More Related Content Similar to บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖ Similar to บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖ (20) บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖1. บทเรี ย นสำ ำ เร็ จ รู ป
เรื ่ อ ง กำพย์ ฉ บั ง
รหั ส วิ ช ำ ท ๓๑๑๐๑
รำยวิ ช ำ ภำษำไทย
ชั ้ น มั ธ ยมศึ ก ษำปี ท ี ่ ๑
โดย
นำงสำวมั น ทนำ ใบชำ
กลุ ่ ม สำระกำรเรี ย นรู ้ ภ ำษำ
ไทย
โรงเรี ย นสุ ธ ี ว ิ ท ยำ จั ง หวั ด
สระบุ ร ี
2. สำ ำ นั ก งำนเขตพื ้ น ที ่ ก ำร
ศึ ก ษำสระบุ ร ี เขต ๑
คำ ำ นำ ำ
บทเรียนสำำเร็จรูปเรื่องกำพย์ฉบังนี้ จัดทำำขึนเพื่อใช้
้
ประกอบกำรเรียนรู้ รำยวิชำภำษำไทย รหัสวิชำ ท ๓๑๑๐๑
ระดับชันมัธยมศึกษำปีที่ ๑
้ และเป็นชุดกำรเรียนรู้สำำหรับ
นักเรียนศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง เพื่อกำรแก้ปัญหำ หรือ
พัฒนำกำรเรียนรู้คำำประพันธ์ประเภท
กำพย์ฉบัง ซึ่งบทเรียนสำำเร็จรูปนี้ประกอบด้วยส่วนที่เป็นควำม
รู้ด้ำนเนื้อหำ และส่วนที่เป็นคำำถำมพร้อมเฉลย ให้นักเรียนได้
ทดสอบควำมรู้ และตรวจสอบผลกำรทดสอบได้ทันทีดวยตนเอง ้
บทเรียนสำำเร็จรูปนี้ สำมำรถเรียนรู้และเข้ำใจได้ง่ำย ซึ่ง
ภำยในเล่มมีคำำแนะนำำกำรศึกษำบทเรียนสำำเร็จรูปไว้อย่ำงเป็น
ระบบ จึงมีประโยชน์และมีคุณค่ำอย่ำงยิ่งสำำหรับนักเรียน ครู
และผู้สนใจทั่วไป
นำงสำวมันทนำ ใบชำ
๑
3. ๑
คำ ำ แนะนำ ำ
สำ ำ หรั บ ครู
ใช้บทเรียนสำำเร็จรูปนี้ประกอบแผนกำรสอน....................
ในวิชำภำษำไทย ท ๓๑๑๐๑ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๑
ใช้บทเรียนสำำเร็จรูปนี้เสริมสำำหรับเด็กที่เรียนดีและช่วยนักเรียนที่เรียน
ช้ำให้เรียนได้ทันเพื่อน
ศึกษำบทเรียนสำำเร็จรูปตั้งแต่กรอบแรกจนถึงกรอบสุดท้ำย ทั้งเนื้อหำ
และกิจกรรมให้เข้ำใจก่อน
ศึกษำว่ำกิจกรรมในกรอบใดที่ครูต้องเป็นผูให้คำำแนะนำำช่วยเหลือ หรือ
้
ให้คำำปรึกษำบ้ำง
ชี้แจงให้นักเรียนอ่ำนคำำแนะนำำในกำรใช้บทเรียนสำำเร็จรูป และปฏิบัติ
ตำมทุกขันตอน ทุกกรอบทั้งเนื้อหำ กิจกรรม คำำถำม คำำตอบหรือแบบ
้
ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
๑
4. คำ ำ แนะนำ ำ
สำ ำ หรั บ นั ก เรี ย น
บทเรียนนี้เรียกว่ำบทเรียนสำำเร็จรูป จัดทำำขึ้นเพื่อให้
นักเรียนศึกษำด้วยตนเอง โปรดอ่ำนคำำแนะนำำก่อนศึกษำบท
เรียน ดังต่อไปนี้
บทเรียนนี้ไม่ใช่ข้อทดสอบ นักเรียนไม่ตองกังวลใจ พยำยำมทำำ
้
ไปช้ำ ๆ ทีละกรอบ นักเรียนจะได้รับควำมรู้ ได้ทำำแบบทดสอบ
และได้ทำำกิจกรรมต่ำง ๆ ด้วยตัวของนักเรียนเอง
ก่อนที่นักเรียนจะศึกษำ ควรทำำแบบทดสอบก่อนเรียน
เริ่มทำำตั้งแต่กรอบแรกเรียงไปตำมลำำดับ โดยไม่ขำมกรอบใด ้
กรอบหนึ่ง
อ่ำนคำำอธิบำยและคำำถำมให้เข้ำใจ คิดให้ดีแล้วจึงตอบคำำถำมลง
ในกระดำษคำำตอบ อย่ำขีดเขียนใด ๆ ลงในบทเรียนสำำเร็จรูปนี้
เมือตอบคำำถำมเสร็จกรอบหนึ่ง จึงเปิดไปดูคำำตอบในกรอบต่อไป
่
เพื่อตรวจสอบคำำตอบว่ำถูกต้องหรือไม่ ถ้ำตอบถูกจึงทำำกรอบต่อ
ๆ ไป เมื ่ อ นั ก เรี ย นพร้ อ มแล้ ว
เปิ ด หน้ ำ ต่ อ ไปเลย
ถ้ำคำำตอบผิด ให้กลับไปอ่ำนข้อควำมในกรอบที่ผ่ำนมำใหม่
ทำำควำมเข้ำใจให้ดีแล้วตอบคำำถำมใหม่
เมือศึกษำจบทุกกรอบแล้วให้นักเรียนทำำแบบทดสอบหลังเรียน
่ ๘
เสร็จแล้วตรวจคำำตอบในเฉลยหน้ำต่อไป เพื่อดูผลควำมก้ำวหน้ำ
ของตนเอง
นักเรียนที่ดีจะต้องซื่อสัผลกำรเรี ย นรู ้ ทคำำตอบก่อน
ตย์ต่อตนเอง ไม่เปิดดู ี ่
คำดหวั ง
5. จุ ด ประสงค์ ก ำร
เรี ย นรู ้
บทเรียนสำำเร็จรูปเรือง “กำพย์ฉบัง ๑๖” นี้ มีจดประสงค์เพือ
่ ุ ่
ให้นกเรียนทรำบรำยละเอีš— °„ๆ ต่¸ไปนี้
ั Â ยดต่°n ¥
ำง° อ
œÁ¦ œ
บอกจำำนวนคำำในแต่ละวรรคของกำพย์ฉบังได้
Á¦ Š
°
É
º
บอกตำำแหน่งคำำที่สัมผัสกันตำมลักษณะบังคับของกำพย์ฉบัง
„¡¥ ° ´
µ r Š
Œ
เรียงลำำดับวรรคกำพย์ฉบังที่กำำหนดให้ได้ถูกต้อง
อธิบำยแผนผังของกำพย์ฉบังได้
คำ ำ ชี ้ แ จง จงเลือกคำำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. กำพย์มีลักษณะคล้ำยกับคำำประพันธ์ประเภทใด
ก. กลอน ข. ฉันท์
ค. ร่ำย ง. โคลง
๒. กำพย์ฉบัง บทหนึ่งมีกี่คำำ
ก. ๒๗ คำำ ข. ๒๒ คำำ
ค. ๑๖ คำำ ๓ ง. ๑๑ คำำ
๓. ข้อใดกล่ำวถึงกำพย์ฉบังได้ถูกต้องที่สุด
ก. กำพย์ฉบัง บทหนึ่งมี ๗ วรรค วรรคละ ๔ คำำ
ข. กำพย์ฉบัง บทหนึ่งมี ๔ วรรค วรรคละ ๗ - ๙ คำำ
ค. กำพย์ฉบัง บทหนึ่งมี ๔ วรรค วรรคแรก ๕ คำำ วรรค
หลัง ๖ คำำ
ง. กำพย์ฉบัง บทหนึ่งมี ๓ วรรค วรรคแรก และ
วรรคสุดท้ำยมี ๖ คำำ วรรคที่ ๒ มี ๔ คำำ
6. ๔. สิ่งใดทำำให้กำพย์ฉบังมีควำมไพเรำะ
ก. สัมผัสสระและสัมผัสอักษร ข. วรรณยุกต์เอก
และโท
ค. คำำเป็นและคำำตำย ง. คำำครุและคำำลหุ
๕. ข้อใดเป็นแผนผังของกำพย์ฉบัง
ก. OOOOO OOOOOO
OOOOO OOOOOO
ข. OOOOOO ๔ OOOO
OOOOOO
ค. O O O O O O O OO O O O O O O O
O O O O O O OO OOOOOOOO
4. OOOO
OOOO OOOO
OOOO OOOO
OOOO OOOO
๖. ข้อใดคือสัมผัสบังคับของกำพย์ฉบัง
ก. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำำที่ ๓ ของวรรคที่
๒
ข. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ๓
ของวรรคที่ ๒
ค. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของวรรค
ที่ ๒ และ ๓
ง. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของวรรค
ที่ ๒
7. ๗. กำรสัมผัสระหว่ำงบทของกำพย์ฉบังคือข้อใด
ก. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๓ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของวรรค
ที่ ๒ ในบทต่อไป
๕
ข. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๔ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของวรรค
ที่ ๒ ในบทต่อไป
ค. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๓ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของวรรค
ที่ ๑ ในบทต่อไป
ง. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๔ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของวรรค
ที่ ๑ ในบทต่อไป
๘. กวีนิยมใช้กำพย์ฉบังในกำรแต่งเกี่ยวกับอะไร
ก. แต่งเป็นบทสวดและบทพำกย์โขน
ข. ชมสิ่งต่ำง ๆ หรือตอนที่โศกเศร้ำครำ่ำครวญ
ค. แต่งร่วมกับโคลงสี่สุภำพหรือฉันท์ประเภทต่ำง ๆ
ง. แต่งบทอำเศียรวำทที่ต้องใช้คำำศัพท์สูงในกำรเขียน
๙. ข้อใดเป็นกำพย์ฉบัง
ก. ลำนอักษรซ่อนหวำนผ่ำนอักษร จิ ต
อำวรณ์หลงใหลในรสหวำน
ส่งอักษรซ้อนเรียงเพียงจดจำร เ กิ ด ก ล อ น
กำนท์กนใจทีไพเรำะ
ิ ่
ข. มัสมันแกงแก้วตำ
่ ห อ ม ยี่ ห ร่ ำ ร ส
ร้อนแรง
ชำยใดได้กลืนแกง แ ร ง อ ย ำ ก ใ ห้
ใฝ่ฝนหำั
ค. สำยัณห์ตะวันยำม ข ณ ะ ข้ ำ ม
ทิฆมพร
ั
เข้ำภำคนภำตอน ทิศะตกก็รำำไร
ง. วำนรสำำแดงเดชำ หั ก ถ อ น
พฤกษำ
ถือต่ำงอำวุธยุทธยง
8. ๖
๑๐. บทประพันธ์ขอใดเป็นกำพย์ฉบัง
้
ก. ไม้เรียวเจียวนะหนู เมือคุณครูสอนไม่
่
จำำ
ไม้เรียวเชียวคอยยำ้ำ เข็มทิศนำำให้หนูดี
ข. เบืองหน้ำคือหญิงสำว
้ พลิวอำภรณ์สี
้
ขำวไร้เดียงสำ
มีดวงดำววำวใสในแววตำ โปรยปรำย
ปรำรถนำเป็นดอกไม้
ค. ไม้ดอกออกช่อล้อใบ กลินหอมเร้ำใจ
่
ชวนให้อมเอิบวิญญำ
ิ่
ง. ปำงก่อนเคยร่วมนำ้ำ ใจจิต
ไถ่ทำสเปลียนชีวต ่ ิ ปลิดให้
เคยเป็นมิงเมียสนิท
่ หลำยชำติ มำนำ
ในชำตินจงได้ ี้ ึ เสพสร้องครองกัน
9. ๗
ÁŒ¨Â ä š— °„œÁ¦ œ
¥ó n ¸
°¥ กรอบที ่
Á¦ Š µ r„´
°
É Œ
º „¡¥ Š ๑
สวั ส ดี ค ่ ะ นั ก เรี ย น ก่ อ นที ่ จ ะ
เรี ย นเรื ่ อ งกำพย์ ฉ บั ง ๑๖ เรำ
มำรู ้ จ ั ก ควำมหมำยและที ่ ม ำของ
ข้ อ เฉลย
๑ ข
๒ ค
๓ ง
กำพย์ เป็นคำำประพันธ์ชนิดหนึ่งที่บังคับ
๔ ก
จำำนวนคำำและสัมผัส ต่ำงจำกกลอนที่กำรจัดวรรค
๕ ข
ต่ำงจำกโคลงที่ไม่บังคับ เอก-โท มีลักษณะคล้ำยกับ
๖ ง
ฉันท์ ๗ ค
แต่ไม่นิยมครุ-ลหุ เหมือนกับฉันก แปลตำมรูปศัพท์ว่ำ
๘ ท์
๙ ง
๑๐ ค
กำพย์ มำจำกคำำว่ำ กำวย หรือ
กำพย
กำวย หรือ กำพย มำจำกคำำว่ำ กวี
กวี มำจำกคำำว่ำ กวิ คำำเดิมในภำษำ
บำลีและสันสกฤต แปลว่ำ
ผู้คงแก่เรียน ผู้เฉลียวฉลำด ผู้มีปัญญำเปรื่องปรำด
๘
ลองตอบคำ ำ ถำม
ต่ อ ไปนี ้ น ะคะ
กำพย์ ม ี ล ั ก ษณะคล้ ำ ยกั บ คำ ำ
ประพั น ธ์ ป ระเภทใด
และแตกต่ ำ งกั น อย่ ำ งไร
10. กรอบที ่
๒
เฉลยกรอบที ่ ๑ คล้ ำ ยกั บ ฉั น ท์
ต่ ำ งกั น ตรงที ่ กำพย์ ไ ม่
นิ ย มครุ -ลหุ เหมื อ นฉั น ท์
อยำกรู้ไหมคะ กำพย์ ใ นควำม
หมำยเดิ ม เป็ น อย่ ำ งไร
กำพย์ ตำมควำมหมำยเดิมมีควำมหมำยกว้ำงกว่ำ
ที่เข้ำใจกันในภำษำไทยหมำยถึง บรรดำบทนิพนธ์ที่กวี
ได้ร้อยกรองขึน ไม่ว่ำจะเป็น โคลง ฉันท์ กำพย์ หรือ
้
ร่ำย นับว่ำเป็นกำพย์ทั้งนั้น แต่ไทยเรำหมำยควำมแคบ
หรือหมำยควำมถึงคำำประพันธ์ชนิดหนึ่งของกวีเท่ำนั้น
กำพย์มลักษณะต่ำงกับกลอนธรรมดำคือ
ี
๑. วำงคณะ พยำงค์ และสัมผัสคล้ำยฉันท์
๒. ใช้แต่งปนกับฉันท์ได้และคงเรียกว่ำ
“คำำฉันท์” เหมือนกั๙
น
๙
ลองตอบคำ ำ ถำมต่ อ
ไปนี ้ น ะคะ
- ปั จ จุ บ ั น เรำเรี ย กคำ ำ ประพั น ธ์ ท ี ่
แต่ ง ด้ ว ย โคลง กลอน ร่ ำ ย
ว่ ำ กำพย์ ใช่ ห รื อ ไม่
- คำ ำ ว่ ำ “คำ ำ ฉั น ท์ ” หมำยถึ ง กำร
11. กรอบที ่
๓
เฉลยกรอบที ่ ๒ - ไม่ ใ ช่
- กำรแต่ ง กำพย์
ปนกั บ ฉั น ท์
กำพย์ ม ี ห ลำยชนิ ด แล้ ว มี ช นิ ด ใด
ที ่ น ิ ย มใช้ อ ยู ่ ใ นภำษำไทยคะ
กำพย์ ที่นิยมใช้อยูในภำษำไทยมี ๕ ชนิด คือ
่
กำพย์ยำนี ๑๐
กำพย์ฉบัง
กำพย์สุรำงคนำงค์
กำพย์หอโคลง
่
กำพย์ขบไม้
ั
กำพย์ ๓ ชนิดแรกใช้เทียบเคียงแต่งปนไปกับฉันท์ได้
ลองตอบคำ ำ ถำมต่ อ
เพรำะเหตุที่มลักษณะ
ี ไปนี ้ น ะคะ
คล้ำยกับฉันท์ และแต่งปนไปกับฉันท์ได้ จึงเรียกว่ำคำำฉันท์ดวย
้
กำพย์ ช นิ ด ใดบ้ ำ งที ่ น ิ ย มแต่ ง
ปนไปกั บ ฉั น ท์
12. กรอบที ่
๔
เฉลยกรอบที ่ ๓
กำพย์ ย ำนี กำพย์ ฉ บั ง
กำพย์ ส ุ ร ำงคนำงค์
นั ก เรี ย นมี ค วำมรู ้ พ ื ้ น ฐำน
เรื ่ อ งกำพย์ ม ำแล้ ว
ต่ อ ไปนี ้ เรำมำเรี ย นรู ้
เรื ่ อ งกำพย์ ฉ บั ง
๑๑
ตั ว อย่ ำ ง
ฉบังสิบหกคำำควร ถ้อยคำำสำำนวน
พึงเลือกให้เพรำะเหมำะกั น
วรรคหน้ำวรรคหลังรำำพั น วรรคหนึ่งพึงสรร
ใส่วรรคละหกคำำเทอญ
วรรคสองต้องสี่คำำเชิ ญ แต่งเสนำะ
เพรำะเพลิน
ใครได้สดับจับใจ
ก่ อ นจะเรี ย นต่ อ ไป
ทดสอบควำมรู ้ ก ั น หน่ อ ย
จำกตั ว อย่ ำ งกำพย์ ฉ บั ง มี
คำ ำ ใดบ้ ำ งที ่ ส ั ม ผั ส กั น
13. กรอบที ่
๕
เฉลยกรอบที ่ ๔ คำ ำ ที ่
สั ม ผั ส กั น มี ด ั ง ต่ อ ไปนี ้
- ควร
สำ ำ นวน
- กั น พั น
๑๒ ๑๒
เรำมำทำ ำ ควำมรู ้ จ ั ก กฎ
ของกำพย์ ฉ บั ง กั น ค่ ะ
กฎของกำพย์ ฉ บั ง
กำพย์ฉบัง ๑ บท มี ๓ วรรค วรรคที่ ๑ กับ วรรคที่ ๓ มีวรรคละ ๖ คำำ
วรรคที่ ๒ มี ๔ คำำ ดังนี้
วรรคที่ ๑
วรรคที่ ๒ ลองตอบคำ ำ ถำม
ต่ อ ไปนี ้ น ะคะ
วรรคที่ ๓
กำพย์ ฉ บั ง บท
หนึ ่ ง มี ก ี ่ ค ำ ำ
14. กรอบที ่
๖
เฉลยกรอบที ่ ๕
๑๓
กำพย์ ฉ บั ง บท
หนึ ่ ง มี ๑๖ คำ ำ
ตอบถู ก ใช่ ไ หมคะ.....เก่ ง มำก
เฉลยกรอบที ่ ๕
ค่ ะ ....ดู ก ฎข้ อ ต่ อ ไปเลย
๒. คำำสุดท้กำพย์ ฉ บั ง บท มผัสกับคำำสุดท้ำยของ
ำยของวรรคแรกสั
หนึ ่ ง มี ๑๖ คำ ำ
วรรคที่ ๒ ถ้ำจะแต่งบทต่อไป
ต้องให้คำำสุดท้ำยของบทต้นสัมผัสกับคำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๑
ตอบถู ก ใช่ ไ หมคะ.....เก่ ง มำก
ของบทต่อไป ก ใช่ ไ หมคะ.....เก่ ง มำก
ตอบถู
ค่ ะ ....ดู ก ฎข้ อ ต่ อ ไปเลย
ค่ ะ ....ดู ก ฎข้ อ ต่ อ ไปเลย
ตั ว อย่ ำ ง
ทำำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน
ขอพร กะใคร ให้ก วน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลม
หวน
อวลไป อวลมำ อย่ำหลง
พรทำำ ดีเอง มันคง่ วันคืน ยืนยง
ซื่อตรง ต่อผู้ รูธ รรม
้
อยำกรวย ด้วยพร เพียรบำ ำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ำ
ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมำ เป็นคน ชั่วดี มีจ น
เป็นผล แห่งกรรม ทำำเอง
ถือธรรม เชือกรรม ยำำเยง
่ บำปชั่ว กลัว
เกรง
ทำำแต่ กรรมดี วีพ ร
(ทำำดี ดีแล้วเป็นพร :
พุทธทำสภิกขุ)
15. ๑๔
กรอบที ่
๗
๘
จำกตัวอย่ำงบทประพันธ์จะเห็นว่ำ
ขอด กับ แคะ ในวรรคที่ ๓ ของบทที่ ๑ เป็นคำำตำย ่ และ
ควำมไพเรำะของกำพย์ ฉ บั ง อยู
เพรำะ กับ ยอด ที ่ ไ หน อ่ ำ นกฎข้ อ ๓ และ ๔ สิ ค ะ
ในวรรคที่ ๓ ของบทที่ ๒ ก็เป็นคำำตำยด้วย
รืนรมย์ ในวรรคแรกของบทที่ ๑ สัมผัสอักษรกับ รืนรส ในวรรค
่ ่
ที่ ๒ ของ
บทที่ ๑๓. ควำมไพเรำะของกำพย์ฉบังอยู่ที่กำรใช้คำำและเสียง
และ สร่ำงซำ ในวรรคแรกของบทที ๒ สัมผัสอักษรกับ
สร่ของคำำในวรรคที่ สระและ
ำงสิน ให้มสัมผัส ๒ ของ
้ ี
บทที่ ๒ อักษร คำำทุกคำำควรเลือกให้ได้ลักษณะ “เสียงดี ควำม
สัมผัส ด้วย
เด่น” ๓. แคะ ในวรรคที่ ๓ ของบทที่ ๑ สัมผัสอักษรกับ คม
ในวรรคที่ ๒ลักและ เศษของกำพย์ฉบัง มีดังนี้
๔. ษณะพิ
ยอด ในวรรคที่ ใช้คำำที่ ๑ และคำำที่ สอัของวรรคที่ ๓ เป็นคำำตำย
๔.๑ ๓ ของบทที่ ๑ สัมผั ๒ กษรกับ ญำณ์ ในวรรคที่
๒ ของบทที่ ๒ ด้วยเช่น
( คือคำำที่ประกอบด้วย กัน
สระเสียงสั้นในแม่ ก กำ และ คำำที่มตัวสะกด ใน แม่
ี
จะใช้คำำยัตภงค์ ( - ) ในระหว่ำงวรรคก็ได้ แต่หำมใช้ยตภงค์
กก ิ กด กบ)
ั ้ ั ิ ั
ระหว่ำงบท๔.๒ ให้สองคำำหลังของวรรคต้นกับ ๒ คำำ ต้นของ
วรรคทีว อย่ ำ ง กษรกัน
ตั ่ ๒ เล่นอั
๔.๓ เรำดีดทีว่ำดวงดี
ให้คำำ ก่ ๒ ของวรรคที่ ๓ เล่นอักษรหรือสัมผัส
ี เพรำะดีนนมี -
ั้
อักษร กับคำำสุดท้กว่ำทีดวง
ทีเรำดี ำยของ
่ ่
วรรคที่ นนแหละเรำหน่วง
ทำำดี ๒ั่ เอำดีทงปวง ั้
มำทำำให้ดวงมันดี
ตั ว อย่ ำ ง (เรำดีดกว่ำดวงดี : พุทธทำส
ี
ภิกขุ)
ลมโชยชวนชืนรื ่ น รมย์
่
๑๕ รื ่ น รสคำำคม
ขอดแคะเขียกรรณหรรษำ ่
ห่มสุขทุกข์โศกสร่ ำ งซำ สร่ ำ งสิ ้ น
วิญญำณ์
เพรำะยอดเยำวลักษณ์ร่วมสม
16. กรอบที ่
๙
คำำในวรรคหนึงๆ อำจเกินกว่ำทีกำำหนดไว้บำงก็ได้ แต่ตองเป็นคำำ
่ ่ ้ ้
ลหุ และต้องไม่ยำว
จนเกินไปจนขัดกับจังหวะและทำำนองอ่ำน
ตั ว อย่ ำ ง
ธรรมะคือคุณำกร ส่วนชอบสำธร
ดุจดวงประทีปชัชวำล
แห่งองค์พระศำสดำจำรย์ ส่องสัตว์สนดำน
ั
สว่ำงกระจ่ำงใจมล
๑๖
17. ทบทวนควำมจำ ำ
ครุ คือพยำงค์ที่มีเสียงหนัก ได้แก่ พยำงค์ที่ กรอบที ่
ประกอบด้วยสระเสียงยำวรวมทั้ง สระอำำ ใอ ไอ ๑๐
เอำ และพยำงค์ที่มีตัวสะกดทั้งสิ้น
ลหุ คือพยำงค์ที่มีเสียงเบำ ได้แก่พยำงค์ที่
ประกอบด้วยสระเสียงสั้นที่ไม่มีตัวสะกด รวมทั้ง
พยำงค์ที่ประสมด้วยสระอำำ
๗. กำพย์ฉบัง นิยมแต่งเกียวกับตอนทีเป็นพรรณนำโวหำร
่ ่
และนิยมแต่งเป็นบทสวดและ
บทพำกย์โขน
ตั ว อย่ ำ ง
อินทรชิตบิดเบือนกำยิน เหมือนองค์อมรินท์
ทรงคชเอรำวัณ
ช้ำงนิรมิตฤทธิแรงแข็งขัน เผือกผ่องผิว
พรรณ
สีสงข์สะอำดโอฬำร์
ั
สำมสิบสำมเศี๑๗
ยรโสภำ เศียรหนึงเจ็ดงำ
่
ดังเพ็ชรรัตน์รจี ู
งำหนึงเจ็ดโบกขรณี
่ สระหนึงย่อมมี
่
เจ็ดกออุบลบันดำล
กอหนึงเจ็ดดอกดวงมำลย์ ดอกหนึงเบ่งบำน
่ ่
มีกลีบได้เจ็ดกลีบผกำ
กลีบหนึงมีเทพธิดำ
่ เจ็ดองค์โสภำ
แน่งน้อยลำำเพำนงพำล
(บทพำกย์โขนเรืองรำมเกียรติ์ ตอนช้ำงเอรำวัณ : พระบำทสมเด็จ
่
พระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย)
18. Â š— °¨´ ¸
¨¥Š œ
Á¦
Á¦ Š µ rÁ ´
°
É Œ
º „¡¥ Š
คำ ำ ชี ้ แ จง จงเลือกคำำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
๑. กำพย์ฉบัง บทหนึ่งมีกี่คำำ
ก. ๒๗ คำำ ๑๘ ข. ๒๒ คำำ
ค. ๑๖ คำำ ง. ๑๑ คำำ
๒. ข้อใดกล่ำวถึงกำพย์ฉบังได้ถูกต้องที่สุด
ก. กำพย์ฉบังบทหนึ่งมี ๓ วรรค วรรคแรก และวรรค
สุดท้ำยมี ๖ คำำ วรรคที่ ๒ มี ๔ คำำ
ข. กำพย์ฉบัง บทหนึ่งมี ๔ วรรค วรรคแรก ๕ คำำ วรรค
หลัง ๖ คำำ
ค. กำพย์ฉบัง บทหนึ่งมี ๔ วรรค วรรคละ ๗ - ๙
คำำ
ง. กำพย์ฉบัง บทหนึ่งมี ๗ วรรค วรรคละ ๔ คำำ
๓. ข้อใดคือสัมผัสบังคับของกำพย์ฉบัง
ก. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำำที่ ๓ ของวรรคที่
๒
ข. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำำที่ ๑ หรือ ๒
หรือ๓ ของวรรคที่ ๒
ค. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของ
วรรคที่ ๒ และ ๓
ง. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของวรรค
ที่ ๒
19. ๔. กำรสัมผัสระหว่ำงบทของกำพย์ฉบังคือข้อใด
ก. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๓ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของ
วรรคที่ ๒ ในบทต่อไป
๑๙
ข. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๓ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของ
วรรคที่ ๑ ในบทต่อไป
ค. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๔ สัมผัสกับคำำสุดท้ำยของ
วรรคที่ ๑ ในบทต่อไป
ง. คำำสุดท้ำยของวรรคที่ ๔ สัมผัสกับคำำสุดท้ำย
ของวรรคที่ ๒ ในบทต่อไป
๕. ข้อใดเป็นแผนผังของกำพย์ฉบัง
ก. OOOOOO OOOO
OOOOOO
ข. OOOOO OOOOOO
OOOOO OOOOOO
ค. O O O O O O O OO O O O O O O
O
OOOOOOOO OOOOOOOO
4. OOOO
OOOO OOOO
OOOO OOOO
OOOO OOOO
๖. สิ่งใดทำำให้กำพย์ฉบังมีควำมไพเรำะ
ก. คำำครุและคำำลหุ ข. วรรณยุกต์เอก
และโท
ค. คำำเป็นและคำำตำย ง. สัมผัสสระและสัมผัส
อักษร
20. ๒๐
๗. กวีนิยมใช้กำพย์ฉบังในกำรแต่งเกี่ยวกับอะไร
ก. แต่งเป็นบทสวดและบทพำกย์โขน
ข. ชมสิ่งต่ำง ๆ หรือตอนที่โศกเศร้ำครำ่ำครวญ
ค. แต่งร่วมกับโคลงสี่สุภำพหรือฉันท์ประเภทต่ำง ๆ
ง. แต่งบทอำเศียรวำทที่ต้องใช้คำำศัพท์สูงในกำรเขียน
๘. กำพย์มีลักษณะคล้ำยกับคำำประพันธ์ประเภทใด
ก. กลอน ข. ฉันท์
ค. ร่ำย ง. โคลง
๙. บทประพันธ์ขอใดเป็นกำพย์ฉบัง
้
ก. ไม้เรียวเจียวนะหนู เมือคุณครูสอนไม่
่
จำำ
ไม้เรียวเชียวคอยยำ้ำ เข็มทิศนำำให้หนูดี
ข. เบืองหน้ำคือหญิงสำว
้ พลิวอำภรณ์
้
สีขำวไร้เดียงสำ
มีดวงดำววำวใสในแววตำ โปรยปรำย
ปรำรถนำเป็นดอกไม้
ค. ไม้ดอกออกช่อล้อใบ กลินหอมเร้ำใจ
่
ชวนให้อมเอิบวิญญำ
ิ่
ง. ปำงก่อนเคยร่วมนำ้ำ ใจจิต
ไถ่ทำสเปลียนชีวต ่ ิ ปลิดให้
เคยเป็นมิงเมียสนิท
่ หลำยชำติ มำนำ
ในชำตินจงได้ ี้ ึ เสพสร้องครองกัน
21. ๒๑
๑๐. ข้อใดเป็นกำพย์ฉบัง
ก. วำนรสำำแดงเดชำ หั ก ถ อ น
พฤกษำ
ถือต่ำงอำวุธยุทธยง
ข. สำยัณÂ ตš—นยำม´ ¸
ÁŒ¨ห์ ะวัŸ ¨Š ¥
¥c °¨ œ Á¦ ข ณ ะ ข้ ำ ม
ทิฆมพร
ั
เข้ำภำคนภำตอน
Á¦ Š µ r¨
°
É Œ Š
º „¡¥ ´ ทิศะตกก็รำำไร
ค.มัสมันแกงแก้วตำ
่ หอมยี่ ห ร่ ำ รสร้ อ น
แรง
ชำยใดได้กลืนแกง แรงอยำกให้
ใฝ่ฝนหำ
ั ข้ อ เฉลย
ง. ๑ ค
ลำนอักษรซ่อนหวำนผ่ำนอักษร จิ ต
๒ ก
อำวรณ์หลงใหลในรสหวำน
๓ ง
ส่งอักษรซ้อนเรียงเพียงจดจำร
๔ ข
เกิดกลอน
กำนท์กนใจทีไพเรำะ
ิ ่ ๕ ก
๖ ง
๗ ก
๘ ค
๙ ง
๑๐ ก
๒๒