโทรทัศน์ ข้อมูลข่าวสารจากอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการสนทนา
อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อนนักเรียนหรือกับ บุคคล
อื่นๆ กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน งานอดิเรกของนักเรียน
การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบสำาคัญในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำามาพัฒนาโครง
งานคอมพิวเตอร์
1. มีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
2. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่
เกี่ยวข้องได้
3. มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้า หรือขอคำาปรึกษา
4. มีเวลาเพียงพอ
5. มีงบประมาณเพียงพอ
6. มีความปลอดภัย
2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
การศึกษาค้นคว้าเอกสารและแหล่งข้อมูล รวมถึงการขอคำาปรึกษาจาก
ผู้ทรงคุณวุฒิจะช่วยให้เกิดแนวคิดในการกำาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะ
ศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้นและได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะ
ศึกษา จนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำาเนินการทำาโครงงานนั้น
ได้อย่างเหมาะสม
ในการศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูลจะต้องได้คำาตอบว่า จะ
ทำาอะไร ทำาไมต้องทำา ต้องการให้เกิดอะไร ทำาอย่างไร ใช้ทรัพยากร
อะไร ทำากับใคร และจะเสนอผลงานอย่างไร
- 5. นางสาวภัทราภรณ์ วงษ์ศา เลขที่ 11
นางสาววันชนก วิริยกิจ เลขที่ 12
3. การจัดทำาข้อเสนอโครงงาน
การจัดทำาข้อเสนอโครงงานเป็นการจัดทำาเค้าโครงของโครงงานเพื่อ
เสนอครูที่ปรึกษา โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิง และรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ทรงคุณวุฒิ
2. วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกำาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงงานที่จะ
พัฒนา
3. ออกแบบการพัฒนา มีการกำาหนดลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์และตัวแปลภาษาโปรแกรม และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้
4. กำาหนดตารางการปฏิบัติงานของการจัดทำาเค้าโครงของโครงงาน
ลงมือทำาโครงงาน และสรุปรายงานโครงงาน โดยกำาหนดช่วงเวลาอย่าง
กว้าง
5. ทำาการพัฒนาโครงงานขั้นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น โดย
อาจจะทำาการพัฒนาส่วนย่อยๆ บางส่วน ตามที่ได้ออกแบบไว้แล้ว นำาผล
จากการศึกษาในช่วงนี้ไปปรับปรุงแผนการทดลองที่ออกแบบไว้ในครั้ง
แรกให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
6. เสนอเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ต่อครูที่ปรึกษา เพื่อขอคำา
แนะนำาและปรับปรุงแก้ไขเพราะในการวางแผนการศึกษาพัฒนา ความ
คิดของนักเรียนอาจยังไม่ครบคลุมทุกด้าน เนื่องจากยังขาด
ประสบการณ์ จึงควรถ่ายทอดความคิดที่ได้ศึกษาและบันทึกไว้ให้ครู
ทราบเพื่อรับคำาแนะนำา และนำาไปปรับใช้ให้เกิดความเหมาะสม
องค์ประกอบของโครงงานคอมพิวเตอร์
1. ชื่อโครงงาน ต้องสื่อว่าทำาอะไรกับใคร เพื่ออะไร เช่นโครงงาน
พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
2. ชื่อผู้จัดทำา ระบุถึงผู้รับผิดชอบโครงงานอาจเป็นรายกลุ่มหรือราย
บุคคลก็ได้
- 6. นางสาวภัทราภรณ์ วงษ์ศา เลขที่ 11
นางสาววันชนก วิริยกิจ เลขที่ 12
3. ครูที่ปรึกษา ระบุชื่อสกุล ของครูผู้ทำาหน้าที่เป็นที่ปรึกษาควบคุม
การทำาโครงงานของนักเรียน
4. ระยะเวลาดำาเนินงาน ให้ระบุเวลาตั้งแต่เริ่มทำาโดยใช้ซอฟต์แวร์ที่
ช่วยในการบริหารจัดการเพื่อใช้วางแผนควบคุมการทำางาน
5. แนวคิด ที่มา อธิบายถึงสาเหตุที่เลือกทำาโครงงาน กล่าวถึงความ
ต้องการและความคาดหวังที่จะเกิดผล
6. วัตถุประสงค์ ระบุสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงานนี้ใน
เชิงกระบวนการและผลลัพธ์ที่ได้
7. หลักการทฤษฏี อธิบายหลักการและทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง ที่นำามาใช้
ในโครงงาน
8. วิธีดำาเนินงาน กล่าวถึงกิจกรรมหรือขั้นตอนการดำาเนินงาน
9. ขั้นตอนปฏิบัติ กล่าวถึงวันเวลาและการดำาเนินกิจการต่างๆ ตั้งแต่
เริ่มต้นจนเสร็จสิ้น
10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ระบุถึงสภาพของผลที่ต้องารให้เกิด รวมถึง
ผลกระทบที่เกิดขึ้น
11. เอกสารอ้างอิง ระบุชื่อเอกสารข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่างๆ ที่นำามา
ใช้ในการดำาเนินการ
4. การพัฒนาโครงงาน
เมื่อเค้าโครงงานของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากครูที่ปรึกษาแล้ว
ขั้นตอนต่อไปนี้จึงเป็นการลงมือพัฒนาโครงงานตามขั้นตอนที่วางแผน
ไว้ เช่น จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อม รวมทั้งการกำาหนดหน้าที่ ความ
รับผิดชอบ ของสมาชิกในกลุ่มให้ชัดเจน แล้วจึงดำาเนินการทำาโครงงาน
ขณะเดียวกันต้องมีการทดสอบ ตรวจสอบ ปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนา
โครงงานเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นนั้น ทำางานำาด้ถูก
- 7. นางสาวภัทราภรณ์ วงษ์ศา เลขที่ 11
นางสาววันชนก วิริยกิจ เลขที่ 12
ต้องตรงกับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมาย และเกิดประสิทธิภาพตาม
ขั้นตอน ดังนี้
1. การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุ
อื่นๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมและควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึก
เป็นข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์สำาหรับบันทึกการทำากิจกรรมต่างๆ
ระหว่างทำาโครงงาน ได้แก่ การดำาเนินการเป็นอย่างไรได้ผลอย่างไร มี
ปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
2. การลงมือพัฒนา เป็นการปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง
ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ หากพบว่าจะช่วยทำาให้ผลงาน
พัฒนาได้ดีขึ้น โดยจัดระบบการทำางานโดยทำาส่วนที่เป็นหลักสำาคัญให้
เสร็จก่อน จึงค่อยทำาส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริม เพื่อให้โครง
งานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทำาให้ตกลงราย
ละเอียดในการเชื่อมต่อชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย รวมทั้งต้องพัฒนาระบบ
งานด้วยความละเอียดรอบคอบ บันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบและครบถ้วน
3. การทดสอบผลงานและแก้ไข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของ
ผลงาน เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้น ทำางานได้ถูกต้องตรงกับ
ความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพ
4. การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้
จัดทำาสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดครอบคลุมหัวข้อโครงงาน เพื่อช่วย
ให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทำาโครงงานและทำาการ
อภิปรายผล เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำาไปหาความ
สัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฏี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยัง
รวมถึงการนำาหลักการ ทฤษฏี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการ
อภิปรายผลที่ได้
- 8. นางสาวภัทราภรณ์ วงษ์ศา เลขที่ 11
นางสาววันชนก วิริยกิจ เลขที่ 12
5. แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทำา
โครงงานเสร็จสิ้นลงแล้วนักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำาคัญหรือ
ปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะ สำาหรับผู้สนใจจะนำาไปพัฒนา
ผลงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. การเขียนรายงานโครงงาน การเขียนรายงาน เป็นวิธีการสื่อความ
หมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดำาเนินการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล
ที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น โดย
ในการเขียนรายงานนั้น โดยในการเขียนรายงานนั้น ควรใช้ภาษาที่
อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ ตรงไปตรงมา รวมทั้งจัดทำาคู่มือการใช้งานซึ่ง
ประกอบด้วยรายละเอียด ดังนี้
1. ชื่อโครงงาน
2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรายละเอียดของ
คอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อที่จะใช้กับโครงงานนั้น
3. ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องใช้กับ
เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อจะให้โครงงานนั้นทำางานได้อย่าง
สมบูรณ์
4. คุณลักษณะของโครงงาน ซึ่งอธิบายว่าผลงานนั้นทำาหน้าที่
อะไรบ้าง รับอะไรเป็น ข้อมูลขาเข้า และอะไรที่ออกมาเป็น
ข้อมูลขาออก
5. วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคำาสั่งใด
หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทำางานในฟังก์ชันหนึ่งๆ
6. การนำาเสนอและแสดงโครงงาน เป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจาก
การพัฒนาโครงงานเสร็จเรียบร้อยตามเป้าหมาย และ
วัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ โดยเป็นการนำาเสนอรายงานสรุปผลการ
ดำาเนินการในการจัดทำาโครงงาน และโปรแกรมที่ได้พัฒนาขึ้น
- 9. นางสาวภัทราภรณ์ วงษ์ศา เลขที่ 11
นางสาววันชนก วิริยกิจ เลขที่ 12
มาให้กับคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องของโครงงานนั้นๆ ซึ่ง
จัดเป็นขั้นตอนที่สำาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทำาโครงงาน
เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลทางความคิด ความพยายามในการ
ทำางานที่ผู้ทำาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทำาให้ผู้อื่นได้รับรู้
และเข้าใจถึงผลงานนั้น
แหล่งที่มา :
http://www4.srp.ac.th/~kitima/lesson/Project/standard/p01.html
http://krucarem32.wordpress.com/tag ขั้นตอนการพัฒนาโครงงาน/
http://krudarin.wordpress.com/ตกแต่งเว็บเพจด้วยกราฟิ/ความ
สำาคัญของโครงงานคอม/
- 10. นางสาวภัทราภรณ์ วงษ์ศา เลขที่ 11
นางสาววันชนก วิริยกิจ เลขที่ 12
มาให้กับคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องของโครงงานนั้นๆ ซึ่ง
จัดเป็นขั้นตอนที่สำาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทำาโครงงาน
เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลทางความคิด ความพยายามในการ
ทำางานที่ผู้ทำาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทำาให้ผู้อื่นได้รับรู้
และเข้าใจถึงผลงานนั้น
แหล่งที่มา :
http://www4.srp.ac.th/~kitima/lesson/Project/standard/p01.html
http://krucarem32.wordpress.com/tag ขั้นตอนการพัฒนาโครงงาน/
http://krudarin.wordpress.com/ตกแต่งเว็บเพจด้วยกราฟิ/ความ
สำาคัญของโครงงานคอม/