Submit Search
Upload
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
•
44 likes
•
67,050 views
Wijitta DevilTeacher
Follow
ใบความรู้ ใบงาน ประกอบ หน่วยการเรียน เรื่อง เสียง ระดับชั้น ม.ปลาย
Read less
Read more
Report
Share
Report
Share
1 of 35
Download now
Download to read offline
Recommended
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
Wijitta DevilTeacher
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
โรงเรียนเทพลีลา
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
Phanuwat Somvongs
บทที่7แรงเสียดทาน1 (2)
บทที่7แรงเสียดทาน1 (2)
กิตติพงษ์ ม็อบลี่ย์
4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา
4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา
Sircom Smarnbua
แรงดึงดูดระหว่างมวล2560
แรงดึงดูดระหว่างมวล2560
krulef1805
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
Miss.Yupawan Triratwitcha
ใบงาน 3.1 3.2
ใบงาน 3.1 3.2
oraneehussem
Recommended
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
Wijitta DevilTeacher
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
โรงเรียนเทพลีลา
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
Phanuwat Somvongs
บทที่7แรงเสียดทาน1 (2)
บทที่7แรงเสียดทาน1 (2)
กิตติพงษ์ ม็อบลี่ย์
4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา
4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา
Sircom Smarnbua
แรงดึงดูดระหว่างมวล2560
แรงดึงดูดระหว่างมวล2560
krulef1805
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
Miss.Yupawan Triratwitcha
ใบงาน 3.1 3.2
ใบงาน 3.1 3.2
oraneehussem
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสง
พัน พัน
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
krupornpana55
21 ใบความรู้ เรื่องแรงเสียดทาน
21 ใบความรู้ เรื่องแรงเสียดทาน
บริษัท พ่อกับแม่ จำกัดมหาชน
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
Jariya Jaiyot
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
Ning Thanyaphon
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
พัน พัน
แรงพยุงหรือแรงลอยตัว
แรงพยุงหรือแรงลอยตัว
เรียนฟิสิกส์กับครูเอ็ม Miphukham
คลื่น
คลื่น
Taweesak Poochai
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
พนภาค ผิวเกลี้ยง
06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกล
Phanuwat Somvongs
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
pitsanu duangkartok
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
สมศรี หอมเนียม
แบบทดสอบคลื่น
แบบทดสอบคลื่น
rumpin
แรงเสียดทาน
แรงเสียดทาน
เรียนฟิสิกส์กับครูเอ็ม Miphukham
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยระบบนิเวศ
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยระบบนิเวศ
krupornpana55
เอกสารประกอบ เรื่อง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
เอกสารประกอบ เรื่อง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
Wijitta DevilTeacher
เรื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
เรื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
Apinya Phuadsing
งานและพลังงาน (work and_energy)
งานและพลังงาน (work and_energy)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
SunanthaIamprasert
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
dnavaroj
เสียง
เสียง
Chakkrawut Mueangkhon
P12
P12
วิทวัฒน์ สีลาด
More Related Content
What's hot
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสง
พัน พัน
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
krupornpana55
21 ใบความรู้ เรื่องแรงเสียดทาน
21 ใบความรู้ เรื่องแรงเสียดทาน
บริษัท พ่อกับแม่ จำกัดมหาชน
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
Jariya Jaiyot
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
Ning Thanyaphon
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
พัน พัน
แรงพยุงหรือแรงลอยตัว
แรงพยุงหรือแรงลอยตัว
เรียนฟิสิกส์กับครูเอ็ม Miphukham
คลื่น
คลื่น
Taweesak Poochai
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
พนภาค ผิวเกลี้ยง
06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกล
Phanuwat Somvongs
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
pitsanu duangkartok
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
สมศรี หอมเนียม
แบบทดสอบคลื่น
แบบทดสอบคลื่น
rumpin
แรงเสียดทาน
แรงเสียดทาน
เรียนฟิสิกส์กับครูเอ็ม Miphukham
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยระบบนิเวศ
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยระบบนิเวศ
krupornpana55
เอกสารประกอบ เรื่อง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
เอกสารประกอบ เรื่อง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
Wijitta DevilTeacher
เรื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
เรื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
Apinya Phuadsing
งานและพลังงาน (work and_energy)
งานและพลังงาน (work and_energy)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
SunanthaIamprasert
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
dnavaroj
What's hot
(20)
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสง
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
21 ใบความรู้ เรื่องแรงเสียดทาน
21 ใบความรู้ เรื่องแรงเสียดทาน
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
แบบฝึกหัดเสริม สมดุลกล.docx
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
แรงพยุงหรือแรงลอยตัว
แรงพยุงหรือแรงลอยตัว
คลื่น
คลื่น
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่1พันธะโคเวเลนต์docx
06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกล
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบทดสอบคลื่น
แบบทดสอบคลื่น
แรงเสียดทาน
แรงเสียดทาน
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยระบบนิเวศ
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยระบบนิเวศ
เอกสารประกอบ เรื่อง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
เอกสารประกอบ เรื่อง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
เรื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
เรื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
งานและพลังงาน (work and_energy)
งานและพลังงาน (work and_energy)
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
Similar to เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
เสียง
เสียง
Chakkrawut Mueangkhon
P12
P12
วิทวัฒน์ สีลาด
12.เสียง
12.เสียง
Kruanek007
เรื่องที่ 12 เสียง
เรื่องที่ 12 เสียง
thanakit553
12.เสียง
12.เสียง
Kruanek007
เรื่องที่12เสียง
เรื่องที่12เสียง
Apinya Phuadsing
Sound
Sound
Taweesak Poochai
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 3 e0b8aae0b8a1e0b89ae0b8b1e0b895e0b8b4e0b882e0...
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 3 e0b8aae0b8a1e0b89ae0b8b1e0b895e0b8b4e0b882e0...
มะดาโอะ มะเซ็ง
งานนำเสนอเสียง
งานนำเสนอเสียง
Nawamin Wongchai
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5
Watcharinz
แผนการเรียนรู้รายหน่วย 5 เรื่องพฤติกรรมของสียง.docx
แผนการเรียนรู้รายหน่วย 5 เรื่องพฤติกรรมของสียง.docx
ssuser7ea064
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...
มะดาโอะ มะเซ็ง
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899e0b881e0b8a5 1
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899e0b881e0b8a5 1
มะดาโอะ มะเซ็ง
Similar to เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
(13)
เสียง
เสียง
P12
P12
12.เสียง
12.เสียง
เรื่องที่ 12 เสียง
เรื่องที่ 12 เสียง
12.เสียง
12.เสียง
เรื่องที่12เสียง
เรื่องที่12เสียง
Sound
Sound
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 3 e0b8aae0b8a1e0b89ae0b8b1e0b895e0b8b4e0b882e0...
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 3 e0b8aae0b8a1e0b89ae0b8b1e0b895e0b8b4e0b882e0...
งานนำเสนอเสียง
งานนำเสนอเสียง
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5
แผนการเรียนรู้รายหน่วย 5 เรื่องพฤติกรรมของสียง.docx
แผนการเรียนรู้รายหน่วย 5 เรื่องพฤติกรรมของสียง.docx
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899e0b881e0b8a5 1
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899e0b881e0b8a5 1
More from Wijitta DevilTeacher
ตารางธาตุใหม่
ตารางธาตุใหม่
Wijitta DevilTeacher
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด A
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด A
Wijitta DevilTeacher
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด C
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด C
Wijitta DevilTeacher
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด B
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด B
Wijitta DevilTeacher
Physics atom part 5
Physics atom part 5
Wijitta DevilTeacher
Physics atom part 4
Physics atom part 4
Wijitta DevilTeacher
Physics atom part 3
Physics atom part 3
Wijitta DevilTeacher
Physics atom part 2
Physics atom part 2
Wijitta DevilTeacher
Physics atom part 1
Physics atom part 1
Wijitta DevilTeacher
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
Wijitta DevilTeacher
แนวข้อสอบโมเมนตัมและการชน
แนวข้อสอบโมเมนตัมและการชน
Wijitta DevilTeacher
แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่
แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่
Wijitta DevilTeacher
14แผน เรื่อง สภาพยืดหยุ่น
14แผน เรื่อง สภาพยืดหยุ่น
Wijitta DevilTeacher
13แผน เรื่อง สมดุลกล
13แผน เรื่อง สมดุลกล
Wijitta DevilTeacher
12แผน เรื่อง การแกว่งของวัตถุ
12แผน เรื่อง การแกว่งของวัตถุ
Wijitta DevilTeacher
11แผน เรื่อง งานของการหมุน
11แผน เรื่อง งานของการหมุน
Wijitta DevilTeacher
10แผน เรื่อง พลังงานจลน์ของการหมุน
10แผน เรื่อง พลังงานจลน์ของการหมุน
Wijitta DevilTeacher
09แผน เรื่อง ทอร์กกับการเคลื่อนที่แบบหมุน
09แผน เรื่อง ทอร์กกับการเคลื่อนที่แบบหมุน
Wijitta DevilTeacher
08แผน เรื่อง การหมุน ความเร็วเชิงมุม และความเร่งเชิงมุม
08แผน เรื่อง การหมุน ความเร็วเชิงมุม และความเร่งเชิงมุม
Wijitta DevilTeacher
07แผน เรื่อง การชน
07แผน เรื่อง การชน
Wijitta DevilTeacher
More from Wijitta DevilTeacher
(20)
ตารางธาตุใหม่
ตารางธาตุใหม่
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด A
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด A
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด C
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด C
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด B
การสอบแก้ตัวกลางภาคชุด B
Physics atom part 5
Physics atom part 5
Physics atom part 4
Physics atom part 4
Physics atom part 3
Physics atom part 3
Physics atom part 2
Physics atom part 2
Physics atom part 1
Physics atom part 1
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
แนวข้อสอบโมเมนตัมและการชน
แนวข้อสอบโมเมนตัมและการชน
แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่
แผนบูรณาการสะเต็ม ร่มพยุงไข่
14แผน เรื่อง สภาพยืดหยุ่น
14แผน เรื่อง สภาพยืดหยุ่น
13แผน เรื่อง สมดุลกล
13แผน เรื่อง สมดุลกล
12แผน เรื่อง การแกว่งของวัตถุ
12แผน เรื่อง การแกว่งของวัตถุ
11แผน เรื่อง งานของการหมุน
11แผน เรื่อง งานของการหมุน
10แผน เรื่อง พลังงานจลน์ของการหมุน
10แผน เรื่อง พลังงานจลน์ของการหมุน
09แผน เรื่อง ทอร์กกับการเคลื่อนที่แบบหมุน
09แผน เรื่อง ทอร์กกับการเคลื่อนที่แบบหมุน
08แผน เรื่อง การหมุน ความเร็วเชิงมุม และความเร่งเชิงมุม
08แผน เรื่อง การหมุน ความเร็วเชิงมุม และความเร่งเชิงมุม
07แผน เรื่อง การชน
07แผน เรื่อง การชน
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
1.
เอกสารประกอบการเรียน 0Bรายวิชา ฟสกส
4 ิ 1 รายวิชา ฟสิกส 4 ผลการเรียนรูที่ 1 รหัสวิชา ว 32204 ใบงาน 1.1 ใชประกอบแผนจัดการเรียนรูที่ 1 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปที่ 5 5 คะแนน ( A ) เวลา 10 นาที เรื่อง ธรรมชาติของเสียง และคุณสมบัติของเสียง ใหนักเรียนเขียนแสดงความคิดเห็นวา เสียงที่นักเรียนไดยิน แลวประทับใจ รูสึกชอบเกิดขึ้นไดอยางไร รายวิชา ฟสิกส 4 แผนจัดการเรียนรูที่ 1 ใบความรู 1 รหัสวิชา ว 32204 ชั้น มัธยมศึกษาปที่ 5 ใชประกอบแผนจัดการเรียนรูที่ 1 หัวขอเรื่อง ธรรมชาติของเสียง และคุณสมบัติของเสียง ธรรมชาติของเสียง เสียงเกิดจากการสั่นของวัตถุ วัตถุที่มีการสั่นแลวทําใหเกิดเสียงเรียกวา แหลงกําเนิดเสียง สําหรับมนุษย เสียงพูดเกิดจากการสั่นสะเทือนของสายเสียงซึ่งอยูภายในกลองเสียงบริเวณดานหนาของลําคอเรียกวาลูกกระเดือก มนุษยสามารถควบคุมเสียงที่พูดพูดขึ้นโดยใชฟน ลิ้น ริมฝปาก ทําใหเกิดเสียงที่แตกตางกัน แตเสียงจะมีประโยชน อยางสมบูรณตองมีการไดยิน เมื่อเสียงเกิดจากสั่นสะเทือนของวัตถุ แสดงวาวัตถุไดรับพลังงาน พลังงานนี้ก็จะถูก ถายโอนผานอากาศมายังหูผูฟง ถาไมมีอากาศเปนตัวกลางในการถายโอนพลังงาน เราจะ ไมไดยินเสียงเลย เราสามารถทดสอบความจริงนี้ได โดยการทดลองใชกระดิ่งไฟฟาที่สงเสียงตลอดเวลา ใสไวในครอบแกว แลวคอยๆสูบอากาศออก เราจะไดยินเสียงกระดิ่งไฟฟาคอยลงๆ จนในที่สุด จะไมไดยินเสียงกระดิ่งไฟฟาในครอบแกวอีกเลย เมื่อภายในครอบแกวเปนสุญญากาศ จากสถานะการณขางตน สรุปไดวา การเคลื่อนที่ของเสียง ตองอาศัยตัวกลางในการ ถายโอนพลังงานการสั่นไปยังที่ตางๆ สูบอากาศออก จะเห็นไดวา เสียงที่เราไดยินนี้ เปนพลังงานรูปหนึ่งและถือวาเปนคลื่นประเภทหนึ่งดวย และพิจารณาจากอากาศที่เปนตัวกลางนั้นการถายโอนพลังงานเสียง อนุภาคของตัวกลางคืออากาศจะมีการสั่นใน ลักษณะอัดขยายสลับกันไป จึงถือไดวา เสียงเปนคลื่นตามยาว อัตราเร็วของเสียง ชวงเวลาที่เสียงเคลื่อนที่จากแหลงกําเนิดเสียงผานอากาศมาถึงหูผูฟง ขึ้นกับระยะทาง ระหวางตนกําเนิดเสียง กับผูรับฟง ถาระยะหางมาก เสียงตองใชชวงเวลานานกวาจะไดยินเสียง แตถาระยะใกล เสียงใชชวงเวลาสั้นกวา เมื่อนักฟสิกสศึกษาอัตราเร็วของเสียงในอากาศ เขาไดพบวาอัตราเร็วของเสียงในอากาศมีความสัมพันธกับ อุณหภูมิของอากาศโดยประมาณ ตามสมการ vt = 331 + 0.6 t เมื่อ vt เปนอัตราเร็วของเสียงในอากาศที่อุณหภูมิ t ใดๆ และมีหนวยเปนเมตรตอวินาที t เปนอุณหภูมิของอากาศ มีหนวยเปนองศาเซลเซียส ตวอยาง ั จงหาอัตราเร็วของเสียงในอากาศที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส และ 30 องศาเซลเซียส วิธีทํา จากสมการ vt = 331 + 0.6 t v25 = 331 + ( 0.6 x 25 ) m/s = 346 m/s v30 = 331 + ( 0.6 x 30 ) m/s = 349 m/s ตอบ อัตราเร็วของเสียงในอากาศที่อุณหภูมิ 25 และ 30 องศาเซลเซียส เทากับ 346 และ 349 เมตรตอวินาที ตามลําดับ
2.
เอกสารประกอบการเรียน 0Bรายวิชา ฟสกส
4 ิ 2 การเคลื่อนที่ของเสียงในตัวกลางหนึ่งๆ จะคงตัว เมื่ออุณหภูมิของตัวกลางคงตัว ดังในตาราง ตาราง อัตราเร็วของเสียงในตัวกลางตางๆที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ตัวกลาง อัตราเร็ว(เมตร/วนาที) ิ แกสคารบอนไดออกไซด ( 0°C ) 258 อากาศ 346 แกสไฮโดรเจน 1,339 น้ํา 1,498 น้ําทะเล 1,531 แกว 4,540 อะลูมิเนียม 5,000 เหล็ก 5,200 คุณสมบัติของเสียง เสียงเปนคลื่นชนิดหนึ่งที่เคลื่อนที่โดยอาศัยตัวกลาง ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติเหมือนคลื่น คือ 1. การสะทอน 2. การหักเห 3. การแทรกสอด 4. การเลี้ยวเบน การสะทอนของเสียง เนื่องจากเสียงเปนพลังงานชนิดหนึ่ง เมื่อคลื่นเสียงเคลื่อนที่ไปกระทบสิ่งกีดขวาง จะทําใหเกิดการสะทอนของ เสียง และปจจัยที่มีผลตอการสะทอนของเสียง ไดแก 1. ลักษณะพื้นผิวที่คลื่นเสียงไปกระทบ ( ผิวเรียบและแข็ง สะทอนไดดี สวนผิวออนนุมเนื้อพรุน จะดูดซับ เสียงไดดี 2. มุมตกกระทบกับระนาบสะทอนเสียง ( เสียงจะสะทอนไดดี เมื่อ มุมของเสียงสะทอนเทากับมุมของเสียง ตกกระทบ ) มนุษยและสัตว ไดอาศัยประโยชนจากการสะทอนของเสียง หลายอยางเชน การเดินเรือ การประมง หา ความลึกของทองทะเล หาระดับของเรือดําน้ํา หาฝูงปลา โดยการสง คลื่นอัลตราโซนิกออกไป แลวรอรับฟงคลื่นที่สะทอน จากเครื่องรับ การ สงคลื่นชนิดนี้เรียกวา โซนาร ( Sonar – Sound Navigation and Ranging ) คางคาว เปนสัตวสายตาไมดี ใชหลักการสะทอนเสียง โดย โซนาร์ สงและรับความถี่สูง อุตสาหกรรมใชในการตรวจสอบรอยราว ทาง การแพทยใชตรวจสอบเนื้อเยื่อของอวัยวะตางๆ ใชในการสลายนิ่วในไต ใชทําลายเชื้อโรคบางชนิดในอาหาร และน้ํา เราทราบวาเสียงเปนคลื่นชนิดหนึ่ง ดังนั้น ถาเราทราบความถี่ f ของเสียง และความยาวคลื่นเสียง λ ที่ผานตัวกลาง เราจะสามารถหาอัตราเร็วของคลื่นเสียงในตัวกลางนั้นไดจากความสัมพันธตอไปนี้ v = fλ ตวอยาง กําหนดใหเสียงมีอัตราเร็ว 1500 เมตรตอวินาทีในน้ําทะเล เรือลําหนึ่งปลอยคลื่นโซนาร ขนาดความถี่ 4.5 ั กิโลเฮริตซ ลงไปจากผิวน้ํา จะตรวจสอบพบปลาขนาดเล็กที่สุดไดเทาไร วิธีทํา จาก v = fλ v 1500 m/s λ = = = 0.33 เมตร f 4500 Hz ตอบ ปลาตัวเล็กที่สุดที่จะตรวจสอบไดตองยาว 0.33 เมตร
3.
เอกสารประกอบการเรียน 0Bรายวิชา ฟสกส
4 ิ 3 การหักเหของเสียง คลื่นเสียงเมื่อเดินทางผานตัวกลางที่มีความหนาแนนแตกตาง เส้นตั้งฉาก กันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางความเร็วและความยาวคลื่น แต อากาศ รอยต่อระหว่าง ความถี่คลื่นยังคงที่กลาวคือเมื่อเสียงเคลื่อนที่จากตัวกลางที่มีความ ตวกลาง ั หนาแนนนอย (อากาศ) เขาสูตัวกลางที่มีความหนาแนนมากกวา (น้ํา ) นํ้า เสียงจะหักเหออกจากเสนตั้งฉาก หลักการนี้ใชอธิบาย การเห็นฟาแลบ แตไมไดยินเสียงฟารอง เพราะเมื่อเกิดฟาแลบ แมจะมีเสียงเกิดขึ้นแตเราไมไดยินเสียง ทั้งนี้เพราะอากาศใกลพื้นดินมี อุณหภูมิสูงกวาอากาศเบื้องบน ทําใหการเคลื่อนที่ของเสียงเคลื่อนที่ไดในอัตราที่ตางกัน คือ เคลื่อนที่ในอากาศที่มี อุณหภูมิสูงไดเร็วกวาในอากาศที่มีอุณหภูมิต่ํา ดังนั้น เสียงจึงเคลื่อนที่เบนขึ้นทีละนอยๆ จนขามหัวเราไป จึงทําใหไมได ยินเสียงฟารอง ในการคํานวณเกี่ยวกับการหักเหของเสียง ยังคงใชกฎการหักเหของสเนลล คือ sin θ1 v1 λ1 T1 = = = sin θ2 v2 λ2 T2 ตวอยาง ั เสียงเคลื่อนที่ในอากาศจากบริเวณที่มีอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส ไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิ 25 องศา เซลเซียส โดยมีมุมตกกระทบ 30 องศา ถาอากาศในบริเวณทั้งสองมีความดันเทากัน จงหามุมหักเหของเสียง วิธีทํา จากสมการ vt = 331 + 0.6 t v5 = 331 + ( 0.6 x 5 ) = 334 m/s v25 = 331 + ( 0.6 x 25 ) = 346 m/s sin θ1 v1 จาก = sin θ2 v2 sin 30° 334 = sin θ2 346 1 346 sin θ2 = x = 0.517 2 334 sin 31° = 0.515 θ2 ≈ 31° ∴ มุมหักเหของเสียงมีคาประมาณ 31 องศา 3 ตวอยาง ั ถาความยาวของคลื่นเสียงบริเวณอากาศรอนเปน เทาของความยาวคลื่นเสียงบริเวณอากาศเย็น 2 จงหามุมหักเห เมื่อเสียงเดินทางจากอากาศรอนไปยังอากาศเย็น โดยมีมุมตกกระทบ 27 องศา sin θ1 λ1 วิธีทํา จาก = sin θ2 λ2 3 λ sin 27° 2 = sin θ2 λ 2λ sin θ2 = 0.454 x = 0.302 3λ sin 17.5° = 0.301 θ2 ≈ 17.5° ∴ มุมหักเหของเสียงมีคาประมาณ 17.5 องศา
4.
เอกสารประกอบการเรียน 0Bรายวิชา ฟสกส
4 ิ 4 ตวอยาง ั คลื่นเสียงในอากาศหนึ่ง วิ่งจากบริเวณที่มีอุณหภูมิ T1 เขาสูบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ํากวา คือ T2 โดยมี มุมตกกระทบเทากับ θ1 และมุมหักเหเทากับ θ2 จงหาอัตราสวนระหวาง sin θ1 กบ sin θ2 กําหนดให T1 = ั 2T2 เคลวิน sin θ1 T1 วิธีทํา จาก = sin θ2 T2 sin θ1 2T2 = sin θ2 T2 sin θ1 = 2 sin θ2 sin θ1 = 1.4141 sin θ2 ∴ อัตราสวนระหวาง sin θ1 กบ sin θ2 มีคาเทากับ 1.4141 ั การแทรกสอดของเสียง การแทรกสอดของเสียงเปนปรากฏการณที่เกิดจากคลื่นเสียงที่มาจากแหลงกําเนิดเสียงตั้งแต 2 แหลงขึ้นไป รวมกัน จึงเกิดการแทรกสอดแบบเสริมกันและหักลางกัน ทําใหเกิดเสียงดัง และ เสียงคอย เสี ยงความถี่ f1 เสี ยงความถี่ f2 ั เสี ยงความถี่ f1 และ f2 รวมกน เสริม เสริม เสริม เสริม หักล้าง หักล้าง หักล้าง หักล้าง เกิดการแทรกกน ( เสริม , หักล้าง ) ั บีตส ในกรณีที่เปนเสียงเสริมกัน ตําแหนงที่มีการเสริมกันจะมีเสียงดัง สวนตําแหนงที่แทรกสอดแลวหักลางกันจะมี เสียงคอย แตการเกิดปรากฏการณแทรกสอดเกิดจากแหลงกําเนิดเสียงที่มีความถี่ตางกัน ทําใหเกิดเสียงดัง เสียงคอย เปนจังหวะๆ เรียกวา บีตส ( Beats ) ประโยชนจากการแทรกสอดและบีตสนี้ นํามาใชเทียบเครื่องดนตรี โดยมีเครื่อง เทียบเสียงมาตรฐาน ใชหลักวาเมื่อความถี่เสียงเทากันจะไมเกิดบีตส ถายังมีบีตสอยูแสดงวา ความถี่เสียงยังไมเทากัน ตองปรับจนเสียงทั้งสองมีความถี่เทากันจึงไมทําใหเกิดบีสต ถาเราตั้งลําโพงลักษณะเหมือนๆกัน 2 ตัว ใหหางกันระยะหนึ่ง ดังรูป แลวเดินในแนวขนานกับลําโพงทั้งสอง ตามแนว AB A B การแทรกสอดของเสียง S1 S2
5.
เอกสารประกอบการเรียน 0Bรายวิชา ฟสกส
4 ิ 5 จากการเดินในแนว AB ดังกลาว เราจะรูสึกไดวา เสียงที่เราไดรับจะมีลักษณะดัง -คอย สลับกันไป ในการคํานวณเกี่ยวกับการแทรกสอดของคลื่นเสียง ในกรณีที่เปนแหลงกําเนิด อาพันธ เฟส ตรงกัน จะไดดังนี้ ในกรณีที่ S1 และ S2 เปนแหลงกําเนิดอาพันธ ทุกจุดบนเสนปฏิบัพ เสียงจะแทรกสอดแบบเสริม เสียงจะดัง และผลตางระหวาระยะทางจากแหลงกําเนิดคลื่นทั้งสองไปยังจุดใดๆบนเสนปฏิบัพจะเทากับจํานวนเต็ม ของความยาวคลื่นเสมอ ดังรูป S2P - S1P = nλ A1 N1 A0 N1 A 1 เมื่อ n = 0 , 1 , 2 , 3 , … P n คือ แนวเสนปฏิบัพ 0 คือ แนวเสนกลาง S1 S2 ในกรณีที่ S1 และ S2 เปนแหลงกําเนิดอาพันธ ทุกจุดบนเสนบัพ เสียงจะแทรกสอดแบบหักลาง เสียงจะคอย และผลตางระหวาระยะทางจากแหลงกําเนิดคลื่นทั้งสองไปยังจุดใดๆบนเสนบัพจะเทากับจํานวนเต็มคลื่นลบกับ ครึ่งหนึ่งของความยาวคลื่นเสมอ ดังรูป A1 N1 P A0 N1 A1 1 S2P - S 1P = ( n - ) λ 2 เมื่อ n = 1 , 2 , 3 , … n คือ แนวเสนบัพ S1 S2 ตวอยาง ั S1 และ S2 เปนลําโพงเสียงสองตัววางหางกัน 4 เมตร ในที่โลง P เปนตําแหนงที่ผูฟงหางจาก S1 7 เมตร และหางจาก S2 5.5 เมตร ถาผูฟงอยูตรงตําแหนงที่เสียงหักลางกันครั้งแรก เขาจะไดยินเสียงที่มีความถี่เทาใด เมื่ออัตราเร็วของเสียงในอากาศขณะนั้นเปน 330 เมตรตอวินาที 1 P วิธีทํา จาก S2P - S1P = (n- )λ 2 1 7m 5.5 m 7 m - 5.5 m = (n- )λ 2 λ = 3 m S2 4 m S1 จาก v = fλ v 330 m/s f = = = 110 Hz λ 3 m ตอบ เขาจะไดยินเสียงที่มีความถี่เทากับ 110 เฮิรตซ ในกรณีที่ตําแหนงผูฟง อยูหางจากแหลงกําเนิด S1 และ S2 โดยไมทราบระยะหางจากแหลงกําเนิดทั้งสอง แต ทราบมม θ จากแนวกลาง ระหวางตําแหนงทั้งสอง จะไดสมการปฏิบัพและบัพดังนี้ ุ P S1 θ S2
6.
เอกสารประกอบการเรียน 0Bรายวิชา ฟสกส
4 ิ 6 d sin θ = nλ ปฏิบัพ 1 d sin θ = (n- )λ บัพ 2 เมื่อ d คือ ระยะหางระหวางแหลงกําเนิดทั้งสอง มีหนวยเปน เมตร ( m ) θ คือ มุมที่จากแนวกลาง ทํากับ ตําแหนงที่สังเกต ตวอยาง ั S1 และ S2 เปนแหลงกําเนิดเสียงอาพันธ ใหเสียงที่มีความถี่ 140 เฮิรตซ และอยูหางกัน 7 เมตร จง หาวาบนเสนตรงเชื่อมระหวางแหลงกําเนิดเสียงทั้งสองมีตําแหนงบัพเกิดขึ้นกี่ตําแหนง ถากําหนดใหอัตราเร็วเสียงใน อากาศขณะนั้นเปน 350 เมตรตอวินาที 1 วิธีทํา จาก d sin θ = (n- )λ 2 1 v ( 7 ) sin 90° = (n- ) 2 f 1 350 ( 7 )( 1 ) = (n- )( ) 2 140 140 1 n = (7)( )+ 350 2 = 3.3 = 3 ∴ บนเสนตรงเชื่อมระหวางแหลงกําเนิดเสียงทั้งสองมีตําแหนงบัพเกิดขึ้น = 3 + 3 ตําแหนง ตอบ บนเสนตรงเชื่อมระหวางแหลงกําเนิดเสียงทั้งสองมีตําแหนงบัพเกิดขึ้น = 6 ตําแหนง การเลี้ยวเบนของเสียง นอกจากการหักเหของเสียงที่เกิดขึ้น เมื่อผานตัวกลางตางชนิดกันแลวยังมีการเลี้ยวเบนได การเลี้ยวเบนของ เสียงมักจะเกิดพรอมกับการสะทอนของเสียง เสียงที่เลี้ยวเบน จะไดยินคอยกวาเดิม เพราะพลังงานของเสียงลดลง ในชีวิตประจําวันที่เราพบไดอยางเสมออยางหนึ่งคือการไดยินเสียงของผูอื่นไดโดยไมเห็นตัวผูพูด เชน ผูพูดอยู คนละดานของมุมตึก ปรากฏการณดังนี้ แสดงวาเสียงสามารถเลี้ยวเบนได การอธิบายปรากฏการณนี้สามารถจะ กระทําไดโดยใชหลักการของฮอยเกนทอธิบายวา “ทุกๆจุดบนหนาคลื่นสามารถทําหนาที่เปนตนกําเนิดคลื่นอันใหมได ” ดังนั้นอนุภาคของอากาศที่ทําหนาที่สงผานคลื่นเสียงตรงมุมตึกยอมเกิดการสั่น ทําหนาที่เหมือนตนกําเนิด เสียงใหม สงคลื่นเสียไปยังผูฟงได เราสามารถทดลอง การเลี้ยวเบนของเสียงไดโดย ใหผูฟง ลาโพง ํ ฟงเสียงลําโพงจากนอกหองดังรูปที่ตําแหนง ก. ข. ค. ง. ผูฟงยอมไดยินเสียงลําโพง ที่อยูในหองไดทุกคน แสดงวาเสียง สามารถเลี้ยวเบนไดตามแบบของคลื่น ผนงหอง ั ้ ประตู ผนงหอง ั ้ ก. ข. ค. ง. การเลี้ยวเบนของเสียงจะเกิดไดดีเมื่อชองกวางที่ใหเสียงผานมีขนาดเทากับความยาวคลื่นของเสียงนั้น เนื่องจาก ชองกวางนั้นจะทําหนาที่เหมือนเปนแหลงกําเนิดเสียงขนาดนั้นไดพอดีนั่นเอง
7.
เอกสารประกอบการเรียน 1Bรายวิชา ฟสกส
4 ิ 7 ตวอยาง ั ชองหนาตางกวาง 0.60 เมตร สูง 1.20 เมตร ในวันที่อากาศมีอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส ความถี่ ของเสียงที่มากที่สุด ที่จะทําใหเกิดการเลี้ยวเบนในแนวราบมากที่สุดเปนกี่เฮริตซ วิธีทํา การเลี้ยวเบนของเสียงจะเกิดไดดีที่สุด เมื่อ ชวงกวางเทากับความยาวคลื่นของเสียง ดังนั้น λ = 0.60 เมตร จาก v = 331 + 0.6 t v = 331 + (0.6 )( 20 ) = 342 เมตรตอวินาที v 342 m/s f = = = 570 เฮิรตซ λ 0.60 m รายวิชา ฟสิกส 4 ผลการเรียนรูที่ 1 รหัสวิชา ว 32204 ใบงาน 1.2 ใชประกอบแผนจัดการเรียนรูที่ 1 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปที่ 5 5 คะแนน ( P ) เวลา 40 นาที เรื่อง ธรรมชาติของเสียง และคุณสมบัติของเสียง 1. ใหนักเรียนสรุปสาระสําคัญที่ไดจากการสืบคน ขอมูล และบันทึกลงในสมุ ด 1. ธรรมชาติของเสียง 2. อัตราเร็วของเสียง 3. คุณสมบัติของเสียง 2. ใหนักเรียนเติมคํา หรือขอความลงในชองวางใหถูกตอง 1. เสียงเกิดขึ้นจาก……………………………………………………………………………………………………………..…………………… 2. เสียงเปนคลื่นชนิดใด…………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เสียงเดินทางจากแหลงกําเนิดไปยังผูฟงตองอาศัย ………………………………………………………………..………………… 4. อากาศ น้ํา เหล็ก เสียงสามารถเดินทางผานสิ่งใดไดเร็วที่สุด………………………………………………..………………. 5. จากสมการ v = f λ , λ เปนสัญลักษณ ใชแทน……………………………………………………………………….……… 6. จากสมการ v = f λ , f ในเรื่องเสียง เปนสัญลักษณใชแทน…………………………………………………..………… 7. จากสมการ v = 331 + 0.6t เปนสมการหนึ่ง เมื่อตองการหาคา v แสดงวาตองการหาคาอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. จากขอ 7. t เปนสัญลักษณ ใชแทน……………………………………………………………………………………………………. 9. สิ่งที่ทําให อัตราเร็วของเสียง เปลี่ยนไปมีอะไรบาง ( 1 อยาง )……………………………………….………………………… 10. ใหนักเรียนบอกคุณสมบัติของเสียง มา 1 อยาง ……………………………………….……………………………………………. รายวิชา ฟสิกส 4 ผลการเรียนรูที่ 1 รหัสวิชา ว 32204 ใบงาน 1.3 ใชประกอบแผนจัดการเรียนรูที่ 1 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปที่ 5 5 คะแนน ( A ) เวลา 10 นาที เรื่อง ธรรมชาติของเสียง และคุณสมบัติของเสียง 1. ในวันที่ลมสงบอุณหภูมิสม่ําเสมอประมาณ 15 องศาเซลเซียส ชายคนหนึ่งตะโกนเขาใสหนาผาสูง แลวปรากฏวา ไดยินเสียงสะทอนกับในเวลา 3 วินาที หนาผานั้นอยูหางจากเขาเปนระยะเทาใด วิธีทํา จาก v = 331 + ……... v = 331 + 9 v = ………. เมตรตอวินาที จาก S = vt S = (………….)( 3 ) S = ………….. เมตร S .......... .. ระยะหางระหวางชายคนนี้กับหนาผา = = = ……….. เมตร 2 2
8.
เอกสารประกอบการเรียน v =
………. เมตรตอวนาที ิ 8 2. กําหนดใหเสียงมีอัตราเร็ว 1400 เมตรตอวินาทีในน้ําทะเล เรือลําหนึ่งปลอยคลื่นโซนาร ขนาดความถี่ 4.2 กิโลเฮิรตซ ลงไปจากผิวน้ํา ปรากฏวารับคลื่นสะทอนผิวขนาดใหญไดในเวลา 1.5 วินาที น้ําทะเลตรงนั้นลึกเทาไร และ จะตรวจสอบพบปลาขนาดเล็กที่สุดไดเทาไร วิธีทํา จาก S = vt S = ( 1400 m/s )( …… ) S = ………….. เมตร S .......... .. ความลึกประมาณ = = = ……….. เมตร 2 2 จาก v = fλ v 1400 m/s λ = = ………….. เมตร f ........ ปลาตัวเล็กที่สุดที่จะตรวจสอบไดตองยาว …………… เมตร 3. เสียงเคลื่อนที่ในอากาศจากบริเวณที่มีอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส ไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส โดย มมมตกกระทบ 30 องศา ถาอากาศในบริเวณทั้งสองมีความดันเทากัน จงหามุมหักเหของเสียง ีุ วิธีทํา จากสมการ vt = 331 + 0.6 t v15 = 331 + ( 0.6 x …. ) = ……… m/s v35 = 331 + ( 0.6 x …. ) = ……… m/s sin θ1 v1 จาก = sin θ2 v2 sin 30° ........ m/s = sin θ2 .......... m/s 1 ........ m/s sin θ2 = x = …….. 2 .......... m/s θ2 = sin – 1 ( …….. ) ∴ มุมหักเหของเสียงมีคาเทากับ ………….. องศา 5 4. ถาความยาวของคลื่นเสียงบริเวณอากาศรอนเปน เทาของความยาวคลื่นเสียงบริเวณอากาศเย็น จงหามุม หักเห 3 เมื่อเสียงเดินทางจากอากาศรอนไปยังอากาศเย็น โดยมีมุมตกกระทบ 35 องศา sin θ1 λ1 วิธีทํา จาก = sin θ2 λ2 ....... λ sin 35° ........ = sin θ2 λ ........ λ sin θ2 = 0.574 x = ……… ......... λ –1 θ2 = sin ( …….. ) ∴ มุมหักเหของเสียงมีคาเทากับ ………….. องศา
9.
เอกสารประกอบการเรียน v =
………. เมตรตอวนาที ิ 9 5. คลื่นเสียงในอากาศหนึ่ง วิ่งจากบริเวณที่มีอุณหภูมิ T1 เขาสูบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ํากวา คือ T2 โดยมมมตกกระทบ ีุ เทากับ θ1 และมุมหักเหเทากับ θ2 จงหาอัตราสวนระหวาง sin θ1 กบ sin θ2 กําหนดให T1 = 3T2 เคลวิน ั sin θ1 T1 วิธีทํา จาก = sin θ2 T2 sin θ1 ........T2 = sin θ2 T2 sin θ1 = ....... sin θ2 sin θ1 = ………. sin θ2 ∴ อัตราสวนระหวาง sin θ1 กบ sin θ2 มีคาเทากับ ………… ั 6. S1 และ S2 เปนลําโพงเสียงสองตัววางหางกัน 4 เมตร ในที่โลง P เปนตําแหนงที่ผูฟงหางจาก S1 8 เมตร และหาง จาก S2 6 เมตร ถาผูฟงอยูตรงตําแหนงที่เสียงหักลางกันครั้งแรก เขาจะไดยินเสียงที่มีความถี่เทาใด เมื่ออัตราเร็ว ของเสียงในอากาศขณะนั้นเปน 340 เมตรตอวินาที 1 P วิธีทํา จาก S2P - S1P = (n- )λ 2 1 8m 6m (….. m) - ( …. m) = (n- )λ 2 λ = ……. m S2 4 m S1 จาก v = fλ v .......... m/s f = = = ……… Hz λ ......... m ตอบ เขาจะไดยินเสียงที่มีความถี่เทากับ …….. เฮิรตซ 7. S1 และ S2 เปนแหลงกําเนิดเสียงอาพันธ ใหเสียงที่มีความถี่ 150 เฮิรตซ และอยูหางกัน 9 เมตร จงหาวาบน เสนตรงเชื่อมระหวางแหลงกําเนิดเสียงทั้งสองมีตําแหนงบัพเกิดขึ้นกี่ตําแหนง ถากําหนดใหอัตราเร็วเสียงในอากาศ ขณะนั้นเปน 360 เมตรตอวินาที 1 วิธีทํา จาก d sin θ = (n- )λ 2 1 v ( ….. m ) sin 90° = (n- ) 2 f 1 .......... m/s ( ….. m )( 1 ) = (n- )( ) 2 .......... .. Hz ....... Hz 1 n = ( ….. m ) ( )+ ......... m/s 2 n = ……… n = …… ( คิดเฉพาะจํานวนเต็ม ) ∴ บนเสนตรงเชื่อมระหวางแหลงกําเนิดเสียงทั้งสองมีตําแหนงบัพเกิดขึ้น = …. + …… ตําแหนง ตอบ บนเสนตรงเชื่อมระหวางแหลงกําเนิดเสียงทั้งสองมีตําแหนงบัพเกิดขึ้น = …….. ตําแหนง
10.
เอกสารประกอบการเรียน 3Bระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5
10 รายวิชา ฟสิกส 4 ผลการเรียนที่คาดหวังที่ 1 รหัสวิชา ว 32204 แบบฝกทักษะ 1 ใชประกอบแผนจัดการเรียนรูที่ 1 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5 คะแนน 5 คะแนน เวลา 20 นาที เรื่อง ธรรมชาติของเสียง และคุณสมบัติของเสียง ตอนที่ 1 จงเลือกกากบาท ( X ) ตัวเลือก ก, ข, ค และ ง ที่เห็นวาถูกตองที่สุด 1. เมื่อคลื่นเสียงเดินทางผานอากาศ จะทําใหความดันอากาศ ณ บริเวณนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง คือ ก. เมื่อเกิดคลื่นอัด ความดันอากาศจะสูงกวาปกติ ข. เมื่อเกิดคลื่นอัด ความดันอากาศจะต่ํากวาปกติ ค. เมื่อเกิดคลื่นขยาย ความดันอากาศจะสูงกวาปกติ ง. เมื่อเกิดคลื่นขยาย ความดันอากาศจะปกติ 2. ทุกครั้งที่เกิดเสียงจากวัตถุ วัตถุนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยางไร ก. วัตถุเกิดการสั่นสะเทือน ข. ตัวกลางเกิดการสั่นสะเทือน ค. โมเลกุลของอากาศเกิดการสั่นสะเทือน ง. วัตถุไมมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ 3. “ ทุกครั้งที่วัตถุเกิดการสั่นสะเทือน เราจะตองไดยินเสียงจากวัตถุนั้น ” คํากลาวนี้ถูกตองหรือไม เพราะเหตุใด ก. ถูกตอง เพราะเสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ ข. ไมถูกตอง เพราะเสียงตองเดินผานตัวกลาง ค. ไมแนนอน แลวแตชนิดของวัตถุที่เกิดการสั่นสะเทือน ง. ไมแนนอน ขอมูลไมเพียงพอ 4. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับคลื่นเสียง ก. เปนคลื่นตามขวาง เดินทางโดยอาศัยตัวกลาง ข. เปนคลื่นตามขวาง เดินทางโดยไมอาศัยตัวกลาง ค. เปนคลื่นตามยาว เดินทางโดยอาศัยตัวกลาง ง. เปนคลื่นตามยาว เดินทางโดยไมอาศัยตัวกลาง 5. วิธีการสื่อสารของมนุษยอวกาศบนดวงจันทร ถาไมใชอุปกรณอิเล็กโทรนิก นาจะตองใชวิธีใด ก. สัญญาณควัน ข. ตีกลอง ค. เคาะพื้น เอาหูแนบพื้น ง. ถกทกขอ ู ุ 6. ขณะนั่งอยูทามกลางธรรมชาติใตตนไม จะสังเกตไดวาขอใดทําใหเกิดเสียงได ก. สายลมที่ปะทะรางกายอยางแผวเบา ข. สายลมที่พัดพาใบไมใหหลนรวงอยางสงบ ค. สายลมที่ปะทะสายน้ําทําใหเกิดระลอกคลื่นในสระน้ํา ง. สายลมที่ปะทะกิ่งไมจนไหวเอน 7. เราไดยินเสียงฝนตกกระทบกองใบไมบนพื้นดิน เพราะเหตุใด ก. อนุภาคของน้ําฝนสั่นสะเทือนเนื่องจากการกระทบ ข. อนุภาคของใบไมสั่นสะเทือนเนื่องจากการกระทบ ค. มีการสั่นสะเทือนของอนุภาคน้ําฝนและอนุภาคใบไม ง. อากาศใตใบไมถูกอัดจึงสั่นสะเทือนกอใหเกิดเสียง 8. ในตัวกลางตอไปนี้ ตัวกลางใดที่เสียงเคลื่อนที่ผานโดยมีอัตราเร็วมากที่สุด ก. เหล็ก ข. น้ํา ค. อากาศ ง. สุญญากาศ 9. เสียงเดินทางไปในตัวกลางใดดวยอัตราเร็วมากที่สุด ก. กาซ ข. ของเหลว ค. ของแขง ็ ง. สุญญากาศ 10. ขอใดผิด ก. วัตถุสั่นสะเทือนเปนแหลงกําเนิดเสียง ข. เสียงเดินทางผานตัวกลางตางชนิดไดดีไมเทากัน ค. เมื่อเสียงเดินทางผานตัวกลางจะทําใหตัวกลางเกิดการสั่นสะเทือน ง. อัตราเร็วของเสียงในอากาศลดลงเมื่ออุณหภูมิของอากาศเพิ่มขึ้น
11.
เอกสารประกอบการเรียน 3Bระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5
11 ตอนที่ 2 ใหนักเรียนนําอักษรหนาขอความทางขวามือ มาใสหนาขอที่มีความหมายตรงกันที่ซายมือ ………1. คลื่นเสียงเปน A. ไดดีไมเทากัน ………2. เสียงดังมากแสดงวา B. วัตถุที่มีการสั่นสะเทือน ………3. ถาอุณหภูมิของอากาศยิ่งสูงขึ้น C. คลื่นตามยาวเทานั้น ………4. อัตราเร็วของเสียงที่อุณหภูมิ 0° ซ. D. ความยาวคลื่นของคลื่นเสียงจะต่ําลง ………5. เมื่ออุณหภูมิของอากาศต่ําลง E. 349 เมตรตอวินาที ………6. ในสภาวะที่อากาศมีอุณหภูมิเทากัน F. มีแอมพลิจูดมาก ………7. เสียงเดินทางผานตัวกลาง G. อัตราเร็วของเสียงก็ยิ่งสูงขึ้น ………8. แหลงกําเนิดเสียง H. อุณหภูมิ ………9. อัตราเร็วของเสียงที่อุณหภูมิ 30° ซ. I. 331 เมตรตอวินาที ………10 อัตราเสียงจะแปรผันตาม J. เสียงที่มีความถี่สูงและต่ํามีอัตราเร็วเทากัน ตอนที่ 3 จงหาคําตอบ 1. อัตราเร็วของเสียงที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส จะมีอัตราเร็วเปนกี่เมตรตอวินาที 2. ในวันที่ลมสงบอุณหภูมิสม่ําเสมอประมาณ 25 องศาเซลเซียส ชายคนหนึ่งตะโกนเขาใสหนาผาสูง แลวปรากฏวาได ยินเสียงสะทอนกับในเวลา 2 วินาที หนาผานั้นอยูหางจากเขาเปนระยะเทาใด 3. กําหนดใหเสียงมีอัตราเร็ว 1500 เมตรตอวินาทีในน้ําทะเล เรือลําหนึ่งปลอยคลื่นโซนาร ขนาดความถี่ 5 กิโลเฮริตซ ลงไปจากผิวน้ํา ปรากฏวารับคลื่นสะทอนผิวขนาดใหญไดในเวลา 1.6 วินาที น้ําทะเลตรงนั้นลึกเทาไร และจะ ตรวจสอบพบปลาขนาดเล็กที่สุดไดเทาไร รายวิชา ฟสิกส 4 ผลการเรียนรูท่ี1 รหัสวิชา ว 32204 แบบทดสอบ ประกอบแผนจัดการเรียนรูที่ 1 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปที่ 5 ( กอนเรียน – หลงเรยน ) เวลา 15 นาที ั ี ผลการเรียนรูท่1 ี สํารวจตรวจสอบ อภิปราย และคํานวณสิ่งที่เกี่ยวกับ ธรรมชาติของคลื่นเสียง คุณสมบัติของคลื่นเสียง คําสั่ง จงเลือกกากบาท ( X ) ตัวเลือก ก, ข, ค และ ง ที่เห็นวาถูกตองที่สุด 1. จงพิจารณาขอความตอไปนี้ 1. เมื่อคลื่นเสียงเดินทางผานอากาศ จะทําใหความดันอากาศ ณ บริเวณนั้นเกิดคลื่นอัด ความดันอากาศจะสูง กวาปกติ 2. ทุกครั้งที่เกิดเสียงจากวัตถุ วัตถุจะเกิดการสั่นสะเทือน 3. เสียงเปนคลื่นตามขวาง เดินทางโดยอาศัยตัวกลาง คําตอบที่ถูกตองคือ ก. ขอ 1 และ 2 ข. ขอ 1 และ 3 ค. ขอ 2 และ 3 ง. ขอ 1 , 2 และ 3
12.
เอกสารประกอบการเรียน 3Bระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5
12 2. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับคลื่นเสียง 1. อัตราเร็วของเสียงในอากาศลดลงเมื่ออุณหภูมิของอากาศเพิ่มขึ้น 2. เสียงเดินทางผานตัวกลางตางชนิดไดดีไมเทากัน 3. เมื่อเสียงเดินทางผานตัวกลางจะทําใหตัวกลางเกิดการสั่นสะเทือน ก. ขอ 1 และ 2 ข. ขอ 1 และ 3 ค. ขอ 2 และ 3 ง. ขอ 1 , 2 และ 3 3. ในวันที่ลมสงบอุณหภูมิสม่ําเสมอประมาณ 25 องศาเซลเซียส ชายคนหนึ่งตะโกนเขาใสหนาผาสูง แลวปรากฏวา ไดยินเสียงสะทอนกับในเวลา 3 วินาที หนาผานั้นอยูหางจากเขาเปนระยะกี่เมตร ก. 352 ข. 346 ค. 519 ง. 1,038 4. กําหนดใหเสียงมีอัตราเร็ว 1,500 เมตรตอวินาทีในน้ําทะเล เรือลําหนึ่งปลอยคลื่นโซนาร ขนาดความถี่ 5 กโล ิ เฮิรตซ ลงไปจากผิวน้ํา จะตรวจสอบพบปลาขนาดเล็กที่สุดไดเทาไร ก. 15 เซนติเมตร ข. 20 เซนติเมตร ค. 25 เซนติเมตร ง. 30 เซนติเมตร 5. เสียงเคลื่อนที่ในอากาศจากบริเวณที่มีอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส ไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิประมาณกี่องศา เซลเซียส เมื่อมีมุมตกกระทบ 30 องศา และมุมหักเหของเสียงเทากับ 45 องศา ถาอากาศในบริเวณทั้งสองมี ความดันเทากัน ( sin 30° = 0.500 , sin 45° = 0.707 ) ก. 20 ข. 25 ค. 30 ง. 35 6. จงพิจารณาขอความตอไปนี้ 1. ในทางการแพทยอุลตราโซนิกตรวจดูอวัยวะภายใน ใชคุณสมบัติของเสียง คือ การสะทอน 2. การเทียบเสียงของกีตารใหมีความถี่เทากับความถี่ของหลอดเสียงมาตรฐานที่ตองการ นักดนตรีอาศัยหลักการ แทรกสอดของเสยงี 3. การหักเหของเสียง มีประโยชนในการตรวจหาแหลงแรธาตุ ขอใดถูกตอง ก. ขอ 1 และ 2 ข. ขอ 1 และ 3 ค. ขอ 2 และ 3 ง. ขอ 1 , 2 และ 3 7. S1 และ S2 เปนลําโพง 2 ตัว ใหความถี่ 510 เฮริตซเทากัน เฟสเทากัน อยูหางกัน 6 เมตร ผูที่ยืนอยูที่จุด P ไดยิน เสียงชัดเจน ระหวางที่เขาเดินจาก P ไปยัง Q เขาจะรูสึกวาเสียงจางหายไปจํานวนกี่ครั้ง ถาอัตราเร็วเสียง ขณะนั้นเทากับ 340 เมตรตอวินาที ก. 4 ครั้ง S1 54 เมตร P ข. 5 ครั้ง 30 เมตร ค. 6 ครั้ง 3 เมตร 6 เมตร Q ง. 7 ครั้ง S2 8. ชองหนาตางกวาง 0.80 เมตร สูง 1.20 เมตร ในวันที่อากาศมีอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ความถี่ของเสียงที่มาก ที่สุด ที่จะทําใหเกิดการเลี้ยวเบนในแนวราบมากที่สุดเปนกี่เฮริตซ ก. 276.5 ข. 346.0 ค. 432.5 ง. 692.0 9. จงหาความยาวคลื่นของเสียงซึ่งมีความถี่ 1,000 เฮริตซ ขณะคลื่นเสียงผานน้ําทะเล กําหนดใหอัตราเร็วของเสียง ในน้ําทะเลเทากับ 1,500 เมตรตอวินาที ก. 1.5 เมตร ข. 1.0 เมตร ค. 0.67 เมตร ง. 0.50 เมตร 10. จงหาความถี่ของคลื่นเสียง ขณะคลื่นเสียงผานอากาศที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ถาความยาวคลื่นเสียงเทากับ 0.17 เมตร ก. 1 กิโลเฮริตซ ข. 2 กิโลเฮริตซ ค. 3 กิโลเฮริตซ ง. 4 กิโลเฮริตซ สรุป คะแนนที่ทําได ดวยตนเอง ................................ คะแนนที่ไดมาโดยเพื่อนชวย ...........................
13.
เอกสารประกอบการเรียน 4Bรายวิชา ฟสกส
4 ิ 13 รายวิชา ฟสิกส 4 ผลการเรียนรูที่ 2 รหัสวิชา ว 32204 ใบงาน 2.1 ใชประกอบแผนจัดการเรียนรูที่ 2 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปที่ 5 5 คะแนน ( A ) เวลา 10 นาที เรื่อง ความเขมของเสียง และการไดยิน ใหนักเรียนเขียนแสดงความคิดเห็นวา เสียงดังตางจากเสียงสูงอยางไร และเสียงคอยตางจากเสียงต่ําอยางไร รายวิชา ฟสิกส 4 ผลการเรียนรูที่ 2 รหัสวิชา ว 32204 ชั้น ม.5 ใบความรู 2 ใชประกอบแผนจัดการเรียนรูที่ 2 เรื่อง ความเขมของเสียง และการไดยิน ความเขมของเสียงและการไดยิน เสียงเกิดจากการสั่นของวัตถุที่เปนแหลงกําเนิดเสียงและในการทําใหวัตถุสั่นจําตองใชพลังงาน ถาพลังงานที่ ใชมีคามากแอมพลิจูดของการสั่นก็มีคามาก และถาใชพลังงานนอย แอมพลิจูดของการสั่นก็จะนอยตามไปดวย พลังงานการสั่นของตนกําเนิดเสียงจะถูกถายโอนใหแกโมเลกุลของอากาศที่อยูรอบ ๆ แหลงกําเนิดเสียงซึ่งพลังงานจะ ถูกถายโอนผานโมเลกุลของอากาศตอกันไปถึงหูผูฟง ทําใหแกวหูสั่นสะเทือน เปนผลใหผูฟงไดยินเสียง การไดยินเสียง ของผูฟง ขึ้นกับปจจัยหลายประการ ซึ่งจะศึกษาตอไป ความเขมของเสยง ี แหลงกําเนิดที่มีชวงกวางของการสั่น ( amplitude ) กวางมาก จะเกิดเสียงดังกวาเสียงที่มี amplitude นอย ในทางวิทยาศาสตร เรียกความดังของเสียงวา ความเขมของเสียง การวัดความเขมของเสียงวัดไดจากพลังงานของเสียง ที่ตกตั้งฉากบน 1 หนวยพื้นที่ใน 1 หนวยเวลา มีหนวยเปนวัตตตอตารางเมตร ( Watt/m2 ) และหาไดจากสมการ ดังตอไปนี้ เมื่อ I คือ ความเขมของเสียงที่จุดใดจุดหนึ่ง ( Watt/m2 ) P คือ กําลังของเสียงจากแหลงกําเนิด ( Watt ) R คือ ระยะระหวางแหลงกําเนิดเสียงกับจุดที่พิจารณา ( m ) R A A คือ พื้นที่ของเสียงที่ตกตั้งฉากกับแหลงกําเนิด S S คือ จุดกําเนิดคลื่นเสียงที่มีหนาคลื่นเปนรูปทรงกลม ∴ พื้นที่ ๆ เสียงตกตั้งฉากก็คือ พื้นที่ผิวทรงกลม ซึ่งมีพื้นที่ = 4πR2 W P P I = = = tA A 4 πR 2 1 ∴ I α R2 ความเขมเสียงสูงสุดที่มนุษยไดยิน ( เสียงดัง ) 1 watt / m2 ความเขมเสียงต่ําสุดที่มนุษยไดยิน ( เสียงเบา ) 10- 12 watt/m2
14.
เอกสารประกอบการเรียน 4Bรายวิชา ฟสกส
4 ิ 14 ตวอยาง ชายคนหนึ่งขณะอยูหางจากแหลงกําเนิด 3 เมตร จะไดยินเสียงมีความเขม 10- ั 8 watt / m2 แหลงกําเนิดเสียงมีกําลังเสียงกี่วัตต P วิธีทํา จาก I = ⇒ P = 4πR2 ( I ) 4 πR 2 แทนคา P = 4π(3 )2 ( 10- 8 ) = 36x10- 8 π วัตต ตอบ แหลงกําเนิดเสียงมีกําลังเสียงเทากับ 36x10- 8 π วัตต เมื่อหูไมสามารถใชเปนมาตรฐานในการวัดความเขมของเสียงได จึงมีการวัดความเขมของเสียงดัง สมการ และตัวอยางขางตน ระดับความเขมของเสียง เมื่อหาอัตราสวนระหวางความเขมเสียงที่ดังที่สุดที่มนุษยทนฟงไดกับความเขมเสียงเบาที่สุดที่มนุษยไดยินมีคา มากถง 1012 ดังนั้นเพื่อความสะดวกในทางปฏิบัติ จึงนิยมใช ระดับความเขมเสียง เปนปริมาณที่บอกความดังของ ึ เสียงแทน ความเขมเสียง และเปนเกียรติแก อเลกซานเดอร เกรแฮม เบล ระดับความเขมของเสียงและมีหนวย เรียกวา เบล แตเนื่องจากเบลเปนหนวยที่ใหญเกินไป ไมสามารถบอกความละเอียดที่จะบอกคาความดังของเสียงตาง ๆ ได จึงแบงเปนหนวยยอยลงไป เรียกวา เดซิเบล ( dB ) มนุษยสามารถไดยินเสียงที่มีความดังที่ระดับความเขมของเสียงตั้งแต 0 – 120 เดซิเบล เสียงที่ดังมากเกินไป อาจทําใหหูหนวกได เชน เสียงฟาผาใกลๆตัว ที่มีคาความดังเกิน 120 dB เปนตน เสียงที่มีความดังไมมากแตไดยิน เปนเวลานานหลายชั่วโมงก็อาจเปนอันตรายได เชน เสียงเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม ( มลภาวะทางเสยง ) ี องคการอนามัยโลกจึงกําหนดวาเสียงที่ปลอดภัยตองมีความเขมไมเกิน 85 dB เมื่อตองไดยินติดตอกันวันละ 8 ชั่วโมง ขึ้นไป เสียงที่ดังไมถึงขั้นเปนอันตรายกับหู แตอาจมีผลกระทบทางดานจิตใจได เชน ทําใหเกิดความเครียด ไมมีสมาธิ เปนตน เราสามารถหาระดับความเขมของเสียง ไดดังนี้ เมื่อ β คือ ระดับความเขมของเสียงที่จุดพิจารณา ( dB , เดซิเบล ) I คือ ความเขมของเสียงขณะใดขณะหนึ่งที่จุดพิจารณา ( watt/m2 ) I0 คือ ความเขมของเสียงต่ําสุดที่มนุษยไดยิน = 10- 12 watt/m2 I β = 10 log I0 ตวอยาง หนาตางแหงหนึ่ง มีคลื่นเสียงผานวัดระดับความเขมของเสียงได 80 dB จงหาวา ขณะนั้นมีความเขมของ ั เสียงกี่วัตตตอตารางเมตร I วิธีทํา จาก β = 10 log I0 I แทนคา 80 = 10 log = 10 ( log I – log 10-12 ) 10 - 12 80 = 10 ( log I – (-12)log 10 ) 80 = log I + 12 10 8 – 12 = log I -4 = log I -4 10 = I I = 10- 4 watt/m2 ตอบ คลื่นเสียงขณะที่ผานหนาตางมีความเขมของเสียงเทากับ 10- 4 วัตตตอตารางเมตร
15.
เอกสารประกอบการเรียน 5Bรับฟงบอย ๆ
15 ตาราง แสดงระดับความเขมเสียงจากแหลงกําเนิดตาง ๆ ระดับความเขมเสียง แหลงกําเนิด ผลการรับฟง ( เดซิเบล , dB ) การหายใจปกติ 10 แทบจะไมไดยิน การกระซิบแผวเบา 30 เงียบมาก สํานักงานที่เงียบ 50 เงียบ การพูดคุยธรรมดา 60 ปานกลาง เครื่องดูดฝุน 75 ดัง โรงงานทวไป , ถนนที่มีการจราจรหนาแนน ่ั 80 ดัง เครื่องเสียงสเตอริโอในหอง 90 รับฟงบอย ๆ เครื่องเจาะถนนแบบอัดลม การไดยินจะเสื่อม เครื่องตัดหญา 100 อยางถาวร ดิสโกเธค การแสดงดนตรีประเภทรอค 120 ไมสบายหู ฟาผาระยะใกล 130 เครื่องบินไอพนกําลังขึ้นที่ระยะใกล 150 เจ็บปวดในหู จรวดขนาดใหญกําลังขึ้นที่ระยะใกล 180 แกวหูชํารุดทันที มลภาวะของเสยง ี เมื่อเราอยูใกลบริเวณที่กําลังมีการตอกเสาเข็มหรือมีการขุดเจาะถนนดวยเครื่องเจาะหรือบริเวณโรงงาน อุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ หรือแมแตในบริเวณสนามบิน เสียงที่เกิดขึ้นในบริเวณเหลานี้ จะเปนเสียงที่มี ระดับความเขมเสียงสูง ถาหูรับฟงเสียงเหลานี้ติดตอกันนาน ๆ จําทําใหสภาพหูและสภาพจิตใจของผูฟงผิดปกติได ดังนั้นผูที่ทํางานในบริเวณที่มีระดับความเขมสูง จึงตองมีจุกอุดหูหรือที่ครอบหูหรือวัสดุเก็บเสียงอื่นๆ เพื่อชวยลดระดับ ความเขมเสียงใหหูปลอดภัย เนื่องจากเสียงที่มีระดับความเขมเสียงสูง เปนอันตรายตอผูฟงที่อยูใกล กระทรวงมหาดไทยจึงไดออกประกาศ เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทํางานในบริเวณที่มีเสียงดังโดยมีเกณฑ ดังแสดงในตาราง ตาราง ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับเสียง เวลาในการทํางานตอวัน ระดับความเขมเสียงที่คนทํางานไดรับอยางตอเนื่องตองไมเกิน ( ชวโมง ) ่ั ( เดซิเบล ) นอยกวา 7 91 7–8 90 มากกวา 8 80 เสียงที่มีระดับความเขมเสียงสูง และเสียงที่ทําความรําคาญแกหูผูฟง คือ มลภาวะของเสยง ี การปรับปรุงหรือแกไข แหลงกําเนิดเสียงใหมีกําลังเสียงลดลง จะทําใหระดับความเขมของเสียงลดลงดวย จึง จัดเปนการลดมลภาวะของเสียงวิธีหนึ่ง ในกรณีที่เราไมสามารถแกไขความดังของเสียงที่แหลงกําเนิดเสียงได การ ปองกันโดยวิธีอื่น ๆ เชน การใชจุกอุดหู หรือที่ครอบหู หรือการติดตั้งวัสดุเก็บเสียง จะสามารถชวยลดมลภาวะของ เสียงได หูกับการไดยิน หูเปนอวัยวะสําคัญในการรับเสียง แบงออกเปน 3 สวนคือ 1 ) หูสวนนอก ( external ear ) ประกอบดวยใบหู รูหูหรือชองหู จนถึงแกวหู ทําหนาที่รับเสียงจาก ภายนอก คลื่นเสียงเดินทางไปทางรูหู โดยมีชองหูทําหนาที่รวมเสียงไปสูแกวหู 2 ) หูสวนกลาง ( middle ear ) อยูถัดจากแกวหูเขาไป มีลักษณะเปนโพรงอากาศ ภายในมีกระดูก 3 ชิ้น ไดแกกระดูกคอน อยูชิดแนบกับแกวหู กระดูกโกลนมีฐานวางปดชองที่ตอไปยังหูชั้นใน และกระดูกทั่งทําหนาที่สงตอ แรงสั่นสะเทือนของเสียงไปยังหูสวนใน และหูสวนกลาง นอกจากนี้ยังทําหนาที่ปรับความดันอากาศภายในใหเทากับ
Download now