SlideShare a Scribd company logo
1 of 65
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
การประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากล
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทำาโครงงาน
1. นายธนกฤต เมืองจันทร์ เลขที่ 10 ชั้น ม.6 ห้อง 3
2. นางสาวสุทธิรักษ์ ไชยจินดา เลขที่ 38 ชั้น ม.6 ห้อง 3
 
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม ครูจันทร์พร ขันตี
ระยะเวลาดำาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557
ที่มาและความสำาคัญของโครงงาน
เนื่องจากในปัจจุบันมีคนไทยส่วนมากไม่เห็นคุณค่าและ
ความสำาคัญของดนตรีไทยหรือบางคนแทบจะไม่เคยฟังเพลง
ที่บรรเลงโดยดนตรีไทยเลยด้วยซ้ำ้า โดยส่วนใหญ่ผู้คนจะให้
ความสำาคัญกับดนตรีสากลมากกว่า จึงทำาให้ดนตรีไทย
นั้นไม่เป็นที่นิยมและใกล้ที่จะเลือนหายจากสังคมไทยไป
เพราะคนไทยรุ่นใหม่มีค่านิยมที่ว่าใครที่ฟังเพลงที่บรรเลงโดย
ดนตรีไทยเป็นผู้ที่ล้าสมัย ผู้คนจึงไม่นิยมฟังและหันไปฟังเพลง
ที่บรรเลงโดยดนตรีสากลแทน  
เพลงที่บรรเลงโดยดนตรีไทยนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการ
บรรเลงแบบไม่มีเนื้อร้อง แต่ในทางกลับกันเราจะพบว่าเพลงที่
เราฟังกันอยู่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะบรรเลงโดยดนตรีสากล ซ้ึ่ง
ถ้าเราสามารถประยุกต์ให้ดนตรีไทยมาร่วมบรรเลงกับดนตรี
สากลได้แล้ว ดนตรีไทยอาจจะมีคนสนใจเพิ่มมากขึ้น และ
ทำาให้ดนตรีไทยอยู่คู่กับสังคมไทย ตลอดไป  
วัตถุประสงค์
1. เพื่อต้องการให้คนรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจ
ดนตรีไทยเพื่มมากขึ้น
2. เพื่อส่งเสริมดนตรีไทยให้กับทั้งชาวต่างชาติ
และคนไทยด้วยกันเองได้รู้จักดนตรีไทยมากขึ้น
3. เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
4. เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงคุณค่าของดนตรี
ไทย
ขอบเขตโครงงาน
ศึกษาการประยุกต์ระหว่างดนตรีไทยกับ
ดนตรีสากล ในเพลงร่วมสมัย
ระยะเวลา 2 ภาคเรียน
สถานที่ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
หลักการ และทฤษฎี
สืบเนื่องจากปัจจุบัน มีการแสดงดนตรีร่วมสมัย คือการ
แสดงระหว่างดนตรีสากลและดนตรีไทยอยู่มาก ทำาให้ส่งผลก
ระทบหลายด้านทั้งดีและไม่ดี ต่อทั้งวงการดนตรีไทยและ
 ดนตรีสากล
นายคุณากร คงจันทร์ รองประธานชมรม-ดนตรีไทย
มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า คนที่รู้จัก
ดนตรีไทยจริงๆ มีน้อย คนที่รู้จักดนตรีสากลจริงๆ ก็มีน้อย
เพียงแต่คนหมู่มากชื่นชอบเพลงสากลเพราะฟังง่าย สื่อความ
หมายชัดเจน แต่เพลงไทยเน้นการบรรเลงเนื้อร้องฟังความ
หมายค่อนข้างยาก เพราะเป็นศัพท์โบราณ ฉะนั้นก็ถ้านำามา
รวมกับสากลอาจจะทำาให้ขายได้ดีขึ้น เป็นการขยายตลาด
ถ้าเราแสดงแค่ดนตรีไทย ตลาดของเราก็จะได้รับความนิยม
แค่คนรุ่นเก่า หรือคนใหม่บางกลุ่มที่ชอบดนตรีไทยจริงๆ แต่
ถ้านำาดนตรีทั้งสองประเภทมาผสมกัน คน 2 กลุ่มนี้ก็อาจจะ
เข้ามารวมกัน หรือไม่ก็อาจจะได้กลุ่มใหม่ที่ไม่ชอบฟังทั้งไทย
ทั้งสากล แต่ชอบฟังแนวร่วมสมัยเพิ่มขึ้นเป็นได้ ส่วนในเรื่อง
วิธีดำาเนินงาน
แนวทางการดำาเนินงาน
คัดเลือกบทเพลงที่ง่ายต่อการนำามา
ประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากลเข้าด้วย
กัน จากนั้นฝึกซ้้อมและร่วมวงกันและขึ้น
แสดงในงานเปิดบ้านบานเย็น
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.ซ้อด้วง
2.กีตาร์โปร่ง
3.ขิม
4.ระนาด
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ได้รับความรู้ในการผสมผสานระหว่าง
ดนตรีไทยและดนตรีสากล ในบทเพลง
ร่วมสมัย ทำาให้สร้างสรรค์ดนตรีและบทเพ
ลงใหม่ๆขึ้นมาได้ และทำาให้ดนตรีไทยไม่
ถูกลืม
สถานที่ดำาเนินการ
โรงเรียนยุพราชยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาศิลปะ
 
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
ที่นำามาใช้การทำาโครงงาน)
journalism108. (2556). ดนตรีไทย-สากล
ปรับตัวร่วมสมัย รับกระแสสังคมยุคใหม่.
http://www.jr-rsu.net/ article/241 (
ดนตรี
ไทย
การ
ประยุกต์
ดนตรี
สากล
ข้อมูลเบื้อง
ต้น
เครื่องดีด
เครื่องสี
เครื่องตี
เครื่องเป่า
ดนตรีไทย
เป็นศิลปะแขนงหนึ่งของไทย ได้รับอิทธิพลมาจาก
ประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดีย, จีน, อินโดนีเซ้ีย และอื่น ๆ
เครื่องดนตรีมี 4 ประเภท ดีด สี ตี เป่า
ประวัติ ในสมัยกรุงสุโขทัย ดนตรีไทยมีลักษณะ
เป็นการขับลำานำา และร้องเล่น วรรณคดี "ไตรภูมิพระร่วง"
เครื่องดนตรี ได้แก่ ฆ้อง กลอง ฉิ่ง แฉ่ง (ฉาบ) บัณเฑาะว์
พิณ ซ้อ ปี่ไฉน ระฆัง กรับ และกังสดาล
สมัยกรุงศรีอยุธยา มีวงปี่พาทย์ที่ยังคงรูปแบบปี่พาทย์
เครื่องห้าเหมือนเช่นสมัยกรุงสุโขทัย แต่เพิ่มระนาดเอก
เข้าไป นับแต่นั้นวงปี่พาทย์จึงประกอบด้วย ระนาดเอก ปี่
ใน ฆ้องวงใหญ่ กลองทัด ตะโพน ฉิ่ง ส่วนวงมโหรีพัฒนา
จากวงมโหรีเครื่องสี่ เป็นมโหรีเครื่องหก เพิ่มขลุ่ย และ
รำามะนา รวมเป็นมี ซ้อสามสาย กระจับปี่ ทับ (โทน)
ถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เริ่มจากรัชกาลที่ 1 เพิ่มกลอง
ทัดเข้าวงปี่พาทย์อีก 1 ลูก รวมเป็น 2 ลูก ตัวผู้เสียงสูง ตัว
เมียเสียงตำ่า รัชกาลที่ 2 ทรงพระปรีชาสามารถการดนตรี
ทรงซ้อสามสาย คู่พระหัตถ์คือซ้อสายฟ้าฟาด และทรง
พระราชนิพนธ์เพลงไทย บุหลันลอยเลื่อน รัชสมัยนี้เกิด
กลองสองหน้าพัฒนามาจากเปิงมางของมอญ พอใน
รัชกาลที่ 3 พัฒนาเป็นวงปี่พาทย์เครื่องคู่ มีการประดิษฐ์
ระนาดทุ้มคู่กับระนาดเอก และฆ้องวงเล็กให้คู่กับฆ้องวง
ใหญ่
รัชกาลที่ 4 เกิดวงปี่พาทย์เครื่องใหญ่พร้อมการ
ประดิษฐ์ระนาดเอกเหล็ก และระนาดทุ้มเหล็ก รัชกาลที่ 5
สมเด็จฯ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ทรงคิดค้นวงปี่พาทย์
ดึกดำาบรรพ์ประกอบการแสดงละครดึกดำาบรรพ์ ใน
รัชกาลที่ 6 นำาวงดนตรีของมอญเข้าผสมเรียกวงปี่พาทย์
มอญโดยหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) มี
จะเข้
เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีด มี ๓ สาย แต่เดิมเป็น
สายไหมสองสายและสายลวดหนึ่งสาย แต่ปัจจุบัน
นิยมใช้สายเอ็นแทนสายไหม ตัวจะเข้ทำาด้วยไม้เนื้อ
อ่อน นิยมใช้ไม้ขนุน ขุดเป็นโพรง มีช่องเสียงอยู่ข้าง
ล่าง มีนมติดอยู่ทางด้านบนของตัวจะเข้ ๑๑ นม
เนื่องจากเป็นเครื่องดีดที่มีขนาดใหญ่เวลาดีดจึงวาง
ราบกับพื้นไม่ยกขึ้นดีดอย่างพิณชนิดอื่นๆ บรรเลง
ร่วมอยู่ในวงเครื่องสายและมโหรี
ซ้ึง
เป็นเครื่องดีดของทางภาคเหนือ คล้ายกับ
กระจับปี่ แต่ต่างกันที่ปลายทวนด้านบนไม่ยาว
งอนโค้งเหมือนกระจับปี่ มีหลายขนาด สาย
สำาหรับดีดทำามาจากลวด
กระจับปี่
เป็นเครื่องดนตรีเก่าแก่ประเภทเครื่องดีด มีหลักฐาน
ว่าเล่นกันมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา กล่องเสียงทำาด้วยไม้
ขุดเป็นโพรง มีช่องเสียงอยู่ด้านหน้า มีคันทวนค่อนข้าง
ยาวปลายด้านบนงอนโค้ง มีสายสำาหรับดีด ๔ สายทำา
ด้วยไหม สายที่ ๑ กับสายที่ ๒ เทียบเสียงเท่ากันคู่หนึ่ง
และสายที่ ๓ กับสายที่ ๔ เทียบเสียงเท่ากันอีกคู่หนึ่ง มี
นมตั้งเสียงติดอยู่กับด้านหน้าของคันทวน
พิณเปี๊ยะหรือพิณเพี้ยะ
คำำว่ำ "เปี๊ยะ" ในภำษำล้ำนนำแปลว่ำ อวด
ซึ่งน่ำจะหมำยถึงกำรดีดอวดฝีมือของบรรดำ
ผู้ชำยชำวเหนือที่ใช้พิณชนิดนี้เป็นสื่อไปเกี่ยว
พำรำสีผู้หญิง กล่องเสียงของพิณเปี๊ยะทำำมำจำก
กะลำมะพร้ำวผ่ำซีก ผูกติดอยู่กับคันทวน มีสำย
ตั้งแต่ ๒ สำยขึ้นไป
พิณนำ้ำเต้ำ
เป็นเครื่องดีดที่เก่ำแก่ที่สุดอีกอย่ำงหนึ่งของ
ไทย มีรูปร่ำงลักษณะคล้ำยกับพิณเปี๊ยะของทำง
ภำคเหนือมำก แต่กล่องเสียงของพิณนำ้ำเต้ำจะ
ทำำมำจำกผลนำ้ำเต้ำแห้งผ่ำซีก และเป็นพิณที่มี
สำยเดียว
ซอด้วง
เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสีที่มี 2 สำย ซึ่งเดิม
เป็นเครื่องดนตรีของจีน ร่วมบรรเลงในวงเครื่องสำย
เมื่อรำวต้นสมัยรัตนโกสินทร์ หรือถ้ำก่อนนั้นก็คงรำว
ปลำยสมัยกรุงศรีอยุธยำ พร้อมกันกับซออู้ เป็นหลักใน
กำรดำำเนินเนื้อเพลง และเป็นผู้นำำวง ด้วยเหตุที่เรียก
"ซอด้วง" ก็เพรำะว่ำกะโหลกซอนั้น มีลักษณะคล้ำยกับ
เครื่องดักสัตว์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่ำ "ด้วงดักแย้"
ซออู้
เป็นเครื่องสีอีกประเภทหนึ่งที่เป็นคู่มำกับซอ
ด้วง เข้ำใจว่ำเป็นเครื่องดนตรีที่ชนชำติจีนเล่นมำก่อน
มำรวมเล่นเป็นวงเครื่องสำยในระยะเดียวกับซอ
ด้วง มีหน้ำที่สีดำำเนินทำำนองเพลงในลักษณะหยอก
ยั่วเย้ำไปกับผู้ทำำทำำนองเพลงบำงครั้งใช้สีคลอไปกับ
ร้อง ด้วยภำยหลังเมื่อมีวงปี่พำทย์ดึกดำำบรรพ์และวงปี่
พำทย์ไม้นวม จึงได้นำำซออู้เข้ำมำบรรเลงร่วมด้วย
ซอสำมสำย
เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสีที่เก่ำมำแต่ครั้งกรุง
สุโขทัยมีวิธีกำรประดิษฐ์ลักษณะของซอได้อย่ำงปรำณี
ต สวยงำม มีเสียงไพเรำะนุ่มนวล เดิมใช้เป็นเครื่อง
ประกอบในพระรำชพิธีโดยเฉพำะในวง“ขับไม้ “ ซึ่งใช้
บรรเลงขับกล่อมในพระรำชพิธี “กล่อมพระอู่” หรือพระ
รำชพิธี"สมโภชน์ขึ้นระวำงช้ำงต้น “ ( พิธีกล่อม
ช้ำง ) เป็นต้น
สะล้อ
เป็นเครื่องสีอีกอย่ำงหนึ่งนิยมบรรเลงเล่นกันใน
ภำคเหนือของไทยดังมีชื่อเรียกกันว่ำ "วงสะล้อซอ
ซึง " เดิมเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ไปแอ่วสำว ต่อมำใช้
บรรเลงรวมวงกับซึงและปี่จุม เรียกว่ำ "วงดนตรีพื้น
เมืองเหนือ" สำมำรถบรรเลงเพลงสำำเนียงเหนือได้อย่ำง
ไพเรำะ เช่นเพลงละม้ำย จะปุอื่อ ประสำทไหวเพลง
เชียงใหม่ฯเป็นต้น เดิมเป็นเครื่องสีที่มี 2 สำย สีด้วย
คันชักคล้ำยซอด้วง
กรับพวง
ทำำด้วยไม้หรือโลหะ ลักษณะเป็นแผ่นบำง หลำย
แผ่นร้อยเข้ำด้วยกัน ใช้ไม้หนำสองชิ้นประกับไว้
วิธีตี ใช้มือหนึ่งถือกรับแล้วตีกรับลงไปบนอีกมือ
หนึ่งที่รองรับทำำให้เกิดเสียงกระทบ จำกแผ่นไม้หรือ
แผ่นโลหะดังกล่ำว ใช้ตีในกำรบรรเลงมโหรีโบรำณ
เล่นเพลงเรือ และโขนละคร
กรับเสภำ ทำำด้วยไม้เนื้อแข็ง ลักษณะเป็นแท่ง
สี่เหลี่ยม มีสันมน
วิธีตี กำรตีใช้ขยับมือที่ละคู่ กำรขับเสภำใช้กรับ
สองคู่ ถือมือละคู่ ผู้ขับเสภำจะขยับกรับ สองคู่นี้
ตำมท่วงทำำนองที่เรียกเป็นไม้ต่ำง ๆ เช่น ไม้กรอ
ไม้หนึ่ง ไม้รบ หรือไม้สี่
ระนำดเอก ที่ให้เสียงนุ่มนวล นิยมทำำด้วยไม้ไผ่บง
ถ้ำต้องกำร ให้ได้เสียงเกรียวกรำว นิยมทำำด้วยไม้แก่น
รำงทำำด้วย ไม้เนื้อแข็งรูปร่ำงคล้ำยเรือ ด้ำมหัวและท้ำย
โค้งขึ้นเพื่อให้อุ้มเสียง มีแผ่นไม้ปิดหัวและท้ำยรำงเรียก
ว่ำ "โขน" ฐำนรูปสี่เหลี่ยมเรียกว่ำ "ปี่พำทย์ไม้แข็ง" ไม้
ตีอีกชนิดหนึ่งทำำด้วยวัสดุที่นุ่มกว่ำ ใช้ผ้ำพัน แล้วถัก
ด้ำยสลับ เวลำตีจะให้เสียงนุ่มนวล
วิธีตี เมื่อตีตำมจังหวะของลูกระนำดแล้วจะเกิดเสียง
กังวำล ลดหลั่นกันไปตำมลูกระนำด ระนำดที่ให้เสียง
แกร่งกร้ำว อันเป็นระนำดดั้งเดิมเรียกว่ำ ระนำดเอก
ระนำดทุ้ม เลียนแบบระนำดเอก สร้ำงขึ้นในรัช
สมัยพระบำทสมเด็จ พระจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว ตัวลูกมี
ขนำดกว้ำงและยำวกว่ำของระนำดเอก ตัวรำงก็แตก
ต่ำง จำกระนำดเอก คือเป็นรูปคล้ำยหีบไม้แต่เว้ำกลำง
มีโขนปิดหัวท้ำย มีเท้ำอยู่สี่มุมรำง ไม้ตีตอนปลำยใช้ผ้ำ
พันพอกให้โต และนุ่ม เวลำตีจะได้เสียงทุ้ม
วิธีตี ตีตำมจังหวะของลูกระนำดใช้บรรเลงในวงปี
พำทย์ทั่วไป มีวิธีกำรบรรเลง แตกต่ำงไปจำกระนำด
เอก คือไม่ได้ยึดกำรบรรเลงคู่ ๘ เป็นหลัก
ขิม ใช้สำยโลหะขึงอยู่บนกล่องเสียง ตัวขิมทำำ
ด้วยไม้ มีลักษณะกลวงอยู่ภำยใน ด้ำนบนขึง
สำยทองเหลืองเรียงสลับกันเป็นแถวๆตำมแนว
นอน สำยที่นิยมใช้สำยทองเหลืองเพรำะมี
สำำเนียงกังวำนไพเรำะดี ไม้พื้นของตัวขิมทำำ
ด้วยไม้เนื้อโปร่งเพื่อให้เสียงก้องกังวำนผิวหน้ำ
กรุเป็นช่องรูปวงกลมไว้เพื่อให้เสียงออกดีขึ้น
ฉิ่ง เป็นเครื่องตีกำำกับจังหวะ ทำำด้วยโลหะ หล่อ
หนำ รูปร่ำงกลม เว้ำกลำง ปำกผำย คล้ำยฝำ
ขนมครกไม่มีจุก สำำรับหนึ่งมีสองฝำเจำะรูตรง
กลำงที่เว้ำ สำำหรับร้อยเชือกโยงฝำทั้งสอง เพื่อ
สะดวกในกำรถือตี ฉิ่งมีสองขนำด ขนำดใหญ่
ใช้ประกอบวงปีพำทย์ ขนำดเล็กใช้กับวงเครื่อง
สำยและมโหรี
ฉำบ เป็นเครื่องตีกำำกับจังหวะ ทำำด้วยโลหะ รูป
ร่ำงคล้ำยฉิ่ง แต่ มีขนำดใหญ่กว่ำและหล่อบำง
กว่ำ มีสองขนำด ขนำดใหญ่กว่ำเรียกว่ำ ฉำบ
ใหญ่ ขนำดเล็กกว่ำ เรียกว่ำ ฉำบเล็ก กำรตีจะตี
แบบประกบ และตีแบบเปิดให้เสียงต่ำงกัน
ฆ้องวงใหญ่ มีลูกฆ้อง ๑๖ ลูก ลูกเสียงตำ่ำสุดเรียก
ว่ำ ลูกทวน ลูกเสียงสูงสุดเรียกว่ำ ลูกยอด ไม้ที่
ใช้ตีมีสองอัน ผู้ตีถึงไม้ตีมือละอัน
ฆ้องวงเล็ก มีลูกฆ้อง ๑๘ ลูก สร้ำงขึ้นในรัชสมัย
พระบำทสมเด็จพระนั่งเกล้ำฯ ใช้บรรเลงร่วมใน
วงปีพำทย์ มีหน้ำที่เก็บ สอด แทรก ฯลฯ
กลองแขก มีรูปร่ำงยำวเป็นกระบอก หน้ำด้ำนหนึ่ง
ใหญ่เรียกว่ำ "หน้ำรุ่ย" หน้ำด้ำนหนึ่งเล็กเรียกว่ำ "หน้ำ
ต่ำน" หนังหน้ำกลองทำำด้วยหนังลูกวัวหนังแพะ ใช้เส้น
หวำยฝ่ำชีกเป็นสำยโยงเร่งให้ตึงด้วยรัดอก สำำรับหนึ่ง
มีสองลูก ลูกเสียงสูงเรียกว่ำ "ตัวผู้" ลูกเสียงตำ่ำเรียกว่ำ
"ตัวเมีย" กำรตี กำรตีใช้ฝ่ำมือทั้งสอง ตีทั้งสองหน้ำให้
เสียงสอดสลับกันทั้งสองลูก กลองชนิดนี้เรียกอีกอย่ำง
หนึ่งว่ำ "กลองชะวำ"
กลองทัด มีรูปทรงกระบอกกลางป่องออกเล็กน้อย
ขึ้นหนังสองหน้า ตรึงด้วยหมุดที่เรียกว่า "แส้" ซึ่งทำา
ด้วยไม้ งาช้าง กระดูกสัตว์ หรือโลหะ หน้ากลองด้าน
หนึ่งติดข้าวตะโพนแล้วตีอีก ด้านหนึ่ง ใช้ไม้ตีสองอัน
สำารับหนึ่งมีสองลูก ลูกเสียงสูงเรียกว่า "ตัวผู้" ลูกเสียง
ตำ่าเรียกว่า "ตัวเมีย"ตัวผู้อยู่ทางขวาและตัวเมียอยู่ทาง
ซ้าย ของผู้ตีกลองทัดน่าจะเป็นกลองของไทยมา แต่
โบราณใช้บรรเลงรวมอยู่ในวงปีพาทย์มาจน ถึงปัจจุบัน
 
 
กลองยาว หุ่นกลองทำาด้วยไม้ ตอนหน้าใหญ่ ตอน
ท้ายเรียวแล้วบานปลายเป็นรูปดอกลำาโพงมีหลาย
ขนาดขึ้นหนังหน้าเดียวตัวกลางนิยมตบแต่งให้สวยงาม
ด้วยผ้าสีหรือผ้าดอกเย็บจีบย่นปล่อยเชิงเป็นระบาย
ห้อย มาปก ด้วยกลอง มีสายสะพายสำาหรับคล้อง
สะพายบ่า ใช้ตีด้วยฝ่ามือ แต่การเล่นโลดโผน อาจใช้
ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายตีก็มี กลองยาวได้แบบอย่างมา
จากพม่า นิยมเล่นในงานพิธีขบวนแห่ กลองชนิดนี้
เรียกชื่อตามเสียงที่ตีได้อีกชื่อหนึ่งว่า "กลองเถิดเทิง"
เปิงมางคอก ใช้เปิงมาง จำานวน  7 ลูก มี
ขนาดลดหลั่นกัน ผูกเรียงลำาดับตามขนาดจาก
ใหญ่ไปเล็กโดยทำาเป็นวงลักษณะเป็นคอก จึง
เรียกว่า “เปิงมางคอก” ใช้ตีประสานคู่กับตะโพน
มอญ
กลองตะโพน ใช้ตะโพนสองลูก เสียงสูงตำ่าต่างกัน
ถอดเท้าออก แล้วนำามาตั้งเอาหน้าเท่งขึ้นตีแบบกลอง
ทัด ใช้ไม้นวมที่ใช้ตีระนาดเป็นไม้ตี
ตะโพนมอญ คล้ายตะโพนไทย แต่ใหญ่กว่า และตรง
กลางหุ่นป่องน้อยกว่า มีเสียงดังกังวาลลึกกว่าตะโพน
ไทย หน้าใหญ่เรียกว่า "เมิกโนด" หน้าเล็กเรียกว่า
"เมิกโด้ด" เป็นภาษามอญ ตะโพนมอญใช้บรรเลงผสม
ในวงปีพาทย์มอญ มีหน้าที่บรรเลงหน้าทับ กำากับ
จังหวะต่าง ๆ
ปี่ใน ที่ถูกเรรียกว่าปี่ในก็เพราะว่า ปี่ชนิดนี้
เทียบเสียงตรงกับระดับเสียงที่เรียกว่า " เสียงใน "
ซึ่งเป็นระดับเสียงที่วงปี่พาทย์ไม้แข็ง บรรเลงเป็น
พื้นฐาน ตัวเลา ทำาด้วยไม้ชิงชัน หรือไม้พยุง กลึง
ให้ป่องกลาง และบานปลายทั้งสองข้าง ภายใน
เจาะเป็นรูกลวงตลอดหัวท้าย มีรูสำาหรับเปิดปิดนิ้ว
6รู โดยให้ 4 รูบนเรียงลำาดับเท่ากัน ตอนบน
สำาหรับสอดใส่ลิ้นปี่เรียกว่า " ทวนบน " ส่วนตอน
ล่างจะใช้ตะกั่วมาต่อ สำาหรับลดเลื่อนเสียงเรียก
ปี่นอก
มีขนาดเล็กสุด ใช้เป่าในวงปี่พาทย์ชาตรี ใน
การเล่นโนราห์ หนังลุง และละครชาตรี ต่อมาได้
เข้ามาบรรเลงผสมในวงปี่พาทย์ไม้แข็งเครื่องคู่
และ เครื่องใหญ่ โดยเป่าควบคู่ไปกับปีใน มี
ระดับเสียง สูงกว่าปีใน มีวิธีเป่าคล้ายคลึงกับปี่
ใน
ปี่กลาง
เป็นปี่ที่มีสัดส่วนและเสียงอยู่กลางระหว่างปี่นอก
กับปี่ใน จึงเรียกปี่ชนิดนี้ว่า " ปี่กลาง"ใช้เป่า
ประกอบการเล่นหนังใหญ่มาแต่โบราณ ซึ่ง
เป็นต้นกำาเนิดให้เกิดเสียง " ทางกลาง "ขึ้น
ปัจจุบันไม่ใคร่ได้พบเห็น มีวิธีการเป่าเช่นเดียว
กับปี่นอกและปี่ใน เพียงแต่ผิด กันที่นิ้วและระดับ
เสียง
ปี่ชวา
 เป็นเครื่องเป่าอีกประเภทหนึ่งที่มีลิ้น ซึ่งนำาแบบ
อย่างมาจากชวา เข้าใจว่าเข้ามา เมืองไทยใน
คราวเดียวกับกลองแขก โดยเฉพาะในการเป่า
เพลงประกอบการรำา " กริช "ในเพลง " สะระ
หม่า" ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พบว่าปี่ชวา
ใช้เป่าร่วมกับกลองในกระบวนพยุหยาตราทาง
ชลมารคและสถลมาคร นอกจากนั้นยังพบเห็นปี่
ชวาเป่าประกอบการเล่นกระบี่-กระบอง และการ
แคน 
เป็นเครื่องเป่าพื้นเมืองของชาวอีสานเหนือที่ใช้
ไม้ซางขนาดต่าง ๆ ประกอบกันเข้าเป็นตัวแคน
แคนเป็นสัญลักษณ์ของภาคอีสาน เป็นเครื่องเป่า
มีลิ้นโลหะ เสียงเกิดจากลมผ่านลิ้นโลหะไปตาม
ลำาไม้ที่เป็นลูกแคน การเป่าแคนต้องใช้ทั้งเป่า
ลมเข้าและดูดลมออกด้วย จึงเป่ายากพอสมควร
แคนมีหลายขนาด บางขนาดมีเสียงประสานอยู่
ด้วย
ขลุ่ยหลิบ
ขลุ่ยหลีบมีชื่อเต็มว่า ขลุ่ยหลีบเพียงออ ใช้เป่าคู่
กับขลุ่ยเพียงออ มีขนาดเล็กและสั้นกว่าขลุ่ย
เพียงออ ใช้ไม้รวกขนาดเล็กปล้องสั้นๆ เสียงจึง
แหลมสูงกว่าขลุ่ยเพียงออ ใช้ในวงเครื่องสาย
วงมโหรี วงปี่พาทย์ไม้นวม เช่นเดียวกันแต่ป็
นวงเครื่องคู่ หรือ เครื่องใหญ่
ขลุ่ยอู้
ขลุ่ยอู้เป็นขลุ่ยขนาดใหญ่ที่สุด ต้องใช้ไม้รวกลำา
ใหญ่ปล้องยาวทำา ขลุ่ยชนิดนี้จึงมีเสียงทุ้มตำา
มาก และมี เสียงคล้ายซออู้ จึงเรียก ขลุ่ยอู้ เคย
ใช้ในวงเครื่องสายวงใหญ่ แต่เนื่องจากหาขลุ่ย
และคนเป่าได้ยากขึ้น จึงไม่นำามาผสมวงในระยะ
หลังนี้จะพบบ้างในวงปี่พาทย์ดึกดำาบรรพ์
ขลุ่ยเพียงออ
เป็นขลุ่ยที่มีเสียงปานกลางมีขนาดกลาง ใช้ใน
วงเครื่องสาย วงมโหรี วงปี่พาทย์ ไม้นวม และวง
ปี่พาทย์ ดึกดำาบรรพ์ เป็นเครื่องดนตรีที่น่าส่ง
เสริมให้ฝึกหัดกันมากๆ เพราะราคาไม่แพงรูป
ร่างกระทัดรัด นำาติดตัวไปได้สะดวก เสียง
ไพเราะ ผู้สนใจจะฝึกได้ไม่ยากนัก
๑.       เพื่อเป็นการนำาดนตรีไทยสู่เวทีสากลได้อย่างสมบูรณ์
     สามารถเล่นเพลงต่างๆ ได้มากขึ้น อีกทั้งเป็นการนำารูปลักษณ์
 ความเป็นไทย วัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ได้อย่างกว้างขวาง
๒.      เพื่อเพิ่มความสำาคัญให้กับดนตรีไทยเดิมให้ทั่วโลกได้ประจักษ์
 เพราะมีระบบเสียงที่เป็นแบบเฉพาะไม่เหมือนใครในโลก แต่เรา
ก็ควรที่จะเล่นกับทั่วโลกได้ด้วยดนตรีไทยประยุกต์
๓.     เพื่อสร้างความชัดเจนของการเลือกเพลง เลือกเครื่องมือให้
เหมาะสมไม่สับสนไร้ทิศทางเหมือนในปัจจุบัน
๔.      สร้างระบบการเรียนการสอนให้เป็นแบบสากล แต่ยังคงยึดรูป
แบบที่ดีงามของดนตรีไทยเดิมอยู่
๕.       สร้างความกลมกลืนของวัฒนธรรมทางดนตรี มีทั้งอนุรักษ์ และ
พัฒนาไปพร้อมกัน
 และนอกเหนือจากที่กล่าวมาในข้างต้น เรามีความ
   ปรารถนาที่จะทำาให้ดนตรี ไม่ว่าจะเป็นไทยเดิม หรือ
       ไทยประยุกต์ มีความสอดคล้อง และชัดเจน ในรูปแบบ
 และวิธีการนำาเสนอ นำามาซึ่งความเป็นดนตรีไทยอย่าง
     สมบูรณ์ ดนตรีไทยจะดำารงอยู่ได้ต้องมีการ อนุรักษ์
     และพัฒนาไปพร้อมกัน และวันนี้ ดนตรีไทย พร้อมแล้ว
   ในรูปแบบความเป็นสากล ซึ่งเกิดขึ้นในสมัย พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
๑.    ตะเลงเอก เปรียบได้กับระนาดเอกของไทยเดิม การตี
       ตะเลง เหมือนกับ การตีระนาดทุกอย่าง ต่างที่วิธีการ
 และองค์ความรู้ซึ่งระนาดปัจจุบันมี 22         ลูก แต่ ตะเลง มี
37     ลูก แต่มีความยาวผืนเท่ากัน สามารถใช้ราง
       เดียวกันได้เลย ระยะห่างของมือก็เท่ากัน คือ ห่าง 8 ลูก
   ระนาด เท่ากับห่าง 13     ลูก ของตะเลง เราสามารถเรียน
รู้วิธีการเล่นตะเลงได้ในแบบสากลสามารถอ่านโน้ต
 สากลได้ มีการประสานเสียงเป็นแบบสากลทั่วโลก
๒.      ตะเลงทุ้ม เปรียบได้กับระนาดทุ้มของไทย ทำาหน้าที่
 ประสานสอดทำานอง ความยาวผืนเท่ากับระนาดทุ้มไทย
 เช่นกันแต่มี 29 ลูก
 
๓.   ขิมโครมาติค สามารถเล่นโน้ตสากลได้ครบสมบูรณ์
   โดยไม่ต้องเสริมหลักเหมือนขิมทั่วไป มีขนาด 18 หย่อง
 ที่เป็นมาตรฐานซึ่งมีขนาดเท่ากับขิม 11 หย่องทั่วไป
๔.         แข่ หรือ จะเข้สากล ขนาดเท่าจะเข้เดิมทุกอย่าง
   ต่างกันที่มี นม 19     นม ของเดิมมี 11     นม และแข่มีทั้ง 3 
   สาย กับ 4   สาย สามารถเล่นคอร์ดได้
๕.       ฆ้องสากล เหมือนกับฆ้องไทย เป็นการเอาฆ้องวง
   ใหญ่มารวมกับฆ้องวงเล็ก มีลูกฆ้อง 26   ลูก สามารถเล่น
ได้ทั้งแนวทำานองและแนวประสาน
 
 ๖.       กระจับปี่ เป็นเครื่องดนตรีโบราณ มี 4   สาย แต่เรานำา
 มาแยกสายออกจากกัน วิธีการเล่นเหมือนกับการเล่น
กีตาร์สากล
 
 
๗.     ขลุ่ย เหมือนขลุ่ยทั่วไป มี7 รูแต่มีเสียงสากลครบ
 
                และยังมีอื่นๆอีกมาก เช่น เปิงมางคอก ซึ่งเดิมมี 7 
   ลูก แต่ประยุกต์แล้วมี 13   ลูก ตั้งเสียงเป็นแบบสากลครบ
เปียโน
(  ย่อมาจาก เปียโนฟอเต) เป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลงโดย
 การกดลิ่มนิ้ว (คีย์บอร์ด)   มักใช้นิยมบรรเลงเพลงแนว
     คลาสสิก และ แจ๊ส แม้ว่าเปียโนจะมีขนาดใหญ่และ
 หนักทำาให้ไม่สามารถพกพาได้ และมีราคาค่อนข้าง
 แพง แต่เปียโนก็เป็นเครื่องดนตรีที่ได้เปรียบเครื่อง
 ดนตรีมากมาย เสียงของเปียโนสามารถเข้ากับเครื่อง
ดนตรีเกือบทุกชนิด
กีตาร์ (Guitar)   เป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง จัดเป็นพวก
 เครื่องสาย เสียงของกีตาร์นั้นเกิดจากการสั่นสะเทือน
   ของสาย ทำาให้เกิดกำาทอน (resonance) แก่ตัวกีตาร์
และคอกีตาร์
          กีตาร์นั้น มีทั้งแบบกีตาร์อะคูสติก และกีตาร์ไฟฟ้า บาง
 ตัวก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง กีตาร์มีส่วนตัวเป็นกล่องกำา
   ทอน ซึ่งในกีตาร์อะคูสติกจะเจาะเป็นช่อง ส่วนกีตาร์
   ไฟฟ้ามักจะตัน และมีโพรงในส่วนคอกีตาร์ โดยทั่วไป
 แล้วส่วนหัวของกีตาร์จะยืดขึ้นไปจากคอ เพื่อใส่ลูกบิด
 หมุนสายสำาหรับปรับเสียง กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่นิยม
 ใช้แพร่หลาย และใช้กับดนตรีหลากหลายสไตล์
ไวโอลิน เป็นเครื่องดนตรีที่ทำาให้เกิดเสียงระดับเสียง
 สูงในกลุ่มเครื่องดนตรีคลาสสิกประเภทเครื่องสาย
(String instruments) ซึ่งมีต้นกำาเนิดมาจากโลกตะวัน
   ตก เป็นเครื่องดนตรีตระกูลไวโอลินที่เล็กที่สุด อัน
         ประกอบไปด้วย ไวโอลิน วิโอลา เชลโล และ ดับเบิล
   เบส เมื่อนำาทั้งหมดมาเล่นร่วมกันแล้วจะเรียกว่า วง
เครื่องสาย(string)   ซึ่งเป็นตระกูลเครื่องดนตรีหลักของ
วงออร์เคสตรา
ทรอมโบน (Trombone) 
 –เทรอมโบนประกอบด้วยท่อลมสวมซ้อนเลื่อนเข้า ออก
 ได้ (Telescopic slide)   ขนาดยาวโค้งได้สองทบ สอง
ในสามของท่อลมนี้เป็นท่อทรงกระบอกเช่นเดียวกับ
     ทรัมเปตส่วนที่เหลือค่อย ๆ บานออกเป็นปากลำาโพง
ส่วนที่เป็นท่อลมทรงกระบอกจะเป็นท่อสองชั้นสวมกัน
 ไว้ในลักษณะรูปตัว U   เลื่อนเข้าออกเพื่อปรับระดับเสียง
       ทรอมโบนมีเสียงทุ้ม ห้าว ไม่สดใส เหมือนทรัมเปต
   ปัจจุบันนิยมช้แพร่หลายในวงดนตรีชนิดต่าง ๆ
ทรัมเปต (Trumpet) เป็นแตรที่มีท่อลมรูปทรงกระบอก
 ขนาดของท่อลมมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3   นิ้ว โค้งงอ
   ทบกันเป็นสามทบ ติดลูกสูบเพื่อใช้บังคับเสียง 3   อัน ( 3 
valve)   อยู่ตรงกลางลำาตัว ผู้เป่าจะใช้นิ้วขวาบังคับลูกสูบทั้ง
   สามโดยการกดลงหรือผ่อนให้ขึ้นแนวตั้ง กำาพวด
(Mouthpiece)   “ ” ของทรัมเปตเป็น กำาพวดรูปถ้วยหรือระฆัง
 ซึ่งทำาให้แตร ทรัมเปตสามารถเล่นเสียงสูงได้สดใสให้ความ
 รู้สึกตื่นเต้นได้ดีแต่ถ้าเล่นเสียงตำ่าจะให้ความนุ่มนวล
ลักษณะคล้ายเสียงกระซิบกระซาบได้ดีเช่นเดียวกันบางครั้ง
ผู้เป่าต้องการลดเสียงของแตรให้เบาลงทำาให้เกิดเสียงที่
 “ ” แปลกหูก็สามารถใช้ มิวท์ (Mute) สวมเข้าไปในปาก
   ลำาโพงของแตร ในปัจจุบัน ทรัมเปตเป็นแตรที่แพร่หลาย
และใช้ในวงดนตรีเกือบทุกประเภท
คอร์เนต (Cornet) คอร์เนตคือเครื่องเป่าทองเหลือง
 ที่มีลักษณะคล้ายกับทรัมเปต
แต่ลำาตัวสั้นกว่าคุณภาพของเสียงมีความนุ่มนวล
 กลมกล่อมแต่ความสดใสของเสียงน้อยกว่าทรัมเปต
 คอร์เนตถูกนำามาใช้ในวงออร์เคสตราครั้งแรกประมาณ
ค.ศ. 1829   ในการแสดงโอเปร่าของ Rossini   เรื่อง
William Tell ในปัจจุบันคอร์เนตเป็นเครื่องดนตรี
สำาคัญสำาหรับวงโยธวาทิตและแตรวง
แซ็กโซโฟน ใช้กำาพวก  ที่มีลิ้นเดียว เหมือนอย่างปี่
 คลาริเนตแต่ลำาตัวจะเป็นทรงกรวยเหมือนโอโบ ลำาตัว
 ทำาด้วยโลหะเหมือนเครื่องทองเหลือง ปากลำาโพงเค้งงอ
   ย้อนขึ้นมา แซ็กโซโฟนขนาดเล็กให้เสียงสูง ขนาด
   ใหญ่ให้เสียงตำ่า เสียงของ แซ็กโซโฟนเป็นลักษณะ
 ผสมผสานมีทั้งความพลิ้วไหว ความกลมกล่อมและ
ความเข้มแข็งปะปนกัน
กลองเล็ก (Snare Drum)          กลองเล็ก คือ เครื่องตี มี
2     หน้า ขึงด้วยหนังกลอง ลักษณะเฉพาะคือหน้ากลอง
ด้านล่างจะต้องคาดไว้ด้วยสายสะแนร์เป็นแผงเพื่อให้
   เกิดเสียงซ่า เดิมสายสะแนร์ทำาดวยเอ็นสัตว์ ในปัจจุบัน
สายสะแนร์มีทั้งที่ทำาด้วยไนล่อนและทำาด้วยเส้นลวด
     โลหะ กลองเล็กมีหลายชื่อ เช่น Snare Drum   และ
Side Drum
ระฆังราว (Tubular Bells)      คือ เครื่องตีทำานอง ทำา
 ด้วยท่อโลหะแขวนเรียงตามลำาดับเสียงจากสูงไปตำ่า
 แขวนกับโครงโลหะในแนวดิ่ง ใช้ไม้ตีที่ปลายท่อด้าน
 หัว จะเกิดเป็นเสียงเหมือนระฆัง
ตัวอย่างวิดีโอ ดนตรีไทยประยุกต์
ดนตรีไทยร่วมสมัย เพลงเขมรไทรโยค โดยไอยรัศมิ์
https://www.youtube.com/watch?
v=HbUHe8JYbHM
ตัวอย่างวิดีโอ ดนตรีไทยประยุกต์
ดนตรีไทยร่วมสมัย เพลงยอยศพระลอ โดย ไอยรัศมิ์
https://www.youtube.com/watch?v=pFUeCfC7X4M
อ้างอิง
• http://kaiwanmusic.blogspot.com/2010/
09/blog-post.html
• http://th.wikipedia.org/wiki/ดนตรีไทย
• http://www.school.net.th/library/create-
web/10000/arts/10000-4303.html
• https://sites.google.com/site/dntrithiyese
nsnuk/home/kheruxng-dntri-prapheth-si
• http://student.nu.ac.th/thaimusic_akez/t
ee1.htm
• http://livethaimusic.blogspot.com/2010/
11/blog-post_30.html
• http://www.trueplookpanya.com/new/cm

More Related Content

What's hot

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1Sokoy_jj
 
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นความสัมพันธ์กับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นNattha Namm
 
ขนราก
ขนรากขนราก
ขนรากdnavaroj
 
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุล
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุลปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุล
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุลManchai
 
โครงงาน ปั่นจอมพลังพิชิตขยะ"Collection Garbage Bicycle" 15 january 2018 สำเ...
โครงงาน ปั่นจอมพลังพิชิตขยะ"Collection Garbage Bicycle" 15  january 2018  สำเ...โครงงาน ปั่นจอมพลังพิชิตขยะ"Collection Garbage Bicycle" 15  january 2018  สำเ...
โครงงาน ปั่นจอมพลังพิชิตขยะ"Collection Garbage Bicycle" 15 january 2018 สำเ...Aung Aung
 
หลอดเลือดและส่วนประกอบของเลือด
หลอดเลือดและส่วนประกอบของเลือดหลอดเลือดและส่วนประกอบของเลือด
หลอดเลือดและส่วนประกอบของเลือดWan Ngamwongwan
 
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิSurapong Klamboot
 
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบwanchalerm sotawong
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์1
หลักฐานทางประวัติศาสตร์1หลักฐานทางประวัติศาสตร์1
หลักฐานทางประวัติศาสตร์1montira
 
บทพากย์เอราวัณ
บทพากย์เอราวัณบทพากย์เอราวัณ
บทพากย์เอราวัณKornnicha Wonglai
 
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อแบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อKruthai Kidsdee
 
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)sudoooooo
 
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1Omm Suwannavisut
 
การเขียนบรรณานุกรม
การเขียนบรรณานุกรมการเขียนบรรณานุกรม
การเขียนบรรณานุกรมSupaporn Khiewwan
 
ใบงานที่ 1 เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
ใบงานที่ 1  เรื่อง  ตลาดในระบบเศรษฐกิจใบงานที่ 1  เรื่อง  ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
ใบงานที่ 1 เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจไพบููลย์ หัดรัดชัย
 
แบบฝึกหัดการหาสัดส่วนจีโนไทป์ฟีโนไทป์
แบบฝึกหัดการหาสัดส่วนจีโนไทป์ฟีโนไทป์แบบฝึกหัดการหาสัดส่วนจีโนไทป์ฟีโนไทป์
แบบฝึกหัดการหาสัดส่วนจีโนไทป์ฟีโนไทป์Maikeed Tawun
 
โครงงานวาฟเฟิลสมุนไพร
โครงงานวาฟเฟิลสมุนไพรโครงงานวาฟเฟิลสมุนไพร
โครงงานวาฟเฟิลสมุนไพรnokyoong47
 

What's hot (20)

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1
 
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นความสัมพันธ์กับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
 
ขนราก
ขนรากขนราก
ขนราก
 
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุล
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุลปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุล
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุล
 
โครงงาน ปั่นจอมพลังพิชิตขยะ"Collection Garbage Bicycle" 15 january 2018 สำเ...
โครงงาน ปั่นจอมพลังพิชิตขยะ"Collection Garbage Bicycle" 15  january 2018  สำเ...โครงงาน ปั่นจอมพลังพิชิตขยะ"Collection Garbage Bicycle" 15  january 2018  สำเ...
โครงงาน ปั่นจอมพลังพิชิตขยะ"Collection Garbage Bicycle" 15 january 2018 สำเ...
 
แผนประกอบวิจัยในชั้นเรียน
แผนประกอบวิจัยในชั้นเรียนแผนประกอบวิจัยในชั้นเรียน
แผนประกอบวิจัยในชั้นเรียน
 
หลอดเลือดและส่วนประกอบของเลือด
หลอดเลือดและส่วนประกอบของเลือดหลอดเลือดและส่วนประกอบของเลือด
หลอดเลือดและส่วนประกอบของเลือด
 
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
 
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
 
ละครไทย
ละครไทยละครไทย
ละครไทย
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์1
หลักฐานทางประวัติศาสตร์1หลักฐานทางประวัติศาสตร์1
หลักฐานทางประวัติศาสตร์1
 
บทพากย์เอราวัณ
บทพากย์เอราวัณบทพากย์เอราวัณ
บทพากย์เอราวัณ
 
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อแบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
 
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
 
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
 
การเขียนบรรณานุกรม
การเขียนบรรณานุกรมการเขียนบรรณานุกรม
การเขียนบรรณานุกรม
 
ใบงานกฎหมาย
ใบงานกฎหมายใบงานกฎหมาย
ใบงานกฎหมาย
 
ใบงานที่ 1 เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
ใบงานที่ 1  เรื่อง  ตลาดในระบบเศรษฐกิจใบงานที่ 1  เรื่อง  ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
ใบงานที่ 1 เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
 
แบบฝึกหัดการหาสัดส่วนจีโนไทป์ฟีโนไทป์
แบบฝึกหัดการหาสัดส่วนจีโนไทป์ฟีโนไทป์แบบฝึกหัดการหาสัดส่วนจีโนไทป์ฟีโนไทป์
แบบฝึกหัดการหาสัดส่วนจีโนไทป์ฟีโนไทป์
 
โครงงานวาฟเฟิลสมุนไพร
โครงงานวาฟเฟิลสมุนไพรโครงงานวาฟเฟิลสมุนไพร
โครงงานวาฟเฟิลสมุนไพร
 

Similar to การประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากล

การประยุกต์ดนตรีไทยและดนตรีสากล
การประยุกต์ดนตรีไทยและดนตรีสากลการประยุกต์ดนตรีไทยและดนตรีสากล
การประยุกต์ดนตรีไทยและดนตรีสากลThanakrit Muangjun
 
ความหมายของเครื่องดนตรี
ความหมายของเครื่องดนตรีความหมายของเครื่องดนตรี
ความหมายของเครื่องดนตรีleemeanxun
 
งานคอมเครื่องดนตรีไทย
งานคอมเครื่องดนตรีไทยงานคอมเครื่องดนตรีไทย
งานคอมเครื่องดนตรีไทยChattharika Kongkom
 
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลางบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลางฏิวัตต์ สันทาลุนัย
 
เครื่องดนตรีไทย
เครื่องดนตรีไทยเครื่องดนตรีไทย
เครื่องดนตรีไทยlove5710
 
พิณ
พิณพิณ
พิณbawtho
 
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรมลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรมอำนาจ ศรีทิม
 
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติดีดพิณ
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติดีดพิณบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติดีดพิณ
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติดีดพิณฏิวัตต์ สันทาลุนัย
 
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติเป่าแคนแคน
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติเป่าแคนแคนบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติเป่าแคนแคน
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติเป่าแคนแคนฏิวัตต์ สันทาลุนัย
 
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติอ่านโน้ตดนตรีไทย
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติอ่านโน้ตดนตรีไทยบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติอ่านโน้ตดนตรีไทย
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติอ่านโน้ตดนตรีไทยฏิวัตต์ สันทาลุนัย
 
ใบความรู้ ดนตรีไทย กศน
ใบความรู้ ดนตรีไทย กศนใบความรู้ ดนตรีไทย กศน
ใบความรู้ ดนตรีไทย กศนpeter dontoom
 
นำเสนอพระเจนดุริยางค์Finish
นำเสนอพระเจนดุริยางค์Finishนำเสนอพระเจนดุริยางค์Finish
นำเสนอพระเจนดุริยางค์FinishSRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
 
งานคอมโฟน
งานคอมโฟนงานคอมโฟน
งานคอมโฟนChatika Ruankaew
 
วิวัฒนาการของดนตรีสากล
วิวัฒนาการของดนตรีสากลวิวัฒนาการของดนตรีสากล
วิวัฒนาการของดนตรีสากลอำนาจ ศรีทิม
 

Similar to การประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากล (20)

การประยุกต์ดนตรีไทยและดนตรีสากล
การประยุกต์ดนตรีไทยและดนตรีสากลการประยุกต์ดนตรีไทยและดนตรีสากล
การประยุกต์ดนตรีไทยและดนตรีสากล
 
ความหมายของเครื่องดนตรี
ความหมายของเครื่องดนตรีความหมายของเครื่องดนตรี
ความหมายของเครื่องดนตรี
 
งานคอมเครื่องดนตรีไทย
งานคอมเครื่องดนตรีไทยงานคอมเครื่องดนตรีไทย
งานคอมเครื่องดนตรีไทย
 
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลางบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
 
เครื่องดนตรีไทย
เครื่องดนตรีไทยเครื่องดนตรีไทย
เครื่องดนตรีไทย
 
พิณ
พิณพิณ
พิณ
 
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรมลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
 
Generation
GenerationGeneration
Generation
 
Music drama
Music dramaMusic drama
Music drama
 
ยุคสมัยของดนตรีไทย
ยุคสมัยของดนตรีไทยยุคสมัยของดนตรีไทย
ยุคสมัยของดนตรีไทย
 
เครื่องดนตรีสากล
เครื่องดนตรีสากลเครื่องดนตรีสากล
เครื่องดนตรีสากล
 
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติดีดพิณ
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติดีดพิณบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติดีดพิณ
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติดีดพิณ
 
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติเป่าแคนแคน
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติเป่าแคนแคนบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติเป่าแคนแคน
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติเป่าแคนแคน
 
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติอ่านโน้ตดนตรีไทย
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติอ่านโน้ตดนตรีไทยบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติอ่านโน้ตดนตรีไทย
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติอ่านโน้ตดนตรีไทย
 
ใบความรู้ ดนตรีไทย กศน
ใบความรู้ ดนตรีไทย กศนใบความรู้ ดนตรีไทย กศน
ใบความรู้ ดนตรีไทย กศน
 
นำเสนอพระเจนดุริยางค์Finish
นำเสนอพระเจนดุริยางค์Finishนำเสนอพระเจนดุริยางค์Finish
นำเสนอพระเจนดุริยางค์Finish
 
งานคอมโฟน
งานคอมโฟนงานคอมโฟน
งานคอมโฟน
 
วิวัฒนาการของดนตรีสากล
วิวัฒนาการของดนตรีสากลวิวัฒนาการของดนตรีสากล
วิวัฒนาการของดนตรีสากล
 
ดนตรีล้านนา
ดนตรีล้านนาดนตรีล้านนา
ดนตรีล้านนา
 
ดนตรีล้านนา
 ดนตรีล้านนา ดนตรีล้านนา
ดนตรีล้านนา
 

More from Thanakrit Muangjun

Y e5pf1nfrp6r uvdw6zams3ppdeywjm56geu9dtuxsd0sjoopop8yk46onp2qiwdj
Y e5pf1nfrp6r uvdw6zams3ppdeywjm56geu9dtuxsd0sjoopop8yk46onp2qiwdjY e5pf1nfrp6r uvdw6zams3ppdeywjm56geu9dtuxsd0sjoopop8yk46onp2qiwdj
Y e5pf1nfrp6r uvdw6zams3ppdeywjm56geu9dtuxsd0sjoopop8yk46onp2qiwdjThanakrit Muangjun
 
L43 c sdsauacpfzqaveaxk36inmapykcsrx66ofxrxatqjtalfkpwnayec531ab7a
L43 c sdsauacpfzqaveaxk36inmapykcsrx66ofxrxatqjtalfkpwnayec531ab7aL43 c sdsauacpfzqaveaxk36inmapykcsrx66ofxrxatqjtalfkpwnayec531ab7a
L43 c sdsauacpfzqaveaxk36inmapykcsrx66ofxrxatqjtalfkpwnayec531ab7aThanakrit Muangjun
 
Iy ku0gifma rdoelyditoe1ztwfnf0iwp1uljsvzqm2wpys3e7cghwmadoq9z9npc
Iy ku0gifma rdoelyditoe1ztwfnf0iwp1uljsvzqm2wpys3e7cghwmadoq9z9npcIy ku0gifma rdoelyditoe1ztwfnf0iwp1uljsvzqm2wpys3e7cghwmadoq9z9npc
Iy ku0gifma rdoelyditoe1ztwfnf0iwp1uljsvzqm2wpys3e7cghwmadoq9z9npcThanakrit Muangjun
 
L gtjdxxta9sh p05dmiwbbxljofewbet59huxkywwosahfsrzgnqktbvkjbnz2vmu
L gtjdxxta9sh p05dmiwbbxljofewbet59huxkywwosahfsrzgnqktbvkjbnz2vmuL gtjdxxta9sh p05dmiwbbxljofewbet59huxkywwosahfsrzgnqktbvkjbnz2vmu
L gtjdxxta9sh p05dmiwbbxljofewbet59huxkywwosahfsrzgnqktbvkjbnz2vmuThanakrit Muangjun
 
L4c exx0sen8xj1jprhi zk9err63yd5xuoopllacuiqlh6raoj7ics6qlbujxwtcc
L4c exx0sen8xj1jprhi zk9err63yd5xuoopllacuiqlh6raoj7ics6qlbujxwtccL4c exx0sen8xj1jprhi zk9err63yd5xuoopllacuiqlh6raoj7ics6qlbujxwtcc
L4c exx0sen8xj1jprhi zk9err63yd5xuoopllacuiqlh6raoj7ics6qlbujxwtccThanakrit Muangjun
 
Dz9 rr0hz8cnezz4djlk1vfzpdqa0yve hippvasumhne0ww7asfx32usd9zdclmbb
Dz9 rr0hz8cnezz4djlk1vfzpdqa0yve hippvasumhne0ww7asfx32usd9zdclmbbDz9 rr0hz8cnezz4djlk1vfzpdqa0yve hippvasumhne0ww7asfx32usd9zdclmbb
Dz9 rr0hz8cnezz4djlk1vfzpdqa0yve hippvasumhne0ww7asfx32usd9zdclmbbThanakrit Muangjun
 
G tp9q xhf7cauijj9bav6k9frkamazm3eqwgtwnpk81sxnf4pfubgdnuqndgcgnge
G tp9q xhf7cauijj9bav6k9frkamazm3eqwgtwnpk81sxnf4pfubgdnuqndgcgngeG tp9q xhf7cauijj9bav6k9frkamazm3eqwgtwnpk81sxnf4pfubgdnuqndgcgnge
G tp9q xhf7cauijj9bav6k9frkamazm3eqwgtwnpk81sxnf4pfubgdnuqndgcgngeThanakrit Muangjun
 
Lp knfbu6a6qtjn omekexhq4nljzidrzoa3ql0ffan9bqmmprvazgrpcy5uvx4dui
Lp knfbu6a6qtjn omekexhq4nljzidrzoa3ql0ffan9bqmmprvazgrpcy5uvx4duiLp knfbu6a6qtjn omekexhq4nljzidrzoa3ql0ffan9bqmmprvazgrpcy5uvx4dui
Lp knfbu6a6qtjn omekexhq4nljzidrzoa3ql0ffan9bqmmprvazgrpcy5uvx4duiThanakrit Muangjun
 
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจ
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจใบงานที่ 1 แบบสำรวจ
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจThanakrit Muangjun
 
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจ
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจใบงานที่ 1 แบบสำรวจ
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจThanakrit Muangjun
 

More from Thanakrit Muangjun (10)

Y e5pf1nfrp6r uvdw6zams3ppdeywjm56geu9dtuxsd0sjoopop8yk46onp2qiwdj
Y e5pf1nfrp6r uvdw6zams3ppdeywjm56geu9dtuxsd0sjoopop8yk46onp2qiwdjY e5pf1nfrp6r uvdw6zams3ppdeywjm56geu9dtuxsd0sjoopop8yk46onp2qiwdj
Y e5pf1nfrp6r uvdw6zams3ppdeywjm56geu9dtuxsd0sjoopop8yk46onp2qiwdj
 
L43 c sdsauacpfzqaveaxk36inmapykcsrx66ofxrxatqjtalfkpwnayec531ab7a
L43 c sdsauacpfzqaveaxk36inmapykcsrx66ofxrxatqjtalfkpwnayec531ab7aL43 c sdsauacpfzqaveaxk36inmapykcsrx66ofxrxatqjtalfkpwnayec531ab7a
L43 c sdsauacpfzqaveaxk36inmapykcsrx66ofxrxatqjtalfkpwnayec531ab7a
 
Iy ku0gifma rdoelyditoe1ztwfnf0iwp1uljsvzqm2wpys3e7cghwmadoq9z9npc
Iy ku0gifma rdoelyditoe1ztwfnf0iwp1uljsvzqm2wpys3e7cghwmadoq9z9npcIy ku0gifma rdoelyditoe1ztwfnf0iwp1uljsvzqm2wpys3e7cghwmadoq9z9npc
Iy ku0gifma rdoelyditoe1ztwfnf0iwp1uljsvzqm2wpys3e7cghwmadoq9z9npc
 
L gtjdxxta9sh p05dmiwbbxljofewbet59huxkywwosahfsrzgnqktbvkjbnz2vmu
L gtjdxxta9sh p05dmiwbbxljofewbet59huxkywwosahfsrzgnqktbvkjbnz2vmuL gtjdxxta9sh p05dmiwbbxljofewbet59huxkywwosahfsrzgnqktbvkjbnz2vmu
L gtjdxxta9sh p05dmiwbbxljofewbet59huxkywwosahfsrzgnqktbvkjbnz2vmu
 
L4c exx0sen8xj1jprhi zk9err63yd5xuoopllacuiqlh6raoj7ics6qlbujxwtcc
L4c exx0sen8xj1jprhi zk9err63yd5xuoopllacuiqlh6raoj7ics6qlbujxwtccL4c exx0sen8xj1jprhi zk9err63yd5xuoopllacuiqlh6raoj7ics6qlbujxwtcc
L4c exx0sen8xj1jprhi zk9err63yd5xuoopllacuiqlh6raoj7ics6qlbujxwtcc
 
Dz9 rr0hz8cnezz4djlk1vfzpdqa0yve hippvasumhne0ww7asfx32usd9zdclmbb
Dz9 rr0hz8cnezz4djlk1vfzpdqa0yve hippvasumhne0ww7asfx32usd9zdclmbbDz9 rr0hz8cnezz4djlk1vfzpdqa0yve hippvasumhne0ww7asfx32usd9zdclmbb
Dz9 rr0hz8cnezz4djlk1vfzpdqa0yve hippvasumhne0ww7asfx32usd9zdclmbb
 
G tp9q xhf7cauijj9bav6k9frkamazm3eqwgtwnpk81sxnf4pfubgdnuqndgcgnge
G tp9q xhf7cauijj9bav6k9frkamazm3eqwgtwnpk81sxnf4pfubgdnuqndgcgngeG tp9q xhf7cauijj9bav6k9frkamazm3eqwgtwnpk81sxnf4pfubgdnuqndgcgnge
G tp9q xhf7cauijj9bav6k9frkamazm3eqwgtwnpk81sxnf4pfubgdnuqndgcgnge
 
Lp knfbu6a6qtjn omekexhq4nljzidrzoa3ql0ffan9bqmmprvazgrpcy5uvx4dui
Lp knfbu6a6qtjn omekexhq4nljzidrzoa3ql0ffan9bqmmprvazgrpcy5uvx4duiLp knfbu6a6qtjn omekexhq4nljzidrzoa3ql0ffan9bqmmprvazgrpcy5uvx4dui
Lp knfbu6a6qtjn omekexhq4nljzidrzoa3ql0ffan9bqmmprvazgrpcy5uvx4dui
 
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจ
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจใบงานที่ 1 แบบสำรวจ
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจ
 
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจ
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจใบงานที่ 1 แบบสำรวจ
ใบงานที่ 1 แบบสำรวจ
 

การประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากล