More Related Content
Similar to ปัญหาการข่มขืน
Similar to ปัญหาการข่มขืน (10)
ปัญหาการข่มขืน
- 1. เรื่อง ปัญหาการข่มขืน
จัดทาโดย
นางสาวคันธรส ใคร่ในธรรม เลขที่ 21
นางสาวรวิสรา คชายุทธ เลขที่ 23
นางสาวธิดาพร แก้วตา เลขที่ 30
นางสาวกานติรัตน์ มนูเดชาวัชร เลขที่ 35
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4
เสนอ
คุณครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา IS
โรเงรียนเฉลิมพระเกียรติกาญจนบุรีสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
ปีการศึกษา ๒๕๕๙ ภาคเรียนที่ ๑
- 2. คานา
โครงงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ IS ชั้นมัธยมศึกษาปี
ที่ 5 โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตัวนักเรียนเอง ซึ่งโครงงานเล่มนี้มีเนื้อหา
ความรู้เกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย สาเหตุของการฆ่าตัวตาย สภาพแวดล้อมของบุคคล และวิธีแก้ไขปัญหา
ผู้จัดทาได้เลือกหัวข้อนี้ในการทาโครงงาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นเด็กในวัยเรียน หรือผู้ใหญ่ รวมถึงเป็นการชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้นเป็นพฤติกรรมที่
รุนแรง และเผยแพร่ข้อมูลให้นักเรียนในโรงเรียนได้เห็นถึงความรุนแรงของการข่มขืน
ในการจัดทาโครงงานประสอบสื่อการเรียนรู้ในครั้งนี้ ผู้จัดทาขอขอบคุณ คุณครูทรงศักดิ์
โพธิ์เอี่ยม ผู้ให้คาปรึกษาและข้อเสนอแนะต่างๆเกี่ยวกับรูปเล่มของโครงงาน เพื่อนๆ ทุกคนที่ให้
ความร่วมมือและช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัดทาหวังว่าโครงงานเล่มนี้จะให้ความรู้ และเป็นประ
โยขน์แก่ผู้ที่ได้ศึกษาทุกๆ ท่าน
คณะผู้จัดทา
ก
- 3. กิตติกรรมประกาศ
การค้นคว้างานฉบับนี้สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี เนื่องจากผู้ค้นคว้าได้รับความช่วยเหลือ ดูแลเอาใจ
ใส่เป็นอย่างดี โดยฌฉพาะอาจารย์ที่ปรึกษา ในการแนะนา ตรวจทาน แก้ไข ให้ข้อเสนอแนะ
ติดตามความก้าวหน้าในการดาเนินงานโครงงาน ผู้ค้นคว้ารู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของอาจารย์
เป็นอย่างยิ่ง และขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้
ขอขอบคุณ คุณครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม ครูผู้สอนวิชา Is1 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ กาญจนบุรี ที่ได้
กรุณาให้ข้อเสนอแนะ แก้ไข และให้แนวคิดต่างๆที่เป็นระโยชน์
ขอขอบคุณ สมาชิกในกลุ่มที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คอยให้กาลังใจ ช่วยดาเนินงานให้
โครงงานนี้เสร็จลุล่วงไปด้วยดี ผู้ค้นคว้ารู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาและความปราถนาดีของทุกๆท่าน
เป็นอย่างยิ่ง จึงกราบขอบคุณและขอบคุณในโอกาสนี้
คณะผู้จัดทา
กลุ่ม 2
ข
- 4. สารบัญ
คานา ก
กิตติกรรมประกาศข
สารบัญ ค
สารบัญภาพ ง
บทที่ 1อาการของการข่มขืน
1.1 คาจากัด 1
บทที่ 2พฤติกรรมที่บ่งชี้ว่าถูกข่มขืนแล้ว 2
บทที่ 3ผลกระทบของการถูกข่มขืน 3
3.1กรณีที่ผู้ถูกข่มขืนเป้นหญิงสาว 3
3.2 กรณีผู้ถูกข่มขืนเป็นเด็ก 3
บทที่ 4ทาอย่างไรเมื่อถูกข่มขืน 4
4.1 แจ้งความได้ดังนี้ 4
บทที่ 5 การป้องกันการถูกข่มขืน 5
บรรณนานุกรม 7
ค
- 6. บทที่ 1
อาการของการข่มขืน
การแสดงออกทางเพศ อาจเป็นการแสดงออกในรูปของการลูบคลา กอด ไปจนถึงการมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะที่
รุนแรงที่สุดคือ การข่มขืน นอกจากนั้นยังรวมไปถึงการร่วมเพศทางทวารหนัก หรือทางปากด้วย การข่มขืน เป็น
ภัยทางเพศที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลาและสถานที่ ไม่จากัดว่าต้องเป็นสถานที่เปลี่ยวเท่านั้น ภัยข่มขืนอาจเกิดขึ้นได้ทั้ง
ที่ทางาน บนถนนหนทาง สถานที่ราชการ โรงเรียน ตลอดจนสถานที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดคือบ้าน และการข่มขืน
สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ส่วนผู้กระทาการข่มขืนนั้นมีตั้งแต่คนใกล้ชิดที่สุดใน
ครอบครัว เช่น พ่อ พ่อเลี้ยง ปู่ ตา น้า น้องชาย รวมถึงบุคคลที่ได้รับการเคารพนับถือ
1.1 คาจากัดความ
การถูกข่มขืน เป้นการกระทาของการที่ถูกผู้ไม่หวังมาฉุดตัวไปโดยที่เราไม่ได้ยินยอมแต่อย่างใด แล้วเป้น
สิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งการข่มขืนมักจะมาจากการไปไหนมาไหนคนเดียวในที่เปลี่ยว แต่งตัวโป๊ เลยทาให้ผู้ไม่หวังดี
ลงมาทาอาจจะเป้นโดยการถีบรถ การฉุดกระชาก เป้นต้น
รูปที1.1การข่มขืน
1
- 7. บทที่ 2
พฤติกรรมที่บ่งชี้ว่าบุคคลนั้นอาจถูกทารุณกรรมทางเพศแล้ว
1. แยกตัว เหม่อลอย
2. รู้สึกว่าตนเองไม่ดี
3. ใกล้ชิดกับใครบางคนมากเกินไป
4. มีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่ไม่ดี
5. การเล่าเรื่องอย่างเปิดเผยให้คนใดคนหนึ่งฟัง
6. วิตกกังวลเกี่ยวกับร่างกายตนเองมากไป เช่น บ่นเจ็บที่อวัยวะเพศ
7. ตื่นกลัว ตกใจง่าย โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่หรือผู้ชาย
8. รู้เรื่องเพศเกินวัย
9. สาเร็จความใคร่ด้วยตัวเองบ่อยครั้ง
10. หนีออกจากบ้าน
11. พยายามฆ่าตัวตาย
2
- 8. บทที่ 3
ผลกระทบเมื่อถูกทารุณกรรมทางเพศ
3.1. กรณีผู้ถูกข่มขืนเป็นหญิงสาว ผู้ถูกข่มขืนจะมีความวิตกกังวลสูงและกลัวคนจะรู้เกิดความอับอาย
มาก กลัวคนไม่ยอมรับ กลัวถูกทอดทิ้ง และที่สาคัญที่สุดคือ ผู้ถูกข่มขืนจะรู้สึกว่าตนเองไม่ดี มีมลทิน
ติดตัว สูญเสียความเป็นลูกผู้หญิง อันเนื่องมาจากค่านิยมเรื่องพรหมจรรย์ที่ถูกสั่งสอนว่าเป็นคุณค่า
ของผู้หญิง ความรู้สึกต่างๆ ดังกล่าวนั้น อาจส่งผลให้ผู้หญิงเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆ ได้
ในระยะยาว เช่นก้าวร้าว แยกตัว พยายามฆ่าตัวตาย หรือประชดชีวิตด้วยการขายบริการทางเพศ เป็น
ต้น
3.2. กรณีที่ผู้ถูกข่มขืนเป็นเด็ก พัฒนาการของเด็กจะหยุดชะงัก มีอารมณ์แปรปรวนง่าย อยู่ในภาวะ
ซึมเศร้า เหม่อลอย เกิดความอับอาย แต่จะน้อยกว่าในกรณีหญิงสาวเพราะเด็กยังไม่เข้าใจถึง
ผลกระทบทางสังคม มากนัก
รูปที่ 3.3 ผลกระทบของการข่มขืน
3
- 9. บทที่ 4
ทาอย่างไรหลังจากถูกข่มขืน
1. หลังเกิดเหตุ ไม่ควรชาระล้างร่างกายหรือเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อเก็บเป็นหลักฐานพิสูจน์
2. ไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย และยังสามารถ
ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ด้วย (ที่ได้ผลคือภายใน 48 ชั่วโมง หลังถูกข่มขืน)
3. ต้องแจ้งความหรือร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนหรือตารวจ เพราะการไม่บอกผู้ปกครอง
หรือไม่แจ้งความนั้น อาจทาให้ผู้กระทาผิดได้ใจ และย้อนกลับมาข่มขืนอีก และยังเป็น
อันตรายต่อสังคมอย่างมาก เพราะเหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นกับบุคคลอื่นอีกหลายๆคน
4.1 แจ้งความได้ดังนี้
1. กรณีผู้ถูกข่มขืน มีอายุต่ากว่า 20 ปี ให้พ่อแม่ หรือผู้ปกครองพาไปแจ้งความ
2. กรณีผู้ถูกข่มขืน มีอายุ 20 ปีขึ้นไป สามารถแจ้งความได้ด้วยตนเอง (อายุ 16 ปีขึ้นไป ก็
อนุโลมแจ้งความด้วยตนเองได้
รูปที่ 4.1ควรไปแจ้งความ
4
- 11. บทที่ 6
สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประเด็น
พ่อแม่โวยครู ร.ร.ย่านปทุมธานี ปล่อยชายแปลกหน้ามารับลูกสาวไปข่มขืน เตรียมร้องมูลนิธิปวีณาฯ
นายภูมิ และ นางอ้อม สองสามีภรรยา ชาว จ.ปทุมธานี ร้องเรียนว่า ตนมีบุตรสาวชื่อ น้องลาไย (นาม
สมมุติ) วัย 11 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.5 โดยน้องได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ไปโรงเรียน
ตามปกติ ขณะนั้นได้มีชายแปลกหน้าเป็นวัยรุ่นขับจักรยานยนต์มาจอดหน้าโรงเรียนแล้วแจ้งครูว่าจะ
ขอรับ เด็กหญิงลาไย พร้อมอ้างว่าผู้ปกครองให้มารับและจะมาส่งคืนต่อมาตนและภรรยาได้ไปรับลูก
ที่โรงเรียน และสอบถามครู พร้อมขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งครูประจาชั้นจาได้ว่า ชายคนก่อเหตุ
เคยเป็นอดีตนักเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ และเรียนจบไปจนมีครอบครัวแล้ว ต่อมาตนจึงแจ้งไปทาง สภ.
หนองเสือ ก่อนไปจับกุมตัวชายที่มารับตัวลูกสาวไปได้ที่บ้านพัก ทราบชื่อ นายสมชาย อายุ 21 ปี โดย
เบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเกิดอารมณ์จึงมารับเด็กนักเรียนที่ไม่รู้จักกันพาไปข่มขืนในซอย
เปลี่ยว บริเวณถนนเลียบคลองสิบสี่ ห่างจากโรงเรียนกว่า 10 กม. หลังข่มขืนเสร็จได้ขู่เด็กว่าหากนา
เรื่องไปบอกครูหรือพ่อแม่จะฆ่าให้ตาย จนเด็กกลัวจึงได้โทรศัพท์แจ้งพ่อแม่ให้มารับกลับบ้าน และจะ
ไม่ขอเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้อีกต่อไป ด้าน สองสามีภรรยา กล่าวว่า ตนข้องใจว่าเหตุใดโรงเรียนจึง
ปล่อยให้นักเรียนไปกับคนอื่นทั้งที่ไม่ใช่พ่อแม่ และตนกลัวว่าคดีนี้จะมีการวิ่งเต้นช่วยเหลือกัน จึง
เตรียมจะไปร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยเหลือด้านคดีต่อไป ขณะที่ตารวจกาลังอยู่ระหว่างรอผล
พิสูจน์จากแพทย์ซึ่งจะทราบภายใน 1 เดือน ส่วนผู้ต้องหาฝากขังอยู่ในเรือนจาธัญบุรี และได้คัดค้าน
การประตัว พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาในคดีนี้ มีคดีข่มขืน คดีพรากผู้เยาว์ไปจากผู้ปกครอง และข่มขู่จะทา
ร้ายด้วยอาวุธ เมื่อพยานหลักฐานครบก็จะส่งฟ้องต่อไป 6