งานนำเสนอ สามบทครูเดียว การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา ตามทัศนะของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเต 40

1. การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาตามทัศนะของครู
สังกัดสํานักงานพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40
นําเสนอโดย
นายวีรชาติ มาตรหลุบเลา
เสนอ ดร.ภูวดล จุลสุคนธ์

2. ภูมิหลัง
ปัจจุบันนี้มีการศึกษามีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เช่น การใช้
Tablet การใช้สื่อในรูปแบบใหม่ เช่น Social Media ซึ่งเป็นสิ่งที่
ใหม่สําหรับวงการศึกษาไทย ครูจะต้องตื่นตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพื่อให้
สามารถปรับตัวยืนหยัดอยู่ได้ทุกการณ์เปลี่ยนแปลง
ซึ่งองค์กรที่จะยืนหยัดและสามารถสร้างความได้เปรียบในการ
แข่งขันได้นั้น จะต้องมีการพัฒนาที่มีลักษณะยั่งยืน ไม่ว่าสภาพแวดล้อม
จะเปลี่ยนไปอย่างไร ซึ่งการพัฒนาองค์กรด้วยแนวคิดแบบองค์กรแห่ง
การเรียนรู้จะเป็นคําตอบที่ดีที่จะนําพาองค์กรยุคใหม่ไปสู่ความสําเร็จ

3. สําหรับการทําวิจัยในครั้งนี้ผู้วิจัยทําวิจัยเพื่อ
ศึกษาการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาตาม
ทัศนะของครู สังกัดสํานักงานพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 40 ตามกรอบแนวคิดของมาร์ควอดด์ (Marquardt ,
1996, pp. 23-33) เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการนําพัฒนา
การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สํานักงาน
พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40
ภูมิหลัง

4. ความมุ่งหมาย
ในการวิจัย
1.เพื่อศึกษาการเป็นองค์การแห่งการ
เรียนรู้ของสถานศึกษาตามทัศนะของครู
สังกัดสํานักงานพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษา เขต 40
2.เพื่อเปรียบเทียบการเป็นองค์การแห่งการ
เรียนรู้ของสถานศึกษาตามทัศนะของครู
สังกัดสํานักงานพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 40 จําแนกตาม ตําแหน่ง อายุ วุฒิ
การศึกษา ประสบการณ์การทํางาน และขนาด
ของโรงเรียน
ความมุ่งหมายในการวิจัย

5. ความสําคัญ
ในการวิจัย
ผลการวิจัยครั้งนี้ จะทําให้ทราบถึงการ
เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาตาม
ทัศนะของครู สังกัดสํานักงานพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษา เขต 40 ซึ่งใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานใน
การกําหนดแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ของสถานศึกษา สํานักงานพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษา เขต 40 ให้เป็ นองค์การแห่งการ
เรียนรู้มากขึ้น โดยส่งเสริมให้ครู ร่วมกันเป็ น
องค์การแห่งการเรียนรู้
ความสําคัญในการวิจัย

6. •ได้แก่ ครูในสถานศึกษา สังกัดสํานักงานพื้นที่
การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40
หาขนาดของกลุ่มตัวอย่างจากสูตรของ
ยามาเน่ (Yamane) ได้จํานวน 316 คน
ขอบเขตของ
งานวิจัย
ขอบเขตของงานวิจัย
•บุคลากรครูและผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสํานักงาน
พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40 ปีพุทธศักราช 2555
จํานวนครู 1,511 คน
ประชากร
กลุ่มตัวอย่าง

7. ตัวแปรที่ศึกษา
เพศ
•วิทยฐานะ
วุฒิการศึกษา
ตัวแปรอิสระ
(independent variables)
ขนาดของสถานศึกษา
อายุ

8. 1
2
3
ตัวแปรตาม (dependent variables)
แนวคิดมาร์ควอดด์ (Marquardt , 2002, pp. 21-33) ซึ่ง
ประกอบด้วยคุณลักษะ 5 ประการ
4
5
การเรียนรู้ (Learning)
องค์กร (Organization)
บุคคล (People)
ความรู้ (Knowledge)
เทคโนโลยี (Technology)

9. ตัวแปรอิสระ
(independent variable)
สถานภาพผู้ตอบแบบสอบถาม
1. เพศ
2. วุฒิการศึกษา
3. อายุ
4. วิทยะฐานะ
5. ขนาดของสถานศึกษา
ตัวแปรตาม
(dependent variable)
การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้
ของสถานศึกษาตามทัศนะของ
ครูสังกัดสํานักงานพื้นที่
การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40
ใน 5 ด้าน
1 การเรียนรู้
2 องค์กร
3 บุคคล
4 ความรู้
5 เทคโนโลยี

10. การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาตาม
ความทัศนะของครูและผู้บริหาร สังกัดสํานักงาน
พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40 มีความแตกต่าง
กันเมื่อจําแนกตาม เพศ วุฒิการศึกษา อายุ วิทย
ฐานะ และขนาดของสถานศึกษา
สมมติฐานในการวิจัย

11. แนวคิด ทฤษฏีที่ศึกษา
องค์ประกอบขององค์การแห่งการเรียนรู้
ตามแนวคิดมาร์ควอดต์ (Marquardt , 2002, pp. 23-33)
ประกอบด้วยคุณลักษะ 5 ประการ ได้แก่
• 1. การเรียนรู้ (learning) 2. องค์กร (organization)
• 3. บุคคล (people) 4. ความรู้ (knowlage)
• 5. เทคโนโลยี (technology)

12. ประชากรลุ่มตัวอย่าง
• 1.ประชากร
• ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอน สังกัด
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 40 จํานวน
1,511 คน โดยจําแนกเป็นครูสถานศึกษาขนาดเล็ก จํานวน
215 คน ครูสถานศึกษาขนาดกลาง จํานวน 666 คน ครู
สถานศึกษาขนาดใหญ่ จํานวน 630 คน รวมทั้งสิ้น
1,511 คน (สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต
40 , 2555, หน้า 7-10 )

13. 2. กลุ่มตัวอย่าง
• กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ ได้แก่
ข้าราชการครูสายปฏิบัติการสอน เนื่องจากมีจํานวน
ประชากรที่แน่นอน (finite population) ใช้สูตรของทาโร่
ยามาเน่ (Taro Yamane)ในการคํานวณหาขนาดกลุ่ม
ตัวอย่าง (สุวรีย์ศิริโภคาภิรมย์, 2546, หน้า 34)
• ผู้ศึกษากําหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้ความเชื่อมั่นร้อย
ละ 95 และยอมให้เกิดความคลาดเคลื่อนร้อยละ 5 (e =
0.05) ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่างจํานวน 316 คน

14. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
• ตอนที่ 1 แบบสอบถามเป็นแบบสํารวจรายการ (check
list)เกี่ยวกับสถานสภาพทั่วไปของผู้ตอบ
• ตอนที่ 2 และตอนที่ 3 แบบสอบถามเกี่ยวกับ การเป็น
องค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครู สังกัดสํานักงาน
เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 40 มีลักษณะเป็น
ตัวเลขมาตราส่วนประมาณค่า(numerical rating scale)
(สุวรีย์ ศิริโภคาภิรมย์, 2546,หน้า 139 – 140) มี 5 ระดับ
โดยกําหนดความมากน้อยของระดับ

15. • 5 หมายถึง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครูอยู่
ในระดับมากที่สุด
• 4 หมายถึง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครูอยู่
ในระดับมาก
• 3 หมายถึง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครูอยู่
ในระดับปลานกลาง
• 2 หมายถึง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครูอยู่
ในระดับน้อย
• 1 หมายถึง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครูอยู่
ในระดับน้อยที่สุด
ตัวเลขมาตราส่วนประมาณค่า(numerical rating scale)

16. การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสําเร็จรูป มีขั้นตอนดําเนินการดังนี้
1. นําแบบสอบถามทั้งหมดมาตรวจสอบความสมบูรณ์ความถูกต้อง ในการตอบ
แบบสอบถามของแบบสอบถาม แล้วนํามาคัดเลือกฉบับที่สมบูรณ์แลถูกต้อง เพื่อ
นํามาวิเคราะห์ข้อมูล
2. การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสําเร็จรูป มีขั้นตอนดําเนินการดังนี้
2.1 หาค่าความถี่ (frequency) และร้อยละ (percentage) ของข้อมูลเกี่ยวกับ
สถานภาพ ของผู้ตอบแบบสอบถาม
2.2 หาค่าเฉลี่ย ( mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน( standard deviation) ของ
คะแนนจากการตอบแบบสอบถาม การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของ
ครู สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40

17. เกณฑ์การแปลความหมายของค่าเฉลี่ย
2.3 แปลความหมายของค่าเฉลี่ยโดยยึดเกณฑ์ (ประคอง กรรณสูต,2542,หน้า 108) ดังนี้
• ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.50 – 5.00 หมายถึง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครูอยู่ในระดับ
มากที่สุด
• ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 3.50 – 4.49 หมายถึง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครูอยู่ในระดับ
มาก
• ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 2.50 – 3.49 หมายถึง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครูอยู่ในระดับ
ปลานกลาง
• ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 1.50 – 2.49 หมายถึง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครูอยู่ในระดับ
น้อย
• ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 1.00 – 1.49 หมายถึง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทัศนะของครูอยู่ในระดับ
น้อยที่สุด

18. การเปรียบเทียบค่าทางสถิติ
2.4. เปรียบเทียบความแตกต่างในด้านเพศ วุฒิการศึกษา
โดยใช้การทดสอบที่(t – test) อายุ วิทยฐานะและขนาด
ของสถานศึกษา ใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทาง
เดียว(one – way ANOVA) โดยการทดสอบ (F – test)
เมื่อมีนัยสําคัญทางสถิติจึงเปรียบเทียบรายคู่ โดยใช้การ
ทดสอบด้วยวิธีการของเชฟเฟ่(Scheffe’s method)

19. ขอบคุณครับ