More Related Content Similar to Chapter 1 (20) More from Success SC Slac (20) Chapter 11. 1
บทที่ 1
บทนา
ภูมิหลัง
การเขียนเป็นกระบวนการรวบรวมและจัดระเบียบความคิดของผู้ส่งสารโดยมีการถ่ายทอดสารที่
ต้องการสื่อผ่านทางการเขียนลงไปในกระดาษเพื่อสื่อสารกับผู้รับสารนั้นก็คือผู้อ่าน ในทักษะการเขียนจะมี
โอกาสสื่อสารผิดพลาดได้น้อยกว่าการพูด เพราะการเขียนสามารถแก้ไขจัดการเกี่ยวกับความคิดและสารที่
จะสื่อออกไปให้สมบรูณ์ได้ แต่การพูดผู้รับสารสามารถรับสารได้ทางน้าเสียง คาพูด และการแสดงออก
ทางใบหน้าของผู้พูดซึ่งเป็นการยากต่อการแก้ไข และทาให้เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาดได้ทุกเมื่อ
(Wingersky, Boerner and Balogh. 1995 : 2) ความสามารถในการเขียนไดดีนั้นไม่ใช่เป็นทักษะที่
ไดมาโดยธรรมชาติแต่เป็นสิ่งที่ไดจากการเรียนรูหรือการถ่ายทอดทางวัฒนธรรม โดยผ่านการฝึกฝนใน
สภาพหรือบริบทการเรียนแบบทางการ และทักษะการเขียนสามารถฝึกฝนและเรียนรูไดโดยผ่าน
ประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เรียนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศกระบวนการเขียนเป็นสิ่งที่
ยากและท้าทาย ผู้สอนควรออกแบบกิจกรรมที่กระตุ้นผู้เรียนโดยการใช้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง และ
เป็นที่น่าสนใจของผู้เรียนมาใช้ในการเขียนอย่างเช่น การเล่าเรื่องราวประกอบรูปภาพผ่านทางการเขียน
การติดต่อสื่อสารผ่านการเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การส่งข้อความสั้นที่ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยใน
การเขียน การทาเช่นนี้จะสามารถกระตุ้นให้เกิดทักษะการเขียนภาษาอังกฤษของผู้เรียน (Myles. 2002
: Website)
เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสาคัญในการเรียนการสอนภาษามีบทบาทมากขึ้นในทุกๆ ช่วงเวลาของ
การดาเนินชีวิต และมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นในชั้นเรียนภาษาเทคโนโลยีนั้นให้โอกาสและช่องทางในการเข้าถึง
ข้อมูล การสื่อสาร และการควบคุมกระบวนการการเรียนรู้ด้วยตนเองของผู้เรียน ยิ่งไปกว่านั้นเทคโนโลยี
ยังมีศักยภาพในการแพร่ไปสู่การฝึกฝนในห้องเรียนอีกด้วย (Reinbers. 2009 : 230) เทคโนโลยียัง
สามารถส่งเสริมการเขียนของผู้เรียนตลอดทั้งการวางแผน การดัดแปลง และการแก้ไขในการเขียน
เพื่อช่วยให้ผู้เรียนที่ประสบปัญหาในการเขียนสามารถก้าวผ่านปัญหาโดยการใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วย
ในความเป็นจริงแล้วการเขียนจากการสนับสนุนโดยเทคโนโลยีไม่เป็นเพียงแต่สามารถสร้างทักษะ แต่ยัง
สอนผู้เรียนได้ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นผู้เรียนสามารถพัฒนาความเข้าใจในการเรียนภาษาจากการใช้
เครื่องมือทางเทคโนโลยีในการเขียน เช่น เครื่องมือเพื่อการสะกดคา การจัดองค์ประกอบ และอีก
มากมาย เทคโนโลยีนั้นยังสามารถสรรค์สร้างรูปแบบใหม่ของการเขียนขึ้นซึ่งเป็นแหล่งที่มา และหนทางใน
การรับข้อมูลใหม่ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต เครื่องมือค้นหา บล็อก และการส่งข้อความซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้
จะทาให้ผู้เรียนสามารถแบ่งปัน แก้ไข และร่วมมือกันระหว่างผู้เรียน ครู และเพื่อนร่วมชั้นได้อย่าง
ง่ายดาย (Kalann and Parette. 2010 : 1)
เนื่องจากการเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีรวมไปถึงการแพร่หลายของเทคโนโลยีไร้สายและ
อุปกรณ์สื่อสารแบบพกพาส่งผลต่อกระบวนการศึกษาคือการศึกษาควรนาเทคโนโลยีไร้สายและอุปกรณ์
แบบพกพาเข้ามาใช้ในการเรียนการสอน หรือที่เรียกว่าการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สาย (M-learning)
คือการนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์สื่อสารแบบพกพาเข้ามาประกอบการเรียนการสอน
เช่น คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือ พ็อกเก็ต พีซี เป็นต้น โดยการเรียน
2. 2
ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นเป็นการเรียนผ่านสื่อที่มีความเป็นอิสระในด้านที่ตั้ง เวลา และ พื้นที่
เมื่อออกแบบสื่อการเรียนการสอนสาหรับอุปกรณ์สื่อสารขนาดพกพานั้นต้องใช้ทฤษฎีการเรียนรู้ที่เหมาะสม
และ การออกแบบทฤษฎีการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน และในเวลาเดียวกันนั้นต้อง
ช่วยให้ผู้เรียนได้ประสบความสาเร็จในผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วย (Ally. 2004 : 5) การใช้เทคโนโลยี
ไร้สายในการเรียนการสอนทาให้เกิดการเข้าใจและทัศนคติที่ต่อการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สาย กล่าวคือ
การเรียนรูปแบบนี้สามารถส่งเสริมการรู้ภาษา เพิ่มความตั้งใจในการทาภาระงาน และการเข้าถึง
การเรียนรู้ของผู้เรียน และการเรียนในรูปแบบนี้จะส่งเสริมการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างผู้เรียนกับ
ผู้สอน และผู้เรียนกับผู้เรียน (Donalson. 2011 : 15)
เครื่องมือสาคัญชนิดหนึ่งในการเรียนผ่านเครือขายไร้สายนั่นก็คือโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือ
เป็นอุปกรณ์สื่อสารที่นิยมใช้ในหมู่นักเรียนนักศึกษา ซึ่งมีความสาคัญเทียบเท่ากับดินสอ สมุดบันทึก
และหนังสือเรียน โดยโปรแกรมที่นิยมใช้มากที่สุดคือการบริการการส่งข้อความ ผู้เรียนสามารถใช้การส่ง
ข้อความในการเขียน ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาเพื่อส่งข้อความ และส่งงานที่ได้รับมอบหมายผ่านทาง
ข้อความ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทักษะการสะกดคา และโครงสร้างทางไวยากรณ์ในการเขียน
ครูผู้สอนสามารถใช้การเขียนข้อความสั้นในการกาหนดสถานการณ์ในการเรียนที่มีความยืดหยุ่นได้ในการ
สอนคาศัพท์ใหม่ๆ (Tabatabaei and Goojani. 2012 : 47) มากไปกว่านั้นผู้เรียนสามารถ
ติดต่อสื่อสารและเข้าถึงข้อมูลโดยง่ายดายโดยใช้การบริการการส่งข้อความสั้น ผู้เรียนสามารถได้รับข้อมูล
เกี่ยวกับการศึกษาในเวลาอันรวดเร็ว เช่น ผลสะท้อนจากภาระงานของผู้เรียน คะแนน ตารางเรียน
และข้อมูลการศึกษาในเวลา และพื้นที่ที่จากัดได้ ข้อความที่ได้นาส่งโดยการใช้การบริการการส่งข้อความ
สั้นนั้นจะถูกบรรจุไว้เป็นข้อมูลประจาตัวผู้เรียน และได้นาไปเผยแพร่สู่ผู้เรียนโดยผ่านระบบภายใน
สถานศึกษา การใช้การบริการการส่งข้อความสั้นจะช่วยให้เกิดการพัฒนาประสบการณ์ของผู้เรียน และทา
ให้ผู้เรียนเข้าถึงการเรียนรู้ได้ (Richardson and Lenarcic. 2009 : 843)
ด้วยหลักการและเหตุผลดังกล่าวกลุ่มผู้วิจัยจึงเล็งเห็นความสาคัญของการพัฒนาทักษะการเขียน
ภาษาอังกฤษโดยใช้การส่งข้อความในการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สาย ในการจัดการเรียนการสอนในวิชา
ภาษาอังกฤษ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะการเขียนให้ดีขึ้น อีกทั้ง
ยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเขียนภาษาอังกฤษ และเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการ
เรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ความมุ่งหมายของการวิจัย
1.เพื่อเปรียบเทียบทักษะเขียนก่อนเรียนและหลังเรียนในการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายเพื่อพัฒนา
ทักษะการเขียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
2.เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเขียนภาษาอังกฤษขณะเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 5
ความสาคัญของการวิจัย
3. 3
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ได้มการพัฒนาทักษะด้านการเขียนภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น
ี
โดยการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายเป็นตัวช่วยในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
2. เป็นแนวทางในกระบวนการจัดการเรียนการสอนแก่ครูผู้สอนและผู้ที่มีบทบาททางการศึกษา
ในการพัฒนาทักษะการเขียนอันเป็นการส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแก่ผู้เรียน
3. การใช้การเรียนผ่ายเครือข่ายไร้สายเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนในครั้งนี้จะเป็นแนวทางที่จะ
เป็นประโยชน์ต่อผู้วิจัย ครูผู้สอนและผู้ที่สนใจ เพื่อส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้มี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขอบเขตของการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง โดยมีขอบเขตการวิจัยดังนี้
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1.1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกันทรวิชัย
อาเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 จานวน 4 ห้องเรียน
นักเรียนจานวน 157 คน
1.2 ประชากรกลุมตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1
่
โรงเรียนกันทรวิชัย อาเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2556
จานวน 38 คน โดยใช้วิธีการคัดเลือกแบบแบบการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Sampling)
2. ตัวแปรที่ศึกษา
2.1 ตัวแปรอิสระ คือ การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สาย
2.2 ตัวแปรตาม คือ การเขียนภาษาอังกฤษ
3. สมมติฐาน คือ ความสามารถด้านทักษะการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกันทรวิชัย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนหลังจากการเรียนผ่านเครือข่ายไรสาย
4. ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัยทั้งสิ้น 1 ภาคเรียน คือ ปีการศึกษา 2556 เป็นเวลา
4 เดือน เริ่มจากเดือนพฤศจิกายน 2556 – กุมภาพันธ์ 2557
5. เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัย
เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยพิจารณาโดยใช้เนื้อหาจากแหล่งเรียนรู้ที่มีความ
สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2556 ช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
จานวน 4 เรื่อง ดังต่อไปนี้
5.1 Unit : People
Topic : Friends
Sub topic : Activity and Friend
มีจานวน 1 แผนการสอนใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง
5.2 Unit : Myself
Topic : Family: Member and Details
มีจานวน 1 แผนการสอนใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง
5.3 Unit : Interpersonal
4. 4
Topic : Relationship
Sub topic : Invitation letter
มีจานวน 1 แผนการสอนใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง
5.4 Unit : Shopping
Topic : Price
มีจานวน 1 แผนการสอนใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สาย (M-Learning) หมายถึง การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายทีช่วย
่
ให้ได้รับความรู้โดยไม่ต้องคานึงถึงเวลาและสถานที่ และสามารถเข้าถึงได้ในทุกๆเวลา ในการวิจัย
ครั้งนี้ผู้วิจัยใช้บริการการส่งข้อความสั้น (SMS) และการเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail)
เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนของผู้เรียน โดยการให้ผู้เรียนเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และส่งข้อความโดยใช้
การบริการการส่งข้อความสั้น เพื่อการติดต่อสื่อสารและโต้ตอบกับบุคคล
2. ทักษะการเขียน หมายถึง ความสามารถในการเขียนเพื่อสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สาย
กล่าวคือ สามารถสื่อสารโดยการเขียนผ่านทางบริการข้อความสั้น และจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ตาม
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมดังนี้
2.1 ขั้นก่อนเขียน ในขั้นนี้ครูสอนคาศัพท์ โครงสร้าง และเนื้อหาจากตัวอย่างจดหมาย
อิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail) และ การบริการการส่งข้อความสั้น (SMS) ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยการเรียน
2.2 ขั้นขณะเขียน ใช้การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายโดยเป็นสื่อการสอนประกอบกิจกรรมใน
การเขียน เช่น การให้ผู้เรียนตอบคาถามเกี่ยวกับตัวอย่างข้อความสั้นและจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้เรียน
โดยส่งข้อความโดยการใช้การบริการการส่งข้อความสั้น หรือเรียงลาดับประโยคในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
โดยใช้การบริการการส่งข้อความสั้น เป็นต้น
2.3 ขั้นหลังเขียน ใช้การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายโดยให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงจากเขียน
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เพื่อบรรยายกิจกรรมที่ทา หรือการสั่งซื้อและตอบรับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์
และส่งให้เพื่อนในห้องผ่านเครือข่ายไร้สายเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เขียนข้อความในการสร้างคาถาม
และตอบคาถามโดยใช้การบริการการส่งข้อความสั้น โดยมีทั้งการส่งข้อความเพื่อการนัดหมาย การถาม
และการตอบกลับ หรือเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แนะนาตนเองกับชาวต่างชาติ เป็นต้น
3. พฤติกรรมการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายไร้สาย หมายถึง พฤติกรรมของผู้เรียนที่มีการตอบสนอง
และให้ความสนใจต่อการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายไร้สาย และมีความต้องการที่จะศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วย
ตนเอง โดยวัดได้จากแบบสังเกตพฤติกรรมการเรียน โดยมีเกณฑ์ในการวัดดังต่อไปนี้
3.1 ประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ และการประเมินตนเอง
3.2 การทางานตามกาหนดเวลา
3.3 รับผิดชอบภาระงาน
3.4 ความกระตือรือร้น
3.5 แรงจูงใจในการทากิจกรรม
5. 5
The Use of Text Messages in Mobile Learning for Enhancing English
Writing Skill
การพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้การส่งข้อความในการเรียนผ่าน
เครือข่ายไร้สาย
กลุ่มผู้วิจัย
นางสาวศิรินาถ คารวะบัญชา
53010513041
นางสาวศิโรรัตน์ พินิจพงษ์
53010513042
นายสุริยา ชานกัน
53010513044
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม