More Related Content Similar to The use of biological materials in the production of rice
Similar to The use of biological materials in the production of rice (20) The use of biological materials in the production of rice3. การย่อยสลายฟางข้าว การย่อยสลายฟางข้าว น้ำหมักจุลินทรีย์หน่อกล้วยช่วยเร่งการย่อยสลายเศษซากอินทรีย์วัตถุ หรือดับกลิ่นขยะของเน่าเสีย ฉีดพ่นด้วย จุลินทรีย์หน่อกล้วย 1 ลิตรต่อน้ำ 100 ลิตร กรณีหมักฟางในนาข้าว ใช้จุลินทรีย์หน่อกล้วย 10 ลิตร ต่อ พื้นนา 1 ไร่ หลังหมักตอซัง 4. การผลิตน้ำหมักจุลินทรีย์หน่อกล้วย ส่วนผสม -หน่อกล้วยสับละเอียด 30 กิโลกรัม -กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม -สารเร่ง พด.2 1 ซอง -น้ำ 100 ลิตร วิธีการทำ หน่อกล้วยอ่อนความสูงจากพื้นดิน 1 เมตร ขุดเหง้าสลัดเอาดินออกไม่ต้องล้างน้ำ เอาทั้งเหง้าต้น นำหน่อกล้วยสับละเอียดใส่ถังพลาสติกทึบแสงขนาดจุ 150- 200 ลิตร คลุกเคล้ากับกากน้ำตาล เติมน้ำสะอาดลงถังเกือบเต็ม ละลายสารเร่ง พด.2 คนติดต่อกัน 5 – 10 นาที ก่อนใส่ถังคนให้เข้ากัน(ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ก็ได้) ปิดฝาให้สนิท 2 วัน 2 คืน (48 ชั่วโมง) ไม่ให้อากาศเข้า (ไม่ให้จุลินทรีย์ภายนอกเข้าไป) หลัง 48 ชั่วโมงแล้ว ให้เปิดฝาถังคนทุกวัน และคอยกดวัสดุให้จมน้ำอยู่เสมอ หมักไว้ในร่มนาน 7 วัน (จนหมดฟอง) นำกากกล้วยออกจากถังไปใส่โคนต้นไผ่หรือในแปลงนาเพื่อเป็นปุ๋ยให้หมดเหลือแต่ น้ำ สามารถเก็บได้นานถึง 6 เดือน 6. ขั้นตอนในการทำ และใช้ประโยชน์ 1. นำส่วนผสมทุกอย่างลงในน้ำ 200 ลิตร 2. เทเมล็ดพันธุ์แช่ไว้ 1 คืน 3. ซาวข้าวออกจากกระสอบมัดปากเก็บไว้ในที่ร่ม 1 วัน 1 คืน ก่อนนำไปหว่านในแปลงนา 9. ระยะแตกกอพบอาการของโรคบนใบ ข้อต่อใบ (คอใบ) และข้อของลำต้น แผลบนใบมีขนาดใหญ่กว่าระยะกล้าลุกลามติดต่อกันได้ ที่บริเวณข้อต่อใบมีลักษณะแผลช้ำสีน้ำตาลดำทำให้ใบหลุด ระยะออกรวงถ้าเป็นโรคในระยะต้นข้าวเริ่มออกรวง เมล็ดจะลีบ แต่ถ้าเป็นโรคหลังต้นข้าวออกรวงแล้ว คอรวงจะปรากฏแผลช้ำสีน้ำตาล ทำให้รวงข้าวหักง่าย และหลุดร่องอาการลักษณะนี้เรียกว่า โรคเน่าคอรวง 10. ช่วงเวลาระบาด อากาศเย็น มีน้ำค้างบนใบข้าวจนถึงเวลาสาย หรือมีหมอกจัดติดต่อกันหลายวัน การป้องกันกำจัด ๑. ใช้พันธุ์ต้านทาน ได้แก่ สุพรรณบุรี60 สุพรรณบุรี90 สุพรรณบุรี1 ชัยนาท1 ข้าวเจ้าหอมคลองหลวง1 พิษณุโลก2 สุรินทร์1 แพร่1 และสันป่าตอง1 ๒. กำจัดพืชอาศัยรอบคันนา เช่น หญ้าชันกาด หญ้าขน หญ้าไซ เป็นต้น 11. สูตรปรามโรคไหม้ข้าว ขั้นตอนที่ 1 ส่วนผสม 1. ขมิ้นชัน 1 ขีด 2. เปลือกมังคุดแห้ง 1 ขีด 3. แอลกอฮอล์ 70 % ขนาด 450 CC วิธีทำ นำขมิ้นชัน และเปลือกมังคุดไปบดให้ละเอียด แล้วนำไปหมักกับแอลกอฮอล์ แยกกันหมักไว้ 7 วัน เมือครบกำหนดแล้วกรองเอาแต่น้ำ 12. โรคกาบใบแห้ง สาเหตุ เชื้อรา ลักษณะอาการ พบตั้งแต่ระยะแตกกอถึงเก็บเกี่ยวแผลเกิดที่กาบใบใกล้ระดับน้ำมีสีเขียวปนเทาขอบแผลมีสีน้ำตาลขนาด 1-4x2-10 มิลลิเมตรแผลอาจขยายใหญ่มากขึ้นและลุกลามขึ้นไปตามกาบใบใบข้าวและกาบใบธงใบและกาบใบเหี่ยวและแห้งตายถ้าข้าวแตกกอมากต้นเบียดกันแน่นโรคจะระบาดรุนแรงมากขึ้น 13. ช่วงเวลาระบาด เมื่อความชื้นและอุณหภูมิสูง การป้องกันกำจัด ๑. ในแปลงที่เป็นโรครุนแรงควรเผาตอซังหลังเก็บเกี่ยว เพื่อทำลายเม็ดขยายพันธุ์ของเชื้อรา ๒. กำจัดวัชพืชตามคันนาและแหล่งน้ำเพื่อลดแหล่งสะสมของเชื้อโรค ๓. เมื่อเริ่มพบแผลบนกาบใบที่ 5 นับจากยอด ใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราตามคำแนะนำ 15. ช่วงเวลาระบาด ทุกฤดูการปลูกข้าว ฝนตกชุก ความชื้นในอากาศสูง มีหมอกจัดติดต่อกันหลายวัน การป้องกันกำจัด ๑. ในแหล่งที่มีโรคนี้ระบาดเป็นประจำ ควรหลีกเลี่ยงการปลูกข้าวพันธุ์อ่อนแอ เช่น กข9 สุพรรณบุรี60 สุพรรณบุรี90 และข้าวเจ้าหอมคลองหลวง1 ๒. ใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่ไม่เป็นโรค หากไม่มีทางเลือก ควรคลุมเมล็ดพันธุ์ก่อนปลูกด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช 16. การทำน้ำหมักไล่แมลงและป้องกันเชื้อรา สูตรที่ ๑ ส่วนผสม1. ใบสะเดาแก่หรือเมล็ดสะเดาบด2. ใบน้อยหน่า3. ใบฝรั่ง4. ใบกระเพรา5. หัวข่าแก่6. หัวตะไคร้หอม7. เปลือกต้นแค8. เปลือกลูกมังคุด9. กากน้ำตาล วิธีทำนำส่วนผสมที่ 1 – 8 จำนวนพอสมควรเท่าๆ กัน สับหรือหั่นรวมกันในอัตรา 3 ส่วน (3 กิโลกรัม) ผสมคลุกเคล้ากับกากน้ำตาล 1 ส่วน (1 กิโลกรัม) ใส่ถังพลาสติกหมักไว้ 7 – 10 วัน กรองเอาน้ำหมักไปใช้ในอัตรา 2 ช้อนแกงต่อน้ำ 20 ลิตร นำไปฉีดพ่นต้นพืชในช่วงเย็นหรือเช้าที่ยังไม่มีแสงแดด ทุก 7 – 10 วัน / ครั้ง เพื่อไล่แมลงและป้องกันกำจัดเชื้อรา 17. การทำสารสกัดไล่แมลงและป้องกันเชื้อรา สูตรที่ ๒ สาบเสือ แค กระเทียม ตะไคร้หอม ข่า สะเดา: ใบสาบเสือแก่สด 1 กก. + เปลือกต้นแคสด 1 กก. + กระเทียมสด ½ กก. + ตะไคร้หอม 1 กก. + ใบสะเดาแก่สด 5 กก. บดปั่น + เหล้าขาว 1 ขวด(750ซีซี.) + หัวน้ำส้มสายชู 750 ซีซี. + น้ำ 40-60 ลิตร หมักนาน 3-5 วันได้หัวเชื้อ อัตราใช้ หัวเชื้อ 30-50 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มทุก 3-5 วัน ศัตรูพืช โรคเกิดจากเชื้อราเพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง หนอนต่างๆ 18. โรคขอบใบแห้ง สาเหตุ เชื้อแบคทีเรีย ลักษณะอาการ ระยะกล้ามีจุดเล็กลักษณะฉ่ำน้ำที่ขอบใบล่าง ต่อมา 7-10 วัน จุดขยายเป็นทางสีเหลืองยาวตามใบ ใบแห้งเร็ว ส่วนที่ยังมีสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีเทา ถ้าอาการรุนแรงต้นข้าวอาจเหี่ยวตายทั้งต้น หากน้ำต้นกล้าที่ได้รับเชื้อไปปักดำ ต้นกล้าจะเหี่ยวตายในเวลารวดเร็ว 20. ระยะปักดำโดยทั่วไปต้นข้าวแสดงอาการหลังปักดำแล้ว 4-6 สัปดาห์ ขอบใบมีรอยขีดช้ำ ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีเหลือง บางครั้งพบหยดแบคทีเรียบริเวณแผล แผลมักขยายอย่างรวดเร็วไปตามความยาวของใบ ถ้าแผลขยายไปตามกว้าง ขอบแผลด้านในจะไม่เรียบ ต่อมาแผลเปลี่ยนเป็นสีเทาและแห้ง ช่วงเวลาระบาด เมื่อฝนตกพรำติดต่อกันหลายวัน ระดับน้ำในนาสูงหรือเมื่อเกิดภาวะน้ำท่วม 21. สูตรน้ำหมักสมุนไพรป้องกันโรคขอบใบแห้ง ขั้นที่ 1 ส่วนผสม 1. ขมิ้นชัน 1 ขีด 2. เปลือกมังคุดแห้ง 1 ขีด 3. แอลกอฮอล์ 70% ขนาด 450 CC 2ขวด วิธีการทำ - นำขมิ้นชันไปบดให้ละเอียด หมักกับแอลกอฮอล์ 450 CC - นำเปลือกมังคุดไปบดให้ละเอียด หมักกับแอลกอฮอล์ 450 CC - หมักไว้นาน 7 วัน เมื่อครบกำหนดแล้วกรองเอาแต่น้ำก็จะได้หัวเชื่อเข้มข้น 22. ขั้นตอนที่ 2 1. ขี้เถ้าจากไม้เนื้อแข็ง 2. น้ำเปล่า วิธีการทำ นำขี้เถา หมักในน้ำ 1 ลิตรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ใช้แต่น้ำใสๆที่อยู่ด้านบนเท่านั้น วิธีใช้ 1. สารขมิ้น 10 ซี.ซี. 2. สารเปลือกมังคุด 10 ซี.ซี. 3. น้ำด่าง 20 ซี.ซี. นำส่วนผสมทั้งหมดผสมน้ำ1 ลิตร แล้วนำไปขยายต่ออีก 20 ลิตร เติมน้ำยาล้างจานเล็กน้อย นำไปฉีดข้าวในช่วงเย็น เป็นสูตรป้องกัน และรักษาโรค 23. การป้องกันกำจัด ในแปลงที่เป็นโรค ไถกลบตอซังข้าวทันทีหลังเก็บเกี่ยว ทำลายพืชอาศัย เช่น ข้าวป่า และหญ้าไซ เป็นต้น ใช้พันธุ์ข้าวต้านทาน ได้แก่ กข7 กข23 สุพรรณบุรี60 สุพรรณบุรี1 สุพรรณบุรี2 ข้าวเจ้าหอมคลองหลวง1 ข้าวเจ้าหอมสุพรรณบุรี ปทุมธานี1 สุรินทร์ แพร่1 และสันป่าตอง1 ไม่ระบายน้ำจากแปลงนาที่เป็นโรคสู่แปลงข้างเคียง 24. โรคใบหงิก สาเหตุ เชื้อไวรัส ลักษณะอาการ ต้นเตี้ยแคระแกร็น ใบสีเขียวเข้ม ใบแคบและสั้นกว่าปกติ ปลายใบบิดเป็นเกลียว อาจพบอาการขอบใบแหว่งวิ่น และเส้นใบบวมที่หลังใบและกาบใบข้าว ต้นที่เป็นโรคจะออกรวงช้า รวงไม่สมบูรณ์ เปอร์เซ็นต์เมล็ดลีบสูง คุณภาพข้าวต่ำ 25. ช่วงเวลาระบาด เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเป็นพาหะนำโรค มักระบาดหลังจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดรุนแรง และมีพืชอาศัยของโรคที่สำคัญ คือ ข้าวป่า ขาเขียด หญ้าข้าวนก หญ้ารังนก และหญ้าไม้หวาดการ ป้องกันกำจัด ๑. ไถกลบตอซังที่เป็นโรค ๒. ใช้พันธุ์ข้าวต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เช่น กข23 ชัยนาท1 สุพรรณบุรี90 สุพรรณบุรี1 สุพรรณบุรี2 และ ไม่ปลูกข้าวพันธุ์เดียวในพื้นที่กว้างขวางต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ๓. ทำลายพืชอาศัยของเชื้อไวรัส เช่น ข้าวป่า ขาเขียด หญ้าข้าวนก หญ้ารังแก และหญ้าไม้กวาด 26. สูตรน้ำหมักกำจัดโรคใบหงิก ยา สูบ ยาฉุน : (1) ใช้ส่วนต้นสดแก่จัด(แกนกลางมีสารมากที่สุด) และใบสดแก่ บดละเอียดหรือสับเล็ก 1 กก. แช่น้ำ 20 ลิตร นาน 48 ชม. หรือต้มพอเดือดแล้วปล่อยให้เย็น ได้หัวเชื้อ อัตราใช้ หัวเชื้อ 1 ลิตร/น้ำ 20 ลิตร … (2) ใช้ยาเส้นหรือยาฉุน 2 กก. ผสมน้ำ 100 ลิตร คนบ่อยๆ จนน้ำเป็นสีน้ำตาลไหม้ ได้หัวเชื้อ อัตราใช้ หัวเชื้อล้วนๆ ไม่ต้องเจือจางน้ำ … (3) ยาฉุนหรือยาเส้น 1 กก. ผสมน้ำ 2 ลิตร ต้มจนเดือดนาน 30-60 นาที ได้หัวเชื้อ อัตราใช้ หัวเชื้อที่ได้เจือจางน้ำ 60 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มทุก 3-5 วัน ฉีดพ่นสารสกัดยาสูบยาฉุนในตอนเช้าอากาศปลอดโปร่งหรือตอนกลางวันอากาศขมุกขมัวไม่มีแสงแดด ได้ผลดีกว่าฉีดพ่นตอนกลางวันแดดร้อนจัดหรือตอนเย็น 28. แมลงศัตรูข้าว แมลงศัตรูข้าว หมายถึง แมลงที่สร้างความเสียหายให้กับต้นข้าวในด้านปริมาณและคุณภาพ แบ่งออกเป็น ๒ จำพวกใหญ่ๆ คือ ๑. แมลงจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยไฟ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยจักจั่นสีเขียว แมลงบั่วเป็นต้น ๒. แมลงจำพวกปากกัด เช่น หนอนกระทู้กล้า หนอนกอ หนอนม้วนใบ หนอนกระทู้คอรวง เป็นต้น 31. การใช้ ''กลอย'' กำจัดเพลี้ยไฟ การใช้ ''กลอย'' กำจัดเพลี้ยไฟ นำหัวกลอยจำนวน 1 กก. มาโขลกให้ละเอียด แล้วนำไปหมักกับน้ำเปล่าจำนวน 1 ปี๊บ หมักทิ้งไว้ 1-2 คืน จากนั้นนำน้ำหมักที่ได้ไปฉีดพ่นฆ่าแมลง 34. วิธีการ -นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมรวมกัน ใส่ถังพลาสติกปิดฝาให้สนิท โดยไม่ต้องเติมน้ำ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง จะได้หัวเชื้อเข้มข้นสำหรับใช้ในการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวได้ผล การนำไปใช้ -ใช้น้ำหมัก 1 แก้ว + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นในแปลงนาตอนเย็นหรือตอนเช้ามืดที่ไม่มีแสงแดด แล้วเว้นไว้ 7 วัน เพื่อดูอาการของต้นข้าว หากการระบาดยังไม่หยุด ให้เพิ่มปริมาณน้ำหมักเป็น 2 แก้ว + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นตอนที่ไม่มีแสงแดดทุก 3 วัน-น้ำหมักสูตรนี้จะมีผลต่อตัวเพลี้ยโดยตรง เพราะจะไปชะงักการเจริญเติบโต กลับ 35. แมลงสิง ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยใช้ปากแทงดูดกินน้ำเลี้ยงจากเมล็ดข้าวระยะเป็นน้ำนมทำให้เมล็ดลีบหรือเมล็ดไม่สมบูรณ์ และผลผลิตข้าวลดลง ข้อสังเกต ถ้ามีแมลงสิงระบาดในนาข้าวจะได้กลิ่นเหม็นฉุน 36. สูตรน้ำหมักกำจัดแมลงสิง ส่วนผสม 1.ใบกระเพรา 2 กก. 2.ตะไคร้หอม 1 กก. 3.ถังหมักหรือโอ่ง 1 ใบ 4.น้ำเปล่า 20 ลิตร วิธีทำ : 1.นำใบกระเพราและตะไคร้หอม (ใช้ทั้งใบและต้น) มาสับพอหยาบ 2.นำส่วนผสมทั้งหมดโขลกให้เข้ากัน 3.นำส่วนผสมที่ได้ใส่ลงไปในโอ่งหรือถังหมักเติมน้ำลงไป 20 ลิตร 4.หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน ก็สามารถนำไปใช้ได้วิธีการนำไปใช้ : นำน้ำหมักที่ได้ไปฉีดพ่นในช่วงที่ข้าวตั้งท้องและช่วงที่ข้าวเริ่มออกรวง โดยการฉีดพ่นให้ทั่วแปลงนา (โดยอัตราการฉีดคือน้ำหมัก 5 ลิตร ต่อพื้นที่นาข้าว 1 ไร่) ระยะห่างของการฉีดคือ 7 วัน/ครั้ง 37. หนอนห่อใบข้าว ตัวหนอนจะแทะผิวใบข้าวส่วนที่เป็นสีเขียว ทำให้เห็นเป็นแถบยาวสีขาว หนอนจะใช้ใยเหนียวดึงขอบใบข้าวทั้งสองด้านเข้าหากันเพื่อห่อหุ้มตัวไว้ จะพบการทำลายใบข้าวทุกระยะการเจริญเติบโตของข้าว ในระยะข้าวออกรวงหนอนจะทำลายใบธงซึ่งมีผลต่อผลผลิตเพราะทำให้ข้าวมีเมล็ดลีบ น้ำหนักลดลง พบระบาดในนาเขตชลประทาน โดยเฉพาะแปลงข้าวที่ใส่ปุ๋ยอัตราสูง 38. สูตรน้ำหมักกำจัดหนอนห่อใบข้าว สูตรน้ำหมักสแยก ใช้ลำต้นของแสยกประมาณ 2 กิโลกรัม นำมาบดหรือทุบให้พอแตก ยาฉุน 1 กิโลกรัม จากนั้นนำไปแช่ในถังเทเหล้าขาว จนท่วม ( ใช้ประมาณ 4 - 6 ขวด ) ทิ้งไว้นาน 7 คืน จากนั้นกรองเอาแต่น้ำหมักที่ได้ นำไปฉีดพ่นในนาข้าว จะช่วยป้องกันกำจัดหนอนชนิดต่างๆ (เช่นหนอนกระทู้ หนอนห่อใบข้าว หนอนกอ เป็นต้น) วิธีใช้ น้ำหมัก 2 ช้อนโต๊ะ + น้ำ 20 ลิตร +สารจับใบ 5 -10 ซีซี ฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็น 39. ผกากรอง เป็นไม้กิ่งพุ่มสูง 1-2 เมตร มีกลิ่นรุนแรง ใบออกตรงกันข้าม กลีบดอกย่อยสีชมพู แดง เหลือง ขาวและส้มติดกันเป็นหลอด กลีบเลี้ยงมีสีเขียว ลกลม เมื่อลูกมีสีดำภายในมี 2 เมล็ด ออกดอกตลอดปี กากรองนั้นมีสาร lantadene A ซึ่งมีพิษต่อระบบประสาทของแมลง วิธีสกัด ใช้ดอกและใบ 50 กรัมบดกับน้ำกลั่น 400 ซีซี หรือใช้เมล็ดบดละเอียดอัตรา 1 ต่อ 2 ส่วนแช่ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงแล้วกรองแต่น้ำไปฉีดแมลง ศัตรูเป้าหมาย กำจัดหนอนห่อใบข้าววัยที่ 2 40. หนอนกอข้าว หนอนจะเจาะเข้าทำลายกาบใบ ทำให้กาบใบมีสีเหลืองหรือน้ำตาล ซึ่งจะเห็นเป็นอาการช้ำๆ เมื่อฉีกกาบใบดูจะพบตัวหนอน เมื่อหนอนโตขึ้นจะเข้ากัดกินส่วนของลำต้น ทำให้เกิดอาการใบเหี่ยวในระยะแรก ใบและยอดที่ถูกทำลายจะเหลืองในระยะต่อมา ซึ่งการทำลายในระยะข้าวแตกกอนี้ทำให้เกิดอาการ “ยอดเหี่ยว” ถ้าหนอนเข้าทำลายในระยะข้าวตั้งท้องหรือหลังจากข้าวออกรวงจะทำให้เมล็ดข้าวลีบทั้งรวง รวงข้าวมีสีขาวเรียกอาการนี้ว่า“ข้าวหัวหงอก” 41. สูตรปุ๋ยน้ำสกัดสมุนไพร กำจัดหนอนกอในนาข้าวส่วนผสม- ใบสะเดา ใบยูคาลิปตัส หัวข่าแก่ บอระเพ็ด ตะไคร้หอม อย่างละ 2 กิโลกรัม(รวม 10 กิโลกรัม)- น้ำเปล่า จำนวน 20 ลิตร- น้ำจุลินทรีย์อีเอ็มแบบขยาย จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ- กากน้ำตาล จำนวน 1 ลิตรวิธีการ1. สับวัตถุดิบส่วนผสมทุกอย่างให้เป็นชิ้นเล็กๆ2.เทน้ำเปล่า + กากน้ำตาล + น้ำจุลินทรีย์อีเอ็ม ลงใส่ถังพลาสติก คนให้เข้ากันให้กากน้ำตาลละลายทั้งหมด จากนั้นนำส่วนผสมวัตถุดิบใส่ตามลงไป ปิดฝาถังให้สนิท ตั้งไว้ในที่ร่ม หมักนาน 15-30 วัน จึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้- สำหรับนาข้าว ใช้ในอัตรา น้ำหมัก 1 ลิตร + พริกแกง 1 ขีด + น้ำเปล่า 20 ลิตร ฉีดพ่นเพื่อช่วยป้องกันและกำจัดเพลี้ย หนอนกอได้ จะส่งผลให้หนอนกอลอกคราบและตายภายใน 7 วัน สามารถตัดวงจรการเจริญเติบโตของหนอนกอได้เป็นอย่างดี 42. หนอนกระทู้คอรวง หนอนกระทู้กล้า หรือ หนอนกระทู้ควายพระอินทร์ ชอบกัดกินส่วนคอรวงหรือระแง้ของรวงข้าวที่กำลังจะสุกทำให้คอรวงขาด สามารถเข้าทำลายรวงข้าวได้ถึง 80% โดยลักษณะทำลายคล้ายหนอนกระทู้กล้า จะเข้าทำลายต้นข้าวช่วงเวลากลางคืน พลบค่ำหรือ เช้าตรู 43. น้ำหมักสาบเสือฆ่าหนอนกระทู้คอรวง ส่วนผสม ใบสาบเสือ น้ำ วิธีการใช้งาน นำต้นใบมาตากแห้งมาบดตำโขลกให้ละเอียด 400 กรัม ผสมน้ำ 8 ลิตร กรณีใช้ใบสดใช้ 1 กก. ต่อน้ำ 5 ลิตร คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง การใช้งานผสมสารจับใบพวกผงซักฟอกหรือแชมพูหรือน้ำสบู่ซัลไลต์ 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 8 ลิตร กรณีใช้ใบสดใช้ 0.5 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 5 ลิตร ใช้ฉีดพ่นทุก 7 วัน ช่วงเวลาเย็น 44. แมลงบั่ว ตัวเต็มวัยจะเข้าแปลงนาตั้งแต่ข้าวระยะเวลา 25-30 วัน เพื่อวางไข่หลังจากฟักออกตัว หนอนจะคลานลงสู่ซอกของใบยอดและกาบใบเพื่อเข้าทำลายยอดที่กำลังเจริญ ทำให้เกิดเป็นหลอดลักษณะคล้ายหลอดหอม ต้นข้าวและกอข้าวที่ถูกทำลายจะมีอาการแคระแกร็น เตี้ย ลำต้นกลม มีสีเขียวเข้ม ยอดที่ถูกทำลายไม่สามารถออกรวงได้ ทำให้ผลผลิตข้าวลดลงมาก ระยะข้าวแตกกอจะเป็นระยะที่บั่วเข้าทำลายมาก เมื่อข้าวเกิดช่อดอกแล้วจะไม่ถูกหนอนบั่วทำลาย 45. สมุนไพรไล่แมลงบั่ว (1)นำกระเทียม2ขีด พริกไทยดำ1ขีดบดแล้วหมักกับแอลกอฮอล์70% 450; ข้าว(2)ทิ้งไว้7วัน นำน้ำหมัก20 cc/น้ำ20 ลิตรฉีดพ่นป้องกันแมลงบั่วได้ดีสมุนไพรกำจัดบั่วแมลงร้ายในนาข้าว ส่วนผสม 1. กระเทียม 2 ขีด 2. พริกไทยดำ 1 ขีด 3. แอลกอฮอล์ 70 % ขวดขนาด450 cc. จำนวน 1 ขวด ขั้นตอน กระเทียม และพริกไทยดำ นำมาบดให้ละเอียด แล้วเทแอลกอฮอล์ลงไป คนให้เข้ากัน หมักไว้ 7 วันเมื่อครบกำหนดแล้ว นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง อัตราส่วนในการใช้ นำน้ำหมักที่ได้20 cc.ผสมน้ำเปล่า 20 ลิตร เริ่มฉีดได้ตั้งแต่ในระยะต้นกล้า โดยฉีดได้ทุกๆ 7-10 วันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของบั่วในนาข้าว 47. น้ำหมักกำจัดแมลงหล่า ส่วนผสม -น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำยาล้างจาน 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำเปล่า 20 ลิตร วิธีทำ - เอาส่วนประกอบทั้ง 3 อย่างมาผสมให้เข้ากัน - แล้วนำไปฉีดพ่นในนาข้าวช่วงที่มีแมลงศัตรูพืชเข้ามาทำลาย หรือฉีดป้องกัน 15 วัน/ครั้ง 48. เพลี้ยจักจั่นสีเขียว ลักษณะการทำลาย ตัวเต็มวัย ยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร มีสีเขียวปลายปีกมีสีดำข้างละจุด ชอบบินมาเล่นแสงไฟในเวลากลางคืน เป็นแมลงปากดูด ทำลายข้าว ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรง คือ ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบข้าวทางอ้อม คือ เป็นแมลงพาหะนำโรคใบสีส้มมาสู่ข้าว แมลงชนิดนี้มักพบในนาข้าวอยู่เสมอ พบในฤดูนาปีมากกว่าฤดูนาปรัง ช่วงเวลาระบาด ต้นข้าวอายุไม่เกิน 45 วันหลังปลูก 50. สูตรน้ำหมักน้อยหน่า วิธีทำ ใช้เมล็ดน้อยหน่า 1 กก. ตำละเอียด แช่น้ำ 10 ลิตร นาน 12-24ชั่วโมง กรองน้ำมาใช้ผสมน้ำสบู่ 1 ช้อนโต๊ะเป็นสารจับใบใช้ฉีดพ่นทุกๆ 6-10 วัน ช่วงเวลาเย็นใช้ใบสด 2 กก. ตำละเอียดแช่น้ำ 10 ลิตร นาน 24 ชั่วโมง กรองน้ำมาใช้ผสมน้ำสบู่ 1 ช้อนโต๊ะฉีดพ้นทุกๆ 6-10 วัน ช่วงเวลาเย็น 51. มด พริก พริกไทย ดีปลี : พริกสดเผ็ดจัด 1 กก. + พริกไทยผลสด 1 กก. + ดีปลีสด 1 กก. บดละเอียดแช่น้ำ 20 ลิตร นาน 24 ชม. ได้หัวเชื้อ อัตราใช้ หัวเชื้อ 200-500 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มทุก 3-5 วัน ศัตรูพืช มด เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ หนอนคืบ หนอนใย ไล่แมลงผีเสื้อ ไวรัส(ใบด่าง/ใบลาย) 58. น้ำหมักสูตรบำรุงข้าวช่วงตั้งท้อง ส่วนผสม - กากมะพร้าวที่คันกะทิออกหมดแล้ว จำนวน 5 กิโลกรัม - มะเขือพวง และมะเขือเทศรวมกัน จำนวน 5 กิโลกรัม - ลูกตาลสุก จำนวน 30 กิโลกรัม - กากน้ำตาล จำนวน 10 ลิตร - น้ำสะอาดพอดีท่วม 59. วิธีทำ - นำลูกตาลสุข มะเขือพวง และมะเขือเทศมาทุบให้พอแตก เตรียมไว้ - ละลายกากน้ำตาลจำนวน 10 ลิตร ใส่ในภาชนะพลาสติกปิดฝาให้สนิท - นำลูกตาล มะเขือพวง มะเขือเทศ และมะพร้าวใส่ลงในภาชนะที่ละลายกากน้ำตาลแล้ว คนให้เข้ากันเติมน้ำลงไปพอดีท่วมส่วนผสมทั้งหมด - นำถังหมักตั้งไว้ในที่ร่ม ปิดฝาให้สนิทหมักนาน 40 วัน สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ การนำไปใช้ประโยชน์ - ฉีดพ่นบำรุงต้นข้าวช่วงเริ่มตั้งท้อง ช่วงเดือนกันยายนครั้งเดียวเท่านั้นโดยใช้น้ำหมัก 30 ลิตร /ไร่ หยดให้ทั่วแปลง เพื่อให้ละลายตามน้ำซึ่งแปลงควรมีระดับน้ำประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร 65. การนำไปใช้ ผสมฮอร์โมนไข่สูตรซุปเปอร์ 5-10 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืช ทั้งบนใบและใต้ใบให้เปียกชุ่ม ช่วงตอนเย็นแดดอ่อนหรือราดลงดินรอบทรงพุ่มอัตรา 20-40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 5-7 วัน ต้นไม้จะเจริญสมบูรณ์แข็งแรงดี ให้ดอกออกผลรวดเร็วเกินคาด ดินร่วนซุย อุ้มน้ำและอากาศถ่ายเทสะดวก กรณีที่นำจุลินทรีย์หน่อกล้วยร่วมกับฮอร์โมนไข่สูตรซุปเปอร์กำจัดข้าวดีด