SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
Download to read offline
กระบวนการเทคโนโลยี
     สารสนเทศ
กระบวนการเทคโนโลยี (Technological
                   Process)คือ
   ขันตอนการแก ้ปั ญหาหรือตอบสนองต่อความต ้องการซึงจะ
ก่อให ้เกิดการเปลียนแปลงจากทรัพยากรให ้เป็ นผลผลิตหรือผล
ลัพธ์ระบบเทคโนโลยีประกอบด ้วยกระบวนทางเทคโนโลยีทง           ั
หมด 7 ขันตอนได ้แก่
   1.กําหนดปั ญหาหรือความต ้องการ (Identification the
problem,need or preference)
   เมือมนุษย์เกิดปั ญหาหรือความต ้องการ ขันแรกคือ
การทําความเข ้าใจปั ญหานัน ๆอย่างละเอียด
หรือกําหนดขอบเขตการแก ้ปั ญหา
ระบุความต ้องการให ้ชัดเจนว่าต ้องการอะไรโดยเขียนเป็ นข ้อความ
สัน ๆให ้ได ้ใจความชัดเจน
2.รวบรวมข ้อมูลเพือแสวงหาวิธการแก ้ปั ญหาหรือสนอง
                              ี
  ความต ้องการ (Information)
     เมือกําหนดปั ญหาหรือความต ้องการแล ้ว ขันตอนต่อไป
คือเก็บรวบรวมข ้อมูลและความรู ้ทุกด ้านทีเกียวข ้องกับปั ญหาหรือความต ้อง
การเพือหาวิธการทีเหมาะสมสําหรับแก ้ปั ญหาหรือสนองความต ้องการทีกําหนด
               ี
ไว ้ ทําได ้หลายวิธ ี เช่น
      - รวบรวมข ้อมูลจากหนังสือวารสารต่างๆ
      - สํารวจตัวอย่างในท ้องตลาด
      - สัมภาษณ์พดคุยกับคนอืน
                     ู
      - ระดมสมองหาความคิด
      - สืบค ้นจากอินเตอร์เน็ ตและจากแผ่นซีดเสริมความรู ้ ฯลฯ
                                              ี
     ข ้อมูลเหล่านีจะนํ าไปสูการได ้วิธการแก ้ปั ญหาหรือสนองความต ้องการใน
                              ่         ี
หลายแบบ
     ขันตอนนีเป็ นขันตอนทีสําคัญมากซึงจะเป็ นช่องทางทีสามารถใส่เนือหาที
เราต ้องการให ้นักเรียนได ้เรียนรู ้และถือว่าเป็ นช่องทางของการบูรณาการได ้ดี
ทีสุด
3.เลือกวิธการแก ้ปั ญหาหรือสนองความต ้องการ (Selection
          ี
of the best possible solution


      ในขันนีเป็ นการตัดสินใจเลือกแนวคิดทีดีทสุดสําหรับแก ้
                                              ี
ปั ญหาโดยนํ าข ้อมูลและความรู ้ทีรวบรวมได ้มาประกอบกันจนไ
ด ้ข ้อสรุปว่าจะเลือกวิธการแก ้ปั ญหาหรือวิธการสนองความ
                          ี                 ี
ต ้องการเป็ นแบบใดโดยวิธการทีเลือกอาจยึดแนวทีว่า
                            ี
เมือเลือกแล ้วจะทําให ้สิงนันดีขน (Better)
                                  ึ
สะดวกสบายหรือรวดเร็วขึน(Faster speed) ประหยัดขึน
(Cheaper) รวมทังวิธการเหล่านี
                        ี
จะต ้องสอดคล ้องกับทรัพยากร (Resource) ทีมีอยู่
4.ออกแบบและปฏิบต ิ
               ั

    ขันตอนนีต ้องการให ้นักเรียนรู ้จักคิดออกแบบ
ซึงไม่จําเป็ นต ้องเป็ นสิงของเครืองใช ้เสมอไป
อาจเป็ นวิธการก็ได ้และการออกแบบไม่จําเป็ น
             ี
ต ้องเขียนแบบเสมอไปอาจเป็ นแค่ลําดับความคิดห
รือจินตนาการให ้เป็ นขันตอนซึงรวมปฏิบตการลงไ
                                           ั ิ
ปด ้วยนันคือเมือออกแบบแล ้วต ้องลงมือทํา
และลงมือปฏิบตในสิงทีออกแบบไว ้
                  ั ิ
5.ทดสอบ

   เป็ นการนํ าสิงประดิษฐ์หรือวิธการนันทดลองใช ้เ
                                 ี
พือทดสอบว่าใช ้งานหรือทํางานได ้หรือไม่มข ้อ
                                          ี
บกพร่องอย่างไร ถ ้ายังไม่ได ้ก็ไปสูขนตอนต่อไป
                                   ่ ั
คือ ปรับปรุงแก ้ไข

6.การปรับปรุง

    หลังจากการทดสอบผลแล ้วพบว่าสิงประดิษฐ์ท ี
สร ้างขึนหรือวิธการทีคิดขึนไม่ทํางานมีข ้อ
                ี
บกพร่องก็ทําการปรับปรุงแก ้ไขโดยอาจเลือกวิธ ี
การใหม่ก็ได ้คือย ้อนไปขันตอนที 3
7.ประเมินผล (Assessment)

     หลังจากปรับปรุงแก ้ไขจนใช ้งานได ้ดีตามวิธการทีออก
                                                    ี
แบบ แล ้วก็นํามประเมินผลโดยรวมโดยพิจารณาดังนี
     สิงประดิษฐ์สามารถแก ้ปั ญหาหรือสนองความต ้องการท ี
ระบุไว ้ได ้หรือไม่
     - สวยงาม ดึงดูดใจผู ้ใช ้หรือไม่
      - แข็งแรงทนทานต่อการใช ้งานหรือไม่
      - ต ้นทูนสูงเกินไปหรือไม่
 บางกิจกรรมอาจไม่ครบทัง 7
ขันตอนก็ได ้บางกิจกรรมขันตอนอาจสลับกันไปบ ้างก็ได ้
แต่เมือนํ าไปใช ้แล ้วนักเรียนรู ้จักทีจะทํางานเป็ นขันตอน
เป็ นระบบ ย ้อนกลับมาดูหรือแก ้ไขได ้ตามขันตอนทีทําไปได ้
การแก ้ปั ญหาด ้วยกระบวนการ
               เทคโนโลยีสารสนเทศ

       การแก ้ปั ญหาด ้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเท
ศไม่วาเราจะทํางานใดก็ตาม ปั ญหาเป็ นสิงหลีกเลียงไม่ได ้
         ่
การแก ้ปั ญหามีหลายวิธ ี ขึนกับชนิดของงาน
วิธการแก ้ปั ญหาอย่างหนึงอาจแก ้ปั ญหาอีกอย่างหนึงไม่ได ้
   ี
และการแก ้ปั ญหาอาจจําเป็ นต ้องใช ้เทคโนโลยีสารสนเทศ
หรือไม่ก็ได ้ดังนันจึงควรยึดหลักการแก ้ปั ญหาอย่างเป็ น
ระบบ เพือไม่ให ้เสียเวลา หลงทาง และสับสน
วิธการแก ้ปั ญหาแต่ละวิธมความเหมาะสมกับงานแตกต่างกั
     ี                       ี ี
นไปก่อนทีจะใช ้วิธแก ้ปั ญหาด ้วยกระบวนการทางเทคโนโล
                       ี
ยีสารสนเทศจะขอยกวิธการแก ้ปั ญหาอย่างมีขนตอนโดย
                           ี                 ั
ทัวไป มาให ้พิจารณาดูจํานวนหนึง
แก ้ปั ญหาตามวิธวทยาศาสตร์ ( Scientific method )
                     ี ิ
วิธการแก ้ปั ญหาทางวิทยาศาสตร์เป็ นวิธทมีมานานมากแล ้
   ี                                      ี ี
ว ซึงใช ้ศึกษาค ้นคว ้าความรู ้ใหม่ๆ ตังแต่หลายร ้อยปี กอน
                                                        ่
จนเกิดความก ้าวหน ้าทางวิทยาศาสตร์ด ้านต่างๆ
มากมายอย่างทุกวันนีหลักการแก ้ปั ญหา
ทางวิทยาศาสตร์ มีดงนัน ั

1.เก็บข ้อมูลเบืองต ้น โดยการศึกษา
สังเกตเหตุการณ์หรือปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ
2. ตังสมมิฐานเกียวกับสาเหตุ แนวความคิด หรือทฤษฎี
ของการเกิดปรากฎการณ์และทางการแก ้ปั ญหา

3.พัฒนาวิธการทีจะทดสอบสมมติฐานหรือทฤษฎี
          ี
ตามข ้อ 2
4. ทําการทดลองเพือพิสจน์สมมติฐานหรือทฤษฎีโดยตังวัตถุ
                       ู
ประสงค์ให ้ชัดเจนอาจมีการตังกลุมทดลองภายใต ้การควม
                               ่
คุมเปรียบเทียบกับกลุมทีไม่ควบคุมทําการบันทึกผลการ
                    ่
ทดลองทีสังเกตพบไว ้อย่างละเอียดแม่นยํา


5.วิเคราะห์ผลการทดลอง
เพือหาคําตอบว่าสมมติฐานทีตังไว ้นันเป็ นจริงหรือไม่

6.เขียนรายงานสรุปผลคําตอบทีได ้ผลทีได ้จากวิธนเป็ นที
                                                 ี ี
ยอมรับกันมาก เนืองจากเป็ นวิธทพิสจน์ได ้ เห็นผลชัดเจน
                               ี ี ู
และมีวตถุประสงค์เด่นชัดแต่ผลทีได ้อาจขาดความคิด
       ั
สร ้างสรรค์หรือบางครังสําหรับปั ญหาง่ายๆก็ไม่จําเป็ นต ้องใช ้
ขันตอนมากมายเช่นนี
จัดทําโดย

    นางสาวชญานิศ      จีนาภักดิ   เลขที 3
    นางสาวกมลวรรณ     ตังใจ       เลขที 7
    นางสาวบุณณดา      คุ ้นเคย    เลขที 8
    นางสาวพัชรินทร์   เมียวนวม    เลขที 9
    นาวสาวจิรนันท์    ดอกนาค      เลขที 10
             ชันมัธยมศึกษาปี ท ี 5/4

More Related Content

What's hot

Problem Solution
Problem SolutionProblem Solution
Problem SolutionVn Kaenwong
 
การสร้างแบบทดสอบอัตนัยประยุกต์
การสร้างแบบทดสอบอัตนัยประยุกต์การสร้างแบบทดสอบอัตนัยประยุกต์
การสร้างแบบทดสอบอัตนัยประยุกต์NU
 
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6yosawat1089
 
การสร้างสื่อการสอนโดยการประยุกต์รูปแบบของรอบไบลเออร์และฮอลล์
การสร้างสื่อการสอนโดยการประยุกต์รูปแบบของรอบไบลเออร์และฮอลล์การสร้างสื่อการสอนโดยการประยุกต์รูปแบบของรอบไบลเออร์และฮอลล์
การสร้างสื่อการสอนโดยการประยุกต์รูปแบบของรอบไบลเออร์และฮอลล์ณัฐวุฒิ โคตรพัฒน์
 
วิธีการสอนตามระเบียบขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์
วิธีการสอนตามระเบียบขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์วิธีการสอนตามระเบียบขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์
วิธีการสอนตามระเบียบขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์เพ็ญพักตร์ ฉวีวงค์
 
งานเมย์บทที่8นะ
งานเมย์บทที่8นะงานเมย์บทที่8นะ
งานเมย์บทที่8นะnwichunee
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,Itnanut Nunkaew
 
การวัดผลและประเมินผล
การวัดผลและประเมินผลการวัดผลและประเมินผล
การวัดผลและประเมินผลwisnun
 
ฟ้า1
ฟ้า1ฟ้า1
ฟ้า1fa_o
 
วิธีการสอนตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
วิธีการสอนตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์วิธีการสอนตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
วิธีการสอนตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพ็ญพักตร์ ฉวีวงค์
 
บทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
บทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพบทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
บทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพrubtumproject.com
 
Integrate research teaching_project
Integrate research teaching_projectIntegrate research teaching_project
Integrate research teaching_projectWatcharee Phetwong
 
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยการวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยsudaphud
 
มโนทัศน์เบื้องต้นสู่การวัดผล
มโนทัศน์เบื้องต้นสู่การวัดผลมโนทัศน์เบื้องต้นสู่การวัดผล
มโนทัศน์เบื้องต้นสู่การวัดผลNU
 
ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์
ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์
ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์Jirathorn Buenglee
 

What's hot (20)

Problem Solution
Problem SolutionProblem Solution
Problem Solution
 
การสร้างแบบทดสอบอัตนัยประยุกต์
การสร้างแบบทดสอบอัตนัยประยุกต์การสร้างแบบทดสอบอัตนัยประยุกต์
การสร้างแบบทดสอบอัตนัยประยุกต์
 
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6
 
การสร้างสื่อการสอนโดยการประยุกต์รูปแบบของรอบไบลเออร์และฮอลล์
การสร้างสื่อการสอนโดยการประยุกต์รูปแบบของรอบไบลเออร์และฮอลล์การสร้างสื่อการสอนโดยการประยุกต์รูปแบบของรอบไบลเออร์และฮอลล์
การสร้างสื่อการสอนโดยการประยุกต์รูปแบบของรอบไบลเออร์และฮอลล์
 
วิธีการสอนตามระเบียบขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์
วิธีการสอนตามระเบียบขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์วิธีการสอนตามระเบียบขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์
วิธีการสอนตามระเบียบขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์
 
งานเมย์บทที่8นะ
งานเมย์บทที่8นะงานเมย์บทที่8นะ
งานเมย์บทที่8นะ
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,
 
การวัดผลและประเมินผล
การวัดผลและประเมินผลการวัดผลและประเมินผล
การวัดผลและประเมินผล
 
ฟ้า1
ฟ้า1ฟ้า1
ฟ้า1
 
วิธีการสอนตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
วิธีการสอนตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์วิธีการสอนตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
วิธีการสอนตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
 
การนำผลการวิจัยไปใช้
การนำผลการวิจัยไปใช้การนำผลการวิจัยไปใช้
การนำผลการวิจัยไปใช้
 
บทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
บทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพบทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
บทที่ 3 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกและการวาดภาพ
 
Hypotheses
HypothesesHypotheses
Hypotheses
 
บทที่ 5
บทที่ 5 บทที่ 5
บทที่ 5
 
การติดตามผลและการประเมินผลการนำเสนอ
การติดตามผลและการประเมินผลการนำเสนอการติดตามผลและการประเมินผลการนำเสนอ
การติดตามผลและการประเมินผลการนำเสนอ
 
Research report2
Research report2Research report2
Research report2
 
Integrate research teaching_project
Integrate research teaching_projectIntegrate research teaching_project
Integrate research teaching_project
 
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยการวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
 
มโนทัศน์เบื้องต้นสู่การวัดผล
มโนทัศน์เบื้องต้นสู่การวัดผลมโนทัศน์เบื้องต้นสู่การวัดผล
มโนทัศน์เบื้องต้นสู่การวัดผล
 
ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์
ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์
ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์
 

Similar to เทคโนโลยีสารสนเทศ

สรุปบทที่ 8
สรุปบทที่ 8สรุปบทที่ 8
สรุปบทที่ 8Tsheej Thoj
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8Nat Thida
 
ตัวอย่างการทำslide
ตัวอย่างการทำslideตัวอย่างการทำslide
ตัวอย่างการทำsliderubtumproject.com
 
บทที่+8
บทที่+8บทที่+8
บทที่+8paynarumon
 
งานบทที่ 8
งานบทที่ 8งานบทที่ 8
งานบทที่ 8hadesza
 
การทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้นการทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้นPongtong Kannacham
 
ความสำคัญของการคิด
ความสำคัญของการคิดความสำคัญของการคิด
ความสำคัญของการคิดSudaratJanthathep
 
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้onnichabee
 

Similar to เทคโนโลยีสารสนเทศ (20)

สรุปบทที่ 8
สรุปบทที่ 8สรุปบทที่ 8
สรุปบทที่ 8
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
ตัวอย่างการทำslide
ตัวอย่างการทำslideตัวอย่างการทำslide
ตัวอย่างการทำslide
 
บทที่+8
บทที่+8บทที่+8
บทที่+8
 
Research-tools 2014
Research-tools 2014Research-tools 2014
Research-tools 2014
 
งานบทที่ 8
งานบทที่ 8งานบทที่ 8
งานบทที่ 8
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8
 
บทความการออกแบบการสอน
บทความการออกแบบการสอนบทความการออกแบบการสอน
บทความการออกแบบการสอน
 
บทความการออกแบบการสอน
บทความการออกแบบการสอนบทความการออกแบบการสอน
บทความการออกแบบการสอน
 
บทความการออกแบบการสอน
บทความการออกแบบการสอนบทความการออกแบบการสอน
บทความการออกแบบการสอน
 
PPT อ.สกลชัย
PPT อ.สกลชัยPPT อ.สกลชัย
PPT อ.สกลชัย
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
การทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้นการทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้น
 
ความสำคัญของการคิด
ความสำคัญของการคิดความสำคัญของการคิด
ความสำคัญของการคิด
 
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
 

More from Thank Chiro

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1Thank Chiro
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1Thank Chiro
 
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ววิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้วThank Chiro
 
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ววิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้วThank Chiro
 
รายงาน Power point
รายงาน Power pointรายงาน Power point
รายงาน Power pointThank Chiro
 
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ววิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้วThank Chiro
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงานThank Chiro
 

More from Thank Chiro (10)

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ววิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
 
I news
I newsI news
I news
 
I news
I newsI news
I news
 
ข่าว It
ข่าว Itข่าว It
ข่าว It
 
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ววิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
 
รายงาน Power point
รายงาน Power pointรายงาน Power point
รายงาน Power point
 
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ววิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 

เทคโนโลยีสารสนเทศ

  • 2. กระบวนการเทคโนโลยี (Technological Process)คือ ขันตอนการแก ้ปั ญหาหรือตอบสนองต่อความต ้องการซึงจะ ก่อให ้เกิดการเปลียนแปลงจากทรัพยากรให ้เป็ นผลผลิตหรือผล ลัพธ์ระบบเทคโนโลยีประกอบด ้วยกระบวนทางเทคโนโลยีทง ั หมด 7 ขันตอนได ้แก่ 1.กําหนดปั ญหาหรือความต ้องการ (Identification the problem,need or preference) เมือมนุษย์เกิดปั ญหาหรือความต ้องการ ขันแรกคือ การทําความเข ้าใจปั ญหานัน ๆอย่างละเอียด หรือกําหนดขอบเขตการแก ้ปั ญหา ระบุความต ้องการให ้ชัดเจนว่าต ้องการอะไรโดยเขียนเป็ นข ้อความ สัน ๆให ้ได ้ใจความชัดเจน
  • 3. 2.รวบรวมข ้อมูลเพือแสวงหาวิธการแก ้ปั ญหาหรือสนอง ี ความต ้องการ (Information) เมือกําหนดปั ญหาหรือความต ้องการแล ้ว ขันตอนต่อไป คือเก็บรวบรวมข ้อมูลและความรู ้ทุกด ้านทีเกียวข ้องกับปั ญหาหรือความต ้อง การเพือหาวิธการทีเหมาะสมสําหรับแก ้ปั ญหาหรือสนองความต ้องการทีกําหนด ี ไว ้ ทําได ้หลายวิธ ี เช่น - รวบรวมข ้อมูลจากหนังสือวารสารต่างๆ - สํารวจตัวอย่างในท ้องตลาด - สัมภาษณ์พดคุยกับคนอืน ู - ระดมสมองหาความคิด - สืบค ้นจากอินเตอร์เน็ ตและจากแผ่นซีดเสริมความรู ้ ฯลฯ ี ข ้อมูลเหล่านีจะนํ าไปสูการได ้วิธการแก ้ปั ญหาหรือสนองความต ้องการใน ่ ี หลายแบบ ขันตอนนีเป็ นขันตอนทีสําคัญมากซึงจะเป็ นช่องทางทีสามารถใส่เนือหาที เราต ้องการให ้นักเรียนได ้เรียนรู ้และถือว่าเป็ นช่องทางของการบูรณาการได ้ดี ทีสุด
  • 4. 3.เลือกวิธการแก ้ปั ญหาหรือสนองความต ้องการ (Selection ี of the best possible solution ในขันนีเป็ นการตัดสินใจเลือกแนวคิดทีดีทสุดสําหรับแก ้ ี ปั ญหาโดยนํ าข ้อมูลและความรู ้ทีรวบรวมได ้มาประกอบกันจนไ ด ้ข ้อสรุปว่าจะเลือกวิธการแก ้ปั ญหาหรือวิธการสนองความ ี ี ต ้องการเป็ นแบบใดโดยวิธการทีเลือกอาจยึดแนวทีว่า ี เมือเลือกแล ้วจะทําให ้สิงนันดีขน (Better) ึ สะดวกสบายหรือรวดเร็วขึน(Faster speed) ประหยัดขึน (Cheaper) รวมทังวิธการเหล่านี ี จะต ้องสอดคล ้องกับทรัพยากร (Resource) ทีมีอยู่
  • 5. 4.ออกแบบและปฏิบต ิ ั ขันตอนนีต ้องการให ้นักเรียนรู ้จักคิดออกแบบ ซึงไม่จําเป็ นต ้องเป็ นสิงของเครืองใช ้เสมอไป อาจเป็ นวิธการก็ได ้และการออกแบบไม่จําเป็ น ี ต ้องเขียนแบบเสมอไปอาจเป็ นแค่ลําดับความคิดห รือจินตนาการให ้เป็ นขันตอนซึงรวมปฏิบตการลงไ ั ิ ปด ้วยนันคือเมือออกแบบแล ้วต ้องลงมือทํา และลงมือปฏิบตในสิงทีออกแบบไว ้ ั ิ
  • 6. 5.ทดสอบ เป็ นการนํ าสิงประดิษฐ์หรือวิธการนันทดลองใช ้เ ี พือทดสอบว่าใช ้งานหรือทํางานได ้หรือไม่มข ้อ ี บกพร่องอย่างไร ถ ้ายังไม่ได ้ก็ไปสูขนตอนต่อไป ่ ั คือ ปรับปรุงแก ้ไข 6.การปรับปรุง หลังจากการทดสอบผลแล ้วพบว่าสิงประดิษฐ์ท ี สร ้างขึนหรือวิธการทีคิดขึนไม่ทํางานมีข ้อ ี บกพร่องก็ทําการปรับปรุงแก ้ไขโดยอาจเลือกวิธ ี การใหม่ก็ได ้คือย ้อนไปขันตอนที 3
  • 7. 7.ประเมินผล (Assessment) หลังจากปรับปรุงแก ้ไขจนใช ้งานได ้ดีตามวิธการทีออก ี แบบ แล ้วก็นํามประเมินผลโดยรวมโดยพิจารณาดังนี สิงประดิษฐ์สามารถแก ้ปั ญหาหรือสนองความต ้องการท ี ระบุไว ้ได ้หรือไม่ - สวยงาม ดึงดูดใจผู ้ใช ้หรือไม่ - แข็งแรงทนทานต่อการใช ้งานหรือไม่ - ต ้นทูนสูงเกินไปหรือไม่ บางกิจกรรมอาจไม่ครบทัง 7 ขันตอนก็ได ้บางกิจกรรมขันตอนอาจสลับกันไปบ ้างก็ได ้ แต่เมือนํ าไปใช ้แล ้วนักเรียนรู ้จักทีจะทํางานเป็ นขันตอน เป็ นระบบ ย ้อนกลับมาดูหรือแก ้ไขได ้ตามขันตอนทีทําไปได ้
  • 8. การแก ้ปั ญหาด ้วยกระบวนการ เทคโนโลยีสารสนเทศ การแก ้ปั ญหาด ้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเท ศไม่วาเราจะทํางานใดก็ตาม ปั ญหาเป็ นสิงหลีกเลียงไม่ได ้ ่ การแก ้ปั ญหามีหลายวิธ ี ขึนกับชนิดของงาน วิธการแก ้ปั ญหาอย่างหนึงอาจแก ้ปั ญหาอีกอย่างหนึงไม่ได ้ ี และการแก ้ปั ญหาอาจจําเป็ นต ้องใช ้เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไม่ก็ได ้ดังนันจึงควรยึดหลักการแก ้ปั ญหาอย่างเป็ น ระบบ เพือไม่ให ้เสียเวลา หลงทาง และสับสน วิธการแก ้ปั ญหาแต่ละวิธมความเหมาะสมกับงานแตกต่างกั ี ี ี นไปก่อนทีจะใช ้วิธแก ้ปั ญหาด ้วยกระบวนการทางเทคโนโล ี ยีสารสนเทศจะขอยกวิธการแก ้ปั ญหาอย่างมีขนตอนโดย ี ั ทัวไป มาให ้พิจารณาดูจํานวนหนึง
  • 9. แก ้ปั ญหาตามวิธวทยาศาสตร์ ( Scientific method ) ี ิ วิธการแก ้ปั ญหาทางวิทยาศาสตร์เป็ นวิธทมีมานานมากแล ้ ี ี ี ว ซึงใช ้ศึกษาค ้นคว ้าความรู ้ใหม่ๆ ตังแต่หลายร ้อยปี กอน ่ จนเกิดความก ้าวหน ้าทางวิทยาศาสตร์ด ้านต่างๆ มากมายอย่างทุกวันนีหลักการแก ้ปั ญหา ทางวิทยาศาสตร์ มีดงนัน ั 1.เก็บข ้อมูลเบืองต ้น โดยการศึกษา สังเกตเหตุการณ์หรือปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ 2. ตังสมมิฐานเกียวกับสาเหตุ แนวความคิด หรือทฤษฎี ของการเกิดปรากฎการณ์และทางการแก ้ปั ญหา 3.พัฒนาวิธการทีจะทดสอบสมมติฐานหรือทฤษฎี ี ตามข ้อ 2
  • 10. 4. ทําการทดลองเพือพิสจน์สมมติฐานหรือทฤษฎีโดยตังวัตถุ ู ประสงค์ให ้ชัดเจนอาจมีการตังกลุมทดลองภายใต ้การควม ่ คุมเปรียบเทียบกับกลุมทีไม่ควบคุมทําการบันทึกผลการ ่ ทดลองทีสังเกตพบไว ้อย่างละเอียดแม่นยํา 5.วิเคราะห์ผลการทดลอง เพือหาคําตอบว่าสมมติฐานทีตังไว ้นันเป็ นจริงหรือไม่ 6.เขียนรายงานสรุปผลคําตอบทีได ้ผลทีได ้จากวิธนเป็ นที ี ี ยอมรับกันมาก เนืองจากเป็ นวิธทพิสจน์ได ้ เห็นผลชัดเจน ี ี ู และมีวตถุประสงค์เด่นชัดแต่ผลทีได ้อาจขาดความคิด ั สร ้างสรรค์หรือบางครังสําหรับปั ญหาง่ายๆก็ไม่จําเป็ นต ้องใช ้ ขันตอนมากมายเช่นนี
  • 11. จัดทําโดย นางสาวชญานิศ จีนาภักดิ เลขที 3 นางสาวกมลวรรณ ตังใจ เลขที 7 นางสาวบุณณดา คุ ้นเคย เลขที 8 นางสาวพัชรินทร์ เมียวนวม เลขที 9 นาวสาวจิรนันท์ ดอกนาค เลขที 10 ชันมัธยมศึกษาปี ท ี 5/4