งาน
- 1. สัททุลวิกกีฬิต ฉันท์ ๑๙
จอมทัพมาคธราษฎร์ ธ ยาตรพยุหกรี
ธาสู่ วสาลี
ิ นคร
โดยทางอันพระทวารเปิ ดนรนิกร
ฤารอจะต่อรอน อะไร
เบื้องนั้นท่านคุรุวสสการทิชก็ไป
ั
นาทัพชเนนทร์ไท มคธ
เข้าปราบลิจฉวิขตติยรัฐชนบท
ั ์
สู ้เงื้อมพระหัตถ์หมด และโดย
ไป่ พักต้องจะกะเกณฑ์นิกายพหลโรย
แรงเปลืองระดมโปรย ประยุทธ์
ราบคาบเสด็จ ธ เสด็จลุราชคฤหอุต
ดมเขตบุเรศดุจ ณ เดิม
ชิ ต บุรทัตได้ ยกพุทธภาษิต แสดงคุณและโทษความสามัคคี ดังนี้
พุทธาทิบณฑิต
ั พิเคราะห์คิดพินิจปรา
รถสรรเสริ ญสา ธุสมัครภาพผล
ว่าอาจจะอวยผา สุ กภาวมาดล
ดีสู่ ณ หมู่ตน บ นิราศนิรันดร
- 2. หมู่ใดผิสามัค คยพรรคสโมสร
ไปปราศนิราศรอน คุณไร้ไฉนดล
พร้อมเพรี ยงประเสริ ฐครัน เพราะฉะนั้นแหละบุคคล
ผูหวังเจริ ญตน
้ ธุ ระเกี่ยวกะหมู่เขา
พึงหมายสมัครเป็ น มุขเป็ นประธานเอา
ธูรทัว ณ ตัวเรา
่ บ่ มิเห็น ณ ฝ่ ายเดียว
ควรยกประโยชน์ยน
ื่ นรอื่นก็แลเหลียว
ดูบางและกลมเกลียว
้ มิตรภาพผดุงครอง
ยั้งทิฐิมานหย่อน ทมผ่อนผจงจอง
อามิมีหมอง มนเมื่อจะทาใด
ลาภผลสกลบรร ลุก็ปันก็แบ่งไป
ตามน้อยและมากใจ สุ จริ ตนิยมธรรม์
พึงมรรยาทยึด สุ ประพฤติสงวนพรรค์
รื้ อริ ษยาอัน อุปเฉทไมตรี
ดังนั้น ณ หมู่ใด
่ ผิ บ ไร้สมัครมี
พร้อมเพรี ยงนิพทธ์นี
ั รวิวาทระแวงกัน
หวังเทอญมิตองสง
้ สยคงประสบพลัน
ซึ่งสุ ขเกษมสันต์ หิตะกอบทวีการ
- 3. ใครเล่าจะสามารถ มนอาจระรานหาญ
หักล้าง บ แหลกหลาญ ก็เพราะพร้อมเพราะเพรี ยงกัน
ป่ วยกล่าวอะไรฝูง นรสู งประเสริ ฐครัน
ฤาสรรพสัตว์อน
ั เฉพาะมีชีวครอง
ี
แม้มากผิกิ่งไม้ ผิวใครจะใคร่ ลอง
มัดกากระนั้นปอง พลหักก็เต็มทน
เหล่าไหนผิไมตรี สละลี้ ณ หมู่ตน
กิจใดจะขวายขวน บ มิพร้อมมิเพรี ยงกัน
อย่าปรารถนาหวัง สุ ขทั้งเจริ ญอัน
มวลมาอุบติบรร
ั ลุไฉน บ ได้มี
ปวงทุกข์พิบติสรร
ั พภยันตรายกลี
แม้ปราศนิยมปรี ติประสงค์ก็คงสม
ควรชนประชุมเช่น คณะเป็ นสมาคม
สามัคคิปรารม ภนิพทธราพึง
ั
ไป่ มีก็ให้มี ผิวก็มีคานึง
เนื่องเพื่ออภิยโยจึง จะประสบสุ ขาลัย
- 4. ถอดคาประพันธ์
่
พระเจ้าอชาตศัตรู จอมทัพแห่งแคว้นมคธกรี ธาทัพเข้าเมืองเวสาลีทางประตูเมืองที่เปิ ดอยูโดยไม่
มีผคนหรื อทหารต่อสู ้ประการใด ขณะนั้นวัสสการพราหมณ์ผเู ้ ป็ นอาจารย์ก็ไปนาทัพของกษัตริ ยแห่งมคธเข้ามา
ู้ ์
์ ่
ปราบกษัตริ ยลิจฉวี อาณาจักรทั้งหมดก็ตกอยูในเงื้อมพระหัตถ์ โดยที่กองทัพไม่ตองเปลืองแรงในการต่อสู ้
้
ปราบราบคาบแล้วเสด็จยังราชคฤห์เมืองยิงใหญ่ดงเดิม เนื้อเรื่ องแต่เดิมจบลงเพียงนี้ แต่ประสงค์จะแต่งสุ ภาษิต
่ ั
เพิ่มเติมให้ได้รับฟังเพื่อเป็ นคติอนทรงคุณค่านาไปคิดไตร่ ตรอง ว่าถ้าทุกคนมีความสามัคคีกนก็จะส่ งผลที่ดีมาสู่
ั ั
ทุกคนเอง ถ้ากลุ่มคนใดไม่มีความสามัคคีก็ยอมส่ งผลเสี ยมาให้คนกลุ่มนั้น เพราะฉะนั้นตัวบุคคลเองนั้นแหละ
่
จะต้องรับฟังความคิดเห็นของผูอื่น มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน อย่ามีทิฐิต่อกัน มีอะไรก็แบ่งปั นกันตามที่มีและความ
้
เต็มใจ สุ จริ ต มีมารยาทไม่มีความริ ษยา มีไมตรี ต่อกัน ดังนั้นถ้าคนกลุ่มใดผิดความสามัคคีกน ทะเลาะวิวาทกันก็
ั
จะประสบแต่สิ่งไม่ดี ไม่มีความสุ ข แต่ถาใครมีความสามัคคีต่อกันจะมีความเป็ นหนึ่งเดียวและยากที่จะมีอะไร
้
เข้ามาทาลายให้ความสามัคคีน้ นแตกลง เปรี ยบเหมือนกับกิ่งไม้ กิ่งไม้ 1 กิ่ง สามารถหักได้โดยง่าย แต่ถากิ่งไม้
ั ้
หลายกิ่งมัดรวมกันแล้วก็ยากที่จะหักได้
- 5. คุณค่าด้ านวรรณศิลป์
1) การสรรคา เป็ นการเลือกใช้คาที่สื่อความคิดและอารมณ์ได้อย่างงดงาม ดังนี้
เป็ นการเลือกใช้ คาได้ ถูกต้ องตรงตามความหมายทีต้องการ มีการใช้คาประณี ตเป็ นพิเศษ เมื่อกล่าวถึง
่
พระมหากษัตริ ย ์ จะใช้คาบาลันสกฤตซึ่งถือเป็ นภาษาสู งต้องแปลความทุกคา ดังบทประพันธ์
จอมทัพมาคธราษฎร์ ธ ยาตรพยุหกรี
ธาสู่ วสาลี
ิ นคร
โดยทางอันพระทวารเปิ ดนรนิกร
ฤารอจะต่อรอน อะไร
เบื้องนั้นท่านคุรุวสสการทิชก็ไป
ั
นาทัพชเนนทร์ไท มคธ
เข้าปราบลิจฉวิขตติยรัฐชนบท
ั ์
สู ้เงื้อมพระหัตถ์หมด และโดย
ไป่ พักต้องจะกะเกณฑ์นิกายพหลโรย
แรงเปลืองระดมโปรย ประยุทธ์
ราบคาบเสด็จ ธ เสด็จลุราชคฤหอุต
ดมเขตบุเรศดุจ ณ เดิม
- 6. 1. การเลือกใช้ ศัพท์ เหมาะแก่ เนือเรื่องและฐานะของบุคคลในเรื่อง เช่ น
้
จอมทัพมาคธราษฎร์ ธ ยาตรพยุหกรี
ธาสู่ วสาลี
ิ นคร
โดยทางอันพระทวารเปิ ดนรนิกร
ฤารอจะต่อรอน อะไร
เบื้องนั้นท่านคุรุวสสการทิชก็ไป
ั
นาทัพชเนนทร์ไท มคธ
เข้าปราบลิจฉวิขตติยรัฐชนบท
ั ์
สู ้เงื้อมพระหัตถ์หมด และโดย
จากบทประพันธ์กวีเลือกใช้คาได้เหมาะสมแก่เนื้อเรื่ องและฐานะของบุคคลซึ่ งพระเจ้าอชาตศรัตรู เป็ นกษัตริ ย ์
ได้แก่คาว่า จอมทัพมาคธราษฎร์
- 7. 1.3) การเลือกใช้ เลือกคาโดยคานึงถึงเสี ยง กวีได้ ดดแปลงฉันท์บางชนิดให้ มีความแตกต่างไปจากเดิม ทาให้ มี
ั
ความไพเราะมากขึ ้น สามัคคีเภทคาฉันท์มีการใช้ คาที่มีเสียงเสนาะดังนี ้
(1) การเล่นเสี ยงสัมผัส ในฉันท์ของนายชิต บุรทัต มีท้ งสัมผัสนอกสัมผัสในโดยเฉพาะสัมผัสในมีท้ ง
ั ั
สัมผัสสระและสัมผัสพยัญชนะแพรวพราว คล้ายกับความไพเราะของกลอน เช่น
พุทธาทิบณฑิต
ั พิเคราะห์คิดพินิจปรา
รถสรรเสริ ญสา ธุสมัครภาพผล
ว่าอาจจะอวยผา สุ กภาวมาดล
ดีสู่ ณ หมู่ตน บ นิราศนิรันดร
หมู่ใดผิสามัค คยพรรคสโมสร
ไปปราศนิราศรอน คุณไร้ไฉนดล
(2) การเล่นสัมผัสชุดคาและชุดเสี ยง
หมู่ใดผิสามัค คยพรรคสโมสร
ไปปราศนิราศรอน คุณไร้ไฉนดล
พร้อมเพรี ยงประเสริ ฐครัน เพราะฉะนั้นแหละบุคคล
ผูหวังเจริ ญตน
้ ธุ ระเกี่ยวกะหมู่เขา
- 8. 2) การใช้โวหาร สามัคคีเภทคาฉันท์มีความไรเพราะงดงามอันเกิดจากสารที่วใช้ศิลปะในการถ่ายทอด
ี
ความหมายของเนื้อหา โดยการใช้สานวนโวหาร และการใช้ภาพพจน์ เพื่อให้ผอ่านจินตนาการเห็นภาพ
ู้
ชัดเจน เข้าใจและเกิดอารมณ์คล้อยตาม ดังนี้
2.1) อุปมาโวหาร เป็ นการกล่าวเปรี ยบเทียบเพื่อให้ผอ่านเข้าใจและเห็นภาพชัดเจนยิงขึ้น
ู้ ่
ดั่งนั้น ณ หมู่ใด ผิ บ ไร้สมัครมี
พร้อมเพรี ยงนิพทธ์นี
ั รวิวาทระแวงกัน
2.2) การพรรณนาโวหาร เป็ นการสร้างมโนภาพให้ผอ่านเกิดภาพขึ้นในใจ หรื อมองเห็นภาพบรรยากาศ
ู้
ตามที่กวีตองการ
้
ใครเล่าจะสามารถ มนอาจระรานหาญ
หักล้าง บ แหลกหลาญ ก็เพราะพร้อมเพราะเพรี ยงกัน
ป่ วยกล่าวอะไรฝูง นรสู งประเสริ ฐครัน
ฤาสรรพสัตว์อน
ั เฉพาะมีชีวครอง
ี
แม้มากผิกิ่งไม้ ผิวใครจะใคร่ ลอง
มัดกากระนั้นปอง พลหักก็เต็มทน
เหล่าไหนผิไมตรี สละลี้ ณ หมู่ตน
กิจใดจะขวายขวน บ มิพร้อมมิเพรี ยงกัน
อย่าปรารถนาหวัง สุ ขทั้งเจริ ญอัน
มวลมาอุบติบรร
ั ลุไฉน บ ได้มี
- 9. ปวงทุกข์พิบติสรร
ั พภยันตรายกลี
แม้ปราศนิยมปรี ติประสงค์ก็คงสม
ควรชนประชุมเช่น คณะเป็ นสมาคม
สามัคคิปรารม ภนิพทธราพึง
ั
ไป่ มีก็ให้มี ผิวก็มีคานึง
เนื่องเพื่ออภิยโยจึง จะประสบสุ ขาลัย
ผู้จัดทำ
นางสาวกมลวรรณ ชูผล เลขที่ 36 ม.6/3