More Related Content
Similar to พุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land Buddhism
Similar to พุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land Buddhism (20)
More from Padvee Academy (20)
พุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land Buddhism
- 7. ประวัติความเป็นมา
พุทธศาสนานิกายสุขาวดี (PURE LAND) แปลว่า ดินแดน
บริสุทธิ์ หรือ วิสุทธิภูมิ
ชื่อเรียกในภาษาจีน >> จิ้งถู่ (Ching T’u) /ภาษาญี่ปุ่น >>
โจโดะ (Jodo) หรือ ชิน (Shin)
เป็นนิกายหรือสานักที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน พ.ศ. ๘๐๐
มีเป้ าหมาย คือ การได้ไปอยู่ในพุทธเกษตรสุขาวดีของ
พระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ที่มีนามว่า “อมิตาภะ”
www.philosophychicchic.com
- 10. คณาจารย์สาคัญ
ท่านฮุย-หยวน (Hui – yuan) >> เป็นผู้ก่อตั้งนิกายสุขาวดี
มีชีวิตอยู่ปลายพุทธศตวรรษที่ ๘ ในราชวงศ์จิ้น (Jin)
ตะวันออก พักที่ วัดตังนิ่มยี่ บนภูเขาลู้ซัว มณฑลกังไส
ท่านและศิษย์ปฏิบัติสวดมนต์ กาหนดจิตเพ่งมองสระบัว ให้
เป็นสระทิพย์ในดินแดนสุขาวดี โดยการภาวนาเอ่ยนามของ
พระอมิตาภะเป็นอารมณ์
ก่อตั้ง สมาคมบัวขาว หรือ สุขาวดี พ.ศ. ๙๔๕ >> ปฏิบัติ ทา
สมาธิ ตั้งความปรารถนาที่จะไปเกิดในดินแดนสุขาวดี
www.philosophychicchic.com
- 12. คณาจารย์สาคัญ
ท่าน ถัน-หลวน (T’an – Luan) (พ.ศ. ๑๐๑๙-๑๑๙๕) เป็นอาจารย์
คนสาคัญของนิกายสุขาวดีและเผยแพร่นิกายออกไปในหมู่ชาว
จีนอย่างกว้างขวาง
ได้พบและได้รับการถ่ายทอดคาสอนจากท่านโพธิรุจิ ชาวอินเดีย
เชื่อมโยงหลักคาสอนของนิกายสุขาวดี กับแนวคิดเรื่องความ
เสื่อมแห่งพระพุทธศาสนา >> เมื่อกาลเวลายิ่งผ่านไป
พระพุทธศาสนายิ่งเสื่อมโทรมลงถึงที่สุด >> มนุษย์เต็มไปด้วย
กิเลสตัณหา >> ไม่ปฏิบัติธรรม ไม่บรรลุมรรคผลใดๆ >> มนุษย์
ไม่มีกาลังพอจะช่วยเหลือตัวเองได้....
www.philosophychicchic.com
- 14. คณาจารย์สาคัญ
ท่านเต้า-โจ (Tao-Ch’o) และ ศิษย์ คือ ชาน-เต้า (Shan-Tao)
เป็นผู้นาของนิกายสุขาวดีในการเผยแพร่คาสอนแบบง่ายๆ
เน้นศรัทธาต่อพระอมิตาภพุทธเจ้าเป็นหลัก
สอนว่า วิธีที่จะช่วยให้คนไปเกิดยังดินแดนสุขาวดี ก็คือ การ
เอ่ยนามของพระอมิตาภพุทธเจ้า
ถ้าเอ่ยด้วยใจที่แน่วแน่มุ่งสู่ดินแดนสุขาวดี จนจิตกลายเป็น
หนึ่งเดียว ไม่แบ่งแยก บุคคลก็สามารถเอาชนะบาปและ
ความชั่วร้ายในยุคเลื่อมได้
www.philosophychicchic.com
- 16. แนวคิดสาคัญของนิกายสุขาวดี
พระสูตรสาคัญของนิกายสุขาวดี มี ๓ พระสูตร คือ
มหาสุขาวตีวยูหสูตร >> ธรรมกรโพธิสัตว์และมหาปณิธาน ๔๘
ประการ // การประกอบกุศลกรรมและท่องพระนามพระอมิตาภ
พุทธเจ้า จะนาไปสู่ดินแดนสุขาวดี
จุลสุขาวตีวยูหสูตร >> บุคคลสามารถไปเกิดในดินแดนสุขาวดีได้
ด้วยการท่องบ่นพระนามของพระอมิตาภะในช่วงเวลาหนึ่งก่อน
สิ้นใจ
อมิตายุรธยานสูตร >> คุณธรรม ๓ ด้าน คือ คุณธรรมทางโลก
ศีล และการปฎฎิบัติบารมี ๖ ทาให้ไปอุบัติในดินแดนสุขาวดี
www.philosophychicchic.com
- 18. วิสุทธิภูมิ เป็ นโลกธาตุที่บริสุทธิ์ เป็ น
ภูมิหรือดินแดนที่พระพุทธเจ้าและ
พระโพธิสัตว์ในรูปสัมโภคกายจานวน
มากมายอุบัติขึ้นเพื่อแสดงธรรมโปรด
เวไนยสัตว์
เรียกอีกอย่างว่า “พุทธเกษตร” >> มี
ความงดงามราวกับสวรรค์ สมบูรณ์
ด้วยสิ่งดีงามและไม่มีความทุกข์
พุทธเกษตรไม่ใช่ภาวะนิพพาน แต่
เป็ นภาวะที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสวรรค์
กับนิพพาน >> เป็ นแดนพักระหว่าง
โลกกับนิพพาน
๑. แนวคิดเรื่องดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตร
- 20. ที่ได้ชื่อว่าสุขาวดีก็เพราะผู้อยู่ในดินแดนนี้ย่อมไม่มีความทุกข์เลย แต่เสวย
สุขอยู่เสมอ สุขาวดีเป็ นดินแดนที่สวยงามและสุขสบาย ล้อมรอบด้วยภูเขา
แก้ว กาแพงแก้ว มีสระโบกขรณีที่ประดับด้วยแก้วมณี มีดนตรีทิพย์บรรเลง
อยู่เสมอ ได้ยินเสียงพระธรรมเทศนาของพระอมิตาภพุทธเจ้าและพระ
โพธิสัตว์เสมอจนกว่าจะหลุดพ้น บรรยากาศต่าง ๆ นี้ทาให้ผู้อาศัยเกิด
พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ และสังฆานุสสติ และตั้งใจปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุ
นิพพานในดินแดนแห่งนี้
๑. แนวคิดเรื่องดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตร
- 22. พระอมิตาภะพุทธเจ้า ทรงพระสัมโภคกายพุทธเจ้า (พระธยานิ
พุทธะ) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในพุทธศาสนาแบบมหายาน ทั้ง
นิกายวัชรยาน และ มหายานนิกายต่างๆ
พระอมิตาภะพุทธะ ทรงเป็ นสัญลักษณ์แห่ง ปัญญาที่ทาให้มนุษย์
รู้จักผิดชอบชั่วดี และเลือกปฏิบัติในทางที่ถูก ประทับอยู่ทาง
ตะวันตกของพุทธมณฑล ณ ดินแดนพุทธเกษตรสุขาวดี
ภาพวาดของพระองค์มักวาดให้พระหัตถ์ยาว หมายถึง
ความสามารถที่จะเอื้อมพาสรรพสัตว์เข้าสู่แดนสุขาวดี มีพระชิวหา
ยาวตะหวัดได้รอบโลก อันหมายถึงความสามารถในการแสดง
ธรรมโปรดสัตว์ได้ทั่วโลก
๒. แนวคิดเรื่อง พระอมิตาภพุทธเจ้า
- 23. พระอมิตาภพุทธเจ้า มีเมตตาต่อสรรพสัตว์อย่างไม่มีประมาณ ทรง
ตั้งสัตย์อธิษฐานว่า ผู้ใดก็ตามที่มีความเชื่อมั่นอย่างแท้จริงต่อ
พระองค์ จะได้ไปเกิด ณ ดินแดนสุขาวดี
พระอมิตาภพุทธเจ้าเนรมิตพระธยานิโพธิสัตว์ ๒ พระองค์จากอานาจ
ฌาน คือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และ พระมหาสถามปราปต์
โพธิสัตว์ เพื่อช่วยในการช่วยเหลือสรรพสัตว์
ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนาแบบมหายานเกือบทุกนิกาย โดยเฉพาะ
ชาวจีนมีความปรารถนาสูงสุดว่า เมื่อตายไปแล้วขอให้ไปเกิดในแดน
สุขาวดีของพระอมิตาภะพุทธเจ้า จนทาให้เกิด “นิกายสุขาวดี”
๒. แนวคิดเรื่อง พระอมิตาภพุทธเจ้า
- 25. พระอวโลกิเตศวร เป็นพระโพธิสัตว์ในนิกายมหายานที่ได้รับการบูชา
แพร่หลายมากที่สุด สาเนียงจีนเรียกพระองค์ว่า กวนอิม,ญี่ปุ่นเรียก กันนอน
,ทิเบต เรียก เชนเรซิก
เป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา
คาว่า “อวโลกิเตศวร” มาจากคาสันสกฤตสองคาคือ อวโลกิต กับ อิศวร
แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ที่เฝ้ ามองจากเบื้องบน หรือพระผู้ทัศนาดูโลก ซึ่งหมายถึง
เฝ้ าดูแลสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์
พุทธศาสนิกชนชาวจีนจะรู้จักในพระนามว่า กวนซีอิม หรือ กวนอิม ซึ่งก็มี
ความหมาย คือผู้เพ่งสดับเสียงแห่งโลก หรือ พระผู้สดับฟังเสียงคร่าครวญ
ของสัตว์โลก (ที่กาลังตกอยู่ในห้วงทุกข์)
๓. แนวคิดเรื่องพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
- 26. ในคัมภีร์พระสูตรหลายเล่ม >> หากได้เอ่ยขาน
พระนามของพระองค์ด้วยความศรัทธา ถึงแม้จะ
ตกในหลุมเพลิง หลุมเพลิงจะกลายเปลี่ยนเป็นสาย
ชล หากจมน้าจะได้พบที่ตื้นเขิน หากพลัดตกจาก
เขาสูง ก็จะล่องลอยอยู่ในอากาศ ฯลฯ
พระอวโลกิเตศวรสามารถนิรมาณกายในลักษณะ
ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์และสั่งสอนธรรม
เป็นทั้งภาคบุรุษ ภาคสตรี ไปจนถึงปางอันแสดง
ลักษณาการที่ดุร้าย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการ
ปราบมารที่นิยมมี ๓๓ ปาง เป็นปางที่สาคัญ
ที่สุด ๖ ปาง เช่นปางพันมือพันกร
๓. แนวคิดเรื่องพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
- 29. คัมภีร์ อมิตายุอุปเทศศาสตร์ ของท่านวสุพันธุ >> บุคคลที่
ปรารถนาจะไปบังเกิดในดินแดนสุขาวดีต้องมีคุณธรรม ดังนี้
๑. เคารพพระอมิตาภพุทธเจ้าเป็ นนิตย์
๒. ยกย่องพระเกียรติและท่องพระนามของพระองค์ เช่น สวดว่า
“นโม อมิตาภะ”
๓. ตั้งสัจจะ และอธิษฐานเพื่อไปบังเกิดในแดนสุขาวดี
๔. มีจิตตั้งมั่นในพระอมิตาภะ พระโพธิสัตว์และดินแดนสุขาวดี
๕. มีจิตเมตตากรุณา ปรารถนาให้สรรพสัตว์เห็นแจ้งในสัจธรรม
*** สรุป >> มีศรัทธา มีปณิธาน และกระทาความดี (กุศลกรรม
– เริ่มจากท่องพระนามเป็ นต้นไป)
๕. หลักปฏิบัติเพื่อเข้าถึงดินแดนสุขาวดี
- 32. สานักสุขาวดีและพระอมิตาภะ เป็ นที่รู้จักของชาวพุทธจีน
และญี่ปุ่ นมากกว่าสานักพุทธอื่น และอิทธิพลของคาสอนก็
ยังคงแทรกซึมอยู่มากในวัฒนธรรมของพวกเขา
การเผยแพร่คาสอนของนิกายสุขาวดีทาให้ผู้คนจานวนมาก
หลั่งไหลเข้ามาในพุทธศาสนา
การให้ความหวังกับผู้คนหรือสร้างศรัทธาไม่ใช่ความผิด
ตราบเท่าที่เป้ าหมายของคาสอนไม่ถูกบิดเบือน