More Related Content
More from ณรงค์ศักดิ์ กาหลง
More from ณรงค์ศักดิ์ กาหลง (20)
อิเหนา
- 3. อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
อิเหนา เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็น
บทละครที่วรรณคดีสโมสรยกย่องให้เป็นยอดของบทละครรา เพราะเป็นหนังสือซึ่งแต่งดี
พร้อมทั้งเนื้อหา ทั้งความไพเราะ ทั้งกระบวนที่จะเล่นละครประกอบกัน และยังเป็น
หนังสือดีในทางที่จะศึกษาประเพณีไทยสมัยโบราณ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
นภาลัยทรงพระราชนิพนธ์ตรงตามตาราทุกอย่าง แม้บทละครเรื่องอิเหนาจะมีเค้าเรื่องมา
จากนิทานพื้นเมืองชวา แต่ทรงดัดแปลงแก้ไขให้เข้ากับธรรมเนียมของ
บ้านเมือง อัธยาศัยและรสนิยมของคนไทย
- 7. เรื่องย่อ
ดินแดนชวาโบราณมีกษัตริย์วงศ์หนึ่งเรียกว่า วงศ์สัญแดหวาหรือวงศ์เท
วา เพราะว่าสืบเชื้อสายมาจากเทวดา คือ องค์ปะตาระกาหลา กล่าวกันว่าวงศ์
นี้มีพี่น้องสี่องค์ องค์พี่ครองเมืองกุเรปัน องค์ที่สองครองเมืองดาหา องค์ที่สาม
ครองเมืองกาหลัง และองค์ที่สี่ครองเมืองสิงหัดส่าหรี กษัตริย์วงศ์เทวามีอานุภาพ
ยิ่งใหญ่ด้วยยศศักดิ์ ถือตัวว่าเป็นชนชั้นสูงจึงอภิเษกกันเฉพาะในวงศ์พี่
น้อง นอกจากนี้ทั้งสี่เมืองเท่านั้นที่สามารถแต่งตั้งมเหสีได้ 5 องค์ ตามลาดับ
ตาแหน่ง คือ ประไหมสุหรี มะเดหวี มะโต ลิกู เหมาหราหงี แต่มีส่วน
เกี่ยวข้องกับเมืองหมันหยาซึ่งเป็นเมืองเล็กกว่า กล่าวคือ เจ้าเมืองนี้มีราชธิดา
สามองค์ องค์โตชื่อนิหลาอระตา ได้ไปเป็นประไหมสุหรีเมืองกุเรปัน องค์ที่สอง
ชื่อ ดาหราวาตี ได้ไปเป็นประไหมสุหรีเมืองดาหา ส่วนองค์สุดท้องชื่อ จินดา
ส่าหรี ได้อภิเษกกับโอรสท้าวมังกัน และได้ครองเมืองหมันหยา
- 8. ท้าวกุเรปันมีโอรสองค์แรกกับลิกู ชื่อว่า กะหรัดตะปาตี ต่อมามีโอรสกับประไหมสุหรี
เป็นหนุ่มรูปงามและเก่งกล้าสามารถมาก ชื่อ อิเหนา หรือ ระเด่นมนตรี และมีราช
ธิดาชื่อวิยะดา ส่วนท้าวดาหามีราชธิดากับประไหมสุหรีชื่อ บุษบา และมีโอรสชื่อ สี
ยะตรา บุษบามีอายุไล่เลี่ยกับอิเหนา ท้าวกุเรปันจึงหมั้นบุษบาให้กับอิเหนา และสียะ
ตราก็หมั้นหมายกันไว้กับวิยะดา
ส่วนระตูหมันหยากับประไหมสุหรีก็มีราชธิดาชื่อระเด่นจินตะหรา อายุรุ่นราว
คราวเดียวกับอิเหนา ท้าวสิงหัดส่าหรีกับประไหมสุหรีมีโอรสชื่อระเด่นสุหรานากง ราช
ธิดาชื่อระเด่นจินดาส่าหรี ท้าวกาหลังมีราชธิดาชื่อ ระเด่นสกาหนึ่งรัด ซึ่งเป็นคู่
ตุนาหงันของสุหรานากง
เมื่อพระอัยยิกาที่เมืองหมันหยาสิ้นพระชนม์ ท้าวกุเรปันมอบหมายให้อิเหนาไป
ร่วมพิธีถวายพระเพลิงพร้อมกับกะหรัดตะปาตี อิเหนาพบจินตะหราก็หลงรัก จนพิธี
ถวายพระเพลิงเสร็จแล้วก็ยังไม่ยอมกลับกุเรปัน ท้าวกุเรปันจึงต้องอ้างว่าประไหมสุหรี
จะมีพระประสูติกาลให้กลับมาเป็นกาลัง ใจให้พระราชมารดา อิเหนาจาใจต้องกลับมา
ประจวบกับพระราชมารดาประสูติ พระราชธิดาหน้าตาน่ารัก นามว่า ระเด่นวิยะดา
- 9. เมื่อจรกาได้ข่าวจากช่างวาดภาพว่าบุษบาร้างคู่ตุนาหงัน จึงรีบให้ระตูล่าส่า พี่ชายมาสู่ขอ
บุษบา ท้าวดาหากาลังโกรธอิเหนาอยู่แม้จะรู้ว่าจรการูปชั่ว ต่าศักดิ์ แต่เมื่อพลั้งปากว่า
ใครมาขอก็จะยกให้ จึงจาใจยากนางบุษบาให้จรกาและกาหนดการวิวาห์ภายในสาม
เดือน
กล่าวถึงกษัตริย์อีกวงศ์หนึ่ง องค์พี่ครองเมืองกะหมังกุหนิงมีพระโอรสชื่อวิหยาสะ
กา องค์รองครองเมืองปาหยัง องค์สุดท้องครองเมืองปะหมันสลัด
อยู่มหาวิหยาสะกาโอรสท้าวกะหมังกุหนิง เสด็จประพาสป่าแล้วพบภาพวาดของ
นางบุษบาทรงเครื่องที่หายไปก็คลั่งไคล้หลงถึง กับสลบเช่นกัน ท้าวกะหมันกุหนิงรักและ
เห็นใจโอรสมาก จึงให้คนไปสืบว่านางในภาพนั้นเป็นใครแล้วให้แต่งทูตไปขอ แต่ท้าวดา
หามอบนางบุษบาให้จรกาแล้วจึงปฏิเสธไป เมื่อไม่สมหวังท้าวกะหมังกุหนิงจึงยกทัพมาชิง
นางบุษบา โดยแจ้งระตูปาหยังและระตูปะหมันน้องชายและหัวเมืองทั้งหลายยกทัพมา
ช่วยรบ ด้วย
- 11. วิเครำะห์คุณค่ำวรรณคดี
คุณค่ำด้ำนเนื้อหำ
แนวคิด เรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความรักของพ่อ
ที่มีต่อลูก รักและตามใจทุกอย่าง แม้นกระทั่วตัวตายก็ยอม
ฉำก ตอนศึกกะหมังกุหนิงจะปรากฎฉากรบที่ชัดเจน มีการตั้งค่าย การใช้อาวุธ และ
การต่อสู้ของตัวละครสาคัญ
ปมขัดแย้ง ตอนศึกกะหมังกุหนิง มีหลายข้อแย้ง แต่ละปมปัญหาเป็นเรื่องที่อาจเกิด
ได้ในชีวิตจริง และสมเหตุสมผล เช่น
ปมแรก คือ ท้าวกุเรปันให้อิเหนาอภิเษกกับบุษบา แต่อิเหนาหลงรักจินตะหราไม่
ยอมอภิเษกกับบุษบา
ปมที่สอง คือ ท้าวดาหาขัดเคืองอิเหนา ยกบุษบาให้จรกา ทาให้ท้าวกุเรปันและ
พระญาติทั้งหลายไม่พอพระทัย
ปมที่สาม ท้าวกะหมังกุหนิงมาสู่ขอบุษบาให้วิหยาสะกา แต่ท้าวดาหายกให้จรกา
ไปแล้ว จึงเกิดศึกชิงนางขึ้น
ปมที่สี่ อิเหนาจาเป็นต้องไปช่วยดาหา จินตะหราคิดว่าอิเหนาจะไปอภิเษกกับ
บุษบา จินตะหราขัดแย้งในใจตนเอง หวั่นใจกับสถานภาพของตนเอง
- 12. ปมที่สามเป็นปัญหาที่สาคัญที่สุด เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงคิดจะทาสงครามกับกรุงดาหาเพื่อ
ชิงนางบุษบามาให้วิหยา สะกาโอรสองพระองค์ ท้าวกะหมังกุหนิงหารือกับระตูปาหยังและท้าว
ปะหมันผู้เป็นอนุชา ทั้งสองทัดทานว่าดาหาเป็นเมืองใหญ่ของกษัตริย์วงศ์อสัญแดหวาผู้มีฝีมือ
เลื่องลือในการสงคราม ส่วนกะหมังกุหนิงเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ คงจะสู้ศึกไม่ได้ แต่ท้าวกะห
มังกุหนิงก็ไม่ฟังคาทัดทานเพราะรักลูกมากจนไม่อาจทนเห็นลูกทุกข์ ทรมารได้ แม้จะรู้ว่าอาจสู้
ศึกไม่ได้ แต่ก็ตัดสินใจทาสงครามด้วยเหตุผลที่บอกแก่อนุชาทั้งสองว่า
แม้วิหยาสะกามอดม้วย พี่ก็คงตายด้วยโอรสา
ไหนไหนจะตายวายชีวา ถึงเร็วถึงช้าก็เหมือนกัน
ผิดก็ทาสงครามดูตามที เคราะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน
พี่ดังพฤกษาพนาวัน จะอาสัญเพราะลูกเหมือนกล่าวมา
- 13. ตัวละคร อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง มีตัวละครที่มีบทบาทสาคัญปรากฏอยู่มาก ตัว
ละครมีบุคลิกลักษณะนิสัยที่โดดเด่นและแตกต่างกัน เช่น
ท้ำวกุเรปัน
ถือยศศักดิ์ไม่ไว้หน้ำใคร ไม่เกรงใจใคร เช่น ในราชสาส์นถึงระตู
หมันหยา กล่าวตาหนิระตูหมันหยาอย่างไม่ไว้หน้าว่า เป็นใจให้จินตะหราแย่งคู่หมั้น
บุษบา สอนลูกให้ยั่วยวนอิเหนา เป็นต้นเหตุให้บุษบาร้างคู่ตุนาหงัน
ในลักษณ์อักษรสารา ว่าระตูหมันหยาเป็นผู้ใหญ่
มีราชธิดายาใจ แกล้งให้แต่งตัวไว้ยั่วชาย
จนลูกเราร้างคู่ตุนาหงัน ไปหลงรักผูกพันมั่นหมาย
จะให้ชิงผัวเขาเอาเด็ดดาย ช่างไม่อายไพร่ฟ้ าประชาชน
บัดนี้ศึกประชิดติดดาหา กิจจาลือแจ้งทุกแห่งหน
เสียงงานการวิวาห์จราจล ต่างคนต่างข้องหมองใจ
การสงครามครั้งนี้มีไปช่วย ยังเห็นชอบด้วยหรือไฉน
จะตัดวงศ์ตัดญาติให้ขาดไป ก็ตามแต่น้าใจจะเห็นดี
- 14. ในพระราชสาส์นของท้าวกุเรปันถึงอิเหนาได้ยกความผิดให้จินตะหรา จึงมีลักษณะเป็นผู้ใหญ่ที่
มีอานาจ แต่ไม่มีเมตตา ถือยศศักดิ์ และที่ต้องช่วยดาหานั้น เพราะถ้าดาหาแพ้หมายถึง
กษัตริย์วงศ์เทวาพ่ายแพ้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอายอย่างยิ่ง
ถึงไม่เลี้ยงบุษบาเห็นว่าชั่ว แต่เขาก็รู้อยู่ว่าตัวนั้นเป็นพี่
อันองค์ท้าวดาหาธิบดี นั้นมิใช่อาหรือว่าไร
มาตรแม้นเสียเมืองดาหา จะพลอยอายขายหน้าหรือหาไม่
ท้ำวดำหำ
หยิ่งในศักดิ์สรี ใจร้อน เช่น ตัดสินใจรับศึกกะหมังกุหนิงโดยไม่สนใจว่าจะมีใคร
มาช่วยหรือไม่ ดังคาประพันธ์
คิดพลางทางสั่งเสนาใน เร่งให้เกณฑ์คนขึ้นหน้าที่
รักษามั่นไว้ในบุรี จะดูทีข้าศึกซึ่งยกมา
อนึ่งจะคอยท่าม้าใช้ ที่ให้ไปแจ้งเหตุพระเชษฐา
กับสองศรีราชอนุชา ยังจะมาช่วยหรือประการใด
แม้จะเคืองขัดตัดรอน ทั้งสามพระนครหาช่วยไม่
แต่ผู้เดียวจะเคี่ยวสงครามไป จะยากเย็นเป็นกระไรก็ตามที
- 16. อิเหนำ
รอบคอบ มองกำรณ์ไกล ตอนที่สังคามาระตารบกับวิหยาสะกา อิเหนาได้
เตือน สังคามาระตาว่าไม่ชานาญกระบี่ อย่าลงจากหลังม้า เพราะเพลงทวนนั้นชานาญอยู่
แล้วจะเอาชนะได้ง่ายกว่า
เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีใจหาญ
จึงตอบอนุชาชัยชาญ เจ้าจะต้านต่อฤทธิ์ก็ตามใจ
แต่อย่าลงจากพาชี เพลงกระบี่ยังหาชานาญไม่
เพลงทวนสันทัดจัดเจนใจ เห็นจะมีชัยแก่ไพรี
มีอำรมณ์ละเอียดอ่อน เมื่อจากสามนางมาเห็นสิ่งใดก็คิดถึงนางทั้งสาม คา
ประพันธ์ความตอนนี้มีความไพเราะมาก
ว่าพลางทางชมคณานก โผนผกจับไม้อึงมี่
เบญจวรรณจับวัลย์ชาลี เหมือนวันพี่ไกลสามสุดามา
นางนวลจับนางนวลนอน เหมือนพี่แนบนวลสมรจินตะหรา
จากพรากจับจากจานรรจา เหมือนจากนางสการะวาตี