More Related Content
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand (20)
2
- 4. บทคัดย่อ
โครงงานฉบับนี้ เป็นโครงงานที่ผู้จัดทาได้ศึกษาเก็บข้อมูล
ประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย เมืองเชียงแสน และภูมิลาเนาของ
ผู้จัดทาเอง ศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูลมีทั้งการศึกษาข้อมูลจากระบบ
อินเตอร์เน็ท และรวบรวมข้อมูลจากในชุมชน รวมทั้งข้อมูลจากคา
บอกเล่าของปราชญ์ชาวบ้านในชุมชน ซึ่งประกอบทั้งข้อมูลที่เป็น
ข้อความ และข้อมูลที่เป็นภาพประกอบ
- 8. แผนปฏิบติงำน
ั
ลำดับที่ กิจกรรม ระยะเวลำ
๑ วำงแผนกำรทำงำน ๑ ส.ค. ๕๕
๒ สื บค้นข้อมูล ๑๐ ส.ค. ๕๕
๓ จัดเตรี ยมข้อมูล วัสดุ อุปกรณ์ ๒๔ ส.ค. ๕๕
๔ ดำเนินกำรสำรวจ ๒๕-๒๖ ส.ค. ๕๕
๕ รวบรวมและวิเครำะห์ขอมูล
้ ๓ ส.ค. ๕๕
๖ จัดทำรู ปเล่มรำยงำน ๙ ก.ย. ๕๕
- 10. ผลของการศึกษาค้นคว้า
มีอาณาเขตติดต่อดังนี้
ทิศเหนือ ติดกับกาแพงเมืองเก่า และบ้านห้วยเกี๋ยงหมู่ 8
ต.เวียง
ทิศใต้ ติดกับบ้านเวียงใต้ หมู่ 3
ทิศตะวันออก ติดกับแม่น้าโขง
ทิศตะวันตก ติดกับกาแพงเมืองเก่า และบ้านจอมกิตติหมู่ 6
ต.เวียง
- 11. ประวัติความเป็นมา บ้านสบรวก
หมู่ที่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
เป็นชุมชนไทลื้อซึ่งอพยพมาจากสิบสองปันนา ประเทศจีนแล้วมาตั้ง
รกรากค้าขายตามแนวชายแดนทาให้มีวฒนธรรมเป็นของตนเอง โดยมี
ั
สามเหลี่ยมทองคา ซึ่งเป็นบริเวณที่แผ่นดินของ ๓ ประเทศได้มาพบกัน คือ
ไทย พม่า ลาว โดยมีแม่น้ารวกกั้นเขตระหว่างไทยและพม่า และแม่น้าโขง
กั้นระหว่างไทยและ ลาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสาคัญ
- 12. ประวัติความเป็นมา บ้านสบรวก หมู่ที่ 1
ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
มีอาณาเขตติดต่อดังนี้
ทิศเหนือ ติดกับน้ารวก และสหภาพเมี้ยนมา
ทิศใต้ ติดกับบ้านห้วยเกี๋ยง หมู่ 8
ทิศตะวันออก ติดกับแม่น้าโขง
ทิศตะวันตก ติดกับบ้านวังลาว หมู่ 4 ต.เวียง
- 14. ประวัติเมืองเชียงแสน
………………………….
สถานที่ตั้ง
อาเภอเชียงแสนตั้งอยู่ตรงข้ามกับ เมืองต้นผึ้ง ของประเทศ สปป.ลาว
โดยมีแม่น้าโขงเป็นพรหมแดนกั้น โดยอยู่ห่างจากอาเภอเมืองเชียงราย
จังหวัดเชียงรายไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร
ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัดเชียงราย
- 15. มีอำณำเขตติดต่อกับเขตกำรปกครองข้ำงเคียงดังต่อไปนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอแม่สำย รัฐฉำน (ประเทศพม่ำ) และแขวงบ่อ
แก้ว (ประเทศลำว)
ทิศตะวันออก ติดต่อกับแขวงบ่อแก้ว (ประเทศลำว) และอำเภอเชียงของ
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเชียงของ อำเภอดอยหลวง และอำเภอแม่จนั
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอแม่จนและอำเภอแม่สำย
ั
- 16. ประวัติ
ในปี พ.ศ. 2413 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว พระเจ้าอินทวิชยานนท์ ได้ทรงส่งใบบอกข้าราชการไปยัง
กรุงเทพมหานครว่า มีชาวพม่า ไทลื้อ และไทเขินจากเมืองเชียงตุง
ประมาณ 300 ครอบครัวได้อพยพลงมาอยู่เมืองเชียงแสนและตั้งตนเป็น
อิสระไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของสยามและล้านนา จึงแต่งคนไปว่า
กล่าวให้ถอยออกจากเมือง ถ้าอยากจะอยู่ ให้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชา
ของเมืองเชียงรายและนครเชียงใหม่ แต่ก็ไม่ได้ผล ไม่มีใครยอมออกไปใน
ปี พ.ศ. 2417 พระเจ้านครเชียงใหม่จึงทรงเกณฑ์กาลัง 4,500 คน จาก
เมืองต่าง ๆ ยกทัพจากนครเชียงใหม่มาเมืองเชียงรายและ เมืองเชียง
แสน ไล่ชนเหล่านั้นออกจากเมืองเชียงแสน จึงทาให้เชียงแสนกลายเป็น
เมืองร้าง จนถึงปี พ.ศ. 2423 ได้ทรงให้เจ้าอินต๊ะ ราชโอรสในพระเจ้า
บุญมาเมือง พระเจ้าผู้ครองนครลาพูน
- 17. มาเป็นเจ้าเมือง องค์แรก และให้พระเจ้าผู้ครองนครลาพูนทรงเกณฑ์
ราษฎรจากหลาย ๆ เมืองประมาณ 1,500 ครอบครัว ขึ้นมาตั้งรกราก "ปัก
ซั้งตั้งถิน" อยูที่เมืองเชียงแสนจวบจนถึงปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2442 ทาง
่ ่
ราชการได้ย้ายศูนย์การปกครองเมืองไปอยู่ที่ตาบลกาสา เรียกชื่อว่า อาเภอ
เชียงแสน ส่วนบริเวณเมืองเชียงแสนเดิมถูกยุบลงเป็น กิ่งอาเภอเชียงแสน
หลวง ขึ้นกับอาเภอเชียงแสน และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น กิ่งอาเภอเชียง
แสน ในปี พ.ศ. 2482 (โดยอาเภอเชียงแสนซึ่งตั้งอยู่ทตาบลกาสานันได้
ี่ ้
เปลี่ยนชื่อเป็นอาเภอแม่จันแทน) จนกระทังได้รับการยกฐานะเป็น อาเภอ
่
เชียงแสน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา
- 19. จังหวัดเชียงราย
จังหวัดเชียงราย
เป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นจังหวัดที่ใหญ่อีกจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย
โดยมีพื้นที่จังหวัดใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ของประเทศไทยและเป็นเมือง
เศรษฐกิจสาคัญตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนจีนตอนใต้-อินโดจีน
ประวัติ
พญามังรายสร้างขึน ณ ที่ซึ่งเดิมเป็นเวียงชัยนารายณ์ เมื่อ พ.ศ.
้
1805 และครองราชย์สมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงรายจนถึง พ.ศ. 1839 จึงไป
สร้างเมืองเชียงใหม่ขนในท้องที่ระหว่างดอยสุเทพกับแม่น้าปิง และ
ึ้
ครองราชย์สมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงใหม่จนถึง พ.ศ. 1860
- 20. สาหรับเมืองเชียงรายนั้น เมื่อพญามังรายย้ายไปครองราชย์สมบัติที่เมือง
เชียงใหม่แล้ว พระราชโอรสคือ ขุนคราม หรืออีกชื่อหนึ่งว่าพญาไชยสงคราม
ก็ได้ครองราชย์สมบัติสืบต่อมา นับแต่นั้นเมืองเชียงรายก็ขึ้นต่อเมืองเชียงใหม่
ต่อมาเมื่อล้านนาตกไปอยู่ในปกครองของพม่า ในปี พ.ศ. 2101 พม่าได้ตั้งขุน
นางปกครองเมืองเชียงรายเรื่อยมา หลังจากนั้น พ.ศ. 2317 เจ้ากาวิละแห่ง
ลาปางได้สวามิภักดิ์ต่อกรุงเทพฯ ทาให้หัวเมืองล้านนาฝ่ายใต้ตกเป็นประเทศ
ราชของสยาม ขณะที่เชียงรายและหัวเมืองล้านนาฝ่ายเหนืออื่น ๆ ยังคงอยู่ใต้
อานาจพม่า ล้านนากลายเป็นพื้นที่แย่งชิงอานาจระหว่างสยามกับพม่า
ในช่วงเวลาดังกล่าวเมืองเชียงรายเริ่มร้างผู้คน ประชาชนอพยพหนีภัย
สงครามไปอยู่เมืองอื่น พ.ศ. 2247 เมืองเชียงแสนฐานที่มั่นสุดท้ายของพม่า
ถูกกองทัพเชียงใหม่ ลาปาง และน่านตีแตก เมืองเชียงรายจึงกลายสภาพเป็น
เมืองร้างตามเมืองเชียงแสน
- 21. ในปี พ.ศ. 2386 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมรา
ชานุญาติให้เจ้าหลวงเชียงใหม่ฟื้นฟูเชียงรายขึ้นใหม่ ภายหลังเมืองเชียงราย
ได้เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลพฤศจิกายน กระทั่งปี พ.ศ. 2453
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชบัญญัติ ยกเชียงราย
ขึ้นเป็น เมืองเชียงราย ซึ่ง "เมือง" เป็นหน่วยการปกครองหนึ่งที่อยู่ถัดจาก
"มณฑล" ลงมา โดยเมืองเชียงรายเป็นศูนย์กลางควบคุมเชียงแสน ฝาง และ
พะเยา ภายหลังเมืองเชียงรายได้เปลี่ยนเป็นจังหวัดเชียงราย และเมื่อวันที่
28 สิงหาคม พ.ศ. 2520 ได้แบ่งแยกพื้นที่บางส่วนทางตอนใต้ของจังหวัด
จัดตั้งขึ้นเป็นจังหวัดพะเยา จนถึงปัจจุบัน
- 22. สรุปและข้อเสนอแนะ
สรุป
โครงงานฉบับนี้ ได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ ด้าน
ศิลปกรรม อันจะนาไปสู่การสืบสาน การอนุรักษ์ และทาให้ผู้ศึกษาค้นคว้า
ได้รู้สึกภาคภูมิใจในบ้านเกิดตนเองอีกอย่างหนึ่ง ผู้ค้นคว้าจะได้ทราบว่า
บุคคลที่เป็นปราชญ์ชาวบ้านที่รอบรู้ในด้านที่จะศึกษาเป็นใครซึ่งจะเป็น
ประโยชน์ในภายหลังหากต้องการศึกษาค้นคว้าในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป
- 23. ข้อเสนอแนะ
อยากให้หมู่บ้านของเรา มีการนาประวัติความเป็นมา
โดยย่อของหมู่บ้าน มาเผยแพร่ให้มากกว่านี้ เพราะเมือง
เชียงแสน และ สบรวกก็ล้วนเป็นเมืองท่องเที่ยวและเมือง
ที่มีโบราณสถานที่งดงามมากมาย หากนามาเผยแพร่
อาจจะทาให้ผู้อื่นเกิดความสนใจมากขึ้น และนารายได้มา
สู่ชุมชนมากขึ้น ด้วย
- 26. ข้ อมูลจากสื่ อออนไลน์
• thailine.com/thailand/thai/north-t/chrai-t/chsae-
t5.htm
• www.tourinthai.com/sitetravel/travel-
detail.php?travel_id=312
• www.bansansuk.com/.../วัดพระเจ้ าล้ านทองเมืองเชี ยงแสน.ht...
-
• www.zabzaa.com/chiangrai/history.htm
• www.tripdeedee.com/traveldata/chiangrai/chiang
rai24.php