This can be used as a source of English grammar learning : Subject-verb agreement

1. Subject - Verb Agreement
ในประโยคภาษาอังกฤษ ประธานของ
ประโยค (Subject) และการใช้คากริยา (Verb)
จะต้องสอดคล้องกัน กล่าวคือ ถ้าประธานเป็น
เอกพจน์ กริยาต้องเป็นเอกพจน์ ถ้าประธานเป็น
พหูพจน์ กริยาต้องเป็นพหูพจน์
ปัญหาสาหรับผู้เรียน คือ ไม่แน่ใจว่าประธานเป็น
เอกพจน์หรือพหูพจน์ เช่น
• government,committee ซึ่งเป็นได้ทั้งเอกพจน์
และพหูพจน์ แล้วแต่การใช้
• furniture,money ดูน่าจะเป็นพหูพจน์ แต่ใน
ภาษาอังกฤษ คาเหล่านี้เป็นนามนับไม่ได้ มี
ความหมายเป็นเอกพจน์
• police,people ใช้อย่างพหูพจน์เท่านั้น
1

2. เพราะฉะนั้น ผู้เรียนจะต้องทาความเข้าใจ
ข้อยกเว้นต่าง ๆ ให้ถ่องแท้ จึงจะสามารถใช้
คากริยาให้สอดคล้องกับประธานได้อย่างถูกต้อง
เพื่อความเข้าใจง่าย จะได้อธิบายให้ทราบเป็นข้อ
ๆ ดังต่อไปนี้
1. ประธานเป็นเอกพจน์ กริยาเป็นเอกพจน์
ประธานเป็นพหูพจน์ กริยาเป็นพหูพจน์ เช่น
Jane lives in China. เจนอาศัยอยู่ในประเทศจีน
The Jones live in France. ครอบครัวโจนส์
อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส
2. กรณีมีประธาน 2 ตัว เชื่อมด้วย and ถือ
เป็นพหูพจน์ กริยาต้องใช้รูปพหูพจน์ เช่น
Jean and David are moving back to
Australia. เจนและเดวิด กาลังจะย้ายกลับไป
ประเทศออสเตรเลีย
2

3. a) กรณีมีประธาน 2 ตัว เชื่อมด้วย and แต่
นามาใช้ โดยคิดเป็นหน่วยเดียวกัน ให้ใช้กริยาเป็น
เอกพจน์ เช่น
Bread and butter has been my breakfast
for years.
ขนมปังและเนย เป็นอาหารมื้อเช้าของฉันมาหลาย
ปีแล้ว
Honesty and truth is the best policy.
ความซื่อสัตย์และความจริงเป็นนโยบายที่ดีที่สุด
Rice and curry is my daughter's favorite
food.
ข้าวแกงกะหรี่เป็นอาหารโปรดของลูกสาวฉัน
3

4. • แต่ถ้าผู้พูดคิดว่าแยกกัน ก็จะมีความหมายเป็น
พหูพจน์ เช่น
Rice and curry are what we have for
lunch today. เรามีข้าวและแกงกะหรี่เป็นอาหาร
กลางวันวันนี้
b) ประธานที่มีคานามมากกว่า 1 และเชื่อมด้วย
and หากเป็นคนหรือสิ่งเดียวกัน จะมี article ที่
ประธานตัวหน้าแห่งเดียว หากเป็นคนละคนกัน
จะมี article ที่คานามทั้งสอง เช่น
The manager and owner of this restaurant
is my friend. ผู้จัดการและเจ้าของร้านอาหารนี้
เป็นเพื่อนของฉัน (คนเดียวกัน)
The manager and the owner of this
restaurant are my friends. ผู้จัดการและ
เจ้าของร้านอาหารนี้เป็นเพื่อนของฉัน (คนละคน)
4

5. The black and white cat under the table
is my cat. แมวขาวดาใต้โต๊ะนั้นเป็นแมวของฉัน
(ตัวเดียว)
The black and the white cat under the
table are my cats. แมวขาวและแมวดาใต้โต๊ะ
นั้นเป็นแมวของฉัน (2 ตัว)
3. ประธานเอกพจน์ที่มีคาคุณศัพท์บอกสีหรือ
บอกขนาดมาขยายข้างหน้า จะถือเป็นเอกพจน์
หรือ พหูพจน์นั้น ให้สังเกตดังนี้
a) ถ้าคาคุณศัพท์ที่ไปขยายคานามมี article
นาหน้าเฉพาะคาคุณศัพท์ตัวที่ 1 ให้ถือว่าเป็น
เอกพจน์ เช่น
The white and black cat is mine.
แมวสีขาวดาตัวนั้นเป็นแมวของฉัน
b) ถ้าคาคุณศัพท์ที่ไปขยายคานามต่างมี article
นาหน้าทั้งคู่ ให้ถือว่าเป็นพหูพจน์ เช่น
5
6

6. A white and a black cat are mine.
แมวสีขาวและสีดาเป็นแมวของฉัน
4. คานามที่แสดงหมวดหมู่ (Collective Noun)
อันได้แก่ class (ชั้นเรียน) , family (ครอบครัว)
group (กลุ่ม) , team (คณะ) , committee
(คณะกรรมการ) , jury (คณะลูกขุน) , cabinet
(คณะรัฐมนตรี) , government (รัฐบาล) , fleet
(กองเรือ) , crew (ลูกเรือ)
เมื่อไปเป็นประธานในประโยค จะใช้กริยาเป็น
เอกพจน์หรือพหูพจน์นั้น ขึ้นอยู่กับความมุ่งหมาย
ของผู้พูด
a) ถ้าผู้พูดหมายถึงทั้งหมดเป็นหน่วยเดียวกัน จะมี
ความหมายเป็นเอกพจน์ เช่น
The football team is playing well.
ทีมฟุตบอลนั้นกาลังเล่นได้ดี
7

7. b) ถ้าผู้พูดหมายถึงว่ากลุ่มนั้นมีหลายคน และแต่
ละคน ต่างก็ทากริยานั้น ๆ จะมีความหมายเป็น
พหูพจน์ เช่น
The football team are having baths.
(คณะ) ฟุตบอลทีมนั้นกาลังอาบน้า
5. ประธานที่มีวลีหรือคาขยายต่อไปนี้ต่อท้าย
จะใช้กริยาเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์นั้น ต้องยึด
การใช้กริยาตามประธานตัวหน้าเป็นหลัก อัน
ได้แก่accompanied by (พร้อมด้วย), in
company with (พร้อมด้วย), along with (พร้อม
ด้วย), including (รวมทั้ง), as well as
(เช่นเดียวกับ), like (เช่นเดียวกับ), besides
(นอกจาก), not (ไม่ใช่), but (ยกเว้น), plus
(รวมทั้ง), excluding (ไม่นับ), with (พร้อมกับ), in
addition to (นอกจาก) เช่น
John together with his colleagues has
agreed to work late tonight to get the job
8

8. finished. จอห์นพร้อมทั้งเพื่อนร่วมงานของเขาตก
ลงที่จะอยู่ทางานดึกเพื่อให้งานเสร็จ (ใช้กริยาตาม
John)
Some people including my brother find
cricket boring. คนบางคนรวมทั้งน้องชายฉันคิด
ว่าคริกเก็ต (เป็นกีฬาที่คล้ายเบสบอลนิยมเล่นใน
ประเทศอาณานิคมอังกฤษเช่น ออสเตรเลีย
นิวซีแลนด์ อินเดีย ปากีสถาน) เป็นกีฬาที่น่าเบื่อ
(ใช้กริยาตาม some people)
6. คาต่อไปนี้ถือเป็นเอกพจน์ เมื่อมาเป็นประธาน
ของประโยค ต้องใช้กริยาเอกพจน์เสมอ ได้แก่
anybody, anyone, anything, anywhere,
nobody , everybody , everyone ,
everything , everywhere , someone ,
somebody , something , somewhere ,
nothing , every + นามเอกพจน์ , each +
นามเอกพจน์ , each of + นามพหูพจน์ ,
either + นามเอกพจน์ , either of + นาม

9. พหูพจน์ , neither +นามเอกพจน์ , neither of
+ นามพหูพจน์ เช่น
Is there anybody here who could speak
Japanese? มีใครที่นี่พูดภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง
Each of the lessons takes an hour. บทเรียน
แต่ละบทใช้เวลา 1 ชั่วโมง
Neither of my sisters is married. ไม่มี
น้องสาวคนไหนของฉันแต่งงานเลย
Somebody is in the room.
มีใครบางคนอยู่ในห้อง
Either of us is to clean up the house
after the party tonight.
เราคนใดคนหนึ่งต้องทาความสะอาดบ้าน หลังงาน
เลี้ยงคืนนี้
10

10. 7. ประธานเอกพจน์ 2 ตัวที่เชื่อมด้วย and แล้ว
ไปเรียงตามหลัง each หรือ every ให้ถือเป็น
เอกพจน์ เช่น
Each man and woman works hard.
ชายและหญิงแต่ละคนทางานหนัก
Every boy and girl is sitting under the tree.
เด็กชายและเด็กหญิงทุกคนกาลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้
8. คา Indefinite Pronoun ต่อไปนี้ถ้าใช้แทน
คานามนับได้ ถือเป็นพหูพจน์เสมอ
all (ทั้งหมด), both(ทั้งสอง), few(น้อย), many
(มาก), several(หลาย), some(จานวนหนึ่ง) เช่น
All were ready to leave the party by
midnight. ทั้งหมดพร้อมที่จะออกจากงานเลี้ยง
ตอนเที่ยงคืน
1
1

11. Few were in the audience to see the
horrible play. มีคนดูละครห่วยๆนี้อยู่ไม่กี่คน
Many were invited to the lunch but only
twelve showed up. มีคนไดัรับเชิญรับประทาน
อาหารกลางวันหลายคน แต่มีคนมาเพียง 12 คน
9. การใช้วลีบอกปริมาณ
a) วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ ถ้าตามด้วยนาม
เอกพจน์
กริยาต้องใช้เอกพจน์ ถ้าตามด้วยนามพหูพจน์
กริยาต้องใช้พหูพจน์ ได้แก่ a lot of, lots of,
plenty of, all of, most of, none of, some
of, ...percent of เช่น
I think a lot of English wine is too
sweet. ฉันคิดว่าไวน์ของอังกฤษจานวนมากหวาน
เกินไป (wine เป็นนามนับไม่ได้มีความหมายเป็น
เอกพจน์)
12

12. A lot of people are in the room. มีคน
จานวนมากในห้อง (people มีรูปเอกพจน์คือไม่มี
s แต่มีความหมายพหูพจน์ จึงใช้ are)
Some of my jewelry is missing.
ของประดับมีค่าของฉันหายไปบางชิ้น
Some of my friends were at the airport to
see me off.
เพื่อนบางคนไปส่งฉันที่สนามบิน
Ten percent of the men have lung
problems. สิบเปอเซนต์ของผู้ชายมีปัญหา
เกี่ยวกับปอด
Ten percent of the money is yours. เงิน
สิบเปอเซนต์เป็นของคุณ
b) วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ใช้กับนามนับได้ที่เป็น
พหูพจน์ และกริยาก็ต้องเป็นพหูพจน์ตามด้วย
1
3

13. ได้แก่a few, a number of, a good number
of, a large number of, a great number of, a
great many, a good many, a great variety
of, two or three of, many เช่น
A number of students are playing
football.
นักเรียนจานวนมากกาลังเล่นฟุตบอล
There are still a large number of
problems to be solved.
ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขอีกมาก
10. วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ เมื่อใช้กับนามนับไม่
ได้ กริยาต้องใช้รูปเอกพจน์ตลอดไป ได้แก่ an
amount of, a great deal of, a good deal of,
a large amount of, a large quantity of, a
little, much เช่น
1
4

14. A great deal of gold was divided into two
parts.
ทองคาจานวนมากถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
หมายเหตุ : แต่ the number of ตามด้วยนาม
พหูพจน์ และใช้กริยาเอกพจน์ เช่น
The number of students in the class is
limited to twenty. จานวนของนักเรียนในห้อง
จากัดที่ยี่สิบคน
11. ประธานหลายคาที่เชื่อมด้วย of จะใช้กริยา
ตามประธานที่อยู่หน้า of เป็นหลัก เช่น
Freedom of speech , press , and religion is
what we need. เสรีภาพทางการพูด การพิมพ์
และการนับถือศาสนาเป็นสิ่งที่เราต้องการ
12. คานามต่อไปนี้มีรูปเป็นพหูพจน์ แต่ความ
จริงเป็นเอกพจน์ กริยาที่ใช้จึงต้องเป็นเอกพจน์
1
5

15. ตลอดไป ได้แก่ physics , economics
(เศรษฐศาสตร์), politics (การเมือง) , news ,
mathematics , mumps (โรคคางทูม) ,
measles (โรคหัด) , ashes(ขี้เถ้า) , alms (ของ
บริจาค), means(วิธี) เช่น
Mathematics is a required subject.
คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่จาเป็น
13. คาต่อไปนี้เป็นทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ในรูป
เดียวกัน ต้องดูจากความหมายว่าเป็นเอกพจน์
หรือพหูพจน์ ได้แก่ deer, sheep, poultry (เป็ด
ไก่), fish, trout (ปลาเทราท์), herring (ปลาแฮร์
ริ่ง), cod(ปลาคอดด์), salmon(ปลาแซลมอน) เช่น
Fish is good to eat. ปลาอร่อยที่จะทาน
Three fish were bought at the market. ปลา
สามตัวซื้อที่ตลาด
16

16. 14. คาต่อไปนี้มีรูปเอกพจน์ แต่ใช้กริยาพหูพจน์
ได้แก่ cattle (วัวควาย) , people , police ,
youth (เยาวชน) , children (เด็กๆ) , public
(สาธารณชน), vermin(สัตว์ตัวเล็ก),poultry เช่น
The police are standing round the house.
ตารวจกาลังยืนล้อมบ้านหลังนั้นอยู่
15. คาต่อไปนี้เป็นพหูพจน์เสมอ จึงใช้กริยา
พหูพจน์ ได้แก่ shorts(กางเกงขาสั้น), clothes
(เสื้อผ้า) arms(อาวุธ), ashes(เถ้าถ่าน), bowels(
เครื่องใน), glasses (แว่นตา), spectacles(
แว่นตา), goods(สินค้า), scissors(กรรไกร),
sandals (รองเท้าแตะ), slacks(กางเกงขายาว),
slippers (รองเท้าแตะ), riches(ทรัพย์สมบัติ),
thanks (ขอบคุณ), tactics(ยุทธวิธี), trousers(
กางเกงขายาว), whiskers (เครา) เช่น
His whiskers are both long and beautiful.
เคราของเขาทั้งยาวและก็สวยด้วย
17

17. 16. ชื่อหนังสือ จานวนเงิน หรือมาตราต่างๆ
ระยะทาง และเวลา แม้จะเป็นพหูพจน์ ก็ใช้
กริยาเป็นเอกพจน์เสมอ เช่น
“Gulliver's travels” was written by Swift.
หนังสือเรื่องการเดินทางของกัลลิเวอร์ เขียน
โดยสวิฟต์
Twenty thousand baths is too high for
this camera. ราคาสองหมื่นบาทสูงเกินไปสาหรับ
กล้องตัวนี้
Two hundred miles is a long way.
สองร้อยไมล์เป็นระยะทางที่ไกลมาก
This weeks is too long time to wait.
3 สัปดาห์เป็นเวลาที่นานเกินไปที่จะรอคอย
18

18. 17. ประธานซึ่งเชื่อมด้วยคาต่อไปนี้ กริยาถือ
ตามประธานตัวหลัง either..or, neither..nor,
..or.., not only... but also... เช่น
Neither the Priminister nor his
representatives are to attend the meeting.
ทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้แทน(ของนายก ฯ) ไม่ต้อง
เข้าร่วมการประชุม
Either the teachers or the principal is to
blame for the accident. ไม่พวกครูก็ครูใหญ่
ต้องรับผิดชอบในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
Not only Jim but also his friends
are coming to the party tonight. ไม่เพียงแต่
จิมเท่านั้นที่มาร่วมงานเลี้ยง เพื่อนๆของเขาก็มา
ด้วย
หมายเหตุ : ในกรณีประธาน 2 ตัว นิยมเอา
ประธานที่เป็นพหูพจน์ไว้ข้างหลังมากกว่า
1
9

19. 18. ประโยคที่มี who, which , that เป็น
Relative Pronoun กริยาจะใช้รูปของเอกพจน์
หรือพหูพจน์ ให้ถือเอาตามคาที่มันไปแทน
(Antecedent) ซึ่งวางอยู่หน้า who, which ,
that เช่น
He is one of my friends who are
millionaires. เขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งของฉัน (ใน
หลายๆคน) ที่เป็นเศรษฐี (ใช้ are เพราะ who
ขยาย my friends)
19. ประธานสองตัว ตัวหนึ่งเป็นบอกเล่า อีกตัว
เป็นปฏิเสธ ให้ใช้กริยาตามประธานตัวที่เป็นบอก
เล่า เช่น
You , not I , are responsible for that.
คุณไม่ใช่ผม ที่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องนั้น
20. ประธานที่ขึ้นต้นด้วย Infinitive Phrase
(วลีที่นาหน้าด้วย to) หรือ gerund (-ing) ถือ
20

20. ว่าเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเป็นรูปเอกพจน์ตาม
เช่น
To see is to believe.
ต้องได้เห็นจึงจะเชื่อได้ (สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น)
To distill a quart a moonshine takes two
hours.
การกลั่นเหล้าเถื่อน1ควอตใช้เวลา 2 ชั่วโมง
Winning the national championship is
her most important achievement.
การชนะเลิศระดับชาติเป็นความสาเร็จที่สาคัญมาก
สาหรับเธอ
21. ประธานที่เป็น The + v.3 หรือ The +
adj. จะใช้กริยาพหูพจน์ ได้แก่ the wounded,
the injured , the poor, the rich , the young
, the old เช่น
21

21. The bad go to hell, but the good go to
heaven. คนชั่วไปนรก แต่คนดีไปสวรรค์
22. รูปต่อไปนี้มักใช้สับสน
Only one of + นามพหูพจน์ + that , who ,
whicn + กริยาเอกพจน์ เช่น
He is only one of the three boys who
comes here.
One of + นามพหูพจน์ + that , who ,which
+ กริยาพหูพจน์ เช่น
He is one of the ten boys who come here.
23. เศษส่วนของคานามพหูพจน์ ใช้กริยา
พหูพจน์ เศษส่วนของคานามเอกพจน์ ใช้กริยา
เอกพจน์ เช่น
Two-thirds of the boys are absent. สอง
ในสามของเด็กชายขาดเรียน
22
2
3

22. Two-thirds of the wall has been
painted. สองในสามของฝาผนังได้ทาสีไปแล้ว
24. ความหมายทางคณิตศาสตร์ เมื่อเชื่อมด้วย
and ต้องใช้กริยาเป็นพหูพจน์ (ในความหมาย
เป็นบวก, คูณ) เช่น
Fifty and fifty are hundred.
50 บวก 50 ได้ 100
Four and four make sixteen.
4 คูณ 4 ได้ 16
25. ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย Here และ There ให้
วางประธานไว้หลังกริยา กริยาให้ใช้ตามประธาน
ที่ตาม
หลังนั้นอีกทีหนึ่ง (จะใช้ตาม here,there ไม่ได้
เพราะ here,there ไม่ใช่ประธาน) เช่น
24

23. There are three books in the suitcase.
มีหนังสือ 3 เล่มอยู่ในกระเป๋า
There have been two accidents so far.
ได้มีอุบัติเหตุ 2 ครั้งนานมาแล้ว
Here comes the bus. รถประจาทางมาที่นี่
หมายเหตุ : ถ้าประธานเป็นบุรุษสรรพนาม ให้วาง
ไว้หน้ากริยา และพจน์ของกริยาต้องถือเอาตาม
สรรพนามตัวนั้น ๆ เช่น
There he goes. เขาไปที่นั่น
Here we are. พวกเราอยู่ที่นี่