11. • ถ้า A ขายราคา 5 บาท B ขายราคา 10 บาท
A ได้ยอดขายทั้งหมด 50 ล้าน หักต้นทุนคงที่ 25 ล้าน
ได้กาไร =25 ล้าน
B ยอดขาย =0 หักต้นทุนคงที่ 25 ล้าน กาไร = -25 ล้าน
• ถ้า B ขายราคา 5 บาท A ขายราคา 10 บาท
B ได้ยอดขายทั้งหมด 50 ล้าน หักต้นทุนคงที่ 25 ล้าน
ได้กาไร =25 ล้าน
A ยอดขาย =0 หักต้นทุนคงที่ 25 ล้าน กาไร = -25 ล้าน
12. บริษัท B
5 บาท 10 บาท
5 บาท (0, 0) (25, -25)
บริษัท A
10 บาท (-25, 25) (0, 0)
Pay off: (A, B)
ตัวอย่างกรณี zero-sum game
13. Nonzero-sum game
• เกมส์ทั่วไปทางเศรษฐศาสตร์มักไม่ใช่ Zero-sum game
คือผลได้ของฝ่ายหนึ่งกับผลเสียอีกฝ่ายหนึ่งรวมกันแล้วไม่
เท่ากับศูนย์
• ตัวอย่างเช่น การตัดสินใจของ บริษัท A และ B ว่าจะ
ขยายกิจการหรือไม่ คาดหมายว่าจะได้ผลตอบแทนดังนี้
ถ้าทั้ง 2 บริษัทขยายกิจการ บริษัท A จะได้กาไร 3 ล้าน
บริษัท B ได้กาไร 2 ล้านบาท
14. ถ้าทั้ง 2 บริษัทไม่ขยายกิจการ บริษัท A จะได้กาไร 10
ล้าน บริษัท B ได้กาไร 12 ล้านบาท
ถ้าบริษัท A ขยายแต่ B ไม่ขยายกิจการ บริษัท A จะได้
กาไร 20 ล้าน บริษัท B ได้กาไร 5 ล้านบาท
ถ้าบริษัท B ขยายแต่ A ไม่ขยายกิจการ บริษัท A จะได้
กาไร 8 ล้าน บริษัท B ได้กาไร 25 ล้านบาท
15. บริษัท B
ขยาย ไม่ขยาย
ขยาย (3, 2) (20, 5)
บริษัท A
ไม่ขยาย (8, 25) (10, 12)
Pay offs: (A, B)
ตัวอย่างกรณี Nonzero-sum game
16. กลยุทธ์เด่น(Dominant Strategy)
• กลยุทธ์เด่น = ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าคู่แข่งจะทา
อย่างไร
• ตัวอย่างเช่น การตัดสินใจของ บริษัท A และ B ว่าจะ
โฆษณาหรือไม่ คาดหมายว่าจะได้ผลตอบแทนดังนี้
ถ้าทั้ง 2 บริษัทโฆษณา บริษัท A จะได้กาไร 4 ล้าน
บริษัท B ได้กาไร 3 ล้านบาท
17. ถ้าทั้ง 2 บริษัทไม่โฆษณาบริษัท A จะได้กาไร 3 ล้าน
บริษัท B ได้กาไร 2 ล้านบาท
ถ้าบริษัท A โฆษณาแต่ B ไม่โฆษณาบริษัท A จะได้
กาไร 5 ล้าน บริษัท B ได้กาไร 1 ล้านบาท
ถ้าบริษัท B โฆษณาแต่ A ไม่โฆษณาบริษัท A จะได้
กาไร 2 ล้าน บริษัท B ได้กาไร 5 ล้านบาท
18. บริษัท B
โฆษณา ไม่โฆษณา
โฆษณา (4, 3) (5, 1)
บริษัท A
ไม่โฆษณา (2, 5) (3, 2)
Pay offs: (A, B)
ตัวอย่างกรณี Dominant strategy
19. • การตัดสินใจของ A ขึ้นกับการตัดสินใจของ B
ถ้า B โฆษณา
• A โฆษณา กาไรของ A = 4 √
• A ไม่โฆษณา กาไรของ A = 2
ถ้า B ไม่โฆษณา
• A โฆษณา กาไรของ A = 5 √
• A ไม่โฆษณา กาไรของ A = 3
20. • A เลือกโฆษณาแน่นอนไม่ว่า B ตัดสินใจอย่างไร
• กลยุทธ์เด่นของ A คือโฆษณา
• การตัดสินใจของ B ขึ้นกับการตัดสินใจของ A
ถ้า A โฆษณา
• B โฆษณา กาไรของ B = 3 √
• B ไม่โฆษณา กาไรของ B = 1
21. ถ้า A ไม่โฆษณา
• B โฆษณา กาไรของ B = 5 √
• B ไม่โฆษณา กาไรของ B = 2
• B เลือกโฆษณาแน่นอนไม่ว่า A ตัดสินใจอย่างไร
• กลยุทธ์เด่นของ B คือโฆษณา
• ในกรณีนี้ผลลัพธ์( solution)ก็คือทั้ง 2 บริษัทจะโฆษณา
และ A กาไร 4 ล้าน B กาไร 3 ล้าน
22. กรณีมกลยุทธ์เด่นฝ่ายเดียว
ี
• ตัวอย่าง การตัดสินใจของ บริษัท A และ B ว่าจะขยาย
การผลิตหรือไม่ คาดหมายว่าจะได้ผลตอบแทนดังนี้
ถ้าทั้ง 2 บริษัทขยายการผลิต บริษัท A จะได้กาไร 18
ล้าน บริษัท B ได้กาไร 8 ล้านบาท
ถ้าทั้ง 2 บริษัทไม่ขยายการผลิต บริษัท A จะได้กาไร
10 ล้าน บริษัท B ได้กาไร 12 ล้านบาท
23. ถ้าบริษัท A ขยายแต่ B ไม่ขยายการผลิต บริษัท A จะ
ได้กาไร 20 ล้าน บริษัท B ได้กาไร 15 ล้านบาท
ถ้าบริษัท B ขยายแต่ A ไม่ขยายการผลิต บริษัท A จะ
ได้กาไร 5 ล้าน บริษัท B ได้กาไร 25 ล้านบาท
24. บริษัท B
ขยาย ไม่ขยาย
ขยาย (18, 8) (20, 15)
บริษัท A
ไม่ขยาย (5, 25) (10, 12)
Pay offs: (A, B)
ตัวอย่างกรณีมีกลยุทธ์เด่นฝ่ายเดียว
25. • การตัดสินใจของ A ขึ้นกับการตัดสินใจของ B
ถ้า B ขยายการผลิต
• A ขยาย กาไรของ A = 18 √
• A ไม่ขยาย กาไรของ A = 5
ถ้า B ไม่ขยายการผลิต
• A ขยาย กาไรของ A = 20 √
• A ไม่ขยาย กาไรของ A = 10
26. • A เลือกขยายการผลิตแน่นอนไม่ว่า B ตัดสินใจอย่างไร
• กลยุทธ์เด่นของ A คือขยายการผลิต
• การตัดสินใจของ B ขึ้นกับการตัดสินใจของ A
ถ้า A ขยายการผลิต
• B ขยาย กาไรของ B = 8
• B ไม่ขยาย กาไรของ B = 15 √
27. ถ้า A ไม่ขยายการผลิต
• B ขยาย กาไรของ B = 25 √
• B ไม่ขยาย กาไรของ B = 12
• B ไม่มีกลยุทธ์เด่น การเลือกกลยุทธ์จะขึ้นกับการ
ตัดสินใจของ A
• เนื่องจาก A เลือกขยายการผลิตแน่นอน ในกรณีนี้
ผลลัพธ์( solution)ก็คือบริษัทจะขยายการผลิตแต่ B ไม่
ขยาย A กาไร 20 ล้าน B กาไร 15 ล้าน
28. กรณีไม่มีฝ่ายใดมีกลยุทธ์เด่น
• ตัวอย่าง การตัดสินใจของ บริษัท A และ B ว่าจะขยาย
การผลิตหรือไม่ คาดหมายว่าจะได้ผลตอบแทนดังนี้
ถ้าทั้ง 2 บริษัทขยายการผลิต บริษัท A จะได้กาไร 18
ล้าน บริษัท B ได้กาไร 8 ล้านบาท
ถ้าทั้ง 2 บริษัทไม่ขยายการผลิต บริษัท A จะได้กาไร
10 ล้าน บริษัท B ได้กาไร 12 ล้านบาท
29. ถ้าบริษัท A ขยายแต่ B ไม่ขยายการผลิต บริษัท A จะ
ได้กาไร 8 ล้าน บริษัท B ได้กาไร 15 ล้านบาท
ถ้าบริษัท B ขยายแต่ A ไม่ขยายการผลิต บริษัท A จะ
ได้กาไร 5 ล้าน บริษัท B ได้กาไร 25 ล้านบาท
30. บริษัท B
ขยาย ไม่ขยาย
ขยาย (18, 8) (8, 15)
บริษัท A
ไม่ขยาย (5, 25) (10, 12)
Pay offs: (A, B)
ตัวอย่างกรณีไม่มีกลยุทธ์เด่น
31. • การตัดสินใจของ A ขึ้นกับการตัดสินใจของ B
ถ้า B ขยายการผลิต
• A ขยาย กาไรของ A = 18 √
• A ไม่ขยาย กาไรของ A = 5
ถ้า B ไม่ขยายการผลิต
• A ขยาย กาไรของ A = 8
• A ไม่ขยาย กาไรของ A = 10 √
32. • A ไม่มีกลยุทธ์เด่น การตัดสินใจขึ้นกับว่า B จะตัดสินใจ
อย่างไร
• การตัดสินใจของ B ขึ้นกับการตัดสินใจของ A
ถ้า A ขยายการผลิต
• B ขยาย กาไรของ B = 8
• B ไม่ขยาย กาไรของ B = 15 √
33. ถ้า A ไม่ขยายการผลิต
• B ขยาย กาไรของ B = 25 √
• B ไม่ขยาย กาไรของ B = 12
• B ไม่มีกลยุทธ์เด่น การเลือกกลยุทธ์จะขึ้นกับการ
ตัดสินใจของ A
• ไม่อาจหาคาตอบที่แน่นอนได้ ผลลัพธ์ขึ้นกับว่าฝ่ายใด
สามารถโน้มน้าวให้อีกฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าจะตัดสินใจอย่างไร
ได้ก่อน
34. • ถ้า A ออกข่าวให้ B เชื่อได้ว่าไม่ขยายการผลิตแน่นอน
ทาให้ B เลือกขยายการผลิตโดยหวังกาไร = 25 ล้าน
• เมื่อ B ขยายการผลิตแน่แล้ว A ก็จะดาเนินกลยุทธ์ดีที่สุด
ของตนคือขยายการผลิตด้วย
• ผลทาให้ A กาไร = 18 ล้าน แต่ B กาไรเพียง 8 ล้าน
36. กรณีใช้ maximin strategy
• ตัวอย่าง การตัดสินใจของ บริษัท A และ B ว่าจะลงทุนใน
เทคโนโลยีใหม่หรือไม่ คาดหมายว่าจะได้ผลตอบแทน
เพิ่มขึ้นจากการลงทุนดังนี้
ถ้าทั้ง 2 บริษัทต่างลงทุนบริษัท A จะกาไรเพิ่มขึ้น 20
ล้าน บริษัท B ได้กาไรเพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท
ถ้าทั้ง 2 บริษัทไม่ลงทุน บริษัท A จะกาไรเพิ่ม = 0
บริษัท B กาไรเพิ่ม = 0
37. ถ้าบริษัท A ลงทุนแต่ B ไม่ลงทุน บริษัท A จะได้กาไร
ลดลง 100 ล้าน บริษัท B ได้กาไรเพิ่ม =0
ถ้าบริษัท B ลงทุนแต่ A ไม่ลงทุนบริษัท A จะได้กาไร
ลดลง 10 ล้าน บริษัท B ได้กาไรเพิ่ม 10 ล้านบาท
38. บริษัท B
ลงทุน ไม่ลงทุน
ลงทุน (20, 10) (-100, 0)
บริษัท A
ไม่ลงทุน (-10, 10) (0, 0)
Pay offs: (A, B)
Maximin strategy
39. • การตัดสินใจของ A ขึ้นกับการตัดสินใจของ B
ถ้า B ลงทุน
• A ลงทุน กาไรของ A = 20 √
• A ไม่ลงทุน กาไรของ A = -10
ถ้า B ไม่ลงทุน
• A ลงทุน กาไรของ A = -100
• A ไม่ลงทุน กาไรของ A = 0 √
40. • A ไม่มีกลยุทธ์เด่น การตัดสินใจขึ้นกับว่า B จะใช้กลยุทธ์
อย่างไร
• การตัดสินใจของ B ขึ้นกับการตัดสินใจของ A
ถ้า A ลงทุน
• B ลงทุน กาไรของ B = 10 √
• B ไม่ลงทุน กาไรของ B = 0
41. ถ้า A ไม่ลงทุน
• B ลงทุน กาไรของ B = 10 √
• B ไม่ลงทุน กาไรของ B = 0
• B มีกลยุทธ์เด่น การเลือกกลยุทธ์จะขึ้นกับการตัดสินใจ
ของ A
• ถ้าการตัดสินใจเป็นไปอย่างมีเหตุผลและการคาดการณ์
ถูกต้อง B จะลงทุน ทาให้ A เลือกลงทุนด้วย
• Nash equilibrium คือ A กาไร 20 B กาไร 10
42. • แต่ถ้าพฤติกรรมของ B ไม่มีเหตุผล และ A ไม่แน่ใจว่าถ้า
ตัดสินใจลงทุนไปแล้ว B ไม่ลงทุน ผลจะทาให้ A กาไร
ลดลงถึง 100 ล้าน
• ควรใช้หลักปลอดภัยไว้ก่อนซึ่งได้ผลลัพธ์คือ
A ควรเลือกไม่ลงทุน
B เลือกที่จะลงทุน
43. • เหตุผลการตัดสินใจของ A คือ
ถ้า B ลงทุน minimum payoff ของ A = -10 (เมื่อ A ไม่
ลงทุน)
ถ้า B ไม่ลงทุน minimum payoff ของ A = -100 (เมื่อ A
ลงทุน)
A จะ maximize minimum pay off (สูญเสียต่าสุด) เมื่อ
เลือกไม่ลงทุน
45. โจร B
สารภาพ ไม่สารภาพ
สารภาพ (5, 5) (0, 10)
โจร A
ไม่สารภาพ (10, 0) (1, 1)
Pay offs: (A, B)
Prisoners’ Dilemma
46. • การตัดสินใจของ A ขึ้นกับการตัดสินใจของ B
ถ้า B สารภาพ
• A สารภาพ A ติดคุก 5 ปี √
• A ไม่สารภาพ A ติดคุก 10 ปี
ถ้า B ไม่สารภาพ
• A สารภาพ A ติดคุก 0 ปี √
• A ไม่สารภาพ A ติดคุก 1 ปี
47. • A มีกลยุทธ์เด่นคือสารภาพ
• การตัดสินใจของ B ขึ้นกับการตัดสินใจของ A
ถ้า A สารภาพ
• B สารภาพ B ติดคุก 5 ปี √
• B ไม่สารภาพ B ติดคุก 10 ปี
ถ้า A ไม่สารภาพ
• B สารภาพ B ติดคุก 0 ปี √
• B ไม่สารภาพ B ติดคุก 1 ปี
51. บริษัท B
ราคา 4 ราคา 6
ราคา 4 (12, 12) (20, 4)
บริษัท A
ราคา 6 (4, 20) (16, 16)
Pay offs: (A, B)
52. • การตัดสินใจของ A ขึ้นกับการตัดสินใจของ B
ถ้า B ขายราคา = 4
• A ขายราคา = 4 กาไรของ A = 12 √
• A ขายราคา = 6 กาไรของ A = 4
ถ้า B ขายราคา = 6
• A ขายราคา =4 กาไรของ A = 20 √
• A ขายราคา =6 กาไรของ A = 16
53. • การตัดสินใจของ B ขึ้นกับการตัดสินใจของ A
ถ้า A ขายราคา = 4
• B ขายราคา = 4 กาไรของ B = 12 √
• B ขายราคา = 6 กาไรของ B = 4
ถ้า A ขายราคา = 6
• B ขายราคา =4 กาไรของ B = 20 √
• B ขายราคา =6 กาไรของ B = 16
66. • A เลือกสงคราม
B เลือกสงคราม B ได้ = -10
B เลือกสันติ B ได้ = -1 √
• A เลือกสันติ
B เลือกสงคราม B ได้ = 1√
B เลือกสันติ B ได้ = 0
• B ไม่มีกลยุทธ์เด่น
67. • B เลือกสงคราม
A เลือกสงคราม A ได้ = -10
A เลือกสันติ A ได้ = -1 √
• B เลือกสันติ
A เลือกสงคราม A ได้ = 1√
A เลือกสันติ A ได้ = 0
• A ไม่มีกลยุทธ์เด่น
68. B
สงคราม สันติ
สงคราม (-10, -10) (1, -1)
A
สันติ (-1, 1) (0, 0)
Pay offs: (A, B)
ทั้ง 2 ประเทศเลือกสงคราม (-10, -10) ไม่ใช่ดุลยภาพแนช
เพราะฝ่ายใดเปลี่ยนใจแล้วจะดีขึ้น (เช่น B เปลี่ยนเป็น
สันติ ผลตอบแทนเปลี่ยนจาก -10 เป็น -1 A เปลี่ยนเป็น
สันติ ผลตอบแทนเปลี่ยนจาก -10 เป็น -1)
69. B
สงคราม สันติ
สงคราม (-10, -10) (1, -1)
A
สันติ (-1, 1) (0, 0)
Pay offs: (A, B)
ทั้ง 2 ประเทศเลือกสันติ (0, 0) ไม่ใช่ดุลยภาพแนชเพราะ
ฝ่ายใดเปลี่ยนใจแล้วจะดีขึ้น (เช่น B เปลี่ยนเป็น
สงครามผลตอบแทนเปลี่ยนจาก 0 เป็น 1 A เปลี่ยนเป็น
สงคราม ผลตอบแทนเปลี่ยนจาก 0 เป็น 1)
70. B
สงคราม สันติ
สงคราม (-10, -10) (1, -1)
A
สันติ (-1, 1) (0, 0)
Pay offs: (A, B)
A เลือกสงคราม B เลือกสันติ (1, -1) เป็นดุลยภาพแนช
เพราะฝ่ายใดเปลี่ยนใจแล้วไม่ดีขึ้น (เช่น B เปลี่ยนเป็น
สงคราม ผลตอบแทนเปลี่ยนจาก -1 เป็น -10 A
เปลี่ยนเป็นสันติ ผลตอบแทนเปลี่ยนจาก 1 เป็น 0)
71. B
สงคราม สันติ
สงคราม (-10, -10) (1, -1)
A
สันติ (-1, 1) (0, 0)
Pay offs: (A, B)
A เลือกสันติ B เลือกสงคราม (-1, 1) เป็นดุลยภาพแนช
เพราะฝ่ายใดเปลี่ยนใจแล้วไม่ดีขึ้น (เช่น B เปลี่ยนเป็น
สันติ ผลตอบแทนเปลี่ยนจาก 1 เป็น 0 A เปลี่ยนเป็น
สงคราม ผลตอบแทนเปลี่ยนจาก -1 เป็น -10)
72. เกม Dove and Hawk
• ดุลยภาพแนช มีได้ 2 กรณี คือ
A เลือกสงคราม B เลือกสันติ (B เสียเปรียบ)
A เลือกสันติ B เลือกสงคราม (Aเสียเปรียบ)
• ผลลัพธ์(solution) ควรใช้กลยุทธ์ Maximin คือ
• ทั้ง 2 ประเทศ ผลเสียสูงสุดจากสงครามคือ -10 ส่วน
ผลเสียสูงสุดจากการเลือกสันติคือ -1 ทั้ง 2 ฝ่ายจึงควร
เลือกสันติ ทาให้ pay offs คือ (0, 0)