More Related Content
Similar to การบริหารลูกหนี้ การบริหารสินค้า
Similar to การบริหารลูกหนี้ การบริหารสินค้า (20)
การบริหารลูกหนี้ การบริหารสินค้า
- 2. ข้อ 1
บริษัท รินใจ จากัด ปัจจุบันมีเงื่อนไขการขาย n/30 โดยมี
ยอดขายเชื่อ 15 ล้านบาท หนี้สูญ 2% ระยะเวลาในการรับ
ชาระหนี้มีค่าเท่ากับ 36 วัน ต้องการเปลี่ยนเป็น 2/10 ,
n/30 มีผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 10% ไม่มีหนี้สูญ มีผู้มาขอรับ
ส่วนลด 60% ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการเก็บหนี้ลดลงจากเดิม
10,000 บาท ถ้าอัตราต้นทุนผันแปร 80% อัตรา
ผลตอบแทนจากการลงทุน 15% ควรเปลี่ยนเงื่อนไขการขาย
หรือไม่
- 3. ข้อ 1 (เฉลย)
นโยบายใหม่ นโยบายปัจจุบัน
ยอดขาย (บาท) 15,000,000
เงื่อนไขการชาระหนี้ 2/10,n/30 n/30
ระยะเวลาในการรับชาระหนี้ 36 วัน
อัตราหนี้สูญ 0% 2%
อัตราต้นทุนผันแปร 80% 80%
อัตรากาไรแปรได้ 20% 20%
อัตราผลตอบแทนจาการลงทุน 15% 15%
3
15,000,000 +15,000,000(10%)
16,500,000
30 วัน
- 5. ข้อ 1 (เฉลย)
การคานวณหาผลประโยชน์ที่ได้รับและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
1. ยอดขายเพิ่ม (16,500,000– 15,000,0000)1,500,000 บาท
กาไรแปรได้เพิ่มขึ้น (1,500,000 x 20%) 300,000 บาท (+)
2. ลูกหนี้ลดลง (1,375,000– 1,500,000) 125,000 บาท
นาเงินไปลงทุนได้ผลตอบแทน(125,000 x15%) 18,750 บาท (+)
3. หนี้สูญลดลง (0-15,000,000(2%)) 300,000 บาท (+)
4. ส่วนลดจ่าย (16,500,000 x 60% x 2%) 198,000 บาท (-)
5. ค่าใช้จ่ายในการเก็บหนี้ลดลง 10,000 บาท (+)
5
ผลประโยชน์มากกว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง 430,750 บาท
ควรรับนโยบายการขายใหม่
- 6. ข้อ 2
บริษัท มาลา จากัด ปัจจุบันกาหนดเงื่อนไขการขาย n/30
ยอดขายปัจจุบันปีละ 10 ล้านบาท เป็นการขายเชื่อประมาณ
90% ระยะเวลาในการรับชาระหนี้เฉลี่ย 36 วัน ต้องการเปลี่ยน
เงื่อนไขการขายเป็น 2/10, n/30 ส่งผลให้ยอดขายเชื่อเพิ่มขึ้น
20% ประมาณว่าลูกค้าจะมาขอรับส่วนลด 80% ระยะเวลาใน
การรับชาระหนี้เฉลี่ยเหลือ 18 วัน บริษัทควรเปลี่ยนเงื่อนไข
หรือไม่ ถ้าอัตราต้นทุนผันแปรเท่ากับ 80% และอัตรา
ผลตอบแทนที่ต้องการเท่ากับ 25% บริษัทควรตัดสินใจอย่างไร
6
- 7. ข้อ 2 (เฉลย)
นโยบายใหม่ นโยบายปัจจุบัน
ยอดขาย (บาท)
เงื่อนไขการชาระหนี้ 2/10,n/30 n/30
ระยะเวลาในรับการชาระหนี้ 18 วัน 36 วัน
อัตราต้นทุนผันแปร 80% 80%
อัตรากาไรแปรได้ 20% 20%
อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 25% 25%
7
9,000,00010,800,000
ขายเชื่อ = 10,000,000 x 90%
ยอดขายใหม่ = 9,000,000 + 20%
- 9. ข้อ 2 (เฉลย)
การคานวณหาผลประโยชน์ที่ได้รับและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
1. ยอดขายเพิ่ม (10,800,000– 9,000,000) 1,800,000 บาท
กาไรแปรได้เพิ่มขึ้น (1,800,000 x 20%) 360,000 บาท (+)
2. ลูกหนี้ลดลง (540,000 – 900,000) 360,000 บาท
นาเงินไปลงทุนได้ผลตอบแทน (360,000x25%) 90,000 บาท (+)
3. ส่วนลดจ่าย (10.8 ล้าน x 80% x 2%) 172,800 บาท (-)
9
ผลประโยชน์มากกว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง 277,200 บาท
ควรรับนโยบายการขายใหม่
- 10. ข้อ 3
• บริษัท ชาตรี จากัด มียอดขายเชื่อ 50,000 หน่วย ราคาขาย
หน่วยละ 10 บาท ต้นทุนผันแปรหน่วยละ 8 บาท ค่าใช้จ่ายใน
การเก็บหนี้ 10,000 บาท ระยะเวลาในการจัดเก็บหนี้ 36
วัน อัตราหนี้สูญ 2% ปัจจุบันใช้เงื่อนไข n/30 ต้องการ
เปลี่ยนเป็น n/45 ส่งผลให้ยอดขายเชื่อเพิ่มขึ้น 220,000
บาท ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บเพิ่มขึ้น 5,000 บาท อัตราหนี้
สูญ 4% ระยะเวลาในการจัดเก็บหนี้นานขึ้นเป็น 60 วัน
ต้นทุนเงินลงทุนในลูกหนี้เท่ากับ 15% บริษัทควรตัดสินใจ
อย่างไร
- 11. ข้อ 3 (เฉลย)
นโยบายใหม่ นโยบายปัจจุบัน
ยอดขาย 720,000 บาท 500,000 บาท
เงื่อนไขการชาระหนี้ n/45 n/30
ระยะเวลาในรับการชาระหนี้ 60 วัน 36 วัน
อัตราหนี้สูญ 4% 2%
อัตราต้นทุนผันแปร 80% 80%
อัตรากาไรแปรได้ 20% 20%
อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 15% 15%
10
810
- 13. ข้อ 3 (เฉลย)
การคานวณหาผลประโยชน์ที่ได้รับและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
1. ยอดขายเพิ่ม (720,000 - 500,000) 220,000 บาท
กาไรแปรได้เพิ่มขึ้น (220,000 x 20%) 44,000 บาท (+)
2. ลูกหนี้เพิ่มขึ้น (120,000 - 50,000) 70,000 บาท
ต้นทุนเงินลงทุนในลูกหนี้เพิ่ม (70,000 x80%x 15%) 8,400 บาท(-)
3. หนี้สูญเพิ่มขึ้น (4%(720,000) – 2%(500,000)) 18,800 บาท(-)
4. ค่าใช้จ่ายในการเก็บหนี้เพิ่มขึ้น 5,000 บาท(-)
ผลประโยชน์มากกว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง 11,800 บาท
***ควรรับนโยบายการขายใหม่
- 14. ข้อ 4
บริษัท สุครีพ จากัด ปัจจุบันมียอดขายสินค้าปีละ 20 ล้าน
บาท เป็นการขายสินค้าเป็นเงินเชื่อประมาณ 90% เงื่อนไขการ
ขาย 2/10, n/45 อัตราการหมุนของลูกหนี้เท่ากับ 15 ครั้ง
โดยจะมีลูกค้าประมาณ 60% มาขอรับส่วนลด ต้องการเปลี่ยน
เงื่อนไขการขายใหม่เป็น 3/10, n/30 มีผลให้ยอดขายเชื่อเพิ่มขึ้น
10% และมีลูกค้ามาขอรับส่วนลด 80% อัตราการหมุนของ
ลูกหนี้เท่ากับ 20 ครั้ง อัตราต้นทุนผันแปรเท่ากับ 70%
อัตราผลตอบแทนที่ต้องการเท่ากับ 20% บริษัทควรตัดสินใจ
อย่างไร
- 15. ข้อ 4 (เฉลย)
นโยบายใหม่ นโยบายปัจจุบัน
ยอดขาย 19,800,000 18,000,000
เงื่อนไขการชาระหนี้ 3/10,n/30 2/10,n/45
อัตราการหมุนของลูกหนี้ 20 ครั้ง 15 ครั้ง
อัตราต้นทุนผันแปร 70% 70%
อัตรากาไรแปรได้ 30% 30%
อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 20% 20%
- 17. ข้อ 4 (เฉลย)
การคานวณหาผลประโยชน์ที่ได้รับและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
1. ยอดขายเพิ่ม (19,000,000-18,000,000) 1,800,000 บาท
กาไรแปรได้เพิ่มขึ้น (1,800,000x 30%) 540,000 บาท (+)
2. ลูกหนี้ลดลง (990,000 – 1,200,000) 210,000 บาท
นาเงินไปลงทุนได้ผลตอบแทน (210,000x20%) 42,000 บาท (+)
3. ส่วนลดจ่ายเพิ่มขึ้น 259,200 บาท (-)
(19,800,000x 80% x 3%) - (18,000,000 x 60% x 2%)
ผลประโยชน์มากกว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง 322,800 บาท
ควรรับนโยบายการขายใหม่
- 18. ข้อ 5
ท่านต้องการเปลี่ยนเงื่อนไขการขายจากเดิม 2/10, n/30 เป็น 3/15,
n/30 มีผลให้ยอดขายเชื่อเพิ่มขึ้นจากเดิม 2 ล้านบาท เป็น 2.4
ล้านบาท อัตราการหมุนลูกหนี้เดิมมีค่าเท่ากับ 20 ครั้ง และ
ระยะเวลาในการเก็บหนี้ใหม่มีค่าเท่ากับ 30 วัน และมีลูกค้ามาขอรับ
ส่วนลดเพิ่มจากเดิม 60% เป็น 80% อัตราหนี้สูญมีค่าลดลงจาก
เดิม 3% เป็น 1% ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บหนี้ลดลงจาก 25,000
บาท เป็น 20,000 บาท อัตราต้นทุนผันแปรเท่ากับ 80%
ต้นทุนเงินลงทุนในลูกหนี้เท่ากับ 15% ท่านควรตัดสินใจอย่างไร
- 19. ข้อ 5 (เฉลย)
นโยบายใหม่ นโยบายปัจจุบัน
ยอดขาย 2,400,000 2,000,000
เงื่อนไขการชาระหนี้ 3/15,n/30 2/10,n/30
ระยะเวลาในการชาระหนี้ 30 วัน 18 วัน
อัตราหนี้สูญ 1% 3%
ค่าใช้จ่ายในการเรียกเก็บหนี้ 20,000 25,000
อัตราต้นทุนผันแปร 80% 80%
อัตรากาไรแปรได้ 20% 20%
ต้นทุนเงินลงทุนในลูกหนี้เท่ากับ 15% 15%
- 21. ข้อ 5 (เฉลย)
การคานวณหาผลประโยชน์ที่ได้รับและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
1. ยอดขายเพิ่ม (2,400,000 – 2,000,000) 400,000 บาท
กาไรแปรได้เพิ่มขึ้น (400,000 x 20%) 80,000 บาท (+)
2. ลูกหนี้เพิ่มขึ้น (200,000 - 100,000) 100,000 บาท
ต้นทุนเงินลงทุนในลูกหนี้เพิ่ม (100,000 x 80% x 15%) 12,000 บาท(-)
3. หนี้สูญลดลง (1%(2,400,000) – 3%(2,000,000)) 36,000 บาท(+)
4. ส่วนลดจ่ายเพิ่มขึ้น 33,600 บาท(-)
(2,400,000 x 80% x 3%)-(2,000,000 x 60% x 2%)
5. ค่าใช้จ่ายในการเก็บหนี้ลดลง 5,000 บาท(+)
ผลประโยชน์มากกว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง 75,400 บาท
ควรรับนโยบายการขายใหม่
- 22. ข้อ 6
ปัจจุบันบริษัทแก้วขวัญมียอดขายปีละ 3,000,000 บาท มีลูกหนี้
เฉลี่ย 500,000 บาท มีบริษัทมีนโยบายเก็บเงินที่เข้มงวดทา
ให้ยอดขายลดลง 500,000 บาท แต่อัตราการหมุนของลูกหนี้
เพิ่มขึ้นเป็น 8 ครั้ง และทาให้ค่าใช้จ่ายในแผนกเก็บเงินเพิ่มขึ้น
15,000 บาท ต่อปี แต่ก็ทาให้หนี้สูญลดลงจาก 1.5% ของ
ยอดขาย เป็น 1% ของยอดขาย บริษัทมีอัตราต้นทุนผันแปร
เป็น 75% อัตราผลตอบแทนที่ต้องการเท่ากับ 40% บริษัท
ควรเปลี่ยนแปลงนโยบายเก็บเงินหรือไม่
- 23. ข้อ 6 (เฉลย)
นโยบายใหม่ นโยบายปัจจุบัน
ยอดขาย 2,500,000 บาท 3,000,000 บาท
อัตราการหมุนลูกหนี้ 8 ครั้ง
อัตราหนี้สูญ 1.5% 1%
อัตราต้นทุนผันแปร 75% 75%
อัตรากาไรแปรได้ 25% 25%
อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 40% 40%
- 25. ข้อ 6 (เฉลย)
การคานวณหาผลประโยชน์ที่ได้รับและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
1. ยอดขายลดลง 500,000 บาท
กาไรแปรได้ลดลง (500,000 x 25%) 125,000 บาท (-)
2. ลูกหนี้ลดลง (312,500 – 500,000) 187,500 บาท
นาเงินไปลงทุนได้ผลตอบแทน (187,500x40%) 75,000 บาท (+)
3. หนี้สูญลดลง (1%(2,500,000) – 1.5%(3,000,000)) 20,000 บาท (+)
4. ค่าใช้จ่ายในการเก็บหนี้เพิ่มขึ้น 15,000 บาท(-)
ผลประโยชน์น้อยกว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง 45,000 บาท
***ไม่ควรรับนโยบายการขายใหม่
- 26. ข้อ 7
ณ ระดับการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด (EOQ) มีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาหน่วยละ
0.20 บาท ถ้าค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อครั้งละ 10 บาท ความต้องการ
สินค้าทั้งปีเท่ากับ 62,500 หน่วย ดังนั้น ค่า EOQ และค่าใช้จ่ายรวม
เกี่ยวกับสินค้าเป็นเท่าไร
S = 62,500 EOQ =
O = 10
C = 0.2 = 2,500 หน่วย
2.0
10500,622
- 28. ข้อ 8
บริษัท ดวงดี จากัด มีความต้องการผลิตผ้าทั้งปี 1,500,000 เมตร
ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาเมตรละ 0.30 บาท ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อ
ครั้งละ 10 บาท ระยะเวลาในการส่งสินค้านาน 5 วัน ( 1 ปีมี 360
วัน) ให้ท่านคานวณ
1. ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด (EOQ)
2. ถ้าผู้ขายเสนอให้ซื้อครั้งละ 20,000 เมตร จะให้ส่วนลดเมตรละ
0.001 บาท ควรรับข้อเสนอผู้ขายหรือไม่
3. จุดของการสั่งซื้อครั้งต่อไป มีค่าเท่าใด
- 30. ข้อ 8.1 ค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวสินค้าคงเหลือ ที่จุด EOQ
S = 1,500,000
O = 10
C = 0.30
TOC = TCC =
= 1,500 บาท = 1,500 บาท
TC = 1,500 + 1,500
= 3,000 บาท
10
000,10
000,500,1
3.0
2
000,10
- 31. ข้อ 8.2 ถ้าผู้ขายเสนอให้ซื้อครั้งละ 20,000 เมตร จะให้ส่วนลด
เมตรละ 0.001 บาท ควรรับข้อเสนอผู้ขายหรือไม่
10
000,20
000,500,1
3.0
2
000,20
ค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวสินค้าคงเหลือที่จุด Q = 20,000
S = 1,500,000
O = 10
C = 0.30
TOC = TCC =
= 750 บาท = 3,000 บาท
TC = 750 + 3,000
= 3,750 บาท
- 32. ข้อ 8.2 ถ้าผู้ขายเสนอให้ซื้อครั้งละ 20,000 เมตร จะให้ส่วนลด
เมตรละ 0.001 บาท ควรรับข้อเสนอผู้ขายหรือไม่
• ส่วนลดรับ = 0.001 x 1,500,000
= 1,500 บาท
ผลประโยชน์ที่ได้รับ ส่วนลด 1,500 บาท
หักค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น (3,750-3,000) 750 บาท
ผลประโยชน์มากกว่าค่าใช่จ่าย 750 บาท
ควรรับข้อเสนอ
- 34. ข้อ 9
บริษัท คีตา จากัด ในแต่ละปีจะมีการขายแผ่นซีดีเปล่าได้ประมาณ
90,000 แผ่น ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อครั้งละ 10 บาท ปัจจุบันบริษัทสั่งซื้อ
สินค้าในปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด (EOQ) 3,000 แผ่น บริษัทมี
นโยบายเก็บสินค้าเพื่อความปลอดภัย 1,500 แผ่น ในการสั่งซื้อแต่ละครั้งใช้
เวลานาน 15 วัน ( 1 ปีมี 360 วัน) ให้ท่านคานวณ
1. ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อสินค้ารวม และค่าใช้จ่ายในการถือสินค้ารวม
ณ จุด EOQ
2. ถ้าผู้ขายเสนอให้ซื้อครั้งละ 10,000 แผ่น จะให้ส่วนลดแผ่นละ 0.01
บาท ควรรับข้อเสนอผู้ขายหรือไม่
3. จุดของการสั่งซื้อครั้งต่อไป มีค่าเท่าใด
- 35. ข้อ 9.1 ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้ารวม
000,000,9
000,800,1
S = 90,000 EOQ = 3,000
O = 10 C = ?
EOQ = C =
3,000 = C = 0.2
9,000,000 =
C
10000,902
C
OS2
C
000,800,1
- 36. ข้อ 9.1 ค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวสินค้าคงเหลือ ที่จุด EOQ
2.0
2
000,3
S = 90,000
O = 10
C = 0.20
TOC = TCC =
= 300 บาท = 300 บาท
TC = 300 + 300 TC+SS = 00+1500(0.2)
= 600 บาท = 600+300 = 900
10
000,3
000,90
- 37. ค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวสินค้าคงเหลือ ที่จุด Q = 10,000
S = 90,000
O = 10
C = 0.2
TOC = TCC =
= 90 บาท = 1,000 บาท
TC = 90 + 1,000
= 1,090 บาท
9.2 ถ้าผู้ขายเสนอให้ซื้อครั้งละ 10,000 แผ่น จะให้ส่วนลดแผ่นละ
0.01 บาท ควรรับข้อเสนอผู้ขายหรือไม่
10
000,10
000,90
2.0
2
000,10
- 38. 9.2 ถ้าผู้ขายเสนอให้ซื้อครั้งละ 10,000 แผ่น จะให้ส่วนลดแผ่นละ
0.01 บาท ควรรับข้อเสนอผู้ขายหรือไม่
ส่วนลดรับ = 0.01 x 90,000
= 900 บาท
ผลประโยชน์ที่ได้รับ ส่วนลด 900 บาท
หักค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น (1,090-600) 490 บาท
ผลประโยชน์มากกว่าค่าใช่จ่าย 410 บาท
ควรรับข้อเสนอ
- 40. ข้อ 10
โรงพิมพ์ธงชัย จากัด มีการสั่งซื้อกระดาษทั้งปีประมาณ 20,000 รีม
ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษากระดาษ รีมละ 2 บาท ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อครั้ง
ละ 8 บาท ระยะเวลาในการขนส่งนาน 9 วัน บริษัทมีการเก็บสารอง
กระดาษเพื่อความปลอดภัยเท่ากับ 200 รีม (1 ปีมี 360 วัน) ให้ท่าน
คานวณ
1. ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด (EOQ)
2. จานวนครั้งการสั่งซื้อ
3. ค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือ (รวมสินค้าเพื่อความปลอดภัย)
4. ถ้าผู้ขายเสนอให้ซื้อครั้งละ 800 รีม เมตร จะให้ส่วนลดรีมละ 0.25
บาท ควรรับข้อเสนอผู้ขายหรือไม่
5. จุดของการสั่งซื้อครั้งต่อไป เมื่อมีสินค้าเหลืออยู่เท่าใด
- 43. S = 20,000
O = 8
C = 2
TOC = TCC =
= 400 บาท = 400 บาท
TC = 400 + 400 + Safety Stock
= 800 + 200(2)
= 1,200 บาท
ข้อ 10.3 ค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือ (รวมสินค้าเพื่อความ
ปลอดภัย)
2
2
400
8
400
000,20
- 44. ค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวสินค้าคงเหลือ ที่จุด Q = 800
S = 20,000
O = 8
C = 20
TOC = TCC =
= 200 บาท = 800 บาท
TC = 200 + 800
= 1,000 บาท
10.4 ถ้าผู้ขายเสนอให้ซื้อครั้งละ 800 รีม เมตร จะให้ส่วนลดรีมละ
0.25 บาท ควรรับข้อเสนอผู้ขายหรือไม่
8
800
000,20
2
2
800
- 45. 10.4 ถ้าผู้ขายเสนอให้ซื้อครั้งละ 800 รีม เมตร จะให้ส่วนลดรีมละ
0.25 บาท ควรรับข้อเสนอผู้ขายหรือไม่
ส่วนลดรับ = 0.25 x 20,000
= 5,000
ผลประโยชน์ที่ได้รับ ส่วนลด 5,000 บาท
หักค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น (1,000-800) 200 บาท
ผลประโยชน์มากกว่าค่าใช่จ่าย 4,800 บาท
ควรรับข้อเสนอ
- 47. ข้อ 11
บริษัท จิตดารง มีความต้องการสินค้าใน 6 เดือนเท่ากับ
6,000 หน่วย ราคาหน่วยละ 15 บาท ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อ
ครั้งละ 20 บาท ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาหน่วยละ 1.50
บาท ต่อครึ่งปี ต่อมาผู้ขายเสนอให้สั่งซื้อครั้งละ 800 หน่วย
โดยให้ส่วนลด 0.5% ระยะเวลาในการสั่งซื้อนาน 18 วัน ให้
ท่านคานวณ ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด (EOQ)
1. บริษัทควรตัดสินใจซื้อครั้งละเท่าใด
2. จุดของการสั่งซื้อครั้งต่อไป เมื่อมีสินค้าเหลืออยู่เท่าใด
- 53. ข้อ 12
บริษัทพาฝัน จากัด มีความต้องการสินค้าในช่วง 100 วัน เท่ากับ 50,000 หน่วย
ต้นทุนหน่วยละ 10 บาท ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา อัตรา 10% ของราคาทุน
ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อครั้งละ 10 บาท ปัจจุบันบริษัทสั่งซื้อครั้งละ 1,200 หน่วย
ระยะเวลาในการขนส่งนาน 5 วัน ( 1 ปีมี 360 วัน) ให้ท่านคานวณ (ตอบเป็นจานวน
เต็ม)
1) ตามนโยบายปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อรวมและค่าใช้จ่ายในการถือสินค้ารวมเป็น
เท่าไร
2) ปริมาณการสั่งซื้อปัจจุบันเป็นปริมาณการสั่งซื้อที่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ปริมาณการ
สั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด (EOQ) เป็นเท่าไร
3) ผู้ขายเสนอให้สั่งซื้อครั้งละ 5,000 หน่วย โดยให้ส่วนละครั้งละ 100 บาท บริษัท
ควรรับข้อเสนอหรือไม่
4) จุดของการสั่งซื้อครั้งต่อไป เมื่อมีสินค้าเหลืออยู่เท่าใด
- 54. ค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวสินค้าคงเหลือ ที่จุด EOQ
S = 50,000 Q = 1,200
O = 10 C = 1
TOC = TCC =
= 417 บาท = 600 บาท
TC = 417 + 600
= 1,017 บาท
12.1) ตามนโยบายปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อรวมและค่าใช้จ่าย
ในการถือสินค้ารวมเป็นเท่าไร
10
200,1
000,50
1
2
200,1
- 57. ค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวสินค้าคงเหลือ ที่จุด Q = 5,000
S = 50,000
O = 10
C = 1
TOC = TCC =
= 100 บาท = 2,500 บาท
TC = 100 + 2,500
= 2,600 บาท
ข้อ 12.3 บริษัทควรรับข้อเสนอหรือไม่
1
2
000,5
10
000,5
000,50
- 58. 12.3 บริษัทควรตัดสินใจซื้อครั้งละเท่าใด
ส่วนลดรับ =
= 1,000
ผลประโยชน์ที่ได้รับ ส่วนลด 1,000 บาท
หักค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น (2,600 – 1,000) 1,600 บาท
ผลประโยชน์น้อยกว่าค่าใช่จ่าย 600 บาท
• ไม่ควรรับข้อเสนอ สั่งซื้อครั้ง 5,000 หน่วย เพราะ เสียค่าใช้จ่าย
สูงกว่า แต่ควรสั่งซื้อครั้งละ 1,000 หน่วย เพราะประหยัดที่สุด
100
000,5
000,50
- 59. 12.3 บริษัทควรตัดสินใจซื้อครั้งละเท่าใด
Q TOC TCC TC ส่วนลด คชจ.
รวม
1,200 417 600 1,017 - 1,017
1,000 500 500 1,000 - 1,000
5,000 100 2,500 2,600 1,000 1,600