More Related Content
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand (20)
7
- 2. สถานที่หลายแห่งลวนมีเหตุการณ์ท่เี กิดขึ้นในอดีต ท้องถิ่นของเราเองก็
้
เช่นกัน มีประวัติความเป็ นมาแต่ไม่ค่อยมีใครสนใจศึกษา ทาให้มผูรูใ้ นเรื่องนี้มี
ี ้
น้อยลง และอาจทาให้คนรุ่นหลังไม่ทราบประวัตความเป็ นมาในท้องถินของตนเองว่า
ิ ่
เป็ นอย่างไร มีจุดเริ่มต้นจากไหน แต่ถา้ หากเราศึกษาหาความรู เ้ กี่ยวกับประวัติ
ความเป็ นมาของท้องถิ่นของเราเสียแต่ตอนนี้ นอกจากจะทาให้เรารูเ้ กี่ยวกับประวัติ
ความเป็ นมาของท้องถิ่นเรามากยิ่งขึ้น ยังทาให้เราได้รูอีกว่าเราจะสืบสานประเพณี
้
วัฒนธรรม และภูมปญญาในท้องถินของเราให้คงอยู่ตลอดไปได้อย่างไร
ิ ั ่
- 3. ้
ขันตอนการดาเนิ นงาน
การศึกษาประวัตความเป็ นมาของบ้านใหม่ร่องหวาย อาเภอเวียงเชียงรุง้
ิ
และจังหวัดเชียงราย ผูศึกษามีวธการศึกษาดังนี้
้ ิี
1.ขันสารวจเอกสารทีเ่ กี่ยวของ
้ ้
2.สารวจข้อมูลเกี่ยวกับประวัตความเป็ นมาของหมูบา้ น อาเภอ และ
ิ ่
จังหวัด โดยการสาภาษณ์ จดบันทึกข้อมูลจากบุคคลในหมูบา้ น และค้นคว้าข้อมูล
่
เพิมจากอินเทอร์เน็ต
่
3.นาข้อมูลทีได้มาสรุปสาระสาคัญและเรียบเรียงใหม่
่
4.นาข้อมูลทีได้มารวบรวม วิเคราะห์
่
5.ตรวจสอบความเรียบร้อยของข้อมูล
6.เสนอผลการศึกษาข้อมูล
- 4. บ้านใหม่ร่องหวายเป็ นหมูบา้ นทีแยกออกมาจากบ้านร่องหวายซึงก่อตังเมือ
่ ่ ่ ้ ่
พ.ศ. 2507 โดยการนาของพ่อใหญ่ผาย ศรีจนทร์ปลิว ที่อพยพมาจากจังหวัด
ั
อุดรธานี และต่อมาก็มผูคนอพยพมาจากหลายจังหวัดเช่น ขอนแก่น มหาสารคาม
ี ้
ร้อยเอ็ด อุบล ฯลฯ เข้ามาตังถินฐานในหมูบา้ น
้ ่ ่
บ้านใหม่ร่องหวายตังอยู่ริม ฝังลานาเล็กๆ สายหนึ่งที่กนระหว่างหมู่บา้ น
้ ่ ้ ั้
แม่เผื่อลานาสายนี้มตนหวายขึ้นหนาแน่ นชาวบ้านเรียกลานาสายนี้ว่า “ลานาร่อง
้ ี ้ ้ ้
หวาย” และตังชื่อหมูบา้ นว่า “บ้านร่องหวาย” ตามชื่อของลาห้วยด้วย
้ ่
- 5. ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านป่ าเลา ตาบลดงมหาวัน
ทิศใต้ ติดต่อกับ ทุ่งนา
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านแม่เผือ ่
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ชุมชนหมูท่ี 2 บ้านร่องหวาย
่
- 6. บ้านใหม่ร่องหวายแยกการปกครองจากบ้านร่องหวายหมู่ 2 เมื่อ พ.ศ.
2541 เพื่อให้ง่ายต่อการปกครองและการพัฒนาชุมชน ภายในหมู่บา้ นใหม่ร่อง
หวายแบ่งการปกครองจัดเป็ นกลุ่ม มีทงหมด 4 กลุ่มคือ กลุ่มอุบลพัฒนา กลุ่ม
ั้
บูรพาร่ วมใจ กลุ่มทานตะวัน และกลุ่มหรดี ผูใ้ หญ่บา้ นคนปัจจุบน คือ นาย
ั
ประหยัด ป้ องเรือ
- 7. ผลผลิตทางการเกษตร ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด มันสาปะหลัง ยางพารา
อาชีพหลัก ได้แก่ ทานา ทาไร่ ทาสวน
อาชีพรอง ได้แก่ รับจ้างทัวไป
่
- 8. เนื่ อ งจากบ้า นใหม่ ร่ อ งหวายมี บ รรพบุ รุ ษ อพยพมาจากทางภาค
ตะวันออกเฉี ยงเหนือหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าภาคอีสาน จึงใช้ภาษาอีสานและมี
วัฒนธรรมเหมือนกันกับคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นประเพณี บุญบังไฟ ้
ซึงจัดขึ้นเป็ นประจาทุกปี
่
- 10. เมือ งโบราณ "เวีย งเชี ย งรุ ง " เป็ น เมือ งโบราณเมือ งหนึ่ ง ในลุ่ ม แม่ น า ลาว ที่ มี
้ ้
ความสาคัญทางประวัติศาสตร์ของอาณาจักรลา้ นนา เคยเจริญรุ่งเรืองและเสื่อมไปหลายยุค
หลายสมัย ลักษณะเป็ นเนินสูง ตังอยู่กลางทุ่งนา ตรงกลางเมืองเหมือนหลังเต่า มีลกษณะทีช้ ให้
้ ั ่ี
ทราบว่าเป็ นเมืองโบราณ ปรากฏชัดเจน เช่น ป้ อม คู ประตูหอรบ มีคูเมือง 3 ชัน 1. คูเมือง ้
ชันในติดกาแพงเมือง (กาแพงดิน) มีคูรอบเป็ นวงแหวน 2. คูเมืองชันกลาง เป็ นคูใหญ่ 3. คู
้ ้
เมืองชันนอกสุด จากการเล่าขานของคนดังเดิมบอกว่า ชุมชนแห่งแรกทีได้มาตังถินฐานคือ บ้าน
้ ้ ่ ้ ่
ดงชัย ม.2 ต.ทุ่งก่อ ในปัจจุบน ในสมัยก่อนเรียกว่าบ้าน "ดงหนองเขียว"ประมาณ 300 กว่าปี ท่ี
ั
ผ่านมามีครอบครัวที่อพยพมาจากจังหวัดเชียงใหม่ต่อจากนัน ก็มผูคนอพยพเข้ามาเพิมขึ้นจาก
้ ี ้ ่
เดิมที่มเี พียงตาบลทุ่งก่อเพียงตาบลเดียวเมื่อมีการเพิ่มจานวนประชากร ความเจริญต่าง ๆ ก็
เกิดขึ้น
- 11. ทิศเหนื อ ติดต่อกับ อาเภอดอยหลวง
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อาเภอเชียงของ
ทิศใต้ ติดต่อกับ อาเภอพญาเม็งรายและอาเภอเวียงชัย
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อาเภอเมืองเชียงราย
- 12. อาเภอเวียงเชียงรุง มีหมู่บา้ นทัง หมด 43 หมู่บา้ น ตาบล 3 ตาบล
้ ้
ได้แก่ ตาบลทุ่งก่ อ ตาบลดงมหาวัน และตาบลป่ าซาง เทศบาล 1 แห่ง คือ
เทศบาลตาบลบ้านเหล่า และองค์การบริหารส่วนตาบล 3 แห่ง มีโรงเรียนประถม
10 โรง มัธยม 2 โรง และวิทยาลัยการอาชีพ 1 แห่ง นายอาเภอเวียงเชียง
รุง้ คือ นายพินิจ แก้วจิตคงทอง
- 14. เนื่องจากอาเภอเวียงเชียงรุงมีประชาชนอพยพมาจากหลายจังหวัดและหลายภาค จึง
้
มีวฒนธรรมต่างกันบ้าง ซึ่งในตาบลดงมหาวันมีประชาชนอพยพมาจากภาคอีสานเป็ นส่วนมาก
ั
จึงมีวฒนธรรมเหมือนกับภาคอีสาน เช่นประเพณี บุญบังไฟ ซึ่งจัดขึ้นเป็ นประจาทุกปี โดยจะมี
ั ้
การประกวดต่างๆ เช่น ประกวดขบวนแห่ ผาแดง-นางไอ่ บังไฟ เป็ นต้น ส่วนตาบลป่ าซาง
้
และตาบลทุ่งก่อมีประชาชนอพยพมาจากภาคเหนือ เช่น จังหวัดลาปาง เชียงใหม่ ลาพูน เป็ น
ต้น ทาให้มวฒนธรรมเหมือนกับคนในภาคนันเช่นกัน เช่น ประเพณีสรงนาพระบาททุ่งก่อ แม้
ีั ้ ้
ประชาชนในอาเภอเวียงเชียงรุง แม้จะมีภาษาและวัฒนธรรมประเพณีทต่างกัน แต่ก็สามารถอยู่
้ ่ี
ร่วมได้อย่างสงบสุข และมีอธยาศัยทีดต่อกัน
ั ่ี
- 15. “เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน
ถิ่นวัฒนธรรมล้ านนา ล ้าค่าพระธาตุดอยตุง”
- 16. จากพงศาวดารโยนกว่า พญามังรายสร้างเมืองเชียงรายขึ้น ณ ทีซงเดิมเป็ นเวียง
่ ่ึ
ชัยนารายณ์ เมือ พ.ศ. 1805 และครองราชย์สมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงรายจนถึง พ.ศ.
่
1839 จึงไปสร้างเมืองเชียงใหม่ข้ นในท้องที่ระหว่างดอยสุเทพกับ แม่นาปิ ง และ
ึ ้
ครองราชย์สมบัตอยู่ ณ เมืองเชียงใหม่จนถึง พ.ศ. 1860
ิ
เมือพญามังรายย้ายไปครองราชย์สมบัติท่เี มืองเชียงใหม่แลว พระราชโอรสคือ
่ ้
ขุนคราม หรืออีกชื่อหนึ่งว่าพญาไชยสงคราม ก็ได้ครองราชย์สมบัติสบต่อมา นับแต่นน
ื ั้
เมืองเชียงรายก็ข้นต่อเมืองเชียงใหม่
ึ
- 17. ครันต่อมาเมือลา้ นนาตกไปอยู่ในปกครองของพม่า ในปี พ.ศ. 2101 พม่าได้ตง
้ ่ ั้
ขุนนางปกครองเมืองเชียงรายเรื่อยมา หลังจากนัน พ.ศ. 2317 เจ้ากาวิละแห่งลาปางได้
้
สวามิภกดิ์ต่อกรุงเทพฯ ทาให้หวเมืองลา้ นนาฝ่ ายใต้ตกเป็ นประเทศราชของสยาม ขณะที่
ั ั
เชียงรายและหัวเมืองลา้ นนาฝ่ ายเหนืออื่น ๆ ยังคงอยู่ใต้อานาจพม่า ลา้ นนากลายเป็ น
พื้นที่แย่งชิงอานาจระหว่างสยามกับพม่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเมืองเชียงรายเริ่มร้างผูคน
้
ประชาชนอพยพหนีภยสงครามไปอยู่เมืองอืน บ้างก็ถูกกวาดต้อนลงไปทางใต้ พ.ศ. 2247
ั ่
เมืองเชียงแสนฐานที่มนสุดท้ายของพม่า ถูกกองทัพเชียงใหม่ ลาปาง และน่ าน ตีแตก
ั่
เมืองเชียงรายจึงกลายสภาพเป็ นเมืองร้างตามเมืองเชียงแสน
ดอกไม้ประจาจังหวัด ดอกพวงแสด
- 18. ในปี พ.ศ. 2386 พระบาทสมเด็จพระนัง่ เกลา้ เจ้าอยู่หวมีพระบรมราชานุ ญาตให้
ั
เจ้าหลวงเชียงใหม่ฟ้ ื นฟูเชียงรายขึ้นใหม่ ภายหลังเมืองเชียงรายได้เป็ นส่วนหนึ่งของ
มณฑลพฤศจิกายน กระทัง่ ปี พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวจึงมี ั
พระราชบัญญัติ ยกเชียงรายขึ้นเป็ น เมืองเชียงราย ซึ่ง "เมือง" เป็ นหน่ วยการปกครอง
หนึ่งทีอยู่ถดจาก "มณฑล" ลงมา โดยเมืองเชียงรายเป็ นศูนย์กลางควบคุมเชียงแสน ฝาง
่ ั
และพะเยา ภายหลัง เมือ งเชีย งรายได้เ ปลี่ย นเป็ น จัง หวัด เชีย งราย และเมื่อ วัน ที่ 28
สิงหาคม พ.ศ. 2520 ได้แบ่งแยกพื้นทีบางส่วนทางตอนใต้ของจังหวัดจัดตังขึ้นเป็ นจังหวัด
่ ้
พะเยา จนถึงปัจจุบน ั
ต้นไม้ประจาจังหวัดเชียงราย ต้นกาสะลองคา
- 20. http://www.chiangrai.go.th/cpoc/2011/pages/aboutCr.aspx : วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2555
http://th.wikipedia.org/wiki : วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555
http://202.129.0.133/createweb/00000//00000-1011.html : วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555
http://www.takethaitour.com/th/tour-information : วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555
www.chiangraiinfo.com : วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555