Work1
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน How To การออกกาลังกายฉบับคนขี้เกียจ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.น.ส.อรวรรรยา อินทรชัย เลขที่ 3 ชั้นม.6 ห้อง.12
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม (ถ้ามี)…………………………………………………
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
1.น.ส.อรวรรยา อินทรชัย ม.6/12 เลขที่.3
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
How To การออกกาลังกายฉบับคนขี้เกียจ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
How to fitness edition lazy
ประเภทโครงงาน พัฒนาด้านสุขภาพ
ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.อรวรรยา อินทรชัย
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
การออกกาลังกายฉบับคนเกียจนั้นเป็นการออกกาลังกายสาหรับคนไม่ชอบวิ่งหนักไม่ชอบเดินแต่จะเน้นท่าส่วน
ของทุกบริเวณของร่างกายจะทาที่บ้านหรือจะเป็นที่โซฟา ที่นอน แต่ต้องเน้นการออกกาลังกายในส่วนบริเวณ
บ่อยๆ ทาเป็นประจาวันเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง หุ่นเฟิร์มและอีกทั้งสาคัญคือด้านสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เหี่ยวย่น
ไม่แก่ ทาให้อายุอ่อนต่อไวมากขึ้น ผิวสุขภาพดี การออกกาลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic exercise) จัดว่าเป็นการ
ออกกาลังกายเพื่อสุขภาพ ซึ่งหมายถึง การออกกาลังกายที่ไม่รุนแรงมาก ต้องใช้ออกซิเจน ต้องใช้กล้ามเนื้อกลุ่ม
ใหญ่ (เช่น ขา หรือแขน) อย่างต่อเนื่อง นานพอ หนักพอ บ่อยครั้งพอ การออกกาลังกายแบบแอโรบิก จะทาให้
หัวใจ ปอดและระบบหมุนเวียนโลหิตแข็งแรง ซึ่งก็คือวิธีการออกกาลังกายเพื่อสุขภาพ เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้า ถีบ
จักรยาน กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก ฯลฯ การออกกาลังกายชนิดนี้ มักใช้ทั้งแป้ง และไขมันเป็นพลังงานควรออก
กาลังกายแบบแอโรบิกตลอดเวลาเพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ ทั้งหมดที่กล่าวมา จึงเป็นเหตุผลที่ผู้จัดทาโครงงานตัดสินใจ
เลือกหัวข้อนี้ เพราะไม่เพียงแต่ผู้จักทาจะได้รับความรู้เท่านั้น แต่ผู้จัดทายังสามารถเผยแพร่ความรู้นี้ต่อนักเรียน
นักศึกษาคนอื่นให้ได้วิธีการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อศึกษาวิธีการออกกาลังกายที่ถูกต้อง
2.เพื่อการออกาลังกายที่ถูกวิธี
3.สามารถนาความรู้จากการออกกาลังกายไปใช้ชีวิตประจาวันได้
- 3. 3
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ออกกาลังกาย คือ การทากิจกรรมที่ได้ออกแรงหรือเคลื่อนไหวร่างกายซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ การออกกาลังกาย
อย่างสม่าเสมอก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ โดยช่วยจัดระเบียบร่างกายและควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี รวมทั้ง
เสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายด้านต่าง ๆ ได้แก่ ความทนทาน ความแข็งแรง การทรงตัว และความยืดหยุ่น
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
สุขภาพดีเราต้องดูแลตนเอง นอกจากอาหาร อากาศบริสุทธิ์ และจิตใจสบายไม่เครียดแล้ว การออกกาลังให้สุขภาพ
ดีนับเป็นสิ่งจาเป็นอย่างยิ่ง แต่มักจะมีข้อแก้ตัวบ่อยๆว่า ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ความจริงแล้วไม่ต้องใช้เวลามากมาย
เพียงแค่วันละ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ก็พอ จะเกิดผลดีต่อหัวใจและปอด และก็ไม่ต้องใช้พื้นที่มากมาย
หรือเครื่องมือราคาแพงอะไร มีเพียงพื้นที่ในการเดินก็พอแล้ว วิธีดีที่สุดคือการเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ ในกรณีที่
สิ่งแวดล้อมของหมู่บ้านไม่สะดวกหรือเสี่ยงกับอุบัติเหตุ อาจใช้วิธีถีบจักรยานอยู่กับที่หรือเดินบนสายพานใน
ขณะที่ฟังข่าวหรือดูละคร โทรทัศน์ ต้องถือว่าการออกกาลังกายเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจาวัน
1.ความหมายของการออกกาลังกาย
คือ การออกกาลังกายเพื่อเพิ่ม หรือคงไว้ซึ่งความทนทานของระบบไหลเวียนโลหิตและปอด โดยมีขบวนการใช้
ออกซิเจน ในขบวนการเผาผลาญ เพื่อให้เกิดพลังงานสาหรับการออกกาลังกายอย่างต่อเนื่อง จึงมีชื่อเรียกการออก
กาลังกายชนิดนี้ว่า AEROBIC EXERCISE กระทรวงสาธารณสุข (2545) ได้ให้ความหมายไว้ว่า การออกกาลังกาย
หมายถึง การเคลื่อนไหวออกกาลังกายสะสมอย่างน้อยวันละ 30 นาที ทุกวัน สัปดาห์ละประมาณ 5 วันด้วยแรงปาน
กลาง โดยรู้สึกเหนื่อยหายใจเร็วขึ้น แต่ยังคงพูดกับคนอื่นรู้เรื่อง ได้แก่ การออกกาลังกายที่เป็นเรื่องเป็นราว เช่น
เดิน วิ่งเหยาะๆ ถีบจักรยาน บริหารร่างกาย ว่ายน้า กระโดดเชือก รามวยจีน หรือเล่นกีฬาอื่นๆ รวมทั้งการออก
แรงกายในการทางานบ้านตามชีวิตประจาวันการกีฬาแห่งประเทศไทย (2545) ได้ให้ความหมายว่า การออกกาลัง
กาย หมายถึง การกระทาใดๆ ที่มีการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายเพื่อสุขภาพเพื่อความสนุกสนานและ เพื่อ
สังคม โดยใช้กิจกรรมง่ายๆ หรือมีกฎกติกาการแข่งขันง่ายๆ จากความหมายดังกล่าวข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า การ
ออกกาลังกาย หมายถึง การเล่น การฝึก การกระทาใดๆ ที่ทาให้ร่างกายหรือส่วนของร่างกายมีการเคลื่อนไหว โดยมี
วัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพ เพื่อความสนุกสนานและเพื่อสังคม โดยจะเคร่งครัดต่อกฎกติกาการแข่งขัน
หรือไม่ก็ได้ เช่น การเดิน การวิ่งเพื่อสุขภาพ การบริหารร่างกาย การเล่นกีฬาประเภทต่างๆ
1.ความสาคัญของการออกกาลังกาย
กาญจนศรี สิงห์ภู่( 2555) ได้ให้ความสาคัญขอการออกกาลังกายไว้ว่า การออกกาลังกายเป็นสิ่งจาเป็นต่อสุขภาพ
เนื่องจาก
1. ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้นโดยทาให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้มาก ขึ้น ป้องกันโรคหัวใจ โรคความ
ดันโลหิตต่า มีภูมิต้านทานโรคดีขึ้น และป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคข้อเสื่อม
2. ช่วยในการควบคุมน้าหนักตัว ทาให้ทรงตัวดีขึ้น และทาให้เคลื่อนไหวคล่องแคล่วขึ้น
3. ช่วยให้ระบบขับถ่ายทางานได้ดีขึ้น
- 4. 4
4. ช่วยลดความเครียด และทาให้การนอนหลับพักผ่อนดีขึ้น
1.ประโยชน์ของการออกกาลังกาย
การออกกาลังกายที่เหมาะสมกับวัยและสภาพของร่างกายเป็น ประจาสม่าเสมอ จะเป็นยาอายุวัฒนะอย่างหนึ่งที่มี
คุณประโยชน์ต่อร่างกายหลายสิ่งหลายประการ โดยผู้จัดทาได้ยกตัวอย่างจากนักวิชาการท่านหนึ่งซึ่งให้ข้อคิดเห็น
ดังนี้
ศิริรัตน์ หิรัญรัตน์ (2539 : 3-6) ได้อธิบายถึงประโยชน์ของการออกกาลังกาย และการ เล่นกีฬาที่มีต่อส่วนบุคคลใน
ด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. ทางด้านร่างกาย อวัยวะในระบบต่างๆ ของร่างกายสามารถทางานประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผลให้
ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง อดทน มีบุคลิกภาพที่ดี
2. ทางด้านจิตใจ การออกกาลังกายสม่าเสมอนอกจากจะทาให้ร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์แล้ว จิตใจร่าเริง แจ่มใส เบิก
บาน ก็จะควบคู่กันมาเนื่องจากร่างกายปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ถ้าได้ออกกาลังกายร่วมกันหลาย ๆ คน เช่น การเล่น
กีฬาเป็นทีม ทาให้เกิดความเอื้อเฟื้อมีเหตุผล อดกลั้น สุขุม รอบคอบและยุติธรรม
3. ทางด้านอารมณ์ มีอารมณ์เยือกเย็น ไม่หุนหันพลันแล่น ความเครียดจากการ ประกอบอาชีพน้อยลง เมื่อได้ออก
กาลังกายสม่าเสมอ
4. ทางด้านสติปัญญา การออกกาลังกายสม่าเสมอทาให้ความคิดอ่านปลอดโปร่ง มีไหวพริบ มีความคิดสร้างสรรค์
การค้นหาวิธีเอาชนะคู่ต่อสู้ในวิถีของเกมส์การแข่งขัน ซึ่งบางครั้ง สามารถนามาใช้ในการดาเนินชีวิตได้อย่าง
ถูกต้อง
5. ทางด้านสังคม สามารถปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงานและผู้อื่นได้ดีเพราะการเล่นกีฬา หรือการออกกาลังกายร่วมกัน
เป็นหมู่มากๆ ทาให้เกิดความเข้าใจและเรียนรู้พฤติกรรม มีบุคลิกภาพ ที่ดี มีความเป็นผู้นามีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และ
สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
กาญจนศรี สิงห์ภู่(2555)ได้ กล่าวไว้ว่าในปัจจุบันวิทยาทางการแพทย์มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น สามารถป้องกัน
และรักษาโรคต่าง ๆ ได้มากมาย ดังนั้นสาเหตุส่วนใหญ่ของการเสียชีวิต จะมาจากโรคที่ไม่ติดเชื้อ และจาก
พฤติกรรมของมนุษย์เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา ยาเสพติด ฯลฯ ซึ่งโรคต่าง ๆ เหล่านี้เราสามารถป้องกันได้
หรือทาให้ทุเลาลงได้ โดยการออกกาลังกาย ควบคุมอาหาร และมีพฤติกรรมในการดารงชีวิตที่เหมาะสม การ
ป้องกันเสริมสร้างสุขภาพ เป็นวิธีการที่ได้ผล และประหยัดที่สุด สาหรับการมีสุขภาพที่ดี ดังนั้นการออกกาลังกาย
เพื่อสุขภาพจึงมีประโยชน์
- 6. 6
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีในตามเกณฑ์มาตรฐานและช่วยในเรื่องความทนทาน (Endurance) ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
เพื่อร่างกายจะได้ลาเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ดีขึ้น และไม่เหนื่อยง่ายเมื่อทากิจกรรมหนัก ๆ
ความแข็งแรง (Strength) ช่วยให้แบกของหนัก ออกแรง รวมทั้งทากิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
การทรงตัว (Balance) ช่วยให้ทรงตัว รวมทั้งเคลื่อนไหวร่างกายโดยไม่หกล้มได้ง่ายความยืดหยุ่น (Flexibility) ช่วย
ให้ยืดตัว เอี้ยวตัว หรือเคลื่อนไหวร่างกายได้ง่ายขึ้นและที่สาคัญทาให้ร่างกายของตัวผู้ที่ออกกาลังกายนั้นหุ่นดี มี
ผิวพรรณที่สวย อีกทั้งทาให้การออกกาลังกายของคนขี้เกียจหุ่นดีในแบบที่ต้องการ
สถานที่ดาเนินการ
-ทาได้ที่บ้านของตัวเอง หรือ ที่ฟิตเนต
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้พละและสุขศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
http://www.dekthaidoodee.com/articles
https://www.pobpad.com
https://sistacafe.com/summaries/19573-
http://women.trueid.net/detail/W9KyZkgnVy4