SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
Download to read offline
เทคนิคการปลูกขนุน
ขนุนที่นิยมปลูกกันทั่วไปอยู่มี 2 ประเภท คือ ขนุนหนัง และขนุนละมุด
1. ขนุนหนัง
ลักษณะเนื้อยวงแห้งกรอบ สีเหลืองทอง สีจาปา ยวงโตเนื้อแน่นหวานกรอบนิยมปลูกกันโดยทั่วไปขนุนหนังมี
อยู่หลาย
พันธุ์เช่น จาปา ตาบ๊วย ฟ้าถล่ม เป็นต้น
2. ขนุนละมุด
ลักษณะเนื้อยวงเปียก เละเหนียว เนื้อค่อนข้างบาง ยวงเล็ก รสหวาน มีกลิ่นหอม ขนุนพันธุ์นี้ ไม่ค่อยนิยมปลูก
กันมากนัก อีกพวกหนึ่ง ซึ่งนิยมปลูกกันมากทางภาคใต้ของประเทศไทยคือ จาปาดะ ลักษณะโดยทั่วไปคล้าย
ขนุน ผลเล็กยาวเรียวคล้ายผลฟัก เปลือกบาง เนื้อเละ รสหวาน กลิ่นหอม
การปลูกและการดูแลรักษา แนะนาให้ปฏิบัติ ดังนี้
1. การเตรียมดิน
1.1 ในที่ลุ่มน้าท่วมถึง เช่นที่ราบลุ่มแม่น้าต่าง ๆ การปลูกขนุนในที่ ดังกล่าวต้องยกร่องเสียก่อน เช่นเดียวกับ
ร่องผัก หรือร่องสวนในที่ลุ่ม เพื่อป้องกัน ไม่ให้น้าท่วมถึงโคนต้นได้ ขนาดของร่องกว้างประมาณ 4-6 เมตร
คูน้ากว้าง 1.5 เมตร ส่วนความยาวของร่องขึ้นอยู่ กับขนาดของพื้นที่และความต้องการ ความสูง ของร่องยิ่งสูง
มากยิ่งดี รากขนุนจะได้หยั่งลึกและเติบโตอย่างเต็มที่ เมื่อขุดยกร่อง เสร็จแล้วทาการปรับปรุงดินให้ร่วนซุยโดย
การขุดตากดิน ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เศษอินทรีย์วัตถุต่าง ๆ เพราะดินในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ามักจะเป็นดิน
เหนียว จัด ไม่ค่อยเหมาะต่อการเจริญเติบโตของไม้ยืนต้น ในที่ซึ่งเห็นว่าดินยังไม่ ดีพอ ดินยังเหนียวอยู่มาก
ควรจะปลูกพืชพวกรากตื้น ๆ หรือปลูกผักก่อนสัก 2-3 ปีแล้วจึงปลูกขนุน ส่วนในที่เป็นร่องสวนเก่ามีคันคูอยู่
แล้ว เคยปลูกพืชอย่างอื่นจนดินร่วนซุยดี แล้วก็อาจจะทาการปรับปรุงดินอีกเล็กน้อยแล้วลงมือปลูกได้เลย
1.2 ในพื้นที่น้าท่วมไม่ถึง ที่ป่า ที่เขา ถ้าเป็นที่ ๆ เคยปลูกพืชอย่างอื่น อยู่แล้วก็ไม่ต้องเตรียมดินมาก เพราะที่
จะโล่งเตียนอยู่แล้ว เพียงแต่ปรับปรุงหน้าดิน โดยการไถพรวน ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักให้ดินดีขึ้น ส่วนที่เป็นป่าเปิด
ใหม่ต้องถางที่ให้ โล่งเตียน ไม่ให้มีไม้อย่างอื่นปนอยู่ ถ้าไถพรวนได้สักครั้งสองครั้งก็จะเป็นการดี ที่ดังกล่าวมัก
เป็นดินที่ร่วนชุยอยู่แล้ว ในที่บางแห่ง เช่นป่าเปิดใหม่มักจะมีอินทรียวัตถุ อยู่มากตามธรรมชาติก็ไม่จาเป็นต้อง
หามาเพิ่มเติม ส่วนในที่ ๆ เห็นว่าเป็นทรายจัด อินทรียวัตถุค่อนข้างน้อยก็ควรใส่เพิ่มโดยใช้วัสดุที่มีอยู่ใน
ท้องถิ่น เช่น มูลสัตว์ ต่าง ๆ เศษใบไม้ใบหญ้าที่แห้งผุพัง กากถั่ว เปลือกถั่ว เป็นต้น หรือจะปรับปรุงดิน โดยใช้
ปุ๋ยพืชสดก็ได้โดยการปลูกพืชตระกูลถั่วต่าง ๆ แล้วไถกลบให้ต้นถั่วสลายตัวผุพัง อยู่ในดิน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะ
ช่วยให้ดินร่วนซุย ระบายน้าและอากาศได้ดี ทาให้ดิน อุ้มน้าดี เหมาะแก่การเจริญเติบโตของต้นขนุน
2. การขุดหลุมปลูก
การปลูกทั้งแบบยกร่องและแบบปลูกในที่ดอน ควรปลูกเป็นแถวเป็น แนว เพื่อสะดวกในการดูแลรักษา และ
การปฎิบัติงานสวน ระยะห่างระหว่างต้นหรือ ระหว่างหลุมคือ 8 x 10 เมตร หรือ 10 x l2 เมตร เป็นระยะที่
เหมาะสาหรับการปลูก แบบไร่ หรือถี่กว่านี้ขี้นอยู่กับพันธุ์และความเหมาะสมต่าง ๆ ส่วนการปลูก แบบร่อง
ต้นขนุนมักมีขนาดเล็กกว่าการปลูกแบบไร่ ระยะห่างระหว่างต้นอาจ ถี่กว่านี้ก็ได้ ขนาดของหลุมปลูก ให้ขุด
หลุมขนาด กว้าง ยาว ลึก 50-100 เซนติเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน ถ้าดินดีร่วนซุยมีพวก
อินทรีย์วัตถุมาก ขุดหลุมขนาด 50เซนติเมตรก็พอ ส่วนที่ดินไม่ค่อยดีให้ขุดหลุมขนาดใหญ่ เพื่อจะ ได้ปรับปรุง
ดินในหลุมปลูกให้ดีขึ้น ทาให้รากเจริญเติบโตได้ดี ดินที่ขุดขึ้นมาจาก หลุมนั้นให้แยกเป็นสองกอง คือดินชั้นบน
กองหนึ่งและดินชั้นล่างอีกกองหนึ่ง ตากดินที่ขุดขึ้นมาประมาณ l5-20 วัน แล้วผสมดินทั้งสองกองนั้นด้วยปุ๋ย
คอก และปุ๋ยหมักอัตรา 1-2 ถังก่อสร้าง หรือผสมปุ๋ยอินทรีย์ตรายักษ์เขียว อัตรา 1-2 กก.ต่อหลุม แล้วกลบดิน
ลงในหลุมตามเดิมโดยให้ดินชั้นบนลงไว้ก้นหลุม และดิน ชั้นล่างกลบไว้ด้านบน ดินที่กลบลงไปจะสูงเกินปาก
หลุม ปล่อยทิ้งไว้ให้ดินยุบตัวดี เสียก่อนจึงจะลงมือปลูก
3. วิธีปลูก
การปลูกไม่ว่าจะปลูกด้วยกิ่งตอน กิ่งทาบ หรือต้นที่เพาะเมล็ดก็ ตาม ให้ทาด้วยความระมัดระวัง อย่าให้ราก
ขาดมากต้นจะชะงักการเจริญเติบโต ต้นขนุนที่ปลูกไว้ในภาชนะนาน ๆ ดินในภาชนะจะจับตัวแข็งและรากจะ
พันกัน ไปมา เวลาปลูกเมื่อเอาออกจากกระถางแล้วให้เอามือบิดินก้นภาชนะ ให้แยกออกจาก กันเล็กน้อยและ
ค่อย ๆ คลี่รากที่ม้วนไปมาให้แยกจากกัน เพื่อจะได้เติบโตต่อไป อย่างรวดเร็ว
3.1 การปลูกด้วยกิ่งทาบ อย่ากลบดินจนมิดรอยต่อของกิ่ง ให้ปลูกใน ระดับเดียวกับดินในกระถางเดิมหรือสูง
กว่าเดิมเพียงเล็กน้อยแต่ไม่มิดรอยต่อ เพื่อจะได้มองเห็นว่ากิ่งที่แตกออกมานั้นเป็นกิ่งของต้นตอหรือของกิ่ง
พันธุ์ ถ้า แตกออกมาจากต้นตอให้ตัดทิ้งไปเพราะเป็นกิ่งที่ไม่ต้องการ
3.2 การปลูกด้วยกิ่งตอน ให้กลบดินให้เสมอดินเดิมในภาชนะ หรือให้ เหลือจุกมะพร้าวที่ใช้ในการตอนโผล่อยู่
อย่ากลบดินจนมิดจุกมะพร้าวเพราะทาให้ ต้นเน่าได้ง่าย เมื่อปลูกเสร็จให้หาไม้มาปักเป็นหลักผูกต้นกันลมโยก
แล้วรดน้าทันทีให้โชก ควรใช้ทางมะพร้าวช่วยคลุมแดดให้บ้างในระยะแรก เพราะถ้าโดนแดดจัดต้นอาจจะ เฉา
ชะงักการเจริญเติบโตได้ หลังจากปลูกแล้วให้คอยดูแลรดน้าอยู่เสมอ ถ้าฝน ไม่ตกการใช้ฟางหรือหญ้าแห้งคลุม
บริเวณโคนต้นจะช่วยรักษาความชื้นของดินได้ดี
3.3 การปลูกพืชแซม การปลูกขนุนด้วยกิ่งตอนและกิ่งทาบจะใช้เวลา ประมาณ 3-4 ปีกว่าจะให้ผล และการ
ปลูกด้วยเมล็ดใช้เวลาประมาณ 4-6 ปี ใน ระหว่างที่ต้นขนุนยังเล็กอยู่นี้ ควรปลูกพืชอย่างอื่นที่มีอายุสั้น ๆ เป็น
การหารายได้ไป พลาง ๆ ก่อน ไม่ควรปล่อยที่ดินให้ว่างเปล่า นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อะไร แล้ว ยังต้องคอย
ดายหญ้าอยู่เสมออีกด้วย วิธีหนึ่งที่นิยมทากันมากคือ ก่อนจะปลูก ขนุนควรปลูกกล้วยเสียก่อน เมื่อกล้วยโต
พอสมควรจึงปลูกขนุนตามลงไป ซึ่งกล้วย จะช่วยเป็นร่มเงาให้ขนุนไม่โดนแดดมากเกินไป และทาให้สวนชุ่มชื้น
อยู่เสมอ ต้นขนุนจะโตเร็ว จนเห็นว่าต้นขนุนโตพอสมควร ก็ทยอยขุดกล้วยออก การ ปลูกกล้วยก่อนนี้เป็นวิธีที่
นิยมในการปลูกไม้ผลทั่วไป แต่มีข้อเสียตอนขุดรื้อ ต้นกล้วยออก เพราะต้องใช้แรงงานมากเช่นกัน
การดูแลรักษา
1. การให้น้า สัปดาห์แรกหลังจากปลูก ถ้าฝนไม่ตกควรรดน้าให้ทุกวัน หลังจากนั้น ถ้าฝนไม่ตกควรรดน้า 3-
4 วันต่อครั้ง และตลอดฤดูแล้ง ถ้าเห็นว่าดินแห้งเกินไป ต้องรดน้าช่วยจนกว่าต้นขนุนมีอายุ 1 ปีขึ้นไป จีงจะ
ปลอดภัยการให้น้าอาจ ห่างออกไปบ้างก็ได้ การปลูกโดยทั่วไปมักให้น้าเพียง 1-2 ครั้งแล้วปล่อยตามธรรมธาติ
ก็สามารถเจริญเติบโตให้ดอกให้ผลได้เช่นกัน เพราะโดยปกติขนุนเป็นพืชที่ทนแล้ง อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม
การปลูกเพือให้ได้ผลอย่างเต็มที่นั้นควรให้น้าอยู่อย่าง สม่าเสมอ ในฤดูแล้งหรือช่วงที่ขาดฝนนาน ๆ ควรให้น้า
ช่วยบ้าง จะทาให้ต้นเจริญ เติบโตอย่างสม่าเสมอ ไม่ชะงักการเจริญเติบโต
เมื่อขนุนโตขนาดให้ผลแล้ว ในระยะที่ขนุนตกดอกให้งดน้าชั่วระยะ หนึ่ง เมื่อดอกบานและติดผลแล้ว จึงให้น้า
ให้มากเพื่อบารุงผลให้เติบโตและมี คุณภาพดี หลังจากที่ติดผลแล้ว ถ้าขาดน้าผลจะมีขนาดเล็ก การเติบโตของ
ผลไม่สม่า เสมอ ผลอาจแป้ว เบี้ยว และเนื้อบาง การให้น้าจึงเป็นสิ่งสาคัญอย่างหนึ่ง
2. การปราบวัชพืช การกาจัดวัชพืชต้องกระทาอยู่เสมอ เพราะวัชพืช ต่าง ๆ จะคอยแย่ง อาหารจากต้นขนุน
และการปล่อยให้สวนรกรุงรังจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยของโรคและ แมลงต่าง ๆ ที่จะทาลายขนุนอีกด้วย การ
ปราบวัชพืชทาได้โดยการถาง หรือโดยการปลูกพืชคลุมดินเป็นวิธีที่ควรปฏิบัติอย่างหนึ่ง เพราะพืช คลุมดิน
นอกจากจะป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้นแล้ว ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของ ดิน ทาให้ดินไม่แห้งเร็ว ไม่ต้องให้น้าบ่อย
ๆ ช่วยให้ดินร่วนซุย และใบที่ร่วงหล่นจะผุพังเป็นประโยชน์ต่อไป นอกจากนี้พืชคลุมดินยังช่วยป้องกันการชะ
ล้างของดินอัน เนื่องจากฝนตก โดยเฉพาะการปลูกตามที่ลาดเอียง พืชคลุมดินที่ควรใช้ปลูกคือพวก ถั่วต่าง ๆ
เช่น ถั่วพุ่ม ถั่วผี เป็นต้น ถั่วเหล่านี้จะมีเถาอาจเลื้อยพันขึ้นไปบนต้น ขนุน ต้องหมั่นดูแลและคอยตัดออก
โดยเฉพาะบริเวณเรือนพุ่มต้องคอยตัดคอย ถาง อย่าให้พืชคลุมดินขึ้นบริเวณโคนต้น พืชคลุมดินนี้เมื่อปลูกไป
นาน ๆ ก็ไถกลบ ดินเสียครั้งหนึ่งแล้วปลูกใหม่จะช่วยให้ดินดียิ่งขึ้น การปราบวัชพืชนี้ถ้าไม่ปลูกพืช คลุมดินก็
ควรปลูกพืชแซมดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ไม่แนะนาให้ใช้ยาปราบวัชพืชบริเวณใกล้ทรงพุ่ม เพราะจะทาให้รากขนุน
ชะงักการเจริญเติบโต ต้นโตช้าและโทรมเร็วกว่าปกติ
3. การให้ปุ๋ย ขนุนเป็นพืชที่ไม่เลือกดินปลูกนัก สามารถปลูกได้ในดินทั่วไป แต่ถ้าดิน นั้นอุดมสมบูรณ์มีธาตุ
อาหารเพียงพอ ต้นขนุนจะเจริญได้ดี ให้ผลดกและผลมี คุณภาพดี การปรับปรุงดินให้ร่วนซุยและการเพิ่มธาตุ
อาหารให้แก่ดินจึงเป็นสิ่งควรปฏิบัติ
การให้ปุ๋ยทางดิน
ช่วงลงปลูก (ระยะแรก - 3 ปี) : ใช้ วัสดุปรับปรุงดินเกรด AAA “ยักษ์เขียว” สูตรเข้มข้นพิเศษ (แถบทอง) ใน
อัตรา ยักษ์เขียว 2 ส่วน : ปุ๋ยเคมี 1 ส่วน โดยปุ๋ยเคมีที่ใช้ผสม ให้ใช้สูตร 25-7-7 ผสมสลับกับ 16-16-16 ใส่
ทุก ๆ30-45 วัน จะช่วยให้ต้นโตเร็ว แตกทรงพุ่มได้ดี ต้นสมบูรณ์กว่า ใบเขียวเข้มเป็นมัน และต้นทุนต่ากว่า
การใช้เคมีอย่างเดียว 30-40% และ เมื่อต้นอายุ 1 ปีขึ้นไป ให้ใส่เพิ่มเป็น อัตรา 0.5-1 กก.ต่อต้น(มากน้อย
ขึ้นอยู่กับขนาดทรงพุ่ม) ทุก ๆ 1-2 เดือน
ช่วงให้ผลผลิต : เมื่อต้นโตจนให้ผลแล้ว ควรทารางดินรอบ ๆ เป็นวงกลมในรัศมี ของกิ่งที่แผ่รอบต้นแล้ว
ใส่ วัสดุปรับปรุงดินเกรด AAA “ยักษ์เขียว” สูตรเข้มข้นพิเศษ (แถบทอง) ในอัตรา ยักษ์
เขียว 2 ส่วน : ปุ๋ยเคมี 1 ส่วน ใส่ทุก ๆ 30-45 วัน โดยปุ๋ยเคมีที่ใช้อาจใช้สูตร 15-15-15 หรือ 16- 16-
16 เป็นหลัก
เนื่องจากขนุนเป็นไม้ผลที่มีขนาดใหญ่ รากสามารถหยั่งลงดินได้ ลึก และหาอาหารได้ไกล ดังนั้นการใช้
“ยักษ์เขียว”ในแปลงปลูก จะทาให้ดินดี มีความร่วนซุยอยู่เสมอ ซึ่งเป็นการเพียงพอสาหรับการปลูกขนุน
นอกจากช่วงที่ต้นมีการติดผลมาก ๆ จึงควรเพิ่มปุ๋ยวิทยาศาสตร์(13-13-21 หรือ 0-0-50)ร่วมด้วย เพื่อให้
ผลผลิตมีคุณภาพ
การฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ
ช่วงเจริญเติบโต,ทั่วไป : ฉีดพ่น ปุ๋ยและฮอร์โมนธรรมชาติ ไบโอเฟอร์ทิล(สูตรบารุงต้น ไล่แมลง) ในอัตรา30-
50 ซีซีต่อน้า 20 ลิตร ทุก ๆ 10-14 วัน เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต และกระตุ้นช่อใบและดอก ช่วยให้มี
ผลผลิตมาก ต้นแบกน้าหนักได้ดี
ช่วงติดผล : ให้ฉีดพ่นเสริม ด้วย ไบโอเฟอร์ทิล สูตรเร่งขนาดผล (ฉลากเหลือง) อัตรา 30-50 ซีซี+อาหารรอง
และเสริม “คีเลท” อัตรา 5-10 กรัม ผสมน้า 20 ลิตร ทุก ๆ 10-14 วัน ทาให้เนื้อขนุนคุณภาพดีมาก ผลใหญ่
รสชาติดีกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว
ช่วงก่อนเก็บเกี่ยว 3 เดือน-เก็บเกี่ยว : ฉีดพ่นเสริม ด้วย อาหารเสริม โบวีรอนอัตรา 15-20 ซีซีต่อน้า 20 ลิตร
เพื่อเพิ่มความหวานกรอบของเนื้อขนุน ป้องกันเนื้อขขนุนเน่าดา และอาการไส้ดาแห้งหรือเน่า เนื่องจากการ
ขาดโบรอน
โรคและแมลง
ปกติขนุนไม่ค่อยมีโรคแมลงรบกวนนัก การปลูกโดยทั่วไปก็ไม่ได้คานึงถึง การกาจัดศัตรูนัก แต่การป้องกันและ
กาจัดศัตรูที่จะมารบกวนก็เป็นอีกทางหนึ่ง ที่จะทาให้การปลูกขนุนได้ผลอย่างเต็มที่ ทาให้ต้นมีอายุยืนให้ผลได้
นาน
1. โรค ที่พบว่าเป็นปัญหาอยู่บ้างได้แก่ โรครา ที่เกิดที่ดอกทาให้ดอกและผล อ่อนเน่าเป็นสีดาร่วงหล่นเสียหาย
การป้องกันให้ฉีดด้วย ชีวภัณฑ์ป้องกันและกาจัดโรครา(ปลอดสารพิษ) “ไตรโค-แม็ก” อัตรา 50-100 กรัมต่อ
น้า20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อพบอาการซ้า 2-3 ครั้ง ห่างกัน 5-7 วันหรือกามะถัน ผงชนิดละลายน้าได้ แต่ต้นขนุนที่
ได้รับแดดจัด ต้นโปร่ง จะเป็นโรคนี้น้อย นอกจากนี้ก็มีโรคราที่เกิดกับใบ กิ่ง หรือต้นอยู่บ้างแต่ไม่ทาความเสีย
หายร้ายแรง การบารุงรักษาต้นให้แข็งแรง ดูแลทาความสะอาดสวนอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้รกรุงรัง มีการตัดแต่ง
กิ่งออกเสียบ้างไม่ให้ต้นทึบเกินไป ตลอดจนการ ตัดกิ่งที่เป็นโรค กิ่งที่ไม่ค่อยแข็งแรงทิ้งอยู่เสมอ เป็นการ
ป้องกันการเข้าทาลายของ ศัตรูต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีโดยไม่จาเป็นต้องใช้ยาปราบศัตรูพืชก็ได้ การใช้ยาปราบ
ศัตรูพืชให้ใช้ในกรณีรีบด่วน หรือเกิดการระบาดอย่างมากเท่านั้น
2. แมลง ที่พบอยู่เสมอคือ หนอนไชลาต้น โดยเฉพาะในสวนที่ไม่ค่อยดูแลรักษา ปล่อยให้รกรุงรังจะพบมาก
และยังพบมากในต้นขนุนที่มีอายุมาก ๆ ตัวหนอนจะ เจาะไชอยู่ตามกิ่ง ต้น สังเกตได้ดือรูที่หนอนไชจะมียาง
ขนุนไหลออกมา เมือพบว่า หนอนเจาะไชเข้าไปในกิ่งหรือต้นแล้ว การกาจัดจะทาได้ลาบาก ที่ทาได้คือเปิดปาก
รูแล้วใช้สาลีชุบยาฆ่าแมลงเช่น ดีลดรีน ดีดีที อุดเข้าไปในรู แล้วใช้ดินเหนียว อุดปากรูไว้ หรือใช้ยาฉีดยุงฉีดเข้า
ไปในรูแล้วอุดด้วยดินเหนียว ยาจะระเหยเข้า ไปฆ่าหนอนได้ ส่วนกิ่งที่พบว่ามีหนอนไชมากให้ตัดเอาไปเผาทิ้ง
เสีย
นอกจากนี้อาจมีตัวหนอนหรือแมลงไชผล ทาให้บริเวณนั้นเน่าเป็นสีดา ผลแป้วหรือเบี้ยวขายไม่ได้ราคา การ
ป้องกันอาจฉีดด้วยยาฆ่าแมลงชนิดต่าง ๆ ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นผลอ่อนป้องกันไว้ก่อน หรืออาจทาได้โดยการห่อ
ผลขนุนด้วยกระดาษ หนังสือพิมพ์ตั้งแต่ยังเป็นผลอ่อนอยู่ นอกจากนี้แมลงศัตรูของขนุนที่อาจพบก็มี เพลี้ย
แป้ง เพลี้ยหอย หากพบให้ใช้ ชีวภัณฑ์กาจัดศัตรูพืช(ปลอดสารพิษ) “เมทา-แม็ก” อัตรา 50-100 กรัมต่อ
น้า 20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อตรวจพบศัตรูพืชซ้า 2-3 ครั้ง ห่างกัน 5-7 วันและอื่น ๆ แต่ไม่ค่อยมีความสาคัญนัก การ
ดูแลสวนให้สะอาด และการใช้ ไบโอเฟอร์ทิล สูตรบารุงต้น ไล่แมลง ตามคาแนะนาเป็นประจาอยู่เสมอ จะทา
ให้ป้องกันการระบาดของแมลงได้เป็นอย่างดี(ประสบการณ์เกษตรกรผู้ใช้จริง)
ต้นขนุนที่ปลูกด้วยกิ่งตอน กิ่งทาบ จะออกดอกและผลประมาณปีที่ 3-4 หลังจากปลูก ส่วนการปลูกด้วยเมล็ด
จะให้ผลประมาณปีที่ 4-6 ทั้งนี้ขี้นอยู่กับการบารุง รักษาต้นด้วย ดอกของขนุนมีดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่บน
ต้นเดียวกัน แต่แยกกัน เป็นคนละดอก ดอกจะออกตามลาต้นและกิ่ง ดอกตัวผู้เรียกว่า ส่า เพราะมีกลิ่นคล้าย
ส่าเหล้า ซึ่งจะร่วงไปในเวลาต่อมา ส่วนดอกตัวเมียมักอยู่ตามกิ่งใหญ่และลาต้น มีสีเขียวและใหญ่กว่าดอกตัวผู้
เมื่อได้รับการผสมแล้วจะเจริญเติบโตเป็นผลแก่ ภายใน 8 เดือน ปกติจะออกผลปี ละสองดรั้ง คือครั้งแรกราว
เดือน ธันวาศม มกราคม และครั้งที่สองราวเดือน เมษายน พฤษภาคม และมีบางต้นที่ให้ผลตลอดปีก็มี
สาหรับผลผลิตนั้น แล้วแต่ขนาดของต้น เช่น ต้นอายุ 10 ปีขี้นไป จะมีผลประมาณ 40-50 ผลต่อปี เป็นต้น
การไว้ผลนั้น ถ้ากิ่ง หรือด้นไม่ใหญ่มากนักแต่ติดผล มาก เมื่อผลติดและโตพอสมควรแล้วให้ตัดออกเสียบ้าง
นามารับประทานหรือขาย เป็นขนุนอ่อน การไว้ผลมากจนเกินกาลังของต้นจะเป็นผลเสีย การตัดผลออกนั้น
พยายาม ให้ผลที่เหลือบนต้นกระจายอยู่ทั่ว ๆ ต้น
ผลขนุนที่แก่ขนาดเก็บได้ จะสังเกตได้จากตาหนามที่เจริญขยายห่าง และผิว ของผลเป็นสีเหลืองมากขึ้น หรือ
อาจใช้มีดกรีดที่ขั้วผล ถ้าผลแก่จะมียางไหลออกมา น้อยและมีลักษณะข้นเหนียว การเก็บผลที่อยู่สูง ๆ ให้ตัด
แล้วใส่ตะกร้าโรยลงมาจาก ต้นเพื่อไม่ให้ผล ช้าเสียหาย
ข้อเปรียบเทียบเมื่อใช้ยักษ์เขียว,ไบโอเฟอร์ทิล ตามคาแนะนาเป็นประจา
1. ใบเขียวทนกว่าและสภาพดินดีกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี ต้นเจริญเติบโตได้เร็ว ไม่อ่อนแอต่อโรค
2. ต้นขนุนจะสมบูรณ์ตลอดทั้งปี ให้ผลผลิตมาก ติดผลดี
3. ต้นทุนปุ๋ยทางดินจะลดลงจากเดิม(ถูกกว่าเคมี)ประมาณ กึ่งหนึ่ง
4. หากใช้กับต้นโทรมที่มีอาการใบเหลืองโทรมและร่วง เนื่องจากดินเสื่อมสภาพจากการใส่ปุ๋ยเคมีมากเกินไป
(ความเค็มของเคมีตกค้างมาก) ทาให้ไม่ตอบสนองต่อปุ๋ยเคมี จะพบว่า ต้นกลับมีสภาพดีขึ้น ใบเขียวขึ้น และ
แตกใบใหม่ออกมามาก สภาพต้นดีขึ้นตามลาดับ(เริ่มเห็นได้ชัดหลังการใช้ประมาณ 2-3 ครั้ง)

More Related Content

What's hot

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเพาะปลูกพืช
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเพาะปลูกพืชหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเพาะปลูกพืช
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเพาะปลูกพืชlukhamhan school
 
ใบความรู้เรื่องงานประดิษฐ์
ใบความรู้เรื่องงานประดิษฐ์ใบความรู้เรื่องงานประดิษฐ์
ใบความรู้เรื่องงานประดิษฐ์Duangsuwun Lasadang
 
รายงานมะพร้าวไทย
รายงานมะพร้าวไทยรายงานมะพร้าวไทย
รายงานมะพร้าวไทยsakuntra
 
มะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยมะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยsakuntra
 
โครงงาน เรื่อง มะพร้าว
โครงงาน เรื่อง มะพร้าวโครงงาน เรื่อง มะพร้าว
โครงงาน เรื่อง มะพร้าวsakuntra
 
รายงานมะพร้าวไทย
รายงานมะพร้าวไทยรายงานมะพร้าวไทย
รายงานมะพร้าวไทยsakuntra
 
หน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเกษตร
หน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเกษตรหน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเกษตร
หน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเกษตรvarut
 
ใบความรู้เรื่อง การถนอมอาหาร
ใบความรู้เรื่อง  การถนอมอาหารใบความรู้เรื่อง  การถนอมอาหาร
ใบความรู้เรื่อง การถนอมอาหารDuangsuwun Lasadang
 
การทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าว
การทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าวการทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าว
การทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าวPak Ubss
 
โครงงานเทคโนโลยี ปุ๋ยคอกปุ๋ยเคมี
โครงงานเทคโนโลยี ปุ๋ยคอกปุ๋ยเคมี โครงงานเทคโนโลยี ปุ๋ยคอกปุ๋ยเคมี
โครงงานเทคโนโลยี ปุ๋ยคอกปุ๋ยเคมี Thitaree Permthongchuchai
 
มะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยมะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยsakuntra
 
Power point ped.1
Power point  ped.1Power point  ped.1
Power point ped.1juckit009
 
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01Art Nan
 
ใบความรู้เรื่อง การเลือกซื้ออาหาร
ใบความรู้เรื่อง การเลือกซื้ออาหารใบความรู้เรื่อง การเลือกซื้ออาหาร
ใบความรู้เรื่อง การเลือกซื้ออาหารDuangsuwun Lasadang
 
โครงงานเทคโนโลยีปุ๋ยคอกรึปุ๋ยเคมีที่พืชเจริญเติบโตดีกว่ากัน
โครงงานเทคโนโลยีปุ๋ยคอกรึปุ๋ยเคมีที่พืชเจริญเติบโตดีกว่ากันโครงงานเทคโนโลยีปุ๋ยคอกรึปุ๋ยเคมีที่พืชเจริญเติบโตดีกว่ากัน
โครงงานเทคโนโลยีปุ๋ยคอกรึปุ๋ยเคมีที่พืชเจริญเติบโตดีกว่ากันThitaree Permthongchuchai
 
ใบงานที่ 9 16
ใบงานที่ 9 16ใบงานที่ 9 16
ใบงานที่ 9 16Noonnu Ka-noon
 
นำเสนอผักชี
นำเสนอผักชีนำเสนอผักชี
นำเสนอผักชีTry Pongsatorn
 
การปลูกมะนาวในท่อซีเมนต์
การปลูกมะนาวในท่อซีเมนต์การปลูกมะนาวในท่อซีเมนต์
การปลูกมะนาวในท่อซีเมนต์dechathon
 

What's hot (19)

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเพาะปลูกพืช
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเพาะปลูกพืชหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเพาะปลูกพืช
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเพาะปลูกพืช
 
ใบความรู้เรื่องงานประดิษฐ์
ใบความรู้เรื่องงานประดิษฐ์ใบความรู้เรื่องงานประดิษฐ์
ใบความรู้เรื่องงานประดิษฐ์
 
รายงานมะพร้าวไทย
รายงานมะพร้าวไทยรายงานมะพร้าวไทย
รายงานมะพร้าวไทย
 
มะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยมะพร้าวไทย
มะพร้าวไทย
 
โครงงาน เรื่อง มะพร้าว
โครงงาน เรื่อง มะพร้าวโครงงาน เรื่อง มะพร้าว
โครงงาน เรื่อง มะพร้าว
 
รายงานมะพร้าวไทย
รายงานมะพร้าวไทยรายงานมะพร้าวไทย
รายงานมะพร้าวไทย
 
หน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเกษตร
หน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเกษตรหน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเกษตร
หน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเกษตร
 
ใบความรู้เรื่อง การถนอมอาหาร
ใบความรู้เรื่อง  การถนอมอาหารใบความรู้เรื่อง  การถนอมอาหาร
ใบความรู้เรื่อง การถนอมอาหาร
 
การทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าว
การทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าวการทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าว
การทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าว
 
แผ่นพับข้าวอินทรีย์
แผ่นพับข้าวอินทรีย์แผ่นพับข้าวอินทรีย์
แผ่นพับข้าวอินทรีย์
 
โครงงานเทคโนโลยี ปุ๋ยคอกปุ๋ยเคมี
โครงงานเทคโนโลยี ปุ๋ยคอกปุ๋ยเคมี โครงงานเทคโนโลยี ปุ๋ยคอกปุ๋ยเคมี
โครงงานเทคโนโลยี ปุ๋ยคอกปุ๋ยเคมี
 
มะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยมะพร้าวไทย
มะพร้าวไทย
 
Power point ped.1
Power point  ped.1Power point  ped.1
Power point ped.1
 
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01
นางพัชรินทร์ สุทธหลวง01
 
ใบความรู้เรื่อง การเลือกซื้ออาหาร
ใบความรู้เรื่อง การเลือกซื้ออาหารใบความรู้เรื่อง การเลือกซื้ออาหาร
ใบความรู้เรื่อง การเลือกซื้ออาหาร
 
โครงงานเทคโนโลยีปุ๋ยคอกรึปุ๋ยเคมีที่พืชเจริญเติบโตดีกว่ากัน
โครงงานเทคโนโลยีปุ๋ยคอกรึปุ๋ยเคมีที่พืชเจริญเติบโตดีกว่ากันโครงงานเทคโนโลยีปุ๋ยคอกรึปุ๋ยเคมีที่พืชเจริญเติบโตดีกว่ากัน
โครงงานเทคโนโลยีปุ๋ยคอกรึปุ๋ยเคมีที่พืชเจริญเติบโตดีกว่ากัน
 
ใบงานที่ 9 16
ใบงานที่ 9 16ใบงานที่ 9 16
ใบงานที่ 9 16
 
นำเสนอผักชี
นำเสนอผักชีนำเสนอผักชี
นำเสนอผักชี
 
การปลูกมะนาวในท่อซีเมนต์
การปลูกมะนาวในท่อซีเมนต์การปลูกมะนาวในท่อซีเมนต์
การปลูกมะนาวในท่อซีเมนต์
 

Viewers also liked

What Should Be Done About Workplace Bullying?
What Should Be Done About Workplace Bullying?What Should Be Done About Workplace Bullying?
What Should Be Done About Workplace Bullying?Philip J. Moss
 
Bricks / Build new architecture project from your inspirations
Bricks / Build new architecture project from your inspirationsBricks / Build new architecture project from your inspirations
Bricks / Build new architecture project from your inspirationsBricks
 
nơi nào thiết kế clip quảng cáo ấn tượng
nơi nào thiết kế clip quảng cáo ấn tượngnơi nào thiết kế clip quảng cáo ấn tượng
nơi nào thiết kế clip quảng cáo ấn tượngkenneth422
 
Predictive Marketing Engine
Predictive Marketing EnginePredictive Marketing Engine
Predictive Marketing EngineKonversation
 
Возрастная структура населения России в 2000-е годы
Возрастная структура населения России в 2000-е годыВозрастная структура населения России в 2000-е годы
Возрастная структура населения России в 2000-е годыVrachiRF
 
Mayer and clark
Mayer and clarkMayer and clark
Mayer and clarkmichaelj93
 
I tunes sunu sonn
I tunes sunu sonnI tunes sunu sonn
I tunes sunu sonnarzukrhyk
 
Formule aggregative di successo nel settore turistico.Seminario di Laila Baul...
Formule aggregative di successo nel settore turistico.Seminario di Laila Baul...Formule aggregative di successo nel settore turistico.Seminario di Laila Baul...
Formule aggregative di successo nel settore turistico.Seminario di Laila Baul...Welcoming.lab
 
Top 8 bakery associate resume samples
Top 8 bakery associate resume samplesTop 8 bakery associate resume samples
Top 8 bakery associate resume samplestonychoper4405
 
Top 8 promotions assistant resume samples
Top 8 promotions assistant resume samplesTop 8 promotions assistant resume samples
Top 8 promotions assistant resume samplestonychoper4405
 
APAIGASpring2004Newsletter
APAIGASpring2004NewsletterAPAIGASpring2004Newsletter
APAIGASpring2004NewsletterJeffrey Raker
 
Get started with dropbox
Get started with dropboxGet started with dropbox
Get started with dropboxDrgaos Ivanescu
 

Viewers also liked (19)

190515 emerging markets and digital disruption
190515 emerging markets and digital disruption190515 emerging markets and digital disruption
190515 emerging markets and digital disruption
 
What Should Be Done About Workplace Bullying?
What Should Be Done About Workplace Bullying?What Should Be Done About Workplace Bullying?
What Should Be Done About Workplace Bullying?
 
Bricks / Build new architecture project from your inspirations
Bricks / Build new architecture project from your inspirationsBricks / Build new architecture project from your inspirations
Bricks / Build new architecture project from your inspirations
 
nơi nào thiết kế clip quảng cáo ấn tượng
nơi nào thiết kế clip quảng cáo ấn tượngnơi nào thiết kế clip quảng cáo ấn tượng
nơi nào thiết kế clip quảng cáo ấn tượng
 
Predictive Marketing Engine
Predictive Marketing EnginePredictive Marketing Engine
Predictive Marketing Engine
 
Возрастная структура населения России в 2000-е годы
Возрастная структура населения России в 2000-е годыВозрастная структура населения России в 2000-е годы
Возрастная структура населения России в 2000-е годы
 
Mayer and clark
Mayer and clarkMayer and clark
Mayer and clark
 
I tunes sunu sonn
I tunes sunu sonnI tunes sunu sonn
I tunes sunu sonn
 
Cogito
CogitoCogito
Cogito
 
Formule aggregative di successo nel settore turistico.Seminario di Laila Baul...
Formule aggregative di successo nel settore turistico.Seminario di Laila Baul...Formule aggregative di successo nel settore turistico.Seminario di Laila Baul...
Formule aggregative di successo nel settore turistico.Seminario di Laila Baul...
 
Top 8 bakery associate resume samples
Top 8 bakery associate resume samplesTop 8 bakery associate resume samples
Top 8 bakery associate resume samples
 
Fusion Consultancy
Fusion ConsultancyFusion Consultancy
Fusion Consultancy
 
diminutiveformation
diminutiveformationdiminutiveformation
diminutiveformation
 
Marketing Efectivo
Marketing EfectivoMarketing Efectivo
Marketing Efectivo
 
Top 8 promotions assistant resume samples
Top 8 promotions assistant resume samplesTop 8 promotions assistant resume samples
Top 8 promotions assistant resume samples
 
internship report
internship reportinternship report
internship report
 
APAIGASpring2004Newsletter
APAIGASpring2004NewsletterAPAIGASpring2004Newsletter
APAIGASpring2004Newsletter
 
IADR talk March 2015
IADR talk March 2015IADR talk March 2015
IADR talk March 2015
 
Get started with dropbox
Get started with dropboxGet started with dropbox
Get started with dropbox
 

Similar to เทคนิคการปลูกขนุน

ใบความรู้ที่ 7
ใบความรู้ที่ 7ใบความรู้ที่ 7
ใบความรู้ที่ 7chunkidtid
 
กุหลาบ
กุหลาบกุหลาบ
กุหลาบnangna
 
การปลูกต้นกุหลาบ
การปลูกต้นกุหลาบการปลูกต้นกุหลาบ
การปลูกต้นกุหลาบnam34348skw
 
การปลูกต้นกุหลาบ
การปลูกต้นกุหลาบการปลูกต้นกุหลาบ
การปลูกต้นกุหลาบnam34348skw
 
กุหลาบ 1
กุหลาบ 1กุหลาบ 1
กุหลาบ 1nangna
 
การทำเกษตรอินทรีย์ [โหมดความเข้ากันได้]
การทำเกษตรอินทรีย์ [โหมดความเข้ากันได้]การทำเกษตรอินทรีย์ [โหมดความเข้ากันได้]
การทำเกษตรอินทรีย์ [โหมดความเข้ากันได้]อบต. เหล่าโพนค้อ
 
มะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยมะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยsakuntra
 
มะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยมะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยsakuntra
 
Landscape maintenance and management2
Landscape maintenance and management2Landscape maintenance and management2
Landscape maintenance and management2Napalai Jaibaneum
 
โครงงานเสร็จสมบูรณ์
โครงงานเสร็จสมบูรณ์โครงงานเสร็จสมบูรณ์
โครงงานเสร็จสมบูรณ์Yuporn Tugsila
 
รักษ์สุดา
รักษ์สุดารักษ์สุดา
รักษ์สุดาruksuda
 
รักษ์สุดา
รักษ์สุดารักษ์สุดา
รักษ์สุดาruksuda
 
งานSh
งานShงานSh
งานShxavi2536
 

Similar to เทคนิคการปลูกขนุน (20)

ใบความรู้ที่ 7
ใบความรู้ที่ 7ใบความรู้ที่ 7
ใบความรู้ที่ 7
 
กุหลาบ
กุหลาบกุหลาบ
กุหลาบ
 
Biomapcontest2014 timber
Biomapcontest2014 timberBiomapcontest2014 timber
Biomapcontest2014 timber
 
การปลูกต้นกุหลาบ
การปลูกต้นกุหลาบการปลูกต้นกุหลาบ
การปลูกต้นกุหลาบ
 
การปลูกต้นกุหลาบ
การปลูกต้นกุหลาบการปลูกต้นกุหลาบ
การปลูกต้นกุหลาบ
 
Com project
Com projectCom project
Com project
 
กุหลาบ 1
กุหลาบ 1กุหลาบ 1
กุหลาบ 1
 
การทำเกษตรอินทรีย์ [โหมดความเข้ากันได้]
การทำเกษตรอินทรีย์ [โหมดความเข้ากันได้]การทำเกษตรอินทรีย์ [โหมดความเข้ากันได้]
การทำเกษตรอินทรีย์ [โหมดความเข้ากันได้]
 
Patcharee
PatchareePatcharee
Patcharee
 
มะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยมะพร้าวไทย
มะพร้าวไทย
 
มะพร้าวไทย
มะพร้าวไทยมะพร้าวไทย
มะพร้าวไทย
 
Landscape maintenance and management2
Landscape maintenance and management2Landscape maintenance and management2
Landscape maintenance and management2
 
หญ้าแฝก
หญ้าแฝกหญ้าแฝก
หญ้าแฝก
 
LA445 02
LA445 02LA445 02
LA445 02
 
โครงงานเสร็จสมบูรณ์
โครงงานเสร็จสมบูรณ์โครงงานเสร็จสมบูรณ์
โครงงานเสร็จสมบูรณ์
 
M6 144 60_6
M6 144 60_6M6 144 60_6
M6 144 60_6
 
Lesson04
Lesson04Lesson04
Lesson04
 
รักษ์สุดา
รักษ์สุดารักษ์สุดา
รักษ์สุดา
 
รักษ์สุดา
รักษ์สุดารักษ์สุดา
รักษ์สุดา
 
งานSh
งานShงานSh
งานSh
 

เทคนิคการปลูกขนุน

  • 1. เทคนิคการปลูกขนุน ขนุนที่นิยมปลูกกันทั่วไปอยู่มี 2 ประเภท คือ ขนุนหนัง และขนุนละมุด 1. ขนุนหนัง ลักษณะเนื้อยวงแห้งกรอบ สีเหลืองทอง สีจาปา ยวงโตเนื้อแน่นหวานกรอบนิยมปลูกกันโดยทั่วไปขนุนหนังมี อยู่หลาย พันธุ์เช่น จาปา ตาบ๊วย ฟ้าถล่ม เป็นต้น 2. ขนุนละมุด ลักษณะเนื้อยวงเปียก เละเหนียว เนื้อค่อนข้างบาง ยวงเล็ก รสหวาน มีกลิ่นหอม ขนุนพันธุ์นี้ ไม่ค่อยนิยมปลูก กันมากนัก อีกพวกหนึ่ง ซึ่งนิยมปลูกกันมากทางภาคใต้ของประเทศไทยคือ จาปาดะ ลักษณะโดยทั่วไปคล้าย ขนุน ผลเล็กยาวเรียวคล้ายผลฟัก เปลือกบาง เนื้อเละ รสหวาน กลิ่นหอม การปลูกและการดูแลรักษา แนะนาให้ปฏิบัติ ดังนี้ 1. การเตรียมดิน 1.1 ในที่ลุ่มน้าท่วมถึง เช่นที่ราบลุ่มแม่น้าต่าง ๆ การปลูกขนุนในที่ ดังกล่าวต้องยกร่องเสียก่อน เช่นเดียวกับ ร่องผัก หรือร่องสวนในที่ลุ่ม เพื่อป้องกัน ไม่ให้น้าท่วมถึงโคนต้นได้ ขนาดของร่องกว้างประมาณ 4-6 เมตร คูน้ากว้าง 1.5 เมตร ส่วนความยาวของร่องขึ้นอยู่ กับขนาดของพื้นที่และความต้องการ ความสูง ของร่องยิ่งสูง มากยิ่งดี รากขนุนจะได้หยั่งลึกและเติบโตอย่างเต็มที่ เมื่อขุดยกร่อง เสร็จแล้วทาการปรับปรุงดินให้ร่วนซุยโดย การขุดตากดิน ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เศษอินทรีย์วัตถุต่าง ๆ เพราะดินในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ามักจะเป็นดิน เหนียว จัด ไม่ค่อยเหมาะต่อการเจริญเติบโตของไม้ยืนต้น ในที่ซึ่งเห็นว่าดินยังไม่ ดีพอ ดินยังเหนียวอยู่มาก ควรจะปลูกพืชพวกรากตื้น ๆ หรือปลูกผักก่อนสัก 2-3 ปีแล้วจึงปลูกขนุน ส่วนในที่เป็นร่องสวนเก่ามีคันคูอยู่ แล้ว เคยปลูกพืชอย่างอื่นจนดินร่วนซุยดี แล้วก็อาจจะทาการปรับปรุงดินอีกเล็กน้อยแล้วลงมือปลูกได้เลย 1.2 ในพื้นที่น้าท่วมไม่ถึง ที่ป่า ที่เขา ถ้าเป็นที่ ๆ เคยปลูกพืชอย่างอื่น อยู่แล้วก็ไม่ต้องเตรียมดินมาก เพราะที่ จะโล่งเตียนอยู่แล้ว เพียงแต่ปรับปรุงหน้าดิน โดยการไถพรวน ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักให้ดินดีขึ้น ส่วนที่เป็นป่าเปิด ใหม่ต้องถางที่ให้ โล่งเตียน ไม่ให้มีไม้อย่างอื่นปนอยู่ ถ้าไถพรวนได้สักครั้งสองครั้งก็จะเป็นการดี ที่ดังกล่าวมัก เป็นดินที่ร่วนชุยอยู่แล้ว ในที่บางแห่ง เช่นป่าเปิดใหม่มักจะมีอินทรียวัตถุ อยู่มากตามธรรมชาติก็ไม่จาเป็นต้อง หามาเพิ่มเติม ส่วนในที่ ๆ เห็นว่าเป็นทรายจัด อินทรียวัตถุค่อนข้างน้อยก็ควรใส่เพิ่มโดยใช้วัสดุที่มีอยู่ใน ท้องถิ่น เช่น มูลสัตว์ ต่าง ๆ เศษใบไม้ใบหญ้าที่แห้งผุพัง กากถั่ว เปลือกถั่ว เป็นต้น หรือจะปรับปรุงดิน โดยใช้ ปุ๋ยพืชสดก็ได้โดยการปลูกพืชตระกูลถั่วต่าง ๆ แล้วไถกลบให้ต้นถั่วสลายตัวผุพัง อยู่ในดิน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะ ช่วยให้ดินร่วนซุย ระบายน้าและอากาศได้ดี ทาให้ดิน อุ้มน้าดี เหมาะแก่การเจริญเติบโตของต้นขนุน
  • 2. 2. การขุดหลุมปลูก การปลูกทั้งแบบยกร่องและแบบปลูกในที่ดอน ควรปลูกเป็นแถวเป็น แนว เพื่อสะดวกในการดูแลรักษา และ การปฎิบัติงานสวน ระยะห่างระหว่างต้นหรือ ระหว่างหลุมคือ 8 x 10 เมตร หรือ 10 x l2 เมตร เป็นระยะที่ เหมาะสาหรับการปลูก แบบไร่ หรือถี่กว่านี้ขี้นอยู่กับพันธุ์และความเหมาะสมต่าง ๆ ส่วนการปลูก แบบร่อง ต้นขนุนมักมีขนาดเล็กกว่าการปลูกแบบไร่ ระยะห่างระหว่างต้นอาจ ถี่กว่านี้ก็ได้ ขนาดของหลุมปลูก ให้ขุด หลุมขนาด กว้าง ยาว ลึก 50-100 เซนติเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน ถ้าดินดีร่วนซุยมีพวก อินทรีย์วัตถุมาก ขุดหลุมขนาด 50เซนติเมตรก็พอ ส่วนที่ดินไม่ค่อยดีให้ขุดหลุมขนาดใหญ่ เพื่อจะ ได้ปรับปรุง ดินในหลุมปลูกให้ดีขึ้น ทาให้รากเจริญเติบโตได้ดี ดินที่ขุดขึ้นมาจาก หลุมนั้นให้แยกเป็นสองกอง คือดินชั้นบน กองหนึ่งและดินชั้นล่างอีกกองหนึ่ง ตากดินที่ขุดขึ้นมาประมาณ l5-20 วัน แล้วผสมดินทั้งสองกองนั้นด้วยปุ๋ย คอก และปุ๋ยหมักอัตรา 1-2 ถังก่อสร้าง หรือผสมปุ๋ยอินทรีย์ตรายักษ์เขียว อัตรา 1-2 กก.ต่อหลุม แล้วกลบดิน ลงในหลุมตามเดิมโดยให้ดินชั้นบนลงไว้ก้นหลุม และดิน ชั้นล่างกลบไว้ด้านบน ดินที่กลบลงไปจะสูงเกินปาก หลุม ปล่อยทิ้งไว้ให้ดินยุบตัวดี เสียก่อนจึงจะลงมือปลูก 3. วิธีปลูก การปลูกไม่ว่าจะปลูกด้วยกิ่งตอน กิ่งทาบ หรือต้นที่เพาะเมล็ดก็ ตาม ให้ทาด้วยความระมัดระวัง อย่าให้ราก ขาดมากต้นจะชะงักการเจริญเติบโต ต้นขนุนที่ปลูกไว้ในภาชนะนาน ๆ ดินในภาชนะจะจับตัวแข็งและรากจะ พันกัน ไปมา เวลาปลูกเมื่อเอาออกจากกระถางแล้วให้เอามือบิดินก้นภาชนะ ให้แยกออกจาก กันเล็กน้อยและ ค่อย ๆ คลี่รากที่ม้วนไปมาให้แยกจากกัน เพื่อจะได้เติบโตต่อไป อย่างรวดเร็ว 3.1 การปลูกด้วยกิ่งทาบ อย่ากลบดินจนมิดรอยต่อของกิ่ง ให้ปลูกใน ระดับเดียวกับดินในกระถางเดิมหรือสูง กว่าเดิมเพียงเล็กน้อยแต่ไม่มิดรอยต่อ เพื่อจะได้มองเห็นว่ากิ่งที่แตกออกมานั้นเป็นกิ่งของต้นตอหรือของกิ่ง พันธุ์ ถ้า แตกออกมาจากต้นตอให้ตัดทิ้งไปเพราะเป็นกิ่งที่ไม่ต้องการ 3.2 การปลูกด้วยกิ่งตอน ให้กลบดินให้เสมอดินเดิมในภาชนะ หรือให้ เหลือจุกมะพร้าวที่ใช้ในการตอนโผล่อยู่ อย่ากลบดินจนมิดจุกมะพร้าวเพราะทาให้ ต้นเน่าได้ง่าย เมื่อปลูกเสร็จให้หาไม้มาปักเป็นหลักผูกต้นกันลมโยก แล้วรดน้าทันทีให้โชก ควรใช้ทางมะพร้าวช่วยคลุมแดดให้บ้างในระยะแรก เพราะถ้าโดนแดดจัดต้นอาจจะ เฉา ชะงักการเจริญเติบโตได้ หลังจากปลูกแล้วให้คอยดูแลรดน้าอยู่เสมอ ถ้าฝน ไม่ตกการใช้ฟางหรือหญ้าแห้งคลุม บริเวณโคนต้นจะช่วยรักษาความชื้นของดินได้ดี 3.3 การปลูกพืชแซม การปลูกขนุนด้วยกิ่งตอนและกิ่งทาบจะใช้เวลา ประมาณ 3-4 ปีกว่าจะให้ผล และการ ปลูกด้วยเมล็ดใช้เวลาประมาณ 4-6 ปี ใน ระหว่างที่ต้นขนุนยังเล็กอยู่นี้ ควรปลูกพืชอย่างอื่นที่มีอายุสั้น ๆ เป็น การหารายได้ไป พลาง ๆ ก่อน ไม่ควรปล่อยที่ดินให้ว่างเปล่า นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อะไร แล้ว ยังต้องคอย ดายหญ้าอยู่เสมออีกด้วย วิธีหนึ่งที่นิยมทากันมากคือ ก่อนจะปลูก ขนุนควรปลูกกล้วยเสียก่อน เมื่อกล้วยโต พอสมควรจึงปลูกขนุนตามลงไป ซึ่งกล้วย จะช่วยเป็นร่มเงาให้ขนุนไม่โดนแดดมากเกินไป และทาให้สวนชุ่มชื้น
  • 3. อยู่เสมอ ต้นขนุนจะโตเร็ว จนเห็นว่าต้นขนุนโตพอสมควร ก็ทยอยขุดกล้วยออก การ ปลูกกล้วยก่อนนี้เป็นวิธีที่ นิยมในการปลูกไม้ผลทั่วไป แต่มีข้อเสียตอนขุดรื้อ ต้นกล้วยออก เพราะต้องใช้แรงงานมากเช่นกัน การดูแลรักษา 1. การให้น้า สัปดาห์แรกหลังจากปลูก ถ้าฝนไม่ตกควรรดน้าให้ทุกวัน หลังจากนั้น ถ้าฝนไม่ตกควรรดน้า 3- 4 วันต่อครั้ง และตลอดฤดูแล้ง ถ้าเห็นว่าดินแห้งเกินไป ต้องรดน้าช่วยจนกว่าต้นขนุนมีอายุ 1 ปีขึ้นไป จีงจะ ปลอดภัยการให้น้าอาจ ห่างออกไปบ้างก็ได้ การปลูกโดยทั่วไปมักให้น้าเพียง 1-2 ครั้งแล้วปล่อยตามธรรมธาติ ก็สามารถเจริญเติบโตให้ดอกให้ผลได้เช่นกัน เพราะโดยปกติขนุนเป็นพืชที่ทนแล้ง อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การปลูกเพือให้ได้ผลอย่างเต็มที่นั้นควรให้น้าอยู่อย่าง สม่าเสมอ ในฤดูแล้งหรือช่วงที่ขาดฝนนาน ๆ ควรให้น้า ช่วยบ้าง จะทาให้ต้นเจริญ เติบโตอย่างสม่าเสมอ ไม่ชะงักการเจริญเติบโต เมื่อขนุนโตขนาดให้ผลแล้ว ในระยะที่ขนุนตกดอกให้งดน้าชั่วระยะ หนึ่ง เมื่อดอกบานและติดผลแล้ว จึงให้น้า ให้มากเพื่อบารุงผลให้เติบโตและมี คุณภาพดี หลังจากที่ติดผลแล้ว ถ้าขาดน้าผลจะมีขนาดเล็ก การเติบโตของ ผลไม่สม่า เสมอ ผลอาจแป้ว เบี้ยว และเนื้อบาง การให้น้าจึงเป็นสิ่งสาคัญอย่างหนึ่ง 2. การปราบวัชพืช การกาจัดวัชพืชต้องกระทาอยู่เสมอ เพราะวัชพืช ต่าง ๆ จะคอยแย่ง อาหารจากต้นขนุน และการปล่อยให้สวนรกรุงรังจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยของโรคและ แมลงต่าง ๆ ที่จะทาลายขนุนอีกด้วย การ ปราบวัชพืชทาได้โดยการถาง หรือโดยการปลูกพืชคลุมดินเป็นวิธีที่ควรปฏิบัติอย่างหนึ่ง เพราะพืช คลุมดิน นอกจากจะป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้นแล้ว ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของ ดิน ทาให้ดินไม่แห้งเร็ว ไม่ต้องให้น้าบ่อย ๆ ช่วยให้ดินร่วนซุย และใบที่ร่วงหล่นจะผุพังเป็นประโยชน์ต่อไป นอกจากนี้พืชคลุมดินยังช่วยป้องกันการชะ ล้างของดินอัน เนื่องจากฝนตก โดยเฉพาะการปลูกตามที่ลาดเอียง พืชคลุมดินที่ควรใช้ปลูกคือพวก ถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วพุ่ม ถั่วผี เป็นต้น ถั่วเหล่านี้จะมีเถาอาจเลื้อยพันขึ้นไปบนต้น ขนุน ต้องหมั่นดูแลและคอยตัดออก โดยเฉพาะบริเวณเรือนพุ่มต้องคอยตัดคอย ถาง อย่าให้พืชคลุมดินขึ้นบริเวณโคนต้น พืชคลุมดินนี้เมื่อปลูกไป นาน ๆ ก็ไถกลบ ดินเสียครั้งหนึ่งแล้วปลูกใหม่จะช่วยให้ดินดียิ่งขึ้น การปราบวัชพืชนี้ถ้าไม่ปลูกพืช คลุมดินก็ ควรปลูกพืชแซมดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ไม่แนะนาให้ใช้ยาปราบวัชพืชบริเวณใกล้ทรงพุ่ม เพราะจะทาให้รากขนุน ชะงักการเจริญเติบโต ต้นโตช้าและโทรมเร็วกว่าปกติ 3. การให้ปุ๋ย ขนุนเป็นพืชที่ไม่เลือกดินปลูกนัก สามารถปลูกได้ในดินทั่วไป แต่ถ้าดิน นั้นอุดมสมบูรณ์มีธาตุ อาหารเพียงพอ ต้นขนุนจะเจริญได้ดี ให้ผลดกและผลมี คุณภาพดี การปรับปรุงดินให้ร่วนซุยและการเพิ่มธาตุ อาหารให้แก่ดินจึงเป็นสิ่งควรปฏิบัติ การให้ปุ๋ยทางดิน ช่วงลงปลูก (ระยะแรก - 3 ปี) : ใช้ วัสดุปรับปรุงดินเกรด AAA “ยักษ์เขียว” สูตรเข้มข้นพิเศษ (แถบทอง) ใน อัตรา ยักษ์เขียว 2 ส่วน : ปุ๋ยเคมี 1 ส่วน โดยปุ๋ยเคมีที่ใช้ผสม ให้ใช้สูตร 25-7-7 ผสมสลับกับ 16-16-16 ใส่ ทุก ๆ30-45 วัน จะช่วยให้ต้นโตเร็ว แตกทรงพุ่มได้ดี ต้นสมบูรณ์กว่า ใบเขียวเข้มเป็นมัน และต้นทุนต่ากว่า การใช้เคมีอย่างเดียว 30-40% และ เมื่อต้นอายุ 1 ปีขึ้นไป ให้ใส่เพิ่มเป็น อัตรา 0.5-1 กก.ต่อต้น(มากน้อย ขึ้นอยู่กับขนาดทรงพุ่ม) ทุก ๆ 1-2 เดือน
  • 4. ช่วงให้ผลผลิต : เมื่อต้นโตจนให้ผลแล้ว ควรทารางดินรอบ ๆ เป็นวงกลมในรัศมี ของกิ่งที่แผ่รอบต้นแล้ว ใส่ วัสดุปรับปรุงดินเกรด AAA “ยักษ์เขียว” สูตรเข้มข้นพิเศษ (แถบทอง) ในอัตรา ยักษ์ เขียว 2 ส่วน : ปุ๋ยเคมี 1 ส่วน ใส่ทุก ๆ 30-45 วัน โดยปุ๋ยเคมีที่ใช้อาจใช้สูตร 15-15-15 หรือ 16- 16- 16 เป็นหลัก เนื่องจากขนุนเป็นไม้ผลที่มีขนาดใหญ่ รากสามารถหยั่งลงดินได้ ลึก และหาอาหารได้ไกล ดังนั้นการใช้ “ยักษ์เขียว”ในแปลงปลูก จะทาให้ดินดี มีความร่วนซุยอยู่เสมอ ซึ่งเป็นการเพียงพอสาหรับการปลูกขนุน นอกจากช่วงที่ต้นมีการติดผลมาก ๆ จึงควรเพิ่มปุ๋ยวิทยาศาสตร์(13-13-21 หรือ 0-0-50)ร่วมด้วย เพื่อให้ ผลผลิตมีคุณภาพ การฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ ช่วงเจริญเติบโต,ทั่วไป : ฉีดพ่น ปุ๋ยและฮอร์โมนธรรมชาติ ไบโอเฟอร์ทิล(สูตรบารุงต้น ไล่แมลง) ในอัตรา30- 50 ซีซีต่อน้า 20 ลิตร ทุก ๆ 10-14 วัน เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต และกระตุ้นช่อใบและดอก ช่วยให้มี ผลผลิตมาก ต้นแบกน้าหนักได้ดี ช่วงติดผล : ให้ฉีดพ่นเสริม ด้วย ไบโอเฟอร์ทิล สูตรเร่งขนาดผล (ฉลากเหลือง) อัตรา 30-50 ซีซี+อาหารรอง และเสริม “คีเลท” อัตรา 5-10 กรัม ผสมน้า 20 ลิตร ทุก ๆ 10-14 วัน ทาให้เนื้อขนุนคุณภาพดีมาก ผลใหญ่ รสชาติดีกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว ช่วงก่อนเก็บเกี่ยว 3 เดือน-เก็บเกี่ยว : ฉีดพ่นเสริม ด้วย อาหารเสริม โบวีรอนอัตรา 15-20 ซีซีต่อน้า 20 ลิตร เพื่อเพิ่มความหวานกรอบของเนื้อขนุน ป้องกันเนื้อขขนุนเน่าดา และอาการไส้ดาแห้งหรือเน่า เนื่องจากการ ขาดโบรอน โรคและแมลง ปกติขนุนไม่ค่อยมีโรคแมลงรบกวนนัก การปลูกโดยทั่วไปก็ไม่ได้คานึงถึง การกาจัดศัตรูนัก แต่การป้องกันและ กาจัดศัตรูที่จะมารบกวนก็เป็นอีกทางหนึ่ง ที่จะทาให้การปลูกขนุนได้ผลอย่างเต็มที่ ทาให้ต้นมีอายุยืนให้ผลได้ นาน 1. โรค ที่พบว่าเป็นปัญหาอยู่บ้างได้แก่ โรครา ที่เกิดที่ดอกทาให้ดอกและผล อ่อนเน่าเป็นสีดาร่วงหล่นเสียหาย การป้องกันให้ฉีดด้วย ชีวภัณฑ์ป้องกันและกาจัดโรครา(ปลอดสารพิษ) “ไตรโค-แม็ก” อัตรา 50-100 กรัมต่อ น้า20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อพบอาการซ้า 2-3 ครั้ง ห่างกัน 5-7 วันหรือกามะถัน ผงชนิดละลายน้าได้ แต่ต้นขนุนที่ ได้รับแดดจัด ต้นโปร่ง จะเป็นโรคนี้น้อย นอกจากนี้ก็มีโรคราที่เกิดกับใบ กิ่ง หรือต้นอยู่บ้างแต่ไม่ทาความเสีย หายร้ายแรง การบารุงรักษาต้นให้แข็งแรง ดูแลทาความสะอาดสวนอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้รกรุงรัง มีการตัดแต่ง กิ่งออกเสียบ้างไม่ให้ต้นทึบเกินไป ตลอดจนการ ตัดกิ่งที่เป็นโรค กิ่งที่ไม่ค่อยแข็งแรงทิ้งอยู่เสมอ เป็นการ
  • 5. ป้องกันการเข้าทาลายของ ศัตรูต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีโดยไม่จาเป็นต้องใช้ยาปราบศัตรูพืชก็ได้ การใช้ยาปราบ ศัตรูพืชให้ใช้ในกรณีรีบด่วน หรือเกิดการระบาดอย่างมากเท่านั้น 2. แมลง ที่พบอยู่เสมอคือ หนอนไชลาต้น โดยเฉพาะในสวนที่ไม่ค่อยดูแลรักษา ปล่อยให้รกรุงรังจะพบมาก และยังพบมากในต้นขนุนที่มีอายุมาก ๆ ตัวหนอนจะ เจาะไชอยู่ตามกิ่ง ต้น สังเกตได้ดือรูที่หนอนไชจะมียาง ขนุนไหลออกมา เมือพบว่า หนอนเจาะไชเข้าไปในกิ่งหรือต้นแล้ว การกาจัดจะทาได้ลาบาก ที่ทาได้คือเปิดปาก รูแล้วใช้สาลีชุบยาฆ่าแมลงเช่น ดีลดรีน ดีดีที อุดเข้าไปในรู แล้วใช้ดินเหนียว อุดปากรูไว้ หรือใช้ยาฉีดยุงฉีดเข้า ไปในรูแล้วอุดด้วยดินเหนียว ยาจะระเหยเข้า ไปฆ่าหนอนได้ ส่วนกิ่งที่พบว่ามีหนอนไชมากให้ตัดเอาไปเผาทิ้ง เสีย นอกจากนี้อาจมีตัวหนอนหรือแมลงไชผล ทาให้บริเวณนั้นเน่าเป็นสีดา ผลแป้วหรือเบี้ยวขายไม่ได้ราคา การ ป้องกันอาจฉีดด้วยยาฆ่าแมลงชนิดต่าง ๆ ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นผลอ่อนป้องกันไว้ก่อน หรืออาจทาได้โดยการห่อ ผลขนุนด้วยกระดาษ หนังสือพิมพ์ตั้งแต่ยังเป็นผลอ่อนอยู่ นอกจากนี้แมลงศัตรูของขนุนที่อาจพบก็มี เพลี้ย แป้ง เพลี้ยหอย หากพบให้ใช้ ชีวภัณฑ์กาจัดศัตรูพืช(ปลอดสารพิษ) “เมทา-แม็ก” อัตรา 50-100 กรัมต่อ น้า 20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อตรวจพบศัตรูพืชซ้า 2-3 ครั้ง ห่างกัน 5-7 วันและอื่น ๆ แต่ไม่ค่อยมีความสาคัญนัก การ ดูแลสวนให้สะอาด และการใช้ ไบโอเฟอร์ทิล สูตรบารุงต้น ไล่แมลง ตามคาแนะนาเป็นประจาอยู่เสมอ จะทา ให้ป้องกันการระบาดของแมลงได้เป็นอย่างดี(ประสบการณ์เกษตรกรผู้ใช้จริง) ต้นขนุนที่ปลูกด้วยกิ่งตอน กิ่งทาบ จะออกดอกและผลประมาณปีที่ 3-4 หลังจากปลูก ส่วนการปลูกด้วยเมล็ด จะให้ผลประมาณปีที่ 4-6 ทั้งนี้ขี้นอยู่กับการบารุง รักษาต้นด้วย ดอกของขนุนมีดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่บน ต้นเดียวกัน แต่แยกกัน เป็นคนละดอก ดอกจะออกตามลาต้นและกิ่ง ดอกตัวผู้เรียกว่า ส่า เพราะมีกลิ่นคล้าย ส่าเหล้า ซึ่งจะร่วงไปในเวลาต่อมา ส่วนดอกตัวเมียมักอยู่ตามกิ่งใหญ่และลาต้น มีสีเขียวและใหญ่กว่าดอกตัวผู้ เมื่อได้รับการผสมแล้วจะเจริญเติบโตเป็นผลแก่ ภายใน 8 เดือน ปกติจะออกผลปี ละสองดรั้ง คือครั้งแรกราว เดือน ธันวาศม มกราคม และครั้งที่สองราวเดือน เมษายน พฤษภาคม และมีบางต้นที่ให้ผลตลอดปีก็มี สาหรับผลผลิตนั้น แล้วแต่ขนาดของต้น เช่น ต้นอายุ 10 ปีขี้นไป จะมีผลประมาณ 40-50 ผลต่อปี เป็นต้น การไว้ผลนั้น ถ้ากิ่ง หรือด้นไม่ใหญ่มากนักแต่ติดผล มาก เมื่อผลติดและโตพอสมควรแล้วให้ตัดออกเสียบ้าง นามารับประทานหรือขาย เป็นขนุนอ่อน การไว้ผลมากจนเกินกาลังของต้นจะเป็นผลเสีย การตัดผลออกนั้น พยายาม ให้ผลที่เหลือบนต้นกระจายอยู่ทั่ว ๆ ต้น ผลขนุนที่แก่ขนาดเก็บได้ จะสังเกตได้จากตาหนามที่เจริญขยายห่าง และผิว ของผลเป็นสีเหลืองมากขึ้น หรือ อาจใช้มีดกรีดที่ขั้วผล ถ้าผลแก่จะมียางไหลออกมา น้อยและมีลักษณะข้นเหนียว การเก็บผลที่อยู่สูง ๆ ให้ตัด แล้วใส่ตะกร้าโรยลงมาจาก ต้นเพื่อไม่ให้ผล ช้าเสียหาย ข้อเปรียบเทียบเมื่อใช้ยักษ์เขียว,ไบโอเฟอร์ทิล ตามคาแนะนาเป็นประจา
  • 6. 1. ใบเขียวทนกว่าและสภาพดินดีกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี ต้นเจริญเติบโตได้เร็ว ไม่อ่อนแอต่อโรค 2. ต้นขนุนจะสมบูรณ์ตลอดทั้งปี ให้ผลผลิตมาก ติดผลดี 3. ต้นทุนปุ๋ยทางดินจะลดลงจากเดิม(ถูกกว่าเคมี)ประมาณ กึ่งหนึ่ง 4. หากใช้กับต้นโทรมที่มีอาการใบเหลืองโทรมและร่วง เนื่องจากดินเสื่อมสภาพจากการใส่ปุ๋ยเคมีมากเกินไป (ความเค็มของเคมีตกค้างมาก) ทาให้ไม่ตอบสนองต่อปุ๋ยเคมี จะพบว่า ต้นกลับมีสภาพดีขึ้น ใบเขียวขึ้น และ แตกใบใหม่ออกมามาก สภาพต้นดีขึ้นตามลาดับ(เริ่มเห็นได้ชัดหลังการใช้ประมาณ 2-3 ครั้ง)