More Related Content
Similar to การทำโครงงาน 5 ขั้น
Similar to การทำโครงงาน 5 ขั้น (20)
การทำโครงงาน 5 ขั้น
- 1. ความหมายและคุณค่าของโครงงาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
• จุดมุ่งหมายการเรียนโครงงานวิทยาศาสตร์
– การฝึกให้นกเรียนมีความสามารถในการนำาความรู้
ั
ความคิดและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ในการแก้
ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ
ได้ด้วยตนเอง
• ความหมายของโครงงานวิทยาศาสตร์
– เป็น กิจ กรรม ทีเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และ
่
เทคโนโลยีทเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า
ี่
และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
ภายใต้การดูแลและให้คำาปรึกษาของครู อาจารย์
หรือผู้ทรงคุณวุฒิ
- 2. กิจกรรมที่จดเป็นโครงงาน
ั
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ต้องมีองค์ประกอบต่อไปนี้:
• เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี
• นักเรียนเป็นผู้ริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษา
ค้นคว้าด้วยตนเองตามความสนใจและระดับ
ความรู้ความสามารถ
• เป็นกิจกรรมที่มีการใช้วิธการทางวิทยาศาสตร์
ี
ไปช่วยในการศึกษาค้นคว้าเพื่อตอบปัญหาที่
สงสัย
• นักเรียนเป็นผู้วางแผน ปฏิบติทดลอง รวบรวม
ั
- 3. ประโยชน์ที่นักเรียนจะได้รับจากการ
ทำาโครงงาน
• ได้ฝึกฝนกระบวนการในการแสวงหาความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยตนเอง
• “คิดเป็น ทำาเป็น แก้ปญหาเป็น”
ั
• ได้รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
• ได้รู้จักการทำางานร่วมกับผู้อื่น
- 4. ขั้นตอนของการทำา
โครงงาน การแสดงผลงาน
การเขียนรายงาน
การลงมือทำา
จัดทำาเค้าโครงย่อ
ของโครงงาน
การศึกษาเอกสาร
ที่เกียวข้อง
่
การคิดและ
เลือกหัวข้อเรื่อง
- 6. การเขียนเค้าโครงย่อโครงงาน
วิทยาศาสตร์
เค้า โครง ของโครงงานวิท ยาศาสตร์ เขีย นขึ้น
เพือ แสดงความคิด แผนงาน และขั้น ตอนของ
่
การทำา โครงงานนัน
้
• ชื่อโครงงาน
ควรเป็นข้อความทีกระทัดรัด ชัดเจน สือความ
่ ่
หมายตรง
มีความเจาะจงว่าจะศึกษาอะไร
อาจจะตั้งชื่อโครงงานโดยนำามาตัวแปรต้นกับ
ตัวแปรตามมาเขียนให้อยู่ในลักษณะทีสัมพันธ์
่
กัน
ตัวอย่าง เช่น ผลของผลซักฟอกต่อการเจริญเติบโต
ของลูกปลาวัยอ่อน
- 8. รูปแบบของการเขียนเค้าโครงย่อโครง
งานวิทยาศาสตร์
• ที่มาและความสำาคัญของโครงงาน
– อธิบายว่าเหตุใดจึงเลือกทำาโครงงานนี้ โครงงาน
นีมความสำาคัญอย่างไร มีหลักการหรือทฤษฎี
้ ี
อะไรเกี่ยวข้อง
– เป็นเรื่องใหม่หรือผู้อื่นได้ศกษาค้นคว้าเรื่อง
ึ
ทำานองนีไว้บ้างแล้ว ถ้ามีผลเป็นอย่างไร โครง
้
งานทีทำานีได้ขยายเพิ่มเติม ปรับปรุงจากเรื่องทีผู้
่ ้ ่
อื่นทำาไว้อย่างไร หรือเป็นการทำาซำ้าเพือตรวจ
่
สอบผล
• จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
– ควรมีความเฉพาะเจาะจง และเป็นสิ่งทีสามารถ
่
- 9. รูปแบบของการเขียนเค้าโครงย่อ
โครงงานวิทยาศาสตร์
• สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า
– เป็นคำาตอบหรือคำาอธิบายที่คาดไว้ล่วงหน้าซึ่ง
อาจจะถูกหรือไม่ก็ได้
– การเขียนควรมีเหตุผล มีทฤษฎีหรือหลักการ
วิทยาศาสตร์รองรับ
– เป็นข้อความทีมองเห็นแนวในการดำาเนินการ
่
ทดลอง หรือสามารถทดสอบได้
- 10. รูปแบบของการเขียนเค้าโครงย่อโครง
งานวิทยาศาสตร์
• วิธีการดำาเนินการ
– วัสดุอุปกรณ์ทต้องใช้
ี่
• ระบุว่าวัสดุอุปกรณ์ที่จำาเป็นต้องใช้มีอะไรบ้าง จะได้
มาจากไหน
• วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้างที่ต้องจัดซื้อ ต้องทำาเอง หรือ
ขอยืม
– แนวการศึกษาค้นคว้า
• อธิบายว่าจะออกแบบการทดลอง อย่างไร
• จะสร้างหรือประดิษฐ์อะไร อย่างไร
• จะเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เก็บข้อมูลอย่างไร และเมื่อใด
บ้าง
- 11. รูปแบบของการเขียนเค้าโครงย่อ
โครงงานวิทยาศาสตร์
• แผนปฏิบติงาน
ั
– อธิบายเกี่ยวกับกำาหนดเวลาเริ่มต้น
และเวลาเสร็จของการดำาเนินงาน
ในแต่ละขั้นตอน
• ผลที่คาดว่าจะได้รับ
– ระบุชื่อหนังสือ หรือเอกสารต่างๆ ที่
ใช้อ้างอิงหรือค้นคว้า
– เขียนให้ถูกต้องตามหลักการเขียน
เอกสารอ้างอิง
- 12. รูปแบบของการเขียนเค้าโครงย่อโครง
งานวิทยาศาสตร์
• เอกสารอ้างอิง
ตัว อย่า งการเขีย นอ้า งอิง
ชื่อผู้ ชื่อ
แต่ง หนังสือ
ธีรชัย ปูรณโชติ . การสอนกิจ กรรมโครง
งานวิท ยาศาสตร์ คู่ม อ สำา หรับ ครู .
ื
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์ ปีที่ตี
สถานที2531. โรง
มหาวิทยาลัย, ่
เว้น 7 ตัว
อักษร พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์
- 13. รวมของกิจ กรรมโครงงาน
การสร้า งปัญ หา
การวางแผนเพื่อ ให้ไ ด้ค ำา ตอบ
ใช้ว ิธ ีก ารที่ก ำา หนดหาคำา ตอบ
วิเ คราะห์ค ำา ตอบที่ไ ด้
สรุป และนำา เสนอ
13
- 14. กรรม : มุง เน้น การได้ม าซึง ปัญ หา
่ ่
จกรรมสนับ สนุน เช่น
•กิจ กรรมฐานสาขาวิช าต่า ง ๆ
•กิจ กรรมการศึก ษานอกสถานที่
•กิจ กรรมการค้น หาข้อ มูล
•การฟัง บรรยายจากผูเ ชีย วชาญ
้ ่
บทบาทของครู : กระตุ้น
ให้น ัก เรีย นสงสัย และ
พยายามค้น หาคำา ตอบ
- 16. ถามอาจเกิด ขึ้น มากมาย
มต้อ งกรีด ยางเป็น แนวเฉีย ง ?
ทำา ไมนำ้า ยางของเราจึง ขายได้
จะทำา อย่าตำ่า กว่าน ำ้า ยางไม่ข าวขุน แต่ม ี
% งไรให้ คนอื่น ่
สมบัต ิอ ื่น ๆ เหมือ นเดิม ? ใ ช้ท ำา
จะเอานำ้า ยางไปประยุก ต์
อะไรได้อ ีก ?้น ให้ต ้น ยางสามารถผลิต นำ้า ยางไ
ที่ส ามารถกระตุ
กภาคใต้ก ับ ภาคอื่น ๆ มีค ณ สมบัต ิเ หมือ นกัน ห
ุ
- 17. ารคัด เลือ กปัญ หา
บางอย่า งสามารถหาคำา ตอบได้จ ากการสืบ ค้น
ปัญ หาบางอย่า งสามารถหาคำา ตอบได้
จากกระบวนการที่ไ ม่ซ ับ ซ้อ น
ปัญ หาบางอย่า งสามารถหาคำา ตอบได้
จากกระบวนการที่ซ ับ ซ้อ น
- 18. การคัด เลือ กปัญ หาไม่ม ีเ กณฑ์ต ายตัว แต่
ควรคำา นึง ถึง ความเป็น ไปได้ใ นการหาคำา
ตอบเช่น ความเป็น ไปได้เ กี่ย วกับ
การหาข้อ มูล สนับ สนุน
งบประมาณ วัส ดุอ ุป กรณ์ วิธ ก าร
ี
ระยะเวลา
- 19. 1-2 เตรีย มความพร้อ มให้ส ร้า งปัญ หา
3 กำา หนดส่ง เค้า โครงโครงงาน
วข้อ ปัญ หา และวิธ ก ารหาคำา ตอบของปัญ หาค
ี
กิจ กรรมการเขีย นเค้า โครงโครงงาน
- 20. ปัญ หา สิ่ง เกี่ย วข้อ ง
ปัญ หาปัญ หา
สิ่ง เกี่ย วข้อ ง
ปัญ หา
ปัญ หา ญ หา
ปั
ปัญ หา สิ่ง เกี่ย วข้อ ง
ปัญ หาญ หา
ปั
สิ่ง เกี่ย วข้อ ง
ปัญ หานี้เ กี่ย วข้อ งกับ อะ
น่า จะแก้ไ ขปัญ หาได้อ ย่า ง
- 21. ม 1 : สร้า งประเด็น ปัญ หาจากภาพเพื่อ นำา ไปสู่โ
- 22. กรรมขัน ที่ 2 : ประเมิน โจทย์ว ิจ ัย
้
จากโจทย์ว ิจ ัย ที่ท ่า นกำา หนด ต้อ งหา
ข้อ มูล สนับ สนุน เกี่ย วกับ เรื่อ งอะไร
และจะหาได้อ ย่า งไร
วิเ คราะห์ค วามคุ้ม ค่า ทาง
เศรษฐศาสตร์แ ละความ
เหมาะสมในการทำา วิจ ัย หรือ
โครงงานของโจทย์ว ิจ ัย ที่
ท่า นกำา หนด
- 23. นที่ 3 : กำา หนดวัต ถุป ระสงค์แ ละขอบเขตในการท
ถุป ระสงค์ไ ม่จ ำา เป็น ต้อ งมีห ลายข้อ
บเขตไม่จ ำา เป็น ต้อ งกว้า งใหญ่
สิ่ง จำา เป็น คือ ความสอดคล้อ ง
ต่อ ปัญ หาและสมมติฐ านของ
ปัญ หา
รม 4 : สิ่ง ที่ไ ด้ร บ จากการทำา โครงงาน
ั
สอดคล้อ งกับ วัต ถุป ระสงค์ สมมติฐ าน
- 24. กรรมขั้น ที่ 5 : กำา หนดวิธ ก าร
ี
ใช้ว ิธ อ ะไร จะวัด อะไร ใช้เ ครื่อ ง
ี
มือ แบบไหน
ออกแบบตารางเก็บ ข้อ มูล
รายงานผลการทดลอง จะวิเ คราะห์
วแปรต้น ตัวา งไร
ผลอย่ แปรตาม ตัว แปรควบคุม คือ อะไรบ
- 26. การทำา โครงงานและการนำา เสนองานวิจ ัย
บทบาทของครู : สนับ สนุน การทำา
โครงงานของนัก เรีย นเช่น การให้
ข้อ มูล สนับ สนุน การทำา โครงงาน การ
แนะนำา การให้ก ำา ลัง ใจ การตรวจ
สอบและแก้ไ ขจุด ที่ผ ิด
- 28. ที่เ น้น มากในการนำา เสนอข้อ มูล
ความจริง
การวิเ คราะห์ข ้อ มูล และการอ้า งอิง
รูป แบบการนำา เสนอที่ก ระชับ
- 29. ORAL PRESENTATION
POSTER PRESENTATION
&
การทำา presentation ทีเ หมาะสม
่
ต่อ การนำา เสนองานเชิง วิช าการ
- ลำา ดับ เรื่อ ง
- ขนาดตัว อัก ษร จำา นวนบรรทัด
- การใช้ส ี ภาพประกอบ
- รูป แบบการนำา เสนอข้อ มูล
- การอ้า งอิง
- ฯลฯ
- 30. PAPER REPORT
รูป แบบเล่ม โครงงาน
การเขีย นบทคัด ย่อ
การเขีย นบทตรวจเอกสาร
การเขีย นวิธ ีก าร
การเขีย นนำา เสนอผลการทดลอง
การวิเ คราะห์ข ้อ มูล การเขีย นบทวิเ คราะห์แ ละสรุป
การอ้า งอิง
Editor's Notes
- +1 min = 3 min
- + 1 min = 4 min
- นักเรียนบางคนอาจมีสวนยางที่บ้านและอาจเกิดข้อสงสัย หรือสมมติว่าพานักเรียนไปสวนยาง ต้องเตรียมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับยางพาราให้เด็กด้วย บางครั้งบทเรียนเกี่ยวกับของเหลวก็อาจนำพาเด็ก ๆ ไปสู่ปัญหาเช่นนี้ได้ (+2 min = 6 min)
- คำถามมักเกิดขึ้นจากการสังเกต การมีข้อมูล (+2 min = 8 min)
- บทบาทของครูคือทำให้นร . ประเมินได้ว่าปัญหาแต่ละเรื่องนั้นจะใช้วิธีใดให้ได้มาซึ่งคำตอบ (+2 min = 10 min)
- Slide13-14 ของอ๊อด (+1 min = 11 min)
- ไป link ของ อ๊อด แล้วให้ครูลองตั้งคำถาม ? (+1 min = 12 min) + Scan ของครูอ๊อด ?? min (15 OK?->27 min)
- +1 min = 28 min
- + 7 min = 35 min
- + 10 min = 45 min
- + 7 min = 52 min
- +8 min = 60 min = 1 hr
- Link ไปของ อ๊อด (+5 min = 1h 5min)
- +2 min = 1h 7 min
- Link ไปรูปเล่มค่าย 5 (+3 min = 1h 10 min)
- +2 min = 1h 12 min
- +8 min = 1 h 20 min
- 2 min = 1 h 22 min (+ ของครูอ๊อด 18 min -> 1h 40 min)